รีวิวฉบับที่ 638… วันนี้ทีมงานจะพาชมคอนโดในซอยลาดพร้าว 15 ค่ะ เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้นที่มีเพียง 79 ยูนิตหรือ 12 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น และยังคงมี Facility มาให้ครบตามสมัยนิยม ตัวทำเลที่ตั้งของคอนโดนี้จะอยู่ในซอยลาดพร้าว 15 แยก 2 ในซอยเป็นซอยพักอาศัยจึงไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ช่วงปากซอยหรือบนเส้นลาดพร้าวจะมีแแหล่งชอปปิ้งและร้านค้าอยู่เยอะ และยังมีรถรถสาธารณะให้เลือกหลายหลายทั้ง รถเมล์, พี่วิน และ MRT จึงมีความสะดวกพอสมควร
Fact @ 24 July 2014
- The L15 Condo (ดิ แอล ฟิฟทีน คอนโด)
- บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จตุจักร
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12
- ที่จอดรถประมาณ 38 ช่อง หรือ 48% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 0-3-21.3 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พฤศจิกายน 2015
- 1 Bedroom 27.72-37.04 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 39.32-64.09 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.19 ล้านบาทหรือประมาณ 76,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 83,000 บาท
- http://thel15.com/
- โทร 081-553 5555
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.810628,100.573214
แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการL15 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 15 แยก 2 เข้าจากปากซอย 15 ประมาณ 500 ม.ค่ะ
ทำเลนี้จะอยู่ในช่วงลาดพร้าวตอนต้นอยู่ในซอยฝั่งเลขคี่ นั่นคือซอยลาดพร้าว 15 แยก 2 คิดว่าหลายๆคนคงรู้จักเส้นลาดพร้าวกันดีอยู่แล้ว่าเป็นถนนเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายสาย เลยมีเส้นทางให้เลือกเยอะไม่ว่าจะเป็นถนน วิภาวิดีรังสิต, พระราม9, ประดิญฐ์มนูธรรม, พหลโยธิน, งามวงศ์วาน และ รัชดาภิเษก และบริเวณนี้ยังไปพื้นที่อยู่อาศัยและที่ตั้งของสำนักงานต่างๆมากมาย ทำให้ต้องเจอกับสภาวะรถติดจนคนที่ใช้เส้นนี้เป็นประจำเริ่มชินกันไปแล้ว
เนื่องจากตัวซอยภายใน Block นี้มีการเชื่อมต่อถึงกันได้หลายจุด ทำให้มีเส้นทางที่ใช้ลัดเลาะได้พอสมควร โดยสามารถเข้าโครงการได้จากเส้นรัดชา ตรงซอยข้างศาลอาญา หรือถ้ามาทางเส้นพหลโยธินก็สามารถเข้าจากซอยพหลโยธิน 24 ได้เช่นกัน เส้นทางเหล่านี้ก็เอาไว้ใช้เลี่ยงเวลาเจอรถติดหนักๆหละกันนะคะ
หลายคนที่พอคุ้นหรือผ่านถนนเส้นนี้มาบ้างแล้ว อาจจะพอทราบว่าพื้นที่บริเวณนี้ทั้งในซอยฝั่งเลขคู่และเลขคี่นั้น จะมีคอนโดมิเนียม, อพาร์ทเม้นท์, แบบบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม อยู่เยอะ แถมราคาที่ให้เช่าๆกันก็มีหลากหลายราคา ซึ่งในบางซอยที่ใกล้กับถนนลาดพร้าวจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนเส้นทางในซอยถ้ารู้จักเส้นทางลัดก็จะช่วยให้มีทางเลือกมากขึ้นเวลาจะเลี่ยงรถติดบนถนนหลัก ส่วนคนที่ไม่ใช้รถก็ยังมีทางเลือกหลายทางค่ะ สำหรับขาเข้าโครงการไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่ เพราะพี่วินคอยให้บริการอยู่หน้าทางออกของรถไฟฟ้า MRT เลย แต่ขาออกอาจจะต้องเดินไปหน้าปากซอยนะ เพราะถ้าจะรอรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการจะต้องรอนานหน่อย แนะนำให้เดินไปตรงปากซอยจะเรียกรถได้ง่ายกว่า ระยะการเดินก็ไปปากซอยก็ไม่ไกลมากนักประมาณ 500 เมตรพอเดินได้สบายๆ ส่วนสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดนั้นคือ MRT ลาดพร้าวโดยทางออกประตู 3 จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 ม.
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในซอยลาดพร้าว 15 มีอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ เพราะในซอยนี้เป็นแหล่งที่พักอาศัยทั้ง บ้านเดี่ยวและอพาร์ทเม้นท์ จึงหาอะไรทานได้ไม่ยากนัก ถ้ามาตรงปากซอยก็มี 7-11 หรือถ้าอยากจะเดินห้างตากแอร์ก็มี Big C ที่ห่างจากโครงการประมาณ 800 ม. แถมถ้าอยากจะขับรถไปก็ไม่ต้องออกถนนใหญ่ไปเจอรถติดด้วย โดยลูกบ้านสามารถเข้าทางหลังห้างได้จากซอยลาดพร้าว 15 แยก 1 สะดวกดีค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆก็จะมีหลายห้างให้เลือกทั้ง ยูเนี่ยนมอลล์ และ เซ็นทรัลลาดพร้าว เวลาจะไปบริเวณนั้นก็ไปไม่ยาก จะนั่งรถเมล์หรือ MRT ก็เพียงสถานีเดียวเท่านั้นเองค่ะ
การเดินทางวันนี้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะจะเริ่มจาก MRT ลาดพร้าวแล้วเดินตามทางไปยังโครงการค่ะ วันนี้ทีมงานจะพาไปชมทั้งตรงตำแหน่งสำนักงานขายและที่ตั้งโครงการเลยนะคะ
เราจะเริ่มจาก MRT ลาดพร้าวตรงประตูทางออก 3 เมื่อออกมาให้เลี้ยวขวา ตรงบันไดทางขึ้น-ลงจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ สามารถเรียกใช้งานได้เลยค่ะ
ราคาค่าโดยสาร ถ้าจาก MRT ไปยังโครงการราคาจะอยู่ที่ 20 บาทค่ะ
คราวนี้ทีมงานขอพาเดินชมละกันนะคะ สภาพฟุตบาทก็เดินได้สะดวกอย่างที่เห็นค่ะ ไม่ค่อยมีร้านค้ารถเข็นมาปิดเส้นทาง อย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นว่าแถวนี้มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย เช่นในรูปจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อว่า Toku Sen ค่ะ
เดินมาไม่ไกลจะเป็นปั๊มซึ่งมีร้านกาแฟให้นั่งชิว ๆ ค่ะ
เดินมาประมาณ 170 ม. ก็จะเจอปากซอยลาดพร้าว 15 ตรงนี้ให้เลี้ยวขวาเข้าไปในซอยค่ะ
ในซอยเป็นถนน 2 เลน สองข้างทางมีฟุตบาทให้เดิน ด้านขวาฟุตบาทจะเล็กหน่อยค่ะ ดังนั้นเดินฝั่งซ้ายจะสะดวกกว่า ในซอยเป็นเหมือนชุมชน มีร้านโชห่วย, ร้านอาหารให้เลือกใช้บริการได้หลายร้าน ทั้งก๋วยเตี๋ยว, ข้าวขาหมู, ข้าวราดแกง และอาหารตามสั่ง
จากปากซอยเดินมาได้ประมาณ 75 ม.จะเจอทางแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปลาดพร้าว 15 แยก 1 แต่เราต้องตรงไปนะ
พอเดินตรงต่อมาบริเวณนี้จะไม่มีฟุตบาทให้เดินแล้ว ดังนั้นเวลาเดินก็ระวังรถกันหน่อยนะคะ
เดินเลยแยกมาไม่ใกลจะเห็นสำนักงานขายของ L15 อยู่ด้านขวามือ ตรงนี้มีห้องตัวอย่างและโมเดลจำลองอาคารให้ชมค่ะ
สำหรับที่ตั้งโครงการจะต้องเดินเลยไปอีกหน่อยค่ะ จากสำนักงานขายเดินตรงมาจะเจอทางโค้ง ก็เลี้ยวตามทางไปนะคะ
จากทางโค้งจะเจอซอยแยกด้านขวามือ ก็ให้เลี้ยวขวาตามป้ายโครงการ L15 ไปได้เลยค่ะ
เมื่อเลี้ยวเข้ามา ในซอยเป็นซอยพักอาศัยค่ะส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น มีทั้งทาวน์โฮมและอพาร์ทเม้นท์
เข้ามาจากแยกประมาณ 200 เมตร (จากปากซอยลาดพร้าว 15 ประมาณ 500 ม.) ก็จะเจอที่ตั้งโครงการ ด้านซ้ายหน้าโครงการจะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ด้วยค่ะ ถ้ามวันไหนลูกบ้านขี้เกียจออกไปซื้ออาหารไกล ๆ ก็ฝากท้องไว้กับร้านนี้ได้นะคะ
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยลาดพร้าว 15 แยก 2 โดยรอบ0tเป็นบ้านพักอาศัยทั้งแบบบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม โดยฝั่งทิศใต้ที่เป็นส่วนห้องพักจะมีติดกับทาวน์โฮม 3 ชั้นค่ะ ส่วนทางทิศตะวันตกติดกับทาวน์โฮมก็จริง แต่ตรงนั้นจะทำเป็นที่จอดรถปละถนนภายในโครงการ เลยไม่มีผลกับตัวโครงการเท่าไหร่
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
ที่ตั้งโครงการจะตั้งอยู่ติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้นตามในรูป และตอนนี้ทางโครงการกำลังปรับพื้นที่เตรียมก่อสร้างแล้วค่ะ พื้นที่บริเวณด้านหน้าโครงการที่เห็นจะเป็นประตูทางเข้าและพื้นที่จอดรถทั้งหมด ตัวอาคารจริงๆจะอยู่ด้านใน
ด้านทิศตะวันตกจะติดกับทาวน์โฮม 3-4 ชั้น ซึ่งส่วนของโครงการที่ติดนั้นเป็นที่จอดรถค่ะ ไม่มีส่วนของห้องพักติดกับทาวน์โฮมนี้เลย
ทางทิศใต้ของอาคารจะอยู่ติดกับทาวน์โฮม 3 ชั้น ดังนั้นห้องพักชั้นล่าง ๆ ของด้านนี้ก็จะโดนบังวิวด้วยอาคารนี้ค่ะ
หันไปดูด้านทิศตะวันออก จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และอาคารที่อยู่ไกลออกไปจะเป็นสำนักงานของ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการและศาลยุติธรรม
L15 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น สีสันหรือหน้าตาภายนอกไม่ฉูดฉาด เน้นการใช้สีเรียบๆและมีการเพิ่มมิติให้กับตัวอาคารโดยใช้เส้นสายสีเข้ม อย่างสีเทาหรือสีแดงมารูน(แดงเลือดหมู) มาตัดเป็นช่วงๆ (สีนี้คงต้องรอดูตอนสร้างเสร็จนะคะว่าโทนสีจะออกมาแนวไหน)
ภาพจำลองในส่วนของ Lobby อาคารค่ะซึ่งจะอยู่ตรงชั้น 1 ซึ่งเป็นพื้นที่จอดรถของอาคาร
ภาพจำลองส่วนของห้องฟิตเนส
ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่จะอยู่ในอาคาร อยู่ติดกับห้องฟิตเนสที่มีการเจาะช่องโปร่งให้เห็นวิวนอกอาคาร
ภาพจำลองสวนของอาคารจะอยู่บนชั้นดาดฟ้าค่ะ มีพื้นที่สวนเล็ก ๆ และมุมนั่งเล่นให้สามารถพักผ่อนได้
ต่อไปมาดูโมเดลจำลองกันว่าหน้าตาและสีสันอาคารจะเป็นประมาณไหน จากภาพจะเห็นว่าส่วนด้านหน้าเป็นถนนทางเข้าและที่จอดรถนอกอาคารแบบกลางแจ้ง ซึ่งส่วนจอดรถจะยาวไปจนถึงใต้อาคาร
ด้านหน้าอาคารตรงพื้นที่เขียวๆ ของจริงจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ไม่ได้โล่งๆแบบนี้นะคะ
มาดูด้านหลังกันต่อ ด้านนี้จะติดกับทาวน์โฮม 3 ชั้นค่ะ ดังนั้นวิวห้องที่ต่ำกว่าชั้น 4 คงโดนบังวิวไปนะคะ
ภาพอีกด้าน มุมนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีสระและฟิตเนส และด้านนี้เป็นด้านที่เห็นวิวอาคารสำนักงาน สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการและศาลยุติธรรม เค้าเลยทำผังห้องพักให้เลี่ยงวิวด้านนี้ไป
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางจะไม่ค่อยโปร่งเท่าไหร่เพราะเป็นสระภายในอาคาร ระดับของขอบสระว่ายน้ำจะสูงกว่าห้องฟิตเนสพอสมควร และฝ้าเพดานบางส่วนก็สูงขึ้นไปถึงชั้น 3 แบบ Double Space ดังนั้นหน้าต่างที่เห็นอยู่เหนือสระคือหน้าต่างห้องพักชั้น 3 ค่ะ
ส่วนของสวนหย่อมที่ชั้นบนสุด จะมีสวนและที่เดินเล่นรอบๆอาคารประมาณนี้ ด้านซ้ายจะเห็นเป็นกล่องๆ นั่นคือพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนนั่นเองค่ะ ตัวสวนไม่ได้ทำเต็ม Floor นะคะ
ผังอาคารจะมีรูปร่างเหมือนตัว L ทางเข้าจะอยู่ตรงทิศเหนือ เป็นพื้นที่จอดรถด้วย เมื่อเข้ามาก็จะเป็นตัวอาคาร มี Lobby และที่จอดรถใต้อาคารค่ะ มีช่องจอดรถยนต์ 38 ช่องหรือคิดเป็น 48 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน และคิดเป็น 63% เมื่อนับรวมซ้อนคัน
ชั้น 2 จะเริ่มเป็นชั้นของที่พักอาศัย และจะมีพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นฟิตเนสและสระว่ายน้ำแทรกอยู่มุมอาคาร ทางเข้าส่วนกลางจะอยู่ติดกับลิฟต์ สระว่ายน้ำจะหันหน้าออกไปทางถนน ซึ่งจะติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ดังนั้นวิวนี้อาจจะติดหลังคาบ้านเดี่ยวหน่อยนะคะ และพื้นสระจะอยู่ในระดับเดียวกับชั้น 2 ดังนั้นโครงการจึงให้ความสูงฝ้าเพดานบางส่วนแบบ Double Space เพื่อทำให้ดูโปร่งขึ้น แต่ส่วนที่ไม่ได้แบบ Double Space จะดูแคบและอึดอัดกว่าค่ะ ตัวสระจะเป็นแนวเฉียงตามรูปร่างของที่ดิน ขนาดกว้างสุดคือ 7.2 ถ้าไม่รวมจากกุชชี่กว้าง 4.7 ม. ส่วนแคบสุดกว้าง 1.6 ม. ความยาวสระอยู่ที่ 15 ม. สำหรับห้องพักที่อยู่ชั้นนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวไป เพราะเค้าทำประตูทางเข้ากั้นไว้ให้อีกชั้นนึง
ชั้น 3 จะมีห้องพักที่อยู่เหนือส่วนกลาง และจะมีห้องที่ได้วิวสระว่ายน้ำตรง Double Space ห้องที่ติดสระว่ายน้ำจะมีทั้งข้อดีและเสีย ข้อดีคือได้หน้าต่างกระจก 2 ด้านได้แสงธรรมชาติมากขึ้น แต่ความเป็นส่วนตัวก็จะน้อยหน่อยเวลามีคนมาเล่นน้ำ สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนจะมีหน้ากว้างเท่ากันคือ 4.9 ม. แต่ความลึกจะเป็นไปตามแนวที่ดินของโครงการค่ะ
แปลนชั้น 4-7 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด แต่ละชั้นมีห้องพัก 12 ยูนิตต่อชั้น ส่วนลิฟต์และบันไดหนีไฟก็อยู่เกือบกึ่งกลางอาคาร ทำให้ห้องริมๆ ไม่ต้องเดินไกลนัก ส่วนห้องที่อยู่ด้านทิศเหนือจะมีพื้นที่แตกต่างกันตามแนวเฉียงของรูปร่างที่ดิน
ชั้น 8 มีห้องหัวมุมที่ขนาดใหญ่กว่าเค้าคือ 64.09 ตารางเมตรค่ะ
ชั้นดาดฟ้าจะเป็นส่วนของสวนหย่อมและพื้นที่พักผ่อนค่ะ พื้นที่สวนจะไม่ได้มาแบบเต็มพื้นที่ดาดฟ้านะคะ และลูกบ้านที่จะมาใช้งานส่วนนี้ต้องเดินขึ้นบันไดมา เพราะลิฟท์จะสุดอยู่ที่ชั้น 8 เท่านั้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7.2 x 15 เมตร โดยส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.6 ม. (สระไม่เป็นรูปสี่เหลี่ยม)
- ส่วนสระว่ายน้ำแยกเป็นสระผู้ใหญ่, สระเด็ก และ จากุซซี่
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนหย่อมบนชั้นดาดฟ้า มี Jogging Track
- อัตราส่วนลิฟท์ 40:1
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์ล็อคชั้น
- ที่จอดรถคิดเป็น 63% (รวมซ้อนคัน)
- ระบบ CCTV 31 จุด/ Access Card
- รถ Shuttle
- Bicycle Locker
ห้องตัวอย่างที่มีให้เข้าชม คือแบบ 1 ห้องนอนขนาด 30.35 ตร.ม. พื้นห้องปูด้วยลามิเนตตั้งแต่ส่วนครัวจนถึงห้องนอน ห้องนี้จะแบ่งโซนงานระบบพวกห้องครัว และห้องน้ำไว้ด้านหน้าของห้องพักค่ะ เข้ามาในห้องจะเป็นส่วนของครัวที่มีเคาน์เตอร์ยาวตามแนวผนัง ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นตู้เก็บรองเท้า และโต๊ะทานอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับส่วนของห้องนั่งเล่น ตรงนี้จะเห็นว่าทางเดินเข้าห้องนอนอยู่ในระยะของเก้าอี้ทานอาหารถ้ามีคนนั่งทานอาหารอยู่ จะทำให้เข้า/ออกห้องนอนลำบากพอสมควร สำหรับระเบียงจะมีประตูกระจก และประตูบานเฟี้ยมกั้นด้านนอกอีกที ตรงนี้ถือเป็นข้อดีที่โครงการให้มาเพราะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านได้ดีเลยค่ะ สำหรับห้องนอนมีพื้นที่พอให้วางเตียง 5 ฟุต, โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าได้ หรือจะทำมุมโต๊ะทำงานเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ ได้ค่ะ ส่วนนี้จะมีกระจกเข้ามุมมาให้ทำให้ห้องได้แสงธรรมชาติ
พื้นภายในห้องเป็นลามิเนตลายไม้โทนสีน้ำตาลอ่อนหนา 8 มิลลิเมตร ตัวจบธรณีประตูเป็นลามิเนตสำเร็จรูปค่ะ
ภาพแรกเมื่อเข้ามาในห้อง ห้องจะดูสว่างเพราะเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะมีหน้าต่างที่ตำแหน่งแนวเดียวกับประตูทางเข้า ช่วยให้พื้นที่บริเวณได้รับแสงธรรมชาติเยอะขึ้น เมื่อเข้ามาในห้องส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องครัวซึ่งอยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น และระเบียง ด้านซ้ายจะเป็นห้องนอนและมีห้องน้ำที่อยู่ด้านใน ดังนั้นการจะเข้าห้องน้ำต้องผ่านห้องนอนเข้าไปเท่านั้นค่ะ
ด้านขวาจะเป็น Pantry ตามแนวยาวแบบนี้ค่ะ
โดยจะเว้นช่องให้วางตู้เย็น ซึ่งเป็นขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปสำหรับห้อง 1 ห้องนอนขนาดนี้ค่ะเพราะว่าแน่ ๆ ไม่น่าอยู่เกิน 2 คน : )
ชุดครัวเคาน์เตอร์, ตู้บนและล่างจาก RCD ค่ะ โดยโครงการจะมีเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ Teka มาให้ ตัวอ่างเป็นแบบหลุมเดียวฝังในเคาน์เตอร์ไม่มีที่พักจานมาให้ ส่วนพื้นที่เตรียมอาหารก็มีเหลือแค่นิดหน่อยค่ะ ผนังของ Pantry ส่วนนี้จะมีกระจกสีชามาให้ ซึ่งมีข้อดีคือง่ายต่อการทำความสะอาดมาก เตาเซรามิคของ Teka เป็นรุ่น Touch Control
ตู้เก็บของชุดบน ช่องเก็บของด้านซ้ายจะตื้นหน่อยเพราะต้องแบ่งพื้นที่สำหรับทำช่องระบายอากาศของเครื่องดูดควัน ซึ่งเป็นประเภทหมุนเวียน ประตูตู้ก็จะเป็นแบบกดแล้วเด้งเปิด-ปิดค่ะ ส่วนด้านขวาบานประตูตู้จะเป็นแบบ Swing และมี Soft Close มาให้ครบค่ะ
ชุดล่างจะมีช่องให้วางไมโครเวฟ และมีลิ้นชักเก็บช้อน -ส้อมให้ ส่วนบานประตูตู้เก็บของตรงนี้ก็มี Soft Close ให้เช่นเดียวกัน
ด้านตรงข้ามกับ Pantry จะเป็นตำแหน่งของตู้เก็บของ-รองเท้า และโต๊ะทานอาหาร
เข้ามาในห้องด้านซ้ายมือติดกับประตูจะเป็นตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้าแบบนี้ค่ะ สามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 4 คู่ และมีช่องอื่นๆเหลือให้พอใส่ได้อีกหน่อย สำหรับสาวๆที่ชอบสะสมรองเท้าแนะนำให้ซื้อกล่องสำหรับใส่รองเท้ามา แล้ววางซ้อนกันที่ช่องต่างๆได้ค่ะ ถ้ายังไม่พอก็วางบริเวณใต้ตู้ได้อีกหน่อยเพราะมีพื้นที่เหลืออยู่
ติดกันนั้นจะเป็นโต๊ะทานอาหารค่ะ พื้นที่และขนาดพอดีสำหรับ 2 ที่นั่ง และเน้นการทานอาหารประเภทจานเดี่ยว เพราะวางจานชามได้ไม่เยอะ ระยะด้านหลังเก้าอี้ลุก-นั่งได้สะดวก ชุดโต๊ะนี้ทางโครงการมีให้นะคะ
ระยะห่างระหว่างโต๊ะทานอาหารกับ Pantry มีระยะให้เดินผ่าน หรือเวลายืนทำอาหาร อีกคนก็ยังเดินผ่านได้อยู่ค่ะ
เยื้องๆ โต๊ะทานอาหารติดกับประตูห้องนอนโครงการจะมี Sound System Controller ให้ตรงนี้เอาไว้ฟังเพลง เปิดเพลงฟังได้ทั่วห้อง ใครชอบฟังเพลงคงถูกใจไม่น้อย (มีลำโพงให้ 2 จุด ที่ห้องนั่งเล่น และ ห้องนอน) สวิตช์ไฟของ Samsung นะคะที่ได้ ในรูปเป็นของ SIEMENS
ด้านบนจะมีดาวน์ไลท์ กรอบสี่เหลี่ยม มีกระจกปิด และลำโพงที่ให้สองจุดค่ะคือตรงนี้ กับในห้องนอน
ถัดจากส่วนครัวก็จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ตรงนี้ก็จะสว่างขึ้นอีกเพราะติดกับระเบียงเลย ระยะดูทีวีมีประมาณ 2 ม. ทางโครงการให้โซฟา และ ที่วางทีวีแบบนี้ด้วยค่ะ (ของ RCD)
จุดที่วางโซฟาจะอยู่ติดกับห้องนอน ตรงนี้จะวางโซฟาสำหรับ 2 คนนั่งสบายๆ ได้ค่ะ ถ้าอยากได้ใหญ่กว่านี้ก็อาจจะไปบังทางเข้า ห้องนอน
ด้านตรงข้ามเป็นตำแหน่งวางทีวี ตรงนี้จะมีชั้นวางทีวีให้อย่างที่เห็นค่ะ อันนี้คือระยะทีวีเมื่อนั่งดูตรงโซฟา สามารถวางทีวีขนาด 32-46 นิ้วได้ แล้วแต่ความชอบและการใช้งานจริงค่ะ
เนื่องจากประตูห้องนอนเป็นประตูกระจกบานเลื่อน จึงสามารถเปิดเชื่อมกันได้อย่างนี้ค่ะ ซึ่งเวลาดูทีวีจากเตียงก็พอทำได้แต่มีระยะไกลหน่อย เหมาะสำหรับนอนฟังข่าวมากกว่า และพนักพิงโซฟาเตี้ยเลยไม่บังทีวี แต่ก็นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่
ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบเป็นอลูมิเนียม Powder coating เนื้อผิวพ่นทราย สีเทาเข้ม กระจกใสหนา 6 มิลลิเมตร ประตูเปิดเลื่อนได้ทั้ง 2 ทาง
ธรณีประตูจะกั้นขึ้นมาประมาณ 10 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำหรือฝุ่นเข้ามาในห้องได้ง่าย วันไหนฝนตกหนัก ๆ น้ำก็ไม่ไหลเข้ามาในห้องแน่นอนค่ะ
ด้านซ้ายของระเบียงจะเป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์แบบนี้ โดยมีแผงเปลี่ยนทิศทางลม เวลาลมร้อนออกมาจากคอมเพรสเซอร์ก็จะได้เบี่ยงพัดออกไปยังนอกห้องได้ค่ะ โดยแอร์ที่ได้จริงเป็นขอ Daikin Inverter น้ำยาแอร์ R32 (ECO Friendly)
ด้านล่างก็เป็นที่วางเครื่องซักผ้า ตรงนี้เป็นเครื่องฝาหน้าจะสะดวกต่อการใช้งานกว่าฝาบนเพราะด้านบนจะติดคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ
ระเบียงพื้นเป็นกระเบื้องกันลื่นสีดำขนาด 60×60 ซม.ขนาดกว้าง 80 ซม. พื้นที่สามารถตากผ้าได้ค่ะ และจะเห็นว่าระเบียงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือพื้นที่ด้านในที่วางเครื่องซักผ้า กับด้านนอกราวกันตก(ราวกระจก) โดยจะมีช่องระบายน้ำให้น้ำลงท่อที่อยู่ส่วนด้านนอกค่ะ ตรงนี้ก็มีข้อดีคือสำหรับลูกบ้านที่ชอบปลูกต้นไม้ เวลารดน้ำ หรือฝนตก ส่วนนี้ก็จะแยกเป็นโซนแห้งและเปียกได้เพราะท่อน้ำทิ้งอยู่ด้านนอก เวลารดน้ำต้นไม้ก็ไม่ทำให้พื้นระเบียงเปียกเลอะเทอะไปหมด ไม่ต้องกังวลว่าดินที่ใส่ลงไปจะกระเด็นขึ้นมาเลอะเสื้อผ้าที่ตากไว้ ส่วนด้านในก็จะแห้งเพราะน้ำจะไม่ไหลเข้ามา แต่ตรงนี้มีข้อเสียคือพื้นที่ระเบียงตรงเครื่องซักผ้าจะเล็กลงค่ะ โดยพื้นที่ที่วางกระถางจะไม่ใช่พื้นที่ขายค่ะ เป็นส่วนของนิติบุคคลที่ดูแล ซึ่งต้องดูเรื่องการดูแลระยะยาวภายหลังด้วยนะคะเพราะต้องเข้ามาจากแต่ละห้องของลูกบ้าน
ราวกันตกเป็นกระจกใส ทำให้ห้องดูโปร่ง และจะมีประตูบานเฟี้ยมอลูมิเนียมสีขาว สามารถเปิด-ปิดได้ ตรงนี้เมื่อปิดก็จะไม่ทึบเกินไปแต่ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น
หรือถ้าจะเปิดทั้งหมด ก็จะได้วิวโปร่ง ๆ แบบนี้ค่ะ
ถัดไปก็มาดูห้องนอนกันค่ะ ห้องนอนอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ในห้องไฟเป็นดาวน์ไลท์ และมีลำโพงด้านบนฝ้าเพดานเวลาเปิดเพลงจาก Sound System Controller ก็ได้ยินมาถึงในห้องนอนค่ะ
ประตูทางเข้าห้องนอนจะอยู่ระหว่างโต๊ะทานอาหารและโซฟา ประตูเป็นกระจกบานเลื่อนค่ะ ด้านซ้ายจะเห็นระยะประตูเปิดได้ถึงตรงนั้น จึงมีที่ว่างระหว่างประตูกับโซฟาประมาณ 55 ซม. คือเดินผ่านเข้าออกคนเดียวได้สะดวกค่ะ แต่เดินสวนกันไม่ได้
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 30 ซม.ค่ะ ด้านหลังโซฟาจะอยู่ติดประตูกระจก ดังนั้นเวลาปิดประตูก็ระวังตอนนั่งโซฟาไม่ให้ดันมาชนกระจกมากเกินไปนะคะ อันนี้เป็นผลผวงมาจากห้องแบบหน้าแคบค่ะ เลยมีข้อจำกัดในการออกแบบพอสมควร
ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ ตรงนี้โครงการจะมีฐานเตียงและหัวเตียงให้ค่ะ พื้นที่ในห้องพอที่จะวางโต๊ะทำงาน มุมนั่งเล่น และตู้เสื้อผ้าได้แต่ขนาดตู้เสื้อผ้าจะไม่ใหญ่นัก
ด้านขวาของห้องจะเป็นมุมทำงาน โดยมีมุมนั่งเล่นติดหน้าต่างลึกเข้าไปประมาณ 90 ซม.
พื้นที่ด้านข้างเตียงค่ะ สามารถวางโต๊ะเล็ก ๆ หัวเตียงได้ตรงนี้โครงการมีให้ แล้วทำมุมนั่งเล่น ส่วนโต๊ะทำงานถ้าเป็นโต๊ะไม่ใหญ่นักก็พอวางตำแหน่งนี้ได้
ใต้เตียงมีลิ้นชักเก็บของ
ตรงนี้เป็นหน้าต่างกระจกเต็มบานรับแสงจากภายนอก เป็นหน้าต่างกระจกบานปิด เปิดได้แค่บานฝั่งขวาด้านบน เป็นแบบบานเลื่อน
มุมนี้จะทำเป็นมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ หรือจะวางโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ ถ้าวางโต๊ะทำงานมุมนี้ก็จะได้โต๊ะใหญ่หน่อย พื้นที่วางของหรือทำเป็นชั้นหนังสือเหนือโต๊ะทำงานก็ได้ มุมนี้เป็นมุมที่น่าใช้งานระดับนึงเลยนะคะ อย่างเช่นถ้าแฟนเป็นพวกบ้านงานหรือชอบเล่นเกมก็ให้เค้าทำงานที่โต๊ะไป โดนที่เรายังนั่งเล่น ipad/มือถือ ใกล้ๆที่โซฟาตัวนี้ได้ เป็นการกระชับพื้นที่อีกแบบนึงนะคะ โฮะๆๆๆ ^O^
หันมาดูอีกด้านของห้อง ด้านนี้จะเป็นตำแหน่งตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าห้องน้ำค่ะแต่มีพื้นที่เหลือให้ว่างโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ ตู้ตรงนี้ทางโครงการมีให้นะคะ
ตู้เสื้อผ้าขนาดกำลังพอดีสำหรับ 1 คนค่ะ ด้านข้างและด้านบนก็มีที่เก็บของให้
ส่วนสุดท้ายของห้องจะพาไปดูห้องน้ำค่ะ พื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ตัวจบธรณีประตูเป็นลามิเนต ถ้าล้างห้องน้ำบ่อยคงต้องระวังเรื่องการบวมน้ำของลามิเนตนะคะ
พื้นที่ภายในห้องน้ำ พื้นเป็นกระเบื่องขนาด 30×30 ซม. ด้านขวาเป็นส่วนอาบน้ำ
เข้ามาในห้องน้ำตรงกับประตูเป็นอ่างล้างหน้า เหนืออ่างเป็นกระจกบานใหญ่ยาวไปจนถึงเหนือโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าของ Mogen ก็อกน้ำของ Mogen ด้านข้างมีปลั๊กไฟพร้อมฝาปิดให้ค่ะ
โถสุขภัณฑ์,สายชำระและที่ใส่ทิชชู่ของ American Standard หลังโถสุขภัณฑ์มี Low wall ทำให้วางของเพิ่มได้ค่ะ ตำแหน่งที่แขวนทิชชู่อยู่ด้านข้างทำให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น
ติดกันนั้นเป็นส่วนอาบน้ำ จะมีฉากกระจกอาบน้ำกั้นมาให้เป็นกระจกนิรภัยหนา 6 mm.
ส่วนอาบน้ำจะมีขอบกั้นขึ้นมา กั้นน้ำไหลจากส่วนเปียกมาแห้งค่ะ ตรงขอบจะลบมุมให้เล็กน้อย
ส่วนอาบน้ำจะเป็นระบบเครื่องทำน้ำร้อนให้ค่ะ แยกท่อน้ำร้อนน้ำเย็น ด้านข้างมีช่องไว้ให้วางของได้
ตรงนี้จะมีทั้งฝักบัวและให้ Rain Shower ด้วยค่ะ ด้านบนจะมีไฟดาวน์ไลท์
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 July 2014
- 1 ห้องนอน ขนาด 30.35 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 2.4 ล้านบาท
- 1 ห้องนอน ขนาด 30.35 ตร.ม. ชั้น 8 ราคา 2.7 ล้านบาท
- 2 ห้องนอน ขนาด 42.24 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 3.3 ล้านบาท
- 2 ห้องนอน ขนาด 41.08 ตร.ม. ชั้น 8 ราคา 3.6 ล้านบาท
- Fully Furnished
- Sound System Controller และ Digital door lock
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- 1 ห้องนอนจอง 10,000 บาท ,ทำสัญญา 40,000 บาท
- 2 ห้องนอนจอง 20,000 บาท ,ทำสัญญา 60,000 บาท
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 16 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
L15 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 15 แยก 2 สำหรับทำเลนี้การเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับรถส่วนตัว แต่สำหรับรถสาธารณะถ้ามาตรงปากซอย 15 ที่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 500 ม.จะสะดวกมากเพราะมีทั้งแท็กซี่,วินมอเตอร์ไซค์,รถเมล์ให้เรียกใช้บริการ หรือจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ ในซอยเป็นย่านพักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และอพาทเม้นท์ ทำให้บรรยากาศในซอยจะมีความพลุกพล่านบางช่วงเวลา แต่โดยปกติจะเป็นซอยเงียบ ๆ ค่ะ และเนื่องจากเป็นถนน 2 เลน ในย่านที่พักอาศัย แน่นอนว่าบางทีก็มีการจอดรถริมถนนเป็นระยะ ๆ ใครที่ใช้รถส่วนตัวอาจจะต้องเสียเวลาคอยหลบเวลามีรถสวนกันบ้าง
ทำเลที่ตั้งโครงการโดยรอบเป็นบ้านพักและอพาทเม้นท์จึงมีร้านค้า ร้านอาหาร หน้าโครงการก็มีร้านอาหารตามสั่ง หรือถ้ามาตรงเส้นลาดพร้าวสามารถหาของกินของใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และตัวโครงการยังพอจะเรียกว่าอยู่ในระยะเดินไปยัง 7-11 หรือ Big C + HomePro ได้ ซึ่งตรงนั้นมีครบ ตั้งแต่ MK, KFC, Pizza, Swensens ไปจนถึงร้านกาแฟและ Food Court ธนาคาร ร้านขายยา หรือถ้าอยากไปเดินชอปปิ้งก็ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเดียวก็ถึง Union Mall, Central, Major ได้สบาย หรือจะไป จตุจัตร ก็ไปไม่ยากค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกค่ะ อยู่ไม่ไกลจากถนนลาดพร้าวซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายๆ สาย ทั้งวิภาวิดีรังสิต,พระราม9,ประดิษฐ์มนูธรรม,พหลโยธิน,งามวงศ์วานและรัชดาภิเษก จึงทำให้บางช่วงเวลามีรถติดกันบ้างค่ะ ในซอยเป็นซอยย่อย ๆ ทำให้ทางลัดเลาะที่ไปเชื่อมกับถนนรัชดาภิเษกหรือพหลโยธินได้ แต่เส้นทางนั้นอาจจะวกวนหน่อย เหมาะสำหรับคนชินเส้นทางแล้วค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ การออกจาจากโครงการเลยนั้นอาจจะไม่ค่อยสะดวกนักเนื่องจากอยู่ในซอยที่ไม่ค่อยมีแท็กซี่ผ่าน ถ้าจะเดินทางออกจากโครงการคงต้องพิ่งวินมอเตอร์ไซค์หรือถ้าจะโทรเรียกแท็กซี่เอาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าออกมาตรงปากซอยลาดพร้าว 15 แล้ว ตรงนั้นจะสะดวกมากเพราะมีรถสาธารณะหลายแบบคอยให้บริการอยู่ หรือถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็เดินไป MRT ลาดพร้าวได้แต่ระยะเดินจะอยู่ที่ประมาณ 700 เมตรค่ะ
การออกแบบตัวอาคารเป็นอาคารที่ยูนิตต่อชั้นไม่เยอะ ทำให้การเข้าถึงลิฟต์สะดวกทุกห้องคือไม่ได้อยู่ไกลลิฟต์โดยสารจนเกินไป สำหรับพื้นที่ส่วนกลางก็มีให้ครบค่ะทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และสวนหย่อมบนดาดฟ้า แต่น่าเสียดายวิวสระเนื่องจากอยู่บนชั้น 2 ซึ่งจะอยู่ติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตรงนี้คงไม่ต้องคาดหวังเรื่องวิวนะคะ ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัวคงต้องรอดูตอนสร้างเสร็จว่าจะมีอะไรกั้นระหว่างพื้นที่สระกับบ้านข้างๆ แต่ก็น่าเสียดายนิดที่ไม่ได้สระว่ายน้ำที่ชั้นบนสุด จะได้วิวแบบเปิดโล่งเลย
ส่วนการออกแบบห้องพักถือว่าออกแบบได้ลงตัวค่ะ แม้จะมีบางจุดที่ติดขัดไปบ้างอย่างส่วนที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นกระจกบานเลื่อนซึ่งอยู่ติดกับโซฟา ตรงนี้ก็ระวังเวลาใช้งานไม่ให้ชนกระจกมากเกินไปนะคะ ส่วนที่หลาย ๆคนอาจจะชอบคือมีบานเฟี้ยมเป็นระแนงกั้นตรงระเบียงให้ทุกห้อง เนื่องจากเป็นอาคารแบบ Low rise โครงการจึงอยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้าน จึงมีระแนงตรงนี้มาให้ ทำให้เราสามารถเลื่อกที่จะปิดหรือเปิดรับวิว และกั้นความเป็นส่วนตัวแม้จะอยู่ชั้นล่าง ๆ ได้ค่ะ อีกอย่างข้อดีคือถ้าปิดไว้ก็ช่วยกันไม่ให้นกมาทำรังบนคอมเพรสเซอร์แอร์ได้อีกด้วย
วัสดุที่ให้มาถือว่าครบครันเลยค่ะ วัสดุตัวห้องให้มาตามมาตรฐานทั้งพื้นลามิเนต, Wall paper สีขาว, Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแกรนิต สุขภัณฑ์ของ American Standard สำหรับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ในห้องเนื่องจากขายแบบ Fully Furnished จึงให้มาครบทั้งส่วนของครัว, ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน และห้องน้ำ และมี Sound System Controller ซึ่งจะมีลำโพงบนเพดานให้ค่ะ ตรงประตูก็จะมี Digital door lock เพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน
สาธารณูปโภคให้มาครบครันค่ะทั้งสระว่ายน้ำ,ฟิตเนส,สวนหย่อมบานดาดฟ้า แต่ขนาดจะไม่ได้ใหญ่นัก ความสูงตรงนี้บางส่วนแบบ Double Space ทำให้ดูโปร่งขึ้น แต่ส่วนที่ไม่ได้แบบ Double Space จะดูแคบและอึดอัดกว่าค่ะ ตรงนี้จึงทำผนังด้านที่ติดกับภายนอกให้เปิดโล่งเพื่อให้โปร่งขึ้นหน่อย ส่วนชั้นล่างที่จอดรถก็จะมีมุมจอดจักรยานให้ค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถเทียบส่วนกลางกับโครงการขนาดใหญ่ได้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 83,000 บาทต่อตารางเมตร, 24 July 2014
- ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยพักอาศัย มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกพอสมควร ปากซอยก็มีห้างและร้านค้า 24 ชั่วโมง
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – ปากซอยตรงถนนใหญ่เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย เดินทางสะดวก
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ออกมาตรงปากซอยลาดพร้าว 15 จึงจะใช้บริการรถสาธารณะได้สะดวก
- วัสดุ 7.75/10 – ให้มาแบบครบครัน วัสดุภายในห้องมาตรฐาน
- แบบ 7.25/10 – ออกแบบได้ลงตัวแม้จะมีบางจุดที่การใช้งานจริงอาจจะติดขัดไปบ้าง
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ให้มาครบแต่เล็ก
- MAIN CLASS
- 7.65 / 10.00
BOTTOM LINE
The L15 Condo เป็นอีกทางเลือกของคนที่อยากอยู่คอนโดในย่านที่ไม่พลุกพล่านนัก และชอบโครงการเล็กๆมีความหนาแน่นต่ำ รักความเป็นส่วนตัวสูงระนับดึง ชอบหาของกินง่ายๆใกล้ๆออกมาปากซอยก็ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ นิยมใช้รถส่วนตัวหรือถ้าเป็นคนขยันเดินจะเลือกใช้รถสาธารณะก็มีรถไฟฟ้า MRT ห่างประมาณ 700 ม.ให้ใช้งาน มีงบประมาณอยู่ที่ 2.4-4 ล้านบาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
