รีวิวโครงการ
RHYTHM เอกมัย คอนโด High Rise ใกล้ BTS เอกมัย ติด Park Lane เอกมัย จาก AP [Walk-in รีวิว]
19 กันยายน 2020
สวัสดีค่ะ รีวิวทำเลฉบับที่ 1152 วันนี้จะพาไปเดินชมทำเลโครงการ Rhythm เอกมัย หลังจากที่เราไม่ได้เห็นคอนโดใหม่ภายใต้แบรนด์ Rhythm กันมาพักใหญ่ การกลับมาของ Rhythm โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น บนที่ดินต้นซอยเอกมัย ซึ่งเป็นถนนเส้นหนึ่งในย่านใจกลางเมืองสุขุมวิทที่เป็นทั้งแหล่งอาคารสำนักงานและแหล่งสถานที่ Hang Out ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่ตั้งโครงการมีระยะห่างจาก BTS สถานีเอกมัยประมาณ 280 เมตร ทำเลของโครงการนี้จะเป็นอย่างไร เราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
Website โครงการ : ลงทะเบียนรับส่วนลด คลิกที่นี่
เบอร์โทร : 0-2261-2518
พิกัดโครงการ : 13.722850, 100.584510
ที่ตั้งของโครงการ Rhythm เอกมัย ตั้งอยู่ต้นซอยสุขุมวิท 63 หรือที่เรียกติดปากกันว่าซอยเอกมัย เนื่องจากซอยเอกมัยเป็นซอยที่มีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน การอยู่ต้นซอยจึงเป็นข้อได้เปรียบ ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัดมากนัก ซึ่งซอยสุขุมวิท 63 นั้นเป็นซอยที่เชื่อมตรงถนนสุขุมวิท เเละถนนเพชรบุรีเข้าด้วยกัน ทำให้ซอยนี้สามารถเข้าได้จากถนนใหญ่ 2 เส้นทาง นอกจากนี้ภายในซอยเองยังสามารถลัดเลาะไปออกถนนทองหล่อ(สุขุมวิท 55) และถนนปรีดีพนมยงค์ (สุขุมวิท 71) ที่คู่ขนานอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง หรือหากต้องการเข้าเมืองทางถนนพระราม 4 ก็จะมีซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 36 และ 40 สามารถใช้เป็นถนนเชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ และซอยสุขุมวิท 42 ก็สามารถใช้เชื่อมจากถนนพระราม 4 เข้ามายังถนนสุขุมวิทได้
จากโครงการสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งถนนพระราม 4 ออกไปสีลม, สามย่าน หรือใช้ถนน สุขุมวิทไปออกเพลินจิต, ชิดลม, สยาม หรือใช้ถนนเพชรบุรี ไปออกทางพญาไท เป็นต้น จึงทำให้ถนนใหญ่ และ ถนนซอยช่วงนี้เป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่นทั้งฝั่งเลขคู่และเลขคี่ เมื่อมองดูถนนที่ล้อมรอบซอยเอกมัยจะเห็นว่าเป็นถนนที่รถติดทั้งนั้น ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในย่านนี้ จะต้องเผื่อเวลากันหน่อยนะคะ ถึงแม้ว่าการจราจรแถวนี้จะหนาแน่นอยู่มาก แต่ก็ยังมีทางลัดต่างๆที่เป็นตัวช่วยค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถค่อนข้างสะดวกพอสมควร เมื่อลงจาก BTS สถานีเอกมัยเดินประมาณ 280 เมตรก็ถึงโครงการ เป็นระยะที่เดินได้สบายๆ และจากสถานีเอกมัยถ้านั่งรถไปอีก 2 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา
สำหรับเส้นทาง BTS ก็ง่ายๆตามที่อธิบายไปแล้วนะคะ ต่อไปเรามาดูเส้นทางสำหรับรถยนต์ส่วนกันบ้าง ว่าเส้นทางในย่านนี้มีซอยลัด ซอยทะลุตรงไหนกันบ้าง การเดินทางเข้าเมืองจากโครงการโดยใช้เส้นทางพระราม 4 ต้องผ่านเส้นสุขุมวิทเพื่อเข้าพระราม 4 อีกที ซึ่งถนนสุขุมวิทและพระราม 4 จะเชื่อมกันด้วยสองซอยหลักๆ คือ ซอยสุขุมวิท 40 และ สุขุมวิท 42 ซึ่งทั้งสองซอยเป็นถนน One-Way ตามที่เห็นในรูป โดยซอย 42 จะมีปริมาณรถมากกว่า เนื่องจากอยู่ติด Gateway เอกมัย และเป็นซอยที่รถจากพระราม 4 ใช้ลัดมาเพื่อจะไปเลี้ยวขวาเข้าซอยเอกมัยนอกจาก 2 ซอยนี้ก็จะมี ซอยสุขุมวิท 36 ตรงข้ามทองหล่อ และ ซอยสุขุมวิท 44/1 กับ 46 ที่อยู่ติด BTS พระโขนงที่จะใช้แทนกันได้ค่ะ
ไปดูซอยลัดฝั่งเอกมัยกันบ้าง มี ซอยทองหล่อ 10 (เอกมัย 5) เชื่อมจากทองหล่อมาเอกมัยตรงร้านนั่งเล่น-เอสโคบาร์ พอดี แล้วเชื่อมต่อไปยัง ซอยเอกมัย 12 ที่ไปทะลุถนนปรีดี พนมยงค์ที่ซอย 31 ได้ อีกทางลัดที่จะเลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้ คือซอยเอกมัย 10 (ซอย Health Land) วิ่งลัดๆลงมาออกถนนสุขุมวิทที่ซอย 65
ต้องยอมรับจริงๆว่า ถนนตรงนี้ปริมาณรถเยอะ ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่มีสูตรตายตัวว่าต้องไปเส้นไหน ทางลัดตรงไหนรถจะไม่ติด แต่ทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้จักให้ครบทุกทางแล้วช่างสังเกตเอาหน่อย เพื่อดูว่าช่วงเวลานี้ทางไหนจะติดน้อยติดมากค่ะ
ถึงแม้ถนนซอยต่างๆในย่านนี้ที่รถค่อนข้างติด แต่ก็ยังมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างเส้นทางด่วน เริ่มกันที่ทางพิเศษเฉลิมมหานครเป็นเส้นทางที่จะวิ่งเข้าไปในเมืองฝั่ง สีลม สาทร และสามารถไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชไปทางฝั่งจตุจักร วิภาวดีรังสิต ได้ ทางขึ้นทางด่วนอยู่ห่างจากโครงการ 4.3 กม. ดูเหมือนไม่ไกลเท่าไหร่แต่การจะเดินทางไปขึ้นทางด่วนก็ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยใช้ซอยสุขุมวิท 40 ทะลุมายังถนนพระราม 4 จากถนนพระราม 4 เลี้ยวขวาเข้าถนนกล้วยน้ำไท แล้วเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อขึ้นทางด่วน ส่วนขากลับใช้เส้นทางเดียวกับขามา แต่ต่างกันที่ใช้ซอยสุขุมวิท 42 เชื่อมเข้าถนนสุขุมวิท แล้วชิดขวาเพื่อเลี้ยวเข้าซอยเอกมัยแทน
นอกจากทางพิเศษเฉลิมมหานคร ก็ยังมีตัวช่วยอย่างทางด่วนรามอินทราอาจนรงค์อีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งทางขึ้นทางด่วนมีระยะห่างจากโครงการ 2.4 กม. โดยวิ่งออกมาทางถนนสุขุมวิทแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนได้เลย ส่วนขากลับโครงการก็ลงทางด่วนบริเวณถนนพัฒนาการ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเอกมัย มีระยะจากจุดลงทางด่วนถึงโครงการประมาณ 4.3 กม.
จากทำเลโครงการที่อยู่ในช่วงต้นซอยนั้น จะเป็นอาคารสำนักงาน ร้านอาหาร และอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีความสงบมากกว่าพื้นที่ในแถบด้านในซอย ที่จะเป็นกลุ่มอาคารประเภท Pub & Restaurant ตรงนี้ก็เป็นข้อดีของทำเลอีกเช่นกันที่อยู่ในย่านท่องเที่ยวแต่ยังคงได้รับความสงบ
แหล่งความอุดมสมบูรณ์แถวนี้มีความเจริญมานานแล้วและหาของกินง่ายมากเดินออกจากโครงการมาก็เจอเลย ในซอยเอกมัยมีร้านอาหารอร่อยและชื่อดังอยู่หลายร้านที่เปิดกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าถึงจะหิวตอนดึกๆก็ไม่ต้องกลัวอดนะคะ ไล่ตั้งแต่หน้าปากซอยทาง BTS ก็จะมี Major เอกมัย ภายในมีร้านอาหารหลายร้าน นอกจากร้านอาหารยังมีโรงหนังด้วย โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 250 ม. สามารถเดินได้สบายๆ ถัดเข้ามาในซอยติดกับโครงการจะเลยเป็น Park Lane ภายในมี Max Value 24 ชั่วโมง, ร้านอาหาร, คาเฟ่, ร้านขายของแฟชั่น สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีย่านนี้ขึ้นชื่อหลายร้านค่ะ ทั้งร้าน นั่งเล่น, Demo Pub และร้านอาหารอื่นๆที่รวมกันอยู่ใน Arena 10 นอกจากนั้นก็มี Community Mall หลายที่ อย่าง เวิ้งโบราณ, The Third Place, Taste Thonglor คนชอบเที่ยวยามราตรีอยู่โครงการนี้สะดวกแน่นอนค่ะ
ทางเข้าฝั่งสุขุมวิทนั้นจะมี BTS เป็นตัวช่วยในการเดินทาง สถานีจะห่างจากโครงการประมาณ 280 ม. ลงจากสถานี BTS มาไม่ไกลก็จะมีพี่วินให้เรียกต่อเข้าไปได้ เส้นทางแรกในวันนี้ เราจะเดินเข้าโครงการจากสถานี BTS เอกมัยบนถนนสุขุมวิท จากทางออก 1 มุ่งหน้าไปทางซอยสุขุมวิท 63 แล้วแวะพาไปชมบรรยากาศภายใน Major เอกมัยที่เชื่อมต่อกับ BTS จากนั้นเดินออกจากห้างมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอกมัย เดินเข้าไป 250 เมตร โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ จากแผนที่เราจะเริ่มเดินจากหมายเลข 1 ไปยังหมายเลข 2 ไปกันเลยค่ะ
เริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ที่อยู่บนถนนสุขุมวิทค่ะ สถานีนี้คนจะไม่ได้ขึ้นลงเยอะเหมือนอย่างสถานีสำคัญ เช่น อโศก เวลารอรถก็พอจะมีที่เหลือให้เข้าไปได้ตลอดค่ะ
จาก BTS เราเลือกใช้ทางออกหมายเลข 1 ที่ใกล้กับซอยเอกมัยมากที่สุด
ลงจากชานชาลามา 1 ชั้น ฝั่งซ้ายจะเห็น Gateway เอกมัย หากใครต้องการไปเดิน Shopping ก่อนก็สามารถเดินเชื่อมไปได้ แต่ต้องเลือกทางออก 4 ภายในจะเป็นร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งร้านอาหารค่อนข้างหลากหลายชาติ สำหรับวันนี้จะไปทางออก 1 ที่เชื่อมกับ Major เอกมัย ไปกันเลยค่ะ
แสกนบัตรเรียบร้อยก็ออกมาที่ทางออก 1 ทางออกนี้จะเป็นทางออกที่ใกล้กับโครงการที่สุด
เดินมาชมวิวมุมสูงกันหน่อย ด้านล่างคือถนนสุขุมวิท ไป 3 กลับ 3 เลน ส่วนทางลงจะมีทางแยก 2 ทาง คือฝั่งขวามือจะเป็นทางลงไปที่หน้าปากซอยเอกมัยเลย ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปเชื่อมกับทางเข้า Major เอกมัย วันนี้เราจะเลือกเดินไปฝั่งซ้ายพาไปแวะ Major เอกมัย สักนิดนะคะ มาดูกันว่าปัจจุบันภายในจะเป็นอย่างไรค่ะ
เดินมาบน Sky Walk จะผ่านหน้าซอยเอกมัยพอดี จากมุมนี้จะเห็นบรรยากาศในซอยเอกมัยช่วงต้น ก็จะมีทั้งตึกสูงสลับกับอาคารพาณิชย์ ปนกันระหว่างอาคารสำนักงาน, คอนโดมิเนียม, ห้างสรรพสินค้า ทำให้บรรยากาศค่อนข้างคึกคักตลอดทั้งวัน
เดินมาอีกหน่อยก็จะถึงทางเชื่อมเข้า Major เอกมัยแล้ว แต่จะต้องเดินผ่าน WE Fitness ไปก่อน แล้วจึงเป็นตัวห้างฯ นะคะ
เข้ามาข้างใน Major กันแล้ว ทางเชื่อมจาก BTS จะเชื่อมเข้ามาที่บริเวณชั้น 2 ส่วนที่เห็นบันไดเลื่อนขึ้นไปนั้น คือ ชั้น 3 ที่เป็นชั้นโรงหนังค่ะ จาก Major มีระยะห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 250 ม. เวลาที่ต้องการดูหนังก็สะดวกสบาย เดินมาดูยังได้เลยค่ะ
บรรยากาศภายในชั้น 2 จะเป็นร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ ก็มีให้เลือกหลากหลายนะคะ ทั้ง MK, พิซซ่า, อาหารญี่ปุ่น แต่ร้านอาหารภายใน Major นี้จะเป็นร้านเจ้าประจำที่เห็นตามห้างฯ, ศูนย์การค้าอย่าง Central, The Mall กันอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากลองร้านใหม่ๆ แวะไปลง Gateway เอกมัย จะมีให้เลือกหลายร้านอยู่ค่ะ
เราลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 1 ของห้างฯ กัน เพื่อไปที่ประตูทางออกฝั่งถนนสุขุมวิทค่ะ
ออกมาจาก Major แล้ว ให้เลี้ยวซ้ายไปทางเอกมัย ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นท้องฟ้าจำลอง เป็นศูนย์เรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์ค่ะ ก็จะมีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษากันบ่อยๆ แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเข้าไปนั่งดูดาวได้นะคะ
จากนั้นก็ตรงไปตามทางเดินค่ะ อาคารฝั่งซ้ายยังคงเป็น Major เอกมัยอยู่ แต่ชั้นล่างจะเปิดเป็นสหกรณ์ ก็จะมีของใช้ในบ้านเหมือนใน Supermarket ให้ได้ Shopping กันค่ะ
ตรงมาที่หัวมุมถนนซอยสุขุมวิท 63 จะเป็นร้านกาแฟ The Coffee นอกจากจะเปิดเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังให้ใช้ WiFi ฟรีด้วย จึงเป็นสถานที่ที่กลุ่มฟรีแลนซ์ และ เหล่า Start-Up มักมานั่งทำงาน หรือนัดคุยงานกันค่ะ
มาดูบรรยากาศตรงสี่แยกกันสักนิด ฝั่งขวาจะเป็นสถานี BTS เอกมัย ที่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินเล่นวันนี้ ซึ่งหากไม่ได้ต้องการแวะ Major เอกมัย ก็สามารถเลือกลงบันไดได้เลย ตัวบันไดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนนี้ ลงมาแล้วก็ข้ามทางม้าลายมาฝั่งร้าน The Coffee ก็จะมาอยู่ฝั่งเดียวกับโครงการค่ะ ส่วนร้านอาหารที่อยู่ฝั่งซ้ายคือร้านบ้านไร่กาแฟ จะเปิดตอนเย็นๆ ทำให้บริเวณสี่แยกตรงนี้คึกคักตลอดวันค่ะ จากสี่แยกเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยกันนะคะ
นี่คือบรรยากาศภายในซอยค่ะ ถนนจะเป็นไป 2 เลน กลับ 2 เลน ฝั่งซ้ายมีวินมอเตอร์ไซค์รอให้บริการอยู่ ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนจะเห็นคนมายืนต่อแถวใช้บริการกันเยอะอยู่ค่ะ หากเรียกพี่วินจากตรงนี้ก็สนน.ราคาประมาณ 10-15 บาท แต่โครงการ Rhythm เอกมัย เข้าซอยไปไม่ไกล ประมาณ 250 ม. จึงเป็นระยะที่เดินได้สบายค่ะ
เดินเข้ามาอีกนิดแล้วมองไปฝั่งขวาจะเห็นโครงการ Horizon ที่เปิดพื้นที่ภายในอาคารให้เช่าเป็นร้านอาหาร, ออฟฟิต และภายในโครงการเดียวกันยังมีคอนโดมิเนียม สูงประมาณ 15-16 ชั้นด้วยค่ะ
มาดูฝั่งขวากันบ้างคือ อาคาร BPS เป็นอาคารสำนักงานค่ะ
ถัดจากอาคาร BPS เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น Kuroda ที่เปิดยาวตั้งแต่ 11.30 – 23.00 น. ทำให้ทางเดินในซอยเอกมัยเวลากลางคืน มีแสงไฟจากป้ายและจากร้านค้าตลอดทางค่ะ ตัวฟุตบาทในซอยไม่ได้เท่ากันไปตลอดแนว แต่มีความกว้างที่ค่อนข้างกว้าง ประมาณ 2.5- 4 ม. เดินได้สะดวกดีค่ะ
ติดกันเป็นร้านอาหาร MK Restaurant และ Miyazaki
ฝั่งตรงข้ามร้าน MK เป็น คอนโด Noble Reveal ที่ความสูง 27 ชั้น ติดกันเป็นที่ดินส่วนบุคคลที่ล้อมรั้วทึบไว้ค่ะ
กลับมาที่ฝั่งขวาพอพ้นช่วงร้านอาหารมาแล้วจะเป็นกลุ่มตึกแถวริมถนน 6-7 ชั้น ที่เปิดเป็นร้านขายของ ร้านอาหาร บางช่วงก็จะมีซอยเข้าไปด้านในเป็นซอยตัน ภายในก็จะเป็นตึกแถวเช่นกัน
บรรยากาศภายในซอยย่อยๆ เป็นซอยตัน อาคารส่วนใหญ่มักทำเป็น Home Office กันค่ะ
เดินตรงมาอีกหน่อยจะเป็นตึกแถวอีกเช่นกัน เปิดเป็น Sakura Spa ซึ่งจะติดกันกับที่ดินของ Rhythm เอกมัย แล้วค่ะ ไม่ไกลเลยใช่ไหมคะ ^^
แปลงที่ดิน Rhythm เอกมัยค่ะ มีหน้ากว้างติดถนนประมาณ 45 ม. ค่อนข้างกว้างทีเดียว ทำให้เวลาขับรถผ่านหน้าโครงการสามารถสังเกตได้ง่าย
ฝั่งซ้ายติดกับ Sakura Spa ที่เปิดในตึกแถวสูง 6-7 ชั้น
ฝั่งขวาติด Park Lane คอมมูนิตี้มอลล์ที่มีหลายอาคาร มีอาคารสูงสุดที่ 5 ชั้น ภายในมีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน มีคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ติดโครงการขนาดนี้ ลูกบ้านในคอนโดนี้ ไม่ต้องกลัวอดกันเลยค่ะ พามาถึงที่ตั้งโครงการกันแล้ว ก่อนจะพาเดินชมทำเลต่อไป เรามาดูพื้นที่รอบข้างโครงการกันสักนิดนะคะ
มาดูสรุปพื้นที่รอบข้างของคอนโด Rhythm เอกมัย แบบแผนที่กันนะคะ สภาพแวดล้อมภายในซอยเอกมัยช่วงต้นซอย บริเวณที่ติดถนนส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์ 4-6 ชั้น สลับกับคอนโดมิเนียมที่เป็นตึกสูง มีบ้างที่เป็นบ้านพักอาศัยและร้านอาหาร ซึ่งที่เหล่านี้เป็นที่ดินขนาดใหญ่ที่มีโอกาสในการพัฒนาในอนาคต โดยแต่ละด้านของแปลงที่ดินติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับ Park Lane เอกมัย สูง 5 ชั้น
- ทิศตะวันออก – ติดกับ ถนนเอกมัย ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินส่วนบุคคล และอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น
- ทิศใต้ – ติดกับ อาคารพาณิชย์ 6 ชั้น
- ทิศตะวันตก – ติดกับ อาคารส่วนบุคคล 1-2 ชั้น
นอกจากนั้นเรื่องวิวก็เป็นเรื่องที่มักจะต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะคอนโด High Rise อย่าง Rhythm เอกมัย ดูจากพื้นที่โดยรอบโครงการในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิด แต่ทางทิศใต้จะติดกับกลุ่มอาคารพาณิชย์ สูง 4-7 ชั้น ก็ต้องมาดูกันว่าโครงการจะออกแบบพื้นที่ในฝั่งที่ติดกับอาคารอย่างไร ส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนซอยสุขุมวิท 63 จึงไม่มีตึกบังวิวในระยะประชิด แต่ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นที่ดินส่วนบุคคลขนาดใหญ่ที่มีความเป็นไปได้ในการสร้างเป็นอาคารสูงในอนาคต
สำหรับวิวในระยะไกลจะถูกล้อมด้วยอาคารสูง แต่ก็ยังมีหลายมุมที่มีช่องเปิดให้เห็นวิวเมืองได้ โดยอาคารสูงโดยรอบไล่ตั้งแต่ทิศเหนือ – ทิศตะวันออก – ทิศตะวันตก – ทิศใต้ ได้แก่ อาคารสรชัย สูง 31 ชั้น, คอนโด Noble Reveal สูง 27 ชั้น, คอนโด Civic Horizon สูง 15-16 ชั้น, Service Apartment Fullurton สูง 37 ชั้น, คอนโด Shanti Sadan สูง 22 ชั้น, คอนโด Top View Tower สูง 38 ชั้น ส่วนทางทิศใต้ในปัจจุบันจะได้วิวที่ดีที่สุดเมื่อพ้นจากชั้น 10 ขึ้นไป เพราะหันหน้าไปทาง Major เอกมัยที่มีความสูงของอาคารประมาณ 10 ชั้น ทำให้ห้องพักอาศัยในทิศนี้ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปจะได้วิวที่โปร่งกว่าด้านอื่นๆ แต่ก็จะเห็นคอนโดสูงที่อยู่ในแนวถนนหลักสุขุมวิทในระยะไกลค่ะ อย่างไรก็ตามทางทิศใต้ก็ยังมีแปลงที่ดินของ MK และ Kuroda ที่มีขนาดใหญ่ และ มีความเป็นไปได้ในการสร้างเป็นอาคารสูงในอนาคต
ทั้งนี้การเลือกห้องก็ต้องขึ้นกับการออกแบบโครงการว่าจะมีลูกเล่นในการจัดตำแหน่งห้องและหลบหลีกอาคารสูงที่แม้ไม่ได้ประชิดแต่ก็อยู่ไม่ห่างนักโดยรอบอย่างไร ให้ห้องพักได้วิวที่ดีย่านใจกลางเมืองเช่นนี้ ต่อไปจะพาไปเดินชมทำเลต่อนะคะ
มาดูบรรยากาศใน Park Lane กันบ้าง ด้านหน้ามี True Coffee เป็นร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งให้เลือกค่ะ
นอกจากนี้ด้านหน้าฝั่งติดถนนมีร้าน Shabu ชื่อ Donabe และ ธนาคาร Land and House ค่ะ
ด้านในจะมีหลายอาคารล้อมกันอยู่แบบนี้ บรรยากาศหลวมๆ ไม่แน่น มองไปจะเห็นป้าย Max Value ซึ่งสาขานี้จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งภายใน Max Valu Super Market ค่อนข้างใหญ่ เน้นของกินเป็นหลัก ถ้าลูกบ้านจากโครงการต้องการซื้ออาหาร ของกินของใช้ ทั้งของสของแห้งเข้าบ้าน ก็สามารถมาซื้อที่นี่ได้ ติดกับโครงการเลย สะดวกทีเดียวค่ะ
ภายในมีพื้นที่หน้าอาคาร ที่ใช้สำหรับจัด Event ได้ อย่างในรูปเป็น Event งานคริสมาสต์ ก็จะมีร้านมาตั้งเต็นท์ขายของต่างๆ
นอกจากนี้ก็จะมีร้านขายอาหาร เช่น ร้าน Omu, ร้านยากินิคุ ทัน และมีร้านขายของแฟชั่นอยู่หลายร้าน ซึ่งเป็นร้านที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป
ฝั่งตรงข้าม Park Lane เป็นร้าน Ekamai Beer House ซึ่งจะเปิดตอนเย็น ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการตอนกลางคืน ไม่เงียบเหงา มีคนผ่านไปมาตลอด
ติดกับ Ekamai Beer House เป็นกลุ่มร้านค้า ร้านอาหาร ตามอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น
กลับมาที่ฝั่งซ้าย ถัดจาก Park Lane จะเป็นอาคารสำนักงานสรชัย สูง 31 ชั้น ถือว่าเป็นอาคารสูงที่อยู่ใกล้โครงการ ที่จะบล็อกวิวอาคารฝั่งนี้ค่ะ
ติดกันเป็นปั๊ม Shell มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 120 ม. สำหรับผูที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกเลยทีเดียว
ถัดจากปั๊ม Shell เป็นอาคารสำนักงานอีกแห่งหนึ่ง คือ Bangkok Business Center
ติดกันเป็นร้านค้า ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ บางร้านก็เปิด 24 ชั่วโมง อย่าง โชคดีติ่มซำ
ถัดจากกลุ่มตึกแถวที่ผ่านมา จะเริ่มมีร้านประเภท Pub & Restaurant เข้ามาแล้วนะคะ ร้านแรกคือร้าน C Zech Trendy Club ซึ่งถัดจากช่วงนี้เข้าไปก็จะเริ่มมีร้านประเภทนี้หลายร้านมากขึ้นค่ะ
ฝั่งตรงข้ามของร้าน C Zech Trendy Club จะเป็น Big C Super Center และ Index Livingmall ภายในมีร้านอาหารและซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งตรงนี้ห่างจากโครงการเพียง 450 เมตรนับว่าเป็นแหล่งซื้ออาหารและของใช้เข้าบ้านอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้
กลับมาที่ฝั่งซ้ายติดกับ C Zech Trendy Club จะเป็นร้าน Sherbet ซึ่งเป็นร้านประเภทเดียวกัน
ถัดไปก็จะเป็น Cubic 63 เป็นร้านเหล้านั่งชิว จะเห็นว่าร้านเหล่านี้จะอยู่ติดกันเป็นกลุ่มซึ่งจะอยู่ลึกเข้ามาในซอยเอกมัย ไม่ได้อยู่ด้านต้นซอยเหมือนที่ตั้งโครงการ ทำให้พื้นที่ด้านต้นซอยมีความสงบเหมาะจะเป็นพื้นที่พักผ่อนมากกว่า
ฝั่งตรงข้าม Cubic 63 คือ Health Land เอกมัย ที่มีทั้งบริการนวดไทย นวดเท้า นวดอายุรเวท และโปรแกรมอื่นๆ
ซึ่งด้านข้างของ Health Land จะติดกับซอยเอกมัย 10 เป็นซอยที่สามารถทะลุไปซอยสุขุมวิท 71 (ซอยปรีดี พนมยงค์) ได้ ส่วนร้านที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของซอยเอกมัย 10 ตรงข้าม Health Land คือเวิ้งโบราณ (เอกมัยช็อปปิ้งมอลล์) ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ เช่น ร้าน Perhaps Rabbits’ ที่เป็นร้านเค้กค่ะ
กลับมาที่ฝั่งซ้าย เป็นอาคารสำนักงาน Modern Town
ถัดมาอีกนิดหนึ่งก็จะถึง 4 แยก หากเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยเอกมัย 5 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมไปซอยทองหล่อได้ หากเลี้ยวขวาจะไปซอยเอกมัย 12 ซึ่งสามารถเชื่อมไปซอยปรีดี พนมยงค์ ได้ หรือถ้าตรงต่อไปตามซอยเอกมัยจะสามารถไปทะลุถนนเพชรบุรีได้ค่ะ วันนี้จะพาเดินเลี้ยวซ้ายไปทะลุซอยทองหล่อ เป็นอีกซอยหนึ่งที่มีความคึกคักไม่แพ้ซอยเอกมัยเลยค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอกมัย 5 มาแล้ว สังเกตว่าบรรยากาศเวลากลางวันและกลางคืนในซอยนี้จะต่างกันมากทีเดียว เพราะซอยนี้เป็นที่เป็นที่ตั้งของร้านประเภท Pub & Restaurant หลายแห่ง อย่างฝั่งขวาเป็นร้านเหล้านั่งชิว Myst
ฝั่งตรงข้ามร้าน Myst เป็นลานที่จอดรถ TOA ที่เปิดให้เช่าจอดรถได้ เป็นลานจอดรถที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวผับเวลากลางคืน มักจะมาเช่าจอดตรงนี้กันค่ะ
ถัดไปทางฝั่งซ้ายเป็นกลุ่มตึกแถวที่เปิดเป็นร้านขาย เช่น ร้านขายโคมไฟ คาเฟ่ ร้านพิซซ่า
ถัดมาทางฝั่งขวาจะเป็น Arena 10 แหล่งรวมร้านอาหาร, ร้านเหล้า, ร้านขนม, Pub & Restaurant, คาราโอเกะ และสนามฟุตบอล ถ้าผ่านมาตอนกลางวันซอยนี้จะเงียบหน่อย รถไม่ค่อยติด แต่ถ้ามาเวลากลางคืน โดยเฉพาะในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ รถจะหนาแน่นมาก
ถัดจาก Arena 10 มาจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น Mugendai Honten เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของร้านอาหารในละแวกนี้
กลับมาทางฝั่งซ้ายจะมีบริษัทออกแบบและขายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ Grande Armoire จากอิตาลี ซึ่งจริงๆในย่านนี้ก็มีบริษัทออกแบบเฟอร์นิเจอร์อยู่หลายแห่ง แต่จะเป็นแบรนด์ระดับบน ราคาค่อนข้างสูงค่ะ
เดินมาเรื่อยๆก็ใกล้จะทะลุซอยทองหล่อแล้วนะคะ ช่วงท้ายซอยที่จะเชื่อมไปถึงซอยทองหล่อจะมีอาคารสำนักงานปนอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น Opus Tower, Major Tower และพื้นที่บริเวณใกล้สำนักงานนี้ก็จะมีร้านอาหาร ร้านนั่งชิวอยู่หลายร้าน
เดินมาอีกนิดทางฝั่งซ้ายคือร้าน 7th Street และ Atoms เป็นร้านเหล้านั่งชิว ส่วนฝั่งขวาคือ The Third Place เป็นพื้นที่รวมร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ร้านอาหารภายใน เช่น Wine Republic
ตรงมาอีกนิดก็ถึงสามแยกเข้าถนนทองหล่อแล้วค่ะ ฝั่งตรงข้ามซอยคือ Taste Thonglor เป็นคอมมูนิตี้มอลล์รวมร้านอาหารอีกเช่นกัน เราจะเลี้ยวเข้าซอยทองหล่อไปดูบรรยากาศภายในซอยกันค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อมาแล้ว ฝั่งซ้ายจะเป็นคาเฟ่ Korean Dessert Cafe เป็นอีกร้านของหวานที่จะรองรับคนในย่านนี้ ส่วนถนนในซอยทองหล่อ จะใหญ่กว่าซอยเอกมัย โดยเป็นถนนไป 3 เลน กลับ 3 เลน บรรยากาศของพื้นที่ริมถนน 2 ฝั่งจึงดูจะตัดขาดจากกันมากกว่า การข้ามถนนในซอยทองหล่อก็ข้ามยากกว่าค่ะ
เดินมาอีกหน่อยฝั่งตรงข้ามจะเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ ซึ่งชั้นล่างมักจะเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือทำเป็นบริษัท ซึ่งในถนนเส้นนี้จะมีความคึกคักที่ด้านหน้าอาคารจะมีร้านอาหารรถเข็นแผงลอยมากกว่าทางฝั่งซอยเอกมัย
ถัดไปอีกนิดเป็นคอนโด Eight Thonglor ที่ 2 ชั้นล่างจะเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งผับบาร์
ภายใน Eight Thonglor มีร้านอาหารหลายร้าน เช่น Sushi Hiro, Calin French Cafe’ และมี Supermarket อย่าง Foodland นอกจากร้านอาหารก็มี Holistic Yoga ด้วยค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยก็จะผ่านธนาคารกรุงเทพ
คลินิกก็มีนะคะ ในซอยนี้จึงถือว่าค่อนข้างครบถ้วนทีเดียวสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน
ถัดมาอีกหน่อยฝั่งตรงข้ามจะมีอาคารสำนักงาน Euro Creation ที่เป็นบริษัทออกแบบเฟอร์นิเจอร์ระดับ Luxury และถัดไปคือ Service Apartment Somerest
ซึ่งอาคาร Somerest ชั้นล่างจะเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งผับบาร์ เวลากลางคืนก็จะมีไฟสว่างไสวออกมาจากภายในอาคาร ทำให้บรรยากาศในซอยทองหล่อดูคึกคักตลอดเวลา
กลับมาที่ฝั่งซ้ายจะมี Tops เป็น Supermarket อีกแห่งหนึ่งในย่านนี้ ซึ่งภายในมีร้าน Swensens, Starbuck นอกจากนี้ภายในมี Burger King ที่เปิด 24 ชั่วโมงด้วย
ถัดมาเป็นคอมมูนิตี้เปิดใหม่ใจกลางเมือง Maze Thonglor ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซน Lifestyle Cafe’, โซนร้านอาหารนานาชาติ และโซนร้านเสริมความงาม แฟชั่น สปา ฟิตเนส ส่วนชั้นดาดฟ้าเป็นร้านเหล้านั่งชิว Wine & Cocktail Bar
ตรงมาอีกนิดก็ใกล้จะถึงต้นซอยทองหล่อที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิทแล้ว ซึ่งบริเวณนี้จะมีรถค่อนข้างหนาแน่นตลอดทั้งวัน ทำให้เส้นทางลัดที่บอกในช่วงต้นรีวิว เป็นเส้นทางที่จะทำให้การเดินทางเร็วขึ้นได้ค่ะ
เดินมาจนถึงสามแยกแล้วมองไปทางขวาจะเห็นสถานี BTS ทองหล่อ ที่ติดอยู่หน้าปากซอยค่ะ
นี่คือรีวิวทำเลของคอนโด Rhythm เอกมัย โครงการใหม่จาก AP บนถนนเอกมัยโดยปัจจุบันอยู่ในช่วงสร้าง Sales office บนพื้นที่โครงการและมีกำหนดเปิด Pre-Sales ในวันที่ 8 – 11 กันยายนนี้ ซึ่งเมื่อ Sales office เสร็จเรียบร้อยหรือมีข้อมูลโครงการส่วนอื่นๆเพิ่มเติม ทางทีมงานจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำเป็นรีวิวฉบับเต็มให้อ่านกันนะคะ