รีวิวฉบับที่ 713 … สวัสดีครับ วันนี้พาไปรีวิวคอนโด The Key สาทร – เจริญราษฎร์ หนึ่งในโครงการใหม่ส่งท้ายปีของ Land & Houses ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนน เจริญราษฎร์ ฝั่งขาไปถนนพระราม 3 ช่วงที่เลยถนนจันทร์และจุดขึ้นลงทางด่วนมาแล้ว และเนื่องจากถนนนี้เป็นถนนที่ตัดใหม่ความคึกคักอาจจะยังมีไม่เยอะเท่าเส้นเจริญกรุง หรือ พระราม 3 ฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก็เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ง่ายครับ รูปแบบตัวอาคารมีการออกแบบให้หลบมุมกับโครงการด้านข้างด้วย เราไปดูรายละเอียดโครงการพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 4 November 2014
- The Key Sathorn – Charoenraj (เดอะ คีย์ สาทร – เจริญราษฎร์)
- บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางคอแหลม
- คอนโด High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร 855 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 462 คันคิดเป็น 52% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60% (ประมาณ 536 คัน)
- ที่ดินประมาณ 5-3-65 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มิถุนายน 2560
- 1 Bedroom ขนาด 32.6-37.6 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท
- 2 Bedroom ขนาด 55.2-75.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 5 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาทหรือประมาณ 92,024 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1198
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.701155,100.51597
ตัวโครงการจะตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์โดยตั้งอยู่ระหว่างเพื่อนบ้านอย่าง Than Living และ Supalai Lite (สามาร Click เพื่อเข้าไปอ่านได้) ซึ่งตัวรีวิวทำเลคุณฝนเคยทำเอาไว้แล้ว เลยขอยกข้อมูลพื้นฐานของทำเลมาให้ดูกันนะครับ ส่วนรายละเอียดของตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่ช่วงท้ายๆครับ
ถนนเจริญราษฎร์ เป็นถนนตัดใหม่ที่เปิดใช้งานเมื่อปี 2540 ค่ะ เพื่อลดการจราจรที่หนาแน่นในย่านยานนาวาที่เป็นถนนเล็กและคดเคี้ยว เลยตัดถนนเส้นนี้ขึ้นมาโดยมีจุดเริ่มต้นที่แยกสาทร-สุรศักดิ์และไปสุดที่ถนนพระราม 3 ก่อนหน้านี้บางคนจะชินกับชื่อที่ว่า ถนนเหนือ-ใต้ หรือถนนสาทรตัดใหม่ ซึ่งเป็นชื่อเรียกของชาวบ้านก่อนที่จะมีการตั้งชื่อให้สอดคล้องกับถนนเจริญกรุงและถนนเจริญนคร โดย กทม.ค่ะ
จากแผนที่ระยะไกลที่ฝนได้ทำขึ้นมาจะเห็นว่า ถนนเจริญราษฎร์จะขนานแนวเดียวกันกับถนนเจริญกรุงและเจริญนคร โดยตัดผ่านถนนจันทน์ค่ะ ซึ่งในบริเวณถนนเจริญราษฎร์ มีจุดขึ้ลงทางด่วนอยู่ 2 ที่ โดยปลายทางของถนนเจริญราฎร์แต่ละฝั่งมุ่งหน้าสู่ถนนหลักของตัวเมือง เช่นถนนพระราม 3 ถนนสาทร หรือตัวถนนจันทน์เองก็เชื่อมไปยังถนนเส้นเก่าอย่างเจริญกรุงได้ค่ะ และยังใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำทั้ง 2 แห่งคือสะพานตากสินและสะพานกรุงเทพ……เป็นที่แน่นอนว่าถนนเส้นนี้จะมีการจราจรที่หนาแน่นเนื่องจากสะสมกันมาจากแยกสาทร-สุรศักดิ์ ยิ่งช่วงเปิดเทอมที่ปริมาณรถมารวมตัวกันโดยนัดหมายแล้วละก็ ถึงจะติดยาวก็จริงแต่ถนนเส้นนี้เวลาตำรวจปล่อยก็ปล่อยยาวเช่นกันค่ะ เป็นโซนที่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งธนฯ รถราเลยสะสมปกติของกรุงเทพ ที่ตั้งของโครงการนั้นจะอยู่ค่อนมาทางถนนพระราม 3 มากกว่าค่ะ ห่างมาประมาณ 1.3 กิโลเมตร ส่วนแยกสาทร-สุรศักดิ์ ก็ห่างมาประมาณ 2.1 กิโลเมตร
มาดูสถานที่สำหรับพึ่งพากันดีกว่า แน่นอนว่า ละแวกใกล้โครงการ ไม่มี อะไรให้พึ่งพาเท่าไหร่เลย ด้วยความที่เป็นลักษณะของถนนที่ตัดใหม่ได้ไม่นาน บางส่วนยังอยู่เลียบทางด่วนอีก แน่นอนว่าเป็นระยะที่พึ่งพารถ หรือวินมอเตอร์ไซด์จะสะดวกกว่าเยอะ ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งจับจ่ายก็มีตั้งแต่ เอเชียทีค บนถนนเจริญกรุง , โรบินสันบางรัก บนถนนเจริญกรุงเช่นกัน และ เซ็นทรัลพระราม 3 บนถนนพระราม 3 หรือถ้าจับจ่ายของสดของแห้ง เข้ามาที่ถนนจันทน์มีครบทุกอย่างเพราะเป็นแหล่งชุมชน มีทั้งตลาด วัด โบสถ์พราหมณ์ ตามชุมชนไปทั่ว โดยเฉพาะอาหารที่รสดีรสเด็ด ก็มีให้เลือกหลายเจ้าตั้งแต่เช้ายันเย็น ใครเจ็บป่วยก็ยังโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ที่อยู่บนถนนสาทรค่ะ ส่วนใครที่เกิดทันช่วง 30-40 ขอเชคอายุกันหน่อยว่ารู้จัก “สุสานวัดดอน”หรือ “สุสานแต้จิ๋ว” กันไหม (อ้อ….ฝนยังอายุไม่ถึงนะคะ) เป็นสถานที่อีกแห่งที่ไม่สามารถเรียกว่าสิ่งอำนวยได้เต็มปากแต่ เช้า เย็น ชาวบ้านก็ได้ใช้พื้นที่วิ่งเพื่ออกกำลังกายกันนะคะ
การเดินทางส่วนใหญ่ที่นอกจากการขับรถแล้ว BTS สถานีสุรศักดิ์ ที่ใกล้ที่สุดจากที่ตั้งโครงการมาประมาณ 2.3 กิโลเมตรได้ … ไม่ใกล้นะคะ ส่วนสำหรับ BRT สถานีเจริญราษฎร์ ก็อยู่ห่างจากโครงการมาประมาณ 1.7 กิโลเมตร ซึ่งใกล้กว่าแต่คนนิยมใช้น้อยกว่า BTS มากกว่าค่ะ
ในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์นอกจากใช้ถนนหลักๆอย่างสาทร, พระราม 3 แล้ว เห็นจะสะดวกมากตรงที่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนค่ะ มี 2 ฝั่งถนนเลย ไม่ว่าจะเป็นมาจาก บางนา หรือดินแดง ก็สามารถใช้ทางด่วนมาถึงที่โครงการในระยะไม่ไกลได้ เพียงแต่ต้องดูเรื่องการเดินรถที่มีจุดห้ามเลี้ยวของบริเวณแยกถนนจันทน์ที่มาตัดกับถนนเจริญราษฎร์ เดี๋ยวจะพูดถึงในภาพถัดไปค่ะ
จุดทางลงทางด่วนจุดแรกจะอยู่เลยแยกสาทร-สุรศักดิ์มาค่ะ สำหรับใครที่เดินทางมาโดยเส้นนี้ให้ลงแล้วตรงผ่านแยกถนนจันทน์มาได้เลย
จุดทางลงทางด่วนอีกจุดจะลงมาบริเวณแยกถนนจันทน์ตัดกับถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งเมื่อลงมาแล้วจะกลับรถมาฝั่งโครงการเลยได้นะคะ ห้ามเลี้ยวขวา และห้ามตรงไป ค่ะ ดังนั้นจะบังคับให้เข้าไปกลับรถที่ซอยจันทน์ 44 จากนั้นจึงมาที่แยกเดิม เพื่อเข้าเจริญราษฎร์และกลับรถอีกรอบเพื่อเข้าโครงการ
จากตำแหน่งที่ตั้งเราสามารถกลับรถไปสาทรได้เลยนะเพราะมีทางกลับรถอยู่เยื้องๆหน้าโครงการ ระยะเบี่ยงพอได้เลยแหละ หรือถ้ามาจากฝั่งพระราม 3 ก็ไปกลับรถแถวใกล้ๆแนวใต้ทางด่วนค่ะ ในส่วนของ รถรับส่ง ทางโครงการไม่มีให้นะครับ
ฝนเริ่มเดินทางมาจากฝั่งธนฯค่ะ มุ่งหน้าไปสาทร จะเห็นว่าการจราจรบนสะพานตากสินนั้น ขยับตามจังหวะดนตรีแจ๊ส
พอลงสะพานมาจะเจอสะพานด้านหน้าซึ่งเป็นทางด่วนนะคะ ซ้ายมือไปเจริญกรุงหรือขึ้นทางด่วนได้ ส่วนเราจะตรงไปที่แยกสาทร-สุรศักดิ์ค่ะ
บริเวณแยกสาทร-สุรศักดิ์จะมีไฟเขียวไฟแดง ซึ่งจะตรงไปได้อย่างเดียวค่ะ
ซูมป้ายให้ดูหน่อยว่าตรงไปนะ ห้ามเลี้ยวจ้ะ ถนนสุรศักดิ์ เดินรถทางเดียว
พอข้ามแยกมาจะพบสถานี BTS สุรศักดิ์เลย
จากพอเลยตัวสถานีมา จะพบกับซอยทางซ้ายคือซอยประมวลที่มีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน สีม่วงทองอยู่บริเวณหัวมุม เราตรงไปเพื่อหาทางกลับรถค่ะ ทางกลับรถด้านขวากลับรถไม่ได้นะจ้ะ
พอเลยโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมา เตรียมชิดขวาค่ะ เราจะมากลับรถที่หน้าโรงพยาบาลบางรักกัน
กลับรถมาเพื่อมาที่แยกสาทร-สุรศักดิ์ เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์ ค่ะ แน่นอนว่า แยกนี้เป็นแยกติดมาราธอนอันดับต้นๆของกรุงเทพฯ
เข้ามาสู่ถนนเจริญราษฎร์ ซ้ายมือคือทางขึ้นทางด่วนบางนา และซ้ายสุดเป็นทางเข้าซอยเจริญราษฎร์ 1 ค่ะ เราตรงไปนะคะ
จากนั้นเราจะผ่าน ซอยเจริญราษฎร์ 3 ค่ะ ซึ่งเป็นซอยที่ไปทะลุสุสานแต้จิ๋ว วัดปรก และไปออกสาทร 11 (ซอยอัสสัม ประถม)
จากนั้นจะพบกับแยกที่ถนนจันทน์มาตัดกับถนนเจริญราษฎร์ ช่องการจราจรทางซ้ายมือเป็นทางที่ลงมาจากทางด่วนค่ะ ถ้าใครมาจากทางด่วนแล้วลงมาผ่านแยกไปตรงๆได้ ซึ่งแยกนี้ตรงไปกับเลี้ยวซ้ายได้นะคะ ห้ามเลี้ยวขวาค่ะ
เลยแยกมา จะพบสวนสาธารณะและลานกีฬาซ้ายมือ
สวนสาธารณะ ซึ่งอยู่บริเวณหัวมุมปากทางเข้าซอยเจริญราษฎร์ 5 ซอยนี้ก็ทะลุทะลวงไปได้หลายที่เลยค่ะ ไปออกสาทรได้ ที่ปากซอยมี 7-11 อยู่ เป็นร้านที่ใกล้ที่สุดฝั่งเดียวกับโครงการค่ะ
ซ้ายมือจะเห็นโครงการที่ก่อสร้างอยู่คือ ศุภาลัย Lite (เข้าไปอ่านรีวิวที่ทำไว้ได้นะคะ) อยู่ตรงข้าม โรงแรม แกรนด์โฮเวิร์ด พลัส เบสเวสเทิร์น เลย
ถัดมาก็จะเจอโครงการ The Key สาทร – เจริญราษฎร์ แล้วครับ
พอเลยโครงการมาจะเจอ Than Living อยู่ติดกันเลย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับผับชื่อดัง X-zyte (ไม่แน่ใจว่ายังเปิดบริการอยู่ไหม) จะเห็นว่า ทั้ง 3 โครงการอยู่ติดเรียงหน้ากันเลย
เส้นทางที่ 2 จะเลือกมาจากทาง พระราม 3 ผ่านสถานี BRT เจริญราษฎร์ จากนั้นเข้าถนนเจริญราษฎร์ค่ะ และกลับรถมาฝั่งโครงการค่ะ ตอนนี้เราอยู่บนเส้นพระราม 3 มุ่งหน้าไปเจริญราษฎร์ บริเวณฟิวเจอร์มาร์ท หรือ โฮมโปร พระราม 3 จะมีตัวสถานี BRT เจริญราษฎร์อยู่เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดจากตัวที่ตั้งโครงการ
ถัดจากโฮมโปร พระราม 3 มีโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3 อยู่ ถ้าเราขับรถมาให้ยึดช่องทางเจริญราษฎร์เอาไว้นะคะ
โรงแรมที่เป็น Landmark ของถนนช่วงนี้ก็ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ ข้าวมันไก่อร่อยนะเออ
ก่อนถึงสามแยกจะมีทางลัดไปถนนจันทน์ได้เหมือนกันแต่ถนนค่อนข้างเล็กค่ะ เอาไว้ใช้เวลารถติด
เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญราษฎร์ค่ะ ตรงไปจะไปคลองเตย
พอเข้าถนนเจริญราษฎร์ ตัวถนนก็กว้าง ใหญ่ ขับสบายค่ะ มีช่วงติดขัดบ้างนะ ตามเวลาเข้า-ออกงาน จะสังเกตว่ามีทางม้าลายและไฟจราจรเป็นระยะ เพราะชุมชนที่ขนาบบริเวณนี้อยู่กันหนาแน่นพอดู
จากนั้นเราจะผ่าน บ้านกลางกรุง สาทร-ถนนเหนือใต้
สัญลักษณ์รูปดาวใหญ่เบ้อเร่อ ก็สถานบันเทิง X zyte ที่อยู่ตรงข้ามกันกับตัวโครงการ Than Living พอดี
เลยมาเป็นร้านอาหารอีสานค่ะ แล้วเราจะเห็นตึกสูงๆ ที่มีแถบสีส้มยาว ก็โรงแรม Best Western อยู่ตรงข้ามกับ The Key เจริญราษฎร์และ ศุภาลัย Lite
ติดกันกับร้านอาหารอีสานมี ปั๊มน้ำมันบางจากค่ะ ซึ่งภายในมีร้าน Big C mini อยู่ด้วยคือถ้าไม่อยากไปถึง 7-11 ที่อยู่ตรงซอยเจริญราษฎร์ 5 ก็ต้องข้ามถนนมาที่ฝั่งตรงข้ามนี่แหละค่ะ
จากนั้นเรามากลับรถที่หน้าสวนสาธารณะ ใกล้ซอยเจริญราษฎร์ 5 ค่ะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
เนื่องจากทาง Land & Houses เค้ารู้อยู่แล้วว่าที่ดินของตัวเองถูกขนาบข้างด้วยเพื่อนบ้าน ศุภาลัยสูง 26 ชั้นและ Than Living สูง 36 ชั้น ส่วนโครงการ The Key จะสูง 38 ชั้น เรียกว่าสูงกว่าพื้นเลย วิธีการแก้ไขก็คือเค้าออกแบบตัวตึกให้เป็น 3 แฉกเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะหน้ากันตรงๆ ซึ่งถือเป็นข้อดีกับทั้งลูกบ้านและเพื่อนบ้านเลย แทนที่จะต้องมองหน้ากันตรงๆอย่างน้อยก็มีมุมเบี่ยงให้บรรยากาศดีขึ้นไม่ต้องจ้องตากันตรงๆ
โดยวิวที่ได้จะแบ่งเป็น 3 โซน โซน Aจะเป็นถนนเจริญราษฎร์, โรงแรม Grand Howard Best Western, และชุมชนในย่านเจริญกรุง ถือว่าเป็นวิวที่โล่งๆอยู่พอสมควร วิวฝั่ง B จะเป็นตึก Than Living และแหล่งชุมชนที่เป็นแบบแนวราบ ทาวน์เฮาส์ 2-4 ชั้น มีหอพักบ้างนิดหน่อย ส่วนฝั่ง C จะเป็นวิวตึก ศุภาลัย Lite, แหล่งชุมชน และทางด่วนศรีรัช ซึ่งจากทั้ง 3 โซนจะมีวิวที่ปะทะตรงๆกับเพื่อนบ้านแค่ซีกอาคารที่อยู่ท้ายโครงการ
ระยะโดยประมาณของสถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- จุดขึ้นลงทางด่วนด่าน ถนนจันทน์ – 0.8 กม.
- โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury – 1.5 กม.
- ฟิวเจอร์มาร์ท (โฮมโปร พระราม 3) – 3.1 กม.
- เอเชียทีค – 3.5 กม.
- สมาคมแต้จิ๋ว – 2.8 กม.
- BTS สุรศักดิ์ – 2.2 กม.
- BRT เจริญราษฎร์ – 2.0 กม.
- โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ – 1.6 กม.
- โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน – 2.3 กม.
- โรงเรียนเซนต์หลุยส์ – 2.5 กม.
- โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ – 2.5 กม.
- โรบินสัน บางรัก – 3.0 กม.
- เซ็นทรัลพระราม 3 – 4.2 กม.
สำนักงานขายจะใช้ร่วมกันระหว่าง The Key สาทร – เจริญราษฎร์ และ The Room สาทร – เซนต์หลุยส์ ถ้าใครแวะมาดู The Key ก็ลองดู The Room ไปด้วยก็ได้ครับ แต่ราคาต่างกันพอสมควรนะ ^_^
ภายในสำนักงานขายจะมี Model ขนาดใหญ่ตั้งโชว์อยู่ทั้ง 2 โครงการเลยครับ
ตัวโมเดลเป็น Scale 1:100 เรียกว่าเห็น Detail ค่อนข้างชัดเลย และมี VDO present อยู่ข้างๆด้วย
ตัวอาคารมีทางเข้าอยู่ซีกขวาของที่ดิน และจุด Drop-off จะอยู่ใต้ตึกซีกที่เฉียงกับถนนเจริญราษฎร์
ทางเข้าด้านหน้าจะเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่
ส่วน Facility หลักๆของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 5 และชั้นนี้จะเป็น Facility ยกขั้นไม่มีห้องพักอาศัยในชั้นนี้เลย ส่วนที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งจะมีสระว่ายน้ำที่ด้านหน้าของโครงการ และสวนหย่อมที่ด้านหลัง ตัวสระว่ายน้ำมีขนาด 12 x 40 เมตร และมี Deck ไว้นั่งเล่นรอบๆตัวสระด้วย ตัวสระมีขนาดค่อนข้างยาว เรียกว่าพอว่ายออกกำลังกายได้อยู่ แต่ถ้ามีลูกบ้านมาใช้งานเยอะก็อาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก ห้อง Fitness กับห้องกิจกรรมก็อยู่ถัดไปจากสระว่ายน้ำโดยได้วิวสวนหน้าโครงการและถ.เจริญราษฎร์
มุมด้านหลังของโครงการจะเป็นพื้นทีสวนหย่อมที่มี Outdoor Garage Terrace เชื่อมต่อกับส่วนสระว่ายน้ำ ปลายอาคารซีกที่มีระยะสั้นที่สุดจะมีห้องอเนกประสงค์อยู่
พื้นที่จอดรถของโครงการนี้จะมีบางส่วนที่เป็นการจอดแบบกล้างแจ้ง
ด้านที่ติดกับ Than Living จะมีสวนหย่อมมาให้อีกหน่อย
ห้องที่ติดกับส่วนนี้จะเป็น Reading Lounge ครับ
ถ้านรูปตัวอาคารแบบเต็มๆมาให้ดูอีกรูปครับ โครงการนี้จะมีลักษณะภายนอกแบบเรียบๆโดยใช้แนวกำแพงทำเป็นกรอบยื่นออกมาจากตัวอาคารเพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวอาคารไม่ดูทึบตันเกินไป
โดยยูนิตบางส่วนจะมีพื้นที่ระเบียงยื่นออกมามากกว่าเพื่อนนิดหน่อย และการทาสีภายนก็จะแตกต่างกันไปด้วย
มาดูผังโครงการกันต่อนะครับ จากผังชั้นแรกจะเห็นว่าตัว Lobby จะวางตัวเฉียงตามแนวอาคาร จากจุด Drop-off จะตรงเข้าสู่ Looby แลพพื้นที่ภายในโครงการ โดยแกน ลิฟท์จะอยู่ตรงกลางอาคารด้านในสุด ลิฟท์ของที่นี้มีมาให้ 6 ตัว(รวมลิฟท์ Service แล้ว) ดูแล้วเหมือนจะเยอะแต่ถ้าเทียบกับปริมาณยูนิตทั้งหมดที่ 855 ยูนิต จะได้อัตราส่วนลิฟท์ที่ 142.5 ถือว่าค่อนไปทางแน่นหน่อยนะ แต่อันนี้ก็ต้องดูว่าคุณภาพลิฟท์ที่ใช้จะเป็นแบบไหน ถ้าใช้แบบที่คุณภาพดีมีความเร็วที่สูงหน่อยการใช้ลิฟท์ก็จะไม่เป็นปัญหาครับ
ส่วน Facility หลักของโครงการจะเป็นอย่างที่อธิบายในโมเดลไปแล้ว คือจะเอาไว้ที่ชั้น 5 ทั้งหมดเลย ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบส่วนกลางใหญ่ๆ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางจะเน้นการใช้งานแบบ Out Door พื้นที่ต่างๆจะเชื่อมถึงกันหมด ตรงนี้วัสดุส่นวกลางคงต้องมีความทนทานต่อความชื้นระดับนึงเพราะต้องตากแดดตากฝนพอสมควร แต่โดยมากแล้วโครงการของ Land & Houses จะใช้วัสดุที่มีคุณภาพในระดับนึงอยู่แล้วจึงไม่น่าเป็นห่วงนัก โดยห้องที่เป็นแบบปิดจะมีห้อง Fitness, Activity Room, Reading Lounge และ หMulti Purpose Room สำหรับวิวของสระว่ายน้ำที่ชั้น 5 จะเป็นวิวฝั่งถนนเจริญราษฎร์ครับ
ส่วนยูนิตพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 6 ครับ สำหรับชั้นนี้จะมียูนิตส่วนนึงของอาคารเป็นแบบ Single Corridor ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะเน้นไปที่ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 – 37 ตร.ม.เป็นส่วนมาก และห้องที่อยู่มุมของอาคารจะเป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 55 – 75 ตร.ม. ระยะเดินจากลิฟท์ถึงแต่ละห้องอยู่ในเกณฑ์ที่โอเคเพราะแกนลิฟท์อยู่ตรงกลางอาคาร ฝั่งที่ได้เปรียบเรื่องความสงบจะเป็นอาคารซีกบน เพราะมีแค่ 6 ยูนิตที่ใช้งานพื้นที่ฝั่งนั้น แต่ก็ถือว่า Trade-off ไปกับเรื่องของวิวที่จะเป็นอาคารเพื่อนบ้านหน่อย
ในชั้นต่อๆมาตั้งแต่ชั้น 7 – 38 ผังอาคารจะมีหน้าตาที่เหมือนๆกัน จะต่างกันบ้างตรงที่บางยูนิตจะมีระเบียงยื่นออกมามากกว่าเพื่อนเท่านั้นเอง ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะมียูนิตพิเศษเพิ่งขึ้นมาชั้นละ 1 ยูนิต โดยตำแหน่งจะอยู่ตรงกลางอาคารที่เป็นจุดเชื่อมต่อซีกซ้ายกับขวาของอาคาร ยูนิตนี้จะเป็นยูนิตที่ใหญ่กว่าเพื่อนเลยเป็นแบบ2 Bedroom ขนาด 75.3 ตร.ม. และมีรูปทรงเฉียงๆตามแนวอาคารอีกต่างหาก ถ้าใครชอบพื้นที่ไม่เหมือนใครก็ลองพิจารณาดูได้ครับ
เนื่องจากโครงการนี้ยังไม่ได้สร้างเลยต้องเอาภาพจำลองส่วนกลางมาให้ดูก่อนนะครับ รูปนี้เป็นส่วนของ Reading Lounge
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีแบ่งสระเด็กและโซนจากุชชี่มาให้
ส่วนนี้แหละครับคือ Terrace ที่เชื่อมต่อพื้นที่ของสระว่ายน้ำด้านหน้ากับสวนหย่อมด้านหลังโครงการ สำหรับพื้นที่ตรงนี้ถ้าลมดีๆ แดดไม่แรงคงน่าใช้งานอยู่ แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนที่อบอ้าวมากๆก็ไปพักผ่อนในห้องสมุดหรือห้องกิจกรรมแทนละกันนะครับ
เอาหละต่อไปจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการนี้กันครับ โดยห้องตัวอย่างทั้งหมดจะมีให้ดู 2 ห้องเป็นแบบ 1 กับ 2 Bed นะครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 12 x 40 เมตร แบ่งสระเด็กและผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 170 ตร.ม.
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 5 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 142.5 : 1 (คิดแบบรวม Service ลิฟท์)
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ xx คันคิดเป็น xx% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60% (ประมาณ 513 คัน)
- ระบบ CCTV / Access Card
- ลิฟท์ล็อคชั้น
มาดูห้องแรกกันก่อนครับ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.1 ตร.ม. ผังแบบนี้จะใช้กับห้อง 30 กว่าตร.ม.ทั้งโครงการเลยนะครับ ดังนั้นผมจะเอาผังลงให้ดูแต่ห้องเดียวก็พอ ตัวห้องจะมีหน้ากว้างประมาณ 5.8 เมตรซึ่งถือว่ากว้างกว่าห้อง 1 Bed ทั่วๆไปในยุคนี้หน่อย โซนแรกของห้องจะเป็นโซนครัวและพื้นที่ทานอาหารซึ่งเป็นครัวเปิดจึงไม่เหมาะกับการทำครัวหนักๆ แต่ถ้าจะต่อเติมก็อาจจะยากซักหน่อย เพราะถ้ากันตรงแนวกำแพงเลยจะเสียพื้นที่ส่วนทานอาหารไปพอสมควร ส่วนห้องนอนจะมีพื้นที่ใหญ่พอสมควรวางเตียง 6 ฟุตแล้วยังมีที่เดินรอบๆได้สบายอยู่ และมีน้ในตัวด้วย เราไปดูห้องตัวอย่างกันเลยนะครับ
เปิดประดูมาจะเจอเคาน์เตอร์ครัวอยู่ด้านซ้ายมือ และด้านหน้าจะเป็นห้องนั่งเล่นกับโซนทานอาหาร แต่ในห้องตัวอย่างจะตกแต่งเป็นโต๊ะที่ใช้ทำงานได้ด้วย และเป็นโต๊ะแบบ 2 ที่นั่ง
กลับมาดูโซนหน้าห้องอีกทีเนื่องจากโครงการนี้เป็นการขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้จะมีแค่ Built-in ที่เป็นโทนสีดำ ในภาพนี้สิ่งที่ได้คือเคาน์เตอร์ครัวชุดบนและล่าง ตู้เป็นรองเท้าด้านซ้ายมือทั้งบนและล่างเช่นกัน สำหรับประตูจะเป็นแบบ HDF กลอนก้านโยกธรรมดาไม่ได้เป็น Digital Door Lock นะ
ส่วน Top จะได้เป็นหินสังเคราะห์ที่ Land & Houses เรียกว่า Solid Surface ช่องด้านซ้ายเค้าจะเว้นไว้ให้ใส่ตู้เย็นขนาดที่เห็นประมาณ 9 คิวบิกฟุตครับ
ตัวหน้าบานจะไม่มี Soft Close มาให้แต่มีช่องแบ่งวางจานกับถาดวางช้อนซ่อมมาให้ ตัวมือจับจะไม่ได้เป็นแบบปาดมุมมาให้แต่เป็นมือจับเหล็กทำสีมาให้แทนลองเปิดดูแล้วก็จับถนัดมือดีครับ
อ่างล้างจานที่ให้ก็ใหญ่เหมาะสมกับขนาดห้องดีแต่ไม่มีที่พักจานมาให้นะไม่เหมือน Series The Room ที่จะปาดหน้า Top เป็นที่พักจานให้ ส่วนเตาไฟฟ้าจะได้เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex
ตู้ชุดบนจะได้ช่องแบ่งของประมาณนี้ครับ ด้านซ้ายสุดจะซ่อนตู้เมนไฟไว้ด้านใน และด้านขวาจะมีที่ดูดควันของ Mex เช่นกันเป็นแบบดูดออกด้านนอกไปที่ระเบียงนะครับ
หันกลับมาดูตู้เก็บรองเท้าบ้าง ส่วนนี้จะมีช่องเว้นไว้ให้ใส่เครื่องซักผ้าพร้อมเดินงานระบบมารอแล้ว เครื่องซักผ้าที่เห็นเป็นแบบฝาหน้าขนาดประมาณ 8 กก.นะครับ
การเปิดตู้ตรงนี้จะไม่มีมือจับเหล็กมาให้แต่เค้าจะเว้นร่องไว้ให้เอามือเข้าไปจับแทน
พื้นห้องจะได้เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม.ทั้งหมดรวมถึงส่วนครัวด้วย ดังนั้นอย่าทำอาหารจัดหนักมากนะจ๊ะ
มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อพื้นที่ส่วนนี้จะมีระยะดูทีวีประมาณ 2.8 เมตร วางทีวีขนาด 52 ” ได้
แต่ปัญหาคือกำแพงส่วนนี้จะเป็นฉากกระจกกั้น เกือบครึ่งของความกว้างจะเป็นบานเลื่อนสำหรับเข้าห้องนอน ดังนั้นการจะวางทีวีก็ต้องเลือกว่าจะเป็นโต๊ะ หรือทำ Bulit-in ให้แขวนได้แต่ต้องเป็นแบบทึบซึ่งจะทำให้พื้นที่ดูแคบขึ้นนิดหน่อย แต่การทำฉากกั้นแบบนี้มีข้อดีคือบรรยากาศโดยรวมภายในห้องจะดูกว้างโปร่งสบายขึ้น และการเข้าออกห้องนอนก็ทำได้สะดวกเพราะได้ช่องประตูขนาดใหญ่
สำหรับพื้นที่วางโซฟาสามารถวางได้ 2 ที่นั่งขนาดใหญ่แบบในห้องตัวอย่าง แต่ต้องคำนวณระยะเผื่อวางเก้าอี้ทานอาหารอีกตัวด้วยนะครับ
ประตูออกไประเบียงจะเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบเป็น UPVC นะครับ มือจับเป็นแบบฝังเซาะร่อง
ตัวรางจะวางอยู่บนพื้นช่วยกันน้ำไม่ได้ไหลเข้าห้อง
พื้นที่ตรงระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคและกว้างประมาณ 80 ซม. มีระยะเพียวพอให้วางราวตากผ้าได้เพราะมีความกว้างเต็มแนวพื้นที่ห้องนั่งเล่น การแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้ง 2 เครื่องจะแขวนอยู่ด้านบนของระเบียงและอยู่ในระยะที่ไม่บังวิวจากห้องนั่งเล่นด้วย
เข้ามาดูห้องนอนกันต่อนะครับ ประตูเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบแขวนโดยไม่มีร่องหรือรางที่พื้นเลย พอเห็นแบบนี้แล้วหลายคนคงอยากรู้แล้วว่ามันแข็งแรงรึเปล่า ผมได้ลองเปิดปิดอยู่หลายรอบพบว่าอุปกรณ์ฟิตติ้งต่างๆให้มาดีมากครับเลื่อนไปมาอยู่หลายครั้งยังได้สัมผัสแบบหนึบแน่นอยู่ทุกครั้ง ไม่มีโครงเครงหรืองอแงเลยอันนี้ต้องขอชมที่ทำออกมาใช้งานได้ดีเลย
มุมมองจากในห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่นก็ประมาณนี้ครับ
ภายในห้องนี้จะวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆและมีระยะเหลือปลายเตียงกำลังดีให้เดินได้ แต่จะวางตู้เพิ่มไม่ได้นะ ช่องแสงที่ได้จะให้มาไม่เต็มระยะกำแพง
และเป็นบาน Fix เกือบหมดยกเว้นบานขวาบนที่เป็นบานกระทุ้ง
เดินเข้ามาดูพิ้นที่ข้างเตียงยังมีเหลือครับ
อีกด้านที่ติดกับห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าห้องน้ำเป็นแบบบาน Swing 3 บาน ครึ่งบนเป็นแบบทึบครึ่งล่างเป็นกระจก
การแบ่งช่องด้านในก็ประมาณนี้ครับ ช่องซ้ายจะมีถาดใส่ของชิ้นเล็กๆมาให้ด้วย
มือจับจะอยู่ตรงกลางพอดี
ห้องน้ำจะได้พื้นที่กว้างพอสมควรไม่อึดอัด พื้นปูกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. การสุขภัณฑ์จะวางอยู่แนวเดียวกันหมด ยกเว้นฝักบัวที่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามในโซนเปียก
ชุดสุขภัณฑ์อ่างล้างมือใช้ของ Kasch ตัวอ่างที่ให้มาขนาดใหญ่กำลังดีครับและมีช่องใส่ของด้านใต้มาให้ด้วย
ตัวโถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เช่นกัน
โซนเปียกจะมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย
ฝักบัวเป็นของ American Standard ส่วนที่วางของมีมาให้หน่อยนึงอย่างที่เห็น การใช้งานจริงคงต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเองนะ พื้นที่อาบน้ำให้มาพอดีๆเวลาอาบนืดแขนขาได้ไม่อึดอัด แต่มีระยะเว้นช่องของงานระบบอยู่หน่อยนะ
ทางเข้าห้องน้ำจะมีธรณี UPVC สำเร็จรูปกั้นอยู่ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องเปียกน้ำแน่นอนครับ
ต่อมาเป็นแบบ 2 ห้องนอน ห้องนี้จะเป็นห้องแบบหน้ากว้างแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยห้องที่ได้รับแสงธรรมชาติคือห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก และห้องนั่งเล่น ส่วนห้องน้ำและห้องครัวจะอยู่ติดกับฝั่งโถงทางเดินทั้งหมด ผังห้องนี้จะได้ห้องน้ำมา 2 ห้องช่วยให้ห้องนอนใหญ่ใช้งานได้เป็นส่วนตัวและสะดวกมากขึ้น สำหรับห้องนอนเล็กถ้าใครยังไม่มีลูกก็ทำเป็นห้องทำงานไปก็ได้ครับ เพราะขนาดไม่ใหญ่มากนัก ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าผังห้องนี้คล้ายๆกับ 1 Bedroom เลยแค่เพิ่มห้องตรงกลางขึ้นมา และความลึกของห้องก็เพิ่มขึ้นอีกหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนพื้นที่ห้อง Type นี้จะแตกต่างกันนิดหน่อยตามตำแหน่งห้องนะครับ
บรรยากาศโดยรวมในห้องยังคงเหมือนเดิมแต่จะดูกว้างขึ้นเพราะตัวห้องมีความลึกเพิ่มขึ้น
การวางโต๊ะทานอาหารเลยใส่แบบ 2 ที่นั่งได้ ถึงแม้ทางโครงการจะจัดที่นั่งทานอาหารแบบนั่งหันหน้าทางเดียวกันแต่ถ้าจะนั่งแบบหันหน้าเข้าหากันยังทำได้อยู่นะ เพียงแค่หาโต๊ะแบบปรับขยายได้มาใช้งานเท่านั้นเอง
ชุดครัวยังได้เป็นแบบเดิมเป๊ะๆ
แต่ฝั่งตรงข้ามระยะตู้จะหดลงหน่อยเพราะเค้าย้ายเครื่องซักผ้าออกไปแล้ว
ตัวห้องนั่งเล่นจะได้ผนังแบบทึบแล้วดังนั้นใครจะแขวนทีวีก็ตามสบายเลยครับ
พื้นที่วางโซฟาก็ขยายให้วางได้ 3 ที่นั่ง
ขนาดหน้าต่างและพื้นที่ระเบียงยังคงเท่ากับห้องแบบ 1 Bedroom
โถงทางเดินไปยังห้องต่างๆกว้างประมาณ 1 เมตร ห้องขวามือคือห้องนอนเล็ก ตรงกลางเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนซ้ายมือเป็นห้องน้ำรวมกับตู้ใส่เครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าถูกย้ายมาอยู่ตรงนี้ซึ่งทางโครงการจะเดินงานระบบมาให้อยู่แล้ว
ภายในห้องนอนเล็กเหมาะที่จะวางเตียง 3.5 ฟุตจะพอดีกว่า แต่ถ้าอยากวางเตียง 5 ฟุตอาจต้องขยับแนวตู้เสื้อผ้าไว้ส่วนผนังตรงประตูแทน พื้นที่ตู้เสื้อผ้าก็จะเล็กลงหน่อย
ช่องแสงที่ให้มาจะเป็นขนาดเดียวกันหมด แต่ที่เห็นในรูปเหมือนตัวหน้าต่างจะติดพื้นที่แต่จริงๆไม่ใช่นะครับ พอดีห้องตัวอย่างนี้เค้ายกพื้นส่วนนี้ให้สูงขึ้นมาเลยดูเหมือนได้หน้าต่างที่อยู่ติดพื้นเลย
ถ่ายพื้นที่หน้าห้องมาให้ดูว่าถ้าจะขยับขยายเตียงกับตำแหน่งตู้เสื้อผ้าจะเหลือที่ประมาณไหน
ต่อมาในห้องน้ำยังคงใช้วัสดุและชุดสุขภัณฑ์เหมือนเดิมทุกอย่าง
โซนเปียกจะต้องเดินเข้าไปอีกหน่อยเพราะด้านหน้าใช้พื้นที่ไปทำห้องใส่เครื่องซักผ้าแล้ว
เมื่อกี้ลืมถ่ายรูปฝักบัวมาให้ดูใกล้ๆ
ภายในห้องนอนใหญ่วางเตียง 6 ฟุตได้และมีพื้นที่เหลือปลายเตียงให้ทำชั้นวางของเล็กๆ กับแขวนทีวีไว้บนผนังได้
ระเบียงของ Type นี้จะมีเพิ่มมาให้ในห้องนอนอีกจุดเอาไว้วางหรือแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ก็ได้
แต่ตัวระเบียงจะกินพื้นที่แค่ครึ่งเดียวของหน้ากว้างทำให้ห้องนี้มีฟังก์ชั่นโต๊ะทำงานเพิ่มมาได้อีกอย่าง ตัวโต๊ะที่เห็นไม่ได้แถมมาให้นะ
ระยะด้านที่ติดกับระเบียงยังมีเหลือๆครับ
ทางเข้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้า
ขนาดของตู้ยังเป็นแบบเดิมเป็นบาน Swing 3 บาน
การแบ่งช่องเก็บของแขวนเสื้อผ้าก็ประมาณนี้มีลิ้นชักเพิ่มมาให้
ภายในห้องน้ำจะพิเศษกว่าเพื่อนตรงที่มีช่องแสงมาให้(เฉพาะห้องมุม) ช่วยให้ไล่ความชื้นได้ดีขึ้น
ภายในห้องน้ำทุกห้องจะมีการทำไฟซ่อนแบบนี้มาให้ด้วยนะครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 4 November 2014
- 1BR ชั้น 7 ห้อง 07A05 เนื้อที่ 34.5 ตร.ม. ราคา 3.14 ล้านบาท หรือ 91,014 บาท/ตร.ม.
- 2BR ชั้น 29 ห้อง 29A23 เนื้อที่ 55.8 ตร.ม. ราคา 5.79 ล้านบาท หรือ 103,763 บาท/ตร.ม.
- 2BR ชั้น 19 ห้อง 19A17 เนื้อที่ 75.3 ตร.ม. ราคา 7.79 ล้านบาท หรือ 103,452 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 30,000 – 50,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
เนื่องจากทำเลเดียวนี้เป็นทำเลเดียวกันกับโครงการ Than Living เลยขอยกสรุปมาไว้ตรงนี้เลยนะครับ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่อย่างเจริญราษฎร์ ที่ดูวี่แววว่าการพัฒนาในอนาคตของย่านนั้นไม่คึกคักเท่าถนนที่ขนาบ และยัง เป็นทางเชื่อมระหว่างถนนเส้นหลัก 3 เส้นอย่างถนนสาทร, ถนนจันทน์และถนนพระราม 3 แต่ความเจริญและแหล่งชุมชนสำคัญๆก็ยังไม่พัฒนาเข้ามาในถนนเจริญราษฎร์เท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีโครงการว่าจะมีโปรเจคขนส่งมวลชนอย่าง BTS หรือ BRT วิ่งผ่าน ทำให้ความคึกคักของทำเลนี้มีไม่มากและถูกมองข้ามไป ซึ่งถ้าหากคิดจะอยู่อาศัยจริงๆต้องพิจารณาเรื่องการเดินทางและอาคารข้างเคียงให้ดีนะ
ตัวทำเลจริงๆแล้ว เหมาะกับ คนใช้รถยนต์ เพราะถนนเจริญราษฎร์อยู่ฝั่งพระนคร ไม่ต้องขับรถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนฝั่งกรุงธนบุรีที่บริเวณสถานี BTS กรุงธนบุรี, วงเวียนใหญ่ เรื่อยไปจนถึงบางหว้า และทำเลที่ตั้งใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนบริเวณถนนจันทน์ ทำให้คนที่ใช้รถยนต์อาจพิจารณาเป็นตัวเลือกหลักได้ ในราคาตารางเมตรละ 90,000 บาท ซึ่งจัดว่าถูกเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมบนถนนเส้นหลักๆอย่าง สาทรหรือนราธิวาสราชนครินทร์ แต่ถ้าหากไม่ใช้รถยนต์โคงรการตามเส้นพระราม 3 ดูก็ได้ที่มี BRT วิ่งผ่าน หรือจะเล็งส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า BTS จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในส่วนของรายละเอียดการเดินรถนั้นจะมีปัญหาติดขัดตอนชั่วโมงเร่งด่วนที่ติดมาจากรถที่จะไปสาทร หรือสะพานตากสินนี่แหละ เมื่อลงจากทางด่วนถนนจันทน์ก็ต้องหาทางกลับรถ ซึ่งจะสับสนเล็กน้อย
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ระยะจาก BTS สถานที่ใกล้สุดก็ สุรศักดิ์ ซึ่งใกล้สุดคือ 2.3 กิโล คือเดินมาไม่ได้แน่ ส่วน BRT สถานีที่ใกล้สุดก็ เจริญราษฎร์ที่จอดบริเวณห้าง โฮมโปรพระราม 3 ห่างจากโครงการ 1.7 กิโลเมตร เนื่องจากโครงการนี้ไม่มี Shuttle Bus ให้ต้องหารถต่อเข้ามาเองนะครับ จะมีสองแถววิ่งเชื่อมเส้นนี้บ้างและก็อาศัยพี่วินได้ มีให้บริการทั้งสองสถานี
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มาเมื่อเทียบกับห้องราคา 90,000 – 100,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าให้มาค่อนข้างธรรมดาไปหน่อย ยังดีที่ขายแบบ Fully Fitted มีให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและได้เตากับเครื่องดูดควันมาด้วย น่าเสียดายที่กลอนประตูยังไม่ได้เป็นแบบ Digital door lock ทั้งๆที่เพื่อนบ้านก็มีให้มาแล้ว พื้นห้องใช้เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม.ทั้งห้องซึ่งส่วนครัวน่าจะได้เป็นพื้นหินแกรนิตได้แล้วเพราะจะเหมาะกับการใช้งานมากกว่า ข้อดีของโครงการ Land & Houses ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการก่อสร้างที่ทำออกมาค่อนข้างดีได้คุณภาพ อย่างประตูบานเลื่อนในห้องนอนแบบ 1 Bed ถึงแม้จะไม่มีรางที่พื้นมาให้แต่ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่
การออกแบบโครงการถือว่าทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดีนะเพราะยอมเสียพื้นที่ขายบางส่วนมาทำรูปแบบของอาคารให้เป็น 3 แฉก แทนที่จะเน้นการทำห้องเยอะๆตอนวางผังแต่เค้ากลับเลือกที่จะเพิ่มทางเลือกให้กับลูกบ้านทั้ง 3 โครงการ โดยไม่ต้องอึดอัดใจเวลาใช้พื้นที่ระเบียงหรือจะมองวิว ไม่ต้องมาประจันหน้ากันในระยะประชิดแบบตรงๆ ฝั่งที่อยู่ติดกับศุภาลัยถ้าพ้นชั้น 27 หรือ 28 ไปแล้วจะไม่มีปัญหาเรื่องวิวเพราะตึกเค้าสูงแค่ 26 ชั้น แต่ฝั่ง Than Living จะเจอยันชั้น 36 เลย
แบบของห้องที่นี่จัดมาให้ค่อนข้างลงตัวอยู่แล้วทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ผังห้องของที่นี่จะเน้นการใช้ครัวเป็นแบบครัวเปิดเหมาะสำหรับการทำครัวแบบเบาๆมากกว่าไม่อย่างนั้นกลิ่นอาจจะไหลไปส่วนอื่นๆของห้องได้ หน้ากว้างของห้องให้มากว้างกว่าห้องทั่วไปหน่อยเลยได้ระยะดูทีวีเพิ่มขึ้นและมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือสบายๆแม้จะวางเตียงขนาด 6 ฟุตไปแล้ว ส่วนการกั้นครัวเป็นแบบปิดอาจทำได้ยากหน่อยเพราะจะติดพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารที่ไม่สามารถขยับหลบไปไหนไกลได้
สาธารณูปโภคถือว่าข้อดีอีกข้อโครงการนี้เพราะจัดมาในขนาดที่ใหญ่ในทุกส่วนตั้งแต่ สวนหย่อมขนาดใหญ่หน้าโครงการ Facility แบบเต็ม Floor ที่ชั้น 5 เป็นบรรยากาศแบบ Out Door สระว่ายน้ำยาวถึง 40 เมตร เรียกว่าเอาไว้ออกกำลังกายได้สบายๆเลย มีห้อง Fitness, Reading Lounge, Multi-Purpose Room, Outdoor Terrace และ Activity Room สำหรับความปลอดภัยที่นี่จะได้ลิฟท์ล็อคชั้นและระบบCCTV ตามมาตรฐาน ส่วนที่จอดรถจะได้อยู่ที 60% น้อยกว่าเพื่อนนิดเดียว ส่วนที่ต้องดูหน่อยคืออัตรส่วนของลิฟท์อยู่ที่ 142.5 : 1 ถ้าใช้ลิฟท์ที่มีความเร็วหน่อยก็ไม่มีปัญหาครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 90,000 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร, 4 November 2014
- ทำเล 7.0/10 – เจริญราษฎร์ ใกล้เมือง แต่ยังไม่คึกคักเท่าเส้นหลักอย่างพระราม 3
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – ใกล้ทางด่วน ใกล้แหล่งออฟฟิศ เชื่อมหลายถนน
- ไม่ใช้รถ 7.0/10 – ถือว่าไกลจากระบบรางต่างๆพอสมควร แน่นอนว่าถ้าไม่มีรถต้อง 2 ต่อเป็นอย่างต่ำ และไม่มี Shuttle Bus มาให้
- วัสดุ 7.25/10 – ราคานี้เทียบกับเพื่อนบ้านแอบสูงไปนิดแต่ก็แลกมากับคุณภาพของการก่อสร้าง
- แบบ 8.5/10 – ออกแบบมาดีทั้งตัวอาคารและห้องพัก
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ได้ส่วนกลางขนาดใหญ่ทั้งสวนหย่อมและสระว่ายน้ำและ Facility อื่นๆ แต่อัตรส่วนลิฟท์หนาแน่นไปหน่อย
- UPPER CLASS
- 7.41 / 10.00
BOTTOM LINE
The Key สาทร-เจริญราษฎร์ เหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่แถวสาทร พระราม 3 แต่ไม่ต้องการเดินทางไกล มีรถขับ ใช้ทางด่วนเข้าออกเมืองง่าย รับได้กับการมีเพื่อนบ้านที่อนาคตจะโผล่มาใกล้ๆ ตัวทำเลไม่คึกคักแบบมีคนอาศัย เน้นเป็นถนนที่ใช้เชื่อมถนนหลัก ชอบส่วนกลางใหญ่ๆ เน้นความคุ้มค่าของการก่อสร้าง…ส่วนเวลาจับจ่ายใช้สอยไป ละแวกถนนจันทน์ ว่างๆไปเดินเอเชียทิค ต่อโรบินสันบางรัก มีงบเริ่มต้นอยู่ประมาณอยู่ที่ 3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 22,000 – 62,000บาท/เดือน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧