Plum Condo New West คอนโดติดห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต และ IKEA บางใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง จาก พฤกษา [รีวิวฉบับที่ 2571]

Plum Condo New West (พลัม คอนโด นิว เวสต์) ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2566

Highlights :

• ติดกับห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต และอิเกีย บางใหญ่ ในระยะ 0 m. ความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถหาของกินหรือช้อปปิ้งได้ง่ายมาก
• เข้า-ออกเมืองได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT และใกล้ถนนกาญจนาภิเษก
• กำลังมีโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่สามารถใช้งานได้ในอนาคต

พิกัด Google Maps : 13.877895, 100.413765
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

..หากพูดถึงจุดที่คึกคักและอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของย่านบางใหญ่ ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 ห้างใหญ่สุดของย่านอย่าง ‘เซ็นทรัล เวสต์เกต’ และ ‘IKEA บางใหญ่’ ใช่มั้ยครับ และหากจะพูดถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้ห้างเหล่านี้ หลายๆคนก็จะต้องนึกถึง ‘พฤกษา’ กันอย่างแน่นอน เพราะเค้าถือเป็น Developer เจ้าแรกๆเลยที่มาบุกเบิกคอนโดแถวนี้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน (ก่อนจะมีอิเกียและรถไฟฟ้าซะอีก) ซึ่งทั้ง 3 โครงการก่อนหน้านี้ก็ได้ผลตอบรับที่ดีจากคนในย่าน และได้ Sold Out ไปหมดทุกโครงการกันเลยทีเดียว

โดยวันนี้ทางพฤกษาก็ได้เปิดตัวโครงการใหม่ Plum Condo New West ที่อยู่ในซอยข้างๆเซ็นทรัลติดกับโครงการรุ่นพี่ในเฟสก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าความอุดมสมบูรณ์นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เพราะเราสามารถเดินไปช้อปปิ้ง ทานข้าว และดูหนังที่ห้างได้ทุกวัน ในระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้าเมือง จึงเหมาะกับคนที่เน้นใช้ชีวิตเข้าเมืองไปทางโซนราชพฤกษ์และสนามบินน้ำ ซึ่งย่านนั้นก็มีแหล่งงานสำคัญอย่างพวกศูนย์ราชการตั้งอยู่ด้วย รวมถึงเรายังอยู่ใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก ที่สามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองไกลๆได้ด้วย และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ‘รถไฟฟ้าสายสีม่วง’ ที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมากๆเลยนั่นเอง

New Mega Project :

สำหรับเมกะโปรเจคต์อื่นๆที่น่าสนใจของย่าน ก็จะมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) โดยมีระยะทางทั้งหมด 96 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชม. เราก็จะถึงจังหวัดกาญจนบุรีแล้วครับ (จากปกติต้องใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชม.)

โดยจุดเริ่มต้นก็จะอยู่ตรงบริเวณปากซอยที่โครงการ Plum Condo New West ของเราตั้งอยู่พอดีเลยครับ ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง และคาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการเต็มที่ในปี 2568 หรืออีกประมาณ 2 ปีข้างหน้านี้นั่นเอง

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ :

ตัวโครงการจะตั้งอยู่ภายในซอยย่อย โดยถัดเข้าไปจากถนนใหญ่ลึกประมาณ 300 m. ซึ่งทางโครงการจะมี Shuttle Service เป็นรถกอล์ฟไว้คอยบริการรับ-ส่งลูกบ้านมาที่หน้าปากซอยให้ฟรีด้วย รวมถึงตรงปากซอยเองปัจจุบันก็มีวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ด้วยครับ สามารถเรียกใช้บริการพี่ๆเค้าได้ถ้าไม่อยากเดินเองให้เหนื่อยนะ

สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด :

ถึงแม้ว่า ‘MRT สามแยกบางใหญ่’ จะมีระยะทางที่ใกล้กว่าอยู่ที่ประมาณ 800 m. จากตัวโครงการ แต่จริงๆแล้วสถานีที่น่าใช้งานจริงๆจะเป็น ‘MRT ตลาดบางใหญ่’ ที่มีระยะทางรวมประมาณ 1.2 km. เพราะเป็นสถานีที่เราสามารถแวะห้างเซ็นทรัล เพื่อมาช้อปปิ้ง/ทานอาหารก่อนจะกลับเข้าบ้านได้นั่นเองครับ

เรามาเดินดูทำเลรอบๆโครงการกันสักหน่อยครับ เริ่มจากบริเวณปากซอยปัจจุบันจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายของโครงการแบบนี้เลย

ซึ่งภายในก็จะมีทั้งโมเดลและห้องตัวอย่างให้ดูกันถึง 3 แบบ รวมถึงยังมีตู้เกมส์ Arcade จำลองมาให้ดูบรรยากาศของฟังก์ชันส่วนกลางกันด้วยครับ

และจากตัวสำนักงานขายก็จะมีทางเดินเชื่อมต่อทางซ้ายมือ ซึ่งเราสามารถเดินไปห้างเซ็นทรัลได้สะดวกแบบนี้เลย รวมถึง SkyWalk ของรถไฟฟ้าก็จะมีทางเชื่อมที่เข้าจากห้างได้โดยตรงอีกด้วย

ส่วนทางด้านขวาของซอยก็จะเป็นทางที่มุ่งหน้าเข้าเมืองไปราชพฤกษ์-สนามบินน้ำ รวมถึงเรายังสามารถเดินริมฟุตบาทเพื่อไปรถไฟฟ้า MRT สามแยกบางใหญ่ ในระยะทางประมาณ 500 m. ได้อีกด้วย ส่วนตรงปากซอยก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ครับ

ปล.ปัจจุบันตรงปากซอยอาจยังมีบรรยากาศของการก่อสร้างถนนอยู่ เนื่องจากเค้ากำลังทำมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีกันอยู่นั่นเองครับ คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568

ภายในซอยถนนเส้นนี้จะเป็นถนนภาระจำยอม ที่ใช้งานร่วมกันระหว่างโครงการของพฤกษาทั้งหมดที่อยู่ในนี้ โดยที่ใต้ตึกแรกหรือเฟสที่ 1 จะมีร้านสะดวกซื้อคอยให้บริการด้วยนะครับ

ส่วนทำเลที่ตั้งของโครงการ Plum Condo New West ที่เป็นเฟสใหม่ล่าสุดเลย ก็จะอยู่บริเวณสุดซอยที่มีการล้อมรั้วเอาไว้แล้วเรียบร้อย โดยระยะทางเข้ามาจากปากซอยคือประมาณ 300 m.

ซึ่งฟุตบาทด้านซ้ายมือก็พอจะมีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาอยู่บ้างครับ จึงทำให้สามารถเดินได้จริง แต่ถ้าเป็นช่วงบ่าย 2 เป็นต้นไป จะมีเงาของตัวอาคารเฟส 1 และ 2 ทอดยาวมาบังแดดให้อีกที ทำให้เราสามารถเดินได้ชิลๆสบายๆเลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนแนวราบ ห้างสรรพสินค้า และตึกสูงที่เป็นเฟสแรกๆของทางพฤกษาเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในทิศหลักที่รับวิวแต่อย่างใด ดังนั้นปัจจุบันจึงได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งดีทีเดียวครับ อีกทั้งทำเลในซอยแบบนี้ก็ทำให้มีความเงียบสงบและไม่ค่อยวุ่นวายอีกด้วย

• ทิศเหนือ : ติดกับ ชุมชมแนวราบ และได้วิวเปิดโล่งไปทางบางบัวทอง
• ทิศใต้ : ติดกับ พลัมคอนโดเฟสที่ 2 (ไม่ได้มีรูปวิวให้ดู และไม่ได้มีห้องไหนเลยที่จะมองเห็นทิศนี้นะครับ)

• ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนาและซอยภาระจำยอม ปัจจุบันได้วิวที่เปิดโล่งของชุมชนแนวราบ มองออกไปทางราชพฤกษ์-สนามบินน้ำ

• ทิศตะวันตก : ติดกับ อิเกียบางใหญ่ และได้วิวที่เปิดโล่งมองออกไปทางถนนกาญจนาฯ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• CENTRAL WESTGATE ~ 500 ม. (ระยะเดิน)
• IKEA บางใหญ่ ~ 500 ม. (ระยะเดิน)
• HomePro ~ 800 ม. (ระยะเดิน)
• BigC ~ 800 ม. (ระยะเดิน)
• BB Market ~ 500 ม. (ระยะเดิน)
• ตลาดบางใหญ่ ~ 600 ม. (ระยะเดิน)

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ~ 1.1 กม.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ~ 1.2 กม.

การเดินทาง

• MRT สามแยกบางใหญ่ ~ 400 ม.

Highlights :

• ส่วนกลางมีคอนเซ็ปต์และกิจกรรมที่น่าสนใจ จัดเต็มมาให้ถึง 5 โซน 5 สไตล์ รวมเกือบ 30 ฟังก์ชัน โดยเฉพาะ Adventure Zone จะมีเกมส์ Laser Combat ให้เล่นได้ด้วย
• แบ่งโซนฟังก์ชันได้ดี มีการใช้งานที่ไม่รบกวนกัน อีกทั้งยังเป็นการกระจายความหนาแน่นในการใช้งานออกไปได้อีกด้วย
• วางผังอาคารออกมาได้ไม่บังวิวกันเอง และตำแหน่งห้องแต่ละแบบก็จะอยู่ในด้านที่ต่างกันออกไปชัดเจน สามารถเลือกได้ง่าย

Plum Condo New West เป็นคอนโดตึกสูงแห่งที่ 3 ในย่านเช่นเดียวกับรุ่นพี่ 2 โครงการก่อนหน้านี้ที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคราวนี้กลับมาพร้อม 4 คอนเซ็ปต์ใหม่คือ

• เล่นใหญ่ : จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางมาให้ถึง 5 โซนรวมเกือบ 30 ฟังก์ชัน พร้อมกิจกรรมสนุกๆที่ไม่เหมือนใครในย่าน
• เส้นใหญ่ : ทำเลเดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่และทางด่วนมอเตอร์เวย์ รวมถึงยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สามแยกบางใหญ่อีกด้วย
• ยกใหญ่ : ถูกใจวัยนักช้อป เพราะอยู่ติดห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต และอิเกีย บางใหญ่ ซึ่งเราสามารถไปช้อปปิ้งยกถุงใบใหญ่เข้าบ้านได้ทุกวัน
• หน้าใหญ่ : คอนโดดีไซน์ใหม่สไตล์ Modern Pop-Art โดดเด่นด้วยอาคารโทนสีเหลืองสดใส และมี Detail สนุกๆไม่ซ้ำแบบใคร พร้อมให้เราได้เช็คอิน/ถ่ายรูปอวดเพื่อนๆในโซเชียลกันได้เลย

ที่นี่จะโครงการเป็นคอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร และมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 1,124 ยูนิต โดยพื้นที่ส่วนกลางก็จะกระจายอยู่ในชั้นต่างๆ แบ่งเป็นโซนการใช้งานออกเป็น 4 โซน ทำให้ไม่รบกวนกัน

แต่ที่เป็น Highlight ของโครงการที่ไม่เหมือนใครเลยก็คือ Adventure Zone ที่อยู่บนชั้น 1 ซึ่งถือเป็นคอนโดแรกๆเลยที่ได้นำกิจกรรมอย่าง Laser Combat เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในฟังก์ชัน และน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่หรือสายลุยๆอยู่แล้วไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวครับ

Master Plan :

บริเวณชั้น 1 หลักๆจะแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถ เป็นสัดส่วนอย่างละครึ่งกันเลยก็ว่าได้ครับ แต่ที่ดีก็คือ เค้าจะมีการแบ่งโซนพื้นที่ออกจากกันชัดเจน ทำให้สามารถใช้งานได้แบบไม่รบกวนกัน โดยทางเดินรถก็จะอยู่แยกออกมาทางด้านหลังอาคาร ทำให้บริเวณด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ทางเดินเชื่อมต่อการใช้งานระหว่าง Facilities ทั้ง 2 โซนได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องคอยระวังรถที่จะวิ่งสวนทางมาให้ได้รับอันตรายนั่นเองครับ

สำหรับฟังก์ชันส่วนกลางจะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆคือ Creator Zone จะเป็นพื้นที่ใช้งานภายในอาคารรวมกับ Lobby และโถงลิฟต์ต่างๆ ซึ่งจะเน้นเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนและทำงานอ่านหนังสือได้นั่นเอง ส่วนพื้นที่ Adventure Zone จะเป็นฟังก์ชันกลางแจ้งด้านหลังโครงการ สามารถมาใช้เล่นกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ หรือจะออกมาเดินเล่นพักผ่อนในสวนก็ได้ครับ

ทั้งนี้ก็แลกมากับการที่ตำแหน่งของ Creator Zone จะไม่ได้เห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ด้านในนะครับ เนื่องจากเค้าต้องการให้เกิดความเป็นส่วนตัว มากกว่าจะต้องมองเห็นคนเล่นกิจกรรมอยู่ด้านนอกแล้วเสียสมาธิในการทำงานนั่นเอง

จากโมเดลเราจะเห็นว่าตรงทางเข้าหลักไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนอื่นๆของโครงการได้เลย และจุดรับ-ส่ง (Drop-Off) ก็จะอยู่บริเวณด้านหน้าด้วย จึงทำให้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวที่ดีทีเดียว ส่วนถ้าใครที่เป็นลูกบ้านก็จะต้องขับรถอ้อมไปเข้าที่จอดทางด้านหลังนะครับ โดยจะมีจำนวนที่จอดประมาณ 40% แบบรวมจอดซ้อนคัน ถือว่าค่อนข้างมาตรฐานและเหมาะสมกับทำเลที่มีรถสาธารณะอื่นๆเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้แบบนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีระยะของถนนด้านหน้าก่อนจะถึงตัวอาคารพอสมควรครับ ซึ่งทางโครงการก็ได้ทำเป็นพื้นที่สีเขียวตลอดเส้นทางเลยนะ โดยหากมีการปลูกเป็นต้นไม้ใหญ่เอาไว้ด้วยล่ะก็ อนาคตก็อาจกลายเป็นซุ้มต้นไม้ร่มรื่นๆเป็นส่วนต้อนรับลูกบ้าน และช่วยปรับอารมณ์ความวุ่นวายภายนอกก่อนที่จะกลับเข้าบ้านได้เป็นอย่างดีด้วยนั่นเอง

บริเวณด้านหน้าอาคารจะเป็นพื้นที่ Facilities ซึ่งถนนด้านนอกจะสามารถเดินเชื่อมต่อกับสวนที่อยู่ด้านหลังได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีรถขับสวนทางมาเป็นอันตรายเลยครับ เพราะเค้าได้แยกโซนออกมาอย่างชัดเจนแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้เรายังสะดุดตากับบันไดสีน้ำเงินด้านนอก ซึ่งจะเชื่อมต่อที่จอดรถทุกชั้นไปจนถึง Main Facilities ที่อยู่ชั้น 6 ได้เลย แต่ก็จำเป็นจะต้องใช้ Key Card Access เพื่อความปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าคนภายนอกจะขึ้นไปได้นะครับ

Creator Zone :

สำหรับฟังก์ชันภายในชั้น 1 จะประกอบด้วย Lobby / Private Creator / Live Space / Reader Space และ Creator Space ซึ่งหลักๆก็จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน และนั่งทำงานอ่านหนังสือได้นั่นเอง

แต่ก็จะสังเกตได้อีกอย่างว่า เค้าจะมีการแบ่งเป็นโซนแยกย่อยออกมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโซน Indoor / Outdoor และโซนที่เป็นส่วนตัวมากๆก็มีให้ใช้งานพร้อม ใครที่ต้องการใช้งานฟังก์ชันแบบไหนก็สามารถเลือกใช้กันได้ตามอัธยาศัยเลย

Adventure Zone :

ถัดมาจะเป็นฟังก์ชันโซน Outdoor ที่ถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight สำคัญของโครงการ อีกทั้งยังเป็นโครงการแรกของพฤกษา และเป็นโครงการเดียวในย่านที่มีการนำกิจกรรม Laser Combat เข้ามาเป็น Facilities แบบนี้ด้วยครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกีฬา PaintBall หรือยิงปืนเลเซอร์กับเพื่อนๆอยู่แล้วก็น่าจะถูกใจไม่น้อย

นอกจากกิจกรรมนี้ก็จะมีฟังก์ชันอื่นๆให้ใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นพักผ่อนในสวน ลานสำหรับเล่นสเก็ตบอร์ด และมุมเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งเหมือนกับสวนสาธารณะด้านนอกเลยครับ

ภาพจำลองบรรยากาศของ Adventure Zone ซึ่งวิธีการเล่นกิจกรรมนี้จำเป็นต้องจองล่วงหน้ากับนิติบุคคลก่อนครับ และทางโครงการก็จะมีชุดอุปกรณ์ต่างๆเตรียมไว้ให้ประมาณ 10 ชุด สามารถแบ่งทีมแข่งขันกันฝั่งละ 5 คนได้เลย

โดยสนามแข่งก็คือพื้นที่สวนทั้งหมดเกือบ 1 ไร่นี้นั่นเองครับ ซึ่งได้ตกแต่งให้มีผนังปูนต่างๆเป็นเหมือน Bunker ที่กำบังสำหรับเล่นกิจรรมนี้มาไว้แล้วนั่นเอง ส่วนถ้าเป็นช่วงเวลาปกติที่ไม่ได้มีการใช้เล่น Laser Combat เราก็สามารถมาเดินเล่นพักผ่อนในสวนกันได้ตามปกติครับ

แปลนชั้น 6 จะเป็นหนึ่งในชั้น Main Facilities ที่จะมีโซนห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วยครับ แต่ก็จะแยกโซนกันชัดเจน และต้องใช้ Key Card Access เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย ซึ่งชั้นนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานส่วนกลางเหล่านี้เป็นประจำ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวน เพราะสามารถมาใช้งานได้สะดวกมากๆนั่นเอง โดยตำแหน่งห้องที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็จะมี 2 จุดคือ

• กรอบสีแดง : เป็นเพียง 2 ห้องของชั้นนี้ที่จะมองเห็นสระว่ายน้ำได้ โดยมีแนวต้นไม้ช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้อีกชั้นหนึ่งด้วยครับ อาจต้องรอดูของจริงอีกทีว่าจะมองเห็นสระได้มาก-น้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆจะเป็นห้องที่ได้รับความชื้นและเย็นของสระ รวมถึงได้ยินเสียงน้ำเบาๆอยู่เกือบตลอดเวลาด้วยนั่นเอง
• กรอบน้ำเงิน : เป็นห้องที่อยู่ติดกับสวนของชั้นนี้ ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นพื้นที่สีเขียวได้จากภายในห้องแบบเต็มๆเลยครับ โดยสวนแห่งนี้ก็จะเน้นเป็นจุดนั่งเล่นพักผ่อนชิลๆ ไม่ได้มีกิจกรรมที่รบกวนการอยู่อาศัยมากนัก ดังนั้นผมจึงคาดการณ์ว่าน่าจะมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งเลยทีเดียว

Influencer Zone :

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันอาชีพ Influencer ค่อนข้างจะมาแรง ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานหรือทำ Content ได้เสมอ ดังนั้นฟังก์ชันส่วนกลางของชั้น 6 – 7 จึงมีแนวคิดการออกแบบเป็นพื้นที่ให้เราได้ถ่ายงานทำ Content ลงโซเชียลได้หลากหลายมุมมากๆ

ไม่ว่าจะเป็นโซนของพื้นที่สีเขียว โซนสระว่ายน้ำ โซนห้องออกกำลังกาย โซนห้องทำอาหาร และโซนพื้นที่นั่งเล่นด้านในอาคารก็มี ซึ่งเราก็สามารถเลือกมุมที่อยากถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ หรือนั่งทำงานกันได้ตามใจชอบเลยครับ

เริ่มต้นกันที่สวนแบบ Outdoor จะเหมาะกับสายชิลๆที่ชอบความเป็นธรรมชาติ โดยตามมุมใต้ต้นไม้ต่างๆก็จะมีชุดโต๊ะเก้าอี้ และพื้นที่ให้เราสามารถมานั่งเล่นพักผ่อน หรือนั่งทำงานในสวนแบบนี้กันได้ แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวันก็แนะนำให้เข้าไปหลบแดดใน Influencer Bar กันก่อนได้ ซึ่งภายในก็จะมีปลั๊คให้เราเสียบชาร์จไฟได้ด้วยนะครับ

อีกด้านหนึ่งของอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำขนาด 50 x 6 m. เรียกได้ว่าสามารถว่ายน้ำกันได้แบบจริงจังเลยครับ ซึ่งบริเวณนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ Influencer สามารถมาเปลี่ยนวิวเพื่อถ่าย Content ริมสระได้ด้วยนั่นเอง

โดยความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ เค้าจะมีเครื่องเล่นเป็นสไลด์เดอร์ (Water Splash) ให้ได้เล่นสนุกเหมือนสวนน้ำกันด้วยครับ ส่วนถ้าเป็นสระเด็กก็จะอยู่ส่วนน้ำตื้นใต้อาคาร ใกล้ๆกับการดูแลของผู้ปกครองเพื่อความปลอดภัยหน่อยนั่นเอง

ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องออกกำลังกาย (Fit Space) นอกจากจะเหมาะกับคนที่รักสุขภาพและต้องการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรงแล้ว ยังเหมาะกับ Influencer สายสุขภาพด้วยเช่นกัน

โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ จะเป็นส่วนกลางเพียงฟังก์ชันเดียวในโครงการ ที่หันหน้าออกไปรับวิวสระว่ายน้ำด้านนอกได้แบบเต็มๆเลยครับ นั่นจึงทำให้เวลาที่เรามาออกกำลังกายไป ก็จะมีวิวสวยๆให้ชมแบบนี้ไปด้วยนั่นเอง

แปลนชั้น 7 จะยังคงเป็นชั้นพักอาศัยที่มีส่วนกลางอยู่บางส่วนนะครับ แต่ก็ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้น 6 มากทีเดียว แถมยังได้วิวมุมสูงของสวนและสระว่ายน้ำสวยๆอีกด้วยนะ ดังนั้นห้องที่ผมค่อนข้างแนะนำก็จะเป็นทางฝั่งทิศตะวันออก ซึ่งใครที่ชอบวิวสวนหรือสระว่ายน้ำก็ลองเลือกกันดูได้เลยครับ

ส่วนกลางของชั้นนี้จะมีแค่ 2 ฟังก์ชันคือ Cooking Space และ Hangout Space เป็นพื้นที่เน้นการนั่งเล่นพักผ่อนร่วมกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเราสามารถมาใช้งาน Facilities ได้จาก 2 ทางหลักๆคือ ขึ้นลิฟต์มาจากชั้นอื่นๆ หรือจะเดินขึ้นบันไดเชื่อมต่อมาจากโซนสระว่ายน้ำชั้น 6 ก็ได้ครับ

จากโมเดลเราจะเห็นว่ามีบันไดที่เดินเชื่อมต่อส่วนกลางชั้น 6 และ 7 ได้แบบนี้ครับ ซึ่งฟังก์ชันด้านบนจะแบ่งเป็นฟังก์ชัน 2 ส่วนหลักๆคือ Hangout Space จะเป็นโซน Semi-Outdoor ให้เราสามารถมานั่งเล่นชิลๆ พร้อมกับชมบรรยากาศทางฝั่งสระว่ายน้ำกันได้ครับ

ส่วน Cooking Space จะเป็นฟังก์ชันที่อยู่ Indoor ในห้องแอร์เย็นๆ อีกทั้งยังมีมุมครัวให้มายืมใช้ประกอบอาหารและทานร่วมกันได้อีกด้วย โดยทางฝั่งนี้เราจะสามารถมองออกมาชมวิวทางฝั่งสวนได้นั่นเอง

ภาพบรรยากาศจำลองของส่วนกลางชั้น 6 และ 7 ซึ่งออกแบบมาให้เป็นพื้นที่ใช้งานเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมดเลย โดยเฉพาะโซน Cooking Space และ Hangout Space จะมีเพียงประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเท่านั้น แต่ก็ยังมีมุมมองและพื้นที่เชื่อมต่อกัน

ซึ่งเราสามารถใช้พื้นที่ทั้ง 2 ส่วนในการจัดปาร์ตี้ทานอาหารร่วมกันกับเพื่อนๆ และครอบครัวขนาดใหญ่ได้ ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในห้องที่มีพื้นที่จำกัด และไม่ต้องออกไปร้านอาหารข้างนอกให้เสียเวลาอีกด้วยครับ

แปลนชั้น 8 จะเริ่มเป็นโซนห้องพักอาศัยทั้งหมดแล้วครับ แต่ก็จะมีบางส่วนเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูงของ Facilities ชั้นก่อนหน้านี้อยู่ด้วย เลยทำให้เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยกว่าชั้นปกติอยู่ที่ 39 ห้องนั่นเอง และหากคิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการคือ 281 :  1 ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นมากเลยทีเดียว โดยในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ทุกคนจะออกไปทำงานตอนเช้า หรือตอนกลับบ้านมาช่วงเย็นๆ ก็อาจต้องมีการยืนรอคิวลิฟต์อยู่พอสมควรเลยครับ

แปลนชั้น 9 – 31 จะเป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็ม Floor ที่มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 41 ยูนิต/ชั้น แน่นอนว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวนะ โดยการวางผังจะเป็นลักษณะคล้ายรูปตัว T ไม่บังวิวกันเอง และวางโถงลิฟต์หลักเอาไว้ช่วงกลางๆ เพื่อที่ทุกๆห้องจะได้มีระยะมาใช้งานได้สะดวกพอๆกัน ซึ่งโซนของห้องพักแต่ละจุดก็จะมีความน่าสนใจและแตกต่างกันออกไปดังนี้

1. กรอบสีแดง : เป็นตำแหน่งพิเศษที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะด้วยโถง Corridor หน้าห้องจะแยกตัวออกมาจากโถงหลัก และมีเพื่อนบ้านที่ใช้งานร่วมกันเพียง 2 – 4 ห้องเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นห้อง Type พิเศษอย่าง 1 Bedroom ไซส์ใหญ่สุด (สีฟ้า) และห้อง 1 Bedroom Plus (สีเทา) ซึ่งจะมีเพียงอย่างละ 2 ยูนิต/ชั้นเท่านั้นอีกด้วยครับ
2. กรอบสีฟ้า : ห้องทั้งหมดจะเป็น Type B ขนาด 26 ตร.ม. และจะหันหน้าไปทิศทางเดียวกับ Facilities ที่อยู่บนชั้น 6 อย่างสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง (สามารถเลือกได้ตามความชอบ ว่าอยากก้มลงไปเห็นวิวแบบไหนมากกว่ากัน) โดยปัจจุบันห้องทางทิศนี้จะเป็นวิวที่เปิดโล่งมองเห็นไปทางราชพฤกษ์ได้อยู่ครับ (อนาคตจะมีตึกสูงเฟสใหม่เกิดขึ้นทางด้านนี้ แต่ต้องรอดูอีกทีว่าจะออกแบบให้เลี่ยงการบังวิวได้มากน้อยแค่ไหนนะ) ดังนั้นถ้าจะให้ชัวร์ผมก็แนะนำเป็นชั้นที่ไม่สูงขึ้นมามากนัก เพราะเราจะได้มีวิวสวยๆของส่วนกลางให้ชมกันได้แบบเต็มที่นั่นเอง
3. กรอบสีส้ม : ทั้งหมดจะเป็นห้อง Type A ขนาด 24.50 ตร.ม. ที่เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ โดยจะหันหน้าออกไปทางฝั่งถนนกาญจนาภิเษก และยังอยู่ติดกับห้าง IKEA บางใหญ่ จึงค่อนข้างการันตีวิวเปิดโล่งในระยะใกล้ได้พอสมควร ว่าเราจะไม่โดนบังวิวทางฝั่งนี้ง่ายๆแน่นอนครับ อีกทั้งยังมีความน่าสนใจในเรื่อง ‘ราคา’ ที่จับต้องได้ง่ายกว่าตำแหน่งอื่นๆอีกด้วย

ขึ้นมาจนถึง 2 ชั้นบนสุดของอาคารกันแล้วนะครับ โดยที่ชั้นเหล่านี้ก็จะมี Sky Facilities ให้เราได้ใช้งานและขึ้นมาชมวิวมุมสูงสวยๆกันได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆคือ Entertainer Zone บนชั้น 32 และ Sky Camper Zone จะอยู่บนชั้นดาดฟ้ากลางแจ้ง

แปลนชั้น 32 จะเป็นชั้นที่มีทั้งห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางอยู่ร่วมกันเหมือนชั้น 6 และ 7 ก่อนหน้านี้เลยครับ โดยที่ฟังก์ชันของชั้นนี้จะเน้นเป็นสาย Entertain สามารถขึ้นมาเล่นเกมส์ จัดปาร์ตี้ และชมวิวมุมสูงสวยๆได้นั่นเอง

Entertainer Zone :

ภาพบรรยากาศจำลองของห้อง Game Arcade ซึ่งภายในจะมีอุปกรณ์ต่างๆให้เราได้มาเล่นสนุกร่วมกันเพื่อนๆหลายๆคนได้ โดยหลักๆก็จะมีทั้งโต๊ะพูล / Board Game / Nintendo Switch และทีเด็ดเลยก็คือ ตู้เกมส์ Arcade นั่นเองครับ

ซึ่งจริงๆแล้วตู้เกมส์ Arcade ก็จะมีลักษณะเป็นเหมือนตู้เกมส์กดทั่วไป ที่ปัจจุบันนี้เราก็ยังสามารถพบเห็นตามห้างสรรพสินค้าต่างๆได้อยู่ครับ

แต่เบื้องต้นทางโครงการได้บอกความพิเศษ ของเจ้าเครื่องที่จะนำมาตั้งที่นี่ก็คือ ภายในจะมีการบรรจุเกมส์เก่าตั้งแต่สมัยยุค 80 – 90 มาให้เราได้ย้อนวัยเล่นกันได้เป็นสิบๆเกมส์เลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องรอดูของจริงในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะครับ

Sky Camper Zone :

มาถึงชั้นสุดท้ายอย่าง ‘ดาดฟ้า’ ซึ่งจะเป็นโซน Outdoor ที่เอาใจสายแคมป์ปิ้งและรักธรรมชาติกันบ้างครับ โดยจุดเด่นของชั้นนี้นอกจากจะมีจุดให้ขึ้นมาชมวิว และมีพื้นที่ให้นั่งเล่นทำงานใต้ต้นไม้ตามจุดต่างๆแล้ว ยังมีลู่วิ่งลอยฟ้า (Jogging Track) ที่จำลองลักษณะการเดินเทรลขึ้นทางลาดของภูเขา มาให้เราได้เปลี่ยนประสบการณ์การออกกำลังกายใหม่ๆอีกด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Creator Zone ชั้น 1 (ภายในอาคาร)
  – Lobby
  – Creator Bar
  – Private Creator
  – Live Space
  – Reader Space
  – Creator Space
• Adventure Zone ชั้น 1 (ภายนอกอาคาร)
  – Adventure Station
  – Skate Court
  – Functional Training
• Influencer Zone ชั้น 6
  – Content Station
  – Influencer Bar
  – Fresh Pool ระบบเกลือ ขนาด 50 x 6 m.
  – Water Splash (สไลด์เดอร์)
  – Jacuzzi
  – Fit Space (ห้องออกกำลังกาย)
• Influencer Zone ชั้น 7
  – Cooking Space
  – Hangout Space
• Entertainer Zone ชั้น 32
  – Party Lounge
  – Game Arcade
• Sky Camper Zone ชั้น Rooftop
  – Urban Farming
  – Outdoor Theater
  – Outdoor Bar
  – BBQ Space
  – Jogging Track
  – Sky Observatory
  – Sunken Seat
• ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 281 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 40% แบบรวมจอดซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access

Highlights :

• เน้นห้อง 1 Bedroom สำหรับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน
• ฝ้าเพดานห้องสูงกว่าปกติ 2.8 m. ทำให้มีความโปร่งโล่ง และได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งมากขึ้น
• ขายแบบ Fully Fitted สามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งห้องได้เองตามต้องการ
• แบบห้องส่วนใหญ่จะได้เป็นครัวปิด และมักจะกั้นห้องนอนด้วยผนังกระจก เพื่อความกว้างขวางและโปร่งโล่งภายใน

แบบห้องของโครงการ Plum Condo New West จะมีทั้งหมด 4 Type โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ประกอบด้วย

• Type A : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.50 ตร.ม.
• Type B : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.49 ตร.ม.
• Type C : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31.96 ตร.ม.
• Type D : 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.71 ตร.ม.

ลักษณะการขายจะเป็นแบบ Fully Fitted คือได้เฉพาะชุดครัว ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียง และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น จึงอาจต้องเผื่องบไว้ซื้อของเข้าห้องอีกหน่อยนะครับ

แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบแต่งห้องเองอยู่แล้วก็น่าจะเหมาะดีทีเดียว ซึ่งตัวโครงการเองก็อยู่ใกล้ๆกับอิเกียบางใหญ่ด้วย ทำให้เราสามารถไปเดินเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งห้องได้ง่ายๆเลยครับ

เริ่มกันที่ห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ จุดเด่นคือ “ห้องครัวอยู่ติดกับระเบียง” จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองบ่อยๆ เพราะเราสามารถเปิดประตูระบายอากาศได้โดยตรงเลยครับ อีกทั้งเราสามารถกั้นประตูครัวเพิ่มเติมเอง เพื่อที่จะได้ช่วยกันกลิ่น/ควัน ไม่ให้เข้ามารบกวนในห้องได้ถ้าต้องการ

ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เพื่อให้บริเวณหน้าห้องได้รับทั้งแสงสว่างจากช่องแสงด้านในได้นั่นเองครับ โดยภาพรวมห้องนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน โดยเน้นออกแบบให้แต่ละพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันได้เพื่อความกว้างขวางและโปร่งโล่ง แต่ก็ยังมีความยืดหยุ่นให้เราได้กั้นพื้นที่เพิ่มเองได้ด้วย

Promotion :

2 วันเท่านั้น (พรีเซลล์ 22 – 23 กรกฎาคม) >> รับโปรใหญ่! ชุดเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เฉพาะ 100 ยูนิตแรก*

ซึ่งของที่เราจะได้ก็จะเป็นไปตามภาพนี้เลยนะครับ เหมาะกับคนที่ชอบความคุ้มค่าและอยากประหยัดเวลาในการแต่งห้องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที

อีกทั้งประตูหน้าห้องก็จะมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้แบบนี้ด้วยครับ ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานได้ดีทีเดียว

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Living Area สิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือ “มีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่ง” เพราะมีการกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ได้แสงสว่างจากหน้าต่างด้านในอย่างเต็มที่

อีกทั้งยังมีฝ้าเพดานที่สูง 2.8 m. ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐานเพื่อนบ้านหลายๆแห่งในย่านเลยครับ โดยเราสามารถใช้พื้นที่แนวตั้งให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเพิ่มพื้นที่เก็บของให้สูงมากขึ้นได้อีกด้วยนะ

ส่วนพื้นก็จะเป็น SPC (Stone Plastic Composite) ที่ทนน้ำ/ความชื้นได้ดีกว่าไม้ลามิเนตแบบสมัยก่อน จึงทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายมากๆครับ

โดยการที่ห้องนี้มีความสูงของเพดานได้ถึง 2.8 m. นั่นเป็นเพราะเค้าออกแบบโครงสร้างให้เป็น Floor to Floor ซึ่งได้ตัดในส่วนของฝ้าออกไป ดังนั้นเพดานด้านบนที่เราเห็นจริงๆแล้วก็คือ “พื้นของห้องชั้นบน” นั่นเองครับ

ส่งผลให้การติดตั้งงานระบบต่างๆด้านบน ก็จะเป็นแบบการเดินลอยเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถใช้พวกไฟฝังในฝ้าแบบทั่วไปได้ (สังเกตจากหลอดไฟที่โครงการติดตั้งมาให้) แต่ถ้าเป็นพวกสายไฟก็ยังพอจะเซาะร่องเพื่อซ่อนไว้ด้านบน และโป้วทับไปได้อยู่นะครับ ซึ่งก็จะทำให้ห้องดูเรียบร้อยมากขึ้น

สำหรับบริเวณหน้าห้องจะเป็นพื้นที่ให้วางโซฟาและชั้นวางทีวี โดยมีระยะดูทีวีกว้าง 2.5 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้นะครับ

และหากสังเกตดีๆจะเห็นว่ายังมีพื้นที่บนผนังเหลืออีกเยอะ ซึ่งเราสามารถติดตั้งตู้แขวนผนังหรือชั้นวางต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นได้ รวมถึงยังทำตู้เก็บรองเท้าไว้ใช้งานหน้าห้องได้อีกด้วยครับ

หากเราใช้โซฟาแบบ 2 ที่นั่งที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ก็จะทำให้มีพื้นที่บริเวณกลางห้องเหลือ ให้สามารถวางเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้นั่งทำงาน หรือจะใช้เป็นโต๊ะทานอาหารด้วยก็ได้นะ

แต่ถ้าใครจะขยายเป็นโซฟาตัวใหญ่เพื่อนอนยืดขาดูทีวี ก็พอจะมีพื้นที่ให้ทำได้อยู่เหมือนกัน เพียงแต่อาจต้องปรับขนาดโต๊ะให้เล็กลง หรือใช้เป็นโต๊ะแบบ Multi-Function วางกลางห้องแทนก็ได้ครับ

ห้องนอนถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำพร้อมกระจกใสธรรมดา ซึ่งจะช่วยกั้นฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วน แต่ยังคงได้รับทั้งแสงสว่างและพื้นที่เชื่อมต่อกันโปร่งโล่งครับ

โดยหากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่น เวลาที่มีเพื่อนมาเที่ยวที่ห้องแล้วเราไม่อยากให้มองเห็นพื้นที่ด้านใน ก็อาจติดม่านไว้เลื่อนปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้นะ

ภายในห้องนอนมีขนาดพื้นที่ใช้สอยพอดีๆ โดยที่ผนังปลายเตียงเราสามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังแบบนี้ เพื่อนอนดูทีวีบนเตียงสบายๆได้เลยครับ (หากอยู่ 2 คน ก็แบ่งกันดูคนละเครื่องได้เลยไม่ต้องแย่งกัน)

..เสริมเพิ่มเติมในเรื่องของผนังสักนิดนึงครับ ซึ่งผนังที่ติดกับภายนอกอาคารจะเป็น Precast ส่วนผนังภายในห้องส่วนอื่นจะเป็นผนังก่ออิฐมวลเบา ที่มีความแข็งแรงและทุบเจาะได้ง่ายกว่า และผนังห้องน้ำจะเป็นอิฐมอญแดงที่ช่วยเรื่องความชื้นได้ดีนั่นเอง

พื้นที่ในห้องเพียงพอที่จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี โดยที่เราอาจต้องวางชิดริมหน้าต่างสักหน่อย แต่ก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงกว้างประมาณ 35 cm. ให้คนที่นอนด้านในพอจะใช้ขึ้น-ลงเตียงได้พอดีๆ ส่วนพื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้านี่จะเหลือกว้างขวางใช้งานสะดวกเลยครับ

ช่องแสงหลักของห้องนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร แต่จะออกไปทางทรงสูงมากกว่าที่จะเป็นแนวกว้างเต็มผนังนะครับ ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานสบายๆ และเวลานอนอยู่บนเตียงเราก็ยังสามารถชมวิวได้เต็มที่อีกด้วย

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นทางไปครัว ซึ่งของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆเชื่อมต่อกับ Living Area แบบนี้เลยครับ ทำให้มีความโปร่งโล่งและกว้างขวางดีทีเดียว

แต่หากใครที่เป็นสายชอบทำอาหารจริงจัง ก็อาจติดประตูกั้นฟังก์ชันให้แยกออกจากกันเป็นสัดส่วนเลยก็ได้ ซึ่งจะทำให้เราได้เป็นครัวปิดและไม่มีกลิ่น/ควันเข้ามารบกวนด้านใน

วัสดุปูพื้นจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และไม่ต้องกลัวน้ำที่อาจกระเด็นจากเครื่องซักผ้าเลยครับ ส่วนพื้นห้องจะกว้าง 75 cm. มีขนาดให้ใช้งานได้พอดีๆ

ภายในครัวเราจะได้ชุดเคาน์เตอร์ Built-in แบบนี้มาเป็นมาตรฐาน ซึ่งมีพื้นที่เก็บของให้ใช้งานได้พอสมควร (แอบเสียดายพื้นที่บางจุด เช่น ด้านบนเครื่องดูดควัน และใต้อ่างล้านจาน ที่จะถูกตัดออกไปนิดนึง)

แต่ดีหน่อยที่เป็นห้องเพดานสูงพิเศษ จึงมีพื้นที่เหนือตู้ด้านบนเหลือ พอจะให้ใช้วางของต่างๆเพิ่มเติมได้ด้วยนั่นเอง ส่วนพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้างจะกว้าง 95 cm. เป็นมาตรฐานนะครับ

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ที่สามารถทนน้ำและความร้อนได้ดี ที่ผนังมีการติดตั้ง Backsplash มาให้เช็ดทำความสะดวกได้ง่ายๆ

อีกทั้งยังมี Hob+Hood จาก Hafele แบบดูดหมุนเวียนภายใน ซึ่งจะไม่ได้มีท่อดูดควันต่อออกไปด้านนอก จึงต้องหมั่นถอดไส้กรองออกมาทำความสะอาดสักหน่อยนะครับ

ถัดมาจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับระเบียง โดยเราสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศจากการทำอาหาร รวมถึงความชื้นในห้องน้ำได้โดยตรงเลย

ภายนอกมีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้าง 1 x 1.3 m. พอจะให้ออกไปยืนสูดอากาศหรือตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้ โดยที่ด้านบนจะแขวน Condensing Unit เป่าลมร้อนมาด้านข้าง สามารถติดกริลดันลมร้อนออกไปด้านนอกได้ถ้าต้องการนะครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ตรงกับครัวและระเบียง

ภายในเราจะได้สุขภัณฑ์ต่างๆจาก Cotto ครบเหมือนห้องตัวอย่าง (ยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำที่จะต้องติดตั้งเพิ่มเติมเอง) แต่ก็จะมีการแบ่งฟังก์ชันอย่างเป็นสัดส่วนมาให้แล้ว โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.45 x 1.25 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำด้านในจะกว้าง 1 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ มาพร้อมกับ Hand Shower และ Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ด้วย

แต่ที่ชอบมากๆก็คือ ชั้นวางของด้านข้างที่มีการเจาะผนัง และมีชั้นวางกระจกมาให้แบบนี้เลย ทำให้เราสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำได้อย่างเพียงพอ ไม่ต้องเสียเวลาทำเพิ่มเอง รวมถึงด้านบนฝ้าก็จะมีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยครับ

แบบห้องนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่เพิ่มฟังก์ชัน “Walk-in Closet” ขนาดใหญ่เข้ามา ซึ่งจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อภายในห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงภายนอก จึงเหมาะกับคนที่ชอบการแต่งตัวและเน้นใช้พื้นที่ในห้องนอนเป็นหลัก เพราะเวลาที่จะแต่งตัวหรือเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนจะสะดวกมากครับ อีกทั้งตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าก็จะมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

ส่วนฟังก์ชันครัวจะย้ายมาอยู่บริเวณด้านหน้าห้องแทน ซึ่งจะเป็นครัวเปิดเชื่อมต่อกับ Living Area เพื่อให้มีความกว้างขวางและโปร่งโล่ง ดังนั้นคนที่เหมาะกับห้องนี้จึงอาจเป็นคนที่ไม่ได้เน้นการทำอาหารทานเองบ่อยนัก อย่างมากก็อาจแค่อุ่นอาหารเบาๆมากกว่า แต่จะเน้น Walk-in Closet และการใช้งานในห้องนอนเป็นหลักแทนนั่นเอง

บรรยากาศภายในห้องเมื่อเข้ามาก็จะเจอกับ Common Area ที่รวมเอาทั้งครัวและ Living Area เข้าไว้ด้วยกัน โดยยังคงมีความสว่างและโปร่งโล่ง จากประตูกระจกบานเลื่อนที่อยู่ตรงกลางห้องครับ

บริเวณด้านหน้าห้องจะเป็นฟังก์ชันครัวเปิด จึงอาจไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นหรือควันหนักๆสักเท่าไหร่นัก เต็มที่ก็คืออุ่นอาหารเบาๆได้อยู่ครับ

แต่ถ้าใครต้องการทำเป็นครัวปิด ก็สามารถกั้นผนังกระจกเพิ่มเติมได้เองเลย ทั้งนี้ก็อาจต้องแลกกับความกว้างขวางและความโปร่งโล่งของพื้นที่ที่ลดลงด้วยเช่นกัน

ชุดเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาให้เหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ โดยมีพื้นที่ใช้สอยตรงกลางกว้าง 1 m. ให้ใช้งานได้สบายๆ รวมถึงฝั่งตรงข้ามก็จะมีพื้นที่วางตู้เย็น และยังเหลือพื้นที่ให้ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าเพิ่มได้อีกด้วย

สำหรับระยะดูทีวีจะกว้าง 2.3 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้พอดีๆ โดยที่เราอาจหาโต๊ะกลางแบบ Multi-Function มาไว้ใช้งานเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ และสามารถปรับเป็นโต๊ะทานอาหารหน้าทีวีไปด้วยแบบนี้ก็จะดีมากๆเลย

เพราะห้องนี้ได้มีการลดทอนฟังก์ชันนี้ออกไป เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยให้เหลือแต่ในส่วนที่จำเป็นนั่นเอง ดังนั้นเราจึงต้องลองประยุกต์และปรับเปลี่ยนพื้นที่ฟังก์ชัน ให้เหมาะกับ Lifestyle การใช้ชีวิตของเราดูได้นะครับ

ตรงกลางห้องจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อช่วยให้เกิดความเป็นสัดส่วน แต่ก็ยังคงความสว่างและโปร่งโล่งของพื้นที่ได้อยู่ด้วย

ซึ่งบริเวณข้างเตียงจะมีพื้นที่อเนกประสงค์เหลืออยู่ เราสามารถทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะนั่งทำงาน หรือพื้นที่ใช้งานอื่นๆได้ตามต้องการ แต่ที่แน่ๆคืออาจไม่เหมาะจะใช้เป็นโต๊ะทานอาหารนะครับ เพราะค่อนข้างจะอยู่ใกล้กับเตียงและเสี่ยงมดขึ้นได้ง่ายนั่นเอง

ภายในห้องนอนมีขนาดใช้งานพอดีๆ ซึ่งลักษณะจะเหมือนกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้เลยครับ

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันและถือเป็น Highlight ของห้องนี้ก็คือ Walk-in Closet ที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั่นเอง ซึ่งเราสามารถใช้งานต่อเนื่องจากห้องนอนและห้องน้ำได้อย่างสะดวก และเป็นส่วนตัวดีทีเดียว

ภายใน Walk-in Closet มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมใช้งานเลย ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องแบบอื่นๆด้วยครับ ทำให้สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะมากขึ้น

พื้นที่ใช้สอยหน้าตู้จะกว้าง 90 cm. สามารถใช้ได้แบบพอดีๆ และผมชอบไอเดียที่กรุผนังด้วยกระจกเงา ซึ่งช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น แถมยังใช้เพื่อส่องแต่งตัวได้อีกด้วย

ระเบียงภายนอกมีขนาดเท่ากับห้องตัวอย่างที่แล้วเลยครับ สามารถออกมายืนสูดอากาศและตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้เหมือนเดิม

ส่วนอีกด้านจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งเวลาที่เราอาบน้ำเสร็จก็สามารถออกมาแต่งตัวได้สะดวกเลย

สุดท้ายคือห้องน้ำจะมีขนาดและฟังก์ชันเหมือนกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้เลยครับ สามารถใช้งานได้ตามปกติ

สำหรับห้อง 1 Bedroom Plus จะมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการแยกห้องนอนเล็กอีกสักห้อง ซึ่งอาจอยู่กันแบบพี่น้องหรือเป็นแฟนที่เพิ่งจะมีลูกเล็กกันก็ได้ โดยภาพรวมถือเป็นแปลนที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นห้องหน้ากว้างแล้ว ยังได้ทั้ง Common Area ขนาดใหญ่ เพื่อเป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกันของทุกคนในครอบครัว ได้ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบเป็นส่วนตัว และได้ครัวปิดถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติดระเบียงก็ตาม รวมถึงห้องน้ำก็สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง จึงทำให้มีการใช้งานที่สะดวกมากขึ้นอีกด้วยครับ

แปลนห้อง 1 Bedroom ที่ใหญ่สุดของโครงการ ลักษณะจะคล้ายกับห้องตัวอย่างที่ 2 เลยครับ เพียงแต่อาจมีตำแหน่งของประตูห้องที่แตกต่างกัน รวมถึง Walk-in Closet ก็จะมีขนาดเล็กลงนิดหน่อย แต่เราจะได้มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารเพิ่มเข้ามาแทนนั่นเอง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

Plum Condo New West ราคา ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2566

• Type A : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท (Promotion)
• Type B : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.49 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท (Promotion)
• Type C : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31.96 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท (Promotion)
• Type D : 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.71 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท (Promotion)

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.80 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ HAFELE
• มีรถ Shuttle Service รับ-ส่งมาที่บริเวณปากซอย
• จอง 5,000 – 10,000 บาท
• ทำสัญญา 0 บาท
• ผ่อนดาวน์ เริ่มเพียง 2,900 บาท/เดือน
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
• Promotion พิเศษ (เฉพาะช่วงพรีเซลล์ 22 – 23 กรกฎาคม) : Fully Furnished สำหรับ 100 ยูนิตแรก จะได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ ประกอบด้วย โซฟา + โต๊ะอเนกประสงค์ + เก้าอี้ + ฟูกที่นอน + ผ้าม่าน + เครื่องใช้ไฟฟ้าครบเซ็ต

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

ทำเล : ตั้งอยู่ติดรั้วห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต และอิเกียบางใหญ่ ซึ่งเป็นระยะที่เดินถึงได้ประมาณ 500 m. ทำให้เราสามารถไปช้อปปิ้ง ทานข้าว และดูหนังได้ทุกวัน เรียกได้ว่าเป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงสุดในย่านเลยครับ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวราคาที่ค่อนข้างน่าสนใจ เอาง่ายๆแค่เทียบกับโครงการรุ่นพี่ 2 เฟสก่อนหน้านี้ โครงการล่าสุดนี้ถือว่ามีราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะเค้าอยู่ในซอยที่ลึกเข้ามากว่าพี่ๆหน่อย แต่จริงๆแล้วก็ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมากมายอะไรเลยครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้าเมือง ทำให้เข้าเมืองไปทางราชพฤกษ์-สนามบินน้ำได้ค่อนข้างสะดวก รวมถึงยังมีถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้อยู่ไม่ไกลด้วย นอกจากนี้ก็กำลังมีการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี ให้ใช้ในอนาคตอีกด้วยครับ ซึ่งจะทำให้การเดินทางของย่านนี้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้นเยอะเลย โดยทางโครงการก็มีที่จอดรถประมาณ 40% แบบรวมจอดซ้อนคัน ถือว่าเหมาะสมกับทำเลที่ยังมีตัวเลือกรถสาธารณะอื่นๆในการเดินทางได้แบบนี้ด้วยนั่นเองครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีตัวเลือกในการเดินทางด้วยรถสาธารณะพอสมควร โดยปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ รวมถึงตัวโครงการก็จะมี Shuttle Service คอยให้บริการรับ-ส่งมาที่ปากซอยให้อีกด้วย ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็จะอยู่ระหว่าง MRT ตลาดบางใหญ่ และ MRT สามแยกบางใหญ่ ซึ่งมีระยะห่างใกล้เคียงกันอยู่ที่ประมาณ 0.8 – 1.2 km. แต่ที่น่าจะสะดวกกว่าก็คือ MRT ตลาดบางใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าจะไกลกว่า แต่ก็มีห้างเซ็นทรัลให้เราได้แวะด้วยนั่นเองครับ

การออกแบบโครงการ : มีจำวนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ ถือว่าเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่ (1,124 ยูนิต) ซึ่งมีผลต่ออัตราส่วนลิฟต์ 281 :  1 ถือว่าหนาแน่นอยู่มาก ทำให้อาจต้องมีการรอลิฟต์นานๆในช่วงเวลาเร่งด่วนได้ แต่ก็ทำให้เรามีส่วนกลางให้ใช้งานเยอะไปด้วยเช่นกันครับ โดยคอนเซ็ปต์จะเน้นความสนุกสนานและใช้สีสันที่สดใสเป็นหลัก ซึ่งสิ่งที่ผมชอบมากๆก็คือ การจัดแบ่งโซนการใช้งานที่ทำออกมาได้ชัดเจนดี และทำให้การใช้งานไม่รบกวนกันเลย

เช่น แยกทางเดินของรถออกจากทางเดินของคนตรงส่วนกลาง ให้เกิดเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และยังแยก Creator Zone ออกจาก Adventure Zone เพื่อที่จะได้ในเรื่องของความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวในการใช้งานครับ ส่วนที่ชั้นอื่นๆก็จะแยกโซนออกไปเป็นชั้นของตัวเองไปเลยนั่นเอง

ในเรื่องของการวางผังห้องก็จะไม่มีการบังวิวกันเองเลย (ถ้าไม่นับเฟสใหม่ในอนาคต) แต่สำหรับแบบห้องก็จะมีทิศทางของวิวที่ค่อนข้างตายตัว ว่าห้อง Type นี้จะอยู่ด้านในของอาคารเป็นหลัก โดยเราอาจต้องลองพิจารณาดูครับว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากันครับ ระหว่างแบบห้อง / ตำแหน่ง หรือวิวทิวทัศน์ ซึ่งถ้ามีในใจอยู่แล้วก็จะเลือกได้ค่อนข้างง่ายมากๆเลยครับ

การออกแบบห้องพักและพื้นที่ใช้สอย : เน้นห้อง 1 Bedroom เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน โดยมีแบบห้องให้เลือก 4 Type ซึ่งแต่ละแปลนก็เหมาะกับคนที่มี Lifestyle ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องที่ได้ครัวปิดติดระเบียงสำหรับคนชอบทำอาหาร และห้องที่ได้ Walk-in Closet ขนาดใหญ่สำหรับคนชอบแต่งตัว รวมถึงยังมีห้อง 1 Bedroom Plus สำหรับคนที่ต้องการห้องอเนกประสงค์หรือเป็นครอบครัวขนาดเล็กด้วยครับ

แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดเลยก็คือ ความสูงของฝ้าเพดานที่มากกว่าปกติอยู่ที่ 2.8 m. ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความโปร่งโล่งแล้ว เรายังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นได้อีกด้วย รวมถึงยังได้มีการออกแบบพื้นที่ให้แต่ละฟังก์ชันเชื่อมต่อถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นการกั้นด้วยประตูกระจกหรือจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งก็ตาม จึงทำให้มีความกว้างขวางและโปร่งโล่ง แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถติดตั้งม่านหรือกั้นประตูเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองเลยครับ

วัสดุ : ขายแบบ Fully Fitted ให้มาเฉพาะชุดครัว ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นมาตรฐาน โดยที่เราจะต้องเผื่อเงินเพื่อซื้อของเข้าของเพิ่มด้วย จึงเหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งห้องเอง และมีเวลาไปเดินเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่ชอบมาใช้ได้ตามต้องการ (อาจไปเดินที่อิเกียบางใหญ่ใกล้ๆนี้ก็ได้) ส่วนเกรดวัสดุที่ทางโครงการให้มาก็ถือว่าดีเหมาะสมกับการใช้งาน ยิ่งห้องโปรโมชั่นที่ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุดผมมองว่าค่อนข้างคุ้มค่าอยู่นะครับ

สาธารณูปโภค : มีส่วนกลางมาให้ใช้งานเกือบ 30 ฟังก์ชัน โดยแบ่งออกเป็น 5 โซนใหญ่ๆด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Creator /Adventure / Influencer / Entertainer และ Sky Camper Zone แต่ที่น่าสนใจคือ Laser Combat ใน Adventure Zone ซึ่งเป็นกิจกรรมแปลกใหม่ไม่เหมือนใครในย่าน อีกทั้งยังมีตู้เกมส์ Arcade ให้เล่นสนุกกันได้อีกด้วยครับ

ส่วนภาพรวมของฟังก์ชันโซนอื่นๆ หลักๆแล้วก็ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจคนชอบทำกิจกรรมโดยเฉพาะ และยิ่งถ้าเป็นชาว Influencer ที่เน้นการทำ Content ถ่ายรูป/วิดีโอลงโซเชียลอยู่แล้วนี่ยิ่งเหมาะเลยครับ เพราะเค้าจะมีมุมต่างๆให้เลือกเยอะมาก รวมถึงยังจัดให้มีพื้นที่นั่งทำงานกระจายอยู่ทุกๆจุด มีทั้งแบบในสวนกลางแจ้งและในอาคาร เพื่อให้เราสามารถเลือกมุมนั่งทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถเปลี่ยนไปเรื่อยๆจะได้ไม่เบื่อ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 69,000 บาท/ตร.ม., 28 กรกฎาคม 2566

• ทำเล 8.25/10 – ติดห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต และอิเกียบางใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์สูง
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ถนนฝั่งขาเข้าเมือง และใกล้ถนนกาญจนาภิเษก ที่จอด 40%
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีวินมอเตอร์ไซค์และ Shuttle Service รับ-ส่งปากซอย และมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นตัวเลือกในการเดินทางเลี่ยงรถติดได้
• วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานขายเป็น Fully Fitted เหมาะกับคนชอบแต่งห้องเอง เกรดวัสดุเป็นมาตรฐานตามราคา
• แบบ 8/10 – มีห้องให้เลือก 4 แบบ เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คน ฝ้าเพดานสูง 2.8 m. มีความโปร่งโล่ง
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ส่วนกลาง 5 โซน เกือบ 30 ฟังก์ชัน เน้นกิจกรรมสนุกสนาน และมีพื้นที่ให้นั่งทำงานเยอะ

• ECONOMY CLASS
• 8.03 / 10.00

Plum Condo New West เหมาะกับใคร

..โครงการ Plum Condo New West เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้ห้างสรรพสินค้าในย่านบางใหญ่อย่างเซ็นทรัล เวสต์เกต ที่อยู่ในระยะเดินถึงได้ อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นตัวเลือกในการเดินทางด้วย โดยเน้นห้อง 1 Bedroom อยู่อาศัย 1 – 2 คน และอาจเป็นคนที่ชอบแต่งห้องเอง รวมถึงยังเป็นคนที่ชอบใช้ส่วนกลางที่มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ โดยเฉพาะสาย Adventure และ Influencer จะค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว มีงบประมาณระดับ 1.59 – 2.39 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 17,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc