รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.469 – รีวิวบ้านเดี่ยว Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท
3 พฤศจิกายน 2019
รีวิวฉบับที่ 1968 … หลังจากที่เราเคยเข้าไปรีวิวโครงการ Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท กันมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คราวนี้ทางโครงการได้เปิดแบบบ้านซีรีย์ใหม่ที่มีหน้ากว้างถึง 31 เมตร และมีพื้นที่ใช้สอย 848 ตร.ม. ถือเป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดเท่าที่ SC Asset เค้าเคยทำกันเลยทีเดียว โดยดีไซน์ของบ้านจะถูกออกแบบให้โมเดิร์นขึ้น แต่ยังคงความเป็น English Craftsman นอกจากนั้นเรายังจะพาไป Update พื้นที่ส่วนกลางด้วยค่ะ ว่าสร้างมาสักระยะแล้วบรรยากาศจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาชมกันเลย
Fact @ 22 October 2019
- Grand Bangkok Boulevard Sukhumvit (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท)
- บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนน แบริ่ง – ลาซาล อำเภอเมือง สมุทรปราการ
- เนื้อที่โครงการ 47-3-56.1 ไร่ จำนวน 66 ยูนิต (บ้านซีรีย์ใหม่ 20 ยูนิต)
- แบบบ้านซีรีย์ใหม่
- แบบบ้าน Camden 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ + 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 531 ตร.ม. ที่ดิน 125 ตร.วา
- แบบบ้าน Westminster 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ + 2ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 664 ตร.ม. ที่ดิน 143 ตร.วา
- แบบบ้าน Kensington 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ + 2ห้องแม่บ้าน + สระว่ายน้ำ พื้นที่ใช้สอย 848 ตร.ม. ที่ดิน 180 ตร.วา
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.652770, 100.621620
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท ตั้งอยู่บนถนนแบริ่ง – ลาซาล ในซอยสุขุมวิท 107 (ซอยหมู่บ้านเทพนฤมิตร) หรือ ระหว่างซอยแบริ่ง 15 กับ 19 ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเมืองจังหวัดสมุทรปราการ แต่ก็เป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกทั้งจากรถไฟฟ้าและถนนหนทางต่างๆ ถนนหลักคือถนนสุขุมวิท สามารถใช้วิ่งเข้าเมืองไปยังถนนสุขุมวิท หรือ ออกนอกเมืองไปยังจังหวัดสมุทรปราการได้ นอกจากนั้นก็จะมี ถนน ศรีนครินทร์ ถนนบางนา-ตราด และทางด่วนต่างๆที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางด้วยค่ะ
จากความสะดวกดังกล่าวทำให้ทำเลนี้เป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยมของผู้พัฒนาอสังหาฯ โดยส่วนใหญ่จะขึ้นเป็นคอนโดมิเนียม ในอนาคตคาดว่าน่าจะมีโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก เพราะยังมีแปลงที่ดินว่างเปล่าแปลงใหญ่ๆอีกเยอะค่ะ สำหรับโครงการ Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท ถือว่าทำเลคือจุดเด่นที่สำคัญเพราะเป็นโครงการแนวราบที่สามารถเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งได้สะดวก ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้ใช้บริการอีกด้วย และรอบๆโครงการยังมีความอุดมสมบูรณ์ที่สูงพอสมควรเลย
ทำเลที่ตั้งของโครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากพอสมควรเลย ด้วยความที่เป็นชุมชนเก่าจึงทำให้ภายในซอยนั้นเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารที่อยู่ด้านล่างตึกแถวและอาคารพาณิชย์ มีตลาดอยู่ภายในซอย บรรยากาศช่วงเย็นจะค่อนข้างคึกคัก โดยของกินส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งเดียวกับโครงการแค่เดินย้อนไปทางต้นซอยแบริ่ง ส่วนร้านสะดวกซื้อมี 7-11 ก็จะอยู่บนซอยหลักแบริ่งเรื่อยๆ ถ้ามองภาพกว้างจะเห็นว่าทำเลนี้เต็มไปด้วยโรงเรียนนานาชาติเช่น รร.นานาชาติ บางกอกพัฒนา , St.Andrews , โรงเรียนนานาชาติ Berkeley และสำหรับใครที่อยากจะไปเดินเล่น Shopping ก็จะมีเซ็นทรัลบางนา บนถนนบางนา-ตราด และ Paradise Park ซีคอนสแควร์ บนถนนศรีนครินทร์ จุดที่น่าสนใจคือในช่วงไม่กี่ปีมานี้มี ศูนย์การค้า Community Mall และ Lifestyle Mall เกิดขึ้นในทำเลนี้รวมถึงทำเลใกล้เคียงค่อนข้างเยอะเช่น
- Mega Bangna ที่ในอนาคตมีแผนพัฒนาโครงการต่อขยายเป็น Mega City Bangna โครงการ Mixed-use ที่นอกจากจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่แล้ว ยังมี โรงแรม ออฟฟิศ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ คาดว่าน่าจะเสร็จในปี 2565
- 101 The Third Place คือ ส่วนที่เป็น Community Mall ในโครงการ Whizdom 101 ที่ด้านในประกอบกด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส (Virgin Active 101 สาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) Co-Working Space (Digital Park ของ True) พื้นที่สีเขียว โปรเจคนี้จะมีทั้งพื้นที่ indoor และ outdoor ส่วนที่เป็น outdoor จะมีโซนที่เปิด 24 ชั่วโมงมีร้านให้นั่งชิลโซนนี้ด้วยค่ะ
- Central Village อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 20 กม.เป็น Luxury Outlet ที่มีร้านค้าหลายแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ากว่า 65 แบรนด์ ที่เลือกเปิด Exclusive Outlet Store เฉพาะที่เซ็นทรัล วิลเลจแห่งเดียวเท่านั้น
- Century The Movie Plaza ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ สาขาสุขุมวิทตั้งอยู่ติด BTS อ่อนนุช ข้างในมีร้านค้า ร้านอาหาร Starbucks Bar B Q Plaza ก็ตามมาเปิดที่นี่ด้วย อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9 กม.
- The Phyll สุขุมวิท 54 Community Mall ใกล้ๆ BTS อ่อนนุช มีร้านค้า ร้านอาหารที่หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าหรือขับรถไปได้
- ลาซาล อเวนิว Community Mall กลางซอยลาซาล แบริ่ง จุดเด่นคือ คอร์ทสวนและสนามเด็กเล่นที่อยู่ตรงกลางโครงการ โดยโอบล้อมไว้ด้วยร้านค้าและร้านอาหารต่างๆรอบๆ เช่น ร้านสลัดดังอย่างโอ้กระจู๋ , VILLA MARKET ,SUBWAY Stand Alone เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนในย่านนี้
- DADFA ลาซาล ที่เปลี่ยนพื้นที่ตลาดให้กลายเป็น Market Park ที่มีการออกแบบอาคารให้ดูทัยสมัย โปร่ง โล่ง ชั้นดาดฟ้าเชื่อมต่อถึงกัน รอบๆเป็นพื้นที่สีเขียว มาพร้อมกับ Concept รัก (ษ์) โลก โดยร้านที่นี่จะต้องดีต่อสุขภาพ เช่น ร้านโอ้กะจู๋และร้านฟาร์ม-มุ ร้านสมูธตี้ โยคะคาเฟ่ เป็นต้น
- Siam Premium Outlet เกิดจากร่วมทุนระหว่าง Simon Property Group และกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ โครงการประกอบด้วยร้านค้าประมาณ 200 ร้าน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ลาซาล อเวนิว ∼ 500 เมตร
- ตลาดสดเอี่ยมเจริญ ∼ 1 กิโลเมตร
- Bangkok Pattana International school ∼ 1.1 กิโลเมตร
- เซนต์โยเซฟบางนา ∼ 1.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนลาซาล ∼ 1.6 กิโลเมตร
- สถานี BTS แบริ่ง ∼ 2 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ St.Andrew ∼ 2.2 กิโลเมตร
- Makro ∼ 2.5 กิโลเมตร
- สนามกีฬาและสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา ∼ 2.5 กิโลเมตร
- Central บางนา ∼ 2.6 กิโลเมตร
- ตลาดดวงพลอย ∼ 2.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลศิครินทร์ ∼ 2.8 กิโลเมตร
- ตลาดลาซาล ∼ 2.9 กิโลเมตร
- DADFA ลาซาล ∼ 3.1 กิโลเมตร
- อิมพิเรียลเวิลด์สำโรง ∼ 3.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ∼ 3.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ∼ 3.3 กิโลเมตร
- BITEC บางนา ∼ 3.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ Berkeley ∼ 5.1 กิโลเมตร
- 101 The Third Place ∼ 6 กิโลเมตร
- Paradise Park ∼ 7.7 กิโลเมตร
- The Phyll สุขุมวิท 54 ∼ 8.6 กิโลเมตร
- อัสสัมชัญสมุทรปราการ ∼ 9.7 กิโลเมตร
- ซีคอนสแควร์ ∼ 11 กิโลเมตร
- Mega Bangna ∼ 11.4 กิโลเมตร
โครงการ Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท ได้รับแรงบันดาลใจ ออกแบบและพัฒนาโครงการมาจาก Cotswolds ซึ่งเป็นดินแดนๆหนึ่งในประเทศอังกฤษ บรรยากาศแต่ละหมู่บ้านจะประกอบไปด้วยสวนเขียว และมีลําธารไหลผ่าน ซึ่งได้นำมาใช้ในการออกแบบสวนส่วนกลาง โครงการนี้จํานวนยูนิตไม่เยอะจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว สำหรับโครงการนี้เราได้เคยเข้าไปรีวิวกันมาแล้ว ครั้งนี้จึงจะเป็นการพาไปชมบ้านซีรีย์ใหม่ และUpdate สภาพของโครงการว่าเมื่อสร้างมาสักระยะแล้ว จะมีบรรยากาศเป็นเช่นไรบ้าง เราไปชมกันค่ะ
เรามาเริ่มกันที่ซุ้มประตูด้านหน้าโครงการที่มีการตกแต่งตาม concept ของโครงการ รูปแบบ English craftsman style โดยจะมีการแบ่งช่องการใช้งานเป็นช่องทางซ้ายมือเป็นทางเข้าสู่โครงการ ส่วนทางช่องทางขวาจะเป็นทางออกโครงการ
ด้านหน้าทางเข้าโครงการตกแต่งเป็นสวน และโคมไฟ ซึ่งจุดที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากของเดิมคือความร่มรื่น เนื่องจากโครงการสร้างเสร็จมาสักระยะ ต้นไม้ก็มีการเติบโตขึ้น ไม่เพียงแต่บริเวณหน้าโครงการเท่านั้นแต่พื้นที่ส่วนกลางด้านในก็มีความร่มรื่นมากขึ้นเช่นกันค่ะ
เข้ามาด้านในจะเจอกับถนนหลักที่กว้าง 16 เมตร ซึ่งระหว่างทางจะขนาบไปด้วยสวนหย่อมและต้นไม้ขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นค่ะ
ถนนภายในโครงการจะมีการปลูกต้นไม้หลากหลายสายชนิดและตกแต่งสวนเอาไว้ค่ะ
เมื่อเข้ามาจะมาเจอกับส่วนของ Clubhouse ของโครงการ และ ประตูอีกจุดหนึ่ง (Double Gate) ซึ่งกั้นระหว่าง Clubhouse กับบ้านพักอาศัยไว้ ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ด้านในมีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
บริเวณด้านหน้า Club house ของโครงการ มีพื้นที่สำหรับให้จอดรถผู้มาติดต่อ ต้องนี้ใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการค่ะ
ข้ามาด้านใน Club house จะเป็นอาคารด้านในออกแบบให้สูงโปร่ง มีช่องแสงและสามารถแขวนโคมไฟ Chandelier ตกแต่ง English craftsman style บรรยากาศเหมือนกับที่เรามารีวิวเมื่อครั้งแรก การดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลางถือว่าดีเลยค่ะ
มุมนั่งพักคอยสำหรับผู้มาเยี่ยมชมโครงการ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เหมาะกับ Concept ของโครงการดีค่ะ
ด้านในพื้นที่ห้องรับแขกที่จัดแยกไว้ สำหรับลูกบ้านมานั่งพักผ่อนได้ ซึ่งวิวตรงห้องนี้จะมองเห็นสระว่ายน้ำของโครงการพอดีค่ะ
เราเดินออกมาดูสระว่ายน้ำซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Club house บรรยากาศมุมนี้ค่อนข้างดีเลย ด้วยการตกแต่งและดีเทลเล็กๆน้อยๆ รวมถึงสวนหย่อมที่โตเต็มที่
ด้านข้างสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งมีตำแหน่งเดียวค่ะ
มุมนี้จะเป็นสระเด็กที่มีความลึก 45 เซนติเมตร อยู่ต่อเนื่องกับสระผู้ใหญ่เลยค่ะ
สำหรับสระผู้ใหญ่จะเป็นระบบเกลือ ขนาด 5 x 16 เมตร ลึก 1.2 เมตร พื้นที่โดยรอบจะโอบล้อมด้วย Clubhouse และสวนทำให้ลูกบ้านมาใช้งานพื้นที่ได้อย่างเป็นส่วนตัว
ส่วนมุมนี้เป็น Jacuzzi ให้นั่งแช่ตัวกัน มีอยู่ 2 จุดซึ่งมีการทำซุ้มด้านบนใหม่ให้ดูดีมากขึ้น
ด้านหลังสระว่ายน้ำก็จะเป็นสวนหย่อมค่ะ มองจากมุมนี้จะเห็นว่าต้นไม้โตเต็มที่ดูเขียวและร่มรื่นมากเลย
ไปดูสวนกันต่อค่ะ สวนของที่นี้จะแตกต่างจากส่วนทั่วไปเพราะมีแนวคิดการออกแบบ English Craftsman Style ก็จะให้บรรยากาศสไตล์อังกฤษ สวยดีเหมือนกันค่ะ
ด้านในสวนจะเป็นสวนโปร่งๆเปิดโล่ง มีทางเดินขนาบสองฝั่ง ตรงปลายสุดทำเป็นที่นั่งพักผ่อนไว้ให้ค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยัง Clubhouse และสระว่ายน้ำของโครงการ
เราย้อนกลับมาดูห้องน้ำใน Clubhouse กันสักนิด ซึ่งทางโครงการแยกชายหญิงเอาไว้ให้ ด้านในมีครบทั้งอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
มุมนี้เป็นอ่างล้างหน้าและตู้ล็อกเกอร์ ที่มีการออกแบบให้เข้ากับ Concept ของโครงการ
มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้ให้ใช้งานค่ะ เผื่อว่าพอออกกำลังกายเสร็จเราอยากจะอาบน้ำ เข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้าน
เดี๋ยวเราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนกลางคือฟิตเนสอยู่อีก 1 จุด
ห้อง Fitness ขนาดประมาณ 3.7 x 13.4 เมตร ใส่เครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 10 เครื่อง เราสามารถขึ้นมาออกกำลังกายได้อย่างเป็นส่วนตัว ไม่มีใครเดินผ่านไปมาให้รำคาญ เพราะตำแหน่งของห้องอยู่ชั้นบนค่ะ
มองจากมุมมองนี้สามารถเห็นวิวของสระว่ายน้ำและสวนด้านล่างได้ค่ะ
ถัดจากส่วน Club house เข้ามาจะเป็นส่วนของบ้านพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีประตูกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง สำหรับลูกบ้านจะต้องมี Key Card Access แตะที่เครื่องควบคุมเพื่อเปิดประตูรั้ว ส่วนผู้มาติดต่อจะมี รปภ. รับแลกบัตรก่อนถึงจะผ่านเข้าไปได้ค่ะ
เมื่อผ่านเข้ามาจะเป็นโซนบ้านพักอาศัยค่ะ พื้นที่โครงการด้านในจะมีวงเวียนสำหรับให้วนรถมีต้นไม้ใหญ่ตรงกลาง ส่วนถนนในโครงการ ถนนหลักในโครงการจะกว้าง 16 ม. ถนนซอยกว้าง 10 ม. บรรยากาศบริเวณนี้ค่อนข้างร่มรื่นเลยทีเดียว
บรรยากาศบ้านในโครงการของบ้านในซีรีย์เดิมที่ตัวบ้านเป็นสีขาวค่ะ
ถัดเข้าไปจะเป็นถนนตรงเข้าที่สวนด้านในโครงการ ตรงนี้เราค่อนข้างชอบเพราะต้นไม้โตขึ้นมาชนกันเป็นอุโมงค์ ซึ่งมุมนี้ได้แรงบรรดาลใจมาจากซุ้มต้นไม้ของหมู่บ้าน Cotswolds ค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นสวนหย่อมอีกจุดหนึ่ง ที่จัดออกมาให้เหมือนมีหมูบ้าน Cotswolds ที่มีแม่น้ำ Windrush ไหลผ่านใจกลางเมืองโดยมี สะพานโค้งข้ามแม่น้ำ เป็นระยะและมีจุดเด่นคืออาคารที่สร้างจากหินเรียงรายเลียบไปกับแม่น้ำ (บ้านเฟสแรกและคลับเฮ้าส์ จะสร้างด้วยหินสีขาว)
มุมนั่งพักผ่อนที่อยู่ริมน้ำ ล้อมรอบด้วยสวนหย่อม บรรยากาศค่อนข้างดี
อีกมุมหนึ่งเราจะเห็นน้ำพุกับสะพานด้วยค่ะ
ตรงนี้เป็นมุมนั่งพักผ่อนริมน้ำ ไม่มีหลังคากันแดด ดังนั้นมานั่งเล่นตอนเช้าและเย็นจะดีที่สุดค่ะ
ด้านหลังจะเป็นสวนหย่อมยาวไปจนสุดทาง ซึ่งระหว่างทางจะมีจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนอยู่เป็นระยะๆ
มองย้อนกลับไปที่สวนด้านหน้าค่ะ
สำหรับบ้านในซีรีย์ใหม่ ตัวบ้านจะตกแต่งด้วยโทนสีเทา Grey Travertine มีความโมเดิร์นมากขึ้น ซึ่งการออกแบบและหน้าตาจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราจะพาไปชมกันค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse ประกอบไปด้วย
- Lobby
- สระว่ายน้ำ1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 16 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็ก 1 สระ ลึก 45 ซม.และ Jacuzzi ลึก 40 ซม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด 3.7 x 13.4 ม.ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
สำหรับแบบบ้านซีรีย์ใหม่ดีไซน์จะโมเดิร์นขึ้นกว่าซีรีย์เดิม โดยได้เลือกนําสี Grey Travertine (สีออกเทาๆ) มาปรับใช้ ซึ่งจะต่างจากบ้านซีรีย์เดิมที่เป็นสีขาว แต่ยังคง Concept English Craftsman โดยบ้านซีรีย์ใหม่จะได้รับแรงบรรดาลใจมาจากพระราชวัง Buckingham เพื่อให้ผู้ที่มาพักอาศัยได้ความรู้สึก เสมือนกับตนเองเป็นเจ้าชาย เจ้าหญิงที่อาศัยอยู่ในปราสาทสไตล์อังกฤษ โดยทาง SC Asset ได้ดีไซน์แบบบ้านหลังใหญ่ให้มีหน้ากว้างถึง 31 เมตร และเป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดที่ SC Asset เคยทำมา (848 ตร.ม.) ค่ะ บ้านซีรีย์ใหม่ทางโครงการทำออกมา 3 แบบได้แก่
- แบบบ้าน Camden พื้นที่ใช้สอย 531 ตร.ม. ที่ดิน 125 ตร.วา
- แบบบ้าน Westminster พื้นที่ใช้สอย 664 ตร.ม. ที่ดิน 143 ตร.วา
- แบบบ้าน Kensington พื้นที่ใช้สอย 848 ตร.ม. ที่ดิน 180 ตร.วา
ซึ่งหน้าตาและดีไซน์จะเป็นอย่างไรเราจะพาไปชมกันค่ะ
เรามาเริ่มจากบ้านที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโครงการได้ Kensington พื้นที่ใช้สอย 848 ตร.ม. บนที่ดิน 180 ตร.วา ชั้น 1 เมื่อเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านแล้วด้านหน้าจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถทั้งหมด 5 คัน ประตูทางเข้าหน้าบ้านจะมีทางเข้าหลัก 2 ทาง จากทางด้านหน้าสุดของตัวบ้านและจากทางที่จอดรถโดยจะมีทางลาดสำหรับเข็นรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ การออกแบบบ้านหลังนี้นอกจากทางลาดแล้วยังมีห้องผู้สูงอายุ ที่ห้องน้ำไม่มีการลดระดับพื้น ถือเป็นการออกแบบให้สามารถอยู่ด้วยกันได้หลาย Generation พอเข้าบ้านจากประตูทางเข้าหลักมาจะเจอกับห้องรับแขก ซึ่งด้านข้างจะมี Hall ที่ทำสามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าได้ทั้งแผง ถัดเข้ามาจึงเป็น Family Room หรือ ห้องนั่งเล่น ซึ่งเอาไว้ใช้กันเฉพาะคนในครอบครัว มีความเป็นส่วนตัวกว่า พื้นที่ที่ต่อเนื่องกันเลยก็คือห้องรับประทานอาหาร ส่วนเตรียมอาหาร ห้องครัว และส่วนของ Maid และ Back of house ทั้งหมด โดยจะแบ่งส่วนห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง ห้องน้ำแม่บ้านอีก 1 ห้อง ส่วนห้องซักรีดและลานซักล้าง
ส่วนอีกปีกหนึ่งของตัวบ้าน จะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำหน้าบ้าน สามารถเปิดออกไปเชื่อมต่อกับส่วน Pool Deck ได้และเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว สามารถทำเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งได้ค่ะ ส่วนบันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 2 ของตัวบ้านจะอยู่ด้านหลังช่วงกลางๆบ้าน ซึ่งพื้นที่ใต้บันไดออกแบบมาให้มีพื้นที่สำหรับเก็บของ ติดกันจะเป็นห้องน้ำแบบ Power room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำค่ะ ฟังก์ชันการใช้งานคือเอาไว้รับรองแขกและใช้งานระหว่างที่เราอยู่ชั้นล่างนั่นเอง
ชั้น 2 ของบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด แบ่งเป็นห้องนอน 4 ห้อง และทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง เมื่อขึ้นบันไดมาจะเจอกับห้องนอนใหญ่ ซึ่งภายในจะประกอบด้วยส่วนสำหรับพื้นที่นั่งพักผ่อน พื้นที่นอนพักผ่อนและระเบียงขนาดใหญ่ โดยจะมี Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำด้วย บริเวณชั้น 2 นี้จะมีส่วน Family area สำหรับนั่งพักผ่อนร่วมกันในครอบครัว ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะอยู่ชั้นบน คนที่จะมาใช้ก็แค่สมาชิกในบ้าน ถัดไปจะเป็นห้องนอนอีก 3 ห้องนอน ซึ่งจะมีการจัดพื้นที่ Relax area ไว้ภายในห้อง พร้อมทั้งมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
แบบบ้าน Kensington พื้นที่ใช้สอย 848 ตร.ม. บนที่ดิน 180 ตร.วา บ้าน Type นี้ถือเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ทาง SC Asset เคยทำมาโดยฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ + 2ห้องแม่บ้าน + สระว่ายน้ำ ดีไซน์จะมีการปรับให้โมเดิร์นขึ้นกว่าเดิม โดยใช้สี Grey Travertine (สีออกเทาๆ) มาปรับใช้ แต่ยังคง Concept English Craftsman เอาไว้อยู่ โครงสร้างบ้านในโครงการนี้เป็นแบบก่ออิฐฉาบปูนนะคะ ดังนั้นจึงสามารถทุบ เจาะ ต่อเติมได้ค่ะ
ด้านหน้าบ้านมีการทำประตูสำหรับคนเดินเป็นประตูเหล็กดัด ที่มีดีเทลเล็กๆให้เข้ากับ Concept ของโครงการ พร้อมกับติดตั้งไฟส่องสว่าง ป้ายโครงการ และกริ่งสัญญาณมาให้ค่ะ
ประตูรั้วด้านหน้าบ้านทำจากเหล็ก สามารถเลื่อนเก็บด้านข้างได้แบบนี้ ซึ่งเราสามารถติดตั้งระบบอัตโนมัติเพิ่มเติมได้ค่ะ
ที่จอดรถสามารถจอดได้ 5 คัน เป็นที่จอดในร่มทั้งหมด โดยทางโครงการจะปูพื้นทรายล้าง มาให้แบบนี้เลย
ผนังด้านหลังที่จอดรถทำเป็นตู้เก็บของ ซึ่งสามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้
บริเวณหน้าประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถจะมีทางลาด ซึ่งเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุเป็นอย่างดี หรือ ทางลาดนี้ก็สามารถใช้ทุ่นแรงเวลาขนของชิ้นใหญ่ได้อีกด้วย และทางโครงการได้ติดตั้ง EV Charger มาให้ซึ่งรองรับการชาร์จรถไฟฟ้าได้ค่ะ
เดินมาดูพื้นที่ข้างบ้านทางฝั่งขวาจะเจอกับลานซักล้างและทางเข้าพื้นที่ Back of house ของแม่บ้าน ซึ่งมีทางเข้าออกแยกจากสมาชิกในบ้านค่ะ
ด้านหน้าบ้านปูพื้นมาให้แบบนี้เลย
พื้นที่ด้านข้างอีกฝั่งของตัวบ้านจัดเป็นสระว่ายน้ำและสวนหย่อม ทางโครงการให้สระมาแบบนี้เลย
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 4 x 8 เมตร ลึก 1.5 เมตร ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ภายในบ้านสามารถเดินออกมาที่สระได้เลย เราสามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวหรือใช้จัดปาร์ตี้ได้ค่ะ
บริเวณด้านข้างสระจะมี Jacuzzi ให้ใช้นั่งแช่ตัวด้วย
เรามาดูกันต่อที่ทางเข้าบ้าน ซึ่งสังเกตว่าตัวบ้านจะมีการยกสูงจากพื้นพอสมควรเลย จากการสอบถามโครงการแจ้งว่า พื้นโครงการจะยกสูงกว่าด้านนอกโครงการประมาณ 30 ซม. ส่วนตัวบ้านจะยกสูงกว่าพื้นถนนโครงการอีก 70 ซม.ค่ะ
ประตูหลักของบ้านเป็นบานไม้สัก พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้
Digital Door Lock เป็นของ Baldwin สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Master Key และสแกนนิ้ว (ต้องมีรีโมทส่งสัญญาณอยู่ใกล้ๆ) โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Application ที่ชื่อว่า Kevo ซึ่งเราสามารถเลือกส่งรหัสผ่าน App ได้ว่าจะอนุญาตให้ใครเข้าบ้านเราตอนไหน เวลาไหนได้ค่ะ
เราสามารถสแกนนิ้วได้แบบนี้เลย แต่ต้องมีรีโมทส่งสัญญาณอยู่ใกล้ๆนะ
เข้ามาจะเจอกับห้องรับแขกก่อน พื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นแต่มีผนังกั้นโซนอยู่ ฝ้าเพดานของชั้นล่างนี้สูงประมาณ 3 เมตร ทำให้ Space ค่อนข้างโปร่งและเราสามารถตกแต่งฝ้าเพดานและติดตั้งแอร์แบบ Cassette Type ได้ พื้นของชั้นนี้จะปูด้วยกระเบื้อง Cotto Interior Alsacia ขนาด 60×120 ซม.
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยในตัวบ้าน ทางโครงการจะติดตั้งสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor มาให้ทุกหลัง
ซึ่งจะมีจอแสดงผลและควบคุมสัญญาณกันขโมยติดตั้งมาให้ในตัวบ้าน ส่วนปลั๊กและสวิตซ์ทางโครงการใช้ของ Siemens ค่ะ
บริเวณข้างๆห้องรับแขกจะเป็นโถงที่ด้านข้างมีพื้นที่ที่สามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าได้ทั้งแผง ซึ่งน่าจะเป็นมุมโปรดของสาวๆเลยค่ะ
เดินถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร
พื้นที่บริเวณห้องรับประทานอาหารและเป็น Double Space โปร่ง โล่งไปจนถึงชั้น 2 โดยฝ้าเพดานบริเวณนี้จะสูงประมาณ 8 เมตร สามารถติดโคมไฟ Chandelier ตกแต่งได้
บรรยากาศอีกมุมหนึ่งที่เห็นว่าโต๊ะอาหารจะเชื่อมต่อกับส่วนเตรียมอาหารและห้องครัวเลย ในบ้านตัวอย่างจัดที่นั่งได้ประมาณ 10 ที่นั่งค่ะ
มุมนี้สามารถจัดเป็นส่วนเตรียมอาหารได้ ซึ่งเป็นมุมที่แม่บ้านใช้จัดจานอาหารก่อนเอามาเสิร์ฟ ส่วนครัวจะอยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ
สำหรับครัวทางโครงการมีให้ด้วยค่ะ โดยของที่เราได้คือรูปด้านล่าง ทั้งตู้ล่างและตู้บนเลย วัสดุหน้าบานเป็นสีพ่น High gloss ส่วน Top เป็น หินแกรนิต ซึ่งของที่เราได้ดูจัดเต็มกว่าบ้านตัวอย่างซะอีก เตาที่ได้เป็นเตาแก๊สเหมาะกับการใช้งานในครัวไทย และเครื่องดูดควันเป็นแบบหมุนเวียนของ Franke พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย
ถัดเข้ามาจากส่วนของห้องครัว จะเป็นส่วนของ Maid และ Back of house ทั้งหมดจะแบ่งส่วนห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง สำหรับแม่บ้าน และส่วนห้องซักรีดและลานซักล้างที่เชื่อมออกไปทางด้านหลังของตัวบ้านได้
ห้องแม่บ้านและห้องซักรีดค่ะ เป็นห้องโล่งๆมาให้
ห้องน้ำของแม่บ้านมีมาให้ครบทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
เดี๋ยวเราไปดูอีกฝั่งของตัวบ้านกันต่อ
บริเวณใกล้ๆกับห้องอาหารจะมีห้องนอนอยู่ 1 ห้อง ซึ่งห้องนี้สามารถใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ โดยห้องนอนนี้จะใช้หลักการ Elder care มาเป็นแนวคิดในการออกแบบ ทั้งทางเข้าห้องน้ำที่พื้นเรียบเสมอกันเพื่อลดการสะดุดล้มและสามารถเข็นรถเข็นเข้าออกได้ง่าย วัสดุปูพื้นในห้องนี้จะเป็นวัสดุประเภท Soft floor กระเบื้องยางที่ผิวสัมผัสนุ่ม มีความยืดหยุ่น สามารถป้องกันการกระแทกจากกรณีหกล้ม และไม่ทำให้เจ็บเท้าเวลาเดิน มีการเว้นระยะพื้นที่โดยรอบเตียงให้สามารถเข็นรถเข็นได้ หรือผู้สูงอายุบางคนก็ต้องใช้เครื่องพยุงตัว จึงต้องเว้นระยะรอบเตียงให้เพียงพอ
ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวเลยนะคะ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ในส่วนของห้องน้ำพื้นห้องน้ำจะอยู่ในระดับเดียวกันไม่มีการลดระดับ แต่จะใช้วิธีการซ่อนรางระบายน้ำไว้ใต้พื้นแทน พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องที่ผิวไม่เรียบลื่นมากไป ห้องน้ำติดตั้งราวจับเพื่อช่วยในการพยุงตัวใกล้กับโถสุขภัณฑ์
อ่างล้างหน้าเป็นของ Kasch ด้านล่างทำเป็นตู้สามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อยได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Kasch ระบบแบบอัตโนมัติช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้งานค่ะ
ชุดฝักบัวมีมาให้ทั้งที่เป็น Rain Shower และมือจับ พร้อมเดินระบบทำน้ำอุ่นมาให้
พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้จะไม่มีการลดระดับนะคะ เพื่อป้องกันผู้สูงอายุเดินสะดุด
ถัดมาจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งเหมาะกับการนั่งพูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวมากกว่า
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ค่ะ
ห้องน้ำห้องนี้เป็นแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เราสามารถเอาไว้ใช้เป็นห้องน้ำสำหรับแขก หรือ เอาไว้ใช้เวลาที่เราอยู่ชั้นล่างได้
ถัดมาคือห้องอเนกประสงค์เป็นห้องที่สามารถเดินเชื่อมออกไปยังสระว่ายน้ำได้ ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่น แต่เราสามารถจัดเป็นห้องนอนได้เช่นกัน เพราะมีขนาดที่กว้างและมีห้องน้ำในตัวค่ะ
มุมนั่งพักผ่อนที่เห็นวิวสระว่ายน้ำเต็มๆ
จากรูปเมื่อสักครู่ ถ้ามองออกมาจะเห็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ที่อยู่ข้างสระว่ายน้ำเลยค่ะ บรรยากาศดีทีเดียว
ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวด้วยนะคะ อยู่บริเวณหน้าห้องเลย
ห้องน้ำห้องนี้มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ มีช่องแสงระบายอากาศช่วยให้ห้องน้ำไม่มีกลิ่นอับชื้น
มากันที่บันไดของบ้านกันค่ะ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก บันไดมีความกว้าง 1.5 ม. พื้นบันไดลูกตั้งและลูกนอน เป็นไม้มะค่า ราวบันไดเป็นเหล็กสูงประมาณ 90 ซม. พร้อมราวจับไม้ทำสีเดียวกันกับตัวบันไดทางขึ้นลง ซึ่งใต้บันไดจะมีห้องเก็บของด้วยค่ะ
บริเวณโถงบันไดจะมีชุดหน้าต่างบานใหญ่ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาบริเวณบันไดและสามารถเปิดเพื่อช่วยระบายอากาศรับลมได้ดี
เดินขึ้นมาจะมีชานพักบันได 2 จุด ซึ่งระหว่าง 2 ชานพักจะมีช่วงพาดให้เราก้าวขึ้นอีกประมาณ 2 ขั้น เวลาใช้งานต้องมองบันไดอย่าเผลอก้าวข้ามนะคะ ต้องใช้ความระมัดระวังกันนิดนึงค่ะ
พื้นชั้น 2 จะปูด้วยปาร์เก้ ทำจากไม้มะค่าทั้งหมดค่ะ สีใกล้เคียงกับวัสดุของบันได
พอขึ้นชั้น 2 มาแล้ว เราจะพาเดินไปชมทางฝั่งซ้ายกันก่อนค่ะ ซึ่งพอเลี้ยวมาก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น (Family Area) บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับส่วนที่เป็น Double Space ขึ้นมาจากชั้นล่าง
พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน (Family Area) มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร สามารถดัดแปลงกั้นเพิ่มเป็นห้องอีกห้องได้สบายๆหรือจะจัดเป็นส่วนของห้องพระก็ได้ค่ะ ในบ้านตัวอย่างทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น อ่านหนังสือ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีค่ะ
ก่อนพาไปเดินชมห้องต่างๆจะขอพาไปดูบานประตูที่เราได้จริงกันสักหน่อย โดยห้อง Master Bedroom เราจะได้บานไม้สัก ส่วนห้องอื่นๆเป็นบานสีขาวแบบรูปทางฝั่งขวา
ห้องนอนแรกที่เราจะพาไปชมอยู่ใกล้ๆกับห้อง Family Area ข้อดีของบ้านโครงการนี้คือ มีห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in Closet ในตัวทุกห้อง สามารถใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว ห้องนี้จะมีลักษณะเป็นแนวยาว ห้องน้ำจะอยู่ด้านในค่ะ
ด้านในสุดของห้องเป็น Walk-in Closet และ ห้องน้ำ ตู้ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราดูไว้เป็นไอเดียในการจัดตกแต่งห้องได้ค่ะ
ภายในห้องน้ำจะปูกระเบื้องมาให้แบบนี้เลย แบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน
ห้องน้ำห้องนี้จะมีช่องแสงเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วย สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ โถสุขถัณฑ์จะเป็นแบบชิ้นเดียวของ Kasch และพื้นที่อาบน้ำเราจะได้ทั้ง Rain Shower และฝักบัวแบบมือจับของ Cotto
หน้าตาของฝักบัวที่โครงการให้มาค่ะ
เรามาดูห้องนอนอีกห้องที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ห้องนี้จะมีระเบียงด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่ Walk-in Closet และ ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งปลายเตียง สามารถตกแต่งกั้นเป็นสัดส่วนได้ตามบ้านตัวอย่าง ทุกห้องของบ้านหลังนี้สามารถวางเตียงขนาดใหญ่แบบ King Size ได้สบายๆค่ะ
ระเบียงของห้องนี้เป็นฝั่งที่มองออกไปทางด้านหน้าของตัวบ้าน เราสามารถออกมาใช้นั่งเล่นพักผ่อนได้
ระเบียงของห้องนี้จะเชื่อมต่อกับหลังคาของชั้นล่าง ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้สามารถจัดสวนเพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านได้
Walk-in Closet จะมีชุดโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ด้านใน ผนังอีกฝั่งทำเป็นชุดตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน ตำแหน่งจะอยู่ใกล้กับห้องน้ำพอดี ถ้าอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก
ห้องน้ำแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งเช่นเดียวกัน มีหน้าต่างระบายอากาศ 1 จุด ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆให้เหมือนห้องก่อนหน้าค่ะ
เราจะไปดูห้องนอนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านกันค่ะ
ห้องนอนใหญ่พอเราเข้ามาจะเจอพื้นที่ Walk-in Closet และ ห้องน้ำก่อน ข้อดีคือถ้าเรายืนอยู่หน้าห้องจะมองไม่เห็นเตียงนอนเลย ทำให้คนที่อยู่ในห้องค่อนข้างเป็นส่วนตัว และสามารถใช้งานพื้นที่โซนนี้ได้ในขณะที่อีกคนนอนพักผ่อนอยู่
Walk-in Closet จัดได้แบบนี้ค่ะมีครบทั้งโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า
ภายในห้องน้ำแยกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียก สุขภัณฑ์ต่างๆของห้องนี้จะมีการอัพเกรดขึ้น และห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ ส่วนการตกแต่งจะกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวดูสวยดี
ตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์จะอยู่ถัดจากอ่างอาบน้ำมา (ในรูปก่อนหน้าถ่ายมาไม่เห็นค่ะ) มีผนังกั้นแยกเป็นสัดส่วนมาให้
โถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Master Bedroom เป็นระบบอัตโนมัติของ Kasch
อ่างอาบน้ำจะเป็นรุ่นที่มี Neck Jet , Body Jet และ ม่านน้ำมาให้ด้วย และถ้าสังเกตด้านข้างสระจะมี Low wall หรือผนังเตี้ยๆให้เราสามารถวางของได้
เราสามารถกดปุ่มเพื่อเลือก Option ได้
ซึ่งถ้าเปิดทุกระบบก็จะเป็นตามในรูปค่ะ สามารถนอนแช่ตัวได้สบายๆ
ฝักบัวบริเวณอ่างก็สามารถดึงออกมาได้แบบนี้
อ่างล้างหน้าในห้องนี้เป็นแบบ His & Her สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ด้านล่างเป็นตู้เอาไว้เก็บของใช้เล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom ทางโครงการจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย ซึ่งพื้นที่อาบน้ำในห้องนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรเลย
พื้นที่อาบน้ำที่มีมาให้เลือกใช้ทั้ง Rain Shower ฝักบัว และ Body Jet
เดินเข้ามาด้านในสุดจะเป็นส่วนนอนพักผ่อน ห้องนี้เป็นห้องทางฝั่งหน้าบ้านที่มีระเบียงกว้างและมีช่องแสงค่อนข้างเยอะ ด้วยขนาดของห้องเราสามารถวางได้ทั้งเตียง King Size และชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนได้
พื้นที่นอนพักผ่อนวางเตียงได้แบบ King Size ด้านหลังม่านจะเป็นหน้าต่าง ซึ่งถ้าเราจะพักผ่อนก็สามารถปิดม่านแบบในบ้านตัวอย่างได้
บริเวณปลายเตียงค่อนข้างกว้าง สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีได้และจากเตียงสามารถนอนมองทีวีได้เลยค่ะ
ระเบียงของห้องนี้มีขนาดใหญ่ถึง 1.1 x 2.9 เมตร สามารถเอาชุดโต๊ะเก้าอี้มานั่งพักผ่อนได้ ถึงแม้จะเป็นฝั่งหน้าบ้านแต่ทางโครงการก็ทำลวดลายฉลุบังสายตาไว้ให้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ลายฉลุนี้ทำออกมาสวยดี เหมาะกับ Concept ของโครงการ และเวลามีแสงแดดมาตกกระทบก็จะเห็นเป็นเงาทอดลงมาที่พื้นด้วยค่ะ
มาดูกันต่อที่ห้องนอนห้องสุดท้าย ห้องนี้มีการวางผังเอา Walk-in Closet และห้องน้ำอยู่ด้านหน้าเช่นเดียวกัน
Walk in closet อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก
ห้องน้ำแบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียกสำหรับสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องนอนเล็กอื่นๆค่ะ
ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้างที่สามารถแบ่งออกเป็นพื้นที่นอนพักผ่อนและนั่งเล่น มีช่องแสงมาให้หลายจุด บรรยากาศโปร่ง โล่งค่ะ
ห้องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งห้องทางฝั่งหน้าบ้านที่มีระเบียง สามารถวางเตียง King Size ได้
อีกมุมสามารถจัดเป็นพื้นท่นั่งเล่นเป็นสัดส่วนไปเลย หรือใครจะปรับทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้นะคะ
พื้นที่ระเบียงห้องนี้มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำพอดีค่ะ
แบบบ้าน Westminster พื้นที่ใช้สอย 664 ตร.ม. ที่ดิน 143 ตร.วา สามารถจอดรถได้ 5 คันเช่นเดียวกัน เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่โถงที่เป็น Double Space ดูโปร่งโล่ง บริเวณสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งพักคอยหรือใส่รองเท้าได้ ถัดเข้ามาด้านในจึงจะเป็นห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ซึ่งการใช้งานนั้นจะแตกต่างกันตรงที่ ถ้าเป็นสมาชิกในครอบครัวก็จะใช้ห้องนั่งเล่นซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ถัดไปจึงเป็นห้องนอนผู้สูงอายุและห้องน้ำ ส่วนอีกปีกหนึ่งของบ้าน เป็นห้องอาหาร ครัว ลานซักล้าง ห้องน้ำแบบ Powder Room ห้องแม่บ้าน และ Back of house ทั้งหมด ซึ่งจะแบ่งออกเป็นส่วนห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง สำหรับแม่บ้าน และส่วนห้องซักรีดและลานซักล้าง
ชั้น 2 ของบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด แบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง และทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องค่ะ เมื่อขึ้นบันไดมาจะเจอกับห้องนอนใหญ่ ซึ่งภายในจะประกอบด้วยส่วนสำหรับนั่งพักผ่อน ถัดเข้ามาด้านหน้าจะเป็นส่วนของพื้นที่นอนพักผ่อน และจะมีส่วน Walk in closet ที่เชื่อมกับห้องน้ำได้ สำหรับอีกฝั่งหนึ่งของชั้น 2 จะมีส่วน Family area สำหรับนั่งพักผ่อนอีก 1 จุด ถัดไปจะเป็นห้องนอนอีก 2 ห้องนอน ซึ่งจะมีการจัดพื้นที่ Relax area ไว้ภายในห้อง พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
ส่วนบ้านตัวอย่างอีกแบบหนึ่งคือ Westminster 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ + 2ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 664 ตร.ม. บนที่ดิน 143 ตร.วา หลังนี้จะมีขนาดเล็กลงมาและไม่มีสระว่ายน้ำแล้วนะคะ
บ้านหลังนี้พอเข้ามาจะเจอกับโถง Double Space ก่อนเลยซึ่งในความรู้สึกโอ่โถง และ โปร่ง โล่งมากๆ
ทางฝั่งขวาของบ้านจะเป็นห้องรับแขกเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลย อย่างห้องนี้คือห้องรับแขกที่มีผนังทั้ง 2 ฝั่งเป็นช่องแสง สามารถนั่งชมวิวสวนรอบๆบ้านได้
ส่วนห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดๆกันจะมีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย เหมาะกับเอาไว้นั่งเล่นพูดคุยกันในครอบครัว
เดี๋ยวเราจะพาไปดูอีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านที่เป็นห้องครัว ห้องอาหาร และส่วน Back of house แล้วค่อยพาขึ้นไปดูที่ชั้นบนกันนะคะ วัสดุต่างๆเหมือนบ้าน Type ก่อนหน้าดังนั้นจึงจะขอเล่าข้ามไปบ้างนะคะ
พอเดินมาอีกฝั่งของบ้านจะเป็นห้องรับประทานอาหารที่อยู่เชื่อมต่อกับส่วนเตรียมอาหาร
มุมนี้ในบ้านตัวอย่างทำเป็นส่วนเตรียมอาหารซึ่งจริงๆแล้วถ้าบ้านไหนอยากได้โต๊ะอาหารใหญ่ๆ ก็สามารถจัดให้ยาวมาถึงบริเวณนี้ได้เลย
ถัดจากโต๊ะอาหารไปจะเป็นทางไปห้องน้ำ ครัวและห้องแม่บ้าน
ห้องชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าค่ะ ภายในห้องน้ำพื้นและผนังจะกรุกระเบื้องมาให้แบบนี้ พร้อมติดตั้งเครื่องดูดอากาศมาให้ค่ะ
สำหรับครัวจะมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ และสามารถวางเคาน์เตอร์ได้แบบตัว L แต่ของที่ได้จริงต้องไปดูในบ้านมาตรฐานนะคะ
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนของ Maid และ Back of house แบ่งเป็นห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง รวมถึงห้องซักรีดและลานซักล้างก็จะอยู่บริเวณนี้ด้วย แม่บ้านสามารถเดินมาใช้งานได้โดยไม่ต้องผ่านข้างในบ้าน
ก่อนขึ้นไปยังชั้น 2 เราจะเจอกับห้องนอนผู้สูงอายุ เพราะจะให้เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ก็คงจะไม่ไหว การจัดห้องไว้ที่ชั้นล่างในลักษณะจึงเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่าค่ะ
ห้องนอนที่ชั้นล่างนี้จะใช้หลักการ Elder care มาเป็นแนวคิดในการออกแบบ ทำให้ห้องนอนห้องนี้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องวัสดุและขนาดต่างๆแตกต่างจากห้องนอนทั่วไปค่ะ
มาถึงส่วนของห้องน้ำ ซึ่งก็จะมีความแตกต่างจากห้องน้ำทั่วไป จะต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเข็นรถเข้าไปได้ หรือผู้สูงอายุบางคนจะต้องมีอุปกรณ์ช่วยพยุงตัว ถ้าห้องน้ำคับแคบเกินไปก็จะทำให้ใช้งานลำบากค่ะ รวมถึงพื้นของห้องนี้จะไม่มีการลดระดับหรือมีธรณียกสูงขึ้นมา เพื่อป้องกันการสะดุดล้มและทำให้รถเข็นเคลื่อนผ่านได้ง่ายด้วยค่ะ
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 ของตัวบ้านจะเจอกับโถงทางเดิน เพื่อแยกไปยังห้องต่างๆ โดยชั้นนี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องค่ะ
ห้องแรกที่ขึ้นมาเจอคือ Master Bedroom เลยซึ่งพอเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ก่อน ส่วนพื้นที่นอนพักผ่อนจะอยู่ด้านใน การจัดฟังก์ชันแบบนี้ข้อดีคือเราสามารถนั่งดูทีวีหรือทำงานได้โดยไม่ไปรบกวนพื้นที่นอนพักผ่อนด้านในเลย
ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นพื้นที่นอนพักผ่อน ซึ่งห้องก็มีขนาดกว้างพอที่จะจัดเป็นมุมนั่งเล่นปลายเตียงได้ และห้องนี้จะมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศได้ด้วย
ระเบียงของห้องนี้มีความยาวเท่าตัวห้องและมีเหล็กดัดฉลุลายเช่นเดียวกับบ้าน Type ก่อนหน้า พอโดนแสงแดดก็จะเห็นเป็นลวดลายสะท้อนลงพื้นแบบนี้ค่ะ
ห้อง Walk-in Closet และห้องนอนจะอยู่บริเวณใกล้ๆกับพื้นที่นั่งพักผ่อน
Walk in closet ของห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะเชื่อมต่อไปส่วนของห้องน้ำได้ ภายในห้องตกแต่งด้วยตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ทั้งหมดด้านหน้าตู้ติดบานกระจกทำให้ห้องดูกว้างและมีมิติ อีกทั้งยังใช้เป็นกระจกสำหรับแต่งตัวได้ แต่ตู้นี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ
ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ จัดพื้นที่มากว้างพอสมควร พื้นและผนังภายในเป็นหินอ่อน White Carrara แบ่งพื้นที่ใช้งานไว้หลายแบบตามแต่ผู้ใช้งานจะเลือกใช้ มีหน้าต่างให้ 2 ตำแหน่งสามารถเปิดและปรับแสงด้วยมูลี่เพื่อรับแสงธรรมชาติได้
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ Kasch
และพื้นที่อาบน้ำมี Body Jet มาให้เช่นเดียวกัน
เราเดินออกมาที่โถงเพื่อจะไปดูห้องนอนอื่นๆ จะสังเกตเห็นว่ามีพื้นที่ Family Area มาให้ด้วย
พื้นที่ Family Area สำหรับนั่งพักผ่อนพูดคุยกันในครอบครัวค่ะ
เรามาดูห้องนอนอีกห้องหนึ่งซึ่งทุกห้องในบ้านจะมี Walk-in Closet และ ห้องน้ำในตัวค่ะ
Walk-in Closet ที่ Built-in ได้ครบทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ตำแหน่งอยู่หน้าห้องน้ำใช้งานสะดวก
ห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้ง ส่วเปียก มีช่องแสงระบายอากาศ แต่ถ้าไม่ใช่ห้องนอนใหญ่จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะ
ห้องนอนอีกห้องเป็นห้องฝั่งหน้าบ้านซึ่งเราจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ แต่เปิดประตูมาแล้วจะเจอกับเตียงเลยเนื่องด้วยขนาดห้องเป็นแนวยาวค่ะ
ฝั่งปลายเตียงจึงจะเป็น Walk-in Closet และ ห้องน้ำ ซึ่งผนังทางฝั่งขวามีพื้นที่พอสำหรับ Built-in ตู้ทั้งแผงเลย
ห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง และมีช่องหน้าต่างเอาไว้ระบายอาศค่ะ
แบบบ้าน Camden พื้นที่ใช้สอย 531 ตร.ม. ที่ดิน 125 ตร.วา หลังนี้ไม่ได้มีบ้านตัวอย่างให้ดูนะคะ ถ้ามองจากแปลนแล้วจะเห็นว่าฟังก์ชันการจัดพื้นที่ใช้สอยมีความคล้ายกับบ้านแบบ Westminster ทั้งการมีห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น การแยกส่วนครัวและแม่บ้านออกมาอยู่หลังบ้านและมีทางเดินเข้าจากด้านหลังได้เลยโดยไม่ต้องเดินผ่านตัวบ้าน ตรงกลางเป็นห้องรับประทานอาหาร และบ้านหลังนี้จะมีห้องนอนผู้สูงอายุที่มีห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ ความต่างจึงอยู่ที่บ้านแบบนี้มีขนาดเล็กกว่าค่ะ
สำหรับชั้น 2 สามารถแบ่งห้องนอนได้ 3 ห้อง ทุกห้องมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว รวมๆแล้วห้องพักมีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถรองรับการอยู่อาศัยตั้งแต่เด็กจนโตเลย โดยจะมีห้อง Master Bedroom และ Bedroom2 ที่มีระเบียงออกไปยืนสูดอากาศได้ ตรงกลางจะเป็น Family area สำหรับนั่งพักผ่อนกันในครอบครัวค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 October 2019
- แบบบ้าน Camden พื้นที่ใช้สอย 531 ตร.ม. ที่ดิน 125 ตร.วา
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ + 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 38.9 ล้านบาท - แบบบ้าน Westminster พื้นที่ใช้สอย 664 ตร.ม. ที่ดิน 143 ตร.วา
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ + 2ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 45.9 ล้านบาท - แบบบ้านKensington พื้นที่ใช้สอย 848 ตร.ม. ที่ดิน 180 ตร.วา
– ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ + 2ห้องแม่บ้าน + สระว่ายน้ำ
– ราคาเริ่มต้น 57.9 ล้านบาท - เงินจอง 500,000 บาท
- ทำสัญญา 20 %
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 180,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท อยู่ในซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง แยกอีกทีเข้าซอยหมู่บ้านเทพนฤมิตร ซึ่งจะอยู่ระหว่างซอยแบริ่ง 15 และ 19 ห่างจากทางขึ้น-ลงสถานีแบริ่ง 2.2 กิโลเมตร ด้วยทำเลที่ตั้งทำให้สามารถเข้าออกจากโครงการได้หลายเส้นทางทั้งจากทางฝั่งสุขุมวิท-แบริ่ง หรือทางซอยลาซาล ไปทะลุออกถนนบางนาตราด หรือจะไปออกทางเส้นศรีนครินทร์ ด้านความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆกับโครงการจะมีร้านสะดวกซื้อ มีร้านอาหารอยู่บ้าง แต่ถ้ามองภาพกว้างจะเห็นว่าทำเลนี้เต็มไปด้วยโรงเรียนนานาชาติ มีศูนย์การค้าอย่างเซ็นทรัลบางนา บนถนนบางนา-ตราด และ Paradise Park ซีคอนสแควร์ บนถนนศรีนครินทร์ แต่จุดที่น่าสนใจคือในช่วงไม่กี่ปีมานี้มี ศูนย์การค้า Community Mall และ Lifestyle Mall เกิดขึ้นในทำเลนี้รวมถึงทำเลใกล้เคียงค่อนข้างเยอะเช่น Mega Bangna ที่ในอนาคตมีแผนพัฒนาโครงการต่อขยายเป็น Mega City Bangna ที่นอกจากจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่แล้ว ยังมี โรงแรม ออฟฟิศ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ คาดว่าน่าจะเสร็จในปี 2565 , 101 The Third Place Community Mall ในโครงการ Whizdom 101 , Central Village , Century The Movie Plaza , The Phyll สุขุมวิท 54 และ DADFA ลาซาล เป็นต้น ถือเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆและคาดว่าน่าจะมีโครงการอะไรใหม่ๆมาขึ้นอีกค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการมี Double Security ซึ่งสามารถกรองความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง มีการติดตั้งกล้อง CCTV และระบบ Easy Pass เพื่อความปลอดภัยและรวดเร็วในการเข้าออกโครงการ ในตัวบ้านมีติดตั้งสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง และมี Digital Door Lock มาให้ด้วย
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : เป็นโครงการที่ทำออกมาได้ดี บรรยากาศน่าใช้งาน มี Concept การออกแบบที่ชัดนั่นก็คือได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Cotswolds ดินแดนในประเทศอังกฤษ ส่วนตัวบ้านจะมีซีรีย์ใหม่ที่ดีไซน์จะโมเดิร์นขึ้นโดยได้เลือกนําสี Grey Travertine (สีออกเทาๆ) มาปรับใช้ ซึ่งจะต่างจากบ้านซีรีย์เดิมที่เป็นสีขาว แต่ยังคง Concept English Craftsman อยู่ ตัวบ้านจัดฟังก์ชันลงตัวโดนบ้านหลังใหญ่จะมีหน้ากว้างถึง 31 เมตร และเป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดที่ SC Asset เคยทำมาอีกด้วย (848 ตร.ม.) ค่ะ
วัสดุ : การเลือกใช้วัสดุถือว่าเหมาะสมตามระดับของบ้าน ประตูหน้าบ้านเป็น ไม้สัก+ Digital Doorlock ของ Baldwin + วงกบทองเหลืองแท้ชุบผิวแสตนเลส (รวมถึงประตูหลักภายในบ้านทั้งหมดเป็นไม้สัก ) พื้นชั้นล่างเป็น Cotto Interior Alsacia พื้นบ้านภายในเป็นปาร์เก้ไม้มะค่า ห้องน้ำหลักเป็นหินอ่อน White Carrara ได้ชุดครัวพร้อมเครื่องดูดควันและเตาแก๊ส และ Wallpaper ค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : หลังจากที่โครงการสร้างมาสักระยะ ทำให้ต้นไม้ในสวนหย่อมและรอบๆโครงการเติบโตเต็มที่ ได้ความร่มรื่น มีอุโมงค์ต้นไม้ทำให้บรรยากาศค่อนข้างดี มีสวนอยู่บริเวณหน้าโครงการและด้านหลังอีก 1 จุด สภาพโครงการมีการดูแลได้ดี เรียบร้อย และไม่โทรม ติดตรงที่ใบไม้ร่วงเยอะไปนิดค่ะ
สาธารณูปโภค : ถือว่าให้มาครบ ได้สวนหย่อมไว้เดินเล่น สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด5 x 16 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็ก 1 สระ ลึก 45 ซม.และ Jacuzzi ลึก 40 ซม. ที่ดีคือส่วนของสระว่ายน้ำมีการยกระดับให้พ้นจากระยะสายตาไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับพื้นถนนภายนอก มี Fitness ที่ชั้น 2 ของ Club House ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซุ้มหน้าโครงการถือว่าสวยเข้ากับรูปแบบของโครงการ และจากการสังเกตจะเห็นว่าโครงการนี้แม้จะสร้างเฟสแรกมาสักระยะ แต่การดูแลรักษาถือว่าดีทีเดียวค่ะ
Judgement
ราคาของบ้านระดับ SUPER LUXURY ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์ คือ ปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ จึงไม่สามารถให้คะแนนได้ค่ะ
BOTTOM LINE
Grand Bangkok Boulevard สุขุมวิท เหมาะกับคนที่ต้องการหาบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หรือทำงานย่านแบริ่ง สมุทรปราการ เน้นทำเลที่สงบไม่พลุกพล่าน เข้าถึงง่ายเหมาะกับใช้รถส่วนตัว หรือเป็นครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีคนหลายรุ่นในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ชอบบ้านสไตล์ English craftsman เน้นฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัย และเน้นการจัดพื้นที่ส่วนต่างๆภายในบ้าน และไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณค่ะ
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving