รีวิวโครงการ
The Sneak EP.177 : บุราสิริ ปัญญาอินทรา
28 มกราคม 2023
… บุราสิริ ปัญญาอินทรา จาก แสนสิริ เป็นโครงการที่พี่บีมเคยเขียนรีวิวไปเมื่อ 7 – 8 ปีที่ก่อน ซึ่งในสมัยนั้นผมเองก็เช่นเดียวกับคุณผู้อ่านทุกคนแหละครับ ที่เป็นแฟนเพจเว็บไซต์คนหนึ่ง และติดตามอ่านรีวิวโครงการอสังหาฯต่างๆมาโดยตลอด และโครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในโปรเจคที่ผมค่อนข้างสนใจ ตั้งแต่ตอนที่พี่บีมเคยเขียนแล้ว
ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมให้เข้าชมแล้วครับ และตอนนี้ผมก็ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน Think of Living จึงขออนุญาตเป็นตัวแทนพาทุกคนไปชมโครงการนี้กันครับว่าจะสวยขนาดไหน โดยเฉพาะอาคาร Clubhouse ทรงประภาคาร และทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ผมอยากเห็นด้วยตาตัวเองมากๆ ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ
25 June 2020
- Burasiri Panyaindra (บุราสิริ ปัญญาอินทรา)
- บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนน เลียบคลองสอง เขต คลองสามวา
- เนื้อที่โครงการ 163-1-49 ไร่ จำนวน 518 ยูนิต
- LEXINGTON (เลกซิงตัน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท (Promotion) - BURLINGTON (เบอร์ลิงตัน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 68.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.44 ล้านบาท (Promotion) - NEW HAVEN (นิว เฮเวน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 74 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.49 ล้านบาท (Promotion) - LANCASTER (แลงเคสเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 75.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 11.29 ล้านบาท (Promotion) - ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2555
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : n/a
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-1830425
หากใครยังจำกันได้เมื่อเร็วๆนี้ ผมเคยเขียนบทความ ตามหาบ้านเดี่ยว 5 – 7 ล้าน โซนรามอินทรา กันมาแล้ว ซึ่งโครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา ก็เป็นหนึ่งในนั้น และมีคนให้ความสนใจและขอกันมาเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบส่วนกลางกับบรรยากาศภายในโครงการที่สวยงาม เนื่องจากโครงการนี้ผมยกให้เป็นหนึ่งในโครงการที่มีแบบบ้านสไตล์โดดเด่น และบรรยากาศโครงการดี ในระดับ Segment นี้ของย่านรามอินทรานั่นเองครับ
โดยราคา ณ วันที่ทำบทความเมื่อ 2 เดือนก่อนคือ 6.95 ล้านบาท (ซึ่งเป็นราคาของแบบบ้าน Burlington ที่ไม่ใช่ขนาดเล็กสุด เพราะในตอนนั้นทางโครงการแจ้งว่าแบบบ้านเล็กสุด Lexington ขายหมดแล้ว) แต่วันนี้ที่ผมเขียน Walk-in รีวิว โครงการแจ้งว่าตอนนี้มีแบบบ้าน Lexington ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท ขายแล้วนะ (ซึ่งถูกลงกว่าเดิมอีกเกือบ 1 ล้าน) ทำให้จับต้องได้ง่าย และยิ่งน่าสนใจมากขึ้นทีเดียวครับ
รายละเอียดโครงการ
โครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา มีขนาด 163-1-49 ไร่ และมีเพื่อนบ้านมากถึง 518 หลัง นับว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ทีเดียว แต่นั่นก็ทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แลกกับความหนาแน่นในการใช้งานที่อาจมาก ในบางช่วงเวลาที่มีคนมาใช้งานพร้อมกันเยอะๆครับ (เมฆฝนมาแล้ว เรารีบเข้าไปชมด้านในก่อนที่ฝนจะตกดีกว่าเนาะ…)
ในวันที่ผมเข้าไปชมโครงการ ที่ Sale Gallery จะมี Master Plan ของจริงให้ชมนะครับ ซึ่งผมไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ชมกันได้ แต่ผมสามารถอธิบายจากภาพจำและคำพูดของคุณพนักงานขายได้ตามนี้คือ
ปัจจุบันโครงการมีอายุประมาณ 7 – 8 ปี ซึ่งได้มีการแบ่งเฟสการพัฒนาออกเป็นหลายๆส่วน โดยพื้นที่ทางด้านขวาของถนน Main ได้สร้างเสร็จ และมีลูกบ้านเข้าอยู่เต็มแล้วเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และบางส่วนก็จะเป็นพื้นที่ขายในอนาคต โดยที่แต่ละโซนจะมีรายละเอียดและจุดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- พื้นที่ส่วนกลาง (Clubhouse และ Lake) : มีขนาดใหญ่รวมกว่า 13 ไร่ จะอยู่บริเวณช่วงกลางโครงการ และค่อนมาทางด้านหน้า ทำหน้าที่เป็นทั้งส่วนต้อนรับให้กับยูนิตเฟสด้านใน และยังทำให้บ้านแต่ละเฟสสามารถมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
- แปลงที่กำลังเปิดขายในปัจจุบัน (สีส้ม) : ทำเลอยู่ไม่ไกลจากส่วนกลางมากนัก และความพิเศษคือ เป็นเฟสสุดท้ายแล้วที่จะมีแบบบ้าน LEXINGTON (เลกซิงตัน) ขนาด 140 ตร.ม. ที่เป็น Type ที่เล็กที่สุดมาลง ปัจจุบันเหลือเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น และเป็นราคาเริ่มต้นของโครงการ ซึ่งจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ปลายปีนี้ครับ
- พื้นที่ขายในอนาคต (สีเหลือง) : เป็นเฟสสุดท้ายที่จะถูกพัฒนาและขายในอนาคต (ยังไม่ระบุช่วงเวลา) ซึ่งนับว่าเป็นทำเล Rare Item ที่ดีที่สุดของโครงการเลยก็ว่าได้ครับ เพราะอยู่ใกล้ๆกับสวน ลำธาร และอยู่โดยรอบทะเลสาบ ซึ่งสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย และบางหลังก็อาจได้วิวส่วนกลางสวยๆจากตัวบ้านได้อีกด้วยนะ
ภาพบรรยากาศถนนภายในโครงการครับ มีการปลูกต้นไม้และทำเกาะกลางไว้ตลอดทาง รวมถึงบางช่วงก็จะมีทั้งสวนใหญ่ๆ และธารน้ำให้พักเบรคสายตาได้เป็นระยะๆ ซึ่งก็ทำให้ดูร่มรื่นเหมือนกำลังขับรถอยู่ในสวนสาธารณะใหญ่ๆในกรุงเทพเลยครับ โดยต้นไม้ที่ทางโครงการเลือกใช้จะไม่ได้เป็นพันธุ์ไม้ที่ใหญ่ หรือมีพุ่มหนามากนัก จึงจะยังได้ความโปร่งโล่งด้วยนั่นเองครับ
และปัจจุบันยังไม่มีการจัดตั้งนิติบุคคล (ซึ่งทางแสนสิริยังคงดูแลให้อยู่ เพราะเนื่องจากยังไม่ได้ปิดโครงการ) ทำให้มีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศจึงยังดูเรียบร้อยดี ถึงแม้จะมีลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยเต็มแล้ว แต่ก็ไม่ได้ปล่อยชำรุดทรุดโทรมอย่างที่คิด สภาพจึงเหมือนเป็นโครงการใหม่ที่อายุเพิ่งผ่านมา 1 – 2 ปีเท่านั้นเอง (จริงๆผ่านมา 7 – 8 ปีแล้ว)
จุดเด่นคือ Clubhouse และทะเลสาบขนาดใหญ่
การออกแบบอาคาร Clubhouse ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ประภาคารริมทะเล” ที่เรามักเห็นที่ต่างประเทศบ่อยๆนั่นเองครับ และจากคำบอกเล่าของทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ความว่า ทะเลสาบหรือบึงน้ำแอ่งใหญ่นี้ เป็นสิ่งที่มีอยู่แต่เดิมของที่ดินผืนนี้อยู่แล้วอีกด้วย ซึ่งนับว่าหาได้ยาก สำหรับโครงการจัดสรรที่จะมีทะเลสาบในโครงการของโซนรามอินทรานี้ครับ
และหากใครได้ไปชมของจริงแล้วพบว่า บรรยากาศยังดูโล่งๆไปสักหน่อย…ก็ไม่ต้องห่วงครับ ส่วนตัวผมคิดว่า หากในอนาคตทางโครงการสามารถพัฒนาบ้านเฟสสุดท้ายที่ล้อมรอบทะเลสาบนี้ได้ทั้งหมด และจัดการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงามใหม่อีกครั้ง ก็จะทำให้วิวภายในโครงการดูดีมากขึ้นกว่านี้แน่นอน ส่วนธารน้ำริมถนน Main ที่เราเห็นกันก่อนหน้านี้ จะเป็นสิ่งที่โครงการสร้างและขุดขึ้นใหม่เองภายหลังนั่นเองครับ
ภายในออกแบบเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง เน้นโชว์โครงสร้างหลังคาที่โปร่งโล่งตามสไตล์แบบบ้านในแถบตะวันตก ผสมกับการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสถานที่ตากอากาศที่พักผ่อนริมทะเลครับ
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Lobby เอาไว้รับรองแขก หรือมานั่งเล่นในวันหยุดก็ได้ มีชุดโซฟาขนาดใหญ่นั่งได้หลายคน และที่ผมชอบเป็นพิเศษคือ “โมเดลเรือสำเภา” ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มบรรยากาศริมทะเลแล้ว ก็ยังสวยงามมากๆอีกด้วย
เดินออกมายังเฉลียงภายนอกจะมีที่นั่งหลายจุดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Day Bed ข้างสระว่ายน้ำ และโต๊ะเก้าอี้ริมรั้ว ที่สามารถนั่งเล่นชมวิวทะเลสาบภายนอกได้นั่นเอง ส่วนตัวผมคิดว่าอยากให้เพิ่มต้นไม้หรือกางร่มที่โต๊ะเพิ่มสักหน่อย ก็จะทำให้พื้นที่นี้สามารถใช้งานได้จริงตลอดทั้งวัน แดดไม่ร้อนมากนั่นเองครับ
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาดประมาณ 25 m. ถือว่าค่อนข้างใหญ่ทีเดียวครับ สามารถว่ายออกกำลังกายได้เต็มที่เลย
อีกด้านหนึ่งเราสามารถว่ายน้ำไป และมองวิวทะเลสาบภายนอกไปด้วยก็ได้นะ
ส่วนถ้าเราเดินมาทางซ้ายของสระ เราจะเจอกับที่ล้างตัวและห้องน้ำแยกชาย-หญิงครับ ซึ่งด้านในก็จะมีห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าด้วย
สุดปลายทางเดินจะมีศาลาให้นั่งเล่นหลบแดดได้ครับ รวมถึงมีทางเดินริมน้ำรอบๆ Clubhouse ให้เดินชมวิวเล่นๆได้อีกด้วย
กลับเข้ามาภายในอาคารกันอีกครั้ง ซึ่งอีกด้านหนึ่งจะมีทางแยกออกไปฟังก์ชัน Indoor อื่นๆอีกนะ
เริ่มที่ห้องกระจกชั้นล่างจะเป็น Fitness ซึ่งมีอุปกรณ์ค่อนข้างหลากหลายชิ้นเหมือนกัน และมีขนาดใหญ่พอประมาณ เพราะอย่าลืมว่าโครงการนี้เรามีเพื่อนบ้านถึง 518 ยูนิต ในเวลาที่มีคนมาใช้งานพร้อมกันเยอะๆ ก็อาจหนาแน่นได้เหมือนกัน ที่ชอบคือลู่วิ่งสามารถวิ่งไปและชมวิวสระว่ายน้ำกับทะเลสาบภายนอกเมื่อสักครู่ได้ด้วย
ส่วนบันไดทางขึ้นจะเป็นบันไดวนครับ ซึ่งอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานสักหน่อย เพราะขั้นบันไดสามเหลี่ยมเล็กๆที่ไม่เท่ากัน อาจทำให้เหยียบได้ไม่เต็มฝ่าเท้านั่นเอง
ห้องแรกบนชั้น 2 คือ Kids Room ที่ภายในจะมีอุปกรณ์เสริมสร้างพัฒนาการของเด็กอยู่เยอะ ปูพื้นด้วยพรมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกน้อย สามารถพามาเล่นกับเพื่อนๆที่นี่ได้ครับ
ส่วนอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกันจะเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถใช้เป็นห้องโยคะ เต้นแอโรบิค หรือจะจ้างเทรนเนอร์มาเปิดคลาสสอนส่วนตัวได้นั่นเองครับ
นอกจากนี้หากเราเดินขึ้นมาจนถึงชั้น 3 ก็จะเป็นส่วนยอดประภาคาร ที่ล้อมรอบด้วยประตูกระจก
ซึ่งชั้นนี้เป็น “จุดชมวิว” มีความสูงประมาณ 15 m. ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลสาบ และภายในโครงการได้ทั่วเลยครับ แต่ปกติแล้วเค้าจะปิดล็อคประตูหน้าต่างเหล่านี้เอาไว้เพื่อความปลอดภัยนะ หากต้องการออกไปชมวิวหรือถ่ายรูป อาจต้องลองติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูอีกทีครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ยาวประมาณ 25 m.
- ห้องออกกำลังกาย
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
- ห้องอเนกประสงค์ (โยคะ/สันทนาการอื่นๆ)
- Kids Room
- สนามเด็กเล่น
- ทะเลสาบหรือบึงน้ำขนาดใหญ่ในโครงการ
- ศาลานั่งเล่นในสวน
- ห้อง Sauna ในห้องน้ำ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
พาชมบ้านตัวอย่างของจริงสักหน่อย
- LEXINGTON (เลกซิงตัน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท (Promotion)
แบบบ้านของโครงการนี้จะเป็นสไตล์อังกฤษ ทาด้วยสีโทน Pastel สีอ่อนน่ารักๆ ซึ่งแต่ละหลัง/แต่ละแปลงก็จะคละสีกันออกไป และเช่นเดียวกับบ้านโครงการอื่นๆของแสนสิริ ซึ่งทางโครงการจะขอความร่วมมือกับทางลูกบ้านว่า จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือทาสีบ้านใหม่ได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากต้องการ “คุมธีม” ให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สวยงาม เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งโครงการนั่นเองครับ
LEXINGTON (เลกซิงตัน) เป็นบ้านขนาดเล็กสุดของโครงการ ปัจจุบันเหลือเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่มีลูก 1 – 2 คน ฟังก์ชันบ้านชั้นแรกผมชอบตรง Common area ที่กว้างและเชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยจัดให้ส่วนฟังก์ชันใช้งาน (ครัว ห้องน้ำ และบันได) หลบสายตาไปอยู่ทางปีกซ้ายของบ้าน ทำให้ดูเป็นระเบียบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ
ส่วนชั้นบนจะมีห้องนอน 3 ห้อง โดยห้องนอนเล็กจะแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก ในขณะที่ห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำและระเบียงขนาดใหญ่ในตัว ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
เฉลียงหน้าบ้านมีรั้วไม้สีขาวด้วย น่ารักดีครับ
- BURLINGTON (เบอร์ลิงตัน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 68.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.44 ล้านบาท (Promotion)
BURLINGTON (เบอร์ลิงตัน) เป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งนอกจากพื้นที่ใช้สอยจะกว้างมากขึ้นแล้ว ส่วนตัวผมมองว่าฟังก์ชันยังลงตัวและใช้งานง่ายขึ้นมากๆครับ เริ่มจากชั้น 1 จะมีประตูทางเข้าจากโรงจอดรถเพิ่มเข้ามา พอจอดรถเสร็จก็เดินเข้าบ้าน เอาของไปเก็บในครัว หรือขึ้นชั้น 2 ได้เลยไม่ต้องเดินอ้อม ส่วนห้องน้ำก็ใหญ่ขึ้น ไม่มีการลดระดับ และมีส่วนอาบน้ำเพิ่มเข้ามาด้วยครับ
ส่วนชั้น 2 บริเวณโถงบันไดจะกว้างขึ้นมากๆ ควรจะหาตู้หรือชั้นวางของมาวางเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย นอกจากนี้ยังมี Family area เพิ่มเข้ามาด้วย เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับคนในครอบครัว หรือจะกั้นผนังเบาทำห้องเพิ่มอีกสักห้องก็ยังได้ครับ ส่วนห้อง Master Bedroom คราวนี้จะไม่มีระเบียงในห้องแล้วนะ (เพราะระเบียงจะมาอยู่ด้านนอกตรง Family area) แต่จะได้เป็นระเบียง Pocket Garden ตรงหน้าต่างเล็กๆแทนครับ
บรรยากาศ Common area จะรู้สึกได้ว่า กว้างกว่าแบบบ้านหลังก่อนหน้านี้ครับ
- NEW HAVEN (นิว เฮเวน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 74 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.49 ล้านบาท (Promotion)
NEW HAVEN (นิว เฮเวน) เป็นแบบบ้านที่ฟังก์ชันส่วนใหญ่จะเหมือนกับแบบ BURLINGTON (เบอร์ลิงตัน) หลังก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่จะมีห้องนอนชั้น 1 เพิ่มเข้ามาด้านข้าง 1 ห้อง และยังมีสวนข้างบ้านที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย จึงเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับคนชอบมีพื้นที่รอบบ้าน ไว้ปลูกต้นไม้ทำสวนเยอะๆ หรือมีสมาชิกครอบครัวเยอะขึ้นอีกหน่อย อาจมีลูก 2 – 3 คน หรือมีผู้สูงอายุที่อาจขึ้น-ลงบันไดไม่สะดวก ก็สามารถพักอยู่ที่ห้องชั้นล่างได้ครับ
- LANCASTER (แลงเคสเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 75.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 11.29 ล้านบาท (Promotion)
LANCASTER (แลงเคสเตอร์) เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุด และมีหน้ากว้างมากที่สุดของโครงการ โดยส่วนที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Back of house หรือส่วนของแม่บ้านนั่นเองครับ รวมถึงห้องนอนชั้น 2 นอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้ว ยังมีห้องน้ำในตัวทุกห้องอีกด้วย บ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ต้องการความสะดวกและเป็นส่วนตัว รวมถึงอาจมีแม่บ้านอาศัยอยู่ด้วยนั่นเองครับ
ทำเลที่ตั้งโครงการ
พิกัด Google Maps : 13.860691, 100.711139
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ ทำเลจะตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง เป็นถนนที่ราคาบ้านจะจับต้องได้ง่ายกว่าถนนเส้นหลักอย่าง ถนนรามอินทรา ที่จะมีราคาประมาณ 10 ล้านขึ้นไป โครงการอยู่ห่างจากซอยถนนปัญญาอินทราประมาณ 2 km. ซึ่งเชื่อมต่อถนนสำคัญอย่าง ถนนพระยาสุเรนทร์ ถนนเลียบวงแหวนกาญจนา และถนนรามอินทราก็ได้ หรือจะตรงไปบนถนนคู้บอน ก็สามารถไปขึ้นวงแหวนเพื่อเข้า-ออกเมืองได้เช่นกันครับ (ระยะทางประมาณ 9.5 km.)
ความอุดมสมบูรณ์บนถนนคู้บอนและถนนเลียบคลองสองช่วงนี้ จะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ริมทางพอสมควรเลยทีเดียว ถือว่าหาของกินได้ไม่ยาก โดยมีซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดคือ MaxValu หรือถ้าใครอยากไปเดินห้างใหญ่ๆก็จะมี The Promenade และ Fashion Island อยู่บนถนนรามอินทราครับ
และจากบทความคราวก่อน ก็มีลูกเพจแนะนำร้านเด็ดๆเพิ่มเข้ามาให้ผมคือ “Since Yesterday Cafe” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ใช้เวลาเดินทางจากโครงการมาประมาณ 15 นาทีเท่านั้นเอง เป็นร้านที่สวยและเป็นธรรมชาติดีครับ ผมชอบนะ ขอบคุณมากๆ (เค้ามาเยือนให้แล้วนะ ^^)
สรุปและจับประเด็นสำคัญของโครงการนี้
ส่วนกลางและบรรยากาศโครงการ
ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าโครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา มีความโดดเด่นที่ต่างจากเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันตรงที่มี “ทะเลสาบขนาดใหญ่” ในโครงการ แล้วยังมีอาคาร Clubhouse ที่ออกแบบเป็นประภาคารริมทะเลเหมือนอยู่เมืองนอกอีกด้วย ซึ่งหากคุณเป็นคนชอบบรรยากาศส่วนกลางแบบนี้ ก็จะมีตัวเลือกแค่ที่นี่ที่เดียวที่ยังมีบ้านมือ 1 ขายอยู่ในปัจจุบัน (อีก 2 โครงการที่มีทะเลสาบเหมือนกัน เท่าที่ผมทราบคือ โครงการสัมมากร มีนบุรี และหมู่บ้านชลลดา รามอินทรา ซึ่งตอนนี้ขายหมดไปแล้วครับ)
แพ็คเกจโปรโมชันและราคาขายในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจสำหรับผมคือราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท สำหรับแบบบ้าน LEXINGTON ที่เป็นขนาดเล็กที่สุดของโครงการ ซึ่งด้วยราคาระดับนี้ ..แต่ได้ส่วนกลางที่มีบรรยากาศทะเลสาบในโครงการ สวยงามไม่แพ้บ้านเดี่ยวโครงการที่ราคา 10 ล้านขึ้นไป ซึ่งผมถือว่าค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
โดยบ้าน Type นี้จะเหลือเพียง 3 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น และจะไม่มีการสร้างบ้านแบบนี้ในเฟสใหม่อีกแล้วครับ หากใครสนใจก็คงต้องรีบกันสักหน่อยนะ ไม่เช่นนั้นก็อาจต้องเพิ่มเงินอีก 1 – 2 ล้านบาท เพื่อซื้อแบบบ้านที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งก็ยังมีให้เลือกกันอีก 4 – 5 หลังครับ ส่วนแบบบ้านเฟสใหม่ในอนาคตจะเหลืออยู่แค่ 3 แบบคือ BURLINGTON , NEW HAVEN และ LANCASTER เท่านั้น จะเป็นแบบบ้านไซส์ใหญ่ที่ฟังก์ชันลงตัวดีทีเดียว มีพื้นที่ใช้สอย 163 – 262 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนราคาคงต้องรอดูกันต่อไปในอนาคตครับ
สเปกวัสดุและโครงสร้างบ้าน
เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คุณจะต้องพิจารณาครับ โดยผมต้องบอกก่อนว่าโครงการนี้ตัวบ้านจะสร้างด้วยระบบ Precast ซึ่งเป็นผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่ค่อนข้างแข็งแรงทนทาน ช่วยลดการรั่วซึมของผนัง แถมยังไม่มีเสาโผล่มาในบ้านมาขวางทางการวางเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือเราไม่สามารถทุบหรือเจาะผนังได้นั่นเอง
เพราะทั้งหมดจะเป็นผนังรับน้ำหนักของตัวบ้าน ที่ถูกคำนวณมาแล้วจากโรงงาน จึงไม่เหมาะกับการต่อเติมสักเท่าไหร่นัก ซึ่งโครงการบ้านส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับ Segment เดียวกันของย่านนี้ มักจะใช้เป็นผนังก่ออิฐมวลเบาหรืออิฐมอญกันซะมากกว่าครับ แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ต้องการต่อเติม หรือเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันบ้านอะไรมากนัก ผมคิดว่าเรื่องนี้คงไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณแน่นอน
ผ่านมาแล้ว 7 – 8 ปี ทำไมโครงการยังขายไม่หมด?
ความจริงเรื่องนี้เป็นสิ่งแรกที่ผมสงสัยก่อนจะเข้ามาชมโครงการนะครับ แต่เมื่อได้เห็น Master Plan และแผนการพัฒนาเฟสการขายแล้ว…ผมก็เข้าใจ เพราะการพัฒนาโครงการแนวราบจำเป็นจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ยิ่งโครงการนี้มีบ้านมากถึง 518 ยูนิต ถือเป็นโครงการค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน
ซึ่งทางแสนสิริก็ค่อยๆแบ่งเฟสพัฒนาไปทีละ 2 – 3 ซอย โดยเฟสสุดท้ายในอนาคตที่เหลือยู่ถือเป็น “ทำเลทอง” ของโครงการ เพราะจะอยู่รอบๆทะเลสาบ สามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย หรือบางหลังก็อาจได้วิวจากบนชั้น 2 เลยก็มี แน่นอนว่าอนาคตต้องมีราคาที่สูงกว่าเฟสอื่นๆที่เคยเปิดขายอย่างแน่นอนครับ (รอติดตามกันต่อไป)
และอีกประเด็นหนึ่งที่ส่งผล..ซึ่งผมได้พูดไปแล้วคือ “โครงสร้าง Precast” หากย้อนไป 7 – 8 ปีที่แล้ว ระบบโครงสร้างนี้ยังถือว่าค่อนข้างใหม่ในวงการอสังหาฯ จึงทำให้ค่อนข้างมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคพอสมควร (สมัยนั้นอาจารย์ผมยังสอนในวิชา Structure ตอนมหาลัยอยู่เลยครับ) แต่ในปัจจุบันนี้ผมคิดว่าผู้บริโภคหลายคนคงจะคุ้นเคยกับระบบโครงสร้างนี้กันมากขึ้นแล้ว ซึ่งหากคุณทราบความต้องการและ Lifestyle ของตัวเอง ผมคิดว่าเราคงจะตัดสินใจได้ไม่ยากอย่างแน่นอน
สำหรับรายละเอียดโครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา ถ้าทีมงาน Thinkofliving ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ หรือได้เข้าไปทำรีวิวฉบับเต็ม ทางเราจะรีบมาอัพเดทให้ รอติดตามอ่านกันนะครับ 😀
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving