Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า บ้านเดี่ยวหรูบนถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ The Mall บางแค จาก SC Asset [รีวิวฉบับที่ 2265]

Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2564

พิกัด Google Maps : 13.725823878662652, 100.4019983785978
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ในซอย 001 กาญจนาภิเษก 7 ที่เชื่อมต่อมาจากถนนกาญจนาภิเษก เข้ามาจากถนนกาญจนาภิเษกไม่ลึกมาอยู่ที่ประมาณ 400 เมตรเท่านั้นเองค่ะ ซึ่งซอยกาญจนาภิเษก 7 ไม่ใช่ซอยตัน สามารถเชื่อมต่อกับซอยพุทธมณฑลสาย 2 แยก 10 ไปออกถนนพุทธมณฑลสาย 2 และทะลุไปออกถนนเพชรเกษมได้เลยค่ะ โดยจุดเด่นของทำเลนี้แบ่งได้เป็น 3 ข้อหลักๆ ดังนี้

• การเดินทางด้วยรถ : สามารถเข้า – ออกได้ 3 เส้นทางจากถนนกาญจนาภิเษก ถนนเพชรเกษม และถนนพุทธมณฑลสาย 2 ไม่ไกลจากทางขึ้น – ลงทางด่วนกาญจนาภิเษก สามารถเลือกใช้งานทางด่วนได้ 2 เส้นคือทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกไปยังจตุจักร บางซื่อ และถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ไปยังสุขุมวิท – บางนาได้
• มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า : เป็นโครงการบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าค่ะ ออกมาจากโครงการประมาณ 2.7 กิโลเมตรก็ถึงสถานีรถไฟฟ้า MRT หลังสอง สามารถเดินทางเข้าเมือง หรือไปเปลี่ยนเป็นเส้น BTS ก็สะดวกขึ้นค่ะ
• มีความอุดมสมบูรณ์สูง : ที่ตั้งโครงการอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในทำเลนี้อย่าง The Mall บางแคด้วยค่ะ ด้วยระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ในยุคโควิดแบบนี้ถ้าไม่ได้ไปเดินชอปปิ้งก็ยังสามารถสั่งของ Delivery ได้ง่ายๆ ไม่เสียค่าส่งแพงด้วยนะ นอกจากนั้นยังมีสถานศึกษา อย่าง โรงเรียนเด่นหล้า, โรงเรียนเลิศหล้า ฯลฯ และโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค, รพ.ธนบุรี 2 เป็นต้น ทำให้ทำเลนี้ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทีเดียวค่ะ
• ราคากับทำเล : ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ในซอยไม่ได้ติดถนนใหญ่ (เข้าซอยมาเพียง 400 เมตร) เลยทำให้ราคาบ้านเริ่มต้นอยู่ที่ 20 – 30 ล้านบาท เทียบกับบ้านระดับ Luxury ที่อยู่ติดถนนใหญ่ก็จะมีราคาสูงถึง 50 – 100 ล้านบาทเลยค่ะ

ตัวอย่างเส้นทาง การสัญจรสำหรับคนที่ใช้งานถนนเพชรเกษมเป็นหลักค่ะ จากที่ตั้งโครงการสามารถออกสู่ถนนเพชรเกษมผ่านทางซอยเพชรเกษม 88 เป็นเส้นทางสำหรับรับ – ส่งลูกๆ หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีหลักสองได้ และเป็นเส้นทางสำหรับไป The Mall บางแคด้วยค่ะ ส่วนขากลับให้ใช้ถนนเส้นกาญจนาภิเษก เข้าซอย 001 กาญจนาภิเษก 7 แบบที่เราจะพาไปโครงการกันวันนี้ได้เลย

สำหรับเส้นทางการเดินทางวันนี้เราจะเริ่มที่ถนนกาญจนาภิเษกขึ้นทางด่วนมายังโครงการได้สะดวกมากๆค่ะ ลงจากถนนกาญจนาภิเษกแล้วเลี้ยวซ้ายหักศอกเข้าสู่ซอย 001 กาญจนาภิเษก 7 เข้ามาประมาณ 400 เมตร ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า ทำการเกษตรบ้าง เป็นที่ดินที่กำลังมีการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยบ้าง ส่วนบ้านเรือนที่อยู่ในซอย ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นของชุมชนดั้งเดิม บรรยากาศภายในซอยเป็นซอยที่มีรถผ่านเข้า – ออกไม่หนาแน่น แม้เป็นซอยที่สามารถทะลุไปออกได้หลายเส้นทางค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ คลองบางแวก
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินทำการเกษตร
• ทิศใต้ ติดกับ ซอย 001กาญจนาภิเษก 7 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่าบางส่วน และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า

• เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก 4.5 กม.
• บิ๊กซี เพชรเกษม 4.9 กม.
• เมเจอร์ เพชรเกษม 4.9 กม.ซีคอน บางแค 7.4 กม.
• เดอะมอลล์ บางแค 7.8 กม.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค 3.3 กม.
• รพ.ธนบุรี 2  7.2 กม.
• รพ.วิชัยเวช  7.7 กม.
• โรงพยาบาลพญาไท 3  9.3 กม.

โรงเรียน

• โรงเรียนเด่นหล้า 5 กม.
• โรงเรียนเลิศหล้า 7.1 กม.
• โรงเรียนนกรพิทักษ์ศึกษา  8.1 กม.
• โรงเรียนสารสาสน์ วิทยา บางบอน 10.6 กม.

โครงการ Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ บนพื้นที่ดินกว่า 30 ไร่ ออกแบบมาเป็นเอกลักษณ์ได้บรรยากาศตามเมือง Giethoorn ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบรรยากาศของชุมชนชานเมืองที่มีความร่มรื่น มีลำธารไหลผ่านเมืองตรงกลางและเชื่อมต่อถึงกันด้วยสะพานไม้ พร้อมมีสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงปั้นหยาชายคายาวซึ่งถูกนำมาใช้ออกแบบอาคาร Clubhouse ภายในโครงการค่ะ

โครงการนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านเพียง 59 ยูนิต นอกจากนั้นแล้วการวางผังของโครงการยังแบ่งซอยย่อยออกเป็น 2 ฝั่ง มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางเป็นส่วนแบ่งโซนตามแบบเมือง Giethoorn ทำให้ซอยย่อยแต่ละซอยมีจำนวนยูนิตเพียง 2 – 4 ยูนิตเท่านั้นเองค่ะ บ้านส่วนใหญ่จึงไม่ติดกับบ้านหลังอื่นข้างๆเลย หรือบางยูนิตก็ติดข้างบ้านเพียงแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง จะเลี้ยงสัตว์หรือมีเด็กๆวิ่งเล่นเต็มที่ก็สบายใจได้ค่ะ ตัวบ้านทั้งหมดจะหันไปทางทิศเหนือ – ทิศใต้ ไม่โดนแสงแดดส่องเข้าด้านหน้าและด้านหลังบ้านโดยตรง และทำให้ตัวบ้านรับลมได้ดีค่ะ

ด้านหน้าโครงการมีทางเข้า – ออกติดกับซอย 001 กาญจนาภิเษก 7 เข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนตรงกลางโครงการก่อนจะถึงพื้นที่สวน และอาคาร Clubhouse ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1.5 ไร่ และมี Facility มาให้พอสมควรเลย รองรับการใช้งานของลูกบ้านทั้ง 59 ยูนิตได้สบายๆค่ะ บรรยากาศของโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

ด้านหน้าทางเข้าโครงการมีป้ายชื่อโครงการมองเห็นได้ชัดเจน พร้อมการตกแต่งด้วย Water Feature สร้างบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ

ซุ้มประตูด้านหน้าโครงการ ออกแบบให้มีขนาดใหญ่โอ่อ่าช่วยบังแดดและฝนได้ดี แบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจนโดยจะมีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตรงกลาง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ ผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access ระยะไกล (Easy Pass) มีรั้วเลื่อนอัตโนมัติทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

ด้านข้างซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีจุดนั่งพักคอยสำหรับใครที่ไม่อยากให้ Delivery ไปส่งของที่บ้านก็สามารถนัดรับที่จุดนี้ได้ค่ะ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างร่มและมองเห็นน้ำพุด้านหน้าโครงการได้ด้วย

เข้ามาด้านในจะเจอกับถนนหลักของโครงการ กว้างประมาณ 12.00 – 14.00 เมตร รถสามารถขับผ่านสวนกันได้สบายๆแม้มีรถที่จอดอยู่ด้านข้างค่ะ

ส่วนในซอยแต่ละซอยมีความกว้างถนนอยู่ที่ 9.00 เมตร รถสามารถขับสวนกันได้เช่นกันค่ะ และบรรยากาศในแต่ละซอยนั้นจะมีความสงบ เนื่องจากมีจำนวนยูนิตเพียงแค่ 1 – 4 ยูนิตเท่านั้นเอง

เข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับวงเวียนเป็นน้ำพุอยู่ตรงกลาง ทำให้การสัญจรภายในโครงการสะดวกขึ้น ใครที่ขับรถออกมาแล้วลืมของก็สามารถกลับรถไปที่บ้านได้สะดวกค่ะ

ถัดมาเราจะมองเห็นสวนส่วนกลางได้ชัดเจนเลยค่ะ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ bangkok boulevard signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า จะออกแบบโดยจำลองบรรยากาศเมือง Giethoorn ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาไว้ที่นี่ ซึ่งจะมีจุดเด่นที่ความร่มรื่น ลำธาร และสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ค่ะ

ส่วน Facility ถือว่ามีมาให้ครบทีเดียวค่ะ เริ่มที่บริเวณล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางมี Jogging Lane ให้วิ่งรอบๆได้สบายๆไม่ต้องลงไปวิ่งบนท้องถนนให้อันตรายนะคะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับสนามหญ้าขนาดใหญ่พร้อมเครื่องเล่น ให้เด็กๆมาวิ่งเล่นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของโครงการนี้มีขนาดประมาณ 1.5 ไร่ค่ะ

จุดเด่นของพื้นที่สวนเลยก็คือสะพานไม้ที่ถอดแบบมาจากสะพานข้ามลำธารในเมือง Giethoorn พร้อมกับพื้นที่รอบๆยังมีที่นั่งพักคอย สะพานโคลงเคลง และที่ปีนป่ายเหมือนเป็นด่านๆให้เด็กๆได้เล่นออกกำลังกายกันได้ค่ะ

ลงมาจากสะพานก็มีพื้นที่นั่งเล่นไม้เหมือนสะพานแขวนเป็น gimmick เล็กๆน้อยๆด้วย

ถัดมา Highlight อีกจุดคือลำธารที่สามารถมองไปเห็นอาคาร Clubhouse ด้านในได้ บรรยากาศน่านั่งเล่นพักผ่อนยามเช้าๆ หรือเย็นๆพาคุณตาคุณยายออกมาเดินเล่นก็น่าจะดีทีเดียวค่ะ

มีทางเดินเลียบลำธารบรรยากาศสบายๆ มีการตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวตลอดทั้งสองข้างทาง พร้อมที่นั่งเล่นริมน้ำให้นั่งพักผ่อนกันได้ค่ะ

ถัดมาบริเวณ Clubhouse จะถูกแบ่งออกเป็น 3 อาคารย่อยๆ เหมือนกับชุมชนในเมือง Giethoorn แตกต่างจาก Clubhouse ของโครงการทั่วไปที่มักจะทำเป็นอาคารขนาดใหญ่อาคารเดียวค่ะ

สระว่ายน้ำของโครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 สระ ด้านหน้า Clubhouse เราจะเจอกับสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ก่อนค่ะ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6.10 x 15.70 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายก็ได้ หรือมาเล่นน้ำสบายๆเน้นชมวิวก็ดีค่ะ

ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นสบายๆ ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานอนอ่านหนังสือก็น่าสนใจนะคะ

ส่วนสระเด็กจะแยกส่วนมาให้ด้านในทำให้ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆสามารถว่ายน้ำอย่างเป็นส่วนตัวได้ เด็กๆก็สามารถเล่นสนุกสนานกันได้เต็มที่เช่นกันค่ะ สระว่ายน้ำเด็กก็เป็นระบบเกลือ มีขนาดประมาณ  5.20 x 8.30 เมตร ลึก 0.6 เมตร และอยู่ติดกับห้อง Co-Working Space เผื่อผู้ปกครองนั่งมองเด็กๆจากข้างในได้ค่ะ

เรามาดูห้อง Co-Working Space ที่อยู่ด้านข้างกันค่ะ

ภายในห้อง Co-Working Space เป็นอาคารโถงสูงเกือบ 6 เมตรดูโปร่งสบาย มีการแบ่งโซนพื้นที่ทำงานมาให้ค่อนข้างหลากหลายเลย สามารถเลือกได้ว่าอยากนั่งทำงานเดี่ยวๆ เป็นส่วนตัว นั่งเล่นพักผ่อนชมวิวด้านนอก หรือนั่งรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ก็มีให้เลือกค่ะ

ด้านหลังของ Co-Working Space มีพื้นที่แบ่งห้องที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นทางด้านขวามือ เป็นห้อง Meeting Room สำหรับนั่งประชุมแยก หรือนัดคุยธุระกับบุคคลภายนอกได้โดยไม่ต้องเข้าไปที่บ้านค่ะ

ภายในห้อง Meeting Room ก็แบ่งออกเป็น 5 โต๊ะ สามารถแยกส่วนกันได้ มีหน้าจอ TV รองรับการใช้งานประชุมได้เต็มที่

อาคารถัดมาจะเป็นพื้นที่ Service ประกอบด้วยห้องน้ำแยกชาย – หญิง และมีห้องน้ำพิเศษสำหรับผู้สูงอายุมาให้ด้วยค่ะ ภายในห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่รองรับการใช้งานรถเข็นได้ และมีราวจับมาให้รอบด้านใช้งานได้สะดวก

ส่วนห้องน้ำทั่วไปแยกชาย – หญิงด้านในจะมี Locker เก็บของสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของเพื่อจะได้ไปออกกำลังกายได้สะดวกค่ะ มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

อาคารหลังสุดท้ายเป็นอาคาร Fitness ด้านหน้าอาคารมีจุดล้างตัวสำหรับลงเล่นสระว่ายน้ำอยู่ด้วยค่ะ

ภายใน Fitness ก็เป็นห้องฝ้าเพดานสูงทำให้ดูโปร่งเหมาะกับการออกกำลังกาย มีเครื่องเล่นมาให้ครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Weight Training หรือ Cardio Training ภายในห้องยังสามารถมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและลำธารได้อีกด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
• ห้องนั่งเล่น Lobby Lounge
• Co-Working Space
• Meeting Room
• สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ ขนาด 6.10 x 15.70 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 5.20 x 8.30 เมตร ลึก 0.6 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ และพื้นที่พักผ่อน
• สนามเด็กเล่น
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการทุกซอยย่อย
• รั้วรอบโครงการสูง 2.80 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม n/a เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• Key Card Access ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง

แบบบ้านภายในโครงการ Bangkok boulevard signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกันค่ะ เป็นบ้านหน้ากว้างขนาดใหญ่ได้ที่ดินเริ่มต้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไป (ที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละประมาณ 120,000 บาท) จอดรถได้ 4 คันทั้งหมด พร้อมห้องนอนชั้นล่าง และทางลาดทุกยูนิตรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้เต็มที่ค่ะ โดยบ้านแต่ละแบบจะมีรายละเอียด ดังนี้

• WIEDEN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 100.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 23.9 ล้านบาท
• MOLENGANT บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 104.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 442 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 26.9 ล้านบาท
• GIETHOORN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 119.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 521 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท

บ้านมาตรฐานภายในโครงการเป็นโครงการ Conventional ก่ออิฐ Q-CON สามารถต่อเติมเพิ่มลด ภายในบ้านได้ไม่กระทบกับโครงสร้าง ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมรายละเอียดบ้าน Type เริ่มต้น WIEDEN และ Type กลาง MOLENGANT ส่วนบ้านหลังใหญ่จะพาไปชมในรายการ Think’s Update เดี๋ยวเราจะแนบ Link ไว้ให้ด้านล่างสุดหลังพาชมบ้านครบแล้วนะคะ ^^

แบบบ้าน Type เริ่มต้น WIEDEN ก็เป็นบ้านไซส์ใหญ่ 351 ตารางเมตร บนที่ดิน 100.9 ตารางวา ซึ่งเป็นบ้านที่มีฟังก์ชันครบแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวไทยเชื่อมต่อกับลานซักล้างและห้องแม่บ้านประจำ รวมถึงห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวที่ชั้น 2 พร้อมห้องนอนและห้องน้ำในตัวทุกห้อง

ชั้น 1 : สามารถจอดรถได้ 4 คัน เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Common Area แบ่งเป็นพื้นที่รับแขก และห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยังห้องนอนชั้นล่างที่มีห้องน้ำในตัวมาให้เรียบร้อยค่ะ สามารถรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นได้เลย เพราะมีทั้งทางลาดเข้าสู่ตัวบ้านและห้องน้ำที่มีระดับเท่ากับพื้นห้อง อีกฝั่งเป็นส่วน Service แบ่งเป็นห้องครัวไทย ห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขก และพื้นที่ลานซักล้างที่มีห้องแม่บ้านและห้องน้ำแยกมาให้เป็นสัดส่วน สามารถเข้าจากที่จอดรถได้สะดวกค่ะ

ชั้น 2 : พื้นที่ชั้น 2 มี Family Area สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว หรือเป็นห้องนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจากชั้น 1 ค่ะ ส่วนห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งห้องนอนรอง 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัวและสามารถทำ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนได้ค่ะ ส่วนห้อง Master Bedroom จะมีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ แบ่งเป็นส่วนพักผ่อนพร้อมระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นแยกออกมาทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์ในห้องนอนได้ ส่วน Walk-in Closet จะมีพื้นที่กว้าง เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่ได้อ่างอาบน้ำ Jacuzzi มาให้ด้วย

หน้าตาตัวบ้านภายในโครงการมีการออกแบบเป็นสไตล์ Modern Luxury มีจุดเด่นที่หลังคาทรงจั่วด้านหน้าบ้าน ซึ่งเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom และจะได้ฝ้าเพดานสูงตามลักษณะของหน้าจั่วด้วยค่ะ บรรยากาศภายในบ้านจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ที่จอดรถสามารถจอดได้ทั้งหมด 4 คัน แบ่งเป็นจอดในร่ม 3 คันและจอดด้านข้างบ้านอีก 1 คันค่ะ พื้นทรายล้างดูสวยงาม โครงสร้างของพื้นที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตบนคาน ส่วนที่เกินออกจากตัวบ้านเป็นพื้น Approach Slab ไม่ต้องห่วงเรื่องการทรุดตัวเลยค่ะ

จากที่จอดรถมีประตูทางเข้าบ้านสำหรับนำของไปเก็บในครัวหรือเดินขึ้นชั้น 2 ได้สะดวกโดยไม่ต้องผ่านห้องรับแขก บริเวณนี้จะได้ Digital Door Lock มาให้ด้วยค่ะ เข้า – ออกได้สะดวกไม่ต้องพกกุญแจให้ยุ่งยาก

ด้านข้างจะมีชั้นเก็บของมาให้ 1 จุด ทาสีเดียวกับผนังทำให้กลืนกันไปดูสวยงาม ไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์ หรืออุปกรณ์ทำสวน ให้หยิบใช้งานได้ง่ายๆค่ะ

ด้านข้างบ้านสามารถทำทางเดินจากที่จอดรถมาเข้ายังบริเวณลานซักล้างด้านหลัง สำหรับแม่บ้านหรือมาเก็บของก็ได้นะคะ

ส่วนพื้นที่ด้านข้างอีกฝั่งหนึ่งเป็นฝั่งที่สามารถมองเห็นได้จากห้องนอนชั้น 1 ค่ะ สามารถทำเป็นสวนหย่อม พื้นที่นั่งเล่น จัดปาร์ตี้วันพิเศษกันในครอบครัวได้

ข้อดีของบ้านที่นี่คือทุกยูนิตจะมีทางลาดเข้าทางด้านหน้าบ้านจากที่จอดรถแบบนี้เลยค่ะ สำหรับลากกระเป๋าเดินทาง หรือจะเข็นรถเข็นให้คุณปู่ คุณย่าก็สะดวก

ด้านหน้าบ้านมีชานด้านหน้าค่อนข้างกว้างทำให้เป็นพื้นที่ร่มกันแดดกันฝนได้ดี และยังสามารถทำชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้ค่ะ

ส่วนประตูหน้าต่างของบ้านใช้เป็นกรอบบานอะลูมิเนียม Tostem แบรนด์จากญี่ปุ่นที่เรามักจะเห็นในบ้านระดับ Luxury หลายๆโครงการนั่นเองค่ะ มีคุณสมบัติคือ มีความแข็งแรง และสวยงามคงทนด้วยสี anodized

เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่รับแขกก่อนค่ะ โดยพื้นชั้น 1 จะปูด้วยพื้นพอร์ซเลน ลายหินอ่อนผิวด้าน นำเข้าจากประเทศสเปน  ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดโคมไฟ Down light ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตร โปร่งสบาย และมีช่องแสงธรรมชาติเข้าจากทางด้างด้านข้างและด้านหลังบ้านให้ดูสบายไม่อึดอัดค่ะ

ห้องรับแขกมีขนาดประมาณ 3.75 x 3.90 เมตร ขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟาตัว L และโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ 3.60 เมตรเหมาะกับวาง TV ขนาด 42 นิ้วขึ้นไป และมีช่องแสงด้านหลังโซฟาทำให้ห้องนี้ดูโปร่งมากขึ้นด้วย

เข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ยาวต่อเนื่องไปจนถึงห้องครัวเลยค่ะ มีความยาวอยู่ที่ 6.40 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่งพร้อมทำเคาน์เตอร์ ไอแลนด์ เป็นส่วนเตรียมอาหารด้านข้างได้อีกด้วยค่ะ

ห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่รับแขก และพื้นที่รับประทานอาหาร ใครที่ไม่ใช้เป็นห้องนอนก็สามารถทำเป็นส่วนนั่งเล่น หรือห้องออกกำลังกายส่วนตัว หรือห้องทำงานก็ได้ค่ะ

ห้องนี้มีห้องน้ำในตัว และมีช่องแสงกว้างทั้ง 2 ฝั่งทำให้บรรยากาศโปร่งสบายเหมาะกับการพักผ่อน มีพื้นที่ภายในประมาณ 2.75 x 3.80 เมตร ไม่รวมห้องน้ำ ถ้าทำเป็นห้องนอนก็สามารถ Built-in Walk-in Closet ได้สบายๆค่ะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำที่ไม่มีการลดระดับพื้นค่ะ รองรับการใช้งานรถเข็น หรือป้องกันการเดินสะดุดได้ดี ภายในมีอ่างล้างหน้าพร้อมลิ้นชักเก็บของ และสุขภัณฑ์จาก Kohler และส่วนอาบน้ำที่ระดับพื้นเท่ากันให้ผู้สูงอายุสามารถอาบน้ำได้สะดวกด้วยค่ะ

จากห้องนอนชั้น 1 สามารถมองออกมาเห็นภายในบ้านได้ทั่วถึงเลยค่ะ ถัดไปเราจะพาไปชมอีกฝั่งของบ้านกันบ้างค่ะ

ฝั่งนี้เป็นส่วน Service ของบ้านประกอบด้วยห้องครัว (ซ้ายมือ) ห้องเก็บของใต้บันได (ขวามือ) และห้องน้ำแบบ Powder Room ด้านในสุดหลบซ่อนสายตาได้ดีค่ะ

ห้องเก็บของมีขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถทำเป็นชั้นวางของแยกประเภทการใช้งาน หรือเก็บของชิ้นใหญ่อย่างเช่น จักรยาน หรือเครื่องออกกำลังกายได้ ภายในมี Main Board ไฟฟ้าแต่ควรระวังไม่เอาอะไรไปวางขวางนะคะ

ภายในบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัย Magnetic & Shock Sensor มาให้ทุกยูนิตเลยค่ะ จาก Inim

ด้านในก่อนถึงห้องน้ำจะมีผนังเว้ามาให้จุดหนึ่งทางขวามือสามารถ Built-in ชั้นเก็บของ หรือตู้โชว์เพิ่มเติมได้

ห้องน้ำชั้น 1 สำหรับใช้ร่วมกันจะเป็นห้อง Powder Room ค่ะ เป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ ห้องนี้จะได้สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก Kohler ด้วยค่ะ ซึ่งจะมีเพียงแค่ห้องน้ำ Powder Room และห้องน้ำใน Master Bedroom เท่านั้นที่จะได้เป็นระบบอัตโนมัติค่ะ

ถัดมาเรามาดูห้องครัวกันค่ะ ในบ้านมาตรฐานจะได้ห้องครัวเป็นห้องผนังทึบนะคะ แต่สามารถทำเป็นผนังกระจกแบบในบ้านตัวอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้ดูโปร่งมากขึ้นได้ค่ะ ภายในครัวมีพื้นที่ประมาณ 2.50 x 3.25 เมตร เหมาะกับการ Built-in เคาน์เตอร์รูปทรงตัว L ค่ะ

จากห้องครัวสามารถเชื่อมต่อออกมายังลานซักล้างด้านข้างบ้านได้ ซึ่งจะเป็นส่วนใต้อาคารช่วยบังแดดและฝน แต่ก็ยังมีลมระบายอากาศได้ดีค่ะ

มีห้องสำหรับแม่บ้านมาให้สำหรับคนที่มีแม่บ้านประจำด้วยค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีแม่บ้านประจำก็สามารถปรับเป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ได้อีกจุดหนึ่งเลย

อีกฝั่งหนึ่งมีห้องน้ำแม่บ้านแยกมาให้ ภายในมีพื้นที่อาบน้ำและสุขภัณฑ์ครบค่ะ

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กกว้างประมาณ 1.10 เมตร ลูกนอนกว้าง 27 เซนติเมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร เดินได้สบายๆ ปูลูกนอนด้วยไม้สำเร็จรูปเข้ากันกับพื้นชั้น 2 โถงบันไดจะไม่ได้มีช่องแสงขนาดใหญ่มากนัก ซึ่งมีข้อดีคือทำให้แสงแดดและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ไม่มากนั่นเองค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 แล้วจะเจอกับส่วนโถงชั้น 2 หรือเป็นพื้นที่ Family Area ก่อนแยกไปยังห้องนอนต่างๆ โดยพื้นชั้น 2 ปูด้วย Engineering Wood Topไม้จริง มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตรเท่ากับชั้น 1 ค่ะ

พื้นที่ Family Area มีขนาดประมาณ 2.50 x 3.55 เมตร สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย บ้านไหนชอบออกกำลังกาย ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่วางลู่วิ่งได้ หรือจะทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวก็ได้ค่ะ บริเวณนี้จะได้ช่องแสงธรรมชาติกว้าง รับแสงเข้ามาจากด้านข้างบ้านได้ค่อนข้างเยอะเลย

เรามาดูห้องนอนรองกันก่อนนะคะ ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ทางด้านหลังบ้าน มีช่องแสงกว้างมองเห็นวิวสวนด้านหลังบ้านได้ ส่วนพักผ่อนมีพื้นที่อยู่ที่ 2.85 x 3.80 เมตร สามารถวางเตียงนอน 5 – 6 ฟุตได้เลยค่ะ

ภายในห้องนอนสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 จะได้ชุดสุขภัณฑ์ภายในเหมือนกับห้องน้ำภายในห้องนอนชั้น 1 เลยค่ะ ได้ชุดสุขภัณฑ์จาก Kohler แต่จะมีพื้นที่อาบน้ำลดระดับมาให้ ยืนอาบได้สบายๆ มีช่องวางสบู่ แชมพูด้านข้าง พร้อมกับช่องเปิดระบายความอับชื้นได้ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมนะคะ

ห้องนอนรองที่ 2 จะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านค่ะ ได้ช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะอยู่ที่ 3.15 x 3.60 เมตร สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้เช่นกันค่ะ

นอกจากนั้นยังสามารถแยกสัดส่วน Walk-in Closet ได้ทุกห้องเลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนรองห้องนี้จะได้พื้นที่อาบน้ำแยกสัดส่วนกับสุขภัณฑ์ สามารถกั้นฉากกั้นตรงๆได้เลยค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดจะได้เหมือนกับในห้องนอนห้องแรกเลย

มาดู Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้ถือว่าเป็น Highlight ของบ้านเลยก็ว่าได้เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่แล้วยังได้ฝ้าเพดานสูงกว่า 4 เมตรตามแนวของหน้าจั่วด้วยค่ะ

ห้อง Master Bedroom จะมีพื้นที่วางเตียงกว้างประมาณ 3.85 x 5.00 เมตร (ไม่รวมพื้นที่ Walk-in Closet) สามารถวางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆ และเชื่อมต่อไปยังระเบียงส่วนตัวที่เป็น Semi – Outdoor ด้วยค่ะ

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1.62 เมตร ออกมาใช้งานวางม้านั่งชมวิว หรือโต๊ะนั่งเล่นจิบชาได้ ฝ้าเพดานเป็นจั่วทรงสูงนอกจากความสวยงามแล้วยังช่วยลดความร้อนให้กับพื้นที่ระเบียงได้ค่ะ นอกจากนั้นยังมีกับราวกันตกที่เป็นกระจกดูโมเดิร์นไม่รบกวนสายตาเวลามองจากในห้องอีกด้วย

อีกฝั่งหนึ่งนอกจากพื้นที่ Walk-in Closet แล้วเราจะเห็นห้องแยกออกไปทางซ้ายมือ นั่นคือพื้นที่นั่งเล่นอเนกประสงค์ในห้องนอนค่ะ

ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.40 x 3.10 เมตร สามารถทำเป็นห้องทำงานส่วนตัว ห้องออกกำลังกาย ห้องพระสำหรับนั่งสมาธิ หรือเป็นห้องพักผ่อนหย่อนใจก็ได้ ภายในห้องจะได้ช่องแสงกว้างทั้ง 2 ฝั่งมองเห็นวิวสวนด้านหน้าบ้านได้ชัดเจนค่ะ

พื้นที่ Walk-in closet มีขนาดประมาณ 2.30 x 3.95 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่ยืนแต่งตัวได้ไม่อึดอัด เชื่อมต่อกับห้องน้ำทำให้ใช้งานสะดวกอาบน้ำออกมาแต่งตัวได้เลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำของ Master Bathroom จะได้เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำมาให้ แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นสัดส่วนชัดเจนค่ะ

สุขภัณฑ์ภายในจะอัปเกรดขึ้นมาจากห้องอื่นได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ และระบบน้ำเป็นระบบน้ำร้อน – น้ำเย็น พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ค่ะ ตัวอ่างอาบน้ำจะได้อ่าง Jacuzzi นอนนวดตัวได้สบายๆเลย

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนพร้อม Rain Shower และเป็นระบบน้ำร้อนค่ะ ส่วนห้องอื่นๆจะได้เป็นระบบเครื่องทำน้ำอุ่นปกติ

แบบบ้าน Type กลาง MOLENGANT เป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่ที่ 442 ตารางเมตร ซึ่งจะมีความแตกต่างจากบ้านหลังเริ่มต้นตรงที่สามารถจัดพื้นที่นั่งเล่นชั้น 1 ได้ถึง 2 จุด และมีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้างบ้าน ส่วนชั้น 2 จะมีพื้นที่ Family Area ขนาดใหญ่กั้นเป็นห้องเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

ชั้น 1 : สามารถจอดรถได้ 4 คันเช่นเดียวกันค่ะเข้ามาบ้านมาแล้วจะเจอกับส่วนรับแขกก่อน สามารถกั้นเป็นห้องรับแขกแยกส่วนจากพื้นที่ด้านในบ้านได้เลยค่ะ ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และส่วนพักผ่อนเชื่อมต่อกับสวนด้านข้าง ทำเป็นลานนั่งเล่น หรือศาลากลางสวนได้ แบบบ้าน Type นี้จะมีห้องนอนอยู่ทางด้านหน้าบ้านด้วยค่ะ ส่วนห้องครัวจะได้ขนาดใหญ่ขึ้นเชื่อมต่อกับลานซักล้างและมีห้องแม่บ้านเช่นเดียวกัน

ชั้น 2 : แบ่งพื้นที่การใช้งานคล้ายกับบ้านแบบแรกเลยค่ะ แต่จะมีพื้นที่ Family Area กว้างขึ้นสามารถกั้นเป็นห้องนอนได้อีก 1 ห้องเลยค่ะ  ส่วนห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งห้องนอนรอง 2 ห้อง ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัวและสามารถทำ Walk-in Closet ได้ บรรยากาศภายในบ้านจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

ด้านหน้าบ้านจะสังเกตได้ว่ามีความกว้างมากขึ้นกว่าแบบแรกค่ะ แต่ยังคงเป็นการออกแบบสไตล์ Modern Luxury เน้นรูปทรงหน้าจั่วของห้อง Master Bedroom อยู่เหมือนกันค่ะ

ที่จอดรถสามารถจอดได้ทั้งหมด 4 คัน แบ่งเป็นจอดในร่ม 3 คันและจอดด้านข้างบ้านอีก 1 คัน วัสดุพื้นและโครงการสร้างเหมือนกับทุกแบบ นั่นก็คือพื้นทรายล้าง โครงสร้างคอนกรีตบนคาน ส่วนที่เกินออกจากตัวบ้านเป็นพื้น Approach Slab มีความคงทนแข็งแรงค่ะ

มีทางเข้าตัวบ้านจากที่จอดรถพร้อม Digital Door Lock สามารถเดินไปยังห้องครัว หรือเดินขึ้นชั้น 2 ได้สะดวก พร้อมกับด้านข้างจะมีชั้นเก็บของมาให้ 1 จุด เช่นเดียวกันกับบ้านแบบแรกเลยค่ะ

ด้านหน้าบ้านมีชานค่อนข้างกว้างกันแดดกันฝนได้ดี สามารถทำชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้ ส่วนประตูหน้าต่างของบ้านใช้เป็นกรอบบานอะลูมิเนียม Tostem เป็นบานเปิดคู่ตรงกลางดูสวยงามค่ะ

เข้ามาภายในบ้าน Type นี้แล้วจะรู้สึกว่ามีความกว้างมากขึ้น มีพื้นที่ห้องรับแขกแยกสัดส่วนจากด้านในตัวบ้านชัดเจน วัสดุพื้นชั้น 1 ปูด้วยพื้นพอร์ซเลน ลายหินอ่อนผิวด้าน ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดโคมไฟ Down light ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตรเช่นกันค่ะ

ห้องรับแขกมีขนาดประมาณ 3.50 x 5.60 เมตร ถือว่ากว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาตัว L ขนาดใหญ่และโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ 5.00 เมตรเหมาะกับวาง TV ขนาด 60 นิ้วขึ้นไปได้เลย นอกจากนั้นยังมีมีช่องแสงด้านหลังโซฟาและด้านหน้าบ้านทำให้ห้องนี้ดูสว่างเพียงพอเลยค่ะ

เข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหาร มีพื้นที่ประมาณ 4.20 x 8.50 เมตร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่งพร้อมทำเคาน์เตอร์ ไอแลนด์ และพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวของครอบครัวด้านข้างเพิ่มเติมได้อีกด้วยค่ะ

สำหรับใครที่ชอบจัดปาร์ตี้พาเพื่อนๆมานั่งเล่นกินดื่มทำบาร์บีคิวกันที่บ้านก็สามารถทำลานเชื่อมต่อกับตัวบ้านเหมือนในบ้านตัวอย่างได้นะคะ จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับรับประทานอาหารและชานในสวนได้เลย

อีกฝั่งหนึ่งยังสามารถจัดเป็นเคาน์เตอร์ครัวฝรั่ง หรือส่วนเตรียมอาหารเพิ่มเติมได้เช่นกันค่ะ มีพื้นที่ตรงนี้ให้ Built-in ประมาณ 2.25 x 3.00 เมตร เลย

ถัดมาด้านในเป็นส่วนที่มีความ Private มากขึ้น แบ่งเป็นห้องนอนทางด้านซ้ายมือ ห้องครัวทางด้านขวามือ และมีห้องน้ำ Powder Room อยู่ตรงกลางสุดทางเดินค่ะ ห้องน้ำอาจจะไกลจากห้องรับแขกสักหน่อยแต่จะเป็นการแบ่งแยกโซนพักผ่อนกับส่วน Service ออกจากกันชัดเจนค่ะ

ห้องนอนชั้นล่างในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องออกกำลังกายค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 3.50 เมตร สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำส่วนตัวใช้งานได้สะดวก บ้านใครอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุก็เหมาะทีเดียวค่ะ สามารถพาผู้สูงอายุเข้าห้องจากด้านหน้าบ้านได้เลย

ห้องน้ำภายในห้องนอนชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำที่ไม่มีการลดระดับพื้นเช่นกันค่ะ รองรับการใช้งานรถเข็นได้ดี ภายในมีอ่างล้างหน้าพร้อมลิ้นชักเก็บของ และสุขภัณฑ์จาก Kohler และส่วนอาบน้ำที่ระดับพื้นเท่ากันให้ผู้สูงอายุสามารถอาบน้ำได้สะดวกค่ะ

ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องเก็บของ ห้องครัว และห้องน้ำค่ะ

ห้องเก็บของมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ใช้พื้นที่ภายในใต้บันไดเกือบทั้งหมดเลยค่ะ ภายในมี Main Board ไฟฟ้ามาให้ แนะนำให้จัดพื้นที่เก็บของให้เป็นสัดส่วน และควรเว้นพื้นที่ด้านหน้าตู้ไฟไว้ เวลาฉุกเฉินมาเปิดใช้งานจะได้สะดวกค่ะ

ห้องน้ำชั้น 1 สำหรับใช้ร่วมกันจะเป็นห้อง Powder Room ไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ จะเป็นห้องน้ำที่มีความแห้งอยู่ตลอดเวลา สำหรับรับแขกและใช้งานเมื่ออยู่ด้านล่าง สุขภัณฑ์ให้ห้องน้ำจะได้เป็นโถอัตโนมัติจาก Kohler ด้วย

ส่วนห้องครัวจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาสามารถทำอาหารได้จริงจังมากขึ้น มีพื้นที่ประมาณ 3.20 x 3.40 เมตร สามารถทำเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U ใช้งานพร้อมกันได้ 3-4 คนสบายๆเลยค่ะ ด้านข้างมีทางออกไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้

ฝั่งตรงข้ามห้องครัวมีผนังเว้าสามารถ Built-in ชั้นวางของใช้ที่หยิบบ่อยๆก่อนออกจากบ้านได้นะคะ เช่น พวงกุญแจ ร่ม กระเป๋าถือ เป็นต้น

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กกว้างประมาณ 1.35 เมตรถือว่ากว้างกว่าปกติเดินได้สบายๆเลยค่ะ ลูกนอนกว้างประมาณ 27 เซนติเมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร ปูพื้นด้วยไม้สำเร็จรูปสีเข้ากันกับพื้นชั้น 2 โถงบันไดของบ้าน Type นี้มีช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยให้บ้านดูโปร่งและสว่างมากขึ้น

ชั้น 2 ปูพื้นด้วย Engineering Wood Topไม้จริง ฝ้าเพดานสูง 2.80 เมตรเท่ากันกับชั้นล่าง ซึ่งทำให้ห้องต่างๆ มีความโปร่งอยู่พอสมควรเลยค่ะ เมื่อเดินขึ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Family Area ที่แบ่งออกเป็นห้องๆหนึ่งได้เลย

พื้นที่ด้านข้างโถงทางเดินสามารถ Built – in ตู้โชว์ หรือทำผนังตกแต่งให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์แบบที่เจ้าของบ้านชอบได้ค่ะ

พื้นที่ Family Area มีขนาดประมาณ 3.50 x 4.70 เมตร ขนาดใหญ่วางเตียง king size 6 ฟุตได้สบายๆ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือจะเป็นห้องนอนสำหรับมีแขกมาเยี่ยมก็ได้ค่ะ บริเวณนี้จะได้ช่องแสงธรรมชาติกว้างทางด้านหน้าบ้าน รับแสงเข้ามาจากด้านข้างบ้านได้เยอะ

มาดูห้องนอนกันค่ะ เริ่มที่ห้องนอนรองทางด้านหน้าบ้านกันก่อน ห้องนี้มีขนาด 3.50 x 4.55 เมตร สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ หรือจะจัดเป็นมุมทำงาน มุมนั่งอ่านหนังสือเพิ่มเติมได้เลยค่ะ ห้องนี้จะได้ช่องแสงจากด้านหน้าบ้าน มองเห็นวิวได้กว้างเลย

นอกจากนั้นภายในห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวกด้วยค่ะ

ห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก – แห้งชัดเจน ได้ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนชั้น 1 ค่ะ แต่จะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ได้ช่องแสงเปิดระบายอากาศได้กว้าง และกระจกบานใหญ่ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมนะคะ

ส่วนห้องนอนรองที่ 2 จะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน มีพื้นที่ยาวประมาณ 5.90 เมตร กว้าง 4.20 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นห้องขนาดใหญ่เทียบเท่าห้อง Master Bedroom ในบ้านเดี่ยวขนาดเล็กหลายโครงการเลยค่ะ สามารถแบ่งเป็นส่วนพักผ่อน วางเตียง 5-6 ได้สบายๆ และส่วน Walk-in Closet แยกกันได้เลย

จากในบ้านตัวอย่างได้แบ่งโซนเป็นส่วนห้องนอน 4.20 x 4.20 เมตร และพื้นที่แต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก 1.70 x 3.00 เมตร ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนจะได้เหมือนกับห้องที่ผ่านมาเลยค่ะ แต่อาจจะมีการตกแต่งลวดลายกระเบื้องแตกต่างกันออกไป สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Kohler พร้อมระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

มาดูห้องสุดท้ายคือห้อง Master Bedroom กันบ้างค่ะ ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าบ้านแบบแรกพอสมควรค่ะ สามารถจัดแยกโซนเป็นส่วนพักผ่อนและส่วน Walk-in Closet กับห้องน้ำเหมือนในบ้านตัวอย่างได้เลย

ส่วนห้องนอนพักผ่อนจะเป็นพื้นที่ตรงจั่วของบ้านทำให้ได้ฝ้าเพดานสูงพร้อมช่องแสงที่ใหญ่ตั้งแต่พื้นจนถึงฝ้าเพดาน ทำให้ห้องมีความโปร่งและสว่างทั่วถึงทั้งห้องเลยค่ะ ห้อง Master Bedroom จะมีพื้นที่วางเตียงกว้างประมาณ 4.70 x 5.00 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆ และเชื่อมต่อไปยังระเบียงส่วนตัวที่เป็น Semi – Outdoor เช่นกันค่ะ

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1.35 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร ออกมาใช้งานชมวิว วางโต๊ะนั่งเล่นหรือว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้กระถางให้บรรยากาศสีเขียวสบายตาก็สามารถทำได้ค่ะ

ถัดมาด้านในอีกฝั่งหนึ่งในห้องนอน Master Bedroom สามารถจัดพื้นที่ส่วนตัวเป็นห้องแยกเล็กๆไว้เก็บของ หรือเป็นพื้นที่พักผ่อนก่อนนอนอีกจุดหนึ่งได้ค่ะ

ถัดมาเรามาดูโซน Walk-in Closet กันบ้างค่ะ

พื้นที่ Walk-in closet มีขนาดประมาณ 2.90 x 5.20 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้ารูปตัว U มีพื้นที่ตรงกลางยืนแต่งตัวได้ไม่อึดอัด พร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งคู่แบบ His & Her ได้เลย พื้นที่ Walk-in จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำทำให้ใช้งานสะดวกค่ะ

ห้องน้ำของ Master Bathroom จะได้เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน ที่มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her และมีการอัปเกรดสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติ รองรับระบบน้ำร้อน พร้อมอ่างอาบน้ำแบบ Jacuzzi ให้ด้วยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ ยืนอาบได้สบาย ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนพร้อม Rain Shower และเป็นระบบน้ำร้อนค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ส่วนบ้าน Type ใหญ่ที่สุด GIETHOORN เราจะพาไปชมในรายการ Think’s Update กันนะคะ สามารถคลิกดูที่ด้านล่างนี้ได้เลย

Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2564

• WIEDEN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 100.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 23.9 ล้านบาท
• MOLENGANT บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 104.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 442 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 26.9 ล้านบาท
• GIETHOORN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 119.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 521 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
• เงินจอง 200,000 บาท ทำสัญญา 20%
• ผ่อนดาวน์งวดละ 100,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 44 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Bangkok Boulevard Signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ในซอย 001 กาญจนาภิเษก 7 ที่เชื่อมต่อมาจากถนนกาญจนาภิเษกประมาณ 400 เมตร สามารถเข้า – ออกได้ 3 เส้นทางจากถนนกาญจนาภิเษก ถนนเพชรเกษม และถนนพุทธมณฑลสาย 2 ไม่ไกลจากทางขึ้น – ลงทางด่วนกาญจนาภิเษก สามารถเลือกใช้งานทางด่วนได้ 2 เส้นคือทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกไปยังจตุจักร บางซื่อ และถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ไปยังสุขุมวิท – บางนาได้ และมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สถานี MRT หลักสอง (ระยะทางประมาณ 2.70 กิโลเมตร)

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ก็หายห่วงเนื่องจากอยู่ในทำที่มีความเจริญ ไกลจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในทำเลนี้อย่าง The Mall บางแค, Tesco Lotus, Big C เพชรเกษม อีกทั้งยังมีสถานศึกษา เช่น โรงเรียนเด่นหล้า, โรงเรียนเลิศหล้า และโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค, รพ.ธนบุรี 2 ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ภายในโครงการมีทางเข้า-ออกเพียงจุดเดียว และมีจำนวนลูกบ้านน้อยอยู่ที่ 59 ยูนิต ทำให้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ง่าย ทางเข้า-ออกเป็นระบบ Easy Pass มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ติดที่ทางเข้า-ออกและภายในโครงการทุกซอยย่อย ส่วนตัวบ้านจะได้ระบบรักษาความปลอดภัย Magnetic & Shock Sensor  พร้อม Digital Door Lock มาให้ทุกยูนิตค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เมือง Giethoorn ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นบรรยากาศของชุมชนชานเมืองที่มีความร่มรื่น มีลำธารไหลผ่านเมืองตรงกลาง เหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาได้ค่อนข้างให้ความรู้สึกนั้นจริงๆค่ะ ส่วนการวางผังของโครงการทำออกมาได้ดี แต่ละซอยมีจำนวนยูนิตเพียง 2 – 4 ยูนิตเท่านั้น บ้านส่วนใหญ่จึงไม่ติดกับบ้านหลังอื่นข้างๆเลย หรือบางยูนิตก็ติดข้างบ้านเพียงแค่ฝั่งเดียวทำให้เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ

ตัวบ้านมีการออกแบบเป็นสไตล์ Modern Luxury มีจุดเด่นที่หลังคาทรงจั่วด้านหน้าบ้าน ซึ่งเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom และจะได้ฝ้าเพดานสูงตามลักษณะของหน้าจั่วเป็น Highlight ของบ้านเลยค่ะ บ้านแต่ละ Type ทำออกมาฟังก์ชันครบครันตั้งแต่ Type เริ่มต้นเลย มีห้องแม่บ้านทุกแบบ ห้องนอนล่างมีห้องน้ำในตัวเป็นห้องน้ำระดับเท่ากับพื้นห้องรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้เต็มที่ ชั้น 2 มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ภายในห้องนอนทุกห้อง พร้อม Family Area ขนาดใหญ่

วัสดุ :

วัสดุภายในบ้านดีเหมาะสมตามมาตรฐานของระดับราคา ภายในบ้านมีการจะแต่งสวนมาให้ ประตูหน้าต่างเป็นกรอบบานอะลูมิเนียม จาก Tostem พื้นชั้น 1 ปูด้วยพื้นพอร์ซเลน ลายหินอ่อนผิวด้าน นำเข้าจากประเทศสเปน ชั้น 2 เป็นพื้น Engineering Wood Topไม้จริง ได้สุขภัณฑ์ จาก Kohler เป็นสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติในห้องน้ำชั้น 1 (Powder Room) และห้อง Master Bedroom พร้อมอ่าง Jacuzzi ภายในตัวบ้านมีระบบ Home Automation เพิ่มความสะดวกในการควบคุมเปิด – ปิดไฟฟ้าต่างๆด้วยค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

บรรยากาศของโครงการทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ มีความร่มรื่น น่าพักผ่อนเหมาะกับแนวคิดของโครงการ มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ถึง 1.5 ไร่ ตรงกลางพื้นที่สีเขียวมีบ่อน้ำให้สามารถนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้ มีการลงเสาไฟฟ้าใต้ดินให้ในส่วนของตัวบ้านทำให้ไม่มีสายไฟบดบังหน้าบ้านค่ะ แต่แอบเสียดายนิดหน่อยที่บริเวณพื้นที่ส่วนกลางมองเห็นเสาไฟปกติ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคภายในโครงการถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะนะคะถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตเพียง 59 ยูนิต ประกอบด้วย Jogging Lane รอบสวนสาธารณะ พื้นที่สวนมีเครื่องเล่นเด็ก และพื้นที่นั่งพักผ่อน มี Highlight อยู่ที่บ่อลำธาร ซึ่งให้บรรยากาศเหมือนกับเมือง Giethoorn ประเทศเนเธอร์แลนด์ และทางโครงการเลือกแบ่ง Clubhouse ออกเป็น 3 อาคารย่อยๆ ประกอบด้วยห้อง Co-Working Space, Meeting Room, Fitness และห้องน้ำ มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านนอกแบ่งเป็น 2 สระ ระบบเกลือ บรรยากาศน่าใช้งาน ส่วนถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12.00 – 14.00 เมตร และซอยย่อยกว้าง 9.00 เมตรสามารถขับรถสวนกันได้สบายๆค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 30 ล้านบาทขึ้นไป, 5 สิงหาคม 2564

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – เข้าจากถนนใหญ่ 400 เมตร สามารถเข้า-ออกได้ 3 เส้นทางและมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีหลักสอง
• ความปลอดภัย 8/10 – มี รปภ. 24 ชั่วโมง,Easy Pass, Digital Door Lock, Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – มีแนวคิดในการออกแบบชัดเจน วางผังโครงการและออกแบบบ้านฟังก์ชันครบ ลงตัว
• วัสดุ 8.5/10 – มาตรฐานของระดับ Luxury Class
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.75/10 – บรรยากาศภายในโครงการเรียบร้อย มีความร่มรื่น ลงสายไฟใต้ดินมาให้ในส่วนหน้าบ้าน มีพื้นที่สีเขียวประมาณ 1.5 ไร่
• สาธารณูปโภค 9/10 – พื้นที่ส่วนกลางสวยน่าใช้งาน Facility ครบรองรับการใช้งานได้ 59 ยูนิตสบายๆ 
• 8.34 / 10.00 

Bangkok boulevard signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า เหมาะกับใคร

Bangkok boulevard signature เพชรเกษม – ปิ่นเกล้า เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านทำเลเพชรเกษม – ปิ่นเกล้า อยู่ใกล้ถนนใหญ่ สามารถเดินทางด้วยถนนกาญจนาภิเษกได้สะดวก และเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ไม่ยาก มีความอุดมสมบูรณ์ไม่ไกลจากห้างใหญ่ ในระดับราคาไม่เกิน 40 ล้านบาท ชอบโครงการที่มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมีเอกลักษณ์ชัดเจน บรรยากาศดีน่าพักผ่อน มี Facility ให้ใช้ครบ เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ อาจอยู่กันหลาย Generation ต้องการบ้านที่เหมาะกับผู้สูงอายุ และมีแม่บ้านดูแลประจำ ชอบบ้านสไตล์ Modern Luxury ฝ้าเพดานห้องนอนเป็นทรงจั่วสูง มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 20 – 30 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 140,000 – 280,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc