วันนี้เราพาไปชม บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) เป็นคอนโด High Rise ราคาล้านกลางๆ ในย่านปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี ที่เป็น 1 ในโครงการ CSR ของเสนาฯ ที่มอบบริจาคกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาและพยาบาล จะมีรายละเอียดอะไรบ้างที่น่าสนใจบ้าง ตามอ่านกันต่อได้เลยค่ะ
- โครงการ CSR : มอบบริจาคกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วให้แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
- ราคาย่อมเยา : ราคาเริ่มต้นล้านกลางๆ ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการที่อยู่ในย่านปิ่นเกล้าแล้วถือว่าราคาย่อมเยา Trade off กับทำเลที่อยู่ห่างจากแนวรถไฟฟ้ามาหน่อย แต่ยังเดินทางได้สะดวกค่ะ
- แบบห้องหลากหลาย : มีแบบห้องให้เลือกถึง 4 แบบ เน้นห้อง 1 Bedroom อยู่ได้ 1-2 คน แบ่งพื้นที่ห้องเป็นสัดส่วน ได้ครัวแบบปิดและมีระเบียง
- Fully Furnished : ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ตกแต่งนิดเดียวก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ช่วยประหยัดงบตกแต่งห้องไปได้เยอะ
- พื้นที่ส่วนกลาง : ออกแบบน่าใช้งาน มีให้ใช้ครบครัน ทั้งพื้นที่ออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ Co- Working Space และสวนหย่อม รวมถึงเป็นคอนโด Low – Carbon ที่มีจุด EV Charger และ Solar Rooftop ที่ช่วยลดค่าส่วนกลางโครงการด้วยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2566
ชื่อโครงการ | บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท บ้านร่วมทางฝัน จำกัด บริหารงานโดย บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. |
ที่ดิน | 2 ไร่ 75 ตร.วา |
ประเภทคอนโด | High Rise 19 ชั้น ห้องพักอาศัย 354 ยูนิต |
จำนวนยูนิต | 354 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 24 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 134 คัน คิดเป็น 38% (รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี n/a |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.60 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.xx ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | n/a บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | อยู่ระหว่างการประเมิน |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1775 กด 99 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ติดถนนบรมราชชนนี ใกล้ทางกลับรถใต้สะพาน เข้า-ออกเมืองได้ง่าย
- ใกล้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ด่านตลิ่งชัน ประมาณ 4.9 กิโลเมตร
- ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ทั้ง MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางบำหรุ
- มีรถไฟฟ้าสายใหม่ในอนาคต ได้แก่ MRT สายสีส้ม สถานีบางขุนนนท์
- Shuttle Service รถรับ – ส่งจากโครงการไปตามเส้นบางขุนนนท์ จรัญสนิทวงศ์ บรมราชชนนี และถนนเลียบทางรถไฟ
- ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ Central ปิ่นเกล้า, The Sense, Major Cineplex และโรงพยาบาลศิริราช ในระยะ 5 -7 กิโลเมตร
พิกัด Google Maps : 13.7869962341712, 100.46464469516876
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) ตั้งอยู่ในย่านปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี ซึ่งเป็นทำเลที่มีความเป็นชุมชนดั้งเดิมสูง มีบ้านพักอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นเลยค่ะ ตัวโครงการอยู่ติดถนนบรมราชชนนี สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย เพราะว่าตัวโครงการใกล้กับทางกลับรถใต้สะพาน ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อถนนหลายสายทั้งถนนเลียบทางรถไฟ, ชัยพฤกษ์และบางขุนนนท์ ไปทางฝั่งจรัญสนิทวงศ์และโรงพยาบาลศิริราชได้ง่าย รวมถึงจะเข้าเมืองไปโซนดุสิต ราชวิถี และพระราม 8 ก็สะดวก
แต่สำหรับใครที่ทำงานนอกเมือง ก็สามารถขับไปฝั่งถนนบรมราชชนนีขาออก เพื่อไปทางพุทธมณฑลได้ค่ะ หรือถ้าใครที่ต้องการใช้ทางด่วนก็สามารถไปทางด่วนประจิมรัถยา และ ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ซึ่งจะอยู่คู่ขนานกับถนนบรมราชชนนี ตรงจุดขึ้นลงด่านตลิ่งชัน ห่างไปประมาณ 4.9 กิโลเมตร เราก็สามารถใช้เดินทางไปโซนบางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าวได้สะดวกเลยค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ค่อนข้างสะดวกเลย มีให้เลือกหลากหลายทั้งรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ Taxi รวมถึงมีรถสองแถวขับผ่านหลายสาย ทำให้สามารถโบกเรียกบริการได้ตลอดเวลาเลย
บริเวณใกล้ๆโครงการจะมี MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ โดยห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 3.2 กิโลเมตร สามารถใช้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพชั้นในได้สะดวก และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางบำหรุ ในระยะประมาณ 5.4 กิโลเมตร ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้ค่ะ และในอนาคตจะมี MRT สายสีส้ม เชื่อมกับ MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีบางขุนนนท์ ที่จะทำให้เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่รถไฟฟ้าเส้นนี้ปัจจุบันยังไม่เริ่มสร้างเลย ซึ่งตรงนี้อาจจะใช้เวลานานหลายปีก็เป็นได้ค่ะ
MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ ที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด รวมถึงในอนาคตจะเป็น Interchange Station เชื่อมกับสายสีส้มด้วยค่ะ
อย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าตัวโครงการจะจะขยับห่างออกมาจากแนวเส้นรถไฟฟ้า MRT ทำให้ได้ราคาเฉลี่ยประมาณ 70,000 – 80,000 บ./ตร.ม. ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าที่มีราคาเฉลี่ยประมาณ 90,000 – 120,000 บ./ตร.ม. แต่ทางโครงการก็ได้มี Shuttle Service รถรับ – ส่ง จากโครงการไปตามเส้นบางขุนนนท์ จรัญสนิทวงศ์ บรมราชชนนี และถนนเลียบทางรถไฟ โดยผ่านหน้า MRT สถานีบางขุนนนท์, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ช่างชุ่ย และวนกลับเข้าสู่โครงการค่ะ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับคนที่ใช้รถไฟฟ้าบ่อยๆ รวมถึงคนทำงานในโซนนี้ด้วย แต่เราขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าเส้นทางและจุดรับส่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ถือว่าค่อนข้างสูงเลยค่ะ เนื่องจากเป็นย่านที่มีทั้งบ้านพักอาศัยดั้งเดิมและโครงการจัดสรรอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้มีสิ่งอำนวยต่างๆ เกิดขึ้นบนทำเลนี้เยอะเลย อย่างเส้นถนนบรมราชชนนีก็จะมี Central ปิ่นเกล้า, The Sense และ Major Cineplex อยู่ในระยะ 5-7 กิโลเมตร ขับรถมาได้สะดวก จะมาชอปปิ้ง ดูหนังและ Hang out ก็ได้ ส่วนบนถนนจรัญสนิทวงศ์จะมี Makro จรัญสนิทวงศ์ และ Foodland หรือจะไปถนนบางขุนนนท์ที่ตลอดเส้นทางจะมีร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย ที่หลายๆคนจะแวะซื้อของกินก่อนกลับบ้านกัน รวมถึงตลาดบางขุนนนท์และตลาดน้ำตลิ่งชันด้วยค่ะ
นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลมากมาย ทั้งโรงพยาบาลใหญ่อย่าง รพ.ศิริราช, รพ.ตา หู คอ จมูก, รพ.ผิวหนังอโศก ปิ่นเกล้า, รพ.เจ้าพระยา และ รพ.ธนบุรี รวมถึงยังมีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆกระจายอยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วยค่ะ
โดยเราได้เก็บภาพบรรยากาศความอุดมสมบูรณ์โดยรอบมาให้ชมกันด้วยค่ะ
บรรยากาศ ท็อปส์ มาร์เก็ต ตลิ่งชัน ที่อยู่ใกล้โครงการเพียง 250 เมตรค่ะ
บรรยากาศห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ที่เป็นห้างขนาดใหญ่ของทำเลค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่าค่ะ จึงได้วิวแบบเปิดโล่งเลย โดยตัวโครงการจะอยู่ติดถนนบรมราชชนนี ใกล้กับทางกลับรถใต้สะพาน ทำให้มีรถยนต์สัญจรผ่านไปมาตลอด แต่คนเดินผ่านไม่ค่อยเยอะ จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศความเงียบสงบและไม่วุ่นวายค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบและถนนบรมราชชนนี
- ทิศใต้ ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบและถนนบรมราชชนนี
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบและหมู่บ้าน
บรรยากาศบริเวณพื้นที่ตั้งโครงการ จะอยู่ติดกับซอยบรมราชชนนี 16 ค่ะ
ซอยบรมราชชนนี 16 เป็นซอยตัน และบริเวณโดยรอบเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ทำให้ตัวโครงการได้วิวเปิดรอบด้านเลย
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ จะเป็นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี
บรรยากาศด้านหน้าโครงการเมื่อมองไปทางด้านขวา เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการเมื่อมองไปทางด้านซ้าย จะเห็นทางกลับรถใต้สะพานแล้วเชื่อมต่อไปฝั่งจรัญสนิทวงศ์และศิริราชได้สะดวก
เราลองเดินสำรวจบริเวณถนนชัยพฤกษ์ ก็มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้านเลย รวมถึงมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยเดินข้ามไปถนนบางขุนนนท์ได้ค่ะ สำหรับคนที่ชอบเดินอยู่แล้วก็สามารถเดินไปกินข้าว ซื้อของกินที่บางขุนนนท์ได้เหมือนกัน
ส่วน Sale Gallery ของโครงการจะอยู่คนละตำแหน่งกับพื้นที่โครงการนะคะ สำหรับใครที่เดินทางมาสอบถามข้อมูลโครงการและดูห้องตัวอย่าง จะต้องเดินทางมา Sale Gallery ที่ตั้งอยู่ก่อนถึงซอยบรมราชชนนี 24 ค่ะ
บรรยากาศตัวอาคาร Sale Gallery
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ท็อปส์ มาร์เก็ต ตลิ่งชัน ~ 250 เมตร
- ตลาดน้ำตลิ่งชัน ~ 2.2 กิโลเมตร
- PATA ปิ่นเกล้า ~ 4.9 กิโลเมตร
- Lotus’s ปิ่นเกล้า ~ 5.0 กิโลเมตร
- Central ปิ่นเกล้า ~ 5.3 กิโลเมตร
- Major Cineplex ปิ่นเกล้า ~ 5.5 กิโลเมตร
- แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ ~ 5.6 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ~ 3.1 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสัตว์พระราม 8 ~ 4.4 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ~ 4.7 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลศิริราช ~ 5.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาล หู ตา จมูก ~ 5.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเจ้าพระยา ~ 6.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลธนบุรี 2 ~ 8.8 กิโลเมตร
สถานศึกษา
- มหาวิทยาลัยศิลปากรตลิ่งชัน ~ 1.0 กิโลเมตร
- โรงเรียนนิลประพันธ์ ~ 1.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนเบญจพร ~ 1.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนดิลกศึกษา ~ 2.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนวัดบางขุนนนท์ ~ 2.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม ~ 3.3 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยศิลปากร ~ 5.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนวัดอินทรวิหาร ~ 6.2 กิโลเมตร
สถานที่ราชการ
- สมาคมพัฒนาอนามัยแห่งประเทศไทย ~ 210 เมตร
- กรมบังคับคดี ~ 1.3 กิโลเมตร
- สำนักงานเขตตลิ่งชัน ~ 2.1 กิโลเมตร
- สถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน ~ 2.8 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- โครงการ CSR ช่วยเหลือโรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยนำมอบบริจาคกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลรักษาในโรงพยาบาล
- คอนโด High Rise ได้วิวโดยรอบเปิดโล่ง รวมถึงได้วิวคลองบางกอกน้อยด้วย
- มีจำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว เมื่อเทียบกับโครงการอื่นบนทำเลเดียวกัน
- คอนโด Low Carbon ประหยัดพลังงาน โดยมีจุด EV Charger, Solar Rooftop, บริหารการแยกขยะในโครงการ, ปลูกต้นไม้ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในสวน และ SENA 360 App อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน
- การวางยูนิต ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ความเย็นสบายและหันไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ ที่ได้แดดแรงกว่า แต่จะได้วิวส่วนกลางของโครงการ
- แยกส่วนกลางตามกิจกรรมแบบ Passive, Active ออกแบบพื้นที่ชั้น 1 เน้นการพักผ่อน ส่วนชั้น 5 จะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายและสระว่ายน้ำ และชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สวน เพื่อกระจายการใช้งานให้แต่ละโซนไม่หนาแน่น
บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) เป็นคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น จำนวน 354 ยูนิต ติดถนนบรมราชชนนี บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ได้ที่จอดรถคิดเป็น 38% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด มาพร้อมวิวเปิดโล่งรอบด้านและคลองบางกอกน้อย รวมถึงเป็นคอนโด Low – Carbon ที่มีจุด EV Charger และ Solar Rooftop ที่ช่วยลดค่าส่วนกลางโครงการด้วยค่ะ
สำหรับที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับคลองบางกอกน้อย ทางโครงการก็เลยได้แรงบันดาลใจมาจากสายน้ำของคลองบางกอกน้อย มาออกแบบเป็นเส้นสายตัวอาคารและการตกแต่งภายใน อีกทั้งเเลือกโทนสีแดงส้ม ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาและสีสันให้กับตัวอาคาร
จากที่เราได้บอกไปว่าโครงการนี้น่าสนใจที่เป็น 1 ในโครงการ CSR ของทางเสนาฯ ที่จะมอบบริจาคกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายให้แก่โรงพยาบาลภาครัฐ ซึ่งก็ได้พัฒนาโครงการบ้านร่วมทางฝันอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 20 และมียอดเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลรัฐต่างๆมาแล้วรวม 350 ล้านบาท
ก่อนที่เราจะพาไปเจาะลึกตัวโครงการนี้กัน เราจะขอเล่าถึงที่มาของ “บ้านร่วมทางฝัน” เพื่อให้เห็นภาพกันมากขึ้นนะคะ
อย่างที่รู้ๆกันว่าโรงพยาบาลภาครัฐมีผู้ป่วยหลากหลายมาเข้ารับการรักษาจำนวนเยอะมาก แต่ด้วยพื้นที่ตรวจรักษาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ อีกทั้งยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการดูแลรักษาหลายๆด้าน จึงทำให้ทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม
คุณธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ต้องเข้ารักษาตัวเป็นเวลานานที่โรงพยาบาลศิริราช ก็ได้เห็นสภาพแวดล้อมภายในโรงพยาบาล ความยากลำบากในการทำงานของหมอและพยาบาล และผู้ป่วยจำนวนมากที่รอเข้ารับการรักษา จึงเกิดเป็นแนวคิดที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลภาครัฐและมอบสิ่งดีๆให้กับสังคม ผ่านการทำโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการกุศลแบบ CSR ภายใต้ชื่อ “บ้านร่วมทางฝัน” นั่นเอง
โดยลงทุนและพัฒนา “บ้านร่วมทางฝัน” โครงการที่อยู่อาศัยในราคาย่อมเยา และนำกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจากการขายโครงการ มอบบริจาคภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิร่วมทางฝันที่สนับสนุนโดย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ให้แก่โรงพยาบาลภาครัฐต่างๆ เพื่อจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ห้องตรวจและสิ่งอำนวยความสะดวกในการรักษาพยาบาลให้กับผู้ป่วยได้เหมาะสมและดียิ่งขึ้นค่ะ ดังนั้นใครก็ตามที่ซื้อโครงการนี้ นอกจากจะได้ที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเงินทำบุญให้กับโรงพยาบาลภาครัฐด้วยนั่นเอง ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งหมด 5 โครงการ
- บ้านร่วมทางฝัน 1 ลำลูกกา-คลอง 2 (ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ) : มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อจัดทำห้องแพทย์และพื้นที่รับรองญาติผู้ป่วย รวมถึงสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ด้วย
- บ้านร่วมทางฝัน 2 ลำลูกกา-คลอง 4 (ทาวน์โฮม บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ) : มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสร้างศูนย์ฟอกไต จัดซื้อเครื่องมือแพทย์สำหรับศูนย์ศัลยกรรมประสาทและศูนย์โรคหัวใจ
- บ้านร่วมทางฝัน 3 คลองหลวง (คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 5 ชั้น จำนวน 4 อาคาร) : มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อสนับสนุนโครงการผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด พร้อมกับจัดซื้อรถพยาบาลและเครื่องมือทางการแพทย์
- บ้านร่วมทางฝัน 4 เพชรเกษม-บางแค (คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร) : มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดีและโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อสร้างห้อง ICU และห้องปลอดเชื้อเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19
- บ้านร่วมทางฝัน 5 (ซื้อที่ดินและนำไปขายต่อ) : มอบเงินบริจาคให้กับ 4 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ซึ่งในปีนี้ก็ได้เปิดตัวโครงการบ้านร่วมทางฝันโครงการใหม่ล่าสุด ได้แก่
- บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (คอนโดมิเนียม High Rise สูง 19 ชั้น จำนวน 1 อาคาร) : มอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
โดยวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกรายละเอียดของ บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) ที่จะเปิดขายโครงการประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน ในราคาเริ่มต้นที่ 1.xx ล้านบาท* กันค่ะ
การจัดฟังก์ชันส่วนกลางภายในโครงการสรุปได้ดังนี้
- ชั้น 1 : Welcome Lobby, Relax Lobby, Cafe’ Lobby, Library Zone, Co- Working Space, Meeting Room, Grab & Go, Laundry Room, First Aid Room และ EV Charger
- ชั้น 5 : Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร, Kids Pool, Jacuzzi, Fitness, Yoga และ Kid Room
- ชั้นดาดฟ้า : Sky Garden, Sky Theater, Sunset Seat, Sky Party Space และ Sky Relax Space
Master Planทางเข้า – ออกของโครงการจะอยู่ติดถนนบรมราชชนนีเลย มีรั้วไม้กระดกตรงบริเวณด้านหน้าโครงการ และมีป้อม รปภ. คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV อีกด้วย ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบตัวอาคารให้มีระยะห่างจากถนนหลักประมาณนึง เพื่อป้องกันพวกฝุ่นและเสียงรบกวนที่จะมาพร้อมกับถนนใหญ่นั่นเองค่ะ
พอเราขับเข้ามาแล้วเลี้ยวขวาจะเจอกับ Drop-off พื้นที่รับ-ส่งลูกบ้าน และขับไปด้านข้างเพื่อออกจากโครงการค่ะ หากเลี้ยวขวาจะขับขึ้นไปพื้นที่จอดรถบริเวณชั้น 2 – 4 ได้เลย หรือบริเวณรอบๆตัวอาคารจะมีพื้นที่จอดรถหลายจุดทั้งด้านหน้าและด้านข้างโครงการ รวมถึงพื้นที่จอดรถสำหรับผู้พิการและ EV Charger ด้วยค่ะ
ทางโครงการมีจุด EV Charger รองรับสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วยค่ะ จะอยู่บริเวณด้านข้างอาคารนะคะ
สำหรับส่วนกลางชั้น 1 จะเป็น Passive Facilities เน้นเป็นพื้นที่ต้อนรับอย่าง Welcome Lobby, Relax Lobby และ Cafe’ Lobby รวมถึงพื้นที่นั่งพักผ่อนหลายจุดด้วยกันทั้ง Library Zone, Co- Working Space และ Meeting Room สำหรับการทำงานและการประชุม นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ Grab & Go อยู่ทางด้านหน้า สำหรับวางและส่งอาหาร เวลาเราสั่งอาหารผ่าน Application ต่างๆด้วยนั่นเอง เป็นการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แบบใหม่ในปัจจุบันค่ะ ส่วนระบบในการเข้า-ออกภายในอาคารจะเป็น Key Card และ Face Scan เพื่อเพิ่มความปลอดภัยภายในโครงการ
ภาพจำลองบรรยากาศส่วนกลางบริเวณชั้น 1 บริเวณ Lobby และ Co-Working Space ที่ออกแบบพื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่ สำหรับมานั่งพูดคุยกันหรือเหมาะนั่งทำงานที่ไม่ได้ต้องใช้สมาธิจดจ่อมากนัก
สำหรับการตกแต่งจะมีการใช้เส้นโค้งที่ได้แรงบันดาลใจจากสายน้ำคลองบางกอกน้อยมาออกแบบเป็นฝ้าเพดาน เน้นออกแบบภายในด้วยโทนสีขาวและตัดด้วยสีเข้ม เพื่อเพิ่มลูกเล่นในการออกแบบ รวมถึงแขวนโคมไฟระย้าเพิ่มความหรูหราและสร้างความประทับใจแรกเมื่อเข้ามาภายในตัวอาคารด้วยค่ะ
ชั้น 2 – 4
ชั้น 2
สำหรับชั้น 2 – 4 เป็นที่จอดรถแบบ Conventional หรือก็คือช่องจอดแบบปกตินั่นเอง ซึ่งสามารถจอดได้ 134 คันหรือคิดเป็นประมาณ 38% และหากรวมจอดซ้อนคันจะคิดได้เป็น 41% เลยค่ะ
ชั้น 5ส่วนกลางของชั้นนี้เป็น Active Facilities ที่ประกอบด้วย Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร พร้อม Pool Deck ที่นั่งริมสระน้ำ, Kids Pool สำหรับเด็กๆมาว่ายน้ำเล่นกัน รวมถึงส่วนของ Jacuzzi สำหรับนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยค่ะ นอกจากนั้นยังมี Fitness พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน, Yoga Area สำหรับเล่นโยคะ และ Kid Room ให้เด็กๆมาเล่นสนุกกัน
สระว่ายน้ำจะเป็นแบบสระกลางแจ้ง และมีปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาตรงที่นั่งบริเวณ Pool Deck สำหรับใครที่มาว่ายน้ำตอนกลางวันก็อาจจะโดนแดดร้อนหน่อยค่ะ แต่พอตอนเย็นที่แดดไม่แรงแล้ว ก็ว่ายน้ำได้ทั่วทั้งสระเลย
ซึ่งชั้นนี้ก็จะมีโซนห้องพักอาศัยอยู่ด้วย โดยตรงโถงลิฟต์จะมี 2 ประตูไปส่วนชั้นพักอาศัยและส่วนกลางตามที่เราวงเป็นกรอบสีแดงไว้ค่ะ โดยจะเป็นประตูกั้นพร้อมระบบ Key Card และ Face Scan เพิ่มความปลอดภัยของลูกบ้านที่อยู่ในชั้นนั้นๆค่ะ สำหรับลูกบ้านที่มาจากชั้นบนก็ลงลิฟต์มาแล้วเดินไปทางประตูที่ออกไปส่วนกลางได้เลยนั่นเอง และบริเวณโถงทางเดินจะมีออกแบบช่องแสงของอาคาร ที่เพิ่มความสว่างให้โถงทางเดินภายในอาคาร รวมถึงสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ด้วย นอกจากนั้นเราได้วงกรอบตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจมาอธิบายให้เห็นภาพขึ้นด้วยค่ะ
- กรอบสีส้ม – ห้องแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม และอยู่ตำแหน่งมุมอาคาร ที่ติดกับห้องเพื่อนบ้านด้านเดียว ทำให้ได้วิวจากทั้ง 2 ฝั่งและได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ จึงเหมาะกับคนที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่าการใช้งานหรือวิวส่วนกลางค่ะ
- กรอบสีชมพู – 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องมุมอาคารและไม่ติดกับห้องเพื่อนบ้านเลย รวมถึงไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด แต่ก็แลกมากับระยะเดินที่ไกลกับตัวลิฟต์นั่นเอง
- กรอบสีเขียว – เป็นตำแหน่งของ 2 Bedroom ที่รวมข้อดีทุกอย่างเลยค่ะ ทั้งเป็นห้องมุมอาคารที่ได้วิวเปิดโล่ง 2 ฝั่ง รวมถึงได้วิวส่วนกลางภายในชั้นด้วยนั่นเอง นอกจากนั้นยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะไม่ติดกับห้องเพื่อนบ้านและยังอยู่ใกล้กับลิฟต์ ทำให้สามารถขึ้น-ลงอาคารและใช้ส่วนกลางได้สะดวกค่ะ
- กรอบสีน้ำเงิน – ห้องไซซ์เล็กอยู่ใกล้ลิฟต์และได้ความเป็นส่วนตัวดีเลยค่ะ จะสังเกตว่าโครงการออกแบบ 1 Bedroom เรียงกันเป็นแถบบริเวณตรงกลางอาคาร แต่จะมีเพียง 2 ยูนิตนี้ที่ออกแบบแยกออกมาและมีเพื่อนบ้านรวมแล้วเพียง 3 ห้องเองค่ะ ส่วนห้องไซซ์เล็กที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคารถือว่าเป็นห้อง Rare Item ของโครงการที่จะได้วิวจาก 2 ฝั่งด้วย ถือว่าตำแหน่งกรอบสีน้ำเงินนี้เป็นห้องขนาดเริ่มต้น ราคาดีที่ใกล้ลิฟต์ แชร์ผนังกับห้องอื่นเพียงด้านเดียว แถมมีห้องมุมอาคารด้วยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือ มีความยาวถึง 20 เมตร เวลาว่ายน้ำก็ได้วิวเมืองเปิดโล่ง
ภาพจำลองบรรยากาศ Fitness ออกแบบโดยใช้เส้นโค้งเหมือนสายน้ำ และใช้โทนสีขาวและตัดด้วยสีแดงส้มเพิ่มสีสัน ความมีชีวิตชีวาภายในห้อง โดยตำแหน่งของ Fitness จะมองออกไปได้วิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองด้วยค่ะ
ชั้นดาดฟ้าส่วนของชั้นดาดฟ้านี้ สามารถขึ้นลิฟต์ขึ้นมาใช้งานในชั้นนี้ได้เลย โดยจะออกแบบเป็นพื้นที่สีเขียว แบ่งฟังก์ชันเป็น Sky Garden, Sky Theater, Sunset Seat, Sky Party Space และ Sky Relax Space ซึ่งจะเป็นพื้นที่มาเดินเล่น พร้อมกับมีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานหรือนั่งพักผ่อนกันได้ด้วยค่ะ รวมถึงโดยรอบโครงการที่ไม่มีตึกสูงเลย ทำให้ได้วิวเปิดโล่งในทุกทิศเลยนั่นเอง
สำหรับโครงการนี้เป็นคอนโด Low Carbon ประหยัดพลังงาน ที่นอกจากจะมีจุด EV Charger ตรงชั้น 1 แล้วบริเวณชั้นดาดฟ้าจะมี Solar Rooftop ที่จะใช้ Solar Energy ในพื้นที่ส่วนกลาง ช่วยลดราคาค่าส่วนกลางของโครงการค่ะ รวมถึงมีปลูกต้นไม้หลายสายพันธุ์ ช่วยดูดซับลดคาร์บอนไดออกไซด์ในสวนด้วย
บริเวณ Sky Garden จะมีออกแบบมุมนั่งพักผ่อนและทำงานได้ เพื่อใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานท่ามกลางธรรมชาติในตอนเย็น อีกท้ังได้วิวเมืองแบบเปิดโล่งด้วยค่ะ
แปลนชั้นพักอาศัยชั้น 6 – 19 เป็นชั้น Typical Floor Plan ซึ่งมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 24 ยูนิต ลักษณะการวางผังเป็นรูปตัว L โดยวาง Core ลิฟต์อยู่ทางซ้าย ทำให้ห้องพักอาศัยทางฝั่งขวาจะมีระยะเดินที่ไกลกว่า
รูปแบบห้องของชั้น Typical Floor Plan จะวางตำแหน่ง 1 Bedroom อยู่บริเวณกลางอาคาร โดยห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่โดนแดดโดยตรง เย็นสบาย ส่วนห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้แดดแรงกว่า ทางโครงการจึงออกแบบให้ห้องฝั่งนี้ได้วิวของส่วนกลางบริเวณชั้น 5 นั่นเองค่ะ
ส่วน 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom จะอยู่บริเวณมุมอาคารทั้ง 4 ตำแหน่ง แต่ว่าจะมีห้องไซซ์เล็กที่เป็นห้องมุมอาคารทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วยค่ะ
- กรอบสีส้ม – ห้องแบบ Single load Corridor ไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม อยู่มุมอาคาร
- กรอบสีชมพู – 1 Bedroom Plus ห้องมุมอาคารและไม่ติดกับห้องเพื่อนบ้านเลย ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด
- กรอบสีเขียว – 2 Bedroom ห้องมุมอาคารที่ได้วิวส่วนกลาง ไม่ติดกับห้องเพื่อนบ้านเลย อยู่ใกล้ลิฟต์และส่วนกลาง
- กรอบสีน้ำเงิน – ห้องไซซ์เล็กราคาดีที่ใกล้ลิฟต์ แชร์ผนังกับห้องอื่นเพียงด้านเดียว และมีห้องมุมอาคารให้เลือกด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 : Welcome Lobby, Relax Lobby, Cafe’ Lobby, Library Zone, Co- Working Space, Meeting Room, Grab & Go, Laundry Room, First Aid Room และ EV Charger
- ชั้น 5 : Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร, Kids Pool, Jacuzzi, Fitness, Yoga และ Kid Room
- ชั้นดาดฟ้า : Sky Garden, Sky Theater, Sunset Seat, Sky Party Space และ Sky Relax Space
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 177 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 134 คัน คิดเป็น 38% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
– ประตูทางเข้า-ออกโครงการ : รั้วกั้นไม้กระดก
– ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) : Key Card / Face Scan
– CCTV ส่วนกลาง
– รั้วรอบโครงการ
แบบห้อง
Highlight
- แบบห้องหลากหลาย มีให้เลือกถึง 4 แบบห้อง โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom
- ห้องตกแต่งแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ตกแต่งนิดเดียวก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย
- แบ่งฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน ทำให้สะดวกเวลาใช้งานและได้ความเป็นส่วนตัว
- ทุกแบบห้องได้ครัวปิด กันกลิ่นและควันไปติดเฟอร์นิเจอร์อื่นในห้องได้
- มีระเบียงทุกแบบห้อง พร้อมแขวน Condensing Unit ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านล่าง
แบบห้องของ บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) จะตกแต่งแบบ Fully Furnished และออกแบบมีครัวปิดและระเบียงในทุกแบบห้องเลย โดยมีแบบห้องให้เลือกถึง 4 แบบ โดยจะเน้นเป็น 1 Bedroom เหมาะอยู่ 1 – 2 คนได้สบายๆค่ะ
- Type A (1 Bedroom) ขนาด 23.8 – 24.7 ตร.ม.
- Type B1 (1 Bedroom Extra) และ Type B2 (1 Bedroom Smart Closet) ขนาด 27.3 – 27.8 ตร.ม.
- Type C (1 Bedroom Plus) ขนาด 35 ตร.ม.
- Type D (2 Bedroom) ขนาด 45.8 – 47.5 ตร.ม.
ทางโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์มาให้ค่อนข้างครบเลยทั้ง ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, โซฟา, เคาน์เตอร์ครัว Top พร้อมอ่างล้างจาน Hop & Hood, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และ แอร์ เราเพียงซื้อพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดเครื่องนอนและผ้าม่านก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย
มีเพียงเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่จะมีดีไซน์และจำนวนที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับแบบห้อง ได้แก่
– Type A (1 Bedroom) : โต๊ะกินข้าวพับเก็บได้ พร้อมชั้นวางของ + แอร์ 2 เครื่อง
– Type B1 (1 Bedroom Extra) และ B2 (1 Bedroom Smart Closet) : โต๊ะกินข้าว พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว + แอร์ 2 เครื่อง
– Type C (1 Bedroom Plus) : โต๊ะกินข้าว พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว + แอร์ 3 เครื่อง
– Type D (2 Bedroom) : ชั้นวางของบริเวณที่ตั้งเครื่องซักผ้า + โต๊ะกินข้าว พร้อมเก้าอี้ 4 ตัว + แอร์ 3 เครื่อง
วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นลายไม้
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก Panasonic (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
วัสดุห้องครัว
– พื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– Hob และ Hood จาก FRANKE
– อ่างล้างจาน จาก HAFELE
วัสดุห้องน้ำ
– สุขภัณฑ์ COTTO หรือ TOTO Washlet (รูปแบบขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– ก๊อกน้ำและอ่างล้างมือ จาก KARAT
– ฝักบัว จาก American Standard
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก 1 Bedroom และ 1 Bedroom Smart Closet กันค่ะ รวมถึงเราก็ได้เก็บภาพบรรยากาศห้องตัวอย่างของ 2 Bedroom มาให้ชมกันด้วย ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
Type A (1 Bedroom) ขนาด 23.87 ตร.ม.รูปแบบห้องแรกที่เราจะพาไปดูกันคือ Type A (1 Bedroom) ขนาด 23.87 ตร.ม. ตำแหน่งห้องจะอยู่บริเวณกลางอาคาร หันไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ที่จะได้แดดแรงกว่าตำแหน่งอื่นๆ แต่ก็ได้ข้อดีที่จะได้วิวของส่วนกลางชั้น 5 นั่นเองค่ะ ส่วนจุดเด่นที่เราว่าน่าสนใจ ได้แก่
- พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ สามารถวางโต๊ะกลางและโต๊ะด้านข้างโซฟาได้ และมีพื้นที่ทางเดินผ่านได้สะดวก
- โต๊ะกินข้าวพับเก็บได้ พร้อมชั้นวางของ ทำให้ได้การใช้งานแบบยืดหยุ่น
- ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารจริงจังได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจะลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์อื่นๆภายในห้องด้วย
- ห้องนอน ออกแบบให้ตู้เสื้อผ้าอยู่แนวเดียวกับประตู ได้พื้นที่รอบเตียงและแต่งตัวกว้างขึ้น
- ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างตั้งเครื่องซักผ้าได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นขนาด 2.65 x 3.25 เมตร ปูพื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นลายไม้วัสดุเดียวกัน ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบ ทาสีขาวนะคะ ไฟจะได้เป็นดาวน์ไลท์ ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตรค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นนี้มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.35 เมตร สามารถวางทีวีได้ 50 – 55 นิ้วเลยค่ะ ซึ่งทางโครงการก็มีตู้วางรองเท้า ชั้นวางทีวีและโซฟามาให้แล้วด้วย ก็ช่วยประหยัดงบตกแต่งไปได้เยอะเลย
บริเวณข้างประตูเข้าห้องจะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่ทางโครงการทำเป็น Built – in มาให้แล้วนะ พอเข้าห้องมาก็ถอดเก็บรองเท้าได้เลย ออกแบบตู้แบ่งเป็นช่องด้านบนและล่าง โดยภายในช่องด้านล่างมีช่องวางรองเท้าทั้งช่องเล็กและใหญ่ อย่างผู้หญิงที่มีรองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าบู๊ทยาวก็เก็บได้สบายๆ หรือจะเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดรองเท้าและกล่องรองเท้าไว้ด้านบนสุดได้ด้วยนะคะ ส่วนพื้นที่ตรงกลางก็เป็นที่วางกุญแจรถ หรือ Keycard ต่างๆ เวลาเข้า-ออกห้องค่ะ
ข้างๆกับตู้เก็บรองเท้า จะมีชั้นวางทีวีที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ด้วยค่ะ ก็จะแบ่งเป็นช่องเก็บของและลิ้นชักค่ะ สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยให้ห้องดูเรียบร้อยดี
โซฟา 2 ที่นั่ง ที่ทางโครงการก็มาให้ด้วยนะคะ ด้านข้างมีปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์จมือถือได้ รวมถึงสามารถตั้งโต๊ะกลางตามที่ห้องตัวอย่างได้ตกแต่งให้เป็นไอเดียกัน ตั้งโต๊ะเล็กๆด้านข้างโซฟาได้ด้วย หรือจะตั้งทั้งโต๊ะกลางและโต๊ะข้างโซฟาเลยก็ได้ เพราะยังมีพื้นที่ทางเดินได้สะดวกค่ะ
บริเวณด้านข้างโซฟาตรงประตูห้องนอน จะมีโต๊ะกินข้าวพับเก็บได้ พร้อมชั้นวางของ ที่ทางโครงการทำ Built – in มาให้ นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังได้การใช้งานแบบยืดหยุ่นด้วยค่ะ เราสามารถตั้งของสะสมหรือของตกแต่งบนชั้นวางของได้ ส่วนช่องด้านบนก็สำหรับเก็บของต่างๆได้ ช่วยให้ภายในห้องดูเรียบร้อยค่ะ
อย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าเป็นโต๊ะกินข้าวแบบพับเก็บได้ ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นโต๊ะกินข้าวแล้ว เราก็ใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ด้วย เราแอบเห็นว่าจะมีชั้นวางของเล็กๆอยู่หลังโต๊ะที่เราเปิดออกมาด้วย ถือว่าถูกใจคนที่มีของกระจุกกระจิกเยอะค่ะ เพราะมีที่เก็บของทั้งช่องเล็กๆใหญ่ๆได้หลายจุดเลยค่ะ แต่ว่าทางโครงการไม่ได้มีเก้าอี้มาให้นะคะ เราก็เสียเงินซื้อเพิ่มตรงนี้นิดหน่อยค่ะ
ทางโครงการมีแอร์มาให้ 2 ตัว สำหรับแบบห้องนี้นะคะ จะติดตั้งในห้องนั่งเล่น 1 ตัวและห้องนอนอีก 1 ตัว ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom จะได้แอร์ 3 ตัวค่ะ
สำหรับประตูห้องนอนจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่กว้าง 1.3 เมตร และสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน ซึ่งเราได้ถ่ายรูปแบบปิดประตู (ภาพซ้าย) และเปิดประตู (ภาพขวา) เทียบกันว่าทั้ง 2 ภาพแทบไม่ต่างกันเลยค่ะ จะเห็นกรอบสีดำและรางประตูสีดำ ประกอบกับบานกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ตอนเปิด-ปิดประตูอาจต้องสังเกตและระวังเดินชนค่ะ
ห้องนอน
ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.50 x 2.60 เมตร และมีหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างเตียง ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาและได้วิวเมืองจากในห้องนอน โดยทางโครงการจะมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ เมื่อตั้งเตียงแล้วก็จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 0.90 เมตร หากใครจะติดตั้งทีวีก็แนะนำเป็นแบบแขวนค่ะ ส่วนพื้นที่ข้างหัวเตียงก็ตั้งเป็นโต๊ะเล็กๆไว้ตั้งโคมไฟหรือวางหนังสือได้ค่ะ
ซึ่งเราก็เพียงซื้อฟูกนอน หมอน ผ้าห่มมาเพิ่มเติม ก็เข้าอยู่ได้แล้ว แต่สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆก็สามารถติดม่านเพิ่มตรงประตูได้ด้วยค่ะ ตอนกลางวันก็เปิดให้แสงส่องเข้ามาได้ ส่วนตอนกลางคืนก็ค่อยปิดม่านค่ะ
สำหรับฐานเตียงที่ทางโครงการให้มาก็จะมีช่องสำหรับเก็บของต่างๆได้ค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built – in มาให้จะตั้งอยู่ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่น และติดกับด้านหลังของโต๊ะกินข้าวพับเก็บได้ พร้อมชั้นวางของค่ะ ดังนั้นเวลาเราเปิดประตูห้องนอน ตัวประตูจะเลื่อนไปปิดตรงบริเวณตู้เสื้อผ้านั่นเองค่ะ พอทางโครงการเลื่อนให้ตู้เสื้อผ้าอยู่นอกแนวห้องนอนแล้ว ก็จะได้พื้นที่แต่งตัวด้านหน้าตู้เสื้อผ้าเพิ่มมากขึ้นด้วย
ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มามีทั้งช่องเก็บของและลิ้นชักขนาดเล็กและใหญ่ พร้อมราวแขวนเสื้อและกางเกงทั้งบนและล่าง แต่สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวแล้วมีเสื้อผ้าเยอะ ทางโครงการก็มีห้อง 1 Bedroom Smart Closet ที่เดี๋ยวเราจะพาไปชมกันต่อจากนี้ค่ะ
พอออกจากห้องนอนจะไปในส่วนของห้องครัว ห้องน้ำและระเบียง ก็จะมีการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับการทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ เราจะเลี้ยวซ้ายพาไปดูห้องน้ำกันก่อนนะคะ
ห้องน้ำขนาด 1.3 x 2.3 เมตร มีการออกแบบลดระดับพื้นให้ต่ำลงกว่าพื้นห้อง ช่วยกันน้ำท่วมมาภายในห้องได้ ภายในห้องน้ำมีแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ และสิ่งที่ชอบมากๆสำหรับเราเลยคือมีก่อกำแพงเพิ่มขึ้นมาจากผนังด้านหลังโถสุขภัณฑ์ไปถึงพื้นที่อาบน้ำ ทำให้มีที่พื้นที่วางของตกแต่งและอุปกรณ์ใช้ในห้องน้ำได้เยอะดี
แต่เราแอบเสียดายนิดนึงตรงที่ถ้าเราติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำจะทำให้เราเอื้อมมาหยิบของขณะอาบน้ำไม่ได้อยู่ดีค่ะ หรือถ้าติดตั้งเป็นม่านกั้นอาบน้ำก็ยังพอเปิดม่านมาหยิบของและปิดม่านกลับเพื่ออาบน้ำต่อได้ แต่ว่าก็จะมีน้ำกระเด็นไปเลอะส่วนอื่นๆอยู่ดี
สำหรับก๊อกน้ำและอ่างล้างมือมาจาก KARAT และสุขภัณฑ์จาก COTTO ค่ะ โดยแบรนด์สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดที่ทางลูกบ้านได้รับอาจจะได้ตามแบบนี้หรือว่าจะได้เป็นแบบเทียบเท่านะคะ
พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.8 X 0.9 เมตร สามารถอาบน้ำและหมุนตัวได้สะดวกค่ะ และฝักบัวที่ได้จะเป็นฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard หรือเทียบเท่า เราอาจจะหาชั้นวางของมาตั้งภายในห้องน้ำ สำหรับวางครีมอาบน้ำและแชมพูได้ด้วย
ออกจากห้องน้ำมาจะเป็นครัวแบบปิดมีขนาด 1.30 x 2.35 เมตร ซึ่งทางโครงการก็ได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้แล้ว มีพื้นที่ว่างด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวไว้ตั้งตู้เย็นได้ค่ะ โดยเราจะมีทางเดินไปตรงระเบียงหรือพื้นที่สำหรับยืนทำอาหารกว้างประมาณ 0.7 เมตร
สำหรับด้านบนจะเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆได้ ติดตั้งเครื่องดูดควันจาก FRANKE หรือเทียบเท่า ใช้เป็นระบบหมุนเวียนที่ดูดควันไปปล่อยนอกอาคารค่ะ แต่จริงๆห้องครัวติดกับระเบียงอยู่แล้วจึงสามารถเปิดประตูให้ควันลอยออกไปนอกอาคารได้เลยนะคะ
ส่วนด้านล่างจะมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างจานสำหรับตั้งขยะ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ รวมถึงมีลิ้นชักเก็บของต่างๆ และมีเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้วยค่ะ
ส่วนของท็อปเคาน์เตอร์ครัวใช้วัสดุที่สามารถทนรอยขีดข่วนและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนผนังด้านหลังของเคาน์เตอร์จะไม่ได้กรุกระเบื้องหรือ Backsplash กันเลอะติดเอาไว้ให้ เวลาทำอาหารและใช้ไปนานๆอาจจะเลอะและเป็นคราบได้ ทำให้ดูไม่สวย เราก็สามารถซื้อติดเพิ่มได้ รวมถึงทำให้เราทำความสะอาดได้ง่าย
ทางโครงการได้ติดตั้งอ่างล้างมือสเตนเลสหลุมเดี่ยว จาก HAFELE และเตาไฟฟ้าแบบ Induction 2 หัว จาก FRANKE รวมถึงมีพื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับวางเครื่องปรุงหรือเตรียมอาหารได้อยู่ค่ะ
จะมีประตูกระจกกั้นระหว่างห้องครัวและระเบียง ทำให้สามารถเปิดประตูสำหรับระบายอากาศและกลิ่นภายในห้องได้ สำหรับพื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.10 x 1.30 เมตร ออกแบบแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ด้านล่างมากขึ้น สามารถตั้งเครื่องซักผ้า หรือทำเป็นมุมต้นไม้เล็กๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ห้อง
Type B2M (1 Bedroom Smart Closet) ขนาด 27.31 ตร.ม.สำหรับห้อง 1 Bedroom Smart Closet นี้ จะมีความยาวห้องมากกว่าแบบแรก รวมถึงออกแบบมี Walk – in Closet เหมาะสำหรับใครที่ชอบแต่งตัว มีเสื้อผ้าเยอะค่ะ โดยเราได้สรุปจุดเด่นได้ดังนี้
- ห้องนั่งเล่น ออกแบบพื้นที่ใหญ่ สามารถวางโซฟาและวางโต๊ะกินข้าวได้ด้วย
- ห้องครัวแบบปิด กันกลิ่นและควันออกไปในห้องนั่งเล่น
- Walk – in Closet มีพื้นที่แต่งตัวและแต่งหน้า เหมาะกับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ
- ระเบียงในห้องนอน มีพื้นที่ทำมุมนั่งเล่นหรือมุมต้นไม้ได้ แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นขนาด 2.60 x 2.85 เมตร โดยปูพื้นห้องนั่งเล่น ห้องนอนและ Walk – in Closet เป็นวัสดุเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลย ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบ ทาสีขาว ไฟแบบดาวน์ไลท์ ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตรเหมือนกันค่ะ โดยทางด้านขวาจะมีประตูเปิดไปเป็นห้องครัว และถ้าเดินตรงไปข้างในจะเป็นห้องนอนค่ะ
เราพามองย้อนกลับไปตรงฝั่งประตูเข้าห้องกันนะคะ จะมีตู้เก็บรองเท้าอยู่ทางด้านขวา ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นโต๊ะนั่งกินข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวค่ะ ซึ่งทางโครงการก็ได้แถมมาพร้อมกับตัวห้องนี้เลยนะคะ
ตู้เก็บรองเท้าที่ทางโครงการให้มาก็เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลย เป็นตู้แบบ Built – in มีช่องเก็บของทั้งด้านบนและล่าง และมีพื้นที่ตรงกลางสำหรับวางของได้ด้วยอย่างพวกกุญแจรถ หรือ Keycard ค่ะ
แต่สำหรับห้องนี้จะมีโต๊ะกินข้าวและเก้าอี้ 2 ตัวมาให้ด้วย แตกต่างกับห้อง 1 Bedroom ก่อนหน้านี้ที่จะได้เป็นโต๊ะพับเก็บได้และไม่มีเก้าอี้มาให้ค่ะ ซึ่งเราก็สามารถยกเคลื่อนย้ายทั้งโต๊ะและเก้าอี้ได้ตามการใช้งานของเราเลยนะคะ อาจจะเอามาตั้งอยู่ข้างโซฟาเลย เวลานั่งดูหนังก็วางของที่โต๊ะได้ หรือตั้งไว้ติดกับผนังห้องแบบที่ห้องตัวอย่างตกแต่งก็ได้เหมือนกันค่ะ
ก่อนเราจะไปดูพื้นที่นั่งเล่น เราพามาในส่วนของห้องครัวที่อยู่ข้างๆประตูทางเข้ากันก่อน โดยออกแบบเป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดได้กว้างขึ้น เวลายกอาหารมาทั้ง 2 มือ ก็ยกออกมาได้สะดวกดี
ห้องครัวมีขนาดประมาณ 1.30 x 2.10 เมตร แบ่งเป็นพื้นที่ว่างทางด้านซ้ายสำหรับตั้งตู้เย็นได้ มีเว้นช่องไว้ขนาดประมาณ 0.70 x 0.95 เมตร ส่วนทางด้านขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built – in มาให้ค่ะ แล้วจะเหลือพื้นที่ตรงกลางประมาณ 0.80 เมตร สำหรับยืนทำอาหารและหมุนตัวหยิบของในตู้เย็นค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built – in มาให้จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยค่ะ มีตู้เก็บอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆอยู่ด้านบน พร้อมติดตั้งเครื่องดูดควันจาก FRANKE หรือเทียบเท่า และใช้เป็นระบบหมุนเวียนที่ดูดควันไปปล่อยนอกอาคารค่ะ ซึ่งเครื่องดูดควันจำเป็นสำหรับแบบห้องนี้ที่ไม่มีหน้าต่างเพื่อเปิดระบายกลิ่นและควันได้ค่ะ ส่วนด้านล่างจะมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน ลิ้นชักเก็บของ และมีเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟไว้เช่นกันค่ะ
เลือกท็อปเคาน์เตอร์ครัวทนต่อรอยขีดข่วน รวมถึงเราสามารถกรุกระเบื้องหรือ Backsplash ตรงผนังด้านหลังได้ ทำให้กันเลอะและสามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วย สำหรับอ่างล้างมือจะเป็นสเตนเลสหลุมเดี่ยว จาก HAFELE และเตาไฟฟ้าแบบ Induction 2 หัว จาก FRANKE มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์วางของและเตรียมอาหารได้
เราพากลับมาพื้นที่นั่งเล่นกัน จะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.30 เมตร เหมาะวางทีวีขนาด 50 – 55 นิ้วค่ะ ซึ่งทางโครงการก็มีชั้นวางทีวีและโซฟามาให้แล้วเหมือนกันค่ะ
ชั้นวางทีวีก็ออกแบบเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลย มีลิ้นชักและช่องเก็บของต่างๆได้ ทำให้ห้องดูเรียบร้อยขึ้น
ถัดมามีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนค่ะ ทำให้เราได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างยาวเข้ามาถึงพื้นที่นั่งเล่นได้นั่นเอง
ห้องนอน
ห้องนอนมีขนาดอยู่ที่ 2.40 x 2.60 เมตร มีพื้นที่ข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง วางโต๊ะตั้งโคมไฟ วางหนังสือและมือถือได้ ส่วนผนังบริเวณปลายเตียงก็สามารถแขวนทีวีได้ด้วยค่ะ และสำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดผ้าม่านตรงบริเวณประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ที่กั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนได้ด้วย
ทางโครงการก็ได้ให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต รวมถึงมีช่องเก็บของด้านล่างเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยนะคะ
บริเวณด้านข้างเตียงนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับเปิดไปยังพื้นที่ระเบียงได้ค่ะ
ระเบียงมีพื้นที่ขนาด 1.00 x 2.35 เมตร มีราวกันตกโครงเหล็กสีดำ ออกแบบเป็นซี่ๆ ดูโปร่งไม่อึดอัด
ออกแบบแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนบริเวณด้านข้างระเบียง ส่วนด้านล่างก็ตั้งเครื่องซักผ้าได้ ส่วนพื้นที่ระเบียงที่เหลือก็ตั้งราวตากผ้าและต้นไม้เล็กๆได้ หรือจะทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนแบบ Semi Outdoor ก็ได้เหมือนกันค่ะ
กลับเข้ามาในห้องนอน จะมีประตูอยู่บริเวณปลายเตียง สำหรับเดินไปในส่วนของ Walk – in Closet ที่เป็น Highlight ของแบบห้องนี้ค่ะ
พื้นที่นี่มีขนาดประมาณ 1.60 x 2.00 เมตร โดยทางโครงการได้ Built – in ตู้เสื้อผ้าทางด้านซ้ายมาให้ แต่จะไม่มีหน้าบานนะคะ สามารถติดเป็นผ้าม่านเปิดปิดได้ค่ะ ส่วนทางด้านขวาจะมีเว้นช่องเป็นพื้นที่ว่าง ซึ่งเราก็สามารถทำ Built – in โต๊ะแต่งหน้าพร้อมกระจกส่องเหมือนแบบที่ห้องตัวอย่างตกแต่งให้ดูก็ดีเหมือนกัน ส่วนทางด้านข้างจะมีหน้าต่างสำหรับเปิดรับแสงธรรมชาติด้วย
อย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าทางโครงการได้ Built – in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ซึ่งส่วนใหญ่ออกแบบเป็นชั้นวางของค่ะ ซึ่งส่วน Built – in ที่ทางโครงการให้มาจะเป็นเฉพาะตู้สีครีมนะคะ ส่วนชั้นวางของที่เป็นสีขาวที่อยู่ทางด้านข้าง จะเป็นที่ทางห้องตัวอย่างตกแต่งเพิ่มให้ดูเป็นไอเดียนำไปใช้ได้ค่ะ
ถัดจากพื้นที่ Walk – in Closet จะเป็นห้องน้ำขนาด 1.3 x 2.3 เมตร มีแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ ส่วนผนังด้านหลังอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จะมีก่อกำแพงเพิ่มขึ้นสำหรับวางของตกแต่งและอุปกรณ์ใช้ในห้องน้ำได้เยอะเลยค่ะ
เวลาเราเข้าใช้งานห้องน้ำจากในห้องนอนก็ค่อนข้างสะดวกเลย แต่เวลาเรานั่งอยู่พื้นที่นั่งเล่น หรือมีแขกมาเยี่ยมที่ห้องแล้วจะเข้าห้องน้ำ ก็จะต้องเดินผ่านห้องนอนและ Walk – in Closet เพื่อเข้าห้องน้ำค่ะ ก็ทำให้เสียความส่วนตัวไปหน่อยนึงเหมือนกัน
สเปคสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะได้แบรนด์เดียวกันหรือเทียบเท่า เหมือนกับสุขภัณฑ์ของห้องก่อนหน้านี้เลย โดยก๊อกน้ำและอ่างล้างมือจาก KARAT และสุขภัณฑ์จาก COTTO ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.8 X 1.3 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard หรือเทียบเท่า เราสามารถหาชั้นวางของมาตั้งภายในห้องน้ำ จะได้มีพื้นที่สำหรับวางครีมอาบน้ำและแชมพูได้ด้วย ซึ่งทางโครงการไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ แต่เราก็สามารถไปซื้อติดเพิ่มเองได้ หรือจะเลือกใช้เป็นม่านกั้นอาบน้ำก็ได้เหมือนกันค่ะ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่มีน้ำกระเด็นไปเลอะส่วนอื่นๆนั่นเอง
Type D1 (2 Bedroom) ขนาด 45.85 ตร.ม.วันนี้เราได้เก็บภาพบรรยากาศของห้อง 2 Bedroom มาให้ด้วยค่ะ สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องที่อยู่มุมอาคาร ไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม และอยู่ใกล้ลิฟต์ ทำให้ได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและขึ้น-ลงอาคาร ไปใช้งานส่วนกลางได้สะดวกสบายด้วยค่ะ โดยมีจุดเด่นของฟังก์ชันในห้องดังนี้
- พื้นที่ Common Area มีขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กินข้าว
- ห้องครัวแบบปิด ป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปในห้อง รวมถึงมีออกแบบกระจก 2 ฝั่ง สามารถโชว์ทำอาหารได้ด้วย
- พื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้า ออกแบบแยกออกมาจากพื้นที่ระเบียง
- ระเบียงส่วนกลาง มีพื้นที่สามารถใช้งานได้จริง ทำมุมนั่งพักผ่อนตั้งโต๊ะและเก้าอี้ได้สบายๆ
- ห้องนอนรอง วางเตียง 3.5 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้
- Master Bedroom มีพื้นที่ใหญ่ วางเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานบริเวณด้านข้างได้
- ห้องน้ำ มีทางเข้า – ออก 2 ทาง ใช้งานได้สะดวก
เมื่อเข้ามาภายในห้อง จะเป็นพื้นที่ Common Area ขนาด 3.2 x 4.5 เมตร
ภาพบรรยากาศบริเวณพื้นที่นั่งเล่นและระเบียง
ทางโครงการให้โต๊ะกินข้าวและเก้าอี้ 4 ตัว สามารถรองรับแขกได้ด้วย
ภาพบรรยากาศบริเวณพื้นที่กินข้าวและห้องครัว
ห้องนอนรองมีขนาด 2.50 x 3.10 เมตร มีหน้าต่างด้านข้าง ได้แสงธรรมชาติและวิวเมือง
ภาพบรรยากาศห้องนอนรอง
Master Bedroom มีขนาด 2.50 x 3.70 เมตร มีช่องแสงด้านข้าง เปิดรับวิวเมือง
ภาพบรรยากาศ Master Bedroom
ห้องน้ำขนาด 1.40 x 2.60 เมตร เข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากพื้นที่นั่งเล่นและ Master Bedroom ภายในห้องน้ำมีแบ่งส่วนเปียกและแห้ง
ภาพบรรยากาศห้องน้ำใช้งานร่วมกัน
แบบแปลน
นอกจากแบบแปลนที่เราพาไปดูกันมาแล้ว ในแต่ละประเภทห้องจะมีแบบห้องให้เลือกหลากหลายดังนี้เลยค่ะ
Type A (1 Bedroom)
Type B1 (1 Bedroom Extra)
Type B2 (1 Bedroom Smart Closet)
Type C (1 Bedroom Plus)
Type D (2 Bedroom)
ราคา
บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) ราคา ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2566
- Type A (1 Bedroom) ขนาด 23.8 – 24.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท*
- รูปแบบการขาย Fully Furnished ได้แก่ ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, โซฟา, โต๊ะและเก้าอี้, เคาน์เตอร์ครัว Top พร้อมอ่างล้างจาน Hop & Hood, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และ แอร์ (ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- ชุดครัว Top Counter / อ่างล้างจาน จาก HAFELE / Hob และ Hood จาก FRANKE
- สุขภัณฑ์ COTTO หรือ TOTO Washlet / ก๊อกน้ำและอ่างล้างมือ จาก KARAT / ฝักบัว จาก American Standard โดยของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
- เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
- มี Shuttle Service (ใช้บริการฟรีในปีแรก)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) อยู่ในทำเลที่มีความเป็นชุมชนดั้งเดิมสูง ตัวโครงการอยู่ติดถนนบรมราชชนนี ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อถนนหลายสายทั้งถนนเลียบทางรถไฟ, ชัยพฤกษ์และบางขุนนนท์ เข้า-ออกเมืองได้สะดวก
มีความอุดมสมบูรณ์ในทำเลสูง หาของกินและจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย ใกล้ Central ปิ่นเกล้า, The Sense, Major Cineplex และโรงพยาบาลศิริราช ในระยะ 5 -7 กิโลเมตร หรือจะไปถนนบางขุนนนท์ที่มีร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายเรียงตลอดแนวถนน
การเดินทางโดยใช้รถ :
ถือว่าสะดวกมากสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวและทำงานอยู่ในทำเล สามารถเดินทางเข้าเมืองไปทางฝั่งจรัญสนิทวงศ์ โรงพยาบาลศิริราช โซนดุสิต ราชวิถี และพระราม 8 หรือจะออกนอกเมืองไปทางพุทธมณฑลก็ง่าย อีกทั้งใกล้ทางด่วนประจิมรัถยาและทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ด่านตลิ่งชัน ประมาณ 4.9 กิโลเมตรค่ะ สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนบางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าวได้สะดวกเลย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ระยะห่างจากโครงการถึงแนวรถไฟฟ้าไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินได้สะดวก โดย MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ ห่างประมาณ 3.2 กิโลเมตร, รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางบำหรุ ในระยะประมาณ 5.4 กิโลเมตร และในอนาคตจะใกล้กับ MRT สายสีส้ม สถานีบางขุนนนท์ด้วย แต่ทางโครงการก็ได้มี Shuttle Service รับส่งถึง MRT สถานีบางขุนนนท์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ใช้รถไฟฟ้าบ่อยๆ หรือทำงานอยู่ในโซนนี้ด้วยค่ะ
วัสดุ :
การเลือกใช้วัสดุในโครงการถือว่าเป็นตามมาตรฐานของระดับราคา นอกจากนี้ขายห้องตกแต่งแบบ Fully Furnished ทำให้สามารถย้ายเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียเงินและเวลาในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และตกแต่ง ทำให้ประหยัดเงินไปได้เยอะเลยค่ะ
การออกแบบ :
ออกแบบโดยใช้เส้นโค้งจากสายน้ำของคลองบางกอกน้อย และตัดด้วยโทนสีแดงส้ม เพิ่มสีสันให้ตัวโครงการ ออกแบบมีจำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว และเป็นคอนโด Low Carbon ประหยัดพลังงานโดยมีจุด EV Charger และ Solar Rooftop สำหรับส่วนกลางมีมาให้ครบและออกแบบแบ่งเป็น Passive, Active และสวนสีเขียว แยกกันไปในแต่ละชั้น ใช้งานง่าย
รูปแบบห้องมีหลากหลายถึง 4 แบบห้อง โดยจะมี 1 Bedroom กับ 2 Bedroom ซึ่งเหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน ออกแบบแบ่งพื้นที่ในห้องได้เป็นสัดส่วน มีประตูกระจกกั้น ได้ครัวปิดและระเบียงในทุกยูนิต
สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางของโครงการนี้มีมาให้ครบครัน โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน พูดคุยและทำงาน ส่วนชั้น 5 จะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายและสระว่ายน้ำ และชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สวนสีเขียว สำหรับมาเดินและนั่งเล่นได้ พร้อมกับได้วิวเปิดโล่งรอบด้านด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 72,600 บาท/ตร.ม., 10 ตุลาคม 2566
- ทำเล 7.5/10 – ติดถนนบรมราชชนนี มีความอุดมสมบูรณ์สูง ได้วิวโล่งรอบด้าน
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางกลับรถใต้สะพาน ขับเข้า-ออกเมืองได้ง่าย และใกล้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก
- ไม่ใช้รถ 7/10 – หลุดระยะเดินจากรถไฟฟ้า แต่มี Shuttle Service รับ-ส่งขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวก
- วัสดุ 8/10 – เกรดวัสดุเป็นมาตรฐานตามราคา ห้องตกแต่งครบแบบ Fully Furnished
- แบบ 8.5/10 – ฟังก์ชันลงตัวเป็นสัดส่วน อยู่สบาย ได้ครัวปิดและระเบียง
- สาธารณูปโภค 8/10 – ออกแบบน่าใช้งาน มีให้ใช้ครบครัน
- ECONOMY CLASS
- 7.7 / 10.00
บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) เหมาะกับใคร
โครงการ บ้านร่วมทางฝัน 6 ปิ่นเกล้า – บรมราชชนนี (Baan Ruamtangfun 6 Pinklao – Boromratchachonnani) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดใหม่ ราคาย่อมเยา บนย่านปิ่นเกล้า ยอมอยู่ในโซนที่ห่างจากใจกลางทำเลออกมาหน่อย แต่ก็เดินทางด้วยถนนและไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวก ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเล ต้องการคอนโดสำหรับอยู่อาศัยได้ 1-2 คน ในงบรวมตกแต่งเริ่มต้นประมาณ 1-2 ล้านบาท และได้ใช้ส่วนกลางที่ครบครัน ห้องพักอยู่ได้สบาย ทำอาหารก็สะดวก มีกำลังผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 10,000 บาท
ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ
ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น
Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่