..ใครที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศโซนกรุงเทพทางตอนเหนือ วันนี้ผมมีรีวิวโครงการ Premium Place Mix Nawamin (พรีเมี่ยม เพลส มิกซ์ นวมินทร์) มาฝากครับ ซึ่งจุดเด่นหลักๆเลยก็คือ ‘ทำเล’ ที่อยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวกด้วยทางด่วนที่อยู่ไม่ไกล และมีความเป็นส่วนตัวเพียง 32 ยูนิตเท่านั้น ส่วนความน่าสนใจหรือ Highlights อื่นๆก็จะมีดังต่อไปนี้
- ทำเลติดถนนใหญ่นวมินทร์และใกล้ทางแยก สามารถสังเกตได้ง่าย เหมาะกับโปรดักส์โฮมออฟฟิศที่ต้องประกอบธุรกิจต่างๆ
- เป็นโครงการขนาดเล็ก ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว และมีรั้วรอบขอบชิด
- พื้นที่ใช้สอยเยอะ สามารถจัดฟังก์ชันให้เหมาะกับธุรกิจได้หลากหลาย รวมถึงชั้นบนก็สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ด้วย
- โครงสร้างบ้านเป็นการก่ออิฐ สามารถทุบผนังเชื่อมต่อคูหา และต่อเติมได้ง่าย
- มีที่จอดรถส่วนกลางให้ใช้งาน (100% แบบรวมจอดซ้อนคัน) สามารถรองรับพนักงานหรือลูกค้าที่เข้ามาติดต่อได้
ข้อมูลโครงการ
Premium Place Mix Nawamin (พรีเมี่ยม เพลส มิกซ์ นวมินทร์) ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2566
ชื่อโครงการ | Premium Place Mix Nawamin (พรีเมี่ยม เพลส มิกซ์ นวมินทร์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พรีเมี่ยม เพลส กรุ๊ป จำกัด |
SEGMENT CLASS | HIGH – LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน นวมินทร์ เขต บึงกุ่ม |
ที่ดิน | 4-0-76.7 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 32 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.8 – 2.9 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 250,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2566 (บางส่วน) |
เว็บไซต์โครงการ | https://premiumplacegp.com/project/premium-place-mix-nawamin/?utm_source=ThinkofLiving |
โทร | 02-907-1199 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ติดถนนใหญ่นวมินทร์ และใกล้ทางแยก สามารถมองเห็นได้ง่าย จึงเหมาะกับโครงการประเภทโฮมออฟฟิศ
- ไม่ไกลจากถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนรามอินทรา สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
- เป็นทำเลเชื่อมต่อกับโซนต่างๆของกรุงเทพทางตอนเหนือได้หลายโซน
พิกัด Google Maps : 13.819677, 100.654134
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
..โครงการ Premium Place Mix Nawamin ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่นวมินทร์ บริเวณใกล้กับแยกนวมินทร์ตัดรัชดา-รามอินทรา ในฝั่งของถนนขาออกมุ่งหน้าไปทางถนนรามอินทรา ซึ่งหากพูดถึงที่อยู่อาศัยของกรุงเทพทางตอนเหนือแบบนี้ ก็ต้องยอมรับว่าโครงการประเภทโฮมออฟฟิศค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมากเลยครับ โดยเราจะเห็นได้เยอะตั้งแต่โซนลาดพร้าว-วังหิน-โชคชัย 4 ไล่มาจนถึงรามอินทรา และจากการสำรวจตลาดโฮมออฟฟิศแถวนี้ก็พบว่า โครงการส่วนใหญ่ขายหมดได้ภายในเวลาไม่กี่ปี
แต่จุดที่ทำให้ทำเลของ Premium Place Mix Nawamin มีความน่าสนใจก็คือ เป็นโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่และใกล้ทางแยก จึงทำให้คนที่สัญจรผ่านไป-มาสามารถมองเห็นได้ง่าย ในขณะที่โครงการโฮมออฟฟิศในระดับราคาเดียวกัน ถ้าเป็นทำเลในเมืองก็อาจต้องเข้าซอยย่อยไปอีก ดังนั้นหากใครที่ต้องการประกอบธุรกิจในโฮมออฟฟิศแบบนี้ การที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ก็จะมีส่วนสำคัญอย่างมาก ต่อลูกค้าที่จะมาใช้บริการนั่นเอง
นอกจากนี้ที่ตั้งของโครงการยังเป็นทำเลเชื่อมต่อกับโซนข้างเคียงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโซนลาดพร้าว-วังหิน โซนรามอินทรา และโซนเกษตร-นวมินทร์ รวมถึงยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วน 2 สาย ที่สามารถใช้เดินทางไกลๆเพื่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนรามอินทรา และถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้อีกด้วย โดยจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.7 km. ส่วนในแง่ของความอุดมสมบูรณ์อาจไม่ได้คึกคักเท่าโซนในเมืองมากนัก หลักๆจะมี Lotus’s / MaxValu และตลาดใกล้เคียงให้ใช้งานได้ครับ
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์จะมีทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ‘ถนนกาญจนาภิเษก’ โดยจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.4 m. สามารถไปขึ้นได้ตรงแถวๆ Fashion Island ซึ่งจะสามารถเข้า-ออกเมืองไกลๆได้ครับ
อีกจุดหนึ่งคือ ‘ทางพิเศษฉลองรัช’ หรือทางด่วนรามอินทรา จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 m. สามารถตรงเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – อโศกได้ครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
..บริบทโดยรอบโครงการจะเป็นทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่ และใกล้กับทางแยกมากๆ ดังนั้นรถที่ขับผ่านไป-มาจึงสามารถสังเกตเห็นโครงการนี้ได้ง่าย เหมาะกับโปรดักส์ที่เป็นโฮมออฟฟิศแบบนี้มากๆ
โดยจุดที่อาจต้องระวังนิดนึงก็คือ ‘การกลับรถ’ ซึ่งหากเรามาจากทางรามอินทราจะสามารถกลับรถตรงทางแยกหน้าโครงการได้เลย แต่จะมีระยะค่อนข้างกระชั้นชิดกับทางเข้ามากพอสมควร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็จะแนะนำให้ไปกลับอีกจุดหนึ่งนะครับ ส่วนทิศต่างๆของโครงการจะอยู่ติดดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างขนาดใหญ่
- ทิศใต้ : ติดกับ ซอยนวมินทร์ 133 และอาคารสูง 1 – 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนใหญ่นวมินทร์
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ชุมชนแนวราบและอาคารโรงงานขนาดใหญ่
เรามาเดินดูบรรยากาศทำเลด้านหน้าโครงการกันสักนิดครับ โดยจะอยู่ติดกับถนนใหญ่นวมินทร์แบบนี้ และถ้าเราเดินมาทางด้านขวาเพียงไม่กี่เมตร ก็จะเจอกับป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ ซึ่งสามารถมาขึ้น-ลงรถสาธารณะประจำทางที่ตรงนี้ได้ง่ายเลย
ส่วนทางด้านซ้ายของโครงการจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังแยกนวมินทร์-รัชดา-รามอินทรา และยังเป็นจุดกลับรถที่ใกล้ที่สุดด้วย แต่อย่างที่บอกครับว่าระยะค่อนข้างกระชั้นชิดไปนิดนึง และรถจากเลนฝั่งซ้ายก็จะขับผ่านมาได้ตลอดแม้จะติดไฟแดง ดังนั้นจึงต้องใช้ความระมัดระวังสูง หรืออาจไปกลับรถที่จุดถัดไปแทนก็ได้
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- MaxValu นวมินทร์ ~ 950 m.
- Tesco Lotus สุขาภิบาล 1 ~ 1.4 km.
- The Walk เกษตร-นวมินทร์ ~ 4.7 km.
- Fashion Island ~ 4.7 km.
- The Promenade ~ 4.8 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 1 km.
- โรงพยาบาลนวเวช ~ 2.5 km.
- โรงพยาบาลสินแพทย์ ~ 2.5 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนเลิศหล้า ~ 2.6 km.
- โรงเรียนบดินทรเดชา 2 ~ 2.8 km.
- โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 6.2 km.
- มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 12.8 km.
สถานที่ราชการและอื่นๆ
- ท่าอากาศยานดอนเมือง ~ 20.9 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว
- มีพื้นที่จอดรถส่วนกลาง (100% แบบรวมจอดซ้อนคัน) รองรับแขกหรือลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจได้
- บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักกว้าง 12 m. สามารถสังเกตได้ง่าย และจอดรถหน้าบ้านชั่วคราวได้
Master Plan :
Premium Place Mix Nawamin เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-0-76.7 ไร่ และมีเพื่อนบ้านเพียง 32 ยูนิต จึงมีความเป็นส่วนตัวไม่หนาแน่นจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นโครงการจัดสรรที่มีรั้วรอบขอบชิด จึงมีความปลอดภัยมากกว่าอาคารพาณิชย์หรือโฮมออฟฟิศที่ไม่ได้จัดสรรด้วยนั่นเอง
จุดเด่นที่สุดของโครงการนี้คือ ‘ที่จอดรถส่วนกลาง’ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของโครงการจัดสรรประเภทนี้มากๆครับ เพราะสามารถรองรับแขกหรือลูกค้าที่เข้ามาติดต่อธุรกิจของเราได้นั่นเอง โดยจะมีทั้งหมด 22 ช่องจอด (ถ้ารวมจอดซ้อนคันก็จะเป็น 32 ยูนิต คิดเป็น 100% พอดีกับจำนวนบ้านในโครงการเลยครับ) และถนนหลักภายในโครงการก็กว้างถึง 12 m. มากพอที่จะจอดรถชั่วคราวหน้าบ้านเพิ่มได้อีกด้วย
บ้านทุกหลังจะอยู่ติดกับถนนหลักโครงการ ทำให้เวลามีใครขับรถเข้ามาก็จะสังเกตได้ง่าย ซึ่งเหมาะกับโครงการประเภทโฮมออฟฟิศแบบนี้มากๆ และส่วนใหญ่จะเป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้นครับ แต่สำหรับโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น ปัจจุบันทางโครงการแจ้งว่าขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
ภาพบรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าของโครงการ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นทางเข้า-ออกแล้ว ยังมีห้องส่วนกลางแบบ Indoor ที่เป็นเหมือนอาคาร Clubhouse เล็กๆให้ใช้งานด้วย
ปัจจุบันภายในใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ครับ ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้ามาติดต่อพนักงานขายที่นี่ได้เลย แต่อนาคตเมื่อโครงการปิดการขายแล้ว ก็จะคืนพื้นที่ให้กับลูกบ้านครับตามเดิม
ซึ่งจะกลายเป็นสำนักงานนิติบุคคลและ Co-Working Space ให้สามารถมานั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกภายนอกก็ได้เช่นกัน
ส่วนทางด้านซ้ายของซุ้มประตูจะเป็นสวนสีเขียวเล็กๆ ให้เราสามารถมาเดินเล่นหรือนั่งเล่นกันได้ รวมถึงยังทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับของโครงการ ที่สามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาตอนขับรถเข้า-ออกครับ
ซุ้มประตูจะแบ่งทางเข้า-ออกของรถชัดเจน และมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง ซึ่งในอนาคตก็จะมีไม้กั้นกระดกกับกล้อง CCTV มาติดตั้งเพิ่มนะครับ
โดยลูกบ้านจะเข้า-ออกด้วยการแตะ Key Card Access ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนตามปกตินะ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการเราจะเจอกับที่จอดรถส่วนกลางทางขวามือ ซึ่งสามารถรองรับแขกหรือลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจกับเราได้
นอกจากนี้ยังมีสวนเล็กๆอีกจุดหนึ่งด้านหลัง Clubhouse ซึ่งเป็น Pet Garden ให้สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ด้วยครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- MAIN GATE :
– Pylon Sign
– Long Length Gate Barrier
– CCTV System
– 24 Hr. Security Guard - SOCIAL HUB :
– Co-Working Space
– Juristic Room
– Private Meeting Room - MAIN PARK :
– Connect-Thinking Garden
– Relax-Thinking Garden
– Pet-Friendly Garden
– Triangle Pavilion
– Public Parking 22 cars - INNOVATION :
– Solar cell (5-Storey Only)
– EV Charging Station
– Property Management System-Silverman Application (2yrs) - HOME AUTOMATION :
– Gate Way
– CCTV System
– Smart Switch
– Smart Plug Power Strip - WELLNESS SUSTAINABILITY :
– Air Purify System Air-Con 13,000 BTU (4th Floor only)
– Automatic Sliding Door
– Automatic Basin Faucet (Office Floors only)
– Hygienic x R11 Anti-bacterial Paint (Master Bedroom only)
– Copper Film (Anti Virus) - ขนาดพื้นที่สวนสีเขียวภายในโครงการ รวมทั้งหมด 66.2 ตร.วา
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 – 9.5 ม.
แบบบ้าน
Highlights :
- โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน สามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย
- พื้นที่ใช้สอยเยอะ สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย และรองรับการทำพื้นที่ธุรกิจได้หลากหลาย
- ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า บรรยากาศภายในสว่างโปร่งโล่ง
- ให้วัสดุมาดี มีระบบเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆได้ดีมากขึ้น
แบบบ้านของโครงการ Premium Place Mix Nawamin เป็นโฮมออฟฟิศสูง 4 – 5 ชั้น แน่นอนว่าบ้านของโครงการนี้ได้ขออนุญาติก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ จึงสามารถประกอบธุรกิจและติดป้ายชื่อร้านที่หน้าบ้านได้ครับ โดยธุรกิจส่วนใหญ่ของลูกค้า Premium Place ก็จะเป็นกลุ่มประเภทคลินิก และกลุ่ม SME ต่างๆ โดยจะมีอยู่ 2 Type หลักๆ ประกอบด้วย
- Home Office 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 – 6 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 – 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Home Office 5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 37.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 420 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ / 1 ลิฟต์โดยสาร
นอกจากนี้โครงสร้างบ้านก็จะเป็นการก่ออิฐมวลเบา จึงสามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย และเหมาะกับโปรดักส์ประเภทนี้มากๆ เช่น หากเราซื้อโฮมออฟฟิศ 2 ยูนิตที่อยู่ติดกัน ก็สามารถทุบผนังตรงกลางออก เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ภายในของ 2 คูหาให้กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และรองรับธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นได้นั่นเอง
- Home Office 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 – 6 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 – 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
สำหรับโฮมออฟฟิศหลังนี้จะมีฟังก์ชันที่สามารถทำธุรกิจก็ดี หรือจะอยู่อาศัยด้วยก็ได้ครับ โดยแต่ละชั้นก็จะมีฟังก์ชันที่เหมาะกับการใช้งานดังนี้
- แปลนชั้น 1 : เหมาะทำเป็นส่วนรับรองแขกที่เข้ามาติดต่อ รวมถึงใช้เป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนของพนักงานได้อีกด้วย
- แปลนชั้น 2 : เหมาะกับใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานของพนักงานต่างๆ หรือถ้าใครทำธุรกิจที่ต้องการใช้ห้องเยอะๆ ก็สามารถกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
- แปลนชั้น 3 : จะเป็นส่วนพื้นที่พักผ่อนของเจ้าของบ้าน ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวจากห้องชั้นล่างๆ รวมถึงยังมีห้องที่กั้นด้วยผนังทึบมาแล้วให้ใช้งานด้วย เหมาะทำเป็นห้องประชุม ห้องทำงานส่วนตัว หรือห้องนอนก็ได้
- แปลนชั้น 4 : มีห้องให้ใช้งานเป็นส่วนตัว 2 ห้อง เหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับเจ้าของบ้าน โดยที่จะมีห้องน้ำให้แชร์ร่วมกันได้ตรงกลาง
จุดเด่นที่น่าสนใจของแปลนบ้านนี้อีกอย่างก็คือ ลักษณะการวางบันไดที่เป็นรูปตัว I แบบตรงยาว ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย โดยเฉพาะชั้น 1 – 2 ทำให้เรามีพื้นที่ทำงานได้กว้างขวางเต็มที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำรองรับการใช้งานในทุกชั้น รวมถึงยังมีมุมให้เราสามารถทำ Pantry ได้หลายจุดอีกด้วย
พามาแวะดูบ้านของจริงกันสักหน่อยครับ โดยด้านหน้าจะติดตั้งประตูเหล็กบานพับมาให้แบบนี้เลย ซึ่งอนาคตเราอาจติดเป็นประตูอัตโนมัติเพื่อใช้งานได้สะดวกมากขึ้นก็ได้นะ
พื้นที่จอดรถจะกว้าง 5 – 6 m. แล้วแต่ตำแหน่งแปลงบ้านที่เราเลือก ซึ่งหากยิ่งกว้างมากเท่าไหร่ ก็สามารถจอดรถคันใหญ่ๆ และมีที่ว่างให้เปิดประตูขึ้น-ลงได้สะดวกมากขึ้นเท่านั้น
โดยพื้นจะปู Concrete Stamp แบบนี้ และลงเสาเข็มมาให้จนถึงประตูรั้วด้านหน้าเลย แต่หากใครต้องการทำหลังคาจอดรถหรือป้ายร้านเพิ่มเติม ก็จำเป็นจะต้องยื่นแบบก่อสร้างกับทางโครงการก่อนนะ เพื่อที่จะได้คุมรูปแบบและบรรยากาศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโครงการนั่นเองครับ
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นกระจกบานเลื่อนอัตโนมัติ กรอบอลูมิเนียม Powder Coat พร้อมกระจกเขียวตัดแสง โดยด้านบนจะมี Motion Sensor ที่จะทำให้ประตูเปิดได้เองแบบอัตโนมัติ จึงช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังจะมี Junction ของ EV Charger และกล้อง CCTV ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานด้วยนะครับ
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆที่เราสามารถจัดฟังก์ชันได้เองตามต้องการ
โดยหากเราต้องการประกอบธุรกิจส่วนตัว ก็อาจจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนนั่งคอยและต้อนรับแขกแบบนี้ได้ครับ ซึ่งพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. และฝ้าเพดานสูง 2.9 m. ทำให้มีความโปร่งโล่งดีทีเดียว
พื้นที่ด้านในของบ้านตัวอย่างมีการนำผนังและประตูกระจกออก เพื่อขยายพื้นที่ Indoor มาให้ดูเป็นไอเดียแบบนี้ครับ
แต่ของจริงจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ก่อนที่จะเปิดเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างหลังบ้านเหมือนปกติ อีกทั้งยังติดตั้งกล้อง CCTV และมี Motion Sensor มาให้เป็นมาตรฐานด้วย
ลานซักล้านด้านนอกจะมีความกว้าง 2 m. ขึ้นไป (แล้วแต่ตำแหน่งของแปลงที่ดิน) โดยของจริงจะเทเป็นพื้นปูนมาให้ครับ และไม่ได้ลงเสาเข็มนะครับ
ซึ่งเราอาจจัดเป็นพื้นที่สีเขียวสวยๆ เพื่อให้มองเห็นจากในบ้าน หรือจะดูไอเดียของบ้านตัวอย่างนี้แล้วนำไปใช้ก็น่าสนใจดีไม่น้อยเลย
ด้านบนเราจะเห็นว่ามีบันไดลิงติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายของอาคารที่สูงเกิน 9 m. ที่จะต้องมีบันไดหนีไฟเพื่อความปลอดภัยนั้นเอง
กลับมาตรงกลางบ้านจะมีทางแยกออกไปยังห้องน้ำและห้องเก็บของ โดยที่ช่องตรงกลางจะมีการวางระบบท่อน้ำ เพื่อให้เราสามารถทำเป็นมุมครัวเล็กๆตรงนี้ได้หากต้องการ
ด้านหนึ่งจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได ที่ภายในสามารถเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้
ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ภายในมีสุขภัณฑ์จาก American Stand และ Cotto ให้ใช้งานครบ
พิเศษสำหรับห้องน้ำชั้นนี้คือ จะได้โถปัสสาวะชาย และก๊อกน้ำของอ่างล้างหน้าก็จะเป็นระบบ Sensor แบบอัตโนมัติด้วยครับ
นอกจากนี้ยังติดตั้ง Smart Switch ที่ใช้งานร่วมกับระบบ Home Automation มาให้ด้วย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราได้ครับ
บันไดทางขึ้นจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงทนทาน เวลาเดินขึ้น-ลงก็จะไม่มีเสียงรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ประสานสีเข้ม พร้อมมีราวจับเพื่อความปลอดภัยตลอดทาง
ขึ้นมาบนชั้น 2 ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งทำงานของพนักงานได้ครับ รวมถึงเรายังสามารถกั้นฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเพิ่มได้ตามต้องการ
และด้วยความที่โครงสร้างบ้านเป็นผนังก่ออิฐมวลเบา จึงทำให้สามารถทุบผนังหรือต่อเติมได้ง่ายด้วย เช่น เราอาจซื้อโฮมออฟฟิศติดกัน 2 ยูนิต แล้วทุบผนังตรงกลางออกเพื่อเชื่อมต่อกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เพิ่มได้นั่นเองครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ‘ช่องแสงขนาดใหญ่’ ที่นอกจากจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแล้ว ยังกว้างเต็มผนังเท่ากับตัวบ้านอีกด้วยครับ จึงทำให้มีความสว่างและโปร่งโล่งดีมากๆ
ส่วนช่องตรงผนังนี้จะมีประตูเล็กๆ ที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงนอกได้ ซึ่งเป็นจุดที่ไว้เก็บ Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศครับ โดยหากมองจากภายนอกก็จะเป็นส่วนที่มีระแนงสีดำปิดเอาไว้เรียบร้อยนั่นเอง
ส่วนบริเวณ Facade ที่เป็นเหมือนวัสดุประเภทไม้ก็จะใช้เป็นไม้เทียมแทน เพราะมีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานกว่าพื้นไม้ลามิเนต แต่ยังให้ความเป็นธรรมชาติสวยงามแบบนี้เลย
อีกด้านหนึ่งของชั้น 2 หรือก็คือบริเวณฝั่งหลังบ้าน จะมีห้องน้ำให้ใช้งานได้สะดวกด้วยครับ โดยหากสังเกตดีๆบริเวณผนังหน้าห้องน้ำตรงนี้ ก็จะมีท่องานระบบต่างๆ เตรียมไว้ให้ทำเป็นมุม Pantry เล็กๆได้ด้วยนั่นเอง
ส่วนภายในห้องน้ำก็จะมีฟังก์ชันและได้สุขภัณฑ์จาก American Standard + Cotto ครบเหมือนชั้นที่แล้วอีกเช่นกัน
ถัดไปเราจะขึ้นบันไดไปยังชั้น 3 กันต่อเลยครับ
สำหรับพื้นที่บนชั้น 3 จะเริ่มเป็นส่วนพื้นที่พักผ่อนของเจ้าของบ้านแล้วครับ และจะมีผนังกั้นแยกเอาไว้ 2 ส่วน โดยส่วนแรกนี้ก็เหมาะจะทำเป็น Living Area ของสมาชิกในครอบครัว พื้นจะเปลี่ยนวัสดุเป็นไม้ลามิเนต และได้ฝ้าเพดานสูง 2.8 m. เป็นมาตรฐาน
ซึ่งไอเดียของบ้านตัวอย่างเค้าได้เอาผนังออก เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่หน้าบ้านและหลังบ้าน ให้กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ แถมยังทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งทั้งชั้นอีกด้วย
หรือหากเราไม่ได้ทุบผนังออก ก็จะได้ห้องส่วนตัวให้ใช้งานแบบนี้เลยครับ ซึ่งสามารถทำเป็นห้องประชุม ห้องทำงานส่วนตัว หรือจะทำเป็นห้องนอนก็ได้นะ
คราวนี้เราจะมาดูอีกด้านหนึ่งของบ้าน หรือก็คือโซนฝั่งด้านหลังบ้านกันบ้างครับ
โดยนอกจากเราจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนได้แล้ว ยังสามารถทำเป็นมุม Pantry เล็กๆได้อีกด้วย เพราะที่ผนังหน้าห้องน้ำจะมีท่องานระบบเตรียมไว้ให้เหมือนกับ 2 ชั้นก่อนหน้านี้เลย ทำให้เจ้าของบ้านสามารถใช้ชีวิตอยู่บนชั้นนี้ได้ โดยไม่ต้องขึ้น-ลงบันไดหลายๆชั้นให้เหนื่อย
นอกจากนี้ยังมีมุมระเบียงเล็กๆ ให้สามารถเปิดระบายอากาศ และออกไปใช้งานยืนสูดอากาศได้ด้วยครับ
ส่วนห้องน้ำภายในจะมีการแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้สุขภัณฑ์จาก American Standard + Cotto และมีการกั้นพื้นที่อาบน้ำด้วยกระจกนิรภัยแบบครึ่งบานมาให้เป็นมาตรฐาน เพื่อรองรับการทำห้องนอนที่ชั้น 3 นี้ได้ด้วยนั่นเอง
มาถึงชั้นสุดท้ายจะมีห้องส่วนตัวแยกออกไป 2 ห้อง และมีห้องน้ำให้แชร์ร่วมกันอยู่ตรงกลาง หรืออีกหนึ่งไอเดียคือเราสามารถนำผนังกั้นห้องออก เพื่อทำให้กลายเป็นห้องนอนแบบ Penthouse ขนาดใหญ่ทั้งชั้นไปเลยก็ได้นะ
สำหรับบ้านตัวอย่างจะจัดให้ห้องทางซ้ายมือ (โซนหลังบ้าน) ให้กลายเป็น Master Bedroom โดยภายในมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานสบายๆ
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะมีพื้นที่ให้ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนได้ ซึ่งจะอยู่ติดกับช่องแสงที่ภายนอกจะเป็นพื้นที่เก็บ Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศนั่นเองครับ
ส่วนห้องที่อยู่ทางโซนหน้าบ้านก็จะมีขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ ‘ช่องแสง’ ที่ช่วยทำให้ภายในห้องสว่างและโปร่งโล่งมากๆ โดยบ้านตัวอย่างก็จัดเป็นห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่มาให้ดูแบบนี้เลยครับ
ภายนอกจะเป็นระเบียงที่สามารถออกมาใช้งานได้ โดยจะกั้นด้วยราวกันตกกระจกนิรภัย ทำให้มีความสวยงามและดูกว้างขวางโปร่งโล่งมากขึ้น
ส่วนอีกด้านของห้องจะมีห้องน้ำให้ใช้งานในตัวด้วย
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมมาก็คือประตูที่สามารถเข้า-ออกได้สะดวกทั้ง 2 ทาง รวมถึงด้านบนก็มีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้ด้วย เนื่องจากห้องน้ำนี้จะเป็นห้องเดียวที่อยู่ตรงกลาง และไม่ได้มีช่องหน้าต่างเลยนั่นเอง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ
ราคา
Premium Place Mix Nawamin ราคา ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2566
- Home Office 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 – 6 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.1 – 37.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 – 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่นลดแล้วเหลือ 11.9 ล้านบาท) - ค่าจอง 100,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 200,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 250,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- Promotion : ส่วนลดสูงสุด 3 ลบ.* ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ (ระยะเวลาโปรโมชันวันที่ 1 กันยายน 2566 – 31 ตุลาคม 2566 *หรือตามเงื่อนไขของบริษัท)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ Premium Place Mix Nawamin ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่นวมินทร์ และใกล้กับแยกนวมินทร์-รัชดา-รามอินทรา ถือเป็นทำเลที่เหมาะกับโปรดักส์ประเภทโฮมออฟฟิศแบบนี้มากๆครับ เพราะคนที่สัญจรผ่านไป-มาจะสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ซึ่งส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจต่างๆ
โดยหากเทียบกับทำเลเพื่อนบ้านที่อยู่โซนในเมือง ราคานี้อาจได้เพียงทำเลที่อยู่ในซอยเท่านั้น จึงทำให้ที่ตั้งโครงการมีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งยังเดินทางสะดวกเพราะใกล้ทั้งถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนรามอินทราในระยะ 4 – 6 km. ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักๆก็จะมี Lotus’s และ MaxValu ให้พึ่งพิง หรือจะไปทำเลข้างเคียงก็มีความอุดมสมบูรณ์สูงมารองรับ ไม่ว่าจะเป็นโซนเลียบด่วนรามอินทรา โซนลาดพร้าว-วังหิน และโซนของแฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นต้น
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ให้มาเป็นมาตรฐานเหมือนโครงการจัดสรรทั่วไป ด้านหน้ามีป้อม รปภ. 24 ชม. พร้อมไม้กั้นกระดกระบบ Key Card Access + CCTV รวมถึงรอบๆโครงการก็จะมีรั้วรอบขอบชิดด้วยครับ ส่วนภายในบ้านจะมี CCTV ให้อีก 2 จุดเป็นมาตรฐาน แต่หากใครต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น ก็สามารถหามาติดตั้งเพิ่มเติมเองได้นะ
การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 32 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว บ้านทุกหลังอยู่ติดกับถนนหลัก เวลาขับรถเข้ามาด้านในก็จะสังเกตได้ง่าย ซึ่งเหมาะกับโปรดักส์ประเภทโฮมออฟฟิศแบบนี้มากๆ อีกทั้งยังจัดให้มีพื้นที่จอดรถส่วนกลาง เพื่อรองรับ Visitor ที่จะเข้ามาติดต่อธุรกิจของเราไว้แล้วด้วยนั่นเอง
การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวาง แถมยังมีช่องแสงขนาดใหญ่สูงจากพื้น-ฝ้าอีกด้วย โดยชั้น 1 – 2 จะเป็นพื้นที่โล่งๆให้เราสามารถออกแบบ และจัดฟังก์ชันให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองได้ตามต้องการ ประกอบกับลักษณะการวางบันไดเป็นรูปตัว I จึงทำให้ได้พื้นที่กว้างขวางดี และนำไปใช้งานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งทำงานของพนักงาน หรือจะกั้นห้องทำเป็นคลินิคต่างๆก็ได้ด้วย
ส่วนพื้นที่บนชั้น 3 – 4 ถูกออกแบบมาให้รองรับการพักผ่อน และอยู่อาศัยของเจ้าของได้ดี มีการกั้นห้องเป็นส่วนตัว และมีห้องน้ำให้ใช้งานในทุกๆชั้น อีกทั้งยังมีการเตรียมท่องานระบบเผื่อเอาไว้ สำหรับทำ Pantry ในแต่ละชั้นได้อีกด้วย โดยข้อจำกัดอย่างหนึ่งของโฮมออฟฟิศ 4 ชั้นของที่นี่ก็คือ จะไม่มีลิฟต์ส่วนตัวให้ใช้งานนะครับ นั่นหมายความว่าจะไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือคนที่ขึ้น-ลงบันไดหลายชั้นไม่ค่อยไหวนั่นเอง
วัสดุ : โครงสร้างก่ออิฐมวลเบา และยังมีการเลือกใช้อิฐมอญแดงตรงบริเวณห้องน้ำ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ตัวโปรดักส์มีความยืดหยุ่น สามารถทุบผนังหรือต่อเติมได้ง่าย เช่น เราอาจซื้อโฮมออฟฟิศ 2 คูหาติดกัน แล้วทุบผนังตรงกลางเชื่อมให้กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เพิ่มได้นั่นเอง รวมถึงพื้นที่จอดรถก็เป็น Concrete Stamp และลงเสาเข็มมาให้จนถึงรั้วด้านหน้าเลย
แต่จุดที่ผมชอบที่สุดคือ เราได้ช่องแสงขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้น-ฝ้า รวมถึงยังมีนำอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยเข้ามาใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติและก๊อกน้ำระบบ Motion Sensor / Smart Switch เชื่อมต่อกับ Home Automation เป็นต้น (ซึ่งถ้าเป็นโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น จะมีลิฟต์โดยสารและระบบ Solar Cell เพิ่มเข้ามาด้วยครับ แต่ปัจจุบันคือ sold out ไปแล้ว) เสียดายอย่างหนึ่งที่ชั้นบนยังคงเป็นพื้นไม้ลามิเนต เพราะหากเปลี่ยนเป็นพื้นไวนิลหรือ SPC ก็จะมีความทนททาน และช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้นครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีการทำสวน และปลูกต้นไม้ประดับเอาไว้พอสมควร รวมถึงหากดูจาก Master Plan แล้วจะเห็นว่า บริเวณ 2 ข้างทางของถนน Main ภายในโครงการ จะมีการปลูกต้นไม้ขนาดกลางเอาไว้ตลอดเส้นทางด้วย ซึ่งก็น่าจะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่สดชื่นให้แก่โครงการได้พอสมควร
สาธารณูปโภค : เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็ก หลักๆจึงเน้นไปที่ช่องจอดรถส่วนกลางที่เตรียมเอาไว้ 22 คัน (หรือคิดเป็น 100% แบบรวมจอดซ้อนคัน) เพื่อรองรับพนักงานหรือลูกค้าที่จะเข้ามาติดต่อ/ใช้บริการธุรกิจของเราได้นั่นเอง รวมถึงถนน Main ก็จะกว้าง 12 m. มากพอที่จะจอดรถหน้าบ้านชั่วคราวได้แบบไม่รบกวนการสัญจร นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าโครงการก็จะมีพื้นที่สวนเล็กๆให้ไปนั่งเล่นพักผ่อนได้ และมี Co-Working Space ให้เราได้มานั่งทำงานหรือรองรับแขกได้ด้วยนั่นเอง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 11.9 ล้านบาท, 25 สิงหาคม 2566
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ติดถนนใหญ่นวมินทร์ ใกล้ทางด่วน 2 สาย
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก / รปภ. 24 ชม. / Key Card Access / CCTV / รั้วรอบโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – พื้นที่ใช้สอยเยอะ ใช้ทำธุรกิจก็ดี อยู่อาศัยด้านบนก็ได้
- วัสดุ 8.25/10 – โครงสร้างก่ออิฐ ช่องหน้าต่างสูงจากพื้น-ฝ้า เพิ่มระบบ Motion Sensor และ Home Automation
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการขนาดเล็ก ด้านหน้ามีสวน และปลูกต้นไม้ริมถนนหลักในโครงการ
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีที่จอดรถส่วนกลาง พร้อมสวนเล็กๆ และมี Co-Working Space ให้ใช้งาน
- 7.71 / 10.00
Premium Place Mix Nawamin เหมาะกับใคร
โครงการ Premium Place Mix Nawamin (พรีเมี่ยม เพลส มิกซ์ นวมินทร์) เหมาะกับคนที่มองหาโฮมออฟฟิศที่อยู่ติดถนนใหญ่นวมินทร์ เหมาะกับการประกอบธุรกิจก็ดี หรืออยู่อาศัยก็ได้ ตัวบ้านมีความยืนหยุ่นให้เราสามารถปรับฟังก์ชันได้เองตามต้องการ พร้อมโครงสร้างแบบก่ออิฐ รวมถึงยังมีที่จอดรถส่วนกลางให้ใช้ร่วมกันได้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจจะต้องมีงบประมาณเริ่มต้นที่ 11.9 ล้านบาทขึ้นไปครับ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc