Dhepa รามคำแหง 118 เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเยอะ ซึ่งออกแบบมาได้เป็นเอกลักษณ์ และแตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันมากครับ โดยนี่เป็นโครงการแห่งแรกของบริษัทนี้ ซึ่งเจ้าของที่เป็นสถาปนิกได้ออกแบบด้วยตัวเอง แถมยังร่วมกับบริษัทบ้านและสวน ในการจัดพื้นที่ Landscape ในโครงการให้มีความสวยงามร่มรื่นอีกด้วย ซึ่งผมมองว่าเค้ามี Highlight หรือจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

  • Concept : แนวคิดในการออกแบบของโครงการ ที่เป็นสไตล์ Urban เน้นความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเห็นได้จากบรรยากาศที่ร่มรื่น และการเลือกใช้วัสดุปิดผิวเป็น “สัจจะวัสดุ” ของตัวบ้าน
  • พื้นที่สวนหลังบ้านใหญ่ : นอกจากพื้นที่ภายในบ้านจะเยอะแล้ว ยังมีพื้นที่สวนหลังบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าทาวน์โฮมทั่วไป เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ และชอบการปลูกต้นไม้ในทาวน์โฮมมากๆครับ
  • ความเป็นส่วนตัว : เป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 55 ยูนิต และวางผังโครงการให้แต่ละซอยมีเพื่อนบ้านเพียง 6 – 8 หลังเท่านั้น ส่วนบ้านที่อยู่ถนนหลักก็ไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร แถมยังดีไซน์ช่องแสงของตัวบ้านให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย
  • พื้นที่ส่วนกลาง : แม้จะเป็นโครงการเล็ก แต่ก็มี Clubhouse และสวนสาธารณะให้ใช้งาน แถมยังมีความร่มรื่นอีกด้วย

ข้อมูลโครงการ

Dhepa Ramkhamheang 118 (เทพา รามคำแหง 118) ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564

 ชื่อโครงการ   Dhepa Ramkhamheang 118 (เทพา รามคำแหง 118)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท ริมทราย จำกัด
 SEGMENT CLASS   UPPER – LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอย รามคำแหง 118 แยก 44 – 2 แขวง สะพานสูง เขต สะพานสูง
 ที่ดิน  7-1-79 ไร่
 จำนวนยูนิต  จำนวน 55 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • DHEPA ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27 – 43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – 9.5 – 13.5 ล้านบาท
  • DHEPA PLUS ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 7.9 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 52.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 295 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 สระว่ายน้ำ
    – 17.9 ล้านบาท (เหลือหลังสุดท้าย)

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.75 เมตร และแบบ Double Volume สูง 5.2 m.
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      120,000 บาท
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (ปี 2564)
 เว็บไซต์โครงการ   https://dhepa-urbanhome.com/
 โทร  063-921-6563

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.764013, 100.686284
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Dhepa รามคำแหง 118 ก็ตามชื่อเลยครับ ทำเลเค้าตั้งอยู่ภายในซอยรามคำแหง 118 ซึ่งเป็นซอยที่เข้า-ออกได้ 2 ทางคือ จากถนนรามคำแหง และถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งจุดขึ้นถนนกาญจนาฯก็อยู่ไม่ไกลครับ สามารถเดินทางไปทำงานได้ไม่ยากเลย ไม่ว่าจะเป็นโซนรามอินทรา-บางปะอิน และลาดกระบัง-บางนา

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้และสะดวกที่สุดคือ ตลาดสัมมากร และ Makro Food Service ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปากซอยรามคำแหง 118 มากนัก หรือถ้าเป็นห้างใหญ่ๆก็จะเป็นแถว The Mall บางกะปิ และบริเวณรอบๆโครงการ ยังเป็นที่มีโรงเรียนนานาชาติอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว ซึ่งถ้าอนาคตใครอยากส่งลูกหลานเรียนอินเตอร์ล่ะก็สะดวกและใกล้มากเลยครับ

นอกจากนี้บนถนนรามคำแหงที่เป็นเส้นหลัก อนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2570 โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ “สถานีสัมมากร” ที่อยู่บริเวณหน้าตลาดสัมมากรนั่นเองครับ

และผมยังได้ข่าวมาอีกว่า ซอยรามคำแหง 118 มีแผนจะเชื่อมต่อไปออกถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าที่อยู่ด้านหลังได้ในอนาคต ซึ่งตอนนี้กำลังมีการเวนคืนที่ดินกันอยู่ (แต่จะมีความเป็นไปได้มาก-น้อยแค่ไหน ใครทราบก็ช่วย comment บอกเพื่อนๆกันได้นะครับ) โดยหากสามารถเชื่อมต่อไปออกถนนใหญ่อีกเส้นหนึ่งได้จริง ก็จะทำให้ทำเลซอยนี้มี Value และเดินทางได้สะดวกมากขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียวครับ ซึ่งปัจจุบันเป็นซอยตันที่รถไม่พลุกพล่านมากนัก

ลองซูมแผนที่เข้ามาดูใกล้ๆอีกหน่อย คือที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยรามคำแหง 118 แยก 44 – 2 ซึ่งเป็นซอยที่แยกย่อยเข้ามาอีกทีหนึ่ง และเป็นซอยตันสั้นๆ สำหรับคนที่ไม่เคยไปหรือไม่คุ้นกับทำเลนี้ ทางเข้าจะดูลึกลับอยู่สักหน่อย คือถ้าไม่มีป้ายโฆษณาที่กำลังขายโครงการเหมือนช่วงนี้ก็อาจหาไม่เจอได้

ในเรื่องนี้ผมมองว่าโครงการเค้าตั้งใจได้ทำเลดูมีความลึกลับ และเป็นส่วนตัวมากที่สุดอยู่แล้วครับ ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยแบบเงียบสงบจริงๆ หรือไม่ได้เป็นครอบครัวที่ต้องรับแขกภายนอกบ่อยๆนั่นเอง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบจะเป็นชุมชนแนวราบ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่สวนเยอะๆ และยังตั้งอยู่ในซอยย่อยที่เป็นซอยตันอีกด้วย ก็เลยได้ความเป็นส่วนตัวสูงครับ สามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ซอยรามคำแหง 118 แยก 42
  • ทิศใต้ : ติดกับ บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ทาวน์โฮม 3 – 4 ชั้น และที่ดินว่างที่อยู่ติดกับถนนซอยรามคำแหง 118
  • ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ซอยรามคำแหง 118 แยก 44-2

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดสัมมากร ~ 3.5 km.
  • Marko Food Service ~ 3.5 km.
  • The Mall บางกะปิ ~ 7.1 km.
  • The Promenade ~ 10.5 km.
  • Fashion Island ~ 10.7 km.

โรงพยาบาล

  • รพ. เกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 3 km.
  • รพ. รามคำแหง ~ 7.4 km.
  • รพ. เวชธานี ~ 8.5 km.
  • รพ. สมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 10.2 km.

โรงเรียน

  • Ascot International School Bangkok ~ 190 m.
  • NIDA ~ 5.8 km.
  • Wellington College International School Bangkok ~ 7.7 km.
  • Brighton College Bangkok International School ~ 10.5 km.
  • มหาวิทยาลัย รามคำแหง ~ 11.2 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • บรรยากาศร่มรื่น : เห็นได้ตั้งแต่ซุ้มต้นไม้ตรงทางเข้าโครงการ (Welcoming Court) มีการเก็บรักษาต้นจามจุรีขนาดใหญ่ดั้งเดิมของที่ดินเอาไว้ และการจัด Landscape ได้สวยงาม โดยใช้พันธุ์ไม้ที่หลากหลาย
  • ความเป็นส่วนตัว : เป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 55 ยูนิต และมีเพื่อนบ้านร่วมซอย 6 – 8 หลัง ส่วนถ้าเป็นบ้านที่อยู่ตรงถนนหลักก็จะไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร มองออกมาหน้าบ้านเห็นกำแพงต้นไม้สีเขียวๆแทน
  • ทิศทางของบ้าน : ไม่มีบ้านหลังไหนที่หันไปทางทิศตะวันตกเลย ทำให้ไม่มีความร้อนหรือแสงส่องเข้าบ้านแรงๆในช่วงบ่าย

Master Plan ผมขอเริ่มจากทางเข้าหลักของโครงการ จะถูกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวและซุ้มประตูต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Welcoming Court ซึ่งร่มรื่นมากๆ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญในการเปลี่ยนบรรยากาศ อารมณ์ และความรู้สึก จากความวุ่นวายภายนอกมาสู่ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวภายในได้ดี นอกจากนี้เค้าจะมีประตูอีกจุดนึงที่อยู่ตรงซอยรามคำแหง 118 แยก 42 ซึ่งจะอยู่ใกล้กับซอยหลักมากกว่า ไว้สำหรับให้รถบรรทุกคันใหญ่ๆใช้งานเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse จะอยู่บริเวณตรงกลางโครงการ ทำให้บ้านทุกหลังสามารถมาใช้งานได้ไม่ยาก แต่ที่ชอบเลยก็คือ “การวางผังบ้านที่เป็นส่วนตัว” โดยแต่ละซอยจะมีเพื่อนบ้านเพียง 6 – 8 หลังเท่านั้น (ยกเว้นซอยสุดท้ายขวามือสุดจะมี 10 หลัง) ส่วนบ้านที่อยู่ติดถนนหลักก็จะไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร แต่จะมองเห็นรั้วต้นไม้มีเขียวที่ถูกปลูกไว้ริมถนนฝั่งตรงข้ามแทน

จึงทำให้ภาพรวมของโครงการนี้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง แถมมองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้สีเขียวสดชื่นอีกด้วยครับ แล้วถ้าใครซีเรียสเรื่องทิศทางของแดดและความร้อนก็ไม่ต้องห่วง เพราะไม่มีบ้านยูนิตไหนที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเลย (เป็นทิศที่โดนแดดช่วงกลางวันนานที่สุด) นั่นจึงทำให้เราสามารถเปิดหน้าต่างรับลมและแสงสว่างได้เต็มที่ตลอดวันเลยครับ

บรรยากาศโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/10
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ตกแต่งด้วยอิฐมอญแดง เข้าออกด้วยไม้กั้นกระดกแบบ Easy Pass เปิดให้อัตโนมัติเหมือนทางด่วน พร้อมพี่ยามคอยดูแล 24 ชม. และคอยแลกบัตรสำหรับ Visitor

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ตกแต่งด้วยอิฐมอญแดง เข้าออกด้วยไม้กั้นกระดกแบบ Easy Pass เปิดให้อัตโนมัติเหมือนทางด่วน พร้อมพี่ยามคอยดูแล 24 ชม. และคอยแลกบัตรสำหรับ Visitor

สำหรับจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ผมมองว่าเค้าเลือกใช้วัสดุได้น่าสนใจ และสะท้อนแนวคิด Urban ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้กำแพงอิฐมอญแดง ปูพื้นอิฐบล็อคให้มีต้นหญ้าแทรกขึ้นมาได้

อีกทั้งยังมีการเก็บรักษาต้นจามจุรีขนาดใหญ่ ที่เป็นต้นไม้ดั้งเดิมของที่ดินผืนนี้ไว้ถึง 3 ต้น แน่นอนว่าต้นไม้ที่เติบโตจากผืนดินของที่นั้นๆตั้งแต่แรก จะมีรากแก้วและโตได้ใหญ่กว่าต้นไม้ที่ซื้อต้นใหญ่มาลงทีหลัง

แถมยังสามารถจัด Landscape ได้ค่อนข้างสวยเลยครับ มีการใช้พันธุ์ไม้หลากหลายชนิดมากๆ ซึ่งเป็นผลงานจากทีมบ้านและสวนเจ้าดังนั่นเอง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Swimming Pool
  • Kids Club
  • Tree House (บ้านต้นไม้)
  • Garden (สวนสาธารณะ)
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 11 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • Key Card Access ระยะไกล (ระแบบ RFID หรือ Easy Pass)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic / Motion Sensor / CCTV ทุกหลัง

แบบบ้าน

Highlights :

  • วัสดุ : โปรดักส์โครงการนี้มีการเลือกใช้วัสดุปิดผิวที่มาจากธรรมชาติ หรือ “สัจจะวัสดุ” ที่เป็นการโชว์ลวดลายที่แท้จริงจากธรรมชาติของวัสดุนั้นๆ ซึ่งเป็นไปตามแนวคิด Urban Home ของโครงการ ทำให้ตัวบ้านมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และมีรายละเอียดมากขึ้น
  • พื้นที่สวน : มีขนาดสวนหลังบ้านที่ใหญ่กว่าปกติ 5 – 6 m. เหมาะกับคนที่ชอบการปลูกต้นไม้ทำสวนมากๆครับ
  • การออกแบบช่องแสงที่เป็นส่วนตัว : หากดูจากภายนอกจะเห็นว่า ชั้น 2 – 3 เค้าจะมีช่องแสงเพียงแค่พอดีกับความต้องการปริมาณแสงภายในห้องเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนที่อยู่ภายใน
  • โครงสร้าง : เป็นการก่ออิฐมวลเบาทั้งหลัง สามารถทุบหรือต่อเติมได้ง่าย และผนังระหว่างยูนิตข้างๆยังเป็นแบบ Double Wall 2 ชั้น ซึ่งจะช่วยกันเสียงรบกวน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวของแต่ละหลังได้เป็นอย่างดี

  • DHEPA ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27 – 43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

นี่เป็นหนึ่งในโครงการทาวน์โฮมที่ให้ความสำคัญกับ “พื้นที่สวนหลังบ้าน” เหมาะกับคนที่รักการปลูกต้นไม้หรือชื่นชอบพื้นที่สีเขียว เพราะเค้ามีการเว้นระยะ set back พื้นที่หลังบ้านมากกว่าปกติ 5 – 6 m. เลยสามารถทำสวน บ่อปลา หรือปลูกต้นไม้ตามที่ชอบได้เต็มที่ และยิ่งช่วง WFH ที่หลายๆคนอยู่บ้านกันแบบนี้ การมีพื้นที่สีเขียวในบริเวณบ้านก็ช่วยทำให้ผ่อนคลายสบายตา สามารถมองชมวิวสวนสวยๆ ได้จากพื้นที่นั่งเล่นในบ้านได้ โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะเค้าอยู่ทางโซนหลังบ้าน

ส่วนห้องครัว ห้องน้ำ และโถงบันได ก็จะขยับอยู่โซนหน้าบ้านแทน เพราะเค้าต้องการให้ความสำคัญกับพื้นที่นั่งเล่นด้านหลัง ให้กว้างขวางและโปร่งโล่งเต็มที่ และยังมีพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอยให้ใช้งาน สามารถมองเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างได้อีกด้วยครับ

สำหรับห้องนอนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ จะอยู่บนชั้น 2 และ 3 ซึ่ง Master Bedroom จะกินพื้นที่ของชั้น 2 ทั้งหมด เหมือนเป็นห้อง Penthouse ขนาดใหญ่ โดยมีจุดที่น่าสนใจคือ การออกแบบช่องเปิดต่างๆ ที่ได้แสงพอดีกับความต้องการโดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว (ซึ่งเดี๋ยวลองไปดูรูปบรรยากาศก็จะเห็นภาพมากขึ้น) ส่วนห้องนอนเล็กของลูกๆจะอยู่ชั้นบนสุด และมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่เลยครับ เป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง แต่อาจไม่เหมาะกับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆไม่ไหว

ก่อนจะไปดูฟังก์ชันในบ้านเรามาดูจุดเด่นอย่างแรกกันก่อน ซึ่งเห็นได้ตั้งแต่ภายนอกอาคารคือ “วัสดุปิดผิว” โดยโครงการนี้จะไม่ได้ใช้การฉาบเรียบทาสีแบบทั่วไป แต่เค้าเลือกใช้วัสดุต่างๆมาเก็บรายละเอียด และทำให้ตัว Facade มีความน่าสนใจมากขึ้น

โดยแนวคิดโครงการคือ Urban Home เค้าจึงเลือกใช้วัสดุปิดผิวประเภท “สัจจะวัสดุ” ซึ่งจะเป็นการโชว์เนื้อแท้จากวัสดุธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแนวผนังอิฐสวยๆ โชว์ลวดลายของปูนเปลือยดิบๆเท่ๆ ใช้กระเบื้องหินธรรมชาติที่มีลวดลายแต่ก็ไม่สกปรกหรือเป็นคราบง่าย รวมถึงใช้ไม้สักแท้บริเวณกรอบด้านหน้าอีกด้วย ซึ่งแสดงถึงความพิถีพิถันและการใส่ใจ ในการเลือกใช้วัสดุของโครงการได้เป็นอย่างดี

ภาพบรรยากาศชั้น 1

Image 1/8
หน้าบ้านกว้าง 6 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆครับ ซึ่งถ้าใครต้องการต่อเติมหลังคาที่จอดรถก็ทำได้สบายๆเลย เพราะเค้าทำคานตรงซุ้มประตูเอาไว้ให้แล้ว โดยหากใช้เป็นหลังคาเรียบๆ ก็แทบจะมองจากหน้าบ้านไม่เห็นเลย จึงทำให้ภาพรวมของบ้านในโครงการดูเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วย

หน้าบ้านกว้าง 6 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆครับ ซึ่งถ้าใครต้องการต่อเติมหลังคาที่จอดรถก็ทำได้สบายๆเลย เพราะเค้าทำคานตรงซุ้มประตูเอาไว้ให้แล้ว โดยหากใช้เป็นหลังคาเรียบๆ ก็แทบจะมองจากหน้าบ้านไม่เห็นเลย จึงทำให้ภาพรวมของบ้านในโครงการดูเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วย

โดยจุดเด่นของชั้นล่างนี้ผมมองว่าคือ ผนังทรายล้างทางขวามือของบ้าน ซึ่งเค้าทำเป็นแนวยาวมาตั้งแต่ในบ้านมาจนถึงสวนหลังบ้าน เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมต่อของพื้นที่ภายในกับภายนอกได้ดีเลยทีเดียว

และอีกอย่างคือ การติดตั้งหลอดไฟบนผนัง ซึ่งจะทำให้เวลาเปลี่ยนหลอดไฟก็จะสะดวกมากขึ้น (ง่ายกว่าไฟดาวน์ไลท์ที่ติดอยู่บนฝ้าเพดานสูงๆ) สามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องจ้างคนมาปีนเปลี่ยนหลอดไฟก็ได้ครับ

นอกจากนี้พื้นที่สวนหลังบ้านมีขนาดใหญ่กว่าทาวน์โฮมทั่วไป ที่กฎหมายจะกำหนดให้ set back 2 m. แต่สำหรับโครงการนี้จะเว้นให้เยอะ 5 – 6 m. สามารถปลูกต้นไม้ทำสวนสวยๆได้เต็มที่มากขึ้น

ภาพบรรยากาศชั้นลอย

Image 1/4
ขึ้นบันไดมาจะเป็นชั้นลอยนะครับ ซึ่งก็จะมีอยู่แค่ห้องเดียวเนี่ยแหละ แต่ที่ชอบคือผนังกระจกขนาดใหญ่ทางซ้าย ที่ทำให้พื้นที่โถงบันไดและในบ้านสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว

ขึ้นบันไดมาจะเป็นชั้นลอยนะครับ ซึ่งก็จะมีอยู่แค่ห้องเดียวเนี่ยแหละ แต่ที่ชอบคือผนังกระจกขนาดใหญ่ทางซ้าย ที่ทำให้พื้นที่โถงบันไดและในบ้านสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว

พูดถึงเรื่องช่องแสงกันสักหน่อย จะเห็นว่าบริเวณชั้นลอยที่เราอยู่ตอนนี้ (กรอบ facade สีส้ม) จะเป็นส่วนที่มีช่องเปิดขนาดใหญ่ เพื่อรับแสงและความโปร่งโล่งได้เต็มที่ ซึ่งเป็นส่วนพื้นที่ใช้งานส่วนรวมของตัวบ้านอยู่แล้ว หรือมักจะเป็นฟังก์ชันที่มีการใช้งานช่วงเวลากลางวัน

แต่สำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง อย่างห้องนอนบนชั้น 2 – 3 ที่อยู่ถัดไป จะมีช่องแสงที่แคบแต่ก็สูง ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการปริมาณแสงในช่วงกลางวัน แต่จะมองไม่เห็นพื้นที่ภายในแม้ยามที่เปิดไฟตอนกลางคืนครับ

ภาพบรรยากาศชั้น 2

ก่อนจะไปดูภายในห้อง อยากจะให้ดูตรงบันไดสักนิดว่า เมื่อเราขึ้นบันไดมาชั้นบนๆ จะมีราวจับเป็นเหล็กมาให้ตลอดทาง ทำให้ใช้งานได้ปลอดภัยแบบนี้นะครับ

Image 1/7
ภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อไปยังส่วนห้องน้ำด้านหลังด้วยนะ (ไม่มีตู้เสื้อผ้ามากั้นแบบบ้านตัวอย่าง)

ภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อไปยังส่วนห้องน้ำด้านหลังด้วยนะ (ไม่มีตู้เสื้อผ้ามากั้นแบบบ้านตัวอย่าง)

และนี่เป็นภาพด้านหลังบ้าน เมื่อมองจากภายนอกเราแทบจะไม่เห็นช่องเปิดหรือหน้าต่างเลยครับ ทั้งๆที่ห้องน้ำเมื่อครู่มีช่องแสงและค่อนข้างสว่างดี แต่เค้ามีการทำผนังปูนมากั้นไว้แบบนี้ ก็เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว

ภาพบรรยากาศชั้น 3

เมื่อเรามาบนชั้น 3 จะเจอโถงบันไดที่แยกห้องนอนออกเป็นโซนหน้าบ้านกับหลังบ้าน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวออกจากกันครับ

Image 1/5
เริ่มกันที่ห้องนอนแรกที่อยู่ใกล้บันไดมากที่สุด เป็นห้องโซนหลังบ้านครับ มีขนาดเล็กที่สุดก็จะเหมาะกับลูกคนเล็ก หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆตาม Lifestyle ก็ได้นะ

เริ่มกันที่ห้องนอนแรกที่อยู่ใกล้บันไดมากที่สุด เป็นห้องโซนหลังบ้านครับ มีขนาดเล็กที่สุดก็จะเหมาะกับลูกคนเล็ก หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆตาม Lifestyle ก็ได้นะ

  • DHEPA PLUS ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 7.9 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 52.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 295 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 สระว่ายน้ำ

บอกก่อนครับว่าแบบบ้านหลังนี้ทั้งโครงการมีเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น และปัจจุบันก็เหลือเป็นหลังสุดท้ายแล้วนะครับ ซึ่งจุดเด่นของเค้าคือ เป็นทาวน์โฮมที่หน้ากว้างถึง 7.9 m. สามารถจอดรถได้ 3 คันสบายๆ และฟังก์ชันส่วนใหญ่ก็จะคล้ายกับแบบหลังเล็กก่อนหน้านี้เลยครับ แต่พื้นที่ห้องจะกว้างขวางและใหญ่ขึ้น

สิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือ สวนด้านหลังบ้านจะมีสระว่ายน้ำมาให้ด้วย ถ้าใครที่เป็นสายปาร์ตี้และอยากได้บรรยากาศริมสระว่ายน้ำแบบนี้ก็เหมาะเลย หรืออาจเอาไว้ให้ลูกฝึกว่ายน้ำเล่นตอนเด็กๆก็ได้นะ แต่อาจไม่ได้ใหญ่มากพอที่จะว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ (สามารถไปใช้สระที่ส่วนกลางได้ครับ) นอกจากนี้ข้างๆบ้านยังมีส่วนของห้องน้ำและห้องแม่บ้านเพิ่มเข้ามาด้วย

แต่ส่วนตัวผมคิดว่าขนาดพื้นที่ของแม่บ้านเล็กไปสักหน่อย และเดี๋ยวนี้ก็มีแม่บ้านรายวันที่สะดวกกว่าให้ใช้บริการ ซึ่งห้องส่วนนี้เราก็เอาไว้เก็บของได้ครับ ส่วนบนชั้น 3 ก็จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงหน้าโถงบันไดเพิ่มเข้ามา สามารถทำเป็นมุมห้องพระก็ได้นะ โดยบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ

Image 1/11

ราคา

Dhepa รามคำแหง 118 ราคา ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564

  • DHEPA ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27 – 43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคา 9.5 – 13.5 ล้านบาท
  • DHEPA PLUS ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 7.9 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 52.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 295 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 สระว่ายน้ำ
    – ราคา 19.2 ล้านบาท >> ราคาพิเศษสำหรับหลังสุดท้ายเหลือเพียง 17.9 ล้านบาท
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 90 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

เรามาดูเพื่อนบ้านรอบข้างกันสักหน่อยครับ ซึ่งโครงการใหม่ที่กำลังเปิดขายในปัจจุบันส่วนมากจะเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ และถ้าเป็นโปรดักส์ทาวน์โฮมก็จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นขนาดใหญ่เกิน 200 ตารางเมตรขึ้นไป โดยจะเน้นเป็นพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งเป็นหลัก ซึ่งโปรดักส์ลักษณะนี้อาจไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือคนที่เดินขึ้น-ลงบันไดทุกวันไม่ค่อยไหวนะครับ

แต่จุดขายของ Dhepa รามคำแหง 118 คือ “การออกแบบ” ที่ช่วยแก้ปัญหาของการไม่มีพื้นที่สีเขียวในทาวน์โฮมได้เป็นอย่างดี โดยการทำสวนหลังบ้านให้มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐาน 5 – 6 m. สามารถปลูกต้นไม้ทำสวนได้จริงจังไม่แพ้บ้านเดี่ยว แต่ก็แลกกับราคาค่าที่ดินที่เราจะต้องจ่ายเพิ่มมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไปเช่นกัน (ราคาเลยแพงกว่า Aura Lite รามคำแหง 94 ที่เป็นทาวน์โฮมทำเลเดียวกัน แต่ก็ได้วัสดุที่ค่อนข้างดีสมราคาที่ต้องจ่ายครับ)

และด้วยประเด็นนี้จึงมีบางคน (โดยเฉพาะคนที่ชอบต้นไม้) อาจมองเปรียบเทียบกับโครงการ Baan Puripuri Courtyard พัฒนาการ ที่เค้ามีพื้นที่ทำสวนตรงกลางบ้านได้นั่นเอง แต่จะเป็นการปลูกในกระถางขนาดใหญ่ที่เค้าเตรียมไว้ให้ ไม่ได้ลงดินโดยตรงนะครับ

ซึ่งทั้ง 2 โครงการมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันชัดเจน อย่างโครงการ Baan Puripuri Courtyard พัฒนาการ เค้าได้เปรียบเรื่องทำเลที่ใกล้เมืองมากกว่า และมีความกล้าในการออกแบบพื้นที่สวนในบ้านที่ไม่เหมือนใคร โดยการเปิดหลังคากลางบ้านเชื่อมต่อกับท้องฟ้าภายนอก ทำให้ความรู้สึกเวลาเดินใช้งานฟังก์ชันในบ้าน เป็นแบบ Semi-Outdoor ที่ต่างไปจากเดิม

ส่วนโครงการ Dhepa รามคำแหง 118 เค้าเด่นในเรื่อง Concept ของความเป็น Urban ที่ชัดเจน ตั้งแต่บรรยากาศโครงการที่ร่มรื่น มีพื้นที่สวนหลังบ้านขนาดใหญ่ให้ปลูกต้นไม้ทำสวนได้จริงจัง และการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติมาปิดผิวอาคาร ซึ่งแต่ละคนก็มีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ผมแนะนำให้ลองเข้ามาชมและสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ด้วยตัวเองครับ คือถ้าใครชอบก็จะชอบเลย และผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงจะตัดสินใจกันได้ไม่ยากแน่นอน

Dhepa รามคำแหง 118 เหมาะกับใคร

โครงการ Dhepa รามคำแหง 118 เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมในย่านรามคำแหง เน้นความเป็นส่วนตัว มีส่วนกลางให้ใช้งาน และให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ และในบ้านต้องมีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ทำสวนได้จริงจัง อีกทั้งยังชอบเรื่องการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาปิดผิว ที่ทำให้ตัวอาคารดูสวยงามและโดดเด่นมากขึ้น โดยเป็นครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง อาจไม่เหมาะกับการมีผู้สูงอายุที่ขึ้น-ลงบันไดไม่ไหวเท่าไหร่นัก ซึ่งต้องมีงบประมาณเริ่มต้นที่ 9.5 – 17.9 ล้านบาท


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc