รีวิวโครงการ
The Sneak EP.23 – C เอกมัย
20 เมษายน 2019
วันนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่าง โครงการ C EKKAMAI (ซี เอกมัย) เป็นคอนโด High Rise 44 ชั้น จาก The Choice Property ที่ตอนนี้ทางโครงการสร้างเสร็จแล้ว 100% ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนเอกมัยตอนปลาย ใกล้กับแยกเอกมัยเหนือ
ปัจจุบันตัวโครงการมีพวกห้องหลุดดาวน์มาไม่กี่ยูนิต เลยปรับรูปแบบการขายจากเดิมที่เป็น Fully Fitted มาเป็นแพ็คพร้อมเฟอร์ครบทุกอย่าง ยันพร๊อพเลย เรียกว่าตกแต่ง Fully furnished พร้อมอยู่ได้เลยครับ ไปชมกันเลยดีกว่า
Fact @ 31 January 2019
- C Ekkamai (ซี เอกมัย)
- THE CHOICE PROPERTY DEVELOPMENT CO.,LTD.
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : บนถนนเอกมัย (สุขุมวิท63) คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา
- คอนโด High Rise 44 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 736 ยูนิต
- ประกอบด้วยห้องพัก 729 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 55% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 3-3-0 ไร่
- โครงการเปิด Presale ตอนแรก 12 – 13 พ.ย. 2559
- เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาสที่ 1 ปี 2560
- ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2561
- 1 Bedroom ขนาด 27 – 52 ตร.ม.
- 1 Bedroom Loft ขนาด 34 ตร.ม.
- 2 Bedrooms ขนาด 51 – 65 ตร.ม.
- Penthouse ขนาด 82 – 126 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร และ 4.2 เมตร(ห้องแบบ Loft)
- ปัจจุบันราคาห้องเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท (ขนาดประมาณ 32 ตร.ม.) หรือคิดเป็น 139,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ Average 150,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 098-268-5588
พิกัดโครงการบน Google Maps : 13.739795 , 100.58961
ทำเลของโครงการอยู่บนถนนเอกมัยที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานบันเทิง ร้านอาหารชิคๆ เป็นแหล่งที่มีสีสันที่หนึ่งของกรุงเทพ และเป็นแหล่งรวม Office Building จึงมีหนุ่มสาวออฟฟิศค่อนข้างเยอะ มีความคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นย่านหนึ่งที่ไม่เคยหลับ เหมาะกับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ชอบเข้าสังคม ชอบทานข้าวนอกบ้าน และไปสังสรรค์กับเพื่อนบ่อยๆ
ถนนเอกมัยเป็นถนนคู่ขนานกับทองหล่อ ดังนั้นซอยย่อยที่เชื่อมระหว่างถนนเอกมัยกับทองหล่อจึงเป็นซอยที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง(เอกมัยฝั่งเลขคี่) อย่างซอยเด่นๆเช่น ซอยทองหล่อ 10 (เอกมัย 5) มีร้านอาหารและร้าน Hang out หลากหลาย ทั้ง Wine Replubic, 7th Street, Muse, Myst มี Arena 10 ภายในก็จะมีร้านอาหาร มีสนามฟุตบอลอารีน่า และเป็นที่ตั้งของ Funky Villa โดยซอยนี้สามารถไปทะลุถนนทองหล่อได้ อีกซอยที่เชื่อมกันคือซอยเอกมัย 12 ก็มีร้านบรรยากาศดีๆอย่าง Coffee Bean By Dao, Vanilla Garden ให้ไปทานอาหารพร้อมเบเกอร์รี่กันได้ โดยทางหล่อซอย 10 และเอกมัย 12 นี้จะเป็นทางลัดเชื่อมระหว่างถนนทองหล่อ-เอกมัย-ปรีดี พนมยงค์ อย่างใครที่อยู่เอกมัยจะไปทองหล่อก็เลี้ยวเข้าทองหล่อซอย 10 แต่ถ้าจะไปพระโขนงก็เลี้ยวเข้าซอยเอกมัย 12 ส่งผลให้ถนนเส้นนี้ความอุดมสมบูรณ์สูง และเป็นย่านที่อยู่กึ่งกลางซอยเอกมัยพอดี
โดยถนนเอกมัยนี้เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและเพชรบุรี ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของถนนเส้นนี้จะมากหรือน้อยก็จะอิงไปกับถนนใกล้เคียงด้วย เพื่อการอธิบายให้เห็นภาพเราจะขอแบ่งถนนเอกมัยออกเป็น 2 โซน คือ เอกมัยโซนใต้ฝั่งที่ติดกับถนนสุขุมวิท และเอกมัยโซนเหนือฝั่งที่ติดกับถนนเพชรบุรี โดยมีซอยทองหล่อ 10 และเอกมัย 12 เป็นถนนเส้นใหญ่ที่แบ่งความอุดมสมบูรณ์ของโซนเหนือและใต้
เอกมัยตอนใต้ ที่ค่อนไปทางสุขุมวิท จะมีความอุดมสมบูรณ์สูง เป็น Prime โซนของถนนเส้นนี้ เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิทและรถไฟฟ้า BTS เอกมัย จึงมีคอนโดที่พักอาศัยให้เลือกหลายที่ นอกจากนี้ยังมีทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม มีห้างสรรพสินค้าอย่าง เกตเวย์เอกมัย Big C เอกมัย มีร้านอาหารชิคๆราคาแพงๆและร้าน Hang out ให้เลือกหลากหลาย เป็นสีสันในยามค่ำคืนของย่านนี้
ส่วนบริเวณเอกมัยตอนเหนือ ที่ค่อนไปทางเพชรบุรี จะเป็นโซนที่มีความคึกคักน้อยลงมาหน่อย แต่ก็ยังมีร้านอาหาร ร้าน Hang out ให้เลือกและเป็นแหล่งรวมร้านเฟอร์นิเจอร์สไตล์ชิคๆอยู่หลายร้านทีเดียว ซึ่งตัวโครงการเองเนี่ยอยู่บริเวณเอกมัยตอนเหนือที่ค่อนมาทางเพชรบุรีแล้ว ดังนั้นหากจะเทียบความอุดมสมบูรณ์กับโซนใต้ก็คงจะยากหน่อย โดยสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว และคอนโดซะเป็นส่วนใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้ที่สุดคือ ร้านค้าร้านอาหารแนว Street Food รอบๆโครงการ และร้านในซอยเอกมัย 30 รวมทั้งตลาดสดเอกมัยให้ไปซื้อของได้ในระยะเดิน ถัดออกไปหน่อยก็มีซอยเอกมัย 21 (ทองหล่อ 20) หรือซอยแจ่มจันทร์ ที่มีร้านอาหารน่านั่งหลายร้าน
ตัวโครงการนั้นสูง 44 ชั้น และมีชั้นดาดฟ้าอีกชั้นนึง ซึ่งสร้างบนที่ดิน 3-3-00 ไร่ ซึ่งมีจำนวน 736 ยูนิตครับ รูปทรงของอาคารเป็นรูปตัว U-Shape ซึ่งการวางอาคารแบบนี้ จะทำให้มีห้องพักอาศัยที่ได้วิวทั้งหมด 4 ฝั่งทุกทิศเลย แต่โชคดีที่ใกล้ๆโครงการไม่มีฝั่งไหนจะบล็อควิวแบบประชิดที่ทำให้ไม่เป็นส่วนตัวด้วยครับ ส่วนการออกแบบอาคาร ใช้โทนสีกลางตัดกับสีของกระจกที่ดูเข้มหน่อย เป็นแนว Comtemporary ร่วมสมัย
ส่วนที่สะดุดตามาแต่ไกลเลย คงหนีไม่พ้น เจ้า Facade ของตัวอาคารบริเวณที่ปิดผิวหน้าชั้น 2-7 เป็นการเล่นเส้นสาย ที่ดูโดดเด่นครับ มีการวาง pattern แฝงสลับเป็นลายข้าวหลามตัดจากแนวเส้นตรงเดิม ทำให้ที่จอดรถดูเป็นระเบียบ และยังทำหน้าที่บดบังสายตาบริเวณข้างๆสระว่ายน้ำที่ชั้น 6 เพื่อได้ความส่วนตัวด้วย
รถ Shuttle Bus ของโครงการเลย เค้าเลือกมาเป็นแบบ มินิแวน ประมาณ 7-9 ที่นั่ง จำนวน 2 คัน ของฮุนไดครับ โดยจะมีการไปส่งที่ BTS เอกมัยให้เลย **แถมไม่เก็บค่าโดยสารเพิ่มด้วยนะ จ่ายส่วนกลางแล้วจบ
ด้านใน ด้วยความที่เป็น Lobby แบบ Double Volume นั้น ทำให้ Space นี้ดูกว้างโอโถ่งเป็นพิเศษ
สระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นระบบเกลือ ขนาด 9.20 x 28.80 เมตร โดยจะมีการแยกพื้นที่ของสระเด็กเอาไว้ให้ครับ กระเบื้องโมเสคที่ปูในพื้นสระดูสวยดีครับ แฝงพวกเงาเกล็ดประกายด้วย จากมุมนี้เราจะเห็นว่าเจ้าตัว Facade จะเป็นอลูมิเนียมสี Rose Gold แบบโทนเข้ม และตำแหน่งนั้นบังอาคารสูงที่เยื้องๆตรงมุมได้พอดีสร้างความเป็นส่วนตัวให้แก่ลูกบ้านเวลามาใช้งานได้ดีเลย
อีกด้านนึงของสระว่ายน้ำ เราจะเห็นพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นแบบ Indoor แต่จริงๆแล้ว ตรงจุดนี้จะเป็นพื้นที่ๆเรียกว่า Triple Facility อยู่ติดกันสามชั้นเลย
ที่ชั้น 44 ส่วนกลางฟังก์ชัน Sky Lounge ที่เป็นแบบ Double Volume นั้นเองครับ เอาที่ชั้นล่างก่อน เค้าแบ่งฟีลลิ่งการใช้งานด้วยแยกวัสดุปูพื้นที่แตกต่างกัน ฝั่งขวามือจะเป็นลายไม้สลับฟันปลา
ฝั่งที่อยู่ติดกับผนังนี่สวยมากครับ ด้วยการที่ให้ช่องแสงทั้งฝั่ง ฝั่งนี้เป็นทิศตะวันตกรับแดดก็จริง แต่ว่าดันเป็น City View ที่สวยที่สุดเวลาอยู่ชั้นสูงๆด้วยเช่นกันครับ
ภายในโครงการจะมีห้องพักแบบและขนาดต่างๆ ดังนี้
- 1 Bedroom ขนาด 27 – 52 ตร.ม.
- 1 Bedroom Loft ขนาด 34 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 51 – 65 ตร.ม.
- Penthouse 82 – 126 ตร.ม.
รูปแบบห้องพัก เดิมโครงการขายแบบ Fully Fitted ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า แอร์ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แต่ปัจจุบันโครงการปรับรูปแบบการขายมาเป็นแพ็คพร้อมเฟอร์ครบทุกอย่าง ยันพร๊อพที่เห็นทุกชิ้นในห้องได้หมาเลย เรียกว่าเอาแต่ตัวกับเสื้อผ้ามา ก็พร้อมอยู่ได้เลยครับ
เรามาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30 ตารางเมตร ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตรซึ่งสูงกว่าคอนโดทั่วๆไป (2.4 เมตร) เลยทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งมากขึ้น จุดเด่นของห้องนี้คือการจัดฟังก์ชั่นให้โซน Service อย่างห้องน้ำและห้องครัวมาอยู่ด้านในติดกับผนังโถงทางเดิน และให้ส่วนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนไปอยู่ด้านที่มีช่องเปิดทำให้ห้องนี้ Take View ได้เต็มที่ในส่วนพักผ่อน
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอครัวเปิดที่โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ และพื้นที่ตรงครัวนี้สามารถไปทำกั้นเป็นครัวปืดเพิ่มได้ด้วย ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียง ขณะอยู่ในห้องก็สามารถมองไปเห็นวิวหรือบรรยากาศข้างนอกได้ ติดกันเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำให้ในตัว โดยจะได้พื้นที่ของข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่งดีหน่อย ทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งฝั่งนึง แต่พื้นที่ปลายเตียงเหลือน้อยหน่อย หากใครชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำเป็นทีวีติดผนัง จะได้เหลือทางเดินปลายเตียงเดินได้
หน้าตาของบานประตูของจริงเป็นบานไม้โทนสีไม้โอ๊คสีเข้ม ซึ่งโครงการจะติดตั้งตาแมว และ Digital Door Lock ของ Samsung มาให้เลยครับ
เข้ามาในห้องแล้ว ผมลองเดินเข้ามาหน่อยนึงแล้วถ่ายย้อนกลับไปยังประตูที่เราเข้ามา จะเห็นว่าพื้นที่หลังประตูมีทำตู้เก็บของ เก็บรองเท้าได้ ขนาดค่อนข้างใหญ่
ตู้เก็บของที่โครงการทำมาให้เลย ที่ตำแหน่งง่ายต่อการใช้งาน มีหน้าบานเป็นกระจกเงา ซึ่งดีต่อการเช็คการแต่งกาย หน้าผม ก่อนออกจากบ้าน อีกทั้งด้านในแบ่งช่องไว้หลากหลาย เก็บของชิ้นทรงสูงได้ด้วย
ชุดครัวที่โครงการ Built-in มาให้จะมีหน้าบานทั้งด้านบนและด้านล่าง หน้าบานจะเป็น Hi-gloss สีขาว เมื่อเปิดครัวออกมาด้านบนเป็นตู้บานเปิดที่มีชั้นให้วางของได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีที่วางช้อน ส้อม มีช่องที่ทำไว้สำหรับวางไมโครเวฟ และพื้นที่ใต้ซิงค์ล้างจาน ที่ติดตั้งถังขยะไว้ให้ด้วย
เนื่องจากตู้ครัวมีดีไซน์ Modern จึงออกแบบมาให้ไม่มีมือจับ และบานพับตู้ที่ให้แบบ Soft Closed ทั้งหมด ตรงผนังเคาน์เตอร์ติดกระจกมาให้ตามภาพ ช่วยให้ทำความสะอาดน้ำและคราบต่างๆได้ง่าย ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ มีการติดตั้งซิงค์ล้างจาน เตาและที่ดูดควันมาให้เรียบร้อย โดยทั้งหมดจะได้เป็นของยี่ห้อ MEX
พื้นห้องในส่วนของครัวปูด้วยกระเบื้อง Porcelain สีเทา ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีการเคลือบผิวหน้าทำให้มีคุณสมบัติดูดซับน้ำต่ำกว่าแกรนิตโต้ที่เราพบเห็นทั่วไปเวลาพื้นเปียกน้ำจะแห้งได้เร็วกว่า ช่วยให้พื้นไม่อมความชื้นและสามารถดูแลรักษาง่าย พอตัดเปลี่ยนโซนก็จะจบด้วยเส้นสแตนเลสครับ หลังจากนั้นส่วนของพักอาศัยจะเปลี่ยนเป็นพื้นลามิเนตลายแผ่นแบบหน้ากว้าง ลายไม้โอ๊คเข้ม ซึ่งดูสวยงามเรียบร้อย
โครงการวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งมาให้ที่ข้างๆเคาน์เตอร์ครัว พร้อมด้านบนติดโคมไฟช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการใช้งานพื้นที่นี้ สำหรับการวางฟังก์ชั่นในลักษณะนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้โต๊ะนี้เป็นเคาน์เตอร์ครัวจำเป็น ขณะที่ทำอาหารก็ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็สะดวก แล้วแต่การใช้งาน
ด้วยขนาดห้องไซส์นี้ ก็จะเหมาะกับโซฟา 2 ที่นั่งกำลังดี และมีพนักพิงแขนด้วย โดยห้องนี้จะมีระยะการดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.30 เมตรครับ จัดทีวีไซส์ประมาณ 40-42 นิ้ว กำลังพอดีเหมาะเจาะ พื้นที่ตรงกลางยังวางโต๊ะกลางได้นะ
ตัวประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนเป็นส่วนกั้นโซนระหว่างในห้องกับระเบียงครับ ซึ่งจริงๆแล้วประตูก็ไม่ได้เล็กหรอก แต่ห้องนั้นสูง 2.70 เมตร เลยดูไม่สูงมาก (ในรูปที่เห็นมีกล่องอยู่ นั้นคือ เครื่องซักผ้าที่โครงการมีมาให้เลยครับ)
พื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับระเบียงมีรางเลื่อนยื่นขึ้นมาเล็กน้อย พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้อง porcelain ลายหินอ่อน และกันตกเป็นรั้วเหล็กพ่นสีดำโปร่ง
ตำแหน่งห้องนี้คือ 1109 หันหน้าทางทิศตะวันออก (ฝั่ง ซอยปรีดีพนมยงค์ สุขุมวิท 71) ซึ่งเป็น City View ที่ค่อนข้างโล่งโปร่งและไม่มีอาคารสูงมาบังหรืออยู่ใกล้ๆเลย ยังเห็นสีเขียวจากต้นไม้ในบ้านคนทั่วไปด้วย
ห้องนอนมีการกั้นโซนเป็นสัดส่วนด้วยประตูที่หน้าตาเหมือนกับทางเข้าห้องครับ ในห้องนอนพื้นที่ค่อนข้างกว้าง โดยเหมาะกับการเอาเตียงไปวางไว้ให้ช่องแสงธรรมชาตินะครับ โดยจะได้พื้นที่ของข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่งดีหน่อย ทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งฝั่งนึงได้(บริเวณกระจกเงาบานใหญ่) แต่พื้นที่ปลายเตียงเหลือน้อยหน่อย หากใครชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำเป็นทีวีติดผนัง จะได้เหลือทางเดินปลายเตียงเดินได้
ฝั่งนี้จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้ โดยจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน หน้าบานจะเป็นกระจกสีชา กรอบอลูมิเนียมเป็น Powder Coat สีดำ ส่วนฟังก์ชั่นภายในตู้เสื้อผ้าก็ค่อนข้างครบ ทั้งแขวนผ้าและพับผ้าได้ ตู้ด้านบนก็พอให้วางหมอนวางผ้านวมได้
ห้องน้ำจะอยู่ในตัวของห้องนอนเลย ซึ่งก็มีข้อดีคือสามารถลุกไปใช้งานได้ง่ายเวลากลางคืน แต่ถ้าใครมีแขกมาหาบ่อยๆ เวลาเค้าจะใช้งานก็ต้องเดินตัดเข้ามาในห้องนอนเรานะครับ
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย ที่รอยต่อของพื้นห้องน้ำและพื้นห้องนอนมีการปิดคิ้วด้วยสแตนเลส โดยกระเบื้องห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้อง porcelain สีเทาผิวหยาบขรุขระ ซึ่งจะช่วยกันลื่นเวลาพื้นเปียก และผิวกระเบื้องมีกริตเตอร์เพิ่มความสวยงาม
อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าพร้อมกระจกเงาติดผนังมาให้ ตัวท๊อปเคาน์เตอร์เป็น Plaswood ลายไม้ที่เป็นวัสดุกึ่ง PVC สามารถโดนน้ำได้ไม่บวม และอ่างกับก๊อกจะเป็นของ COTTO โถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้เรียบร้อย
ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ ขนาดประมาณ 0.90 x 1.0 เมตร พื้นที่กระทัดรัดพอให้อาบน้ำสบายๆ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจก Temper glass มือจับค่อนข้างใหญ่จับถนัดมือดี ที่พื้นมีการยกธรณีกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง ปูกระเบื้องชนิดเดียวกับส่วนอื่นๆในห้องน้ำ ชุดฝักบัวอาบน้ำของ Cotto พร้อมติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เสร็จสรรพ
ห้องถัดไปจะเป็น 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาดขยับขึ้นมาเป็น 32 ตารางเมตร ถ้าดูจากแปลนผิวเผินจะแทบไม่ต่างกับห้องแรกเลยครับ ส่วนที่แตกต่างคือพื้นที่ห้องนั่งเล่น จะยาวขึ้นนิดหน่อย เลยทำให้พื้นที่ระเบียง ไม่ไปกินพื้นที่มุมๆในส่วนของห้องนอน ทำให้ระยะการเดินไปมาในมุมปลายเตียงห้องนอนเดินได้สะดวกกว่าด้วยครับ
ซึ่งพอเราเปิดเข้ามาโซนนิ่งต่างๆก็จัดฟังก์ชันการใช้งานเหมือนเดิม คือเป็น Common Area ที่เจอกับโถงรวม ไล่การใช้งานไป ครัวเปิด ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น และระเบียงครับ
ติดกับประตูเป็นมุมตู้เก็บรองเท้า และตำแหน่งของตู้เย็นที่อยู่ติดกัน ตรงข้ามกับ Pantry ครัวพอดี หยิบของใช้งานได้ง่าย
ส่วนของพื้นที่ Living Area อย่างที่กล่าวไปในตอนแปลนห้องว่า จะได้ความยาวเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยครับผม โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เราเห็นจะได้หมดแบบนี้ ทั้งโต๊ะกลาง ชั้นวาง และพร๊อพตกแต่ง (รูปแขวนผนังยังได้เลย)
ซึ่งตำแหน่งห้องนี้ 1719(หมายเลขห้อง) คือ หันหน้าทางทิศตะวันตก (ฝั่ง Facility)
แต่พอตรงๆจะเป็น City View ฝั่งด้านหน้าโครงการ หรือติดกับถนนเอกมัย ปัจจุบันยังไม่มีตึกสูงโล่งในระยะประชิดนะครับ แต่พวกที่ดินที่ติดถนนหลักอย่างเอกมัยใจกลางเมือง วิวต้องขอบอกว่าไม่สามารถการันตีได้นะครับ
ถัดมาในส่วนของห้องนอน ซึ่งจากที่เห็นโครงการมีการตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ Modd&Tone Blue Sea หรือสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งตัดกันกับผนังสีอ่อนครับ (ผนังเค้าติดวอลเปเปอร์ให้ทุกห้องนะ)
แปลนห้องนี้ ส่วนของระเบียงไม่ไปกินพื้นที่มุมๆในส่วนของห้องนอนแล้ว ทำให้ระยะการเดินไปมาในมุมปลายเตียงห้องนอนเดินได้สะดวกกว่าด้วยครับ
พื้นที่ด้านข่างเตียงฝั่งจัดวางโต๊ะข้างหัวเตียงพร้อมโคมไฟไว้ให้ ซึ่งตำแหน่งมีหน้าต่างช่องแสงส่องสว่างเข้ามาในห้องและสามารถนอนชมวิวได้
ส่วนอีกฝั่งจัดเป็นชุดตู้เสื้อผ้า Built-In ตำแหน่งอยู่หน้าส่วนทางเข้าห้องน้ำ ภายในห้องน้ำวัสดุ ขนาด และตำแหน่งก็จะเหมือนกับห้องแรกที่พาไปชมครับ
ห้องตัวอย่างสุดท้ายคือ 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 34.25 ตารางเมตร จุดเด่นของห้องนี้คือการจัดฟังก์ชั่นให้โซน Service อย่างห้องน้ำและห้องครัวมาอยู่ด้านในติดกับผนังโถงทางเดิน และให้ส่วนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนไปอยู่ด้านที่มีช่องเปิดทำให้ห้องนี้ Take View ได้เต็มที่ในส่วนพักผ่อน
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอครัวเปิดที่โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียง(ซึ่งการอกแบบให้พื้นที่ระเบียงค่อนข้างยาว จะได้ไม่ต้องเห็นคอมแอร์ฯเวลาอยู่ในห้องนั่งเล่นตรงโซฟา สามารถรับวิวได้เต็มที่ไม่เกะกะสายตา
ติดกันเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำให้ในตัว โดยโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้ที่หน้าห้องน้ำ จึงสะดวกกับการใช้งาน เวลาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย ภายในห้องนอนมีหน้าต่างเต็มผนังช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าและระบายอากาศได้ดี พื้นที่ปลายเตียงเหลือน้อยหากใครชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำเป็นทีวีติดผนังจะได้เหลือทางเดินปลายเตียง โดยรวมแล้วห้องนี้มีการจัดฟังก์ชั่นที่ครบแต่พื้นที่ใช้งานไม่มาก เหมาะกับการอยู่อาศัยประมาณ 1-2 คน ได้ไม่อึดอัด
ก่อนจะเข้าไปดูในห้อง ผมให้ดูที่หน้าห้องก่อน ตำแหน่งของห้องนี้ (หมายเลขห้อง 703) ที่หน้าห้องเป็นบริเวณที่โครงการออกแบบเป็น Single Corridor หรือโถงทางเดินเดี่ยวไม่ต้องเปิดประตูไปเจอใคร และที่เปิดผนังช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อสร้างแสงธรรมชาติส่องมายังทางเดินให้ดูสบายตาแบบนี้
โดยเข้าห้องมา ส่วนแรกที่เราจะเจอคือห้องครัว ที่มีส่วนต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยโครงการได้จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งไว้ให้
ส่วนของชุดครัวจะขนาดใกล้ๆกับห้องแรกเลยครับ ต่างกันตรงห้องนี้ตำแหน่งตู้เย็นจะดีหน่อยอยู่ติดกับ Pantry เลย และด้านบนเหนือตู้เย็นได้ตู้แขวนผนังเพิ่มมาอีกส่วนนึง
ทางด้านขวามือ ตรงนี้เป็นส่วนเว้าของผนัง ซึ่งโครงการตั้งใจทำเป็นตู้ตั้งแต่แรกให้เข้ากับพื้นที่ครับ ตำแหน่งการใช้งานยังอยู่ใกล้ๆกับส่วนทางเข้าออกห้องอยู่
ผมลองเปิดหน้าบานตู้ให้ดู ซึ่งด้านในเค้ามีการแบ่งพื้นที่เป็นช่องขนาดต่างๆให้ เราเลือกใช้งานเก็บของได้หลายแบบ ทั้งรองเท้า กระเป๋า ของชิ้นยาวๆ หลากหลายดีครับ
ในส่วนของพื้นที่ทานอาหารและนั่งเล่นตัวพื้นจะปรับเปลี่ยนเป็นพื้นลามิเนตลายแผ่นแบบหน้ากว้าง ลายไม้โอ๊คเข้ม ซึ่งดูสวยงามเรียบร้อย ปรับอารมณ์ในการอยู่อาศัย
พื้นที่ด้านหลังโซฟามีการก่อผนัง Low Wall ขึ้นมาทำเป็นชั้นวางของโชว์ของสะสม ตกแต่ง พร้อมที่ผนังแขวนรูปตกแต่งเอาไว้ให้
พื้นที่ Living ที่ยาวขึ้นทำให้ได้ปรับขนาดของโซฟาให้ยาวขึ้นได้อีกหน่อย เป็น 2-3 ที่นั่ง และมีพนักผิงแขนได้สบายๆ
ห้องนี้ที่ผมพาไปดูอยู่ที่ชั้น 7 ครับ (ตำแหน่งห้อง 703) หันหน้าทางทิศเหนือ (ฝั่ง ถนนเพชรบุรี) ซึ่งใกล้ๆกันจะเป็นชุมชนตลาดเอกมัยนะครับ ไม่มีตึกสูงบังในระยะทั้งหมด
เข้ามาในส่วนของห้องนอน พวกชุดเฟอร์ทั้งหมดจะเห็นได้ว่าห้องนี้โครงการจัดตีมที่มี Mood&Tone น่าจะเป็นแนวโทนชมพูสว่างหน่อยแบบ Rose Quartz นะฮะ
ด้วยขนาดของห้องที่ขยายมากขึ้น ทำให้ห้องนี้สามารถทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งแต่งหน้า ที่อยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสงได้ เราจะได้แต่งหน้ามีแสงธรรมชาติช่วยด้วย หรือถ้าเป็นคุณผู้ชายก็ทำเป็นมุมโต๊ะทำงานเล็กส่วนตัวที่เอา Notebook มานั่งใช้งานได้
มองไปยังอีกฝั่ง ยังยังเป็นห้องน้ำในตัวห้องนอนนะครับ ซึ่งก่อนทางเข้า ก็มีการจัด Built-In ชุดตู้เสื้อผ้าทั้งสองฝั่งขนาบกับประตูเข้าห้องน้ำ เป็นมุมแต่งตัวได้เลยหลังอาบน้ำเสร็จใช้งานได้ง่ายสะดวก
ที่ตู้เสื้อผ้าฝั่งขวา มีการแฝงลูกเล่นไปอีกส่วนด้วย โดยการทำเป็นตู้แบบเอาไว้เก็บพวกเครื่องประดับ นาฬิกา แขวนกุญแจแบบนี้ได้ ดูดีนะครับ
ในส่วนของห้องน้ำด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น(ทางซ้ายมือหลังประตู)
พื้นที่อาบน้ำยังคงกั้นโซนมาให้ด้วย Shower Box กระจกนิรภัยครับ พื้นที่อาบ 90 x 90 cm. อุปกรณ์ต่างๆเหมือนกัน
ก็จบกันไปแล้วนะครับ กับห้องตัวอย่างทั้ง 3 ห้องที่ผมพาไปดูกันวันนี้ ซึ่งตอนนี้ทางโครงการเค้ามีการจัดแคมเปญอยู่ที่ชื่อว่า BEST BUY RIGHT NOW !! ห้องหลุดดาวน์ ราคาพิเศษ โดยมีโปรโมชันพร้อมจัดห้องเป็น Fully Furnished หรือเฟอร์นิเจอร์จัดเต็มแต่งครบพร้อมอยู่ไปเลย 3 Styles พร้อมโปร 3 Steps.
STEP 1 : จอง 0 บาท ! พร้อม ส่วนลดสูงสุด 800,000 บาท*
STEP 2 : ฟรี ! ค่าโอนกรรมสิทธิ์
STEP 3 : รับ ! Festive Gift มูลค่าสูงสุด 20,000 บาท* สุดพิเศษประจำสัปดาห์
9-10 ก.พ. Week แห่งความเจริญรุ่งเรือง รับตรุษจีน รับทองคำแท่ง 1 บาท
16-17 ก.พ. สัปดาห์แห่งความรักต้อนรับวาเลนไทน์ รับ Voucher Emporium มูลค่า 20,000 บาท
** ปัจจุบันราคาห้องเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท (ขนาดประมาณ 32 ตร.ม.) หรือคิดเป็น 139,000 บาท/ตร.ม. (ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น)