รีวิวฉบับที่ 869 วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง Type 2 Bedroom ใหม่ล่าสุดที่พึ่งเปิดให้เข้าชมกันของโครงการคอนโด ชีวาทัย Interchange จากชีวาทัย คอนโด High Rise บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ติดสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน สถานีเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ข่าวล่าสุดกำลังจะเปิดทดลองให้ใช้บริการแล้วและสายสีนำ้เงินส่วนต่อขยายมาจากสถานี MRT บางซื่อเพื่อข้ามแม่นำ้เจ้าพระยา ห้องตัวอย่างสร้างเสร็จอยู่บนคอนโดชั้น 7 ซึ่งตัวคอนโดทั้งหมดจะมีกำหนดเสร็จภายใน Q4 ของปีนี้
Facts @ 30 June 2015
- Chewathai Interchange (ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์)
- บริษัท ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ จำกัด
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางซื่อ
- คอนโด High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร 279 ยูนิต
- ชั้นจอดรถ 5 ชั้น
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิตที่ชั้น 7-22
- ที่จอดรถ n/a คัน คิดเป็น n/a % รวมจอดซ้อนคัน 170 คัน คิดเป็น 60%
- ที่ดินประมาณ 1-3-12.5 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 ปี 2558
- 1 Bedroom 26 – 40.5 ตารางเมตร จำนวน 202 ยูนิต
- 2 Bedrooms 51.6 – 67.4 ตารางเมตร จำนวน 74 ยูนิต
- 3 Bedrooms 87 ตารางเมตร จำนวน 3 ยูนิต
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาทหรือประมาณ 123,000 บาทต่อตารางเมตร
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- ชมรีวิวรายการคิดเรื่องอยู่ โครงการชีวาทัย Interchange แบบ 1 ห้องนอน : คลิกที่นี่
- อ่านรีวิวโครงการ Crosspoint (ชื่อเก่าของโครงการชีวาทัย Interchange) : คลิกที่นี่
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆได้ที่ : มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูน-พระนั่งเกล้า
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร 02-910-5655
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.806068, 100.529608
ที่ตั้งของโครงการ ชีวาทัย Interchange ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ขามุ่งหน้าไปยังบางโพ โครงการอยู่ทางขวามือระหว่างสี่แยกเตาปูนและสี่แยกบางโพ ติดกับพื้นที่ของสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนที่จะเป็นสถานี Interchange ระหว่างสายสีม่วงและสายสีนำ้เงินส่วนต่อขยาย
ที่ตั้งของโครงการ ชีวาทัย Interchange ถือว่าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ที่อีกนิดนึงจะก้าวผ่านไปเป็นนนทบุรี สมัยที่รถไฟฟ้ายังไม่เข้ามาก่อสร้างในพื้นที่ก็จะมีแต่ชุมชนบ้านพักอาศัย ที่มีตลาด โรงเรียน โรงพยาบาลตามประสาชานเมือง แต่เมื่อเมืองเริ่มขยายตัวขอบเขตกว้างมากขึ้น ความเจริญก็ตามมา โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้าที่พาดผ่านถนนประชาราษฎร์สาย 2 ทำให้พื้นที่เร่ิมมีการเปลี่ยนแปลง อย่างมีคอนโดมิเนียม High Rise เข้ามาเปิดตัวเกาะพื้นที่สถานี และในส่วนของ Community Mall อย่าง The Market ที่มีข่าวว่าจะเข้ามาทำตลาดใหม่ในพื้นที่
ความเจริญในบริเวณรอบๆส่วนใหญ่เกิดจากเส้นประชาชื่นเป็นหลัก ที่เป็นเส้นที่ต่อตรงกับนนทบุรี โดยมีสถานีรถไฟบางซื่อเป็นจุดหมายปลายทาง และข้างๆยังมีอาคารสำนักงานอย่าง SCG สำนักงานใหญ่ ที่มีพนักงานเข้า-ออกต่อวันจำนวนเป็นหมื่น เมื่อการใช้รถไฟลดน้อยลงก็มีมีสถานีรถไฟใต้ดิน MRT บางซื่อเป็นจุดหมายใหม่ เป็นสถานีปลายทางของรถไฟฟ้าใต้ดินในส่วนตอนเหนือของกรุงเทพ รอบข้างก็จะมี Tesco Lotus, ตลาดเตาปูน, ตลาดบางโพ ไกลออกไปหน่อยก็จะเป็นเขตทหารที่แถวโรงเรียนโยธินบูรณะที่จะเปลี่ยนเป็นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นอกจากนั้นก็ยังไม่ไกลจากแถวจตุจักร งามวงศ์วาน และติวานนท์ หรือจะข้ามสะพานพระราม 7 ไปยังแถวจรัญสนิทวงศ์
มองในมุมคนทำงานประจำอยู่แถวบางซื่อ-ประชาชื่น-เกียกกาย จะถือว่าอยู่ในระยะที่ไม่ไกลมาก ทั้งยังอยู่ในพื้นที่ชุมชนที่มีของซื้อของขาย มีธนาคารสาขาย่อยอยู่ตามชั้น 1 ของอาคารพาณิชย์ อยู่ใกล้สี่แยกเตาปูนที่สามารถขึ้นเหนือไปถนนกรุงเทพ-นนท์ขึ้นนนทบุรี หรือจะไปทางตะวันออกที่บางซื่อ ปัจจุบันมีสถานี MRT บางซื่อให้บริการอยู่ แต่เมื่อคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ปลายปีรถไฟฟ้าสายสีม่วงคงจะเปิดให้ทดลองใช้พอดี ช่วงหน้าโครงการสำหรับคนที่ใช้รถก็มีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ในระยะไม่เกิน 500 เมตรทั้งสองทาง แต่ติดนิดนึงที่ถนนกรุงเทพ-นนท์และเส้นประชาชื่นเลียบคลองประปาในช่วงเย็นนั้นติดมาก ถึงจะเป็นทางตรงแต่ปริมาณรถเยอะ หลีกเลี่ยงรถติดยาก ซอยต่างๆก็ไม่ค่อยมีให้ลัดเท่าไร
สำหรับคนที่ซื้อคอนโดชีวาทัย Interchange นี้ก็คงจะมองการเดินทางในอนาคตเป็นหลักที่เส้นทางรถไฟฟ้าทั้งสองสาย โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีแนวทางวิ่งหลักๆอยู่กลางถนน เริ่มต้นจากสถานีเตาปูนซึ่งเป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีนำ้เงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ที่แยกเตาปูนตามแนวถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ผ่านจุดตัดทางรถไฟที่สถานีบางซ่อนซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อนที่สถานีรถไฟบางซ่อน ผ่านแยกวงศ์สว่าง และสามารถเชื่อมต่อกับจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) ที่สถานีศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี
ซึ่งปัจจุบันในส่วนที่เปิดใช้งานแล้วคือ MRT สถานีบางซื่อ (แถวหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทยหรือ SCG นั่นเอง) ซึ่งจากตรงนี้เราสามารถนั่งต่อไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชรไปเดินเล่นจตุจักรหรือจะไปขึ้นรถไฟฟ้าบนดินที่สถานีหมอชิตเข้าเมืองไปสยามกันต่อได้เลย ทำให้มันกลายเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าวงแหวน ซึ่งอาจจะแปลกนิดนึงเวลามุดใต้ดินมาโผล่ลอยฟ้า ต้องรอช่วงทดลองปลายปีนี้นะคะ
เส้นทางการเดินทางวันนี้ของเราจะมาจากทางเหนือ คือเส้นประชาชื่นที่จะพาไปดูด่านทางขึ้นทางด่วนออกนอกเมืองแถวโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น แล้ววิ่งลงมาผ่านเส้นรัชดาภิเษกที่จะมีทางขึ้นทางด่วนเข้าเมืองเลียบคลองประปกมาเรื่อยๆจะถึงแยกประชาชื่นแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านสี่แยกเตาปูนที่ด้านบนจะเป็นตัวสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน โครงการจะอยู่ทางซ้าย ข้างๆกับตัวสถานี
เร่ิมต้นการเดินทางที่ถนนประชาชื่นเลียบคลองประปามุ่งหน้าสี่แยกประชานุกูล ช่วงก่อนถึงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ที่อยู่ทางขวามือ สะพานด้านหน้าเป็นสะพานข้ามแยก ความสำคัญที่เรามาเริ่มที่จุดนี้กันคือเมื่อเลี้ยวขวาไปตรงนี้ จะมีด่านทางขึ้น-ลงทางด่วนขนาดใหญ่ เป็นเส้นทางออกนอกเมือง ที่สามารถไปได้ทั้งงามวงศ์วาน ติวานนท์ เมืองทองธานี หรือจะไปไกลถึงปทุมธานีแถบถนนเชียงรากค่ะ
ผ่านสามแยกที่เลี้ยวเข้าด่านทางด่วนนอกเมืองมาก็จะเจอสี่แยกประชานุกูลอยู่ด้านหน้า
โดยเลี้ยวขวาไปจะไปเส้นวงศ์สว่างที่มี BigC วงศ์สว่าง, นิตยาไก่ย่างและสะพานพระราม 7 ข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาไปยังเส้นจรัญสนิทวงศ์, บางกรวย-ไทรน้อยและแถวบางอ้อ ส่วนทางซ้ายมือก็จะเลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษก มีสะพานข้ามแยกไปยังลาดพร้าว และแถวรัชภาภิเษกแถบ SCB สำนักงานใหญ่ และ Major รัชโยธิน รวมถึงจะมีทางกลับรถใต้สะพานข้ามแยกไปยังทางขึ้น-ลงทางด่วนเพื่อเข้าไปยังตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นแถวจตุจักร สามเสน อนุสาวรีย์ ยาวไปถึงเส้นสุขุมวิทและพระราม 4 แต่จากตรงนี้ไปเราจะตรงไปเรื่อยๆบนถนนประชาชื่นค่ะ
ผ่านแยกประชานุกูลมาก็ยังอยู่บนถนนประชาชื่นเลียบคลองประปา เป็นถนน 5 เลนที่ไม่มีเกาะกลางกั้น บางเวลาอย่างช่วงเช้าก่อนเข้างานและหลังเลิกงานที่รถติดมากๆก็จะมีการเพิ่มเส้นทางจราจระตั้งกรวยสลับไปมาบ้าง เพื่อให้การระบายรถทำได้ดียิ่งขึ้น ทางขวามือส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวสูงประมาณ 4 ชั้น เปิดเป็นเชิงพาณิชย์ในชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นพักอาศัยบ้าง สำนักงานบ้าง ส่วนทางซ้ายจะมีสะพานข้ามคลองเป็นจุดๆข้ามไปก็จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่
ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอเส้นทางรถไฟวิ่งตัดผ่านกันเฉยๆ ก็จะต้องมีสัญญาณไฟหยุดเป็นช่วงๆ นอกจากนั้นที่เพิ่มเข้ามาก็จะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่จะมีสถานีบางซ่อนอยู่ตรงซ้ายมือข้างๆทางรถไฟเลย ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกจุดนึงของย่านนี้เพราะว่าจะมี Sky Way เชื่อมระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งจะวิ่งไปมาระหว่างบางซื่อ – ตลิ่งชัน และในอนาคตจะเชื่อมต่อไปถึงนครปฐม – ฉะเชิงเทรานู่นเลยค่ะ บรรยากาศรอบๆสถานีจะเป็นแบบชุมชนตามแนวรถไฟชานเมือง มีบ้าน มีตึกแถว มีตลาดสดบางซ่อน และตลาดสยามยิปซี มีของกินของใช้ขายทั้งตอนเช้า และตอนเย็น
เรากำลังจะข้ามทางรถไฟด้านหน้าแล้ว จะเห็นว่ารางรถไฟฟ้าสายสีแดงจะสร้างอยู่เหนือรางรถไฟพอดี
ผ่านทางรถไฟมาก็ยังอยู่บนถนนประชาชื่น มีป้ายบอกทางว่าสามารถเข้าเส้นทางลัดไปยังถนนกรุงเทพ-นนท์ที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงขึ้นไปยังนนทบุรี และเป็นถนนที่ขนานกันกับถนนประชาชื่น สองข้างทางมีป้ายรถเมล์อยู่เป็นระยะๆ นอกจากนั้นก็จะมีคอนโด High Rise เข้ามาเปิดยึดถนนเส้นใหญ่ไว้ และมี Shuttle Service คอยรับส่ง
บนถนนก็จะมีไฟเขียวไฟแดงสำหรับหยุดรถเพื่อคนข้ามทางม้าลายอยู่ ทางขวาเคยเป็นอู่จอดรถเมล์ขนาดใหญ่ ก็ได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ก่อสร้างที่กำลังจะขึ้นคอนโด High Rise อีกแล้ว ส่วนทางซ้ายเป็นสะพานคนเดินข้ามคลองไปยังโรงเรียนสามเสน 2 ได้
ตรงมาเรื่อยๆความกว้างของถนนก็จะเหลือประมาณ 4 เลน ทางซ้ายมือจะมีพื้นที่ทางเดินริมคลองประปาได้ตลอดทั้งเส้น มีบางจุดที่จะปลูกต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนา เพื่อสำหรับเป็นร่มเงาของจุดออกกำลังกายของเขตจตุจักร มีการวางเครื่องเล่นไว้อยู่ประมาณ 10 เครื่องบนพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งก็จะเห็นมีคนในชุมชนมาใช้บริการอยู่บ่อยๆและสามารถใช้ทางเดินริมคลองประปาเป็นเส้นทางวิ่งได้ตลอดเลย
นอกจากทางม้าลายแล้วบางจุดก็จะสร้างเป็นสะพานลอย
เลยมาอีกหน่อยก็จะเป็นสำนักงานเขตบางซื่อ ที่จะต้องข้ามสะพานข้ามคลองประปาทางซ้ายมือเข้าไป ทางขวามือก็จะมีคอร์ดสนามแบตใหญ่ๆอยู่หลายคอร์ดทีเดียวในซอยประชาชื่นต่างๆ แต่จะหายากและเข้าซอยลึกนิดนึง
ทางซ้ายมีป้ายบอกเส้นทางลัดไปยังถนนเทอดดำริหรือถนนรถไฟ โดยจะต้องข้ามสะพานไปยังถนนเลียบคลองอีกฝั่งหนึ่งเพื่อเข้าถนนเทอดดำริที่จะยาวไปถึงแถวถนนทหารและสามเสน
เราใกล้จะถึงสี่แยกประชาชื่นแล้วด้านหน้า มองจากไกลๆก็จะมีป้าย Tesco Lotus อยู่หัวมุมถนทางซ้ายมือ เป็นแบบที่มีร้านอาหารและ Supermarket อยู่ด้านใน ส่วนทางขวาจะออกแนวชุมชนหน่อยก็จะมีตลาดเตาปูนก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 เหมือนกัน
ใกล้ถึงแยกแล้วก็จะมีป้ายบอกทางว่าเลี้ยวซ้ายจะไปทางบางซื่อ ที่เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟบางซื่อ, SCG สำนักงานใหญ่ และ MRT บางซื่อ ส่วนทางขวาเลี้ยวไปจะเจอสี่แยกเตาปูนและสี่แยกบางโพ
ป้ายบอกทางอีกอันบอกว่าทางซ้ายเลี้ยวไปแล้วจะไปทางถนนพระราม 5 และถนนเทอดดำริ ที่เป็นถนนเลียบเส้นทางรถไฟ สามารถเลี้ยวเข้าสะพานควาย หรืออารีย์ ที่ถนนพหลโยธิน หรือจะเลี้ยวขวาแยกไปยังถนนทหารแถววังดุสิต
สะพานข้ามคลองสุดท้ายก่อนถึงสามแยกจะเป็นสะพานที่สะดวกที่สุดในการข้ามเพื่อเข้า Tesco Lotus
ด้านหน้าเป็นสามแยกประชาชื่นที่ค่อนข้างติดทีเดียว ทางขวามือเป็นทางเข้าของตลาดเตาปูน ริมถนนก็จะเป็นในส่วนของร้านอาหาร ร้านขายทอง ร้านขายผ้า ต้องเดินลึกเข้าไปหน่อยถึงจะเป็นตัวตลาดเตาปูน
ถึงสามแยกแล้วค่ะ เลี้ยวซ้ายไปสะพานสามแยกลอยฟ้า ถ้าตรงไปจะไป SCG สำนักงานใหญ่หรือ MRT บางซื่อ ถ้าเลี้ยวซ้ายที่สะพานข้ามแยกจะเข้าที่ถนนเตชะวณิชที่มีตลาดและที่พักของทหารอยู่ ด้านบนที่เห็นสูงๆคือรางรถไฟฟ้าที่ยกขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินบางซื่อ เพื่อลอยฟ้า สถานีใกล้ๆกันคือสถานีเตาปูนที่อยู่ข้างๆพื้นที่โครงการ
เรามุ่งหน้าเข้าพื้นที่โครงการ เลี้ยวขวาเข้าที่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตามรางรถไฟฟ้าเลย
เลี้ยวขวามาแล้วก็จะมาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 เป็นถนนประมาณ 4 เลน ช่วงต้นนี้ยังไม่ค่อยคึกคักมาก เพราะอยู่ใกล้สามแยก จอดรถไม่ค่อยสะดวกเท่าไร
ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอสถานีเตาปูนอยู่ทางซ้ายมือ เป็นสถานีขนาดใหญ่แบบ Interchange อาคารที่พักอาศัยดั้งเดิมรอบๆจะเป็นอาคารแนวราบอย่างห้องแถว อาคารพาณิชย์สูง 4 – 5 ชั้นแทบทั้งหมด มีความเป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน มีตลาด มีร้านทำผม ร้านขายของชำ ร้านขายทอง มีของกินขายให้เห็นตามข้างทางอยู่เรื่อยๆ
ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอแยกเตาปูนที่เลี้ยวซ้ายเข้าไปที่ถนนกรุงเทพ-นนท์ที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ด้านบน ส่วนเราจะยังตรงไปเรื่อยๆก่อน
ตรงมาเรื่อยๆทางซ้ายมือก็จะเป็นบริเวณของสถานีที่มีทั้งขึ้นลงแบบบันไดเลื่อน, บันไดธรรมดา และลิฟท์
หลุดเสาของตัวสถานีมาก็จะเป็นพื้นที่ก่อสร้างของโครงการที่อยู่ทางซ้ายมือหลังป้าย อาคารตกแต่งด้วยสีโทนฟ้า-ขาว ส่วนห้องตัวอย่างห้องเก่าแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารพาณิชย์ข้างๆ ถัดไปจากที่จอดรถของผู้สนใจ
ลงมาเดินดูพื้นที่จริงกันค่ะ ปัจจุบันเรื่องโครงสร้างและการตกแต่งภายนอกนั้นได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขาดแต่งานระบบที่กำลังดำเนินการ และส่วนขั้นตอนเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้ายนะคะ จากการสอบถามจะแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกค้าได้เข้ามาตรวจห้องกันใน Q4 ของปีนี้
แหงนหน้าขึ้นไปด้านบนให้ดูสภาพ ณ ปัจจุบันของโครงการที่สูง 26 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามของโครงการคือบ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ประชาราษฎร์ และข้างๆที่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเรียงกันไป
ฝั่งตรงข้ามหันมาทางด้านขวาก็จะเป็นแนวของอาคารพาณิชย์เรียงไปเรื่อยๆจนถึงแยกเตาปูน มีเปิดชั้นล่างเป็นเชิงพาณิชย์บ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไรเพราะจอดรถยาก
หันมาทางซ้ายก็จะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนำ้เงินส่วนต่อขยายที่ลากยาวข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาไป เด่วเราจะพาเดินลัดเลาะไปดูฝั่งซ้ายมือของโครงการกันนะคะ แล้วเดี๋ยวจะกลับมาพาไปดูสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนกันต่อ
ติดถนนใหญ่หน้าโครงการก็จะมีพื้นที่โล่งๆเปิดเป็นที่จอดรถของผู้สนใจโครงการเข้ามาจอดเพื่อเข้าไปดูห้องตัวอย่าง และลูกค้าของธนาคารออมสินที่มีสาขาย่อยข้างๆกัน ข้างๆพี่ยามที่นั่งอยู่ก็จะมีพี่วินอยู่เช่นกัน ถือว่าเป็นความสะดวกที่ลูกบ้านของโครงการจะได้ไปด้วยเลย คือพี่วินใกล้แค่เอื้อม
ราคาของพี่วินออมสินเตาปูน
ถัดมาหน่อยก็จะเห็นป้ายโฆษณาของโครงการ ชีวาทัย Interchange อยู่ด้านบนข้างๆอาคารพาณิชย์ที่เป็นห้องตัวอย่าง
เดินมาหน้าอาคารพาณิชย์คูหาแรกจะเป็น Sales Office บนทางเดินเท้าด้านหน้าจะเห็นว่าพื้นที่ไม่เรียบดีนัก กระเบื้องหายบ้างหลุดบ้าง บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ด้านหน้าเป็นจุดกลับรถพอดี ดังนั้นคาดว่าถ้ามาจากบางโพคงสามารถเลี้ยวขวาเข้าที่หน้าโครงการได้พอดี เพราะไม่มีเกาะกลางกั้นเลย
ด้านหน้าของ Sales Office นะคะ คูหาริมสุด เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปชมด้านในกันในส่วนโครงการด้านล่าง
ตอนนี้เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆก่อนก็จะเห็นว่าแม้จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่หันหน้าออกถนนใหญ่ พื้นที่ด้านล่างชั้น 1 ก็จะไม่ได้คึกคักมาก แต่ก็จะมีร้านขายยา ขายของ ธนาคาร รับซ่อมของอยู่เป็นระยะๆ
เลยมาอีกหน่อยก็จะเป็นทางเข้าของโครงการคอนโด High Rise อีกโครงการหนึ่งคือ Richpark 2 ด้านหน้าก็จะมีป้ายรถเมล์ และสะพานลอยคนข้ามอยู่ด้านหน้า
เราเดินมาถึงสะพานลอยที่เห็นเมืองสักครู่ หันหลังกลับไปมองพื้นที่ก่อสร้างของโครงการมุมเงยกันหน่อย
เดินมาอีกนิดก็จะเจอซอยสะพานขวาที่เป็นซอยที่มีอพาร์ตเมนท์อยู่ด้านในหลายหลัง และมีโรงเรียนด้วย หน้าปากซอยมี 7-11 อยู่หัวมุม
บรรยากาศหน้าซอยสะพานขวา มีของกินเป็นแบบรถเข็นเล็กน้อย
เดินผ่าน 7-11 มาก็จะเริ่มมีการรื้อทางเดินเท้าแล้วปูใหม่ เพราะบางครั้งการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าจะต้องวางเครื่องไม้เครื่องมีบนทางเดินเท้าบ้าง ทำให้ต้องจัดการปูให้สวยงาม ตรงใต้รางรถไฟฟ้าก็จะมีจุดกลับรถอีกจุดหนึ่ง
กลับมาที่หน้าโครงการนะคะ คราวนี้เราจะเดินไปทางตัวสถานีเตาปูนกันบ้าง ไปดูว่าจากทางเข้า-ออกโครงการจะใกล้กับทางขึ้น-ลงระไฟฟ้าแค่ไหน สะดวกหรือไม้
ยืนตรงหน้าโครงการเลย หันมาทางขวามือ จะเจอทางเข้าโครงการที่ปัจจุบันเป็นทางเข้าออกรถส่งของรถผู้รับเหมาบ้าง ด้านหน้าก็จะมีรถจอดอยู่สำหรับผู้เกี่ยวข้อง มองเลยไปก็จะเห็นตัวสถานีอยู่ด้านหน้าเต็มๆ
เดินใกล้เข้ามาผ่านป้อมพี่ยามชั่วคราวก็จะเจอทางเดินเล็กเข้าไปยังพื้นที่ของตัวสถานี
ทางเดินช่วงเข้าตัวสถานีเรียบร้อยดีนะคะ ที่เห็นยังมุงสังกะสีอยู่ก็คือจะมีการก่อรั้วโครงการคอนโดขึ้นใหม่ เราก็จะเดินลัดๆไปทางเดินปูนบล็อกที่เห็นด้านหน้า
เดินเข้ามาก็จะเป็นส่วนด้านหลังของตัวสถานี โดยมีบันไดเลื่อนและบันไดแบบธรรมดาอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางขวาจะเป็นซอยตันที่มีอาคารพาณิชย์เรียงกันอยู่ข้างๆซอย
ทางขึ้น-ลงสถานีนะคะ มองผ่านรั้วที่กั้นไว้ก็จะเห็นเป็นทั้งหมด 4 ช่องทาง คือบันไดเลื่อนขึ้น-ลงอยู่สองฝั่งซ้าย-ขวา ส่วนตรงกลางเป็นบันไดธรรมดาให้ได้เดินขึ้น-ลงออกกำลังกาย
มองมาทางขวาก็จะเจอพื้นที่ซอยตันและอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ยังดูไม่เก่ามาก ด้านล่างยังไม่มีการเปิดเป็นเชิงพาณิชย์ แต่รอดูเมื่อมีการเปิดใช้งานสถานีเตาปูน ตรงนี้น่าจะมีการพัฒนากลายเป็นร้านอาหาร ร้านบริการต่างๆ
หันกลับมาดูโครงการนิดนึง ฝั่งนี้คือทางตะวันตกของโครงการ
ต่อไปเราจะพาไปดูลิฟท์กันต่อ เพราะทางขึ้น-ลงสถานีไหนมีลิฟท์จะถือว่าเป็นสถานีที่ค่อนข้างใหญ่และสะดวกสบาย เราจะเดินตรงไปจนสุดทางเดินกันค่ะ
เดินมาจนสุดทางเดินแล้ว ตรงนี้ก็จะเป็นพื้นรับ-ส่งผู้โดยสารที่บางทีจะมีรถมาส่งบ้าง มารับบ้าง และรองรับสำหรับพี่แท๊กซี่ที่จะต้องคอยมารับและรอลูกค้าด้วย เราจะเดินอ้อมไปทางซ้ายหน่อย
เดินมาก็จะเห็นทางลาดขึ้น-ลงเป็นทางเดินรถเข็นได้ด้วยสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ สถานีนี้ก็จะเป็นสถานีหนึ่งที่รองรับได้ทั้งหมด
เดินผ่านทางลาดวนๆไปสองรอบก็จะขึ้นมาสู่ทางราบปกติที่สุดทางจะมีลิฟท์บริการให้ 1 ตัว ข้างๆจะเป็นบันไดเลื่อนที่ขึ้นได้จากฝั่งที่เราพาไปดูก่อนหน้านี้
ข้างๆก็จะมีการแบ่งช่องทางเดินรถสำหรับรับ-ส่ง
อยู่ตรงแยกเตาปูนพอดี
การเข้ามาพื้นที่บริเวณรับ-ส่งน่าจะเข้ามาได้จากทั้งเส้นประชาราษฏร์สาย 2 ทั้งจากบางซื่อและบางโพ ส่วนที่มาจากถนนกรุงเทพ-นนท์น่าจะมีไฟเขียวไฟแดงเพื่อความปลอดภัยค่ะ
บริเวณรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย บ้างเป็นบ้านเดี่ยวในซอย บ้างเป็นอพาร์ตเมนท์ มีตลาดเตาปูนและตลาดบางโพอยู่ไม่ไกล ความเจริญขยายมาชานเมืองตามเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้มีคอนโด High Rise ขึ้นมาตามถนนใหญ่ประชาราษฏร์สาย 2 ช่วงก่อนข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาอยู่หลายอาคาร
ทิศเหนือ : ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 เป็นถนนกว้างประมาณ 4 เลน มีเสารถไฟฟ้ากั้นอยู่ตรงกลาง ด้านบนเป็นรางรถไฟฟ้า ความสูงอยู่ที่ประมาณตึก 5-6 ชั้น โดยส่วนมากคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าจะได้ยินเสียงผ่านไปมาของขบวนรถไฟฟ้าด้วย วิวด้านนี้จะเห็นเป็นพื้นที่ชุมชนฝั่งใกล้ๆนนทบุรี ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ทิศตะวันออก : ติดกับพื้นที่บริเวณรอบๆของสถานี เข้าไปหน่อยจะเป็นซอยตัน ข้างๆจะมีอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4-5 ชั้น เป็นอาคารพักอาศัยที่ด้านล่างยังไม่ได้เปิดเป็นเชิงพาณิชย์
ทิศใต้ : เช่นกัน เป็นซอยตัน ภายในซอยสิ่งปลูกสร้างคืออาคารพาณิชย์และอพาร์ตเมนท์ที่สูงประมาณ 5-6 ชั้น นอกนั้นก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบเรียบๆ แต่วิวทิศนี้จะมองเห็นไปไกลถึงในตัวเมือง
ทิศตะวันตก : ติดๆกันเลยเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นในส่วนของ Sales Office อยู่ไม่เกิน 8 คูหา ถัดไปเป็นคอนโด Richpark 2 ความสูงอยู่ที่ 26 ชั้น เป็นรูปตัว L บังวิวไปเกือบหมด ความจริงแล้วเป็นทิศของโค้งแม่นำ้เจ้าพระยาแต่ตัวตึกเป็นแนวแคบ ทำให้ไม่ได้วิวในมุมนี้เท่าไร
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ตลาดเตาปูน 400 เมตร
- Tesco Lotus บางซื่อ 600 เมตร
- โรงพยาบาลบางโพ 800 เมตร
- SCG สำนักงานใหญ่ 900 เมตร
- ตลาดบางโพ 900 เมตร
- The Market 1 กิโลเมตร
- สำนักงานเขตบางซื่อ 1.4 กิโลเมตร
- สถานีตำรวจนครบาลบางโพ 1.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนโยธินบูรณะ 2.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนสามเสน 2 2.3 กิโลเมตร
- ตลาดอตก. 3.5 กิโลเมตร
- BigC วงศ์สว่าง 3.6 กิโลเมตร
- ตลาดนัดสวนจตุจักร 4.1 กิโลเมตร
- สวนจตุจักร 4.4 กิโลเมตร
- สถานีขนส่งหมอชิต 2 5.5 กิโลเมตร
- ตลาดบองมาเช่ 5.6 กิโลเมตร
- Central ลาดพร้าว 6.3 กิโลเมตร
- The Mall งามวงศ์วาน 6.8 กิโลเมตร
Model โครงการ ชีวาทัย Interchange คอนโด High Rise สูง 26 ชั้น 279 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว I หันหน้าโครงการออกถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตัวอาคารใช้โทนสีนำ้เงิน-ฟ้า-ขาวตกแต่ง ตัดกับเส้นตรงสีสว่างที่วิ่งรอบตัวตึกเว้นทุกๆ 3 ชั้น มีสวนหย่อมรอบโครงการ และข้างโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่หน่อย ชั้น 1-5 เป็นชั้นจอดรถ เร่ิมมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 6 และมี Facilities ส่วนกลางด้วยไม่ว่าจะเป็น Sky Swimming Pool 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 17 เมตรเป็นแบบกึ่ง Indoor และกึ่ง Outdoor, ห้องออกกำลังกาย และ Business Center ตั้งแต่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 26 จะมีห้องพักล้วน มีชั้น 23 ที่มีสวน Outdoor เล็กๆ และบนชั้นดาดฟ้า
ทางเข้าโครงการอยู่บนถนนใหญ่ประชาราษฎร์สาย 2 ทางขวามือเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ที่เป็นคูหา Sales Office ที่จะพาเข้าไปชม ส่วนทางซ้ายเป็นแปลงพื้นที่ของการรถไฟที่ถัดไปจะเป็นตัวสถานี ด้านหน้าของทางเข้า-ออกจะแบ่งช่องทางเดินรถชัดเจน มีการกั้น Landscape ไว้สำหรับการวนรถหน้า Main Lobby ที่เป็นส่วนโค้งๆ
พื้นที่ด้านข้างโครงการมีการแบ่งไว้เป็นพื้นที่สีเขียว ขนาบรอบๆด้วยอาคารพาณิชย์สูง 8 ชั้น มีทั้งปลูกต้นไม้ใหญ่และพื้นหญ้า
มาทางทิศตะวันออกบ้าง จะเป็นด้านแคบของตัวอาคาร เพราะวางอาคารตามตะวัน คือเอาด้านข้างของอาคารที่ยาวกว่าหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ทิศใต้ อาคารฝั่งนี้ก็จะเป็นพื้นที่ของ Facilities ทั้งบนชั้น 6 และชั้น 23
โดยที่บนชั้น 6 ก็จะมี Sky Swimming Pool 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 17 เมตร โดยมีส่วนหนึ่งที่อยู่ใต้พื้นที่อาคารและส่วนหนึ่งอยู่กลางแจ้ง จากโมเดลก็ถือเป็นไอเดียที่ดีนะคะ ที่ยังสามารถใช้งานสระว่ายนำ้บางส่วนได้อย่างในช่วงกลางวันแดดร้อนๆก็ยังมีพื้นที่ให้เด็กๆเล่นในร่มได้ ข้างๆยังมีมีห้องออกกำลังกาย ขนาด 50 ตารางเมตร และ Business Center ขนาด 30 ตารางเมตร
ส่วนบนชั้น 23 เป็นส่วนที่เป็นพื้นที่สีเขียวล้วนๆ มีต้นไม่ใหญ่อยู่เป็นจุดๆ เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนเล่นๆ และทำกิจกรรมยามว่างสบายๆ
ส่วนด้านหลังของอาคารที่ติดกับซอยตัยก็จะมี Core ลิฟท์อยู่ตรงกลางพอดี รอบๆอาคารก็จะยังคลุมโทนสีนำ้เงิน-ฟ้า-ขาวไว้เหมือนเดิม
นอกจากนั้นบนดาดฟ้า นอกจากจะแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นงานระบบแล้วก็ยังจะมีการเว้นพื้นที่รอบๆไว้เป็นส่วนทางเดินและลานกว้างๆ การใช้งานอาจจะไม่ได้ขึ้นมาบนนี้มากนั่งเพราะเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบสุดๆ
Main Lobby บนชั้น 1 ที่เป็นพื้นที่ส่วนโค้ง เข้าได้จากส่วน Drop-off หน้าโครงการ มีเคาน์เตอร์ตกแต่งสีทอง-นำ้ตาลอยู่ด้านหน้า และมีชุดเก้าอี้ไว้หลายชุดสำหรับการใช้งานของลูกบ้านแต่ละกลุ่มตามกระจกแนวโค้ง
ข้างๆก็จะมี Waiting Area ที่ตกแต่งคล้ายๆกัน
ขึ้นมาบนชั้น 6 ก็จะมี Business Area ที่ด้านในก็จะเป็นคล้ายๆ Lounge มีการจัดพื้นที่โซฟาและเก้าอี้ในรูปแบบต่างๆ สามารถเข้ามาทำงานหรืออ่านหนังสือได้
ห้องข้างๆกันก็จะเป็น Fitness และฝั่งตรงข้ามทางเดินก็จะเป็น Sky swimming pool ที่มีทั้งส่วนที่อยู่ในร่มอาคารและส่วนที่อยู่กลางแจ้ง
เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ ชีวาทัย Interchange เข้าได้จากถนนประชาราษฎร์สาย 2 มุ่งหน้าบางโพระหว่างแยกเตาปูนและแยกบางโพ พื้นที่เป็นรูปตัว I มีพื้นที่ยื่นในส่วนทางเข้าหน้าโครงการ รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างแปลงที่ดินโครงการส่วนใหญ่คือรูปตัว I ตัวคอนโดสูง 26 ชั้น เข้ามาจะเจอ Drop-off หน้า Main Lobby เป็นแบบทรงโค้งครึ่งวงกลาม ที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ภายในอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1-5 และบางส่วนอยู่กลางแจ้งรอบๆโครงการ รวมที่จอดรถทั้งหมดรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 60% เข้ามาจะเจอ Lobby อยู่ที่ส่วนแรก และเดินเข้ามาจะเจอ Waiting Area โดยที่ทางขวามือจะเป็นโถงลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 140 : 1 ที่ถือว่าสูงเอาการอยู่ทีเดียวและบันไดหนีไฟ 2 จุด คือภายในพื้นที่ Lobby 1 จุด และที่จอดรถกลางแจ้งข้างพื้นที่จอดรถอีก 1 จุด
ชั้น 6 เริ่มเป็นชั้นที่มีส่วนของห้องพัก ออกจากลิฟท์มาจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือส่วนห้องพักและส่วน Facilities โดยส่วนห้องพักจะมีทั้งหมด 9 ยูนิต แบ่งออกเป็น 1 Bedroom 6 ยูนิตและ 2 Bedroom 3 ยูนิต ส่วนทางขวามือห้องแรกที่จะเจอเลยคือ Lounge หรือ Business Center ข้างๆกันเป็นห้องฟิตเนตที่อยู่ตรงส่วนโค้งได้วิวด้านหน้าโครงการ และตรงข้ามกันคือสระว่ายนำ้ที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเงาของอาคารและอีกส่วนที่อยู่กลางแจ้ง พื้นที่รอบๆก็เป็นแบบ Outdoor ทั้งหมด เพราะจากส่วนโถงลิฟท์จะมีประตูบานผลักกั้นไว้รวมถึงตรงส่วนโค้งด้วย
ชั้น 7-8 / 12-14 / 18-20 เป็นส่วนของห้องพักล้วน จำนวนยูนิตอยู่ที่ 14 แบ่งออกเป็นแบบ 1 Bedroom จำนวน 8 ห้องและแบบห้องที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยคือ 2 Bedrooms จำนวน 4 ห้อง ห้องขนาดใหญ่จะอยู่ตรงมุมอาคารทั้งสี่มุมโดยมีการจัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัว I แบ่งออกเป็นห้องทางเหนือที่หันไปทางถนนใหญ่หน้าโครงการ และห้องทางใต้ที่หันหน้าเข้าในเมือง
ชั้น 9-11 / 15-17 / 21-22 ยังมีจำนวนเท่าเดิมคือ 14 ยูนิต แบ่งออกเป็นแบบ 1 Bedroom จำนวน 8 ห้องและแบบห้องที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยคือ 2 Bedrooms จำนวน 4 ห้อง ห้องขนาดใหญ่จะอยู่ตรงมุมอาคารทั้งสี่มุมเหมือนเดิมทุกประกาศ แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่รายละเอียดภายในห้องพัก จะมีห้องนำ้ที่อยู่สลับด้านกับชั้น ชั้น 7-8 / 12-14 / 18-20 ที่ผ่านมา รวมถึงตำแหน่งของประตูหลักห้องชุดและระเบียงที่สลับด้านเช่นกัน โถงลิฟท์ขึ้น-ลงอยู่ตรงเกือบกลางๆพอดี ไม่ได้มีห้องฝั่งไหนสะดวกกว่าฝั่งไหนเท่าไรนัก
ชั้น 23 แปลนทุกอย่างคล้ายกับห้องชั้นที่แล้วๆมา แต่จะลดห้องพักที่ทิศตะวันออกที่เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ออกไปสองห้องกลายเป็นทั้งชั้นมีห้อง 1 Bedroom 8 ยูนิต และ 2 Bedrooms 2 ยูนิต ส่วนพื้นที่พักอาศัยที่หายไปกลายเป็นพื้นที่เปิดโล่งกลางแจ้ง ใส่พื้นที่สีเขียงทั้งในส่วนของต้นไม้ใหญ่และที่นั่งรับลมเป็นจุดๆ
ส่วนการจัดวางรูปทรงอาคารแบบตามตะวันคือส่วนที่กว้างกว่าอยู่ทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ห้องทางทิศเหนือได้รับแสงธรรมชาติที่ไม่แรงเหมาะกับการอยู่อาศัยตลอดวัน ส่วนห้องทางทิศใต้จะได้รับแสงแดดที่แรงกว่า อุณหภูมิสูงจะเก็บอยู่ในห้องตลอดช่วงบ่าย แต่ทิศทางลมที่ดีกว่า
ชั้น 24-26 มีห้องพักจำนวน 11 ยูนิต แบ่งออกเป็น 1 Bedroom 8 ยูนิต, 2 Bedrooms จำนวน 2 ยูนิต และ 3 Bedrooms จำนวน 1 ยูนิต ทำให้ห้องแบบ 3 ห้องนอนรวมทั้งโครงการมีอยู่แค่ 3 ห้องเท่านั้นที่ทิศตะวันออกของโครงการ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีเนื่องจากตอนเช้าๆจะได้รับแสงได้ดี และในช่วงบ่ายห้องจะไม่ร้อนมาก แต่ก็มีข้อควรระวังเพราะอยู่ในมุมที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งอาจจะทำให้มีเสียงรบกวนได้ แต่อยู่บนชั้นที่สูงขนาดนี้ทำให้หมดห่วงไปได้บ้าง
เราจะพาเข้าไปดู Sales Office ของโครงการกันบ้างค่ะ Sales Office ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารพาณิชย์ข้างๆแปลงพื้นที่โครงการ ข้างๆจะมีพื้นที่จอดรถที่ใช้ร่วมกับธนาคารออมสินที่อยู่คูหาเพื่อนบ้านด้วย
หน้าตาด้านหน้าของ Sales Office อยู่คูหาหัวมุมพอดี ด้านหน้าติดป้ายโฆษณาด้วยนิดนึง
เปิดประตูเข้ามาด้านในก็จะเจอโมเดลโครงการเด่นอยู่ข้างๆเคาน์เตอร์ของพี่เซลล์ ด้านซ้ายใกล้ประตูจะเป็นชุดเก้าอี้เล็กๆสำหรับผู้ติดต่อ ด้านในเป็นห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนที่ทางทีมวีดีโอเคยได้รีวิวไปแล้ว
ชมรีวิวรายการคิดเรื่องอยู่แบบ 1 ห้องนอน : คลิกที่นี่
หันมาทางขวามือจะเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 Main Lobby
- ชั้น 6 Sky Swimming Pool 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 17 เมตร
- ชั้น 6 ห้องออกกำลังกาย ขนาด 50 ตารางเมตร
- ชั้น 6 Business Center ขนาด 30 ตารางเมตร
- ชั้น 23 สวน Outdoor
- ชั้นดาดฟ้า พื้นที่สีเขียว
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 140 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ n/a คัน คิดเป็น n/a % รวมจอดซ้อนคัน 170 คัน คิดเป็น 60%
- Triple Security Access Control
- ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบ CCTV / Access Card
เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการกัน คือแบบ 2 ห้องนอน ความจริงแล้วแบบ 2 ห้องนอนแบ่งออกเป็นแบบย่อยลงไปอีกรวม 5 แบบ ตำแหน่งอยู่ที่มุมอาคารทั้งสี่มุมของทุกชั้น แตกต่างกันตามตำแหน่งและขนาดของห้อง จะมีรีวิวแบบห้องอีกที่ท้ายรีวิวที่ยกเอาแบบห้องที่ค่อนข้างมีความแตกต่างกันมาเปรียบเทียบนะคะ
ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็น Type B2 พื้นที่ห้องขนาด 57.40 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้ากว้างซึ่งหาได้ยาก แบ่งพื้นที่ Living และห้องนอนประมาณอย่างละครึ่ง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอตู้วางรองเท้าและโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งอยู่ทางขวามือ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทำงาน ลึกเข้าไปจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น มีชุดโซฟารูปตัว L และชั้นวางทีวี ด้านในสุดมีบานประตูเลื่อนที่สามารถออกไปยังระเบียงรูปตัว L ที่ต่อกับระเบียงจากส่วนของห้องครัว ระหว่างโต๊ะทำงานและชั้นวางทีวีก็จะมีบานเลื่อนออกไปยังห้องครัว ที่มีบานประตูแบบเปิดออกไปยังระเบียง และมีห้องนำ้อยู่ทางซ้ายของประตูบานเลื่อน ส่วนฝั่งตรงข้ามคือห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่ที่มีห้องนำ้ในตัว แต่จะไม่มีระเบียงเป็นของตัวเองทั้งสองห้อง
เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูโครงไม้เนื้อแข็ง กรุด้วย MDF ประตูมือจับแบบก้านโยกพร้อมช่องไขกุญแจและตาแมว
เข้ามาใกล้ๆหน่อยสำหรับมือจับแบบก้านโยกพร้อมช่องไขกุญแจและตาแมว น่าเสียดายที่น่าจะมี Digital Doorlock ให้นะคะ
พื้นห้องคือไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนต หนา 12 มิลลิเมตร
ส่วนแรกจากทางเข้าคือส่วน Living กว้าง 2.8 เมตร ตั้งแต่หน้าประตูเข้าไปทางขวามือคือตู้เก็บรองเท้าวางชิดผนัง ข้างๆคือโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ที่นั่ง หลังประตูห้องชุดคือโต๊ะทำงานแบบ Built-in ด้านในคือห้องนั่งเล่นที่มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียง ทางขวามือที่มีช่องอยู่คือทางเดินเข้าห้องนอนทั้งสองห้อง และเหมือนกันกับฝั่งซ้ายก็จะมีทางเข้าห้องครัวและห้องนำ้แขก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าคือ 2.6 เมตร
เปิดประตูเข้ามาในห้องชุดกว้างๆก็จะเจอกับ Doorstop เพื่อกันชนไม่ว่าจะเป็นประตูหรือ Wallpaper เรียบร้อยดี
ข้างๆประตูทางขวามือคือชั้นเก็บของและเก็บของเท้า ด้านบนสามารถวางของกระจุกกระจิก หรือ Checklist ก่อนออกจากบ้านได้อย่างกุญแจรถ กุญแจห้อง หรือจะเป็นพวกแว่นตาต่างๆ
เงื่อนไขการขายของโครงการคือ Fully Furnished นะคะ จะได้เกือบทุกอย่างภายในห้องตัวอย่างที่เห็นเลย ยกเว้นของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นเล็กๆ แต่แอร์และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ได้ครบเซตเลย เดี๋ยวจะพาดูเป็นรายการๆไปนะคะ
เปิดบานประตูตู้ออกมาจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือชั้นวางรองเท้าที่สามารถหยิบเปิดได้ง่ายหน่อย สามารถวางได้เบียดๆก็ 6 คู่รวมชั้นล่างด้วย และข้างๆที่เป็นลิ้นชักก็สามารถใส่ของได้ แต่จะเข้าไปหยิบยากซักหน่อยเพราะติดเก้าอี้ทานข้าว
ด้านหน้าของตู้เก็บรองเท้าก็จะเป็นโต๊ะทานข้าววางชิดติดผนัง และเก้าอี้อีก 4 ตัวที่เข้าเซตกัน การตกแต่งห้องจะออกแนวคนทำงานหน่อยๆนะคะ จะหรูหราลายไม้นิดนึง ถ้าวันไหนมีแขกมาเพิ่มก็สามารถดึงโต๊ะออกมาแล้วใส่เก้าอี้เข้าไปที่หัวท้ายได้กลายเป็น 6 ที่นั่ง เพราะพื้นที่ทางเดินตรงกลางยังเหลืออยู่เยอะพอสมควร
ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะทานข้างก็จะเป็นโต๊ะทำงานแบบติดผนังมีลิ้นชักด้วย มีเก้าอี้ให้ 1 ตัวแบบมีพนัก ด้านบนก็เป็นช่องเก็บของแบบดึงเปิดขึ้นด้านบน
ประตูตู้ด้านบนเป็นแบบเปิดง้างขึ้นไป อยู่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆอาจจะเกินเอื้อมไปหน่อย อาจจะต้องติดให้ตำ่ลงมา
ส่วนลิ้นชักด้านล่างเป็นแบบ 2 ฝั่งซ้ายขวา ช่องลึกแต่ไม่ค่อนกว้างเท่าไร ถ้าใส่เอกสารและพวกโน๊ตบุ๊คก็น่าจะพอได้อยู่ แต่ก็ไม่ควรใส่ของที่มีนำ้หนักมากๆ
ภาพรวมคร่าวๆของส่วนทานอาหารและโต๊ะทำงานส่วนแรก
หันหลังกลับมาอีกด้านหนึ่งในส่วนห้องนั่งเล่น ทางขวามือจะเป็นชุดโซฟารูปตัว L ใหญ่เลย ฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวีที่มีทั้งดานล่างและที่เก็บของด้านบน ด้านในหลังม่าน 2 ตอนเป็นประตูบานเลื่อนที่ออกไปยังระเบียงได้
โซฟายาว 1.7 เมตร ความกว้างของผนังอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ทำให้ขยับได้หลวมๆ นั่งได้สบายๆ 3 คน ด้านหน้ามีโต๊ะกลางวางอยู่
ส่วนฝั่งที่เป็นชั้นวางทีวีก็เป็นแบบติดผนังดีไซน์แนวเดียวกับโต๊ะทำงานเลย ด้านบนเป็นบานเปิดขึ้นไปส่วนด้านล่างเป็นลิ้นชัก 3 ส่วน สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ถ้าอยากได้พื้นที่เก็บของเพิ่มเติม
ระยะเปิดของลิ้นชักที่ชั้นวางทีวีเปิดออกมาก็ยังไม่ชนกับโซฟาตัวยาว แต่จะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งในเวลาเดียว คือจะเปิดลิ้นชักก็เปิด จะเดินผ่านก็ต้องปิด เพราะระยะแม้จะไม่ชน แต่ก็อยู่ในช่วงที่ก้าวพลาดได้
เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in จะค่อนข้างเป็นแบบเนี๊ยบๆไร้รอยต่อ และไม่มีที่จับที่ชัดเจน เขาเลยจะมีดีเทลในการเซาะร่องเปิดให้มือสอดเข้าไปง้างได้
ช่องแสงของห้องนั่งเล่นเป็นแบบบานใหญ่เลย มี 3 บาน โดยบานทางซ้ายมือเป็นแบบบาน Fix และสองบานทางขวาเป็นประตูบานเลื่อนที่เลื่อนได้ทั้งสองทาง วงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ลูกฟักเป็นกระจกสีเขียวจัดแสงที่มองจากภายในจะไม่ค่อยรู้สึก แต่ภายนอกจะออกเขียวหน่อยๆชัดเจน ม่านที่เก็บไปให้ดูที่เป็นแบบ 2 ชั้นไม่อยู่ในรายการการขายนะคะ
ตัวล็อกด้านในเป็นแบบเลื่อนขึ้นลง ส่วนด้านนอกไม่มี
มีธรณียกสูงรวมความสูงกรอบอลูมิเนียมอยู่ที่ 5 เซนติเมตร
ออกมาระเบียงด้านนอกหันไปทางขวา ความกว้างระเบียงอยู่ที่ 90 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
หันมาทางซ้ายก็จะเจอกับแผง Compressor แอร์เป่าเข้าระเบียง แอร์ทั้งหมดอยู่ในรายการการขายนะคะ แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ระบุยี่ห้อว่าจะเป็นแบรนด์ไหน น่าจะติด Grill เพื่อเบี่ยงทิศทางลมนิดนึง นอกจากนั้นพื้นที่ระเบียงจะเห็นได้ว่าขยายขึ้นเป็นรูปตัว L ความพิเศษคือระเบียงห้องนั่งเล่นต่อกับระเบียงจากประตูห้องครัว ด้านบนมีการติดตั้งตำแหน่งไฟระเบียงด้านนอกเป็นแบบหลอดตะเกียบธรรมดา ไม่ได้ฝังเข้าไปในฝ้า
ประตูแบบบานเปิด-ปิดผลักออกจากห้องครัวข้างๆ
ทำให้พื้นที่ระเบียงกว้างเพิ่มเป็นรูปตัว L
มองขึ้นไปด้านบน ข้อดีของการมีระเบียงอยู่ใกล้ๆห้องครัวคือช่วยในเรื่องการระบายอากาศและการระบายกลิ่น โดยนอกจากจะติดเครื่องดูดควันให้ออกไปด้านนอกแล้ววันไหนที่ทำอาหารกลิ่นแรงๆก็สามารถเปิดประตูระบายได้ในคราวเดียว
เรามาดูวิวจากห้องชั้น 7 ทิศเหนือหันหน้าไปยังหน้าโครงการ ตรงถนนประชาราษฎร์สาย 2 นะคะ ด้านหน้าจะเห็นว่าเป็นรางรถไฟฟ้าสายสีนำ้เงินที่สร้างใกล้จะเสร็จเต็มทีแล้ว มองไปไกลๆก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ มีอพาร์ตเมนท์รุ่นเก๋าอยู่บ้างประปราย มองไปทางขวาไกลๆจะเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งตามเส้นกรุงเทพ-นนท์
มองตำ่ลงมาหน่อยก็จะเป็นถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตัวสถานีจะอยู่ทางขวามือ
สถานีเห็นชัดเจนมากจากห้องพัก ความสูงของตัวสถานีน่าจะอยู่ราวๆชั้น 5-6 ถ้าเทียบกับความสูงของคอนโด ชานชาลานี้เป็นชานชาลาของสายสีนำ้เงินที่ยังไม่เปิดใช้เร็วๆนี้ ส่วนชานชาลาของสายสีม่วงจะอยู่ในทิศตะวันออกของโครงการ
มองไปทางซ้ายตามรางรถไฟฟ้าสายสีนำ้เงินส่วนต่อขยาย จะเห็นชั้นดาดฟ้าของอาคารพาณิชย์ และข้างๆคือคอนโดเพื่อนบ้าน เนื่องจากรางรถไฟใกล้ขนาดนี้ ยูนิตที่อยู่ส่วนหน้าอาคารใกล้ๆกับรางอาจจะได้ยินเสียงผ่านไปมานะคะ
กลับเข้ามาด้านในกันค่ะ ระหว่างโต๊ะทำงานและชั้นวางทีวีก็จะมีช่องเป็นทางเข้าไปยังห้องครัวและห้องนำ้แขกด้านนอก ความจริงแล้วจะต้องมีบานเลื่อนปิด แต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดมาให้ดู มีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือประตูบานเลื่อนเป็นแอร์ส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นที่กินข้าว
พื้นที่จากที่เป็นไม้ลามิเนตหนา 12 มิลลิเมตร ก็เปลี่ยนเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรสีอ่อนทั้งพื้นห้องครัว
มองไปทางขวาก็จะเป็นห้องครัวขนาด 1.55 x 3.00 เมตร เคาท์เตอร์ครัวทั้งล่างและบนแบบ Built-in เต็มผนังเรียงไปเป็นแถบ ไล่ตั้งแต่ตู้เย็น, อ่างล้างจาน, ที่เตรียมอาหาร, Hob and Hood และที่สุดปลายคือพื้นที่ซักล้างเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
ตู้เย็นเหลือพื้นที่ประมาณ 80 เซนติเมตร ใส่ได้แบบ 1 ฝา แต่ได้แบบค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว
ข้างๆกันก็เป็นอ่างล้างจานแบบหลุมเดียว เป็นแบบฝั่งเข้าไปแล้วปิดด้านบนอีกทีเก็บความเรียบร้อย และพื้นที่เตรียมอาหารทางขวาไม่กว้างมาก เคาท์เตอร์ลึก 65 เซนติเมตร
Hob and Hood แบบ 4 หัว
และพื้นที่ซักล้างที่ด้านล่างเป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า เวลาไหนที่ไม่ใช้ซักล้างก็สามารถเปลี่ยนเป็นที่เตรียมอาหารได้
เปิดตู้ด้านล่างและลิ้นชักออกมาจนหมดก้ยังเหลือความกว้างที่สามารถเดินได้ ไมโครเวฟเป็นแบบ Built-in ให้มาด้วยเหมือนกัน ดูเรียบร้อยดี เครื่องซักผ้ามีที่วางในห้องครัวเป็นหลักแหล่งแถมยังใกล้กับพื้นที่ระเบียงด้านนอกทำให้ตากผ้ารับแดดได้สบายๆ
เปิดบานประตูตู้ด้านบนบ้าง ด้านในเป็นชั้น สามารถวางของได้ หรือจะเป็นพวกอาหารแห้งต่างๆ
มีดีเทลที่น่าสนใจคือซ่อนสวิสซ์เปิด-ปิดไฟที่ส่องลงมาตรงเคาท์เตอร์ทำอาหารอยู่ด้านในของบานปิดด้านบน
ช่องแสงที่เป็นประตูบานผลักก็เป็นกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักคือกระจกสีเขียวตัดแสงเช่นกัน มูลี่ที่เป็นแบบดึงและปรับองศาได้ที่เห็นไม่ได้มาด้วยนะคะ
ธรณียกสูงขึ้นบวกกับความสูงของกรอบประตูก็อยู่ที่ราวๆ 5 เซนติเมตรคล้ายๆกับบานเลื่อนของห้องนั่งเล่น
มือจับเป็นแบบก้านปิดแล้วผลักออก
เปิดออกไปก็จะอยู่ในส่วนที่กว้างกว่าของระเบียงประมาณ 1.2 เมตร ที่ทางซ้ายมือคือ Compressor แอร์ตั้งหันหน้าเข้าระเบียง ตัวพื้นเองก็ต่อกับพื้นที่ระเบียงด้านนอกของห้องนั่งเล่น
หันหลังกลับมาที่ห้องนำ้ด้านนอกบ้าง ประตูห้องนำ้บานประตูสำเร็จรูปพร้อมลูกบิดประตูกลมๆธรรมดา
พื้นลดระดับลง 3 เซนติเมตร พื้นห้องนำ้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ห้องนำ้ขนาด 1.3 x 2.4 เมตร ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่มาก, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ มาพร้อมกับฉากกั้น ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ส่วนอ่างล้างหน้า Mogen วางอยู่บนตู้เก็บของภายในห้องนำ้แบบสำเร็จมีบานปิด ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ดีกว่าไม่มีมาให้ ด้านบนมีกระจกเงาปกติ
ข้างๆมีปลั๊กไฟแบบติดกล่องกันนำ้และสวิสซ์ไฟ
ตรงกลางเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางทิชชู โถสุขภัณพ์จาก Mogen
ฉากกั้นอาบนำ้แบบกระจก Temperred สูง 2 เมตร ประตูเป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอน ด้านบนเลยยังมีช่องว่างเหลืออยู่เยอะพอสมควร
พื้นที่เปียกอาบนำ้ขนาด 0.7 x 1.3 เมตร ไม่มีการลดระดับหรือการก่อปูนกั้น อาศัยแค่ความสูงเล็กๆของฉากกั้นอาบนำ้ ที่ต่อไปน่าจะมีปัญหาที่คราบเกาะตัวอยู่ถ้าไม่ทำความสะอาดบ่อยๆ
นอกจากฝักบัวแบบก๊อกผสมแล้ว ก็ยังมี Shower แบบที่ติดตั้งมาให้ด้านบนเป็นตัวเลือกในการอาบนำ้ที่ดี มีที่วางสบู่มาให้ 1 ก้อนถ้วน
หน้าตาฝักบัวจาก Mogen คล้ายไมโครโฟน ข้อดีคือสวยเนี๊ยบ ข้อเสียคือรัศมีไม่ค่อยกว้างทำให้นำ้ไม่กระจาย
ซูมให้ดูที่หัวฝักบัวกันชัดๆ
ฝั่งตรงข้ามของทางเข้าห้องครัวก็จะเป็นทางเข้าของห้องนอนทั้ง 2 ห้องบ้าง แต่ว่าจะไม่มีประตูบานเลื่อนกั้น ห้องทางซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องนำ้ในตัว ส่วนห้องทางขวาเป็นห้องนอนเล็กที่ผู้อยู่อาศัยจะต้องมาใช้ห้องนำ้ด้านนอกที่พาไปชมเมื่อกี้ ทั้งสองห้องไม่มีระเบียงทั้งคู่
ประตูห้องนอนบานประตูสำเร็จรูปพร้อมลูกบิดประตูกลมๆธรรมดา
พื้นเป็นแบบต่อเนื่องไปกับห้องนั่งเล่นด้านนอกคือพื้นลามิเนตหนา 12 เซนติเมตร
ด้านในก็จะมีเตียงนอน ฝั่งตรงข้ามคือโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in และตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน
เริ่มจากผนังส่วนที่เป็นหัวนอนก็จะเป็นแบบเรียบๆติด Wallpaper ธรรมดา มีโต๊ะข้างเตียงอยู่ฝั่งเดียวคือฝั่งทางซ้ายมือ ที่มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือ 1.1 เมตร
ตู้เปิดออกมาได้ประมาณนี้ ไม่ลึกมากใหญ่มากแต่ก็พอใส่ของกระจุกกระจิก
ส่วนทางขวามือปล่อยเป็นพื้นที่ว่างๆ เหลือพื้นที่ประมาณ 30 เซนติเมตร
ปลายเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่เข้าชุดกันกับเฟอร์นิเจอร์ด้านนอก เป็นลายไม้สำเร็จรูป มาพร้อมเก้าอี้แบบไม่มีพนัก ความจริงตรงนี้จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานอีกจุดหนึ่งก็ได้ หรือว่าจะเพิ่มกระจกบานใหญ่หน่อยเข้าไปก็จะกลายเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบสมบูรณ์แบบ
ระยะปลายเตียงอยู่ที่ 1.4 เมตร สามารถเดินผ่านไปมาได้สบายๆ
เปิดลิ้นชักออกมาแบบซ้ายขวา นอกจากนั้นด้านหน้ายังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟ และรูเสียบสายจากทีวี เผื่อต้องการติดตั้งทีวีไว้ที่ปลายหัวนอน ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร
ข้างๆโต๊ะเครื่องแป้งก็จะเป็นช่องแสงเพราะเป็นห้องหัวมุม เลยได้ช่องแสงเพิ่มเข้ามา เป็นแบบ 2 บานคือบาน Fix ด้านล่างและบานกระทุ้งด้านบน
บานกระทุ้งจะเป็นแบบเปิดออกไปด้านข้างแบบนี้ กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติเหมือนเดิม และลูกฟักเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง
ส่วนทางขวาเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน 2 บาน เปิดได้ซ้ายขวา มีการแบ่งช่องทั้งแบบแขวนและแบบตู้ที่ต้องพับใส่ไว้ให้เรียบร้อย แต่ขนาดจะไม่ได้ใหญ่มาก กว้างประมาณ 1.25 เมตร และลึกที่ 65 เซนติเมตร
ส่วนข้างเตียงด้านขวาก็จะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ของห้องนอนใหญ่คือมีทั้งบาน Fix และบานกระทุ้งที่วิธีเปิดและรูปลักษณ์คล้ายกับบานกระทุ้งข้างๆตู้เสื้อผ้า
หันกลับมาอีกด้านก็จะเป็นประตูห้องนำ้ที่มีตำแหน่งแอร์ของห้องนอนใหญ่อยู่ด้านบน การปัดของแอร์เข้าที่ข้างตัวถือว่าดี ข้างๆเป็นตู้แบบ Built-in ที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงการใช้งาน ด้านบนมีชั้นวางของที่วางไว้ไม่ถี่นัก
เปิดตู้ออกมาก็เป็นตู้เล็กๆ หรือจะไว้เก็บเซฟ
พื้นลดระดับลง 3 เซนติเมตร พื้นห้องนำ้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ห้องนำ้ขนาด 1.5 x 2.7 เมตร ใหญ่กว่าห้องนำ้ด้านนอกอีก จัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่มาก, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ มาพร้อมกับฉากกั้น ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ทุกอย่างเหมือนกับห้องนำ้ด้านนอก ยกเว้นฉากกั้นจาก 2 ตอนกลายเป็น 3 ตอนทำให้พื้นที่เปิดมีมากขึ้น
พื้นที่เปียกอาบนำ้ขนาด 0.9 x 1.1 เมตร ไม่มีการลดระดับหรือการก่อปูนกั้น อาศัยแค่ความสูงเล็กๆของฉากกั้นอาบนำ้ ที่ต่อไปน่าจะมีปัญหาที่คราบเกาะตัวอยู่ถ้าไม่ทำความสะอาดบ่อยๆ
มีตัวเลือกในการอาบนำ้ 2 แบบคือแบบ Shower แบบที่ติดตั้งมาให้ และแบบที่ถืออาบหน้าตาคล้ายๆกับด้านนอก และเปลี่ยนจากที่วางสบู่มาให้ 1 ก้อนถ้วนเป็นการเซาะร่องผนังเข้าไป สามารถวางของเพิ่มได้อีกเยอะ
ไฟด้านบนเป็นแบบทรงกลมฝังเข้าไปในฝ้า เป็นแบบหลอดตะเกียบหมุนๆปกติ มีเครื่องรับสัญญาณควัน และนำ้ที่จะฉีดทั่วบริเวณ
ฝั่งตรงข้ามกับประตูห้องนอนใหญ่ก็จะเป็นประตูห้องนอนเล็ก พื้นเป็นแบบต่อเนื่องไปกับห้องนั่งเล่นด้านนอกคือพื้นลามิเนตหนา 12 เซนติเมตร ประตูห้องนอนบานประตูสำเร็จรูปพร้อมลูกบิดประตูกลมๆธรรมดา
ด้านในก็จะมีเตียงนอน ข้างๆคือโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in และตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนคล้ายๆกัน
ที่เปิดประตูห้องนอนเล็กเข้ามาเจอเลยคือชั้นวางของ หรือจะไว้วางหนังสือ มีแอร์อยู่เหนือประตูด้านบน
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ 50 เซนติเมตร มีการเซาะร่องเข้าไปในผนังแล้ววางชั้นเข้าไปด้านใน
พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายจะติดกับเสาโครงสร้างพอดี ทำให้ข้างเตียงดูแปลงๆไปหน่อย คือแคบและกว้างตรงแถวหัวนอน
หลุมตรงหัวนอนขนาด 0.65 x 1.25 เมตร มีช่องแสงแบบ 2 บานคือบาน Fix ด้านล่างและบานกระทุ้งด้านบน
พื้นที่เตียงด้านขวาเหลือพื้นที่ 1.05 เมตร
มีโต๊ะเครื่องแป้งที่เข้าชุดกันกับเฟอร์นิเจอร์ด้านนอกพร้อมเก้าอี้แบบไม่มีพนัก จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานอีกจุดหนึ่งก็ได้
ส่วนทางขวาเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเลื่อน 2 บาน เปิดได้ซ้ายขวา มีการแบ่งช่องทั้งแบบแขวนและแบบตู้ที่ต้องพับใส่ไว้ให้เรียบร้อย แต่ขนาดจะไม่ได้ใหญ่มาก
ส่วนต่อไปเป็นวิวจากห้องตัวอย่างอีกห้องหนึ่งคือ 2 Bedrooms แต่มีขนาดใกล้เคียง การแบ่งพื้นที่ใช้สอยและการตกแต่งก็เป็นแนวเดียวกันกับห้องตัวอย่างที่ได้พาไปชมมาแล้ว เราจึงตัดสินใจพามาชมวิวฝั่งใต้ที่ระเบียงชั้น 7 กันดูเล่นๆนะคะ
ถ่ายมุมตรงไปยังทิศใต้ จะป็นวิวในตัวเมืองขึ้นมาหน่อย ระยะใกล้ที่ติดๆกันก็จะเห็นว่ามีอพาร์ตเมนท์สูงประมาณ 6 ชั้นบังสายตาคนที่อยู่ชั้นไม่เกินชั้น 10 อยู่ ส่วนที่อยู่ใกล้ๆก้จะเป็นพื้นที่ชุมชน สิ่งปลูกสร้างแนวราบไปเรื่อยๆ เหตุผลที่ไม่ค่อยมึตึกสูงในระยะใกล้ทิศใต้หลายกิโลเมตรเพราะว่าเป็นพื้นที่ทหาร และส่วนริมแม่นำ้เจ้าพระยาในอนาคตก็กำลังจะสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
เอียงมาทางซ้ายหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็จะเป็นในส่วนของตัวสถานีเตาปูน ที่ถ้าขึ้นไปชั้นบนๆหน่อยตั้งแต่ชั้น 15 ขึ้นไปก็น่าจะได้วิวในส่วนของพื้นที่รถไฟใกล้ๆกับ SCG สำนักงานใหญ่ที่ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น Hub ของระบบรถรางทั้งหมด
เขยิบมาทางขวาให้เห็นกันชัดสำหรับวิวในตัวเมืองไกลๆ ทางซ้ายเห็นเด่นๆเลยก็จะเป็นตึกใบหยก ไล่มาที่โรงแรม Centara Grand ที่ราชประสงค์ ถัดมาคือคอนโด High Rise แถวราชเทวี-พญาไท จนไปถึงตึกมหานคร
ส่วนทางซ้ายก็จะเร่ิมเป็นส่วนโค้งนำ้แม่นำ้เจ้าพระยา อย่างอาคารกสิกรสำนักงานใหญ่ ที่ถ้าเราไปขึ้นชั้นสูงๆ คงได้มีโอกาสเห็นในมุมที่ดีขึ้น ทางขวาสุดคือ คอนโด Richpark 2 ที่เป็นอาคารรูปตัว L เลยจะบังวิวทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ไปพอสมควรเลย
มาชมแบบห้องแบบอื่นๆกันบ้างนะคะ เร่ิมเลยจากห้อง 1 Bedroom Type A1 รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมคล้ายๆจะเป็นจตุรัส แบ่งพื้นที่การใช้งานชัดเจน ไล่ตั้งแต่ทางเข้าห้องคือส่วนครัว ฝั่งซ้ายมือคือโต๊ะทานข้าวแบบชิดผนัง วางเก้าอี้ 2 ตัวเข้ามุม ด้านในเป็นชุดโซฟายาวและชั้นวางทีวี สุดด้านในคือระเบียง ทางขวาระหว่างเคาน์เตอร์ครัวและชุดโซฟาก็จะมีประตูเปิดเข้าไปยังห้องนอนที่มีห้องนำ้ในตัว แต่ไม่มีระเบียง เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเอง ไม่มีเพื่อนมามากนัก เพราะห้องนำ้เข้าได้ทางเดียวคือจากห้องนอน ทำให้อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง ขนาดห้องเป็นขนาดเล็กที่สุดของโครงการอยู่ที่ 26 ตารางเมตร
ถัดไปเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A5 แบบหน้ากว้างอีกแล้ว การจัดวางคล้ายกับห้องแบบที่แล้ว แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือพื้นที่ของห้องนั่งเล่นที่ใส่เข้ามาในขนาดสบายๆ เพราะขนาดห้องอยู่ที่ 39.90 ตารางเมตร ถือว่าเป็น 1 Bedroom ที่ขนาดใหญ่ พาเพื่อนมาพาแขกมาได้ ทำให้เพื่มฟังก์ชั่นต่างๆเข้ามาได้มากขึ้นทั้งชุดโซฟาที่ใหญ่ขึ้นและโต๊ะทำงานที่หันหน้าออก แต่จะต้องกังวลในเรื่อยระยะดูทีวีนิดนึงที่ค่อนข้างไกลทีเดียว ทำให้จอทีวีก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย
แบบห้องอีกแบบหนึ่งคือ 2 ห้องนอน 2 ห้องนำ้ Type B4 รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้ากว้าง แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วน Living อยู่ตรงกลาง มีส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือของประตูห้องชุด ไม่ได้กั้นเป็นสัดส่วน ชุดโซฟา และระเบียง ห้องนอนแยกอยู่เป็นสองฝั่งซ้ายขวา ขนาดเท่าๆกัน มีห้องนำ้ในตัวด้วยทั้งคู่ แต่จะมีห้องหนึ่งที่มี 2 ประตู สามารถเปิดได้จากห้องนั่งเล่นด้วย ห้องนี้ถ้ามองดีๆคือจะเหมือนเป็นห้อง 1 Bedroom Combine ข้อดีคือได้ห้องหน้ากว้าง พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่ขึ้น มีห้องนำ้ในตัวอยู่ภายในห้องนอนทั้งสองห้องเลย
ห้องสุดท้าย คือแบบห้อง 3 Bedrooms Type C1 แบบเดียวของโครงการ มีแค่ 3 ยูนิตอยู่ที่ 3 ชั้นบนสุดทางฝั่งตะวันออก แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องนำ้ โดยตัวห้องนอนเองจะแบ่งออกเป็นห้องนอนใหญ่ที่อยู่ทางซ้ายมือ มีห้องนำ้ในตัว และห้องนอนกลางที่อยู่ทางขวามือ ไม่มีห้องนำ้ในตัว และห้องนอนเล็กที่สังเกตได้ว่าจะเป็นเตียงเดี่ยว
ส่วนพื้นที่ Living ก็จัดเฟอร์นิเจอร์ไว้ครบชุด ตั้งแต่โซฟา ชั้นวางทีวีและโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ถึง 6 ตัว ข้างๆก็จะมีระเบียงแบบบานเลื่อน รวมถึงห้องครัวแบบครัวปิด ทำให้สามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง ห้องนำ้ที่แขกสามารถใช้ได้ จะต้องใช้ร่วมกันคนที่อยู่อาศัยในห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กด้วย อาจจะทำให้อึดอัดนิดนึง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 June 2015
- 1 Bedroom ชั้น 7 ห้อง ขนาด 26 ตารางเมตร ราคา 3.2 ล้านบาท หรือ 123,000 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedrooms ชั้น 7 ห้อง ขนาด 51.6 ตารางเมตร ราคา 6.2 ล้านบาท หรือ 120,000 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 30,000 บาท
- ทำสัญญา 70,000 บาท
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 6 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
- โปรโมชั่นเดือนกรกฏาคม – ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเลือกรับโปรโมชั่นสูงสุด 150,000 บาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ ชีวาทัย Interchange เป็นโครงการติดสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน ที่เป็นสถานี Interchange ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับทำเลนี้ เมื่อมีการเปิดใช้รถไฟฟ้า ทำเลตรงนี้เต็มไปด้วยตึกแถวอาคารพาณิชย์ และบ้านเรือนที่อยู่อาศัยชุมชนดั้งเดิม ช่วงเวลาพอดีกับการเร่ิมย้ายเข้าอยู่ของลูกบ้านคงจะมีสาธารณูปโภคต่างๆเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการสัญจรไปมาของคนที่ใช้รถไฟฟ้าสถานีเตาปูน และยิ่งเป็นสถานี Interchange ก็จะทำให้เพิ่มจำนวนคูณเข้าไปอีก ปัจจุบันเท่าที่มีก็คือ Tesco Lotus เตาปูน, ตลาดเตาปูน, ตลาดบางโพ ที่อยู่ไม่ไกลนัก ใกล้ๆหน่อยก็จะเป็นชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ที่จะมีการเปิดร้านขายของบ้าง 7-11 หรือธนาคารสาขาย่อยบ้าง แต่ก็ไม่ได้คึกคักอย่างที่ควรจะเป็น
การเดินทางโดยรถยนต์ไปไหนต่อไหนค่อนข้างสะดวก สามารถเข้าเมืองได้ด้วยการผ่านถนนเทอดไทเข้าไปยังพหลโยธิน หรือจะออกนนบุรีด้วยการใช้เส้นประชาชื่นหรือเส้นที่ขนานกันคือเส้นกรุงเทพ-นนท์ที่อยู่ใต้รางรถไฟฟ้าสายสีม่วง หรือจะข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาไปจรัญสนิทวงศ์ แต่คนส่วนมากที่ซื้อๆกันก็คงจะมีบ้านหรือที่ทำงานใกล้ๆ อาศัยการเดินทางระบบขนส่งมวลชนที่เป็นจุดเด่นของโครงการอยู่แล้ว มีจุดขึ้นลงทางด่วนอยู่ที่ถนนประชาชื่น ไม่ไกลมาก แต่ในช่วงเช้าและเย็นค่อนข้างติดเลยทีเดียว
ส่วนถ้าไม่ใช้รถ ก็มีทางเลือกมากมายทั้งรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนหน้าโครงการที่เป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างสายสีม่วงและสายสีนำ้เงินต่อขยาย โดยเป็นสถานีถัดจากสถานีที่เปิดใช้ในปัจจุบันคือ MRT บางซื่อ การเปิดใช้งานสายสีม่วงคงได้ฤกษ์เปิดใช้ก่อน ทดลองวิ่งภายในปีนี้ก็พอดีกับที่โครงการจะสร้างแล้วเสร็จพอดี ส่วนตัวเลือกอื่นๆอย่างพี่วินก็มีอยู่หน้าโครงการเลยเป็นพี่วินธนาคารออมสินเตาปูน หรือจะเป็นรถเมล์ที่มีป้ายอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ที่เราพาไปดู มีสะพานลอยคนข้ามเรียบร้อย หรือแท็กซี่ เรียกง่าย หาสะดวก เพราะอยู่ติดรถไฟฟ้าสถานีใหญ่
วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาตามมาตรฐาน ขายเป็นแบบ Fully Furnished พร้อมแอร์ทุกห้อง โดยเฉพาะช่วงตึกเสร็จแล้วจะมีโปรโมชั่นอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเลือกรับส่วนลด บางส่วนเป็นทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว บางส่วนเป็นเฟอร์นิเจอร์ Built-in หรือแม้แต่เครื่องไฟฟ้าที่จำเป็น พื้นไม้ลามิเนตหน้า 12 มิลลิเมตรและส่วนระเบียงและห้องนำ้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาดต่างๆ สุขภัณฑ์ภายในห้องนำ้จาก Mogen
การออกแบบตัวอาคารรูปตัว I สร้างอาคารเต็มพื้นที่ จำนวนห้องพักไม่สูงมากอยู่ที่ 279 ยูนิต และมีห้องพักสูงสุดต่อชั้นที่ 14 ห้อง การจัดห้องเป็นแบบ Double Corridor วิวห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือหันไปทางเหนือออกนอกเมือง หน้าตาอาคารเป็นแบบปกติ ภายนอกใช้สีโทนนำ้เงิน-ฟ้า-ขาวตกแต่ง ส่วนภายในจะหรูขึ้นมาหน่อยคือใช้สีทอง-นำ้ตาล รวมถึงห้องตัวอย่างด้วยก็จัดแบบหรูหราใช้ได้ ให้เหมาะกับราคาที่ขึ้นเรื่อยๆถ้าเทียบกับช่วงเปิดโครงการใหม่ๆ มีห้อง 3 แบบคือ 1-3 ห้องนอน ขนาดค่อนข้างมีให้เลือกหลากหลายมากตาม Lifestyle ที่เราใช้จริงๆและตามกำลังทรัพย์ แต่แปลนทั่วไปก็จะคล้ายๆกัน มี 1 ห้องนอนซะเป็นส่วนใหญ่ และมีห้องที่ขนานใหญ่ขึ้นอยู่ตรงมุมอาคารทั้ง 4 ด้าน ขนาดห้อง 2 ห้องนอนไม่คับแคบ แต่ขนาด 3 ห้องนอนจะเบียดกันนิดนึง จะมีในส่วนห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่เหมือนห้องตัวอย่างคือจะอยู่ใกล้กับสถานีและรางรถไฟฟ้า ทำให้ห้องชั้นล่างหน่อยอย่างตำ่กว่าชั้น 12 ไปอาจจะได้ยินเสียที่เกิดจากการผ่านไปมาของรถไฟฟ้า และเสียงรถบนถนนใหญ่ รวมถึงมลภาวะที่มาจากควันรถด้วย
สาธารณูปโภคถือว่ามีไว้ตามมาตรฐานคอนโดทั่วไป แต่ไม่ได้อลังการหรือจัดเต็ม มี Facility อยู่ที่ชั้น 6 บางส่วนที่ชั้น 23 ไม่ได้ยกขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุดทำให้อดเห็นวิวที่ถือว่าเป็นจุดขายของคอนโดแบบ High rise ถ้าเทียบกับราคาเฉลี่ยที่ 130,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วน Facilities ถือว่าจัดมาให้น้อยกว่าโครงการอื่นเมื่อเทียบกับคอนโดที่อยู่ใน Segment เดียวกัน อย่าง Sky Swimming Pool 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 17 เมตร ที่อยู่บนชั้น 6 ข้างๆคือ ห้องฟิตเนสขนาด 50 ตารางเมตร และ Business Center ขนาด 30 ตารางเมตร ส่วนชั้น 23 ก็จัดพื้นที่สีเขียวมานิดหน่อย รวมถึงชั้นดาดฟ้า มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 140 : 1 ถือว่าสูงทีเดียว ในย่านที่คนทำงานน่าจะอาศัยอยู่เยอะ ส่วนที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 170 คัน คิดเป็น 60% ถือว่าโอเค เพราะโครงการอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาเฉลี่ยประมาณ 130,000 บาทต่อตารางเมตร, 30 June 2015
- ทำเล 7.25/10 – ติดถนนใหญ่ มีตลาด Lotus ราคานี้หาซื้อได้เกือบทุกทำเล
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – จุดกลับรถไม่ไกลทั้งสองฝั่ง ข้ามแม่นำ้เจ้าพระยาง่าย ใกล้นนทบุรี แต่รถติดมาก
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – แปลงที่ดินติดสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานี Interchange ได้ทั้งเข้า-ออกเมือง
- วัสดุ 8.25/10 – Fully Furnished ครบเหมือนห้องตัวอย่างพร้อมแอร์ และส่วนลดหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
- แบบ 7.5/10 – ขนาดห้องหลากหลาย แต่จัดพื้นที่ใช้สอยคล้ายๆกัน
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – น้อยไปนิด ชั้น 6 สระว่ายนำ้, ฟิตเนส และ Lounge
- HIGH CLASS
- 7.61 / 10.00
BOTTOM LINE
ชีวาทัย Interchange เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แต่ต้องการการขยับขยาย หรือคนทำงานที่ทำงานแถบบางซื่อ-เตาปูน-ประชาชื่น มีใช้รถส่วนตัวบ้าง แต่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าซะมากกว่า มีงบประมาณประมาณ 3.2 – 10 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ราวๆ 20,000 – 70,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/