95E1 (Ninety-Five East One) บ้านหรู 100 ล้านแบรนด์ใหม่ ทำเลเลียบด่วนรามอินทรา เพียง 10 หลัง จาก SC ASSET [รีวิวฉบับที่ 2579]

Ninety – Five East One (ไนน์ตี้ไฟว์ อีสต์วัน) ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.816154717701416, 100.62897875997464
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

จริงๆ แล้ว Developer เจ้าใหญ่อย่าง SC ASSET นั้นได้มีบ้านระดับ Luxury ออกมาให้จับจองกันหลายแบรนด์แล้วนะคะ ทั้ง Grand Bangkok Boulevard, The Gentry หรืออย่าง Granada บ้านไซส์คฤหาสน์ ราคา 60-100 ล้านบาทในหลายๆ โลเคชั่น สำหรับแบรนด์ 95E1 นี้มีรายละเอียดของโปรดักส์ที่ออกแบบมาเอาใจกลุ่ม Young Rich มากขึ้นและมาในทำเลใจกลางตัวเมืองมากๆ ใกล้กับ CDC และ Central Eastville บนเส้นเอกมัย-รามอินทราค่ะ

ทำเลโครงการ 95E1 (Ninety – Five East One) นั้นอยู่ในซอยโยธินพัฒนา 3 เข้ามาจากถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา(ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) เพียง 650 เมตรเท่านั้น ทำเลตรงนี้ถือว่าเป็นโซนที่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแล้วของย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง CDC, Central Eastville, คอมมูนิตี้มอลล์ (The Crystal, CDC, The Walk, Chic Republic) และรอบๆ นี้ยังมีร้าน Cafe ให้ Hangout กันแบบครบเครื่อง ในระยะใกล้ๆเลย เช่น

• Waterside Resort Restaurant
• Mellow Garden Wine & Dine
• The Public Restaurant & Bar
• Portobello & Desire
• SAB Indy สาขาเลียบด่วน
• 20 Something Bar
• 76 Station
• Karaoke City
• ร้านอาหารเกาะลันตา เกษตร-นวมินทร์
• สวนอาหารสมพงศ์

ในเรื่องของการเดินทางซอยโยธินพัฒนา 3 นี้ยังเชื่อมต่อกับถนนหลักอีก 4 เส้นทาง (ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนประเสริฐมนูกิจ, ถนนนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว) ทำให้มีทางเลือกการใช้งานมากขึ้น หรือใครที่จะเดินทางเข้าไปยังใจกลางเมืองก็ใช้ทางด่วนบนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา เชื่อมเข้าไปยังพระราม9 – เอกมัยทองหล่อ – สุขุมวิท ก็สะดวก และยังเป็นทำเลที่ดูมีแววว่าจะพัฒนาไปได้อีกในอนาคต เพราะมีแผนพัฒนารถไฟฟ้าทั้ง (สายสีเหลือง,สายสีเทา) อยู่รอบๆ ด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการ 95E1 (Ninety – Five East One) ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา 3 อยู่ในโซนด้านหลัง CDC เลย ซึ่งบรรยากาศในโซนนี้โดยรวมจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าโซนอื่นในย่าน เพราะเป็นซอยที่เต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย โดยเฉพาะกลุ่มบ้านหรู แต่ก็ยังพอมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อกระจายทั่วไป เรียกว่าเป็นบ้านแนวราบที่หาของกินได้ในระยะไม่เกิน 1 km.

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• ทางพิเศษฉลองรัช (ด่านโยธินพัฒนา) ~ 2.7 km.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Crystal ~ 1.4 km.
• Chic Republic ~ 1.7 km.
• Crystal Design Center (CDC) ~ 1.9 km.
• Tesco Lotus เลียบด่วนรามอินทรา ~ 2.6 km.
• Central Festival Eastville ~ 2.7 km.
• The Walk ~ 3.5 km.
• Index Living Mall ~ 3.9 km.
• HomePro ~ 5.8 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 7.2 km.
• คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ~ 8.2 km.
• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 10.4 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 12.1 km.

โรงเรียน

• Regent’s International School ~ 7.4 km.
• KIS International School ~ 8.4 km.
• Shrewsbury International School Bangkok City Campus ~ 10.8 km.

ชื่อโครงการ 95E1 จะแตกต่างจากโครงการอื่น โดยนำเลขที่บ้าน 95 มาใช้เป็นชื่อโครงการเหมือนโครงการหรูๆใน Newyork หรือถ้าเทียบในไทยก็จะเห็นโครงการบนถนนวิทยุที่นิยมนำเลขที่บ้านมาตั้งเป็นชื่อโครงการกัน ส่วนตัว E นั้นมาจาก East หมายถึงทำเลที่อยู่ทางกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และสุดท้ายคือ 1 ที่มาจากการเป็นโครงการแรกของ SC ASSET’s Urban Luxury Collection ค่ะ

โครงการนี้ถือเป็นโครงการจัดสรรขนาดเล็กบนที่ดินประมาณ 4 ไร่ครึ่ง โดยมีจำนวนที่น้อยที่สุดของกฎหมายหมู่บ้านจัดสรรก็คือ 10 หลังนี่แหละค่ะ ข้อดีของโครงการจัดสรรคือการมีรั้วรอบขอบชิด มีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และความปลอดภัยมาให้ครบถ้วน

นับเป็นโครงการจัดสรรที่ “มีความเป็นส่วนตัวมากๆ” ทำให้ความพลุกพล่านของผู้คนและรถยนต์ต่างๆในโครงการน้อยมาก การจราจรต่างๆในโครงการก็ไม่พลุกพล่าน และเชื่อว่าปัญหาของลูกบ้านไม่เยอะเท่าโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆ นะคะ

อีกประเด็นหนึ่งในการออกแบบผังโครงการจะเห็นว่า บ้านทุกหลังจะ “เป็นแปลงมุมทั้งหมด” ชิดกับเพื่อนบ้านแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น เพราะโครงการให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวแต่ก็แลกมากับค่าส่วนกลางที่จะสูงกว่าโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆนะคะ

ซุ้มประตูทางเข้าออกด้านหน้าจะเป็นโครงสร้างที่มีหลังคาคลุม ตกแต่งมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นเส้นสายแนวตั้งที่ดูเรียบง่าย แต่มีการ Cladding ผนังลวดลายหินธรรมชาติในทุกจุดให้ดูหรูหราขึ้น

ประตูเป็นบานเหล็กรางเลื่อน ซึ่งได้ความปลอดภัยมิดชิดทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ลูกบ้านเข้าออกด้วยระบบ Smart License Plate แบบจดจำป้ายทะเบียน และมีกล้อง CCTV ทั้งหมด 12 ตัว รั้วรอบโครงการเป็นรั้วทึบสูง 2.7 เมตรต่อด้วยระแนงสูง 3.3 เมตร 

ส่วนกลางอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก ไม่ได้มี Clubhouse มาให้แต่ออกแบบตัวบ้านให้รองรับการทำฟิตเนสและมีสระว่ายน้ำติดตั้งมาให้เลย เพราะคอนเซปต์ที่นี่ต้องการให้ “บ้านแต่ละหลังเค้าสามารถทำกิจกรรมครบจบในตัวบ้านได้” โดยในพื้นที่ส่วนกลางจะมี Landscape ด้านหน้าโครงการที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่น และ Garden Pavillion ด้านในโครงการสำหรับนั่งพักผ่อนค่ะ

นอกจากนี้ในโครงการยังให้ความสำคัญเรื่องของทัศนียภาพด้วย ถนนในโครงการทั้งหมดจะทำเป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์ และนำสายไฟ, สายเคเบิ้ลต่างๆ ร้อยท่อลงใต้ดินทั้งหมด เพื่อความสะอาดตา

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนหย่อมภายในโครงการ 1 จุด ประมาณ 59.1 ตร.ว.
• ประตูทางเข้า-ออกโครงการแบบรั้วเหล็กรางเลื่อน
• เข้าออกด้วยระบบ Smart License Plate
• CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 12 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.7 เมตรและต่อด้วยรั้วระแนงสูง 3.3 เมตร
• ถนนหลักและถนนรองกว้าง 9 เมตร
• สายไฟร้อยท่อลงดิน
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

95E1 เป็นบ้านระดับบนสุดแบรนด์ใหม่ (Flagship) จาก SC ASSET เสนอราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ทั้ง Grand Bangkok Boulevard, The Gentry, Granada โดย 95E1 จะเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท

เมื่อเป็นโครงการ Flagship แล้ว …ทาง SC ASSET ก็ออกแบบมาด้วยคอนเซปต์ “Exquisite Craftsmanship” มีความพิถีพิถัน เป็นเหมือนงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์ อย่างเช่น ลายของหิน Cladding ที่แตกต่างกันไปในแต่ละแปลง เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำกัน มีความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบเพื่อให้ฟังก์ชันบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่ม Young Successor ตัวบ้านจะใช้พื้นที่ทั้งหมดแทบจะไม่เหลือที่ดินรอบข้างเลยนะคะ แต่ก็มีการแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปตามระเบียงต่างๆ ในตัวบ้าน จึงมีระเบียงแทบทุกห้องเลย

หน้าตา Facade ของตัวบ้านเวลาที่ดูผ่านๆ อาจจะนึกว่าเหมือนกันนะคะ แต่ที่จริงแล้วเค้าวางแนวเส้นสายให้แตกต่างกัน อย่างแบบ Exquisite -V จะใช้เส้นสายแนวตั้ง (Vertical) เป็นองค์ประกอบหลัก และแบบ Exquisite -H จะเลือกใช้เป็นเส้นสายแนวนอน (Horizontal) เพื่อให้ภาพรวมของโครงการไม่ดูเป็น Pattern ซ้ำๆ กัน แต่ Mood & Tone ยังไปในทางเดียวกันอยู่ค่ะ นอกจากนี้ยังมีการเลือกลายของ Stone Veneer ที่ปิดผิวอาคารแตกต่างกันไปในแต่ละแปลงเพื่อให้หน้าตาไม่เหมือนกันเป๊ะๆ โทนสีหลักๆ จะใช้สีเทาแต่ด้วยวัสดุที่หลากหลายทั้งหิน, อลูมิเนียมและปูน ทำให้หน้าตาอาคารมีสีเทาหลายเฉด เป็นผลให้บ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

>> ความพิเศษของตัวบ้านคือ การมีฟังก์ชันพิเศษๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งส่วนตัวและครอบครัวได้ครบจบในตัวบ้าน <<

ตัวบ้าน 95E1 เป็นบ้านทรงสูง 3 ชั้น ที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะถึง 842-846 ตร.ม. กันเลยทีเดียว หากเทียบกับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่แบบนี้ โครงการส่วนใหญ่จะจัดฟังก์ชันเป็น 5-6 ห้องนอนกันนะคะ แต่ที่โครงการนี้จัดฟังก์ชันออกมาให้มี 4 ห้องนอน จึงได้เป็นห้องไซส์ใหญ่ทั้งหมดและใส่อ่างอาบน้ำในตัวมาให้ถึง 3 ห้องเลยค่ะ

ในส่วนของพื้นที่ที่เหลือที่ไม่ได้ทำเป็นห้องนอนเค้าก็จัดเป็นพื้นที่ฟังก์ชันพิเศษต่างๆ เช่น  Supercar Garage ที่เชื่อมต่อกับ Mancave Area, Vault Room(ห้องนิรภัย), Rooftop Garden, สระว่ายน้ำและลิฟต์ส่วนตัว บ้านนี้จึงมีหลายห้อง, หลายพื้นที่อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ค่ะ

ฟังก์ชันที่พิเศษสุด คือการซ่อนห้องนิรภัย (Vault Room) ไว้ค่ะ ห้องนี้มีโครงสร้างที่พิเศษกว่าส่วนอื่นๆ ของตัวบ้าน โดยจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตแบบหล่อในที่ กันไฟลามได้ช้ากว่าห้องอื่นๆ 4 ชั่วโมง ประตูห้องจะใช้สเปคเดียวกับ Safe ธนาคาร มีความแข็งแรงคงทนเข้าออกด้วยระบบ Digital Door Lock และกุญแจ ภายในห้องมีพื้นที่พอให้ built-in ชั้นวางของได้ แบบนี้ก็สะดวกในการแยกจัดเก็บของมีค่าและยังสามารถเก็บของชิ้นใหญ่ได้ด้วยค่ะ

โครงการได้เตรียมบ้านตัวอย่างไว้ให้ชมทั้ง2 แบบคือแบบบ้าน Exquisite -V และ Exquisite -H เลยนะคะ หลังหนึ่งตกแต่งมาในสไตล์ Masculine โดยการออกแบบภายในจาก DWP และอีกหลังนึงตกแต่งมาในสไตล์ Feminine ออกแบบโดยคุณ Tippy สุพรทิพย์ ช่วงรังษี

สำหรับในรีวิวจะพาไปเจาะลึกแบบ Exquisite -H ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ Feminine เป็นหลักเพียงหลังเดียว เพราะฟังก์ชันและแปลนของทั้ง 2 แบบแทบจะเหมือนกันเลย ส่วนใครที่อยากชมแบบบ้าน Exquisite -V สามารถรับชมแบบ VDO ได้ที่รายการคิดเรื่องอยู่ ซึ่งจะ On Air ในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้นะคะ

ชั้น 1 : สามารถใช้รับแขกจัดปาร์ตี้แบบเต็ม Floor ได้ จึงไม่ไปรบกวนสมาชิกในบ้านที่พักผ่อนชั้นบน

จุดที่น่าสนใจบนชั้น 1 คือพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาเป็น Common Area หรือพื้นที่ส่วนกลางของบ้านทั้งชั้นเลย เพื่อให้ใช้สำหรับรองรับแขก จัด Private Party หรือใช้พักผ่อนหย่อนใจกับสมาชิกในครอบครัวได้แบบเต็มชั้น โดยแบ่งฟังก์ชันเป็น Living Room, Dining Area, Pantry หรือจะเป็นห้องแยกสำหรับทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์อย่าง Supercar Garage+Mancave Area, สระว่ายน้ำ ซึ่งที่ชั้น 1 จะได้พื้นที่เหล่านี้แบบเต็ม Floor เลย เพราะเขาดันเอาส่วนของห้อง Maid ไปไว้ที่ชั้น 2 และเลือกเอาส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอนไปไว้ด้านบนด้วยจะได้ไม่รบกวนกัน แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการขึ้นลงเพราะติดตั้งลิฟต์มาให้เรียบร้อยเลยค่ะ

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ แปลนบ้านออกแบบไว้ให้เป็นลักษณะแบบล้อมคอร์ท คือทั้ง Mancave Area, Living Area และ Dining Area จะมีช่องเปิดขนาดใหญ่ให้ Take View สระว่ายน้ำได้ ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านเยอะเลย

Supercar Garage+Mancave Area

Supercar Garage เป็นฟังก์ชันที่ไม่ค่อยได้เห็นนักแม้แต่ในกลุ่มบ้านหรูเองก็ตาม เป็นโรงรถติดแอร์เอาใจคนรักรถ และเป็นพื้นที่จอดรถในบ้านที่เชื่อมต่อกับ Mancave Area ให้บรรยากาศที่เหมือนรถของเราเป็น Art Piece ชิ้นหนึ่ง โดยจะมีประตูโรงรถติดตั้งมาให้ของ Hormann ควบคุมด้วยรีโมท และเดินงานระบบรองรับการติดตั้ง Wall Charge ไว้ให้ใน Garage นี้ด้วย ซึ่งระบบไฟในบ้านจะเป็นแบบ 3 เฟส (30/100) นะคะ

ในส่วนของพื้นบริเวณที่จอดรถจะปูกระเบื้องที่มีความหนาถึง 2 cm. เพื่อให้เกิดความแข็งแรงเพียงพอสำหรับขับรถเข้ามาได้ จุดที่ต้องระวังคือควันท่อจากรถยนต์ ซึ่งคงต้องรอให้ควันระบายออกไปก่อนจึงควรปิดประตูค่ะ หรือหากใครไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบสะสมรถหรู ก็สามารถใช้เป็นที่จอดรถปกติหรือปรับเป็นฟิตเนสในบ้านก็ได้

Mancave Area จะมีระดับที่สูงขึ้นจาก Garage ขึ้นมาเท่าตัวบ้านส่วนอื่น โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่น Hangout กับเพื่อนๆ ซึ่งจาก Mancave ยังเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำได้ด้วย ทำให้ง่ายต่อการจัด Pool Party ได้ ซึ่งหากใครว่ายน้ำเสร็จก็จะมีห้องน้ำที่อยู่ติดกับ Garage ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เสร็จสรรพเลยค่ะ

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ การเลือกใช้วัสดุในบ้านตัวอย่างที่ติดฟิล์ม Electronic มาให้ดูเป็นตัวอย่าง …พอเรากดรีโมทปุ๊บก็จะสามารถเปลี่ยนจากฟิล์มทึบกลายเป็นใสได้ ทำให้เราสามารถมองเห็นส่วนอื่นๆ ของตัวบ้านจาก Mancave ได้ หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวก็กดรีโมทเปลี่ยนเป็นทึบได้ค่ะ

สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือมีขนาด 3.5×10 เมตร โครงการจะติดตั้งระบบทวนน้ำไว้เพื่อให้ใช้ว่ายออกกำลังกายได้ หรือวันไหนไม่ได้อยากออกกำลังกายจริงจังก็สามารถมานั่งแช่น้ำชิลๆ แทนได้ค่ะ

ที่จอดรถ

ที่จอดรถหลักของตัวบ้านมีความสูงประมาณ 3.1 m. เป็นความสูงที่สามารถติดตั้ง Hydraulic Car Park เพิ่มเติมได้ ซึ่งในช่วงนี้มี Promotion มาให้ 1 เครื่อง ทำให้สามารถจอดรถได้ถึง 4+1 คันค่ะ โครงสร้างบริเวณที่จอดรถจะลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านไว้ให้จึงไม่ต้องลงเสาเข็มเพิ่มนะคะ

Foyer หน้าบ้าน

โถงต้อนรับส่วนแรกที่เหมาะสำหรับจัดวางของโชว์ที่แสดงตัวตนของเจ้าของบ้าน และเป็นพื้นที่จัดเก็บรองเท้าก่อนเข้าไปยังส่วนอื่นของตัวบ้าน พื้นในบ้านจะปูกระเบื้องอิตาลีแท้ มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษถึง 120×120 cm. และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าในชั้น 1 ประมาณ 3 m. เลยค่ะ

Living Area

Living Area จะได้พื้นที่แบบ Double Volume สูง 6.2 m. ทำให้มีความโปร่งเป็นพิเศษสามารถมองขึ้นไปเห็น Chandelier และทางเดินบริเวณชั้น 2 ได้ ซึ่งผนังบริเวณนี้ก็เป็นผนังกระจกขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติได้ดีและทำให้มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วยค่ะ มุมนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 6-7 ที่นั่งตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือจะวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ก็ยังไหวนะคะ

สำหรับบ้านตัวอย่างจะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ทางโครงการจึงเลือกเฟอร์ฯ ชิ้นพิเศษๆ อย่างเช่น Armchair สีแดงจากแบรนด์ B.D. Barcelona Design แบรนด์เฟอร์ฯ ชื่อดังกว่า 50 ปี ชิ้นนี้ออกแบบโดย Jaime Hayon ที่มีผลงานที่รู้จักกันในไทยก็คืองานตกแต่งภายใน The Standard, Bangkok Mahanakhon ค่ะ ตัวนี้ราคาล้านกว่าบาทเลยนะคะ

Dining Area+Pantry

สำหรับ Dining Area+Pantry ในบ้านตัวอย่างหลังนี้จะทุบเชื่อมต่อกัน ทำให้บ้านดูโปร่งขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากทำ Pantry ครัวแบบฝรั่งในบ้าน ไม่ได้ทำอาหารที่มีกลิ่นควันแรงๆ ก็จัดเป็นเคาน์เตอร์ครัว Island ตามแบบในบ้านตัวอย่างได้

แต่สำหรับบ้านมาตรฐาน Pantry ครัวจะถูกกั้นเป็นครัวปิดทำอาหารได้จริงจัง จึงไม่ต้องกลัวกลิ่นควันจะรบกวนภายในบ้าน ซึ่งเราสามารถออกแบบฟังก์ชันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเราได้ เพราะโครงสร้างของบ้านที่นี่จะเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูน จึงสามารถทุบเชื่อมต่อกันได้ค่ะ

ลิฟต์

บ้านทุกหลังในโครงการจะติดตั้งลิฟต์ไว้ให้เป็นของ Mitsubishi ระบบสลิง รับน้ำหนักได้ 260 kg. ก็ประมาณ 3-4 คนและรองรับวีลแชร์ด้วยค่ะ

ชั้น 2 : Maid Plaza แยกออกจากตัวบ้านเป็นสัดส่วน รองรับแม่บ้านประจำได้ 2 คน นอกจากนี้บนชั้น 2 จะมีห้องนอนอีก 2 ห้องค่ะ

จุดที่น่าสนใจบนชั้น 2 เราคิดว่าคือ Maid Plaza ที่ทางโครงการยกขึ้นมาบนชั้น 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอาจจะไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ นัก แต่ก็มีหลายข้อดีเลยเหมือนกันนะคะ อย่างแรกเลยแบบที่บอกไปคือ สมาชิกในบ้านจะได้ใช้พื้นที่ชั้น 1 ได้อย่างเต็มที่ อย่างที่ 2 คือพอเป็นบ้าน 3 ชั้น …การที่ Maid Plaza อยู่บนชั้น 2 ก็ช่วยให้แม่บ้านทำงานเข้าถึงทุกชั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น

Maid Plaza

Maid Plaza ออกแบบมาดูดีทีเดียว ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ มีแนวเคาน์เตอร์ครัวยาวสำหรับให้คุณแม่บ้านประกอบอาหารกันได้เองเลย และพื้นที่ยังเชื่อมต่อไปยังส่วนของห้อง Laundry และ Terrace ให้ทำงานได้ง่าย ส่วนตัวเชื่อว่าต้องมีหลาย ๆ บ้านที่มีคุณแม่บ้านที่อยู่ดูแลกันมานาน มีความผูกพันกันเป็นเหมือนหนึ่งในสมาชิกของบ้านแหละ การที่เราจัดพื้นที่ที่น่าอยู่หรือเอื้อแก่การทำงานให้กับแม่บ้านที่คอยดูแลเราก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกันนะคะ

Circulation ของโซนแม่บ้านจะมีบันไดนอกตัวบ้านที่เชื่อมต่อระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 อีกจุดหนึ่ง จึงลดการเดินผ่านในตัวบ้านได้ และโซนนี้ยังติดตั้ง Digital Door Lock ไว้อีกชั้นหนึ่ง เผื่อในช่วงที่สมาชิกในบ้านไปต่างประเทศกันหมด ก็สามารถล็อกไม่ให้แม่บ้านเข้าถึงตัวบ้านได้ค่ะ

Family Area

Family Area บนชั้น 2 เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถมองลอดไปเห็น Living Area ชั้นล่างได้ ซึ่งบริเวณนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น, พักผ่อนอีกจุดหนึ่งได้ ในเวลาที่ชั้น 1 มีการจัดปาร์ตี้ สมาชิกคนอื่นๆ ก็ยังสามารถพักผ่อนบนชั้น 2 ได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ทำงานอดิเรก อีกจุดหนึ่งก็ได้ค่ะ สำหรับบ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมทานอาหารเช้า, ทานขนมกรุบกริบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอบขนมหรือทำอาหารฝรั่งที่มีกลิ่นไม่ฉุนนัก อาจจะมาดื่มกินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่มุมนี้ได้

ห้องนอนที่ปรับเป็น Private Library

บ้านตัวอย่างมีการปรับฟังก์ชันห้องนอนบนชั้น 2 ให้กลายเป็น Private Library เป็นอีกไอเดียสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้มีสมาชิกเยอะนัก หรือมีห้องนอนเหลือ ซึ่งห้องนี้ตกแต่งมาได้เก๋มากๆ มีการเจาะช่องเปิดให้เชื่อมกับชั้น 3 จึงสามารถติดตั้งบันไดวนสำหรับขึ้นไปชั้นบนได้ โดยการทุบเชื่อมพื้นระหว่างชั้นแบบนี้เราสามารถสอบถามกับทางโครงการได้นะคะ บางแปลงก็ยังสามารถดัดแปลงโครงสร้างได้ทัน

จริงๆ แล้วพื้นที่ชั้น 3 ที่ทะลุเชื่อมขึ้นมานั้น ตามมาตรฐานจะเป็นระเบียงแบบเปิดโล่ง ซึ่งเราสามารถกั้นห้องด้วยผนังและหลังคากระจกเพิ่มเติมให้กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยในบ้านและรับแสงธรรมชาติเข้ามาด้านในตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้

การเล่นสีสันในห้องทำให้เรารู้สึกว่า Interior มีความสร้างสรรค์มากๆ ใช้สี Turquoise เป็นสีหลัก ทำให้บรรยากาศดูแปลกตาไม่เหมือนใคร ซึ่งเราสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้ และเนื่องจากห้องสมุดนี้ดัดแปลงมาจากห้องนอน จึงมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวกด้วยค่ะ

ห้องนอนชั้น 2

ห้องนอนบนชั้น 2 อีกห้องหนึ่งจะเป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำและระเบียงในตัว ภายในมีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ และยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้เดินได้โดยรอบ บรรยากาศในห้องนี้ดูโปร่งมากๆ ด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดไปเชื่อมกับระเบียงได้

สำหรับตัวระเบียงมีความกว้างมากทีเดียว ทำให้สามารถวางเก้าอี้พักผ่อน วางต้นไม้ตกแต่งได้จึงออกไปใช้งานได้จริง นอกจากนี้ช่องหน้าต่างอื่นๆ ในห้องก็มีขนาดใหญ่แบบเกือบพื้นจรดฟ้าทั้งหมด รวมถึงในห้องน้ำด้วยเช่นเดียวกัน

Highlights อย่างหนึ่งของห้องนอนนี้ก็คือห้องน้ำแบบ Sexy Bath มีกระจกบานใหญ่ให้มองเห็นห้องนอนได้ เป็น Gimmick เก๋ๆ ที่ปกติจะเห็นในบ้านพักตากอากาศนะคะ

ชั้น 3 : จัดฟังก์ชันเป็น 1 Master Bedroom + 1 Bedroom แต่ก็สามารถรวมพื้นที่ทั้งหมดเป็น Penthouse Master Bedroom เต็มชั้นตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ

Living Area ใน Master Bedroom

Living Area มีขนาดใหญ่และได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างบานใหญ่โดยรอบ จะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนเต็มห้องหรือแบ่งเป็นพื้นที่ทำงานของเจ้าของบ้านก็ได้ จุดเด่นหนึ่งคือพื้นที่ตรงนี้ยังติดกับระเบียงที่ทางโครงการดัดแปลงเป็นบันไดวน ซึ่งหากใช้งานตามฟังก์ชันเดิมที่เป็นระเบียงก็สามารถวางกระถางต้นไม้สวยๆ เพื่อเสริมบรรยากาศให้ดูร่มรื่นยิ่งขึ้นได้

ในพื้นที่ห้องนอนทั้งหมดจะมีลายพื้นปาร์เก้ที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ เป็นลายก้างปลาที่ให้ความสวยงามกว่าการเรียงต่อกันแบบปกติค่ะ

Master Bedroom

จุดที่สะดุดตาเรามากที่สุดเมื่อเข้ามาในห้องนอนคือ หน้าต่างบานใหญ่แบบเกือบถึงพื้นจรดฝ้า ที่เปิดให้เห็นต้นไม้บนระเบียง ทำให้บรรยากาศไม่เหมือนอยู่บนชั้น 3 นะคะ เพราะระเบียงที่มีขนาดใหญ่ทำให้เราสามารถจัดตกแต่งสวนบนระเบียงได้และเปลี่ยนบรรยากาศออกไปรับลมได้ด้วย ส่วนตัวคิดว่าต้นโอลีฟ (มะกอกดำ) ดูเหมาะกับระเบียงนี้มากทีเดียวนะคะ เพราะต้นไม้ชนิดนี้โตช้ามาก ในระยะเวลา 5 ปี ขนาดลำต้นแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยค่ะ และเราสามารถปลูกใส่กระถางไว้ได้ค่ะ

พื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนนั้นกว้างมาก จะวางเตียงขนาด 6-7 ฟุตก็ได้และยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงสำหรับติดตั้งชั้นวางทีวีเพิ่มเติมได้อีก

Walk-in Closet

Walk-in Closet เป็นห้องทรงผืนผ้ายาวๆ ที่เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ 2 ฝั่ง และยังเหลือพื้นที่ตรงกลาง ให้วางตู้เก็บของแบบ Island หรือออกแบบเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแยกชายหญิงตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ดูเก๋ๆ ดีค่ะ

Master Bathroom

Master Bathroom ให้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her ใช้วัสดุเป็นหินสังเคราะห์ จึงให้สัมผัสที่เรียบเนียน, คงทนต่อคราบต่างๆ ได้ดี ในส่วนของสุขภัณฑ์จะถูกแยกห้องไว้เป็นสัดส่วน โดยสุขภัณฑ์จะเป็นแบบอัตโนมัติของ GROHE

ห้องอาบน้ำมีขนาดใหญ่ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คนและถูกแยกเป็นสัดส่วนอีกเช่นกัน ซึ่งภายในมี Highlight อีกอย่างหนึ่งก็คือ ชุดฝักบัวจาก GROHE SPA ถือเป็นรุ่น Top สุด ความพิเศษคือ Rain Shower แบบ His&Her ที่สามารถปรับอุณหภูมิน้ำให้แตกต่างกันได้ ส่วนด้านข้างจะมีหัวฉีดน้ำที่สามารถเลือกรูปแบบที่ชอบ ใช้สำหรับนวดผ่อนคลายตามจุดที่เมื่อยล้าได้ นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ของ Kasch ที่มีฟังก์ชัน Jacuzzi ให้ด้วยค่ะ

Bedroom ถูกปรับมาเป็น Wellness and Retreat

อย่างที่เกริ่นไว้ว่าบ้านตัวอย่างนี้ปรับฟังก์ชันบนชั้น 3 ไว้เป็น Penthouse Master Bedroom โดยการทุบกำแพงของ Bedroom ออกและจัดฟังก์ชันเป็น Wellness and Retreat สามารถวางเตียงสปาได้ 2 เตียง แบบนี้ก็ไม่ต้องไปร้านสปาแล้วค่ะ ติดต่อ Therapist มาทำ Spa, Massage ที่บ้านกันได้เลย หรือจริงๆ จะใช้เป็นฟังก์ชันอย่างอื่นตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบได้เลยนะคะ

Rooftop : มีส่วนที่เป็น Indoor และ Outdoor ให้ใช้งาน

Indoor Area

บน Rooftop นี้เราสามารถขึ้นมาด้วยลิฟต์ได้เลยนะคะ พื้นที่โซนแรกเมื่อเปิดลิฟต์มาจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Indoor ซึ่งโครงการจัดฟังก์ชันไว้เป็นพื้นที่ออกกำลังกายเพราะขนาดพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งลู่วิ่งไฟฟ้าได้

แม้ว่าพื้นที่ไม่ได้กว้างนักแต่มีข้อดีตรงที่ได้วิวสวนบน Rooftop ทำให้มองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ ไม่อึดอัด เพราะโครงการเลือกใช้ผนังกระจกแบบเข้ามุม เปิดรับทั้งแสงธรรมชาติและวิวเลยค่ะ

Outdoor Area

ออกมาที่ดาดฟ้า โครงการออกแบบให้มี Semi-Outdoor อีก 1 จุด เหมาะกับคนที่ชอบรับลมธรรมชาติแต่ไม่อยากโดนแดดก็มานั่งเล่นตรงนี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้ง Glass House บนดาดฟ้าได้ด้วยนะคะ

หลังคา

บนหลังคาจะมีการติดตั้ง Solar Cell ไว้ให้เป็นระบบ Hybrid คือเราสามารถนำไฟมาใช้ได้ทั้งช่วงกลางวัน และไฟที่ใช้ไม่หมดนั้นก็สามารถเก็บเข้าแบตเตอรี่เพื่อใช้ในเวลากลางคืน หรือในเวลาที่ไฟดับได้ด้วยค่ะ โดยโครงการติดตั้งไว้ให้ 12 แผง รวม 5 kW หรือคิดเป็นราคาราวๆ 5 แสนกว่าบาทค่ะ

ในส่วนของหลังคาออกแบบให้เป็น Flat Slab (หลังคาแบนราบ) คือ ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นหลังคากันแดดกันฝน และใช้ TOA PU Watreproof รุ่นดีที่สุดที่มีในไทยมาทากันน้ำรั่วซึมอีกชั้นหนึ่งทำให้บรรยากาศของบ้านยังคงรักษาความเป็น Modern จ๋าๆ เอาไว้ได้ค่ะ

นอกจากนี้ยังมี Application รู้ใจ (RueJai OS) ที่ติดตั้งให้กับลูกบ้านของ SC ASSET เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอย่างเช่น ควบคุมการเปิด-ปิด แอร์ฯ, ไฟ ผ่านมือถือ มีการติดตั้ง VDO-Phone ให้กับทุกห้องนอน, มีเครื่องตรวจจับความร้อนและควัน

นอกจากนี้ยังมีระบบ Active Air Quality ติดตั้งให้ 8 จุด เป็นตัวช่วยในการเติมอากาศดีเข้าบ้าน การทำงานของระบบนี้คือการดึงอากาศภายนอกมาผ่านตัวกรองที่สามารถกรอง PM 2.5 , เชื้อโรค, ไวรัส, แบคทีเรียแล้วปล่อยเข้าสู่ตัวบ้าน

สำหรับโครงการนี้จะรับประกันงานโครงสร้าง 5 ปี และพิเศษกว่าโครงการอื่นคือ รับประกันตัวบ้าน 2 ปี ต่างจากโครงการทั่วไปของ SC ASSET ที่ให้เพียง 1 ปีค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

95E1 (Ninety-Five East One) ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2566

• Exquisite -V (เอค’ควิซิท – วี) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 842 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 1 ครัว / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – เริ่มต้น 100 ล้านบาท
• Exquisite -H (เอค’ควิซิท – เฮด) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 846 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 1 ครัว / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – เริ่มต้น 100 ล้านบาท
• ค่าจอง n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 500,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 158 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

95E1 (Ninety – Five East One) แตกต่างจากโครงการอื่นอย่างไร

ในความคิดของเรา 95E1 เป็นโครงการที่แตกต่างจากบ้านหรูแบรนด์เดิมๆ ของ SC ASSET รวมถึงบ้านโครงการอื่นๆ ที่มักจะออกแบบบ้านให้เหมาะกับการเป็นบ้านหลังแรกของครอบครัว คือมีห้องนอนหลายๆ ห้องอยู่อาศัยกันได้ครบทุก Generations แต่ละห้องจะเป็นฟังก์ชันแบบกลางๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้

แต่โครงการ 95E1 นี้แตกต่างจากที่อื่น เพราะเค้าปรับการออกแบบใหม่ โดยให้ความสำคัญกับ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัยเป็นเรื่องหลักที่นี่จึง “มีฟังก์ชันพิเศษๆ ที่ไม่ได้มีในโครงการทั่วไป ให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งส่วนตัวและครอบครัวได้แบบครบจบในบ้าน” อย่างเช่น Supercar Garage ที่ต่อเชื่อมกับ Mancave Area, Vault Room (ห้องนิรภัย) ที่ออกแบบโดยใช้มาตรฐานประตูแบบเดียวกับ Safe ธนาคาร และผนังป้องกันการลามไฟได้สูงกว่าห้องอื่นๆ 4 ชั่วโมง, มี Rooftop Garden, มีห้องแต่งตัวขนาดใหญ่เท่ากับห้องนอน 2 ห้องรวมกัน, มีสระว่ายน้ำ และลิฟต์ส่วนตัว แต่ทั้งนี้โครงสร้างของตัวบ้านก็สามารถทุบต่อเติมปรับเปลี่ยนได้ จึงสามารถกั้นห้องใหม่ตามไลฟ์สไตล์และตามจำนวนสมาชิกของแต่ละครอบครัวได้เลย รองรับครอบครัวตั้งแต่ 2-6 กำลังดีค่ะ

ในส่วนของวัสดุจะมีความแปลกตาเป็นบางชิ้นอย่างเช่น ประตูโรงรถของ Hormann ที่โครงการติดตั้งมาให้เลย พร้อมปูกระเบื้องใน Garage ที่มีความหนาถึง 2 cm. ซึ่งปกติมักจะเห็นเฉพาะในบ้านสั่งสร้างนะคะ หรือการเลือกพื้นกระเบื้องอิตาลีแท้ที่มีขนาดใหญ่กว่าโครงการทั่วไปใหญ่ถึง 120×120 cm., Shower ระดับ Top สุดจาก GROHE SPA เป็นต้น

ในส่วนของภาพรวมหมู่บ้านที่ 95E1 เป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดเล็ก ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงเพียง 10 ยูนิต และทุกหลังเป็นบ้านแปลงมุมทั้งหมด มีรั้วรอบขอบชิด และมีระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ครบถ้วน

95E1 (Ninety – Five East One) เหมาะกับใคร

ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแบบบ้านโครงการนี้เป็นบ้านหรูที่ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ยังมีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์และ Lifestyle ด้วยนะคะ

ซึ่งเรามองว่า 95E1 (Ninety – Five East One) เหมาะกับครอบครัวที่มองหาโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูงบนทำเลในเมือง, เข้าออกได้หลายเส้นทาง, ใกล้ทางด่วน, อยาได้บ้านหรูขนาดใหญ่ สามารถปรับฟังก์ชันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบหลากหลายและหรูหราได้ ชอบแบบบ้านตัว L ล้อมคอร์ทรับวิวสระว่ายน้ำ

ซึ่งบ้านในงบเป็น 100 ล้านบาทแบบนี้ เจ้าของก็สามารถสั่งสร้างบ้านเองได้สบายอยู่แล้ว แต่หากต้องการความปลอดภัยในรูปแบบหมู่บ้านที่ยังคงความเป็นส่วนตัวมียูนิตน้อยเพียง 10 ยูนิต พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบครัน ไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางมากแต่สามารถจัดฟังก์ชันอย่างสระว่ายน้ำ, พื้นที่ออกกำลังกายไว้ในตัวบ้านได้ที่นี่ก็ตอบโจทย์ค่ะ