รีวิวฉบับที่ 1122 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมแบรนด์ UNiO ตัวที่สองหลังจากที่เปิดขายที่จรัญฯ 3 ไปแล้ว ชื่อว่า UNiO สุขุมวิท 72 จาก อนันดา ซึ่งคราวนี้มากับคอนเซ็ปท์ใหม่ โดยการจัด Facility มาให้หนักๆสำหรับคอนโด Low Rise ในราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท และก็มีห้องยูนิตพิเศษอย่าง Duplex มาให้เลือกอีกด้วย ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจาก BTS แบริ่งประมาณ 600 เมตร แต่ว่ามี Shuttle Service มาเสริมให้ รายละเอียดเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยครับ

 

Fact @ 6 July 2016

  • UNIO Sukhumvit 72 (ยูนิโอ สุขุมวิท 72)
  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : จังหวัดสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 72
  • เนื้อที่โครงการ 11-0-01.9 ไร่
  • คอนโด Low Rise 5 อาคาร จำนวนทั้งหมด 984 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
  • อาคาร A 203 ยูนิต / อาคาร B 152 ยูนิต / อาคาร C 232 ยูนิต
  • อาคาร D 205 ยูนิต / อาคาร E 192 ยูนิต
  • Studio 22.40 – 27.30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 30.09 – 36.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 40.81 – 50.09 ตร.ม.
  • Duplex 69.48 ตร.ม.
  • จำนวนที่จอดรถช่องจอด ประมาณ 303 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • จำนวนที่จอดรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
  • จำนวนที่จอดจักรยาน  ประมาณ 90 คัน
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 0.95 ล้านบาท(ห้องโปรโมชั่น)
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : สิงหาคม ปี 2559
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปลายปี 2560
  • Presale : 30-31 กรกฏาคม 2559
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 02-316-2222

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.658622, 100.597855

แผนที่จากโครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ จะเห็นว่าตัวโครงการ UNiO สุขุมวิท 72 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 72 ตามชื่อโครงการ ห่างจาก BTS แบริ่ง 600 เมตร ถนนหลักในละแวกนี้นอกจากสุขุมวิทก็ยังมี ถนนบางนา-ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนกาญจนาภิเษกเป็นต้น ในแผนที่แสดงถึงทางเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้หลายเส้นทาง รวมถึงทางด่วน ห้าง โรงพยาบาล โรงเรียนเป็นต้น และยังมีส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตมาให้ดูด้วย

แผนที่ระยะไกลแก้ไข

มาดูความเจริญโดยรอบโครงการในรัศมี 2-3 กิโลเมตรกัน ส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ  ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง, BigC Jumbo ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ ห้างใหญ่อย่าง เซ็นทรัลบางนา, บิ๊กซี และ Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall  ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park

จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายมากโดยใช้ถนนหลักอย่างสุขุมวิทนี่ละ แต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที  เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์โดยใช้ซอยแบริ่งเชื่อมออก และไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้ครับ

แผนที่ทางด่วน

สำหรับทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร  ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการ 4.5 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใช้ทางด่วนโอเคสะดวกพอสมควร

แผนที่รถไฟฟ้า

สำหรับรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีแบริ่ง ระยะทางประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะได้เปิดใช้กัน (แต่มีข่าวเพิ่มเติมว่าอาจจะเปิดให้ใช้ส่วนของสถานีสำโรงให้ใช้กันก่อน โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้งสาย) และในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะเจริญมากขึ้นไปอีก

ถึงแม้จะมีระยะที่ห่าง 600 เมตร ซึ่งพอเดินเอาเหนื่อยอยู่ แต่โครงการก็ทดแทนมาให้โดยการมี Shuttle Service มาช่วยรับส่ง ส่วนการเดินทางอื่นๆ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 70 ใกล้ๆถัดไปก็มีพี่วินและป้ายรถเมล์อยู่ และก็มีรถ Taxi ผ่านไปมาอยู่ตลอด

การเดินทางวันนี้

การเดินทางวันนี้ที่ผมจะพาไป ผมเริ่มจาก BTS สถานีแบริ่ง นะครับ แล้วก็เดินตามทางฟุตบาทริมถนนสุขุมวิท ไปจนถึงซอยสุขุมวิท 72 (ซอยศิริคาม) เป็นระยะทางประมาณ 310 เมตร และก็เข้าไปซอยจนถึงโครงการอีก 290 เมตร รวมทั้งหมดเป็นระยะ 600 เมตร พอดีครับ

btsกดคลิกที่แผนที่เพื่อดูขนาดใหญ่

แผนที่สถานีแบริ่ง ลงที่ทางออกที่ใกล้ที่สุดต้องเป็นทางลงที่ 4 นะครับ แต่ว่าผมลงที่ทางลงที่ 5 นะครับเพราะเห็นว่าจะมีของกินให้แวะซื้อติดมือก่อนกลับเข้าคอนโดได้นิดหน่อย

พอลงมาที่ทางออก 5 แล้วจะเจอกับรวงร้านตั้งโต๊ะขายของกินมากมายริมทาง ก็แวะซื้อเวลาก่อนกลับบ้านได้

และก็จะเจอกับ 7-11 ขนาดใหญ่อยู่ติดกัน

หลังจากนั้นจะเป็นปากซอยสุขุมวิท 70/5 ซึ่งเป็นซอยเชื่อมไปยังถนนรางรถไฟสายเก่าได้ จุดนี้มีพี่วินประจำการอยู่ด้วยนะครับ ด้านหลังถัดไปเป็นปั๊ม Esso

ข้างในปั๊มมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ Rabika Coffee และก็ Tesco Lotus Express

หลังจากพ้นปั๊มจะเป็นส่วนของทางขึ้นรถไฟฟ้า เป็นบันไดเลื่อน นับจากจุดนี้เดินไปโครงการ ระยะทาง 600 เมตร

เดินต่อไปเป็นโชว์รูมรถเบนซ์และรถมือสองอยู่ติดกันครับ ฟุตบาทช่วงนี้ยังร่มรื่นอยู่เพราะมีต้นไม้ริมทาง

หลังจากนั้นจะเจอสามแยกใหญ่ ฝั่งตรงข้ามซึ่งก็คือซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) นั่นเอง

ตรงนี้จะเป็นสะพานลอยที่ใกล้กับปากซอยโครงการที่สุดนะครับ อยู่บริเวณสามแยกเลย

ถ้าลงมาจากสะพานลอยเดินต่อไป จะเจอกับป้ายรถเมล์และก็มีพวกร้านอาหารริมทาง แต่จะเห็นว่าพวกตึกแถวๆนี้ไม่ได้เปิดหน้าร้านกันเยอะเท่าไร อาจเป็นเพราะจอดรถไม่ได้ด้วย

หลังจากนั้นก็จะเจอซอยสุขุมวิท 70

ซอยสุขุมวิท 70 นี่ถ้าเข้าไปก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 70/1 ที่เชื่อมกับทางเข้าออกอีกทางของโครงการ UNiO ได้  ตรงจุดนี้มีพี่วินประจำอยู่ด้วย(หลบแดดกันอยู่)

ถึงปากซอยสุขุมวิท 72 แล้ว เห็นทางซ้ายบนถนนสุขุมวิทการจราจรค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรช่วงเย็นหน่อย มีรถพวกรถเมล์ Taxi ผ่านเยอะและตลอดเวลาเลย

สภาพถนนในซอยสุขุมวิท 72 เป็นถนนคอนกรีตที่มีความกว้างประมาณ 6 เมตร ช่วงทางเข้าฝั่งขวามือจะเป็นร้านวัสดุก่อสร้าง ส่วนทางซ้ายมือเป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่

ตรงต่อมาประมาณ 100 เมตร ซ้ายมือเป็นบริษัท อลูคอน จำกัด(มหาชน) ส่วนขวามือเป็นตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง ที่เห็นเป็นร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งในซอยนี้จะมีอยู่แค่ 2 ร้านเท่านั้น

ถัดมาอีกประมาณ 100 เมตร ซ้ายมือเป็นบริษัท เอ็บโบรวาวส์เทรดดิ้ง จำกัด ส่วนทางขวามือเป็นซอยศิริคาม 4 ข้างในเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเป็นซอยตัน มีทั้งคอนโด LowRise สลับกับบ้านและที่ดินเปล่า

ถึงขอบเขต Site ที่ดินของโครงการแล้วซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเคลียพื้นที่ดินภายในอยู่และมีการล้อมรั้วปิดเอาไว้

20แก้

เลี้ยวซ้ายมาตามทางบังคับนิดนึงก็สุดขอบเขตที่ดินโครงการแล้วครัว อนาคตบริเวณนี้จะเป็นส่วนของซุ้มทางเข้าครับ (เดี๋ยวไปดูแผนที่กับ Master Plan ด้านล่างประกอบ)

กลับมาที่ Sale Office Gallery UNiO สุขุมวิท 72 ให้ดูกันนิดหน่อยนะครับ พิกัด Google Maps : 13.664947, 100.603625

ตั้งอยู่ติดกับคอนโด ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต โครงการจะ Presale ในวันที่ 30-31 ก.ค. 59 นี้นะครับ แต่ว่าสามารถเข้ามาชมรายละเอียดของโครงการได้ก่อนที่นี่เลย

หน้าตาภายในเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ Reception ตกแต่งหน้าตาดูดีมาก ติดโลโก้ UNiO เห็นเด่นชัดอยู่ที่ผนัง

ภายในดูโปร่งโล่งเพราะขนาบข้างไปด้วยผนังกระจกใส จัดชุดโต๊ะรับแขกเอาไว้หลายจุดให้แก่ผู้ที่เข้ามาชมรายละเอียดโครงการ

ตรงกลาง(ที่เป็นฐานไม้) จะเป็นที่วางโมเดลของโครงการ UNiO สุขุมวิท 72 และก็ UNiO พระราม 2-ท่าข้าม ซึ่งมาเปิดให้ชมที่นี่ด้วยเช่นกัน

ผนังก่อนทางเข้าห้องตัวอย่างจะติด Floor Plan ของแต่ละอาคารเอาไว้

แผนที่ระยะประชิด2

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ทำเลของโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 72 ลึกเข้ามาประมาณ 290 เมตร สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยที่เงียบสงบ ไม่มีสาธารณูปโภคในระยะใกล้มากนัก เวลาเข้า-ออกโครงการในตอนกลางคืนจะเงียบหน่อย รอบๆโครงการไม่มีตึกสูงในระยะประชิด สูงสุดคือคอนโด 8 ชั้นทางทิศตะวันออกของตึก A และ B เราลองมาไล่ดูแต่ละทิศของโครงการว่าอยู่ติดกับอะไรและได้วิวไหนกันบ้างนะครับ ทิศเหนือ อยู่ติดกับแนวตึกแถว 3-4 ชั้น และมีส่วนของทางออกไปยังซอยสุขุมวิท 70/1 ได้  ทิศตะวันออก จะเป็นที่ดินเปล่ากับคอนโด Lowrise 2 อาคาร อยู่ติดกัน  ทิศใต้ อยู่ติดซอยศิริคาม 6 ตรงข้ามกันเป็นที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น สุดท้ายทาง ทิศตะวันตก ทั้งซีกจะอยู่ติดกับที่ดินของอนันดาเองที่อนาคตจะทำเป็นคอนโด Low Rise

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • อิมพีเรียลสำโรง / BigC สำโรง
  • BigC Jumbo
  • BITEC บางนา
  • Central บางนา
  • Bangkok Mall (อนาคต)
  • Mega บางนา
  • โรงพยาบาลมนารมย์
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2
  • โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพฯ
  • โรงพยาบาลจุฬาเวช
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา
  • โรงเรียนลาซาล 
  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา
  • โรงเรียน ไทยซิกข์นานาชาติ
  • St Andrews International School

 


เจาะลึกตัวโครงการ

masterplan

มาดู Master Plan กันก่อน ที่ดินของโครงการค่อนข้างใหญ่ประมาณ 11 ไร่เศษ ตามริมรั้วของกำแพงจะลงต้นไม้เอาไว้ ส่วน Facility ที่นี่จะจัดเอาไว้อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร ให้มาเยอะ มีขนาดใหญ่ น่าใช้งานถ้าเทียบกับคอนโด Low Rise ทั่วไปส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครจัดเต็มให้ขนาดนี้ สรุปรวมแล้วมีพื้นที่สีเขียวในโครงการประมาณ 3,800 ตร.ม.หรือ ประมาณ 2 ไร่ครึ่ง ส่วนของสระว่ายน้ำที่เห็นในจุด A นั้นมีความยาวถึง 40 เมตร เลย

โดยโครงการจะมีทั้งหมด 5 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A, B, C, D และ E  โดยมีจำนวนยูนิต อาคาร A 203 ยูนิต / อาคาร B 152 ยูนิต / อาคาร C 232 ยูนิต / อาคาร D 205 ยูนิต / อาคาร E 192 ยูนิต  รวมทั้งหมด 984 ยูนิต(ร้านค้า 3 ยูนิต)  ทุกอาคารจะมีลิฟท์โดยสารให้อาคารละ 2 ตัว

  • จำนวนที่จอดรถช่องจอด ประมาณ 303 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • จำนวนที่จอดรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
  • จำนวนที่จอดจักรยาน  ประมาณ 90 คัน

7

มาดูส่วนของโมเดลโครงการกันบ้าง ถ้านับจากรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดอย่างสถานีแบริ่ง เดินมาจนถึงปากซอยสุขุมวิท 72 ระยะทางประมาณ 310 เมตร และเดินต่อเข้ามาในซอยจนถึงทางเข้าโครงการระยะอีก 290 เมตร รวมแล้วทั้งหมดระยะ 600 เมตร ระยะขนาดนี้เอาจริงๆมันก็พอเดินได้นะ แต่ว่าไม่ถือว่าเป็นระยะที่ใกล้เสียเท่าไร ตรงจุดนี้โครงการเลยเสริมการเดินทางด้วย Shuttle Service มาบริการให้แก่ลูกบ้าน

ฝั่งของอาคาร A และ B จริงๆแล้วจะโดนบล็อควิวนิดหน่อย จากคอนโด Low Rise 8 ชั้นเพื่อนบ้านในซอยศิริคาม 2 แต่พอเป็นอาคาร E ก็ไม่มีอะไรมาบังแล้ว

ฝั่งทิศเหนือ ผั่งนี้จะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยสลับกับตึกแถวประมาณ 3-4 ชั้น จะบังวิวอาคาร E และ D เล็กน้อย ตรงจุดนี้มีประตูทางเข้าออกของโครงการอีกส่วนนึงมาออกซอยสุขุมวิท 70/1 ได้ และซอยนี้ยังสามารถลัดเลาะไปออกถนนรางรถไฟสายเก่าได้ด้วย

ฝั่งทิศตะวันตก เป็นผืนที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ ของอนันดาเช่นกัน เค้าแบ่งขอบเขตที่ดินให้ดูชัดเจนเลยว่ารูปร่างที่ดินเป็นอย่างไร ซึ่งอนาคตคงจะเป็นคอนโด Low Rise แบบ Unio นี่ละครับ แต่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มรายละเอียดรูปแบบโครงการมาว่าจะมีกี่อาคารและใช้ชื่ออะไร

ฝั่งทิศใต้จะติดกับหมู่บ้านศิริคาม ซึ่งเป็นซอยตันสุดซอยของสุขุมวิท 72 แล้ว

การเดินรถเข้าโครงการผมทำเส้นประลูกศรเอาไว้ให้ดูนะ ที่นี่เค้าจะเดินรถทางเดียวเป็นวันเวย์นะครับ ซุ้มทางเข้าโครงการจะมีป้อมรปภ.ตั้งอยู่ เวลารถยนต์เข้าออกจะเป็นระบบตรวจสติ๊กเกอร์ลูกบ้านเอา

พอเข้ามาในส่วนของโครงการแล้ว จะเจอกับ Facility ส่วนแรกทางขวามือ ที่เป็นสวนหย่อมกึ่งกลางระหว่างอาคาร A-B และก็มีห้อง Common Area (ห้องสันทนาการ) อยู่ตรงจุดนี้

ต่อมาจะเป็นอาคาร C ตรงกึ่งกลางระหว่างอาคาร เป็นจุดเริ่มต้นที่ใช้วิ่งออกกำลังกายภายในโครงการได้เลย เป็นทางวิ่ง jogging track

ฝั่งนี้เป็นทางเข้าออกฝั่งซอยสุขุมวิท 70/1 ซึ่งก็จะมีซุ้มรปภ.ตั้งอยู่เช่นเดียวกัน

Facility หลักจะอยู่ใจกลางระหว่าง 3 อาคาร C-D-E แบบนี้ จากโมเดลจะเห็นว่าเค้าจะลงสวนต้นไม้เอาไว้ให้เยอะมาก มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ผู้ใหญ่ขนาดประมาณ กว้าง 8.5-12 เมตร และยาวถึง 40 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กขนาด 5.5 x 6.5 เมตร ลึก 60 ซม. และข้างๆเป็นห้อง Fitness ที่ชั้นบนดาดฟ้าสามารถขึ้นไปนั่งเล่นพักผ่อนได้

การเดินรถวนออกไปทางเดิม (สำหรับจะไปทางสุขุมวิท) นะครับ การจอดรถที่นี่ก็จะจอดใต้อาคารทุกอาคาร และ กลางแจ้งริมกับรั้วกำแพงโครงการ ซึ่งจะตีเส้นจอดเอาไว้ให้ นอกจากนั้นจะมีส่วนของที่จอดรถจักรยานยนต์แยกเอาไว้ประมาณ 50 คัน และที่จอดจักรยานอีก 90 คัน

20

โทนสีของอาคาร ถ้าดูจากโมเดลจะเป็นโทนสีอ่อน Earth Tone เป็นสีออกครีมน้ำตาลอ่อน ตัดกับน้ำตาลทองเข้มสลับไปมา เดี๋ยวลองดูภาพจำลองที่รูปถัดไปครับ

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการ บริเวณทางเข้าออก

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง โทนสีของอาคาร จะเป็นสีอ่อนครีมน้ำตาลดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ดูร่มรื่นและเป็นธรรมชาติดี

2

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

4

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง

มาดู Floor Plan กันบ้าง เริ่มจาก อาคาร A กันก่อน  จากชั้น 1 จะเป็นชั้นของที่จอดรถใต้อาคารและส่วนต้อนรับอย่าง Lobby ที่อาคาร A นี้จะเป็นที่ตั้งของยูนิต Shop ร้านค้าภายในโครงการ 3 ยูนิต ซึ่งตอนนี้ตัว Shop ใหญ่คาดว่าน่าจะเป็น 7-Eleven นะครับ เมื่อเราเข้าอาคารมาจะเจอ Lobby ที่จัดที่นั่งไว้ให้แขกนั่งรอได้ ถัดไปจะเป็นห้องซักรีด ห้องของนิติบุคคลก็จะอยู่ที่นี่ด้วย เพราะเป็นอาคารที่ใกล้ทางเข้าออกหลักที่สุด โถงลิฟต์โดยสารที่มีให้ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 203 : 2 ระดับความหนาแน่นกลางๆ ส่วนบันไดหนีไฟ 3 จุด ตรงข้างโถงลิฟต์ กลางอาคารและภายนอกอาคาร

ส่วนยูนิตห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 และก็เป็นตำแหน่งห้องเหมือนกันทุกชั้นโดยตำแหน่งห้องใหญ่อย่าง 2 Bed จะถูกวางไว้มุมชั้นในหันเข้าหาส่วนกลาง และก็เป็นห้องไซส์ 27 ตร.ม.ที่หันเข้าหาส่วนกลางเช่นกัน ส่วนที่เหลือห้อง Studio ไซส์ 22 จะหันออกด้านนอกรั้วกำแพงโครงการ จำนวนความหนาแน่นอยู่ที่ 29 ยูนิตต่อชั้น

ส่วนของอาคาร B จะคล้ายๆกับอาคาร A รูปทรงอาคารเป็นตัว L เหมือนกันแต่จะสั้นกว่า ทำให้มียูนิตแค่ 152 ยูนิตเท่านั้น  จากชั้น 1 จะเป็นชั้นของที่จอดรถใต้อาคารแต่จะมีห้องพักอาศัยด้วยนะ ทางเข้ามีแค่ Lobby ถัดไปจะเป็นห้องซักรีด จำนวนความหนาแน่นของชั้น 1 อยู่ที่ 29 ยูนิต

ส่วนยูนิตห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 จัดวางรูปแบบของ Type ห้องคล้ายอาคาร A เลย จำนวนความหนาแน่นอยู่ที่ 20 ยูนิตต่อชั้น

ถัดมาที่อาคาร C ตึกนี้มีจำนวน 232 ยูนิต ถือว่าหนาแน่นที่สุดในทุกอาคารครับ ชั้น 1 ของที่นี่ก็จอดรถใต้อาคาร และมีห้องพักอาศัยเหมือนกัน แต่ว่าเป็นห้องรูปแบบพิเศษ นั่นคือห้อง Type Duplex นั่นเอง ที่โครงการจัดวางเอาไว้ตำแหน่งนี้จะได้เป็นเป็นทางเชื่อมเข้าออกของห้องพิเศษนี้ได้สองฝั่งคือโถงทางเดินปกติ และก็ฝั่งที่ชิดกับสวน Facility ขนาดใหญ่ ที่ชั้น 1 จะมีห้อง Duplex 13 ยูนิต และก็ห้อง 2 Bed อีกห้องนึงรวมเป็น 14 ยูนิต

ชั้น 3-8 ถึงเป็นการจัดวางห้องพักอาศัยแบบจริงจัง คือมีความหนาแน่นอยู่ที่ 33 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าสูงเหมือนกันนะถ้าเทียบว่าเป็นคอนโด Low Rise อัตราส่วนลิฟท์โดยสารจะอยู่ที่ 232 : 2 หรือ 116 : 1 (ถ้าเกิน 100 ไป ก็ค่อนข้างจะหนาแน่นละครับ)

รูปแบบของอาคาร D จะเหมือนกับอาคาร C เลยเพราะเป็นตัว L หันหน้าเข้าหากัน แต่ว่าอาคารจะสั้นกว่าจำนวนยูนิตน้อยกว่า อยู่ที่ 205 ยูนิตทั้งอาคาร ชั้น 1 ก็มีที่จอดรถใต้อาคารและห้อง Duplex เหมือนกัน จะมีห้อง Duplex 10 ยูนิต และก็ห้อง 1-2 Bed อีกอย่างละห้อง อีกห้องนึงรวมเป็น 12 ยูนิต ส่วนที่ชั้น 3-8 มีความหนาแน่นอยู่ที่ 29 ยูนิต/ชั้น อัตราส่วนลิฟท์โดยสารจะอยู่ที่ 205 : 2

 

สุดท้ายอาคาร E รูปทรงของอาคารก็เป็นตัว L เหมือนกันแต่จะฉีกกว้างออกเสียหน่อยเพื่อที่จะได้ไม่เห็นวิวชิดกันเองจนเกินไป อาคารนี้มีทั้งหมด 192 ยูนิตครับ รูปแบบ ชั้น 1 ก็มี Lobby ห้องซักรีด จอดรถใต้อาคาร มีห้องพักอาศัย 10 ยูนิต ผังอาคารในส่วนชั้น 2-8 จะเหมือนกัน กับอาคารอื่นก่อนหน้านี้ คือ Double Corridor มีลิฟต์ให้ 2 ตัว และบันไดหนีไฟ 3 จุด มีความหนาแน่นอยู่ที่ 26 ยูนิต/ชั้น

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด กว้าง 8.5-12 เมตร และยาวถึง 40 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แยกสระเด็กขนาด 5.5 x 6.5 เมตร ลึก 60 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดปานกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง
  • พื้นที่สีเขียวภายในโครงการทั้งหมด 3,800 ตร.ม. หรือประมาณ 2 ไร่ครึ่ง
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการจุด
  • รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 2.5 ม.
  • จำนวนที่จอดรถช่องจอด ประมาณ 303 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • จำนวนที่จอดรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
  • จำนวนที่จอดจักรยาน  ประมาณ 90 คัน
  • ทางเข้าออกตรวจสติ๊กเกอร์ลูกบ้าน
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร มีอัตราส่วนลิฟท์ตึก A 101 : 1, ตึก B 76 : 1, ตึก C 116 : 1, ตึก D 102 : 1, ตึก E 96 : 1
  • Shuttle Service รับส่งที่ BTS แบริ่ง 1 คัน (ยังไม่ระบุชนิดรถ)
  • ระบบ CCTV / Access Card

 

โครงสร้าง


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปดูคือ Studio A ขนาด 22.44 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีแค่ชุดครัว(ตู้บน)ผนังกรุกระเบื้องให้ Top ครัวเป็นหินแกรนิต พื้นเป็นลามิเนต 8 mm. / ในแปลนห้องที่ได้จะเป็นฝั่งซ้ายมือนะครับ ส่วนฝั่งขวาโครงการเค้าวางตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเฉยๆว่าจะจัดประมาณไหนเป็นไอเดีย

เมื่อเข้าห้องไปจะเจอกับพื้นที่รับแขก ที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารเป็นโต๊ะกลางแบบ 2in1 ได้ ถัดไปเป็นห้องนอนที่จะไม่มีฉากกั้นห้อง ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ต้องชิดไปที่ผนังฝั่งใดฝั่งนึง ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ถัดมาจะเป็นครัวเปิดซึ่งเป็นพื้นที่แยกสัดส่วนออกไป ตรงนี้สามารถต่อเติมประตูเองเพื่อกั้นให้เป็นครัวปิดได้ครับ โดยห้องครัวจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็น ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งมีพื้นที่วางเครื่องผ้าได้นะ ส่วนตำแหน่งคอมเพลสเซอร์แอร์ต้องแขวนด้านบนเอา และส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจน

เปิดเข้าห้องมาสิ่งแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นขนาด ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร ระยะนั่งดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร โดยห้องนั่งเล่นนี้จะเสมือนโถงกลาง ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำ

ตำแหน่งของชั้นวางทีวีทางขวามือจะเป็นประมาณนี้ ถ้าต้องนี้เราใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า เราก็ Built-In ติดผนังเป็นชั้นเก็บของและด้านล่างเป็นที่เก็บรองเท้าไปในตัวไปด้วยเลยครับ เพราะพื้นที่ห้องเล็กต้องใช้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้คุ้มค่าที่สุด 😀

พื้นที่วางโซฟา ห้องตัวอย่างเค้าวางเอาไว้แบบ 2 ที่นั่งโดยมีพื้นที่เหลือด้านข้าง สามารถวางเป็นโต๊ะข้างหรือทำเป็นชั้นวางหนังสือไปก็ได้ หรือถ้าใครแขกมาหน่อยก็ขนาดโซฟาแบบ 3 ที่นั่งไปเลยก็ได้นะ พื้นที่ตรงนี้คงจะเป็นจุดที่ใช้ทานอาหารไปในตัวด้วยนะครับ โครงการเค้าเลยแนะนำไอเดียให้โต๊ะกลางเป็นโต๊ะทานข้าวไปในตัวแต่ต้องเลือกแบบที่สามารถพับเก็บได้หรือเลื่อนได้ด้วยนะ

พื้นที่ด้านข้างเอาไว้สำหรับเก็บโต๊ะกลางที่พับได้เวลาไม่ใช้งาน

 

ถัดไปเป็นห้องนอน ซึ่งตัวประตูกระจกบานเลื่อนเราไม่ได้นะครับ โครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เราก็ไปหาติดเพิ่มเอาเองนะ

ถ้าจะกั้นฉากกั้นก็แนะนำให้ทำเป็นบานเลื่อน 3 ตอนแบบห้องตัวอย่างนะครับ เพราะจะได้พื้นที่เชื่อมต่อเวลาเปิดออกใช้ง่ายได้มากกว่าแบบ 2 ตอน

ภายในห้องนอนขนาดพอวางเตียงไซส์ 5 ฟุตได้โดยชิดกับฝั่งใดฝั่งนึง และจะเหลือระยะอีกฝั่งประมาณ 40 ซม. ช่องแสงจะมีมาให้ 2 จุดแบบนี้

ระยะทางเดินปลายเตียงค่อนข้างโอเคนะรับ ถึงแม้จะติดตั้งตู้เสื้อผ้าไปแล้วก็ยังเหลือระยะประมาณ 50 ซม. สะดวกอยู่

ระยะด้านข้างเตียงฝั่งนี้จะเหลือประมาณ 40 ซม. พอวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ และเป็นระยะให้เดินเข้าไปได้

ปลายเตียงจะเป็นพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า ถ้าจะเอาให้คุ้มแนะนำให้ Built-In ครับ จากพื้นถึงฝ้าเพดานไปเลย ได้ที่เก็บของเยอะดีและกันฝุ่นด้วย ส่วนด้านข้างเหลือพื้นที่นิดหน่อยเป็นส่วนของโต๊ะเครื่องแป้ง

หน้าต่างช่องแสงในห้องนอนเป็น วงกบอลูมิเนียมสีดำ สูงประมาณ 2 เมตร ด้านล่างเป็นบานฟิค ส่วนด้านบนเป็นบานกระทุ้งเปิดออกได้ 90 องศา

ตำแหน่งของแอร์ก็คงติดประมาณนี้ อยู่กึ่งกลางระหว่างหน้าต่างทั้งสอง โคมไฟในห้องได้เป็นแบบซาลาเปา

ไปต่อกันที่ห้องครัว เป็นห้องที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและห้องนอน ตรงจุดนี้สามารถกั้นเพื่อทำเป็นครัวปิดได้นะครับ สำหรับใครที่ชอบประกอบอาหารทานกินเองที่บ้าน **ให้สังเกตเพดานด้านบนส่วนของครัวหน่อยครับ จะลดระดับลงมาประมาณ 40 ซม. เป็นส่วนของงานระบบที่เชื่อมมาจากห้องน้ำ

นี่คือชุดครัวที่เราจะได้ตามนี้ ซึ่งหน้าตาสวยงาม อยู่นะครับ

ลองเปิดหน้าบานชุดตู้ด้านบนสามารถเก็บของใช้ได้ มีช่องวางไมโครเวฟเอาไว้ด้านบน คุณผู้หญิงเวลาอุ่นอาหารยกเข้าออกก็ระวังนิดหน่อย

ผนังเค้ากรุกระเบื้องไซส์เล็กสีดำเอาไว้ให้ เพื่อที่เวลาทำอาหารมีคราบกระเด็นไปจะได้ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนของ Top ครัวนั้นเป็นหินแกรนิตสีดำครับ

ลองเปิดหน้าบานด้านล่างให้ดูครับ เก็บของใช้ได้พอสมควร มือจับเป็นของ Hafele ลายหนัง น่ารักสวยงามดี

ด้านข้าง Pantry ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ระยะประมาณ 75 ซม.

ติดกันเป็นเพื่อนที่เชื่อมออกไปยังระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งก่อธรณีสูงจากพื้นขึ้นมาประมาณ 10 ซม. เอาไว้กันในส่วนเวลาใช้งานซักล้างด้านนอก หรือฝนตกหนักๆ

พื้นที่ระเบียง ถ้าใครจะซักผ้าเอง ก็สามารถวางเครื่องซักผ้าได้นะ แต่ก็ต้องทำใจแลกกับพื้นที่ยืน และตากผ้าที่ลดลงไปด้วย

ด้านบนผนังก็เป็นตำแหน่งที่แขวนคอมแอร์เอาครับ สามารถติดตั้งราวแขวนบริเวณตรงข้ามเพื่อใช้ตากผ้าไปในตัวได้

ผนังที่ระเบียงมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ และก็เดรนระบายน้ำมาให้ 1 จุด

ห้องน้ำใช้โทนสีขาวสะอาด ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและ Low wall ท็อปแกรนิตโต้สีดำเหนือโถสุขภัณฑ์, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ แต่ไม่ได้ฉากกั้น

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคไซส์ 20 cm. มีธรณีก่อเล็กน้อยเป็นกระเบื้อแกรนิตโต้สีดำ

พวกอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ หัวฉีด จะได้ของ American Standard หรือเทียบเท่านะครับ

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้โดยพื้นเป็นสเต็ปลดระดับลงประมาณ 2 ซม. ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.80 x 0.85 เมตร ตรงนี้เราก็ไปหาฉากกั้นมาติดเพิ่มเอานะครับ ใครงบน้อยก็เลือกเป็นม่านพลาสติกกั้นน้ำ ใครมีงบมากหน่อยก็จัดเป็นกระจกฉากกั้นไปเลยครับ

ส่วนอาบน้ำติดตั้งชุดฝักบัวของ American Standard เช่นกัน และติดที่วางสบู่มาให้ ด้านบนเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศความชิ้นครับ

ตัวหัวฝักบัวสามารถปรับรูปแบบของน้ำได้ และขนาดค่อนข้างใหญ่ดี

plan-27

ห้องตัวอย่างอีกแบบคือ Studio B ขนาด 27.30 จะเห็นว่าตำแหน่งจะใกล้ๆเคียงกับแบบแรก แต่จะความยาวจะลดลง ความกว้างเพิ่มมากขึ้น มีระยะดูทีวีในห้องนั่งเล่นมากกว่าเดิม ห้องน้ำเปลื่อนเป็นแนวตั้ง และมีจุดที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาคือการออกแบบหน้าต่างเข้ามุม Bay Window ในห้องนอน และสามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่างโต๊ะทำงาน หรือ วาง DayBed เป็นมุมนอนเล่นอ่านหนังสือได้

เข้ามาในห้องจะเห็นได้ชัดเลยว่าความกว้างของ Living Area ค่อนข้างกว้าง สบาย ไม่อึดอัด ซึ่งมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร

ผนังฝั่งพื้นที่ชั้นวางทีวีก็กว้างพอสมควน สามารถเลือกเป็นชั้นแบบลอยตัวหรือ Built-In ก็ได้จุดนี้ ด้วยระยะดูทีวีขนาดนี้ควรเลือกไซส์ของทีวีประมาณที่ 50 นิ้วนะครับ กำลังดี

พื้นที่วางโซฟาค่อนข้างกว้าง สามารถเลือกเป็นโซฟาตัว L แบบนี้ได้เลย

รูปแบบการเลือกโต๊ะกลางคงเป็นคอนเซ็ปท์กับห้องที่แล้วคือควรเลือกใช้โต๊ะที่แบบพับเก็บได้ที่เป็นทั้งโต๊ะกลางและทานอาหาร เวลาใช้งานก็จะเป็นแบบนี้ 2 ที่นั่ง

พื้นที่ด้านข้างบริเวณนี้เหลือพอที่จะวางเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆได้ หรือไม่ก็ทำเป็นชั้นวางของ ชั้นวางหนังสือแล้วแต่เจ้าของห้อง

พื้นที่ห้องนอนขนาดจะกว้างกว่าห้องที่แล้ว ห้องนี้สามารถวางเตียง King Size ได้เลย แต่ไม่ได้ฉากกั้นมาเหมือนกันนะครับ

พื้นที่ทางเดินปลายเตียงระยะเหลือประมาณ 60 ซม. (รวมทำตู้เสื้อผ้าแล้ว)

ฝั่งที่ชิดกับช่องแสงทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง

ให้ดูจากบนเตียงครับ รูปแบบคล้ายกับ Studio ห้องก่อน

มุมนี้ที่เป็นไฮไลท์ของห้องนี้ คือมีการออกแบบหน้าต่างเข้ามุม Bay Windowในห้องนอน

 

โดยเจ้ามุมนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่างโต๊ะทำงาน หรือ วาง DayBed เป็นมุมนอนเล่นอ่านหนังสือได้

แต่โดยส่วนตัวผมชอบให้จัดเป็นมุมโต๊ะทำงานมากกว่า เพราะว่าห้อง Type นี้ตำแหน่งจะอยู่หันเข้าหา Facility ด้านในอาคาร เวลาทำงานอ่านหนังสือ ก็ได้แสงที่สบายตาหรือมองออกไปก็จะเห็นพวกสวน สระขนาดใหญ่ของโครงการ

ออกจากห้องนอนถัดไปเป็นส่วนของทางไปครัว ซึ่งเหมือนกับห้องแรก สามารถกั้นฉากได้ถ้าชอบทำอาหาร

ชุดครัว และพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้างเหมือนกัน ไม่อธิบายซ้ำนะครับ

ติดกันเป็นทางออกไประเบียง จะเห็นได้ว่าทางเดินจะกว้างกว่า เพราะว่าห้องที่แล้วตู้เย็นจะกินพื้นที่เกินครึ่งนึงของประตูกระจกบานเลื่อน

ทำให้ระเบียงในส่วนของห้องนี้ถึงแม้ว่าจะวางเครื่องซักผ้าแล้ว ก็ยังออกไปยืนได้ดีกว่า แบบหมุนตัว ย่อตัว เอื้อมมือไปแขวนผ้าได้สะดวกกว่าครับ

ตำแหน่งแขวนคอมแอร์ฯด้านบนเหมือนกัน

มองย้อนกลับไปในห้องเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งบานประตูของจริงที่จะได้วัสดุเป็นไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งจะมีอายุการใช้งานมากกว่าพลาสติกทั่วไป

ภายในห้องน้ำด้วย การยืดพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ห้องน้ำเลยเป็นสี่เหลี่ยมแนวยาวตั้งแทนแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้อึดอัดอะไร เดินไปมาใช้งานได้สะดวกอยู้ วัสดุของห้องน้ำเหมือนกับห้องที่แล้วนะครับ

ผนังกระจกเงาตรงส่วนนี้จริงๆได้เป็นบานเล็กมาตรฐานห้องจริง (ให้ไปดูแบบห้องที่แล้วจะเหมือนกัน)

ตำแหน่งของสุขภัณฑ์

ห้องนี้จะได้ส่วนของพื้นที่อาบน้ำกว้างกว่าเล็กน้อยคือขนาดประมาณ 0.80 x 0.95 เมตรครับผม

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ขนาดของห้องรูปแบบอื่นๆที่นอกเหนือจากห้องตัวอย่างสามารถเข้าไปดูได้ใน Official Website “คลิกที่นี่” จะมีแปลนเลือกให้ดูได้เลยครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 July 2016

ใบราคาคลิกที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่

  • Fully Fitted
  • ชุดครัว Kitchen & Sink ผนังกรุกระเบื้อง
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
  • เงินกองทุนส่วนกลาง 400 บาท/ตร.ม.
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ UNiO สุขุมวิท 72 นี่ดึงจุดเด่นของโครงการด้วยการจัด Facility ที่ให้มาเยอะและดูอลังการเหมือนกับพวกคอนโด High Rise ซึ่งในละแวกนี้ด้วยทำเลนี้มีคู่แข่งของคอนโด Low Rise ที่มาเปิดก่อนหน้ากันก่อนหน้า ถึงแม้ว่าตัวทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่ ซึ่งหลายๆคนอาจจะชอบฝั่งเลขคี่มากกว่าเพราะมันสะดวกในการเดินทางลัดเลาะไปถนนหลักอื่น แต่ว่าโครงการก็ตั้งราคาที่เหมาะสมให้อยู่ในช่วงที่ต่ำกว่าฝั่งเลขคี่นิดหน่อยและเน้นไปที่ส่วนกลางแทนครับ

มาดูความเจริญโดยรอบโครงการในรัศมี 2-3 กิโลเมตรกัน ส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ  ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง, BigC Jumbo ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ ห้างใหญ่อย่าง เซ็นทรัลบางนา, บิ๊กซี และ Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall  ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park

จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายมากโดยใช้ถนนหลักอย่างสุขุมวิทนี่ละ แต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที  เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์โดยใช้ซอยแบริ่งเชื่อมออก และไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้ครับ

ทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร  ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการ 4.5 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใช้ทางด่วนโอเคสะดวกพอสมควร เอาจริงๆก็ถือว่าเป็นทำเลที่ใช้เดินทางด้วยรถสะดวกนะครับ จะติดก็ตรงที่ถ้าใช้รถยนต์ที่จอดรถน้อยไปหน่อยแค่ 30%(ไม่รวมซ้อนคัน)

สำหรับรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีแบริ่ง ระยะทางประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะได้เปิดใช้กัน (แต่มีข่าวเพิ่มเติมว่าอาจจะเปิดให้ใช้ส่วนของสถานีสำโรงให้ใช้กันก่อน โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้งสาย) และในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะเจริญมากขึ้นไปอีก  ถึงแม้จะมีระยะที่ห่าง 600 เมตร ซึ่งพอเดินเอาเหนื่อยอยู่ แต่โครงการก็ทดแทนมาให้โดยการมี Shuttle Service มาช่วยรับส่ง(แต่วันที่เข้าสำรวจโครงการแจ้งว่ามีให้แค่ 1 คัน ซึ่งดูจากจำนวนยูนิตลูกบ้านบอกเลยว่า “ไม่พอ” แน่นอนครับ) ส่วนการเดินทางอื่นๆ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 70 ใกล้ๆถัดไปก็มีพี่วินและป้ายรถเมล์อยู่ และก็มีรถ Taxi ผ่านไปมาอยู่ตลอด

การออกแบบตำแหน่งผังของอาคารจัดวางแบบไม่หนาแน่น มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะตั้งอยู่ใจกลางระหว่างอาคารตัวกัน พวกตัวอาคารจะเป็นทรงตัว L ทั้งหมด เพื่อให้ฝั่งนึง(ฝั่งห้องใหญ่กว่า Studio Type A) ได้วิวของส่วนกลางสวยๆไปเต็มๆ โทนสีของอาคาร ถ้าดูจากโมเดลจะเป็นโทนสีอ่อน Earth Tone เป็นสีออกครีมน้ำตาลอ่อน ตัดกับน้ำตาลทองเข้มสลับไปมา / การออกแบบห้องด้วยตัว Type ของ Studio A และ B จัดวางออกมาได้ดีเลย จัดวางตำแหน่งของพวกพื้นที่ใช้งานได้เหมาะสม(2 แบบนี้มีประมาณ 87% ของยูนิตทั้งหมด) ที่เหลือที่นี้จะมีแบบห้องเพิ่มมาอีกหลายแบบกว่ายูนิโอตัวแรก ที่เป็นของแปลกก็คือ Duplex ขนาด 69.48 ตร.ม.นี่ละซึ่งเค้าก็จัดออกมาได้ดีและเลือกให้ตำแหน่งห้องอยู่ชั้น 1-2 ชิดกับสระและสวนซึ่งเข้าออกทางฝั่งนี้ได้ในตัวด้วย พวกความหนาแน่ของลิฟท์ให้เฉลี่ยๆกันไปจะอยู่ที่ประมาณอาคารละ 90-110 : 1 นะครับ ไม่มากไม่น้อย

วัสดุในห้อง ถ้าเทียบกับราคาของที่นี่ซึ่งอยู่ประมาณ 53,000 – 69,000 บาท/ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted ได้แต่ชุดครัว มีตู้ชั้นด้านบน ผนังกรุกระเบื้อง Top หินแกรนิตดำ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร โคมไฟซาลาเปาและดาวน์ไลท์ ไม่ได้ฉากกั้นห้องนอนและห้องน้ำ เทียบจากจากราคาก็ถือว่าเหมาะสมมาตรฐานนะครับ อยู่ปานกลางมากกว่าไม่ถูกไม่แพง ที่นี้เค้าไปเน้นส่วนกลางมากกว่า

Facilities ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด กว้าง 8.5-12 เมตร และยาวถึง 40 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กขนาด 5.5 x 6.5 เมตร ลึก 60 ซม. / พื้นที่สีเขียวทั้งโครงการรวมประมาณ 3,800 ตร.ม. หรือคิดเป็นประมาณ 2 ไร่ครึ่ง / ห้อง Fitness ขนาดปานกลางมีเครื่องเล่นประมาณ 12 เครื่อง อยู่ติดกับสระและดาดฟ้าขึ้นไปนั่งเล่นเป็นพื้นที่พักผ่อนได้ / ทางเดินหรือวิ่ง Jogging Track ภายในโครงการ / ห้อง Common Area พื้นที่อเนกประสงค์ / Shop Unit ร้านค้า 3 ยูนิต (ซึ่งกำลังดิวกับ 7-Eleven แล้ว 1 ยูนิต ที่เหลือยังไม่คอนเฟิร์ม) นอกจากนี้โครงการยังมี Shuttle Service รับ-ส่ง ไปยังรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง (แต่ว่ามีมาให้คันเดียว)

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 0.95- 4.4 ล้านบาท (ราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ 53,000-69,000 บาท) , 6 July 2016

  • ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยสุขุมวิท 72 ห่างจากปากซอย 290 ม. บรรยากาศในซอยไม่คึกคักมาก บริษัท สลับกับชุมชนอยู่อาศัยแต่ไม่หนาแน่นมาก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ถนนหลักอย่างสุขุมวิท ใช้ทางด่วนง่ายและหลากหลาย เสียตรงให้ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – 600 เมตร BTS แบริ่ง (โครงการมี Shuttle Service ให้ แต่แจ้งตอนนี้มีคันเดียว) มีพี่วินและป้ายรถเมล์อยู่ปากซอย Taxi วิ่งผ่านถนนสุขุมวิทบ่อยผ่านทั้งวัน
  • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุและเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานเหมาะสมกับราคา
  • แบบ 8/10 – รูปแบบอาคารจัดแบบไม่หนาแน่นมาก อาคารใช้โทนสีอ่อนเน้นตัดกับสีเขียวต้นไม้เยอะๆ แบบห้องไซส์ Studio ที่มี 87% ออกแบบมาได้ดีมากจัดพื้นที่ฟังก์ชั่นลงตัว
  • สาธารณูปโภค 9/10 – อลังการงานสร้างไม่แพ้คอนโด High Rise เลย มีครบทุกอย่างและให้มาเยอะ
  • 7.70 / 10.00

BOTTOM LINE

Unio สุขุมวิท 72 เหมาะกับคนที่ ทำงานหรืออยู่อาศัยในย่านแบริ่ง ลาซาล สุขุมวิทตอนปลาย ขับรถไปมาสะดวกใช้ทางด่วนง่าย อยากอยู่คอนโดที่เน้น Facilities เป็นหลักให้มาเยอะๆ สวยๆ ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางบ้าง ซื้อของตามความต้องการและเน้นคุ้มค่า มีงบประมาณ 950,000 – 4,400,000 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 6,700 – 30,000 บาท/เดือน