รีวิวโครงการ
The Sneak EP.55 – The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์
14 ธันวาคม 2019
HIGHLIGHTS
- ตัวโครงการและพื้นที่ภายในออกแบบได้เรียบหรู โดดเด่นในเรื่องการตกแต่งและการเลือกใช้วัสดุตามสไตล์ของแสนสิริ
- มีรูปแบบห้องพักอาศัยหลากหลาย ตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedroom ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบ
- Facilities มีทั้งเป็นอาคาร Clubhouse ด้านหน้าและบนอาคารพักอาศัย กระจายไว้ในหลายตำแหน่งใช้งานได้อย่างทั่วถึง มีให้เลือกใช้งานตามไลฟ์สไตล์
- เน้นพื้นที่สีเขียว Secret Garden จัดได้ร่มรื่นมาก เป็นโครงการในเมืองที่ได้บรรยากาศธรรมชาติสวยๆในโครงการ
- ตั้งอยู่ริมถนนประดิพัทธ์ใกล้แยกสะพานควาย ห่างจาก BTS สะพานควาย ประมาณ 550 ม.
Fact @ 27 November 2019
- The Line Phahon – Pradipat (เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์)
- บจ.บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ทเวลฟ์
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนประดิพัทธ์ เขตพญาไท
- ที่ดินประมาณ 5 ไร่
- คอนโด High Rise 46 ชั้น 1 อาคาร คลับเฮ้าส์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร
- จำนวนห้องพักอาศัย 981 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 54% รวมจอดซ้อนคัน
- เริ่มก่อสร้าง : 2560
- แล้วเสร็จ : 2562
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) 26.25 – 28.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท (Fully Fitted)
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (M/L) 30.50 – 40.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท (Fully Furnished)
- 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 51.50 – 51.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท (Fully Furnished)
- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 53.50 – 67 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.5 บาท (Fully Furnished)
- 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 79 – 111.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.9 บาท (Fully Furnished)
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท (Fully Fitted) / หรือตร.ม.ละ 150,000 บาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 155,000 บาท/ตร.ม.
- ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ n/a บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1685
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 November 2019
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) 26.25 – 28.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท (Fully Fitted)
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (M/L) 30.50 – 40.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท (Fully Furnished)
- 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 51.50 – 51.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท (Fully Furnished)
- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 53.50 – 67 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.5 บาท (Fully Furnished)
- 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 79 – 111.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.9 บาท (Fully Furnished)
- รูปแบบการขาย Fully Furnished หรือ Fully Fitted โดยโครงการจะมียูนิตพิเศษให้เลือกสามารถสอบถามกับโครงการได้นะคะ
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อป Porcelain Slabs
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS สะพานควาย
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท ต่อ ตรม. ต่อปี ใน 2 ปีแรก (ม.ค.2563-ธ.ค.2564) และ 52 บาท ต่อ ตรม. ต่อปี ตั้งแต่ปี 2565
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Product Walkthrough
โครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ มีรูปแบบการขายปัจจุบัน 2 แบบนะคะ ทั้งแบบ Fully Fitted และ Fully Furnished โดยถ้าเลือกแบบ Fully Furnished ของที่จะได้คือ เตียง โต๊ะหัวเตียง โซฟา โต๊ะกาแฟ ชั้นวางทีวี ที่เก็บของ ตั้งแต่ type 1 Bed size L จะเพิ่มโต๊ะทำงานให้ด้วยค่ะ หรือถ้าชอบแต่งห้องเองจะเลือกแบบ Fully Fitted โครงการจะมียูนิตพิเศษให้เลือก Turn Furniture เป็นส่วนลดได้ สามารถสอบถามกับโครงการได้นะคะ
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ของซีรีย์ The Line รุ่นใหม่ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ทางโครงการเลือกใช้ของ SB Furniture ทั้งหมดโดยออกแบบให้เเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Function เพื่อสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดในพื้นที่ห้องที่จำกัดได้ดี สำหรับห้องตัวอย่างนี้จะโชว์เฟอร์นิเจอร์ SB Furniture มาให้ดูเลยนะคะ
โครงการทำห้องออกมาทั้งหมด 39 Type ตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม. – 3 Bedroom 111.50 ตร.ม. ทำให้มีตัวเลือกในการเลือกค่อนข้างเยอะ ตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่โครงการนี้ในหลายๆ ประเภท ทั้งคนที่ทำงานในละแวกนี้อยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวขยายพ่อแม่ลูก
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) 26.25 – 28.50 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (M/L) 30.50 – 40.75 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 51.50 – 51.75 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 53.50 – 67 ตร.ม.
- 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 79 – 111.50 ตร.ม.
ห้องขนาด 1 Bedroom 33.50 ตร.ม. เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เน้นการใช้งานที่มากขึ้น ได้ส่วนครัวเป็นครัวปิดใช้งานทำครัวจริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นควันไปรบกวนห้องด้านใน พื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งอยู่ชิดฝั่งด้านนอกของตัวห้อง ได้หน้าต่างบานใหญ่ทำให้บริเวณส่วนนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ ออกแบบห้องน้ำให้สามารถเข้าห้องน้ำได้จากครัวและห้องนอน แยกเส้นทางการใช้งานของเจ้าของห้องและแขกจากห้องนั่งเล่นได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมทั้งห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ มีพื้นที่ Walk-in Closet เพิ่มขึ้นมาเชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้เป็นสัดส่วนต่อเนื่องกันดี ส่วนระเบียงเป็นระเบียงยาวมีพื้นที่พอสมควรใช้ซักล้าง ตากเสื้อต่างๆได้ เพราะส่วน CDU แอร์ซ่อนไว้ด้านข้างมีประตูปิดแยกส่วนให้เรียบร้อย
เริ่มจากหน้าทางเข้าห้องกันเลยค่ะ สำหรับประตูหน้าห้องนี้เป็นประตูปิดผิวด้วยลามิเนต มีความสูง 2.4 m. ผนังด้านข้างติดกริ่งหน้าห้องพร้อมอุปกรณ์ Digital door lock (Bluetooth) ของ Yale พร้อมติดตาแมวและป้ายเลขที่ห้องมาให้พร้อมใช้งาน
บริเวณพื้นที่ทางเข้าห้องจะยกขอบขึ้นมาเล็กน้อย ปูพื้นด้วยแกรนิตยกขอบขึ้นมาแบบนี้จะช่วยเรื่องป้องกันฝุ่นต่างๆเข้าไปในตัวห้องและมีความแข็งแรงกว่าของพื้นไม้ลามิเนตทั่วไป
ส่วนแรกของห้องเป็นห้องครัว มองตรงไปด้านในของตัวห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและส่วนทานอาหาร ทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอน , ห้องน้ำ , Walk in Closet และระเบียง พื้นภายในห้องทั้งหมดจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต ครัวและห้องน้ำปูกระเบื้อง ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m. และติดไฟให้แบบดาวน์ไลท์มาให้พร้อมใช้งาน
บริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับตู้และชั้นวางของทางด้านข้าง
ได้เฟอร์นิเจอร์ครบเป็นชุดตู้ Built-in บริเวณหน้าห้องทำเป็นชั้นวางรองเท้าและตู้เก็บของมาให้มาให้ทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นส่วนครัว ลักษณะครัวปิดใช้งานทำครัวจริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นควันไปรบกวนห้องด้านใน ส่วนครัวมีประตูบานเลื่อนช่วยแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนโดยไม่มารบกวนพื้นที่พักอาศัยของตัวห้องทางฝั่งห้องนั่งเล่น
มีระยะให้ยืนทำครัวกว้างประมาณ 1.45 m. ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ เหมาะกับการใช้งานทนความชื้น น้ำกระเด็นลงพื้นได้ พื้นกระเบื้องจะเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายไม่ต้องกลัวเรื่องพื้นบวม
ครัวติดตั้งเป็นชุดครัวแบบ Built-in ที่เห็นจะเป็นสีตามนี้เลย หน้าบานตู้เป็นกระจกซาตินสีแชมเปญ ซึ่งมีคุณสมบัติของกระจกซาตินนี้คือเวลาจับ เปิด – ปิด ใช้งานตู้มันจะไม่เป็นรอยนิ้วมือเหมือนกระจกปกติทั่วไป ซึ่งก็ง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนหน้าบานตู้อื่นๆจะปิดผิวเมลามีนลายไม้ ด้านข้างมีพื้นที่กว้างประมาณ 60 x 60 cm. สำหรับตั้งตู้เย็นขนาดกลางได้ ในระยะที่ใช้งานต่อเนื่องกับส่วนครัวได้ดี
ส่วนชุดครัวด้านบนและล่างทำเป็นบานเปิดภายในมีชั้นวางของให้เก็บของใช้แยกตามขนาดได้
ส่วน Top ครัวเป็น Porcelain Slab มีคุณสมบัติความพรุนที่ต่ำ มีความคงทนสูง ไม่เป็นคราบและเป็นรอยง่าย ส่วนผนังด้านหลังเป็นกระจกทนความชื้นสีดำ ข้อดีคือ ทนความชื้น ทำความสะอาดง่ายและดูแลรักษาได้ง่ายด้วย มีชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดกลาง 1 ช่อง พร้อมชุดเตาและที่ดูดควันระบบดูดควันออกภายนอกอาคารของ Mex ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
ด้านล่างของชุดครัวทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆอย่าง ช้อน ส้อม แยกตามขนาดได้ ด้านล่างแบ่งช่องสำหรับตั้งเครื่องไมโครเวฟไว้ให้เรียบร้อย ส่วนขอบลิ้นชักด้านบนจะติดแผ่นเหล็กยื่นเป็นขอบช่วยให้จับดึงลิ้นชักเข้า-ออกได้สะดวก
สำหรับประตูกั้นระหว่างครัวและห้องนั่งเล่น ได้เป็นประตูกระจก 3 ตอน เวลาเปิดก็กว้างดี เดินเข้า-ออกสะดวก บานประตูมีน้ำหนักและ Fitting แข็งแรงพอสมควรเลย
ส่วนครัวจะเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์พร้อมอุปกรณ์ Smoke Detector เและ Sprinkler ดับเพลิงไฟไหม้ให้พร้อมใช้งาน
ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่น จัดแบ่งพื้นที่ภายในไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนได้แสงสว่างจากหน้าต่างริมอาคารทำให้พื้นที่การใช้งานดูโปร่งโล่งไม่มืดทึบ เมื่อวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่ง
ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.3 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ ได้ค่ะ
ชุดตู้และชั้นทีวีเป็นของ SB Furniture ที่เราจะได้มาพร้อมห้องจะได้เหมือนในห้องตัวอย่างแบบนี้เลยนะคะ สำหรับ TV อาจปรับใช้วิธีการแขวนทีวีไว้ที่ผนังแทนจะได้มีพื้นที่วางของเพิ่มขึ้น โดยที่ผนังด้านหลังจะมีชุดปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้พร้อมใช้งาน
สำหรับโต๊ะตรงห้องนั่งเล่นชิ้นกลาง จะสามารถเปิดยกขึ้น แล้วมีพื้นที่เก็บของด้านในแบบนี้ได้ด้วยนะ
ด้านข้างห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่ให้วางชุดโต๊ะทานอาหารสำหรับ 1-2 ที่นั่งได้ ระยะความกว้างระหว่างผนัง 2 ฝั่งกว้างประมาณ 1.78 m.
ชุดหน้าต่างจะได้เป็นบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยนะ สามารถมองเห็นวิวได้แบบมุมกว้างมากยิ่งขึ้น และมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 ตำแหน่งสำหรับเปิดรับลมระบายอากาศ
ส่วนฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสี ติดเครื่องปรับอากาศ ติดดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์พร้อมอุปกรณ์ Smoke Detector เและ Sprinkler ดับเพลิงไฟไหม้ให้พร้อมใช้งานเช่นกัน
สำหรับพื้นที่ห้องนอนจะอยู่ถัดด้านในของตัวห้องอีกฝั่ง การจัดพื้นที่แบบนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเพราะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน
ภายในห้องนอนถือว่าใช้งานไม่อึดอัด ตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียง ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างและระเบียง ทำให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี
ส่วนฐานด้านล่างของเตียงจะมีลิ้นชัก 2 ตำแหน่งซ้าย-ขวา สำหรับเก็บของใช้ต่างๆได้
พื้นโดยรอบเตียงทางด้านข้างติดกับ Walk in closet เหลือพื้นที่กว้าง 1 m. มีระยะที่กว้างใช้งานได้สะดวก ส่วนชั้นวางของตรงหัวเตียงก็สามารถเปิดเก็บของได้คล้ายกับโต๊ะตรงห้องนั่งเล่น
ฝั่งตรงข้ามเตียงจะเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 40 cm. แนะนำให้ติดทีวี ไว้ที่ผนังจะได้มีระยะปลายเตียงใช้งานได้สะดวก
ส่วนอีกฝั่งติดกับระเบียงจะเหลือพื้นที่ประมาณ 35 cm. ค่อนข้างแคบไปหน่อย เราอาจปรับพื้นที่การใช้งานโดยเลื่อนเตียงขยับเข้ามาด้านในตัวห้องหน่อยจะทำให้มีพื้นที่เดินได้ง่ายขึ้น
จากห้องนอนจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ เป็นบานเลื่อนกระจก เปิดระบายอากาศ รับลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่
พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ขนาดประมาณ 2 x 0.9 m. จัดพื้นที่มาให้ใช้งานเป็นส่วนซักล้าง ตากผ้า และตั้งเครื่องซักผ้าได้
ส่วน Condensing air ซ่อนไว้ด้านข้างมีประตูปิดแยกส่วนให้เรียบร้อย
อีกฝั่งของตัวห้องจะจัดพื้นที่เป็นส่วน Walk in closet สำหรับวางชุดตู้เสื้อผ้าแบบ Built In อีกด้านเป็นทางไปห้องน้ำ ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดี ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
ตู้เสื้อผ้าแบบ Built In ด้านในแบ่งช่องไว้หลายระดับทำให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่ ด้านในสุดจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกสำหรับยืนแต่งตัวหน้าตู้ได้เลย
ส่วน Walk in closet หน้าตู้เสื้อผ้า กว้างประมาณ 85 cm. สามารถเปิดตู้และยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้แบบพอดีๆ
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ
ห้องน้ำจะเข้าจากส่วนครัวและห้องนอนได้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เวลามีแขกมาบ้านเราจะใช้ห้องน้ำก็ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราค่ะ
ทางโครงการให้กระจกเงาแบบนี้มาให้พร้อมใช้งาน ลักษณะเป็นชุดตู้มีบานเปิดด้านหน้า ด้านในเป็นชั้นวางของใช้ต่างๆได้ และมีซ่อนไฟทางด้านหลังตู้สามารถเปิด-ปิดใช้งานได้
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า มีที่วางของทางด้านข้างและอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Cotto ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้ Built In บานเปิดสามารถเก็บของใช้ต่างๆได้เช่นกัน
ชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cotto และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านข้างและด้านหลังให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำให้ เป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ของ Cotto ที่สามารถปรับความแรงของสายน้ำตอนเปิดใช้งานได้
พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.15 x 0.8 m.โดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำ เช่น ราวแขวนผ้า ส่วนเพดานห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบดาวน์ไลท์ พร้อมติดพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ
สำหรับสวิตช์ไฟและปลั๊ก ภายในห้องทั้งหมดเป็นของ Legrand
ห้องถัดไปที่จะพาไปดูคือห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 51.50 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวที่กำลังจะมีลูก หรืออยู่กัน 2 คนแต่อยากได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่ม สำหรับห้องนี้ดีไซน์ออกมาเป็นห้องหน้ากว้าง และแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนกลางซึ่งมีพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น และอีก 2 ฝั่งแยกเป็นห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่ ด้วยห้องหน้ากว้างนี้ก็ทำให้ห้องนอนทั้ง 2 ห้องและส่วนนั่งเล่นได้รับแสงธรรมชาติเข้าได้ดี ดูโปร่งโล่ง
สำหรับห้องนี้จะได้ครัวปิดเหมาะกับการทำอาหารมากขึ้น มีระเบียงแยกเป็นระเบียงซักล้างเลยติดกับครัว ทำให้ระเบียงตรงพื้นที่นั่งเล่นนั้นสามารถใช้นั่งเล่นชมวิวได้จริงไม่ต้องแชร์ฟังก์ชันอื่นร่วมกันบนพื้นที่เดียวกัน ส่วนห้องน้ำของ Type นี้มีเพียงห้องเดียว ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบมาให้เข้า-ออกได้ 2 ทางคือจากพื้นที่รับประทานอาหารและจากในห้องนอนใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกและแก้ปัญหาความไม่เป็นส่วนตัวหากต้องเข้าห้องน้ำผ่านห้องนอน
เข้ามาภายในห้องเจอส่วนพื้นที่รับประทานอาหารก่อนซึ่งเชื่อมกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นด้านใน สำหรับห้องนี้จะดูโปร่งกว่าห้องแรกในระยะความกว้างที่กว้างกว่าและได้กระจก Ceiling Height สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ทำให้แสงเข้ามาได้ดี
หันกลับมาส่วนหน้าห้องติดกับประตูทางด้านขวาจะมีชุดตู้ให้มาด้วย โดยจะแบ่งเป็นชั้นเก็บของหลายระดับ ด้านล่างเป็นที่วางรองเท้า ทางขวามือเป็นที่นั่งเป็นเก้าอี้เล็กๆสามารถดึงเข้า-ออก เพื่อใช้นั่งใส่รองเท้าบริเวณหน้าห้องได้สะดวก
ถัดมาจะเป็นพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้ มีพื้นที่โดยรอบสามารถเดินรอบโต๊ะได้ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังได้แสงธรรมชาติจากพื้นที่ระเบียงทางด้านข้างติดกับห้องนั่งเล่นทำให้ดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด
มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติได้ดี เมื่อวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งสามารถใช้งานได้ไม่อึดอัด โดยโซฟาชุดนี้โครงการมีให้พร้อมใช้งานเช่นกันค่ะ
ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.4 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 45″- 50″ ได้ค่ะ
ได้ตู้และชั้นทีวีเป็นของ SB Furniture ที่เราจะได้มาพร้อมห้องจะได้เหมือนในห้องตัวอย่าง เหมือนกับห้องแรกเลยนะคะ
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ เป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เปิดระบายอากาศรับลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่
สำหรับระเบียงนี้ขนาดประมาณ 1.7 x 0.8 ม. ซึ่งเป็นระเบียงที่สามารถใช้งานได้จริง จะนั่งชมวิวหรือจะจัดสวนเล็กๆ ก็ได้ เพราะจะมีอีกระเบียงตรงส่วนครัวที่ทำเป็นระเบียงซักล้างโดยเฉพาะแล้ว
ส่วน Condensing air ซ่อนไว้ด้านข้างมีประตูปิดแยกส่วนให้เรียบร้อย เหมือนกับห้องตัวอย่างห้องแรกค่ะ
จากบริเวณระเบียงของตัวห้องมองกลับเข้ามาภายในตัวห้อง จะเห็นว่าพื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย
ครัวปิดมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วน เราสามารถประกอบอาหารที่มีกลิ่นควันได้ โดยไม่มารบกวนพื้นที่พักอาศัยของตัวห้องทางฝั่งห้องนั่งเล่น
ภายในส่วนครัวแบ่งโซนการใช้งานไว้เป็น 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น ฝั่งซ้ายเป็นส่วนล้างจานและเตรียมอาหาร ส่วนฝั่งขวาเป็นชุดเตาพร้อมเครื่องดูดควันสำหรับประกอบอาหาร
วัสดุปูพื้นส่วนครัวจะเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งเหมาะกับการทำอาหารทนความชื้นและทำความสะอาดได้ง่าย มีระยะให้ยืนทำครัวกว้างประมาณ 0.9 m. ใช้งานได้สะดวกดี
ทางซ้ายเป็นส่วนล้างจานและเตรียมอาหาร ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็นขนาดกลางได้ ในระยะที่ใช้งานต่อเนื่องกับส่วนครัวได้ดี
ส่วนชุดครัวด้านบนและล่างทำเป็นบานเปิดภายในมีชั้นวางของให้เก็บของใช้แยกตามขนาด
ส่วน Top ครัวเป็น Porcelain Slab ส่วนผนังด้านหลังเป็นกระจกทนความชื้นสีดำ มีชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดกลาง 1 ช่อง ของ Mex ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
ด้านล่างของชุดครัวทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆอย่าง ช้อน ส้อม แยกตามขนาดได้ ด้านล่างและด้านข้างแบ่งช่องทำเป็นลิ้นชัก ส่วนขอบลิ้นชักด้านบนจะติดแผ่นเหล็กยื่นเป็นขอบช่วยให้จับดึงลิ้นชักเข้า-ออกได้สะดวก
ส่วนฝั่งขวาเป็นชุดเตาพร้อมเครื่องดูดควันสำหรับประกอบอาหาร
ส่วนชุดครัวด้านบนทำเป็นบานเปิดภายในมีชั้นวางของให้เก็บของใช้แยกตามขนาดไว้เช่นกัน
ส่วน Top ครัสเป็น Porcelain Slab ส่วนผนังด้านหลังเป็นกระจกทนความชื้นสีดำ เช่นกัน พร้อมติดตั้งชุดเตาพร้อมเครื่องดูดควันแบบดูดออกภายนอกไว้ของ Mex ให้พร้อมใช้งาน
ด้านล่างของชุดครัวทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆแยกตามขนาดได้ ด้านล่างแบ่งช่องสำหรับตั้งเครื่องไมโครเวฟไว้ให้เรียบร้อย
จากส่วนครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบ่งพื้นที่การใช้งานกับส่วนครัวเวลาเปิดก็กว้างดี เดินเข้า-ออกสะดวก และยังสามารถเปิดช่วยระบายกลิ่นและความชื้นจากส่วนครัวได้ดี
ส่วนระเบียงซักล้างขนาดประมาณ 2.5 x 0.6 ม. ใช้สำหรับซักล้างได้ ตากเสื้อผ้า และตั้งเครื่องซักผ้าได้ใช้งานได้ไม่อึดอัด
ส่วนครัวจะเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์พร้อมอุปกรณ์ Smoke Detector เและ Sprinkler ดับเพลิงไฟไหม้ให้พร้อมใช้งาน
สำหรับพื้นที่ห้องนอนเล็กจะอยู่ถัดด้านในของตัวห้องอีกฝั่ง การจัดพื้นที่ในแบบนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเพราะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน
ห้องนอนเล็กสามารถตั้งเตียง 5 ฟุตได้ใช้งานไม่อึดอัด ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี ในส่วนของวัสดุปูพื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตเหมือนกับห้องนั่งเล่น
พื้นโดยรอบเตียงทางด้านข้างติดกับตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่กว้าง 90 cm. มีระยะที่กว้างใช้งานได้สะดวก ส่วนฐานด้านล่างของเตียงจะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของใช้ต่างๆได้
ฝั่งตรงข้ามเตียงจะเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 35 cm. แนะนำให้ติดทีวี ไว้ที่ผนังจะได้มีระยะปลายเตียงใช้งานได้สะดวก
อีกฝั่งของตัวห้องจะมีพื้นที่สำหรับตั้งชุดที่นั่งหรือโต๊ะทำงานได้ พื้นที่กว้างประมาณ 1.6 x 1.4 m. อยู่ติดกับหน้าต่างได้แสงธรรมชาติหรือจะเปิดหน้าต่างรับลมได้
อีกฝั่งของตัวห้องจะจัดพื้นสำหรับวางชุดตู้เสื้อผ้าแบบ Built In พร้อมช่องบานเปิดสำหรับแขวนของใช้หรือเครื่องประดับ มีกระจกเงาด้านในให้
สำหรับพื้นที่ห้องนอนใหญ่และห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง การจัดพื้นที่แบบนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเพราะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วน
เปิดเข้ามาในห้องนอนใหญ่จะเจอกับส่วน Walk in closet ก่อน โดยใช้การวางตู้เสื้อผ้าแบ่งโซนการใช้งานไว้ พื้นที่ Walk in closet จะกว้างประมาณ 1 m.
ห้องนอนใหญ่ภายในห้องนอนพื้นที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบสบายๆไม่อึดอัด สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุต ได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงใช้งานได้สะดวก
ระยะข้างเตียงทางฝั่งตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 70 cm. มีพื้นที่ให้ใช้งานสะดวก
ส่วนปลายเตียงทางโครงการติดชั้นวางทีวีแบบ Built in มาให้เลยทำให้มีระยะสำหรับเดินประมาณ 50 cm.
ส่วนอีกฝั่งติดกับหน้าต่างจะเหลือพื้นที่ประมาณ 90 cm. สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก
ชุดหน้าต่างจะได้เป็นบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสามารถมองเห็นวิวได้แบบมุมกว้างและมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 ตำแหน่งสำหรับเปิดรับลมระบายอากาศ
อีกฝั่งของตัวห้องจะจัดพื้นที่เป็นส่วน Walk in closet ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดี ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ
ห้องน้ำจะเข้าจากห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เวลามีแขกมาบ้านเราจะใช้ห้องน้ำก็ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา
ทางโครงการให้กระจกเงาลักษณะเป็นชุดตู้มีบานเปิดด้านหน้า ด้านในเป็นชั้นวางของใช้ต่างๆได้ และมีซ่อนไฟทางด้านหลังตู้ ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ ของ Cotto
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำให้ เป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.17 x 0.95 m.โดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower ของ Cotto สามารถปรับความแรงของสายน้ำตอนเปิดใช้งานได้
ส่วนเพดานห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบดาวน์ไลท์ พร้อมติดพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
เจาะลึกตัวโครงการ
โครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ เป็นคอนโด High Rise สูง 46 ชั้น พร้อม Club House 2 ชั้น บนเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 5 ไร่ ด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมด 981 ยูนิต การออกแบบของโครงการออกมาในสไตล์ Modern Luxury เน้นโทนสีขาวสะอาดเป็นโทนที่เด่นสะดุดตาและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากซีรีย์ The Line ที่เคยคุ้นตา โดยโครงการมี Concept คือ “FEEL LIKE HOME” แนวความคิดเกิดจากการมองโครงการให้เป็นเสมือน ‘บ้านหลังที่สอง’ ของผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัย ให้อยู่สบาย ไม่ต่างจากบ้านส่วนตัว การออกแบบจึงคำนึงถึงความกลมกลืนสอดคล้องไปกับธรรมชาติ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ที่มีการปรับองศาของผนัง เพื่อสร้างมุมมองใหม่จากแสงและเงาในแต่ละช่วงเวลาของวัน และการใช้เฉดสีเอิร์ธโทนกับอาคารให้ความรู้สึกกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ส่วนการตกแต่งภายใน ใช้วัสดุธรรมชาติ ทั้งหิน ไม้ ผ้า เข้ามาผสมผสานกัน และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อสร้างอารมณ์แบบบ้านหลังใหญ่ เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
เพิ่มความสะดวกสบายทุกการเดินทาง เลือกเดินทางได้หลากหลาย เดิน 550 ม. ถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย รวมทั้งยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ย่านนี้ถือว่ามีครบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารสูตรดั้งเดิมที่อยู่คู่ทำเลมาอย่างยาวนาน, Street Food และสถานที่แฮงค์เอาท์หลายแนว พร้อมด้วยคอมมูนิตี้มอลล์, ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า
จากแนวความคิดของโครงการจะเห็นว่า แสนสิริค่อนข้างเน้นไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคน ซึ่งจะเห็นว่าโครงการนี้ค่อนข้างตอบโจทย์คนยุคใหม่ ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นชีวิตทำงานไปจนถึงครอบครัวขยายขนาดเล็กๆ พ่อแม่ลูก ที่เน้นการเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า มี Facilities ครบและอยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง
มาดูที่ Master Plan เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการมีเพียงจุดเดียวคือหน้าถนนประดิพัทธ์เลย ตรงเข้ามาเล็กน้อยเลี้ยวซ้ายเป็นส่วน Drop-Off เพื่อเข้าสู่ Lobby ส่วนการเดินรถจะวนรอบโครงการได้และที่จอดรถในชั้นนี้มีทั้งหมด 2 จุดคือส่วนด้านหลังโครงการและด้านข้างที่เป็นพื้นที่จอดรถแบบ Outdoor สำหรับที่จอดรถของโครงการคิดเป็น 54% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาระดับกลางๆ พอหักลบกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือว่าสะดวกได้อยู่ เข้ามาภายในอาคารแบ่งเป็น 3 ส่วนชัดเจนคือส่วน Lobby ด้านหน้าที่เชื่อมกับโถงลิฟต์ , Back Of House ด้านข้างมีพื้นที่ Loading ของได้ และส่วนที่จอดรถด้านหลังโครงการค่ะ
นอกจากนี้ทางโครงการได้นำเอา VMS (Visitor Management System at Main entrance) เป็นนวัตกรรมที่นำเข้ามาใช้ในโครงการเพื่อความปลอดภัยของบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาภายในโครงการ โดยลูกบ้านสามารถ Generate QR Code เพื่อให้ Visitor หรือผู้มาติดต่อเข้ามานั่งรอในโครงการได้ รวมถึงการจอดรถของ Visitor ด้วยนะ
เริ่มที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนประดิพัทธ์พอดี ด้านหน้าจะมีป้ายโครงการสังเกตไม่ยาก การเข้า-ออกสะดวกไม่มีจุดอับสายตาและมี รปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการใช้วิธีให้ รปภ. คอยเลื่อนแผงเหล็กกั้นให้เวลามีการเข้า-ออกโครงการ
เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ตรงไปจะเป็นทางไปที่พื้นที่จอดรถที่อยู่ด้านในโครงการ ทางขวามือเป็นอาคาร Clubhouse และทางซ้ายมือจะมีแนวทางเดินสำหรับลูกบ้านเดินเข้า-ออก แยกส่วนจากเส้นทางรถยนต์
เข้ามาด้านในจะมีบริเวณจุด Drop off สำหรับจอดรถส่ง-รับคน ทางด้านหน้าของตัวอาคาร จากตรงนี้จะเดินไปส่วน Lobby ของตัวอาคารได้
บริเวณด้านหน้าโครงการจะจัดเป็นพื้นที่สวนสีเขียวพร้อมที่นั่งพักผ่อน อีกทั้งยังเป็นระยะ Setback ให้กับโครงการ ให้ตัวอาคารด้านหน้ามีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
มีพื้นที่ทางด้านหน้าและด้านข้างโครงการสำหรับจอดรถผู้มาติดต่อเป็นลานจอดรถแบบเปิดโล่ง ส่วนเสาสีขาวที่เห็นจะเป็นอุปกรณ์ OmniFlow นวัตกรรมเสาไฟอัจฉริยะ Smart Lighting Pole สร้างพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับไฟถนนในโครงการ ที่ตอนนี้แสนสิรินำมาใช้ในหลายๆโครงการให้เห็นกันบ่อยๆ
ตรงเข้ามาจะเป็นทางด้านข้างของตัวอาคารเพื่อขึ้นไปอาคารจอดรถ โดยจะมีไม้กระดกกั้นไว้อีกอัน เป็นการคัดกรองผู้ที่จะไปจอดด้านในโครงการเฉพาะลูกบ้านหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
โครงการนี้จะจัดที่จอดไว้ในอาคารจอดในร่ม ข้อดีคือไม่ต้องจอดตากแดด ตากฝน จอดเสร็จก็เดินไปส่วนพักอาศัยต่อได้เลย ที่นี่จัดที่จอดมาให้ทั้งหมด 54% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มากลางๆ พอใช้งานได้ เพราะเป็นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้า ลูกบ้านบางส่วนจะใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
บริเวณที่จอดรถทางโครงการจะจัดพื้นที่สำหรับจอดรถที่ต้องชารต์ไฟฟ้า Smart Move เตรียมไว้ให้ ใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้า ก็สามารถมาจอดชารต์ไฟได้สะดวกดีนะ
บริเวณที่จอดรถจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง เป็นห้องน้ำส่วนกลางไว้ให้ใช้งานด้วยนะคะ
บริเวณอาคารจอดรถ มีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศไว้ให้เพิ่มด้วย ช่วงเวลาอากาศร้อนสามารถเปิดระบายความร้อนภายในตัวอาคารจอดรถได้
จากส่วนที่จอดรถก็จะมีทางเดินเชื่อมไปส่วนของอาคารพักอาศัยได้ บริเวณที่จอดชั้น 1 จะเดินไปออกทาง Lobby ทางด้านหน้าของตัวอาคารได้พอดี
มาที่ส่วน Lobby หลักของโครงการ ภายในจัดเป็นโถงสูงแบบ Double Volume Space สูง 9 m. ได้ความโปร่งโล่ง ใช้กระจกแบบ Ceiling Height การตกแต่งภายในเน้นเรียบง่ายและหรูหรา ด้วย Material ไม้และการเล่นลวดลายสีทอง โดยพื้นจะเป็น Platinum Emperador Marble (import from turkey) และติด Chandelier from Tom kirk (UK) ส่วนที่นั่งจะเป็น Armchair from Minotti (Italy) น่าใช้งานทีเดียวค่ะ
มีส่วนเคาน์เตอร์ของพนักงานและที่นั่งพักคอยสำหรับผู้มาติดต่อไว้ให้เรียบร้อย เราจะเห็นผนังทางขวามือ ทางโครงการเลือกการตกแต่งโดยเน้นวัสดุธรรมชาติ ทำเป็นผนังติดแผ่นไม้ลวดลายทำเป็นวงปีของต้นไม้ เพิ่มบรรยากาศให้ดูสวยงามอบอุ่นน่าอยู่อาศัย
จากส่วน Lobby จะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปด้านในพื้นที่โครงการ ทางด้านข้างทำเป็นที่นั่งพักคอย วางเรียงยาวไปตลอดเส้นทาง
ดจากส่วน Lobby เข้ามาด้านในจะเป็นทางเชื่อมไปส่วนพื้นที่จอดรถ และทางซ้ายจะเป็นโถงลิฟต์ เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆในชั้น 1 ได้
Lift lobby วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน Platinum Emperador เมื่อเข้าบริเวณโถงลิฟต์ของโครงการ โดยที่มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 163.5 : 1 ถือว่าแน่นไปหน่อย และมีลิฟต์ Service ให้ 1 ตัว แยกการใช้งานไว้ไม่รบกวนกับลิฟต์โดยสารของลูกบ้าน
จากบริเวณโถงลิฟต์จะเชื่อมต่อมายังห้องจดหมาย Mail Box ของลูกบ้านทั้งหมด โดยส่วน Mail box จะใช้วัสดุปูพื้นเป็นหินอ่อนสีดำ Black Marquina Marble
ถัดมาจะเป็น Ibox Locker ที่เป็นตู้จดหมายจากไปรษณีย์ไทย โดยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านในการมารับที่ตู้เองได้ตลอด 24 ชม
ติดกันจะเป็นส่วนบริการเครื่องซักผ้า อบผ้า และตู้กดน้ำไว้ให้ลูกบ้าน และยังมีระบบ Trendy Wash สามารถเช็คการใช้งานของเครื่องซักผ้าผ่าน Sansiri home app ได้ด้วย
มาที่ส่วน Clubhouse จะเป็นอาคาร 2 ชั้นแยกส่วนไว้ทางด้านหน้าโครงการ
ซูม Master Plan มาเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางกันก่อนนะคะ โดยส่วนนี้จะประกอบไปด้วย Club House และ Secret Garden ภายในส่วน Club House ชั้นล่างนี้จะมีร้านค้า 1 ยูนิต อยู่บริเวณด้านหน้าติดถนนประดิพัทธ์ ซึ่งเฉพาะส่วนร้านค้านี้ทางแสนสิริจะเป็นผู้ดูแลในระยะแรกก่อน ถัดมาก็จะเป็นส่วนห้องน้ำ และด้านข้างมีห้อง Co-Kitchen Space เชื่อมกับส่วน Terrace ซึ่งลูกบ้านสามารถมาปาร์ตี้ปิ้งย่าง ชมวิวสวนแบบนี้ได้เลย แต่อาจจะต้องมีการจองไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ
เรามาดูส่วน Club House ของโครงการกันต่อเลยนะคะ โดยก่อนหน้านี้ส่วน Club House นี้เคยใช้เป็น Sales Office และห้องตัวอย่างมาก่อนค่ะ เริ่มจากบริเวณด้านหน้าของ Club House ตกแต่งเป็นรูปทรงเรียบง่ายแต่เน้นไปที่ Facade สีทองแดงที่มีลูกเล่นของการฉลุดูมีมิติที่สวยงาม แต่นอกเหนือจากความสวยงามแล้วก็คือตัว Facade นี้ก็สามารถช่วยบังสายตาจากภายนอกได้ดี แต่ก็ยังได้รับแสงธรรมชาติจากรอยฉลุของ Facade อยู่ด้วย
ด้านหน้าบริเวณทางเข้าทำเป็นทางลาดเอียง Slope ให้สามารถเข็นรถขึ้นไปใช้งานส่วน Clubhouse ได้สะดวก
สำหรับชั้น 1 อย่างที่อธิบายไปก่อนหน้านี้ว่าจะมีส่วนร้านค้า 1 ยูนิต และส่วน Co-Kitchen Space+Terrace นะคะ ในส่วนของชั้น 2 นั้นจะเป็นพื้นที่ Private ขึ้นมานิดนึง คือจัดให้เป็นพื้นที่ Co-Working Space และ Theater ส่วนชั้นดาดฟ้านั้นมีพื้นที่สวนหย่อมให้ได้เดินเล่นพักผ่อนกันด้วยค่ะ
เข้ามาด้านใน Club House จะเป็นทางเข้าส่วน Secret Garden โดยทางโครงการได้ทำทางเชื่อมเอาไว้ด้านข้างแล้วเรียบร้อย และมีประตูบานหมุนกั้นระหว่าง Club House และสวนเรียบร้อยเผื่อวันไหนต้องการจะปิดสวนเพื่อปรับปรุง หรือกั้นพื้นที่ให้มีความ Private
ส่วน Secret Garden ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากสวน New York
มาดูบรรยากาศภายในสวนกันบ้าง จัดมาให้ดูสวยงามและร่มรื่นดีทีเดียว ตลอดทางเดินของสวนก็จะมีที่นั่งไว้ให้ และที่เป็น Hilight ของสวนนี้เลยก็คือ น้ำตกแบบเล่นระดับ ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการมานั่งเล่นชมสวนและฟังเสียงน้ำตกไปด้วย
ส่วน Terrace ที่มีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเล่นชมวิวสวนและน้ำตก
ออกมาจากพื้นที่สวนแล้วอีกด้านจะมีลิฟต์และบันไดวนขึ้นไปชั้น 2 ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง และส่วน Co-Kitchen + Terrace
ห้อง Co-Kitchen + Terrace ภายในห้องวาง Island ยาวไว้ให้เป็นโต๊ะสำหรับเตรียมอาหาร พร้อมอุปกรณ์เตรียมการทำอาหาร และด้านหลังมี Hob & Hood รวมทั้งเตาอบต่างๆ เตรียมไว้ให้ด้วย รวมถึง Long Table Set ให้นั่งทานอาหารในสวนไปพร้อมๆกัน
สำหรับห้องน้ำจะแบ่งชาย-หญิง ภายในจัดพื้นที่ห้องน้ำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ และด้านในเป็นส่วนของห้องน้ำ ติดตั้งเป็นโถสุขภัณฑ์ไว้พร้อมใช้งาน
ขึ้นมาชั้น 2 มีส่วน Co-Working Space ขนาดใหญ่พอสมควรสามารถรองรับจำนวนที่นั่งได้ประมาณ 30 – 40 คน ส่วนอีกฝั่งเป็นห้อง Theater ค่ะ โดยลูกบ้านที่จะเข้ามาใช้งานก็จะต้องจองไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ได้ทั้งลิฟต์และบันไดวนเลย ตรงกลางเป็นทางเชื่อมขนาดใหญ่ มีที่นั่งไว้ให้ 3 ตัวด้านข้างทางเดิน
บรรยากาศภายใน Co-Working Space ให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยการตกแต่งโดยใช้ไม้และโทนสีไม้เป็นหลัก มีจุดเด่นที่ Green Chanderia ขนาดใหญ่ตรงกลางเลย
ภายในวางชุดโซฟาและโต๊ะเก้าอี้ไว้หลายชุดเพื่อรองรับลูกบ้านให้เพียงพอระดับนึง มีแบ่งโซนเล็กๆ กั้นด้วยประตูบานหมุนกระจก ภายในโซนนี้วางแต่ชุดโซฟายาว เผื่อใครอยากนอนเล่นอ่านหนังสือชิวๆ หรือมานั่งเล่น คุยงานกันก็ได้ค่ะ
อีกฝั่งจะเป็นห้อง Theater จัดเป็นพื้นที่ดูหนังฟังเพลงไว้อย่างดี มีผนังซับเสียงและจอทีวีขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ใครชอบดูหนัง ดูบอล ต้องการพื้นที่เป็นส่วนตัวแบบนี้ก็มาใช้พื้นที่ส่วนกลางห้องนี้กันได้
ชั้นดาดฟ้านั้นทำเป็น Roof Garden คือจัดเป็นสวนหย่อม พื้นที่นั่งเล่นและทางเดิน ให้เดินเล่นกันได้เหมาะกับมาใช้งานตอนเช้าๆหรือเย็นๆแดดไม่ร้อนแล้วนะคะ
ชั้นดาดฟ้า Roof Garden ทำเป็นแนวทางเดิน ด้านข้างปลูกต้นไม้ ลักษณะเป็นต้นหญ้า เวลาลมพัดช่วยเพิ่มบรรยากาศในการใช้งานดูสวยสบายตาดี
พร้อมจัดที่นั่งพักผ่อนแบบเปิดโล่งให้เลือกใช้งาน หรือจะขึ้นมาชมวิวบรรยากาศด้านบนนี้ก็ได้นะ
ขึ้นมาที่ชั้น 9 ชั้นนี้จะเป็นชั้นพักอาศัยและ Facilities หลักบนอาคารของโครงการค่ะ เดี๋ยวจะขอพูดถึงส่วนห้องพักอาศัยในชั้นนี้ก่อนพูดเรื่อง Facilities ต่อนะคะ สำหรับส่วนพักอาศัยนี้แบ่งเป็น 2 ฝั่ง โดยกั้นด้วย Double Access ชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านมากขึ้น รวมทั้งลูกบ้านในชั้นอื่นๆ ที่จะมาใช้ Facilities ในชั้นนี้ก็ถูกแยกทางเข้าส่วน Facilities ไว้เรียบร้อย ดังนั้นใครที่ชอบใช้ Facilities ต้องการความสะดวกในการใช้งานก็สามารถเลือกชั้นนี้ได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องความวุ่นวายหรือไม่เป็นส่วนตัว
ในส่วน Facilities ชั้นนี้จะประกอบไปด้วย
- Swimming Pool ยาว 30 ม. ระบบเกลือ
- Jacuzzi Pool
- Kid’s Pool
- Fitness
- Boxing Area
- Multifunction Area
- ห้องน้ำพร้อมซาวน่า + Steam แยกชาย-หญิง
เดินเข้ามาที่ส่วนกลางในชั้น 9 จะมีแนวทางเดินและที่นั่งสำหรับพักผ่อนเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ
สระว่ายน้ำระบบเกลือ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 30 m. ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง และเป็นสระแบบ Infinity edge pool หรือสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ เวลามาว่ายน้ำก็มองเห็นวิวได้แบบเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น
บริเวณสระออกแบบให้มีที่นั่งพักผ่อนในบริเวณริมสระว่ายน้ำได้
ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นสระเด็กและสระแบบ Jacuzzi สำหรับนั่งแช่ตัว มองวิวมุมสูงจากชั้น 9ได้ ขนาดสระสามารถใช้งานหลายคนได้สบายๆ
พื้นที่สวนและที่นั่งพักผ่อนให้ชมวิวเมืองแบบมุมสูง หันไปทางทิศเหนือของโครงการมองเห็นวิวบ้านแนวราบและย่านพักอาศัยโดยรอบ
วิวจากพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 9 หันออกไปทางทิศเหนือของโครงการยังได้วิวเปิดโล่งไม่มีอาคารสูงบังวิว
เดินตามทางเดินเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางส่วนอื่นกันต่อค่ะ ไปที่ห้อง Multifunction Area และ Boxing Area
ภายใน Multifunction Area จะมีเครื่องออกกำลังกายไว้ให้ใช้งาน พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก แบ่งโซนไว้เป็นสัดส่วนดี
ที่ห้อง Boxing Area จะมีเครื่อง Nexersys เป็นเครื่องคาร์ดิโอแบบ Full body มีหน้าจอที่สามารถเลือกโปรแกรมออกกำลังกายได้หลากหลาย เสมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัว ซึ่งทางโครงการติดตั้งมาให้เพิ่มเติมเป็นโครงการแรกของแสนสิริ
ถัดมาเป็นห้อง Fitness ภายในจัดอุปกรณ์ไว้ค่อนข้างหลากหลาย เวลามาใช้งานจะได้วิวของสระว่ายน้ำไปด้วย
ด้านข้างจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางในชั้น 9 โดยจะแบ่งการใช้งานไว้ 2 ฝั่ง ชาย-หญิง
มีห้องน้ำสำหรับผู้พิการและใช้รถเข็นแยกการใช้งานไว้ให้
ห้องน้ำหญิงภายในจะจัดพื้นที่ภายในใช้งานได้กว้างขวางสบายๆ มีล็อคเกอร์สำหรับเก็บของใช้ และเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเตรียมไว้ให้ อีกฝั่งจะเป็นส่วน ซาวน่า + Steam สำหรับวัสดุพื้นและผนังภายในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน Platinum Emperador ทั้งหมด
ภายในแบ่งพื้นที่สองฝั่งเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และห้องน้ำ-อาบน้ำ ไว้ให้พร้อมใช้งาน
ห้องน้ำชายพื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก แบ่งเป็นส่วนเคาน์เตอร์ล่างมือ ฝั่งตรงข้ามเป็นล็อคเกอร์สำหรับเก็บของผู้ใช้พื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ ห้องน้ำชายก็จะจัดไว้คล้ายกับห้องน้ำหญิงแต่จะเพิ่มส่วนโถสุขภัณฑ์ชายมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ที่ชั้น 9 ของโครงการ จะพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ตรงบริเวณโถงลิฟต์ คือ พื้นที่ส่วนกลาง และส่วนพักอาศัย โดยจะมีประตูกั้นแบ่งการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน ต้องสแกนคีย์การ์ดถึงจะไปส่วนพักอาศัยได้
ในชั้น 10 – ชั้น 34 จะเป็นชั้นพักอาศัยเต็ม Floor แล้วนะคะ ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีการจัดวางแปลนประมาณนี้แต่อาจจะมีส่วน Exterior ด้านนอกที่แตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อยค่ะ สำหรับชั้น Typical Floor Plan นี้จะมียูนิตทั้งหมด 29 ยูนิต ลักษณะการวางอาคารจะเป็นแนวยาวและโอบล้อมส่วนสระว่ายน้ำไว้ ในส่วนของตำแหน่งลิฟต์โดยสารนั้นอยู่ค่อนไปทางซ้ายเล็กน้อยก็ทำให้ห้องฝั่งขวามีระยะเดินไกลหน่อย เมื่อเทียบกับห้องฝั่งซ้ายนะคะ ในส่วนของอัตราส่วนลิฟต์นั้นจะอยู่ที่ 163.5 : 1 ถือว่ามีความหนาแน่นสูงเหมือนกันนะ
มาโซนห้องพักอาศัยบริเวณโถงลิฟต์จะแบ่งโซนห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ฝั่ง
ถัดเข้ามาด้านในโซนห้องพักอาศัยจะมีแนวทางเดินจะเป็นทางยาวโดยมีห้องพักขนานอยู่ทั้งสองด้าน ติดไฟทางเดินแบบ Downlight พร้อมอุปกรณ์ตรวจจับควัน กริ่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉิน และอุปกรณ์ระบบ Sprinkle
ปลายสุดแนวทางเดินจะมีหน้าต่างเป็นช่องให้แสงจากภายนอกช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟ สามารถเปิดเพื่อให้ลมพัดผ่านถ่ายเทอากาศบริเวณนี้ได้
โซนพักอาศัยจะแบ่งโซนการใช้งานของส่วน Service ไว้เป็นสัดส่วนดี มีประตูปิดไว้เรียบร้อย ทั้งลิฟต์ขนของ ห้องทิ้งขยะ และงานระบบต่างๆ
สำหรับบางชั้นจะมี Pocket Garden ติดกับส่วนลิฟต์ Service ทำเป็นพื้นที่ Green Area เล็กๆ ไว้ปลูกต้นไม้จัดสวน ส่วนการดูแลรักษาต้นไม้ก็ไม่อยากเพราะมีพื้นที่เชื่อมเข้ากับโถงทางเดินเลย แม่บ้านจะไปรดน้ำต้นไม้หรือตัดแต่งกิ่งก็ง่ายค่ะ
ส่วน Pocket Garden จะมีแนวประตูกั้นไว้ให้เป็นสัดส่วน ลูกบ้านในชั้นนี้สามารถมาใช้งานได้ อีกทั้งยังเป็นช่องแสงและพื้นที่ระบายอากาศให้กับชั้นนี้ไปด้วยในตัว
และใครที่มองหาห้องใหญ่สุดของโครงการ อย่างห้อง 3 Bedroom 111.5 ตร.ม. นั้นจะไม่ได้อยู่ในชั้นบนสุดนะคะ แต่มีให้เลือกอยู่หลายชั้นตั้งแต่ Level ล่างๆไปจนถึง Level สูงเลย แต่ตำแหน่งห้องก็จะอยู่ในทิศใต้หันไปทางย่านสะพานควาย ใครซื้อในชั้นล่างๆ หน่อยก็จะได้วิวสระว่ายน้ำไปด้วย
ชั้น 35 จำนวนยูนิตจะน้อยลงไปอยู่ที่ 14 ยูนิต และชั้นนี้ก็มี Kid’s Yard เพิ่มมาด้วย เดี๋ยวเราไปดูส่วน Kid’s Yard กันค่ะ
Kid’s Yard เป็นสนามกลางแจ้งพร้อมทั้งสามารถชมวิวมุมสูงได้ด้วย โดยสนามเด็กเล่นนี้ดีไซน์มาโดยเฉพาะให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับบรรยากาศภายนอก โดยมีเครื่องเล่นทั้งเนินดินไว้ปีนป่ายได้ และเครื่องเล่นต่างๆ อีกหลายตัวด้วยกัน
ส่วนพื้นสนามนั้นปูเป็นพื้นยางไว้ให้กันกระแทกและสามารถลดการบาดเจ็บได้ด้วย จะเห็นว่าจัดพื้นที่มาให้ใหญ่อยู่เหมือนกันนะ พอสำหรับให้เด็กๆ วิ่งเล่นได้พอสมควร การมีสนามเด็กเล่นขนาดพอประมาณไว้ให้วิ่งเล่นได้จริงบนคอนโดตึกสูงแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะเห็นมากนัก ก็ถือว่าโครงการนี้ยังเก็บรายละเอียด Lifestyle ของเด็กๆ ที่ต้องการพื้นที่ไว้วิ่งเล่นได้ดี ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ปกครองด้วย
ชั้น 36 – 44 จำนวนยูนิตก็จะน้อยลงเพราะตัดแปลนฝั่งซ้ายออกไปแล้ว จำนวนห้องต่อชั้นก็จะอยู่ที่ 20 ยูนิต
ชั้น 45 เน้นขายห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom และ 3 Bedroom
ส่วนชั้น 46 ก็เน้นขายห้องใหญ่เช่นกันค่ะ แต่ตัดห้องมุมห้องนึงออกไปทำเป็น Sky Lounge แทนและเชื่อมต่อไปที่ Rooftop garden ชั้นดาดฟ้าได้
ขึ้นมาที่ส่วน Sky Lounge ส่วนแรกจะจัดเป็น Library ห้องสมุดและที่นั่งพักผ่อน เป็นโถงสูงเน้นความโปร่งโล่ง ได้วิวมุมสูงจากหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ตลอดแนว ส่วนวัสดุในชั้นนี้พื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องหินอ่อน White volakas marble
จุดเด่นในชั้นนี้อีกส่วนก็คือห้องน้ำ ที่เปิดรับวิวโดยรอบแบบนี้ ส่วนวัสดุผนังและพื้นในชั้นห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องหินอ่อนลาย White Opal
ในระหว่างที่ใช้งานห้องน้ำก็จะมองเห็นวิวเปิดโล่งแบบนี้ไปด้วย มองไปทางฝั่งทิศใต้ของโครงการแบบนี้เลยค่ะ
ส่วน Sky lounge อีกฝั่งจัดเป็นส่วนสำหรับนั่งพักผ่อนไว้เช่นกัน โดยจะมีแนวทางเดินเชื่อมไปชั้นดาดฟ้าด้านบนได้ ส่วนวัสดุในบริเวณนี้ผนังจะเป็นกระเบื้องหินอ่อน Silver travertine ส่วนพื้นจะเป็นกระเบื้องหินอ่อน Pietra grey marble
จากส่วน Sky lounge ที่ชั้น 46 และเชื่อมต่อไปที่ Rooftop garden ชั้นดาดฟ้าได้
Rooftop garden บนชั้น 47 พื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อน โดยมีการสอดแทรก Sansiri Backyard พื้นที่ปลูกผักปลอดสารพิษแก่ลูกบ้านตาม campaign ของแสนสิริอีกด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Clubhouse
- Lobby
- Mailbox
- สวนส่วนกลาง
- สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่และสระเด็ก
- ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์
- ห้องสมุด
- ห้องซักผ้า
- สนามเด็กเล่น ชั้น 35
- ห้องพักผ่อนเอนกประสงค์ ชั้น 46
- Co-Kitchen Space + Terrace
- Co-Working Space
- Theater
- Secret Garden
- จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Smart Move
- ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 163.5 : 1
- ลิฟต์ Service 1 ตัว
- ที่จอดรถ 54% รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Bus รถตู้รับส่ง รถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานควาย
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / Finger Scan
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.790398, 100.545904
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โดยทาง Think Of Living ได้ไปเดินเก็บข้อมูลทำเลกันไปก่อนหน้าแล้วนะคะ สำหรับใครที่ต้องการอ่านทำเลเพิ่มเติม (คลิกที่นี่)
โครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ฝั่งวิ่งเข้าถนนพหลโยธิน ระหว่างซอยประดิพัทธ์ 19 และ 21 ห่างจากแยกสะพานควายไปประมาณ 250 ม. และห่างจาก BTS สะพานควาย 550 ม. ซึ่งย่านนี้ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยเก่าแก่ที่มีความคึกคักมาก เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารในราคาเป็นมิตร มีขายตลอดทั้งวันร้านอาหารก็สลับกันเปิดหลากหลายแนว สะดวกสบายในการใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง อาคารโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ โรงแรม และคอนโดมิเนียม
ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าสะดวกมากเพราะถนนประดิพัทธ์เป็นถนนที่วิ่งเชื่อมต่อกับถนนเส้นใหญ่ๆ โดยตัวถนนจะลากยาวในแนวขวางตัดกับเส้นที่วิ่งเข้าเมืองหลายเส้นทำให้เรามีทางเลือกในการใช้เส้นทางต่างๆ เข้าเมืองได้ทั้ง พระราม 6 พหลโยธิน วิภาวดีรังสิต และ รัชดาภิเษก สิ่งที่บอกว่าถนนเส้นนี้สำคัญและมีคนใช้เยอะเป็นพิเศษคือ ช่วงที่การจราจรหนาแน่นจะมีการปรับเลนให้วิ่งสลับไปมา ไป 2 เลนกลับ 1 เลน หรือบางช่วงเป็น One Way อันนี้ต้องศึกษาเวลาดีๆ ทางด่วนก็มีให้เลือกตรงเส้นพระราม 6 กับเข้าวิภาวดีไปขึ้นลงตรงแยก ดินแดง
เส้นทางการเดินทาง
วันนี้เราจะเดินทางจากถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าสวนจตุจักร วิ่งตรงไปตามเส้นทาง ผ่านสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย มุ่งหน้าไปสี่แยกสะพานควาย แล้วเลี้ยวขวาที่แยกเพื่อเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์ ตรงตามเส้นทางมาประมาณ 250 m. โครงการจะตั้งอยู่ทางขวามือ มองเห็นป้ายและตัวอาคารได้อย่างชัดเจน
เริ่มการเดินทางที่บริเวณสวนจตุจักร วิ่งตรงไปตามถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าสี่แยกสะพานควาย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
หลังจากอ่านทำเลกันมาแล้ว ในรีวิวฉบับนี้จะขอข้ามไม่เขียนซ้ำนะคะ ผู้อ่านจะได้ไม่เบื่อกันไปก่อนสำหรับใครที่ต้องการอ่านทำเลเพิ่มเติม (คลิกที่นี่) เดี๋ยวเรามาดูวิวโครงการกันก่อนเลยนะคะ เริ่มจากทิศเหนือกันเลย
ทิศเหนือ ที่ความสูงชั้น 46 เป็นทิศที่เปิดโล่งมากๆ หันหน้าไปทางสวนจตุจักร
ทิศตะวันออก ที่ความสูงชั้น 46 เป็นทิศที่หันหน้าไปทางถนนพหลโยธินเลยไปทางแถบสุทธิสารเลยไปถึงวิภาวดีรังสิต จะมีคอนโดทางซ้ายโครงการ Onyx Condominium by Sansiri สูง 26 ชั้น และทางขวามือเป็นโครงการ The Reserve พหล – ประดิพัทธ์ สูง 25 ชั้น
ทิศใต้ ที่ความสูงชั้น 46 โดยรวมได้วิวที่เปิดโล่งเพราะแถบกลางๆ ซอยส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นอาคารแนวราบ หรือเป็นอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้นกันอยู่ และสำหรับวิวนี้จะเห็นตึกสูงเด่นๆ เลยคือโครงการบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง Rhythm พหล-อารีย์ ที่มีความสูง 53 ชั้น
ทิศตะวันตก ที่ความสูงชั้น 46 บรรยากาศของวิวในทิศนี้จะเห็นบรรยากาศบนถนนประดิพัทธ์เป็นส่วนใหญ่และเลยออกไปไกลๆ ถึงบริเวณถนนพระราม 6 เลย วิวนี้ส่วนใหญ่จะเห็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว และโครงการแนวราบมากหน่อย จะมีโดดๆ ออกมาให้เห็นชัดๆ คือโครงการคอนโดมิเนียมในซอยเดียวกันอย่าง LPN พหล-สะพานควาย ที่มีความสูง 29 ชั้น
เดี่ยวเราลองไปเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันว่าหลังจากโครงการสร้างเสร็จแล้ว ตั้งแต่เริ่มขายกันตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันผ่านมา 2 ปี ตอนนี้ถนนประดิพัทธ์ได้รับการปรับปรุงโดยการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมดแล้วนะ ดูเรียบร้อยดีมากๆเลย บรรยากาศและร้านค้าโดยรอบบนถนนประดิพัทธ์ จะเป็นอย่างไรกันบ้างเราไปชมกันค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นร้านอาหารครัวเหนือและร้านเล็กเลือดหมู ช่วงเวลางกลางวันทั้ง 2 ร้านจะมีคนเยอะมาก เป็นอีกร้านเจ้าอร่อยในทำเลนี้
เดี่ยวเราจะเดินเลี้ยวขวาไปทางถนนประดิพัทธ์ เพื่อไปดูบรรยกาศและร้านค้าต่างๆในบริเวณนี้กันค่ะ
เดินตรงมาหน่อยจะเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเจ้าดั่งเดิมในซอยนี้ ถ้ดมาจะเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดยจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 75 m. เดินมาจากโครงการใกล้มากๆ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารตึกแถวเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านขายยา ร้อนทำฟัน
เดินถัดมาจะเป็นร้านทำเล็บ และร้านอาหารค่อนข้างหลากหลายทั้งร้านขนม ร้านราเมง แต่วันที่เราไปทำรีวิวยังเป็นช่วงเช้าอยู่ ร้านต่างๆจึงยังไม่เปิด ร้านส่วนใหญ่เปิดช่วงเที่ยงไปจนถึงเย็นๆนะคะ บรรยากาศน่าจะคึกคักพอสมควรเลย
เดินต่อมาหน่อยจะเป็นร้านซัก-รีด ร้านผัดไท และคลินิกแพทย์
ถัดมาเป็นร้านเป็ดย่าง หมูกรอบ เปิดตั้งแต่เช้า เดินมาฝากท้องกันได้นะ ใกล้ๆกับโครงการเดินมา 100 m. เองค่ะ
คราวนี้เราจะเดินไปอีกฝั่งกันบ้างนะคะ โดยเลี้ยวซ้ายไปทางถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกสะพานควาย เพื่อไปดูบรรยกาศและร้านค้าต่างๆในบริเวณนี้กัน
ใกล้กับด้านหน้าโครงการจะมีป้ายรถประจำทางอยู่ ถนนประดิพัทธ์ มีรถวิ่งผ่านหลายสายให้เป็นตัวเลือกใช้งานได้นะคะ
เดินตรงมาหน่อยจะเป็นอาคารพาณิชย์เดิมในพื้นที่เปิดเป็นร้านถ่ายรูป ร้านขายยา และที่เปิดเป็นร้านแลกเงิน Money Exchange อยู่หลายร้านเลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 ติดกันเป็นร้านขายรองเท้าดั่งเดิมในพื้นที่ และร้านแลกเงิน
เดินตรงมาหน่อยจะเจอกับร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดยจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 140 m. รอบๆที่ตั้งโครงการจะมีร้านสะดวกซื้อรายล้อมอยู่เยอะพอสมควร
เดี่ยวเราจะขึ้นไปบนสะพานลอยเพื่อไปดูบรรยากาศมุมสูงกันบ้างนะคะ
ถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกสะพานควาย หลังจากปรับปรุงทางเดินเท้าและเอาสายไฟฟ้าลงดินแล้วบรรยากาศดูเรียบร้อยดีมากๆ
ถนนประดิพัทธ์อีกฝั่งจะมองเห็นโครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ อยู่ทางขวามือ ถนนเส้นนี้มีรถใช้งานอยู่ตลอดเวลาเพราะอยู่ติดกับแยกสะพานควาย ถ้าจะหารถโดยสาร รถแท็กซี่ ก็มีให้เรียกได้ตลอด
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
- บิ๊กซี สะพานควาย ~450 เมตร
- โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล ~550 เมตร
- ตลาดนัดสวนจตุจักร ~1.4 กม.
- La Villa อารีย์ ~1.6 กม.
- โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~2.2 กม.
- โรงพยาบาลพญาไท 2 ~2.6 กม.
- อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ~3.3 กม.
- ยูเนี่ยนมอลล์ ~3.6 กม.
- เซ็นทรัลลาดพร้าว ~4.2 กม.
- เมเจอร์ รัชโยธิน ~5.2 กม.
เจาะลึกรวบยอด
ทำเล : โครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ ถือเป็นคอนโด High Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่อีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์ The Line ในย่านสะพานควาย ที่ถือเป็นทำเลที่มีคอนโดเกิดขึ้นมาเรื่อยๆโดยเฉพาะบนถนนประดิพัทธ์ โครงการนี้อยู่บนถนนประดิพัทธ์ใกล้แยกสะพานควายและห่างจาก BTS สะพานควาย ประมาณ 550 เมตร ภาพรวมถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดีเดินทางได้สะดวก ถึงแม้สภาพแวดล้อมจะไม่ได้เด่นเท่าย่านอารีย์ แต่ก็ยังเดินทางไปย่านสำคัญๆต่างได้ไม่ยาก ยิ่งถ้าใครทำงานอยู่แถวอารีย์หรือห้าแยกลาดพร้าวยังเดินทางได้สะดวกอยู่ และราคายังไม่แรงมากถ้าเทียบกับทำเลเพื่อนบ้านโดยรอบ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์เป็นทำเลที่มีให้เลือกกินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในระยะเดินร้านค้าร้านอาหารค่อนข้างหลายหลายหรือจะขับรถก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีห้างให้เลือกอยู่โดยรอบไม่ไกลมากนักเช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว และ Union Mall หรือ Big C หรือจะขับไปกินแถวย่านอารีย์และลาดพร้าวโซนนั้นมีของกินให้เลือกเยอะเลย
การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวก เพราะเส้นประดิพัทธ์เป็นเส้นที่ลากตามแนวขวาตัดกับถนนที่วิ่งเข้าเมืองหลายสายทำให้มีตัวเลือกในการใช้เส้นทาง ข้อดีอีกข้อคือถ้ามาจากพหลโยธินสามารถเลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย หรือถ้าออกจากโครงการจะไปพระราม 6 ก็เลี้ยวขวาได้เช่นกันโครงการนี้มีให้ 54% รวมจอดซ้อนคัน เพิ่มมาจากตอนแรกที่เปิดตัวมากหน่อย ถือว่าให้มากลางๆสำหรับคอนโดในระดับนี้ อีกทั้งเป็นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้า ลูกบ้านบางส่วนจะเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าควบคู่กันไปด้วย แต่ที่น่าสนใจคือโครงการจะจัดพื้นที่สำหรับจอดรถที่ต้องชารต์ไฟฟ้า Smart Move เตรียมไว้ให้ ใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้า ก็สามารถมาจอดชารต์ไฟได้สะดวกดี
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการนี้ถือว่าอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าอยู่ห่างจากสถานีสะพานควายไปประมาณ 550 ม. ไม่ได้อยู่ใกล้ซะทีเดียวถ้าเทียบกับโครงการใกล้เคียง แต่ก็ไม่ถึงกับเดินยาก ยิ่งตอนนี้ถนนประดิพัทธ์ปรับปรุงทางเดินเท้าและเอาสายไฟฟ้าลงดินแล้วบรรยากาศดูเรียบร้อยดีมากๆเดินง่ายดี ส่วนถ้าจะเรียกรถสาธารณะอื่นๆ หน้าโครงการมีป้ายรถโดยสารประจำทาง ถนนเส้นนี้มีรถใช้งานอยู่ตลอดเวลาถ้าจะหารถโดยสาร รถแท็กซี่ก็มีให้เรียกได้ตลอด ร่วมทั้งโครงการมี Shuttle Bus รถตู้รับส่งไป BTS สะพานควาย ลูกบ้านรอขึ้นได้ตามช่วงเวลา
วัสดุ : รูปแบบการขายปัจจุบันมีทั้ง Fully Fitted และ Fully Furnished ถ้าชอบแต่งห้องเองจะเลือกแบบ Fully Fitted โครงการจะมียูนิตพิเศษให้เลือก Turn Furniture เป็นส่วนลดได้ สามารถสอบถามกับโครงการได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์หลักที่ได้จะเป็นของ SB Furniture โดยออกแบบให้เป็น Multi-Function ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ส่วนวัสดุในตัวห้องให้มาเหมาะสมกับราคา พื้นกระเบื้องแยกส่วนครัว ระเบียง และห้องน้ำ ส่วนห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นเป็นลามิเนต สุขภัณฑ์ Cotto ทั้งหมด พร้อมมี Digital Door Lock จาก Yale ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบานตู้กระจกซาตินสีแชมเปญ Top ครัวเป็น Porcelain Slab ชุดเตาและที่ดูดควันระบบดูดควันออกภายนอกอาคารของ Mex
การออกแบบโครงการ : ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 46 ชั้น จำนวน 981 ยูนิต และ Club House 2 ชั้น บนเนื้อที่รวมประมาณ 5 ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เฉพาะด้านในของพื้นที่ เว้นพื้นที่ด้านหน้าของที่ดินให้เป็นพื้นที่สีเขียว และ Club House สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับด้านหน้าตัวอาคารมากขึ้น ตัวโครงการและพื้นที่ภายในมีการออกแบบได้เรียบหรู โดดเด่นในเรื่องการตกแต่งและการเลือกใช้วัสดุในส่วนต่างๆ ทั้งไม้ หิน กระเบื้อง ที่มีลวดลายสวยงามและการออกแบบโถงสูงในจุดต่างๆ ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง การแบ่งโซนพักอาศัยทำออกมาได้ดีมีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียว Pocket Garden ได้ช่องแสง ช่องลม และพื้นที่ระบายอากาศให้กับชั้นพักอาศัย
การออกแบบห้องพักอาศัย : ส่วนการออกแบบห้องนั้นทำออกมาหลาย Type หลายขนาด มีแบบห้องตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedroom ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบ ทั้งที่อยู่อาศัยคนเดียว อยู่กันเป็นคู่ รวมทั้งครอบครัวขยายพ่อแม่ลูก ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันออกมาได้ลงตัวดี ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน แบ่งโซนครัวเป็นครัวปิดใช้งานได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน ห้องน้ำเข้าได้ 2 ทางจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ห้องนอนเป็นประตูบานทึบแบ่งการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 ม. โปร่งโล่งไม่อึดอัด
สาธารณูปโภค : Facilities ถือว่าเป็นจุดเด่นให้มาเยอะหลากหลาย และทำออกมาได้สวยน่าใช้งาน ตอบโจทย์คนที่มองหาคอนโดในย่านนี้ที่ต้องการ Facilities เยอะและใช้งานได้จริง เน้นกระจายไว้ในหลายตำแหน่งบนอาคารให้ใช้งานได้อย่างทั่วถึง ที่น่าสนใจคงจะเป็น Club House ทางด้านหน้าโครงการ ภายในจัดพื้นที่สีเขียว Secret Garden ไว้ร่มรื่นน่าประทับใจมาก กับโครงการในเมืองที่ได้บรรยากาศธรรมชาติแบบนี้มาไว้ในโครงการด้วย ส่วน Co-Working Space, Theater, Co-Kitchen Space+Terrace ออกแบบได้ดีมีรายละเอียดในเรื่องวัสดุที่เลือกใช้ดีมากตามสไตล์ของแสนสิริ สระว่ายน้ำ (Lap Pool ยาว 30 ม. , Jacuzzi Pool, Kid’s Pool) Fitness, Multifunction Area, Boxing Area , Sauna, Kid’s Yard และ Sky Lounge ได้วิวมุมสูงโดยรอบ และเมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักอาศัย 981 ยูนิต ก็ถือว่าให้มาเพียงพอกับการใช้งานอยู่นะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 155,000 บาท/ตร.ม., 27 November 2019
- ทำเล 7.5/10 – ติดถนนประดิพัทธ์ ความอุดมสมบูรณ์สูง
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวกไปเชื่อมถนนหลักได้หลายสาย ที่จอดรถ 54% รวมจอดซ้อนคัน
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่างสะพานควาย 550 ม. มี Shuttle Bus ไป BTS สะพานควาย เรียกรถสาธารณะง่าย
- วัสดุ 8/10 – เลือกได้ Fully Furnished หรือ Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ที่ได้แบบ Multi-Function
- แบบ 7.75/10 – โครงการออกแบบสวย ตัวห้องมีหลากหลายแบบ ฟังก์ชันครบ
- สาธารณูปโภค 8/10 – จัดมาเยอออกแบบดี สวยน่าใช้งาน
- HIGH CLASS
- 7.68 / 10.00
BOTTOM LINE
The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยย่านสะพานควาย – ประดิพัทธ์ ชอบทำเลมีความอุดสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า หรือขับรถก็ได้ มองหาตึกสูง Facilities เยอะน่าใช้งาน เลือกได้ตกแต่งพร้อมอยู่ หรือชอบแต่งเอง มีงบประมาณตั้งแต่ 3.99 – 14.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 28,000 – 104,000 บาท ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving