รีวิวโครงการ
Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโด High Rise 32 ชั้น บนถนนราชพฤกษ์ ห่างจาก BTS บางหว้า 450 เมตร จาก AP [Walk-in รีวิว]
7 กันยายน 2020
รีวิวฉบับที่ 1382 … สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราเคยได้ไปทำรีวิวโครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ เมื่อช่วงเปิดตัวโครงการกันมาแล้ว เมื่อตึกได้สร้างเสร็จเรียบร้อยเราก็ได้มีโอกาสกลับมาทำรีวิวตึกเสร็จกันอีกครั้งค่ะ โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ จัดเป็นโครงการ High Rise บนทำเล BTS ตลาดพลู ที่มีจุดเด่นมากๆ ในเรื่องการเดินทาง เพราะเป็นโครงการที่ติดทางขึ้น-ลง BTS ตลาดพลู และติด BRT สถานีราชพฤกษ์เลย รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจาก The Mall ท่าพระ เพียง 160 ม. อีกด้วยค่ะ บรรยากาศโครงการจะเป็นอย่างไร เราตามไปอ่านรีวิวกัน
Fact @ 30 June 2017
- Aspire Sathorn – Thaphra (แอสปาย สาทร-ท่าพระ)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จอมทอง
- คอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร 1,219 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต (ทาง AP ดูแล)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 53 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 443 คันคิดเป็น 36% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
- ที่ดินประมาณ 5-1-20.4 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ปี 2015
- แล้วเสร็จ : ปี 2017
- Studio 23.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom 26 – 30.5 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 38 – 53 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center
- AP : 1623
- BC : 02-661-8999
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.715642, 100.479971
โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ ตั้งอยู่ติดแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ โดยหน้าโครงการจะอยู่ติดกับบนถนนราชพฤกษ์ และอีกทางเข้า-ออกนึงติดกับ BTS สถานีตลาดพลู ทางออกที่ 4 เลยค่ะ
โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ จัดเป็นโครงการในย่าน BTS ตลาดพลู โดยตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนรัชดาภิเษกและถนนราชพฤกษ์ตอนต้น ทำเลนี้จัดเป็นทำเลของชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมความเจริญของชาวฝั่งธนฯ เลยก็ว่าได้ค่ะ จุดศูนย์กลางของความเจริญในย่านนี้แต่เนิ่นนานนี้เริ่มต้นจากบริเวณแยกตลาดพลูหรือสถานีรถไฟตลาดพลู บริเวณนั้นจะเรียกกันว่า “ตลาดพลู” นั่นเองค่ะ บรรยากาศบริเวณตลาดพลูนี้มีร้านอาหารอร่อยเก่าแก่หลายร้านมากๆ ซึ่งต่อมาความเจริญก็ได้ขยับขยายออกมาทางราชพฤกษ์มากขึ้น เนื่องจากถนนราชพฤกษ์นี้มีความสำคัญคือเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนกรุงธนบุรี และขึ้นสะพานตากสินข้ามไปยังฝั่งพระนคร ย่านสาทรได้ง่าย และมีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ตัดผ่านเส้นนี้ รวมไปถึงมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์อีกจุดในย่านนี้อย่าง The Mall ท่าพระ ที่ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ใกล้แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ และแน่นอนอยู่ไม่ไกลจากโครงการ เดินออกไปได้ง่ายมากเพียง 160 ม.เองค่ะก็ถึงห้างให้ช็อปปิ้งกันได้แล้วค่ะ จึงไม่น่าแปลกใจที่ย่านนี้ในปัจจุบันมีการพัฒนาความเจริญมากขึ้น และรูปแบบการอยู่อาศัยก็เปลี่ยนหน้าตาจากโครงการแนวราบเป็นคอนโดมิเนียม High Rise ติดถนนใหญ่กันเยอะมากๆ หลายโครงการทีเดียวค่ะและทุกโครงการมีราคาขายปัจจุบันไม่ถูกแล้ว เฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 บาท/ตร.ม.
ในส่วนของการเดินทางของโครงการนี้นั้นจัดเป็นจุดเด่นของโครงการเลยทีเดียวนะคะ เพราะได้ตั้งอยู่ในทำเลที่ถือว่าดีที่สุดในย่านนี้เลยก็ว่าได้นะ ในแง่ของการเดินทางสะดวกทั้งขับรถส่วนตัวและแบบไม่มีรถ พูดถึงในแง่การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวกันก่อนนะคะ ด้วยความที่ตัวโครงการนี้ตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์เลย แม้จะอยู่ฝั่งมุ่งหน้าไปทางวุฒากาศแต่ก็ยังง่ายสำหรับการเข้าเมืองไปทำงานย่านสาทรนะคะ เพราะตัวโครงการมีจุดทางเข้า-ออกไม่ไกลจากจุดกลับรถเท่าไหร่นัก (จุดกลับรถอยู่บริเวณก่อนถึงแยกรัชดา-ราชพฤกษ์) ด้วยระยะเบี่ยงเข้าเลนขวาที่กำลังดีไม่ต้องไปปาดหน้ารถคันอื่นๆ เพื่อกลับรถอีกด้วย จึงจัดเป็นโครงการในทำเลใกล้ BTS ตลาดพลูที่เดินทางเข้าเมืองได้ง่ายที่สุดด้วยนะคะ นอกจากนี้ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากแยกรัชดา-ราชพฤกษ์นั้นก็ง่ายสำหรับใครที่ใช้ถนนรัชดาภิเษกเป็นหลัก หรือทำมาค้าขายอยู่ในตลาดพลูเช่นกัน
สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะต่างๆนั้นก็สะดวกสบายมากๆ ค่ะ จุดเด่นเลยคือเป็นโครงการที่ทางเข้า-ออกโครงการนั้นติดกับบันไดทางขึ้น-ลง BTS ตลาดพลูเลย เรียกว่าติดของแท้ และด้วยสถานีนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายหลักในการเข้าเมืองไปยังย่านสาทร เลยไปถึงสยามได้ง่ายเลยค่ะ ส่วนในอนาคตบริเวณ BTS บางหว้านั้นจะ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ให้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้หลากหลายมากขึ้นด้วยนะคะ และอีกตัวเลือกนึงสำหรับใครที่เรียนหรือทำงานในย่านพระราม 3 หรือจะไปสีลมและสาทรนั้นก็มี BRT รองรับเช่นเดียวกัน โดยสถานีราชพฤกษ์นั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเลย เรียกว่าข้ามถนนไปก็ถึงสถานีแล้วค่ะ สะดวกในการเดินทางมากๆ โดยราคาค่าโดยสารเพียง 5 บาทตลอดสายเท่านั้นเอง เทียบกับรถเมล์แบบไม่ปรับอากาศยังแพงกว่าอีก
ความอุดมสมบูรณ์หลักๆ นั้นอยู่ในละแวกโครงการเลยค่ะ โดยใกล้ที่สุดนั้นจะเป็นห้างเดอะมอลล์ท่าพระ ที่สามารถเดินไปใช้บริการได้เลยเพียง 160 ม.เท่านั้น สำหรับห้างเดอะมอลล์ท่าพระนี้จัดเป็นห้างเก่าแก่ที่อยู่กับคนย่านนี้มานาน ต่อมามีการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้น นอกจากนั้นบริเวณรอบๆโครงการก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ของกินแผงลอยตั้งอยู่ค่อนข้างเยอะ ในช่วงเช้าจะคึกคักกว่าหน่อยตามข้างทางจะมีของขายทั้ง หมูปิ้ง หมูทอด ข้าวไข่เจียว ไปจนถึงอาหารตามสั่ง แต่ช่วงเย็นบรรยากาศจะเงียบๆกว่าหน่อย แต่ก็ยังมีร้านอาหารเปิดเยอะอยู่ นอกจากเดอะมอลล์ใกล้ๆโครงการยังมีไทยช่วยไทยพลาซ่า , ตลาดซอย13 , MaxValu และ ตลาดพลู ตลาดเก่าแก่ที่มีทั้งร้านอาหาร และ ขนมขึ้นชื่อมากมาย โดยเฉพาะร้านขายกุยช่ายเจ้าดัง ที่คนซื้อต้องมายืนรอต่อแถว ก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟนี่เอง นอกนั้นสถานที่สำคัญก็จะเป็นพวกวัด โรงพยาบาล และ โรงเรียน เป็นต้นค่ะ โดยรวมแล้วเป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้ชีวิตในคอนโดนะคะ เพราะหาของกินได้ง่าย เน้นซื้อกิน ไม่ก็ห่อเข้ามาแกะถุงกินที่ห้องได้เลยไม่ต้องทำอาหาร
สำหรับการเดินทางในวันนี้นะคะ เราจะเดินจาก BTS ตลาดพลูไปโครงการกัน จะง่ายแค่ไหนไปดูกันค่ะ
จากบริเวณรถไฟฟ้านั้นเราจะเดินไปออก Exit 4 กันนะคะ
ทางเดิน Sky Walk กว้างขวางดีค่ะเดินได้สบายมาก และด้วยความที่เรามาช่วงประมาณ 10 โมงเลยค่อนข้างโล่ง ไม่มีคนมากนัก
จากทางเดินของสถานีตลาดพลู เห็นวิว Aspire สาทร-ท่าพระด้วยแหละ
เดินผ่านแยกรัชดา-ราชพฤกษ์นะคะ ฝั่งขวาของรูปนั้นเป็นทางลงรถไฟฟ้าที่จะลงแล้วเจอทางเข้า-ออกโครงการเลยค่ะ ซึ่งทางเข้า-ออกที่ติดกับขาบันไดรถไฟฟ้านั้นจะเป็นทางเข้า-ออกสำหรับคนเดินเท่านั้นนะคะ ที่นี่จะแยกทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ไว้อีกจุด โดยจะอยู่บริเวณติดถนนราชพฤกษ์ค่ะ ทำให้สามารถกลับรถย้อนไปทางถนนกรุงธนบุรีได้ง่าย หรือจะข้ามสะพานตากสินไปสาทรก็ง่ายเช่นกัน ในขณะที่สามารถเลี้ยวไปตลาดพลู หรือย้อนกลับไปถนนรัชดาภิเษกฝั่งเดอะมอลล์ท่าพระก็ง่ายเช่นกันค่ะ นี่เป็นจุดแข็งของทำเลที่อยู่ใกล้สี่แยกนะ คือสามารถเลือกไปได้หลายเส้นทางเลย
ลงบันไดมาก็เลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลยค่ะ แต่เดี๋ยวเราพาไปเดินดูทางเข้า-ออกโครงการฝั่งรถยนต์ และจะพาไปเดินดูทำเลอาหารการกินบริเวณห้างเดอะมอลล์ท่าพระ และฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์กันว่ามีอะไรกินบ้าง
ลงมาแล้วบริเวณหน้าทางเข้า-ออกก็มี Family Mart เปิดให้บริการ 24 ชม.เลยค่ะ เป็นแหล่งพึ่งพิงที่ดีสำหรับลูกบ้านในโครงการทีเดียว ซึ่ง Family Mart นี้ไม่ได้จัดว่าเป็นหนึ่งในโครงการนี้นะคะ แต่จะเป็นของทาง AP ที่เป็นผู้จัดการดูแลให้ค่ะ
ด้านข้างโครงการมีซุ้มพี่วินนั่งคอยให้บริการกันอยู่หลายคันทีเดียวค่ะ
เดินเลียบถนนราชพฤกษ์มา จะเห็นว่าด้านข้างโครงการนี่เองเป็น BRT สถานีราชพฤกษ์ เรียกว่าข้ามถนนก็เจอสถานีกันแล้วค่ะ
เดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอทางเข้า-ออกโครงการสำหรับรถยนต์แล้วค่ะ
นอกจากนี้เราจะพาเดินไปดูทำเลแหล่งอาหารการกินใกล้โครงการกันค่ะ นั่นก็คือ The Mall ท่าพระนั่นเอง เป็นศูนย์รวมทุกอย่างนอกจากอาหารการกินแล้วก็ช็อปปิ้ง ดูหนัง เล่นฟิตเนสกันได้ ระยะเดินจากโครงการมาห้างเพียง 160 ม.เท่านั้น นอกจากระยะทางที่ใกล้แล้ว บรรยากาศระหว่างทางก็ไม่ได้เปลี่ยวนะคะ เดินได้ง่ายทีเดียวค่ะ
จากโครงการเดินข้ามสะพานข้ามคลองมาและเดินตรงไปยาวๆ เลย ฟุตบาทค่อนข้างกว้างระดับนึง ให้เดินได้ง่ายค่ะ
และแล้วก็ถึง The Mall ท่าพระแล้วนะคะ เดี๋ยวเราพาเดินไปดูฝั่งตรงข้าม The Mall กันต่อ เพราะฝั่งตรงข้ามก็มีอะไรน่าสนใจอีก
บริเวณหน้าห้างนั้นจะมีสะพานลอยให้ข้ามถนนได้ง่ายๆ ค่ะ
บรรยากาศฝั่งตรงข้ามช่วงเที่ยงๆ นี่คึกคักมากๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าไทยช่วยไทยพลาซ่า และธนาคารกสิกรค่ะ
ไทยช่วยไทยพลาซ่า เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่แบ่งเป็นซอยย่อยเล็กๆ ด้านในมีขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์เสริมสวยต่างๆมากมาย บริเวณลานด้านหน้าในตอนกลางคืนเป็นพื้นที่ขายของขนาดย่อมๆ ถ้าเอารถมาด้านในมีที่จอดให้ด้วยค่ะ
ติดๆกันเป็นธนาคาร กสิกรไทย สาขารัชดา – ตากสิน – ท่าพระ (เป็นชื่อสาขาที่ยาวมากทีเดียว) ซึ่งรอบๆจะมีซุ้มขายอาหาร และ แผงลอยอยู่เต็มไปหมด
เดินตรงมาอีกจะเจอกับซอยรัชดาภิเษก 15
ซอยรัชดาภิเษก 15 หรือซอยติวเตอร์ เรียกชื่อตามสถาบันกวดวิชาที่ตั้งอยู่กลางซอย ซอยนี้สามารถใช้เชื่อมไปออกซอยเทอดไท 33 ได้ หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ตลอดทั้งวัน
อัตราค่าบริการของพี่วินตามนี้ค่ะ
เดินถัดมาจะเจอกับซุ้มขายอาหาร และ ขนมอีกเพียบ
ถัดมาเป็นซอยรัชดาภิเษกซอย 13 ซอยที่ใช้ลัดไปออกซอยเทอดไท 33 ได้อีกซอยหนึ่ง
หน้าปากซอยมีร้าน ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาลือชา ร้านเก่าแก่ขึ้นชื่อตั้งอยู่ ถัดไปจะมี 7-11 ด้วย โดยซอยรัชดาภิเษก 13 หรือซอยวัดบางสะแกใน สามารถใช้ลัดไปออกซอยเทอดไท 33 ได้ ภายในซอยมีวัดบางสะแกในและโรงเรียนวัดบางสะแกใน ส่วนของรถยนต์ยังสามารถลัดเลาะไปออกถนนวุฒากาศที่ซอยวุฒากาศ 43 ได้อีก
บรรยากาศหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาลือชา ค่ะ
เดินตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับตลาดซอย 13 ตลาดที่มีทั้งของใช้และอาหารที่เปิดในช่วงเย็นๆ ด้านหน้ามีร้านขายอาหารอยู่เยอะพอสมควร
ซูมเข้ามาดูสภาพแวดล้อมโครงการกันนะคะ จะเห็นว่าที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ติดกับถนนทั้ง 2 ฝั่ง คือถนนราชพฤกษ์ และอีกจุดติดกับหัวมุมถนนรัชดาภิเษก จึงทำให้ทำเลโครงการนี้สามารถเปิดทางเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ทางเลยสะดวกทั้งลูกบ้านที่เดินทางด้วย BTS และขับรถยนต์ ในส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบนั้นโดยรวมอยู่ติดกับชุมชนเดิม ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นอาคารแนวราบ ทั้งตึกแถวและบ้านเดี่ยวบ้าง แต่จะมีฝั่งทิศตะวันออกที่ติดกับโครงการ The Parkland Grand ซึ่งมีความสูงถึง 34 ชั้น ทำให้ห้องพักอาศัยฝั่งทิศตะวันออกโดนบล็อกวิวระยะไกลไปนะคะ ส่วนทิศอื่นๆ ยังปลอดโปร่งโล่งสบาย สามารถมองวิวในระยะไกลได้ค่ะ
- ทิศเหนือ : ถนนราชพฤกษ์
- ทิศตะวันออก : คอนโดมิเนียม The Parkland Grand สูง 34 ชั้น
- ทิศใต้ : โกดังสูง 2 ชั้น,ตึกแถวสูง 5-6 ชั้น และ The Mall ท่าพระ
- ทิศตะวันตก: ถนนรัชดาภิเษก, BTS ตลาดพลู
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เดอะมอลล์ ท่าพระ ~160 ม.
- ไทยช่วยไทยพลาซ่า ~450 ม.
- ธนาคารกสิกรไทย ~450 ม.
- ตลาดซอย 13 ~450 ม.
- วัดบางสะแกใน ~ 700 ม.
- Max Valu ~500 ม.
- ตลาดพลู ~750 ม.
- วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ~ 1.8 กม.
- บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ~ 2.5 กม.
- โรงเรียน สตรีวัดอัปสรสวรรค์ ~ 2.8 กม.
- วงเวียนใหญ่ ~ 3.8 กม.
- โรงพยาบาล พญาไท 3 ~ 3.8 กม.
โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,219 ยูนิต บนที่ดิน 5 ไร่ กว่า รูปแบบการออกแบบโครงการเน้นความ Modern ชัดเจน เน้นความเรียบง่ายของรูปลักษณ์อาคารและโทนสีแบบ Monochrome ค่ะ
จาก Masterplan โครงการ ในชั้น 1 จะแบ่งพื้นที่อาคารเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือพื้นที่จอดรถอยู่ฝั่งทิศตะวันออก ในชั้นล่างจะแยกออกให้ชัดเจนเป็นสัดส่วนเลย ข้อดีคือทำให้การสัญจรภายในโครงการเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่วุ่นวาย แต่ข้อเสียก็มีคือต้องเดินข้ามฝั่งมายังส่วน Lobby โครงการ แต่ก็ไม่ได้ไกลจนลำบากและมีหลังคาคลุมบริเวณทางเดินทำให้เดินได้สะดวก โดยส่วนที่จอดรถที่นี่ให้มาประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคันนะ จริงๆ ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ แต่พอจะหักลบกับทำเลโครงการที่มีตัวเลือกในการเดินทางด้วย BTS, BRT ได้สะดวกมากๆ ได้อยู่ค่ะ เพราะลูกบ้านในโครงการนี้ส่วนใหญ่ก็พึ่งพา BTS ในการเดินทางเยอะนะ
อีกส่วนหนึ่งของชั้นล่างนี้จะเป็นพื้นที่ภายในอาคาร ซึ่งโครงการนี้ออกแบบมาค่อนข้างแปลกตรงที่เค้านำ Main Facilities ลงมาอยู่ชั้นล่างสุดเลย ซึ่งในปัจจุบันเราจะไม่ค่อยเห็นกันแล้วนะคะ ไม่อยู่ชั้นบนหลังที่จอดรถก็จะอยู่ชั้นดาดฟ้าอาคารไปเลย ด้วยความที่ดัน Main Facilities อย่างสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ลงมาชั้นล่างนั้นก็ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวไปในการใช้งาน Facilities และไม่ได้วิวจากมุมสูงด้วย แต่ทางโครงการก็ได้จัดพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนโดยใช้ Keycard Access ผ่านเข้าสู่ส่วน Facilities ให้พื้นที่ส่วนนี้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
เริ่มจากทางเข้าโครงการส่วนทางเข้า-ออกสำหรับคนเดินนะคะ บริเวณด้านหน้าจะเป็น Family Mart เปิด 24 ชม. ซึ่งทาง AP จะเป็นผู้ดูแลค่ะ
ภายใน Family Mart จัดว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่นะ ภายในมีของให้เลือกเยอะเลยค่ะ ทั้งของใช้และของกินที่เป็นแบบอาหารสำเร็จรูป ใครขี้เกียจออกไปไหนไกล ก็พึ่งพา Family Mart นี้ได้เลย
ผ่าน Family Mart มาจะเจอกับทางเข้าโครงการแล้วค่ะ ประตูนี้ต้องใช้ Keycard Access นะคะ และมีพี่รปภ.คอยรักษาความปลอดภัยอยู่คนนึงค่ะ
สแกนบัตรเข้ามาแล้วจะเป็นทางเดินยาวๆ เพื่อเข้าไปยังส่วน Lobby ภายในค่ะ วันที่ไปฝนตกก่อนจะเริ่มถ่ายรูปเลยเห็นพื้นเปียกๆ หน่อยนะคะ
ด้านข้างทางเดินนั้นตกแต่งด้วยกระถางไม้พุ่มขนาดใหญ่ และล้อมรั้วเรียบร้อยดีค่ะ รวมทั้งด้านข้างขวาก็ติดไฟส่องสว่างตามทางมาให้ด้วย ในช่วงเวลากลางคืนดูไม่มืดเกินไป เสียดายนิดหน่อยคือเนื่องจากเป็นทางเดินที่ลูกบ้านมักจะใช้งานบ่อยๆ น่าจะทำ Cover Way หรือทางเดินที่มีหลังคาเพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อให้เดินได้สะดวกสบายมากขึ้นเวลาฝนตกหรือแดดแรงๆ
เดินทางมาอีกหน่อยจะมีทางเข้าฝั่งขวาเป็นโถงทางเดินไปยังส่วน Lobby ค่ะ
เราเดินมาตรงมาอีกหน่อยเพื่อไปดูอีกทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์กันต่อนะคะ ในส่วนนี้ที่เห็นเป็นไม้พุ่มล้อมไว้นั้นจะเป็นส่วนสระว่ายน้ำในชั้นล่างค่ะ เดี๋ยวเราพาไปดูทางเข้า-ออกและ Lobby กันก่อนเข้าไปดู สระว่ายน้ำกันนะคะ
ผ่านสระว่ายน้ำมาฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนทางเข้า-ออกโครงการ (สำหรับรถยนต์) และฝั่งขวานั้นเป็นทางเข้าส่วน Lobby ค่ะ
บริเวณทางเดินก่อนที่จะถึงทางเข้า Lobby นั้นมีการจัด Landscape ให้สวยงามด้วยบ่อน้ำและต้นไม้เชื่อมกับพื้นที่สระว่ายน้ำ
มาดูฝั่งขวาที่เป็นทางเข้า-ออกของรถยนต์กันบ้างนะคะ
บริเวณด้านหน้าทางเข้า-ออกโครงการสำหรับรถยนต์นั้นมีการกั้นด้วยไม้กั้นกระดกเรียบร้อย ใช้ระบบเข้า-ออกแบบ Keycard Access แบบระยะใกล้ พร้อมทั้งติด CCTV ส่องหน้าคนขับเรียบร้อยค่ะ
หันกลับมาส่วนบริเวณ Drop-Off กันนะคะ บริเวณนี้ให้ฝ้าเพดานแบบยกสูงขึ้นมาทำให้ดูโอ่โถงและสวยงามมากขึ้นดีทีเดียวค่ะ ฝั่งซ้ายมีจะเป็นทางเข้าส่วนที่จอดรถและฝั่งขวาเป็นทางเข้า Lobby โครงการ
ภายในบริเวณที่จอดรถค่ะ ที่นี่ให้ที่จอดรถมาทั้งหมด 443 ช่องจอดนะคะ
ถัดจากส่วนที่จอดรถก็สามารถวนออกถนนด้านข้างได้ค่ะ ซึ่งบริเวณนี้ก็มีคนมาจอดรถด้านข้างอยู่เหมือนกันนะ ด้วยความที่มีจุด Loading Area ด้วย ทำให้การสัญจรภายในโครงการที่ต้องการให้รถสวนทางกันได้ไม่ค่อยสะดวกมากนักเวลาจะใช้งานจริง
เข้าสู่บริเวณทางเข้า Lobby กันค่ะ
ภายใน Lobby จัดให้มาขนาดค่อนข้างใหญ่หน่อย เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านทั้งหมด 1,219 ยูนิตค่ะ แบ่งเป็นโซนพื้นที่นั่งเล่น มีโต๊ะกลางไว้สำหรับใครที่อยากนั่งทำงาน และอีกฝั่งเป็นส่วน Mail Box ค่ะ
ด้านข้างจัดพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่รับแขกไว้ให้โดยมีการลดสเต็ปพื้นลงมาเล็กน้อยให้ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น ซึ่งบริเวณนี้ก็ดูคึกคักดีทีเดียวนะคะ มีลูกบ้านสับเปลี่ยนมาใช้งานอยู่เยอะเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่แปลกนะ เพราะจัดมาให้น่านั่งดีทีเดียว มีเปิดแอร์ตลอดทั้งวันและมี Wifi ให้ใช้งานได้ฟรีๆ ด้วยค่ะ ใครเบื่อห้องก็หยิบคอมหรือมือถือลงมานั่งเล่นข้างล่างได้นะ
ส่วน Mail Box จัดมาให้ค่อนข้างสวยทีเดียวเลยค่ะ มีขั้นบันไดเล็กๆ ไว้ให้ทุกจุดสำหรับใครที่ได้กล่องจดหมายอยู่ชั้นบนๆ จะได้ขึ้นไปหยิบได้ง่าย
สุดพื้นที่ Lobby แล้วจะเจอทางเข้าโถงลิฟต์โดยสารเพื่อขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยในฝั่งซ้ายมือค่ะ โดยบริเวณส่วนโถงนี้จะต้องมีบัตรสแกนผ่านอีกทีนะคะ เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ส่วนถัดมาตรงกลางเป็นทางเดินไปยัง BTS ตลาดพลูค่ะ โดยจะออกไปยังส่วนทางเดินแบบ Outdoor แล้วสแกนบัตรออกไปเจอ Family Mart ก่อนค่อยขึ้นบันไดสถานีตลาดพลู โดยประตูนี้จะเปิดค้างให้บริการตลอดนะ เพื่อความสะดวกของลูกบ้าน เนื่องจากจุดสแกนบัตรมีอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการตรง Family Mart แล้วนั่นเองค่ะ ส่วนฝั่งขวามือนั้นจะเป็นทางเข้าของ Main Facilities นะคะ โดยประตูนี้ลูกบ้านต้องสแกนบัตรเข้าอีกทีด้วยนะคะ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน และเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกใช้งานได้ค่ะ เดี๋ยวเราพาไปดูทางเดินที่เชื่อมไปยัง BTS นะคะ
บริเวณนี้เป็นทางเดินแบบ Semi-Outdoor เดินได้ง่ายค่ะ
ด้านข้างทางเดินมีห้อง Laundry และนิติบุคคล ซึ่งที่นี่ใช้บริษัท Smart ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทาง AP อยู่แล้วคอยดูแลค่ะ
ภายในห้อง Laundry สะอาดสะอ้านเรียบร้อย ได้กระจกบานใหญ่ทำให้แสงสว่างเข้ามาภายในได้ดี ลดความชื้นภายในห้องได้ ภายในมีเครื่องซักผ้าไว้บริการทั้งหมด 4 เครื่องและเครื่องอบผ้าทั้งหมด 2 เครื่องพร้อมทั้งตู้กดน้ำดื่มด้วยค่ะ
มาดูส่วน Main Facilities เมื่อสแกนบัตรเข้ามาแล้วจะเจอส่วนสระว่ายน้ำก่อนเลยค่ะ และมีโถงทางเดินยาวๆ ซึ่งเชื่อมกับห้อง Fitness ที่อยู่ด้านหลังและห้องน้ำแยกชาย/หญิงด้านในสุด
สระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระแบบ Outdoor นะคะ แต่ดีที่มีส่วนยื่นของอาคารชั้นบนทำให้ส่วนนึงของสระว่ายน้ำอยู่ในที่ร่ม สาวๆ คนไหนอยากว่ายน้ำตอนกลางวันแต่กลัวดำก็มาว่ายได้อยู่นะคะ รวมทั้งระบบสระเป็นระบบเกลือด้วย ซึ่งมีความเข้มข้นของคลอรีนน้อยกว่าระบบคลอรีนเลยอยู่ระดับนึง ส่วนขนาดของสระที่นี่ถือว่าใหญ่อยู่เหมือนกันนะคะ สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้เลย และด้วยข้อจำกัดของสระชั้นล่างสุดนั้นอย่างที่บอกคือเรื่องความเป็นส่วนตัว ดังนั้นทางโครงการเลยมีการปลูกไม้พุ่มไว้รอบๆ สระเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านที่กำลังว่ายน้ำ
ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่น วาง Day Bed ไว้ให้เรียบร้อย
อีกฝั่งเป็นส่วน Shower และสระเด็กค่ะ สระเด็กนี่ให้มาเล็กมากๆ เลยนะคะ เน้นไปที่เด็กเล็กๆ เลย
บริเวณพื้นที่ล้างตัว ให้ Rain Shower มา 2 จุด
ถัดมาด้านในเป็นส่วน Fitness ค่ะ ซึ่งที่นี่ทำห้อง Fitness เป็น 2 ชั้น
เข้ามาภายใน Fitness ด้านหน้ามีบันไดทางขึ้นมายังชั้น 2 เลยค่ะ โดยบริเวณห้อง Fitness นี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ตีห้าเลยนะคะ ใครอยากออกกำลังกายก่อนไปทำงานหรือไปเรียนก็ยังได้นะ
บริเวณชั้นล่างของห้อง Fitness เป็นส่วนลู่วิ่ง 2 ตัวและโซนด้านในเป็นโซนเวทเทรนนิ่ง
ชั้นบนขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยค่ะ โดยทั้ง 2 ชั้นมีเครื่องออกกำลังกายทั้งหมดประมาณ 10 เครื่อง ถือว่าให้มาระดับนึง เพื่อที่จะให้เพียงพอกับการใช้งานของลูกบ้านพันกว่ายูนิตในโครงการค่ะ
สุดทางเป็นห้องน้ำแยกชาย/หญิงเรียบร้อยค่ะ
ภายในห้องน้ำตกแต่งสวยงามดี
มีส่วน Locker ให้เรียบร้อยพร้อมกุญแจล็อกค่ะ
ถัดมาด้านในแบ่งเป็นส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำ อีกฝั่งมีห้องซาวน่าให้ด้วยนะคะ
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำมีให้อย่างละ 2 ห้อง
เข้ามาในส่วนของโถงลิฟต์โดยสารกันบ้างนะคะ ภายในตกแต่งค่อนข้างโอ่โถงทีเดียวค่ะ โดยมีจำนวนลิฟต์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ต่อจำนวนยูนิตห้องประมาณ 203 : 1 จัดว่าหนาแน่นพอสมควรนะคะ ในช่วงเวลาเร่งด่วนน่าจะต้องคอยลิฟต์สักพัก
ส่วนลิฟต์ของที่นี่จะได้เป็นแบบ Proxy Lift หรือลิฟต์ล็อกชั้น ซึ่งลูกบ้านจะสามารถขึ้น-ลงได้เฉพาะชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางและชั้นห้องพักอาศัยตัวเองเท่านั้น โดยก่อนขึ้นชั้นพักอาศัยหรือชั้นดาดฟ้าจะต้องสแกนบัตรในลิฟต์ก่อนด้วยนะคะ
ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัยกันนะคะ ในรูปแปลนนั้นจะแบ่งผังอาคารออกเป็น 2 ปีก ตรงกลางเป็นโถงลิฟต์โดยสารเพื่อให้ลูกบ้านทั้ง 2 ฝั่งสามารถเดินได้สะดวก ไม่มีฝั่งไหนต้องเดินไกลมาก ในส่วนของแปลนฝั่งทิศตะวันออกนั้นหรือเรียกว่า Hikari Wing มีลักษณะเป็นรูปตัว L ค่ะ โดยเน้นห้องขนาด 30.5 ตร.ม. เป็นหลักค่ะ ส่วนห้องมุมนั้นจะเป็นห้อง 2 Bedroom ทั้งหมด ซึ่งก็จะได้วิวทั้ง 2 ฝั่งเลย ซึ่งเรื่องวิวจากห้องพักอาศัยในโครงการส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ยกเว้นห้องที่หันหน้าไปทิศตะวันออกที่จะโดยโครงการข้างเคียงบล็อกวิวระยะไกลไป
มาที่ฝั่ง Tsuki Wing ในชั้น 7-28 บริเวณใกล้กับโถงลิฟต์โดยสารนั้นจะเป็นห้องไซส์เล็กขนาด 26 ตร.ม. และมีห้องที่ติดสวนเลยเป็นห้อง Studio ขนาด 23 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ ห้องนี้ในตำแหน่งนี้มีทั้งข้อดีและข้อด้อยนะคะ ข้อดีคืออยู่ติดสวนทำให้ผนังด้านนึงไม่ติดกับเพื่อนบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาหน่อย และอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ใครขี้เกียจเดินไกลก็ดีเลย แต่ก็มีข้อด้อยตรงที่อยู่ใกล้กับโถงลิฟต์เช่นกันนะ คือมีคนเดินผ่านและรอลิฟต์ ส่วนห้องมุมนั้นก็จะเป็นห้อง 2 Bedroom เหมือนอีกฝั่งนึงเลยค่ะ ซึ่งตำแหน่งห้อง 2 Bedroom ฝั่งทิศเหนือจัดเป็นตำแหน่งที่ดีเลยค่ะเพราะมีฝั่งนึงติดกับบันไดหนีไฟด้วย ทำให้เป็นห้องที่ไม่ได้ติดกับห้องไหนเลย มีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว
ในชั้น 29 นั้นแปลนจะคล้ายคลึงกับชั้นอื่นๆเลยค่ะ มีแตกต่างหน่อยตรงห้องที่ติดกับบันไดหนีไฟ ที่ในชั้นอื่นๆ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. แต่ในชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ Combine แทนค่ะ
มาดูที่ตึกจริงกันบ้างนะคะ บริเวณโถงลิฟต์โดยสารในชั้นพักอาศัยตกแต่งเรียบง่ายมากขึ้น โดยใช้โทนสีขาวสะอาดตา
ส่วนบริเวณโถงทางเดินนั้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกมาตรฐานมีความกว้างพอสมควรเดินได้สบายๆ ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้ากันนะคะ ในชั้นนี้ทั้งชั้นจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นชมวิวพร้อมสวนหย่อมในชั้นบน เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ
โดยในบริเวณสวนหย่อมชั้นดาดฟ้านั้นจะเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ 6:00 – 22:00 น.เลยค่ะ แต่ก็มีกฎห้ามไม่ให้ลูกบ้านนำเครื่องดื่มมึนเมาขึ้นมา และห้ามสูบบุหรี่ด้วยนะคะ เพื่อให้พื้นที่ชั้นดาดฟ้ามีบรรยากาศที่ดีค่ะ
ในวันที่ไปจะมีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในระหว่างการปรับปรุงนะคะ ดังนั้นเราจะขอถ่ายบรรยากาศในส่วนที่เปิดให้บริการกันไปก่อนนะ ซึ่งบนชั้นดาดฟ้านี้จัดให้เป็นทั้งสวนหย่อยรอบๆ อาคารมีไม้พุ่มและไม้ยืนต้นทำให้บรรยากาศร่มรื่น สดชื่นดีค่ะ และนอกจากนี้ก็มีจัดพื้นที่นั่งเล่นให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นสูดอากาศบนชั้นดาดฟ้าได้
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นจัดชุดเก้าอี้แบบ Outdoor ให้หลายตัวทีเดียวค่ะ
บรรยากาศทางเดินและการจัดสวนรอบๆ ทางเดิน ดูร่มรื่นดีทีเดียวค่ะ
สุดทางนั้นจัดให้เป็นพื้นที่ชมวิวมุมสูงได้ค่ะ โดยเปลี่ยนจากการทำเป็นกำแพงทึบสูงเป็นการกั้นด้วยระแนงที่สูงจากพื้นเลยทำให้สามารถมองวิวมุมสูงได้ดี บริเวณนี้วางชุดเก้าอี้แบบ Outdoor ไว้ให้นั่งเล่นได้ 1 ชุดค่ะ
เรามาดูวิวจากชั้นบนของโครงการกันบ้างนะคะ โดยทิศหลักๆ ของวิวโครงการนั้นจะเป็นทิศเหนือและทิศใต้นะคะ สำหรับทิศเหนือนั้นจะหันไปทางฝั่งตลาดพลู บริเวณนี้ได้วิวโปร่งโล่งทีเดียวค่ะ
ส่วนทิศใต้นั้นจะหันไปทางฝั่ง The Mall ท่าพระ และถนนรัชดาภิเษก ในฝั่งนี้บรรยากาศจะค่อนข้างคึกคักมีสีสันกว่าฝั่งทิศเหนืออยู่หน่อย แต่ก็ได้วิวโปร่งโล่งเช่นเดียวกันค่ะ ไม่มีอาคารสูงมาบล็อกวิวในระยะใกล้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- สวนหย่อมรอบโครงการและสวนหย่อมชั้นดาดฟ้า
- ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์ 203 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 443 คันคิดเป็น 36 % รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูวันนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.50 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้อง Type เดียวที่เหลือขายอยู่ในโครงการแล้วนะคะ สำหรับใครที่มองหามือ 1 อยู่ ลักษณะห้องจะเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมเกือบจตุรัสนะคะ ซึ่งการได้ผังห้องทรงสี่เหลี่ยมแบบนี้ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันภายในได้ค่อนข้างง่าย และสามารถใช้พื้นที่ใช้สอยภายในได้เต็มที่ จุดเด่นของห้องนี้จะเป็นห้องนอนที่ได้ขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดห้องทั้งหมด รวมทั้งตอบโจทย์คนที่ชอบทำกับข้าวด้วยครัวปิดแยกพื้นที่เรียบร้อยและอยู่ติดกับระเบียงภายนอกอาคาร แต่ก็แลกมากับพื้นที่นั่งเล่นที่ไม่ได้อยู่ติดภายนอก ไม่ได้วิวโดยตรง แต่ยังพอได้แสงสว่างจากภายนอกผ่านส่วนครัวได้อยู่ค่ะ
ส่วนรูปแบบการขายห้องนั้นจะเป็น Fully Fitted โดยจะไม่ได้ชุดเฟอร์นิเจอร์นะคะ สิ่งที่ได้มาตรฐาน คือ
- ห้องน้ำสำเร็จรูป
- Pantry + Sink
- เครื่องปรับอากาศ
เริ่มจากประตูหน้าห้องเป็นประตู HDF ทาสีขาวเรียบร้อย
มือจับอลูมิเนียมแบบก้านโยกมาตรฐาน
เข้ามาภายในจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อนนะคะ ส่วนห้องที่ติดกับภายนอกอาคารจะเป็นห้องนอนและห้องครัวค่ะ ภายในห้องมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.55 ม. เป็นความสูงที่สูงกว่ามาตรฐานมาเล็กน้อย ทำให้ได้ปริมาตรห้องเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย จึงช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นระดับนึงค่ะ
ระหว่างโถงทางเดินและพื้นภายในห้องนั้นกั้นด้วยไม้สำเร็จรูป ส่วนพื้นภายในเป็นพื้นลามิเนตสีอ่อนค่ะ
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ Love Seat ได้จะกำลังดีเลยค่ะ และสามารถวางโต๊ะกลางเพิ่มได้ด้วย เนื่องจากมีความกว้างระหว่างโซฟากับทีวีค่อนข้างมาก
ฝั่งตรงข้ามสามารถ Built-in หรือวางชั้นวางทีวีขนาดกะทัดรัดได้ และวางทีวีขนาดประมาณ 26″-32″ ได้กำลังดีค่ะ ส่วนด้านข้างชั้นวางทีวีนั้นจะเป็นตำแหน่งห้องน้ำภายในห้องค่ะ
โดยห้องน้ำของโครงการจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปทั้งหมด ข้อดีของห้องน้ำสำเร็จรูปนี้คือเรื่องของความเนี้ยบของงาน เช่น เรื่องงานรอยต่อกันน้ำรั่วซึมและงานลาดเอียงที่จะเนี้ยบมากกว่าเมื่อเทียบกับช่างหน้างานค่ะ เนื่องจากถูกผลิตมาจากโรงงานเลยแล้วยกมาติดตั้งที่ไซต์ และอีกนึงข้อดีคือการซ่อมแซมห้องน้ำที่มีความสะดวกและง่ายดายกว่าห้องน้ำปกติ เพราะใช้วิธีการเจาะท่อลงไปใต้ฝ้าห้องด้านล่างซึ่งเราสามารถซ่อมท่อภายในห้องได้เลย แต่ว่าจะต้องเป็นช่างเฉพาะทางของบริษัทผู้ผลิตเท่านั้นนะคะ ส่วนข้อจำกัดของห้องน้ำสำเร็จรูปก็คือเรื่องขนาดที่ไม่มีให้เลือกได้หลากหลายส่วนใหญ่จะออกแบบมาแบบกะทัดรัด และดัดแปลงห้องน้ำเพิ่มเติมไม่ได้ ใครที่อยากทราบข้อมูลห้องน้ำสำเร็จรูปเพิ่มเติมสามารถคลิกไปชมกันต่อได้ (คลิกที่นี่)
โดยระดับพื้นห้องน้ำจะถูกยกสูงจากพื้นห้องขึ้นมาหน่อยนะคะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าเวลาล้างห้องน้ำแล้วน้ำจะไหลออกมานะ เพราะเค้ามีหล่อธรณีห้องน้ำให้สูงขึ้นมาอีกหน่อยจากระดับพื้นห้องน้ำ ส่วนภายในพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทาค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยระดับพื้นคนละระดับกัน โดยบริเวณโซนแห้งนั้นจะได้ Low Wall ด้านหลังพร้อมกระจกเงาเป็นมาตรฐาน โดยส่วน Low Wall นี่สามารถวางของได้เล็กน้อยนะคะ และด้านล่างของ Low Wall นี้จะใช้เป็นส่วนติดตั้งท่อ หากมีการซ่อมก็สามารถยก Top ของ Low Wall นี้แล้วซ่อมแซมได้เลยไม่ยาก
ขนาดอ่างล้างมือที่ได้ถือว่าไม่เล็กมากนะคะ พอใช้งานได้ดี
ส่วนโถสุขภัณฑ์นั้นมีขนาดกะทัดรัด พื้นที่ด้านข้างโถประมาณ 70 ซม. นั่งได้กำลังพอดีไม่อึดอัดมาก
ส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นมีการยกธรณีขึ้นสูงเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดี ส่วนพื้นบริเวณพื้นที่อาบน้ำนั้นใช้วัสดุเป็นไฟเบอร์ค่ะ ซึ่งจุดด้อยของไฟเบอร์นี้เมื่อเทียบกับพื้นกระเบื้องเซรามิกทั่วไปคือเรื่องของความคงทนในการใช้งาน และค่อนข้างลื่นกว่า ดังนั้นพื้นในห้องน้ำจะมีการแก้ปัญหาเรื่องความลื่นด้วยการทำปุ่มขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้มี Texture ขึ้นมาช่วยกันลื่นได้ระดับนึงค่ะ ส่วนบริเวณนี้จะไม่ได้ฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ แล้วจะติดตั้งเองก็ค่อนข้างยากด้วยขนาดพื้นที่ที่ไม่กว้างมากนักและการต่อเติมก็เป็นไปค่อนข้างยากสำหรับห้องน้ำสำเร็จรูป ดังนั้นใครที่ไม่อยากให้น้ำกระเด็นไปยังส่วนแห้งนั้นจะสามารถกั้นพื้นที่ด้วยราวและม่านพลาสติกจะเหมาะสมสุดแล้วค่ะ ประหยัดงบได้ด้วย
ภายในพื้นที่อาบน้ำนั้นทั้งพื้นและผนังได้เป็น fiber เชื่อมเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมดเลย ส่วนฝักบัวนั้นเป็นฝักบัวสายอ่อนขนาดกำลังดีค่ะ
ถัดมาที่ส่วนห้องครัวกันบ้าง ลักษณะจะเป็นครัวปิด ซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน สามารถเปิด-ปิดได้สะดวกค่ะ และ Fitting ค่อนข้างดีเลยค่ะ
พื้นภายในห้องครัวนี้ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก เหมาะกับการใช้งานภายในห้องครัว เนื่องจากง่ายต่อการทำความสะอาดและมีความคงทนในการใช้งานดีทีเดียวค่ะ ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนั้นก็พอจะวางในห้องครัวได้นะคะ โดยสามารถวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้ แต่ก็จะเหลือพื้นที่ทางเดินด้านข้างประมาณ 50 ซม. เท่านั้นค่อนข้างเบียดและไม่สามารถเปิดบานเปิด Pantry สุดได้นะคะ ทางที่ดีคือเลือกโต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหารที่สามารถพับเก็บได้ หรือปรับเปลี่ยนได้ง่ายแทน เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ภายในที่จำกัดได้สะดวกมากที่สุดค่ะ
บริเวณห้องครัวนี้ได้ค่อนข้างสว่างทีเดียวค่ะ เนื่องจากอยู่ติดกับระเบียงภายนอก ซึ่งก็กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาได้ดี ส่วนฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่รับประทานอาหารนั้นจะเป็นส่วน Pantry และที่วางตู้เย็นนะคะ
Pantry ครัวจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ โดย Top ครัวเป็น Particle และบานเปิดแบบ Soft Close ปิดผิวด้วยลามิเนตสวยงาม
ขนาดความยาวของ Pantry แม้ไม่ได้ยาวมากนักแต่ก็สามารถวางข้าวของเครื่องใช้ได้พอสมควรเลยค่ะ เนื่องจากไม่มีพื้นที่เตามาให้ด้วย ดังนั้นใครที่อยากทำอาหารนั้นจะต้องซื้อเตาไฟฟ้ามาเสียบปลั๊กเองแทนนะคะ และไม่มีที่ดูดควันให้นะ ต้องเปิดประตูระเบียงเอาค่ะ
ส่วนด้านหลัง Pantry นั้นมีกรุกระเบื้องไว้ให้ด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดมากขึ้นด้วย และชั้นบนก็ Built-in ชั้นวางของให้ 2 ชั้นสามารถวางของใช้ต่างๆ ได้พอสมควรค่ะ
Sink หลุมเดี่ยวขนาดกะทัดรัด จาก Franke
ออกมาที่ส่วนระเบียงซักล้างกันบ้างนะคะ บริเวณพื้นจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเหมือนในครัวเลยค่ะ ขนาดระเบียงถ้าเทียบจากขนาดห้องแล้วถือว่าไม่ได้เล็กมากนะคะ หากวางเครื่องซักผ้าไปแล้วยังเหลือพื้นที่อีกประมาณครึ่งนึงให้สามารถตากผ้าหรือซักล้างได้เล็กน้อย ถ้ามใครอยากตากผ้าค่อนข้างเยอะนั้นก็อาจจะเพิ่มราวแขวนเสื้อผ้าบริเวณระเบียงเพิ่มเติมเอานะคะ
เข้ามาภายในห้องนอนกันบ้างนะคะ ด้วยขนาดพื้นที่ห้องนอนค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดทั้งห้องนะคะ ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าภายในห้องนอนนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียว รวมไปถึงได้หน้าต่างจากภายนอกขนาดใหญ่จึงทำให้ได้แสงสว่างจากภายนอกค่อนข้างมาก เพิ่มความโปร่งโล่งภายในห้องได้มากขึ้น สำหรับห้องนอนนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตจะกำลังพอดีที่สุดนะคะ จริงๆ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เหมือนกันนะ แต่ว่าจะเสียพื้นที่ทางเดินรอบเตียงไปนะคะ
ฝั่งด้านข้างเตียงสามารถวางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดประมาณ 3 บานเปิดได้กำลังดีค่ะ แต่แนะนำให้เลือกเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนแทนนะคะ จะได้ไม่ไปกินพื้นที่ทางเดินข้างเตียงและเดินสะดวกมากขึ้น
หากวางเตียงขนาด 5 ฟุตนั้นจะเหลือพื้นที่ทางเดินรอบเตียงประมาณนี้เลยค่ะ ตามรูป เดินได้สบายมาก
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 June 2017
- ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.5 ตร.ม. ช่วงราคา 2.8 – 3.1 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการอยู่ที่ 100,000 บาท)
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- Kitchen & Sink
- ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ เป็นหนึ่งในคอนโด High Rise ในรัศมีใกล้ BTS ตลาดพลู ซึ่งจัดเป็นโครงการที่มีจุดแข็งเรื่องทำเลที่ดีที่สุดในละแวกนี้ ในแง่ของการเดินทางทั้งรถยนต์และโดยเฉพาะการเดินทางแบบไม่ใช่รถ เพราะเป็นโครงการที่ถือว่าอยู่ติดบันไดขึ้น-ลง BTS ตลาดพลูอย่างแท้จริง และด้วยความที่อยู่ใกล้แยกรัชดา-ราชพฤกษ์ทำให้สามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลายเส้นทาง รวมไปถึงอยู่ในระยะที่กลับรถได้ง่ายและใกล้จุดกลับรถมากที่สุด สามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังฝั่งพระนครย่านสาทรได้ง่าย จัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคนที่มองหาทำเลที่อยู่อาศัยใกล้บ้านเดิม (ชุมชนตลาดพลู) ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ แต่ยังสามารถเดินทางเข้าเมืองไปทำงานได้ง่าย เกาะรัศมีโครงข่ายรถไฟฟ้าสายหลัก
ทำเล – ทำเลโครงการจัดอยู่ในย่านที่ขยับออกมาจากแหล่งชุมชนดั้งเดิมที่ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตลาดพลู หรือใกล้กับสถานีรถไฟตลาดพลู ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์เลยก็ว่าได้ มีร้านอาหารชื่อดังมากมายค่ะ ซึ่งเมื่อขยับจากตลาดพลูมาที่ละแวกโครงการปัจจุบันก็มีความคึกคักและความเจริญมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมีระบบรางรถไฟฟ้าเข้ามา ทำให้เกิดคอนโด High Rise หลายโครงการ หลายพันยูนิตเข้ามาในละแวกนี้ ดึงคนที่ต้องการอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าเข้ามามากขึ้น จึงทำให้ละแวกนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในย่านที่มากขึ้น โดยจุดศูนย์รวมเลยคือบริเวณห้าง The Mall ท่าพระ และฝั่งตรงข้ามที่มีเต้นท์อาหารและร้านอาหารตามซอยย่อยเปิดกันอย่างคึกคักค่ะ เรียกว่าเป็นทำเลที่หาของกินได้ง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนที่ใช้ชีวิตคอนโดที่ไม่ได้เน้นทำอาหารเหมือนอยู่บ้าน โดยระยะห่างจากโครงการไปยัง The Mall ท่าพระ เพียง 160 ม.เองค่ะ เดินได้ง่ายมาก
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ – สำหรับใครที่เน้นขับรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ ด้วยความที่โครงการมีทางเข้า-ออกอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์เลย และใกล้กับแยกรัชดา-ราชพฤกษ์จึงทำให้สามารถเลี้ยวไปทางตลาดพลู หรือเลี้ยวไปทางพระราม 3 ได้ง่าย ใครที่ทำงานในตลาดพลู หรือย่านพระราม 3 แต่อยากอยู่ใกล้ BTS เผื่อเดินทางเข้าเมืองสะดวก โครงการนี้ก็น่าสนใจค่ะ รวมทั้งตัวโครงการที่อยู่ใกล้จุดกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปทางฝั่งพระนคร ย่านสาทรด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเช่นกันสำหรับคนที่ทำงานในเมือง แต่มีงบประมาณเริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านปลายๆ อยากได้ทำเลใกล้บ้านเดิม โครงการนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกเช่นกันค่ะ
การเดินทางแบบไม่ใช้รถ – ถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลยค่ะ เรียกว่าสะดวกมากเพราะทางเข้า-ออกโครงการอยู่บริเวณขาบันได BTS ตลาดพลูเลย และยังมีตัวเลือกในการเดินทางอีกอย่างสำหรับใครที่จะไปพระราม 3 ยาวไปสาทร ก็มี BRT ให้บริการด้วยนะคะ โดยมีสถานีราชพฤกษ์อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการเลยค่ะ อัตราค่าโดยสารก็ถูกมากอยู่ที่ 5 บาทเท่านั้นถูกกว่ารถเมล์แบบไม่ปรับอากาศอีก นอกจากนี้ก็มีพี่วินหน้าโครงการ แท็กซี่ และรถเมล์ให้เลือกอีกมากมายค่ะ
แบบ – ตัวโครงการจัดยูนิตมาให้ทั้งหมด 1,219 ยูนิต ซึ่งจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 53 ยูนิต และมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 203 : 1 จัดว่าเป็นโครงการที่หนาแน่นพอสมควรเลยนะคะ ในเรื่องของการวางผังจัดว่าวางแบบมาค่อนข้างมาตรฐาน ตัวอาคารวางเรียบไปตามรูปร่างของที่ดิน จึงได้อาคารในรูปแบบแนวยาว ตำแหน่งโถงลิฟต์ตรงกลางแจกไปยังห้องฝั่งซ้ายและขวา ส่วนผังห้อง 1 Bedroom ที่เหลือขายอยู่นั้นจัดได้มาตรฐานนะคะ สามารถใช้พื้นที่ใช้สอยภายในได้เต็มที่ดี ตัวห้องเน้นห้องนอนขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับสัดส่วนห้องพักอาศัยทั้งห้อง ได้ครัวปิดเป็นสัดส่วนดี แต่ก็แลกมากับพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ไม่ได้วิวจากภายนอก
วัสดุ – สำหรับวัสดุ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายต่อตารางเมตร 100,000 บาทและโครงการข้างเคียงในละแวกที่ขายในราคาใกล้เคียงกันก็ถือว่าให้น้อยไปนะคะ ด้วยรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted ได้ห้องน้ำสำเร็จรูป และ Pantry ท็อป Particle + Sink แต่ไม่ได้ Hob&Hood ส่วนพื้นห้องเป็นพื้นลามิเนต ห้องครัวและระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
สาธารณูปโภค – จัดให้มามาตรฐานมีครบครันตามพื้นฐานคือ สระว่ายน้ำ ห้อง Fitness ห้องน้ำแยกชาย/หญิง + ซาวน่า และสวนหย่อมในชั้นดาดฟ้า แต่เสียดายที่ Main Facilities ดันลงมาที่ชั้นล่าง ซึ่งทำให้ลูกบ้านที่ใช้งาน Facilities ขาดความเป็นส่วนตัวไปพอสมควรเพราะนำสระว่ายน้ำอยู่ติดกับ Lobby เลย แขกไปใครมาก็เห็นได้ง่าย ดีที่อีกฝั่งที่เป็นทางเดินกลางแจ้งนั้นทางโครงการนำต้นไม้พุ่มมาเป็นฉากบังเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ และอีกอย่างที่เป็นข้อด้อยของการทำ Facilities ชั้นล่างคือไม่ได้วิวมุมสูงจากพื้นที่ส่วนกลางด้วยค่ะ ส่วนห้อง Fitness จัดมาให้ตามสมควรมีเครื่องเล่นประมาณ 10 เครื่องค่ะ โดยรวมแล้วเมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียงที่ขายในราคาพอๆ กันแล้วถือว่าโครงการนี้ไม่เด่นในเรื่อง Facilities เท่าไหร่นะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 100,000 บาท/ตร.ม., 30 June 2017
- ทำเล 8.5/10 – ทำเลอยู่ในย่านชุมชนเก่ามีความอุดมสมบูรณ์ คึกคัก ใกล้ห้างแบบเดินไปได้ง่าย
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนราชพฤกษ์ ใกล้สี่แยกและใกล้จุดกลับรถ
- ไม่ใช้รถ 9.5/10 – ติด BTS ตลาดพลูและอยู่ฝั่งตรงข้าม BRT ราชพฤกษ์
- วัสดุ 7/10 – มาตรฐาน ถือว่าให้มาไม่มากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย
- แบบ 6.5/10 – มีความหนาแน่นสูง
- สาธารณูปโภค 6/10 – Main Facilities อยู่ชั้นล่างสุด แต่ได้ครบตามมาตรฐาน เทียบกับราคาและโครงการข้างเคียงถือว่าให้มาไม่มาก
- MAIN CLASS
- 7.90 / 10.00
BOTTOM LINE
Aspire สาทร ท่าพระ เหมาะสำหรับชาวฝั่งธนฯโดยแท้ หรือจะเป็นคนที่หาบ้านย่านฝั่งธนที่ไม่ใช้รถแบบเดินลงบันไดเข้าโครงการ ไม่ใช้รถก็ได้ มองหาโครงการที่มีความอุดมสมบูรณ์รายรอบเยอะในระยะเดิน มีงบประมาณระดับ 2.8 – 3.1 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 20,000 – 25,000 บาท (ราคาห้อง 1 Bedroom 30.5 ตร.ม.)