รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ dcondo panaa คอนโดสไตล์รีสอร์ท ใกล้โรงพยาบาลศิริราช บนถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ จาก แสนสิริ [รีวิวฉบับที่ 2566]
29 มิถุนายน 2023
dcondo panaa คอนโด Low Rise โครงการใหม่จาก แสนสิริ ที่รอบนี้ออกแบบในสไตล์รีสอร์ทเน้นธรรมชาติ มาสร้างบรรยากาศที่แตกต่างในการอยู่อาศัย อยู่ใกล้โรงพยาบาลศิริราช และรถไฟฟ้า ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานในย่านนี้ ห้องพักเน้นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า พร้อมพื้นที่สีเขียวและส่วนกลางที่เหมาะกับการพักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆกัน โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้
- ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ได้ความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย อยู่ใกล้ รพ.ศิริราช และรถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ มีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านในอนาคต
- การออกแบบ : เน้นห้อง 1-2 Bedroom เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน ฟังก์ชันภายในห้องใช้งานลงตัว ทุกห้องได้ครัวปิด ได้วิวเปิดโล่งโดยรอบ จัดส่วนกลางสไตล์รีสอร์ทเน้นความร่มรื่น มีพื้นที่ทำงานและโซนพักผ่อนที่หลากหลายเข้าถึงได้ง่าย
- วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ ไม่ต้องเผื่องบแต่งเอง ได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดและออกแบบมาเหมาะสมกับตัวห้อง
สำหรับใครที่สนใจชมห้องตัวอย่างของโครงการ ทาง Think of Living ก็มี Update ห้องตัวอย่าง มาให้แล้วนะคะ สามารถอ่านได้ที่ คลิก : รีวิวห้องตัวอย่าง dcondo panaa
ข้อมูลโครงการ
dcondo panaa (ดีคอนโด พนา) ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2564
ชื่อโครงการ | dcondo panaa (ดีคอนโด พนา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย |
ที่ดิน | ประมาณ 4 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และอาคารสูง 1 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 541 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A 265 ยูนิต , อาคาร B 276 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 37 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 160 คัน คิดเป็น 29% |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2566 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.5 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.59 – 4.1 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 69,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | 61,000 – 76,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | อยู่ระหว่างการประเมิน |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.sansiri.com/condominium/dcondo-panaa/th/ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.772517, 100.458331
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ dcondo panaa ตั้งอยู่ภายในซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว บนถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน อยู่ในทำเลที่กำลังพัฒนาที่เดินทางสะดวก สามารถเข้าได้จากถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี และถนนราชพฤกษ์ อยู่ใกล้โรงพยาบาลศิริราช และรถไฟฟ้า MRT สถานีบางขุนนนท์ และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชันด้านหน้าโครงการ
โครงการ dcondo panaa ตั้งอยู่ภายในซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่ไม่ไกลจากโครงการ สามารถไปที่ซอยแก้วเงินทองที่เชื่อมต่อกันได้ ซอยนี้จะมีความอุดมสมบูรณ์สูงเพราะเป็นย่านชุมชนเก่าที่มีทั้งวัด ตลาด และร้านค้าร้านอาหาร ในขณะที่ถนนหลักอย่างถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชันซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ ส่วนมากยังเป็นพื้นที่ว่างรอการพัฒนา มีบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่บางส่วน และซอยเอราวัณเองก็เป็นซอยที่มีความเงียบสงบ มีบ้านพักอาศัยอยู่ มีรถสัญจรผ่านเพื่อใช้เป็นทางลัดอยู่เรื่อยๆ
จุดเด่นของทำเลนี้เรียกว่าเป็นจุดกึ่งกลางของห้างร้านและการคมนาคม เป็นทำเลที่ต้องพึ่งรถยนต์ส่วนตัวแต่ก็มีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าได้เช่นกัน อยู่ใกล้โรงพยาบาลศิริราช ปัจจุบันมีสะพานข้ามถนนจรัญฯ ไปถนนสุทธาวาส เพื่อไปใช้ถนนอรุณอัมรินทร์ไปศิริราชได้สะดวกมาก ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานในย่านนี้ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้กับโครงการในระยะเดินถือว่ามีน้อย ต้องเข้าไปในซอยแก้วเงินทองที่เป็นแหล่งชุมชนก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร 2 ข้างทางเต็มไปหมด หรือเราสามารถเลือกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตบนถนนจรัญสนิทวงศ์อย่าง Makro หรือ Food Land และตลาดบางขุนศรีก็ได้ หรือจะลัดมาทางด้านหลังโครงการมาที่ The Circle กับ Food Villa บนถนนราชพฤกษ์ และแหล่งรวมห้างที่คึกคักที่สุดก็จะต้องไปแถว Central ปิ่นเกล้า ที่ถนนบรมราชชนนีเลย ส่วนทางด่วนก็จะมีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองมายัง จตุจักร-ห้าแยกลาดพร้าว ได้ไม่ยาก
ที่ตั้งโครงการ dcondo panaa จะอยู่ในซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว บนถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน สามารถเข้าได้จาก 3 ทางหลักๆ คือ เข้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี และจากถนนราชพฤกษ์ โดยมาเลี้ยวเข้าซอยแก้วเงินทอง แล้วมาซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ ก็ได้เช่นกัน
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ โครงการจะห่างจากหน้าปากซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว ประมาณ 300 m. สามารถออกมาเรียกรถแท็กซี่ได้ และอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางขุนนนท์ ประมาณ 1.9 km. ถือว่าไม่ได้อยู่ในระยะเดิน แต่โครงการมี Shutter Service รถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้า หรือจะเรียกรถสาธารณะผ่าน Application ไปรับที่โครงการก็ได้เช่นกัน เส้นทางไปโครงการก็ไม่ได้ซับซ้อน ถือว่าเข้าถึงง่าย
ในอนาคตถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน จะเป็นเส้นทางผ่านของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน – มีนบุรี เป็นระบบขนส่งมวลชนสายหลักที่เชื่อมโยงฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการประกวดราคาจ้างก่อสร้าง ข้อมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คลิก
เริ่มจากเดินทางไปโครงการจากถนนจรัญสนิทวงศ์มุ่งหน้าไปทางบางขุนนนท์ ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขับตรงไปจะผ่านสถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์ ให้วิ่งชิดขวาไว้เพื่อไปกลับรถ แล้วมาเลี้ยวซ้ายไปถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน จากถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ให้ตรงไปประมาณ 1.7 km. ตามเส้นทาง แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว จะผ่านโครงการ dcondo Tann จรัญฯ ทางขวามือ ติดกันจะเป็นทางสามแยกให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนที่ไปยังที่ตั้งโครงการ dcondo panaa ที่อยู่ถัดเข้าไปด้านในทางขวามือ
เส้นทางการเดินทาง
เริ่มจากเดินทางไปโครงการจากถนนจรัญสนิทวงศ์มุ่งหน้าไปทางถนนบรมราชชนนีเพื่อไปบางขุนนนท์
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ลักษณะของที่ดินมีทางเข้า-ออกอยู่ติดถนนภาระจำยอม ที่เชื่อมต่อมาจาก ซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว โดยตรงเข้ามาสุดที่ถนนภาระจำยอมเป็นพื้นที่ตั้งโครงการพอดี สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนเดิมในพื้นที่ ส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัย พื้นที่ว่าง และโครงการ dcondo tann charan เป็นคอนโด Low Rise โดยจะมีถนนส่วนบุคคลกั้นอยู่ พื้นที่โครงการโดยรอบไม่มีโรงงาน หรือสถานที่ก่อให้เกิดมลภาวะในการอยู่อาศัย เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง
ทิศเหนือ – ติดกับ ลำรางสาธารณะ เลยไปเป็นพื้นที่รอการพัฒนาในอนาคต
ทิศตะวันออก –ติดกับ ถนนส่วนบุคคล และโครงการ dcondo tann charan เป็นคอนโด Low Rise
ทิศใต้ – ติดกับ ถนนภาระจำยอม เลยถัดไปเป็นพื้นที่ว่าง และบ้านพักอาศัยในพื้นที่
ทิศตะวันตก – ติดกับ พื้นที่ว่าง และบ้านพักอาศัยในพื้นที่
เริ่มจากบริเวณปากซอยเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว ที่เชื่อมต่อมาจากถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาจะมีป้ายโครงการของแสนสิริติดอยู่
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- โลตัส ปิ่นเกล้า 4 km.
- แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ 4 km.
- ห้างเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า 4.2 km.
- ฟู้ดวิลล่า ราชพฤกษ์ 4.9 km.
- เดอะเซอเคิล ราชพฤกษ์ 5.5 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ 4 km.
- โรงพยาบาลธนบุรี 5.3 km.
- โรงพยาบาลเจ้าพระยา 5.3 km.
- โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก 7 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเคนซิงตัน 2.9 km.
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 6.8 km.
- มหาวิทยาลัยศิลปากร 7.5 km.
- โรงเรียนเพลินพัฒนา 8 km.
การเดินทาง
- รถไฟฟ้าสถานีบางขุนนนท์ 1.9 km.
- ท่าเรือวังหลัง 5.5 km.
- ทางด่วนพิเศษศรีรัชฯ 5.7 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ dcondo panaa เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร 541 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A 265 ยูนิต , อาคาร B 276 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ จัดเป็นคอนโดมิเนียมที่มีขนาดกลางใช้การกระจายห้องพักอาศัยไว้ใน 2 อาคาร เพื่อลดความหนาแน่นในการอยู่อาศัย ออกแบบโครงการโดยใช้แนวคิดการอยู่อาศัยที่เหมือนการพักผ่อนในสไตล์รีสอร์ท ใกล้ชิดธรรมชาติ ความร่มรื่นของต้นไม้และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ พนา ที่แปลว่า ป่า โครงการจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในโครงการเป็นพิเศษ มีการตกแต่งโดยรอบตัวอาคารด้วยวัสดุและธีมสีธรรมชาติ Earth tone น้ำตาล เขียว แล้วแซมด้วยสีสันสดใสอย่างสีส้มเพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น จัดพื้นที่ภายในโครงการแบ่งเป็นส่วนที่พักอาศัยไว้บนอาคารทั้ง 2 จัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ที่ชั้นล่าง และบริเวณตรงกลางของโครงการเป็นหลัก ตัวอาคารทั้ง 2 อาคารจะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้ วางตามรูปที่ดินและเว้นระยะร่นรอบภายในโครงการ
จัดพื้นที่ส่วนกลางของโครงการไว้ที่ชั้น 1 และตรงกลางของโครงการเป็นหลัก รูปแบบวางผังอาคารเป็นรูปตัว U เกิดเป็นพื้นที่ Court ตรงกลาง ซึ่งออกแบบให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน เน้นไปที่สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง แนวทางเดินเชื่อมต่อการใช้งานในจุดต่างๆ และสวนสีเขียวให้ความร่มรื่น กลางวางตัวอาคารในลักษณะนี้ ทำให้เราสามารถมาใช้พื้นส่วนกลางได้เกือบตลอดทั้งวัน เพราะตัวอาคารจะให้ร่มเงาลงมาที่ส่วนกลางสลับมุมและทิศทางกันไปตามช่วงเวลา มีช่องเปิดโล่งของแนวของอาคารทำให้เกิดช่องลม มีลมพัดผ่านอยู่ตลอด ทำให้ตัวอาคารมีความโปร่งโล่งให้การอยู่อาศัยที่รู้สึกไม่อึดอัดนั้นเอง โดยแยกส่วนกับพื้นที่ส่วนพักอาศัยเป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน เน้นส่วนกลางไปไว้ที่อาคาร B แล้วอาคาร A จะเป็นอาคารพักอาศัยอย่างเดียว
แปลนชั้น 1 ชั้นนี้จะเป็นชั้นพักอาศัยและ Facilities หลักของโครงการ สำหรับส่วนพักอาศัยชั้นนี้จะอยู่ทั้งทางฝั่งอาคาร A และ B แต่มีจำนวนที่ต่างกัน โดยกั้นด้วยประตูกระจก การเข้า-ออกผ่านบริเวณนี้จะใช้ระบบ Key Card Access ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกบ้านมากขึ้น รวมทั้งลูกบ้านในชั้นอื่นๆ ที่จะมาใช้ Facilities ในชั้นนี้ก็ถูกแยกทางเข้าเพื่อใช้งานไว้เรียบร้อย ไม่ต้องกังวลเรื่องความวุ่นวายหรือไม่เป็นส่วนตัว สำหรับการจัดวางตำแหน่งห้องของ 2 ฝั่งอาคาร จะมีจำนวนและประเภทห้องที่แตกต่างกัน
- อาคาร A จะมีเพียง 6 ห้องเท่านั้น แบ่งเป็นห้อง 1 Beedroom 5 ห้อง(กรอบสีแดง) และห้อง 2 Beedroom 1 ห้อง (กรอบสีเหลือง) โดยห้องทั้งหมดจะวางในตำแหน่งที่ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางของโครงการ ซึ่งถ้าใครไม่เน้นว่าต้องอยู่ชั้นสูงๆ แต่เน้นความเป็นส่วนตัวเพื่อนบ้านในชั้นน้อยๆ ได้แนวทางเดินแบบ Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้ามให้เปิดมาเจอกัน แถมยังใกล้ชิดธรรมชาติ แบบที่ว่าเปิดหน้าต่างหรือมายืนที่ระเบียงก็ได้ใกล้ชิดกับพื้นที่สวนแบบเต็มๆ ห้องในชั้น 1 อาคาร A ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
- อาคาร B จะมี 17 ห้อง ฝั่งนี้จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ที่หันออกทั้ง 2 ฝั่ง ได้แก่ ได้วิวด้านนอกโครงการและหันได้วิวส่วนกลางของโครงการให้เลือกแต่ละฝั่งก็จะมีห้องอยู่เรียงกัน 6-10 ห้อง ได้แนวทางเดินแบบ Single Corridor เช่นกัน ที่น่าสนใจคือจะมีห้องที่หันได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการแบบเต็มๆอยู่ 6 ห้อง (กรอบสีแดง) ให้เลือก
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ จะเป็น Main Facilities ของโครงการทั้ง สระว่ายน้ำ , Co-Working Space , Fitness และพื้นที่สวน ดังนั้นใครที่ชอบใช้ Facilities ต้องการความสะดวกเดินมาใช้ได้ง่ายๆ ก็สามารถเลือกอยู่อาศัยชั้นนี้ได้เลย โครงการจัดที่จอด 160 คัน คิดเป็น 29% ไว้ใต้อาคาร และโดยรอบสามารถเลือกที่จอดใกล้กับอาคารพักอาศัยได้เลย ส่วนพื้นที่โดยรอบจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียว เน้นการปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นโดยรอบโครงการ
ภาพจำลองบริเวณส่วน Lobby Garden ที่จัดแบบเน้นการจัดพื้นที่ให้โปร่งโล่ง มีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ให้เรามองไปที่พื้นที่สีเขียวของโครงการ ให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดธรรมชาติ สดชื่นและผ่อนคลาย ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในส่วนต้อนรับของรีสอร์ท พร้อมจัดที่นั่งพักคอยและพักผ่อนสบายๆให้เลือกใช้งาน
บริเวณตรงกลางของพื้นที่โครงการจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สวนสีเขียวหลักของโครงการ เป็นวิวและมุมมองสวยๆให้มองมาจากห้องพักอาศัย และมองเห็นจากส่วนกลางอื่นๆภายในโครงการได้ หากมาใช้งาน Lobby Garden ก็จะมีพื้นที่ระเบียงให้ออกมานั่งพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ทที่มีความร่มรื่น
สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้งระบบเกลือ ยาว 25 เมตร ที่มาพร้อมกับโซน Net Seat สำหรับนั่งแช่น้ำ ถัดมาเป็นโซน Activities Area เป็นโซนพักผ่อนและกิจกรรมหลากหลายทั้ง Acttive-Passive สระว่ายน้ำ Water Bridge Yoga Lawn และ Lively Backyard ท่ามกลางสวนที่มีแนวทางเดินที่เชื่อมต่อการใช้งานถึงกัน ได้
ถัดมาจะเป็นส่วนของ Fitness หรือห้องออกกำลังกาย ที่ตกแต่งที่สดใสมากขึ้น แต่ก็ยังได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งน่าใช้งาน สามารถมาออกกำลังกายและมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำของโครงการได้ ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ไม่ดูน่าเบื่อจำเจ มีจุดพักสายตาเป็นธรรมชาติจากต้นไม้ในโครงการ โดยภายในห้องจะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายให้พร้อมใช้งาน เช่น ลู่วิ่ง และจักรยาน มีให้ครบทั้งสาย Cardio และ Weight Training ให้เลือก
มาต่อกันที่ Co-Working Space ของโครงการที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและทำงานที่เน้นใกล้ชิดธรรมชาติ มีวิวของพื้นที่สีเขียวให้มองปรับสายตา ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการใช้งาน มีพื้นที่การใช้งานหลากหลายให้เลือกเช่น มุมนั่งทำงานเป็นโต๊ะทำงานเดี่ยว อ่านหนังสือ หรือโต๊ะทำงานแบบกลุ่มใช้เป็นที่ประชุมได้ พร้อม Internet WIFI ให้ใช้งานทำงานแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
แปลนชั้น 2-3 จะเหมือนกันทั้ง 2 อาคาร โดยจะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด
- อาคาร A ในชั้น 2-3 จะมีห้องพักอาศัยต่อชั้นทั้งหมด 37 ห้อง โดยจะเน้นเป็นห้องแบบ 1 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ จะมีห้องแบบ 2 Bedroom (กรอบสีเหลือง) เพียงห้องเดียวเท่านั้น ห้องที่จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางของโครงการจะมี 7 ห้อง (กรอบสีแดง+เหลือง) ส่วนห้องอื่นจะเป็นวิวที่หันออกได้วิวภายนอกของโครงการซึ่งจะได้วิวเปิดโล่งทั้งหมดในทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ปะทะแสงแดดในช่วงเช้าและบ่ายโดยตรง ส่วนถ้าใครเน้นความเป็นส่วนตัวหน่อยแนะนำให้เลือกโซนห้องพักทางด้านบนจะมีจำนวนห้องพักน้อยกว่าและเดินมาที่ลิฟต์ได้ใกล้กว่า
- อาคาร B ในชั้น 2-3 จะมีห้องพักอาศัยต่อชั้นทั้งหมด 37 ห้องเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 1 Bedroom มีห้อง 2 Bedroom (กรอบสีเหลือง) เพียง 1 ห้อง เหมือนกับอาคาร A สำหรับ ห้องที่จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางของโครงการจะมี 13 ห้อง (กรอบสีแดง+เหลือง) ห้องที่เหลือจะหันออกด้านนอกโครงการทางฝั่งทิศเหนือซึ่งปัจจุบันยังได้วิวเปิดโล่งอยู่ ส่วนทางทิศตะวันออกจะมองเห็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด เพราะจะมีระยะร่นโดยรอบของโครงการและมีแนวถนนส่วนบุคคลกั้นอยู่
แปลนชั้น 4-8 จะเหมือนกันทั้ง 2 อาคาร โดยจะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน การจัดวางตำแหน่งห้องพักจะเหมือนชั้น 2-3 แตกต่างกันที่ Slab ของอาคารซึ่งไม่มีผลต่อห้องพักและการอยู่อาศัย ที่แตกต่างคือในเรื่องของความสูงที่เพิ่มขึ้นมุมมองจากห้องพักอาศัยจะได้วิวและบรรยากาศโดยรอบโครงการในมุมสูงที่จะแตกต่างจากห้องพักในชั้นล่าง
- อาคาร A ในชั้น 4-8 จะมีห้องพักอาศัยต่อชั้นทั้งหมด 37 ห้อง โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ จะมีห้องแบบ 2 Bedroom (กรอบสีเหลือง) เพียงห้องเดียวเท่านั้น ห้องที่จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางของโครงการจะมี 7 ห้อง (กรอบสีแดง+เหลือง) ส่วนห้องอื่นจะเป็นวิวที่หันออกได้วิวภายนอกของโครงการซึ่งจะได้วิวเปิดโล่งทั้งหมดในทิศเหนือและทิศใต้เป็นหลัก
- อาคาร B ในชั้น 4-8 จะมีห้องพักอาศัยต่อชั้นทั้งหมด 37 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom มีห้อง 2 Bedroom (กรอบสีเหลือง) เพียง 1 ห้อง โดยห้องที่จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางของโครงการแบบเต็มๆจะมี 13 ห้อง (กรอบสีแดง+เหลือง) ห้องที่เหลือจะหันออกด้านนอกโครงการทางฝั่งทิศเหนือและทิศตะวันออกของโครงการ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่ต้อนรับ Lobby Garden
- ห้องทำงานส่วนกลาง Co-Working Space
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ยาว 25 เมตร
- ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์
- พื้นที่ซักผ้า / อบผ้า
- สวนส่วนกลางพร้อมพื้นที่พักผ่อน
- Internet WIFI บริเวณส่วนพื้นที่ต้อนรับ , ห้องทำงานส่วนกลาง และห้องออกกำลังกาย
- Shutter Service รถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้า
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 225 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 132 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 138 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 29%
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
- กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชม.
แบบห้อง
สำหรับใครที่สนใจชมห้องตัวอย่างของโครงการ ทาง Think of Living ก็มี Update ห้องตัวอย่าง มาให้แล้วนะคะ สามารถอ่านได้ที่ คลิก : รีวิวห้องตัวอย่าง dcondo panaa
โครงการจะเน้นแบบห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom เป็นหลักโดยจะมีขนาดและการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในที่แตกต่างกันออกไป สามารถแบ่งขนาดเริ่มตั้งแต่ 26 ตารางเมตร ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่ที่สุดที่ 54 ตารางเมตร
- 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.00-27.50 ตร.ม.
- 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 53.75-54.00 ตร.ม.
โครงการนี้ขายในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ ไม่ต้องเผื่องบแต่งห้องเพิ่มเติมอีก มีข้อดีคือจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดและออกแบบมาเหมาะสมกับตัวห้องพอดี โดยเฟอร์นิเจอร์แต่ละอย่างจะมีการคิดพื้นที่เก็บของภายในให้มีฟังก์ชันที่เหมาะสมใช้งานได้คุ้มค่า
ส่วนวัสดุหลักๆที่ได้มาพร้อมห้อง ได้แก่ ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ส่วนครัวปูพื้นกระเบื้องเหมาะกับการใช้งานภายในครัว เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนห้องน้ำและส่วนระเบียงก็ปูกระเบื้องเซรามิคมาให้ ภายในห้องน้ำติดตั้งอ่างล้างหน้า กระจกติดผนัง สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของ Bath line และ Novabath และติดตั้งชุดครัวมาให้พร้อมใช้งาน ชุดหน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นบานอลูมิเนียมพร้อมกระจกใส ประตูหน้าห้องเป็นประตูไม้สำเร็จรูปภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m.
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom มองเห็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอน เน้นการจัดพื้นที่ให้ใช้งานต่อเนื่องกัน มีความโปร่งโล่งใช้งานได้ไม่อึดอัด ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างและประตูบานเลื่อนกระจก เราไปชมรายละเอียดของห้องแบบ 1 Bedroom ที่แยกตามขนาดได้อีก 4 แบบ ดังนี้
ห้อง 1 Bedroom Type 1A ขนาด 26.50 – 27.00 ตร.ม. เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน เข้ามาจะเจอกับครัวปิดที่เป็นสัดส่วน สามารถทำครัวได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน โดยครัวแบ่งการใช้งานเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมและทำอาหาร ติดกันจะเป็นตำแหน่งตั้งตู้เย็น ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ฝั่งตรงข้ามชุดครัวเป็นชั้นวางของและรองเท้า อยู่ในตำแหน่งที่หยิบใช้งานง่ายเวลาเข้า-ออกจากห้อง ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านใน ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่งโล่ง สามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 1-2 คน พร้อมโต๊ะเล็กตรงกลางได้สบายๆ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่ใกล้กับหน้าต่าง ให้จัดเป็นมุมทำงานภายในห้องได้ อีกฝั่งของห้องจะมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวี เราสามารถเลือกใช้งานนั่งดูหรือนอนดูทีวีจากที่เตียงได้เลย
ถัดมาจะเป็นส่วนระเบียงที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกได้วิวและรับแสงธรรมชาติเต็มที่ พื้นที่ระเบียงจะใช้เป็นส่วนตากผ้า ซักล้างเล็กๆและแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศ พื้นที่จัดมาแบบพอดีใช้งาน ส่วนห้องน้ำอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง ภายในส่วนห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เป็นสัดส่วนดี
สำหรับห้อง 1 Bedroom Type 1A ขนาด 26.50 – 27.00 ตร.ม. ทางโครงการจะมีชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 10 อย่างจัดมาให้ครบแบบพร้อมใช้งาน เริ่มจากบริเวณครัวจะได้ชุดตู้ที่เป็นชั้นวางของและที่เก็บรองเท้าในตัว ถัดเข้ามาภายในห้องจะได้ชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะ Coffee Table ให้ใช้งานตรงส่วนนั่งเล่นด้วยกัน พร้อมชั้นวางทีวีที่มีพื้นที่เก็บของด้านล่างและตู้แขวนด้านบน ให้ตู้เสื้อผ้า ชุดโต๊ะและเก้าอี้ ใช้เป็นมุมสำหรับนั่งทำงานได้ และให้ฐานเตียงที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียง และชั้นวางของข้างเตียง ถือว่าออกแบบมาให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของมากขึ้น
ห้อง 1 Bedroom Type 1A-1 ขนาด 26.00 ตร.ม. สัดส่วนและขนาดห้องจะเล็กกว่าห้องแบบแรกเล็กน้อยประมาณ 1 ตร.ม. แต่รูปแบบการจัดผังภายในห้องจะเหมือนกันคือมีการแบ่งโซนครัวและห้องน้ำไว้ทางด้านในของตัวห้อง ยังคงได้ครัวปิดใช้งานทำอาหารได้เต็มที่ ห้องน้ำแบ่งการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน ถัดไปเป็นส่วนพักผ่อน ที่รวมเอาส่วนพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ไว้ในพื้นที่เดียวกัน มีพื้นที่ริมหน้าต่างให้วางโต๊ะทำงานภายในห้องได้ ส่วนระเบียงยังคงให้พื้นที่มาใช้งานแบบพอดีๆ สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า พื้นที่ซักล้างและพื้นที่สำหรับแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศ
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มากับห้องแบบ ห้อง 1 Bedroom Type 1A-1 ขนาด 26.00 ตร.ม. จะให้ทั้งหมด 10 อย่างเช่นกันเหมือนกับห้องแบบแรก โดยยังคงเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เน้นพื้นที่เก็บของที่หลากหลายตามการใช้งาน ให้มาครบแบบพร้อมอยู่ สีของเฟอร์นิเจอร์จะเป็นสีธรรมชาติ เช่น ลายไม้ธรรมชาติ สีเทาอ่อน ช่วยให้เราสามารถตกแต่งบรรยากาศภายในห้องได้ง่าย
ห้อง 1 Bedroom Type 1AM ขนาด 26.25-27.50 ตร.ม. ขนาดและพื้นที่สอย ตลอดจนการจัดผังภายในห้องจะเหมือนกับห้องแบบแรก เพียงแต่ Flip กลับด้านมาอีกฝั่ง ขนาดห้องจะแตกต่างโดยจะใหญ่กว่าเล็กน้อยประมาณ 0.25-0.50 ตร.ม. ด้วยขนาดและพื้นที่ใช้สอยจึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดี ภายในห้องยังคงได้ครัวปิดทำอาหารได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันไปรบกวนภายในห้อง ถัดไปเป็นส่วนพักผ่อน ที่รวมเอาส่วนพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ไว้ในพื้นที่เดียวกัน มีพื้นที่ริมหน้าต่างให้วางโต๊ะทำงานภายในห้องได้ ส่วนระเบียงเหมาะสำหรับตั้งเครื่องซักผ้า เป็นพื้นที่ซักล้างและพื้นที่สำหรับแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศ ส่วนห้องน้ำแบ่งการใช้งานโซนเปียกและโซนแห้งมาให้เป็นสัดส่วน
ห้อง 1 Bedroom Type 1AM ขนาด 26.25-27.50 ตร.ม. ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มากับห้องจะได้มา 10 อย่างเช่นกัน เป็นมาตรฐานเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เน้นพื้นที่เก็บของที่หลากหลายตามการใช้งาน เราซื้อฟูกที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่งอีกหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ช่วยประหยัดงบจัดห้องไปได้เยอะเลย
ห้อง 1 Bedroom Type 1AM – 1 ขนาด 26.25-27.50 ตร.ม. จะมีรูปแบบห้องและการจัดผังภายในเหมือนกับห้อง 1 Bedroom Type 1AM เพียงแต่ Flip กลับด้านมาอีกฝั่ง ขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน ฟังก์ชันการใช้งานหลักเหมือนกันทั้งหมด
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มากับห้องจะได้มา 10 อย่างเป็นมาตรฐานเช่นกัน โดยเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เน้นพื้นที่เก็บของที่หลากหลายตามการใช้งาน
สำหรับชุดครัวภายในห้อง 1 Bedroom ทางโครงการจะติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานเป็นชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนแบ่งเป็นช่องเก็บของ และมีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย หน้าบานตู้เป็นเมลามีน ถัดมาเป็นส่วนสำหรับประกอบอาหาร โดยโครงการจะติดตั้งอ่างล้างจาน 1 อ่าง และอุปกรณ์ ของ Teka ให้ ส่วนครัวจะได้ Top ครัวเป็น ลามิเนต High Pressure Laminate (HPL) ที่มีคุณสมบัติ เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย มีความทนทาน แต่ต้องระวังเรื่องความร้อนและความชื้นหน่อยนะคะ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของ และแบ่งช่องให้ตั้งไมโครเวฟได้ ในระยะที่สามารถใช้งานได้สะดวก ส่วนสีของชุดครัวจะเน้นไปที่สีธรรมชาติเช่น สีไม้ธรรมชาติ และสีเขียวตามแนวคิดของโครงการ ถ้าใครเน้นทำอาหารเองอาจต้องซื้อเตาไฟฟ้าเพิ่มเติมเองนะคะ
ห้องแบบ 2 Bedroom
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องพักอาศัยแบบ 2 Bedroom มองเห็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร เน้นการจัดพื้นที่ให้ใช้งานต่อเนื่องกัน มีความโปร่งโล่ง บริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติและสามารถเปิดรับลมจากระเบียงของตัวห้อง
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องพักอาศัยแบบ 2 Bedroom บริเวณห้องนอน ที่มีห้องน้ำในตัวสามารถใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น พื้นที่ภายสามารถตั้งเตียงขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่เดินได้โดยรอบสะดวกต่อการใช้งาน
ห้อง 2 Bedroom Type 1A ขนาด 53.75 – 54.00 ตร.ม. เหมาะกับการอยู่อาศัย 2-3 คน หรือเป็นครอบครัวขนาดเล็ก จุดเด่นของห้องนี้คือการจัดวางโซนพักผ่อนให้อยู่ริมหน้าต่างทั้งหมดทั้งพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ห้องนี้สามารถมองวิวและได้แสงธรรมชาติแบบเต็มที่ไม่อึดอัด เมื่อเข้ามาในห้องส่วนแรกจะเจอพื้นที่ Common Area เป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ติดกับส่วนรับประทานอาหารจะเป็นครัวปิดที่มีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน สามารถทำครัวได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน โดยครัวแบ่งพื้นที่สำหรับเตรียมและทำอาหาร อีกฝั่งเป็นตำแหน่งตั้งตู้เย็น และตั้งเครื่องซักผ้า ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้ ใช้พื้นที่ระเบียงมากขึ้น ไม่ต้องตั้งเครื่องซักผ้าตากแดดตากฝน ช่วยยืดอายุการใช้งาน ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียงที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกได้วิวและรับแสงธรรมชาติเต็มที่ช่วยให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งเปิดรับลมได้ พื้นที่ระเบียงจะใช้เป็นส่วนตากผ้า ซักล้างเล็กๆและแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศ
ส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านในแบ่งเป็นห้องนอน Master Bedroom และห้องนอนรอง โดนตำแหน่งของห้องนอนทั้งสอง จะอยู่ติดฝั่งที่มีหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติและเปิดรับลมได้ ห้องนอน Master Bedroom พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้สบายๆ แถมมีห้องน้ำในตัวช่วยเพิ่มการใช้งานเป็นตัวมากขึ้น ส่วนห้องนอนอีกห้องจะมาใช้ห้องน้ำส่วนกลางของตัวห้องแทน ภายในส่วนห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เป็นสัดส่วนดี
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ สำหรับห้อง 2 Bedroom Type 1A ขนาด 53.75 – 54.00 ตร.ม. ทางโครงการจะมีชุดเฟอร์นิเจอร์มาแบบพร้อมใช้งานให้เช่นกัน เริ่มจากส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร จะได้มาทั้งหมด 8 อย่าง ตามการใช้งานหลักๆของพื้นที่ ได้แก่ ชุดตู้ที่เป็นชั้นวางของและที่เป็นที่เก็บรองเท้าในตัว ถัดเข้ามาภายในห้องจะได้โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ 4 ที่นั่ง ชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะ Coffee Table ให้ใช้งานตรงส่วนนั่งเล่นด้วยกัน พร้อมชั้นวางทีวีที่มีพื้นที่เก็บของด้านล่างและตู้แขวนด้านบน ถือว่าให้มาครบตามการใช้งานหลักที่ต้องมีเลยค่ะ
ถัดมาที่โซนของห้องนอน เริ่มจากห้องนอน Master Bedroom จะได้มาทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ ฐานเตียงขนาด 6 ฟุต ที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียง และให้ชั้นวางของข้างเตียง มีชุดโต๊ะเครื่องแป้งทำเป็นเคาน์เตอร์พร้อมกระจกเงา และที่นั่งมาให้พร้อมใช้งาน ถัดมาเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆได้หลากหลาย ส่วนห้องนอนรอง ก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด 3 อย่าง มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ชั้นวางของข้างเตียง และตู้เสื้อผ้าแต่จะขนาดเล็กกว่าห้องนอนหลักนะคะ โดยเป็นไปตามขนาดของตัวห้องจะได้จัดวางได้พอดีกับการใช้งาน
สำหรับชุดครัวภายในห้อง 2 Bedroom จะได้คล้ายกับห้อง 1 Bedroom ทางโครงการจะติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานเป็นชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนแบ่งเป็นช่องเก็บของ และมีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย โครงการจะติดตั้งอ่างล้างจานแต่จะไม่มีเตาและเครื่องดูดควันมาให้ จึงเหมาะกับการเตรียมอาหาร หรือประกอบอาหารเบาๆ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของ และแบ่งช่องให้ตั้งไมโครเวฟได้ ในระยะที่สามารถใช้งานได้สะดวก
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ dcondo panaa ทางโครงการจะเปิดให้ชมเร็วๆนี้ Think of Living จะมา Update ห้องตัวอย่าง ให้ชมกันอีกรอบนะคะ รอติดตามได้ค่ะ
ราคา
dcondo panaa (ดีคอนโด พนา) ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2564
- 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.00-27.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 53.75-54.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink ยี่ห้อ Teka / Top ครัว Melamine
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- ดาวน์ 7%
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 46 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : โครงการ dcondo panaa อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกสามารถไปเชื่อมต่อถนนสำคัญๆโดยรอบได้ทั้งเข้าและออกเมือง ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน ก็จะยิ่งทำให้ทำเลนี้เติบโตได้อีกมาก มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด ห้างต่างๆ ก็มีให้เลือกและอยู่ไม่ไกลจากโครงการ เหมาะกับการอยู่อาศัยและลงทุน เป็นทำเลที่น่าสนใจเพราะอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลศิริราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในพื้นที่ทำให้มีทั้งคนทำงาน หรือย้ายมาเรียนในทำเลนี้อยู่ตลอด ส่วนบรรยากาศของที่ตั้งโครงการเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ไม่หนาแน่น จึงได้ความเงียบสงบไม่วุ่นวาย ได้วิวเปิดโล่งเพราะโดยรอบยังเป็นพื้นที่ว่างและบ้านพักอาศัย
การเดินทางโดยใช้รถ : เป็นทำเลที่เดินทางสะดวกเพราะสามารถเชื่อมต่อถนนหลักได้หลากหลาย มีตัวเลือกในการเดินทางมีทางพิเศษศรีรัชให้ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย เส้นทางการใช้รถก็ไม่ซับซ้อนใกล้ถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอยลึกให้ที่จอดรถ 29% ถือว่าไม่มากเท่าไหร่ หากไม่ใช้รถก็สามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการเดินทางได้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการจะห่างจากถนนหลักประมาณ 300 m. เส้นทางไม่ได้ซับซ้อน ถือว่าเข้าถึงง่าย หรือจะไปใช้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางขุนนนท์ ที่อยู่ห่างไป 1.9 km. ถือว่าไม่ได้อยู่ในระยะเดิน แต่โครงการมี Shutter Service รถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้า หรือจะเรียกรถสาธารณะผ่าน Application ไปรับที่โครงการก็ได้เช่นกัน ในอนาคตถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน – มีนบุรี วิ่งผ่านก็จะช่วยเพิ่มตัวเลือกในการเดินทางให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Furnished ตกแต่งพร้อมอยู่ โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์หลักๆที่ต้องใช้งานมาให้ครบ ชุดครัวและห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่าง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาเน้นออกแบบที่สามารถเก็บของได้หลากหลาย มีข้อดีตรงที่เราจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอดีกับตัวห้อง ไม่ต้องเหนื่อยวัดพื้นที่และขนาดไปเดินเลือกซื้อ วัสดุอื่นๆเช่น พื้นห้องได้พื้นไม้ลามิเนต ห้องน้ำและระเบียงปูกระเบื้อง ได้ชุดสุขภัณฑ์ของ Bath line และ Novabath ชุดครัวได้ Top ลามิเนต High Pressure Laminate (HPL) หน้าบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้ อ่างล้างจานของ Teka ถ้าใครเน้นทำอาหารเองอาจต้องซื้อเตาไฟฟ้าเพิ่มเติมเอง
การออกแบบโครงการ : เป็นจุดเด่นของโครงการที่ออกแบบโดยเน้นพื้นที่สีเขียวมาไว้ในโครงการเหมือนเราได้มาพักผ่อนในรีสอร์ท วางผังอาคารโดยจะแบ่งเป็น 2 อาคาร จึงช่วยกระจายลดความหนาแน่นในการอยู่อาศัย โครงการมีการแบ่งโซนการใช้งานได้ดีแยกส่วนพักอาศัยและส่วนกลางอออกจากกันใช้งานสะดวกไม่รบกวนกัน สำหรับวิวหลักส่วนใหญ่จะได้วิวเปิดโล่งและเป็นวิวที่หันเข้าส่วนกลางของโครงการ จะมีทิศตะวันออกของอาคาร B ที่จะมีคอนโด 8 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด จะมีพื้นที่โดยรอบของโครงการและมีแนวถนนส่วนบุคคลกั้นอยู่
สาธารณูปโภค : ถือว่าจัด Facilitise หลักๆมาให้ครบที่ต้องใช้งาน มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor แบ่งโซนการใช้งานไว้ดีเป็นสัดส่วน จุดเด่นคือเน้นธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่อาศัย และการใช้งานส่วนกลางในจุดต่างๆ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำและสวนตรงกลางโครงการ ที่ช่วยสร้างมุมมองสวยๆให้กับห้องที่หันเข้ามาด้านในของโครงการไปในตัว
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 69,000 บาท/ตร.ม., 5 ตุลาคม 2564
- ทำเล 7.5/10 – ได้ความสงบในการอยู่อาศัย ใกล้รพ.ศิริราช ไม่ไกลจากแหล่งของกินของใช้
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก เข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง และทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีตัวเลือกไปใช้รถไฟฟ้าได้ โครงการมีบริการ Shutter Service
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่
- แบบ 8/10 – มีสไตล์ในการออกแบบที่ชัดเจน น่าอยู่อาศัย จัดวางฟังก์ชันในห้องดี เป็นสัดส่วน
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – จัดมาน่าใช้งานร่มรื่น เข้าถึงใช้งานง่าย เน้นพื้นที่ทำงานและพักผ่อน
- ECONOMY CLASS
- 7.68 / 10.00
dcondo panaa เหมาะกับใคร
โครงการ dcondo panaaเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดทำเลเดินทางสะดวก มีตัวเลือกไปใช้รถไฟฟ้าได้ ใกล้โรงพยาบาลศิริราช หรือทำงานในย่านนี้ บรรยากาศการอยู่อาศัยที่สงบ ชอบคอนโดที่เน้นธรรมชาติ ออกแบบห้องดีเป็นสัดส่วน มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.59 – 3.59 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 25,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc