ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Thai Contemporary บนถนนบางบอน 4 จาก มั่นคงเคหะการ [รีวิวฉบับที่ 862]

รีวิวฉบับที่ 862 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชมโครงการ ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 บ้านเดี่ยว 2 ชั้นบนถนนบางบอน 4 โครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Thai Contemporary เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยเรียบง่ายร่วมสมัย บ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่เพราะมีเนื้อที่เริ่มต้นตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 190-260 ตารางเมตร หน้าตาของบ้านเป็นอย่างไรไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ ^^

Fact @ 11 June 2015

• ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน4
• บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
• Segment : Upper Class (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนบางบอน 4 เขตบางบอน กทม.
• เนื้อที่โครงการ  31-2-70 ไร่ จำนวน 94 ยูนิต
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 แบบ คือ
• บ้านราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 100.30-102.50 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2-4 ที่จอดรถ 
• บ้านราชพฤกษ์ + บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 100.60 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2-4 ที่จอดรถ 
• บ้านชัยพฤกษ์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 100.60 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2-4 ที่จอดรถ 
• บ้านจิราภา+ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 100.60-102.90 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 2-4 คัน 
• เพดานชั้น  1 สูง 2.55 เมตร, ชั้น  2 สูง 2.6 เมตร
• ราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาทหรือ 74,552 บาท/ตร.วา
• http://www.mk.co.th/bb4/bb4.html
• Call Center : Call 1622 ext. 14

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.644619, 100.374834

แผนที่จากทางโครงการค่ะจะเห็นว่าตัวโครงการอยู่บนถนนบางบอน 4 ตัวโครงการห่างจากทางถนนเอกชัยประมาณ 280 เมตร

บริบทโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ โรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมทั้งบ้านพักอาศัยที่ไม่ได้หนาแน่น แต่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่บ้านพักอาศัยจะอยู่บนถนนบางบอน 3 (ซอยเพชรเกษม 69) และ ถนนบางบอน 5 (ซอยเพชรเกษม 81)  ที่เป็นเส้นตัดกับถนนเอกชัยกระจายมาทำงานบนถนนเส้นนี้บ้าง ดังนั้นเมื่อมีโรงงาน ก็ต้องมีแรงงาน ซึ่งมาทำงานที่นี่ รวมทั้งเจ้าของกิจการก็มีมาก ดังนั้นเมื่อคนเข้ามาสาธารณูปโภคต่างๆก็ย่อมตามมา  ทำให้สองข้างถนนเอกชัยจะมีทั้งปั๊มน้ำมัน, ปั๊มแก๊ส มี Mini BigC, Mini Lotus ขึ้นมาอำนวยความสะดวก ธนาคารกรุงไทยก็มาธนาคารไทยพาณิชย์ก็มี

ไกลออกมาหน่อยก็มีเซ็นทรัล พระราม 2, Big C, Lotus, Homepro หากไปทางเส้นกาญจนาภิเษกก็มี Makro, สำเพ็ง 2 ไปทางเพชรเกษม ก็มี The Mall บางแค เรียกได้ว่าห้างสรรพสินค้าทั้งแบบธรรมดา และแบบมินิ ที่ไม่ไกลจากโครงการค่อนข้างเยอะ

โครงการ ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 ตั้งอยู่ในถนนบางบอน 4 ซึ่งซุ้มทางเข้าโครงการห่างจากถนนใหญ่เอกชัยประมาณ 280 เมตรค่ะ ตัวโครงการอยู่ในแถบชานเมืองที่อยู่เลยจากฝั่งธนมาแล้ว และอยู่ไม่ไกลกับวงแหวนรอบนอก(ถนนกาญจนาภิเษก)  เป็นถนนสายสำคัญที่มีเส้นทางเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนล้อมรอบตัวเมืองกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ : หากมาจากถนนพระราม2 วิ่งตรงมาเรื่อยๆเพื่อไปขึ้นวงแหวนรอบนอก(ถนนกาญจาภิเษก)แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเอกชัย และมายูเทิร์นตรงทางแยกหน้าถนนบางบอน 5 เพื่อไปยังโครงการที่อยู่ในถนนบางบอน 4

หากมาจากถนนเพชรเกษม สามารถเข้ามาได้ทั้งจากทางถนนบางแคเลี้ยวเข้าถนนเอกชัย และจากทางถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวเข้าถนนเอกชัย แล้วมายูเทิร์นเพื่อเข้าถนนบางบอน 4 นอกจากนี้ยังสามารถเข้าได้จากถนนบางบอน 3(ซอยเพชรเกษม 69) และ ถนนบางบอน 5(ซอยเพชรเกษม 81) โดยมีถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้เป็นตัวเชื่อมอีกด้วย

ซึ่งตัวถนนบางบอน 4 นี้จะมีความแตกต่างกับถนนบางบอน 3  และ 5 ตรงที่ ถนนทั้งสองเส้นนี้จะเชื่อมระหว่างเพชรเกษมและถนนเอกชัยได้โดยตรง แต่ถนนบางบอน 4 จะไม่สามารถทะลุได้เลยต้องอาศัยถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้เแล้วเลี้ยวเข้าถนนบางบอน 3 หรือบางบอน 5 เพื่อทะลุถนนใหญ่แทน ดังนั้นจึงมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ตรงที่ข้อดีคือ บนถนนบางบอน 4  จะมีความสงบ ไม่พลุกพล่าน มลพิษทางเสียและกลิ่นจากรถยนต์ก็น้อยลง แต่การเดินทางจะไม่สะดวกเท่าซอยใหญ่และความเจริญแหล่งอาหารการกินจะด้อยกว่าพอสมควร

ทางด่วน : ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถไปขึ้นได้ที่ถนนพระราม 2 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ 12 กิโลเมตร และ ทางด่วนพิเศษหมายเลข 9 ที่สามารถไปขึ้นได้ที่วงแหวนรอบนอก(ถนนกาญจนาภิเษก)ณ จุดขึ้นลงทางด่วนห่างจากโครงการ 6 กิโลเมตร

การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง : รถ 2 แถว มหาชัย-ปิ่นเกล้า, รถเมล์สาย 120 สมุทรสาคร-คลองสาน,รถเมล์สาย 43 เทเวศร์-ศึกษานารี ซึ่งหากขึ้นรถเมล์สายนี้จะสามารถไปลงที่ BTS วุฒากาศ ตรงธนาคารไทยพานิชย์ก่อนถึงทางขึ้นถนนราชพฤกษ์ได้ค่ะ

เส้นทางในอนาคต : บนถนนเพชรเกษมจะมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งโครงการอยู่ห่างจากแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 8 กิโลเมตร และห่างจากแนวรถไฟฟ้าสีแดงเข้ม(สถานีบางบอน) ประมาณ 3.8 กิโลเมตร

เราจะเริ่มกันที่จุดลงทางด่วนพระราม 2 ขับไปยังวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อเลี้ยวเข้าถนนกาญจนาภิเษก จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไปยังถนนเอกชัย และยูเทิร์นเข้าถนนบางบอน 4 เพื่อไปโครงการกันค่ะ

เราลงทางด่วนพระราม 2 รถจะมาวิ่งบนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนกว้าง 8 เลน

ขับมานิดนึงเราจะเจอสะพานกลับรถ แต่เราจะตรงไปเรื่อยๆกันก่อน

ซ้ายมือจะเห็นโรงพยาบาลบางมด ตรงหน้ามีสะพานลอยให้คนเดินข้าม

เลยมาอีกหน่อยจะเห็นโรงพยาบาลนครธนทางขวามือ

ขับต่อไปจะเห็นทางซ้ายมือมีโฮมโปร แมคโดนัลด์ บิ๊กซี เรียงต่อกันเลย ส่วนทางขวามือจะเป็น Central พระราม 2 เป็นโซนที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียว

ขับต่อมาเรื่อยๆ เดี๋ยวเราจะเห็นป้าย ออกทางขนาน ชิดซ้าย / อ.พระประแดง บางแค เข้าช่องซ้าย  ให้เราเตรียมชิดซ้ายไว้นะคะ

ขับมาอีกหน่อยจะเห็นโลตัสทางซ้ายมือ และมีป้ายบอกทางไปถนนกาญจนาภิเษก อ.พระประแดง บางแค ลูกศรชี้ไปทางซ้าย เดี๋ยวเราจะเตรียมเลี้ยวเข้าช่องซ้ายกัน

เลี้ยวเข้าช่องซ้ายมาแล้ว สังเกตป้าย อ.พระประแดง บางแคไว้นะคะ เราจะเกาะทางนั้นเพื่อไปยังถนนกาญจนาภิเษก

ขับมาอีกหน่อยจะเจอทางแยก ถ้าขับตรงจะไปสมุทรสาคร ส่วนเราจะเลี้ยวซ้ายข้างหน้ากัน

เลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้ว เราจะเจอทางแยก 3 เลน เลี้ยวซ้ายจะไป อ.พระประแดง, บางนาและไปขึ้นทางด่วนได้ เลี้ยวขวาจะเป็นทางกลับรถ ส่วนเราจะเข้าเลนกลางตรงไปโดยเกาะเส้นทางไปบางแคไว้ค่ะ

ถนนจะบังคับพาเราแยกเป็น 2 ทาง ระวังอย่าเข้าผิดช่องนะคะ ไม่งั้นยูเทิร์นไกลเลย ให้เราเลี้ยวซ้ายแล้วใช้ 2 เลนทางขวาไว้

ขับมาอีกหน่อยจะเห็นทางแยกด้านซ้ายมือสำหรับขึ้นทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรม แต่เราจะขึ้นวงแหวนรอบนอกหรือถนนกาญจนาภิเษกกันค่ะ

ขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกมาเราจะเห็นด่านเก็บเงิน ซึ่งเป็นจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ต้องบอกว่า #รถติดหนักมาก ยิ่งช่วงไหนรถใหญ่วิ่งกันเยอะๆนี่รอกันนานเลย

ลงสะพานมาเราก็เข้ามาอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกแล้ว

ขับไปเรื่อยๆจะเห็น 2 ข้างทางเป็นศูนย์รวมร้านขายต้นไม้และของแต่งสวน

ขับไปจนเห็นป้ายบอกทางตรงไปเป็นถนนเพชรเกษม เลี้ยวซ้ายไปสมุทรสาคร ให้เราชิดซ้ายไว้ค่ะ

ขับมาอีกนิดเดียวจะเจอทางแยกให้เราเลี้ยวซ้าย

เลี้ยวซ้ายเข้ามาเราก็มาอยู่บนถนนเอกชัยแล้ว

บนถนนเอกชัยนี้จะเป็นแหล่งชุมชน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ตึกแถว และโรงงานขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางค่ะ อย่างเข้ามาตรงนี้ก็มี 7Eleven ซึ่งใกล้ๆกันเป็นโครงการทาวน์โฮม Pleno เอกชัย-กาญจนาภิเษก เดี๋ยวเราจะพาตรงไปเรื่อยๆเพื่อหาทางกลับรถไปยังถนนบางบอน 4 เพื่อเข้าโครงการกันนะคะ

ขับตรงไปเรื่อยๆ มองไปทางขวามือจะเจอปั๊ม ปตท. ที่มี 7eleven และ กาแฟอเมซอนด้วย

มีป้ายบอกทางตรงไปสามารถไปจังหวัดสมุทรสาครได้ ส่วนถ้ายูเทิร์นหรือเลี้ยวขวาจะสามารถไปทะลุถนนเพชรเกษมได้ค่ะ

เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นย่านของชุมชนที่พักอาศัยและมีโรงงานด้วย การจราจรจึงตัดขัดเป็นช่วงๆ รถค่อนข้างหนาแน่น

ขับมาจนเจอสามแยกไฟแดง หากเลี้ยวขวาจะสามารถไปถนนบางบอน 3 ได้ ส่วนเราจะพาตรงไปยูเทิร์นเข้าถนนบางบอน 4 นะคะ

ขับมาอีกหน่อยจะเจอเรือนจำพิเศษธนบุรีทางซ้ายมือ

มีโชว์รูมโตโยต้า

ซึ่งข้างหน้าโชว์รูมโตโยต้าจะมีจุดให้กลับรถ แต่เราจะยังไม่ยูเทิร์นที่แยกนี้นะคะ เพราะยังไม่ถึงถนนบางบอน 4

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอวัดบางบอนอยู่ทางซ้ายมือ อาคารพาณิชย์แถวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและขายอาหาร ดำเนินกิจการภายในครัวเรือนค่ะ เยื้องๆกันเป็นปั๊มแก๊ส

โชว์รูมซื้อขายรถมือสองก็มี

เลยโชว์รูมมาหน่อย จะเป็นหมู่บ้านชนิภา ซึ่งฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านนี้ก็จะเป็นถนนบางบอน 4 ซึ่งเป็นทางเข้าไปยังโครงการแล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะตรงไปหาทางยูเทิร์นรถกันนะคะ

 

พอขับมาเรื่อยๆ ประมาณ 450 เมตร จะเจอสะพานลอยคนข้าม จุดสังเกตคือทางขวามือจะมีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่ให้เราเตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถค่ะ

 

 กลับรถตรงสะพานลอยนี้กันเลยยย

  

พอกลับรถมา มองไปทางซ้ายมือข้างหน้าจะเป็นทางเลี้ยวไปถนนบางบอน 9 ค่ะ ถัดไปจะเป็นธนาคารกสิกรไทยสามารถมาใช้บริการกันได้

มีป้ายบอกทาง หากตรงไปจะสามารถไปทะลุถนนกาญจนาภิเษกได้ ส่วนข้างหน้าจะมีทางเลี้ยวซ้ายจะสามารถไปถนนเลียบคลองภาษีเจริญและถนนเพชรเกษมได้

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายบอกทาง หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนบางบอน 4 ซึ่งเป็นถนนที่ตั้งโครงการ  โดยถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางลัดไปถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ได้ด้วยค่ะ

เลี้ยวเข้าถนนบางบอน 4 มาปุ๊บ ทางซ้ายมือจะมีแก๊งค์พี่วินขนาดใหญ่ คอยรับส่งคนเข้า-ออกค่ะ

บรรยากาศในซอยจะเป็นชุมชนที่พักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

เนื่องจากเป็นเขตชุมชนพักอาศัยจึงมีที่ร้านอาหารอยู่เป็นช่วงๆในซอย ประกอบกับบ้านพัก และโรงงานขนาดกลางอยู่บ้าง

ร้านขายของชำเล็กๆก็มีค่ะ

เลี้ยวเข้าโค้งมาก็เจอกับโครงการแล้วค่ะ ก่อนถึงโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยของบุคคลอื่น

ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

เราเลี้ยวซ้ายเข้ามา ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ  ^^

Special recommend  : แน่นอนว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับใครที่สนใจโครงการ ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4  การจะย้ายที่อยู่มาในย่านนี้นอกจากเรื่องการเดินทาง ทำเล วิถีชีวิตความเป็นอยู่แล้ว เรื่องกินก็เป็นเรื่องใหญ่นะคะ เราจึงพามาแนะนำร้านอาหารในย่านนี้สักเล็กน้อยพอเป็นน้ำจิ้มนะคะ

ร้านนิรมล ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ,  ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ ร้านนี้ไม่ได้อร่อยเด็ดจัดจ้าน จนแม่ช้อยต้องมารำ แต่เป็นร้านที่ราคาย่อมเยามากก ตามป้ายคือก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ชามละ 20 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้หาได้ยากในป่าเมืองหลวงนี้เหลือเกิน พิกัดร้านอยู่ที่ซอยเอกชัย 119  ค่ะ ไม่ไกลจากโครงการมากนัก

บรรยากาศในร้านค่อนข้างคึกคักค่ะ มีคนแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ต้มยำ ทางร้านจะให้ซุบกระดูกหมูมาด้วย เราสั่งก๋วยเตี๋ยวมา 2 ชาม + ซุปกระดูกหมู + เป๊ปซี่ คุณป้าคิดราคามา 57 บาท!  เท่านั้นนนนนน คุณพระ!!

จากการสอบถามคนแถวนี้ เค้าบอกมาว่าย่านนี้เป็นย่านพักอาศัย และโรงงาน ทำให้คนที่มาอยู่มีมากมายหลายประเภท ทั้งที่เป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ และคนรายได้ปานกลางก็เยอะ อาหารส่วนใหญ่จึงมีหลากหลายให้เลือกแต่ส่วนใหญ่ราคาจะย่อมเยาว์ค่ะ

ใกล้ๆกันเป็นร้านบางบอนโอชา สาขา 1 เมนูขึ้นชื่อคือเกาเหลาหมูตุ๋น-เนื้อตุ้น ข้าวมันไก่ก็มี

หน้าตาเกาเหลาหมูตุ๋นกับข้าวเปล่าค่ะ สนนราคา  50 บาท ในร้านมีขนมเยอะแยะเราเลยหยิบขนมตะโก้มาลองชิมด้วยซะเลย ^^

สรุป จากที่ดูทำเลของกินแถวนี้ ราคาไม่แพง มีให้เลือกหลากหลายมีทั้งร้านใหญ่ ร้านเล็ก แนะนำให้ดูดีๆเลือกที่สะอาดๆ อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว อาหารไทยทั่วไป และอาหารจำพวกเกาเหลาหมูตุ๋น เนื้อตุ๋น เป็ดตุ๋นก็เยอะค่ะ ถ้าอยู่แถวนี้รับรองมีของกินไม่ขาด 🙂

รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทโดยรอบโครงการ ส่วนใหญ่รอบๆจะเป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินว่างเปล่า มีโรงงานขนาดเล็กอยู่บ้างประปรายค่ะ โดยทิศเหนือ ติดกับบ้านพักอาศัยและที่ดินว่างเปล่า  ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นสวนมะม่วงของบุคคลอื่น ทิศตะวันตกและทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับที่ดินว่างเปล่า ซึ่งถัดออกไปอีกหน่อยนึงจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 และ 3 ชั้น ทิศใต้ ติดกับถนนบางบอน  4 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลัก ทางเดียวของโครงการ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับโรงงานปั๊มเชิงเทียน ทิศตะวันออก ติดกับโกดังร้าง ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะติดกับที่ดินว่างเปล่าและที่พักอาศัยที่ค่อนข้างกระจายตัวค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น  

• โรงเรียนศึกษานารีวิทยา   ~ 3.3 กิโลเมตร
• โรงเรียนสารสาสน์ บางบอน  ~ 3.0  กิโลเมตร
• โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา   ~  5.6 กิโลเมตร
• แม็คโคร บางบอน  ~ 7  กิโลเมตร
• เทสโก้ โลตัส บางบอน  ~ 7  กิโลเมตร 
• โรงพยาบาลบางปะกอก 8  ~ 8.3  กิโลเมตร
• โรงเรียนอำนวยศิลป์ ธนบุรี  ~  10.8 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์  ~ 11.3  กิโลเมตร
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ~ 10.8  กิโลเมตร
• เดอะมอลล์ บางแค   ~ 13.3  กิโลเมตร

 

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 เป็นบ้านเดี่ยว 2  ชั้น ออกแบบมาในสไตล์ Modern Thai Contemporary ที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์น และรูปแบบไทยอย่างลงตัว รูปแบบโดยรวมของโครงการเลือกใช้โทนเหลือง ขาว และสีทอง ส่วนตัวบ้านใช้โทนสี ครีม เทา เหลือง โดยสีหลักของบ้านมีให้เลือก 3 เฉดสี คือ เหลือง เหลืองอ่อน และสีครีม หากจองบ้านแล้วสามารถเลือกสีกับทางโครงการได้(ในกรณีที่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ) รายละเอียดสอบถามกับทางโครงการได้ค่ะ

ผังโดยรวมของโครงการ จะเห็นว่ารอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินว่างเปล่า และโรงงานขนาดเล็ก ไม่มีตึกสูงบังวิวจึงค่อนข้างมีมุมมองที่เปิดโล่ง ทางเข้า – ออกหลักติดกับถนนบางบอน 4 ซึ่งทางเข้าอยู่เลยทางโค้งมานิดเดียว เวลาเลี้ยว รถที่ผ่านไปผ่านมาจะมีการชะลอ อาจจะทำให้มีจราจรติดขัดในช่วงเวลารถเยอะ และต้องต้องขับช้าๆระวังรถหลังชนท้ายด้วยนะคะ

 เข้ามาในโครงการปุ๊บจะเจอกับป้อมยาม และไม้กะดก สองข้างทางเป็นสวนสาธารณะซึ่งสวนจุดเดียวในโครงการ  ด้านขวามือจะเป็นสวนเล็กๆเนื้อที่ประมาณ 12.80 ตารางวา ซึ่งตรงนี้เป็นที่ตั้งป้ายโครงการ ส่วนทางซ้ายมือเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่ากัน เนื้อที่ประมาณ 482.60 ตารางวา ซึ่งเป็นสวนที่มีทางให้เดินเล่น และศาลาให้นั่งพัก เข้ามาในโครงการจะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด ถนนรอบโครงการกว้าง  9  เมตร รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและมีบางส่วนที่ติดกับโรงงานจะก่อระแนงขึ้นสูงเพิ่มเป็น 4 เมตร ส่วนนิติบุคคลจะอยู่กลางโครงการมีเนื้อที่ประมาณ 22.20 ตารางวา 

ซุ้มประตูทางเข้า-ออก เป็นเสาเหล็กทาสีทอง หลังคาออกสีเลือดหมู ป้ายโครงการเป็นสีแดงตัวหนังสือสีทองเด่นชัด ตรงกลางเป็นป้อมยาม 1 จุดทางเข้า-ออก เป็นไม้กระดกตอนเดียว  สองข้างทางเป็นสวน ทางซ้ายมือเป็นซุ้มน้ำตก ซึ่งตรงนี้มีประตูใช้สำหรับเป็นทางคนเดินเข้า-ออกโครงการและยังทะลุเข้าไปยังสวนสาธารณะส่วนกลางของโครงการได้

ทางเข้าใช้ระบบ Access Card ระยะใกล้ ลูกบ้านสามารถนำการ์ดมาแตะตรงนี้ ไม้กระดกก็จะเปิดอัตโนมัติค่ะ

ด้านซ้ายมือเป็นทางเดินซุ้มน้ำตก ด้านหนึ่งปลูกต้นไม้เป็น Green Wall มีน้ำตกไหลลงมาเป็นเส้นสายให้ความรู้สึกร่มรื่น และได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา

ตรงนี้มีซุ้มทางเดินเข้าไปยังสวนสาธารณะภายในโครงการ โดยโครงการทำซุ้มทางเข้านี้ให้มุมมองเชื่อมต่อไปยังศาลานั่งพักที่อยู่ภายในสวนได้เลย  ซึ่งหากเลี้ยวขวาไปก็จะเป็นทางเดินเข้าไปยังโครงการแทนค่ะ ด้านนี้มีการปลูกต้นปาล์มเป็นทิวแถวสร้างความร่มรื่นภายในสวนด้วย

เราเดินตรงเข้ามาภายในสวน จะผ่านซุ้มที่เป็นหลังคาโปร่ง ดีไซน์ของหลังคาถูกออกแบบให้เงาที่ตกกระทบลงมามีลักษณะเหมือนกิ่งก้านใบของต้นปาล์มที่ใช้ปลูกตกแต่งภายในสวนแห่งนี้ เดินตรงไปจะเป็นทางทอดยาวไปสู่ศาลานั่งพักที่เป็นสีเหลือง หลังคา Shingles Roof ทรงโค้งสีน้ำตาล

ซุ้มทางเดินอีกทางจะสามารถเดินเข้ามาจากทางโครงการได้ ซึ่งหากเราเดินเข้าจากทางนี้ก็จะไปออกยังประตูที่เราพาไปดูตอนแรก เพื่อเดินออกไปนอกโครงการได้ค่ะ ดังนั้น Circulation การเดินเข้า-ออก ของคน กับรถ จึงไม่ปนเปกัน

เมื่อเดินเข้าไปในซุ้มทางเดินนี้ก็จะได้บรรยากาศทางเดินน้ำไหลแบบนี้ค่ะ

บรรยากาศโดยรวมของสวนสาธารณะภายในโครงการ จะเป็นสนามหญ้าโล่งๆ มีการปลูกต้นไม้อยู่เป็นจุดๆเพื่อให้ร่มเงา ตอนนี้ต้นไม้ยังไม่โตมากเท่าไหร่ อนาคตน่าจะแผ่กิ่งก้านสาขาได้อีกมากค่ะ

ฝั่งซ้ายมือเป็นซุ้มทางเดินเข้า-ออกโครงการ  ที่สามารถเดินเข้าสวนได้ทั้งจากหน้าโครงการ และภายในโครงการ

ส่วนด้านขวามือเป็นศาลานั่งเล่น อนาคตพื้นที่สวนนี้จะมีเพิ่มเติมไปอีกหน่อย เห็นได้จากศาลาที่อยู่ถัดออกไปที่ยังมีการก่อสร้างต่อเติมโดยรอบ และยังมีการสร้างบ้านเพิ่มเติมอีกหลายยูนิต

จากสวนสาธารณะมองไปจะเห็นตัวสำนักงานขายที่อยู่หลังแรกตรงทางเข้าโครงการเลยค่ะ มีป้าย “สำนักงานขาย” เขียนบอกชัดเจน ส่วนถัดไปก็จะเป็นบ้านตัวอย่างสำหรับผู้ที่สนใจมาดูโครงการ

ตัวบ้านของโครงการจะมีหลายสีอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า สามารถให้เลือกได้ 3 เฉดสี คือ สีเหลือง ครีม เหลืองอ่อน โดยบ้านที่สร้างเสร็จแล้วจะ Fix สีตามนี้ แต่หากเป็นบ้านที่กำลังสร้าง หรืออยู่ในระหว่างผ่อนดาวน์ ก็สามารถเลือกสีบ้านได้ค่ะ ทางซ้ายมือที่เห็นสีเหลืองสดใสนี้เป็นบ้านตัวอย่างของบ้านราชพฤกษ์ ส่วนทางขวามือเป็นบ้านตัวอย่างของบ้านชัยพฤกษ์ ส่วนบ้านจิราภานั้น ยังไม่เรียบร้อยดีค่ะ ซึ่งภายในหมู่บ้านก็จะมีรูปแบบที่คละแบบคละ Type กันไป

อย่างเช่นหลังนี้เป็นบ้านตัวอย่างของบ้านชัยพฤกษ์ ซึ่งบ้านหลังถัดไปก็เป็นบ้านแบบเดียวกัน แต่ทาสีต่างกันก็ให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันไปนะคะ ดังนั้นใครชอบสีอะไรก็สามารถคุยกับทางโครงการได้ จากตรงนี้เราจะพาไปเจาะดูบ้านแต่ละหลังกันดีกว่าค่ะ ไปกันเลยยย^^

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนสาธารณะ 2 จุด ขนาด 482 ตารางวา และขนาด 13 ตารางวา
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่มอีก 1 เมตร เป็น 4  เมตร
• Key Card Access ระยะใกล้
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร

 

Product Walkthrough

มาเริ่มที่แบบ บ้านราชพฤกษ์ ค่ะ

บ้านราชพฤกษ์เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.ที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป บ้านมีขนาด  18 x 20 เมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องคนรับใช้ 2-4 ที่จอดรถ มีทางเข้า 3 ทางคือทางห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และทางโรงจอดรถ แบบบ้านของที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบ้านหลังใหญ่ พื้นที่ดินเยอะๆ อยากได้พื้นที่ใช้งานในบ้านมากขึ้น

โดยผังบ้านชั้น 1 จะแบ่งส่วน Living ไว้ด้านซ้ายมือคือห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ซึ่งมีพื้นที่ต่อไปยังเฉลียงข้างบ้านสามารถออกไปนั่งรับลมข้างนอกได้  อีกด้านจะติดต่อกับส่วนรับประทานอาหารที่มีความพิเศษตรงที่มีบ้านหน้าต่าง Sky Light ทำให้ได้พื้นที่ที่โปร่ง โล่ง สบาย แสงเข้าได้ดี

ส่วนบ้านทางซีกขวาจะเป็นโซนของส่วน Service ทั้งหมด ประกอบด้วยส่วน Pantry สำหรับเตรียมอาหาร สามารถทำเป็นมุมวางกาต้มน้ำ สำหรับชงเครื่องดื่มร้อนๆตอนเช้าหรือจะเป็นส่วนเตรียมขนม อาหารว่างเล็กๆน้อยๆได้ ซึ่ง pantry นี้จะแยกกับส่วนครัวไทยที่เป็นครัวปิด สามารถทำอาหารหนักได้กลิ่นไม่รบกวนเข้ามาในส่วนอื่นของบ้าน  จากครัวจะมีประตูออกไปยังส่วนซักล้างหลังบ้านได้ ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวมีห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำให้ด้วยและมีความพิเศษตรงที่ห้องน้ำนี้ติดกระจกบานเลื่อนเต็มบานทำให้แสงธรรมชาติเข้า และเว้นพื้นที่ด้านข้างให้จัดสวนได้ นอกจากนี้ยังมีห้องคนรับใช้ให้ 1 ห้อง พร้อมห้องน้ำอีก 1 ห้อง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงที่เชื่อมต่อกับห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง มีห้องน้ำกลาง 1 ห้องไว้ให้ห้องนอนเล็ก 2 ห้องใช้ ส่วนห้องนอนใหญ่อีก 2 ห้องมีห้องน้ำในตัว

ตัวบ้านใช้โทนสีขาว-เหลือง-ครีม หลังคาซีแพคโมเนียสีออกส้ม ใช้เสากลมทาสีน้ำตาล,ค้ำยันที่หลังคา และราวระเบียงที่เป็นรูปแบบไทยๆ แต่ดีไซน์ตัวบ้านมีการใช้คิ้วบัวตกแต่งรวมทั้งรูปแบบหน้าบันที่เป็นแบบ Contemporary สถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย  แต่ก็ยังมีความ Modern เรียบๆของบานประตูหน้าต่างและพื้นผิวผนัง ทั้งหมดนี้จึงรวมออกมาเป็นสไตล์ของบ้านราชพฤกษ์ ที่เรียกว่า Modern Thai Contemporary โครงสร้างของบ้านเป็นโครงสร้างทั่วไป มี เสา คาน พื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นชั้นล่างและพื้นชั้นบนทั่วไปเป็นพื้นสำเร็จรูปวางบนคาน ค.ส.ล. ส่วนผนังทั่วไปก่ออิฐมวลเบา ค่ะ

เปรียบเทียบกับบ้านมาตรฐานจากทางโครงการ หลังนี้เป็นบ้านราชพฤกษ์เหมือนกัน แต่ชั้น 1 ของตัวบ้านเลือกทาสีเหลืองอ่อน ส่วนชั้น 2ใช้สีเทา หลังคาใช้สีน้ำตาลออกเลือดหมู จึงให้อารมณ์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านตัวอย่างค่ะ

หน้าบ้านจริงจะมีรั้วโปร่งให้ มีประตูเข้า-ออก 2 ทาง คือทางรถเข้าเป็นประตูเหล็กโปร่งบานเลื่อนและทางคนเดินเข้าเป็นประตูเหล็กโปร่งบานเปิดเดี่ยว มีโคมไฟหัวเสาทรงหลมให้ทั้งซ้าย-ขวาของประตู และกริ่งกดเรียกให้ จุด ส่วนรั้วที่ติดกันกับบ้านอื่นจะเป็นรั้วทึบสูงประมาณ 1.5 เมตร

ทางเข้าและลานจอดรถเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ON GROUND ผิวขัดหยาบ พื้นที่จอดรถในโรงรถ 2 คัน และจอดซ้อนภายนอกอาคารได้อีก 2 คัน

เราจะพาไปดูรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ โครงการจะปูสนามหญ้ารอบๆบ้านไว้ให้ในลักษณะนี้ค่ะ รั้วด้านข้างเป็นรั้วโปร่งจนถึงประมาณแนวเสาลานจอดรถ หลังจากนั้นจะเป็นรั้วปูนทึบทาสีขาวสูง 1.5 เมตรตลอดแนว

เราเดินเลาะมาข้างบ้าน ระหว่างตัวบ้านกับรั้วกำแพงมีระยะห่าง 2 เมตร สามารถปลูกต้นไม้หรือจัดสวนสวยๆริมทางเดินได้สบายค่ะ ห้องผนังทึบที่เราเห็นนี้เป็นผนังในส่วนห้องน้ำของบ้าน จะเห็นว่าหน้าตาค่อนข้างแปลก

โดยส่วนที่ถูกเจาะช่องเข้าไป ถูกทำเป็นหลังคาระแนงหน้าตาเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าภายในห้องน้ำได้นั่นเองค่ะ หน้าตาอาคารภายนอกจึงออกมาแบบนี้

ถัดจากส่วนของห้องน้ำจะเป็นห้องแม่บ้าน ซึ่งห้องที่มีประตูไม้สำเร็จรูปหน้าบานเรียบและมีหน้าต่างบานเกร็ดด้านบนนั้นคือห้องนอนแม่บ้าน ส่วนห้องที่มีประตูไม้สีขาวบานลูกฟักนั้นคือห้องน้ำแม่บ้านนั้นเองค่ะ ซึ่งห้องของแม่บ้านจะมีประตูเข้า-ออกทางนี้ทางเดียวเท่านั้น เวลาเข้า-ออกบ้านจึงต้องเข้าทางประตูครัว ไม่ก็หน้าบ้านค่ะ

ในส่วนของมุมบ้านมีลานปูนซีเมนต์สำหรับซักล้างและที่วางถังเก็บน้ำค่ะ

ส่วนของหลังบ้านจะมีประตูออกมาจากห้องครัว ด้านข้างเป็นประตูบานเกร็ด ที่พื้นมีลานซักล้างที่เทปูนไว้ให้แล้ว มีการเจาะช่องสี่เหลี่ยมแล้วลดระดับให้ รวมทั้งมีท่อระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลได้ตรงนี้ ตรงส่วนของผนังมีการติดตั้งก็อกน้ำและเต้ารับแบบกันน้ำได้ให้ด้วย

เต้ารับแบบกันน้ำได้ที่โครงการติดตั้งมาให้

ส่วนที่น่าสนใจคือหน้าต่างกระจกแบบ Sky Light ในส่วนของห้องรับประทานอาหาร ซึ่งพื้นที่ตรงนี้หากจัดสวนสวยๆ คงทำให้มุมมองจากภายในบ้านที่มองออกมา สบายตาไม่น้อยเลย

ถัดไปเป็นส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีเฉลียงออกมา โดยเฉลียงนี้มีพื้นที่ขนาด 3.2 x 3.9 เมตร สามารถวางม้านั่งหรือเปลในลักษณะนี้ ไว้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้สบายเลยค่ะ

ถัดไปเป็นส่วนของพื้นที่หน้าบ้าน โครงการปูสนามหญ้ามาให้โล่งๆ มีทางเดินไปสู่เฉลียงหน้าห้องรับแขก

ด้านหน้าตัวบ้านจะมีประตูใหญ่ของห้องรับแขก ที่เป็นทางเข้า-ออกหลัก ด้านบนชั้น 2 เป็นห้องนอนใหญ่ พื้นที่ด้านข้างเป็นทางเดินไปยังโรงรถซึ่งไม่มีหลังคาคลุม แน่นอนว่าถ้าฝนตกอาจจะเปียกได้ แต่ถ้ารีบวิ่งปรู๊ดดไวแบบความเร็วแสง ก็คงไม่ทำให้เปียกมาก เพราะระยะห่างกันแค่นิดเดียว  หน้าต่างบานใหญ่ที่เห็นนั้นเป็นหน้าต่างของส่วนโถงบันไดช่วยให้ทางเดินขึ้นลงบ้านดูโปร่งขึ้น ผนังใช้เป็นอิฐลายธรรมชาติ สร้าง Texture เล็กๆให้กับตัวบ้าน และกระจกบล็อกแก้วที่เห็นด้านล่างนั้นคือกระจกของห้องเก็บของ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าห้องในตอนกลางวันได้โดยไม่ต้องเปิดไฟค่ะ

ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของบ้านราชพฤกษ์นี้คือ ส่วนของหลังคาที่มีค้ำยัน เป็นการนำลักษณะของบ้านทรงไทยมาไว้ในบ้านหลังนี้

ต่อไปเป็นส่วนของโรงจอดรถ ฝ้าเพดานเป็นยิปซัมบอร์ดทาสีขาว ติดโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง  ส่วนของผนังด้านนี้จะมีหน้าต่างเล็กๆของห้องน้ำ และมีประตูทางเข้าบ้านให้อีก 1 ทาง

พื้นตรงทางเข้าบ้านมีการยกระดับประมาณ 10 ซม. เป็นพื้นทรายล้าง กระเบื้องด้านในใช้กระเบื้องดินเผาสีน้ำตาล ประตูเป็นประตูบานกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบบานเป็นอลูเมิเนียมอบขาว

มือจับเป็นแบบก้านโยก สแตนเลสลักษณะนี้ค่ะ

เมื่อเปิดประตูออกมา จากพื้นเฉลียงก็มีการยกระดับขึ้นอีกประมาณ 5 ซม.

ด้านข้างประตูทางเข้าบ้านมีประตูบานเปิดคู่ ลูกฟักเป็นบานเกร็ดให้ระบายอากาศได้ พอเปิดออกมาจะเห็นว่าเป็นห้องโล่งๆสำหรับเก็บของ สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ โดยที่ผนังโครงการได้ติดตั้งเต้ารับไว้ให้เผื่อใช้สำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นกรณีที่พ่อบ้านล้างรถแล้วต้องเสียบปลั๊กเครื่องดูดฝุ่นในรถ เป็นต้น

จากลานจอดโครงการได้วางอิฐเป็นทางเดินและโรยกรวดตกแต่งไว้ให้ด้วยเพื่อเชื่อมไปยังห้องรับแขก เดี๋ยวเราจะพาไปเข้าบ้านทางห้องรับแขกกันนะคะ

เฉลียงหน้าห้องรับแขก ขนาด 2 x 4 เมตร มีการยกระดับขึ้นมาจากพื้นประมาณ 10 ซม. ขอบของเฉลียงปูด้วยทรายล้าง ส่วนด้านในปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.

ประตูทางเข้าเป็นบานกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมอบขาว บานเลื่อนคู่

มือจับและตัวล็อกของประตู ทั้งด้านนอกและด้านในมีลักษณะแบบนี้ค่ะ

พื้นมีการยกระดับจากพื้นเฉลียงประมาณ 5 ซม.  ปูด้วยกระเบื้อง Porcelain สีครีม ขนาด 60 x 60 เมตร

เข้ามาปุ๊บก็จะเจอกับส่วนของห้องรับแขก ขนาด 3.6 x 4.2 เมตร มีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ผนังของบ้านทั้งหลังเป็นวอลเปเปอรซึ่งโครงการจะให้แบบนี้เลยนะคะ ความสูงจากฝ้าเพดาน 2.6 เมตร ซึ่งหากมองไปด้านบนเพดานมีการเจาะฝ้าหลุมให้ 2 ส่วน คือห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น โดยบ้านมาตรฐานของจริงโครงการก็จะเจาะฝ้าให้ด้วยลักษณะแบบนี้เลยเพียงแต่ฝ้าเพดานด้านในจะเป็นสีขาว

ผนังด้านนี้มีหน้าต่างให้ 1 บาน โครงการวางโซฟาขนาด 3  ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง ทั้งสองด้านของโซฟาสามารถวางโต๊ะตั้งโคมไฟได้ทั้งสองด้านค่ะ

จกโซฟาถึงผนังฝั่งตรงข้าม มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.7 เมตร ถือเป็นระยะที่กว้างสบายๆสามารถวางทีวีขนาด 52-55  นิ้วได้จะพอดีกับสายตาค่ะ หากนั่งอยู่ตรงนี้จะสามารถเห็นคนที่นั่งอยู่ในส่วนห้องรับประทานอาหารได้ด้วย

ถัดไปเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น โดยโครงการได้ทำฉากลายฉลุกั้นไว้ให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง  ซึ่งของจริงจะได้แค่เป็นบ้านโล่งๆนะคะ

ห้องนั่งเล่นขนาด 4.2 x4.2 เมตร โครงการวางโซฟาขนาด 3 คนนั่งมาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ระยะเดินสบายๆค่ะ ห้องนี้ค่อนข้างโปร่งเพราะมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถออกไปเดินรับลมเล่นที่เฉลียงด้านนอกได้ และด้านหลังโซฟาก็มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนให้สามารถเปิดรับแสงรับลมอีกด้วย

ซึ่งห้องนั่งเล่นนี้ หากจะทำกั้นห้องให้แยกเป็นสัดส่วนกับห้องรับแขกก็สามารถทำได้ ซึ่งฝั่งตรงข้ามโซฟานี้สามารถวางทีวีได้ โดยหากตั้งทีวีที่ชั้นวางนี้จะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.7 เมตรพอๆกับห้องรับแขก สามารถวางทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร และส่วน Service ของตัวบ้านทั้งหมด ตั้งแต่ห้องเก็บของ, Pantry, ห้องครัว และห้องน้ำ

ห้องรับประทานอาหารมีขนาด 3.8 x 4.6 เมตร โครงการวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 8 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง ซึ่งห้องนี้มีความพิเศษตรงที่มีผนังเป็นกระจก Sky Light

ลองเปิดผ้าม่านออกมาให้ดูกันแบบชัดๆ จะเห็นว่ากระจกด้านนี้เป็น Bay Window ที่ใช้หลังคา Sky Light ให้แสงเข้าและได้มุมองเปิดโล่งแบบเต็มๆ หากนอกบ้านมีการจัดสวนสวยๆคงเป็นมุมมองที่ดีมากเลย แต่ในช่วงบ่ายมุมนี้จะร้อนหน่อยนะคะ ดังนั้นแนะนำให้หาผ้าม่านมาติดเพื่อกรองแสงและความร้อน

เปรียบเทียบบ้านในมุมเดียวกับ ระหว่างเปิดผ้าม่านกับปิดผ้าม่าน ปริมาณแสงที่ได้ค่อนข้างแตกต่างกันนะคะ ด้านที่เปิดหน้าต่างนี่แสงเข้าดีมากทีเดียว

มุมมองจริง หากนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารแลัวมองออกไปยังสวนด้านนอก ก็ชิวดีนะ

ถัดไปจะเป็นส่วนของ Pantry  ขนาด 2 x 2.9 เมตร โครงการติดตั้งเคาท์เตอร์ Built-in มาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งของจริงไม่มีให้นะคะจะเป็นแค่โถงเปล่าๆเท่านั้น  

มองไปทางขวามือจะเป็นโถงประตูทางเข้ามาจากลานจอดรถ ซึ่งห้องที่อยู่ทางซ้ายมือของโถงนี้จะเป็นห้องน้ำค่ะ

ประตูห้องน้ำเป็นบาน HDF สีขาว

เปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องน้ำขนาด 2.45 x 2.8 เมตร  มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนประกอบด้วยเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ ส่วนชำระ และมองตรงไปเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่ด้านนอกมีพื้นที่จัดสวนได้ด้วย

พื้นมีการลดระดับ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีครีม

ส่วนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ ขนาดใหญ่สามารถวางของใช้ในห้องน้ำได้เยอะดี ตรงผนังหน้าเคาท์เตอร์ติดกระจกเงาให้

อ่างล้างหน้าของ COTTO ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ดี ก็อกน้ำมือจับแบบนี้ เวลาล้างหน้าและมือเราเปื้อนโฟมล้างหน้า อาจจะบิดเพื่อปิด-เปิด ไม่สะดวกเท่าไหร่นักนะคะ

ส่วนของโถสุขภัณฑ์ให้มา 2 ชิ้น คือ โถปัสสาวะผู้หญิงและของผู้ชาย ได้ของ COTTO อาจจะดีสำหรับบ้านที่มีคนเยอะๆ และต้องการโถสุขภัณฑ์แยกกันแบบนี้  แต่ผู้หญิงบางคนจะไม่ค่อยชอบการวางโถสุขภัณฑ์แบบนี้นะคะ เพราะระยะของการนั่งส้วม หน้าเราจะอยู่ในระนาบพอๆกับโถส้วมผู้ชายพอดี ดังนั้นกลิ่นจากโถปัสสาวะชายจะชัดเจนมาก ผู้หญิงบางคนเลยไม่ค่อยชอบเพราะรู้สึกไม่สะอาด

สายชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่ แบบสามารถวางของด้านบนได้ ของ COTTO

ส่วนอาบน้ำ ขนาด 0.95 x 1.1 เมตร โครงการไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แนะนำให้ติดหรือหาผ้าม่านอาบน้ำมากั้นนะคะ เวลาเราอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นมาเปียกยังส่วนอื่นๆ

พื้นมีการลดระดับประมาณ  5 ซม.ปูด้วยกระเบื้องเคลือบเช่นเดียวกับพื้นห้องน้ำส่วนอื่นๆ จะเห็นว่าที่พื้นส่วนอาบน้ำไม่มีท่อระบยน้ำให้เกะกะสายตา

เนื่องจากโครงการใช้รูระบายน้ำแบบกระเบื้องติดด้านบน ทำให้พื้นส่วนอาบน้ำดูเนียนดีค่ะ แต่สิ่งที่แลกมาคือการดูแลรักษาลำบากกว่าแบบปกติเล็กน้อย เพราะถ้าจะเอาเศษผมหรือเศษขยะออกมาก็ต้องเปิดฝากระเบื้องออกมาแบบนี้ก่อน

ผนังด้านข้างซ้ายมีการเจาะช่องเพื่อให้วางผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย มีการเล่นสีสดใสมาก ชุดฝักบัวอาบน้ำของ COTTO  พร้อมที่วางสบู่อีกจุด

ฝักบัวขนาดพอดีมือ แต่สำหรับเราว่ามันเล็กไปหน่อย ถ้าใหญ่กว่านี้คงอาบได้จุใจ

พื้นที่ด้านข้างส่วนอาบน้ำเป็กระจกบาน Fix และ Bay Window

ยาวไปถึงผนังด้านข้างโถสุขภัณฑ์ เป็นกระจกบานเลื่อน

พื้นเป็นพื้นปูนขัดมัน ค่อนข้างอเนกประสงค์ สามารถจัดสวนหรือจัดวางของเล็กๆน่ารัก เพื่อสร้างบรรยากาศให้ห้องน้ำได้เป็นอย่างดี

  

ด้านบนมีการติดระแนงให้เพื่อกันสายตา แต่มีช่องพอให้แสงเข้า สามารถปลูกไม้เลื้อยสร้างบรรยากาศสวยๆได้ แต่แสงที่ผ่านลงมาก็จะลดลงนิดนึง

ห้องนี้มีการติดไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวงค่ะ แสงสว่างพอดีๆ โดยเฉพาะตอนกลางวันห้องน้ำนี้จะค่อนข้างสว่างแทบไม่ต้องเปิดไฟ

ถัดไปเป็นส่วนของห้องครัว เป็นครัวปิดที่โครงการติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนมาให้

ตัวล็อกประตูเป็นลักษณะนี้ค่ะ

พื้นห้องครัวมีการลดระดับประมาณ 5 ซม.ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Porcelain

ห้องครัวมีขนาด 3 x 2.5 เมตร  โครงการติดตั้งเคาท์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งของจริงจะได้เป็นห้องเปล่า จากห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปยังส่วนของลานซักล้างด้านนอกได้ บานประตู HDF สีขาว ด้านข้างเป็นหน้าต่างบานเกร็ด

โดยห้องนี้โครงการจะติดโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง

ถัดไปเป็นส่วนของโถงบันไดมีพื้นที่ประมาณ 3.2 x 2.7 เมตร พื้นที่ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ

ประตูห้องเก็บของจะเป็นประตูเล็กลักษณะนี้ค่ะ เวลาจะเอาของเข้า-ออก อาจจะต้องมุดเอานิดนึง

เข้ามาปุ๊บจะเห็นว่าห้องค่อนข้างสว่าง เนื่องจากมีการติดบล็อกแก้วแสงจึงผ่านได้ดี แต่อาจจะไม่ได้มีการระบายอากาศ พื้นที่โดยรวมค่อนข้างกว้าง ฝ้าเพดานลาดเอียงตามแนวบันได

บันไดมีความกว้าง 1.1 เมตร ลูกนอนปูแผ่นไม้ยาง ราวบันไดเป็นไม้สำเร็จรูปสีเดียวกัน

มองลงมาจะเห็นว่าชานพักเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า แสงเข้าค่อนข้างดีค่ะ

พื้นลูกนอนบันไดและพื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตเหมือนกันค่ะ 

ตรงโถงบันไดมีบานหน้าต่างค่อนข้างใหญ่ แสงจึงเข้าได้ดีทีเดียว โครงการติดโคมไฟให้มาให้ 2 ดวง และไฟดาววน์ไลท์ให้อีก 1 ดวง ซึ่งสามารถหาแชนเดอเลียเก๋ๆมาห้อยตรงนี้ได้ค่ะ

ขึ้นมาบนชั้น 2 มองไปทางด้านซ้ายมือจะเจอห้อง Master Bedroom, ห้องนอน 4 ซึ่งเป็นห้องนอนเล็ก ที่ติดกันเป็นห้องน้ำ ประตูเป็นบานไม้ HDF ทั้งหมด

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอน 2 และห้องนอน 3 เราจะพาไปดูที่ห้องนอน 2 กันก่อนค่ะ

ห้องนอน 2 มีขนาด 3.4 x 4.4 เมตร โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะพอดีๆกับห้องนี้ค่ะ ห้องค่อนข้างสว่างเพราะมีแสงเข้าทั้งสองด้าน ผนังติดวอลเปเปอร์รอบห้อง และพื้นผูด้วยลามิเนตลายไม้สีเดียวกับห้องโถง

ผนังด้านนี้มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 1 บาน

ตัวล็อกเป็นลักษณะแบบนี้ค่ะ หากหมุนลงตัวหน้าต่างจะถูกล็อก แต่หากหมุนขึ้นจะเป็นการปลดล็อกหน้าต่าง โดยหน้าต่างบานเลื่อนชั้น 2  ทั้งหมดจะใช้ตัวล็อกลักษณะนี้ทุกห้องเลย

ปลายเตียงมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนคู่ให้อีก 1 บาน โครงการ Built-in โต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นไอเดีย สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบ้านเราได้ค่ะ

พื้นที่หัวเตียงติดกับผนังด้านที่มีประตู จะเห็นว่าหากวางเตียงขนาด 5 ฟุตจะพอดีๆค่ะ ตรงหัวเตียงด้านซ้ายมือมีเต้ารับไว้ให้ 1 จุดสามารถเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าได้

ถัดไปเป็นห้องนอน 3 ขนาด 4 x 4.2 เมตร เข้ามาในห้องนี้แล้วรู้สึกกว้างดีค่ะ โครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็ยังเหลือพื้นที่เดินรอบเตียงสบายๆ ห้องนี้มีหน้าต่างให้ 2 ด้าน คือผนังข้างเตียงเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ส่วนตรงหัวเตียงเป็นหน้าต่างบานเปิดเดี่ยวค่ะ

พื้นที่หัวเตียงมีหน้าต่างให้ 2 บาน รวมทั้งมีเต้ารับเพื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ทั้งซ้าย-ขวาค่ะ

พอเปิดหน้าต่างมาจะเห็นที่ดินของโครงการที่กำลังจะทำการก่อสร้างค่ะ ซึ่งพอเลยรั้วโครงการไปเราจะเห็นว่าโดยรอบส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

มองไปทางขวามือจะเป็นที่ดินที่ถูกปรับพื้นที่เพื่อเตรียมการก่อสร้างโครงการแล้ว ด้านนี้เราจะเห็นโกดังเก็บของใหญ่ๆ และทิวต้นไม้เขียวๆซึ่งเป็นสวนมะม่วงนั่นเองค่ะ

ส่วนมองไปทางซ้ายมือจะเห็นสวนสาธารณะหน้าโครงการ และพื้นที่ที่ปรับแล้ว เตรียมการก่อสร้าง นอกรั้วโครงการก็จะเห็นเป็นบ้านพักอาศัยซะส่วนใหญ่

เรามาดูมุมมองจากหน้าต่างบานด้านนี้กันบ้าง

หากมองออกไปนอกหน้าต่าง จะเป็นบ้านข้างๆ ซึ่งระยะความห่างที่มองเห็นจะอยุ่ประมาณนี้ เปิดหน้าต่างออกมาจ้องตากันปริ๊บๆทีเดียว

มองไปทางขวามือ จะเห็นบ้านที่เยื้องๆกัน ช่องห่างระหว่างบ้านนี้จะมีระยะประมาณ 4 เมตร

พื้นที่ปลายเตียง โครงการ Built-in โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง จะเห็นว่าแม้จะ Built-in เต็มทั้งผนัง ก็ยังมีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงเหลือสบายๆ

ส่วนผนังข้างเตียงอีกด้านจะเป็นประตูทางออก และประตูห้องน้ำ โดยบานประตูทั้งสองบานเป็นประตู HDF เหมือนกันค่ะ

เปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำขนาด 1.8 x 2 เมตร จะมีอ่างล้างหน้า ส่วนโถสุขภัณฑ์ และที่อาบน้ำ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน

ส่วนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ มีพื้นที่ด้านข้างพอให้วางของใช้ในห้องน้ำได้สบายๆ ที่ผนังติดกระจกเงาให้ ส่วนอ่างล้างมือให้ของ COTTO

อ่างล้างมือของห้องนี้จะเป็นอ่างทรงรี ขนาดกลางๆค่ะ

ก๊อกน้ำของ COTTO เป็นก้านหมุนแบบนี้ใช้ง่ายดี

โถสุขภัณฑ์ให้ของ COTTO มีสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ติดตั้งให้แบบนี้เลย

ส่วนอาบน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลมาเปียกส่วนแห้ง แต่ถึงน้ำไม่ไหลออกมาแต่เวลาเราอาบน้ำอาจมีการกระเด็นออกมาได้ จึงแนะนำให้ติดผ้าม่านหรือฉากกั้นอาบน้ำจะดีกว่าค่ะ ผนังด้านนี้มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งให้ 1  บานเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้า ชุดฝักบัวให้ของ COTTO และมีที่วางสบู่มาให้ด้วย

ออกมาจากห้องนอนที่ 3  เราจะพาไปดูห้องน้ำส่วนกลาง, ห้องนอน 4 และปิดท้ายที่ Master Bedroom นะคะ

ห้องน้ำส่วนกลางโถง จะมีขนาด 1.8 x 2 เมตร ฟังก์ชั่นและสเปคของสุขภัณฑ์ในห้องนี้จะเป็นเหมือนห้องน้ำในห้องนอนที่ 2 ทั้งหมดค่ะ แตกต่างกันเพียงแค่ตำแหน่งหน้าต่างกับฝักบัวที่สลับตำแหน่งกันเท่านั้น

ถัดมาเป็นห้องนอน 4 หรือห้องนอนเล็กที่สุดของบ้านขนาด 2.8 x 4 เมตร โครงการวางเตียง 1 ฟุตครึ่งชิดผนังมาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง เพราะขนาดของห้องที่เป็นแนวยาวและไม่กว้างมาก ห้องนี้มีหน้าต่างรอบจึงทำให้แสงธรรมชาติเข้าค่อนข้างดีมาก

ระยะระหว่างประตูห้องไปจนถึงเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะดีค่ะ

พื้นที่ปลายเตียงเป็นหน้าต่างบานเลื่อน โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง

วิวจากหน้าต่างปลายเตียงมองออกไปจะเป็นสวนสาธารณะด้านหน้าโครงการ ซึ่งติดกับถนนบางบอน 4 ค่ะ

มองกลับไปภายในห้อง หากสังเกตที่ฝ้าเพดานจะมีการ Slope ตรงมุมห้องลงมาเล็กน้อย ตรงหัวเตียงและผนังโดยรอบ ตัวบ้านของจริงจะติดวอลเปเปอร์ ส่วนตรงผนังด้านข้างประตูห้องจะมีการติดตั้งสวิตซ์ไฟให้

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน ห้องนี้จะติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหมด  4 ดวง

มาถึงห้อง Master Bedroom กันแล้ว ห้องนี้มีขนาด 4.2 x 3.2 เมตร โครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่างค่ะ

ระยะจากประตู ถึงเตียงค่อนข้างเหลือเยอะทีเดียว

พื้นที่ปลายเตียงสามารถ Built-in ชั้นวางของและวางทีวีแบบนี้ได้สบายๆค่ะ ซึ่งของจริงไม่มีให้นะคะโครงการติดตั้งมาให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น

ห้องนี้มีประตูกระจกบานเลื่อนเต็มฝ้าเพดาน สามารถเดินออกไปสู่ระเบียงได้ หากติดม่านโปร่งจะได้แสงสว่างประมาณนี้

ซึ่งถ้าเปิดผ้าม่าน จะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมาก กลางวันนี่แทบไม่ต้องเปิดไฟเลย

พื้นที่ข้างเตียงเหลือเดินสบายๆ สามารถเดินออกไปที่ระเบียงขนาด 1.1 x 3.2 เมตรได้ พื้นระเบียงมีการลดระดับประมาณ 5 ซม. พื้นโดยรอบปูด้วยทรายล้าง ส่วนด้านในเป็นกระเบื้องเคลือบสีครีม

ออกมาที่ระเบียงจะเห็นว่า ไม่ได้มีการเตรียมที่สำหรับวาง Compressor แอร์เผื่อไว้ ดังนั้นหากเราติดตั้งแอร์ในห้องนี้ก็จะต้องวาง Compressor แอร์ไว้ที่ระเบียงแบบนี้ค่ะ

มองไปอีกด้านของระเบียง จะเห็นราวระเบียงเป็นเหล็กทาสีน้ำตาลเล่นลวดลายเหมือนบ้านไทยสมัยก่อน ความสูงประมาณ 0.9 เมตร เลยไปเป็นหน้าหน้าต่างของห้องนอนที่ 2 ที่นอกห้องมีการใช้ค้ำยันของบ้านไทยมาใส่ไว่ในดีไซน์ของบ้าน

ซูมค้ำยันให้เห็นกันชัดๆ Detail ของตัวเหล็กค้ำยัน จะเชื่อมต่อกับปูนแบบนี้ค่ะ

มองกลับไปในห้อง จะเห็นประตูห้องนอนและประตูห้องน้ำ เป็นบาน HDF ทั้งคู่ค่ะ ตรงฉากหัวเตียงจะมีช่องให้สามารถเดินไปด้านหลังได้ เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะว่าเป็นอะไร

พอเดินเข้ามาปุ๊บ เราจะเห็นว่าด้านหลังฉากกั้นนี้ถูก Built-in ให้เป็น Walk-in-closed มีทั้งตู้ Built-in และโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งห้องของจริงตรงนี้จะไม่มีเลย แต่จะเป็นห้องกว้างๆโล่งๆนะคะ

ผนังด้านข้างจะเป็นเหลี่ยมมุมแบบนี้ หน้าต่างที่ติดกับโต๊ะเครื่องแป้งเป็นหน้าต่างบานเปิด มือจับแบบก้านโยก ส่วนถัดเข้ามาเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว ตัวล็อกตามภาพค่ะ แสงเข้าดีมากๆเลย

มองกลับไป ก็มีหน้าต่างบานเปิดเดี่ยวในลักษณะเดียวกัน เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องน้ำในตัวของห้องนี้กัน

ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom  มีขนาด 1.8 x 3.9 เมตร เปิดเข้ามาจะเจอส่วนห้องอาบน้ำที่มีฉากกั้น และมีอ่างอาบน้ำให้

มองไปทางขวามือ จะเจออ่างล้างหน้า ท็อกเคาท์เตอร์เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ที่ผนังติดกระจกเงาไว้ให้ อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมของ COTTO ก็อกน้ำเป็นแบบก้านหมุนซ้ายขวา

ส่วนอาบน้ำมีการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้ เป็นแบบปิด-เปิด พื้นมีการลดระดับลงเล็กน้อยและปิดด้วยคิ้วสแตนเลสเพื่อป้องกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง ชุดฝักบัวและที่วางสบู่ของ COTTO ที่น่าสนใจคือส่วนอาบน้ำของห้องนี้ทำที่นั่งอาบให้ด้วยค่ะ แปลกตาดี

ผนังอีกด้านหนึ่งมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งให้ 2  บาน จะเป็นพื้นที่ของส่วนนั่งชำระ กับอ่างอาบน้ำค่ะ

พื้นที่นั่งชำระ ใช้โถสุขภัณฑ์ สายชำระ และที่วางกระดาษทิชชู่ของ COTTO ผนังด้านข้างมีการก่อ Low wall เพื่อวางของให้ด้วย

ส่วนอีกด้านเป็นอ่างอาบน้ำ มีชุดฝักบัวและที่วางสบู่ให้ รวมทั้งก่อ Low wall สามารถวางของได้อเนกประสงค์

 บ้านชัยพฤกษ์

 

บ้านชัยพฤกษ์เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. ที่ดิน 100 ตร.วาขึ้นไป ขนาด 17.85 x 20.00 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องคนรับใช้ 2-4 ที่จอดรถ มีทางเข้า 3 ทางคือทางห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และทางโรงจอดรถ ข้อดีของโครงการนี้คือแบบบ้านหลังเล็กก็ยังได้ที่ดิน 100 ตร.วาขึ้นไปค่ะ

บ้านแบบชัยพฤกษ์จะมีขนาดเล็กกว่าบ้านราชพฤกษ์ค่ะ โดยฟังก์ชั่นของห้องจะลดลงไปในบางส่วน แต่ยังคงคอนเซปต์มีความพิเศษที่หน้าต่าง ตรงที่บ้าน Type นี้จะมีหน้าต่างแบบ Bay window ในส่วนของห้องรับแขก โดยการจัดวางฟังก์ชั่นในชั้น 1 จะแบ่งส่วน Living ไว้ทางด้านขวามือ ซึ่งประกอบด้วย ห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารที่มีประตูเปิดออกไปสู่เฉลียง สามารถออกไปนั่งเล่นได้ ส่วน Service จะอยู่ทางซ้ายมือทั้งหมด ประกอบด้วย ห้องเก็บของ ห้องน้ำ ห้องครัว ลานซักล้าง และห้องคนรับใช้ 1 ห้อง พร้อมห้องน้ำอีก 1  ห้อง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงที่เชื่อมต่อกับห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยจะมี Master Bedroom เพียงห้องเดียวที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงกลาง ซึ่งโถงกลางนี้จะมีบันไดขี้นไปบนชั้นลอยเล็กๆที่เป็นห้องพระอีกด้วย

มาชมบ้านตัวอย่างกันค่ะ บ้านชัยพฤกษ์เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มาในสไตล์ Modern Thai Comtemporary โครงสร้างทั่วไปแบบเสา-คาน หลังคาซีแพคโมเนียสีน้ำตาลออกแดง ตัวบ้านจะมีขนาดเล็กลงกว่าแบบบ้านราชพฤกษ์เล็กน้อย และมีความร่วมสมัยมากขึ้น

เราจะพาไปเดินดูรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ  ตรงเสาบ้านมีการก่อปูนเพิ่มแล้วทำเป็นห้องเก็บของเล็กๆ ประตูเป็นบานเปิดคู่สีขาวด้านในห้องมีเต้ารับสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เหมือนกับบ้านราชพฤกษ์

ทางเดินข้างบ้านมีความกว้าง 2 เมตร กำแพงระหว่างบ้านสูง 1.5 เมตร ส่วนกำแพงด้านหลังบ้านนี้เป็นส่วนที่ติดกับโรงงานปั๊มเชิงเทียน จีงมีการต่อรั้วระแนงเพิ่ม ความสูงรวม 4 เมตร

ในส่วนของมุมบ้านมีลานปูนซีเมนต์สำหรับซักล้างและที่วางถังเก็บน้ำค่ะ

เราเดินมาดูที่หลังบ้าน ตรงทางออกมาจากห้องครัวมีการเทพื้นปูนขัดมันเพื่อทำลานซักล้าง สูงประมาณ 10  ซม. ข้างๆประตูทางเข้า-ออกห้องครัวมีหน้าต่างบานเกร็ดสองบาน ที่เป็นหน้าต่างของห้องครัว

ข้างๆห้องครัวจะติดกับห้องของแม่บ้าน ที่ทางเข้าจะ Set เข้าไปในอาคารเล็กน้อย

ถัดไปเป็นส่วนของเฉลียงที่ยื่นออกมาจากห้องรับประทานอาหาร โดยเฉลียงนี้มีพื้นที่ขนาด 2.5 x 3.7 เมตร สามารถวางม้านั่ง ,เปล หรือโต๊ะรับประทานอาหารนอกบ้านได้

ที่ติดกันเป็นห้องรับแขก ที่ผนังเป็นหน้าต่างแบบ Bay window  นอกจากนี้ยังมีการใช้ค้ำยันตกแต่งอาคารด้วย

ด้านหน้าของตัวบ้าน จะเจอซุ้มประตูใหญ่ของห้องรับแขกที่เป็นทางออกหลักของบ้าน พื้นที่ด้านข้างเป็นทางเดินไปยังโรงรถซึ่งไม่มีหลังคาคลุม ผนังตรงทางเชื่อมเป็นผนังปูกระเบื้อง มีการก่อบล็อกแก้วเป็นช่องสี่เหลี่ยมเพื่อให้แสงสว่างแก่ห้องเก็บของใต้บันได ส่วนหลังคาใหญ่ๆด้านบนเป็นหลังคาที่ให้แสงสว่างแก่โถงบันไดในชั้น 2 เหตุที่หน้าต่างโถงบันไดของบ้านหลังนี้อยู่ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีห้องพระที่อยู่ในชั้นบนนั้นเอง ทำให้แสงธรรมชาติเข้าลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในตอนกลางวันได้

ถัดมาเป็นส่วนของลานจอดรถ ที่ผนังด้านนี้มีหน้าต่างให้ 2 บาน คือหน้าต่างของห้องครัวและหน้าต่างห้องแม่บ้าน ที่เป็นหน้าต่างบานเลื่อนทั้งคู่ค่ะ ส่วนประตูทางเข้า-ออก เป็นประตูบานเปิด ที่พื้นเป็นทรายล้างมีการยกระดับประมาณ 10 ซม.จากตรงนี้เดี๋ยวเราจะพาไปดูในบ้านโดยเริ่มจากห้องรับแขกกันนะคะ

เฉลียงของห้องรับแขก ขนาด 1.9 x 3.2 เมตร มีการยกระดับประมาณ 10 ซม. รอบเฉลียงปูด้วยทรายล้าง ส่วนตรงกลางเป็นกระเบื้องเคลือบ

ประตูทางเข้าเป็นบานกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมอบขาว บานเลื่อนคู่

เข้ามาจะเจอห้องรับแขก ขนาด 3.0 x 4.5 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Porcelain สีครีม ขนาด 60 x 60 เมตร ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารโดยโครงการกั้นพื้นที่ด้วยฉากลายฉลุจึงดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยบ้านจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีฉากกั้นให้ และติดวอลเปเปอร์ที่ผนังให้ทั้งหลังนะคะ

ผนังด้านนี้มีหน้าต่างกระจกแบบ Bay window ให้เต็มบาน โครงการวางโซฟาขนาด 2  ที่นั่งไว้ให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง

พอเปิดม่านออกมา จะเห็นว่าห้องค่อนข้างสว่าง แสงธรรมชาติเข้าดีมากเลย แต่ในตอนบ่ายจะค่อนข้างร้อน เห็นได้จากแดดที่พาดลงมาบนโซฟา ดังนั้นการติดผ้าม่านอย่างภาพด้านบน จะช่วยได้เยอะเลยย

มุมของหน้าต่างแบบ Bay window ทำให้ได้มุมมองที่ค่อนข้างโปร่งตาดี

ระยะดูทีวีประมาณ  3 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 60 นิ้ว จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตา ซึ่งหากเรานั่งอยู่ที่โซฟานี้ จะเห็นว่าทีวีวางอยู่ที่กึ่งกลางผนัง แล้วเป็น Center ที่พอดีเมื่อเราอยู่ที่โซฟาใช่ไหมคะ

แต่ความจริงแล้ว เราแอบมาดูด้านหลังจะเห็นว่าผนังของส่วนนี้จะยื่นออกมาแค่ถึงผนังปูนเท่านั้นเอง ส่วนผนังที่เป็นลามิเนตลายไม้ได้ถูกต่อเติมออกมาเป็นตู้ Built-in ซึ่งบ้านของจริงไม่มีให้นะคะ ดังนั้นไอเดียนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

ถัดจากส่วนรับแขกไปจะเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหาร ขนาด  3.4 x 3.9 เมตร โครงการวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง จะพอดีกับ Size ของห้อง ซึ่งจากห้องรับประทานอาหารจะสามารถเดินออกไปยังเฉลียงด้านนอกได้

  

มุมมองเมื่อนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร จะเป็นประมาณนี้ค่ะ

ถัดจากส่วนรับประทานไปจะเป็นส่วน Service ของบ้าน

เข้ามาที่โถงจะเจอส่วนของห้องน้ำ ห้องครัว และทางออกไปสู่ลานจอดรถ

ห้องน้ำชั้น 1 มี ขนาด 2.2 x 2.5 เมตร มีส่วนของอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำ โดยห้องน้ำห้องนี้มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนรับแสงธรรมชาติได้เหมือนกับบ้านแบบราชพฤกษ์

พื้นมีการลดระดับ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ผนังหน้าเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ามีการติดกระจกเงาเต็มบาน  ส่วนเคาท์เตอร์เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม มีการก่อ Low wall  ยาวไปถึงหลังโถสุขภัณฑ์ สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ โถสุขภัณฑ์ของ COTTO มีสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้

แต่มีจุดติดขัดอยู่นิดหน่อยตรงที่แขวนทิชชู่ โครงการติดไว้ด้านเดียวกับสายชำระ ที่อยู่ใต้เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า เวลาหยิบใช้ดูไม่ค่อยจะสะดวกนัก

   

อ่างล่างมือทรงรี ของ COTTO ขนาดกลางๆไม่ใหญ่มาก

ก๊อกน้ำของ COTTO เป็นก้านหมุนแบบนี้ใช้ง่ายดี

ส่วนอาบน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลมาเปียกส่วนแห้ง ผนังด้านนี้มีการเจาะช่องเพื่อให้สามารถวางผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับอาบน้ำได้ ข้างๆกันเป็นราวแขวนผ้าแสตนเลส ชุดฝักบัวให้ของ COTTO และมีที่วางสบู่มาให้ด้วย

มองกลับไปที่ประตู ผนังด้านนี้มีการเจาะช่องสำหรับวางของ และติดตั้งโถสุขภัณฑ์สำหรับผู้ชายมาให้ด้วย

ฝ้าเพดานติดโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง

ถัดไปเป็นห้องครัว ขนาด 3 x 3.6 เมตร โครงการติดตั้งชุดครัว Built-in มาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง ซึ่งบ้านของจริงจะเป็นห้องเปล่าๆที่ต่อท่องานระบบรองรับไว้ให้เท่านั้นนะคะ

โดยห้องครัวนี้จะมีประตู HDF สีขาว สามารถเปิดออกไปยังส่วนซักล้างที่หลังบ้านได้ ข้างๆกันเป็นหน้าต่างบานเกร็ด 2 บาน แสงเข้าดีทีเดียว

ซึ่งผนังด้านประตูทางเข้า ก็มีหน้าต่างบานเลื่อนให้อีก 1 บาน ซึ่ง ผนังนี้จะเชื่อมต่อกับส่วนลานจอดรถ ดังนั้น หากต้องการเปิดหน้าต่างรับลม หรือรับส่งของให้กันระหว่างคนที่อยู่นอกบ้านกับในครัว เช่น พ่อล้างรถอยู่ แล้วให้แม่ที่อยู่ในครัวส่งของให้ ก็สามารถทำได้สะดวก

ถัดมาเป็นส่วนของโถงทางขึ้นบันได ทางขวามือข้างๆบันไดเป็นประตูทางเข้าห้องเก็บของซึ่งประตูทางเข้าแบบนี้ จะค่อนข้างสะดวกกว่าบ้านแบบแรก เพราะไม่ต้องก้มหรือคุกเข่าเพื่อเข้าไปเก็บของ

เปิดประตูออกมาก็จะเห็นว่า โครงการได้ติดตั้งโคมไฟไว้ในห้องเก็บของ 1 ดวง แต่แม้ไม่เปิด แสงธรรมชาติที่ผ่านมาทางบล็อกแก้วก็เพียงพอสำหรับตอนกลางวัน

เราจะพาขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กันค่ะ บันไดมีความกว้าง 1.1 เมตร ลูกนอนปูแผ่นไม้ยาง ราวบันไดเป็นไม้สำเร็จรูปสีเดียวกัน

มองขึ้นไปด้านบนจะเห็นแสงสว่างที่ผ่านมาจากช่องหน้าต่างในชั้น 2 และเราจะเห็นว่าบนชั้น 2 มีบันไดทางขึ้นไปยังชั้นบนด้วย

ลักษณะของชานพักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปูด้วยลามิเนตลายไม้สีเดียวกับลูกนอน

พอขึ้นมาที่ชั้น 2 มองกลับไปจะเห็นว่า มีบันไดทางขึ้นไปสู่ชั้นลอยที่เป็นหิ้งพระ ด้วยความที่หิ้งพระอยู่ตรงกับหน้าต่างพอดี ทำให้แสงธรรมชาติที่ได้ค่อนข้างจะน้อย จึงทำให้โถงชั้น 2 ของบ้านหลังนี้มีแสงธรรมชาติเข้าได้ไม่เต็มที่ แต่ก็แลกกับการที่มีฟังก์ชั่นเพิ่ม ดังนั้นต้องลองชั่งน้ำหนักดูนะคะว่าชอบหรือไม่

หันมาอีกด้านจะเห็นว่าโถงชั้น 2 นี้ เชื่อมต่อกับห้อง 4 ห้องค่ะ คือ ห้องนอน 1, ห้องนอน 2, ห้องน้ำ และ Master Bedroom โดยห้องนอน 1 และห้องนอน 2 ใช้ห้องน้ำกลางร่วมกัน และห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว เราจะพาไปดูโดยไล่จากขวาไปซ้ายนะคะ โดยเริ่มจากห้องนอน 1,  ห้องนอน 2, ห้องน้ำ และ Master Bedroom

ห้องนอนที่ 1 มีขนาดพื้นที่ 4 x 5.2 เมตร โครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าพื้นที่ทางเดินรอบเตียงค่อนข้างเหลือที่ให้เดินสบายๆค่ะ

พอเปิดผ้าม่านออกมาจะเห็นว่าแสงเข้าค่อนข้างดี เพราะห้องนี้มีหน้าต่างค่อนข้างเยอะค่ะ ทั้งหน้าต่างบานเลื่อน และหน้าต่างบานเปิด

ผนังหัวเตียงบานจริงจะเป็นผนังปูนทาสีขาว มีหน้าต่างกระจกบานเปิดให้ 2 บาน

หน้าต่างเป็นกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีขาว มือจับก้านโยก

พื้นที่ข้างเตียงโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง สามารถนำไปประยุกต์ในการตกแต่งได้

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะมาก  สามารถติดตั้งโต๊ะวางทีวี Built-in ตู้วางหนังสือ หรือจัดฟังก์ชั่นได้ตามไลฟ์สไตล์ค่ะ

ถัดไปเป็นห้องนอนที่ 2 ขนาด 3.4 x 5 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ลักษณะนี้ได้สบายๆค่ะ เพราะพื้นที่รอบข้างเหลือค่อนข้างมาก ตรงผนังสามารถ Built-in โต๊ะเขียนหนังสือและตู้เก็บของยาวเต็มผนังได้ ห้องนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 2 ด้าน แสงธรรมชาติจึงเข้าดี

ผนังด้านหัวเตียงมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 บาน แนะนำให้หาผ้าม่านมาติดกรองแสงนะคะ เพราะถ้าไม่ติดผ้าม่าน ตอนเช้าแสงคงจะแยงตามากเลย

อีกด้านของห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งในลักษณะนี้ได้ ถือว่าโดยรวมแล้วถือว่าเป็นห้องที่สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์หรือ Built-in ฟังก์ชั่นต่างๆได้ครบเลยนะ จากตรงนี้เดี๋ยวเราจะออกไปดูห้องน้ำตรงโถงกลางกันนะคะ

ห้องน้ำชั้น 2 นี้มีขนาด 1.6 x 3.1 เมตร มีฟังก์ชั่นครบทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำ

ผนังหน้าเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ามีการติดกระจกเงาเต็มบาน  ส่วนเคาท์เตอร์เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ มีการก่อ Low wall  ยาวไปถึงหลังโถสุขภัณฑ์ สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้  

โถสุขภัณฑ์ของ COTTO มีสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้ ผนังด้านข้างมีการเจาะช่องเพื่อให้วางของได้ ส่วนบนของผนังเป็นบล็อกแก้วจึงทำให้ผนังกั้นนี้ดูไม่ทึบ

 

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.9 เมตร

ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำของ COTTO พร้อมที่วางสบู่ให้

ด้านขวามือมีการก่อที่นั่งขึ้นมาเพื่อให้สามารถนั่งอาบน้ำได้  เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ ด้านหลังที่นั่งเป็น Low wall สำหรับวางของ

ผนังอีกด้านมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง 1 บาน ช่วยให้แสงเข้าและช่วยในเรื่องระบายอากาศ มีการก่อ Low wall เล็กๆให้วางของได้

มีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง คือตรงส่วนเปียก 1 ดวง และตรงส่วนแห้ง 1 ดวง

ห้อง Master Bedroom ขนาด 4 x 5.2 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตขนาดนี้ได้สบายๆค่ะ

พื้นที่ทางเดินข้างเตียงค่อนข้างเหลือเยอะมาก

พื้นที่หัวเตียงและผนังรอบห้องของจริงจะติดวอลเปเปอร์ให้ ทั้งสองด้านของหัวเตียงมีหน้าต่างกระจกบานเปิด 2 บาน

ผนังปลายเตียงสามารถวางโต๊ะวางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือได้สบายๆ

เพราะจะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างมากเลยค่ะ ห้องนอนนี้มีประตูกระจกบานเลื่อน สามารถเดินออกไปสู่ระเบียงได้

พื้นระเบียงมีการลดระดับลงเล็กน้อย พื้นที่ระเบียงมีขนาด 4 x 5.2 เมตร ปูพื้นรอบๆด้วยทรายล้างและปูด้านในด้วยกระเบื้องเคลือบสีครีม

ราวระเบียงเป็นเหล็กทาสีน้ำตาล สูง 0.9 เมตร  มีการติดโคมไฟให้ที่มุมเสาและตกแต่ง Facade ด้วยค้ำยัน

จากระเบียงมองกลับเข้าไปในห้อง จะเห็นว่าห้องค่อนข้างกว้าง สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันและวางเฟอร์นิเจอร์ได้อีกตามใจชอบค่ะ มองตรงไปเราจะเห็นห้องน้ำและส่วนของ Walk-in closed

ในส่วนของ Walk-in closed ของจริงจะเป็นเพียงแค่พื้นที่ว่างๆนะคะ แต่โครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูเป็นไอเดีย ผนังด้านนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บาน ทำให้โถงนี้มีแสงธรรมชาติเข้าค่อนข้างดี

  

ลองชะโงกหน้าออกมาดู ทางขวามือจะเป็นอาคารของโรงงาน และบ้านพักอาศัย 1 ชั้น

ทางด้านซ้ายมือเป็นโรงงานปั๊มเชิงเทียนและโกดังร้าง ด้วยความที่รั้วด้านนี้ติดกับโรงงานโครงการจึงล้อมรั้วให้สูงกว่าปกติ โดยจากรั้ว 3 เมตร โครงการต่อระแนงเพิ่มเติมไปอีก 1 เมตร เป็น 4 เมตร เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้าน

ในส่วนของ Walk-in closed จะมีทางเข้าห้องน้ำ บานประตู HDF สีขาว

ห้องน้ำมีขนาด 2.4 x 2.9 เมตร ประกอบด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำ และส่วนอาบน้ำ

ผนังหน้าเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ามีการติดกระจกเงาเต็มบาน  ส่วนเคาท์เตอร์เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว มีการก่อ Low wall  ยาวไปถึงหลังโถสุขภัณฑ์ สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ COTTO

โถสุขภัณฑ์ของ COTTO มีสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้

พื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.9 x 1.4 เมตร ติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำของ COTTO และที่วางสบู่ให้

ด้านขวามือมีการก่อปูนทำที่นั่งอาบน้ำไว้ให้ รวมทั้ง Low wall สำหรับวางของ

ส่วนผนังอีกด้านมีการเจาะช่องสำหรับวางผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำให้

ส่วนของอ่างอาบน้ำได้ของ COTTO  ด้านซ้ายมือติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำให้อีกชุด ส่วนขวามือเจาะช่องไว้ให้สำหรับวางของหรือรูปปั้นตกแต่ง มีการติดตั้งหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง 2 บานช่วยให้แสงเข้าและระบายอากาศ

ขนาดของฝักบัวไม่ใหญ่มากและก็อกน้ำของอ่างอาบน้ำได้แบบหมุนซ้าย-ขวา ปรับความร้อน-เย็นได้

บ้านจิราภา บ้านหลังนี้ไม่มีบ้านตัวอย่างให้ดูเราจึงนำผังและภาพจำลองโครงการมาให้ดูอย่างเดียวพอเป็นน้ำจิ้มค่ะ บ้านหลังนี้เป็นสไตล์ Contemporaty มีที่จอดรถแยกออกมาจากตัวบ้าน

 

มาดูผังของบ้านกันบ้าง บ้านจิราภา เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ขนาด 12.00 x 18.95 เมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ  2-4 ที่จอดรถ  บ้าน Type นี้ไม่มีห้องคนรับใข้แต่จะมีห้องนอนสำหรับสมาชิกในบ้านหรือผู้สูงอายุที่ชั้น 1 ค่ะ มีทางเข้าหลักคือทางหน้าบ้านที่มี 2 ประตู คือประตูทางห้องรับแขก-พักผ่อน และห้องรับประทานอาหาร

บ้านแบบจิราภา เป็นบ้านที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาแบบบ้านทั้งหมดค่ะ บ้านหลังนี้จะมีที่จอดรถแยกออกมาจากตัวบ้าน การจัดวางฟังก์ชั่นในชั้น 1 จะแบ่งส่วน Living ไว้ทางด้านหน้าของอาคาร โดยเดินเข้ามาจะเจอห้องรับแขก- พักผ่อน ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหาร ด้านหลังตัวบ้านเป็นห้องนอน และส่วน Service ซึ่งประกอบด้วย ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ห้องครัว และส่วนซักล้าง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงที่เชื่อมต่อกับห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยจะมี Master Bedroom เพียงห้องเดียวที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงกลาง

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 June 2015

• แปลง A3 แบบบ้านชัยพฤกษ์(BB4)  พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. ที่ดิน 100.60 ตร.วา ราคา 8,272,600 บาทหรือ 82,232 บาท/ตร.วา (ราคาพิเศษ 7,772,600 บาท หรือ 77,262 บาท/ตร.วา) 
• แปลง A8 แบบบ้านจิราภา+  พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดิน 100.60 ตร.วา ราคา 7,489,600 บาทหรือ 74,449 บาท/ตร.วา (ราคาพิเศษ 6,989,600 บาท หรือ 69,479 บาท/ตร.วา)
• แปลง A41 แบบบ้านจิราภา+  พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดิน 102.90 ตร.วา ราคา 7,698,300 บาทหรือ 74,813 บาท/ตร.วา (ราคาพิเศษ 7,198,300 บาท หรือ 69,954 บาท/ตร.วา)
• แปลง A40 แบบบ้านราชพฤกษ์+  พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ที่ดิน 100.60 ตร.วา ราคา 8,925,200 บาทหรือ 88,719 บาท/ตร.วา (ราคาพิเศษ 8,514,200 บาท หรือ 84,634 บาท/ตร.วา)
• แปลง A44 แบบบ้านราชพฤกษ์ (BB4) พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ที่ดิน 102.60 ตร.วา ราคา 9,014,200 บาทหรือ 88,719 บาท/ตร.วา (ราคาพิเศษ 8,509,500 บาท หรือ 82,938 บาท/ตร.วา)

 

โปรโมชั่น พิเศษ! ภายในเดือนมิถุนายน 2558 รับส่วนลด 500,000 บาท

รับฟรี : ระบบ Home Security 1 ชุด, Wallpaper ทั้งหลัง, ถังเก็บน้ำบนดิน 1,000 ลิตร และปั๊มน้ำ และเครื่องปรับอากาศทุกห้องนอน (ตามขนาดที่โครงการกำหนด)

• จอง 50,000 บาท
• ค่าส่วนกลางแปลงละ 2,000 บาท/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี (ถ้าคิดเป็นต่อตร.วาจะได้ประมาณ 20 บาท/ตร.วาค่ะ)
• เงินดาวน์ 10 %
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 อยู่ในถนนบางบอน 4 ห่างจากถนนเอกชัย 280 เมตร ทำเลในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ โรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก สาธารณูปโภคต่างๆส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนเอกชัยจะมีทั้งปั๊มน้ำมัน, ปั๊มแก๊ส มี Mini BigC, Mini Lotus ขึ้นมาอำนวยความสะดวกคน ธนาคารกรุงไทยก็มาธนาคารไทยพาณิชย์ก็มี ไกลออกมาหน่อยก็มีเซ็นทรัล พระราม 2, Big C, Lotus, Homepro หากไปทางเส้นกาญจนาภิเษกก็มี Makro, สำเพ็ง 2 ไปทางเพชรเกษม ก็มี The Mall บางแค มีครบทั้งห้างสรรพสินค้าแบบธรรมดา และแบบมินิ

การเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเชื่อมออกถนนบางบอน 3 (ซอยเพขรเกษม 69) และถนนบางบอน 5 (เพชรเกษม 81) เพื่อออกถนนเพชรเกษมได้ ซึ่งตัวถนนบางบอน 4 นี้จะมีความแตกต่างกับถนนบางบอน 3  และ 5 ตรงที่ ถนนทั้งสองเส้นนี้จะเชื่อมระหว่างเพชรเกษมและถนนเอกชัยได้โดยตรง แต่ถนนบางบอน 4 จะไม่สามารถทะลุได้เลยต้องอาศัยถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้เแล้วเลี้ยวเข้าถนนบางบอน 3 หรือบางบอน 5 เพื่อทะลุถนนใหญ่แทน ดังนั้นจึงมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ตรงที่ข้อดีคือ บนถนนบางบอน 4  จะมีความสงบ ไม่พลุกพล่าน มลพิษทางเสียและกลิ่นจากรถยนต์ก็น้อยลง แต่การเดินทางจะไม่สะดวกเท่าซอยใหญ่และความเจริญแหล่งอาหารการกินจะด้อยกว่าพอสมควร

โดยจากโครงการ สามารถไปทางถนนเอกชัย ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานกับถนนพระรามที่ 2 และถนนเพชรเกษมเพื่อไปทะลุออกถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวน) และถนนกัลปพฤกษ์ เชื่อมต่อไปยังถนนสาทร, สีลม หรือเพื่อไปใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ ที่ถนนสาทรตัดใหม่เพื่อจะได้เข้าเมืองได้สะดวก นอกจากนี้ยังสามารถไปขึ้นทางด่วนที่ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถไปขึ้นได้ที่ถนนพระราม 2  และ ทางด่วนพิเศษหมายเลข 9 ที่สามารถไปขึ้นได้ที่วงแหวนรอบนอก(ถนนกาญจนาภิเษก)

การออกแบบเริ่มตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการ รูปแบบค่อนข้างเก่าไม่หวือหวา มีการใช้สีทอง เหลือง แดง ค่อนไปทางไทยร่วมสมัยผสมจีน อาจจะด้วยป้ายโครงการที่เลือกใช้สีแดง-ทอง จึงมีกลิ่นอายของจีนปนอยู่ ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Thai Contemporary ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่มีความเรียบง่ายแบบไทย จึงมีเอกลักษณ์ของหลายอย่างผสมอยุ่ ทั้งการใช้เสากลมทาสีน้ำตาล,ค้ำยันที่หลังคา และราวระเบียงที่เป็นรูปแบบไทยๆ แต่ดีไซน์ตัวบ้านมีการใช้คิ้วบัวตกแต่งรวมทั้งรูปแบบหน้าบันที่เป็นแบบ Contemporary สถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย  แต่ก็ยังมีความ Modern เรียบๆของบานประตูหน้าต่างและพื้นผิวผนัง จนรวมออกมาเป็นรูปแบบของ Modern Thai Contemporary โดยรวม Not too bad นะ โดยโครงการให้สามารถเลือกได้ 3 เฉดสี คือ เหลือง เหลืองอ่อน ครีม ซึ่งอันนี้ก็ต้องแล้วแต่การ mix and Match  ตามความชอบของแต่ละคนแล้วค่ะ

ส่วนการวางฟังก์ชั่นภายในบ้านค่อนข้างทำได้ดี มีการแบ่งโซนนิ่งของบ้านชัดเจนทั้งในส่วน Living และ Service ทำให้บ้านเป็นสัดเป็นส่วน เนื้อที่บ้านโดยรวมที่ค่อนข้างกว้าง และโครงการก็ออกแบบมาให้แต่ละพื้นที่มีการใช้งานที่สมดุล และเหมาะสม ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ค่อนข้างเปิด สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์และการใช้งาน จะติดตรงห้องน้ำชั้นสอง ที่ให้ห้องน้ำมาน้อย ส่วนใหญ่จะเป็น Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว แต่ห้องนอนอื่นจะใช้ห้องน้ำกลางร่วมกัน ซึ่งถ้าในเวลาเร่งรีบนี่การต้องรอแย่งห้องน้ำกันใช้คงไม่ดีแน่

บ้านแต่ละแบบมีจุดเด่นในตัวตั้งแต่บ้านขนาดใหญ่ที่สุดอย่าง บ้านราชพฤกษ์ มีการใช้หน้าต่างแบบ Sky Light ที่ห้องอาหาร สร้างพื้นที่กลางบ้านที่พิเศษ บ้านชัยพฤกษ์ มีหน้าต่างแบบ Bay window ที่ห้องรับแขก จึงได้ Feel ของห้องรับแขกที่ค่อนข้างโปร่ง โล่ง รับแสงธรรมชาติได้ดีและการต่อห้องพระจากชั้น 2 ขึ้นไปที่ชั้นลอย ค่อนข้างแปลกตาเพราะไม่ค่อยมีโครงการไหนทำ ซึ่งมีข้อดีตรงที่เรามีพื้นที่ไหว้พระ ได้ฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้น แต่ด้วยชั้นลอยนี้อยู่ตรงหน้าต่างเต็มๆ ทำให้แสงธรรมชาติทส่องผ่านเข้ามาในบ้านไม่มากเท่าที่ควร โถงชั้น 2 ของบ้าน Type นี้จึงมืดกว่าบ้านแบบอื่นๆ ส่วนบ้านจิราภา+ เป็นบ้านขนาดเล็กที่สุด แต่เป็นบ้าน type เดียวที่ไม่มีห้องแม่บ้าน แต่มีห้องนอนที่ชั้น 1 เพื่อรองรับเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุแทน ข้อดีอีกข้อของการได้พื้นที่เยอะคือห้องนอนเล็กจะมีพื้นที่ใหญ่มาก เรียกว่าให้ลูกอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโตเลยค่ะ

ส่วนการออกแบบที่แต่ละหลังคล้ายๆกัน แต่ค่อนข้างเป็น Gimmick ที่เด่นๆคือ การออกแบบห้องน้ำให้มีการก่อปูนเป็นที่นั่ง เหมือนบ้านสมัยเก่า สามารถรองรับผู้สูงอายุหรือคนที่ชอบนั่งอาบน้ำได้ แต่ก็มีข้อเสียตรงทำให้พื้นที่อาบน้ำแคบลง ก็แล้วแต่ความชอบ และการออกแบบให้ห้องน้ำมีแสงธรรมชาติเข้าโดยการใช้ประตูกระจกบานเลื่อน และเว้นพื้นที่ด้านข้างให้สามารถจัดสวนได้ โดยให้หลังคาด้านบนของพื้นที่ข้างห้องน้ำเป็นระแนงไม้ เผื่อปลูกไม้เลื้อย และให้อำพลางสายตาหากมองลงมาจากข้างบนได้บ้างในขณะที่แสงยังคงผ่านอยู่

วัสดุของโครงการให้มากลางๆโครงสร้างของบ้านเป็นโครงสร้างของบ้านเป็นโครงสร้างทั่วไป มี เสา คาน พื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นชั้นล่างและพื้นชั้นบนทั่วไปเป็นพื้นสำเร็จรูปวางบนคาน ค.ส.ล. ส่วนผนังทั่วไปก่ออิฐมวลเบา พื้นชั้น 1 ใช้กระเบื้อง Porcelain ส่วนพื้นชั้น 2 ใช้พื้นปูลามิเนตลายไม้ หน้าต่างกระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อน ใช้กรอบอลูมิเนียมสีขาวค่อนข้างบาง ไปหน่อย สุขภัณฑ์ต่างๆใช้ของ COTTO โคมไฟใช้แบบดาวน์ไลท์และไฟซาลาเปา รวมถึงมีการเดินท่อสำหรับฉีดน้ำยากำจัดปลวกไว้ใต้อาคาร เพื่อความสะดวกในการอัดน้ำยากำจัดปลวกในอนาคต

สาธารณูปโภคของที่นี่มีมาให้แค่สวนสาธารณะที่เป็นสวนสีเขียวและมีศาลานั่งพักให้ โดยมี 2 จุดคือ ขนาด 482.60 ตารางวา และขนาด 12.80 ตารางวา ซึ่งพื้นที่ไม่ได้เยอะมาก ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่มอีก 1 เมตร เป็น 4 เมตร ในส่วนรั้วที่ติดกับโรงงาน เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านในระดับหนึ่ง, Key Card Access ระยะใกล้, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร โดยรวมแล้วอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการส่วนกลางแบบมีสระว่ายน้ำและ Fitness หรือ Club House แต่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการส่วนกลาง ก็ถือว่าแลกกับค่าส่วนกลางที่จ่ายน้อยลงนะคะ

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7-9 ล้านบาท, 11 June 2015

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 –โครงการห่างจากถนนใหญ่อย่างถนนเอกชัย 280 เมตร หากต้องการเดินทางด้วยรถประจำทางต้องเดินออกมาจากซอย ไม่ก็เพิ่งพาพี่วิน การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวก เป็นบ้านชานเมืองที่สามารถไปขึ้นทางด่วน เข้าออกเมืองได้ง่าย แต่การจราจรค่อนข้างติดขัดเช้า-เย็น
• ความปลอดภัย 7.0/10 – รั้วกั้นไม้กระดกและรปภ.หน้าหมู่บ้าน น้อยไปหน่อยกับบ้านราคานี้
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 –ภาพลักษณ์ภายนอกไม่หวือหวา แต่ออกแบบฟังก์ชั่นได้โอเค มีความสมดุลไม่มากไม่น้อย บ้านแต่ละแบบมีจุดเด่นของตนเอง เสียตรงที่ให้ห้องน้ำมาน้อยไปหน่อย
• วัสดุ 7.0/10 – มาตรฐานของระดับนี้ให้ของมากลางๆ
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.00/10 – พื้นที่สีเขียวให้มาไม่เยอะแค่จุดเดียวหน้าโครงการ นอกนั้นเป็นการปลูกต้นไม้ทั่วไป
• สาธารณูปโภค 7.0/10 – มีแค่สวนสาธารณะที่มีศาลานั่งเล่น และทางเดินเข้าออก จุดเดียวในโครงการถือว่าให้มาน้อย
• 7.31 / 10.00

BOTTOM LINE

ชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2  ชั้นในย่านชานเมือง เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุ เน้นอาศัยอยู่ได้จริงไม่ยึดติดแบรนด์ และไม่ได้เน้นส่วนกลาง แต่ชอบบ้านที่มีพื้นที่เยอะๆ ห้องกว้างๆในราคาที่จับต้องได้ ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก อาศัยรถประจำทางบ้าง มองหาบ้านแถวบางบอนใกล้ทางด่วนและวงแหวน มีงบประมาณ 7-9 ล้านบาท หรือหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 49,000 – 63,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )