รีวิวฉบับที่ 1071 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The Excel Groove คอนโดน้องใหม่ในตระกูล The Excel จาก All Inspire Development เจ้าถิ่นในย่านนี้ ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น แบ่งออกเป็น 3 เฟส ตั้งอยู่ติดกับถนนซอยลาซาล (สุขุมวิท 105) ช่วงซอยลาซาล 52 สามารถใช้เส้นทางไปออกถนน แบริ่ง , ถนน ศรีนครินทร์ , ถนนบางนา-ตราดได้ ห้องพักในโครงการจะเป็นแบบ 1 Bedroomทั้งหมด ขนาดตั้งแต่ 25 – 30 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 990,000 บาท โดยจะเปิด pre-sale ในวันที่ 28 – 29 พ.ค.นี้ ไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ
Fact @ 03 May 2016
- The Excel Groove (ดิ เอ๊กเซล กรูฟ)
- บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยลาซาล 52 ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรก 1 อาคาร 182 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิต ที่ชั้น 2 – 8
- ที่จอดรถ ไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 66 คัน คิดเป็น 37% , รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 43%
- ที่ดินทั้งหมดประมาณ 7 -1 -74.7 ไร่ (เฟสแรก 2 – 0 – 24.7 ไร่)
- ห้องแบบ 1 Bedroom 25 – 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 990,000 บาท
- ราคาห้องเริ่มต้น 990,000 บาท ขายแบบ Fully Furnished
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ในระหว่างดำเนินการ
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS แบริ่ง ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนาและ BTS แบริ่ง
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 095-558-8456
- line ID : excelcondo
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.657941, 100.634888
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนซอยลาซาล(สุขุมวิท 105) ในช่วงซอยลาซาล 52 ไม่ไกลจากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพั
จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายโดยใช้ถนนสุขุมวิทแต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์เชื่อมออกไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้
การเข้าถึงโครงการโดยใช้รถ ถ้าเดินทางมาจากในเมืองหรือจังหวัดสมุทรปราการสามารถใช้ถนนสุขุมวิท เข้าซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ขับตรงมาตามทางเรื่อยๆจนมาเจอซอยลาซาล 52 โครงการจะอยู่ข้างๆซอยนี้เลย หรือถ้ามาจากถนนศรีนครินทร์เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ตรงเข้ามาซักพักก็จะถึงโครงการค่ะ ภายในซอยยังสามารถใช้ ซอยหมู่บ้านเทพนฤมิตรลัดไปยังซอยแบริ่งหรือซอยสุขุมวิท 107 และ ใช้ซอยลาซาล 55 ออกถนนบางนาได้ โดยซอยลาซาล 55 จะอยู่เยื้องๆกับเซ็นทรัลบางนาเลย เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าพอสมควรดังนั้นถ้าจะเดินทางไปไหนมาไหนมีรถจะสะดวกกว่า แต่ถ้าไม่มีรถการเข้าถึงโครงการก็สามารถใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งที่บริเวณหน้าปากซอยแต่จะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว หรือแท็กซี่อีกต่อหนึ่ง ซึ่งสามารถเรียกได้ง่ายเพราะโครงการอยู่ติดกับถนน และรถสาธารณะก็มีวิ่งให้บริการตลอดทั้งซอย สำหรับ Shuttle bus โครงการก็มีให้แต่จะไปส่งที่สถานีอะไรหรือจุดไหนบ้างต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมอีกทีค่ะ
สำหรับทำเลนี้ความเจริญส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ เซ็นทรัลบางนา , บิ๊กซี , Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park เป็นศูนย์การค้าใหญ่เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการมาเดินเล่นค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยลาซาล (สุขุมวิท105) และซอยแบริ่ง (สุขุมวิท107) ถือว่าเป็นซอยใหญ่ที่ค่อนข้างคึกคัก ถ้าเทียบกับซอยอื่นๆในย่านนี้ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตลาด อยู่ทั้งซอยผลัดกันเปิดตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าถ้าหิวตอนดึกออกมายังไงก็มีของกิน และยังใช้เป็นเส้นทางลัดออกถนนบางนา ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ ได้ในช่วงเวลารถติดหรือถ้าไม่อยากออกถนนใหญ่
สำหรับทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 8.5 กิโลเมตร , ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวน กาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 7.8 กิโลเมตร
หน้าปากซอยจะมีสถานีแบริ่งตั้งอยู่ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะได้เปิดใช้กัน (แต่มีข่าวเพิ่มเติมว่าอาจจะเปิดให้ใช้ส่วนของสถานีสำโรงให้ใช้กันก่อน โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้งสาย) และในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุด (ห่างประมาณ 600 เมตร) คือสถานีศรีลาซาล ซึ่งถ้ารถไฟฟ้าสายนี้เสร็จก็จะทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความเจริญและอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีก
เส้นทางที่เราพาไปในวันนี้ เราจะเริ่มจากหน้าปากซอยลาซาลที่อยู่ก่อนถึง BTS แบริ่งเล็กน้อย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยลาซาล ดูบรรยากาศทั้งสองข้างทาง ขับรถตรงไปเรื่อยๆ เลี้ยวไปตามทาง จนถึงซอยลาซาล 52 ตัวโครงการจะอยู่ข้างๆกับซอยนี้เลย
เริ่มจากซอย สุขุมวิท 105 หรือซอย ลาซาล สถานีรถไฟฟ้าแบริ่งจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยพอดี ฝั่งตรงข้ามของซอยเป็น APT แบริ่งมอลล์ มีอาหารและของใช้ให้ซื้อหากันได้
จุดสังเกตคือหน้าปากซอยจะมี 7 – 11 ขนาดใหญ่อยู่ ด้านหน้ามีที่จอดรถค่อนข้างกว้างสามารถมาแวะจอดซื้อของก่อนเข้าบ้านได้
เข้าซอยมาหน่อยตรงเต็นท์เขียวๆจะมีพี่วินประจำอยู่ จากหน้าปากซอยเข้าไปโครงการประมาณ 30 บาท
ในซอยลาซาลจะมี CenterPoint Entertainment ที่เป็นศูนย์ประชุม และ ห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ รายการเพลงชื่อดังอย่าง The Voice Thailand ก็มาจัดรายการที่นี่ ถนนของช่วงต้นซอยจะเป็นถนน 2 เลน
ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอสำนักงานขายของ Excel Hybrid โครงการใกล้เคียงในซอยแบริ่ง ซึ่งสำนักขายนี้ก็จะเป็นจุดหลักที่ขายคอนโด Excel ทุกตัวในละแวกนี้ แต่สำนักงานขายของโครงการ The Excel Groove นี้จะอยู่ที่ที่ตั้งโครงการบริเวณซอยลาซาล 52 ค่ะ
ขับมาเรื่อยๆจะเจอโครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท ที่ตอนนี้สร้างไปได้พอสมควร
ช่วงกลางๆซอยจะมีเต็นท์ขายอาหาร ที่รอบๆจะเป็นอพาร์ทเม้นท์และอาคารพาณิชย์ บริเวณช่วงนี้ของซอยลาซาลจะมีผู้อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น
ตรงมาตามทางจนถึงทางแยกให้เราเลี้ยวซ้าย
จากนั้นตรงมาเรื่อยๆมาเลี้ยวขวาอีกทีหนึ่งตรงแยกนี้ ตรงช่วงนี้การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นเล็กน้อย
พอเลี้ยวเข้ามาถนนภายในซอยจะกลายเป็นถนน 6 เลนซึ่งทำให้บรรยากาศของซอยดูโล่งขึ้น และการจราจรตรงช่วงนี้ก็จะติดขัดน้อยลงด้วยค่ะ
ถัดเข้ามาประมาณกลางซอย หรือนั่งมอเตอร์ไซค์จากโครงการมา 20 บาท จะเจอตลาดลาซาลเป็นตลาดเช้าเปิดขายตั้งแต่ช่วงเช้าถึงประมาณ บ่าย 2 ฝั่งตรงข้ามเป็น 7 – 11
ถัดมาเป็นตลาดดวงพลอย ตลาดโต้รุ่งเปิดตั้งแต่ประมาณ บ่าย 4 จนถึงประมาณ 4-5 ทุ่มและมีบางร้านอยู่จนเช้าโต้รุ่ง บริเวณช่วงนี้ก็มีคนออกมาจับจ่ายใช้สอย บรรยากาศค่อนข้างคึกคักมีร้านอาหาร ร้านค้าทั้งสองฟากของถนน ฝั่งตรงข้ามตลาดดวงพลอยก็มี 7-11
ตรงเข้ามาอีกก็จะเจอโรงเรียนบางกอกพัฒนา บริเวณนี้ช่วงเช้าเย็นรถค่อนข้างมากพอสมควร เพราะผู้ปกครองมารอรับลูกๆกัน
ตรงมาอีกพอประมาณจะเจอกับแยกนี้ เลี้ยวขวาไปจะเป็นซอย หมู่บ้านเทพนฤมิตร ลัดไปซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งได้ ถ้าตรงไปเรื่อยๆจะไปออกถนนศรีนครินทร์
ถัดมาอีกก็จะเจอโรงเรียน ลาซาล โรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ค่ะ
สุดท้ายขอย้อนพามาดูซอยลัดอีก 1 ซอยคือซอยลาซาล 55 ใช้ลัดออกไปถนนบางนา ซึ่งซอยจะเยื้องๆกับเซ็นทรัลบางนาพอดี
ตรงมาอีกนิดก็จะเจอกับสำนักงานขาย โดยโครงการจะตั้งอยู่ข้างๆกับซอย ลาซาล 52 พอดี
ด้านหน้าของสำนักงานขายค่ะ
ที่ดินด้านในมีการเคลียร์หน้าดินเรียบร้อย โครงการจะมีการแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะอยู่ด้านในสุด
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
โครงการ The Excel Groove เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 -1 -74.7 ไร่ จากผังรวมที่สอบถามโครงการมาคร่าวๆคือ ที่ดินแปลงนี้จะแบ่งออกเป็น 3 เฟส เฟสแรกคือเฟสที่เปิดขายอยู่ตอนนี้ อยู่ด้านในสุดของแปลงที่ดิน ห่างจากถนนใหญ่ 150 เมตร มีขนาด 2 – 0 – 24.7 ไร่ ซึ่งเข้ามาลึกหน่อยแต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวและความสงบมากกว่า ถัดมาเป็นเฟส 2 และเฟส 3 อยู่ใกล้ถนนใหญ่มากที่สุดเข้าออกสะดวกแต่บรรยากาศจะคึกคักกว่า ด้านหน้าที่เป็นสำนักงานขายอยู่ในตอนนี้ ในอนาคตทางโครงการจะสร้างเป็นมอลล์เล็กๆ มีร้านค้า ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ทางโครงการยังไม่เปิดเผยว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไงค่ะ ทางเข้าออกโครงการตัดถนนภาระจำยอมจากถนนใหญ่ให้ทั้ง 3 เฟสใช้ด้วยกัน อยู่ขนานกับซอยลาซาล 52 แต่แต่ละเฟสแยกทางเข้าออกและแยกนิติบุคคลกัน สำหรับเพื่อนบ้านรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ฝั่งที่ติดถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ โดยพื้นที่รอบๆโครงการติดกับสถานที่ดังนี้ค่ะ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 105 หรือ ซอย ลาซาล ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก – ด้านหน้าฝั่งติดถนนติดกับอาคารพาณิชย์ 4 – 5 ชั้น ถัดเข้าไปเป็นที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ – ติดกับสำนักงานบริษัท บี. ที. ที. (ไทยแลนด์)
- ทิศตะวันตก – ติดกับซอย ลาซาล 52 ซึ่งมีกลุ่มบ้านพักอาศัย 1 -2 ชั้นอยู่ตลอดแนว
ทิศเหนือ – ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 105 หรือ ซอย ลาซาล ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ถนนช่วงนี้เป็นถนน 6 เลนค่อนข้างกว้าง การจราจรจึงไม่หนาแน่นเท่าช่วงต้นซอยค่ะ
ทิศตะวันออก – ด้านหน้าฝั่งติดถนนติดกับอาคารพาณิชย์ 4 – 5 ชั้น ถัดเข้าไปด้านในเป็นที่ดินเปล่า
เดินเข้ามาถ่ายด้านในโครงการจะเห็นเป็นกลุ่มอาคารแบบนี้ค่ะ ซึ่งในเฟสหลังถ้ามีอาคารตรงบริเวณนี้ก็จะบล็อกวิวพอสมควร
ทิศตะวันตก – ติดกับซอย ลาซาล 52 ซึ่งมีกลุ่มบ้านพักอาศัย 1 -2 ชั้นอยู่ตลอดแนว ถนนที่โครงการตัดเข้าไปจะขนานกับซอยลาซาล 52 เลยค่ะ ซึ่งทางเข้าจะอยู่หน้าที่กลับรถพอดี ถ้ามาจากถนนฝั่งตรงข้ามก็เลี้ยวเข้าโครงการได้เลย
เข้ามาด้านในซอยทางฝั่งซ้ายเป็นที่ดินของโครงการล้อมรั้วอยู่ ทางด้านขวาเป็นที่พักอาศัยแนวราบ
เข้ามาจนสุดซอย ด้านหลังโครงการทางด้านทิศใต้ จะติดกับสำนักงานของบริษัท บี. ที. ที. (ไทยแลนด์) ฝั่งตรงข้ามบริษัทเป็นที่ดินเปล่าที่มีรถใหญ่มาจอดอยู่
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงเรียนลาซาล ~ 400 เมตร
- โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 1.44 กิโลเมตร
- ตลาดดวงพลอย ~ 1.84 กิโลเมตร
- ตลาดลาซาล ~ 2 กิโลเมตร
- Big C และ Major Cineplex ~ 2.4 กิโลเมตร
- CenterPoint Entertainment ~ 3.8 กิโลเมตร
- BITEC บางนา ~ 4 กิโลเมตร
- Central บางนา ~ 4.5 กิโลเมตร
- Paradise Park ~ 4.5 กิโลเมตร
- Seacon square ~ 5.2 กิโลเมตร
- อิมพีเรียลสำโรง ~ 6.3 กิโลเมตร
- Mega บางนา ~ 7.6 กิโลเมตร
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกของโครงการ The Excel Groove (เฟสแรก) เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 182 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว L ใช้โทนสีเทาสลับกับไม้ในการตกแต่ง ทางเข้า-ออกมีทางเดียว เข้าจากถนนภาระจำยอมที่โครงการตัดมาจากถนนซอยสุขุมวิท 105 มีป้อม รปภ. 1 จุด เข้าออกโดยใช้รั้วกั้นกระดก ถัดจากทางเข้าโครงการไปจะเป็น Clubhouse ซึ่งแยก Facilities ทุกอย่างลงมาอยู่ด้านล่าง ส่วนของตัวอาคารอยู่ด้านข้าง Clubhouse โดยชั้นล่างจะเป็น Lobby และ ที่จอดรถ ไม่รวมจอดซ้อนคันจอดได้ประมาณ 66 คัน คิดเป็น 37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 43% มีสวนปลูกแทรกอยู่รอบๆอาคาร ชั้น 2 – 8 จะเป็นส่วนของที่พักอาศัยล้วนๆ ซึ่งการแยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากตัวอาคารทำให้ส่วนพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับแนวความคิดในการออกแบบโครงการคือ “Groove Your Life” คือออกแบบให้ดูสนุก มีลูกเล่นต่างๆ ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เน้นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสมดุลระหว่างการทำงานและความสนุกในชีวิต ตกแต่งภายในด้วยสไตล์ Luxury Loft โครงสร้างของอาคารเป็นแบบ Precast ผนังเป็น Solid wall ของ SCG ซึ่งมีคุณสมบัติกันเสียงได้ดี และแข็งแรงกว่าผนังแบบปกติ
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกของโครงการ บริเวณฝั่งด้านหน้า Clubhouse จะแยกออกมาอยู่ด้านข้าง
ตัวอาคาร ใช้โทนสีขาว-เทา-น้ำตาล ดีไซน์อาคารเรียบๆแบบ Modern แต่มีการออกแบบให้ Facade อาคารให้มีลูกเล่นโดยการยืด-หดผนังอาคารให้ดูมีมิติมากขึ้น
มาดูที่โมเดลกันค่ะ รูปร่างหน้าตาภายนอกโครงการ เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ตกแต่งอาคารในสไตล์โมเดิร์น ทันสมัย ใช้โทนสีเทาสลับกับไม้ มีลูกเล่นของผนังยืด-หด มีห้องพัก 182 ยูนิต มี Clubhouse แยกออกมาอยู่ด้านข้าง ที่จอดรถจะอยู่ใต้และบริเวณรอบๆอาคาร ด้านหลังมีสวนหย่อมอยู่ 1 จุด ส่วน Lobby จะอยู่ที่ชั้น 1
อีกมุมหนึ่งของโมเดลค่ะ Clubhouse จะแยกออกมาอยู่ด้านข้างซึ่งเวลาใครจะลงมาใช้งานก็อาจจะเดินไกลหน่อย แต่ทำให้ส่วนพักอาศัยในอาคารสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ทางเข้าออกมีทางเดียว พอเข้ามาก็จะเจอกับ Clubhouse โดย Facilities ทั้งหมดก็จะมี Lobby , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส และ Coffee Gallery เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน
ฝั่งด้านยาวของตัวอาคาร ฝั่งนี้จะมีพื้นที่สวนหย่อมอยู่ตามแนวยาวของอาคาร
ด้านข้างอาคารฝั่งทิศตะวันตกจะมีสวนหย่อมอยู่ 1 จุด กว้าง 8 เมตร ยาวตามแนวของตัวอาคาร เอาไว้ให้ลงมาเดินเล่นพักผ่อน
อีกมุมหนึ่งของอาคารฝั่งทิศตะวันออกค่ะ
Clubhouse ของโครงการ ที่มีสระว่ายน้ำจำนวน 1 สระ ระบบเกลือขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร ในตัวอาคารชั้นล่างเป็น Playroom หรือห้องสมุด ที่มีชื่อเรียกเก๋ๆว่า Coffe Gallery ส่วนชั้นบน เป็นห้องออกกำลังกาย
ด้านหน้า Clubhouse มีสระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity edge pool
สวนหย่อมจะอยู่ด้านล่างอาคารฝั่งทิศตะวันตก มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาวตามแนวยาวของตัวอาคาร
วีดีโอโครงการ ที่จะเห็น Facilities ส่วนต่างๆในอาคารเพิ่มเติมด้วยค่ะ
มาดู Plan อาคารกันบ้าง จากแบบแปลนของทางโครงการ ทางเข้าโครงการมีอยู่ทางเดียวคือทางจากถนน ภาระจำยอมที่ตัดมาจากถนนซอยลาซาล เข้ามาก็จะเจอกับป้อม รปภ. 1 จุด เข้าออกโดยใช้รั้วกั้นกระดก ถัดจากทางเข้าโครงการไปจะเป็น Clubhouse ซึ่งภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส และ Coffee Gallery ส่วน Lobby และสำนักงานนิติบุคคลจะอยู่ในอาคารชั้น 1 ที่จอดรถจะอยู่ใต้และรอบๆอาคาร โดยจอดแบบไม่รวมจอดซ้อนคันจอดได้ประมาณ 66 คัน คิดเป็น 37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 43% สวนหย่อมอยู่ด้านข้างอาคาร มีพื้นที่กว้างประมาณ 8 เมตรยาวตลอดแนวของอาคาร ในอาคารมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ไม่มีลิฟต์บริการ โดยลิฟต์เป็นลิฟต์ล็อคชั้นค่ะ
ถัดมาที่ชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักล้วนๆ มีจำนวนห้องพัก 26 ห้องต่อชั้น โดยขึ้นมาก็จะเจอกับโถงลิฟต์มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคาร 91 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ห้องขยะจะอยู่บริเวณใกล้ๆกับโถงลิฟต์แต่มีการออกแบบวางผังให้ประตูไม่ชนกับห้องพัก ห้องพักของโครงการนี้จะมีเฉพาะแบบ 1 ห้องนอนขนาด 25 – 30 ตร.ม. โดยห้อง Type A – 25 ตร.ม. เป็นจำนวนห้องที่มีมากที่สุด ส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ทิศนี้จะร้อนหน่อย แต่ก็จะได้วิวสวนและบ้านพักอาศัยไม่มีตึกขึ้นมาบล็อควิว นอกนั้นก็จะมีอยู่ในทิศอื่นๆอย่างละห้อง ส่วน Type B – 27.5 ตร.ม. อยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก ทิศนี้จะได้รับแดดเช้า ส่วนห้อง Type C – 30ตร.ม. จะอยู่มุมของอาคารทางฝั่งที่เป็นฐานตัว L โดยมีแค่ 2 ห้องต่อ1 ชั้น ในส่วนของ Clubhouse ขึ้นมาชั้นบนจะเป็นส่วนของฟิตเนส
ส่วนชั้น 3 – 8 แปลนและการวางตำแหน่งห้องทั้งหมดจะเหมือนกับชั้น 2 ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- ห้อง Playroom หรือห้องสมุด (Coffee Gallery)
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- Jogging Track
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 91 : 1
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถ ไม่รวมจอดซ้อนคันจอดได้ประมาณ 66 คัน คิดเป็น 37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 43%
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Service
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้คือห้อง 25 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุด และ ห้อง 30 ตร.ม. โดยเฟอร์นิเจอร์ของโครงการนี้ให้แบบ Fully Furnished คือให้เฟอร์เกือบทุกอย่าง ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า
เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกกัน คือแบบ 1 ห้องนอน 25 ตร.ม. เมื่อเข้าห้องมาก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียม ในห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง ส่วนในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตและมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าเล็กๆบริเวณปลายเตียง ถัดมาจะเป็นครัวเปิดซึ่งเป็นพื้นที่แยกสัดส่วนออกไป โดยห้องครัวจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัว ขนาดไม่ใหญ่มากเหมาะกับการใช้งานไม่เกิน 1 – 2 คน ด้านข้างเคาน์เตอร์มีพื้นที่ว่างสำหรับให้วางตู้เย็น ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่นั่งรับประทานอาหารเข้ามุมเป็นชุดเล็กๆ 2 ที่นั่ง ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งพอวางคอมเพรสเซอร์แอร์แล้วเหลือพื้นที่ให้ออกไปยืนสูดอากาศเล็กน้อย ส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจนค่ะ
โดยเฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้ในห้องนี้คือ ตู้วางทีวี + ตู้แขวน , โซฟา , เคาน์เตอร์ครัวไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า + อ่างล้างจาน , โต๊ะทานข้าว , เก้าอี้ , ฉากกั้นอาบน้ำ , เตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก , ราวตากผ้า , ตู้เสื้อผ้า , แอร์ 1 ตัว
เปิดเข้าห้องมาก็จะเจอห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบบานอะลูมิเนียมสีดำโดยห้องนี้โครงการจะแถมโซฟา และตู้วางทีวี+ตู้แขวนมาให้ ระยะดูทีวีประมาณ 1.50 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 32 -40 นิ้ว ซึ่งจะเป็นระยะที่พอกับสายตาค่ะ ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี สูง 2.40 เมตร พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อน ทางฝั่งขวาจะเป็นทางเดินไปห้องครัวและห้องน้ำค่ะ
จะมีแถม Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung แบบทาบคีย์การ์ดมาให้ด้วย เนื่องจากห้องตัวอย่างไม่ได้ทำประตูไว้ให้ทางโครงการจึงวางตัวอย่างเอาไว้ให้ดูข้างๆทางเข้าแทน
มุมมองย้อนกลับไปที่หน้าประตู ระยะดูทีวีของห้องนี้ประมาณ 1.50 เมตร
โซฟาที่โครงการแถมให้ค่ะ ใช้วัสดุเป็นหนังเทียมนั่งได้ 2 คน โต๊ะกลางกับตู้ข้างๆไม่ได้แถมให้นะ
ตู้วางทีวีที่โครงการแถมให้ ทั้งตู้ล่างและตู้บน
ตู้ล่างเปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้ค่ะ จะเอาไว้วางหนัง หรือ CD ก็ได้
ส่วนตู้ด้านบนก็มีบางส่วนเป็นชั้น บางส่วนมีหน้าบานปิด เอาไว้้เก็บของกับวางของโชว์เล็กๆน้อยๆ
ตู้ควบคุมไฟของห้องนี้ ยี่ห้อ Kawamura อยู่ผนังด้านข้างตู้วางทีวี
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบบานอะลูมิเนียมสีดำ ซึ่งเวลาเปิดจนสุดก็จะได้ช่องเปิดค่อนข้างกว้างทำให้ห้องดูโปร่ง และยังช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาถึงในห้องนั่งเล่นทำให้ห้องไม่มืดทึบ ระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าเวลาจะใช้ห้องนอนถ้ามีแขกก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวหน่อย ต้องหาม่านสวยๆมาปิดก็จะช่วยได้ค่ะ
มือจับและตัวล็อคตามมาตรฐาน
บานเลื่อนเป็นบานแบบ 3 ตอน รางเลื่อนฝังอยู่บนพื้น เก็บงานด้านข้างด้วยคิ้วไม้สีเดียวกับพื้นไม้ลามิเนต
ระหว่างห้องนั่งเล่น กับ ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบนี้ ด้านข้างทั้งสองฝั่งก็มีระยะเหลือพอสมควร
ในห้องนอนมีแถมเตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก และ ตู้เสื้อผ้า ห้องนี้จะมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงเข้ามาในห้องได้
ด้านข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีระยะเหลือ 50 ซม. ทางฝั่งขวา 46 ซม. ซึ่งเป็นระยะที่พอจะวางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟเล็กๆได้
ปลายเตียงมีระยะเหลือ 75 เซนติเมตร ถ้าอยากจะหาที่วางทีวีแนะนำให้ติดผนังเอาจะช่วยประหยัดพื้นที่ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า เข้ามุมระดับเสมอกับผนัง ด้านบนตู้เสื้อผ้าเป็นตำแหน่งติดตั้งแอร์ของห้องนี้
ตู้เสื้อผ้ามีขนาดกว้าง 1.20 เมตร พอเก็บเสื้อผ้าแต่ถ้าอยากได้เยอะกว่านี้แนะนำให้หาราวแขวนสวยๆมาติดตรงผนังด้านข้างเพิ่มเติม
ห้องนี้จะมีแถมแอร์ 12,000 BTU มาให้แค่ 1 ตัว ถ้าอยากได้เพิ่มเราก็ต้องติดตั้งเพิ่มเอาค่ะ
ออกจากห้องนอนมาก็จะเป็นทางเดินไปห้องครัว เนื่องจากพื้นที่ตรงทางเดินนี้มีระยะ 90 ซม. ซึ่งค่อนข้างแคบจึงปาดมุมผนังให้เฉียงเพื่อทำให้ทางเดินตรงนี้กว้างขึ้น ด้านในเป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ เป็นครัวเปิดเวลาทำอาหารก็จะมีกลิ่นและควันฟุ้งไปทั่วห้อง จึงเหมาะกับคนที่ทำอาหารไม่บ่อย ชอบทำอาหารง่ายๆ หรือ ชอบซื้อมาทาน มากกว่าค่ะ พื้นของห้องครัวเป็นลามิเนตต่อเนื่องมาจากห้องนั่งเล่นซึ่งในแง่ของการใช้งานห้องครัว ซึ่งจะต้องมีการเช็ดล้างทำความสะอาดบ่อย ถ้าเปลี่ยนมาใช้กระเบื้องอาจจะเหมาะสมกว่า
เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดยาว 1.20 เมตร ซึ่งเป็นขนาดสำหรับการใช้งานในคอนโดห้องเล็ก มีคนพักอาศัยไม่เกิน 1 – 2 คน วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้านลามิเนต Top เคาน์เตอร์เป็นลามิเนตแบบกันน้ำ ด้านบนเป็นตู้แบบมีหน้าบานปิด ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องใส่ไมโครเวฟส่วนอุปกรณ์ต่างๆจะแถมให้แต่อ่างล้างจานอย่างเดียวค่ะ ถ้าอยากได้เครื่องดูดควันหรือเตาไฟฟ้าก็ต้องติดเพิ่ม หรือหาเตาไฟฟ้าแบบพกพามาใช้ก็ได้ค่ะ
อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวของ Eve
ด้านข้างเคาน์เตอร์มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่ง แบบหันหน้าเข้าผนัง โครงการจะแถมให้แต่ชุดโต๊ะด้านล่างกับเก้าอี้นะ
โต๊ะสามารถดึงด้านข้างออกมาได้แบบนี้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางของ และมีลิ้นชักเป็นออกมาเก็บของเล็กๆน้อยๆได้
ขาโต๊ะมีลูกเล่นทำให้สามารถวางของพวกขวดซอสต่างๆได้
ถัดจากครัวไปเป็นระเบียง ประตูทางออกไประเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบบานอะลูมิเนียม
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.20 x 1.48 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
มีก๊อกน้ำมาให้เพื่อสำหรับกรณีต้องการจะซักล้าง
พื้นระเบียงลดระดับลงประมาณ 10 ซม.
ด้านบนเป็นพื้นที่สำหรับแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยแขวนแบบเป่าลมเข้าออกข้าง เวลาเรามายืนตรงระเบียงถ้าเปิดแอร์อยู่ก็อาจจะได้รับไอร้อนบ้าง แต่เนื่องจากตำแหน่งอยู่สูงจึงไม่น่าจะกระทบเท่าไหร่
บริเวณระเบียงทางโครงการมีแถมราวตากผ้ามาให้ด้วย
อีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียก เข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ก่อน โดยกระจกส่องหน้าโครงการก็มีให้ขนาดใหญ่แบบนี้เลย แต่จะไม่มีกรอบไม้ให้ ผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคขาวเงา ขนาด 50 x 30 ซม. ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 ซม.
พื้นห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 5 เซนติเมตรค่ะ
อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard หรือเทียบเท่า มีลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของได้เยอะอยู่
ก็อกรูปร่างดูทันสมัยและแข็งแรงดี
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ที่แขวนทิชชู่วางอยู่ในระยะที่เอื้อมมือไปใช้งานได้สะดวก
สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส ค่อนข้างแข็งแรง
อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วย ฉากกั้นอาบน้ำประตูกระจกนิรภัยซึ่งทางโครงการก็แถมให้
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 84 x 72 ซึ่งใหญ่กว่ามาตรฐานเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
ระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง มีทำธรณียกสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง
ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวของ American Standard มาให้ มีที่วางสบู่มาให้ด้วย
ฝักบัวขนาดพอดีมือ ไม่ใหญ่มาก
ต่อมาคือห้อง Type C แบบ 1 Bedroom พื้นที่ 30 ตารางเมตร ห้อง Type นี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุดและมีการจัดวางฟังก์ชั่นแตกต่างจาก Type อื่นที่สุดค่ะ เมื่อเปิดประตูเขาไปในห้องจะเจอห้องขนาดใหญ่พอสมควรที่สามารถจัดฟังก์ชั่นให้เป็น Living room ที่มีส่วนรับประทานอาหาร โซฟานั่งเล่น และโต๊ะเขียนหนังสือได้ ถัดไปเป็นระเบียงกว้างพอสมควร ดังนั้น Living room ห้องนี้จึงค่อนข้างโปร่งและรับแสงได้ดี ติดกันเป็นครัวปิดที่มีห้องน้ำรวมอยู่ในนั้น ซึ่งมีทั้งข้อดี คือ เป็นการรวมส่วน Service เข้าด้วยกัน สามารถจัดการเรื่องงานระบบได้ง่าย และกลิ่นอาหารรวมทั้งกลิ่นห้องน้ำจะไม่ไปรบกวนส่วนอื่นๆแน่นอน แต่ข้อเสียคือ เวลาแขกไปใครมาก็ต้องเข้าห้องน้ำผ่านทางห้องครัวเท่านั้นและการเอาห้องน้ำไว้ในห้องครัวจะต้องดูแลเรื่องการระบายอากาศ รวมทั้งความอับชื้นดีๆไม่งั้นกลิ่นเหม็นจากการทำครัวและกลิ่นห้องน้ำอาจจะตีกันตลบอบอวลได้ ถัดไปเป็นห้องนอนขนาดไม่ใหญ่มากที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไว้ภายในห้องได้สบายๆค่ะ
โดยเฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้ในห้องนี้คือ โซฟา , โต๊ะทานข้าว+เก้าอี้ , ตู้วางทีวี เฉพาะตู้ล่าง , เตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก , ตู้เสื้อผ้า , โต๊ะเครื่องแป้งไม่รวมที่นั่ง , ฉากกั้นอาบน้ำ , แอร์ 2 ตัว
เปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของ ชุดโต๊ะทานข้าว ห้องนั่งเล่น และ โต๊ะทำงาน ถัดไปเป็นระเบียงจึงทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ส่วนนี้ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง อีกฝั่งเป็นห้องครัว ห้องน้ำ และ ห้องนอน พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต ฝ้าเพดานฉาบเรียบเช่นเดียวกับห้องก่อนหน้า
ข้างๆโซฟาทางโครงการมีชุดโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่ง วางเข้ามุมผนังมาให้ ซึ่งระยะถือว่าไม่กว้างมากแต่ก็เป็นการจัดพื้นที่ใช้สอยที่โครงการต่างๆนิยมทำเพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ
โต๊ะทานข้าวขนาด 70 x 70 ซม. เป็นแบบขาโปร่งเหมาะสมกับใช้ในพื้นที่เข้ามุม เก้าอี้ให้มาแบบพนักพิงบุหนังวัสดุค่อนข้างดี พอดึงเก้าอี้ออกมา เก้าอี้ฝั่งที่ติดกับโซฟาจะมีระยะพนักพิงเก้าอี้เกือบติดโซฟาเลย
ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีระยะดูทีวีประมาณ 160 ซม. เหมาะกับวางทีวีขนาด 32″ – 40″
โซฟาที่ได้มีขนาดยาว 1.80 เมตร นั่งได้ประมาณ 2 -3 คน แต่โต๊ะกลางไม่ได้มีให้นะคะ
ตู้วางทีวีที่โครงการแถมให้ เปิดลิ้นชักเก็บของเล็กๆน้อยๆได้ตามภาพ
มุมมองย้อนไปฝั่งหน้าประตูค่ะ ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานข้าวเป็นห้องครัวเป็นครัวปิด พอทำอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสริฟได้เลย
ตู้ควบคุมไฟของห้องนี้ ติดอยู่หน้าประตูค่ะ
ห้องครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ ซึ่งมีข้อดีคือเวลาประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่ออกไปรบกวนส่วนอื่นๆ
พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิค พื้นลดระดับลงจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 ซม.
ในห้องครัวมีเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว I ขนาดยาว 170 ซม. มีระยะจากเคาน์เตอร์ครัวมาผนังประมาณ 90 ซม. เป็นระยะที่พอหมุนตัวหยิบจับอะไรได้สะดวกอยู่ ด้านข้างเคาน์เตอร์มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นกว้างประมาณ 80 ซม. ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์เป็นห้องน้ำ
เคาน์เตอร์ครัวเปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ มีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟอยู่ที่เคาน์เตอร์ล่างค่ะ อุปกรณ์ต่างๆมีแถมให้เฉพาะอ่างล้างจาน ไม่ได้แถมเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันค่ะ
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวยี่ห้อ Eve เช่นเดียวกับห้องแบบ 25 ตร.ม.
ห้องน้ำรูปแบบคล้ายๆกันกับห้องก่อนหน้า แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งเข้ามาเจอกับอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และกระจกบานใหญ่
พื้นห้องน้ำมีลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม.
อ่างล้างหน้าเป็นแบบที่มีลิ้นชักด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่ ซึ่งติดอยู่ด้านหน้าสามารถหยิบจับได้ง่าย
ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วย ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยซึ่งกันน้ำได้ดีและแข็งแรงพอสมควร อันนี้โครงการแถมให้ค่ะ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆทั้งฝักบัว ที่วางสบู่ก็ได้เหมือนห้อง 25 ตร.ม.
ระหว่างส่วนแห้งกับส่วนเปียกมียกธรณีขึ้นสูงประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.72 x 1.48 เมตร ค่อนข้างกว้าง พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 ซม.
ถัดมาจะเป็นห้องนอนอยู่ตรงข้ามกับชุดโต๊ะทำงาน (โครงการไม่ได้ให้) กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
ถัดจากโต๊ะทำงานไปจะเป็นทางออกไประเบียง
ด้านบนประตูมีติดแอร์มาให้โดยห้องนี้จะให้แอร์ทั้ง 2 ตัวยี่ห้อ York
พื้นที่ระเบียงขนาด 2.30 x 1.00 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาวขนาด 30 x 30 ซม.
พื้นระเบียงลดระดับลงมาจากพื้นห้องประมาณ 10 ซม.
บริเวณระเบียงมีพื้นที่สำหรับติดคอมเพรสเซอร์เป่าหันออกมาด้านข้างแบบนี้
มีราวตากผ้ามาให้เช่นกันค่ะ
ห้องสุดท้ายคือห้องนอน ห้องนี้กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งทำให้ห้องดูโปร่งดี แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ให้หาม่านมาปิดเอาค่ะ
มือจับและตัวล็อคแบบมาตรฐาน
ในห้องวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ ด้านข้างเตียงมีหน้าต่างบานใหญ่ทำให้มีแสงเข้ามาในตัวห้อง
ข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่แบบนี้ค่ะ โดยเลื่อนได้แค่ช่วงข้างบนด้านล่างจะเป็นบาน Fix
ทางฝั่งซ้ายของเตียงวางค่อนข้างจะติดผนังโดยมีระยะเหลือ 30 ซม. ส่วนทางด้านขวามีระยะเหลือ 50 ซม. พอวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆได้
ปลายเตียงมีระยะเหลือ 50 ซม. ไม่สามารถวางตู้ปลายเตียงได้ ถ้าอยากวางทีวีให้ติดผนังจะดีกว่าค่ะ
ข้างๆเตียงอีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้า และ โต๊ะเครื่องแป้ง
โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของได้ แต่ไม่ได้ให้เก้าอี้สตูลนะ
ตู้เสื้อผ้าขนาดยาว 1.20 เมตร หน้าบานเป็นบานเลื่อนมีติดตั้งกระจกไว้ด้านหน้าซึ่งสามารถใช้สำรวจความเรียบร้อยเวลาแต่งตัวได้
หน้าตาปลั๊กและสวิทซ์ ของ bticino ค่ะ
ห้อง Type B แบบ 1 Bedroom พื้นที่ 27.50 ตารางเมตร ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished เช่นกัน โดยห้องนี้จะมีการจัดวางฟังก์ชั่นเหมือนห้อง Type A เพียงแต่มีพื้นที่เพิ่มขึ้นและมีการปรับฟังก์ชั่นบางส่วน โดยขนาดของห้องครัวจะแคบลง และเพิ่มพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้มากขึ้น ห้องนั่งเล่นใน Type นี้จึงมีพื้นที่พอที่จะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ค่ะ ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆอย่างห้องนอนก็ใหญ่ขึ้นพอที่จะวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งมีพื้นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์ และส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจนค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 03 May 2016
ราคายังอยู่ในระหว่างอนุมัติ ซึ่งจะอัพเดตเพิ่มเติมในภายหลังจากช่วงเปิดตัวโครงการ pre-sale ในวันที่ 28 – 29 พฤษาคม 59 ค่ะ
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง n/a บาท (รออัพเดตข้อมูลวัน pre-sale)
- ทำสัญญา n/a บาท (รออัพเดตข้อมูลวัน pre-sale)
- ดาวน์ 10%
- ค่ากองทุน 600 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ The Excel Groove ตั้งอยู่ในทำเลช่วงลาซาล-แบริ่ง ด้านข้างซอยลาซาล 52 โดยทางเข้าต้องเข้าจากทางถนนภาระจำยอมที่ตัดมาจากถนนซอยลาซาล การเข้าถึงโครงการถ้าเข้าซอยมาจากปากทางสุขุมวิทถือว่าลึกพอสมควร โดยห่างจากรถไฟฟ้า BTS แบริ่งประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ถ้าเข้าจากทางถนนศรีนครินทร์จะเข้ามาประมาณ 600 เมตร ซึ่งไม่ใช่ระยะเดิน คงต้องอาศัยการขับรถยนต์ นั่งพี่วิน หรือไม่ก็พึ่งบริการ Shuttle Service จากโครงการ ซึ่งสถานีที่จะรับส่งต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในอนาคต สภาพแวดล้อมในซอยค่อนข้างคึกคักเนื่องจากมีทางลัดเชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ทำให้มีรถผ่านตลอดเวลา และแน่นอนว่าเมื่อเป็นซอยทางผ่านที่มีปริมาณรถหนาแน่น ความอุดมสมบูรณ์ก็มาตามปริมาณรถ สองข้างทางของซอยลาซาลมีของกินของใช้หลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7Eleven, Family Mart, ตลาด, ร้านขายยา และร้านอาหารหลากหลาย สภาพแวดล้อมโดยรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น อพาร์ทเม้นท์ ที่ดินเปล่า และมีบ้านพักอาศัยบ้างประปราย
การเดินทางโดยใช้รถ เดินทางสะดวกมาก ทางเลี่ยงทางลัดเยอะ สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง เวลาเส้นทางหลักติดมากๆ มีทางด่วนให้ใช้เป็นหลักก็คงเป็นด่านบางนา น่าเสียดายที่แม้จะสะดวกต่อการใช้รถมาก แต่เค้าจัดที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วได้มาที่ 43% ซึ่งถ้าเกิดกลุ่มลูกบ้านมีรถยนต์ส่วนตัวกันเยอะ อาจจะมีปัญหาหากบริหารจัดการเรื่องที่จอดรถกันไม่ดี
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่จึงสามารถเดินมาเรียกรถได้ง่าย โดยเฟสที่เปิดขายจะเป็นเฟสแรกซึ่งอยู่ด้านในโครงการเดินไกลสุด ตัวซอยลาซาลนั้นมีการสัญจรพลุกพล่าน จึงสามารถหา Taxi ได้เรื่อยๆ และมีพี่วินให้เรียกใช้มากมาย น่าเสียดายที่ไกลเกินระยะเดินไป BTS ไม่งั้นจะสะดวกกว่านี้มาก แต่ดีที่ทางโครงการเขามี Shuttle Service รับส่งที่สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งคงจะพอช่วยให้ลูกบ้านสบายได้ในช่วงที่ Shuttle Service ยังให้บริการ แต่ถ้าค่ำๆ หรือเช้ามากๆ คงต้องเรียกรถเองค่ะ
วัสดุที่ให้มาถือว่าให้ตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางเยอะสำหรับคอนโดราคานี้ โครงการขายแบบ fully furnished ค่อนข้างจัดเต็มแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้มีดีไซน์และวัสดุค่อนข้างดีเกินราคา ทั้งตู้วางทีวี-ตู้ใส่ของแบบลอยตัว, โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, เตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก, ตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนเปิด-ปิดได้, ชุดครัว Built-in ที่ให้ซิ้งค์ล้างจานมาให้ , พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ และสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ให้ของ American Standard
การออกแบบถือว่า ทำออกมาค่อนข้างดี ตัวอาคารมีการเล่นระดับของผนังให้ยืดหดดูมีมิติ การวางผังของอาคารชอบตรงที่จัดพื้นที่ส่วนกลางแยกออกมาด้านล่าง ถึงแม้ว่าเวลาตอนเราใช้งานจะเดินไกลแต่ก็จะลดปัญหาชั้นที่มีคนเดินไปมาใช้ Facilities จนรบกวนความเป็นส่วนตัวได้ ห้องพักมีให้เลือกแค่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 – 30 ตร.ม. ซึ่งคิดว่าน่าจะทำมาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเรียน หรือ คนวัยทำงาน การวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องดูเป็นสัดส่วนดี
สาธารณูปโภคมีให้ทั้ง Lobby , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส และ พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน Coffee Gallery ลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว ไม่มี Service Lift มีบันไดหนีไฟ 2 จุด ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานทั่วๆไป ถือว่ามีมาให้ครบถ้าดูจากราคาเริ่มต้นก็ถือว่าให้มาค่อนข้างโอเค แต่เนื่องจากโครงการยังไม่เปิด pre-sale รู้แต่ราคาเริ่มต้นและยังได้ข้อมูลบางส่วนไม่ครบถ้วน ในเรื่องของความคุ้มราคากับราคาจึงขอติดไว้ก่อนนะคะ
Judgement
เนื่องจากรีวิวนี้ทางทีมงานได้เก็บข้อมูลก่อนที่จะเริ่มเปิดขาย (pre-sale) ทำให้ไม่มีในส่วนของราคาและรายละเอียดบางส่วนยังไม่ครบถ้วน จึงยังนำมาสรุปและให้คะแนนไม่ได้ โดยทางทีมงานจะอัพเดตส่วนที่เหลือหลังจากที่ได้ราคามาแล้วเรียบร้อยค่ะ
BOTTOM LINE
The Excel Groove เป็นโครงการที่เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านลาซาล-แบริ่ง-บางนา ทำงาน เรียน หรือใช้ชีวิตอยู่ในละแวกนี้ ยอมขยับเข้ามาอยู่ในซอยเพื่อให้ได้ห้องราคาหยิบจับง่ายขึ้น แต่ยังเป็นระยะที่พอนั่งมอเตอร์ไซค์หรือสองแถวไปปากซอยต่อ BTS ได้ไม่ลำบากนัก มี Facility ส่วนกลางให้ใช้บ้าง ชอบงานดีไซน์แบบทันสมัย มีงบประมาณล้านต้นๆ
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
