รีวิวโครงการ
The Sneak EP.21 – Rubik Cube เพชรเกษม 81/6
23 มีนาคม 2019
รีวิวฉบับที่ 1785 … สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีโครงการ Rubik Cube เพชรเกษม 81/6 จาก Rubik Cube Land and Property Development มาฝาก ซึ่งเป็น Dev. หน้าใหม่ที่แจ้งเกิดเป็นโครงการแรกด้วย ทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 3.5 ชั้น ทำเลมีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย และมีทางลัดเชื่อมต่อไปยังถนนหลักอื่นๆได้ ขนาดพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.69 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรลองไปชมกันเลยครับ
Fact @ 17 January 2019
- Rubik Cube Phetkasem 81/6 (รูบิกส์ คิวบ์ เพชรเกษม 81/6)
- Rubik Cube Land and Property Development
- ECONOMY – MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : เขตหนองแขม
- เนื้อที่โครงการ 17-2-77.8 ไร่ จำนวน 186 ยูนิต
- Type A ทาวน์โฮม 2 ชั้น 20 ตร.วา 128.1 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
- Type B ทาวน์โฮม 2 ชั้น 24.4 ตร.วา 153.9 ตร.ม. หน้ากว้าง 6 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
- Type C ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น 23.7 ตร.วา 257.0 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 60,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : มีนาคม 2558
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ประมาณปี 2563
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 087 483 8666
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.700758, 100.335440
แผนที่จากทางโครงการครับ
โครงการ Rubik Cube เพชรเกษม 81/6 ตั้งอยู่ในย่านหนองแขม ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพฯค่อนไปทางจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยความที่อยู่ในเขตชานเมืองที่อยู่อาศัยจึงเป็นแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ โดยบ้านที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ ที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยก็เป็นบ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์โฮม ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้มีค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มอยู่บนถนนเพชรเกษมเป็นหลัก โครงการตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 81/6 หรือซอยหมู่บ้านหรรษา เป็นซอยตัน แต่จะมีทางลัดเชื่อมต่อไปยังซอยเพชรเกษม 81 (ถนนมาเจริญ) ที่สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้นหลักๆคือ ถนนเพชรเกษม ถนนเอกชัย ถนนกาญจนาภิเษก และถนนพุทธสาคร สามารถพาไปทะลุถนนเอกชัย-บางบอน แล้วไปยังออกพระราม 2 ได้ อีกทางคือจากถนนเลียบคลองภาษีเจริญ สามารถขับตรงไปออกถนนพุทธสาครเพื่อไปออกจังหวัดสมุทรสาครได้ และจากถนนเพชรเกษมสามารถทะลุไปยังเส้นกาญจนาภิเษกไปออกถนนบรมราชชนนีได้ ข้อดีของโครงการที่อยู่ในซอยแบบนี้คือสามารถลัดเลาะไปยังถนนใหญ่เส้นอื่นๆในเวลาเร่งด่วนที่มีรถติดบนถนนใหญ่ได้
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ถ้าเป็นตลาดจะมีตลาดสดสายสี่ที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆที่ใช้เดินได้จริงจังจะเป็นห้าง Big C, The Mall บางแค, Seacon บางแค และ Tesco Lotus ก็ค่อนข้างมีครบนะ แต่ด้วยความที่เป็นถนนเพชรเกษมรถอาจติดพอสมควร และตลอด 2 ข้างทางยังมีพวกตลาดและคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆอีกมาก รวมถึงมีสถานศึกษาหลายแห่งจึงคึกคักเป็นพิเศษ แต่จุดเด่นของโครงการคือภายในซอยเพชรเกษม 81/6 ตั้งแต่หน้าปากซอยมาจนถึงโครงการจะมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่เรียงรายซึ่งค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว และจากที่ได้คุยกับชาวบ้านยังทราบอีกว่าซอยหมู่บ้านหรรษานี้มีความพิเศษ คือตั้งแต่หน้าปากซอยจนถึงบริเวณที่ตั้งโครงการ Rubik จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของกันทั้ง 2 ข้างทาง มีตลาดเช้าช่วง 6.00 – 10.00 น. และยังมีตลาดเย็นช่วง 5 – 6 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึงหัวค่ำทุกวัน ซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ครับ เท่ากับว่าเราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปตลาดไกลเลยแต่กลับมีตลาดมาเปิดในซอยให้ถึงที่กันเลยทีเดียว
มาดูเส้นทางของซอยนี้กันสักหน่อยนะครับ เส้นสีแดงเข้ามาจากหน้าปากซอยเพชรเกษม 81/6 มาถึงตัวโครงการจะมีระยะทางประมาณ 450 m. ถ้าใครไม่อยากเดินให้เมื่อยหน้าปากซอยก็จะมีวินมอไซค์ให้เรียกใช้ รวมถึงยังมีเซเว่น มินิบิ๊กซี และ CP Freshmart ให้แวะก่อนเข้าบ้านอีกด้วย เพียงแต่เส้นทางสีแดงก่อนหน้าที่จะมีถึงโครงการจะเป็นทาง One way ไม่สามารถออกทางเดินได้นะครับ ซึ่งถ้าจะออกไปถนนเพชรเกษมจะมีตัวเลือก 2 ทาง ทางแรกคือเส้นสีเขียว จะเลี้ยวไปทางซอยที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานที่ดินหนองแขม เพื่อเชื่อมต่อไปออกที่ซอยเพชรเกษม 81/5 ได้ในระยะทางประมาณ 550 m.
หรือจะเป็นเส้นสีน้ำเงินซึ่งเป็นทางลัดซอยเพชรเกษม 81 ที่อยู่ด้านข้างโครงการเลยครับ เชื่อมต่อไปซอยมาเจริญเพื่อไปออกถนนเพชรเกษมเหมือนเดิมก็ได้ หรือจะลงมาด้านล่างผ่านถนนบางบอน 5 และถนนเอกชัย เพื่อไปยังถนนพระราม 2 ก็ได้อีกด้วย เพียงแต่เส้นทางนี้มีจุดที่ต้องระวังคือจะมีช่วงทางแคบสั้นๆซึ่งรถจะผ่านได้ทีละคัน และซอยนี้จะมีรถสวนกันได้ด้วย พอถึงจุดนี้ต้องระมัดระวังกันหน่อยนะ และมีออกมาจากซอยเล็กแล้วที่หน้าปากซอยมาเจริญจะมาโผล่ตรงทางโค้งพอดี ซึ่งถ้าเราจะไปทางถนนพระราม 2 ก็ต้องเปลี่ยนไปเลนฝั่งตรงข้ามซึ่งต้องระวังรถจากหัวโค้งถนนให้ดีๆด้วยนะครับ
ส่วนเส้นสีม่วงเป็นระยะทางไปยังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมต่อเส้นทางมาจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ โดยสถานทีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีพุทธมณฑลสาย 4 ห่างจากโครงการประมาณ 650 m. ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งระยะห่างนี้ก็ยังพอจะเดินไปได้แต่ก็แอบเนื่อยอยู่บ้างนะครับ
ต่อไปคือเรื่องจุดกลับรถ ถ้าเราออกจากทางปกติตามเส้นสีส้มหรือก็คือซอยเพชรเกษม 81/6 จะต้องไปกลับรถที่จุดกลับรถที่ 1 ระยะทาง 1.9 km. แต่ถ้าเราใช้ทางลัดมาออกซอยเพชรเกษม 81 (ถนนมาเจริญ) หรือเส้นสีเขียวจะต้องมากลับรถที่จุดกลับรถที่ 2 ระยะทางประมาณ 1.9 km. เช่นกัน ซึ่งถึงแม้ระยะทางจะเท่ากัน แต่มีส่วนต่างของระยะท่างจุดกลับรถทั้ง 2 จุดมากถึง 1.6 km. ถ้าเราจะเข้าเมืองแล้วต้องการกลับรถ ผมแนะนำให้ใช้เส้นทางสีเขียวจะใกล้และเร็วกว่ามากครับ
ทางด่วนจะแนะนำจุดขึ้นที่ใกล้ที่สุดคือวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะต้องใช้ถนนเพชรเกษมในการเดินทางเป็นหลัก ถึงแม้จะมีระยะทางแค่ 10 km. แต่ต้องใช้เวลาราวๆ 20 – 50 นาที เนื่องจากถนนเส้นนี้รถติดหนักมากจริงๆครับ คนแถวนี้ส่วนมากจึงเลี่ยงเส้นทางนี้แล้วไปใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 4 เชื่อมต่อไปยังถนนบรมราชชนนี เพื่อเข้าเมืองจะสะดวกมากกว่า
อีกเส้นทางคือใช้ถนนมาเจริญ(ซอยเพชรเกษม 81/6) เชื่อมต่อมายังถนนบางบอน 5 ถนนเอกชัย มาออกที่ถนนพระราม 2 เพื่อมาขึ้นวงแหวนกาญจนาได้เช่นกัน
และถ้าเลยถนนกาญจนาภิเษกมาก็จะไปขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครได้ในเวลา 1 ชม. สามารถเข้าเมืองได้โดยตรงเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางในวันนี้ผมเริ่มต้นที่ The Mall บางแค ขับตรงมาเรื่อยๆบนถนนเพชรเกษม แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 81/6 ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงจุดตัดกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 เข้าซอยมาประมาณ 450 m. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ
เริ่มต้นที่แถวหน้า The Mall บางแค ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งตรงจุดนี้เป็นที่ตั้งของ MRT สถานีหลักสองด้วย ให้ขับรถตรงไปตามทางบนถนนเพชรเกษมเรื่อยๆเลยครับ
ตลอด 2 ข้างทางเราก็จะเห็นทั้งที่อยู่อาศัยแบบตึกแถว ซุปเปอร์มาร์เก็ต และโรงพยาบาล ถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว
คอนสังเกตป้ายซอยทางซ้ายมือ เมื่อถึงซอยเพชรเกษม 81/6 แล้วจึงเลี้ยวซ้ายได้เลยครับ
ขับเข้ามาในซอยเรื่อยๆประมาณ 450 m. เราจะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ ให้เลี้ยวเข้าสู่โครงการได้เลย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
บริบทโดยรอบโครงการเป็นชุมชนแรวราบทั้งหมด คือเป็นชุมชนหมู่บ้านหรรษา ที่เป็นอาคารตึกแถวและบ้านเดี่ยวซะเป็นส่วนใหญ่ สามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับอาคารสำนักงานที่ดินหนองเขม
- ทิศใต้ : ติดกับถนนซอยเพชรเกษม 81 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก : ที่ว่างและโรงงานหรือโกดัง
- ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าหลักโครงการจากถนนซอยเพชรเกษม 81/6 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น
มาเดินดูรอบๆโครงการกันสักหน่อยนะครับ ด้านหน้าเป็นถนนซอยเพชรเกษม 81/6 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น
เราจะไปดูทางขวาของโครงการกันก่อนนะ โดยซอยนี้คือซอยหมู่บ้านหรรษาจึงเป็นซอยตัน แต่จะมีทางลัดเชื่อมไปอีกซอยหนึ่งได้อยู่
ซอยด้านข้างติดกับโครงการคือซอยเพชรเกษม 81 ที่สามารถไปออกถนนมาเจริญเพื่อไปเชื่อมต่อถนนบางบอน 5 ถนนเอกชัย แล้วไปออกถนนพระราม 2 ได้ครับ
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับโครงการทางด้านขวานี้จะเป็นบ้านพักอาศัยซึ่งจะเปิดร้านขายของชำอยู่ด้วยนะ ถือว่าใกล้โครงการมากที่สุดเลย มาอุดหนุนกันได้
ต่อไปเราจะมาดูทางด้านซ้ายของโครงการกันบ้าน ซึ่งจะเป็นทางออกไปหน้าปากซอยเพชรเกษม 81/6 นั่นเอง ด้านขวาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่นะ
ถัดจากตัวที่กำลังก่อสร้างอยู่จะมีตัวที่สร้างเสร็จแล้วให้ดูด้วย มันคือแบบทาวน์โฮม Type C แบบ 3.5 ชั้น จะมีหน้าตาแบบนี้นั่นเอง ด้านหน้าติดถนนหลักทำเป็นหน้าร้านได้เลยครับ
ติดกันทางซ้ายของโครงการจะเป็นสำนักงานที่ดินหนองแขม อย่างที่บอกว่าซอยของถนนหน้าสำนักงานที่ดินจะใช้เป็นทางลัดไปออกถนนใหญ่จากซอยเพชรเกษม 81/5 ได้ครับ
หันกลับมามองฝั่งตรงข้ามจะมีร้านกาแฟและร้านเค้กเก๋ๆอยู่ร้านหนึ่งชื่อ Hunsa Garden ถัดไปจะมีตลาดเล็กๆอยู่ แต่จะมีร้านขายของสดแค่ 2 – 3 ร้านด้านหน้าแค่นี้แหละครับ แต่ก็พอจะซื้อของสดไปประกอบอาหารที่บ้านได้บ้างนะ
ต่อไปบริเวณช่วงหน้าปากซอยจะเป็นตึกแถวตลอด 2 ข้างทาง และจะมีรถจอดอยู่เรียงรายกัน 2 ข้างแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะตึกแถวไม่มีที่จอดรถในบ้านเหมือนบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม ทำให้เหลือถนนแค่ 1 เลน รถจึงขับสวนกันไม่ได้ครับ
ที่ชั้นล่างจะเปิดเป็นร้านค้าร้านอาหารอยู่หลายร้านเลย ถือว่ามีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก
และที่บริเวณปากซอยจะมีทั้งเซเว่นและ CP Freshmart ให้ได้มาหาซื้อของกินหรืออาหารสดแช่แข็งกันเอาไปประกอบอาหารกันอีกด้วยนะ
มีวินมอไซค์หน้าปากซอยสามารถมาใช้บริการกันได้ถ้าไม่อยากเดิน 450 m. ให้เมื่อย ราคาเท่านี้ครับ
มาถึงปากซอยที่ถนนใหญ่กันแล้วนะ ซึ่งทางขวาจะมีสะพานลอยตั้งอยู่ด้านหน้าเลยด้วย ถ้าใครต้องการข้ามถนนไปเรียกรถสาธารณะเข้าเมืองที่ฝั่งตรงข้ามก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย
ว่าแล้วเราก็มาดูภาพรวมจากบนสะพานกันทีเดียวเลยดีกว่า ทิศนี้เป็นทางเข้าเมืองไป The Mall บางแค ถนนกว้างก็จริงแต่รถก็เยอะอยู่ดี ทำให้ตอนเวลาเร่งด่วนรถติดขัดมากนะ ส่วน 2 ข้างทางช่วงนี้จะเป็นตึกแถวยาวตลอดแนว
ด้านขวามือคือซอยหมู่บ้านหรรษาหรือซอยเพชรเกษม 81/6 ซึ่งหน้าปากซอยจะมีทั้ง Mini Big C และป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ด้วยครับ
ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทางที่มุ่งหน้าไปอ้อมน้อย พุทธมณฑลสาย 4 และจ.นครปฐม รวมถึงในอนาคตทางทิศนี้จะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน สถานีพุทธมณฑลสาย 4 ตั้งอยู่อีกด้วยครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ตลาดสดสายสี่ ~ 2.3 กม.
- มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ~ 4.1 กม.
- Big C Extra เพชรเกษม 2 ~ 5.1 กม.
- โรงเรียนเลิศหล้า ~ 5.4 กม.
- Victoria Garden ~ 6.1 กม.
- โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ~ 6.5 กม.
- โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ บางแค ~ 8.6 กม.
- วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม ~ 10.2 กม.
- สวนสุขภาพบางบอน ~ 10.5 กม.
- Tesco Lotus บางแค ~ 10.7 กม.
- ตลาดบางแค ~ 11.7 กม.
- The Mall บางแค ~ 13.3 กม.
- Seacon บางแค ~ 14 กม.
- The Paseo Park ~15.4 กม.
มาถึงเรื่องของตัวโครงการกันแล้วนะครับ Rubik Cube เพชรเกษม 81/6 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 3.5 ชั้น รวม 186 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาด 17-2-77.8 ไร่ มีทางเข้าออกแค่ทางเดียวซึ่งจะต้องผ่านป้อม รปภ. มีพี่ยามคอยดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ถ้าขับรถมาก็จะต้องใช้ Key Card ในการแตะบัตรเพื่อเปิดไม้กั้นกระดกเข้ามานะ แต่ถ้าเป็นบุคคลภายนอกก็จะต้องแลกบัตรก่อน เมื่อเข้ามาภายในจะมีถนนหลักกว้าง 12 m. ถือว่าค่อนข้างกว้างนะครับ และจะตรงยาวตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง ก่อนจะแยกออกเป็นซอยย่อยต่างๆซึ่งถนนกว้าง 9 m. แต่มีเพียงแค่ 1 – 2 ซอยเท่านั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไร
แปลงด้านหน้าสุดจะมีที่ดินติดถนนซอยเพชรเกษม 81/6 ที่อยู่หน้าโครงการ ถูกวางเป็นแบบบ้าน Type C สูง 3.5 ชั้น และมีทางเข้า-ออกเป็นของตัวเองได้จากถนนได้เลยเหมือนที่เราได้เห็นกันตอนไปเดินทำเลก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็น Type ที่ชั้นล่างจะมีประตูเหล็กม้วนเลื่อนเปิด-ปิดปลอดภัยจึงทำเป็นหน้าร้านขายของได้ เหมาะกับคนที่อยากทำมาค้าขายหรือเปิดออฟฟิศที่อาจมีคนมาติดต่อบ่อยๆ ถ้าซื้อแปลงนี้จะสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องผ่านป้อมยามเพื่อแลกบัตรทุกครั้ง ส่วนแปลงอื่นๆด้านในจะเป็นแบบบ้านมาตรฐาน Type A หน้ากว้าง 5 m. และ Type B หน้ากว้าง 6 m. จะเป็นแปลงมุม ส่วนที่ผมชอบคือช่องว่างในแต่ละล็อคที่เกิดจากกฏหมายจัดสรรสำหรับทาวน์โฮมที่จะสร้างได้ติดกันยาวสูงสุดได้ไม่เกิน 40 m. และจะต้องเว้นระยะด้านละ 2 m. เพื่อป้องกันเรื่องของอัคคีภัย ทำให้เหลือระยะช่องว่างนี้กลายเป็น 4 m. โดยทางโครงการก็ไม่ได้เหลือไว้เป็นพื้นที่สูญเปล่า แต่จัดเป็นที่กลับรถเล็กๆและสวนสีเขียวที่สามารถเดินเชื่อมต่อระหว่างซอยได้ไม่ต้องอ้อมไปไกล แน่นอนว่าบ้านแปลงมุมที่อยู่ข้างๆจะได้มีต้นไม้สีเขียวอยู่ติดรั้วบ้านอีกด้วย
ส่วนกลางถูกวางไว้ตรงกลางของโครงการเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน จะมีก็แต่แปลงที่อยู่ด้านในสุดอาจจะต้องเดินมาใช้ไกลกว่าเพื่อนหน่อย โดยส่วนกลางจะประกอบด้วยสวนสีเขียวและอาคาร Club House ภายในมี Fitness และสระว่ายน้ำ รวมถึงห้องนิติบุคคลที่อยู่ชั้น 2 ด้วย แล้วใครที่อยู่แปลงไกลๆแต่ไม่อยากเดินมาก็ไม่เป็นไรนะครับ คุณสามารถขับรถมาได้เพราะด้านหน้าส่วนกลางจะมีที่จอดรถให้อยู่ด้วย
มาดูของจริงกันเลยดีกว่าครับ ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ณ วันที่เข้าไปถ่ายรีวิวโครงการนี้ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างพื้นที่บางส่วนกับพื้นที่เฟส 2 อยู่นะ แต่ก็เริ่มมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วครับ ด้านหน้าโครงการทั้ง 2 ด้านจัดเป็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆ โดยรวมดูเรียบร้อยและมองเห็นป้ายชื่อโครงการได้อย่างชัดเจนดี
ซุ้มประตูทางเข้าเป็นลักษณะ Modern สีเทาเข้มสไตล์เรียบๆ มีการตกแต่งผนังด้วยลายหินเล็กน้อยให้เข้ากับตัวบ้านในโครงการ และมีหลังคาคลุมให้พอจะกันแดดกันฝนได้บ้าง ทางเข้ารถยนต์แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง มีไม้กระดกกั้นและมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ยังมีทางเข้าคนเดินแยกออกจากทางเข้ารถยนต์ทั้ง 2 ฝั่งเพื่อความปลอดภัยและจะได้ไม่ต้องข้ามถนนไป-มาอีกด้วย ใครมาจากด้านไหนก็เข้า-ออกฝั่งนั้นได้เลย
ระบบเข้า-ออกต้องใช้ Key Card มาแตะระยะใกล้ พร้อมด้วยกล้อง CCTV ที่ด้านหน้าอีก 2 จุด คอยส่องป้ายทะเบียนรถและหน้าคนขับ รวมถึงภายในโครงการยังมีอีกหลายที่ตามจุดต่างๆเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
ส่วนทางเข้าของคนเดินจะเป็นช่องโล่งๆไม่มีประตูกั้นนะครับ ถึงแม้จะอยู่ใกล้ป้อม รปภ. และถ้าจะเดินเข้าพี่ยามจะต้องเห็นก็จริง แต่ถ้าพี่ยามติดธุระแลกบัตรกับรถยนต์อยู่ไม่ทันหันมามองแล้วมีคนรีบวิ่งผ่านไปได้ก็อาจไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ทางที่ดีแนะนำให้ติดประตูเพิ่มสักหน่อยจะดีครับ
เมื่อผ่านป้อม รปภ. มาแล้วจะเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 12 m. และมีทางแยกออกไปซอยย่อยซ้าย-ขวา โดยถ้าเราต้องการไปส่วนกลางหรือ Sale Gallery ก็ให้ตรงเข้าไปได้เลย
ปัจจุบัน Sale Gallery ยังใช้อาคาร Clubhouse เป็นสำนักงานอยู่นะครับ ซึ่งจะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ เข้ามาในโครงการไม่ลึกเลย ส่วนบ้านตัวอย่างก็จะอยู่ใกล้ๆกันถัดออกไปอีกหน่อย
ที่ด้านหน้าของ Clubhouse อย่างที่บอกไปว่าจะมีที่จอดรถให้ด้วย ใครที่บ้านอยู่ลึกๆหรือไม่อยากเดินมาให้เมื่อยจะขับรถมาจอดก็ได้นะครับ
ทางเข้า Clubhouse จะอยู่ทางด้านซ้าย จัดเป็นทางเดินในสวน วางแผ่นหินบนพื้นหญ้า และมีต้นลั่นทมประดับทั้ง 2 ฝั่งดูร่มรื่นดีครับ
ทางขึ้นอาคารจะมีบันไดยก step ขึ้นไปเล็กน้อย ก่อนจะเป็นเฉลียงและมีทางแยกไปทางขวาและมีบันไดขึ้นด้านบนต่ออีกชั้นหนึ่งครับ
เรามาดูชั้น 1 กันก่อนนะ เมื่อเลี้ยวขวามาจะเป็นทางเดินข้างสระว่ายน้ำที่อยู่ทางขวา และจะมีห้องกระจกในอาคารที่อยู่ทางซ้ายด้วย
โดยห้องนี้จะเป็นห้อง Fitness ครับ อยู่ที่ชั้น 1 ใกล้กับสระว่ายน้ำ ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงและมาใช้งานได้สะดวก
ภายในจะมีกระจกที่เปิดโล่งสามารถ Take View สระว่ายน้ำด้านหน้าและสวนด้านหลังได้ แต่ปัจจุบันห้องนี้ยังใช้เป็นสำนักงานขายอยู่นะครับ ถ้าโครงการขายหมดแล้วหรือมีการจัดตั้งนิติเรียบร้อยก็จะคืนพื้นที่ส่วนนี้ให้กับลูกบ้าน จะมีเครื่องเล่นต่างๆมาลง ซึ่งดูจากพื้นที่แล้วก็อาจจะไม่เยอะมากครับ สามารถวางได้ประมาณ 4 – 5 เครื่องเท่านั้น
สระว่ายน้ำที่อยู่ด้านนอกมีขนาดประมาณ 9 x 7.8 m. สังเกตตรงมุมซ้ายล่างจะมี step บันไดให้เดินลงไปได้ และตรงจุดนี้เป็นจุดน้ำตื้น 0.6 m. ที่เด็กสามารถเล่นได้ครับ แต่ต้องเป็นเด็กโตหน่อยนะเพราะมันจะไม่ใช่สระเด็กแบบทั่วไป เพราะไม่มีขอบกั้นระหว่างส่วนตื้นกับส่วนลึก ต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ตลอดเวลานะ
ส่วนอีกด้านจะมีทางไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังแยก ช-ญ นะ ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีหลังคาคลุมคอยกันแดดกันฝนให้ด้วย ถือว่าดีครับ
ภายในจะมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ และโถปัสสาวะสำหรับห้องน้ำชาย รวมถึงจะมีตู้ Locker มาติดตั้งให้ด้วยในอนาคต ห้องน้ำนี้ดีตรงที่มีช่องหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้เต็มที่ดีครับ
ส่วนชั้นบนเมื่อขึ้นมาจะเป็นห้องนิติบุคคลนะ แต่ปัจจุบันยังเป็น office ของ Sale อยู่ครับ
ติดกันทางด้านซ้ายของอาคาร Clubhouse จะมีสวนอยู่ด้วย มีการปูพื้นหญ้าและปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงา แต่ต้องรอให้โตกว่านี้อีกสัก 2 – 3 ปี จะแผ่กิ่งก้านแล้วจะร่มรื่นมากกว่านี้นะ ตรงกลางมีบ่อน้ำพุเล็กๆวางประดับ วันไหนอากาศดีๆก็สามารถมาเดินชมสวนเล่นกันได้
ถัดมาเลยมาดูซอยย่อยกันสักนิด เป็นถนนรองกว้าง 9 m. จะสักเกตว่าเริ่มมีคนเข้ามาอยู่กันแล้ว และบ้านบางหลังจะมีการต่อเติม รวมถึงนำรถมาจอดไว้ด้านหน้าด้วย ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะครับ เราควรจอดในบ้านจะดีกว่านะเพราะโครงการนี้เขาออกแบบบ้านมาให้จอดรถได้ถึง 2 คันแล้ว
ส่วนที่ชอบคือช่องว่างระหว่างล็อค ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นจุดกลับรถได้แล้วยังจัดเป็นสวน ปลูกต้นไม้ และทำเป็นม้านั่งพักผ่อนได้ สามารถเดินทะลุไปอีกซอยได้โดยที่ไม่ต้องไปอ้อมตามถนนให้เสียเวลา ที่จะได้ใช้บ่อยๆคือสำหรับคนที่บ้านอยู่ถัดไปอีก 2 ซอยแต่อยากมาใช้ส่วนกลางก็ลัดมาทางนี้ได้เลยครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Clubhouse
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 9 x 7.8 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 – 5 เครื่อง
- สวนสาธารณะ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 26 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.3 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
มาถึงเรื่องที่พักอาศัยกันแล้วครับ โครงการนี้เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 3.5 ชั้น โครงสร้างภายนอกเป็นระบบเสา-คาน ส่วนผนังภายในบ้านจะเป็นอิฐมวลเบา มีบ้านทั้งหมด 3 Type ประกอบด้วย
- Type A ทาวน์โฮม 2 ชั้น 20 ตร.วา 128.1 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Type B ทาวน์โฮม 2 ชั้น 24.4 ตร.วา 153.9 ตร.ม. หน้ากว้าง 6 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Type C ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น 23.7 ตร.วา 257.0 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
สำหรับบ้านตัวอย่างของโครงการนี้จะมีแค่แบบเดียวคือ Type A หน้ากว้าง 5 เมตร จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ
แปลนบ้าน Type A ทาวน์โฮม 2 ชั้น 20 ตร.วา 128.1 ตร.ม. เป็นแบบบ้านมาตรฐานหน้ากว้าง 5 เมตร จึงจอดรถได้ 2 คัน ภายในบ้านส่วนแรกคือ Common area ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น โต๊ะอาหาร และครัวแบบเปิดซึ่งใช้เป็นพื้นที่อุ่นอาหารหรือจัดเตรียมอาหารเบาๆได้ ตรงเคาน์เตอร์หน้าต่างยังมีช่องหน้าต่างที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามา หรือจะเปิดเพื่อระบายอากาศก็ได้ ซึ่งถ้าเราเปิดประตูบานเลื่อนหน้าบานเอาไว้ ลมก็จะพัดผ่านถ่ายเทได้ดี ส่วนครัวไทยจริงจังจะมีพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านให้ทำได้ หรือจะวางเครื่องซักผ้าแล้วใช้พื้นที่สวนด้านหลังสำหรับตากผ้าก็ได้ หรือจะต่อเติมครัวด้านหลังก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่ ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ติดกับครัว มีช่องหน้าต่างสามารถระบายอากาศและกลิ่นได้ดี โดยห้องน้ำชั้นล่างนี้จะมีส่วนอาบน้ำเตรียมไว้ให้ด้วยครับ เผื่อใครไม่อยากรอคิวอาบน้ำด้านบนก็สามารถลงมาอาบด้านล่างได้ บันไดบ้านเป็นรูปตัว L ปกติและมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดให้ด้วย
ขึ้นมาชั้น 2 เฉลียงหน้าห้องจะไม่กว้างมากนักใช้เป็นโถงทางเดินได้เท่านั้น ด้านบนจะมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้องซึ่งจะต้องใช้งานร่วมกันทั้ง 3 ห้อง ลักษณะฟังก์ชันในห้องน้ำจะเหมือนๆกับด้านล่างแต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า และจะกั้นฉากกั้นอาบน้ำได้ สำหรับห้องนอนเล็กจะอยู่ในตำแหน่งหลังบ้าน มีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกัน ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางหน้าบ้านเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ดีของเจ้าของบ้าน เวลาแขกไปใครมาจะได้มองเห็นได้ ได้กระจกบานกระทุ้งในห้องขนาดใหญ่ พร้อมกับมีระเบียงส่วนตัวด้วย โดยรวมแบบบ้านนี้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก-ปานกลาง อาจมีลูก 1 – 2 คน หรือเป็นครอบครัวเริ่มต้นที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดกำลังเหมาะสม ใช้งานสบายๆ มีที่จอดรถให้ถึง 2 คัน ของพ่อแม่ 1 คัน ของลูกอีกสักคัน ค่อนข้างให้ความสำคัญกับ Common area ที่ต้องใช้งานร่วมกันเป็นอันดับแรก และมีพื้นที่ห้องนอนใหญ่กว้างขวางไม่อึดอัด
เอาล่ะมาดูของจริงกันเลย นี่เป็นหน้าตาของบ้านที่สร้างเสร็จเรียบร้อยรอคนเข้าอยู่เท่านั้น หน้าตาเรียบๆสไตล์ Modern Tropical สื่อถึงความทันสมัยที่เข้ากับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา เพราะมีการใช้ระแนงมาตกแต่งบริเวณระเบียงที่นอกจากจะช่วยเรื่องเป็น Grimix ของ Facade แล้วยังช่วยพรางสายตาและป้องกันความร้อนจากแสงแดดเข้าบ้านเราได้ด้วย สีของตัวบ้านใช้ขาว เทา ดำ น้ำตาล และลายของอิฐที่นำมาตกแต่งทำให้ดูเรียบหรู
หน้าบ้านกว้าง 5 m. พื้นปูด้วยคอนกรีตแบบ Slap on Ground สามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูหน้าบ้านที่ให้เป็นบานเฟี้ยมเปิดออกได้กว้างสุดทั้ง 2 ฝั่ง โดยรถจะได้ร่มเงาจากชายคาที่ยื่นออกมาแค่ประมาณไม่ถึงครึ่งคันดี ถ้าใครไม่อยากให้รถต้องตากแดดตากฝนก็แนะนำให้ทำหนังคาเสริมเพิ่มเติมได้ครับเพราะโครงการนี้เขาไม่ได้มีกฏห้ามนะ
ก่อนขึ้นบ้านจะมีชานพักยกระดับขึ้นไป 1 step เอาไว้วางตู้รองเท้าหรือนั่งถอด-ใส่รองเท้าได้จะได้ไม่เลอะ หรือเวลาฝนตกและล้างรถน้ำก็จะได้ไม่กระเด็นเข้าไปในตัวบ้านมากนักอีกด้วย
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง แต่ที่กรอบจะไม่มีแถบผ้ากำมะหยี่กันฝุ่นและแมลงให้นะครับ เราสามารถหาซื้อมาติดเองได้ไม่ยาก ราคาไม่แพงด้วย
เข้ามาภายในจะเจอพื้นที่ Common area โล่งยาวไปจนถึงครัวด้านหลังแบบนี้ ซึ่งความจริงมันก็ควรจะโปร่งโล่งดี แต่สำหรับบ้านตัวอย่างเค้าวางโซฟาเล็กขวางทางไว้ด้านนี้มันเลยดูเกะกะไปหน่อย ถ้าจะให้ดีควรไปวางไว้อีกฝั่งจะดีกว่าครับ ไม่เกะกะทางเข้าบ้านด้วยนะ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมกับผนังสีขาวทำให้บ้านดูสว่างและกว้างดี ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m. ถือว่าโอเคอยู่ครับ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมติดตั้งไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 8 ดวงตามตัวอย่างบ้านเปล่านะ
ก่อนจะเข้าไปด้านใน หันมาทางขวาเราจะเจอกับประตูห้องเก็บของใต้บันไดซ่อนอยู่ครับ
ประตูมีขนาดใหญ่ สามารถขนของชิ้นใหญ่ๆ หรือเราสามารถเดินเข้าไปเก็บของได้สะดวกไม่ต้องก้ม ซึ่งประตูของจริงก่อนหน้านี้ทางโครงการจะให้เป็นประตูไม้สีขาวแบบกดกระเด้งซึ่งก็จะดูกลมกลืนไปกับผนังดูเรียบร้อยดี แต่ด้วยเรื่องของความแข็งแรงทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น บ้านหลังใหม่ๆต่อจากนี้ทางโครงการจะเปลี่ยนเป็นประตูกระจกขุ่นกรอบอลูมิเนียมสีขาวแบบทางด้านขวาให้แทนครับ
ระยะดูทีวีห้องนั่งเล่นประมาณ 3 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 46 – 50 นิ้วได้เลย และสามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่ง หรือโซฟารูปตัว L ก็ได้ ส่วนพื้นที่หน้าโซฟายังมีเหลือสามารถวางโต๊ะกลางเพื่อวางของหรือรีโมทได้ด้วยนะ ถ้าใครชอบนั่งทำงานหน้าทีวีหรือทานอาหารตรงโซฟาก็สามารถหาโต๊ะที่ปรับความสูงมาใช้ก็จะสะดวกมากขึ้น
ต่อมาเป็นโต๊ะทานอาหารกับครัวเปิด ซึ่งถ้าใครอยากได้เป็นครัวปิดก็สามารถกั้นผนังได้นะ แนะนำให้เป็นผนังกระจกเพราะจะได้โปร่งโล่งไม่อึดอัด หรือถ้าพื้นที่ตรงนี้ไม่ทำเป็นครัวหรือพื้นที่เตรียมอาหาร จะทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆก็แล้วแต่ความชอบเลยครับ
บ้านตัวอย่างวางโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งมาให้ดู ซึ่งก็มีระยะสามารถลุกนั่งได้สะดวกดี แต่พื้นที่ยังมีอีกเหลือเฝือ สามารถขยายเป็นโต๊ะแบบ 6 ที่นั่งได้นะ
ตู้ด้านบนความจริงเค้าก็ไม่ได้แถมมาให้ แต่ก็เป็นไอเดียในการเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เป็นประโยชน์ได้ มีช่องหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ตรงนี้ช่วยให้แสงเข้ามาและเปิดระบายอากาศได้ ภายในบ้านจะได้ไม่อึดอัดจนเกินไป ซึ่งบางโครงการก็อาจจะทำผนังด้านนี้ทั้งหมดเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปยังสวนหลังบ้านได้เลยเพื่อความโปร่งโล่งและเพิ่มพื้นที่ช่องแสง แต่สำหรับฟังก์ชันแบบจะเป็นการเน้นพื้นที่ใช้งานมากกว่าความโปร่งโล่งหรือความสวยงาม เพราะถ้าเป็นประตูและกระจกมันก็จะทำเคาน์เตอร์หรือเอาตู้อะไรไปขวางทางไม่ได้จริงมั๊ย
ด้านข้างมีพื้นที่วางตู้เย็นอยู่ ต่อปลั๊กเอาไว้ให้พร้อมใช้งานเรียบร้อยดี
ด้านขวามีประตูเปิดออกไปลานซักล้างหลังบ้านได้ และมีประตูห้องน้ำ กับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งเดี๋ยวผมจะค่อยๆพาไปดูทีละส่วนนะ
เริ่มจากไปดูลานซักล้างหลังบ้านก่อน เมื่อเปิดประตูออกมาจะเป็นพื้นกระเบื้องสำหรับใช้งานได้อยู่นะ ไม่ใช่พื้นหญ้าสวนหลังบ้านโดยตรง
พื้นที่ตรงนี้ขนาด 2.2 x 1.75 m. แล้วแต่ว่าจะจัดเป็นอะไร บางคนซักผ้าและตากผ้าเองบ่อยๆก็อาจวางเครื่องซักผ้าได้ หรือบางคนอยากได้ครัวเพิ่มก็ Built เคาน์เตอร์ครัวตรงนี้เลยก็สะดวก ด้านบนมีช่องหน้าต่างของห้องน้ำและติดไฟดาวน์ไลท์แบบฝังผ้าให้ 1 ดวง
หลังบ้านตามกฏหมายของทาวน์โฮมคือจะมีระยะ 2 m. ถ้าใครไม่อยากทำสวนก็ต่อเติมเป็นพื้นที่ใช้งานอื่นๆเช่นครัวไทยหรือลานซักล้างได้ครับ ส่วนช่องหน้าต่างก็จะเอาไว้เปิดรับ-ส่งอาหารก็ได้นะสะดวกดี อิอิ
มองไปด้านบนหลังคาจะมีฝ้าระบายความร้อน พร้อมติดแผ่นสะท้อนความร้อนเอาไว้ให้แล้ว ส่วนใครที่ไม่อยากให้น้ำฝนลงตรงนี้ จะติดรางน้ำฝนแบบบ้านหลังข้างๆนี้ก็ได้นะ
มาต่อกันที่ห้องน้ำด้านในเราจะได้สุขภัณฑ์ต่างๆแบบนี้ทั้งหมดยกเว้นของตกแต่ง
พื้นที่ภายในขนาดประมาณ 1.15 x 2 m. โดยพื้นจะลดระดับลงจากตัวบ้านประมาณ 4 cm. เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นหรือไหลย้อนขึ้นมาบนบ้าน
อ่างล้างหน้าเป็นของ American standard ขนาด 50 x 42 cm. มีขอบด้านบนเล็กน้อยสามารถวางสบู่หรือแปรงสีฟันได้
ติดกันก็เป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อเดียวกัน พร้อมติดตั้งสายฉีดชำระพลาสติกและที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน
ต่อมาจะให้ดูพื้นที่ตรง Shower สักนิดนึง คือจริงๆห้องน้ำนี้ไม่ได้ใหญ่มาก ไม่สามารถกั้นฉากกั้นได้นะครับเพราะมันจะอึดอัดและใช้งานไม่สะดวก โดยตรงนี้จะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 60 x 1.15 เท่านั้น
ติดตั้ง Hand Shower หน้าตาแบบนี้มาให้ ก๊อกแบบก้านโยกที่ก็ใช้งานได้ดีไม่ลื่นมือ พร้อมมีที่วางสบู่เล็กๆอยู่ด้านข้าง
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 ดวง และมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้งที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาและเปิดระบายอากาศได้
ติดกับห้องน้ำเป็นบันได้ทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งมีโครงสร้างเป็น ค.ส.ล. มีความแข็งแรงทนทาน ด้านบนจะเป็นอย่างไรบ้างตามผมขึ้นไปดูกันได้เลย
ลักษณะของบันไดจะเป็นรูปตัว L โดยชานพักด้านล่างไม่มีปัญหานะ เพราะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม 1 x 1 m. แต่พอขึ้นมาด้านบนถึงช่วงเลี้ยวอีกทีจะถูกซอยออกไม่มีชานพัก ซึ่งตรงนี้ต้องระวังเพราะมุมสามเหลี่ยมจะทำให้เหยียบได้ไม่เต็มฝ่าเท้าอาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ ส่วนบันไดช่วงอื่นๆจะมีลูกตั้ง 19 cm. และลูกนอน 24 cm. กว้าง 1 m. สามารถใช้งานได้สะดวก เพียงแต่ระหว่างทางจะไม่มีราวจับให้นะ ต้องเดินดีๆ ส่วนพื้นบันได Top ด้านบนเป็นพื้นไม้ลามิเนต
ด้านบนจะมีห้องแยกออกไป 4 ประตู โดยชีวิตจริงจะไม่ได้เปิดประตูโล่งๆเอาไว้แบบนี้เพราะฉะนั้นโถงนี้ก็จะมืดๆหน่อย ดีที่โครงการติดไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้ามาให้แล้ว สามารถเปิดใช้งานได้นะ
พื้นที่โถงด้านบนไม่ได้กว้างมาก พอแค่เดินสวนกันได้สะดวกแค่นั้น และยังคงปูพื้นชั้น 2 ด้วยพื้นไม้ลามิเนตเช่นเดียวกับบันได ซึ่งก็ดูสวยงามและให้ความรู้สึกอบอุ่นดี แต่ต้องระวังไม่ให้เลอะน้ำเพราะลามิเนตไม่ทนน้ำและเกิดเชื้อราได้ง่ายนะ มันจะบวมน้ำเอา แต่ถ้าดูแลรักษาดีๆมันก็จะอยู่ได้นานเหมือนกัน
สำหรับประตูห้องนอนจะได้เป็นประตูไม้บานทึบ UPVC ลายไม้เข้ากับพื้นห้องแบบนี้ มีที่จับเป็นลูกบิดนะ แต่ถ้าใครที่ติดว่าใช้งานไม่สะดวกก็สามารถหาซื้อแบบก้านโยกมาติดเองได้
พื้นที่ห้อง Master Bedroom ค่อนข้างกว้างขวางนะ สำหรับบ้านตัวอย่างมีการจัดแบ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจดี ทำให้แยกพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แต่ผมก็ถ่ายภาพห้องเปล่ามาให้ดูเปรียบเทียบด้วยว่าของจริงจะโล่งๆกว้างๆแบบนี้ สามารถจัดรูปแบบห้องได้หลากหลายตาม Lifestyle ของแต่ละคน ที่ชอบคือผนังห้องหน้าบ้านเกือบทั้งหมดเป็นกระจกทำให้มีความโปร่งโล่งดี และเพิ่มความเป็นส่วนตัวเข้าไปด้วยการติดม่านโปร่งหรือม่านทึบทีหลังได้ครับ
ทางด้านซ้ายเป็นพื้นที่เตียง สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตไว้กลางห้องได้แล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงสามารถใช้งานได้สะดวก
ปลายเตียงและทางด้านขวาของเตียงมีระยะเหลือ 60 cm. โดยความจริงปลายเตียงถ้าเราไม่กั้นห้องแบบบ้านตัวอย่างก็จะมีระยะเหลือเฟือครับ
ด้านขวาของเตียงเป็นช่องหน้าต่างเกือบเต็มผนัง และมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน สามารถเปิดระบายอากาศได้
ส่วนทางด้านซ้ายของเตียงยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ บ้านตัวอย่าง Built เป็นตู้เสื้อผ้ามาให้ดู ซึ่งก็มีระยะหน้าตู้เหลืออีก 70 cm. พอที่จะแต่งตัวหน้าตู้ได้พอดี
ต่อไปมาดูพื้นที่อีกด้านของห้องที่บ้านตัวอย่างกั้นไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์กันครับ
ส่วนที่ชอบจริงๆจะเป็นฉากกั้นติดทีวีเนี่ยแหละ เพราะสามารถหมุนกลับไปนอนดูทีวีที่เตียงสบายๆได้ หรือจะนั่งดูที่โซฟาแบบจริงจังเลยก็ดี เรียกได้ว่า 2 in 1 จริงๆครับสำหรับฉากกั้นนี้ ใครจะเลียนแบบเอาไปใช้ก็ไม่ว่ากันนะ
สำหรับพื้นที่นี้ของจริงจะโล่งๆ เราจะจัดสรรเป็นอะไรก็ได้เช่น ทำเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าก็ได้ หรือจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไว้แต่งตัวแบบนี้ และยังทำเป็นโต๊ะนั่งทำงานอเนกประสงค์ได้อีกด้วย โดยฟังก์ชันนี้ก็ยังสามารถสลับกันพื้นที่ตู้เสื้อผ้าข้างเตียงได้ อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนแล้วครับว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหน
ฝ้าเพดานห้องนี้ก็เป็นฉาบเรียบทาสี ได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 6 ดวง ส่วนเครื่องปรับอากาศแล้วแต่ช่วงเวลาของโปรโมชั่นนะ
ติดกันมีระเบียงส่วนตัวให้ด้วย ประตูเป็นกระจกบานเลื่อนเช่นเคย ส่วนพื้นที่ด้านนอกมีขนาดประมาณ 1 x 2 m. ขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถแขวน Condensing unit ไว้ด้านบนได้ แต่ที่ชอบคือระแนงตรงระเบียงที่ช่วยพรางสายตาจากภายนอกแล้วยังช่วยบังแสงแดดได้อีกด้วย แต่ก็อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่งหรืออยาก Take View ที่ชั้น 2 นี้สักเท่าไหร่นะครับ
ต่อไปเราจะไปดูห้องฝั่งตรงข้ามกันบ้างนะ
เริ่มจากห้องน้ำทางซ้ายสุดจะมีฟังก์ชันเหมือนกับห้องด้านล่างเลยครับ พร้อมได้ชุดสุขภัณฑ์ของ American standard เช่นเคย ยกเว้นของตกแต่งนะ
ที่เพิ่มเติมมาคือห้องนี้มีขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นจึงสามารถแบ่งฟังก์ชันส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันได้ชัดเจนมากขึ้นแล้ว สำหรับพื้นที่ส่วนแห้งจะมีขนาดประมาณ 1.35 x 1.5 m.
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกจะลดระดับลงให้อีก 3 cm. ขนาดประมาณ 1.35 x 0.9 m. แต่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะ แต่เราสามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกทั้งห้อง ใครงบน้อยหน่อยก็ใช้ติดเป็นม่านเพิ่มเอา
ส่วน Hand Shower จะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี Junction box ไว้ต่อเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว
อีกจุดหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือพัดลมดูดอากาศ เพราะเนื่องจากห้องนี้ไม่มีช่องหน้าต่างไว้ระบายอากาศเหมือนห้องด้านล่างครับ
ติดกันเป็นห้องนอนเล็กห้องแรก ซึ่งห้องตัวอย่างจัดเอาไว้ให้ดูเป็นห้องอเนกประสงค์ไว้นั่งทำงานได้ มีช่องหน้าต่างให้แสงเข้าและเปิดระบายอากาศได้ไม่อึดอัด
ถ่ายพื้นที่ห้องเปล่ามาให้ดูซึ่งห้องนี้จะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 2.5 x 3.9 m. สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ริมหน้าต่าง แล้ววางตู้เสื้อผ้าไว้ทางด้านซ้ายได้อีก 1 ตู้ โดยยังพอเหลือพื้นที่กลางห้องอีกหน่อยจะเพิ่มโต๊ะนั่งทำงานข้างเตียงเข้าไปอีกก็ได้นะ
ห้องนี้ได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 ดวงแบบนี้เน้อ
ติดกันเป็นห้องที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่คราวนี้จัดฟังก์ชันออกมาในลักษณะที่ผมอธิบายไปแล้วก่อนหน้านี้ เพียงแต่ความจริงแล้วห้องนี้จะมีพื้นที่แคบกว่าห้องเมื่อสักครู่เล็กน้อยครับ
อันนี้ถ่ายพื้นที่การใช้งานมาให้ดู จะเห็นว่าเมื่อใส่เฟอร์นิเจอร์ลงไปแล้วก็ยังคงมีพื้นที่เหลือให้เดินได้อยู่ ไม่ได้อึดอัดจนเกินไปนะ
ฝ้าเพดานก็เหมือนเดิมกับห้องข้างๆเลยครับ
แอบชะโงกหน้ามาดูที่หน้าต่างหลังบ้าน ด้านหลังจะมีขอบให้วาง Condensing unit ของชั้นบนได้นะในกรณีต้องการจะติดเครื่องปรับอากาศเพิ่ม
ส่วนสวิตซ์ไปและปลั๊กจะเป็นของ Panasonic สีขาวหน้าตาแบบนี้ จะต่างจากของบ้านตัวอย่างเล็กน้อยครับ
แบบบ้าน Type B ทาวน์โฮม 2 ชั้น 24.4 ตร.วา 153.9 ตร.ม. หน้ากว้าง 6 เมตร ซึ่งฟังก์ชันทั้งหมดภายในบ้านจะคล้ายกับ Type A เลยนะ เพียงแต่ชั้นบนจะมีห้องน้ำเพิ่มอีก 1 ห้อง และห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวเพิ่มความเป็นส่วนตัวไม่ต้องแย่งกันใช้และได้ความสะดวกสบายมากขึ้น ส่วนห้องทุกห้องจะมีความกว้างมากขึ้น และจะมีพื้นที่สวนด้านข้างเพิ่มขึ้นมาเพราะแบบหน้ากว้าง 6 m. จะเป็นแปลงมุมเท่านั้นครับ บ้านนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากมีพื้นที่สวนข้างบ้านโดยเฉพาะ และจะมีช่องหน้าต่างข้างบ้านเพิ่มตรงโต๊ะทานอาหาร กับห้องน้ำ 2 ห้องด้านบนจะมีช่องระบายอากาศแล้ว จึงกลายเป็นแบบบ้านที่ห้องน้ำทุกห้องมี Ventilation ที่ดี เสียดายอย่างเดียวคือตรงห้องนั่งเล่นน่าจะมีช่องหน้าต่างอีกสักจุด จะทำให้โปร่งโล่งมากขึ้นกว่านี้อีกครับ แบบบ้านนี้จึงเหมาะกับคนที่อาจมีงบมากขึ้นอีกหน่อยซึ่งจะได้พื้นที่ใช้สอยที่กว้างมากขึ้น และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
แบบบ้าน Type C ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท เป็นแบบบ้านที่จะอยู่ทางด้านหน้าของโครงการ ลักษณะคล้ายโฮมออฟฟิศที่ชั้นล่างสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่หน้าร้านได้ ฝ้าเพดานสูงแบบ Double space ทำให้โปร่งโล่ง พื้นที่ด้านหลังบ้านที่หันเข้าสู่ในโครงการจะเป็นที่จอดรถ ขึ้นบันไดมาจะเจอกับชั้นลอยก่อนซึ่งก็สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่นั่งเล่นก็ได้ ถัดขึ้นมาจะเป็นชั้น 2 ถูกจัดเป็นห้องนอนแบบเต็ม Floor และจะมีระเบียงด้วยในตัว มีห้องน้ำให้อีก 1 ห้อง ส่วนชั้น 3 ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าจะไม่มีระเบียงแต่จะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งแทนครับ ซึ่งในความเป็นจริงชั้นห้องนอนทั้ง 2 ชั้นเราจะเลือกชั้นใดชั้นหนึ่งเป็นห้อง Master Bedroom ก็ได้ ส่วนอีกชั้นหนึ่งก็กั้นพื้นที่ทำเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง จะทำให้รองรับสมาชิกในครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นได้ แบบบ้านนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากมีบ้านที่เป็นทั้งที่ทำงาน ค้าขาย และเป็นที่อยู่อาศัยได้ด้วยในตัว พื้นที่พักอาศัยกว้างขวางสามารถจัดสรรได้ด้วยตัวเอง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 January 2019
- Type A ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
- Type B ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
- Type C ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น Type A, B เงินจอง 5,000 บาท เงินสัญญา 20,000 บาท เงินดาวน์ 5,900 บาท
- ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น Type C เงินจอง 100,000 บาท เงินสัญญา 300,000 บาท เงินดาวน์ 20,000 บาท
- ดาวน์ n/a % ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 60,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – โครงการ Rubik Cube เพชรเกษม 81/6 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 81/6 หรือซอยหมู่บ้านหรรษา แม้จะเป็นซอยตัน แต่ก็มีทางลัดเชื่อมต่อไปยังซอยเพชรเกษม 81 (ถนนมาเจริญ) ที่สามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญอื่นๆเช่น ถนนบางบอน 5 ถนนเอกชัย และถนนพระราม 2 ได้ ความพิเศษของทำเลซอยนี้คือเป็นซอยชุมชนซอยตันแต่มีความอุดมสมบูรณ์และความคึกคักสูง โดยเฉพาะบริเวณช่วงต้นซอยที่มีทั้งร้านสะดวกซื้อและร้านค้าร้านอาหาร รวมถึงมีตลาดเช้าและตลาดเย็นภายในซอยนี้ด้วย ส่วนในช่วงเวลาปกติก็จะเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ถ้าอยากเดินห้างใหญ่ๆก็จะมี The Mall กับ Seacon บางแค ที่อยู่บนถนนเพชรเกษม แต่คนแถวนี้ก็ต้องทำใจหน่อยนะเพราะถนนแถวนี้รถค่อนข้างติดขัดพอสมควร ดีที่ทำเลซอยฝั่งคี่อยากที่ตั้งโครงการสามารถเชื่อมต่อกับทางเลี่ยงทางลัดต่างๆได้เยอะ และอยู่ใกล้กับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่จะช่วยหนีรถติดไปใช้ถนนบรมราชชนนีเพื่อเข้าเมืองได้ ส่วนรถสาธารณะนอกจากปากซอยจะมีวินมอไซค์และป้ายรถเมล์แล้ว อนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินอีกด้วย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีพุทธมณฑลสาย 4 อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 650 m. เป็นระยะที่พอจะเดินไปใช้ได้นะ
ความปลอดภัย – โครงการนี้มีทางเข้า-ออกแค่ทางเดียว และมีป้อม รปภ. อยู่ทางด้านหน้า มีไม้กระดกกั้น และเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card ระยะใกล้ มีทางเข้าของคนแยกออกจากทางเข้ารถจึงสามารถเดินเข้าได้อย่างปลอดภัย เพียงแต่ทางเข้าคนเดินจะไม่มีประตูกั้นจึงอาจมีคนอื่นเข้าไปได้ กล้อง CCTV อยู่ทั้งตรงป้อม รปภ. กับภายในโครงการรวม 26 จุด และมีรั้วโครงการสูง 2.3 m.
การวางผังโครงการ – โครงการมีถนนหลักแค่เส้นเดียว ซึ่งจะมีสวนและพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางของโครงการเพื่อความสะดวกในการใช้งานของบ้านแต่ละหลัง เพียงแต่บ้านที่อยู่ด้านในสุดอาจเดินไกลกว่าเพื่อนหน่อยแต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัว ซอยย่อยต่างๆไม่ค่อยซับซ้อน และไม่ค่อยมีทางตันสามารถเชื่อมต่อมยังถนนหลักได้ง่าย รวมถึงพื้นที่ว่างระหว่างบ้านแต่ละล็อคจะเป็นทั้งที่กลับรถและสวนเอาไว้นั่งเล่นกันผ่อน รวมถึงสามารถเดินทะลุผ่านเพื่อลัดมายังอีกซอยได้โดยไม่ต้องอ้อม โครงการมีจำนวนยูนิตเพียง 186 หลัง ซึ่งถือเป็นโครงการจัดสรรขนาดกลาง ไม่หนาแน่นมากนัก มีความเป็นส่วนตัวดีครับ
การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – โครงการนี้เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น และ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 – 6 m. จึงทำให้สามารถจอดรถได้ถึง 2 คัน ซึ่งก็เหมาะกับทำเลที่ต้องใช้รถแบบนี้ หน้าตาบ้านออกแบบทรง Modern Tropical ดูทันสมัยและเหมาะกับเมืองร้อนบ้านเราเพราะมีระแนงทำเป็น Facade ซึ่งนอกจากจะตกแต่งเพื่อความสวยงามแล้ว ยังช่วยพรางสายตาและบังแดดได้อีกด้วย พื้นที่ภายในบ้านค่อนข้างโอเค Common area ดูกว้างขวาง สามารถกั้นครัวในบ้านหรือต่อเติมเป็นครัวไทยได้ ห้องน้ำด้านล่างมีพื้นที่อาบน้ำเตรียมไว้ให้เผื่อจะมีคนลงมาใช้ด้านล่างถ้าไม่อยากรอกัน บันไดด้านบนไม่มีชานพักต้องเดินระวังหน่อย ส่วนห้องด้านบนมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องนอนใหญ่ 1 ห้องซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างมาก ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ค่อนข้างหลากหลาย และด้านบนก็ยังมีห้องน้ำเพิ่มอีก 1 ห้องด้วย ส่วนแบบบ้าน Type B จะมีช่องหน้าต่างทางด้านข้างและห้องน้ำด้านบนเพิ่มอีก 1 ห้อง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวไม่ต้องแย่งกันใช้งาน Type C ก็สามารถใช้เป็นทั้งพื้นที่ทำงานและพื้นที่พักอาศัยแบบโฮมออฟฟิศได้เลย แบบบ้านโครงการนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง หรืออาจมีลูก 1 – 2 คน ต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัว
วัสดุ – วัสดุตามมาตรฐานของทาวน์โฮม 2 ชั้น โครงสร้างระบบเสา-คาน ผนังเป็นก่ออิฐมวลเบา แบบฉาบเรียบทาสีทั้งหลัง พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้น 2 ทั้งหมดจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนต หน้าต่างและประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard ฝ้าเพดานในบ้านจะเป็นแบบฉาบเรียบและได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า โครงการขายแบบบ้านเปล่า จึงไม่มีชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ใช้งานภายในให้ จึงต้องเพื่องบประมาณสำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วยนะครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – จะมีหลักๆอยู่ 1 จุดตรงอาคาร Clubhouse จะเป็นสวนสาธารณะที่ปูหญ้าและปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาเอาไว้ มีบ่อน้ำพุอยู่ตรงกลางเอาไว้มานั่งเล่นหรือเดินเล่นได้ ส่วนพื้นที่สวนระหว่างบ้านแต่ละล็อคก็จะกระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆของโครงการ และสภาพถนนในโครงการก็จะมีรถจอดอยู่ทั้ง 2 ข้างทางอาจทำให้กีดขวางการจราจรไปบ้างครับ
สาธารณูปโภค – อาคาร Clubhouse ของโครงการเป็นแบบ 2 ชั้น ซึ่ง Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนิติบุคคล ส่วนกลางจะเป็นแบบง่ายๆประกอบด้วย Fitness และสระว่ายน้ำ ขนาด 9.20×7.80 m. ไม่ใหญ่มากนักแต่ก็พอใช้งานได้ มีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้พร้อมใช้งาน ส่วนถนนหลักโครงการกว้าง 12 m. ถนนรองกว้าง 9 m. สามารถใช้งานได้สะดวกดีครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2 – 5 ล้านบาท, 17 January 2019
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – เข้าซอยไม่ลึกมาก เชื่อมต่อถนนใหญ่สายหลาย เดินทางสะดวก หาของกินง่าย
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก Key Card Access รปภ.หน้าหมู่บ้าน รั้วโครการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – เน้นพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางและห้องนอนใหญ่ จัดพื้นที่ฟังก์ชันพอดีเหมาะกับอยู่อาศัย
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมกับการใช้งาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีสวนสาธารณะอยู่ตรงกลางโครงการ เข้าถึงได้ง่าย
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ถือว่าให้มาครบ สระว่ายน้ำ และฟิตเนส แต่เล็กไปหน่อย
- 7.6 / 10.00
BOTTOM LINE
Rubik Cube เพชรเกษม 81/6 เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยแถวเพชรเกษม หนองแขม หรือทำงานในย่านอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ ทำเลอุดมสมบูรณ์ เข้าซอยมาหน่อยได้ความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ทำเลสามารถเชื่อมไปยังถนนสำคัญอื่นๆได้ แบบบ้านมีพื้นที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง และมีส่วนกลางหลักๆให้ใช้งานครบ มีงบประมาณ 2.69 – 5.1 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 19,000 – 36,000 บาท