Supalai Wellington 2 คอนโด High Rise 7 อาคาร โปรห้อง 42 ตร.ม. 2.75 ล้านบาท พร้อมรถรับ-ส่ง MRT ศูนย์วัฒนธรรม จาก ศุภาลัย [รีวิวฉบับที่ 2298]

 Supalai Wellington 2 (ศุภาลัย เวลลิงตัน 2) ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2564

พิกัด Google Maps : 13.76625965439585, 100.5812914837942
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Supalai Wellington 2 ตั้งอยู่บนถนนเทียมร่วมมิตร บริเวณสามเหลี่ยมตัดกับถนนวัฒนธรรม อาคารส่วนใหญ่ในทำเลนี้เป็นอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงานและที่พักอาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบอยู่ด้วยกัน เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านรัชดาฯ – ห้วยขวาง ไปจนถึงแยกลาดพร้าว หรืออโศก ก็สามารถเดินทางได้สะดวก

สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ก็สามารถใช้เส้นรัชดาภิเษกเดินทางขึ้นเหนือไปออกถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนลาดพร้าวได้ หรือจะใช้ถนนเส้นประชาอุทิศไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม, เลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งเป็นอีกย่านที่มีความคึกคักสูง และลงใต้ไปเชื่อมต่อกับถนนพระราม9 – ดินแดง หรือไปยังอโศก ถึงถนนสุขุมวิทได้ในระยะทางไม่ไกล แต่อาจจะมีรถติดบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วนของวันค่ะ

การเดินทางไปโครงการจะต้องทำความเข้าใจถนนเส้นนี้สักนิดนะคะเนื่องจากเป็นถนน One way เมื่อเดินทางไปยังโครงการจะต้องเดินทางผ่านถนนเทียมร่วมมิตรเส้นประสีแดงเท่านั้น และเมื่อออกจากโครงการแล้วจึงสามารถเลือกเดินทางตามเส้นประสีน้ำเงินเพื่อไปออกถนนประชาอุทิศ หรือถนนวัฒนธรรมเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกได้

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ สามารถเดินทางได้ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ หรือเรียก Taxi ด้านหน้าโครงการได้เลยซึ่งปกติจะมี Taxi จอดรออยู่แล้วค่ะ หรือถ้าใครต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จะมีสถานี MRT ที่อยู่ใกล้ๆคือ สถานีศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งทางโครงการมี Shuttle Van รับ – ส่งลูกบ้านให้ด้วย (รายละเอียดเวลาการรับ-ส่ง สอบถามเพิ่มเติมจากโครงการนะคะ) ซึ่งผู้เขียนคิดว่าที่โครงการรับ – ส่งที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมเพราะว่าเป็นสถานีที่ใกล้กับอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าหลายแห่ง ลูกบ้านสามารถนั่ง Shuttle Van ไปทำงานได้เลยค่ะ ดังนั้น ทำเลโครงการนี้ถือว่าตอบโจทย์ทั้งคนที่ใช้รถยนต์และรถสาธารณะเลย

ความอุดมสมบูรณ์

ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็ถือว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียวค่ะ เนื่องจากถนนรัชดาภิเษกเป็นย่านอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และติดรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษก ซึ่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆของทำเลนี้จะอยู่ที่บริเวณแยกรัชดาฯ-พระราม 9 และบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว

จะสังเกตได้ว่าจะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้กับทั้ง 2 แยก ฝั่งพระราม 9 เองก็มี Project ใหญ่ที่ G Land ได้เข้ามาพัฒนาอย่าง Grand Rama 9 ซึ่งจะมีทั้ง G Tower ด้านล่างมีร้านค้า ร้านอาหารและสามารถเดินเชื่อมกับ Central Plaza พระราม9 ได้, อาคาร Unilever House นอกจาก Project ใน Grand Rama 9 แล้วถนนรัชดาภิเษกเองก็มีสำนักงานระดับดีอย่างอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, AIA Capital Center , RS Tower, CW Tower อาคารสำนักงานขนาดใหญ่บริเวณแยกเทียมร่วมมิตรใกล้กับโครงการ

ในส่วนของย่านห้าแยกลาดพร้าวเองก็เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี ซึ่งมีอาคารสำนักงานขึ้นอยู่หลายอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคาร SJ Infinite one , อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย, Sun Tower , อาคารเล้าเป้งง้วน, สำนักงานใหญ่ Bangkok Airways, สำนักงานใหญ่ Thai Airways และสำนักงานไทยรัฐ เป็นต้น ซึ่งจากโครงการก็สามารถเดินทางไปได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT เพียงไม่กี่สถานีเท่านั้นค่ะ

ศูนย์การค้าต่างๆก็กระจายตัวอยู่ตลอดทั้งเส้นถนนรัชดาภิเษกไปจนถึง 5 แยกลาดพร้าวเลยค่ะ มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง Central Plaza พระราม 9, Fortune Town ที่มีทั้งโรงแรมและส่วน Shopping อยู่ในตัว สามารถเดินทางมาสะดวก โดยขึ้น MRT สถานีพระราม 9 และอีกแหล่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันคือ บริเวณสถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า Esplanade รัชดาฯ ที่มีร้านอาหาร รวมถึงลานเล่นสเก็ตน้ำแข็ง โยนโบว์ลิ่ง ร้องคาราโอเกะ ครบครัน ด้านหลังยังมีตลาดนัดรถไฟ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนที่มากรุงเทพฯแล้วจะต้องมาเดินให้ได้เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมี Supermarket อย่าง Big C Extra ที่เป็นแหล่งทานข้าวของชาวออฟฟิศในแถบนี้ และมี Community Mall สไตล์ชิคๆอย่าง The Street ที่มีบางส่วนเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มีคนตลอดเวลาไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน

ในส่วนของสถานศึกษาในย่านนี้ก็มีอยู่เยอะมากๆเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่างเช่น KIS International School, Regent’s International School Bangkok, Singapore international School Bangkok, Shrewsbury International School Bangkok (Campus), Lycée Français International de Bangkok เป็นต้น รวมถึงโรงเรียนภาคปกติเช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการรัชดา , โรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก, โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี, โรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ และยังมีมหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย , มหาวิทยาลัยชินวัตร, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ St. John’s University

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

เนื่องจากโครงการ Supalai Wellington 2 อยู่ติดกับถนนใหญ่ทำให้สภาพแวดล้อมมีความคึกคักสูง มีวินมอเตอร์ไซค์ Taxi ผ่านไป – มาค่อนข้างเยอะเลยค่ะ อีกทั้งยังมีรถของผู้ที่เดินทางไปทำงานในย่านรัชดาฯทำให้ถนนเส้นนี้มีรถผ่านตลอดทั้งวัน และรถติดบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ก็มีข้อดีสำหรับผู้ที่เดินบนทางเท้าทำให้ไม่เปลี่ยวค่ะ

ถ้าพูดถึงวิวรอบๆโครงการแล้วจะไม่เจอกับอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดค่ะ ส่วนใหญ่เป็นวิวเปิดโล่ง มีอาคารสูงประมาณ 2 – 6 ชั้นอยู่รอบๆโครงการ ยกเว้นทางทิศตะวันตกที่จะหันไปเจออาคาร Supalai Wellington ด้านข้างแต่ถือว่าเป็นห้องส่วนน้อยมากๆค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนเทียมร่วมมิตร ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสูง 2-6 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารสูงประมาณ 2 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ อาคารสูงประมาณ 2 ชั้น สามารถมองเห็นถนนเทียมร่วมมิตรอีกฝั่งได้
• ทิศตะวันตก ติดกับ คลองชวดบางจาก และ Supalai Wellington สูง 19 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

ห้างสรรพสินค้า/ตลาด

• Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 1.3 กิโลเมตร
• The Street รัชดาฯ ~ 2.7 กิโลเมตร
• Super Market Golden Place สาขาพระราม 9 ~ 2.8 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลปิยเวช ~ 4.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 6.5 กิโลเมตร

สถานศึกษา

• KIS International School ~ 1.4 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 8.5 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

• ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 900 เมตร
• กระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 900 กิโลเมตร
• MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 1.5 กิโลเมตร
• RS Tower ~ 1.6 กิโลเมตร
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ~ 2 กิโลเมตร

โครงการ Supalai Wellington 2 เป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม High Rise สูง 14 ชั้น 7 อาคาร จากบริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) ตั้งอยู่ด้านข้างโครงการ Supalai Wellington แห่งแรกเลยค่ะ ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 2 โครงการคือในโครงการ Supalai Wellington แรกจะเน้นห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ 2 Bedroom ขนาด 76 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง Penthouse 4 Bedroom ขนาดประมาณ 250 ตร.ม. มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 6.48 ล้านบาท(โปรโมชัน 4.99 ล้านบาท) แต่โครงการ Supalai Wellington 2 นี้จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 42 ตร.ม. ที่ทำราคาออกมา 2.75 ล้านบาทเท่านั้นค่ะ

ชมวิดิโอเพิ่มเติม คลิก

•  Supalai Wellington
• Supalai Wellington 2

แต่ละอาคารมีการออกแบบด้วยแนวคิด Modern English Style มีพื้นที่เปิดโล่งกว่า 64% วางผังเป็นอาคารพักอาศัย 7 อาคาร ล้อมรอบอาคารส่วนกลาง 3 ชั้น 1 อาคารอยู่ตรงกลาง บนที่ดินประมาณ 12.5 ไร่ และมีพื้นที่ Lobby เชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ส่วนกลาง และร้านค้าเกือบทุกอาคารเลยค่ะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านเนื่องจากมีร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ ร้านซักรีด ฯลฯ อยู่ภายในโครงการเลย ซึ่งแต่ละอาคารจะมีรายละเอียดพื้นที่ส่วนกลาง ดังนี้

• อาคาร 1 : Snooker Room
• อาคาร 2 : Play Room
• อาคาร 3 : Library Room
• อาคาร 4 : Table Tennis Room
• อาคาร 5 : Multi Function Room
• อาคาร 6 : Bridge & Chess Room
• อาคาร 7 : Tutor Room

ทางเข้า-ออกของโครงการเชื่อมต่อกับถนนเทียมร่วมมิตร เข้ามาแล้วจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าหลักของโครงการ ซึ่งลูกบ้านสามารถผ่านเข้า-ออกได้โดยใช้ Key Card ส่วนแขกหรือผู้ที่มาใช้บริการร้านค้าภายในจะสามารถจอดรถได้ตามเงื่อนไขนะคะ

• ไม่มี E-Stamp
  – จอดฟรี 1 ชั่วโมง
  – เกิน 1 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 50 บาท (รถยนต์)
  – เกิน 1 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 20 บาท (มอเตอร์ไซค์)
• มี E-Stamp
  – จอดฟรี 3 ชั่วโมง
  – เกิน 3 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 20 บาท (รถยนต์)
  –  เกิน 3 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 10 บาท (มอเตอร์ไซค์)

การเดินรถภายในโครงการเป็นการเดินรถทางเดียววนรอบอาคารส่วนกลาง ซึ่งภายในอาคารส่วนกลางนั้นแบ่งออกเป็นที่จอดรถสูง 3 ชั้น แต่ถ้าใครไม่ต้องการจอดรถในอาคารก็สามารถจอดรถที่ช่องจอดใกล้กับอาคารพักอาศัยได้ โดยรวมแล้วมีที่จอดรถประมาณ 57 % รวมจอดซ้อนคัน ส่วนด้านบนชั้นดาดฟ้านั้นจะเป็นพื้นที่ Facility ที่ลูกบ้านทุกอาคารมาใช้งานร่วมกันได้สะดวกค่ะ

• สระว่ายน้ำ ระบบ เกลือ ขนาด 39.40 x 10.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งสระเด็กด้านข้าง
• Fitness มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 15 เครื่อง
• Sauna ห้องน้ำแยกชาย – หญิง
• สวนและทางเดินรอบอาคาร (ชั้น 1)
• สนามเด็กเล่น (พื้นที่สีเขียวส่วนกลาง)

บรรยากาศภายในโครงการจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

ด้านหน้าโครงการ Supalai Wellington 2 ติดกับถนนเทียมร่วมมิตร ซึ่งถ้าใครผ่านไปผ่านมาบนถนนเส้นนี้อยู่แล้วมักจะมองเห็นกลุ่มคอนโดมิเนียมสูงหลายอาคารซึ่งก็คือโครงการ  Supalai Wellington &  Supalai Wellington 2 นั่นเองค่ะ ด้านหน้าทางเข้าจะมีรูปปั้นสิงโตมองเห็นได้ชัดเจน เป็นเอกลักษณ์ของโครงการนี้เลย

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับตู้โทรศัพท์ในประเทศอังกฤษ ตามสไตล์ Modern English เป็นป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตรงกลาง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ แบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจนโดยจะมี รถยนต์ของลูกบ้านสามารถผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access ผ่านรั้วไม้กันกระดกทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

เข้ามาแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงเพราะทางโครงการมีป้ายบอกชื่ออาคารค่ะ

ที่จอดรถของโครงการสามารถจอดได้ที่อาคารส่วนกลางสูง 3 ชั้น และช่องจอดรอบๆอาคารพักอาศัยได้เลย โดยรวมแล้วสามารถจอดได้ประมาณ 57% ซึ่งก็ถือว่าพอดีๆ เพราะโครงการนี้เขามีรถ Shuttle Van รับ-ส่งลูกบ้านที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์วัฒนธรรมด้วยค่ะ

หน้าตาของรถ Shuttle Van 2 คัน สำหรับบริการรับ-ส่งลูกบ้านโครงการ Supalai Wellington 2  ที่ MRT ศูนย์วัฒนธรรม

ขึ้นมาที่ชั้น 1 รอบๆอาคารส่วนกลางจะมีพื้นที่สีเขียวและทางเดินรอบอาคาร สามารถมาวิ่ง Jogging หรือเดินเล่นออกกำลังกายกันได้ค่ะ โดยรอบๆจะมีการตกแต่งสวนที่แตกต่างกันไป มีมุมนั่งพักอยู่เป็นระยะๆ บรรยากาศเหมือนสวนขนาดย่อมและเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าด้านในโครงการด้วยค่ะ

อาคารส่วนกลางมีความสูง 3 ชั้น ซึ่งจะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถ 2 ชั้นและที่จอดรถใต้ดิน ลดระดับลงเล็กน้อยอีก 1 ชั้น และมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ดาดฟ้า เราสามารถเดินขึ้นบันได หรือขึ้นลิฟต์ที่อาคารสีแดงเพื่อไปใช้งาน Facility ด้านบนได้

บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินขึ้นไปยัง Facility ชั้นบน เป็นอาคารที่ล้อมรอบด้วยกระจกดูแปลกตาดีค่ะ

เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ลานอเนกประสงค์ ห้อง Fitness และสระว่ายน้ำ

บรรยากาศบริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารส่วนกลางจะเป็นลานกว้างสามารถมองเห็นอาคารพักอาศัยที่ล้อมอยู่ได้ แบ่งเป็นพื้นที่สวนหย่อมสำหรับนั่งพักผ่อน และสระว่ายน้ำทางด้านขวามือค่ะ

ฝั่งซ้ายมือมีที่นั่งเป็นเหมือนศาลาพักผ่อนตั้งอยู่หลายจุดล้อมรอบด้วยต้นไม้ ลูกบ้านสามารถเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งชมวิวริมสระว่ายน้ำและได้ความเป็นส่วนตัว

ฝั่งขวามือมีเก้าอี้นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ มาให้ 6 ตัว สามารถวางของใช้ หรือมานั่งรอเด็กๆว่ายน้ำเล่นกันได้ พร้อมร่มช่วยบังแดดบรรยากาศเหมือนกับนั่งเล่นริมทะเลค่ะ

ส่วนสระว่ายน้ำเป็นสระแบบ Infinity – Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 39.40 x 10.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร มีสระเด็กด้านใน ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ มีความยาวมากกว่า Half Olympic สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง

ภายในห้อง Fitness แบ่งเป็น 2 โซน คือ Weight Training ทางซ้ายมือ Cardio Training ทางด้านขวามือ มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 15 เครื่อง ภายในห้องมีความโปร่งจากผนังกระจกทั้ง 3 ด้าน ไม่อึดอัด เหมาะกับการออกกำลังกาย

ภายในห้องน้ำชาย – หญิง มีตู้ Locker มาให้เยอะทีเดียวค่ะ รองรับการใช้งานของลูกบ้านพร้อมๆ กันได้หลายสิบคนเลย ด้านข้างยังมีเคาน์เตอร์กระจกสามารถแต่งหน้าแต่งตัวได้สะดวก และมีห้อง Sauna ให้ใช้งานผ่อนคลายหลังออกกำลังกายกันค่ะ

ส่วนของห้องน้ำก็มีทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำมาให้ เผื่อใครที่มาว่ายน้ำอยากอาบน้ำก่อนกลับห้องก็ทำได้เลย

ส่วนถนนรอบๆโครงการแม้จะเป็นเส้นทางการเดินรถทางเดียวแต่ก็มีความกว้างประมาณ 6 เมตร ให้ขับรถ และเข้าช่องจอดใต้อาคารได้สบายๆ

ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งก็คือสนามเด็กเล่นนั่นเองค่ะ สนามเด็กเล่นจะอยู่บริเวณพื้นที่สีเขียวหน้าอาคาร 2 มีเครื่องเล่นมาให้ 4 ชนิด มีพื้นที่ให้ลูกบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวคุณพ่อ คุณแม่พาเด็กๆ มาวิ่งเล่นได้

หน้าตาอาคารพักอาศัย 1 – 7 จะมีความเหมือนกันทุกๆ อาคารเลยค่ะ สามารถจอดรถด้านล่างได้ และเข้าไปแล้วจะเจอกับ Lobby และห้อง Facility ที่มีฟังก์ชันแตกต่างกันไป

ภายใน Lobby มีการออกแบบคล้ายกันทุกอาคารเลยค่ะ ซึ่งเราได้เก็บภาพมาให้ชมกัน 2 อาคารนะคะ มีความแตกต่างกันที่โทนสีที่ใช้ในการตกแต่งเท่านั้นเอง ภายใน Lobby มีเจ้าหน้าที่ดูแลประจำอาคารอยู่ด้วย แบ่งที่นั่งออกเป็น 2 ฝั่ง ไว้สำหรับนั่งพักผ่อน รอของ Delivery ได้ นอกจากนั้นยังมีรถเข็นอำนวยความสะดวกในการขนของชิ้นใหญ่ด้วยค่ะ

จาก Lobby จะเข้ามาภายในโถงลิฟต์ได้ต้องใช้ Key Card Access หรือติดต่อลูกบ้านผ่านทาง VDO Door Phone ให้เขากดเปิดประตูให้ได้โดยไม่ต้องใช้บัตร บรรยากาศภายในโถงลิฟต์ยังได้กลิ่นอายความ Modern English จากการตกแต่งด้วยเส้นลวดลายโค้ง โคมไฟระย้าและช่องแสงด้านข้าง

ลิฟต์โดยสารมีอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 78 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมาก ส่งผลให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานนั่นเองค่ะ

ด้านข้างโถงลิฟต์ก็จะมีห้อง Mail Box ให้ลูกบ้านภายในอาคารนั้นๆ หยิบจดหมายก่อนขึ้นห้องพักอาศัยได้สะดวก

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย มีการตกแต่งแตกต่างจากชั้น 1 โดยมีการเลือกใช้ผนังลายอิฐ ซึ่งโถงลิฟต์ในทุกๆชั้นจะมีประตูกั้นโถงทางเดินห้องพักอาศัยมาให้ ข้อดีคือทำให้ห้องพักอาศัยไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากโถงลิฟต์ แต่ก็แลกกับการที่โถงทางเดินไม่ได้รับแสงธรรมชาติจากข้างนอกค่ะ

บรรยากาศภายในโถงทางเดินห้องพักอาศัยค่อนข้างมืดนิดนึงนะคะ เพราะว่าไม่มีช่องเปิดและช่องแสงที่โถงทางเดินเลย ทำให้ต้องเปิดไฟตลอดทั้งวัน

ถัดมาเรามาดูห้อง Facility ที่อยู่ในอาคารต่างๆกันนะคะ เริ่มจากอาคาร 1 เป็นห้อง Snooker Room มีโต๊ะและอุปกรณ์ Snooker มาให้ครบลูกบ้านทุกอาคารสามารถมาใช้งานได้ จะนัดเพื่อนๆมาเล่น หรือเล่นกันเป็นครอบครัวก็ได้นะคะ

ที่อาคาร 2 เป็นห้อง Play Room สำหรับเด็กเล่นเพิ่มเติมขึ้นมาจากสนามเด็กเล่นภายนอกค่ะ ทำให้เด็กๆมีพื้นที่นั่งเล่นได้ตลอดทั้งวันแม้ว่าจะฝนตก แดดร้อน ซึ่งภายในห้องมีเครื่องเล่นเด็ก และปูเบาะโฟมมาให้ช่วยป้องกันอันตรายจากการหกล้มให้เด็กๆด้วย

อาคารที่ 3 เป็นห้อง Library Room เหมาะกับการมานั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน Work From Home ก็มาใช้ห้องนี้ได้นะคะ

ถัดมาอาคารที่ 4 มีห้องปิงปองพร้อมอุปกรณ์ครบเพิ่มกิจกรรมออกกำลังกายให้ลูกบ้านเลือกใช้งานได้มากขึ้น

ที่อาคาร 5 เป็นห้อง Multi Function Room ถือว่าเป็นห้องอเนกประสงค์เหมาะกับการมานั่งพูดคุยธุระ หรือนั่งทำงานได้ค่ะ

ถัดมาที่อาคาร 6 จะมีห้อง Bridge & Chess Room เป็นห้องสำหรับเล่นเกมเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน มีกระดานหมากรุกและตาราง X/O ไว้ให้เล่นด้วยค่ะ

อาคารสุดท้ายเป็นห้อง Tutor Room การใช้งานคล้ายๆกับห้อง Library Room และ Multi Function Room ค่ะ สามารถลงมานั่งอ่านหนังสือ พูดคุย หรือว่าจับกลุ่มติว ทำงาน ประชุมงานต่างๆได้

นอกจาก Facility ภายในอาคารแล้วยังมีร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมในแต่ละอาคาร ซึ่งข้อดีก็คือลูกบ้านสามารถมาใช้บริการได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก แต่ก็จะแลกกับที่คนภายนอกก็สามารถเข้ามาใช้งานร้านต่างๆได้เช่นกันค่ะ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกบ้านเสียความสงบ ความเป็นส่วนตัวไปบ้าง แต่ได้ความสะดวกสบายมาทดแทน

ร้านค้าต่างๆภายในโครงการมี ดังนี้

• อาคาร 1 : สำนักงานโครงการ
• อาคาร 2 : 7- Eleven
• อาคาร 3 : ร้านทำผม
• อาคาร 4 : ร้านกาแฟดอยช้าง, ร้านฝากซื้อ ขาย เช่าห้องพักอาศัย
• อาคาร 5 : ร้านบริการนวด, ร้านซัก อบ รีด
• อาคาร 6 : ไม่มี
• อาคาร 7 : ไม่มี

ก่อนจะไปชมผังห้องพักอาศัยเรามาดูกันว่าแต่ละอาคารนั้นมีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใครบ้างกันค่ะ

• อาคาร 1 เป็นอาคารที่อยู่ด้านขวาสุดแยกออกมาจากอาคารอื่นๆ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบความพลุกพล่าน แต่ยังใกล้กับทางเข้า – ออก สามารถเดินออกไปเรียกรถด้านหน้าโครงการได้ง่าย จะมองเห็นวิวถนนเทียมร่วมมิตร และบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น ถือว่าได้วิวค่อนข้างโล่งค่ะ
• อาคาร 2 – 3 เป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าใกล้กับทางเข้า – ออกมากที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการเดินเข้า- ออกง่ายๆ แต่ก็จะแลกกับความพลุกพล่าน มีรถผ่านบ่อยๆนั่นเองค่ะ อาคาร 2 – 3 ฝั่งด้านนอกจะมองเห็นวิวถนนเทียมร่วมมิตร ส่วนฝั่งด้านในอาคาร 2 จะเห็นวิวสนามเด็กเล่นพื้นที่สีเขียว และอาคาร 3 มองเห็นวิวสระว่ายน้ำที่อาคารส่วนกลางได้ค่ะ
• อาคาร 4 – 5 เป็นอาคารที่อยู่ฝั่งซ้ายของโครงการ ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถเดินไปใช้งานอาคารส่วนกลางได้สะดวกเหมือนกับอาคารอื่นๆ  อาคาร 4 ด้านนอกมองเห็นวิวถนนเทียมร่วมมิตร ฝั่งด้านในไม่เน้นวิวมากนัก มองเห็นอาคาร 5 และถนนภายในโครงการค่ะ ส่วนอาคาร 5 ฝั่งด้านนอกมองเห็นวิวคลองชวดบางจาก และฝั่งด้านในมองเห็นวิวอาคารส่วนกลาง
• อาคาร 6 – 7 เป็นอาคารที่อยู่ด้านในสุดของโครงการ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน และได้วิวด้านนอกโล่ง มองเห็นอาคารสูง 2 ชั้น และถนนเทียมร่วมมิตรอีกฝั่งหนึ่งได้ ส่วนด้านในมองเห็นพื้นที่สีเขียวและอาคารส่วนกลางค่ะ

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 14 เป็น Typical Floor Plan วางผังเหมือนกันหมดทุกชั้นและทุกอาคารเลยค่ะ แต่จะมีความแตกต่างแค่การสลับซ้าย – ขวาที่ไม่เหมือนกันเท่านั้นเองค่ะ ตัวอาคาร  มีทั้งหมด 12 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งมีการออกแบบให้เป็นรูปตัว I มีโถงลิฟต์อยู่เกือบกึ่งกลางอาคาร ได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor มีประตูกั้นระหว่างโถงทางเดินและโถงลิฟต์ ทำให้โซนพักอาศัยได้ความสงบ แต่ก็จะไม่ได้แสงธรรมชาติเข้าไปที่โถงทางเดินค่ะ

ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 42.00 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องที่มีขายอยู่ในปัจจุบันค่ะ ส่วนห้องมุมอาคารที่เป็นสีฟ้า ขนาด 45.00 ตารางเมตร และห้องสีน้ำตาล 66.50 ตารางเมตรนั้น Sold out ไปเรียบร้อยแล้ว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse ประกอบด้วย

• สวนหย่อมที่ชั้น 1 และชั้นดาดฟ้า
• สระว่ายน้ำ Infinity – Edge Pool ระบบ เกลือ ขนาด 39.40 x 10.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย เครื่องออกกำลังกายประมาณ 15 เครื่อง
• Sauna ในห้องน้ำชาย – หญิง
• พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน

โครงการ  Supalai Wellington 2 มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

• ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท
• ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.00 ตร.ม. (Sold out)
• ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 66.50 ตร.ม. (Sold out)

ปัจจุบันเหลือห้องพักอาศัยแบบเดียวคือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตารางเมตร ซึ่งก็ถือว่าเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆในทำเล รัชดาฯ – ห้วยขวาง และราคาต่อตารางเมตรค่อนข้างคุ้มค่า ทำออกมาอยู่ที่ 65,000 บาท/ตารางเมตร

มีรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted พร้อมเครื่องปรับอากาศ Wallpaper ชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาชมห้องตัวอย่างไปพร้อมๆกับห้องมาตรฐาน (ห้องเปล่า) เพื่อเป็นไอเดียในการจัดวางพื้นที่ใช้สอย และได้เป็นบรรยากาศจริงไปด้วยเลย

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตารางเมตร

การวางผังของห้องเน้นการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อนค่ะ เนื่องจากเป็นห้องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้บริเวณนี้สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นโต๊ะรับประทานอาหาร 2 – 3 ที่นั่งและชั้นวางเก็บของเพิ่มเติมได้สบายๆ ส่วนห้องครัวจะแยกออกมาเป็นครัวปิด ติดกับพื้นที่ระเบียงทำให้สามารถเปิดระบายอากาศ เวลาทำอาหารที่มีกลิ่นได้ดีมากๆเลย นอกจากนั้นยังสามารถตากผ้า หรือวางกระถางต้นไม้ตกแต่งที่ระเบียงได้ค่ะ

ส่วนห้องนอนเองก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้ นอกจากนั้นยังมีระยะปลายเตียงวางชั้นวาง TV แล้วยังเดินได้รอบเตียงแบบสบายๆ ด้านข้างสามารถจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า แบ่งเป็นโซน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนนะคะ ใช้งานได้สะดวก แต่อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อยถ้ามีแขกมาหา เวลาเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนค่ะ ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน พร้อมฉากกั้นกระจกนิรภัย บรรยากาศภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ด้านหน้าห้องพักอาศัยมีป้ายเลขที่ห้องและกริ่งติดตั้งมาให้ แต่ไม่ได้ Digital Door Lock นะคะ เป็นมือจับแบบปกติ เข้า-ออกโดยใช้กุญแจ

เข้ามาภายในห้องพักอาศัยจะเจอกับ Common Area ก่อน ซึ่งเป็นห้องที่มีความกว้างประมาณ 3.45 x 3.95 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น วางโต๊ะกลาง ชั้นวาง TV และวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 – 3 ที่นั่งได้สบายๆ ไม่อึดอัด มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ Conceal มาให้ที่บริเวณห้องนั่งเล่น ดูสวยงามมากขึ้น

ภายในปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ในห้องนั่งเล่น ทำความสะอาดง่ายและภายในห้องดูสว่าง และปูพื้นลามิเนตลายไม้ในห้องนอนให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งแผ่นลามิเนตคือแผ่นพื้นที่ประกอบไปด้วยวัสดุแบบธรรมชาติกับแบบสังเคราะห์ ผสมๆกัน ข้อดีของพื้นลามิเนตคือเมื่อปูแล้วให้ความรู้สึกคล้ายไม้จริงแต่ราคาและงบประมาณในการดูแลรักษาน้อยกว่า มีการยืดหดตัวของไม้น้อยกว่าไม้จริง ส่วนข้อเสียคือทนน้ำได้น้อย ถ้าโดนน้ำขังจะทำให้บวมได้ค่ะ ความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร สูงพอดีๆไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

ทางโครงการมี VDO Door Phone ติดตั้งมาให้ลูกบ้านสามารถเชื่อมต่อกับแขกไปยัง Lobby และปลดล็อกประตูลิฟต์ให้แขกได้โดยไม่ต้องลงไปรับเอง และสามารถติดต่อช่างเพื่อนัดหมายซ่อมแซมได้ ช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้นค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีระยะดู TV ประมาณ 3.20 ซึ่งสามารถวาง TV ขนาดใหญ่ 40 – 50 นิ้วได้เลย นอกจากนั้นใครที่ชอบโซฟาตัวใหญ่ๆ หรือโซฟาตัว L มีที่นอนเหยียดขาหน่อยก็สามารถวางได้เช่นกันค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารเพิ่มเติมได้ถึง 4 ที่เลยค่ะ หรือจะปรับเป็นมุมนั่งทำงานที่บ้านก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นคอนโดมิเนียมห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กหลายแห่งไม่ค่อยมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารสักเท่าไร

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะแยกออกเป็นห้องครัวและห้องนอนค่ะ ห้องครัวมีประตูเป็นบานเลื่อนกระจกทำให้แสงจากระเบียงสามารถเข้ามายังพื้นที่นั่งเล่นได้ และยังช่วยให้ห้องครัวมีความโปร่งโล่งมากขึ้นด้วย ส่วนห้องนอนจะได้เป็นประตูบานเปิดทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

ห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้จริงจังเลย เพราะสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้เต็มที่ค่ะ ภายในครัวทางโครงการมี Built-in ชุดครัวมาให้แบบในห้องมาตรฐานค่ะ (ภาพแรก)

วัสดุชุดครัวได้ Top เมลามีนลายหินสีดำ พร้อมอ่างล้างจานสเตนเลส ก๊อกโค้งมาให้ แต่ไม่ได้มีดตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะคะ เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นการทำอาหารกินเองมากนัก แต่ถ้าต้องการทำอาหารเองก็สามารถซื้อเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และ Backsplash มาติดตั้งเพิ่มเติมได้เพราะทางโครงการเว้นระยะช่องเก็บของเผื่อไว้ให้แล้วค่ะ

ในส่วนของพื้นที่ด้านล่างเคาน์เตอร์จะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ พร้อมลิ้นชักเก็บช้อน ส้ม แก้ว และเครื่องครัวต่างๆ  ส่วนตู้เก็บของด้านบนสามารถเก็บของได้เต็มพื้นที่ มีช่องกลางที่เป็นการเปิดแบบดึงขึ้น Soft Close เหมาะกับการเก็บของที่แตกง่าย เช่น แก้วน้ำ เป็นต้น

ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน รับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในครัวได้เต็มที่ ช่วยฆ่าเชื้อภายในห้องครัว และมีแสงส่องไปถึงห้องนั่งเล่นเลยค่ะ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าร้อน มีแสงเข้ามากเกินไป สามารถติดตั้งม่าน หรือมู่ลี่เพิ่มเติมได้นะคะ

ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.20 x 1.90 เมตร มีงานระบบเดินท่อน้ำไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ ส่วนด้านบนเป็นพื้นที่แขวน Condensing Unit ทั้ง 2 ตัว

วิวจากระเบียงห้องพักอาศัยทางทิศเหนือ ชั้น 12 หันหน้าเข้าหาถนนเทียบมร่วมมิตร วิวค่อนข้างโล่งสบายตา และไม่มีอาคารสูงอยู่ใกล้ๆในระยะประชิดค่ะ

ห้องนอนแยกออกมาเป็นสัดส่วน มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ อยู่ที่ 3.30 x 5.30 เมตร รวมพื้นที่ Walk-in Closet ทำให้สามารถวางเตียงใหญ่ขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ หรือใครซื้ออยู่กับพี่น้องก็สามารถวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตได้ไม่อึดอัดนะคะ มีพื้นที่ปลายเตียงวางชั้นวาง TV แล้วยังเหลือระยะที่เดินได้สบายๆ

ภายในห้องปูพื้นด้วยลามิเนตเหมือนกับในส่วน Common Area เลยค่ะ ภายในห้องนอนจะได้ช่องแสงค่อนข้างใหญ่รับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวได้กว้าง

อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวก ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนจริงๆสามารถกั้นบานเลื่อนระหว่าง Walk-in Closet และห้องนอน ป้องกันฝุ่นจากเสื้อผ้า และความชื้นจากห้องน้ำเข้ามาในห้องนอนได้ค่ะ

พื้นที่ Walk-in Closet มีความกว้างประมาณ 1.65 เมตร สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างได้

พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องพอร์ชเลน ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร ทำความสะอาดง่าย ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างมือเป็นแบบติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์มีชั้นเก็บของด้านล่างเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ ส่วนด้านบนเป็นอ่างรูปทรงสี่เหลี่ยมมนๆ สีขาวดีไซน์สวย พร้อมกระจกเงาบานตั้งกรอบสีทองแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

โถสุขภัณฑ์สีขาว จาก Kohler

พื้นที่อาบน้ำจะมีการกั้นฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย พร้อมยกขอบสูงขึ้นเล็กน้อยทำให้เวลาอาบน้ำจะไม่มีน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก

ด้านในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower มาให้ และมีที่นั่งเอาไว้วางของเพิ่มเติมได้ เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Supalai Wellington 2 (ศุภาลัย เวลลิงตัน 2) ราคา ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2564

• เหลือห้องพักอาศัยแบบเดียว คือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท (ราคาโปรโมชันจาก 3.50 ล้านบาท)

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
• Kitchen & Sink Top เมลามีนลายหินสีดำ
• มีรถ Shuttle Van ไปกลับ MRT ศูนย์วัฒนธรรม
• จอง n/a บาท
• ทำสัญญา n/a บาท
• ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 36 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

โครงการตั้งอยู่ติดถนนเทียมร่วมมิตร บนทำเลรัชดาภิเษกช่วงต้น ซึ่งอาคารส่วนใหญ่ในทำเลนี้เป็นอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงานและที่พักอาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบอยู่ด้วยกัน เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านรัชดาฯ – ห้วยขวาง ไปจนถึงแยกลาดพร้าว หรืออโศก มีความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งอาคารสำนักงานหลายแห่งบริเวณแยกรัชดาฯ-พระราม 9 และบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว เช่น G Tower, Unilever House, RS Tower, AIA, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Central Plaza พระราม 9, Fortune Town, Esplanade รัชดาฯ, The Street ในระยะที่สามารถนั่งมอเตอร์ไซค์ หรือนั่งรถไฟฟ้าได้เพียง 1 สถานีค่ะ

นอกจากนั้นยังมีสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่างเช่น KIS International School, Regent’s International School Bangkok, Singapore international School Bangkok, Shrewsbury International School Bangkok (Campus), Lycée Français International de Bangkok เป็นต้น เรียกได้ว่าครบครันในทุกด้านเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกเช่นกันค่ะเพราะสามารถใช้ถนนเส้นรัชดาภิเษกเดินทางขึ้นเหนือไปออกถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนลาดพร้าวได้ หรือจะใช้ถนนเส้นประชาอุทิศไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม, เลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งเป็นอีกย่านที่มีความคึกคักสูง และลงใต้ไปเชื่อมต่อกับถนนพระราม9 – ดินแดง หรือไปยังอโศก ถึงถนนสุขุมวิทได้ในระยะทางไม่ไกล แต่มีข้อเสียเล็กน้อยที่ด้านหน้าโครงการเป็นถนน One Way อาจจะต้องกลับรถไกลสักหน่อยนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

สามารถเดินทางได้ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ หรือเรียก Taxi ด้านหน้าโครงการได้เลยซึ่งปกติจะมี Taxi จอดรออยู่แล้ว หรือถ้าใครต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จะมีสถานี MRT ที่อยู่ใกล้ๆคือ สถานีศูนย์วัฒนธรรม โดยโครงการมี Shuttle Van รับ – ส่งลูกบ้านให้ด้วย ถือว่าตอบโจทย์ทั้งคนที่ใช้รถยนต์และรถสาธารณะครบเลย

วัสดุ :

ภายในโครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted พร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลล์เปเปอร์ ชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แต่ไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะคะ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 cm. และห้องนอนปูด้วยพื้นลามิเนตลายไม้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Kohler มี VDO Door Phone ถือว่าได้มาตามมาตรฐานราคา อาจได้วัสดุเครื่องครัวไม่ครบเท่าโครงการอื่นๆ แต่ได้ราคาต่อตารางเมตรที่ถูกกว่าค่อนข้างเยอะ สามารถซื้อติดตั้งเพิ่มเติมเองได้เลยค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบภายในโครงการมีแนวคิด Modern English Style จะเห็นการใช้ Element ต่างๆภายในโครงการเหมือนกับในประเทศอังกฤษ เช่น ซุ้มประตูทางเข้าเหมือนกับตู้โทรศัพท์สาธารณะที่เป็นเอกลักษณ์ของอังกฤษ หรือโถงลิฟต์ที่มีหรูหรา ตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยระย้า มีช่องแสงมองเห็นวิวด้านนอกได้ เป็นต้น วางผังเป็นอาคารพักอาศัย 7 อาคาร ล้อมรอบอาคารส่วนกลาง 3 ชั้น 1 อาคารอยู่ตรงกลางให้ลูกบ้านจากทุกอาคารสามารถเดินเข้าใช้งานได้สะดวก

การวางผังของห้องเน้นการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน เนื่องจากเป็นห้องขนาดใหญ่ทำให้สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย และมีขนาดใหญ่ เช่น วางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 4 ที่นั่ง ห้องนอนวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ เป็นต้น  ส่วนห้องครัวจะแยกออกมาเป็นครัวปิด ติดกับพื้นที่ระเบียงทำให้สามารถเปิดระบายอากาศ เวลาทำอาหารที่มีกลิ่นได้ดี เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นสัดส่วน ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคให้มาค่อนข้างครบและหลากหลาย เหมาะกับโครงการใหญ่ที่มีจำนวน 1,000 ยูนิตขึ้นไป มีอาคารพื้นที่ส่วนกลาง 3 ชั้นประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เกือบ 40 เมตร, Fitness, Sauna, สวน, สนามเด็กเล่น และ Facility แยกแต่ละอาคาร คือ Snooker Room, Play Room, Library Room, Table Tennis Room,  Multi Function Room, Bridge & Chess Room และ Tutor Room

นอกจากนั้นยังมีร้านค้า ร้านนวด ร้านทำผม ร้านซัก อบ รีด ฯลฯ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน มีที่จอดรถประมาณ 57 % รวมจอดซ้อนคัน และลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 78 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นเลยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 65,000 – 80,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 20 ตุลาคม 2564

• ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ที่จอดรถ 57 % แต่หน้าโครงการเป็นถนน One way
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีรถรับ-ส่ง MRT ศูนย์วัฒนธรรม เรียกมอเตอร์ไซค์ Taxi ได้ง่าย
• วัสดุ 7/10 –  Fully Fitted ตามมาตรฐานระดับราคา
• แบบ 8/10 – ออกแบบ Modern English Style ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ทุกอาคารพร้อมร้านค้าอำนวยความสะดวก

• ECONOMY CLASS
• 7.73 / 10.00

Supalai Wellington 2 เหมาะกับใคร

โครงการ Supalai Wellington 2 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ช่วงรัชดาฯ ตอนต้น ที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ มีรถรับ-ส่งที่ MRT พร้อมกับรอบๆมีความอุดมสมบูรณ์สูง ต้องการห้องพักอาศัยที่ราคาเข้าถึงง่าย ได้ห้องขนาดใหญ่แบ่งฟังก์ชันชัดเจน พร้อมกับภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน มีงบประมาณระดับ 2.75 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 19,250 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc