บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น บ้านแฝดและทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.5 – 8 เมตร บนถนนแพรกษา ใกล้นิคมฯบางปู จาก บริทาเนีย [รีวิวฉบับที่ 2409]

Britania Praksa Station (บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น) ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2565

Highlights :

• ใกล้แหล่งงานสำคัญอย่างนิคมอุตสาหกรรมบางปู และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี
• ใกล้ตลาดเพชรอารี และตลาดนิคมบางปู สามารถเดินจับจ่ายใช้สอยและซื้อกับข้าวได้ง่าย
• บริเวณปากซอยฝั่งสุขุมวิทจะมีความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งห้างโรบินสัน ตลาดนัดกลางคืน และรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา ซึ่งทางโครงการจะมี Shuttle Service ไว้คอยบริการรับ-ส่งด้วย (อัพเดต 5/08/2022)

พิกัด Google Maps : 13.561430, 100.689218
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น ตั้งอยู่บนถนนแพรกษาตอนปลาย ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ก็มีพอสมควรครับ เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมบางปู จึงมีตลาดและร้านค้าที่เป็นแหล่งพึ่งพิงของพนักงานย่านนี้อยู่แล้วนั่นเอง โดยเฉพาะตลาดเพชรอารีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ตลาดนิคมบางปู และ PTT Lifestyle Mall ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการนั่นเอง

แต่หากเป็นห้างใหญ่ๆก็จะมี Robinson Lifestyle สมุทรปราการ ที่อยู่บนถนนสุขุมวิท และติดกับ BTS แพรกษา ที่เราสามารถใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกอีกหนึ่งเส้นทาง โดยทางโครงการก็ได้จัดให้มี Shuttle Service ไว้คอยรับ-ส่งไปที่สถานีด้วย (อัพเดต 5/08/2022) รวมถึงเรายังสามารถไปเที่ยวพักผ่อนแถวโซนบางปู ซึ่งก็มีร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศดีๆให้เลือกเพียบเลยครับ

อีกโซนหนึ่งที่สามารถไปใช้ชีวิตได้ง่ายก็คือ เทพารักษ์-บางพลี โดยหลักๆก็จะมี BigC และโรงพยาบาลที่อยู่รอบๆเยอะ อีกทั้งเรายังสามารถเลยไปนิคมบางพลี และห้างใหญ่ๆตรงบางนา-ตราดได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Market Village และ Mega Bangna เป็นต้น ส่วนหากใครที่เน้นใช้ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อเดินทางไกลเป็นหลัก ก็จะอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากครับ ซึ่งเราสามารถใช้เส้นทางปกติได้เลย หรือจะใช้ซอยมังกรเป็นเส้นทางลัดในวันที่รถติดๆก็ได้

PTT Lifestyle Mall เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่ตั้งอยู่ภายในปั้ม ปตท. หลักๆจะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ พิซซ่า KFC และ Fresh Makro โดยถึงแม้ภาพรวมอาจยังไม่ได้คึกคักมากนัก แต่ก็สามารถมาแวะทานอาหารง่ายๆใกล้ๆบ้านกันได้สะดวกนะครับ

Black Market เป็นตลาดนัดกลางคืนที่อยู่ข้างๆโรบินสัน ซึ่งมีบรรยากาศคึกคักมาก มีทั้งร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ ร้านนั่งชิล และลานเบียร์ที่มีดนตรีสดให้ฟังด้วยครับ ถือเป็นความอุดมสมบูรณ์หลักในช่วงกลางคืนของย่านนี้เลยทีเดียว

ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10.9 km. สามารถเข้าเมืองไปทางลาดกระบัง-รามอินทรา-บางปะอิน หรือจะไปทางพระราม 2 ก็ได้เหมือนกัน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ว่างและโครงการแนวราบ โดยตำแหน่งจะอยู่ถัดเข้ามาจากถนนใหญ่เล็กน้อย จึงทำให้ได้ความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย และเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถสรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนภาระจำยอมและถนนแพรกษา
• ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา (เห็นว่าจะทำเป็นโกดังสินค้า)
• ทิศตะวันออก : ติดกับ หมู่บ้านพนาสนธิ์ วิลล่า-คลองขุด เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่าง

เรามาดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันสักหน่อยครับ เริ่มจากทางด้านขวามือจะเป็นถนนที่มุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท โดยถัดมาเล็กน้อยเราจะเจอกับเซเว่นขนาดใหญ่ และมีจุดกลับรถอยู่เยื้องๆกันด้วย ระยะห่างประมาณ 290 m. สามารถมาใช้งานได้สะดวก และเป็นระยะที่ปลอดภัย

ส่วนซ้ายมือจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปถนนตำหรุ-บางพลี โดยฝั่งตรงข้ามจะเป็นตลาดเพชรอารี พร้อมร้านสะดวกซื้อ โลตัส และมินิบิ๊กซี ให้เราสามารถแวะซื้อของเข้าบ้านได้ง่ายๆเลยครับ

ทางเข้าโครงการจะอยู่ถัดเข้าไปด้านในเล็กน้อย โดยเป็นถนนภาระจำยอมที่ทางโครงการได้ทำการจัดสวน และตกแต่งภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามมากขึ้น เพื่อเป็นส่วนต้อนรับลูกบ้านนั่นเองครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดเพชรอารี ~ 750 m.
• PTT Lifestyle Mall ~ 1.2 km.
• ตลาดนิคมบางปู ~ 2.8 km.
• BigC บางพลี ~ 6.6 km.
• Robinson Lifestyle สมุทรปราการ ~ 9.5 km.
• Market Village สุวรรณภูมิ ~ 10 km.
• Mega Bangna ~ 12.9 km.
• JAS URBAN ~ 16.3 km.
• Central Village ~ 18.3 km.

โรงพยาบาล

• รพ.บางนา 5 ~ 6.4 km.
• รพ.บางพลี ~ 6.6 km.
• The C Plus Hospital ~ 7.2 km.
• รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ~ 8.2 km.
• รพ.เปาโล ศรีนครินทร์ ~ 12.5 km.

โรงเรียน

• รร.ปทุมคงคา ~ 2.4 km.
• Southeast Bangkok College ~ 7.1 km.
• รร.สารสาสน์วิเทศ สุวรรณภูมิ ~ 7.6 km.
• รร.สมุทรปราการ ~ 10.7 km.
• รร.สตรีสมุทรปราการ ~ 11.3 km.
• รร.พูลเจริญวิทยาคม ~ 14.1 km.
• รร.ราชวินิตบางแก้ว ~ 14.5 km.

สถานที่ราชการและอื่นๆ

• นิคมอุตสาหกรรมบางปู ~ 3.8 km.
• นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ~ 17.7 km.
• สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 23.7 km.

Highlights :

• มีส่วนกลาง 2 จุด ช่วยกระจายความหนาแน่น และทำให้ใช้งานได้ทั่วถึงมากขึ้น
• บ้านแฝดจะมีตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับส่วนกลาง ทำให้สามารถมาใช้งานได้สะดวกมาก รองลงมาจะเป็นบ้านทาวน์โฮม 8 m. และทาวน์โฮม 6 m. ตามลำดับ
• บ้านทั้งหมดจะอยู่ภายในซอยย่อย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวจากรถที่อาจผ่านไป-มาบนถนนหลัก

บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮม ที่มีสัดส่วนจำนวนยูนิตพอๆกันเลยครับ และเนื่องจากที่ดินโครงการบริเวณตรงกลางจะมีคลองสาธารณะไหลผ่าน เราจึงสามารถแบ่งโซนบ้านพักอาศัยออกเป็น 2 โซนหลักๆด้วยกัน

และปัจจุบันกำลังเปิดขายบ้านที่อยู่เฟสด้านหน้าสุด ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่ เค้าจะอยู่ใกล้กับส่วนกลางทั้ง 2 จุด เลยทำให้สามารถมาใช้งานได้สะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นอาคาร Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้า และสวนสาธารณะที่อยู่บริเวณตรงกลางโครงการ ขณะที่บ้านเฟสด้านในเค้าก็จะใกล้กับสวนแห่งนี้ด้วยนั่นเองครับ

และหากเราสังเกตลักษณะของการวางผังบ้านดีๆ ก็จะเห็นว่า บ้านแฝดมักจะเป็นโปรดักส์ที่อยู่ใกล้กับส่วนกลางมากที่สุด รองลงมาจะเป็นทาวน์โฮม 8 m. และทาวน์โฮม 6 m. ก็จะอยู่ในระยะที่ห่างออกมาตามลำดับ (ซึ่งบ้านในเฟสอนาคตก็จะมีคอนเซ็ปต์การวางผังที่คล้ายๆกัน) และอีกหนึ่งจุดที่ผมว่าดีไม่แพ้กันก็คือ บ้านทุกหลังจะอยู่ภายในซอยทั้งหมด ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากรถที่ขับผ่านไป-มาบนถนนหลักเลยนั่นเองครับ

เริ่มกันที่ซุ้มประตูโครงการจะเป็นสไตล์ Modern ซึ่งด้านบนเค้าก็ออกแบบให้เป็นอาคาร Clubhouse ไปด้วยในตัว เรียกได้ว่าใช้งานได้แบบ 2 in 1 เลยครับ

การเข้า-ออกสำหรับลูกบ้าน เป็นระบบ RFID โดยใช้สัญญาณ Bluetooth ซึ่งไม้กั้นกระดกจะเปิดออกให้เองแบบอัตโนมัติเหมือน Easy Pass บนทางด่วน

รวมถึงยังมีกล้อง CCTV ถ่ายป้ายทะเบียนรถ และใบหน้าผู้ขับเพื่อความปลอดภัยอีกชั้น ส่วนผู้มาติดต่อหรือ Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนตามปกติครับ

เมื่อเข้ามาภายในโครงการเราจะเจอกับถนน Main ที่กว้าง 12 m. ซึ่งจะตรงยาวไปถึงเฟสด้านในที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนปัจจุบันบ้านตัวอย่างและสำนักงานขาย จะอยู่ในซอยแรกสุดทางขวามือครับ

ส่วนอาคาร Clubhouse หรือก็คือซุ้มประตูทางเข้าโครงการก่อนหน้านี้ ก็จะมีพื้นที่สวนเล็กๆอยู่ด้านหน้าด้วยแบบนี้ ซึ่งตอนเย็นๆเราก็สามารถเดินมานั่งปิกนิกเล่นกันได้ด้วยนะ

หรือหากใครที่อยู่เฟสด้านใน ก็สามารถขับรถมาจอดที่ด้านข้างอาคารทางฝั่งซ้ายมือ ซึ่งจะมีช่องจอดไว้ให้บริการอยู่ประมาณ 3 คัน

สำหรับผู้ที่ใช้งานรถเข็นหรือวีลแชร์ จะมีทางลาดให้ใช้งานแยกออกไปอยู่ทางด้านข้างของอาคารแบบนี้ ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำและสามารถเข้าอาคารได้จากทางด้านหลัง ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ที่ด้านหน้า และจะต้องเดินบันไดขึ้นไปครับ

ภายในอาคารชั้น 1 จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นในห้องแอร์เย็นๆขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถใช้เป็นพื้นที่พบปะกับเพื่อนบ้าน หรือใช้รับรองแขกที่มาจากภายนอกได้อีกด้วย

ส่วนประตูกระจกที่อยู่ด้านในทางขวามือ ก็จะสามารถเปิดออกไปภายนอก เพื่อเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้นั่นเองครับ

เมื่อออกมาด้านนอกเราจะเจอกับสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง ที่แยกเป็นสระเด็กขนาด 3.6 x 4.75 m. และสระหลักขนาด 4.75 x 11.75 m. ซึ่งพอจะว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ครับ แต่อาจต้องว่ายไป-กลับหลายรอบอยู่สักหน่อย แนะนำให้มาใช้ตอนช่วงเย็นๆแดดร่มๆนะครับ

สิ่งที่ผมชอบอย่างหนึ่งของสระนี้ก็คือ ตำแหน่งของเค้าจะอยู่ด้านหลังอาคาร และมีการทำรั้วโปร่งทางขวามือเพิ่มเติม เพื่อบังสายตาจากรถที่ผ่านเข้า-ออกโครงการด้านนอก จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวครับ

ทางซ้ายมือนอกจากจะมีเก้าอี้ Day Bed ให้นั่งพักผ่อนริมสระได้แล้ว ก็ยังมีจุดล้างตัวก่อนลงสระอยู่ตรงนี้ด้วยนั่นเอง ส่วนติดกันจะเป็นทางไปห้องน้ำครับ

ภายในจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งมีทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์ให้ใช้งาน รวมถึงยังมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการด้วยนะ

ส่วนบริเวณปลายสระจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังชิงช้าที่อยู่ข้างสระ ให้เราได้มานั่งเล่นและถ่ายรูปสวยๆกันได้

กลับมาที่ด้านหน้าอาคาร Clubhouse ต่อไปเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันครับ

ด้านบนจะมีฟังก์ชัน Indoor อีก 2 ห้องคือ Fitness และห้องนิติบุคคล

เริ่มกันที่ห้อง Fitness ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ดีทีเดียวครับ โดยจะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนของซุ้มประตูทางเข้าโครงการพอดี และมีอุปกรณ์ต่างๆให้ใช้งานครบครัน

อย่างโซนแรกนี้จะเป็นกลุ่ม Cardio ให้เราได้มาวิ่ง/ปั่นจักรยาน เพื่อเบิร์นไขมันกันได้ โดยจะหันหน้าออกไปชมวิวถนนแพรกษาด้านหน้าโครงการ ผ่านทางช่องหน้าต่างเหล่านี้ได้ครับ

ส่วนด้านในสุดจะเป็นโซนของ Weight Training สำหรับหนุ่มๆที่อยากจะเพิ่มกล้ามทั้งหลายนั่นเอง ซึ่งจะมีฉากกั้นช่วยพรางสายตาแยกออกมาจากโซน Cardio ก่อนหน้านี้ เพื่อการใช้งานที่มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ติดกันจะเป็นห้องทำงานสำหรับนิติบุคคลในอนาคต ซึ่งก็คงจะมีการจัดฟังก์ชันให้เหมาะสมมากขึ้น (ปัจจุบันทางโครงการใช้เป็นห้องประชุมสำหรับเจ้าหน้าที่ครับ)

นอกจากนี้จะมีทางเดินที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนด้านหลังของ Clubhouse ได้ด้วยนะ

โดยฟังก์ชันแรกที่เจอก็คือ ห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ขึ้นมาออกกำลังกายชั้นบนได้ดี ทำให้ไม่ต้องเดินลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่างนั่นเองครับ

สุดท้ายเราก็จะได้เจอกับระเบียงกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยมีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้มานั่งพักผ่อน/ตากลม และชมวิวกันได้ รวมถึงยังสามารถมองลงไปเห็นสระว่ายน้ำด้านล่างได้ด้วยนะ ซึ่งแนะนำให้มาใช้งานต่อเย็นๆแดดร่มๆหน่อยจะดีครับ

และเนื่องจากปัจจุบันสวนสาธารณะด้านในยังไม่แล้วเสร็จดี ดังนั้นผมจึงนำภาพบรรยากาศจำลองมาให้ชมกันก่อน ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างไปชมใน Gallery กันได้เลยครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4.75 x 11.75 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 3.6 x 4.75 เมตร
• Fitness
• Playground
• Basketball Court
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 0-2-91.5 ไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 46 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 – 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
• Key Card Access ระยะไกล ระบบ RFID เปิดอัตโนมัติด้วยสัญญาณ Bluetooth
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• สัญญาณกันขโมยภายในบ้าน IP Camera และ Digital Door Lock ทุกหลัง
• Shuttle Service รับ-ส่งรถไฟฟ้า BTS สถานี แพรกษา (อัพเดต 5/08/2022)

Highlights :

• บ้านแฝดบรรยากาศสไตล์บ้านเดี่ยว ภายในกว้างขวาง ห้องนอนเล็กสามารถทุบผนังเชื่อมกันเป็นห้องนอนใหญ่อีกห้องหนึ่งได้
• ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 8 m. แปลนทรง L Shape ได้พื้นที่สีเขียวข้างบ้าน และมีช่องแสงเยอะขึ้น ได้บรรยากาศคล้ายบ้านแฝดหรือทาวน์โฮมแปลงมุมทุกหลัง
• เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย Digital Door Lock และ IP Camera รวมถึงยังมีการติดตั้งล้อเลื่อนตรงประตูรั้วบ้านให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

แบบบ้านของโครงการ บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น จะมีให้เลือก 3 Type เป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งมีการออกแบบที่น่าสนใจ และแตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่านมากๆเลยทีเดียวครับ ประกอบด้วย

• Bromley ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.15 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• Bolney ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 26.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• Brightling บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35.85 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

โดยโครงสร้างบ้านจะเป็นระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูปมาจากโรงงาน ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน แถมยังสามารถกันเสียงได้ดีอีกด้วย แต่ก็อาจไม่เหมาะกับการทุบเจาะหรือต่อเติมเท่าไหร่นัก เพราะเป็นผนังรับน้ำหนักและแข็งแรงมากๆ ส่วนหน้าตาบ้านก็จะออกแบบมาในสไตล์ Modern English Gable ดูเรียบง่ายและทันสมัยดีทีเดียวครับ

• Brightling บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35.85 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

เป็นบ้านแฝดหนึ่งเดียวของโครงการ มีจุดเด่นอยู่ตรง Common Area ของพื้นที่ชั้น 1 ที่มีขนาดใหญ่ โดยตำแหน่งของบันไดจะอยู่บริเวณกลางบ้านพอดี และเปิดโล่งเพื่อโชว์แนวบันไดสวยๆ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูกว้างขวาง และสว่างโปร่งโล่งไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งาน และปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย ตามความต้องการของครอบครัวได้อีกด้วย

ส่วนบนชั้น 2 นอกจากจะได้ Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำส่วนตัวแล้ว ยังมีจุดเด่นตรงห้องนอนเล็กทั้ง 2 ที่สามารถทุบผนังเพื่อเชื่อมต่อหลายเป็นห้องนอนใหญ่ที่ 2 ได้ด้วย เพราะผนังส่วนนี้จะเป็นผนังก่ออิฐแบบดั้งเดิมเลย เหมาะกับครอบครัวที่อาจมีลูกแค่คนเดียว และต้องการให้อยู่ได้ตั้งแต่เด็ก-โต แต่ถ้าใครที่มีลูก 2 คน หรือต้องการบ้านที่มีฟังก์ชันห้องเยอะๆ แบบบ้านเดิมที่มี 3 ห้องนอนก็ค่อนข้างตอบโจทย์ไม่น้อยครับ

สำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้จะไม่ได้มีรั้วให้ชมนะครับ (แต่จะเหมือนกับของบ้านทาวน์โฮมหลังต่อไป ซึ่งเดียวเราจะไปชมกันต่อ) โดยเราจะสามารถจอดรถได้ 2 คันแบบพอดีๆ พื้นจะเทคอนกรีต และลงเสาเข็มสั้นมาให้จนถึงรั้วบ้านด้านหน้า

ส่วนถ้าใครที่อยากจอดรถในร่มแบบทั้งคัน ก็สามารถทำหลังคาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองนะครับ หรืออ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >>> ต่อเติมพื้นและหลังคาที่จอดรถ ต้องใช้งบเท่าไหร่?

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง และเป็นตัวล็อคแบบ 2 ชั้น

มีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น รวมถึงมีการทำชานพักบันไดให้ยกระดับสูงขึ้นมา เพื่อช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าบ้าน และใช้ถอด-ใส่รองเท้าตรงนี้ได้สะดวกนั่นเอง

เมื่อเข้ามาภายในเราจะรู้สึกถึงความกว้างกว่าบ้านแฝดทั่วไป เพราะนอกจากจะมี Common Area ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีการทำพื้นที่เปิดโล่ง เพื่อโชว์แนวบันไดตรงกลางบ้านสวยๆ ทำให้ได้บรรยากาศที่ดีไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยล่ะครับ

เรามาเริ่มจาก Common Area ที่อยู่ขวามือก่อน ซึ่งจะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกัน 2 ฟังก์ชันคือ พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร อีกทั้งเรายังจะได้ช่องแสงถึง 3 ด้าน จึงมีความสว่างและโปร่งโล่งดีทีเดียวครับ

โดยความสูงฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.75 m. และใช้วัสดุปูพื้นเป็น SPC ลายไม้ ที่มีความทนทาน สามารถป้องกันความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดี รวมถึงเราจะได้ IP Camera ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานอีกด้วย

พื้นที่นั่งเล่นส่วนแรกเราสามารถใช้ชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้เลยครับ เหมาะที่จะมานั่งเล่นดูทีวีกับครอบครัว หรือจะใช้รับแขกก็ได้ โดยระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 3 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ

ถัดมาจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ 4 – 6 ที่นั่ง ซึ่งเราสามารถนั่งทานข้าวไปและดูทีวีไปด้วยได้ รวมถึงยังอยู่ติดกับช่องแสง 2 ด้าน สามารถชมวิวสวนภายนอก หรือจะเปิดประตูออกไปเดินเลยก็ได้

ซึ่งบริเวณข้างบ้านนี้เราสามารถจัดเป็นสวน และปลูกต้นไม้สวยๆได้ตามใจชอบ หรือใครจะหาโต๊ะปิกนิกมาวางไว้ เพื่อใช้นั่งเล่นพักผ่อนในวันที่อากาศดีๆได้อีกเช่นกัน

อีกด้านหนึ่งของตัวบ้านจะเป็นส่วนเตรียมอาหารและครัว ซึ่งจะอยู่แยกออกไปหลบมุมมองสายตาจากหน้าบ้าน ทำให้ดูเรียบร้อยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

โดยของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ขนาดประมาณ 2.3 x 3 m. พร้อมเตรียมท่องานระบบต่างๆเอาไว้ให้แล้ว ซึ่งเราสามารถ Built-in ทำเป็นครัวฝรั่ง หรือส่วนเตรียมอาหารเบาๆแบบในบ้านตัวอย่างนี้ได้ครับ

ส่วนครัวไทยจริงๆจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแยกอีกที เพื่อกันกลิ่นและควันไม่ให้เข้าไปรบกวนในบ้าน โดยพื้นก็จะเปลี่ยนวัสดุเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ และลดระดับลงจากพื้นบ้านนิดหน่อย จึงสามารถเช็ดล้างและทำความสะอาดได้เต็มที่

โดยขนาดพื้นที่ใช้สอยจะกว้างประมาณ 1 m. และมีเคาน์เตอร์ปูน + ซิงค์ล้างจานมาให้ด้วยครับ ส่วนหน้าบานตู้ต่างๆเราอาจต้องทำเพิ่มเองนะ ซึ่งจะสามารถเก็บของอุปกรณ์ครัวต่างๆด้านในได้เรียบร้อยมากขึ้นนั่นเองครับ

อีกด้านจะเป็นมุมที่เราสามารถวางเครื่องซักผ้า และทำเป็น Laundry แบบนี้ได้ รวมถึงมีประตูที่ใช้เปิดออกไปหลังบ้าน ซึ่งเป็นลานซักล้างที่เทพื้นปูนพร้อมลงเข็มสั้นมาให้แบบนี้

แต่ที่ผมชอบมากๆก็คือ ประตูจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ภายในครัวดูสว่าง และช่วยป้องกันไม่ให้เปิดประตูชนกันได้อีกด้วยนั่นเองครับ

กลับมาที่บริเวณหน้าบ้านอีกครั้ง ซึ่งอีกด้านหนึ่งจะเป็นโถงบันได ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ครับ

เริ่มที่ห้องน้ำใต้บันไดจะมีส่วนอาบน้ำเตรียมไว้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับการใช้งานจากห้องอเนกประสงค์ ที่บางคนก็อาจทำเป็นนอนชั้นล่างเพิ่มได้นั่นเองครับ

พื้นที่ส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1.45 x 1.8 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ มีสุขภัณฑ์ของ Cotto ให้ใช้งานครบ ทั้งอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ รวมถึงยังมีปลั๊กไฟแบบมีฝาปิด พร้อมช่องเสียบ USB Port สำหรับชาร์จโทรศัพท์หรือไอแพดได้นั่นเอง

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้างประมาณ 1.5 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ มีการเจาะช่องที่ผนังให้วางของได้เล็กน้อย ซึ่งเราสามารถเพิ่มจำนวนชั้นวางเองได้ รวมถึงฉากกั้นอาบน้ำก็จะต้องติดตั้งเพิ่มเองนะครับ

ข้อสังเกตอย่างอีกหนึ่งคือ ช่องหน้าต่างบานกระทุ้งด้านขวา จะเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับครัวไทยอีกฝั่งหนึ่งก่อนหน้านี้ ซึ่งปกติก็คงจะไม่ได้เปิดระบายอากาศบ่อยนัก เพราะด้วยเรื่องของความเป็นส่วนตัวและสุขอนามัยที่ดีของแต่ละฟังก์ชัน แต่อย่างน้อยก็จะช่วยในเรื่องของแสงสว่างภายในห้องน้ำได้นั่นเองครับ

สุดท้ายคือห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน ซึ่งเราสามารถติดตั้งประตูเพิ่มเองได้ เพื่อทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ

ภายในห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.8 x 2.8 m. สามารถปรับฟังก์ชันทำเป็นห้องอื่นๆได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ดูหนังเล่นเกมส์ หรือห้องนอนชั้นล่างก็ได้

ต่อมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันบ้างครับ ซึ่งบันไดก็จะตั้งอยู่กลางบ้านแบบนี้

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และปิดผิวด้วยไม้ยางพารา พร้อมทั้งมีราวจับให้ตลอดทางเพื่อความปลอดภัย ส่วนใต้บันไดจะเป็นห้องเก็บของเล็กๆให้ใช้งาน และด้านบนโถงบันไดจะมีช่องแสง ที่ช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้สว่างและไม่ต้องเปลืองไฟในตอนกลางวันนั่นเอง

บนชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันของห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง โดยความสูงฝ้าก็จะมากขึ้นอยู่ที่ 3 m. และเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้

เริ่มที่ห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางขวามือกันก่อนครับ ซึ่งภายในจะมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ และมีความกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยทีเดียว

ขวามือจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดประมาณ 1.7 x 1.7 m. สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือมุมทำงานอ่านหนังสือเล็กๆได้สบาย

อีกทั้งตรงผนังด้านขวายังมีช่องแสงเล็กๆ ที่เป็นจุดเดียวกับตรงโถงบันไดก่อนหน้านี้ ซึ่งนับว่าเป็นจุดที่ดีที่สามารถรับแสงได้โดยตรง รวมถึงยังเป็นตำแหน่งที่ห้องนอนไม่เสียความเป็นส่วนตัวเลยอีกด้วยครับ

ระเบียงภายนอกกว้างประมาณ 1.6 x 1.8 m. ถือว่ามีขนาดใหญ่และสามารถออกไปใช้งานได้เต็มที่ โดยจะเป็นระเบียงแบบกลางแจ้ง ที่อาจปลูกต้นไม้กระถางเพื่อเพิ่มร่มเงาและความสดชื่นก็ได้ครับ

ตรงกลางห้องสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ส่วนอีกด้านของห้องก็จะเป็นพื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำครับ

ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และทำโต๊ะแต่งหน้าตรงบริเวณนี้ได้เลย

ส่วนภายในห้องน้ำจะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเหมือนเดิม พร้อมช่องหน้าต่างบานกระทุ้งที่เปิดระบายอากาศได้ด้วย โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1.55 x 1.55 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 m. โดยที่เราจะต้องติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเองเหมือนเดิมนะครับ

ฝั่งตรงข้ามห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งภายในก็มีขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 3 x 4 m. พร้อมได้ช่องแสงถึง 2 ด้าน ทำให้ภายในห้องสว่างและระบายอากาศได้ดี

อีกด้านจะเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ทำให้ห้องนี้ได้ทั้งความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากๆครับ

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบ และแบ่งเป็นสัดส่วนเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย

แต่จุดเด่นจริงๆก็คือ เค้าสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง เพราะเป็นห้องน้ำที่ต้องแชร์การใช้งานระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ส่วนพื้นที่ใช้สอยจะกว้างประมาณ 1.65 x 1.5 m. และมีพื้นที่ยืนอาบน้ำ 1.35 x 0.9 m.

ส่วนห้องนอนที่ 3 ก็จะมีขนาดเท่ากับห้องนอนเล็กก่อนหน้านี้เลยครับ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกเหมือนกัน แต่จะมีช่องหน้าต่างเพียงแค่ด้านเดียว เพราะผนังด้านซ้ายจะอยู่ติดกับเพื่อนบ้าน ซึ่งหากใครที่มีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องพระก็ได้นะครับ

แต่ทีเด็ดจริงๆของห้องนี้ก็คือ ผนังที่กั้นอยู่ระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 จะเป็นผนังก่ออิฐที่สามารถทุบออก เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ทั้ง 2 ให้กลายเป็นห้อง Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมมีห้องน้ำในตัวได้อีกห้องเลยนั่นเองครับ

ส่วนภาพบ้านเปล่ามาตรฐานจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

• Bolney ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 26.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

ปกติเราไม่ค่อยได้เห็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 8 m. กันสักเท่าไหร่ใช่มั้ยครับ ซึ่งอันที่จริงแล้วด้วยความกว้างขนาดนี้เราสามารถจอดรถ 3 คันได้สบายๆเลยนะ แต่ทางโครงการเลือกที่จะทำเป็นแบบ 2 ที่จอดรถ เพื่อทำให้มีพื้นที่สีเขียวข้างบ้านเพิ่มขึ้นมา เพื่อแก้ไขจุดอ่อนของบ้านทาวน์โฮมทั่วๆไป ที่มักจะไม่ค่อยมีพื้นที่รอบบ้านให้ใช้นั่นเอง

และหากสังเกตดีๆจะเห็นว่า แปลนบ้านหลังนี้จะมีลักษณะเป็นทรง L Shape ที่มีคอร์ดเล็กๆเว้าเข้าไปด้านใน ซึ่งมีข้อดีหลายอย่างเลยคือ นอกจากเราจะมีพื้นที่สวนให้ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ได้ช่องแสงที่มากขึ้น ภายในบ้านจึงสว่างโปร่งโล่ง และระบายอากาศได้ดีมากขึ้น

รวมถึงยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้อีกด้วย เพราะผนังบ้านบางส่วนจะมีระยะห่างจากกัน ไม่ได้อยู่ติดกันหมดเหมือนทาวน์โฮมทั่วไป อีกทั้งยังวางผังให้หันไปทิศทางเดียวกันหมด (ไม่ได้สลับด้านหรือ Mirror แบบปกติ) ซึ่งดูเผินๆก็ให้อารมณ์คล้ายบ้านแฝดหรือบ้านแปลงมุมนั่นเองครับ

ฟังก์ชันภายในของชั้น 1 จะโดดเด่นที่ Common Area ขนาดใหญ่ พร้อมมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งาน สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ ส่วนชั้น 2 จะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นหลัก เพราะเค้าจะไม่มีระเบียงเลยครับ โดยจะมีห้องนอน 3 ห้อง เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง เป็นคนชอบบ้านที่มีบรรยากาศโปร่งโล่ง มีความเป็นส่วนตัว แต่อาจมีงบแตะไม่ถึงบ้านแฝด หรืออยากเซฟเงินส่วนหนึ่งไว้ตกแต่งเพิ่มเติม ทาวน์โฮมหน้ากว้างแบบนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

เริ่มกันที่บริเวณหน้าบ้าน เราจะได้ที่จอดรถ 2 คันแบบพอดีๆ โดยช่องจอดทางด้านขวามือจะเป็นแบบตอนลึกประมาณ 2.5 x 7 m. สามารถจอดรถกระบะได้เลยครับ

ส่วนพื้นก็จะเป็นคอนกรีตที่ลงเสาเข็มสั้นมาให้ และจุดที่น่าสนใจมากๆก็คือ ประตูรั้วเหล็กบานเฟี้ยมจะมีการติดตั้งล้อเลื่อนมาด้วย ทำให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงสามารถทำเป็นประตูอัตโนมัติในอนาคตเองได้ง่ายอีกด้วยนะครับ

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> 5 ไอเดีย เปลี่ยนประตูรั้วทาวน์โฮมให้ใช้งานง่าย ต้องใช้เงินเท่าไหร่?

ซ้ายมือจะเป็นตู้จดหมายและช่องทิ้งขยะ ที่สามารถเปิดได้ 2 ฝั่ง โดยเจ้าของบ้านก็สามารถทิ้งจากด้านในได้สะดวก ส่วนเจ้าหน้าที่ก็เปิดเก็บขยะจากด้านนอกได้เลย

ด้านซ้ายของบ้านจะเป็นพื้นที่สวน ที่เราสามารถปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาวน์โฮมทั่วไปมักจะไม่ค่อยมี (หากไม่ใช่แปลงมุม)

อีกทั้งยังมีพื้นที่คอร์ดตรงกลางระหว่างยูนิตทั้ง 2 ที่กว้างประมาณ 2.1 m. ซึ่งดูเผินๆแล้วก็ให้อารมณ์เหมือนเป็นบ้านแฝด และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย

อีกด้านหนึ่งของบ้านหลังนี้ที่เป็นแปลงมุม เค้าก็จะมีพื้นที่สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้นมาด้วยครับ นั่นหมายความว่าเราจะมีสวนให้ใช้งานปลูกต้นไม้ได้ถึง 2 ฝั่ง (สำหรับทาวน์โฮมแปลงมุมแบบนี้) ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ทำสวนมากๆนั่นเอง

ทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เหมือนเดิมนะครับ

เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ที่มีจุดเด่นหลักๆก็คือ ช่องแสงที่อยู่ด้านหลังโซฟา ทำให้มีช่องแสงรวมกันถึง 3 ด้าน ซึ่งต่างจากทาวน์โฮมทั่วไป ที่มักจะมีแค่หน้าบ้านและหลังบ้านเท่านั้น จึงทำให้ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งมากขึ้น

โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นโซฟานั่งเล่น และสามารถใช้รับแขกได้ด้วยนั่นเองครับ มีระยะดูทีวีประมาณ 3 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ ส่วนพื้นก็จะเป็น SPC ลายไม้ พร้อมกับฝ้าเพดานสูง 2.8 m.

ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารกลางบ้าน เหมาะที่จะใช้ขนาด 4 ที่นั่งแบบนี้ครับ เพื่อที่จะได้ไม่เกะกะทางเดินด้านข้างมากนักนั่นเอง

รวมถึงบริเวณหน้าต่างของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ พร้อมกับมีท่องานระบบต่างๆเตรียมไว้ด้วย ซึ่งเราสามารถ Built-in ทำเป็นครัวฝรั่งไว้เตรียมอาหารเบาๆในบ้านแบบนี้ได้ แต่หากใครที่ชอบทำครัวแบบจริงจัง ก็แนะนำให้ทำครัวไทยแยกไปอยู่ด้านนอกจะดีกว่านะครับ

ติดกันจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีขนาด 2.1 x 4 m. ถือว่าค่อนข้างใหญ่และปรับฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องเล่นเกมส์ หรือห้องนอนชั้นล่าง

แต่จุดเด่นจริงๆของห้องนี้ก็คือ เราจะได้ช่องแสง 2 ด้านทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านเลยครับ จึงทำให้ภายในห้องสว่างและระบายอากาศได้ดีทีเดียว

ส่วนหลังบ้านของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เป็นพื้นปูนที่ลงเสาเข็มสั้นมาให้เหมือนตรงที่จอดรถ แต่บ้านตัวอย่างเค้าก็ได้ตกแต่งเป็นครัวในร่มมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งก็น่าใช้งานดีทีเดียวนะ

โดยหากใครที่สนใจอยากจะต่อเติมครัวในลักษณะนี้ ทางโครงการก็ได้แจ้งว่าปัจจุบันเค้ามี Promotion ต่อเติมครัวแบบนี้ให้ฟรีด้วยนะ (ไม่ทราบระยะเวลาที่แน่นอน ลองสอบถามกับโครงการอีกครั้งนะครับ)

ส่วนภายนอกจะเป็นพื้นที่กลางแจ้งที่มีแท็งค์น้ำ และห้องเก็บของใต้บันไดเล็กๆ โดยเราสามารถใช้เป็นพื้นที่ตากผ้า หรือปลูกผักสวนครัวเล็กๆน้อยๆได้ครับ

กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง โดยทางด้านขวาของบ้านจะเป็นโถงบันไดและห้องน้ำ ซึ่งจะอยู่หลบมุมมองสายตาจากทางหน้าบ้านก่อนหน้านี้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ

โดยจุดที่น่าสนใจคือ บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่อเนกประสงค์กว้าง 1.55 x 1.6 m. ซึ่งเราสามารถนำตู้ต่างๆมาวาง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้เยอะเลยทีเดียว

ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ และแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนดี จุดเด่นคือเค้าจะมีที่นั่งอาบน้ำเพิ่มมาให้ด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวที่อาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย เพื่อที่จะได้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นนั่นเองครับ

สุขภัณฑ์ต่างๆยังคงเป็นของ Cotto โดยมีพื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.3 x 1.6 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 90 x 70 cm. ให้ใช้งานได้พอดีๆ

บันไดจะเป็นรูปตัว C โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน พร้อมกับมีช่องแสงที่ด้านบน ทำให้บริเวณนี้สว่างและไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลยครับ ส่วนโถงบันไดด้านบนก็จะมีขนาดใหญ่ทีเดียว

เริ่มจากห้อง Master Bedroom ที่อยู่ทางซ้ายมือก่อนครับ โดยจุดเด่นจริงๆก็คือ เราจะได้ช่องแสงถึง 2 ด้าน บรรยากาศคล้ายหลังแปลงมุมหรือบ้านแฝด ที่ได้ความสว่างและโปร่งโล่งที่ดีมากๆ

ส่วนภายในห้องก็มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ กว้างประมาณ 4.2 x 3 m. ซึ่งทางโครงการได้แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 2 ส่วน เพื่อเป็นไอเดียทำให้ห้องนี้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นครับ

โดยเราสามารถติดทีวีแขวนกับผนังที่อยู่ตรงกลางห้องเพิ่มได้แบบนี้ ทำให้สามารถนอนดูซีรีย์บนเตียงได้แบบสบายๆ

ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ทำเป็น Walk-in Closet ตรงหน้าห้องน้ำได้เป็นสัดส่วน และสามารถเดินออกมาแต่งตัวได้สบายๆ โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัวอีกด้วยนะ

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน พร้อมสุขภัณฑ์จาก Cotto ครบ โดยสิ่งที่เพิ่มมาจากห้องอื่นๆก็คือ ช่องแสงที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งหากมองจากหน้าบ้านก็จะไม่รู้ว่าเป็นห้องน้ำนั่นเองครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็กสุดของบ้าน ขนาดประมาณ 2.8 x 2.55 m. ซึ่งหากใครที่อาจมีลูกแค่คนเดียวอยู่แล้ว ก็อาจปรับห้องนี้ให้เป็นห้องพระ หรือห้องทำงานก็ได้ครับ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่มีขนาดและฟังก์ชันเหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ โดยจะเป็นห้องที่ใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง

สุดท้ายคือห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะมีขนาด 2.6 x 4 m. เหมาะที่จะเป็นห้องของลูกคนโต

โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ เราจะได้ช่องแสง 2 ด้าน ทั้งจากหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งทำให้ห้องนี้สว่างโปร่งโล่ง และสามารถระบายอากาศได้ดีครับ

ส่วนภาพบ้านเปล่ามาตรฐานจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

• Bromley ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.15 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านขนาดเล็กสุดของโครงการ ซึ่งจุดเด่นก็ยังคงเป็น Common Area ขนาดใหญ่ และได้ห้องอเนกประสงค์เป็นสัดส่วน ให้สามารถปรับฟังก์ชันเป็นอะไรก็ได้ตาม Lifestyle ของครอบครัว รวมถึงบนชั้น 2 เราก็จะได้ห้องนอนขนาดใหญ่ถึง 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวอีกด้วย

ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงเหมาะกับ “ครอบครัวขนาดเล็ก” ที่อาจมีลูกแค่คนเดียว โดยเค้าก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในห้องได้ตั้งแต่เล็ก-โต มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง และแน่นอนว่ามีราคาที่จับต้องได้ง่ายที่สุด ในบรรดาแบบบ้านทุกแบบอีกด้วยนั่นเองครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น ราคา ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2565

• Bromley ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.15 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท (Promotion)
• Bolney ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 26.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท (Promotion)
• Brightling บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35.85 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท (Promotion)
• ค่าจอง ทาวน์โฮม 5,000 บาท และบ้านแฝด 10,000 บาท
• ค่าทำสัญญา ทาวน์โฮม 5,000 บาท และบ้านแฝด 10,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 85,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่บนถนนแพรกษาช่วงตอนปลายทางฝั่งถนนตำหรุ-บางพลี จึงทำให้เป็นโซนที่สามารถเข้าเมืองไปทางกิ่งแก้ว-บางนาได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเป็นแหล่งงานที่สำคัญของย่าน และมีตลาดกับคอมมูนิตี้มอลล์ให้จับจ่ายใช้สอยอยู่ใกล้ๆด้วย ถือว่าเป็นทำเลที่ใช้ชีวิตได้ไม่ลำบากเลย

ส่วนถ้าเป็นถนนแพรกษาตอนต้นทางฝั่งสุขุมวิท ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และรถไฟฟ้า BTS แพรกษา ถึงแม้จะความคึกคักที่มากกว่าก็จริง แต่โซนนั้นส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นคอนโดไปซะหมดแล้ว ดังนั้นหากใครมองหาบ้านแนวราบก็มักจะต้องเป็นแถวฝั่งตำหรุ-บางพลีเนี่ยแหละครับ โดยหากต้องการใช้ทางด่วนก็จะมีถนนกาญจนาภิเษกอยู่ไม่ไกลนัก รวมถึงทางโครงการก็จะมี Shuttle Service ไว้คอยบริการรับ-ส่งที่รถไฟฟ้าให้อีกด้วย (อัพเดต 5/08/2022)

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามี รปภ. คอยดูแล 24 ชม. พร้อมไม้กั้นกระดกระบบ RFID รวมถึงยังมีกล้อง CCTV อีกด้วยครับ ส่วนภายในบ้านจะมีการติดตั้ง Digital Door Lock และเพิ่มกล้อง IP Camera เพื่อความปลอดภัยที่ดีมากขึ้น

การออกแบบโครงการ : มีการแบ่งโซนที่อยู่อาศัยออกเป็น 2 ส่วนตามลักษณะของที่ดิน จึงทำให้มีการกระจายพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ 2 จุด ทั้งบริเวณด้านหน้าและตรงกลางโครงการ เพื่อทำให้ลูกบ้านแต่ละโซนสามารถมาใช้งานได้สะดวกพอๆกัน แต่สำหรับบ้านในเฟสแรกทางด้านหน้าอาจมีความได้เปรียบกว่าอยู่สักหน่อย เพราะจะใกล้กับ Facilities ทั้ง 2 จุดเลยครับ

นอกจากนี้แบบบ้านแต่ละ Type ก็จะมีการวางตำแหน่งที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยบ้านแฝดมักจะอยู่บริเวณใกล้กับบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง เรียกได้ว่าเดินมาใช้งานได้ง่ายๆเลย รองลงมาก็จะเป็นทาวน์โฮม 8 m. และ 6 m. ตามลำดับ โดยบ้านทุกหลังจะอยู่ภายในซอยย่อยทั้งหมด จึงได้ความเป็นส่วนตัวจากรถที่อาจผ่านไป-มาบนถนนหลักด้วยนั่นเองครับ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : มีโปรดักส์ให้เลือก 3 แบบ ซึ่งบ้านแฝดจะมีจุดเด่นคือ Common Area ที่เปิดพื้นที่โชว์แนวบันไดสวยๆ ทำให้ภายในบ้านดูกว้างขวาง และให้บรรยากาศคล้ายบ้านเดี่ยว รวมถึงห้องนอนเล็กชั้นบนก็สามารถทุบผนัง เพื่อปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน และเชื่อมต่อพื้นที่กลายเป็นห้องนอนใหญ่เพิ่มอีกห้องได้ด้วยครับ

ส่วนทาวน์โฮมก็มีความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะตัวหน้ากว้าง 8 m. ที่มีผังบ้านทรง L Shpae จึงทำให้เกิดคอร์ดตรงกลาง ได้พื้นที่สีเขียวให้ปลูกต้นไม้ทำสวน และมีช่องแสงภายในบ้านมากขึ้น ซึ่งเป็นการออกแบบที่ช่วยแก้ปัญหาของทาวน์โฮมทั่วไปได้ดีทีเดียว อีกทั้งผนังที่เว้นระยะห่างจากกันก็ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และดูคล้ายกับบ้านแฝดหรือทาวน์โฮมแปลงมุมทุกยูนิตเลยครับ ส่วนตัวหน้ากว้าง 5.5 m. นอกจากจะมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งานได้หลากหลายแล้ว ยังได้ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำส่วนตัวอีกด้วย

วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็นระบบ Precast ทั้งหมด ยกเว้นผนังห้องนอนเล็กของบ้านแฝดที่จะเป็นผนังก่ออิฐ ซึ่งทางโครงการตั้งใจคิดเผื่อเพื่อความยืดหยุ่น ให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเองได้ง่ายมากขึ้น ที่จอดรถและลานซักล้างเป็นการลงเสาเข็มสั้นมาให้ วัสดุปูพื้นชั้นล่างเป็น SPC ลายไม้ ส่วนชั้นบนเป็นไม้ลามิเนต แต่สิ่งที่ชอบคือ เค้าจะติดตั้งล้อเลื่อนของประตูรั้วมาให้ด้วย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น หรือจะทำเป็นประตูอัตโนมัติในอนาคตเพิ่มก็ไม่ยาก และถ้าใครที่ได้โปรต่อเติมครัวให้ฟรีก็จะค่อนข้างคุ้มค่ามากขึ้นครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ปัจจุบันเรายังไม่ได้เห็นสวนสาธารณะของจริงนะครับ เพราะพื้นที่ด้านในโครงการยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่จากบริเวณด้านหน้าตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าและถนนหลัก ก็จะเห็นว่ามีการปลูกต้นไม้เอาไว้ตลอดทาง รวมถึงบริเวณหน้าอาคาร Clubhouse เองก็มีสวนเล็กๆอยู่ด้วย

แต่ที่น่าสนใจจริงๆก็คือ แบบบ้านส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม 8 m. จะมีพื้นที่สวนเป็นของตัวเองทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากกว่าครึ่งของโครงการเลยทีเดียวครับ นั่นหมายความว่าในอนาคตถ้าเพื่อนบ้านหลายๆหลัง มีการปลูกต้นไม้ภายในบ้านของตัวเองเพิ่มเติมเหมือนกัน ก็จะทำให้บรรยากาศของซอยที่อยู่อาศัย มีความเขียวขจีและดูสดชื่นมากขึ้นได้นั่นเองครับ ซึ่งก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องรอดูในอนาคตกันอีกทีนะ

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็น Lobby / Fitness / สระว่ายน้ำ และในอนาคตก็จะมีสวนให้ใช้งานที่เฟสด้านในด้วย ซึ่งตรงนั้นจะเน้นเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งสนามเด็กเล่นและ Basketball Court เป็นต้น

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2.99 – 5.59 ล้านบาท, 19 กรกฎาคม 2565

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้นิคมฯบางปู ใกล้ตลาด ถนนตำหรุสามารถเดินไปเทพารักษ์-บางนาได้ง่าย มีวงแหวนกาญจนาฯและรถไฟฟ้าให้ใช้
• ความปลอดภัย 7.75/10 – มีให้มาครบตามมาตรฐาน และเพิ่ม Digital Door Lock + IP Camera ภายในบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – แบบบ้านดี ทาวน์โฮมหน้ากว้างสุด 8 m. ได้สวนและช่องแสงเพิ่มขึ้น บ้านแฝดบรรยากาศสไตล์บ้านเดี่ยว สามารถทุบผนังห้องนอนปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้
• วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้าง Precast / เพิ่มล้อเลื่อนที่รั้วบ้านให้ใช้งานสะดวก
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีสวน 2 จุด ปลูกต้นไม้ริมถนนหลักตลอดทั้งเส้น และในบ้านแต่ละหลังก็มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้เพิ่มได้
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ กระจายตัวอยู่ 2 จุดทั้งด้านหน้าและกลางโครงการ
• 7.81 / 10.00

บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น เหมาะกับใคร

โครงการ บริทาเนีย แพรกษา สเตชั่น เหมาะกับคนที่มองหาบ้านใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปู ที่ทำเลมีความอุดมสมบูรณ์ครบและหาของกินได้ไม่ยาก โดยเน้นเป็นโปรดักส์บ้านแฝดที่มีบรรยากาศสไตล์บ้านเดี่ยว รวมถึงฟังก์ชันห้องสามารถทุบผนังและปรับเปลี่ยนได้ ส่วนทาวน์โฮมจะหน้ากว้างสุดถึง 8 m. ที่มีทั้งพื้นที่ทำสวน ช่องแสง และได้ความเป็นส่วนตัวไม่แพ้บ้านแฝดเลย มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.99 – 5.59 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 21,000 – 39,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc