รีวิว Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) โครงการบ้านเดี่ยวเปิดใหม่บนสังคมส่วนตัว สไตล์ Modern English บนทำเลฉะเชิงเทรา ใกล้มอเตอร์เวย์สะดวกในการเดินทางไปเมืองรอบข้าง จาก มารวย เรียลเอสเตท เริ่มต้นที่ราคา 7.49-11.90 ล้านบาท
หากใครติดตามโครงการของมารวย เรียลเอสเตทอยู่แล้ว คงคุ้นเคยกับบ้านระดับ ECONOMY CLASS – MAIN CLASS แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มารวย เรียลเอสเตท เปิดตัวโครงการใหม่อย่าง Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) โครงการน้องใหม่ที่ก้าวกระโดด มาทำบ้านระดับ UPPER CLASS ในฉะเชิงเทรา ซึ่งมีประเด็นน่าสนใจเยอะเลยทีเดียวค่ะ
- ยูนิตน้อย เพียง 123 ยูนิต ซึ่งน้อยเป็นอันดับต้น ๆ ของโซนนี้ เหมาะกับคนที่รักความเป็นส่วนตัว
- เป็นบ้านเดี่ยวในระดับ UPPER CLASS ทั้งโครงการ ลูกบ้านได้อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน
- ติดถนนสิริโสธรซึ่งเป็นเส้นหลักของฉะเชิงเทรา เข้าออกโครงการได้สะดวก
- ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี กรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา และมอเตอร์เวย์สาย 7 สะดวกต่อการเดินทางไปเมืองต่าง ๆ เช่น ชลบุรี จันทบุรี ฯลฯ
รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไร ตามไปชมกันเลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) ณ วันที่ 19 มีนาคม 2567
ชื่อโครงการ | Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนสิริโสธร ตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา |
ที่ดิน | 30 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 123 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.8 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 50,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2570 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 098-498-9555 |
ทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้ง
Highlight :
- ติดถนนสิริโสธร ซึ่งเป็นถนนหลักของฉะเชิงเทรา อุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านอาหาร และ แหล่งช็อปปิ้ง อย่างโรบินสัน / บิ๊กซี / เอฟเอ็น เอ๊าท์เลท
- ใกล้มอเตอร์เวย์สาย 7 สำหรับทางไปกรุงเทพฯประมาณ 6.3 กม. และทางไปชลบุรี ประมาณ 5.6 กม.
- ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี ประมาณ 11.6 กม. สะดวกต่อการเข้ากรุงเทพฯ โซนบางนา
- สะดวกต่อการเดินทางรับส่งลูก ๆ ไปสถานศึกษา เช่น โรงเรียนอินเตอร์ทอทส์ ไตรลิงกวล ฉะเชิงเทรา ,โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ และโรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
พิกัด Google Maps : 13.594435512847726, 101.01616733300013
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) ตั้งอยู่บนถนนสิริโสธร หรือ ถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเมืองที่มีการขยาย และพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ฉะเชิงเทราเป็นแหล่งงานที่ดึงดูดคนพื้นที่ และต่างถิ่นเข้ามาทำงาน
ทำเลนี้เหมาะกับคนพื้นที่และต้องการขยับขยายครอบครัว แต่โครงการนี้จึงไม่ได้รองรับแค่คนพื้นที่ในฉะเชิงเทราเท่านั้น เนื่องจากการเดินทางที่สะดวก เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายเส้น อย่าง ถนนเทพราช-ลาดกระบัง , มอเตอร์เวย์สาย 7 และทางพิเศษบูรพาวิถี เราสามารถใช้ถนนทั้งสามเส้นนี้ เดินทางเข้ากรุงเทพฯได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทำให้โครงการนี้ยังเหมาะกับกลุ่มคนที่ทำงานในโซนกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และชลบุรีอีกด้วย
โครงการนี้ สะดวกต่อการเดินทางไปยังแหล่งช้อปปิ้ง อย่างโรบินสันห้างใหญ่ประจำฉะเชิงเทรา ที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับโครงการ นอกจากนี้ยังมี บิ๊กซี โฮมโปร และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ราวกับว่าถนนเส้นนี้เป็นแหล่งรวมความสะดวกสบายเลยค่ะ
หรือหากครอบครัวไหน ที่มีลูกอยู่ในวัยเรียนก็สะดวกให้การรับส่ง เพราะอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนอินเตอร์ทอทส์ ไตรลิงกวล ฉะเชิงเทรา ,โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ และโรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการเดินทางไป สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังอีกด้วยค่ะ เพราะขับเข้ามอเตอร์เวย์สาย 7 แล้วตรงยาวไปก็ถึงเลย หากใครวางแผนให้ลูกเรียนที่นี่ถือว่าสะดวกในการเดินทางมากเลยค่ะ
ตัวช่วยในการเดินทาง : มอเตอร์เวย์สาย 7 / ทางด่วนบูรพาวิถี กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา
ทางขึ้นมอเตอร์เวย์สาย 7 (ไปชลบุรี)
โครงการสะดวกต่อการเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ใกล้เคียง อย่าง กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และชลบุรี หากต้องการไปชลบุรี สามารถขึ้นมอเตอร์เวย์สาย 7 ซึ่งอยู่ห่างโครงการเพียง 5.6 km. แต่หากต้องการเข้ากรุงเทพฯ ไปยังโซนลาดกระบัง เชื่อมต่อเข้าตัวเมืองอย่างสุขุมวิท ก็สามารถใช้ มอเตอร์เวย์สาย 7 เช่นเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนไปขึ้นอีกฝั่งที่ห่างจากโครงการ 6.3 km.
แต่หากต้องการเข้ากรุงเทพฯ มาโซนบางนา สามารถใช้ทางพิเศษบูรพาวิถี ที่ห่างจากโครงการ 11.7 km. แล้วขับตรงยาว ๆ เข้าเมืองมาได้เลยค่ะ ถือว่าสะดวกให้การเดินทางมาก ๆ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริเวณรอบข้างของโครงการ Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปล่ารอบด้าน ซึ่งอาจมีการพัฒนาในอนาคต จะมีเพียงแค่ปั๊มแก๊สด้านข้างหมู่บ้านเท่านั้น ที่เป็นสิ่งก่อสร้างเดียวในบริเวณนั้น ทำให้โครงการไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้าง
ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ดินเปล่า
ทิศใต้ : ติดกับ ที่ดินเปล่า และปั้มแก๊ส NGV
ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ดินเปล่า
ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ดินเปล่า
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- เอฟเอ็น เอ๊าท์เลท ฉะเชิงเทรา ~ 2.4 KM.
- ตลาดบางวัว ~ 9.7 KM.
- โรบินสัน ฉะเชิงเทรา ~ 10.4 KM.
- อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาฉะเชิงเทรา ~ 11.9 KM.
- บิ๊กซี ซูเปอร์เซนเตอร์ ~ 13.5 KM.
- บิ๊กซี ซูเปอร์เซนเตอร์ 2 ~ 13.5 KM.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 อินเตอร์ ~ 12.9 KM.
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา ~ 14.0 KM.
- โรงพยาบาลพุทธโสธร ~ 14.0 KM.
สถานศึกษา
- โรงเรียนอินเตอร์ทอทส์ ไตรลิงกวล ฉะเชิงเทรา ~ 10.6 KM.
- โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ ~ 16.5 KM.
- โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ~ 17.0 KM.
- โรงเรียนดัดดรุณี ~ 18.7 KM.
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 42.4 KM.
สถานที่ราชการ
- สำนักงานเทศบาลตำบลแสนภูดาษ ~ 0.30 KM.
- สำนักงานเทศบาลตำบลลาดขวาง ~ 4.00 KM.
สถานที่สำคัญอื่น ๆ
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 41.3 KM.
รายละเอียดโครงการ
Highlight :
- ยูนิตน้อย เพียง 123 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
- เป็นบ้านเดี่ยวระดับ Upper Class ทั้งโครงการ ทำให้ลูกบ้านได้อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน
- Double Gate เสริมความปลอดภัยให้คนในโครงการ
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) เป็นโครงการใหม่ ที่ทาง มารวย เรียลเอสเตท ตั้งใจยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนที่เข้ามาอยู่ให้ดีขึ้น ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าโครงการอื่น ๆ ในพื้นที่นี้ และความเป็นส่วนตัวภายในโครงการ ในช่วงราคาเริ่มต้น 7.49 – 11.9 ล้านบาท จึงถือว่าโครงการนี้เป็นตัวเปิดทางให้ มารวย เรียลเอสเตท ทำโครงการระดับ Upper Class ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
หากพูดถึงโครงการที่เป็นบ้านเดี่ยวทั้งโครงการในฉะเชิงเทรา อาจมีไม่มากนัก เพราะหลายโครงการจะทำรวมกับบ้านแฝด หรือทาวน์โฮมด้วย แต่ Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) กลับทำบ้านเดี่ยวทั้งโครงการ ในจำนวนยูนิตที่น้อยเป็นอันดับต้น ๆ เพียง 123 ยูนิต ซึ่งโครงการอื่น ๆ บริเวณนี้จะจำนวนยูนิตเริ่มต้นที่ 200 ปลาย ๆ จนถึง 400 ปลาย ๆ เลยทีเดียว จึงถือได้ว่าโครงการนี้ให้ความเป็นส่วนตัวสูง บนสังคมระดับเดียวกันทั้งโครงการ
ดูจาก Master Plan เรามองเห็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก : ทางเข้าโครงการเป็น Double Gate ทำให้ช่วยคัดกรองคนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระหว่างซุ้มประตูแรก มายังซุ้มประตูที่สอง มีจุดพักรถสำหรับคนที่มาติดต่อด้วย ช่วยให้ไม่เกิดการจราจรติดขัดสำหรับลูกบ้านคนอื่น ๆ ที่จะเข้าออกโครงการ
ประเด็นที่สอง : พื้นที่ส่วนกลางอยู่หน้าโครงการเลย ทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดบังสายตาให้กับตัวบ้าน ทำให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ประเด็นที่สาม : การวางผังบ้านส่วนใหญ่อยู่ติดถนนในซอย ที่สามารถวนเป็น Loop ได้ด้วย สะดวกต่อการเข้าออกเลยค่ะ ถนนภายในโครงการกว้าง 9 เมตรทำให้รถวิ่งสวนกันได้อย่างสบาย ๆ
ซุ้มประตูแรกเป็นที่กั้นแบบไม้กระดก โครงการออกแบบให้มีการแยกฝั่งเข้า-ออกที่ชัดเจน และมีหลังคาคลุมกันแดด ลม ฝน ทั้ง 2 ฝั่ง โดยการเข้าออกโครงการจะใช้ระบบ LPR อ่านป้ายทะเบียนรถสมาชิกในโครงการ ทั้ง 2 จุด
ด้านข้างซุ้มประตูหลักมี ทางเดินสำหรับคนที่มาติดต่อ ส่วนตรงกลางซุ้มเป็นพื้นที่ทำงานสำหรับ รปภ. ในซุ้มประตูแรก
เมื่อผ่านซุ้มประตูหนึ่งมาแล้ว จะเห็นซุ้มประตูที่สองอยู่ไกล ๆ โดยระหว่างทางโครงการจัดสวน และปลูกต้นไม้ตลอดแนว ให้บรรยากาศสดชื่นมากขึ้น
ซุ้มประตูที่สอง กั้นด้วยประตูเหล็กบานเลื่อน และมีรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชม. โดยข้าง ๆ ประตูจะมีพื้นที่จอดรถสำหรับรถที่เข้ามาเซอร์วิสโครงการ หรือ คนที่มาติดต่อโครงการแบบไม่นาน การมีพื้นที่ตรงนี้ทำให้รถเหล่านี้ไม่ขวางทางเดินของสมาชิกในหมู่บ้าน
ส่วนกลางโครงการ
เมื่อเข้ามาในโครงการ สิ่งแรกที่เราจะเห็น ส่วนกลางของโครงการ ที่ประกอบไปด้วย Clubhouse , สวนส่วนกลาง 1,500 ตารางเมตร , สระว่ายน้ำ และ Jogging Path รอบ ๆ สวนอีกทีหนึ่ง
แปลงผักและสนามเด็กเล่น
โครงการออกแบบพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ด้วย โดยสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก และแปลงผักอยู่ติดกัน
ข้าง ๆ สนามเด็กเล่น มีพื้นนั่งเล่น ผู้ปกครองสามารถมาเฝ้าลูก ๆ เล่นได้บริเวณนี้เลยค่ะ
Jogging Path เป็นพื้นที่มีลักษณะนุ่ม ช่วยลดแรงกระแทก ในการออกำลังกาย ทำให้คนที่มาใช้งานไม่เจ็บเข่า นอกจากนี้ผู้สูงอายุหรือเด็ก ๆ ยังเดินออกกำลังกายได้ โดยไม่ต้องกังวลเวลาลื่นล้มจนเกิดอันตรายด้วย เพราะพื้นมีลักษณะนุ่ม
ส่วน Clubhouse มี Slope หน้าทางเข้าอาคาร เพื่อรถเข็นผู้สูงอายุ หรือคนพิการ
ประตูเข้า Clubhouse เป็นประตูไม้บานเปิดคู่ ที่ความสูงมากกว่าประตูทั่วไป
ชั้น 1
ภายใน Clubhouse มีพื้นที่รองรับสมาชิกขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้เป็น Double Volume ที่ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งมากขึ้น แล้วยังมีหน้าต่างรับแสงเข้ามาทั้งช่วงล่าง และช่วงบน ทำให้ภายในห้องนี้ดูสว่างมากขึ้น สมาชิกสามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ พูดคุยกัน หรือพักผ่อนได้เสมอ
ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน มาใช้บริการ Co-working Space ตรงนี้ได้ด้วย
เดินออกมาข้างนอกเป็นทางเชื่อมไปยังห้องน้ำส่วนกลาง และ สระว่ายน้ำ
ห้องน้ำส่วนกลางมีขนาดกลาง ประกอบไปด้วย ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องสุขา 1 ห้อง ซึ่ง
เคาน์เตอร์ภายในห้องน้ำยาวเป็นรูปตัว L มีพื้นที่ให้คนที่มาใช้งานวางสัมภาระ หรืออุปกรณ์แต่งตัวได้ด้วย ภายในห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศไว้ด้วยค่ะ เพื่อความสบาย และให้อากาศถ่ายเท
ระหว่างทางจากห้องน้ำไปยังสระว่ายน้ำ มีช่องว่างที่จัดเตรียม Locker ไว้สำหรับลูกบ้าน ซึ่งส่วนตัวชอบตรงนี้มากเพราะ ไม่ว่าเราจะว่ายน้ำแล้วจะไปอาบน้ำ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วจะไปว่ายน้ำ ก็จะต้องเดินผ่าน Locker เพื่อเก็บของอยู่แล้ว แล้วการนำ Locker มาด้านนอกห้องน้ำก็สะดวกต่อการใช้งานสำหรับทุกคน เพราะบางคนมาเก็บของเฉย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปในห้องน้ำ
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำภายในโครงการเป็นระบบเกลือ จะเเบ่งเป็นสระเด็ก ขนาด 5×7 เมตร ที่อยู่ใต้ชายคา และสระผู้ใหญ่ ขนาด 14×7 เมตร ลึก 1.20 เมตร ใช้ว่ายน้ำออกกำลังได้เบา ๆ ซึ่งสระผู้ใหญ่เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เหมาะกับการมาใช้งานในเวลาเย็นๆ ที่แดดไม่ร้อนมาก
ข้าง ๆ สระว่ายน้ำเป็นพื้นที่พักผ่อนภายในร่ม ผู้ปกครองที่พาลูกมาว่ายน้ำ สามารถใช้งานบริเวณนี้สำหรับพักคอยได้อย่างเต็มที่ นอกจากจะได้เห็นเด็ก ๆ เล่นน้ำแล้ว ยังเห็นบรรยากาศในโครงการโดยรอบด้วยค่ะ
ใกล้ ๆสระว่ายน้ำมีจุดล่างตัวก่อนลงสระน้ำมาให้ 1 จุด
ชั้น 2
ทางขึ้นมาชั้น 2 ของ Clubhouse มี Courtyard อยู่ตรงกลาง บันไดรูปตัว U ช่วยเพิ่มบรรยากาศสดชื่นภายในอาคารได้เป็นอย่างดี
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 เราจะเห็นพื้นที่นั่งเล่นเป็นแนวยาว อยู่ด้านหน้าห้อง Fitness สมาชิกสามารถใช้พื้นที่นี้นั่งรอได้ หรือเป็นมุมพักผ่อนให้เลือกใช้งาน
วันที่เราไปโครงการ ยังไม่มีการเอาเครื่องเล่นต่าง ๆ มาลง แต่พื้นที่ภายในห้องกว้างขวางถึง 75 ตารางเมตร สามารถใส่เครื่องเล่นได้อย่างหลากหลาย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 14×7 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- แบ่งสระเด็กขนาด 5×7 เมตร
- ห้องออกกำลังกายขนาด 75 ตารางเมตร
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1,500 ตารางเมตร หรือ 1 ไร่
- Jogging Path
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการทึบสูง 2.50 เมตร
- ถนนภายในโครงการกว้าง 9 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ Double Gate เป็นไม้กระดก และ ประตูเหล็กเลื่อนอัตโนมัติ
- ใช้ระบบ LPR อ่านป้ายทะเบียนรถ ก่อนเข้าโครงการ
แบบบ้าน
Highlight :
- บ้านทุกแบบมีห้องนอนชั้นล่าง สำหรับรองรับผู้สูงอายุ
- ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว มีความเป็นส่วนตัวและใช้งานได้สะดวก
- มีเครื่องปรับอากาศ nanoe X panasonic ให้บริเวณห้องนอน Master ช่วยลดฝุ่น และ PM 2.5
- Double Volume บริเวณห้องรับแขก (เฉพาะบ้าน Richmond)
- Family Area บริเวณชั้น 2 ของบ้าน (เฉพาะบ้าน Richmond)
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) ออกแบบมาในสไตล์ Modern English ที่ให้ความรู้สึกหรูหราแต่เรียบง่ายในเวลาเดียวกัน
แบบบ้านในโครงการมีให้เลือก 2 แบบ คือ
- Greenwich บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54.30 – 107.30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 189.10 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท - Richmond บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 72.30 – 112.80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 271.46 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 11.90 ล้านบาท
บ้านในโครงการ Hatton Residence รองรับครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิก 4-5 คน บ้านทุกหลังมีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุอยู่ชั้น 1 ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำภายในตัวทุกห้อง ฟังก์ชันภายในบ้านครบครัน
ความแตกต่างระหว่างบ้าน 2 แบบคือ บริเวณห้องนั่งเล่นของบ้านแบบ Richmond ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่กว่า เป็น Double Volume นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันต่าง ๆเพิ่มเติมมาให้ อย่างมีห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องที่บริเวณชั้นล่าง ส่วนชั้น 2 มี Family Area ที่เราจัดเป็นพื้นที่กิจกรรมร่วมกันของคนในบ้านได้ ส่วน Master Bedroom มีระเบียงให้คนภายในบ้านเดินออกมารับลมได้
สรุปวัสดุภายในโครงการ
- หลังคาทรงปั้นหยา โครงสร้างทรัสกัลวาไนซ์ วัสดุเป็นกระเบื้องคอนกรีต รองด้วยฉนวนกันความร้อน 2 ด้าน
- โครงสร้าง Precast
- โรงจอดรถใช้ระบบฝากคานกับตัวบ้าน และลงเสาเข็มพื้นที่นอกชายคา ปูด้วยคอนกรีตแสตมป์
- ลานซักล้างลงเสาเข็ม
- ประตูรั้วเหล็กเลื่อนอัตโนมัติ
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องเกลซโพลิซ ขนาด 60 x 60 cm. สำหรับ บ้าน Greenwich / ขนาด 60 x 120 cm. สำหรับ บ้าน Richmond / ห้องนอนชั้น 1 ปูพื้นด้วย SPC เกรดพรีเมี่ยม
- พื้นชั้น 2 : SPC
- โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย SPC
- สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler
- ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered
- กลอน และ มือจับประตู ใช้ของ Hafele
- กรอบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ผิว powder coated
- ไฟบ้าน 3 เฟส รองรับการติดตั้ง EV Charger 22 kW.
เทคโนโลยี
- Digital Door Lock ที่ประตูเชื่อมโรงจอดรถ
- บ้าน Type Greenwich ได้รับแอร์ 4 ทิศทางจากไดกิ้น 24000 BTU บริเวณห้องนั่งเล่น
- บ้าน Type Richmond ได้รับแอร์ 4 ทิศทางไดกิ้น 18000 BTU บริเวณห้องนอนกลาง
- เครื่องกรองอากาศ Nanoe X panasonic
- Emergency Light System
แบบบ้าน Greenwich
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
บ้านตัวอย่าง Greenwich
บ้าน Greenwich เป็นบ้านไซส์เล็กของโครงการ มีฟังก์ชันรองรับครบครัน เหมาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิก 3-4 คนเลยค่ะ ที่ดินเริ่มต้น 54.30 – 107.30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 189.10 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในบ้าน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
บ้านสไตล์ Modern English ที่มีช่องเปิดรอบบ้าน ช่วยให้แสงสว่างเข้าถึงตัวบ้านได้ง่าย แม้หน้าบ้านจะไม่กว้างมาก บริเวณหน้าบ้านมีซุ้มประตูเปิดสูงไปถึงชั้น 2 และมีราวเหล็กสีดำ บริเวณหน้าต่างชั้น 2 ซึ่งทั้ง 2 อย่างเป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์นี้ ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราของตัวบ้าน
รั้วบ้านเป็นเหล็กทำสีดำที่ใช้ระบบอัตโนมัติในการเปิดปิด สะดวกต่อการใช้งานของสมาชิกในบ้าน ไม่ต้องลงมาเปิดประตูรั้วเอง
นอกจากมีประตูรั้วใหญ่สำหรับรถแล้ว ด้านข้างมีประตูเหล็กบ้านเปิดคู่ สำหรับคนเข้าให้ด้วย ซึ่งประตูนี้จะตรงกับประตูหลักของบ้านพอดี สะดวกต่อการเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งประตูเล็กนี้จะตั้งอยู่เป็นขอบบนที่มีความสูงจากระดับฟุตบาทระดับหนึ่ง ช่วยกันสัตว์ต่าง ๆ ภายนอกเข้ามาในบริเวณบ้านด้วยค่ะ
หน้าบ้านมีกล่องอเนกประสงค์ที่รวมกล่องรับจดหมาย,พัสดุ และถังขยะเข้าด้วยกัน โดยด้านบนเป็นกล่องจดหมายขนาดกลาง สามารถใส่กล่องพัสดุขนาดเล็ก-กลางได้ด้วย ลดปัญหามีพัสดุมาส่งแล้วไม่มีคนรับ หรือคนส่งพัสดุต้องไปฝากของไว้ที่ป้อมยาม ส่วนด้านล่างเป็นถังขยะ ลูกบ้านสามารถทิ้งขยะผ่านกล่องนี้ได้จากด้านในตัวบ้าน และมีฝาถังปิดมิดชิด ทำให้ขยะไม่ส่งกลิ่นออกมาภายนอก
พื้นที่จอดรถมีความกว้างประมาณ 5.15 เมตร จอดรถได้ 2 คัน
สำหรับโครงสร้างที่จอดรถ บริเวณใต้ชายคาใช้เป็นการฝากคานกับตัวบ้าน และพื้นที่นอกชายคามีการลงเสาเข็ม ทำให้โครงสร้างทรุดยาก เมื่อเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี ส่วนวัสดุปูพื้นทางโครงการใช้คอนกรีตแสตมป์ ปูเต็มพื้นที่จอดรถ
ด้านข้างที่จอดรถมีห้องเก็บของขนาดประมาณ 0.55 x 2.60 เมตร ซึ่งประตูห้องเก็บของนี้เป็นประตูบานเลื่อน ประหยัดพื้นที่ได้ดี ไม่ต้องกังวลว่าเวลาเปิดประตูจะชนรถยนต์ที่จอดอยู่ สะดวกต่อการใช้งาน
ด้านหลังที่จอดรถมีขอบปูนเป็นแนวยาว ใช้เป็นพื้นที่ในการหยิบของหลังรถ ขณะที่รถจอดอยู่ได้ อีกทั้งยังช่วยกันเศษฝุ่น เศษดินต่าง ๆ ที่ติดมากับล้อรถด้วย
ตรงที่จอดรถมีเตรียมระบบรองรับ EV Changer ทางเข้ารองของบ้านเป็นประตู Digital Door อยู่บริเวณที่จอดรถ โดยตัวประตูถูกยกระดับจากพื้นลานจอดรถ ช่วยกันฝุ่น น้ำท่วม และสัตว์เลื้อยคลาน
ส่วนทางเข้าหลัก โครงการทำซุ้มประตูให้ ตัวประตูเป็นกระจกกรอบอะลูมิเนียม บานเปิดคู่ของ Hafele กว้างประมาณ 1.50 เมตร จึงสามารถขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เข้าออกผ่านทางเข้านี้ได้อย่างสบาย ๆ
บ้านมีการวางผังแบบ Open Plan คือเชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นกับ พื้นที่ทานอาหารเข้าด้วยกัน แต่ถ้าใครอยากแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน สามารถต่อเติมกั้นห้องได้เลยค่ะ พื้นที่นั่งเล่น หรือ รับแขกมีระยะดูทีวีประมาณ 3.9 เมตร หากใครชอบดูหนังจะซื้อ TV จอใหญ่มาติดตั้งก็ได้ พื้นที่ตรงนี้ความกว้างประมาณ 3.4 เมตร หากวางโซฟารูปตัว L ขนาด 4 ที่นั่งกำลังดีเลยค่ะ
ห้องนั่งเล่น
เนื่องจากประตูทางเข้าเป็นกระจกเต็มบาน และมีช่องเปิดบริเวณด้านข้างบ้าน ทำให้ตัวบ้านมีแสงสว่างส่องเข้ามาอย่างทั่วถึง ส่วนวัสดุปูพื้นจะเป็นกระเบื้องเกลซโพลิซสีขาว ขนาด 60 x 60 cm. ยิ่งเป็นการเพิ่มความสว่างให้แก่ตัวบ้านค่ะ
ทางโครงการติดตั้งแอร์ไดกิ้น Daikin สี่ทิศทาง (4 Way Cassette Type) ขนาด 24,200 BTU 1 ตัว บริเวณห้องนั่งเล่นมาให้ด้วย (สำหรับบ้าน Type นี้เท่านั้นนะคะ)
บ้านมาตรฐานจะมีกระจกบาน Fix กั้นระหว่างห้องครัว กับพื้นที่รับประทานอาหารด้วย หากใครอยากให้พื้นที่มีการเชื่อมต่อกัน สามารถทำเป็นกระจกบานเฟี้ยมแบบบ้านตัวอย่างก็ดูมีลูกเล่นไปอีกแบบ ทำให้คนที่กำลังทำอาหาร กับคนที่นั่งอยู่ในห้องทานอาหารพูดคุยกันได้ง่ายขึ้นค่ะ เป็นเหมือนการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว
ห้องครัว
ห้องครัวมีขนาดประมาณ 3.5×2.7 เมตร เราทำเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ได้ เพื่อการใช้งานที่เต็มที่ ห้องครัวมีประตูเชื่อมต่อไปลานซักล้างหลังบ้าน
ลานซักล้างตรงนี้มีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เราอาจจะต่อเติมตรงนี้เป็นอย่างอื่นได้ด้วย เช่น ครัวไทยสำหรับการทำอาหารจริงจัง เพื่อกลิ่นและควันรบกวนพื้นที่ภายในบ้าน
Powder Room ของชั้น 1 อยู่ข้างๆโซนทานอาหาร ทางโครงการให้ชุดสุขภัณฑ์จาก Kohler มาครบครัน คือโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง พร้อมชุดกระจกที่สามารถเปิดหน้าบานออก เพื่อเก็บของด้านในได้ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีขอบปูนที่ยื่นออกมาเล็กน้อยจากผนัง ใช้วางของใช้ส่วนตัว หรือมือถือขณะเข้าห้องน้ำได้
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาจากพื้นบ้าน ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่ต้องกลัวน้ำจะกระเด็นออกมาภายนอกเลย
ทางเข้ารองของบ้าน เชื่อมต่อกับโถงหน้าบ้าน ที่เป็นพื้นที่กึ่งกลางบ้านสามารถเชื่อมไปต่อไปยังห้องนอนชั้น 1 , บันได และห้องเก็บของใต้บันได
ห้องนอนชั้น 1
ห้องนอนชั้น 1 เป็นห้องนอนที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ พื้นภายในห้องปูด้วย SPC เกรดพรีเมี่ยม ที่นุ่มและเดินสบายเท้า ขนาดห้องกว้างประมาณ 3.4×2.9 เมตร การวางเตียง 3.5 ฟุตไว้ติดกับฝั่งหน้าต่าง ช่วยให้เหลือพื้นที่ข้างเตียงเยอะ สะดวกต่อการใช้รถเข็นเลยค่ะ
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมา และมีSlope เอียงไปด้านที่มี Gutter ระบายน้ำ อยู่ สุขภัณฑ์ต่าง ๆในห้องน้ำเป็นรุ่นเดียวกับที่ห้องน้ำ Powder แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือส่วนอาบน้ำ ที่โครงการให้ฝักบัวและ Rain Shower มาให้
บันไดเป็นรูปตัว U โดยที่ชานพักบันไดแบ่งเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 2 ส่วน เจ้าของบ้านสามารถเพิ่มความหรูหราให้กับบริเวณนี้ด้วยการ แขวน Chandelier สไตล์ที่ตัวเองชอบ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงกลางที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่าง ๆ
Master Bedroom เป็นห้องที่ใกล้บันไดมากที่สุด ซึ่งภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนห้องนอน และส่วนแต่งตัว ภายในห้องนอนมีหน้าต่างที่เปิดตั้งแต่พื้นจนเกือบถึงฝ้า ถือว่าเป็นช่องเปิดที่กว้างเลยค่ะ ช่วยทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้นด้วย
Master Bedroom
ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ โดยที่ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างเตียง สำหรับวางโต๊ะข้างเตียง และปลายเตียงก้เหลือพื้นที่ว่างให้เดินผ่านได้อย่างสบาย ๆ
โครงการให้เครื่องปรับอากาศ nanoe X panasonic มาให้บริเวณห้องนอน โดยตัวเครื่องจะปล่อยประจุไฟฟ้ามาจับฝุ่น ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับอากาศในยุคนี้มาก ๆ
บริเวณข้างเตียงมีปลั๊กไฟแบบเสียบ USB ซึ่งเป็นปลั๊กไฟที่ค่อนข้างราคาสูง แต่สะดวกต่อการใช้งาน สามารถเสียบชาร์ทมือถือแล้วนอนเล่นบนเตียงได้เลย
ส่วนที่เอาไว้ใช้แต่งตัว กว้างมากพอที่จะใส่ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว L ได้ แล้วยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งอีกด้วย หรือใครอยากจะเปลี่ยนเป็นมุมทำงานก็ได้
พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจะพื้นห้องนอน โดยปูด้วยกระเบื้องลายไม้ให้ดูเข้ากับพื้น SPC บริเวณห้องนอน
ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ขนาดยาว พร้อมกระจกบานใหญ่ โซนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00×1.35 เมตร
สุขภัณฑ์ของห้องน้ำ Master จะแตกต่างไปจากห้องอื่น ๆ คือมีอ่างอาบน้ำขนาดประมาณ 1.35 x 1.45 เมตร และมีโถสุขภัณฑ์แบบฝาปิดอัตโนมัติ ภายในห้องน้ำมีช่องปิด 2 ฝั่งทำให้ส่วนเปียกของห้องน้ำแห้งได้อย่างรวดเร็วค่ะ
สำหรับห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง จะอยู่ด้านโซนหลังบ้าน
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 มีขนาดประมาณ 3.3×3.4 เมตร หากจัดวางเตียงเดี่ยวแบบบ้านตัวอย่างจะได้พื้นที่ข้างเตียงกว้าง สำหรับทำงานอดิเรกต่าง ๆ ได้ หรือทำเป็นมุมทำงานก็ดีไม่แพ้กัน แต่พื้นที่ห้องนี้ก็กว้างพอที่จะวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ด้วย โดยหันหัวเตียงเข้าหากำแพงทึบ
ห้องน้ำภายในห้องนอนมีสุขภัณฑ์เหมือน Powder Room แต่เพิ่มส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ เนื่องจากโครงการไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ เรานำแนะให้ทำฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเองค่ะ เพื่อแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง
ส่วนห้องนอนรอง 2 มีขนาดประมาณ 3.00×3.35 เมตร สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้โดยมีที่วางโต๊ะข้าง ๆ เตียงทั้ง 2 ข้างได้ด้วย
ห้องน้ำภายในห้องนอน มีสุขภัณฑ์ครบครัน
แบบบ้าน Richmond
บ้าน Richmond เป็นบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการ ซึ่งมีจำนวนเพียง 14 ยูนิต มีฟังก์ชันรองรับครบครัน เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน ที่ดินเริ่มต้น 72.30 – 112.80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 271.46 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ
บ้านมีการออกแบบสไตล์เดียวกัน แต่หน้าบ้านของ Richmond กว้างกว่ามาก ความแปลกใหม่ของบ้านหลังนี้คือการจัดวางพื้นที่จอดรถไว้กลางบ้าน เพราะส่วนใหญ่บ้านมักจะมีโรงจอดรถไว้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของบ้าน ซึ่งการจัดวางแปลนแบบนี้ ทำให้พื้นที่ภายในบ้านถูกแบ่งสัดส่วนอย่างเห็นได้ชัด เราจะเห็นได้จะแปลนที่มีห้องนั่งเล่นเอาไว้รับแขก และห้องนั่งเล่นของคนในบ้าน โดยมีพื้นที่จอดรถกั้นอยู่
โรงจอดรถมีความกว้างประมาณ 7.5 เมตร สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน คอนกรีต โดยพื้นปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ แบบเดียวกับบ้านหลังแรก ด้านหลังมีห้องเก็บของขนาดเล็กประมาณ 2.1×0.3 เมตรให้ด้วย และข้าง ๆ เป็นทางเข้ารองของบ้าน ที่ติดตั้ง Digital Door Lock
ประตูทางเข้าหลักจะมีความแตกต่างจากบ้านหลังแรกตรงที่ เป็นประตูอะลูมิเนียม ที่มีกระจกเพียงครึ่งบน ทำให้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่สามารถมองเข้ามาในบ้านได้มากนัก สร้างความเป็นส่วนตัวให้คนในบ้าน และความกว้างของประตูอยู่ที่ 1.5 เมตร ทำให้ขนเฟอร์นิเจอร์ได้สบาย ๆ ค่ะ
อุปกรณ์ด้ามจับเป็นของ Hafele ดีไซน์เข้ากับรูปแบบประตูและตัวบ้าน
ห้องรับแขก
เมื่อเดินเข้ามายังตัวบ้าน จะเจอห้องรับแขกของบ้าน ที่เป็น Double Volume สูงประมาณ 6.25 เมตร ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโอ่อ่ามากขึ้น เจ้าของบ้านสามารถติดตั้ง Chandelier เพื่อเพิ่มความหรูหราให้ตัวบ้าน พื้นที่ตรงนี้มีช่องเปิดทั้งด้านบนด้านล่าง ทำให้บ้านมีแสงสว่างที่เข้ามาอย่างทั่วถึง ซึ่งขนาดความกว้างพอจะวางโซฟา 5-6 ที่นั่งได้เลย
พื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร ที่กว้างพอจะวางโต๊ะกินข้าวแบบ 6-8 ที่นั่งได้เลยค่ะ
ห้องครัว
เมื่อเดินมาโซนกลางบ้าน จะเป็นห้องครัวขนาดประมาณ 2.45×3.50 เมตร เจ้าของบ้านสามารถตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ยาวทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อการใช้งานที่เต็มที่ บริเวณห้องครัวมีประตูเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ซักล้างได้ด้วย
โซนกลางของบ้านเป็นทางเดินยาว เชื่อมต่อไป Powder Room , ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอนชั้น 1 โดยระหว่างทางสามารถจัดทำเป็นห้องเก็บของ หรือตู้เก็บของเพิ่มเต็มได้ด้วย ส่วนบริเวณใต้บันไดจะทำเป็นห้องเก็บของ หรือห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบห้องตัวอย่างก็ดีเลยค่ะ วัสดุที่ใช้ปูพื้นจะเหมือนบ้านแบบแรก แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าคือ ขนาด 120 x 60 cm. เพื่อให้เข้ากับขนาดบ้านค่ะ
ห้องนอนชั้น 1
ห้องนอนชั้น 1 สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้อย่างสบาย ๆ และยังมีพื้นที่ปลายเตียงวางตู้เก็บของ หรือชั้นวางทีวีได้ด้วย ภายในห้องมีช่องเปิด 2 จุดให้คนในห้องเปิดหน้าต่างให้ถ่ายเทได้สะดวก
ประตูห้องน้ำภายในห้องนอนเป็นบานเลื่อน เพื่อประหยัดพื้นที่ และสะดวกต่อการใช้งานของผู้สูงอายุหรือคนพิการ
พื้นห้องน้ำมีระดับเสมอกับพื้นห้องนอน ทำให้รถเข็นสามารถเข้าได้อย่างปลอดภัย
ห้องน้ำมีสุขภัณฑ์เหมือนกับบ้านหลังแรก และมีพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.55×1.45 เมตร พร้อมที่นั่งอาบน้ำ ให้ผู้สูงอายุได้นั่งอาบน้ำสบาย ๆ
ตรงข้ามกับห้องนอนชั้น 1 เป็นห้องอเนกประสงค์ ที่เจ้าของบ้านสามารถทำเป็นห้องเอาไว้ทำงานอดิเรกของตัวเองก็ได้ หรือจะทำเป็นห้องนั่งเล่นของคนภายในบ้าน อย่างบ้านตัวอย่างก็ได้
ห้องนี้มีช่องเปิดกว้าง ทำให้เห็นวิวสวนข้างบ้านด้วย คงจะดีมาก ๆ เลยถ้าเราทำห้องนี้เป็นมุมทำงาน เพราะเราจะได้คลายเครียด หรือพักสายตา ไปกับบรรยากาศสวนของบ้าน
Powder Room จัดวางให้อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกับประตูพอดี สะดวกเวลาคนในบ้านต้องการมาล้างมือ ส่วนสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler
บันไดใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความกว้าง 1.25 เมตร กว้างพอที่คนจะเดินสวนกันได้ ขนาดลูกตั้งประมาณ 0.17 เมตร และลูกนอนประมาณ 0.28 เมตร เดินขึ้นลงได้สะดวก
เมื่อเราอยู่ชั้น 2 ของบ้าน จะเห็น Chandelier ได้อย่างชัดเจน เจ้าของบ้านสามารถติดตั้ง Chandelier ตามสไตล์ที่ชอบได้เลยค่ะ
เมื่อเดินขึ้นชั้น 2 ทางขวามือเป็น Master Bedroom
Master Bedroom
Master Bedroom แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งห้องนอน และบริเวณ Walk-in Closet โดยที่ส่วนห้องนอนมีขนาดประมาณ 4.6×3.9 เมตร ทำให้เราวางเตียงคิงไซส์ได้อย่างสบาย ๆ แถมยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงใส่ชั้นวางทีวีได้ด้วย หรือจะวางโต๊ะทำงานก็ได้เลยค่ะ
ระเบียง Master Bedroom
บ้านแบบนี้มีระเบียงขนาดประมาณ 1.00×2.00 เมตร ที่เข้าออกจาก Master Bedroom มาให้ด้วย โดยที่ระดับพื้นระเบียงจะต่ำกว่าพื้นห้อง เพื่อกันน้ำฝนสาดเข้ามาค่ะ
ก่อนเข้าสู่บริเวณ Walk-in Closet มีพื้นที่เล็ก ๆที่จัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามแบบบ้านตัวอย่างเลย คือทำเป็นกระจกเงาบานเลื่อน ใช้ส่องเวลาแต่งหน้า แล้วเปิดออกเมื่อต้องการแสงสว่างจากทางช่องเปิด
Master Bathroom
Master Bathroom มีความคล้ายคลึงกับ Master Bathroom ของบ้านแบบแรก แตกต่างแค่เพียงอ่างอาบน้ำที่มีขนาดใหญ่มากกว่าเล็กน้อย และอ่างล้างหน้าอยู่ริมเคาน์เตอร์ ทำให้มีพื้นที่ว่างเอาไว้วางของอีกด้านของเคาน์เตอร์
ห้องที่อยู่ใกล้บันไดมากที่สุดเป็น ห้องนอนรอง 1
แม้บ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องนี้เป็นห้องทำงาน แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถจัดเป็นห้องนอนได้นะคะ เพราะมีห้องน้ำภายในตัว สะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ เลยค่ะ ขนาดห้องประมาณ 3×3 เมตร สามารถวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตได้เลย แล้วคงจะดีมาก ๆ เลยหากเราจัดมุมข้างหน้าต่างบานเล็ก เป็น Window seats ไว้นั่งพักผ่อน
ห้องน้ำในห้องนอนรอง
ห้องน้ำมีขนาด 3.70×1.45 เมตร ถูกจัดวางเป็นแนวยาว ที่มีสุขภัณฑ์ครบครัน
Family Area
สุดปลายทางเดินชั้น 2 เป็น Family Area ที่อยู่ติดกับ Double Volume จากชั้นล่าง เราจึงสามารถเห็นเวลามีคนใช้งานพื้นที่ด้านล่างได้ หรือเห็นว่าใครเข้าออกบ้านบ้าง โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 2.90×2.85 เมตร เราสามารถจัดเป็นห้องสำหรับทำกิจกรรมของคนในครอบครัวได้ เช่น กั้นเป็นห้องกระจกแล้วทำเป็น ห้อง Theaters สำหรับดูหนัง หรือ Play Room ให้ลูกเล่นเกมส์กันก่อนนอน แล้วค่อยแยกย้ายกันเข้านอนได้สบาย ๆ เลยค่ะ
ห้องนอนรอง
ห้องที่อยู่ติดกับ Family Area คือห้องนอนรอง 2 ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.30×5.00 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ใกล้เคียงกับ Master Bedroom เราสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้อย่างสบาย ๆ มีพื้นที่เหลือปลายเตียงถึง 1 เมตรกว่า ๆ จะทำเป็นชั้นวางทีวี หรือ ชั้นวางของก็ได้ และด้วยความที่บ้านตัวอย่างหลังนี้อยู่ติดกับสวนย่อมส่วนกลางพอดี ห้องนี้จึงสามารถมองเห็นวิวสวนได้ด้วยค่ะ
ห้องน้ำภายในห้องนอนรอง 2 มีขนาดใกล้เคียงกับ ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 ซึ่งมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบเลยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) ราคา ณ วันที่ 19 มีนาคม 2567
- Greenwich บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54.30 – 107.30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 189.10 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท - Richmond บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 72.30 – 112.80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 271.46 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 11.90 ล้านบาท - จองและทำสัญญา 30,000 บาท (ช่วงโปรโมชั่น)
- ไม่ต้องดาวน์ นัดโอนได้เลย (ช่วงโปรโมชั่น)
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 37 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) ตั้งอยู่บนถนนสิริโสธรซึ่งเป็นถนนเส้นหลักในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า อย่างโรบินสัน เอฟเอ็น เอ๊าท์เลท และบิ๊กซี นอกจากนี้ยังเดินทางไปกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และชลบุรีได้สะดวก โดยการใช้ทางพิเศษบูรพาวิถี และมอเตอร์เวย์สาย 7 ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาก ๆ เลยค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : เริ่มด้วยตัวโครงการมีทางเข้าออกแบบ Double Gate พร้อมกับ CCTV ทั่วโครงการและรปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ที่ช่วยคัดกรองคนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ลูกบ้านเข้า-ออกโครงการผ่านระบบสแกนทะเบียนรถยนต์ ช่วยป้องกันรถที่ไม่ได้เป็นสมาชิกหมู่บ้าน
การออกแบบโครงการ : โครงการมีการตกแต่งสไตล์ Modern English ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูหรูหรา ในโครงการมีเพียง 123 ยูนิต บนพื้นที่ 30 ไร่ ถือว่าน้อยเป็นอันดับต้น ๆ ของโครงการโซนนี้ ผังโครงการจัดวางให้ส่วนกลางทุกอย่างอยู่หน้าโครงการ หากใครชอบใช้ Facility ส่วนกลางแนะนำให้เลือกบ้านโซนหน้าโครงการเลยค่ะ บ้านส่วนใหญ่จะอยู่ติดถนนในซอย ซึ่งหากเป็นซอยที่มีความยาวจะมีถนนเชื่อมไปยังซอยข้างๆ ง่ายต่อการเข้าออกค่ะ
การออกแบบบ้าน : บ้านออกแบบสไตล์ Modern English ที่ช่องเปิดบานสูง และซุ้มประตูทางเข้าบ้านเอกลักษณ์ ฟังก์ชันในบ้านมี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถมากสุด 3 ที่จอด พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านค่อนข้างเยอะกว่าบ้านที่จัดอยู่ใน Segment เดียวกัน รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน โดยบ้านทุกแบบมีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ และห้องนอนมีห้องน้ำภายในตัวทุกห้อง
วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็น Precast ไม่เหมาะกับการทุบต่อเติมในอนาคต แต่สามารถต่อเติมผนังเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นภายใน หรือภายนอกอาคาร โครงการให้ชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler มาให้ครบทุกห้อง ให้เครื่องปรับอากาศ nanoe X panasonic บริเวณ Master Bedroom ส่วนวัสดุและเทคโนโลยีอื่น ๆ ถือว่าเหมาะสมกับราคาของตัวบ้าน
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการปลูกต้นไม้ตลอดแนวพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งพื้นที่สีเขียวภายในโครงการประมาณ 1 ไร่ หรือ 1,500 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของพื้นที่สีเขียวในโครงการหมู่บ้านจัดสรรค่ะ
สาธารณูปโภค : ส่วนกลางครบครัน รองรับสมาชิกในหมู่บ้านทุกช่วงวัย ประกอบด้วย Clubhouse 2 ชั้น สไตล์ Modern English หน้าโครงการ ที่มี Lobby , Co-working Space , Fitness และสระว่ายน้ำทั้งสระเด็ก กับสระผู้ใหญ่ พร้อมทางสวนส่วนกลางที่ใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย ที่มี Jogging Path ที่ช่วยลดแรงกระแทกในการออกกำลังกายด้วยค่ะ
Judgement
สำหรับโครงการ Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) เราจะไม่มีการให้คะแนนนะคะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ในทำเลเมืองอุตสาหกรรม อาจมีทั้งผู้ที่สนใจซื้ออยู่อาศัยหรือซื้อลงทุน นอกจากนั้นยังมีจำนวนคู่แข่งที่เราได้เข้าไปทำรีวิวค่อนข้างน้อย ทำให้มีข้อจำกัดในการให้คะแนนและมีบรรทัดฐานการให้คะแนนแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลทั้งผู้อ่านและผู้รีวิวค่ะ
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) เหมาะกับใคร
Hatton Residence – Siri Sothorn (แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร) เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิก 4-5 คน ที่ต้องการหาบ้านขนาดค่อนข้างใหญ่ และทำงานในโซนฉะเชิงเทรา หรือเมืองต่าง ๆ รอบข้างที่เดินทางไปสะดวก อย่างกรุงเทพฯ ชลบุรี แม้โครงการนี้จะอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ถ้าเทียบราคาบ้านในระดับนี้กับโครงการในกรุงเทพฯ ที่อยู่ติดฉะเชิงเทรา ถือว่าได้ความคุ้มค่ามากกว่า เพราะได้บ้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า ใครที่มีงบประมาณ 7.5-12 ล้านบาท หรือกำลังผ่อน 49,000 – 66,000 บาท / เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่