สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนมาดูคอนโดที่อยู่ในเงื่อนไขของ BOI มีราคาต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท แถมยังติดแนวรถไฟฟ้าด้วย กับ Regent Home บางซ่อน โครงการ 2 เฟส 28 กลุ่มคอนโด High Rise 4 อาคาร ที่มีจำนวนยูนิตรวมกันเกือบ 5,000 ยูนิต  ตั้งอยู่บนถนนใหญ่และใกล้กับ MRT บางซ่อน ลองเข้าไปชมรายละเอียดกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

16 February 2020

  • Regent Home Bangson Phase 28 (รีเจ้นท์ โฮม บางซ่อน โครงการ 2 เฟส 28)
  • บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เขตบางซื่อ
  • ที่ดินประมาณ 19-0-16.7 ไร่
  • คอนโด High Rise 29 ชั้น 4 อาคาร 4,920 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 40% ไม่รวมซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง :  2018
  • แล้วเสร็จ : 2020
  • 1 Bedroom 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 990,000 บาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 990,000 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 35,357 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 35,357 บาท/ตร.ม.
  • โทร  : 02-586-7680, 02-551-4162

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.819569, 100.530560
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

เรียกได้ว่าเป็นคอนโดราคาต่ำล้านที่ทำเลไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะตั้งอยู่ในย่านบางซ่อน ภายในซอยย่อยของถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เข้าไปประมาณ 140 เมตร เดินทางเข้าเมืองสะดวก ไฮไลท์คือห่างจาก MRT สถานีบางซ่อนเพียง 180 เมตร อีกสถานีเดียวก็ถึง MRT เตาปูน ซึ่งจะไป Interchange เข้ากับสายสีน้ำเงิน มีป้ายรถประจำทางอยู่หน้าปากซอย เรื่องการเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกเลย ได้เปรียบในแง่ของทั้งการเดินทางสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว ทางโครงการมีพื้นที่จอดรถให้ทั้งหมด 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งอาจจะไม่ได้แย่จนเกินไปสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้า

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่เป็นจุดแข็งเลยนะ เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างดีเลย เริ่มตั้งแต่ระยะเดินก็มีร้านค้าร้านอาหารริมแนวถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ให้เดินออกมาหาอะไรทานได้ ส่วนถ้าเป็น Hypermaket ก็จะมีตั้งแต่ Big C วงศ์สว่าง, Wongsawang Town Center (Big C), Lotus ประชาชื่น, Gateway บางซื่อ ในระยะประมาณ 2-3 กิโลเมตร ส่วนตลาด ก็มี ชุมทางสยามมาร์เก็ต, ตลาดศรีเขมา, ตลาดเตาปูน, ตลาดบางโพ . ส่วนอื่นๆก็จะมีโรงพยาบาลและโรงเรียนชื่อดังอีกหลายแห่งเลย เช่น รร.โยธินบูรณะ, รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น, รพ.บางโพ หรือถ้าจะไปห้างแบบ Central Plaza ลาดพร้าว ก็เพียงประมาณ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้น

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับเส้นทางในการเดินทางไปโครงการวันนี้ผมจะใช้เส้นทางที่เป็นจุดเด่นของโครงการ นั่นก็คือรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซ่อน ซึ่งเรียกว่าสะดวกมากๆ ออกมาจากสถานีทางประตูทางออกหมายเลข 3 จากนั้นให้หันหน้าไปทางฝั่งมุ่งหน้าไป MRT วงศ์สว่าง ให้เราเดินเลียบถนนกรุงเทพ-นนทบุรีไปประมาณ 40 เมตร จะเจอป้ายโครงการอันใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ มองเห็นตัวอาคารพักอาศัยของโครงการด้านใน ซึ่งที่หน้าโครงการเองจะมีศาลาสำหรับรอรถรับส่งภายในโครงการ ที่จะพาเรานั่งเข้าไปภายในโครงการได้เลย มีวิ่งตลอดทั้งวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น. ครับผม ไปดูภาพกัน

Image 1/3
ออกมาจาก MRT สถานีบางซ่อนทางประตูทางออกหมายเลข 3 นะครับ

ออกมาจาก MRT สถานีบางซ่อนทางประตูทางออกหมายเลข 3 นะครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ตัวโครงการของเรามีพื้นที่เป็นแนวยาวขนาด 19 ไร่ ยาวเข้าไปจากถนนกรุงเทพ-นนทบุรี โดยบรรยากาศบนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี จะค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากติดกับ MRT บางซ่อน มีแนวตึกแถวที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหารให้ แถมยังใกล้กับตลาดบางซ่อนและตลาดยิปซีในระยะเดินได้จากหน้าโครงการ การสัญจรสาธารณะก็ง่ายเพราะติดถนนใหญ่ และมีป้ายรถประจำทางอยู่หน้าโครงการเลย แถมยังมีสะพานลอยให้ข้ามไปใช้ฝั่งตรงข้ามได้ง่ายอีก ส่วนวิวภายในโครงจะรับทิศเหนือและทิศใต้เป็นหลัก พื้นที่ตัวอาคารพักอาศัยจะติดกับตัวโครงการเดิมเฟสที่แล้วอย่าง Regent Home 27 ซึ่งก็มีผลกระทบในเรื่องวิวเหมือนกันกับบางอาคาร แต่พื้นที่รอบๆส่วนใหญ่จะยังคงได้รับวิวโล่งของพื้นที่พักอาศัยแนวราบรอบๆ อยู่นะ ลองไปดูแต่ละทิศกัน

  • ทิศเหนือ – ทิศเหนือของโครงการเราจะติดกับ Regent Home 27 และพื้นที่พักอาศัย ซึ่งอาคาร A, B และอาคาร C อีกครึ่งอาคาร จะชน Regent Home 27 ตรงๆ เลย ทำให้วิวทางฝั่งนี้จะโดนบล็อคไปจนถึงชั้น 24 ขึ้นไป ส่วนอาคาร C อีกครึ่งนึง กับอาคาร D จะได้วิวค่อนข้างโล่งครับ
  •  ทิศตะวันออก – เป็นฝั่งทางเข้าออกโครงการ ซึ่งไม่ใช่วิวหลักของอาคารในคอนโด จะมีแค่อาคาร A และ อาคาร B บางส่วนที่ได้รับวิวฝั่งนี้ โดยอาคาร A จะได้วิวโล่งฝั่งหน้าโครงการ มองเห็นแนวถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และแนว MRT บางซ่อน ส่วนของอาคาร B จะได้วิวส่วนกลางระหว่างอาคาร A และ B และเห็น แนวอาคาร A แต่ที่แย่คือด้านข้างจะโดน Regent Home 27 บีบ ให้วิวฝั่งนี้ดูทึบมากกว่าเดิมด้วย
  • ทิศใต้ – ตัวโครงการจะได้รับวิวโล่งทั้ง 4 อาคารเลย เพราะมีแต่พื้นที่พักอาศัยแนวราบในระยะใกล้ จะมีก็แค่อาคาร B ที่หันมาทางนี้ จะโดนแนวอาคารของตัวเองบีบมุมมองให้แคบลงหน่อย ไม่ได้โล่งกว้างเหมือนเพื่อนๆครับ
  • ทิศตะวันตก – เป็นอีกฝั่งที่ไม่ใช่วิวหลัก ของโครงการ จะมีแค่อาคาร A และ B บางส่วนที่ได้รับวิวฝั่งนี้ เริ่มที่อาคาร A จะหันเข้าภายในโครงการ ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางและตัวอาคาร B แต่จะมี Regent Home 27 บีบมุมให้ดูทึบอยู่ด้วย ส่วนอาคาร B จะได้วิวโล่งครึ่งเดียว เพราะอีกครึ่งนึงจะโดนแนวอาคาร B C D บีบให้มุมมองฝั่งนี้ไม่ได้โล่งซะทีเดียวครับ

มาเริ่มจากการเดินไปดูพื้นที่รอบๆโครงการบนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ฝั่งมุ่งหน้าไป MRT วงศ์สว่างกันก่อนเลย ตรงนี้จะมีแนวทางเดินที่ยกระดับสูงจากพื้นถนนให้เดิน และมีสะพานลอยสำหรับข้ามฝั่งให้ด้วย ใช้งานรถสาธารณะฝั่งตรงข้ามได้ง่าย ทั้งรถขนส่งประจำทาง รถแท็กซี่

เป็นสะพานลอยแบบไม่มีหลังคาคลุม สำหรับใครที่ใช้รถสาธารณะฝั่งตรงข้ามกันบ่อยก็แนะนำให้พกร่มกันด้วยนะครับ

เลยสะพานลอยมาหน่อยจะมีป้ายรถโดยสารประจำทางให้ด้วย เป็นป้ายแบบมีหลังคาและพื้นที่นั่งให้ด้วย

ถัดมาอีกจะมีแนวตึกแถวที่มีร้านค้า ร้านอาหารให้ค่อนข้างครบ รวมไปถึงพวกร้านเสริมความงาม ร้านตัดผม โรงเรียนกวดวิชา ถือเป็นความอุดมสมบูรณ์หลักภายนอกโครงการในระยะเดินเลย

อีกฝั่งที่เป็นรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงสถานีบางซ่อนที่เรามากัน จะมีแนวทางเดินให้เช่นเดียวกัน ขนาดค่อนข้างกว้าง เดินสบาย ไม่เปลี่ยว

มีธนาคารกรุงไทย ใครที่ใช้บริการธนาคารสีนี้ก็ทำธุรกรรมต่างๆได้ง่ายเลย

ถัดมาอีกก็เป็นทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าประตูทางออกหมายเลข 3 ที่เรามากันครับ มีทั้งแบบทางเดินปกติ บันไดเลื่อน และแนวทางลาดพร้อมลิฟต์โดยสารให้บริการ สำหรับผู้พิการหรือเวลาขนของหนักๆก็สะดวก

เลยมาอีกนิดจะมีโครงการ Ideo Mobi วงศ์สว่าง-อินเตอร์เชนจ์ ที่สูง 30 ชั้น ครับ ด้านหน้าจะมีร้านขายของแผงลอยค่อนข้างเยอะ สามารถแวะมาซื้อทานกันได้ง่ายๆ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ชุมทางสยามมาร์เก็ต ~ 550 ม.
  • Big C วงศ์สว่าง ~ 1.5 กม.
  • Wongsawang Town Center (Big C) ~ 1.6 กม.
  • ตลาดศรีเขมา ~ 1.8 กม.
  • ตลาดเตาปูน ~ 2 กม.
  • รร.โยธินบูรณะ ~ 2 กม.
  • รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น ~ 2.1 กม.
  • Lotus ประชาชื่น ~ 2.2 กม.
  • รพ.บางโพ ~ 2.5 กม.
  • Gateway บางซื่อ ~ 2.6 กม.
  • ตลาดบางโพ ~ 2.6 กม.
  • ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือฯ (KMUTNB) ~ 3.5 กม.
  • รร.ทหารสรรพาวุธ ~ 3.7 กม.
  • รร.ดรุณพัฒน์ ~ 3.9 กม.
  • รร.ประชานิเวศน์ฯ ~ 4 กม.
  • รร.สตรีนนทบุรี ~ 4.1 กม.
  • Big C ติวานนท์ ~ 4.2 กม.
  • ตลาด อ.ต.ก. ~ 4.5 กม.
  • รร.เสนาธิการทหารบก ~ 4.6 กม.
  • รร.ราชินีบน ~ 4.7 กม.
  • Supreme Complex ~ 4.9 กม.
  • ตลาดนัดสวนจตุจักร ~ 4.9 กม.
  • Makro สามเสน ~ 5.2 กม.
  • รพ.วิชัยยุทธ ~ 5.3 กม.
  • JJ Mall ~ 5.7 กม.
  • The Avenue รัชโยธิน ~ 5.7 กม.
  • Central Plaza ลาดพร้าว ~ 6.4 กม.
  • ม.ราชมงคลพระนครเหนือฯ (RMUTP) ~ 7 กม.

รายละเอียดโครงการ

ตัวอาคารของที่นี่จะมีรูปแบบการออกแบบเหมือนกับโครงการที่แล้วอย่าง Regent Home 27 เลย แต่จะต่างกันที่รูปแบบการวางแนวอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง และรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ระบบการจัดการและรูปแบบของโครงการส่วนใหญ่จะเหมือนกันทั้งหมดรวมถึงดีไซน์ของตัวอาคารด้วยในรูปที่เราเห็นนี้จะมีโครงการ Regent Home 28 ทางฝั่งซ้ายมือ และ 2 อาคารทางฝั่งขวามือคือ Regent Home 27 ซึ่งมีจำรวนยูนิตรวมกันเกือบ 9,000 ยูนิตได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือทำไมถึงขายหมด ? และมีความน่าสนใจยังไงกัน ผมขอเล่าออกมาในหลายๆประเด็นนะครับ

1.คอนโด BOI – อย่างแรกเลยคือโครงการนี้เข้าข่ายคอนโดน BOI คอนโด BOI คืออะไร ?…. คอนโด BOI คือ โครงการคอนโดที่ได้รับการยกเว้นภาษีจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยโครงการคอนโดนั้นต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้

– จะต้องจัดที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 50 หน่วย สําหรับทุกเขต
– โครงการที่ตั้งในเขต 1 กรณีการก่อสร้างอาคารชุดจะต้อง มีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร และต้องจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกินหนึ่งล้านบาท (รวมค่าที่ดิน)
– โครงการที่ตั้งในเขต 2 และเขต 3 จะต้องมีพื้นที่ใช้สอย ต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 31 ตารางเมตร และต้องจำหน่ายในราคาหน่วยละไม่เกินหกแสนบาท (รวมค่าที่ดิน)
ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ ก็เห็นเลยว่าโครงการ Regent Home ทั้ง 2 เฟส ของเราเข้าข่ายคอนโด BOI ครับ

2.เป็นคอนโดราคาต่ำล้านที่อยู่ในกรุงเทพฯ – ถ้าลองสังเกตจากแผนที่ที่ผมหาข้อมูลมา จะมีเหล่าโครงการคอนโดที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาททั้งหลายในกรุงเทพและปริมณฑลมาให้ชม จะเห็นว่าตัวโครงการของเราจะมีตำแหน่งทำเลที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองกรุงเทพ (เขตบางซื่อ) และใกล้เมืองชั้นในมากที่สุด ทำให้สามารถเดินทางได้หลากหลาย เข้าเมืองได้ง่าย และได้ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ซึ่งหาได้ยากเหมือนกันนะ

3.เป็นคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า – นอกจากจะอยู่ใกล้เมืองแล้ว ยังติดแนวรถไฟฟ้าอีกด้วย การเดินทางก็ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก เพราะหน้าโครงการห่างกัน MRT สถานีบางซ่อนเพียงประมาณ 40 เมตร เท่านั้น สามารถเดินได้ง่ายมากๆ แต่ตัวอาคารจะร่นเข้าไปอีกประมาณ 250 เมตร ซึ่งมีรถรับส่งจากภายในโครงการออกมาให้ได้สบายๆ

หลายๆคนก็บอกว่าคอนโดอิงแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น Over Supply แน่ๆ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ.. แต่ที่แน่ๆไม่ใช่กับโครงการนี้แน่นอน เพราะด้วยเหตุผลต่างๆที่กล่าวมาก็น่าจะมีน้ำหนักที่พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมคอนโดเกือบ 9,000 ยูนิตนี้ถึง Sold Out กันไปแล้วในตอนนี้

ลองเข้าไปดูภายในกันบ้างดีกว่าครับ เริ่มจากหน้าโครงการที่เดินมา จะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ เป็นจุดสังเกตได้ง่าย ด้านข้างมีศาลาเล็กๆสำหรับรอรถประจำทางรับส่งของโครงการ และมีสำนักงานขายอยู่ด้านในครับ จะมองเห็นตัวอาคารพักอาศัยของโครงการทั้ง Regent Home 27 และ Regent Home 28 ตั้งแต่ตรงนี้เลย

ศาลารอรถข้างๆก็จะมีหลังคาให้ด้วย สำหรับกันแดดกันฝน ตรงนี้จะมีหน้าที่ไว้ให้คนมารอรถรับส่งเข้าโครงการ และเป็นจุดที่รถจากภายในโครงการจะออกมาส่ง โดยจะมีรถวิ่งตลอดตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงประมาณ 2 ทุ่ม (ลองเช็คเวลาที่แน่ชัดกับทางโครงการอีกทีนะครับ)

ด้านในจะเป็นสำนักงานขายของโครงการ ยังมีห้องตัวอย่างให้ชมกันอยู่นะ

เดินเข้าไปต่อภายในโครงการกัน จะมีแนวทางเดินด้านข้างให้ ยกระดับสูงจากพื้นถนน มีบ้านพักอาศัยของคนในพื้นที่ เป็นอาคารแนวราบ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบกับโครงการนัก

เดินเข้ามาจะมีทางเลี้ยวให้เข้าไปในโครงการนะครับ มีสวนโล่งๆรับสายตาให้ตรงนี้ ข้อดีคือแยกความเป็นส่วนตัวเข้าไปจากพื้นที่บ้านพักอาศัยด้านข้างนี้

เข้ามาข้างในจะมีพื้นที่ของโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งจะเป็นอะไร เขายังไม่บอกมานะครับ ต้องสอบถามทางโครงการอีกที

ส่วนอีกฝั่งจะเข้ามาเป็นทางเข้าสู่โครงการทั้ง 2 เฟส แยกกันชัดเจน ทางซ้ายสุดคือ Regent Home 28 ส่วนทางขวาคือ Regent Home 27

เนื่องจาก Regent Home 28 ยังไม่เสร็จดี และยังเข้าชมภายในไม่ได้ ผมจึงจะพาทุกคนเข้าไปชมโครงการ Regent Home 27 แทนนะครับ ซึ่งจะมีองค์ประกอบทางกายภาพเหมือนกันกับเกือบทั้งหมดเลย และเป็นตัวเลือกเสริมเพิ่มเติมให้ด้วย

การเข้าออกจะเป็นระบบรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ เข้าออกด้วยคีย์การ์ดแบบทาบระยะใกล้ ตรงนี้ไม่ได้มี Cover Way ให้นะครับ สำหรับใครที่เดินเข้าออกเอง ไม่อยากรอรถก็แนะนำให้พกร่มกันด้วย

ไหนๆก็เข้ามาแล้ว ลองมาดูผังโครงการนี้กันสักนิดนะครับ ภายในแยกออกเป็น 2 อาคารเหมือนกัน โดยจะเป็นอาคาร A, B ที่ 2 อาคารด้านหน้า จุดเด่นคือเข้าถึงได้ง่าย ใกล้ทางเข้าออก ส่วนอาคาร C, D คือ 2 อาคารด้านหลัง ที่จะอยู่ลึกหน่อย ไกลกว่าหน่อย แต่จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ใกล้ ใช้งานได้ง่าย สำหรับชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ร้านค้าต่างๆ ที่มีใต้อาคารทุกอาคารเลย มีให้เยอะมากๆ เขาเปิดขายเป็นโฉนดด้วยนะ ทำให้ร้านค้าจะค่อนข้างหลากหลายรูปแบบ เพราะไม่ได้อยู่ใต้การดูแลของนิติ มีสินค้า ร้านค้า ร้านอาหารที่แตกต่าง และค่อนข้างครบครัน ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่จอดรถ และชั้น 4 จะเป็นห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถเชื่อมกันได้ และจะสูงขึ้นไป 24 ชั้น โดยจะรับวิวส่วนใหญ่เป็นทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นกลุ่มดังนี้

  • กลุ่ม อาคาร A และ อาคาร C – จะเป็นกลุ่มที่ได้วิวสวยที่สุด เพราะจะได้วิวโล่งทางฝั่งทิศเหนือ ที่เป็นที่พักอาศัยแนวราบ จะมีเพียงห้องมุมเล็กน้อยมุมละ 2 ห้องทางฝั่ง ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งจะได้วิวโล่งเหมือนกัน ส่วนฝั่งทิศใต้จะมองเห็นแนวอาคาร B และ D 24 ชั้น พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง
  • กลุ่ม อาคาร B และ อาคาร D – เป็นอีกกลุ่มที่เรียกว่าโดนบล็อควิวทั้ง 2 ฝั่งหลักๆ ทิศเหนือและทิศใต้เลย โดยทิศเหนือจะมีแนวอาคาร A และ C 24 ชั้น พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนอีกฝั่งทางทิศใต้จะติดกับ Regent Home 28 จำนวน 4 อาคาร สูง 29 ชั้น ซึ่งจะมีห้องมุมเล็กน้อยมุมละ 2 ห้องทางฝั่ง ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจะได้วิวโล่งเหมือนกัน

ด้านหน้าอาคาร A จะมีสนามหญ้าโล่งๆ พร้อมพื้นที่สนามเด็กเล่นให้ด้วยเล็กน้อย เป็นกลางแจ้งทั้งหมดเลย ซึ่งจะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆนะ เพราะจะได้แนวอาคาร A และ B บังแดดช่วงทิศตะวันตกให้ในตอนบ่าย

เข้ามาได้ในจะเป็นการวนรถทางเดียวทั้งหมดพร้อมที่จอดรถด้านข้าง มีแนวกำแพงต้นไม้ให้สีเขียวด้านข้างด้วย

รถรับส่งจะมีสถานีต่างๆให้ในแต่ละอาคาร แบ่งฝั่งขึ้นและลงให้ชัดเจน ตัวรถรับส่งจะวิ่งรอบแนวอาคาร ทำให้สามารถเลือกขึ้นและลงในจุดที่ใกล้กับโถงลิฟต์ของแต่ละอาคารได้ สะดวกดี

ภายในจะมีพื้นที่จอดรถ และร้านค้าค่อนข้างเยอะ ภายในนี้จะมีไฟส่องสว่างและช่องแสงให้ถือว่าเพียงพอนะครับ

ที่ผมชอบคือร้านค้าเยอะมากกกกกก เพราะมีในทุกๆอาคาร ด้วยความที่มีจำนวนยูนิตกว่า 4,000 ยูนิต ทำให้การเปิดร้านค้าบริเวณด้านล่างนี้ได้รับผลตอบแทนอย่างทั่วถึง และร้านตรงนี้ก็มีเยอะและหลากหลายมาก ตั้งแต่ร้านตัดผมชาย เสริมสวยผู้หญิง ร้านอาหารหลายประเภท ซักรีด ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7Eleven ร้านส่งของ ร้านขายของฝาก ตู้ ATM แถมยังไม่มีร้านที่ปิดเลยด้วย ตรงนี้ถือเป็นความอุดมสมบูรณ์ภายในที่ถือว่าตอบโจทย์ได้เกือบทุกด้านเลยครับ

บรรยากาศ Lobby ของแต่ละอาคารจะประมาณนี้ครับ มีพื้นที่รองรับค่อนข้างกว้างนะ แต่มีชุดนั่งพักคอยให้น้อยไปหน่อยนะ สำหรับอาคารละพันยูนิต

ส่วนอีกฝั่งจะมีพวกห้องช่าง ห้องนิติ ในการจัดการอย่างอื่น มี Mail Box ให้ในทุกอาคาร และแยกไปยังโถงลิฟต์

โถงลิฟต์จะมีลิฟต์โดยสารให้อาคารละ 4 ยูนิต และลิฟต์ขนของ 1 ยูนิต โถงลิฟต์จะได้ช่องแสงและมีขนาดค่อนข้างกว้างนะครับ ซึ่งโถงลิฟต์จะตั้งอยู่ตรงกลางของแต่ละอาคาร ทำให้แยกส่วนพักอาศัยออกเป็น​ซ้ายและขวา ทำให้เข้าถึงง่ายจากทุกฝั่งและลดจำนวนเพื่อนบ้านในละแวกใกล้ห้องลงได้

ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครับ ออกมาจะมี พื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor เป็นพื้นที่รองรับการเข้าใช้งานส่วนกลาง

ตรงนี้จะมีสระว่ายน้ำระหว่างอาคาร C และ D ซึ่งจะมีพื้นที่ด้านข้างให้ด้วย ส่วนนี้เป็นสระที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง และเป็นวิวให้พื้นที่ห้องพักอาศัยรอบๆด้วย แต่ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวของการใช้งาน แต่อีกข้อดีนึงคือได้แนวอาคารช่วยบังแดด ทำให้สามารถได้ใช้งานได้หลากหลายช่วงเวลามากยิ่งขึ้น

ด้านหลังตรงกันข้ามจะมีสวนที่หันไปทางด้านหลังสุด รับวิวฝั่งทิศตะวันตก เป็นพื้นที่พักผ่อนมานั่งเล่นกันได้ครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบ Cardio และ Weight Training นะครับ ขนาดไม่ใหญ่นัก อาจจะต้องต่อคิวและรอบ้าง หรือถ้าอยากใช้แบบเป็นส่วนตัวอาจจะต้องมาใช้ช่วงเวลาที่ไม่ใช้เช้าหรือเย็น

ตรงนี้จะได้วิวของสระว่ายน้ำด้านล่างด้วยครับ จะเห็นว่ามีขนาดค่อนข้างกว้าง ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆเลย

ทีนี้เราลองมาดูผังของ Regent Home 28 ของเรากันบ้างครับ หลังจากเห็นโครงสร้างอาคารคร่าวๆจากเฟสเก่าแล้ว ให้ลองนึกภาพโครงสร้างและรูปแบบที่เห็นมาในหัวนะ เพราะเราไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพจริงภายในโครงการ Regent Home 28 ได้ เนื่องจากยังไม่เสร็จสมบูรณ์

ลักษณะของการวางอาคารจะคล้ายๆกันกับโครงการ Regent Home 27 ครับ เพียงแต่จะไม่ได้วางซ้อนกัน แต่เปลี่ยนเป็นวางต่อกันแทน ทำให้อาคารไม่บล็อควิวกันเอง ได้รับวิวมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังโดนอาคารของ Regent Home 27 ด้านข้างบังอยู่บ้างสำหรับบางอาคาร ตัวพื้นที่โครงการยาวเข้าไป ทำให้การเข้าถึงแต่ละอาคารค่อนข้างมีระยะที่ต่างกัน โดยแต่ละอาคารจะมีระยะประมาณ 100 เมตร จากหน้าโครงการถึงอาคาร A ผมวัดจาก Google Map ได้ประมาณ 250 เมตร ซึ่งก็เป็นระยะที่เดินได้สบายๆนะ แต่ไม่มี Cover Way ให้ ถ้าแดดแรงๆหรือฝนตกก็ลำบากเหมือนกัน แต่อย่างที่ทราบกันที่นี่เขามีรถรับส่งให้ เลยจัดว่าสบายดี อาคาร A ก็จะเข้าถึงง่ายที่สุด ไล่เข้าไปเป็น B C D ตามลำดับ ด้านในถึงจะไกลแต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวหน่อย ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมามากนัก การเดินรถภายในโครงการจะวนซ้ายตามเข็มนาฬิการอบแนวอาคารทั้งหมดนะครับ เหมือนกันกับ Regent Home 27 ลองไปดูแต่ละอาคารกัน

เริ่มที่อาคาร A หน้าสุดเลย ชั้น 1 นี้จะเป็นส่วนของร้านค้าและที่จอดรถ ซึ่งจะเห็นว่ามีร้านค้าให้หลายร้านเหมือนกัน พวกนี้ปล่อยขายเป็นโฉนดทั้งหมดเลยนะครับ ปัจจุบันก็ Sold Out กันไปแล้ว แต่มีการขายกันต่อนะ ติดตามได้ในเพจของโครงการเลย หรือ Facebook ของ Regent Home 28 ก็ได้ครับ ตรงนี้ Lobby เขาจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ทำให้ภายในแยกโถงลิฟต์ออกเป็น 2 จุด เป็นจุดแรกมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ส่วนอีกจุดมี 2 ตัว สำหรับเข้าใช้งานจากคนละตำแหน่ง เรียกว่าช่วยให้สะดวกมากยิ่งขึ้น และตัวห้องพักอาศัยด้านบนเองก็ได้การแบ่งความเป็นส่วนตัวแยกจากกันด้วย

ที่ชั้น 2, 3 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด เราข้ามมาดูกันที่ชั้น 4 เลย คือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่มีสระว่ายน้ำและสวนให้ พร้อมกับห้องพักอาศัยจำนวน 55 ยูนิต ข้อดีของชั้นนี้คือจะเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นวิวให้กับบางห้อง (ที่หันเข้าด้านในอาคาร) แต่ต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัวและการรบกวนจากผู้ใช้พื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปมาของผู้มาใช้งาน เสียงจากการใช้งาน หรือแม้กระทั่งมุมมองที่อาจจะมองเข้าไปเห็นภายในห้องของเราด้วย

ส่วนเรื่องวิวจะมีส่วนนึงได้วิวพื้นที่ส่วนกลาง และที่หันออกด้านนอก โดยจะมีฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้ที่หันออกด้านนอก จะได้วิวค่อนข้างโล่งนะครับ เพราะเป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบ

 

ขึ้นมาที่ชั้นหลักๆของห้องพักอาศัยกัน จะมีลักษณะอาคารเป็นตัว L เหมือนเดิม ฝั่งทิศเหนือกับทิศตะวันตกจะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางในระยะใกล้ ส่วนระยะไกลจะมีแนวอาคาร Regent Home 27 ทางฝั่งทิศเหนือ ทำให้จะโดนบีบวิวค่อนข้างแคบ สำหรับใครที่ชอบวิวส่วนกลางอาจจะชอบ แต่ถ้าใครอยากชมวิวท้องฟ้าโล่งๆ ผมแนะนำเป็นฝั่งทิศตะวันออกกับฝั่งทิศใต้ดีกว่า เพราะไม่มีแนวอาคารมาบัง จะมีบ้างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีอาคาร IDEO Mobi วงศ์สว่าง-อินเตอร์เช้นจ์ สูง 30 ชั้น อยู่ในระยะประมาณ 300 เมตร ซึ่งก็มีระยะห่างพอสมควร แถมไม่ได้เจอกันตรงๆด้วย

มาดูอาคาร B กันต่อ เบื้องต้นจะเหมือนกันกับอาคาร A โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถและร้านค้าต่างๆ แต่ที่ต่างกันชัดเจนคือเขาจะแยก Lobby ออกเป็น 2 จุดเลย แต่ขนาดเล็กลง ทำให้กระจายจำนวนผู้เข้าใช้ และสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมารวมกันที่เดียว จะมีโถงลิฟต์ที่มีลิฟต์ 4 ตัว และ 2 ตัวแยกกันครับ

 

ส่วนถ้าขึ้นมาที่ชั้น 5-29 ก็จะมีลักษณะเหมือนกันครับ แยกโถงลิฟต์ 2 จุด ช่วยให้กระจายจำนวนการใช้งาน และแบ่งความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น ทางเดินแบบ Double Corridor ก็ต้องยอมหน่อยเพราะจำนวนยูนิตเยอะจริงๆ ส่วนเรื่องวิวไม่ต่างจากเดิมครับ แค่สูงขึ้น

เลื่อนมาที่อาคาร C ต่อเลย จะมีลักษณะเป็นตัว i ทำให้รับวิวแค่ฝั่งทิศเหนือและใต้เลย ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถและร้านค้าเช่นเดิม จริงๆผมชอบมากเลยนะที่มีร้านค้าเยอะขนาดนี้แถมยังขายหมดแล้วด้วย ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างคึกคักเลย เรียกว่าเหมือนมีตลาดอยู่ใต้คอนโดเลยก็ว่าได้ เพราะร้านค้าที่ไม่ได้มีนิติบุคคลมาดูแล ทำให้มีีความหลากหลายมากจริงๆ จากที่ไปเดินดู Regent Home 27 มา ผมก็ชอบและรู้สึกสะดวกดีจริงๆนะ ถ้าใครที่ไม่ได้ติดกับจำนวนยูนิตเยอะและความวุ่นวาย การมีแบบนี้ถือว่าได้เปรียบสุดๆ

ล็อบบี้ของที่นี่จะเป็นจุดเดียว มีโถงลิฟต์จุดเดียวพร้อมลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ใช้งานง่ายๆ ตรงกลางอาคาร ทำให้แยกห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา ไปดูกัน

ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดของโครงการ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้หมดเลยนะ แต่จริงๆเขาเน้นมาให้ส่วนนี้ใช้กันที่อาคาร C กับ D ซะมากกว่า การมีโถงลิฟต์ตรงกลางช่วยแบ่งห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และกระจายความเป็นส่วนตัวด้วย สำหรับจุดเด่นของชั้นนี้ก็จะเหมือนกับชั้น 4 ของอาคาร A คือใช้งานส่วนกลางง่าย แลกมากับความวุ่นวายที่ตามมา ลองเลือกดูครับ

ขยับขึ้นมาที่ชั้น 6 จะมีส่วนของพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดคือห้องออกกำลังกาย สำหรับใครที่ชอบใช้งานก็สะดวกเลยชั้นนี้ มีลักษณะคล้ายๆกันครับ วิวทางฝั่งทิศเหนือจะโดยอาคาร Regent Home 27 บล็อคไปครึ่งนึงทางฝั่งทิศตะวันออก ฝั่งทิศตะวันตกจะโล่ง แต่ถ้าเอาโล่งจริงๆ คือจะเป็นทิศใต้ครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 7-27 เเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 44 ยูนิต วิวก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ฝั่งทิศเหนือจะได้วิวของพื้นที่ส่วนกลางข้างล่างมาปลอบใจกับวิวที่โดนบีบไปด้วย ส่วนฝั่งทิศใต้ก็รับวิวโล่งๆยาวไปเลยครับ

มาถึงอาคารสุดท้ายกัน เป็นอาคาร D ซึ่งจะมีพื้นที่จอดรถเยอะหน่อย เพราะอยู่ท้ายโครงการ แต่มีร้านค้าให้แค่ 6 ร้าน ซึ่งจริงๆ ก็สามารถเดินทะลุได้หมด ไปใช้งานของอาคารอื่นๆได้ไม่ยาก มี Lobby เล็กหน่อย พร้อมลิฟต์ 4 ตัว อาคารนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และไม่วุ่นวาย เพราะอยู่ด้านในสุด คนผ่านไปมาน้อย และไม่มีพื้นที่ส่วนกลางบนอาคารครับ

ส่วนขึ้นมาด้านบน จะได้รับวิวที่ค่อนข้างโล่งทั้งฝั่งทิศเหนือและทิศใต้เลย ทดแทนการอยู่ลึกและไม่มีพื้นที่ส่วนกลางบนอาคาร ซึ่งลักษณะภายในอาคารจะเหมือนกับอาคาร C เลยครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมที่ชั้น 1, 4
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ 2 สระ
  • มีการแบ่งสระเด็ก
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว/อาคาร ที่อาคาร A, B
  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร ที่อาคาร C, D
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 246 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

แบบห้อง

สำหรับโครงการนี้จะมีแบบห้องแบบเดียว เป็น 1 bedroom 28 ตร.ม. (เคย)ขายราคาเดียวทั้งโครงการที่ 990,000 บาท สิ่งที่ได้คือ Fully Fitted แบบที่ได้มาแค่พื้นกระเบื้องยางไวนิลและห้องน้ำเท่านั้น มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องครัวมาให้อีกจุด อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจะได้ของ American Standard มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ นอกนั้นแต่งเอาเองครับ ต้องเผื่องบในส่วนนี้ไว้ด้วย

มาดูห้องแบบเดียวของโครงการนี้กันครับ กับห้อง 1 Bedroom 28 ตร.ม. เป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวที่จัดพื้นที่ภายในออกมาค่อนข้างโอเค เป็นแบบห้องที่เราเห็นกันบ่อยๆอยู่แล้วนะครับ ข้อดีของผังนี้คือจะได้ห้องที่มีสัดส่วน ได้ครัวปิดติดกับระเบียง ระบายอากาศได้ง่ายและมีส่งกลิ่นและควันไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้องเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร มีห้องน้ำให้ใช้งานได้ง่าย เวลามีแขกมาที่ห้องก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัวในห้องนอน

เริ่มที่ประตูทางเข้าห้อง จะมีพื้นที่ด้านข้างไว้สำหรับวางตู้รองเท้าได้ด้วย อีกฝั่งเป็นห้องน้ำใช้งานได้ง่าย ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่จะได้ระยะดูทีวีที่กว้าง ทำให้สามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้ วางโต๊ะกลางได้ แถมยังใช้ทีวีได้ขนาดใหญ่ด้วย ด้านในของห้องจะแยกออกเป็น 2 ส่วนคือห้องครัวที่ติดกับระเบียงอย่างที่บอกไปคือเป็นครัวปิด ระบายอากาศง่าย ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องนอน ซึ่งจะมีขนาดค่อนข้างกว้าง วางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ มีแนวกระจกที่ได้แสงธรรมชาติ และยังส่องเข้ามาถึงภายในได้ด้วย ไปดูกันภาพของจริงกันเลยครับ

เมื่อเข้ามาภายในห้องตัวห้องจะมีความสูง 2.4 เมตร ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่าที่ได้พื้นยางไวนิลมาให้ ประตูบานเลื่อนก็ให้มาแค่ฝั่งห้องครัว เครื่องปรับอากาศไม่ได้ให้มานะครับ

ขนาดห้องภายในค่อนข้างจะกว้างนะ ข้อดีคือได้ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในห้องนั่งเล่นหรือรับแขกบ่อย เพราะวางโซฟาได้ชุดใหญ่ ถึงขั้น Sofabed ได้เลย สำหรับครอบครัวที่อยู่กันหลายคนก็ได้จุดนี้เป็นพื้นที่พักผ่อนได้อีก และข้อดีอีกอย่างคือเราจะสามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้ เพราะมีระยะดูทีวีที่เหมาะสม (ในบางทีระยะแคบแล้วเราวางทีวีขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้ดูแล้วปวดหัวปวดตาได้นะ)

หันย้อนกลับไปที่หน้าห้องกันสักนิดนึง จะเห็นประตูหน้าห้อง และด้านข้างในห้องตัวอย่าง Built-in มาให้เป็นตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า ซึ่งของจริงจะเว้นที่ว่างไว้ให้ ตรงนี้เหมาะเลยครับ เพราะการมีตู้รองเท้านั้นเป็นเรื่องเล็กๆที่หลายคนมองข้ามไป จะช่วยให้สามารถเก็บของได้เป็นสัดส่วน และที่สำคัญคือไม่เข้าไปสร้างความสกปรกให้กับพื้นที่ภายในห้องด้วย ใครที่ชอบก็นำไปเป็นไอเดียในการตกแต่งได้ ส่วนฝั่งตรงข้ามคือห้องน้ำ เข้าไปดูกันเลย

ห้องน้ำจะได้หน้าตาแบบนี้เลยนะครับ เหมือนกับคอนโด Regent ที่อื่นๆเลย ทั้งกระเบี้องสุขภัณฑ์ต่างๆ และฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งผมเองก็แอบแปลกใจอยู่นะตอนแรกที่คอนโดราคานี้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย (บางทีไม่ให้นะ) กระเบื้องที่เลือกใช้ก็เน้นสีที่ดูสว่าง ทำให้ความรู้สึกที่สะอาด แนวกระจกยาวนี้ก็ให้มาด้วยครบ เรียกว่าพร้อมใช้งานเลยล่ะ

ขนาดพื้นที่ภายในใช้งานได้สะดวก ทั้งนั่งใช้งานโถสุขภัณฑ์ก็ไม่รู้สึกแคบเกินไป ส่วนพื้นที่อาบน้ำเองก็มีพื้นที่สำหรับวางที่วางอุปกรณ์อาบน้ำให้ หรือจะเจาะแขวนผนังก็ได้

อ่างล้างหน้าเซรามิคและโถสุขภัณฑ์เซรามิคแบบ 2 ชิ้นจาก American Standard ทั้งคู่ มาพร้อมสายชำระติดตั้งไว้ให้ในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน สำหรับใครที่ชอบใช้กระดาษทิชชู่ก็จะมีพื้นที่ให้ที่ติดแขวนกระดาษทิชชู่ด้านข้างไว้ให้นะครับ ที่ชอบคือด้านหลังเขาก่อผนัง Low Wall มาให้ด้วย สำหรับวางของเล็กๆน้อยๆ

ส่วนอาบน้ำให้ฉากกั้นอาบน้ำแบบ 2 ตอนมาด้วย ภายในเป็น Hand Shower จาก Nasco ผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศด้วย เหลือแค่ที่วางอุปกรณ์อาบน้ำก็น่าจะเป็นห้องน้ำที่ครบเลยแหละ ส่วนตัวผมแนะนำว่าถ้าจะใช้แบบวางพื้น ก็อาจจะต้องดันชิดด้านในติดกับผนังที่แขวนฝักบัว เพราะจะไม่ขวางทางเข้าออก แต่ถ้าใช้แบบแขวนด้านข้าง ก็สะดวกเลยนะ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ลองดูครับ

ระยะสำหรับวางโซฟาอย่างที่บอกไปว่ากว้างเหมือนกันนะ ถ้าอยู่ 2 คน ก็วางโต๊ะกลางไว้นั่งรับประทานอาหารพร้อมกับดูทีวีไปด้วยได้ หรือจะวางโซฟาชุดเล็กหน่อย แล้ววางเป็นโต๊ะรับประทานอาหารด้านข้างก็แล้วแต่ชอบครับ ส่วนพื้นที่ผนังด้านบน เราทำเป็นชั้นวางของได้นะครับ เป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า

ประตูบานเลื่อนกั้นห้องจะมีให้แค่ส่วนห้องครัวนะครับ ส่วนประตูบานเลื่อนแบ่งระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะต้องติดตั้งเอาเอง มองในแง่ดีก็ช่วยให้เราสามารถออกแบบได้เองตามต้องการ เช่น อยากเปิด 2 บาน แล้วมีช่องบาน Fixed ด้านข้างแบบห้องตัวอย่าง หรือจะเปิดกว้าง 3 ตอนเลยก็สามารถทำได้ เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันก่อนเลย

ห้องนอนก็มีขนาดไม่ได้แคบมากนะ วางเตียง 5 ฟุตได้สบาย มีช่องแสงริมผนังให้ค่อนข้างกว้าง ทำให้แสงส่องเข้าไปถึงภายในตัวห้อง

วางเตียง 5 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่ที่สามารถเดินได้รอบเตียง วางโต๊ะหัวเตียงได้ 2 ฝั่งสบายๆ ส่วนปลายเตียงจะแคบหน่อย ถ้าแขวนทีวีสำหรับนอนดูในห้องนอนก็อาจจะเดินผ่านไปมาที่ปลายเตียงได้ไม่สะดวกนัก แต่ก็ติดตั้งได้นะครับ

ช่องแสงผมว่าเขาให้มาเยอะนะ จะเป็นบาน Fixed 3 บาน ซ้าย ขวา ล่าง ส่วนตรงกลางเป็นบานกระทุ้ง สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้เลย

มาดูส่วนของห้องครัวกันบ้างครับ ที่เราจะได้คือห้องเปล่าๆ แต่จะต่อท่องานระบบรอไว้ให้นะ ซึ่งเราคงทำออกมาประมาณห้องตัวอย่างนี่แหละ ใช้เคาน์เตอร์ทางฝั่งด้านข้าง มีตู้เก็บของเล็กน้อยที่ด้านบนและล่าง แต่มีประตูบานเลื่อนแบบนี้มาให้นะ สำหรับเข้าออกพื้นที่ระเบียง

ก็จะเหลือพื้นที่ยืนทำครัวได้สบายๆ แต่ถ้ามีคนนึงยืนทำครัวอยู่ อีกคนจะเข้าออกไปยังระเบียงก็อาจจะเบียดสักหน่อย

ระเบียงของที่นี่จะกั้นมาให้ 2 ส่วนครับ คือพื้นที่ด้านในสำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งอาจจะใช้งานได้ค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ส่วนด้านนอกรั้วระเบียงจะเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit ซึ่งต้องวางซ้อนกัน 2 อันนะ ไม่อย่างนั้นก็ต้องแขวนทั้ง 2 อัน แต่ผมแนะนำให้วางซ้อนดีกว่า จะได้ไม่บังแสงที่จะเข้าห้องครัว

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคา

12 February 2020

  • ปัจจุบันโครงการ Sold Out ไปแล้ว แต่ที่เคยขายคือ 1 Bedroom 28 ตร.ม. ราคาเดียว 990,000 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • มีรถ Shuttle Bus รับส่งภายในโครงการออกมาหน้าโครงการ
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 4800 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 700 บาท/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : เป็นโครงการติดถนนใหญ่ที่อยู่ในทำเลใกล้ตัวเมืองเลย เพราะสามารถเดินทางได้ค่อนข้างหลากหลาย ออกถนนสายสำคัญได้หลายเส้น แถมยังติดกับสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซ่อนอีกด้วย ที่ผมชอบเลยคือมีความอุดมสมบูรณ์อยู่โดยรอบให้เลือกหลายจุด ทั้งตลาด ตลาดนัด Hypermarket หรือห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลชื่อดังอีกหลายแห่ง แถมยังเป็นโครงการที่ใกล้กับหน่วยงานราชการ และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่มากมาย เทียบกับราคาระดับนี้ก็จัดเป็นทำเลที่ร้ายกาจไม่เบาเลย

การเดินทางโดยใช้รถ : ด้วยความที่ติดถนนใหญ่ทำให้ได้เปรียบในเรื่องนี้ ทั้งถนนวงศ์สว่าง, ถนนรัชดาภิเษก ถนนประชาชื่น ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ออกไปประชาราษฎร์สาย 1, ถนนพระราม 5 และจากถนนประชาราษฎร์สาย 2 นี้จะใช้เชื่อมสู่ถนนพหลโยธิน ออกไปถนนวิภาวดีรังสิต และลาดพร้าวได้เลย แถมยังใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เพียงแค่ประมาณ 15-20 นาที  ก็เข้าเมืองได้สบายๆ ส่วนที่จอดรถภายในโครงการจะมีให้ทั้งหมด 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน อาจจะมองดูเป็นตัวเลขที่น้อยนะ แต่อย่าลืมว่าเป็นโครงการติดถนนใหญ่และแนวรถไฟฟ้า แถมยังราคาแค่นี้ด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : อีกหนึ่งไม้ตายของโครงการนี้คือการที่มีทำเลติดกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางซ่อน ที่เพียง 1 สถานีก็ไป Interchange กับสายสายสีน้ำเงินได้ที่สถานีเตาปูน แถมในอนาคจจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีบางซ่อน ในระยะเดินไม่กี่ร้อยเมตรให้ด้วย อีกอย่างคือหน้าโครงการก็มีป้ายรถประจำทางให้ แถมยังมีสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้สะดวกด้วย ติดถนนใหญ่จะเรียกรถสาธารณะไปไหนก็ไม่ลำบาก

วัสดุ : โดยรวมเรียกว่าให้มาน้อย เพราะตัวห้องพักอาศัยให้มาแบบ Fully Fitted ชนิดที่ได้มาแค่พื้นกระเบื้องยางไวนิลและห้องน้ำเท่านั้น มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องครัวมาให้อีกจุด อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจะได้ของ American Standard มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ นอกนั้นแต่งเอาเอง ซึ่งมองอีกแง่ก็อาจจะเป็นข้อดีของใครหลายๆคนที่ได้เลือกการตกแต่งเอง ไม่ใช่เพียงแค่เฟอร์นิเจอร์ แต่เรายังเลือกได้ว่าจะกั้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอย่างไร หรือจะไม่กั้นก็อาจจะถูกใจหลายๆคนได้เหมือนกัน

การออกแบบ : การออกแบบโครงการนี้ดูเผินๆแล้วก็เรียบง่ายนะครับ แต่จริงๆมีการคิดมาในรายละเอียดเล็กน้อยเหมือนกัน เช่นการเลือกวางแนวอาคารให้เลือกหลายแบบ การแยกโถงลิฟต์เพื่อเข้าใช้งานได้ง่ายขึ้น การวางพื้นที่ส่วนกลาง 2 จุดที่อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยเป็นวิวให้กับอาคารที่โดนบล็อควิว และเข้าถึงได้ง่าย มีร้านค้าด้านล่างเยอะที่ช่วยตอบสนองคนจำนวนมากที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ ชนิดที่เรียกว่ามีตลาดอยู่ใต้คอนโดเลย ได้ประโยชน์ทั้งคู่แบบวินๆ รวมไปถึงการเดินรถและการจอดรถภายในโครงการที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะมากคนก็มากความ การทำอะไรให้ง่ายกับพื้นที่ที่คนเยอะแบบนี้ก็เรียกว่าเป็นการออกแบบที่ดีเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาเหมือนกันนะ

สาธารณูปโภค :  จัดว่ามีให้ใช้ครบตามมาตรฐานทั้งสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกาย กับจำนวนยูนิตขนาดนี้ก็ถือว่าให้มาน้อยนะครับ แต่ด้วยระดับราคาแล้วก็เข้าใจได้ ไม่ว่ากัน ส่วนตัวผมชอบที่เขาวางตำแหน่งได้ดี ได้แนวอาคารของโครงการข้างเคียงช่วยบังแดดให้ในตอนบ่าย ทำให้ใช้งานได้หลากหลายเวลามากยิ่งขึ้น และการแยกเป็น 2 จุดก็ช่วยกระจายความเป็นส่วนตัวและจำนวนผู้ใช้ลงด้วย ถือว่าไม่แย่ครับ

Judgement

เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการขายเปลี่ยนแปลงเป็นแบบซื้อต่อกันเอง(มือสอง) ซึ่งค่อนข้างมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของวัสดุ การตกแต่งภายในห้อง รวมทั้งเรื่องของราคาที่ค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งครบ ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้คะแนนในรีวิวนี้ได้ครับ

BOTTOM LINE

Regent Home บางซ่อน 28 เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ สถานะมือ 2 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดบนถนนใหญ่ในย่านบางซ่อนแบบที่ติด MRT และมีความอุดมสมบูรณ์ เดินถึงคอนโดได้ไม่เปลี่ยว เน้นไปที่ 1 ห้องนอน ชอบตกแต่งห้องเอง ไม่ติดกับการอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านหลายยูนิต มีงบประมาณ 1-1.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 – 10,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving