รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.209 – รีวิวคอนโด Plum Condo พหลโยธิน 89
15 พฤษภาคม 2016
รีวิวฉบับที่ 1064 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมรีวิวคอนโดต่ำล้านของพฤกษา ที่ปัจจุบันพึ่งสร้างแล้วเสร็จไป ชื่อโครงการว่า Plum Condo พหลโยธิน 89 ที่ถือว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะกว่า 5 พันยูนิต บนทำเลใกล้หมู่บ้านเมืองเอก ทางเข้าโครงการติดกับถนนใหญ่พหลโยธิน ก่อนที่จะถึง Future Park รังสิต จัดเป็นคอนโดชานเมืองที่ในอนาคตจะมีส่วนของรถไฟฟ้าสายสีแดงมาให้ใช้กันได้แต่ก็ไม่ได้ใกล้มากเท่าไร เอาล่ะไปดูกันเลย..
Fact @ 20 April 2016
- Plum Condo Paholyothin 89 (พลัม คอนโด พหลโยธิน 89)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- ที่ตั้งโครงการ : เขตธัญบุรี จ.ปทุมธานี
- ที่ดินประมาณ 8 ไร่ ต่อ 1 เฟส
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 20 อาคาร (แบ่งออกเป็น 5 เฟส เฟสละ 4 อาคาร)
- เฟสที่ 1, 2, 4, 5 เป็นแบบห้อง 28 ตร.ม. จำนวน 237 ห้อง ต่อ 1 อาคาร (รวม 948 ห้อง ต่อ 1 เฟส)
- เฟสที่ 3 เป็นแบบห้อง 22 ตร.ม. จำนวน 318 ห้อง ต่อ 1 อาคาร (รวม 1,272 ห้อง ต่อ 1 เฟส)
- ที่จอดรถ 50% สำหรับเฟส 1, 2, 4, 5 และ 30% สำหรับเฟส 3 (จอดรถรอบและใต้อาคารรวมซ้อนคัน)
- ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ
- แบบห้อง 2 แบบ : PETITE – 22 ตร.ม. และ STUDIO – 28 ตร.ม.
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท หรือเฉลี่ยราคา 31,772 บาท/ตร.ม. (ห้องโปรโมชั่น)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ N/A บาท/ตร.ม. (ไม่มีข้อมูล)
- ราคาต่อตารางเมตรสูงสุด 43,545 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.970063, 100.616706
แผนที่จากทางโครงการของ Plum คอนโดนะครับ อยู่เส้นพหลโยธิน หรือหลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นถนนวิภาวดีรังสิต เพราะเป็นส่วนที่สิ้นสุดวิภาวดีรังสิตพอดี แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นถนนพหลโยธิน บริเวณปากซอยเมืองเอก และซอยพหลโยธิน 89 ก่อนที่จะถึง Future Park ครับ
ตัวทำเลของโครงการอยู่ซอยพหลโยธิน 89 ซึ่งติดกับถนนหลักอย่างพหลโยธินเลย อยู่ในโซนของรังสิตแล้วนะครับ อยู่ในตำแหน่งจุดศูนย์กลางระหว่างทางไปถนนสำคัญหลักต่างๆค่อนข้างได้ง่าย นอกจากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ในพื้นที่รังสิตก็ยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟ รถเมล์ และที่นิยมที่สุดคือรถตู้ที่มีชุมทางอยู่ที่ Future Park รังสิต ซึ่งด้วยความที่โครงการอยู่ใกล้ถนนหลักอีกทั้งปากซอยโครงการเป็นป้ายรถเมลล์ด้วย ทำให้เรียกแท๊กซี่ พี่วิน รถตู้ ได้ง่ายมาก และถ้าใครจะเข้าไปม.รังสิตปากซอยก็จะมีพี่วินและสองแถวอีกต่างหาก นอกจากนั้นเร็วๆนี้ยังมีข่าวว่าสถานีขนส่งจะทำการย้ายจากหมอชิตไปยังพื้นที่รังสิตอีกต่างหาก รวมถึงเส้นทางต่อขยายของเส้นทางรถไฟฟ้าอย่างสายสีแดงเข้มที่จะมีสถานีที่รังสิตพอดิบพอดีที่ยังคงต้องให้เวลากับการก่อสร้างซัก 2-3 ปี แต่ก็เป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าเมืองให้สะดวกยิ่งขึ้น
ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้มีพอสมควร ตามปกติทั่วไปของพื้นที่ไกลจากตัวเมืองออกมา ส่วนมากจะอยู่ตามถนนเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธินที่ถือว่าเป็นพระเอกของพื้นที่นี้ โดยจะมีสองจุดที่คึกคักหน่อยคือ เซียร์รังสิต ที่อยู่ตรงสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ จากเส้นวิภาวดีวิ่งออกนอกเมืองจะมีสะพานเลี้ยวคดไปลงยังถนนลำลูกกา ส่วนอีกจุดหนึ่งคือที่ถนนพหลโยธินเช่นกันแต่เลยมาหน่อยที่ Future Park รังสิต+Zpell ที่กำลังจะมีโรงพยาบาลเปาโลสาขารังสิตไปเปิดข้างๆกัน นอกนั้นที่รองลงมาบนถนนหลักก็จะมี BigC, โบ๊เบ๊, ตลาดสี่มุมเมือง, Tesco Lotus และใกล้เรามากๆอย่าง Makro รวมถึงร้านขายของชำที่มีอยู่ประปรายที่เป็นอาคารพาณิชย์ริมถนนพหลโยธินครับ
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ในเขตแนวของรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ซึ่งการใช้งานไม่ใช้ระยะเดินประมาณ 1.5 เมตร จากโครงการไปสถานีหลักหก แต่ว่าถ้าจะใช้จริงๆก็แค่นั่งวินหรือรถสองแถวเข้าไปในซอยพหลฯ 87 แปปเดียว ซึ่งมาเสริมในเรื่องของการเดินทางเข้าเมือง และออกเมืองไปสุดปลายสถานีที่ธรรมศาสตร์ รังสิต(ในอนาคต) ลองอ่านรูปแบบรายละเอียดของสถานีได้ที่ Official Website “คลิกที่นี่”
ทีนี้เลยขอวนเข้าไปดูบริเวณที่กำลังก่อสร้างของสถานีหลักหก ณ วันนั้นหน่อย โดยขึ้นไปถ่ายจากบนสะพานที่ข้ามแยกถนนกำแพงเพชร 6 โดยเริ่มจากฝั่ง A ก่อน
ฝั่ง A ทางตรงไปโน้นสถานีรังสิต ปลายทางธรรมศาสตร์ ปัจจุบันยังไม่มีตอม่อเสาเลย โล่งๆแบบนี้
ถัดมาฝั่ง B ที่มาจากดอนเมือง ฝั่งนี้มีตอม่อให้เห็นให้ชื่นใจกันแล้ว แต่คงต้องรอกันอีกปีๆเช่นเคย ดูจากรวมๆแล้ว
การเดินทางในวันนี้ผมขับรถบนถนนวิภาวดีรังสิตวิ่งออกเมือง ตรงยาวๆผ่านสนามบินดอนเมือง แล้วสิ้นสุดถนนวิภาวดีรังสิตมาบรรจบกับถนนพหลโยธินบริเวณหน้าตลาดโบ๊เบ๊ หลังจากนั้นตรงต่อไปออกเลนคู่ขนานจะเจอปากซอยพหลโยธิน 87 (ทางเข้าเมืองเอก) ให้เราชิดซ้ายไว้ พอเลยมานิดเดียวก็ถึงปากทางเข้าซอยโครงการ (พหลโยธิน 89) แล้วครับ
ผมเริ่มจากถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าออกเมืองไปทางดอนเมือง
เราจะวิ่งเลนใต้ทางด่วนหรือเลนขนานก็ได้ ตอนนี้ให้เน้นตามป้ายดอนเมืองเอาไว้ก่อน
ผ่านจุดตัดแยกถนนงามวงศ์วาน
ที่เห็นทางซ้ายมือที่รถติดๆนั้นเป็นสะพานกลับรถเกือกม้าไปม.เกษตรศาสตร์ครับ ติดแบบนี้เป็นประจำ
หลักจากนั้นจะผ่านจุดตัดแยกถนนแจ้งวัฒนะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะครับ
วิ่งตรงต่อมาจะเห็นสนามบินดอนเมืองอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วนะครับ ส่วนทางซ้ายมือเราจะวิ่งขนานกับถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งตั้งอยู่ใต้รถไฟฟ้าสายสีแดงในอนาคต ซึ่งเราเห็นต่อม่อที่มันใหญ่ๆเพราะว่า มันจะเป็นเลนของรถไฟฟ้า 2 เลน และก็รถไฟธรรมดาอีก 2 เลนนั่นเองครับ เค้าเลยทำไว้ใหญ่
เห็นสถานีรถไฟดอนเมือง และมีสะพานลอยข้ามไปสนามบิน หลังจากนั้นตรงไปยาวๆ
ถ้าเราเห็นโบ๊เบ๊ รังสิตแล้วเนี่ย แสดงว่าสิ้นสุดถนนวิภาวดีรังสิตแล้วนะครับ คือมาบรรจบและเปลี่ยนเป็นถนนพหลโยธินแล้ว
ถัดมานิดเดียวซ้ายมือจะเป็นบิ๊กซี ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นแลนด์มาร์คเก่าแก่ เซียร์ รังสิตนั่นเอง คงไม่ต้องบรรยายว่ามีร้านอะไรบ้างเนอะ แต่บอกเลยว่าบริเวณจุดนี้เป็นแหล่งอาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์สุดๆๆเลยล่ะ
เลยบิ๊กซีมาหน่อยนึง จะมีทางออกขนาน ตามป้ายตลาดสี่มุมเมือง ออกทางขนานเลยฮะ (เจอตลาดแหล่งของกินอีกแล้ว)
หลังจากนั้นจะเจอปั๊ม ESSO ที่ข้างในจะมีทั้ง Lotus Express และก็ Burger King ปั๊มนี้ถือว่าใกล้โครงการแล้วนะอีกประมาณ 200 เมตรกว่าก็ถึงละ
พ้นปั๊มไปจะเจอกับปากซอยพหลโยธิน 87 ซึ่งเป็นทางเข้าของไปเมืองเอก, ม.รังสิต ซึ่งภายในซอยนี้เป็นแหล่งร้านอาหารของกินของใช้เยอะมาก และก็ไม่ใช่ซอยตันนะครับ สามารถไปทะลุถึงถนนนาวงประชาพัฒนาโน่นได้เลย ที่สำคัญที่สุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ ถ้าเข้าจากปากซอยไปประมาณ 1.45 กิโลเมตรจะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีหลักหก นั่นเอง
เลยมานิดเดียวก็ถึงซอยพหลโยธิน 89 ทางเข้าโครงการแล้วครับ และติดกับป้ายรถเมลล์ด้วย
อันนี้เป็นข้อมูลในเวปไซต์ของ Plum คอนโด ว่าทำเลอยู่ใกล้อะไรบ้าง การเดินทางตรงนี้ก็เน้นสองอย่างคือ รถตู้ กับ รถเมล์ เป็นหลัก ถ้าไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
อันนี้เป็นแผนที่บริษทโดยรอบๆประมาณของโครงการนะครับ ซึ่งคนซื้อที่นี่คงไม่หวัง “วิว” อยู่แล้วล่ะ คงเน้นเป็นอยู่อาศัยธรรมดามากกว่า ลองเล็งๆกันดูนะครับ ซึ่งการเดินออกไปถนนหลักอย่างถนนพหลโยธินไม่ต้องคิดมากนะครับ เราสามารถเดินทะลุพวกแนวตึกแถวด้านหน้าได้นะครับ จะมีเว้นช่องไฟที่เป็นทางสาธารณประโยชน์อยู่ แต่ถ้ารถออกตอนนี้ยังไม่ได้นะได้แค่ 2 ทางที่ยื่นๆออกไปติดถนนพหลโยธินเท่านั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- แม็คโคร ประมาณ 400 ม.
- มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ประมาณ 500 ม.
- ตลาดสี่มุมเมือง ประมาณ 900 กม.
- บิ๊กซี ประมาณ 1 กม.
- โบ๊เบ๊ รังสิต ประมาณ 1.1 กม.
- สถานีรถไฟ หลักหก ประมาณ 1.5 กม.
- โรงเรียนสายปัญญา รังสิต ประมาณ 1.7 กม.
- โรงเรียนเซนต์โยเซฟ เมืองเอก ประมาณ 3.3 กม.
- มหาวิทยาลัย รังสิต ประมาณ 3.4 กม.
- โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ประมาณ 4 กม.
- เซียร์ รังสิต ประมาณ 4.3 กม.
- เมเจอร์ รังสิต ประมาณ 4.3 กม.
- ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต + Zpell ประมาณ 4.3 กม.
ตัวโครงการของ Plum Condo พหลโยธิน 89 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 20 อาคาร (แบ่งออกเป็น 5 เฟส เฟสละ 4 อาคาร)
– เฟสที่ 1,2,4,5 เป็นแบบห้อง 28 ตร.ม. จำนวน 237 ห้อง ต่อ 1 อาคาร (รวม 948 ห้อง ต่อ 1 เฟส) มีที่จอดรถรวมซ้อนคัน 50% เป็นที่จอดรถในร่มและนอกอาคาร โดยจะเน้นสวนใหญ่ ประมาณ 1 ไร่กว่าๆ แต่ไม่มี สระว่ายน้ำและฟิตเนส ทั้ง 4 เฟสนี้จะเป็นห้องใหญ่ ขนาด 28 ตารางเมตร
– เฟสที่ 3 เป็นแบบห้อง 22 ตร.ม. จำนวน 318 ห้อง ต่อ 1 อาคาร (รวม 1,272 ห้อง) ที่จอดรถอยู่ 30% เป็นห้องเล็ก ขนาด 22 ตารางเมตร และสวนไม่ถึง 1 ไร่ดีครับ และอัตราส่วนลิฟท์ยังหนาแน่นสุดอีกด้วย
ดูภาพประกอบของจริงจากโดรนดีกว่าจะได้เห็นภาพของจริง คือที่เค้าแบ่ง 5 เฟส เนี่ยเหมือนเป็น เฟสใครเฟสมันเลยนะครับ เพราะว่าเค้ากั้นรั้วกำแพงเอาไว้ สวนใครสวนมัน นิติแยก shop 3 ร้านค้า ต่อหนึ่งเฟส และก็ลักษณะการเรียงอาคาร A B C D ก็จะเหมือนกันทุกเฟส ซึ่งทางพฤกษาแจ้งว่าส่วนที่ต่อขยายกำลังสร้าง Plum Condo Premium อนาคตจะต่อถนนยืดไปจนทะลุซอยด้านข้าง Makro เลยล่ะ
หน้าตาเป็นแบบนี้ มี 4 ตึก ตรงกลางเป็น Courtyard วิ่งจากหน้าโครงการไปท้ายโครงการ ทิศทางการวางตัวหันห้องเข้ากับทิศเหนือใต้ตามปกติ
Floor Plan ของอาคาร A ที่เฟส 3 เป็นแบบห้อง 22 ตร.ม. จำนวน 318 ห้อง ต่อ 1 อาคาร (รวม 1,272 ห้อง) ที่จอดรถอยู่ 30% รวมซ้อนคัน มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ไม่มี Service Lift อัตราส่วนลิฟท์ 159:1 ถือว่าสูงมากพอสมควรเลยล่ะ ภายในอาคารมีบันไดหนีไฟ 3 จุด ทางเดิน Corridor เป็นเส้นแนวยาวตรงๆ ทำให้ช่องแสงมาจากหัวท้ายทั้งสองฝั่ง และก็บริเวณหน้าโถงลิฟท์ตรงกลาง มาดูชั้นแรกมีทั้งที่จอดรถและห้องพักอาศัยด้วย ความหนาแน่นยูนิตอยู่ที่ 18 ยูนิต / ส่วนชั้นที่ 2 ความแน่นอยู่ที่ 42 ยูนิต เนื่องจากมีพื้นที่ Double Volume จาก Lobby เลยเสียห้องไปห้องนึง / สุดท้ายชั้นที่ 3-8 จำนวนความหนาแน่นทำลายสถิติเลยอยู่ที่ 43 ยูนิตต่อชั้น โอว้คุณพระ..
ส่วน Floor Plan ของเฟส 1, 2, 4, 5 ชั้นแรกจะไม่มีห้องพักอาศัยนะครับ จะมี Shop ร้านค้า 3 ยูนิต, ห้องนิติฯ และก็ที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด ส่วนของห้องพักอาศัย เป็นแบบห้อง 28 ตร.ม. จำนวน 237 ห้อง ต่อ 1 อาคาร (รวม 948 ห้อง ต่อ 1 เฟส) เริ่มที่ชั้นสองมีจำนวนความหนาแน่นอยู่ที่ 33 ยูนิต / ส่วนชั้น 3-8 จำนวนความหนาแน่นอยู่ที่ 34 ยูนิต จริงๆก็ถือว่าสูงนะ แต่ถ้าไปเทียบกับเฟส 3 แล้วก็ดูดีขึ้นมาเลย ทั้ง 4 เฟสนี้มีที่จอดรถรวมซ้อนคัน 50% เป็นที่จอดรถในร่มและนอกอาคาร ส่วนอัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 118:1 ถือว่าพอรับได้อยู่
เลี้ยวเข้ามาซอยพหลโยธิน 89 แล้วจะเจอสภาพถนนซอยเป็นแบบนี้
หันมามองทางซ้ายมือตอนนี้เป็นที่จอดรถของผู้มาเยี่ยมชมโครงการที่อาคารสำนักงานขายทางขวามือ
ส่วนขวามือจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ยาว หลายๆสิบห้องเลยละ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกร้านอุปกรณ์ ร้านซ่อมรถ ร้านรับซื้อของต่างมากกว่า
ภายในสำนักงานขายเป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่งแบบนี้ ช่วงนี้คนเยอะหน่อย วันที่ไปคนมาเร่งโอนก่อนหมดมาตราการรัฐ วันที่ 28 เมษายน
ออกจากสำนักงานขายมาแล้วมุ่งหน้ามาต่อ ถนนส่วนต่อไปนี้ก็จะยังเป็นถนนสาธารณะประโยชน์ทั้งหมดเลยนะครับ แต่ว่าทางพฤกษาเค้ามาปรับปรุงทำให้ใหม่
มาถึงวงเวียน ส่วนนี้จะแยกออกเป็นเฟสๆแล้วนะครับ เฟสใครเฟสมัน เฟสละ 4 อาคาร กั้นรั้ว แยกสวน แยกนิติบุคคล
ให้ดูมุมสูงจากโดรนประกอบกันอีกทีครับ จะได้ไม่งง ตอนนี้ผมอยู่ตรงวงเวียนหน้าเฟส 1
ถนนเมนที่กว้าง 27 เมตร มีเกาะกลาง จะเห็นว่าทางขวามือล้อมรั้วเมทัลชีทเอาไว้ อนาคตจะเป็นอาคารพาณิชย์เปิดขาย ซึ่งถ้าสร้างเสร็จเปิดขายก็จะเป็นผลดีต่อลูกบ้านนะครับ ถ้าเป็นรวงร้านอาหารการกิน ร้านขายของใช้ดำรงชีวิตประจำวัน อะไรพวกนี้ก็ง่ายเลย เดินออกมาแค่ตรงนี้เอง
ป้ายสัญลักษณ์ของโครงการจะมีแบบนี้ 5 ป้าย ตามเฟสครับ
ทางเข้าเฟส 1 จะโค้งไปทางซ้ายแบบนี้ เลยเอากรวยมาวางไว้แยกทางเข้ากับทางออก
ทางเข้ามีป้อมรปภ.กั้นอยู่ตรงกลาง เป็นระบบ Keycard แตะเพื่อเปิดรั้วกั้นไม้กระดก
บริเวณทางเข้าก็จะมี CCTV ติดตั้งอยู่ 2 ตัวทั้งขาเข้าและออก
ก่อนจะเข้าหันมามองทางขวา จะเป็นสวนหย่อมภายในโครงการที่อยู่ติดกับถนเมน มีปลูกต้นไม้เอาไว้ให้บางส่วนและมีไฟส่องสว่างตามทางเดิน
ภายในก็จะมีเก้าอี้ก่อคอนกรีตหน้าตาแบบนี้ให้หลายจุด เอาไว้มานั่งพักผ่อนยามเย็น หรือลงมานั่งเล่น Free Wifi ได้
กึ่งกลางจะเป็นพื้นลดสเต็มลงไปสองขั้น เหมือนเป็นลานอเนกประสงค์เล็กๆ
มองไปช่องว่างระหว่างอาคาร ที่ระยะห่างประมาณ 12 เมตร จะเป็นเก้าอี้คอนกรีตก่อ สลับกับสวน มีไฟส่องสว่างเป็นเสาให้เป็นจุดๆ ยาวไปจุดสุดทาง
แต่ละเฟสเค้าจะมี Shop Unit ร้านค้า เอาไว้ให้ติดต่อเช่าแบบนี้ 3 ยูนิตนะครับ ยังไม่คอนเฟิร์มว่าเป็นร้านอะไร
มีป้าย Signage บอกตำแหน่งของอาคารภายในเฟส
ที่เฟส 1, 2, 4 และ 5 จะจอดรถกลางแจ้งและก็ใต้อาคารได้เลย ถนนช่วงนี้จะกว้างหน่อยเพราะว่ารถสวนกันสองเลน และมีจอดกลางแจ้งด้วย
ทางซ้ายมือเป็นรั้วกำแพงของโครงการ ที่เป็นรั้วทึบทาสีเทา สูงประมาณ 2.5 เมตร สลับกับแนวต้นไม้และเสาไฟ ทำให้ไม่ดูทึบกลืนจนเกินไป
ห้องนิติบุคคลจะอยู่กึ่งกลางของอาคาร A และมีทางเข้ารถใต้อาคารปูด้วยคอนกรีตพิมพ์ลาย ความสูงเข้าใต้อาคารที่จอดรถไม่เกิน 2.10 เมตร
ภายในอาคารส่วนของที่จอดรถปูด้วยคอนกรีตขัดมัน ด้านบนเพดานจะเห็นพวกส่วนของงานท่อระบบต่างๆ และก็มีไฟส่องสว่างให้เวลากลางคืน
มีตู้กันอัคคีภัยเป็นระยะๆ และมีส่วนสำหรับช่องจอดรถมอเตอร์ไซค์
ระหว่างอาคารก็จะมีส่วนของทางเข้า Lobby ซึ่งมีป้ายบอกเอาไว้ว่าเป็นตึกไหน
มองจากภายนอกประตูทางเข้าจะเห็นได้ชัด Lobby เป็น Double Volume 2 ชั้น ซึ่งตรงนี้จะเป็นช่องแสงที่เป็นผนังกระจก และกระจกเป็นสีเขียวตัดแสงช่วยกรอง UV ได้บางส่วน
เข้ามาด้านในแล้ว Lobby ตกแต้งผนังลวดลายไม้ มีโคมไฟเก๋ๆอยู่ใจกลาง ที่เห็นผนังเป็นไฮกลอสสีดำนั่นคือ Mail Box ที่อยู่ด้านหลัง เค้าติดตั้งหน้าบานบังเอาไว้ให้ดูเรียบร้อย
ลองเปิดออกให้ดูเป็นประมาณนี้
ส่วนของโถงหน้าลิฟท์จะมีชุดเก้าอี้นั่งเล่นแบบบาร์ ประมาณ 4 ที่นั่ง เอาไว้ใครอยากใช้ฟรี Wifi ก็ลงมานั่งเล่นตรงนี้และตากแอร์ไปในตัวครับ 😀
ทางเข้าลิฟท์โดยสาร ตรงกลางจะมีติดป้ายสัญลักษณ์แปลนชั้น
หน้าตาภายในลิฟท์ ภายในมี CCTV ให้ ลิฟท์ใช้ของ Schindler ต้องแตะคีย์การ์ดลูกบ้านถึงจะขึ้นได้นะครับ เป็นแบบล็อกชั้น
ขึ้นมาแล้ว โถงหน้าทางเดินลิฟท์จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ส่องมาตามทางเดิน กลางวันตรงนี้ไม่ต้องเปิดไฟยังได้เลย
หันไปอีกด้านจะเป็นสามแยก ซึ่ง Corridor ทางเดินจะเป็นเส้นตรงแนวยาว
โถงทางเดินกว้างประมาณ 1.5 เมตร ช่องแสงจะอยู่ที่ปลายสุดของอาคาร มีป้ายบอกบันไดหนีไฟ
จุดนี้เป็นบันไดหนีไฟใหญ่ที่อยู่ด้านหลังลิฟท์ครับ ด้านข้างๆจะมีห้องทิ้งขยะและก็ห้องงานระบบไฟ
จุดบันไดหนีไฟเล็กอีก 2 จุด ด้านหน้าก็จะมีตู้กันอัคคีภัยให้แบบนี้
ช่องแสงที่ปลายทางเดินตึก เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 ตอน และก็บานฟิคด้านล่าง
ทีนี้.. ผมจะพามาดูภายในเฟส 3 กันบ้าง ที่ไม่เหมือนชาวบ้านเฟสอื่นๆเค้า
คือเฟส 3 เนี่ยก็ยังมีที่จอดรถใต้อาคารอยู่นะครับ แต่..อย่างที่บอกไปว่าสวนรอบเฟสจะน้อยกว่า 1 ไร่ และรวมถึงที่จอดรถด้วยจะมีแค่ 30% รวมซ้อนคัน
มาเดินดูตรงใจกลางระหว่างอาคารกันบ้าง ก็คล้ายกับเฟส 1 เดี๋ยวจะมีการลงต้นไม้เพิ่มอีก ทางเซลล์แจ้งเอาไว้
ชั้น 1 มีห้องพักอาศัยแล้วใครที่เลือกชั้น 1 จะเสียความเป็นส่วนตัวไประดับนึง แต่ก็แลกความคุ้มค่าด้วยราคาที่ถูกกว่า
หน้าตาภายนอกทางเข้าโถง Lobby ไม่เหมือนกันกับเฟสอื่นๆ
เข้ามาด้านใน Lobby แล้ว ก็ยังเป็น Double Volume เหมือนกันนะ แถมดูใหญ่และกว้างกว่าด้วย
ถ่ายย้อนกลับไปอีกด้าน เฟสนี้หน้าบานตู้ Mail Box เป้นลามิเนตลายตารางไม้ๆแบบนี้
ส่วนของประตูทางเข้าโถงทางเดินห้องที่พักอาศัยในชั้น 1
ภายในโถงทางเดิน จะมีช่องแสงและลมที่ถูกเจาะผนัง มองออกไปจะเป็นที่จอดรถใต้อาคารครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนประมาณ 1 ไร่ ต่อเฟส
- Lobby Double Volume
- Free Wifi 100 MB ในสวน และโถงล็อบบี้
- Shop ร้านค้า 3 ยูนิต ต่อ 1 เฟส
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร (อัตราส่วนลิฟท์ เฟส 1,2,4,5 ที่ 118:1 และ เฟส 3 ที่ 159:1)
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถ 50% สำหรับเฟส 1, 2, 4, 5 และ 30% สำหรับเฟส 3 (จอดรถรอบและใต้อาคารรวมซ้อนคัน)
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่าง ณ ปัจจุบัน เป็นการขายแบบ Fully Furnish นะครับ ได้เฟอร์นิเจอร์ตามภาพในห้อง และก็ติดวอลเปเปอร์ให้ด้วย ที่ไม่ได้ก็จะมีพวกพร๊อพตกแต่งเล็กๆ แอร์ Hob&Hood เครื่องใช้ไฟฟ้า และก็ฉากกั้นอาบน้ำครับ ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.50 เมตร
เริ่มจากห้อง PETITE – 22 ตร.ม กันก่อนครับ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโซนครัวก่อน จะมี Pantry มาให้ทางซ้ายมือมีแต่ซิงค์อย่างเดียว ติดกันเป็นพื้นที่วางตู้เย็น ฝั่งตรงข้ามชุดครัว จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งแยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้แต่ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมา ออกมาด้านนอกจะเป็น Living Area ที่วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะกลางซึ่งมีระยะดูทีวีที่กำลังดี ส่วนเวลาทานข้าวก็จะเป็นชุดโต๊ะที่พับยืดและเก็บมาจากชั้นวางทีวีได้เป็น 2in1 ติดกันที่นอนคงวางเตียงใหญ่สุดได้แค่ไวส์ 5 ฟุต ซึ่งก็เหลือเฟือสำหรับขนาดห้องนี้แล้ว แต่จะวางโต๊ะหัวเตียงได้ฝั่งเดียว เตียงชิดผนังด้านนึง ส่วนปลายเตียงเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง และทางเดินออกไปประตูระเบียง ซึ่งระเบียงยาวตามหน้ากว้างของขนาดห้องและกว้างประมาณ 60 ซม.(รวมรางระบายน้ำ) น่าจะพอวางเครื่องซักผ้าไซส์เล็กได้
เข้ามาในส่วนของห้องเริ่มต้นจากพื้นเป็นลามิเนต 8 mm. ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.50 เมตร ไฟในห้องจะเป็นโคมไฟซาละเปา ซ้ายมือเป็น Pantry ครัว ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ (รูปขวา)คือยืนถ่ายย้อนกลับมาที่ประตูทางเข้า
ชุดครัวหน้าตาแบบนี้ ได้เป็น Pantry จัดเตรียมอาหาร และมีอ่างล้างจานให้เท่านั้น ด้านบนมีเชลฟ์ชั้นวางของแบบเปิดโล่งอยู่ 2 ชั้น ถ้าอยากใช้พื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่าก็ Built เป็นตู้ให้เต็มผนังเอาไว้เก็บอุปกรณ์ครัวให้เต็มที่ไปเลยครับ
Top ครัวเป็นลามิเนต กันน้ำได้ระดับนึงสีไม้โอ๊ค รอบๆมีตัวจบให้ ผนังด้านหลังเป็นฉาบเรียบทาสีธรรมดา ถ้าใครคิดจะทำอาหารทานเองบ่อยๆ หากระเบื้องมาติก็ดีครับจะได้ทำความสะอาดง่าย และไม่ดูเป็นคราบเลอะด้วย
ด้านล่างมีชุดตู้เก็บของได้ตามนี้ และมีช่องวางไมโครเวฟด้วย ผมชอบให้มันอยู่ด้านล่างนะ หยิบใส่เวลาใช้งานง่ายกว่าอยู่ด้านบน อันตรายด้วย
ด้านข้างติดกับ Pantry เป็นที่วางตู้เย็นซึ่งมีระยะประมาณ 70 ซม. ยังไงก็ควรเหลือเผื่อให้ระบายความร้อนอย่างต่ำข้างละ 5 ซม. นะครับ
ฝั่งตรงข้ามกับครัวเป็นประตูส่วนทางเข้าห้องน้ำ ด้านบนมีชุดคัตเอาท์ไฟอยู่
ห้องน้ำมีธรณีจบเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำแบบนี้สูงขึ้นมาแค่ประมาณ 2-3 ซม.เท่านั้น ส่วนพื้นห้องน้ำ ภายในเป็นพื้นกระเบื้องเคลือบไซส์ 20 x 20 cm.
ภายในห้องน้ำแยกการใช้งานเป็นจุดๆถึงแม้วัสดุจะดูธรรมดาๆ แต่ก็มีมาให้ครบนะ อ้อ.. ยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำนี่ไม่ได้ครับ
อ่างล้างมือของ American Standard ทรงทั่วไปไม่มีชุดตู้ด้านใต้
สุขภัณฑ์รุ่นล่างของ American Standard หน้าตาอาจจะไม่ทันสมัยเท่าไร แต่ก็ใช้งานได้ตามปกติ ได้มาตรฐานแน่นอนครับ
พื้นที่อาบน้ำระยะประมาณ 0.8 x 0.8 เมตร ห้องของจริงจะลดระดับพื้น (บริเวณส่วนเปียก) ลงประมาณ 3 ซม. ครับ
หน้าตาชุดฝักบัว ข้างๆมีที่วางสบู่แบบก้อนเดียวมาให้ ไปหาซื้อติดผนังเพิ่มเองก็ได้ ด้านหลังเตรียมติดตั้งชุดเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้
ถัดมาเป็นส่วนของ Living Area อยู่ก่อนถึงเตียงนอน
โดยโซฟาถูกวางเอาไว้ชิดผนังฝั่งเดียวกับหัวเตียง เป็นแบบ 2 ที่นั่งและมีที่วางแขน อบอุ่นๆกันหน่อย โดยมีโต๊ะกลางเล็กๆเอาไว้ให้ด้วย
พอวางตำแหน่งนี้ทำให้ได้ระยะดูทีวีที่ค่อนข้างโอเคเลยประมาณ 2.4 เมตร และเหลือเป็นทางเดินไปมาได้สะดวกด้วย
ชั้นวางที่วีและชั้นวางของด้านบนที่ได้เป็นแบบนี้ ด้วยระยะดูทีวีของห้องนี้ ควรจัดทีวีไซส์ประมาณ 40-50 นิ้ว น่าจะเหมาะสมครับ กำลังดีเลย
ทีนี้เจ้าชั้นวางทีวีเนี่ย มันมีลูกเล่นแปลงร่างเป็นโต๊ะได้น่ะสิ
เลยเป็นเฟอร์นิเจอร์ฟังก์ชั่น 2 in 1 เป็นโต๊ะทานข้าวเล็กๆในตัว ซึ่งก็ดีกว่าไปนั่งทานตรงโซฟาและโต๊ะกลางแน่นอน
ถัดมาปลายเตียงจะเป็นพื้นที่วางชุดโต๊ะเครื่องแป้งแบบสำเร็จรูป ติดกันเป็นตู้เสื้อผ้า ทั้งคู่เป็นเซ็ตสีทูโทนเหมือนกัน
ภายในตู้เสื้อผ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าอยู่คนเดียวก็น่าจะพอได้อยู่ครับ
ส่วนของเตียง โครงการเลือกมาแบบ 5 ฟุต ซึ่งเอาฝั่งนึงชิดผนังเอาไว้ พอมีพื้นที่วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ 1 ตัวเท่านั้น
อันนี้เป็นไอเดียเฉยๆนะครับ การติดกระจกเงาเพิ่มที่ผนังแบบนี้ จะช่วยให้ห้องเราดูใหญ่ขึ้นครับผม จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด ของเดิมที่โครงการให้เราเป็นติดวอลเปเปอร์มาให้ครับ
สุดทางเดินที่ปลายเตียง จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียง ซึ่งเราไม่ได้แอร์นะครับ ถ้าจะติดก็ติดตำแหน่งนี้ล่ะผมว่าดีแล้ว ห้องไซส์นี้เลือกแอร์ประมาณ 12,000 – 15,000 BTU กำลังดีครับ
ตัวพื้นทางออกเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมา ถ้ารวมวงกบแล้วด้วยก็จะสูงประมาณ 12 ซม. แบบนี้กันน้ำเวลาฝนสาดหรือซักล้างได้ชัวร์ แต่เดินเข้า-ออกก็ระวังสะดุดหน่อยครับ
หน้าตาตัวมือจับและล็อกแบบเซาะร่อง เป็นสีอลูมิเนียมอบขาวธรรมดา
ออกมาที่ระเบียงละ ซึ่งระเบียงกว้างประมาณ 60 ซม. (รวมรางระบายน้ำ) ที่ผนังด้านข้างมีติดปลั๊กมีฝาครอบกันน้ำเอาไว้ให้ ระยะขนาดนี้วางตู้ซักผ้าขนาดเล็กพอได้อยู่นะครับ
ถ้าจะติดคอมแอร์ก็ทำแบบนี้เลย แขวนเอาไว้ด้านบนและหันลมร้อนออกน่าจะดีสุด ส่วนโคมไฟที่ระเบียงก็เป็นแบบซาละเปาเช่นกัน
ห้องตัวอย่างอีกแบบคือแบบ STUDIO ขนาด 28 ตร.ม. ที่จะมีออยู่แค่ที่เฟส 1, 2, 4, 5 เท่านั้น โดยของที่ให้ก็จะเหมือนเดิมเลยได้เฟอร์นิเจอร์หมดรวมถึงวอลเปเปอร์ ยกเว้น พร๊อพ, แอร์, ฉากกั้นอาบน้ำ และ ฉากกั้นระหว่างครัวกับระเบียง ไฟในห้องเป็นแบบโคมซาละเปา
พอเข้ามาในห้องจะเจอกับ Living Area ก่อน ห้องตัวอย่างวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จากที่ดูแล้วสามารถปรับเปลี่ยนเป็น 3 ที่นั่งได้มีพื้นที่พอ หันมามองทางซ้ายนิดนึงจะมีพื้นที่โซนรับประทานอาหาร วางโต๊ะแบบ 2 ที่นั่งเอาไว้ให้ ซึ่งลองกางเก้าอี้ออกมาแล้วมีระยะที่ใช้งานได้ไม่ติดผนัง ส่วนพื้นบริเวณที่วางเตียงนอนถ้าดูจากแปลนเราสามารถกั้นผนังให้แยกส่วนเป็น 1 Bedroom ได้เลยนะครับ มีหน้าต่างช่องแสงอยู่กลางห้อง ส่อนห้องน้ำและครัวมีประตูทางเข้าอยู่ติดกับบริเวณชั้นวางทีวี พื้นที่นี้เป็นส่วนใช้งานหนักพื้นเลยเป็นกระเบื้องแทนทั้งหมด ตรงครัวที่เชื่อมต่อกับระเบียงนั้นไม่มีประตูฉากกั้นมากให้(เอ้ออ กลายเป็นครัวเปิด… เปิดกลิ่นออกไปนอกระเบียงไปเลย) ตรงนี้ถ้าใครตากผ้าเองในห้องจะเจอปัญหาทำอาหารกลิ่นจะลอยไปติดผ้าได้ ถ้ามีงบแนะนำติดฉากกั้นเพิ่มไปเลยครับ
เข้ามาในห้องจะเจอกับ Living Area ก่อน และเชื่อมกับต่อกับพื้นที่นอนถัดไป
ลองมายืนตรงกลางห้องและถ่ายย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่ามีระยะดูทีวีประมาณ 2.6 เมตร และมีโต๊ะกลางตั้งอยู่เดินไปมาได้เหลือเฟือ
ด้านข้างประตูทางเข้าเป็นส่วนของโต๊ะเก้าอี้นั่งทานอาหาร เป็นแบบ 2 ที่นั่งแบบนี้
ซึ่งผมลองกางเก้าอี้ออกมาให้ดูว่าเวลาใช้งานจริง ก็ใช้ได้ ไม่ได้ติดผนังอะไร แต่คงวางกับข้าวเยอะไม่ได้นะ แห่ะๆ
โซฟาที่โครงการเลือกมาเป็นแบบ 2 ที่นั่งซึ่งจะเห็นว่าทางขวามือยังมีพื้นที่เหลือ เราอาจจะปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบ 3 ที่นั่งหรือโซฟารูปตัว L ก็ได้นะครับ ตรงกลางมีโต๊ะกลางเล็กหน้าตาแบบนี้มาให้
ชั้นวางทีวีที่มีระยะดูทีวีประมาณ 2.6 เมตร เวลานั่งบนโซฟา จะเห็นระยะประมาณนี้ คิดว่าเลือกทีวีไซส์ 50 นิ้ว กำลังดี ด้านข้างทางขวา เหลือพื้นที่ว่างอยู่ ตรงนี้แนะนำหาซื้อเป็นชั้นวางรองเท้า หรือ ถ้าเป็นสุภาพสตรีคนไหนมีของเยอะก็ Built-In จากพื้นถึงฝ้าไปเลยก็ได้ครับใช้พื้นที่คุ้มค่า เอาไว้เป็นคลังแสงเก็บรองเท้าและกระเป๋าได้ 😀
ลองเปิดหน้าบานชุดชั้นวางทีวีให้ดู
ถัดมาเป็นโซนของห้องนอน ซึ่งที่เค้ากั้นส่วนยื่นออกมาเล็กน้อยของจริงไม่มีนะครับ เค้าทำให้ดูเป็นไอเดียว่า เราสามารถกั้นส่วนเป็น Semi แบบนี้ให้แยกโซน หรือถ้าเอาให้สุด ก็กั้นฉากผนังกระจกบานเลื่อนไปเลยครับ ห้องเราก็จะแปลงร่างเป็น 1 Bedroom ได้เลย
เตียงเลือกเอาไปชิดผนังด้านนึงเหมือนเดิม โดยจะมีพื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือพอวางโต๊ะหัวเตียง 1 ตัว ส่วนระยะทางเดินปลายเตียงเหลือประมาณ 55 ซม.
เตียงมีช่องเก็บของแบบเปิดโล่งแบบนี้ด้วย
ปลายเตียงนั้นเป็นพื้นที่วางพวกตู้เสื้อผ้า และชั้นวางเก็บของต่างๆ ทำเป็นชุดโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะ
หน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอนบน ด้านล่างฟิคปิดตาย วงกบเป็นอลูมิเนียมอบขาวธรรมดา ได้แสงธรรมชาติได้อยู่ไม่เล็กไม่ใหญ่
ประตูทางเข้าส่วนของครัว จะอยู่ด้านข้างพื้นที่ชั้นวางทีวี แอร์เราไม่ได้นะครับ แต่ติดตำแหน่งนี้ก็น่าจะดีอยู่จุดศูนย์กลางห้องพอดี
พอเข้าส่วนของครัว เป็นพื้นที่ใช้งานหนัก พื้นจะถูกเปลี่ยนเป็นกระเบื้องไซส์ 30 cm. แต่ธรณีจบกับนั่งเล่นดันเป็นลามิเนต ยังไงเวลาทำความสะอาดก็ต้องระวังกระเด็นมาฝั่งนี้
พื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 60 cm. จะอยู่ติดกับหน้าห้องน้ำ ติดกันเป็น Pantry ชุดครัว ซึ่งหน้าตาคล้ายๆห้องแบบ 22 ตร.ม. แต่ชั้นวางด้านบนมีปิดหน้าบานให้
ชั้นวางของด้านบนมีทั้งแบบเปิดโล่งและปิดหน้าบานแบบนี้
Top ครัวเป็นลามิเนตเหมือนเดิม ลายต่างไปนิดหน่อย มีพื้นที่พอเตรียมอาหารนิดหน่อย พอวางกระทะไฟฟ้าได้
เอิ่ม.. ด้านข้าง Pantry ครัวมันเหลือพื้นที่ครับ หาหรือติดตั้งชั้นวางเก็บของอุปกรณ์เพิ่มมาก็ได้นะ ผมว่าที่ให้มาเดิมไม่พอเก็บของหรอก
ส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับโซนระเบียง ประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นส่วน ห้องจริงมาตรฐานเราไม่ได้นะ (>_<) กลายเป็นครัวเปิดโล่งติดกับระเบียงไปเลย ตรงนี้ถ้าใครตากผ้าเอง จะเจอปัญหาทำอาหารกลิ่นจะลอยไปติดผ้าได้ ถ้ามีงบแนะนำติดฉากกั้นเพิ่มไปเลยครับ
คือระเบียงมีพื้นที่พอจะวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานได้นะ แต่ก็กินพื้นที่ไปครึ่งนึงล่ะ
พื้นที่ระเบียงเต็มๆขนาดประมาณ 1.1 x 1.5 เมตร
ด้านบนคอมแอร์หันทิศทางเข้าหาห้อง ผนังมีปลั๊กไฟมีฝาครอบกันน้ำมาให้
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นครบ 3 ประการใช้งาน พื้นในห้องน้ำทั้งหมดเป็นกระเบื้องไซส์ 20 cm. ทางเข้ามีธรณีจบกระเบื้องแกรนิตสีดำเหมือนเดิม ในรูปนี้ที่เห็นไม่ได้จะมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำ และก็ชั้นวางติดผนังที่อยู่ด้านบนอ่างล้างมือครับ
ไฟในห้องน้ำของจริงได้โคมไฟซาละเปาใหญ่ 1 ดวง ถ้าเราติดเพิ่มเองแบบห้องตัวอย่าง จะทำให้ห้องน้ำสว่างขึ้นมาก
ผนังด้านข้างติดกระจกเงาขนาดใหญ่เอาไว้ให้ ด้านหลังทำเป็น Low Wall ก่อผนังยื่นออกมา เป็นชั้นวางของจุกจิกได้
ชุดอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์เหมือนกัน
พื้นที่ส่วนเปียกนั้นลดระดับพื้นลงประมาณ 2-3 ซม. โดยมีพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.2 เมตร กำลังดี
หน้าตาชุดฝักบัวเหมือนกับห้องไซส์ 22 ตร.ม.ครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 April 2016
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 900 บาท
- ทำสัญญา 4900 บาท
- ผ่อนดาวน์ 10 งวด(แบบบอลลูน) งวดปกติ 8 งวดๆละ 2,000 บาท, งวดพิเศษ 2 งวดๆละ 9,900 บาท
- ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Plum พหลโยธิน 89 เป็นคอนโดที่เน้นราคาเป็นหลัก กับตลาด Super Economy ในราคาเริ่มต้นแถวๆ 31,772 บาท/ต่อตารางเมตร(แต่นี้เป็นราคาห้องโปร) ซึ่งห้องปกติทั่วๆไปราคาอยู่ที่แถว 35,xxx บาท/ตร.ม. ก็ยังถือว่าถูกอยู่ดี ซึ่งหากเทียบราคาต่อทำเลแล้วก็จัดได้ว่าเหมาะสม เพราะเป็นคอนโดชานเมืองในเขตปทุมธานี ใกล้ย่านชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวรังสิต กับห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง Future Park รังสิต+Zpell มีมหาวิทยาลัยดังใกล้เคียง 3 แห่ง คือ ม.รังสิต, ม. กรุงเทพฯ และ ม. ธรรมศาสตร์ ทำให้ทำเลนี้ค่อนข้างเจริญและพัฒนาไปพอสมควรในช่วง 10 ปีให้หลังตั้งแต่ธรรมศาสตร์ย้ายมาอยู่รังสิตครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ทำได้สะดวกเพราะเส้นทางมีให้วิ่งด้วยกันถึง 20 เลน จัดเป็น Super Highway + ทางยกระดับลอยฟ้า (แต่ลอยฟ้าต้องเสียเงิน 80-100 บาทต่อเที่ยว) ซึ่งเป็นถนนใหญ่เส้นสำคัญอันดับต้นๆของประเทศไทย แต่ตรงนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี ข้อเสียก็มีบ้างคือเรื่องที่กลับรถ กลับรถเข้าเมืองไม่ไกลจากหน้าโครงการเท่าไรแต่รถจะติด แต่ที่หนักกว่าคือการกลับรถจากนอกเมืองฝั่งรังสิต เพราะจะต้องไปอ้อมที่จุดกลับรถหน้าลำลูกกา – พหลโยธิน 62 ซึ่งตรงนี้มักจะมีปัญหาการจราจรบ่อยครั้ง บางทีอาจจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ต้องพึ่งพารถตู้และรถเมล์ ซึ่งสะดวกและใช้กันประจำอยู่แล้วสำหรับชาวรังสิต ยิ่งมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการก็ยิ่งสะดวก เป็นได้ทั้งที่จอดรถตู้และรถเมล์ แต่ถ้าหวังจะพึ่งรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ก็คงจะต้องรอกันนานหน่อย เพราะว่ายังไม่มาง่ายๆในเร็วๆนี้ คาดว่าน่าจะอีกประมาณ 2-3 ปีเลยล่ะ คนที่ไม่มีรถก็ต้องนั่งรถเมล์รถตู้กันไปก่อนนะครับ ซึ่งถึงรถไฟฟ้ามาจริงก็ไม่สามารถเดินไปขึ้นไหว เพราะอยู่สุดซอยเมืองเอก ห่างไป 1.5 กิโลเมตร จะต้องนั่งพี่วินไปต่อรถไฟฟ้า ซึ่งมั่นใจได้เกิน 1000% ว่าจะต้องมีพี่วินประจำคอนโดมารับมาส่งถึงหน้าประตูแน่นอน
วัสดุของโครงการนี้ทำออกมาแบบพอประกอบเป็นห้องได้เฉยๆ คือใช้สเปคที่ดูแล้วไม่น่าเกลียดจนเกินไป เช่นยังใช้พื้นลามิเนตอยู่ ไม่ได้ปูกระเบื้องยาง สุขภัณฑ์ก็ยังใช้ที่มียี่ห้อ American Standard ไม่ได้ไปเอาสุขภัณฑ์ไร้มาตรฐาน เนื่องจากต้องการทำต้นทุนให้ถูก ก็ต้องลดไปหลายๆอย่าง เช่นฉากกั้นห้อง, เคาน์เตอร์ครัว, ฉากกั้นอาบน้ำ หรือแม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศครับ
แบบของโครงการก็จัดมามีความหนาแน่นสูง ซึ่งเฟส 1, 2, 4, 5 จัดว่าอยู่ในระดับที่พอรับได้ อัตราส่วนลิฟท์ไม่แย่ อยู่ที่ 100 ต้นๆต่อ 1 และมีที่จอดรถให้ประมาณ 50% แต่สำหรับเฟส 3 ซึ่งลดขนาดห้องเหลือ 22 ตารางเมตร ความแออัดจะเพิ่มขึ้นเยอะ อัตราส่วนลิฟท์ไปเกือบ 160 ห้องต่อ 1 และที่จอดรถเหลือแค่ 30% ทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับคนที่จะใช้รถยนต์นะครับ บอกตรงๆได้ว่าถ้าใครมีรถก็จองเฟส 1, 2, 4, 5 ดีกว่าครับ
สุดท้ายคือเรื่องสาธารณูปโภค ที่ถอดพวกสระว่ายน้ำและฟิตเนสออกไป ให้สวนสาธารณะประมาณ 1 ไร่ต่อเฟสมาแทน สวนนี้ก็ใช้กันทั้งสิ้น 5 อาคาร ส่วน Wifi ทางโครงการได้รับการสนับสนุนจาก True ให้ใช้ฟรี 100 MB ค่าส่วนกลาง, ค่าบริการสาธารณะที่ต้องจ่ายคือ 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนนะครับ รวมแล้วประมาณ 980 บาทต่อเดือน ถ้าใครไม่ได้ใช้เน็ตมากๆ หรือเน้นเร็วจัดๆ ก็สามารถลงมาใช้ที่ส่วนกลางได้ครับ
คอนโด Plum พหลโยธิน 89 จึงจัดเป็นทางเลือกของคนที่มีงบน้อย แต่ไม่อยากอยู่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ลึกๆ เข้าไปในรังสิตคลอง 3 คลอง 4 หรือฝั่งเดียวกันอย่างรังสิต-ปทุมธานี ยอมเลือกลดขนาดพื้นที่ใช้สอยลง แลกกับความสะดวก และความคล่องตัวมากขึ้น ด้วยทำเลติดถนนใหญ่ ช่วยลดปัญหารถติดตอนชั่วโมงเร่งด่วนของถนนรังสิต-องครักษ์ได้ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาตร.ม.ละประมาณ 35,000 บาท/ตร.ม., 20 April 2016
- ทำเล 8.5/10 – ราคานี้ ทำเลนี้ โอเคมากๆ
- เดินทางด้วยรถ (เฟส 1, 2, 4, 5) 8/10 – เดินทางสะดวก ที่กลับรถอาจไกลไปนิดนึง
- เดินทางด้วยรถ (เฟส 3) 7/10 เพราะที่จอดรถน้อย
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ป้ายรถเมล์หน้าโครงการ รถตู้เยอะแยะ เรียก Taxi ง่ายใกล้ถนนใหญ่ อนาคตรอรถไฟฟ้าสายสีแดงไม่ได้ใกล้มากแต่ใช้ได้
- วัสดุ 7/10 – มาตรฐานใช้ของตามราคา
- แบบ (เฟส 1, 2, 4, 5) 7/10 – แบบทำออกมาได้โอเคทั้งคู่ จัดฟังก์ชั่นและพื้นที่ลงตัว แต่มีความหนาแน่นสูงพอสมควร
- แบบ (เฟส 3) 6/10 เพราะมีความหนาแน่นสูงกว่ามาก อัตราส่วนลิฟท์เยอะกว่าด้วย
- สาธารณูปโภค 7/10 – สวนใหญ่ Free Wifi แต่ ไม่มีสระว่ายน้ำ ไม่มีฟิตเนส
- SUPER ECONOMY CLASS
- เฟส 1, 2, 4, 5 – 7.83 / 10.00
- เฟส 3 – 7.58 / 10.00
BOTTOM LINE
Plum Condo พหลโยธิน 89 เหมาะกับ คนที่มีงบต่ำกว่า 1 ล้านบาท อยากได้ที่อยู่อาศัยในโซนรังสิต แต่ไม่ต้องการเข้าไปอยู่ในคลองลึกๆ ต้องการคอนโดชานเมืองติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงในอนาคตครับครับ มีงบประมาณระดับ 7 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 4,000 – 6,000 บาท/เดือน