สวัสดีมิตรรักแฟนเพจ ฝนกลับมาแล้ว 🙂 ห่างหายกันไปนาน ขอฝนพามาอัพเดทโครงการ HYDE สุขุมวิท ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 13 ที่ปัจจุบันตึกก็เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ตามฝนมาดูว่าหลังสร้างเสร็จมีความเปลี่ยนแปลงกันหรือเปล่า และตามไปดูห้องเพนท์เฮ้าส์ที่จะมารีวิวเพิ่มเติมกันค่ะ (ใครอยากอ่านรีวิวฉบับก่อนหน้าตามไปอ่านได้นะคะ คลิก)
Fact @ 06 February 2015
- Hyde สุขุมวิท (และ Hyatt Regency Bangkok สุขุมวิท)
- Grande Asset Hotels and Property Company Limited
- LUXURY (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร 454 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 364 คัน คิดเป็น 80 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 2-1-76.5ไร่
- สถานะ : พร้อมอยู่
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 31-76 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 72-116 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms Duplex 155.37-218.14 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms 97-183 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms Duplex 240.07-256.05 ตารางเมตร
- Penthouse 436.55-497 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 7.2 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 150,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS นานา ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS นานา (E3)
- http://www.hydesukhumvit.com
- โทร 66 (0) 2651 1919
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
พิกัด 13.741053,100.556982
ทำเลที่ตั้งของ Hyde สุขุมวิท ตั้งอยู่ใจกลางนานาเลยค่ะ ใครอยากอ่านแบบละเอียดไปอ่านที่รีวิวก่อนหน้านี้ได้นะ (คลิก)
อัพเดทบรรยากาศรอบๆซักหน่อย บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 11 ช่วงเช้าสาย จะมีคุณตำรวจมาคอยโบกให้ความสะดวกอยู่เพราะเป็นบริเวณกลับรถพอดี ตรงกับซอยทางเข้า และจะมีโปรเจค HYDE สุขุมวิท 11 ที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้
ตั้งแต่มีการจัดระเบียบทางเท้า อะไรก็ดูเหมือนจะสะอาดตาขึ้นค่ะ แต่ช่วงกลางคืนก็ยังมีตั้งแผงอยู่บ้าง
ทางเท้าด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนสุขุมวิท จะไม่ใช่ทางเข้าของคอนโดมิเนียมนะคะ เป็นส่วนของโรงแรมค่ะ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าถ้าเสร็จสมบูรณ์จะมีการจัดกระถางต้นไม้เพื่อให้มีทัศนียภาพที่ดีขึ้น อันนี้รอดูกันต่อไป แต่ถ้าเทียบกับตอนที่ยังไม่ได้สร้าง บริเวณนี้ นานามาก
เงยหน้าดูซักหน่อย โรงแรมก็ได้เห็นกันภายในปีนี้แน่
ทางเข้าของโครงการ HYDE สุขุมวิท ต้องเดินเข้ามาจากหน้าปากซอย 110 เมตร หรือถ้าจากบีทีเอสนานาก็ 270 เมตรค่ะ ราวๆ 3 นาที เรียกว่าไม่ไกลเท่าไหร่แต่ ทำเลนานาเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์ของธุรกิจและผู้อาศัยสูง ที่ทุกคนนึกถึงง่ายๆก็ แขก นั่นแหละ
เดินเลยไปหน่อยจะมี 7-11 อยู่ค่ะ ที่อาคารธรรมเสิศเป็นอาคารสำนักงานค่ะ
ถัดมาก็เป็น Sofitel Bangkok สุขุมวิท ค่ะ ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าส่วนของโรงแรมจะจัดทำทางเท้าลักษณะนี้คือมี Hard-scape และจัดกระถางต้นไม้ให้เป็นระเบียบเพื่อให้มีทัศนียภาพของหน้าโครงการที่เรียบร้อย
ฝนยืนอยู่ที่ปากซอยสุขุมวิท 13 ถ้ามองจากปากซอยเข้าไปจะเห็นว่าส่วนที่มีการก่อสร้างอยู่นั้นเป็นส่วนของโรงแรม
เอารูปโมเดลของโครงการมาให้ดูเทียบนะคะ ด้านหน้าคือส่วนที่ยังไม่เสร็จ ใครอยากอ่านรายละเอียดทำเลเพิ่มเติมไปอ่านที่รีวิวฉบับเดิมได้นะคะ
ปัจจุบันด้านทางเข้าของโครงการยังมีร้านค้า รถเข็นขายของกันอยู่นะคะ จะว่าไปมันก็สะดวกแต่จะทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมของโครงการไม่เรียบร้อยเท่าไหร่
สรุปสถานที่สำคัญใกล้เคียง
- นานาสแควร์
- โรงแรม Sofitel Bangkok
- สวนชูวิทย์
- โรงแรมแอมบาสเดอร์
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
เริ่มกันที่ทางเข้ากันเลยนะคะ จากหน้าปากซอยสุขุมวิท 13 เข้ามาประมาณ 100 เมตร
หน้าตาอาคารที่ทำออกมา สวยใช้ได้เลยนะคะ
ทางเข้าออกหลักของคอนโดมิเนียมจะมีทางเดียวค่ะ ทั้งทางคนเดินและรถยนต์ มีไม้กระดกเข้า – ออก ใช้ Keycard แตะ
เมื่อเข้ามาจะพบกับ Drop Off ของ Lobby A ค่ะ ที่ Shallow pond และมีลักษณะล้อกับตัวโลโก้ของโครงการ ลอยอยู่เหนือบ่อ
บริเวณที่มีรั้วสีขาวกั้นอยู่นั้น เป็นส่วนที่เชื่อมกับโรงแรมค่ะ สิ้นสุดเขต Property line ตรงนี้ ในอนาคตจากมีการทำให้ทะลุกันได้ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป ถ้ามีจริงๆก็นับว่าสะดวกไม่น้อยเลย
ส่วน Podium ของอาคารนั้นจะประกอบไปด้วยส่วนกลางค่ะ โดยชั้นจอดรถจะเริ่มต้นที่ชั้น 1-4 และจอดแบบ Fix คัน
ทางเข้าของ Lobby A ค่ะ เดี๋ยวจะพาเดินรอบๆก่อนเข้าไปในอาคารนะคะ
จะเห็นว่ารั้วรอบโครงการสูงประมาณ 2.50 เมตรค่ะ และมีการปลูกต้นไม้แนวตั้งเอาไว้ ซึ่งทำให้ไม่แห้งแล้งแต่อยู่ที่การดูแลรักษาภายหลังดัวยนะ
ทางเข้า Lobby B ค่ะ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับทางขึ้นที่จอดรถ
ออฟฟิศของนิติบุคคลจะอยู่บริเวณทางขึ้นที่จอดรถค่ะ สังเกตว่าจากทางเข้ามาจะมีไม้กระดกแค่ชุดเดียว
ลักษณะทางขึ้นจะเป็นทางลาดช่วงเดียวตรงสลับชานพัก เอาหล่ะ กระเถิบเข้าไปภายในอาคารกันค่ะ
ทางเดินจาก Lobby A ไป Lobby B จะมีทางเดินแบบ Semi-outdoor ที่มีการตกแต่งให้บรรยากาศทางเดินสั้นๆไม่น่าเบื่อนัก ซึ่งทำออกมาได้สวยทีเดียวแหละ
บรรยากาศภายใน Lobby A และ B ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก แต่ขนาดของ Lobby A จะเล็กกว่า B นะคะ
- Lobby A จะใช้ขึ้นไปส่วนของ Low zone (6-20) และ Facilities
- Lobby B ขึ้นชั้น 21-40 และ Facilities
สำหรับขนาดของ Lobby ยังเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของโครงการนะคะ คือชุดที่นั่งมีให้ไม่มาก ประมาณ 5-7 ชุด มีเคาน์เตอร์ติดต่ออยู่ด้านหน้าซึ่งทางซ้ายมือจะเป็นห้อง Mail room ของ Low Zone ค่ะ จะเห็นว่าที่ด้านหน้าของทางเข้า Mail room จะมีจุด VDO Door phone
สำหรับผู้มาเยี่ยม ติดต่อขึ้นไปยังเจ้าของห้องพักด้วย เป็นอีกหนึ่งความสะดวกและปลอดภัย
โถงลิฟท์ Lobby A มี Lift โดยสารทั้งหมด 3 ตัว
เดินข้ามไปยัง Lobby B กันค่ะ โดยเดินจาก Lobby A ไป B ไม่ต้องใช้ Key Card แตะ
บรรยากาศภายใน Lobby B ค่ะ การตกแต่งเหมือนกัน แต่จะมีขนาดที่กว้างกว่า Lobby A
ตำแหน่งของ VDO Door phone อยู่หน้า Mail Room เช่นกัน
ภายใน Mail room….พื้นที่ภายในเนื่องจากว่าเป็นแบบ Double space ในที่เล็กๆจะดูชะลูดมากกกกก
บรรยากาศของ Lobby B ค่ะ Lift โดยสารของ Lobby B จะมี 4 ชุดนะคะ
จากนั้นฝนจะพามาที่ชั้น 5 ค่ะ ดูภาพในผังที่แนบมาได้เลยว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง
ขึ้นมาชั้นที่ 5 ที่เป็น Main Facilities ของที่นี่ โดยรวมประมาณ 2,500 ตารางเมตร เป็นขนาดส่วนกลางทั้งชั้นเลยค่ะ รูปแบบการตกแต่งของจริงกับภาพจำลองนั้นบรรยากาศค่อนข้างต่างกันอยู่
หน้าตาของ Lift ก็จะมีการตกแต่งให้แตกต่างจาก Lobby ด้านล่าง
แอบเห็นตัวระแนงไม้บังส่วนที่เป็นทางออกของบันไดหนีไฟใช่ไหม….ในผังไม่มีซะด้วยซิ
สระว่ายน้ำจะยาวเป็นรอบตัวอาคารค่ะ 1.20 เมตร คือความลึกโดยทั่วไป
สระเชื่อมกันค่ะ คือเรียกว่าว่ายได้รอบๆเลยหล่ะ
จะมีมุมที่เป็นที่นั่งตามช่องของเสาอาคาร มีระบบ Jacuzzi และนำ้พุอยู่
ข้อดีของสระแบบนี้คือยาว ข้อเสียคือแคบค่ะ แบบว่ายทางเดียวออกลายเต็มที่ก็ไม่น่าจะมีใครว่ายด้วยได้
มาดูส่วนอื่นๆนอกจากสระน้ำกันต่อ จะมีมุมเก้าอี้ให้นั่งกระจายกันอยู่ค่ะ
นอกจากนี้ยังมี BBQ ที่เตรียมสถานที่ให้ แต่ต้องเอาอุปกรณ์มาเอง ตัว Pantry ก็กว้างดีค่ะ ใครอยากทำอะไรทานก็ตรงนี้ง่ายกว่า ไม่ต้องเช็ดล้างมากเท่าในห้อง เพียงแต่ต้องดูกฎ กติกาที่ทางนิติฯกำหนด
สำหรับชั้น 5 วิวรอบๆ ประมาณนี้นะคะ เก็บมาให้ชมกัน ซึ่งนำ Facilities มาอยู่ที่ชั้นไม่สูงและมีอาคารรายล้อมเยอะ จะทำให้เห็นวิวเช่นนี้ได้ มองไปด้านในซอยสุขุมวิท 13 เห็นโรงแรมแอมบาสเดอร์ ตึกเหมือนฝีกข้าวโพดไหม ^ ^
ตรงกันข้าม
มองไปด้านหน้าปากซอยสุขุมวิท 13
ห้อง Sky Reception
และเป็นทางเข้าของห้อง Karaoke
ภายในห้อง Karaoke
ห้ามดื่มแอลกอฮอล์นะจ้ะ
Sky Reception สามารถเปิดเป็น Connection room กับห้องสมุดได้ด้วย
มองจากด้านห้องสมุด
ระเบียงทางเดินก็มีการตกแต่งไม่ให้น่าเบื่อจนเกินไปเพราะเป็นทางเดินยาวๆ สีค่อนข้างทึมๆ
เข้ามาที่ห้อง Spa ค่ะ แยกชายหญิง ซึ่งก็คือห้องน้ำ ที่มีห้องแต่งตัว ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ Locker Jacuzzi Suana Steam ค่ะ
หน้าตาสุขภัณฑ์
ห้องอาบน้ำ
อ่าง Jacuzzi แต่คงอาบได้แบบคนรู้จักกันนะ ไม่งั้นจะเขินหรือรู้สึกแปลกๆไหม
Suana และ steam
Locker ค่ะ ห้องน้ำที่นี่การระบายอากาศไม่ดีเท่าไหร่นะคะ คือทั้งมืดและใช้วัสดุสีเข้ม ทำให้มียุงค่อนข้างเยอะ มีหน้าต่างระบายอากาศเยอะกว่านี้จะช่วยให้ไม่อับเท่าไหร่
ถัดมาก็ Kids room
ส่วนของ Fitness นั้นฝนไม่ได้เก็บภาพมานะคะ มีผู้อาศัยกำลังออกกำลังกายอยู่ ส่วนภาพนี้เป็นห้อง Yoga ค่ะ
นอกจาก Spa ก็มี ห้องน้ำแยกออกมาอีกส่วนนึงเลย เอาไว้สำหรับคนที่แค่อยากทำธุระสั้นๆไม่ต้องเข้าไปในห้อง Spa ก็ได้
บรรยากาศภายในก็เหมือนกันค่ะ
ภายในลิฟท์มีการตกแต่งลวดลายฉลุ
แผงลิฟท์ด้านใน กดแตะบัตรแล้ว ใครอยู่ชั้นไหนก็กดเป็นจำนวนหลักเอาเลย
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Outdoor swimming pool
- Indoor swimming pool
- Sky fitness centre
- Yoga and aerobics studio
- Sauna
- Indoor Jacuzzi
- Library
- Multi-function sky lounge
- Barbeque area
- Pool deck
- Pool Pavilion
- Meeting room
- Sky reception
- Play room
- WIFI internet
- CCTV monitoring
ห้องที่ฝนจะพามาดูวันนี้เป็นห้อง Duplex และ Penthouse ค่ะ ซึ่งจะมาเก็บข้อมูลรีวิวเพิ่มเติมต่างจากคราวที่แล้ว อ้อ นอกจากขนาดห้องที่ต่างกัน มาดูวิวจริงกันดีกว่า 😉
ผังพื้นชั้น 37 มีทั้งหมด 8 ห้องชุด แบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน 6 ห้อง และ 3 ห้องนอน 2 ห้อง มีห้องหัวมุม 4 ห้องค่ะสำหรับผังนี้ ใช้ลิฟต์โดยสาร High zone มี 4 ตัวและลิฟต์ขนของ 1 ตัว โดยชั้นล่างของ Duplex จะเป็นส่วนครัวและรับแขกหรือพื้นที่กิจกรรมส่วนกลางของยูนิต และห้องน้ำ
ผังพื้นชั้น 38 จะเป็นชั้นบนของ Duplex จะเป็นห้องนอน วัสดุที่ใช้ปูพื้น เป็น Teak Engineering wood ในส่วน Common area บันไดสำหรับขึ้นชั้นสอง ทำจากหินสังเคราะห์เช่นเดียวกับ Top ของ Pantry และในห้องน้ำฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ประตูเป็นแบบ Digital door lock ระบบปรับอากาศแบบ VRV สุขภัณฑ์ของ Duravit และ Kolher
ภาพของ Unit DP04 และ DP05 ชั้น 1-2
ห้อง Duplex ที่ไปอยู่ที่ชั้น 37 ค่ะ หน้าตาของโถงลิฟท์ชั้นนี้มีการตกแต่งเรียบๆ ส่วนของ Corridor จะไม่มีหน้าต่างนะคะ เพราะจะจัดเป็นห้องหัวมุม
ส่วนของ Lift Service จะแยกอยู่กับห้องทิ้งขยะ
ประตูหน้าห้องจะมีป้ายบอกเลขที่ห้องเป็น Gold Brass ทำลายเป็นตัวเลขและมีกริ่งด้านนอก อ้อ ตัวเลขที่จะมีไฟเรืองๆออกมาด้วยค่ะ จะมีให้เห็นในภาพถัดไปของห้อง penthouse
บานประตูจะได้เป็นสีเข้มแบบนี้มาตรฐานค่ะ บานประตูไม้ ห้องนี้เป็น Duplex หัวมุม ขนาด 2+1 ห้องนอน 185.98 ตารางเมตร
Digital Door Lock ของ Yale
VDO Door phone ติดบริเวณทางเข้าห้องค่ะ จะมีให้ทุกห้อง สามารถดูจากด้านล่างได้ว่าใครมาแล้วค่อยลงไปรับ
จากประตูทางเข้าจะมีโถงทางเดินก่อนจะเข้าสู่ Function ภายในห้องนะคะ
ด้านบนจะติด Motion Sensor เอาไว้เพื่อประหยัดไฟค่ะ แบบว่าถ้าไม่ใช้งานหรือไม่มีการเคลื่อนไหวไฟก็จะปิดเอง
โถงทางเดินเข้าไปจะมีห้องเล็กๆอยู่
ด้านในเป็นห้องซักล้างค่ะ ปูกระเบื้องเอาไว้ สำหรับซักผ้าก็ได้ ส่วนประตูถัดไปเป็นห้องเก็บของ ที่เห็นจะเตี้ยหน่อยเพราะ อยู่ใต้บันไดพอดี
ส่วนแรกที่เข้ามาเจอจะเป็นครัวนะคะ ซึ่งครัวจะได้ชุดนี้ยกเว้นโคมไฟห้อยเหนืออ่างล้างจาน พื้นห้องจะได้เป็น Engineering Wood ค่ะ สีไม้สัก
ระยะทำการก็ราวๆ 1.50 เมตร ไม่อึดอัดเท่าไหร่ ตัวเคาน์เตอร์ทำเป็นรูปตัว U
มาดูด้านนี้ก่อนเป็นชุดเครื่องใช้ไฟฟ้า Built-it ค่ะ หนาบาน Glossy สีครีมๆ
ชุดตู้เย็น ของ Siemens
ชั้นด้านบนตู้เย็นเป็นที่เก็บตู้เก็บงานระบบและช่อง Service งานฝ้าด้านบน ตัวบานเป็นแบบกดกระเด้งค่ะ
ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆของ GAGGENAU มีไมโครเวฟ , เตาอบ , ตู้แช่ไวน์ บานเปิดต่างๆติดตั้ง Soft Close ชั้นที่เป็นลิ้นชักขนาดใหญ่หน่อยจะติดไฟ Led มาด้วย
ด้านบนของชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นจุดวางระบบไฟฟ้าแสงสว่าง WI-FI และอื่นๆ
อีกด้านของเคาน์เตอร์ครัวค่ะ
มีถังขยะด้านใน
ชั้นที่เข้ามุมฉากพอดีก็มีอุปกรณ์ที่จับโยกออกมาเพื่อให้หยิบของได้ถนัดขึ้น
มือจับค่ะ
อ่างล้างจาน 2 หลุม Top หินสังเคราะห์ค่ะ
Hob & Hood ของ GAGGENAU
ภายในห้องจะมีแผงควบคุม Scenario ของ ไฟฟ้าแสงสว่างเอาไว้ให้ด้วยนะคะ (แผงที่มีหลายๆปุ่มนั่นหล่ะ)
โซนทานอาหารจะติดกับระเบียงค่ะ สามารถจัดพื้นที่ให้นั่งได้ 8-12 คนเลยนะ
ส่วนฝ้าเพดานจะเว้นหลืบของม่านเอาไว้ให้ค่ะ ส่วนกลมๆคือลำโพงไม่มีให้นะ ฝ้าสูง เมตร (รอข้อมูลเพิ่มเติม)
หน้าต่างจะเป็นบานอลูมิเนียมและบานกระจก Safty Glass
ด้านนอกราวระเบียงกระจก Tempered ค่ะ ความสูงเกือบ 1.50 เมตร
พื้นที่ระเบียงประมาณ 1.40 เมตร มีรางระบายน้ำยาวตลอดแนวระเบียง
แอบดูวิวซักหน่อย
ถัดมาส่วน Living Area จะเป็น Double Height ค่ะ
มองขึ้นไปเห็นด้านบนแบบนี้ ก็เชื่อมพื้นที่บนล่าง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน แอร์ที่นี่จะให้เป็นระบบ VRV ในส่วนของห้องนอนและรับแขก ค่ะ โดย ความสูงฝ้าเพดาน XX เมตร (รอข้อมูลเพิ่มเติม) ระบบเสียงจะไม่ได้มีให้มาด้วยนะคะ 😉
ถัดเข้าไปจากโซนรับแขกจะเป็นห้องน้ำ , ห้องนอน +1 และบันไดขึ้นชั้น 2 วัสดุปิดผิวนี่มีการตกแต่งเพิ่มเติมนะคะ ของที่ได้จะเป็นฉาบเรียบ
เข้ามาภายในห้องน้ำค่ะ หน้าตารูปแบบจะไม่ใช่มาตรฐานนะคะ มีการตกแต่งเพิ่มเติม ของจริงที่ได้จะเป็น Duravit ในส่วนของห้องอาบน้ำและสุขภัณฑ์อื่นๆ จาก Kohler ค่ะ
ส่วนของ Shower box คือสามารถอาบน้ำได้เลยถ้าปรับห้องชั้น 1 เป็นห้องนอน ก็สะดวกสำหรับ สว. ทั้งหลายท่าน แต่วัสดุปิดผิวของห้องน้ำของจริงจะเป็นหินอ่อนอัดอีกสีนะคะ
ฝักบัวที่จับอยู่ถนัดมือมาก ใหญ่ดี ของ Hansgrohe
อืมม ห้องน้ำแบบนี้เป็น Sexy Bathroom นะคะ ส่วนใครที่กลัวความสูงน่าจะเสียวไม่น้อยเลย คุณว่าไหม
ห้องชั้นล่างที่จะจัดเป็นห้องอเนกประสงค์หรือทำเป็นห้องนอนก็ได้ค่ะแต่เตียงอาจจะใส่ได้ไม่ใหญ่มาก
ให้ดูระยะซักหน่อย วางเตียงก็วัดเป๊ะๆ
วิวจากห้องนี้
ไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดชุดนี้ที่จะได้เหมือนกันก็คือ ตัวบันไดนะคะ เป็นหินอ่อนอัด แต่มาตรฐาน ด้านซ้าย จะป็นผนังทึบ ด้านขวาฉาบเรียบทาสีและราวบันไดไม้กับโครงแสตนเลส
ชั้น 2 ขึ้นมาจะมีโถงบันได
ชั้นนี้จะมีห้องนอน 2 ห้องค่ะ
ตรงทางเดินก็สามารถมองลงไปเห็นกิจกรรมข้างล่างได้
ห้องนอนแรกค่ะ เข้ามาจะเจอทางเดิน แต่ไฟไม่ได้ให้แบบนี้นะคะ ซ้ายมือเปิดมาเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำค่ะ เหมือนกันคือ สุขภัณฑ์จะเป็นอีกชุด
Shower room
ขยับมาที่ห้องนอน วางเตียง Queen Size ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง
เหลือข้างละประมาณ 50 เซนติเมตรเมื่อวางเตียงลงไปแล้ว
ปลายเตียงตู้เสื้อผ้าจะไม่ได้ชุดนี้นะคะ อันนี้ตกแต่งเพิ่ม
แต่ถ้าอยากได้แบบน้ก็คิดระยะเปิดเผื่อด้วย
Master Bedroom ค่ะ เป็นห้องที่มีพื้นที่กว้างขวาง ไม่อึดอัด และสามารถจัดกิจกรรมได้เพิ่มเช่นทำงาน อ่านหนังสือ
ระยะนอนดูทีวีก็ยาวๆ ทีวีขนาดนี้เล็กไปหน่อย
ห้องนี้มี Walk-in Closet ให้ด้วยค่ะ
ของจริงคือมีให้แต่ไม่ได้ตกแต่งหรูหราแบบนี้ จะไม่มีบานปิดหน้าตู้ซ้ายขวา และบานประตูห้องน้ำจะเป็นบานไม้สีเหมือนทางเข้า
ห้องน้ำใหญ่ภายในก็กว้างค่ะ
โถสุขภัณฑ์
มีส่วนของ Bath tub
Shower box
ห้องนี้มี Option เพิ่มด้วย
ส่วนประตูซ่อนอันนี้เป็นประตูอะไรนะ ที่อยู่ในห้องน้ำ…
เป็นทางหนีไฟค่ะ
เปิดมายังชั้น 38 ได้ 🙂
มาดูห้องจริงที่ขายกับนิดหน่อย จะไม่ได้เป็นห้อง Type ที่มี Double Height เหมือนกับห้องตัวอย่างเนอะ แค่จับมาเป็นแนวทางว่า Standard room เป็นแบบไหน ห้องจะขายแบบ Fully Fitted ค่ะ
โคมไฟที่นี่ให้เป็น Downlight แบบใส่หลอดขั้ว GU 5.3 ค่ะ สังเกตว่าหน้ากากแอร์จะยาวไม่สุดมีขอบเว้นไว้หน่อย
พื้นบันไดเป็นหินอ่อนอัด สีครีมแบบนี้ ราวจับได้ชุดตามที่เห็น
ห้องน้ำมาตรฐานค่ะ
หน้าตาสุขภัณฑ์มาตรฐาน
หน้าบานของ ตู้เสื้อผ้า
ชั้นภายในของ Walk-in Closet
มาถึงห้องที่สูงสุดของ HYDE Sukhumvit 13 กันแล้วค่ะ ตามขึ้นมากันจนเหนื่อยไหมเอ่ย ตอนนี้เราอยู่ที่ชั้น 39 แล้ว ซึ่งเป็นชั้นของ Penthouse โดยมีทั้งหมด 3 ยูนิตด้วยกัน ซึ่ง Penthouse จะเป็นยูนิตพิเศษที่มีลิฟต์และสระว่ายน้ำส่วนตัวแยกให้ด้วย โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ ระเบียง ส่วนรับแขก และทานข้าว จะเห็นที่ฝนวงเป็นสีต่างๆให้ไว้คือพื้นที่ของห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ แต่ห้องแม่บ้านนี้อยู่นอกพื้นที่ของตัวห้องนะคะ คือถ้าจะเข้าต้องออกมาบริเวณโถงทางเดินด้านนอกก่อน ที่เห็นจะไกลกว่าเค้าคือห้อง PH-02 สีน้ำเงิน คือมาใช้โถงร่วมกับห้อง PH-03 แต่จะมีกริ่งเรียกตัวคุณแม่บ้านจากภายในยูนิตค่ะ ไม่ต้องห่วง
ในส่วนของชั้น 40 จะเป็นห้องนอน แต่ละยูนิตมีห้องนอน 2 ห้องค่ะ สามารถขึ้นจากลิฟต์ภายในยูนิตหรือบันไดก็ได้
ห้อง PH-03 คือห้องที่ฝนจะพามาดูกันนะคะ อธิบายจากผังพื้นก่อนเลยค่ะ อย่างที่ฝนบอกไว้ก่อนหน้านี้คือจะมีห้องของแม่บ้าน ที่มีห้องน้ำในตัว อยู่หน้าสุดเลยแต่ไม่สามารถเข้าออกจากห้องได้ คือเข้าออกจากโถงทางเดินรวมของโครงการค่ะ เมื่อเปิดเข้าห้องมาจะพบส่วนของสระว่ายน้ำพร้อม Jacuzzi ขนาด (รอข้อมูลเพิ่มเติม) เป็นสระว่ายน้ำแบบ Semi-outdoor ที่มีหลังคาคลุม และทางเดินไม้ยาวปูเข้าสู่ภายในห้อง โซนแรกนี้เหมือนโซนสวนหน้าบ้านก่อนเข้าตัวบ้านนั่นแหละ ซึ่งจะมีห้องน้ำและอาบน้ำ เพื่อไว้สำหรับตอนว่ายน้ำจะได้ไม่ต้องเดินพื้นเปียกเข้าห้องไปและห้องเก็บของอยู่ในโซนนี้ โดยเพนท์เฮ้าส์ของโครงการนอกจากจะมีสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีลิฟท์โดยสาร ที่เอาไว้ใช้ขึ้นลง ในยูนิต สามารถขึ้นลงได้จากระเบียงไม้หน้าห้องได้เช่นกัน เข้ามาในส่วนของตัวห้องค่ะ ชั้นหนึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่ของ Common Area สำหรับหลายๆคนที่ใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ส่วนรับแขก ทานอาหาร ครัวฝรั่ง ครัวไทย ยังมีห้องนอนพร้อมกับ Walk-in Closet และห้องน้ำ ที่เห็นจะขาดไปนิดคือน่าจะมีห้องน้ำตรงนี้เอาไว้ใช้ส่วน Common area ด้วย แต่ก็สามารถมาเข้าในห้องนอนหรือบริเวณสระน้ำได้ค่ะ
ชั้นสองเมื่อขึ้นมาจะพบโถงค่ะ ที่เชื่อมห้องต่างๆเข้าด้วยกันรวมทั้งเชื่อมกับลิฟท์โดยสารที่มาจากชั้น 1 ด้วย โดยข้างบนจะประกอบด้วย ห้องนอน 2 ห้องพร้อมกับ Walk-in Closet และห้องน้ำ และ Gallery ส่วนที่สามารถนั่งมองสระว่ายน้ำและวิวจากชั้น 2 ได้ เอาหล่ะๆ ตัวหนังสือจะเยอะไปไหม ไปดูกันต่อ เหนื่อยยังเนี่ยทุกโค้นนน
ขึ้นมาที่ชั้น 39 ค่ะ โถงหน้าลิฟท์ตกแต่งหรูหราขึ้น ชั้นนี้มีเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น ทุกห้องเป็นห้องหัวมุมทั้งหมดค่ะ
ทางเข้าห้องค่ะ จะมี Digital Door Lock ให้
หน้าตาของบ้านเลขที่เมื่อเปิดไฟ ท๊าด ดาาาา
อย่างที่ฝนบอกคือห้องแม่บ้านจะอยู่บริเวณโถงทางเดินของหน้าห้องค่ะ ห้องทางซ้ายจะเป็นของอีกห้องนึง ส่วนขวาจะเป็นของอีกห้อง
ภายในห้องแม่บ้าน ปูกระเบื้องค่ะ
กริ่งที่เจ้าของห้องเรียกแม่บ้าน ติดตั้งอยู่ภายในห้องค่ะ
ห้องน้ำแม่บ้านแยกเปียกแห้ง มี ฉากกั้นอาบน้ำให้ด้วย
เข้ามาด้านในห้องค่ะ จะพบสระว่ายน้ำเลย
ผนังตรงนี้ตกแต่งขึ้นมาเพิ่มเติมนะคะ ของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา แผงควบคุมไฟด้านนอกจะเปิดปิดได้จากบริเวณนี้
ระเบียงสระว่ายน้ำเป็นระเบียงไม้นะคะ และส่วน Service ก็อยู่ซ่อนด้านล่างของพื้นไม้ค่ะ
ก่อนเข้าไปส่วนภายในของห้อง จะมีลิฟท์โดยสารอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ซึ่งสำหรับเพนท์เฮ้าส์จะได้ทุกห้อง ขึ้นลง 2 ช้ันในยูนิตตัวเอง
พื้นลิฟท์ด้านในเป็นหินอ่อน
ด้านนอกมีห้องน้ำและห้องเก็บของให้ด้วย บานประตูของจริงเป็นบานไม้นะคะ
ภายในห้องน้ำ
แผงควบคุม VDO Door Phone และกริ่งเรียกแม่บ้านจะติดตั้งอยู่ข้างประตูเลย
โซนรับแขก
ส่วนทานอาหาร
ถัดจากส่วนทานอาหาร เป็น Island ค่ะ หรือ ครัวฝรั่ง ชุดครัวก็จะได้ตามนี้ ยกเว้นโคมไฟที่ห้อย ชุดครัว Standard ที่ให้ค่ะเหมือนกับ Duplex
พื้นที่ในการวาดลวดลายก็ไม่น้อย
ส่วนครัวไทยจะแยกไว้เป็นสัดส่วนอีกห้องเลยนะคะ
มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าให้ด้วย
ขยับเข้ามาห้องนอนชั้น 1 ค่ะ เข้ามาจะเจอส่วนโถงก่อน หันหน้าเข้าส่วนห้องน้ำและ Walk-in Closet
ห้องแต่งตัวที่โครงการจัดไว้ให้นะคะ จะไม่มีเคาน์เตอร์ตัวกลางและไม่มี โคมไฟห้อย
เข้ามาในห้องน้ำค่ะ
มีทั้ง อ่างและ Shower
ภายในห้องนอนชั้นหนึ่งก็สามารถวางเตียงขนาดใหญ่แบบ King Size ได้สบายๆ
ขึ้นไปชั้นสองกันค่ะ บันไดอันนี้ตกแต่งเพิ่มนะ แต่ห้องนี้ขายแบบนี้เลย
ขึ้นมาชั้นบนเป็นโถงค่ะ สามารถแยกเข้าห้องต่างๆได้
โถงนี่ยาวเชื่อมไปยังส่วนอื่นๆของห้อง เป็นทางเดินหลักของชั้นสองค่ะ
ลิฟท์ก็เช่นกันค่ะ สามารถเข้าออกจากโถงนี้ได้
ส่วนของ Gallery ที่เอาไว้เป็นห้องทำงานก็ได้แล้วแต่เลย
มองไปด้านนอกเห็นวิวสระและ Sky line อ้อ จะเพิ่ม Fiber Optice ให้กับสระน้ำทุกห้องค่ะ
โถงลิฟท์ชั้น 2
ห้องน้ำภายในห้องนอน 1 ค่ะ ห้องนี้จะขายแบบตกแต่ง
ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนค่ะ ที่เห็นมีม่านค่อนข้างเยอะเพราะห้องจะมีกระจกแบบ Curtain wall ติดตั้งเต็มไปหมดเลย ดังนั้นนี่ต้องทำใจอย่างมากเรื่องความร้อน
ห้อง Master Bedroom ค่ะ
ต้องปิดม่านเช่นกันเพราะแดดค่อนข้างร้อน และกระจกห้องเพนท์เฮ้าส์จะมี Slope ค่ะ ตามยอดของตึก
ส่วนของ Grand Walk-in Closet จะมีพื้นที่กว้างมากค่ะ
ด้านในแยกได้อีกหนึ่งห้อง คนของเยอะจุใจแน่ๆ แยกเสื้อผ้า เครื่องประดับออกจากกัน
ห้องน้ำค่ะ อ่างแบบ His&Her
ห้องนี้จะจัดผังแบบญี่ปุ่งหน่อย คืออาบน้ำก่อน
แล้วค่อยลงอ่าง
ชุดสุขภัณฑ์ที่นี่ไม่ใช่มาตรฐานนะคะ เน้นใช้สีดำ ภาพด้านล่างของแถมให้ซักหน่อยสำหรับคนที่สนใจห้อง Duplex อีก 2 ห้องที่เหลือยังไม่ตกแต่งนะคะ คือจะบายตามที่เห็นเลย
ภายในห้องค่ะ
Pantry มาตรฐาน
บันไดทางขึ้น เหมือนกับ Duplex
รวมทั้งไฟและแอร์เช่นกัน
สวิตช์ไฟมาตรฐาน
บานประตูห้องเสื้อผ้า
ห้องแต่งตัว
ห้องน้ำนะคะ
sexy ไหมค่ะแบบนี้ 🙂
ปิดท้ายด้วย วิวสวยๆจากห้องนี้ที่มองไปเห็นที่โค้งแม่น้ำค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 06 February 2015
- ห้อง 1/185 ชั้น 14 Type 1F 1 ห้องนอน ขนาด 48.11 ตารางเมตร ราคา 8,515,647 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 177,000 บาทต่อตารางเมตร
- ห้อง 1/97 ชั้น 10 combine Type 11+12 2 ห้องนอน ขนาด 91.94 ตารางเมตร ราคา 16,728,667 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 181,952 บาทต่อตารางเมตร (Fully Furnished)
- ห้อง 1/445 ชั้น 37 Type DP1 2 ห้องนอน ขนาด 188.94 ตารางเมตร ราคา 48,179,700 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 255,000 บาทต่อตารางเมตร
- ห้อง 1/448 ชั้น 37 Type DP4 2+1 ห้องนอน ขนาด 179.78 ตารางเมตร ราคา 59,749,289 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 332,597 บาทต่อตารางเมตร (Fully Furnished)
- ห้อง 1/453 ชั้น 39 Type PH1 3 ห้องนอน ขนาด 491.70 ตารางเมตร ราคา 135,217,500 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 275,000 บาทต่อตารางเมตร
- ห้อง 1/454 ชั้น 39 Type PH2 3 ห้องนอน ขนาด 447.84 ตารางเมตร ราคา 123,156,000 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 275,500 บาทต่อตารางเมตร
- ห้อง 1/455 ชั้น 39 Type PH3 3 ห้องนอน ขนาด 432.47 ตารางเมตร ราคา 151,621,820 บาทหรือราคาต่อตารางเมตร 350,595 บาทต่อตารางเมตร (Fully Furnished)
- ทำสัญญา 100,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ HYDE Sukhumvit 13 จริงๆแล้วตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สะดวกและยังใกล้แหล่งชอปปิ้งมากมาย ส่วนโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไกลจากคอนโดเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ติดเรื่องภาพลักษณ์ของย่านนานาที่มีแขกเยอะ เมื่อเทียบการการเดินทางที่สะดวกแล้วแทบลืมเรื่องพวกนั้นไปได้เลย เมื่อโครงการเสร็จแล้วมีลูกบ้านเข้ามาอยู่ สิ่งที่ควรคำนึงถึงให้มากๆคือการจัดการภายหลังของนิติบุคคลค่ะ ที่สามารถคงสภาพโครงการให้น่าอยู่แค่ไหน อย่างที่บอก ทำเลแถวนี้มีเอกลักษณ์มาก คือ จอแจ และชาวต่างชาติเยอะค่ะ คนที่เลือกอาศัยอยู่ที่นี่ต้องมองข้ามเรื่องแบบนี้ไปจะอยู่แบบสบายใจขึ้น
พูดถึง Sky line ของแนวบีทีเอสเส้นสุขุมวิทเส้นนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกเช่นกันเพราะอนาคตโปรเจคใหญ่ยักษ์ที่จะพุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องให้เราได้เห็น ไปทางฝั่งทองหล่อเอกมัย มี Emquatier แหล่งชอปปิ้งดึงดูดเงินในกระเป๋า , Maque โครงการคอนโดมิเนียมหรูจากทาง MJRD ซึ่งแง้มๆราคาต่อตารางเมตรออกมาสูงถึง 3 แสนบาทต่อตารางเมตรกันเลยทีเดียว พอกลับมาในส่วนของเพลินจิต , ชิดลม ที่กำลังก่อสร้างแล้วจะเป็น Landmark ได้ไม่ยาก คือ Central Embassy และยังโครงการของแสนสิริที่อยู่ข้างสถานฑูตอเมริกันนี่อีก คงเป็นอะไรที่น่าตื่นตามาก โดยโครงการ HYDE ถือเป็นอาคารที่รูปลักษณ์ดึงดูดไม่แพ้กันเพราะทางสถาปนิกต้องการสื่อรูปลักษณ์ออกมาภายนอกอาคาร วัสดุ Facade และสีฟ้าน่าจะเป็นที่โดดเด่นได้
การเดินทางด้วยรถนั้น เส้นสุขุมวิทในช่วง Office hour นั้นเรียกว่า ติดหนึบหนับ กันเลยทีเดียวแต่ถ้ารู้จักตรอกซอยที่เชื่อมกันเป็น Network ของซอยสุขุมวิทแล้วการลัดเลาะไปถึงที่หมายโดยติดน้อยหน่อยมีความเป็นไปได้สูง ในส่วนของที่จอดรถในโครงการจัดมาให้ 80% แบบ Fix คัน ซึ่งถ้าการเดินทางโดยไม่ใช้รถแล้วเลือกใช้บีทีเอสก็สบายสุดๆเพราะเดินไปถึงสถานียังไม่ทันจะเหนื่อยเลยค่ะ แล้วถ้าอยากจะเปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินก็แค่นั่งไปอีก 1 สถานีเพื่อไปเปลี่ยนที่สถานีอโศกก็ได้
ในเรื่องวัสดุและการออกแบบห้องพัก เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว เพราะแต่ละห้องจะได้เห็นวิวภายนอกอาคารแน่ๆ เพราะทุกห้องมีหน้าต่างที่เต็มบานสูง 2.80 เมตร แต่คนที่เลือกวิวด้านหลังซึ่งมองไปเจอโรงแรมแอมบาสเดอร์คงต้องคิดหนัก Sky line สวยๆจะอยู่ด้านหน้าๆและข้างๆไปซะหมด แต่หลังจากที่ศึกษาผังห้องมาระยะหนึ่ง พื้นที่ระเบียงมีน้อยมาก บางแบบไม่มีเลย ถ้าอยากตากผ้าขึ้นมาคงต้องหาพื้นที่ไหนซักที่ตากผ้าเอาหรือต้องซื้อเครื่องอบผ้าติดเอาไว้ ในส่วนของห้องน้ำ ติดขัดนิดหน่อยตรงที่วางสบู่ มันเป็นแบบวางสบู่ได้ก้อนเดียวจริงจัง อยากได้กว้างกว่านี้เพราะใช้งานจริงต้องวางไม่พอแน่ๆค่ะ
ปัจจุบันนั้นโครงการก็ทะยอยโอนไปเยอะแล้วค่ะ ดังนั้นห้องที่เหลืออยู่นั้นจะเป็น ห้องที่ชั้นกลางๆ และ Duplex กับ Penthouse ค่ะ ซึ่งราคาต่อตารางเมตร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 170,000 – 275,000 บาทต่อตารางเมตรค่ะ แต่ห้องขนาดเล็กนั้นจะมีเหลือไม่มาก ใครมองหาโครงการเสร็จย่านสุขุมวิทแล้วไม่ติดว่าเป็นทำเลนานา โครงการนี้นับว่าโอเคระดับหนึ่ง ค่อนไปทางสูงเล็กน้อย
สุดท้าย ในส่วนของส่วนกลางของโครงการที่จัดไว้อยู่ในพื้นที่เดียวกันคือ ชั้น 5 และใช้พื้นที่แบบเต็มๆ ไม่มีส่วนของห้องพักเลย การจัดการในส่วนนี้จะได้จัดการง่ายด้วย พื้นที่ก็ดูกว้างขวางเป็นชิ้นเป็นห้องชัดเจน ไม่อึดอัดและกระจัดกระจาย สระว่ายน้ำก็กว้างสุดๆ มีที่ชิวเอ้าท์หลายที่และราคาส่วนกลางนั้น ไม่แพงมากค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 150,000 – 280,000 บาทต่อตารางเมตร, 23/07/2013
- ทำเล 8.5/10 – ดีมากเลยอยู่แถวนี้ ติดหน่อยนึง เรื่องความสะดวก แต่ชุมชนแถวนี้เย็นๆค่ำๆ พลุกพล่านใครชอบก็ดีไป
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ถ้ารถไม่ติดจะเลิศมาก
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ดีค่ะ เดินไปได้ทั้ง BTS นานาในระยะใกล้ และ MRT สุขุมวิท ในระยะกลาง
- วัสดุ 8/10 – เหมาะสมกับราคา
- แบบ 8/10 – โดยรวมทำออกมาได้ดี
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – เต็มพื้นที่ค่ะ
- LUXURY – SUPER LUXURY
- 8.23 / 10.00
- คะแนนด้านบนคิดเทียบกับราคา 150,000 บาทต่อตารางเมตรนะคะ ถ้าเป็นห้อง 250,000 – 280,000 บาทต่อตารางเมตร จะเข้าเกรด SUPER LUXURY ที่เราขอไม่ให้คะแนนค่ะ
BOTTOM LINE
ในเส้นสุขุมวิทตอนต้นๆ HYDE เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่น่าสนใจ เดินทางสะดวกทั้ง BTS และ MRT ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ชอบกด Like ใช่กด Share กันค่ะ