..ใครที่กำลังมองหาบ้านบนถนนบางนา-ตราด วันนี้ผมมีโครงการใหม่ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 มาฝากครับ โดยเค้าจะเริ่มเปิด Pre-Sale วันที่ 26 – 27 พฤศจิกายน นี้แล้ว ซึ่งหากใครที่มีโอกาสขับรถผ่านไป-มาบนถนนบางนา-ตราด ช่วงนิคมฯเวลโกรว์ และกำลังสนใจโครงการนี้อยู่ล่ะก็ วันนี้ผมมีรีวิวเจาะลึกและข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากดังนี้
- ทำเลเดินทางสะดวก ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง และใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
- มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดให้เลือก ดีไซน์หน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันเยอะ
- เพิ่ม Innovation Technology เข้ามาในตัวบ้าน เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกและมีคุณภาพมากขึ้น เช่น โซล่าเซลล์ / Home Automation / Smart Switch และพัดลมกรองอากาศ Nanoe
ข้อมูลโครงการ
Grand Britania Bangna Km.35 (แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35) ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565
ชื่อโครงการ | Grand Britania Bangna Km.35 (แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน บางนา-ตราด อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ |
ที่ดิน | 44-3-76.2 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 394 ยูนิต (แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 102 ยูนิต และบ้านแฝด 282 ยูนิต) |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.75 – 3 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 6 ล้านบาท |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 45,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2569 |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.britania.co.th/grand-britania-bangna-km35/ |
โทร | 02-161-3000 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- เดินทางสะดวก ใกล้ถนนใหญ่บางนา-ตราด และทางด่วนบูรพาวิถี
- ใกล้นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี
- ใกล้จุดกลับรถของบางนา-ตราด เข้า-ออกเมืองง่าย
พิกัด Google Maps : 13.571899, 100.907191
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด เยื้องๆกับนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และอยู่ไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรมบางพลี ซึ่งถ้าใครทำงานหรือเป็นเจ้าของธุรกิจในนิคมเหล่านี้ก็จะสะดวกมากครับ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนบูรพาวิถีอีกด้วย จึงสามารถเข้าเมืองหรือออกไปทางชลบุรีได้สะดวก
และถึงแม้ว่าตัวโครงการจะไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่เลยซะทีเดียว แต่ก็ถือว่าใกล้มากๆเพราะห่างเพียงไม่ถึง 100 m. เท่านั้น โดยโครงการที่อยู่ติดหรือใกล้ถนนใหญ่บางนา-ตราดแบบนี้ เราก็ไม่ค่อยได้เห็นกันมาสักพักแล้วนะครับ จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกในการเดินทางเป็นหลัก
แต่ก็แลกมากับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบใกล้ๆ ที่ปัจจุบันยังถือว่าค่อนข้างน้อยอยู่พอสมควร โดยห้างใหญ่ๆที่ใกล้ที่สุดคือ Market Village และ Makro ตรงตลาดกิ่งแก้ว รวมถึงถ้าเลยไปอีกหน่อยก็จะเจอกับ Mega Bangna ที่เป็นห้างใหญ่ที่สุดของย่านครับ ซึ่งก็อยู่ห่าง 20 กว่าโลกันเลยทีเดียว
มาเช็คจุดกลับรถกันสักหน่อยครับ โชคดีอย่างหนึ่งของทำเลนี้คือ เราจะมีตัวเลือกจุดกลับรถค่อนข้างเยอะและสะดวก เพราะเป็นย่านอุตสาหกรรมที่รถโรงงานต่างๆจะต้องใช้สัญจรไป-มา (เวลาขับก็ต้องใช้ความระมัดระวังเยอะพอสมควร) ในขณะที่จุดกลับรถอื่นๆของเส้นบางนา-ตราดอาจอยู่ห่างกันหลายๆโลก็มี โดยจุดกลับรถที่เราน่าจะได้ใช้งานกันบ่อยๆจะมีดังนี้
- จุดที่ 1 : เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกลับรถเพื่อไปทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ หรือจะออกเมืองไปทางชลบุรีก็ได้ โดยห่างจากโครงการประมาณ 3.1 km.
- จุดที่ 2 : เป็นเส้นทางสำหรับขากลับบ้านในตอนเย็น ซึ่งหากใครที่ทำงานในเมืองแล้ววิ่งมาบนถนนบางนา-ตราดเรื่อยๆ ก็จะสามารถกลับรถตรงนี้ได้ที่ระยะ 1.3 km.
- จุดที่ 3 : สำหรับใครที่ทำงานในนิคมเวลโกรว์ เราอาจกลับรถในจุดที่ 2 ไม่ทัน เพราะอยู่ตอนต้นของนิคมพอดี ซึ่งก็จะมีอีกหนึ่งจุดที่อยู่ใกล้ๆกันตอนช่วงกลางๆ ห่างจากโครงการประมาณ 2.7 km.
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนบูรพาวิถี (ด่านบางพลีน้อย) โดยจะเป็นฝั่งขาเข้าเมืองไปทางสี่แยกบางนา อยู่ห่างจากโครงการเพียง 1.3 m. เท่านั้นครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นพื้นที่ว่าง และมีลานจอดรถบัส/รถบรรทุก โดยที่ตัวโครงการจะมีระยะร่นเข้ามาจากถนนใหญ่นิดหน่อย จึงได้ความเงียบสงบและไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก สามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนบ้านคลองบางพลีน้อย หมู่ที่ 2 และเชื่อมต่อกับถนนใหญ่บางนา-ตราด โดยห่างเพียงไม่ถึง 100 m.
- ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างและโกดังสินค้า
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่างและลานจอดรถบัส/รถบรรทุก
และนี่คือบรรยากาศบริเวณปากซอย ซึ่งจะอยู่ติดกับถนนใหญ่บางนา-ตราดแบบนี้เลยครับ
โดยบริเวณด้านหน้าจะสังเกตได้ง่ายๆคือ ทางโครงการจะมีทั้งป้ายชื่อขนาดใหญ่ และทำเป็นสวนสีเขียวดูสวยงามเด่นสะดุดตาแบบนี้เลย
ส่วนบรรยากาศภายในซอยก็จะมีทั้งบ้านพักอาศัย และสวนสีเขียวที่ทางโครงการปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น (ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่ทางทางโครงการ ร่วมกับทางเทศบาลจัดทำเพื่อเป็นสาธรณะประโยชน์) เมื่อเข้ามาในซอยประมาณ 100 m. และเจอทางโค้งแรกก็จะมองเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดสดเสริมสุข ~ 9.1 km.
- Market Village สุวรรณภูมิ ~ 23 km.
- ตลาดกิ่งแก้ว ~ 25 km.
- Mega บางนา ~ 26.9 km.
- Big C บางพลี ~ 27 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลบางบ่อ ~ 8.9 km.
- โรงพยาบาลบางนา 2 ~ 11.5 km.
- โรงพยาบาลเซ็นทรัลปาร์ค ~ 18.8 km.
- โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 ~ 22.7 km.
โรงเรียน
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ~ 14.1 km.
- โรงเรียนบดินทรเดชาฯ สมุทรปราการ ~ 14.6 km.
- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 18.4 km.
สถานที่อื่นๆ
- นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ~ 7.9 km.
- นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ~ 13.8 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- สำหรับบ้านเฟสแรกจะตั้งอยู่ภายในซอยย่อย และมีเพื่อนบ้านเพียง 4 – 6 ยูนิตเท่านั้น จึงเป็นเฟสที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว
- กระจายพื้นที่ส่วนกลางเป็น 3 จุด ทำให้เข้าถึงได้ง่าย และช่วยลดความหนาแน่นในการใช้งานได้ดี
- เป็นโครงการที่เน้นพื้นที่สีเขียวให้เยอะรวมกว่า 2 ไร่ ทำให้บ้านส่วนใหญ่ทางเฟสด้านในจะได้อยู่ใกล้สวน และได้วิวที่ดูร่มรื่นสวยงามดี
ผังโครงการของบ้านเฟสแรกที่เปิดขายในปัจจุบัน จะมีความน่าสนใจตรงที่เค้าจะอยู่ใกล้กับ Facilities หลักอย่างอาคาร Clubhouse และ Basketball Court แถมยังไม่ต้องขับรถเข้าไปในโครงการลึกๆอีกด้วย นอกจากนี้ตัวบ้านพักอาศัยทั้งหมดก็จะตั้งอยู่ภายในซอยย่อย ซึ่งจะมีเพื่อนบ้านเพียง 4 – 6 ยูนิตเท่านั้น จึงมีความเป็นส่วนตัวมากๆครับ โดยที่บ้านเดี่ยวจะเป็นหลังแปลงมุมติดกับถนนหลัก ส่วนบ้านแฝดก็จะจับคู่กันอยู่ด้านในซอยตามลำดับ
สำหรับเฟสในอนาคตจะมีความน่าสนใจอยู่ที่ “สวนสาธารณะ” ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่แท้จริงของส่วนกลางโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเค้าให้ขนาดพื้นที่สีเขียวรวมกันกว่า 2 ไร่ โดยตั้งใจให้เปรียบเสมือนปอดอีกแห่งบนถนนบางนา-ตราด ลักษณะเป็นสวนแบบแนวยาวที่ทำให้บ้านหลายๆยูนิตจะได้อยู่ใกล้สวน สามารถมองเห็นธรรมชาติที่ร่มรื่นและเดินมาใช้งานได้ง่าย แถมยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำเยอะเลยครับ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปภายในปีหน้าว่าสร้างเสร็จของจริงแล้วจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการจะเชื่อมต่อกับอาคาร Clubhouse ที่ชั้น 2 ออกแบบเป็นสไตล์ Luxury English Gable และมีการแบ่งทางเข้า-ออกชัดเจน
ระบบการเข้า-ออกจะใช้การแตะบัตร (Key Card Access) และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกภาพไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าเป็นผู้มาติดต่อหรือ Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามที่อยู่ตรงกลางก่อนตามปกตินะครับ
เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับถนน Main ที่มีเกาะกลางปลูกต้นไม้เอาไว้ ซึ่งในอนาคตถ้าต้นไม้โตขึ้นก็น่าจะมีความร่มรื่นมากขึ้นนะครับ
ซ้ายมือจะเป็นสวนที่ 1 ของโครงการ โดยจะเป็นสวนเล็กๆที่ประดับไว้เป็นส่วนต้อนรับ และเพื่อความร่มรื่นสวยงาม
ส่วนบริเวณท้ายสวนจะมีมุมให้เราได้นั่งเล่นพักผ่อน และถ่ายรูปเก๋ๆเล็กๆน้อยๆได้แบบนี้ครับ
กลับมาที่อาคาร Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้าตรงซุ้มประตู ซึ่งปัจจุบันในวันที่ผมเข้ามาถ่ายรีวิวนี้ ทางด้านในเค้ากำลังเร่งตกแต่งกันอยู่ เลยยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะครับ ดังนั้นผมเลยจะนำภาพบรรยากาศจำลองจากทางโครงการมาให้ชมกันก่อน จะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันเลย
ภาพบรรยากาศจำลองของ Lobby ชั้น 1 ซึ่งสามารถใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน และเป็นส่วนรับแขกภายนอกได้ด้วยครับ โดยจะมีชุดโต๊ะเก้าอี้และโซฟาตัวใหญ่ให้ได้ใช้งานแบบนี้
ภาพบรรยากาศจำลองของ Meeting Room ซึ่งจะมีประตูกั้นแยกออกมาเพื่อความเป็นส่วนตัว และตรงกลางจะมีโต๊ะนั่งคุยงานจริงจังให้ได้ใช้ครับ
ภาพบรรยากาศจำลองของ Co-Working Space ซึ่งจะอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร มีชุดโต๊ะเก้าอี้และโซฟากระจายอยู่หลายจุด สามารถมาใช้งานพร้อมๆกันได้หลายคนครับ
ภาพบรรยากาศจำลองของ Kids Room ภายในอาจไม่ได้มีเครื่องเล่นนะครับ เพราะจริงๆแล้วเค้าจะมีสนามเด็กเล่นอยู่ที่สวนเฟสด้านใน เพื่อให้น้องๆเล่นและออกกำลังกันอย่างจุใจอยู่แล้ว
ซึ่งหลักๆห้องนี้จะใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นเกมส์/ของเล่น และนั่งคอยคุณพ่อ-คุณแม่ที่อาจกำลังนั่งทำงาน หรือออกกำลังกายอยู่ที่ห้องข้างๆซะมากกว่านั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองของ Fitness ภายในมีขนาดใหญ่ดีทีเดียวครับ ซึ่งก็จะมีเครื่องเล่นและอุปกรณ์ต่างๆครบ โดยจะเน้นชมวิวออกไปนอกหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งของซุ้มประตูแบบนี้
ภาพบรรยากาศจำลองของห้องน้ำ Clubhouse ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดจะอยู่แยกออกมาด้านข้างของอาคาร ติดกับ Lobby และสระว่ายน้ำ ทำให้สามารถเดินมาใช้งานอาบน้ำ/เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากว่ายน้ำเสร็จได้ง่าย
สำหรับสระว่ายน้ำและ Basketball Court ทั้ง 2 ภาพนี้จะเป็นส่วนที่สร้างเสร็จแล้วในตอนนี้ โดยสระจะกว้างอยู่ที่ 6.8 x 12.65 m. ซึ่งถ้าจะว่ายออกกำลังกายจริงจังก็คงจะต้องวนหลายๆรอบหน่อย แต่ผมชอบตรงที่จะมีรั้วและแนวต้นไม้ ช่วยพรางสายตาจากรถที่ผ่านไป-มาได้ด้วย ส่วนสนามบาสจะเป็นแบบให้เล่น 3 ต่อ 3 ร่วมกับเพื่อนๆได้ครับ
ส่วนภาพสวนสาธารณะเฟสด้านในของโครงการจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพบรรยากาศจำลองได้จาก Gallery ด้านล่างนี้เลยครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- Lobby
- Fitness
- Co-Working Space
- Kids Room
- Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 6.8 x 12.65 เมตร
- Kids Pool ขนาด 4.4 x 3.25 เมตร
- Basketball Court
- พื้นที่สวนภายในโครงการ 3 จุด ขนาดรวมกันประมาณ 2 ไร่
Garden จุดที่ 2
- Pavilion
- Bike Parking
- Spirit House
- Playground
- Sway in the wing (Surf Skate & Climbing)
- Swing in the win (Swing Seat & Bed)
- Relaxing Seat
- Pull Up Play
- Basin
- Feel the wing wind seat
- Ramp Access
- Jogging Track
- Mini Golf
Garden จุดที่ 3
- Open Lawn
- Multi-Sport Play Space
- Amphitheater
- Playground
- Private Greenhouse
- Swing in the win (Swing Seat & Bed)
- Feel The Wind Seat
- Bike Parking
- Ramp Access
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate + ภายในโครงการ และในบ้านทุกหลัง
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
แบบบ้าน
Highlights :
- มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดให้เลือก
- ออกแบบเป็นบ้านหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะ และได้บรรยากาศที่โปร่งโล่ง
- ทุกแบบบ้านจะมีห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง สามารถรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้ตามต้องการ
- มีการใส่ระบบเทคโนโลยีต่างๆ (Innovation Technology) เพิ่มเข้ามา เพื่อช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบาย และมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซล่าเซลล์ / Home Automation / Smart Switch และพัดลมกรองอากาศ Nanoe เป็นต้น
จุดเด่นอย่างหนึ่งของแบบบ้านแกรนด์ บริทาเนีย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด คือจะเป็นบ้านหน้ากว้างที่มีบรรยากาศโปร่งโล่ง พื้นที่ใช้สอยเยอะ รวมถึงจะเน้นเปิดช่องแสงที่ด้านข้างกับด้านหลังบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว และยังแบ่งฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดี ซึ่งโครงการนี้จะมีแบบบ้านทั้งหมด 4 Type ดังนี้
- Southwold บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ - Greenwich บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 40.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Islington บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 53.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 + 1 ที่จอดรถ - Arlington บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 65.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 + 1 ที่จอดรถ
บ้านก่อสร้างด้วยระบบ Precast ที่เป็นผนังรับน้ำหนัก ดังนั้นเวลาจะทุบหรือต่อเติมอะไรก็อาจต้องปรึกษาช่างโครงการดูอีกทีนะครับ เพราะจะมีผลต่อโครงสร้างและผนังก็ค่อนข้างแข็งเป็นพิเศษ แต่ข้อดีก็คือมีความทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหาการรั่วซึม/แตกร้าว และยังช่วยป้องกันเสียงได้ดีอีกด้วย
- Islington บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 53.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 + 1 ที่จอดรถ
เริ่มกันที่บ้านเดี่ยวหลังเล็กด้านหน้าจะจอดรถได้ 2 + 1 คัน (จอดในร่ม 2 คัน และจอดกลางแจ้ง 1 คัน) ส่วนภายในบ้านชั้น 1 ก็จะมี Common Area ขนาดใหญ่มาก จุดที่ผมชอบคือตำแหน่งของบันไดบ้านที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งนอกจากจะดูเด่นแล้วยังช่วยบังสายตาของฟังก์ชันครัว ให้ซ่อนอยู่ทางโซนด้านหลังบ้านอย่างเรียบร้อย รวมถึงยังมีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งานอีกด้วยนะครับ เผื่อใครมีผู้สูงอายุที่อาจเดินขึ้นบันไดไม่ไหว ก็สามารถปรับเป็นห้องนอน หรืออาจเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามต้องการเลย
สำหรับแปลนชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดเลยครับ จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับครอบครัวที่อาจมีลูก 1 – 2 คน สามารถอยู่ได้สบายๆตั้งแต่เด็ก-โต โดยเฉพาะห้อง Master Bedroom จะมีความกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ ซึ่งภายในก็สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลาย ทำเป็นมุม Walk-in Closet และมุมนั่งพักผ่อนจริงจังได้สบายๆ
เราพามาดูบ้าน Standard ของจริงกันก่อนนะครับ ซึ่งประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นเหล็กรางเลื่อน 2 ตอนแบบนี้ สามารถใช้งานได้ง่าย หรือถ้าใครจะไปติดตั้งเป็นประตูไฟฟ้าต่อก็สะดวก
ขวามือเป็นกริ่งและตู้จดหมายขนาดใหญ่ ที่สามารถรับ-ส่งพัสดุเล็กๆน้อยๆได้ด้วย โดยที่เจ้าของบ้านก็เปิดรับของจากด้านในได้สะดวกเลยครับ
ส่วนทางด้านซ้ายก็จะเป็นถังขยะ ที่สามารถเปิดใช้งานได้ 2 ทางสะดวกเช่นกัน
พื้นที่จอดรถปูด้วย Concrete Stamp ยาวไปจนถึงประตูรั้วเลยครับ โดยจะมีการตัด Joint ตรงแนวเสาใต้ชายคาบ้าน เพื่อที่จะได้แยกพื้นส่วนด้านนอกที่เป็นเสาเข็มสั้นออกจากตัวบ้าน เวลาที่ดินเกิดทรุดตัวในอนาคตจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักนั่นเอง
ที่จอดรถในร่มกว้างประมาณ 5.1 m. สามารถจอดรถ 2 คันได้สบายๆ และถ้าเป็นบ้านของจริงจะมีการเทพื้นขยายให้จอดกลางแจ้งด้านข้างเพิ่มอีก 1 คันด้วยนะครับ (พอดีในบ้านตัวอย่างไม่ได้มีให้ดู) ซึ่งเราอาจต้องทำหลังคาเพิ่มเอง รวมถึงทางขวามือก็จะมี Junction Box สำหรับติดตั้ง EV Charger เอาไว้ให้ด้วยครับ
ทางเข้าหลักของบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสงทั้งหลัง แถมยังมีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แบบนี้เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ซึ่งทางขวาก็จะมองเห็นแนวบันไดที่โชว์ไว้ดูเด่นมาก แถมยังเป็นการเปิดพื้นที่ Open Space ทำให้บ้านดูกว้างเป็นพิเศษอีกด้วย โดยความสูงจากพื้น-ฝ้าของชั้นนี้คือ 2.75 m. พร้อมปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมดครับ
จุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่แตกต่างจากเพื่อนบ้าน หรือแกรนด์ บริทาเนีย ในทำเลอื่นๆก็คือ เค้าจะใส่พวกเทคโนโลยีต่างๆ (Innovation Technology) เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเยอะมากดังนี้
- กล้อง CCTV จำนวน 2 ตัว ติดอยู่ตรงพื้นที่จอดรถด้านหน้า และห้องนั่งเล่นในบ้าน
- พัดลมดูดอากาศ Nanoe จาก Panasonic ช่วยกรองอากาศ ลดฝุ่น PM 2.5 ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลดแบคทีเรีย/ไวรัส/เชื้อรา ลดสารก่อภูมิแพ้ เป็นต้น โดยจะติดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นและ Master Bedroom
- Smart Multi-function Control Panel สวิตซ์ควมคุมส่วนกลางอัจฉริยะ สามารถสั่งการเปิด-ปิดไฟในบ้านได้โดยใช้ App HomeHuk Smart ผ่านสมาร์ทโฟนทั้ง ios และ Android พร้อมหน้าจอแสดงวันที่-เวลา สภาพอากาศ และใช้แทนสวิตซ์ไฟปกติได้ 2 จุด
- Smart Switch Wi-Fi สวิตซ์ระบบสัมผัสอัจฉริยะ ใช้เปิด-ปิดไฟภายในบ้าน โดยจะติดอยู่ในห้องต่างๆ และสามารถควมคุมผ่านระบบ Home Automation ของสมาร์ทโฟนได้ด้วย
สำหรับ Common Area จะมีพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารเชื่อมต่อกันขนาดใหญ่แบบนี้ จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เค้าจะเน้นการเปิดช่องแสงทางด้านข้างและหลังบ้านเป็นหลัก เพื่อความสว่างโปร่งโล่ง แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวจากหน้าบ้านด้วยนั่นเองครับ
พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ทางหน้าบ้านและติดกับประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้แบบนี้ โดยของจริงก็จะมีการทำเฉลียงยื่นออกมาเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ เหมาะที่จะทำเป็นมุมนั่งเล่น และจัดสวนสวยๆไว้ชมวิวไปด้วยดูทีวีไปด้วยได้สบายๆ
ถัดมาจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ 6 – 8 ที่นั่ง ทำให้สามารถรองรับสมาชิกครอบครัวขนาดใหญ่ หรือจัดปาร์ตี้ร่วมกับเพื่อนๆได้สบายๆ รวมถึงยังทานอาหารไปและดูทีวีไปด้วยได้อีกครับ
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เล็กๆริมหน้าต่าง ที่เป็นส่วนยื่นออกไปด้านข้างบ้านเล็กน้อย โดยทางโครงการก็ใส่ไอเดียเป็นมุมนั่งเล่นอเนกประสงค์แบบนี้ หรือใครจะทำเป็น Work Space ไว้นั่งทำงานจริงจังก็น่าสนใจดีครับ
อีกด้านหนึ่งจะเป็นทางไปห้องครัว ซึ่งด้านหน้าจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นครัวฝรั่งเพิ่มเติมได้ด้วยครับ (แต่ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆนะ) โดยเราสามารถใช้เป็นส่วนเตรียม/อุ่นอาหารเบาๆ เป็นมุมแวะดื่มกาแฟก่อนออกไปทำงานตอนเช้า หรือจะใช้เป็นมุมเตรียมเครื่องดื่มตอนปาร์ตี้ก็เหมาะเลย เพราะตรงนี้ยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆที่อยู่ชั้นล่างได้อยู่ครับ
ครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเอาไว้ ทำให้กลายเป็นครัวปิดที่กันกลิ่น/ควัน ไม่ให้ลอยฟุ้งเข้าไปรบกวนในบ้าน แต่ก็ยังคงได้ความโปร่งโล่งเชื่อมต่อถึงกันอยู่ด้วยครับ
พื้นที่ทำครัวจะกว้าง 1.4 x 2.55 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ และมีที่วางเครื่องซักผ้ากว้าง 90 cm. ในบ้านได้ด้วยครับ จะได้ไม่ต้องวางตากแดดตากฝนด้านนอกให้เสียเร็วนั่นเอง
ครัวของจริงจะก่อเคาน์เตอร์ปูนรูปตัว L พร้อมกรุกระเบื้อง Backsplash และมีซิงค์ล้างจานมาให้แบบนี้เลยครับ แต่จะไม่ได้มีหน้าบานปิดตู้ด้านล่างมาให้ ซึ่งเราอาจต้องติดตั้งเพิ่มเติมเอง รวมถึงยังมีช่องหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย
อีกด้านหนึ่งจะเป็นประตูที่เปิดเชื่อมต่อไปสู่ลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งเค้าดีไซน์ให้บานประตูมีช่องแสงขนาดใหญ่ เพื่อที่ครัวจะได้ดูสว่างและโปร่งโล่ง แถมยังทำให้ไม่ต้องเปิดประตูชนกันให้เป็นอันตรายอีกด้วย
ลานซักล้างหลังบ้านจะเทพื้นปูน Slab on Ground มาให้แบบนี้ครับ สามารถออกมาซักผ้า/ตากผ้าได้ตามปกติ
อีกด้านหนึ่งจะมีตู้ไฟของแผงโซล่าเซลล์ที่ติดอยู่บนหลังคาติดตั้งเอาไว้ด้วย (เฉพาะบ้านเดี่ยวเท่านั้น) โดยทางโครงการจะทำหลังคากัดสาดปิดเอาไว้ให้ส่วนหนึ่ง ซึ่งเราอาจทำเป็นตู้ปิดให้มิดชิด เพื่อกันแดดกันฝนดีๆไปเลยก็ได้ครับ
สำหรับ Solar Rooftop จะเป็นขนาด 4.16 Kw. สามารถใช้งานได้เฉพาะช่วงเวลากลางวันเท่านั้น เพราะเค้าไม่ได้ติดตั้งแบตเตอรี่เก็บไฟมาให้ (ติดตั้งเพิ่มเองโดยเสียเงินเป็นหลักแสน ก็ดูจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เพราะใช้เวลาหลายสิบปีเลยกว่าจะคืนทุน) และจากข้อมูลจะสามารถช่วยประหยัดไฟได้สูงสุดปีละประมาณ 30,000 บาท โดยสามารถเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันได้ดังนี้
- แอร์ Inverter ขนาด 24,000 BTU จำนวน 1 เครื่อง
- แอร์ Inverter ขนาด 9,000 BTU จำนวน 1 เครื่อง
- แสงสว่างชั้น 1 ทั้งชั้น
- ปั้มน้ำ 1 ตัว
- TV LED ขนาด 50 นิ้ว 1 เครื่อง
- เครื่องซักผ้า Inverter ขนาด 16 กก.
กลับมาทางด้านหน้าบ้าน ยังจะมีอีก 2 ฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานคือ ห้องนอนชั้นล่าง และห้องน้ำ
สำหรับห้องนอนชั้นล่างจะถูกกั้นด้วยประตูและผนังทึบ จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัว ภายในมีขนาด 3.5 x 2.8 m. และยังเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง SPC ลายไม้ เพื่อความสวยงามและดูอบอุ่น แถมยังทนทานและช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อีกด้วย
ซึ่งครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย แล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไม่ไหว ก็สามารถใช้เป็นห้องนอนของท่านได้นะครับ หรือเราอาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามต้องการ เช่น บ้านตัวอย่างนี้เค้าจัดเป็นห้องทำงานช่วง WFH มาให้ดูเป็นไอเดียครับ
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นชั้นล่าง และห้องนอนที่อยู่ด้านข้างนี้ ภายในแบ่งฟังก์ชันออกจากกันชัดเจน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.5 x 1.75 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.45 x 0.9 m. รองรับการทำห้องนอนชั้นล่าง และมาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Kohler ที่ให้มาเป็นมาตรฐานครบชุด
บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน วิ่งขึ้น-ลงเร็วๆก็ไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา พร้อมมีราวจับตลอดทาง
ใต้บันไดมีช่องให้ใช้เก็บของได้ครับ ส่วนด้านบนก็จะเห็นว่าโถงบันไดมีช่องแสงถึง 2 ด้าน คือมาจากทางข้างบ้านและห้องนอนใหญ่ จึงทำให้มีความสว่างและโปร่งโล่งดี
ชั้น 2 จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นไม้ลามิเนต และมีความสูงจากพื้น-ฝ้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 m. เลยได้บรรยากาศที่สูงโปร่ง ซึ่งนอกจากไฟปกติที่มีมาให้ถึง 2 ดวงแล้ว ยังติดตั้งไฟฉุกเฉินเผื่อกรณีไฟดับมาให้เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
เริ่มกันที่ห้องแรกทางซ้ายมือจะเป็น Master Bedroom ที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยจะเป็นห้องที่มีความกว้างเท่ากับตัวบ้านอยู่ที่ 9 m. มาพร้อมกับพัดลมดูดอากาศ Nanoe และดรอปฝ้าให้แบบนี้เลยครับ
ในส่วนของจุดวางเตียงนอนจะมีช่องแสงถึง 2 ด้าน แน่นอนว่าจะได้ความสว่างโปร่งโล่งดี แถมยังมองเห็นวิวภายนอกได้อีกด้วย แต่ถ้าใครที่กลัวว่าแสงจะรบกวนในเวลานอน ก็อาจต้องหาม่านทึบมาปิดดีๆหน่อยครับ
และนอกจากบริเวณปลายเตียงจะกว้างมากพอ ที่จะวางชั้นวางทีวีได้สบายๆแล้ว ทางด้านซ้ายของเตียงยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงหน้าระเบียงกว้าง 1.7 m. สามารถหาเก้าอี้หรือโต๊ะมาวาง ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวแบบบ้านตัวอย่างได้สบายๆ
อีกทั้งบริเวณนี้เราก็จะเห็นช่องแสงที่เชื่อมต่อกับโถงบันไดก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งจะทำให้แสงสว่างจากระเบียงห้องนอนใหญ่ สามารถส่องผ่านเข้าไปยังโถงบันไดกลางบ้านได้ และคนบนห้องนี้ก็จะสามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาด้วยว่า มีใครที่กำลังเดินขึ้น-ลงอยู่บ้างนั่นเอง
ระเบียงภายนอกมีขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 2 x 1.8 m. สามารถจัดเป็นสวนเล็กๆ โดยปลูกต้นไม้ในกระถางเพื่อเพิ่มความสดชื่นบนชั้น 2 นี้ได้สบายๆเลยครับ แถมยังจะกลายเป็นวิวหลักของพื้นที่อเนกประสงค์ด้านในอีกด้วย
โดยผมชอบระเบียงนี้ตรงราวกันตกกระจกนิรภัย Tempered Glass ที่นอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังทำให้มองวิวมุมกดได้ดี และระเบียงก็ดูกว้างมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงยังเป็นระเบียงที่รับวิวได้ 2 ทิศทาง สามารถก้มลงไปดูสวนที่อยู่ข้างบ้านแบบนี้ก็ได้ครับ
อีกด้านของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำครับ จุดเด่นคือช่องแสงที่มีขนาดใหญ่มาก ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวน ก็จะมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้แบบเต็มๆเลยทีเดียว หรือใครจะกั้นทำเป็น Walk-in Closet เป็นสัดส่วนแบบจริงจังไปเลยก็ได้
ภายในห้องน้ำจะแบ่งฟังก์ชันออกจากกันเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.6 x 1.6 m. มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Kohler แต่ที่พิเศษกว่าห้องอื่นๆก็คือ เราจะได้เป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติเฉพาะ Master Bedroom เท่านั้นครับ
ส่วนอีกด้านจะเป็น Shower Box ที่มีฉากกั้นกระจกนิรภัย Tempered Glass ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานแบบนี้ (ได้เฉพาะ Master Bedroom อีกเช่นกัน) ภายในมีขนาด 1.5 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
สำหรับห้องนอนเล็กนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Master Bedroom ภายในมีขนาด 3.1 x 4.1 m. จุดเด่นคือได้ช่องแสงถึง 2 ด้าน ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่ง และเหมาะกับเป็นห้องลูกคนโตครับ
ส่วนอีกด้านก็จะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำที่อยู่ปลายเตียง
ภายในห้องน้ำแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.35 x 1.7 m. ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.4 x 0.9 m. โดยที่เราอาจต้องกั้นฉากเพิ่มเติมเองนะครับ ส่วนสุขภัณฑ์จาก Kohler ก็ยังได้ครบเหมือนเดิม
ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องที่มีขนาด 3.1 x 3.5 m. ซึ่งถ้าใครที่มีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นห้องพระหรือห้องทำงานก็ได้ครับ โดยที่ห้องนี้จะมีห้องน้ำให้ใช้งานเป็นส่วนตัวเลย
ซึ่งภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชันและขนาดที่เหมือนกับห้องนอนเล็กก่อนหน้านี้เลยครับ
ส่วนถ้าใครอยากชมบ้านเปล่ามาตรฐานว่าของจริงเป็นอย่างไรบ้าง ก็สามารถคลิกชมรูปใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลย
- Southwold บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
เรามาดูบ้านแฝดกันบ้างครับ ซึ่งหลังนี้จะเป็นราคาเริ่มต้น Type เล็กสุด แต่ก็มีจำนวนเยอะสุดในโครงการด้วยเช่นกัน และจุดเด่นอย่างแรกที่เห็นได้ชัดคือ การจัดตำแหน่งฟังก์ชัน ที่เค้าจะนำส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือไม่ได้รับผลกระทบเรื่องเสียงรบกวน ให้มาอยู่ทางฝั่งผนังที่ติดกับเพื่อนบ้านข้างๆแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นครัว ห้องน้ำ บันได และพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งจะทำให้พื้นที่พักผ่อนส่วนอื่นได้ความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบนั่นเองครับ
แปลนชั้น 1 จะมีฟังก์ชันคล้ายๆกับบ้านเดี่ยวหลังก่อนหน้านี้เลย พอเข้ามาในบ้านแล้วจะเจอโถงบันไดกับ Common Area ขนาดใหญ่ ทำให้บ้านดูกว้างและโปร่งโล่ง แต่ส่วนที่จะไม่เหมือนหลังอื่นๆก็คือ ห้องทางด้านหน้าจะเป็นห้องอเนกประสงค์ไม่ใช่ห้องนอนครับ และจะไม่ได้มีการกั้นประตูมาให้ตั้งแต่แรก (จะต้องทำเพิ่มเองถ้าต้องการ)
แปลนชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งลักษณะก็จะคล้ายๆของบ้านเดี่ยวเลย เพียงแต่ห้องนอนเล็กจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน โดยห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องน้ำจะมีความสะดวกในการมาใช้งานมากกว่า เพราะห้องน้ำนี้จะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางนั่นเอง หรือหากใครมีลูกคนเดียวก็อาจทุบผนังตรงกลางออก เพื่อเชื่อมต่อให้กลายเป็น Master Bedroom อีกห้องไปเลยก็ได้ สรุปแล้วบ้านหลังนี้จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง เป็นบ้านแฝดที่มีฟังก์ชันเยอะไม่แพ้บ้านเดี่ยว แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ยืดหยุ่นมากขึ้น แถมยังได้บรรยากาศโปร่งโล่งเหมือนเป็นบ้านหน้ากว้างอีกด้วยนั่นเองครับ
บริเวณหน้าบ้านเราจะได้ทุกอย่างเหมือนบ้านเดี่ยวเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นรั้วเหล็กรางเลื่อน / ตู้จดหมาย / ถังขยะ / CCTV / Junction Box EV Charger / Digital Door Lock และพื้นที่จอดรถ Concrete Stamp แบบ Slab on Ground โดยที่จอดรถจะกว้างน้อยกว่าบ้านเดี่ยวอยู่ที่ประมาณ 4.9 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบพอดีๆครับ
เข้ามาภายในบ้านจะมีบรรยากาศเหมือนบ้านเดี่ยวเลยครับ คือจะมี Common Area ขนาดใหญ่ พร้อมกับโชว์แนวบันไดสวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนเป็นบ้านหน้ากว้าง ซึ่งพื้นก็จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และมีความสูงฝ้า 2.75 m. เหมือนเดิม
Common Area จะเชื่อมต่อกันทั้งพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะทานอาหารด้านหลัง จนกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งผมชอบการดีไซน์ผนังทึบหน้าบ้าน ที่ช่วยทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น และเปิดช่องแสงเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังคงได้ความสว่างและโปร่งโล่งอยู่อย่างเต็มที่ครับ
ส่วนด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ครัวและโต๊ะทานอาหาร ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันแบบนี้
โดยขนาดพื้นที่ก็เหมาะที่จะใช้โต๊ะ 4 – 6 ที่นั่ง และยังอยู่ติดกับประตูกระจก ที่เปิดออกไปยังสวนข้างบ้านได้อีกด้วย (จากเดิมที่บ้านเดี่ยวเค้ามีเฉลียงจะอยู่ตรงโซฟานั่งเล่น) เลยทำให้นอกจากจะนั่งทานอาหารไปและดูทีวีไปด้วยได้แล้ว ยังสามารถชมวิวสวนและเปิดรับลมเย็นๆได้อีกด้วย
อีกด้านหนึ่งจะเป็นทางไปส่วนครัว ซึ่งก็จะมีพื้นที่โล่งๆให้เราทำเป็นครัวฝรั่ง หรือส่วนเตรียมอาหารแบบนี้ได้เหมือนเดิม
ครัวไทยนี้จะเป็นครัวปิดที่มีประตูกระจกบานเลื่อนกันกลิ่น/ควัน ไม่ให้เข้าไปรบกวนภายในบ้านได้ครับ โดยที่เราอาจต้องเปิดประตูหลังบ้านเพื่อระบายอากาศ หรือติดเครื่องดูดควันเพิ่มเติมแทน (ที่ผนังด้านข้างไม่มีหน้าต่างเป็นเพราะอยู่ติดกับเพื่อนบ้านนั่นเอง)
โดยภายในเราจะได้เคาน์เตอร์ที่กรุกระเบื้องมาให้ พร้อมกับซิงค์ล้างจานเหมือนกับบ้านเดี่ยวเลยครับ (สามารถไปติดบานตู้เพิ่มเติมเองได้ เพื่อความเรียบร้อยสวยงาม) ส่วนพื้นที่ทำครัวก็จะกว้าง 1 m. ใช้งานได้ตามปกติเลย
และด้านหลังบ้านก็จะมีลานซักล้างที่เทพื้นปูนมาให้แบบนี้ สามารถใช้ซักผ้า/ตากผ้าได้สบายๆ รวมถึงเราอาจทำระแนงหรือรั้วโปร่ง เพื่อช่วยพรางสายตาจากเพื่อนบ้างข้างๆเพิ่มก็ได้นะครับ จะได้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ด้านหน้าบ้านจะเป็นว่าพื้นที่อเนกประสงค์ ที่ไม่ได้มีผนังหรือประตูปิดกั้นห้องเป็นสัดส่วนมาให้ แต่เราก็สามารถทำเพิ่มได้เองถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว หรือจะเปิดเชื่อมต่อพื้นที่โล่งๆแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน
ภายในมีขนาด 2.8 x 2.8 m. สามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามต้องการครับ โดยที่เค้าไม่ได้เรียกว่าเป็นห้องนอนนั้น เป็นเพราะมีขนาดพื้นที่ไม่ถึง 8 ตร.ม. ตามที่กฎหมายกำหนดนั่นเอง แต่ถ้าใครจะทำเป็นห้องนอนชั้นล่างก็ได้เหมือนกัน เพราะสามารถวางเตียงกับตู้เสื้อผ้าได้สบายๆเลยครับ
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำเผื่อสำหรับทำห้องนอนชั้นล่างมาให้ด้วย โดยขนาดพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.45 x 1.75 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.45 x 0.9 m.
มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Kohler ครบเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพัดลมดูดอากาศด้านบน ที่จะช่วยระบายกลิ่น/ความชื้นออกด้านนอกได้ เพราะห้องน้ำนี้จะไม่มีหน้าต่างนั่นเองครับ
ส่วนบันไดก็จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา พร้อมกับราวจับ และช่องเก็บของใต้บันไดเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ “ช่องแสง” ที่เราจะได้จากห้องนอนใหญ่เพียงด้านเดียวเท่านั้น
ดังนั้นก็อาจต้องพยายามอย่าปิดม่านทึบ ตรงระเบียงห้องนอนในตอนกลางวันนะครับ เพราะไม่เช่นนั้นโถงบันไดก็อาจมืดได้ แล้วต้องหันไปพึ่งการเปิดไฟตามปกติเหมือนเดิม
ขึ้นมาด้านบนจะเจอกับโถงทางเดินที่แยกออกไปอีก 4 ห้องด้วยกัน ซึ่งฝ้าเพดานก็จะสูง 3 m. และพื้นก็จะเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนตเหมือนบ้านเดี่ยวครับ
เริ่มกันที่ห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางขวามือ ซึ่งจะมีความกว้างเท่ากับตัวบ้านอยู่ที่ 8 m. สามารถแบ่งโซนการใช้งานได้เป็นสัดส่วน พร้อมกับมีช่องแสงขนาดใหญ่หลายจุด
เริ่มที่ทางด้านซ้ายของเตียงจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำ ซึ่งเราอาจกั้นทำเป็น Walk-in Closet แบบจริงจังเลยก็ได้
ส่วนภายในห้องน้ำก็จะแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเหมือนเดิม พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.55 x 1.55 m. มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Kohler และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติให้ใช้งานง่าย
อีกด้านหนึ่งเป็น Shower Box ที่มีฉากกั้นกระจกนิรภัย Tempered Glass ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน โดยเวลาเปิดประตูอาจต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะบานกระจกด้านบนอาจกระแทกกับราวเหล็กด้านในได้ ส่วนพื้นที่ภายในจะกว้าง 1.45 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
อีกด้านของห้องนอนจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ติดระเบียง กว้างประมาณ 1.7 m. สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนได้เช่นเคย และที่สำคัญคือ จะมีช่องแสงเพียงจุดเดียวที่เชื่อมต่อกับโถงบันไดด้วย จึงอาจต้องคอยเปิดม่านไว้ตลอดเวลาเพื่อความสว่างนะครับ
ระเบียงภายนอกมีขนาด 1.6 x 1.8 m. ซึ่งจะเป็นแบบกลางแจ้งไม่ได้มีหลังคา แต่ก็พอจะออกมาใช้งานได้นะ เช่น ตากผ้าเล็กๆน้อยๆ ปลูกต้นไม้นิดหน่อย หรือหาโต๊ะเก้าอี้มาวางก็ยังได้
ถัดมาจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับบันได ข้างในตกแต่งด้วยสีสันน่ารักเชียวครับ ขนาดกว้าง 3 x 4 m. ซึ่งนอกจากวางเตียงแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือ ให้เราวางโต๊ะ/ตู้อื่นๆได้อีกเยอะ
ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้แบบนี้ครับ
สุดท้ายจะเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ติดกัน และจะมีขนาดที่เท่ากันเลยครับ โดยเราสามารถทุบผนังตรงปลายเตียง เพื่อเชื่อมต่อกับห้องนอนเล็กก่อนหน้านี้ ให้กลายเป็น Master Bedroom อีกห้องหนึ่งได้เลย
ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้นอกจากจะมีช่องแสง 2 ด้านแล้ว ยังมีประตูที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่อยู่ติดกันได้อีกด้วยครับ เพราะห้องน้ำนี้สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง จึงค่อนข้างมีความสะดวกดีทีเดียว
ภายในห้องน้ำก็จะแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน พร้อมกับมีช่องหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.5 x 1.65 m. ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.35 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้ตามปกติครับ
และถ้าใครอยากชมบ้านเปล่ามาตรฐานว่าของจริงเป็นอย่างไรบ้าง ก็สามารถคลิกชมรูปใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลย
- Greenwich บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 40.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
เป็นบ้านแฝดหลังใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น รวมถึงยังมีแปลนบ้านที่เหมือนกับบ้านแฝดหลังเล็กก่อนหน้านี้เลยอีกด้วยครับ เพียงแต่ห้องนอนเล็กชั้นบนจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด และห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างจะถูกเปลี่ยนเป็นห้องนอน ที่กั้นด้วยผนังทึบเป็นสัดส่วนมากขึ้น จึงสามารถรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยได้ ซึ่งใครที่อาจมีงบประมาณไม่ถึงบ้านเดี่ยว ก็อาจพิจารณาเป็นบ้านแฝดหลังนี้ได้นะครับ (ราคาต่างกันประมาณ 1 – 2 ล้านเลยทีเดียว)
บรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมรูปที่ผมถ่ายมาฝากใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
- Arlington บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 65.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 + 1 ที่จอดรถ
บ้านเดี่ยวหลังนี้จะเป็น Type ใหญ่สุดของโครงการ (ซึ่งจะเปิดขายในเฟสที่ 2 ช่วงต้นปีหน้านะครับ) โดยแปลนชั้น 1 จะมีความต่างจากบ้านหลังอื่นๆคือ เราสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินอ้อมไปเข้าหน้าบ้าน เพื่อเอาของที่ช้อปปิ้งมาเก็บไว้ในครัวหลังบ้าน รวมถึง Common Area ก็จะเป็นแบบตอนลึกที่ใหญ่มากๆ และห้องนอนชั้นล่างก็จะเปลี่ยนไปอยู่ทางด้านหลังบ้านแทน ทำให้เงียบสงบเป็นส่วนตัว แถมยังเปิดระเบียงเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้อีกด้วย
ส่วนแปลนชั้น 2 จะมีความพิเศษคือ ตัวบันไดจะมีการเล่นระดับ 2 ชั้น โดยห้องนอนแรกจะอยู่ตรงชานพักที่ 1 และห้องอื่นๆจะอยู่ตรงชานพักด้านบนสุด ซึ่งทุกห้องก็จะมีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทั้งหมดเลยครับ จึงทำให้เป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะๆและกว้างขวางนั่นเอง
บรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมรูปที่ผมถ่ายมาฝากใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 ราคา ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2565
- Southwold บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท - Greenwich บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 40.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท - Islington บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 53.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 + 1 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.6 ล้านบาท - Arlington บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 65.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 + 1 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 9.1 ล้านบาท - ค่าจอง 10,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 20,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- Promotion (ภายใน 1 ปี) : แถมโซล่าเซลล์บ้านเดี่ยวทุกหลัง / ส่วนลดเงินสดสูงสุด 500,000 บาท / ฟระค่าส่วนกลางล่วงหน้า 2 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ใกล้ถนนใหญ่ และใกล้นิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งคือ นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จึงเหมาะกับคนที่ทำงานหรือเป็นเจ้าของกิจการอยู่ในนิคมเหล่านี้ โดยสิ่งที่ผมชอบก็คือมีจุดกลับรถอยู่ใกล้ๆเนี่ยแหละครับ หรือถ้าใครที่ทำงานแถวชลบุรี แต่ต้องการหาบ้านใกล้เมืองที่เดินทางสะดวกก็ค่อนข้างตอบโจทย์เหมือนกัน เพราะโครงการจะอยู่ใกล้กับทางด่วนบูรพาวิถี และไม่ไกลจากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็แลกมากับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ที่ปัจจุบันยังค่อนข้างน้อยอยู่สักหน่อย ซึ่งถ้าอยากเดินห้างช้อปปิ้งก็อาจต้องขับรถไปแถวๆกิ่งแก้ว-เมกาบางนาโน้นเลยครับ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : มีป้อม รปภ. อยู่ด้านหน้า พร้อมกล้อง CCTV และไม้กั้นกระดกที่เปิดด้วย Key Card Access ส่วนภายในบ้านก็จะมีกล้อง CCTV ให้อีก 2 ตัว พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐานทุกยูนิต
การออกแบบโครงการ : ปัจจุบันโครงการเปิดขายเฉพาะเฟสที่ 1 ทางด้านหน้าสุด ซึ่งมีความน่าสนใจคือ บ้านทั้งหมดจะอยู่ภายในซอยย่อยที่มีเพียง 4 – 6 ยูนิตเท่านั้น จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมากๆสำหรับบ้านโซนนี้ ในขณะที่โครงการมียูนิตรวมถึง 394 หลังก็ถือว่าไม่น้อยนะครับ อีกทั้งบ้านเฟสแรกยังสามารถมาใช้งาน Facilities ที่อาคาร Clubhouse ได้ง่ายอีกด้วย ในขณะที่บ้านเฟสด้านในเค้าจะได้เปรียบเรื่องอยู่ใกล้สวนที่เป็นแนวยาว และทำให้บ้านหลายหลังได้วิวพื้นที่สีเขียวที่ดูร่มรื่นเป็นอย่างดีนั่นเอง
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดให้เลือก จะเป็นบ้านหน้ากว้างที่ให้บรรยากาศโปร่งโล่ง โดยจะโชว์แนวบันไดตรงกลางและเปิดเป็นพื้นที่ Open Space ขนาดใหญ่ เน้นเปิดช่องแสงที่ข้างบ้านและหลังบ้านเป็นหลัก เพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย รวมถึงยังมีห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างทุกแบบ ทำให้สามารถรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้สบายมาก หรือจะปรับเป็นห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ และด้วยจำนวนห้องนอนชั้นบน 3 ห้อง ก็สามารถรองรับครอบครัวที่มีลูก 1 – 2 คนได้สบายๆ พร้อมกับมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทุกห้อง (ยกเว้นบ้านแฝดหลังเล็กสุดที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน)
วัสดุ : ให้มาเหมาะสมกับราคา แต่ที่พิเศษกว่าโครงการอื่นๆก็คือ พวกเทคโนโลยีต่างๆ (Innovation Technology) ที่ใส่เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น Home Automation / Smart Switch / CCTV / พัดลมกรองอากาศ Nanoe และแผงโซล่าเซลล์ ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว และทำให้การใช้ชีวิตในบ้านมีความสะดวกสบายมากขึ้น
ส่วนโครงสร้างบ้านก็จะเป็นระบบ Precast ที่แข็งแรงทนทานดี แถมยังช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านได้ดีอีกด้วย ที่ชอบอีกอย่างก็คือช่องแสงที่ให้มาเยอะ ได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้องนอนใหญ่ รวมถึงพื้นที่จอดรถก็เป็น Concrete Stamp ที่ลงเสาเข็มสั้นและปูยาวไปจนถึงรั้วบ้านเลย แถมยังมี Junction Box สำหรับติดตั้ง EV Charger เผื่อเอาไว้ให้ด้วย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ในบรรดา Facilities ทั้งหมด นี่ก็ถือว่าเป็นจุดที่เค้าพยายามชูให้เป็นจุดเด่นของโครงการ ซึ่งเราก็ได้เห็นจากการที่เค้าจัดสวนให้ดูตั้งแต่ถนนใหญ่ด้านหน้าเข้ามา และยังให้พื้นที่สีเขียวมากว่า 2 ไร่ กระจายอยู่ทั่วโครงการทั้งหมด 3 จุด ทำให้เวลาขับรถอยู่ภายในโครงการ เราก็จะได้สัมผัสกับความร่มรื่นและสดชื่นเป็นระยะๆ อีกทั้งยังมีการจัดสวนและปลูกต้นไม้ให้กับบ้านทุกหลังอีกด้วยครับ
สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆครบ โดยส่วนใหญ่เค้าจะเน้นเป็นสวนและกิจกรรมกลางแจ้งเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันวันที่ผมเข้ามาถ่ายรีวิวทาง Clubhouse ยังทำด้านในไม่เสร็จนะครับ แต่ถ้าดูจากหน้างานและรูปจำลองประกอบกัน ก็คิดว่าถ้าทำเสร็จแล้วคงสวยงามน่าใช้ดี ส่วนตัวแล้วชอบการกระจาย Facilities ออกเป็น 3 จุด ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกตำแหน่งบ้านด้วยนะครับ โดยถ้าใครชอบใช้งานฟังก์ชันไหนเป็นพิเศษ ก็อาจเลือกแปลงที่อยู่ใกล้กับส่วนกลางนั้นๆก็ได้ จะได้ไปใช้งานได้สะดวกมากขึ้นนั่นเอง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 6 – 9.1 ล้านบาท, 17 พฤศจิกายน 2565
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ใกล้ถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนและนิคมเวลโกรว์ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆยังไม่ค่อยมี
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ. CCTV และ Digital Door Lock ในบ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านหน้ากว้าง ฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยเยอะ
- วัสดุ 8/10 – เหมาะสมกับราคา เพิ่ม Innovation Technology เข้ามาภายในบ้าน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สีเขียว 3 จุด รวมกัน 2 ไร่ พร้อมจัดสวนในบ้าน
- สาธารณูปโภค 8/10 – ฟังก์ชันหลักๆครบ เน้นกิจกรรมกลางแจ้งเฟสต่อไปในอนาคต
- 7.88 / 10.00
แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 เหมาะกับใคร
โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด บนถนนบางนา-ตราด ใกล้นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์และทางด่วนบูรพาวิถี ทำเลเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก โดยเน้นเป็นบ้านหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันเยอะ มีห้องชั้นล่างทุกแบบให้รองรับผู้สูงอายุหรือปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ มาพร้อมกับส่วนกลางฟังก์ชันครบ ซึ่งเน้นพื้นที่สวนหรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ร่มรื่นเป็นหลัก มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6 – 9.1 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 42,000 – 64,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc