รีวิวฉบับที่ 360 … Autumn Residence เพชรเกษม 114 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นอยู่เกือบติดถนนใหญ่ ทางเข้าหมู่บ้านห่างจากปากซอยเพชรเกษม 114 ไปประมาณ 20 เมตรเท่านั้นเอง เป็นหมู่บ้านชานเมืองเหมาะกับคนแถวพุทธมณฑล บางแค หรือเพชรเกษม ที่กำลังอยากจะขยับขยาย แต่ไม่ต้องการเข้าไปอยู่ในซอยลึกๆครับ
Fact @ 31 May 2013
- Autumn Residence เพชรเกษม 114
- Vertical Estate Co., Ltd.
- Segment การตลาด 3-4 ล้านบาท
- เนื้อที่โครงการ ประมาณ 6-0-14.4 ไร่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร 77 ยูนิต
- 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 20 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท (Q2/2013)
- คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมู่บ้าน ธันวาคม 2556
- www.autumnresidence.com
- TEL 02-431-2828
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
Autumn Residence เพชรเกษม 114 เป็นทาวน์โฮมชานเมือง ที่อยู่ระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 และพุทธมณฑลสาย 4 ต่อ เนื่องมาจากบางแคนะครับ
จาก Google Map แสดงให้เห็นที่ตั้งของซอยเพชรเกษม 114 หมู่บ้าน Autumn Residence ว่าอยู่ก่อนที่จะถึงพุทธมณฑลสาย 4 ประมาณ 1 กิโลเมตร และอยู่เลยแยกพุทธมณฑลสาย 3 มา 2.6 กิโลเมตร ด้านหลังหมู่บ้านสามารถทะลุเข้าซอย 114 ไปออกที่ถนนสาย 4 ได้ เป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตร
ซูมเข้าไปดูแผนที่เล็กกันบ้าง ปากทางเข้าหมู่บ้านอยู่ห่างจากปากซอยนิดเดียวประมาณ 20 – 30 เมตร ตัวหมู่บ้าน Autumn Residence อยู่ติดกับโครงการ Town Home อีกแห่งหนึ่งด้านบน
หน้าบ้านของบ้านแต่ละหลังจะหันหน้าในแนว เหนือ-ใต้ มีเยื้องทิศตะวันตก-ออก เล็กน้อย เป็นตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้
Project นี้สนับสนุนทางการเงินโดย ธนาคารเกียรตินาคิน นะครับ สามารถก่อสร้างได้เสร็จภายในปีนี้ทุกหลัง
เรามาจากเส้นพระราม 2 นะครับ มุ่งหน้าสู่บางแคกันเลย
ผ่าน Lotus พระราม 2 มาก็ยึดป้ายบางแค ใช้ถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก
จากกาญจนาภิเษก วิ่งไปหน่อยก็ให้ออกซ้ายตามป้าย นครปฐม-บางแค ไปทางถนนเพชรเกษม
ทางนี้นะครับ
เข้าถนนเพชรเกษมมาก็วิ่งตรงไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่พุทธมณฑลสาย 4 เลย
ถนนเส้นนี้แม้ว่าจะไม่ใหญ่และรถติด แต่ก็ดีตรงที่มีต้นไม้เยอะ ทั้งเกาะกลางและสองข้างทาง
เราวิ่งผ่าน Big C Extra (คาร์ฟูร์เก่า) บริเวณก่อนถึงแยกสาย 3 มานะครับ วิ่งเลย Big C มาอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวโครงการ
ผ่านโรงพยาบาลวิชัยเวช ซึ่งเป็น รพ. ที่ใกล้หมู่บ้านมากที่สุด ห่างประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ
ผ่านมหาวิทยาลัยเอเชีย อาร์คเนย์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใกล้ที่สุดเช่นกัน
สังเกตทางขวา ถ้าเห็นป้ายกลับรถ 200 เมตร, เซเว่น และแบงก์ไทยพาณิชย์อยู่ลิบๆก็ให้กลับรถได้แล้วครับ
กลับรถมานิดเดียวก็จะถึงทางเข้าซอยเพชรเกษม 114 พอดี
จุดที่มีลูกบอลลูนกลมๆสีส้มนี้เป็นจุดที่ตั้งสำนักงานขายของหมู่บ้าน Autumn Residence *แต่สำนักงานขายนี้เป็นพื้นที่นอกโครงการนะครับ* เจ้าของหมู่บ้านเก็บเอาไว้ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้าน
เราจอดรถที่สำนักงานขายแล้วเดินลงมาดูทำเลกัน หน้าปากซอยห่างจากหมู่บ้าน 20 เมตรได้ มี 7-11 อยู่ปากซอย พร้อมร้านบะหมี่ ฯลฯ หากินง่าย ไม่อดตายแน่นอน หิวหรือขาดเหลืออะไรก็เดินมาซื้อ ไม่ต้องขับรถออกจากหมู่บ้าน
จากหน้าหมู่บ้านวัดไปท้ายหมู่บ้านได้ 250 เมตร ดังนั้นทุกหลังสามารถเดินมา 7-11 ได้สบายๆเหมือนกันหมดครับ
ซอยเพชรเกษม 114 นี้ จัดเป็นซอยใหญ่ ที่ใช้เป็นทางลัดระหว่างสาย 4 และเพชรเกษม รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลน ถนนกว้างพอสมควร มีรถจอดสองข้างทางอยู่ตลอด แต่ก็สามารถแล่นสวนไปมากันได้
หน้าปากซอยมีต้นไม้ครึ้ม อันเป็นสัญลักษณ์ที่ดีของถนนเพชรเกษม ฟุตบาทกว้าง
หน้า 7-11 ก็มีป้ายรถเมล์พอดี จะไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ใช้รถก็ไม่ลำบาก เพราะเดินนิดเดียวก็ถึง นั่งรถเมล์ไป The Mall บางแคได้
อนาคตนอกจากรถเมล์แล้ว ก็จะมีทางเลือกเพิ่มอีกทางหนึ่ง คือรถไฟฟ้า MRT สถานีพุทธมณฑลสาย 4 ที่ห่างจากปากซอยไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จัดว่าเป็นสถานีสุดสายของส่วนต่อขยาย MRT หัวลำโพง-บางแค
ถ่ายจากปากซอยก็จะเห็นทางเข้าหมู่บ้านเลย เราเข้าไปดูกันดีกว่าครับ
เจาะลึกตัวสินค้า
หน้าตาป้ายหน้าหมู่บ้าน Autumn Residence ก็ออกแบบมาใช้ได้ ดูดีมีสกุล หมู่บ้านนี้ก่อสร้างโดยกลุ่มบริษัท Vertical Estate ที่พัฒนาโครงการมาหลายแห่ง
หนึ่งในนั้นคือโครงการ Atrium คอนโดในย่านพหลโยธิน-สุทธิสาร ในซอยอินทามระ 4 แถวสะพานควาย เป็นโครงการต้นๆที่พัฒนาขึ้นมาไล่เลี่ยกับ Haven อินทามระ 4 … ผมว่า Atrium น่าจะเป็นโครงการที่น่าจะรู้จักกันมากที่สุดของกลุ่มบริษัทนี้แล้วละ
หน้าตาหมู่บ้านดู Modern มาก ใช้สีดำ-ขาว ดูแล้วเรียบและเป็นสมัยใหม่มากๆ แต่จะดูร้อนผิดหูผิดตากับถนนเพชรเกษมด้านนอก เพราะโครงการนี้มีต้นไม้น้อยเหลือเกิน นอกเสียจากกระถางต้นไม้เล็กๆหน้าบ้านก็แทบจะหาสีเขียวไม่ได้เลย
ถนนโครงการนี้ไม่มีถนนซอยนะครับ จะเห็นว่าทุกหลังติดถนนเมนทั้งสิ้น ซึ่งถนนเมนกว้าง 10 เมตร ไม่มีฟุตบาท ทำราง V สองข้าง จัดว่าใหญ่กว่าถนนซอยทั่วไป
หากจะให้ถนนใหญ่พอที่รถสามารถจอดได้ 2 คันหน้าบ้านทั้งสองฝั่ง แล้วยังวิ่งสวนกัน 2 เลนได้อยู่นั้น ถ้าเอาสะดวกๆต้องมี 12 เมตรขึ้นไป แต่ถ้าจอดชิดรั้วมากๆ และยอมวิ่งเบียดๆหน่อย ผมว่า 10 เมตรก็พอไหว
ป้อม รปภ. และ ไม้กระดก จะติดตั้งที่ทางเข้าทางออก เมื่อโครงการสร้างเสร็จทุกหลัง (เพื่อความสะดวกในการก่อสร้าง มีรถบรรทุกวิ่งเข้าออกตลอดทางโครงการจึงขอสร้างไม้กระดกทีหลังสุด)
จะเห็นว่าตึกโซนหน้าสร้างเสร็จไปเยอะแล้วครับ ตอนนี้กำลังก่อสร้างส่วนสุดท้ายอยู่ คาดว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมู่บ้านในเดือนธันวาคมปี 2556
สุดท้ายเรามาดูผังโครงการ Autumn Residence กันนะครับ
จะเห็นว่าสำนักงานขายที่เป็นสีฟ้าตุ่นๆด้านหน้าสุดของหมู่บ้านที่ติดถนนใหญ่เพชรเกษมนั้น เป็นพื้นที่นอกจัดสรร
พื้นที่ของโครงการลึกเข้าไปด้านในเป็นซองถนนเมนยาว มีจุดกลับรถทุก 40 เมตร หลังที่ลึกที่สุดอยู่ห่างจากปากทางเข้า 250 เมตร
ตัวโครงการแบ่งเป็นทั้งหมด 10 แถว ซึ่งตึก 1 แถวนั้นจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 8 หลัง หลังกลางมาตรฐานมีที่ดินอยู่ที่ 20 ตารางวา
หลังมุมจะมีแบบที่มีเนื้อที่ด้านข้าง คือแปลงหน้าสุดกับหลังสุดที่ติดสวนสาธารณะและสวนหย่อม
ด้านหลังสุดมีสวนสาธารณะอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวชิ้นที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ ประมาณ 100 ตารางวาเศษ และเป็นที่ตั้งของนิติบุคคล
แปลนแบบนี้ง่ายต่อการเข้าใจ ดูแล และอยู่อาศัย เนื่องจากไม่มีซอกซอยเล็กๆน้อยๆ ให้กังวลใจเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย มองตรงๆเข้าไปก็ถึงท้ายหมู่บ้านแล้วครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ 105.4 ตารางวา ไม่รวมพื้นที่นิติบุคคล
- รั้วสูง 2 เมตร
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate
Product Walkthrough
แบบบ้านที่นี่มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Privasi และ Cosi แบบแรกที่เราจะพามาดูเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดของหมู่บ้านนี้ นั่นก็คือ Cosi ซึ่งเป็น Town Home 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร
โดยฟังก์ชั่นจะเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน บนที่ดินมาตรฐาน 20 ตารางวา ดังแปลนที่เห็นนี้ละครับ
เฉลียงหน้าบ้านและประตูทางเข้าของทาวน์โฮมนี้ลึกจากที่จอดรถเข้าไปประมาณ 1 เมตร
ด้านบนมีฝ้าและไฟ Down Light 2 ดวง ส่องสว่างหน้าบ้าน
เฉลียงตรงนี้มีเอาไว้กันฝุ่นหน้าบ้าน เป็นที่ถอดรองเท้า ใส่รองเท้าหน้าบ้าน และที่สำคัญยังมีส่วนช่วยป้องกันและกะระยะเวลาถอย ไม่ให้รถยนต์ถอยเข้ามาชนประตูบ้านด้วย
กรอบประตูใช้เป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ เป็นประตูบานเลื่อนเปิดออกซ้ายขวา
บ้าน Cosi มองเข้าไปแล้วก็จะให้ความรู้สึกที่โปร่ง เห็นบันไดอยู่ทางขวาดูแกรนด์ดี ซึ่งทำหน้าที่กั้นระหว่างส่วนรับแขกหน้าบ้านและส่วนรับประทานอาหารหลังบ้าน
ห้องรับแขกอยู่ติดบันไดก็จะเหมือนได้มุมส่วนตัวหน่อย การตกแต่ง Interior Design ในห้องนี้ทำได้สวยแนว Abstract + Classic ดูแล้วสบายตา
ระยะฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.7 เมตร
ระยะดูทีวีตรงนี้ 5 เมตร เรียกว่าเหลือเฟือ และอาจจะยาวเกินไปด้วยซ้ำสำหรับจอขนาดเล็ก ดังนั้นถ้าจะให้เหมาะสม ผมว่าควรจะหาทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปละครับ
มองจากส่วนนี้จะเห็นพื้นที่หลังบ้าน
ให้สังเกตผนังตรงหัวมุมบันไดให้ดี กระจกเงาบานนี้ที่ติดเอาไว้ช่วยเรื่องพื้นที่ได้มาก เพราะสะท้อนภาพด้านนอก เอาทั้งแสง, ความสว่างและมิติมาหลอกตา ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งขึ้น ไม่ใช่เป็นเสาทึบๆอยู่ตรงนั้น
มุมหลังบ้านเป็นมุมรับประทานอาหาร เก้าอี้ใสชุดนี้งามแท้
บางส่วนของห้องน้ำอยู่ใต้บันได แต่ก็ไม่อึดอัด เพราะส่วนที่ใช้งานนั้นไม่ได้โดนบันไดเบียดไปด้วย แต่ใช้เป็นส่วนลึกในการติดตั้งซิงก์ล้างมือ
อ่อ แล้วก็ห้องน้ำล่างอาบไม่ได้นะครับ
ตรงนี้เป็นฟังก์ชั่นที่แปลก คือมีครัวรูปเฉียงๆประหลาดๆหน่อยอยู่หลังบ้าน ติดประตูเข้ามุมแบบนี้ ผนังห้องเลยเป็นเฉียงๆ
ชุดครัวที่เห็นนี้ไม่ใช่มาตรฐานนะครับ เดี๋ยวเราจะพาไปดูชุดมาตรฐานกันทีหลัง ภาพนี้อยากให้ดูว่าครัวด้านในบางส่วนถูกบันไดกินพื้นที่ไป ให้สังเกตที่มุมขวาบนนะครับ
ระยะครัวกำลังพอดี เป็นครัวขนาดเล็กที่สามารถปิดประตูจากส่วนตัวบ้าน แล้วเปิดหน้าต่างหลังบ้านเพื่อระบายอากาศได้
โดยจะระบายอากาศผ่านช่องนี้
ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า คือครัวมีการดรอปพื้นลงมาเยอะ ทำให้สะดุดได้เวลาเดิน
ส่วนจุดที่ไม่ดีเลยคือระยะเปิด-ปิด ของตู้เย็น ซึ่งจะติดประตูเฉียงๆ เวลาเปิดตู้เย็น ก็ไม่รู้จะวางเท้าหยิบของตรงไหน เพราะพื้นที่มันต่างระดับ หยิบของมาทำกับข้าวไม่สะดวกแน่ๆ
จุดที่ดีหน่อยคงจะเป็นพื้นที่หลังบ้านตรงนี้ ซึ่งทำเป็นส่วน Outdoor แบบมีหลังคา ให้นั่งเล่นหลังบ้านได้ หรือตากผ้า ทำเป็นลานซักล้าง ได้ทั้งนั้น
หลังบ้านมีสนามหญ้าเล็กๆด้วยนะ นานๆจะเห็นทาวน์เฮาส์ทำสนามหญ้าให้หลังบ้าน … เห็นแต่เทคอนกรีตเต็ม ทำเป็นลานไปหมด
ถ้าแค่รั้วสีขาวอยากบอกเลยว่าสูงไม่พอ ขนาดแค่ความสูงแทงก์น้ำเท่านั้นเอง แต่ทางโครงการก็ต่อระแนงขึ้นไปให้ โดยรวมน่าจะสูงประมาณ 2 เมตรเศษครับ
ซึ่งบางส่วนของโครงการอยู่ติดกับตึกแถวแบบนี้ เขาก็กลัวเราปีน เราก็กลัวเขาปีน สรุปติดเหล็กดัดกันทั้งสองฝั่งนะครับ
ลานปูนหลังบ้าน อยู่ติดกับแทงก์น้ำและปั๊มน้ำ
เราเดินขึ้นไปดูชั้น 2 กันบ้างดีกว่า
บันไดที่นี่ดีครับ ไม่มีขั้นสามเหลี่ยมมากวนใจ เดินง่าย ไม่อันตราย แต่สีบันไดกับลามิเนตอาจจะต่างกันไปหน่อย
ขึ้นมาชั้น 2 ตรงนี้เป็นห้อง Family Room แบบ Open Area นะครับ คือเป็นส่วนที่เปิดโล่ง อยู่ข้างๆห้องนอนใหญ่ น่าจะใช้เป็นห้องนั่งเล่นหลัก เป็นพื้นที่พักผ่อนของคนในครอบครัว
แต่ด้วยความเปิดโล่งของพื้นที่ส่วน Family Room นี้ การติดแอร์เพียงเท่านี้ก็คงจะไม่สามารถช่วยได้ เพราะแอร์จะไหลลงไปพื้นที่ชั้น 1 หมด มันจะไม่เย็นและเปลืองไฟ
เราแนะนำให้กั้นห้องถ้าอยากจะติดแอร์นะครับ
เปิดประตูชั้น 2 เข้าไปที่ห้องนอนใหญ่
ห้องนอนนี้มีห้องน้ำในตัว สุขภัณฑ์ใช้มาตรฐาน MOGEN ทั่วไป ท๊อปเป็นหินแกรนิตสีดำ ตัดกับลายกระเบื้องสีขาวและครีม
ซิงก์ล้างมือ ไม่มีตู้ด้านล่าง อาศัย Counter หินด้านหลังเอาไว้วางของ
ชุดสุขภัณฑ์ทำไว้ค่อนข้างโอเค
ส่วนเปียกมีเครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งไว้ให้แล้ว
มีที่วางสบู่ไว้ให้แล้ว เก็บของได้พอสมควร ถ้าไม่พอก็ติดตั้งชั้นกระจกซ้อนๆเข้าไปอีก 1-2 ชั้น รับรองพอแน่ๆ
ตรงนี้ต้องดูเรื่องการติดฉากกั้นอาบน้ำหน่อย โดยปกติแล้วทางโครงการจะไม่มีให้ แต่ถ้าติดเองก็จะทำให้กระจกชิดโถสุขภัณฑ์มากเกินไป เวลานั่งอาจจะไม่สะดวก หัวเข่าติดกระจก วิธีที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการติดม่านแยกส่วนเปียกส่วนแห้งแทน
ห้องนอนใหญ่บ้านหลังนี้กว้างดี มีพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่ง นอนสบายละครับ
พื้นที่ฝั่งติดหน้าบ้านนี้จะมีพื้นที่เว้าเข้าไปเยอะหน่อย ตั้ง Armchair เสริมอีกตัวพอได้ แต่ไม่ลึกพอที่จะตั้งโต๊ะทำงานนะครับ
พื้นที่ปลายเตียง โล่งๆให้วาง ชั้นวางทีวี, โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ
แอร์ติดอยู่เหนือม่าน ตรงระเบียง โดยระเบียงหน้าบ้านทำเป็นระเบียงยาว
สิ่งที่แปลกมากๆสำหรับ Town House นี้ก็คือมี Compressor Air วางไว้หน้าบ้านด้วย ซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่กันสาดหลังบ้านเยอะแยะไปหมด เราเอาไปวางหลังบ้านดีกว่าครับ สวยงาม สะอาดตา และทำให้ระเบียงนี้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
พอมาถึงบันไดที่เดินขึ้นไปชั้น 3 ขั้นสามเหลี่ยมก็กลับมาแล้วนะครับ ตรงนี้ต้องเดินระวังหน่อยละ
บริเวณผนังด้านข้าง มีการเจาะช่องหน้าต่างบริเวณบันไดด้วย แต่เป็นการเจาะออกด้านข้าง ไม่ได้เจาะออกด้านหลัง เพราะทางโครงการทราบดีว่าด้านหลังติดตึกแถวรุ่นคุณป้าโบราณ อาจจะไม่น่ามอง
ขึ้นมาชั้น 3 เห็นเป็นพื้นที่โล่งๆอยู่แล้วก็สามารถแจกเข้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องได้ ซึ่งทั้งสองห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกัน
ห้องนอนเล็กหลังบ้านทำเป็นเตียง 3.5 ฟุต
มีกระจกหลังบ้านเป็นจุดดึงแสงเข้าห้อง
ปลายเตียงวางตู้อะไรได้เยอะดี ไม่เล็กจนเกินไป ไม่อึดอัด มีพื้นที่วางทีวีและโต๊ะทำการบ้านได้ด้วย
มาดูห้องนอนหน้าบ้านกันบ้าง
ห้องนี้จัดว่าเป็นน้องๆ Master Bedroom เลย คือเป็นห้องนอนที่ได้ความกว้าง 5 เมตร เต็มขนาดความกว้างของบ้าน
ด้านหน้ามีกระจกบานใหญ่
มีระเบียงแคบแนวยาวตลอด 5 เมตร
แต่ด้วยความกว้างเท่านี้ ประโยชน์ใช้สอยจึงไม่มาก นอกจากวางกระถางต้นไม้ ก็เป็นอันน่าเสียดายพื้นที่ภายในอยู่เหมือนกัน ห้องนอนที่ 3 จะได้ใหญ่กว่านี้ครับ
เรามาดูห้องจริงกันบ้าง ราวจับบันไดเป็นเหล็กแบบนี้นะครับ
ครัวหลังบ้านได้แบบนี้นะครับ ไม่ใช่ท๊อปแกรนิตเหมือนบ้านตัวอย่าง
บ้านหลังที่ 2 ที่เราจะพามาดูก็คือ Privasi ซึ่งเป็นบ้านขนาด 170 ตารางเมตร บนที่ดินมาตรฐาน 20 ตารางวา 2 ที่จอดรถ 3 ห้องนอน และ 3 ห้องน้ำ เหมือนกับบ้าน Cosi เด๊ะๆเลย
แต่โดยรวมแล้วผมคิดว่าบ้าน Privasi มีฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ลงตัวมากกว่าครับ
จาก First Impression ที่เห็นเลย ผมคิดว่าแบบบ้าน Privasi นั้น ดูแคบกว่า Cosi อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากส่วนรับแขกหน้าบ้านใช้พื้นที่กว้างประมาณ 3.5 เมตร ต่างจากแบบ Cosi ที่ใช้ 5 เมตร เต็มหน้าบ้าน
ระยะดูทีวีจึงแคบลงมาหน่อย แต่เอาจริงๆผมว่า 3.5 เมตร ก็พอเพียงแล้วครับ ไม่ต้องถึง 5 เมตรก็ได้ อันนั้นกว้างไปนิดนึง
หลังบ้านของ Privasi ได้ฟังก์ชั่นที่ดีกว่ามาก ส่วนรับประทานอาหารขนาดกว้าง ลงตัว
ห้องครัวบานเลื่อน ได้ครัวรูปตัว L ไม่มี Step ไม่ติดเรื่องการเปิดตู้เย็น
ห้องน้ำไม่ได้อยู่ใต้บันได ได้พื้นที่เต็มๆ พับบันไดไปไว้หน้าบ้าน กินพื้นที่ห้องรับแขกแทน
ซึ่งหลังจากกินที่ไปแล้ว ก็ยังได้ความกว้างเท่านี้ ผมว่าเหลือเฟือ
นั่งเล่นได้สบายๆครับ
หลังบ้านก็เป็นสัดส่วนเช่นเคย มีลานเอนกประสงค์และสนามหญ้า
ชุดครัวที่ได้เป็นตัว L
ฟังก์ชั่นลงตัว เหมาะสำหรับการทำอาหารมากกว่าแบบ Cosi
หลังบ้านเหมือนเดิม
เดินขึ้นบันไดไปดูขั้น 2 กันบ้าง อย่าลืมว่าราวบันไดนี้เป็นวัสดุตกแต่งนะครับ
ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่ค่อยดีเท่าไร คือการแบ่งชานพักบันไดเป็น 3 ชิ้น … กลายเป็นสามเหลี่ยมขนาดเล็ก 3 อัน อันนี้ต้องเดินดีๆๆๆ เลยละ ไม่อย่างนั้นจะสะดุดร่วงลงทางลัดไปชั้นล่างได้
แนะนำให้ติดไฟที่ผนัง ส่องขั้นบันไดในเวลากลางคืน และเปิดไฟทุกครั้งก่อนลงไปชั้นล่างนะครับ
ห้องนอนใหญ่บนชั้น 2 นี้ได้พื้นที่กว้างขวางมาก จัดเต็มทั้งชั้นเป็น Master Bedroom ทั้งหมด โดยตัว Family Room ที่มีในบ้านหลัง Cosi จะถูกรวมเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของบ้านหลังนี้เลย
เตียงกว้างจะวาง King Size ก็ได้
ชุดนั่งเล่นในห้องนอน เอาไว้ดูทีวียามค่ำคืน
มุมแต่งตัว ผนังสีเหลืองและมอเตอร์ไซค์คันนี้สวยเด้งขึ้นมาเลย
ชอบมากครับ เอาไปอีกรูป
ตรงนี้เป็นที่นั่งแต่งตัวหน้าห้องน้ำ โต๊ะเครื่องแป้ง ส่องกระจก ฯลฯ
ห้องน้ำเหมือนกับห้องที่แล้ว ขอผ่านนะครับ
เดินขึ้นมาชั้น 3 ก็จะพบกับห้องนอน 2 , 3 และห้องน้ำอีกห้องหนึ่ง
ห้องนอน 3 ที่นี่จัดเป็นห้องทำงานศิลปะ ซึ่งต้องบอกว่าห้องนอนนี้เล็กไปนิดนึงนะครับ ทำได้เป็นห้องนอนเด็กอ่อนกำลังดี
ข้อดีก็คือเป็นห้องหน้าบ้านครับ ได้แสงสว่างเต็มที่พร้อมระเบียง
เรามาดูมุมนี้กันบ้าง ขนาดประมาณนี้วางหิ้งพระน่าจะเหมาะสม แต่บังเอิญตำแหน่งอยู่หน้าห้องน้ำ … ก็เลยวางไม่ได้ ทำเป็นตู้เก็บของแทนจะดีกว่า
ห้องน้ำแชร์กันระหว่าง 2 ห้องนอนชั้น 3
ห้องนอนที่ 2 ได้ขนาดพอประมาณ วางเตียง 5 ฟุตได้
มุมนี้สวยครับผมชอบ แต่งตัวและตู้เสื้อผ้า
บ้านตัวอย่างจบแล้ว มาดูบ้านจริงกันบ้างดีกว่า หน้าบ้านติดรั้วพับๆแบบนี้ มิเตอร์อยู่หน้าบ้าน *อย่าเลี้ยวรถไปชนนะครับ*
มุมมองบ้านจริงชั้นล่าง โล่งๆแบบนี้เลย
ครัวปูนรูปตัว L ที่มีให้
ใต้บันไดมีห้องเก็บของด้วยนะ ลืมบอกไปครับ
Price vs Performance
ราคาขายเป็นแบบที่เห็นนะครับ ตกประมาณ 3.5 ล้านบาท กับที่ดิน 20 ตารางวา
- บ้านพร้อมโอน จะสร้างเสร็จทั้งหมู่บ้านธันวาคม 2556
- ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางวาต่อเดือน
- สำหรับบ้านสร้างเสร็จแล้ว – มี แอร์,เครื่องทำน้ำอุ่น,เคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิ้งค์น้ำ,ปั้มน้ำ,ถังเก็บน้ำ 1,000 ลิตร
- สำหรับบ้านกำลังสร้างเสร็จ – มี ปั้มน้ำ,ถังเก็บน้ำ 1,000 ลิตร + ส่วนลดพิเศษ
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของ Autumn Residence อยู่ที่ปากซอยเพชรเกษม 114 ย่านพุทธมณฑลสาย 3 และสาย 4 จัดเป็นส่วนปลายสุดของกรุงเทพมหานคร ในเขตหนองแขม และเป็นรอยต่อของ 3 จังหวัดก็คือ กรุงเทพฯ, นครปฐม และสมุทรสาคร ซึ่งการที่จะขับรถเข้าเมืองในแต่ละเช้าก็ต้องบอกว่าถนนเพชรเกษมนี้หนักหนาสาหัสพอสมควร ยิ่งช่วงรอยต่อวงแหวนและบางแคแล้ว ยิ่งเป็นช่วงที่รถติดมากเพราะปัจจุบัน (2013) ยังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน MRT หัวลำโพง-บางแค ซึ่งสถานีปลายทางจะอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 4 ทำให้มีการพัฒนาทำเลนี้ขึ้นไปอีกระดับ โครงการหมู่บ้านในย่านนี้ทั้งหมดก็จะได้ผลพลอยได้ไปด้วย
โซนพุทธมณฑลทั้งหมดรวมไปถึงทวีวัฒนานั้น ในปลายปี 2554 เป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งคนแถวนี้ก็รู้ๆกันอยู่ และคนที่จะมาซื้อบ้านในโซนนี้ก็ต้องเข้าใจและยอมรับได้กับข้อเท็จจริงในอดีตที่ผ่านมานะครับ
การที่จะมาซื้อบ้าน 3 ล้านกว่าๆอยู่ปลายสุดของกรุงเทพมหานครนั้นก็ต้องดูทางเลือกอื่นเปรียบเทียบ คู่แข่งของโครงการ Autumn Residence นี้ส่วนใหญ่จะอยู่บนเส้นกาญจนาภิเษก ช่วงวงแหวนบางแค ซึ่งสามารถมองเป็นตัวเลือกได้ สำหรับคนที่ใช้การจราจรบนเส้นวงแหวนเป็นหลัก หรือจะไปอยู่บนเส้นบรมฯ, พุทธมณฑลสาย 3 หรือ 4 เข้าไปในซอยลึกหน่อย ก็จะได้บ้านเดี่ยวในราคาเท่ากัน แต่เรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในและความสะดวกก็อาจจะเทียบกับทาวน์โฮม 3 ชั้นไม่ได้นะครับ
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ Autumn Residence นั้นมีให้ค่อนข้างมาตรฐาน แบบบ้านก็ดูโอเค รูปลักษณ์ภายนอกเป็นแบบ Modern สวยงามใช้ได้ แต่แปลนภายในทางผมชอบแบบ Privasi มากกว่า ความกว้างของฟังก์ชั่นต่างๆอาจจะน้อยกว่าแบบ Cosi ไปบ้างเพราะต้องเสียพื้นที่ให้ส่วนของบันไดหน้าบ้าน แต่ฟังก์ชั่นนั้นลงตัวมากกว่า
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3 – 4 ล้านบาท, 3 June 2013
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ชานเมือง เกือบติดถนนใหญ่เพชรเกษม มี 7-11 หน้าหมู่บ้าน
- ทำเล (หลังมีรถไฟฟ้า) 8/10
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบดูดี พื้นที่ใช้สอยพอใช้ได้
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – สภาพโครงการสะอาดตา แต่พื้นที่สีเขียวน้อยไปหน่อย
- สาธารณูปโภค 7/10 – สวนสาธารณะหลังหมู่บ้าน
- 7.28 / 10.00 (ก่อนมีรถไฟฟ้า) – 7.68 /10.00 (หลังมีรถไฟฟ้า)
BOTTOM LINE
Autumn Residence เพชรเกษม 114 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่เหมาะสำหรับคนในย่านบางแค-เพชรเกษม ต้องการหาทาวน์โฮมที่เน้นพื้นที่ใช้สอย เป็นโครงการหมู่บ้านเล็กๆไม่ห่างจากถนนใหญ่มาก และอยู่ในรัศมีรถไฟฟ้าในอนาคต
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ