รีวิวโครงการ

The Sneak EP.236 : Origin Plug & Play นนทบุรี สเตชั่น | คอนโดเพดานสูง 4.2 เมตร ใกล้รถไฟฟ้า และ เซ็นทรัล

30 สิงหาคม 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ ‘ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ ‘ ที่วันนี้มาลงในย่านนนทบุรี กับโครงการ Origin Plug & Play Nonthaburi Station จาก Origin ที่ยังคงคอนเซปต์เดิม คอนโดแนวรถไฟฟ้า พร้อมแบบห้อง Loft 2 ชั้น ฝ้าเพดานสูง และพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่หันมาทำงานฟรีแลนด์มากยิ่งขึ้น โดยเรามองว่าเค้ามี Highlight หรือจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

  • ทำเล : คอนโด High Rise ติดถนนรัตนาธิเบศร์(ฝั่งขาเข้า)เดินทางเข้าเมืองและขึ้นทางด่วนได้ง่าย ใกล้เซ็นทรัลและรถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT แยกนนทบุรี 1 ในระยะที่เดินไปใช้งานได้สบายๆ (ประมาณ 250 เมตร)
  • พื้นที่ส่วนกลาง : กระจายอยู่ทั่วอาคาร เริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 1, 7, 31 และ Rooftop ฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น Origin Healthcare Club, E-Sport room, Game Room, Sky Jogging Track และ Sky Garden พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 1.8 ไร่ เหมาะสมกับจำนวนยูนิตที่ค่อนข้างเยอะ
  • แบบห้อง : มีทั้งแบบ Simplex และ Duo Space (Loft) 2 ชั้น โดยเน้นไปที่ห้อง Duo Space เป็นหลัก ที่ได้พื้นที่ชั้นลอยเพิ่ม ทำให้การใช้งานดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
  • ราคา : สำหรับราคาห้อง Loft เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท (1 Bedroom 22 ตร.ม) แต่ในความเป็นจริงเราจะได้พื้นที่ชั้นลอยเพิ่มขึ้นด้วยนะ ทำให้ในความเป็นจริงเราจะได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นเป็น 1 Bedroom ขนาด 22+9 ตร.ม. รวมกันแล้วประมาณ 31 ตร.ม.

ข้อมูลโครงการ

Origin Plug & Play Nonthaburi Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น) ณ วันที่ 28 กันยายน 2564

 ชื่อโครงการ  Origin Plug & Play Nonthaburi Station (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น)
 ชื่อผู้ประกอบการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมืองนนทบุรี
 ที่ดิน  3-3-14.6 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 31 ชั้น
 จำนวนยูนิต  999 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   41 ยูนิต
 ที่จอดรถ  342 คัน คิดเป็น 34.2% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
    – 1 Bedroom(Smart Closet) 22-25 ตร.ม. ทั้งหมด 76 ยูนิต
    – 1 Bedroom 26-27 ตร.ม. ทั้งหมด 64 ยูนิต
    – 1 Bedroom Plus 34-34.5 ตร.ม. ทั้งหมด 24 ยูนิต
  • Duo Space (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร
    – 1 Bedroom 22-25.5 ตร.ม. ทั้งหมด 357 ยูนิต
    – 1 Bedroom 26-27 ตร.ม. ทั้งหมด 354 ยูนิต
    – 1 Bedroom Plus 34.5 ตร.ม. ทั้งหมด 123 ยูนิต
    – 1 Bedroom Plus 48.5 ตร.ม. ทั้งหมด 1 ยูนิต

 ฝ้าเพดานสูง Simplex 2.6 เมตร / Duo Space (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร
 ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท ( 1 Bedroom Duo Space )
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ
– รวมพื้นที่ใช้สอยชั้นลอย = 80,000 บาท/ตร.ม.
– ไม่รวมพื้นที่ใช้สอยชั้นลอย = 90,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) EIA APPROVED
 เว็บไซต์โครงการ https://www.origin.co.th/condo/origin-plug-play-nonthaburi-station/
 Call Center 020 300 000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.868312, 100.490748
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Origin Plug & Play Nonthaburi Station ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้าเมือง ใกล้กับแยกนนทบุรี หรือบริเวณเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์นั่นเอง ซึ่งบนถนนเส้นนี้เป็นช่วงที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้ใช้งานเข้า-ออกเมืองได้สะดวก โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ ‘สถานีแยกนนทบุรี 1’  ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 250 เมตร

ส่วนในด้านความอุดมสมบูรณ์ใกล้คอนโดสุดคือ Central รัตนาธิเบศร์ กับตลาดนกฮูก ซึ่งเป็นห้างใหญ่ของคนในย่านนี้เลยนะ หรือถ้าอยากซื้อกับข้าวก็มีทั้ง BigC, Lotus กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ และสิ่งสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ‘แหล่งงาน’ ย่านนนทบุรีเป็นโซนที่มีศูนย์ราชการที่สำคัญต่างๆเพียบ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณะสุข สำนักงานเทศบาล กรมบังคับคดี กองสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงาน ป.ป.ช. ก็ล้วนแต่อยู่ในทำเลนี้ทั้งสิ้น เรียกได้ว่าใครที่ทำงานเป็นข้าราชการย่านนี้ล่ะก็เหมาะเลยทีเดียวค่ะ

มาดูเรื่องการ ‘ขับรถส่วนตัว‘กันบ้าง การคมนาคมในทำเลนี้ เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในโซนนนทบุรี หรือมีลูกเรียนแถวนี้นะคะ เพราะอยู่ในจุดที่เรียกว่าเป็นใจกลางเมืองนนท์ก็ว่าได้ มีถนนรัตนาธิเบศร์, งามวงศ์วาน ตัดกับ ถนนติวานนท์ เป็นถนนเส้นหลักฝั่งนี้ หรืออาจจะมีบ้านเก่า, บ้านพ่อแม่ อยู่ฝั่งราชพฤกษ์ สามารถข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปได้ โดยไม่ต้องไปผ่านตัวเมือง ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆคือทางพิเศษศรีรัช  บริเวณถนนงามวงศ์วาน ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 4.7 km. ถ้าจะเข้าเมืองก็คงต้องใช้ทางด่วนนี้เป็นหลัก เพราะสะดวกกว่าไปวิ่งข้างล่างมากนะคะ

ดูจากเส้นทางแล้ว โครงการของเราจะอยู่บริเวณสะพานกลับรถพอดี ขาเข้าเมืองจะไม่มีปัญหาในการใช้งานนะคะ แต่ขากลับจากทำงานนั้นเราต้องกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้านะคะ ห้ามขับเลยเด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นเราจะต้องข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปก่อน แล้วค่อยไปหาจุดกลับรถค่ะ ข้อดีของการมีสะพานกลับรถกระจายตัวอยู่บนถนนใหญ่ ทำให้เราสามารถใช้วน Loops ไปมาได้สะดวกนะคะ

สำหรับโครงการนี้เรายังมีอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกคือ “รถไฟฟ้าสายสีม่วง” โดยตั้งอยู่ใกล้กับ  ‘MRT แยกนนทบุรี 1‘ ซึ่งเราลองวัดระยะใน Google Map ดูแล้ว มีระยะเดินไปจนถึงบันไดสถานีประมาณ 250 เมตร เป็นระยะที่เดินได้สบายๆเลย

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงปัจจุบันจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และในอนาคตจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูอีกด้วยนะคะ ทำให้การเดินทางไปทำงานที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และ เตาปูนสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยตัวสถานีของเราอยู่ห่างสถานี Interchange เตาปูน 7 สถานี ซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือจะนั่งไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อย่าง Central West Gate & IKEA บางใหญ่ ก็ได้นะ

การเดินทางด้วยรถยนต์มาโครงการนั้น มีจุดที่เราต้องสังเกตให้ดีๆเลยนะคะ ไม่เช่นนั้นจะขับเลยข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปแบบผู้เขียนเลยค่ะ ^^ โดยถ้าเรามาจากถนนรัตนาธิเบศร์ให้เราสังเกต ‘ตัวสถานีแยกนนทบุรีหรือเซ็นทรัล’ ถ้ามองเห็นเมื่อไหร่! ให้เราเตรียมชิดซ้ายออกทางคู่ขนานได้เลย เพื่อออกทางคู่ขนานแล้วไปกลับรถใต้สะพาน หลังจากกลับรถมาแล้วขับตามทางไปอีก 1.4 กม. เราจะมองเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

การเดินทางในวันนี้เราขอเริ่มต้นจาก MRTสถานีแยกนนทบุรี 1 โดยให้เดินมาที่ทางออกหมายเลข 3 นะคะ

มองกลับไปเห็นตัวสถานีตั้งอยู่ตรงกลางถนน สำหรับถนนรัตนธิเบศร์เป็นถนนขนาดใหญ่ วิ่งได้ 6 เลย ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกค่ะ

หลังจากนั้นให้เดินตามทางเดินเท้าไปเรื่อยๆ โดยเราจะเดินพาห้าง Grand Home ซึ่งเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ภายในมีร้านอาหาร,คาเฟ่ค่ะ

ทางเดินเท้าขนาดไม่กว้างมาก โดยจะมีเสาไฟวางไปตลอดแนว ทำให้เราเดินใช้งานไม่่สะดวกมากนัก

เดินมาอีกสักพักเราจะเห็นตำแหน่งที่ตั้งโครงการในอนาคตแล้วนะคะ

ถนนด้านหน้าโครงการเป็นถนนกว้าง 2 เลน (ถนนคู่ขนาน) เนื่องจากเป็นตำแหน่งสะพานกลับรถพอดีค่ะ

เราเดินมาดู Sales Gallery ของโครงการกันค่ะ ด้านในจะเป็นตำแหน่งอาคารในอนาคต /สำหรับลูกค้าที่สนใจโครงการมีที่จอดรถมาให้ด้วยนะคะ

ตัวอาคาร Sales Gallery ในปัจจุบัน ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นพื้นที่ร้านคาเฟ่ ชื่อว่า GIN KITCHEN  & CAFE ของทางออริจิ้นนะ

บริเวณภายใน Sales Gallery ปัจจุบัน มีที่นั่งโซฟาหลายจุด พร้อมโมเดลจำลองโครงการ ที่จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมมากยิ่งขึ้นนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่าง และชุมชนแนวราบ โดยจะมีตึกสูงในฝั่งทิศตะวันตก ที่มีระยะห่างกันประมาณ 100 เมตร ที่ห่างกันพอสมควรไม่อยู่ในระยะประชิดที่ทำให้ห้องพักอาศัยอึดอัด โดยมุมมองวิวต่างๆเป็นดังนี้

  • ทิศเหนือ : มองออกไปเห็นบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันออก : มองออกไปเห็นเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และกลุ่มคอนโดติดถนนใหญ่ ให้ความรู้สึกเป็นย่านตัวเมืองมากยิ่งขึ้น
  • ทิศใต้ : ติดกับถนนรัตาธิเบศร์ เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด ที่หันออกคนละฝั่งไม่ Block วิวกันเอง
  • ทิศตะวันตก : ห้องพักอาศัยที่พ้นตัวคอนโด Aspire ไปแล้ว มองออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา

มุมมองจากพื้นสูง 112 เมตร หรือจำลองชั้น Rooftop ของโครงการนั้นเอง ซึ่งทั้ง 4 ทิศทางรอบโครงการจะมีความแตกต่างกัน เพื่อให้เราตัดสินใจเลือกห้องได้ถูกต้อง

Image 1/8
Daytime : ทิศเหนือ

Daytime : ทิศเหนือ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Central รัตนาธิเบศร์ – 700 เมตร
  • เอสพลานาด ซีนิเพล็กซ์ – 3.1 กม.
  • The Mall งามวงศ์วาน – 6.2 กม.
  • เซ็นทรัลเวสต์เกต – 14 กม.
  • IKEA บางใหญ่ – 14.5 กม.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า – 6 กม.

โรงเรียน/สำนักงาน

  • ศูนย์ราชการนนทบุรี – 2.5 กม.
  • มหาวิทยาลัยสุวรรณภูมิ – 5.6 กม.

เส้นทางคมนาคม

  • MRTสถานีแยกนนทบุรี – 250 เมตร
  • MRTสถานีพระนั่งเกล้า – 5.5 กม.
  • สะพานมหาเจษฎาบดินทร – 8.2 กม.

รายละเอียดโครงการ

กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ ‘ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ ‘ เป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวปีที่แล้ว เพื่อจับกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเลือกทำเลที่ตั้งแนวรถไฟฟ้า พร้อมพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม และแบบห้อง Duo Space (Loft) โดยปัจจุบันเปิดตัวไปแล้ว 2  โครงการ กับ 2 ทำเล นั้นก็คือ รามอินทรา, รามคำแหง และล่าสุดกับคือทำเลย่านนนทบุรี กับโครงการ Origin Plug & Play Nonthaburi Station

คอนโด High Rise สูง 31 ชั้น (ซึ่งจะสูงมากกว่าคอนโดทั่วไปเนื่องจากฝ้าเพดานสูงนะคะ) ภายในโครงการมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 999 ยูนิต โดยที่นี่จัดเต็มเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง กระจายตัวอยู่ตั้งแต่ชั้น 1, 7, 31 และ Rooftop ที่เน้นการใช้งานที่หลากหลาย และกระจายตัวตามวิถีชีวิตแบบ New Normal รวมถึงพื้นที่สีเขียวรวมกันกว่า 1.8 ไร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดสำหรับคนอยู่คอนโดเลยนะคะ

ภาพจำลองโครงการ Origin Plug & Play Nonthaburi Station เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น บนถนนรัตนาธิเบศร์ ที่แอบมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยยังคงคอนเซ็ปต์ที่เน้นเส้นสายโฉบเฉี่ยว โดยเลือกใช้โทนสีแดงตัดกับสีเทาของอาคารที่ทำให้ตัวอาคารดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยวางตัวอาคารเป็นรูปตัว U ที่ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หันออกทางทิศเหนือ-ใต้ เป็นทิศที่จะไม่โดนแดดแรงโดยตรงนะคะ

โมเดลจำลองโครงการแม้จะสูงเพียง 31 ชั้น แต่ด้วยความที่มีห้องแบบ Loft หรือฝ้าเพดานสูงถึง 4.2 m. ทำให้ตัวอาคารดูสูงสง่ามากยิ่งขึ้น ส่วนที่ชอบเลยคือ การกระจายพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานได้หลากหลายได้ดี ทำให้คนใช้งานแต่ละฟังก์ชันไม่หนาแน่นจนเกินไป โดยมีลำดับการวางฟังก์ชันอาคารไว้ ดังนี้

  • G Floor Plan : Lobby + Co-working Space / พื้นสวนหย่อมโครงการ
  • 2-6th Floor Plan : Parking Floor พื้นที่จอดรถ 342 คัน คิดเป็น 34.2%
  • 7th Floor Plan : Main Facilities (สระว่ายน้ำ,ฟิตเนส) + Origin Healthcare Club
  • 31st Floor Plan : Social Lounge + Game Room/E-Sport BattleArea
  • Rooftop : Jogging Track/ Multi-sport + Sky Garden

สำหรับชั้นพักอาศัย 10-12 เป็นห้องพักอาศัยแบบปกติ (Simplex) โดยมีทั้งหมด 164 ยูนิต ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร ยังไม่มีรายละเอียดราคาออกมานะคะ

Ground Floor Plan : ทางเข้าออกหลักของโครงการจากถนนรัตนาธิเบศร์ โดยฝั่งขวามือด้านหน้าเป็นพื้นที่ของทาง Origin ที่จะทำเป็นร้านอาหาร,คาเฟ่ ที่เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะคนภายนอกสามารถเข้ามาใช้งานกันได้นะคะ

ทางเดินรถลักษณะ Two Way เดินรถสวนทางกัน โดยจะมี Main Gate อยู่ก่อนถึงจุด Drop Off ซึ่งหากมี Visitor ขับมาส่งลูกบ้านจะต้องขับผ่านป้อมรปภ.กันก่อน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น เข้า-ออกด้วย Keycard Access ระยะไกล(Easy Pass) ส่วนพื้นที่จอดรถอยู่ด้านหลังอาคาร/บนอาคาร แบบ Conventional ทั้งหมด 342 คัน คิดเป็น 34.2% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) สำหรับโครงการนี้มีจุด EV Charger ให้ใช้งานด้วยนะคะ

ทางเข้า-ออกของโครงการอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งซ้ายมือก่อนเข้า Main Gate เป็นที่จอดรถของ Visitor เวลามาใช้บริการที่ร้านอาหาร ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานนะคะ ส่วนฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ของทาง Origin ด้วยเป็นร้านอาหาร,คาเฟ่ ที่มาพร้อมพื้นที่ส่วนใหญ่ ให้เดินเล่นใช้งานชิลๆอีกด้วยนะ

ภาพจำลองพื้นที่ทางเข้าโครงการ โดยโครงการ Lead สี นำสายตา ด้วยสีแดง ที่ทำให้ตัวโครงการดูโดดเด่นดีนะคะ

สำหรับร้านอาหารที่อยู่ด้านหน้าโครงการจะเป็นร้าน GIN KITCHEN & CAFE @ Origin ข้อดีคือเราสามารถเดินมาทานข้าวได้ง่ายเลย แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะ ทำให้จะมีคนภายนอกเข้ามาใช้งานด้วยนะคะ

ด้านข้างร้านอาหารมีสวนหย่อม + ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศน่าจะร่มรื่น โดยเป็นพื้นที่เปิดสาธารณะ ให้คนภายนอกสามารถเดินมาใช้งานได้ด้วยนะคะ

ภาพจำลองบริเวณ Visitor Lobby ด้านในโครงการเลือกใช้เส้นสายโฉบเฉี่ยวตามสไตล์ Origin โดยบริเวณนี้เลือกโทนสีฟ้า + Rose Gold ดูหรูหราดีนะ

บริเวณนี้เคาน์เตอร์ต้อนรับมาให้ด้วย อารมณ์เหมือนโรงแรมนิดๆ ข้อดีคือเวลามีใครเดินเข้าออกทางโครงการจะได้ตรวจสอบได้ง่ายค่ะ

ถัดเข้าไปเป็นส่วน Resident Lobby(ลูกบ้าน) เชื่อมต่อพื้นที่ Co-working Space ด้านใน ซึ่งทางโครงการเตรียมที่นั่งมาให้หลากหลายรูปแบบเลยนะคะ เราเดินไปดูบรรยากาศด้านในกันต่อค่ะ

Image 1/7
ทางเข้าลูกบ้านอยู่ตรงกลาง ที่ต้องใช้ Key Card ในการเข้าออกนะคะ

ทางเข้าลูกบ้านอยู่ตรงกลาง ที่ต้องใช้ Key Card ในการเข้าออกนะคะ

7th Floor Plan : เป็นพื้นที่ Main Facilities ของโครงการ เริ่มที่สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25x 6 ม. หรือขนาด Half Olympic ที่ว่ายน้ำจริงจังได้สบายๆ โดยทางโครงการมีโซน Jacuzzi มาให้ นั่งผ่อนคลายชมวิวสบายๆ แค่คิดก็รู้สึก Relax แล้ว + พื้นที่ Amphitheatre ที่ทำให้ดูมีการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

ห้องฟิตเนสได้ความสูงแบบ Double Volume เนื่องจากโครงการมีตำแหน่ง Climbing Wall โดยบางส่วนที่เป็นพื้นที่ชั้นลอย ทั้งโซน Weight Training, เครื่อง Cardio และห้อง Multi-Function ให้ใช้งาน ได้หลากหลายนะคะ

ที่น่าสนใจคือ Origin Healthcare Club เป็นบริการพิเศษของทางออริจิ้น ที่เราสามารถเรียกคนมานวดได้ที่คอนโดเลย โดยเป็นการจองผ่าน App นะคะ หรือเราจะจองห้องแล้วเรียกคนภายนอกมาบริการก็ได้นะคะ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง และ Steam มาให้ใช้บริการอีกด้วย

โมเดลจำลองภาพบรรยากาศบริเวณ Main Facilities ของโครงการ ลักษณะตัวอาคารพักอาศัยโอบล้อมพื้นที่ใช้งาน ที่ไม่โดนแดดแรงตรงๆ ใช้งานได้ทั้งวันเลยแหละ แต่ถ้าวันไหนฝนตกก็อดไปนะคะ

สำหรับบริเวณ Origin Healthcare Club โครงการเตรียมพื้นที่นั่งเล่นมาให้ใช้งาน พร้อมห้อง Private สำหรับการนวดต่างๆ ซึ่งเราสามารถจองพื้นที่ใช้งานบริเวณนี้ได้นะคะ

บริเวณสระว่ายน้ำมีทางเดินด้านขนาบข้างด้วยน้ำพุ ให้ความรู้สึกเย็นสบาย + ต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่นดี ส่วนด้านล่างสระว่ายน้ำมีเก้าอี้ให้นั่งแช่ตัวในน้ำได้เลย

31st Floor Plan : พื้นที่ Social Lounge +Exclusive Lounge ที่ออกแบบให้บางส่วนเป็น Double Volume ซึ่งเป็นโซนพักผ่อนที่เราสามารถนั่ง Take View มุมสูงของโครงการได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีบันไดเดินขึ้นไปชั้นลอย ซึ่งเป็นพื้นที่ E-Sport เหมาะกับยุคสมัยแบบนี้ที่คนหันมาสตีมเกมกันมากขึ้นนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในมีส่วนที่เป็น Double Volume บรรยากาศโปร่งโล่ง และบางส่วนเป็นชั้นลอยมีฟังก์ชันให้ใช้งานด้วยนะคะ

ภาำจำลองบรรยากาศพื้นที่ Social Lounge บริเวณชั้นที่ 31 ที่มองเห็นวิวมองสูงของโครงการได้ พร้อมฝ้าเพดานสูง บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง

Image 1/6
Social Lounge

Social Lounge

ปิดท้ายด้วยพื้นที่ Game Room ที่อยู่ชั้นลอยของ Social Lounge ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้สำหรับสายสตีมเมอร์ ที่คนรุ่นใหม่หันมาทำอาชีพนี้กันมากขึ้นนะคะ

Roof Top : สำหรับบริเวณนี้ต้องใช้บันไดเดินขึ้นมาใช้งานเท่านั้นนะคะ ซึ่งด้านบนมีการออกแบบลู่วิ่งมาให้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีลานออกกำลังกาย และโซนนั่งเล่นที่เอาไว้นั่งมองวิวมุมสูงของโครงการไปด้วยค่ะ

สำหรับ Jogging Route ออกแบบให้วิ่งได้ยาวถึง 120 เมตร พร้อม Slope ที่ทำให้วิ่งได้สนุกสนาน และดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

โมเดลจำลองบริเวณ Rooftop ออกแบบลู่วิ่งให้เป็นสีส้มสดใส น่าใช้งานทีเดียว พร้อมลานกว้างให้ออกแบบได้ตามใจชอบ

บริเวณนี้มีลานกว้างให้เล่น Yoga กลางแจ้ง รับลมชิวๆ พร้อมวิวมุมสูงของโครงการ หรือเราจะเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่น/นอนเล่นบริเวณ Amphitheater ก็ได้นะคะ

ที่น่าสนใจคือ Slope ทางวิ่งของโครงการ ที่เหล่านักวิ่งหลายๆคนน่าจะชื่นชอบ เพราะทำให้การวิ่งใช้งานดูมีมิติมากขึ้น เปลี่ยนบรรยากาศใช้งานไปอีกแบบ

นอกจากนี้ยังมีมุมนั่งเล่นต่างๆ หลากหลายรูปแบบให้ใช้งานได้ด้วยนะคะ

7th Floor Plan ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 29 ยูนิต/ชั้น ตำแหน่งโถงลิฟต์ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวามือ โดยวางลิฟต์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 167:1 คนที่ซื้อชั้นนี้ เหมาะกับคนที่ชอบเดินไปใช้พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซึ่งทางโครงการแยกทางเข้า-ออกมาให้ใช้งานแล้วเรียบร้อย

ส่วนตำแหน่งห้องที่น่าสนใจ คือห้องพักอาศัยปีกซ้ายขวาจะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยชั้นนี้ห้องพักอาศัยตรงกลางจะเป็นลักษณะ  One Way ที่ไม่มีห้องพักอาศัยฝั่งตรงข้ามนะคะ นอกจากยังมีตำแหน่งห้องซ้าย-ขวา ที่ทำให้เรามองเห็นสระว่ายน้ำได้เลย แต่ก็แลกกับบรรยากาศที่อาจจะไม่ส่วนตัวมากนัก

สำหรับชั้น 10-12A Floor Plan เป็นห้องพักอาศัยแบบปกติ (Simplex) ทั้งหมด 41 ยูนิต โดยห้องลักษณะนี้ทั้งโครงการจะมีเพียง 164 ยูนิต หรือคิดเป็น 30% ของห้องพักอาศัยภายในโครงการ / พร้อมทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ที่พยายามเปิดช่องลมให้อากาศหมุนเวียนภายในได้ดี แต่เรื่องแสงอาจจะไม่เพียงพอ ทำให้บางส่วนต้องเปิดไฟตลอดทั้งวันนะคะ

สำหรับห้องพักอาศัย Duo Space (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร มีทั้งหมด 3 แบบ

  • 1 Bedroom 22-25.5 ตร.ม. (สีฟ้า) : ส่วนใหญ่จะหันเข้ามาด้านในโครงการ ซึ่งมองเข้ามาบริเวณ Main Facilities ของโครงการ
  • 1 Bedroom 26-27 ตร.ม. (สีแดง) : หันออกด้านนอกโครงการแต่เป็นวิวที่ดีเลย บรรยากาศโปร่งโล่ง พร้อมเห็นแม่น้ำเจ้าพระยานิดๆ พร้อมกับเป็นตำแหน่งห้องที่ไม่ร้อนตลอดทั้งวัน
  • 1 Bedroom Plus 34.5 (สีเขียว) : สำหรับ Type นี้จะวางเป็นแปลงมุมทั้งหมด ข้อดีคือทำให้แสงส่องเข้ามาได้เยอะขึ้น พร้อม Take View 2 ทิศทาง

สำหรับชั้น 31st Floor Plan เป็นชั้นที่มีจำนวนห้องพักอาศัยเพียง 33 ยูนิต เนื่องจากฝั่งซ้ายมือแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง หรือ Social Lounge เหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางนะคะ เพราะเดินไปใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้นที่ 1 : Entrance
  • สวนหย่อมของโครงการ
    – Multi-purpose Space
    – Plug & Play Pavilion
    – Outdoor Amphitheater
  • Reception + Visitor Lobby
  • Co-working Space (Sunken Seat, Cafe’s Island, Studio)
  • Smart Locker & Mailbox
  • ชั้นที่ 2-6 : Parking
  • Parking Area
  • ชั้นที่ 7 : Pool & Facility
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 38×9 เมตร ลึก 1.2 เมตร
    – Outdoor Shower, Pool Bed, Jacuzzi, Social Space
  • ห้องออกกำลังกาย (Fitness)
  • Origin Healthcare Club
  • WC & Steam
  • ชั้นที่ 31 : Sky Lounge
    – Exclusive Lounge, Private Dining, Social Lounge
  • E-Sport Battle area
  • Rooftop
    – Elevated Jogging, Observation Deck, Multi-Sport
  • ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 167: 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 342 คัน คิดเป็น 34.2% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

แบบห้อง

ห้องพักอาศัยโครงการนี้มีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบใหญ่ๆ ด้วยกันนะคะ โดยจะแบ่งเป็นรูปแบบ Simplex และ Duo Space (Loft) ซึ่งจะมีความแตกต่างกันที่ความสูงของฝ้าเพดานนั่นเองค่ะ โดยทั้ง 2 แบบนี้ จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดเพียงแต่มีขนาดที่แตกต่างกันไปให้เลือก ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนก็ตั้งใจให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดีค่ะ

  • Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
    – 1 Bedroom(Smart Closet) 22-25 ตร.ม.
    – 1 Bedroom 26-27 ตร.ม
    – 1 Bedroom Plus 34-34.5 ตร.ม.
  • Duo Space (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร
    – 1 Bedroom 22-25.5 ตร.ม. พื้นที่ชั้นลอย 9-10.8 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
    – 1 Bedroom 26-27 ตร.ม. พื้นที่ชั้นลอย 9.6-9.8 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
    – 1 Bedroom Plus 34.5 ตร.ม. พื้นที่ชั้นลอย 12.3-13.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
    – 1 Bedroom Plus 48.5 ตร.ม.

ส่วนรูปแบบการขายของที่นี่จะเป็นแบบ Fully Fitted ของที่ได้คือ

  • Digital Door Lock
  • เฟอร์นิเจอร์ Built-in
    – ตู้วางทีวี
    – ตู้เสื้อผ้า + โต๊ะเครื่องแป้ง
    – ฐานเตียง
    – ตู้วางรองเท้า
  • เคาน์เตอร์ครัว ท็อปหิน Grand Crystal White
  • Hob & Hood &ซิงค์ล้างจาน ยี่ห้อ HAFELE
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ยี่ห้อ COTTO (ยกเว้นฉากกั้นกระจก)
  • เครื่องปรับอากาศ Daikin Inverter 2-3 ตัว (ขนาด BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง)
  • บันได+พื้นชั้นลอย และโครงสร้างเหล็ก (ห้องรูปแบบ Duo Space)

1 Bedroom Plus Duo Space (Loft) ขนาด 34.5 ตร.ม. (ชั้นล่าง ได้โฉนด) + ชั้นลอย 12.3-13.5 ตร.ม. โดยรวมแล้วทั้งหมด 46.8-48 ตร.ม. เหมาะอยู่อาศัย 2-3 คนได้ โดยห้องนี้ได้เครื่องปรับอากาศ 3 ตัว (แบบติดผนัง)

ชั้นที่ 1 : เดินเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area + ห้องนอนชั้นล่างสูง 4.2 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งดี พร้อมหน้าต่างบานใหญ่สูงเกือบเท่ากับฝ้าเพดาน ทำให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ โดยห้องนี้ออกแบบให้ชุดครัวอยู่ด้านใน โดยจะได้เป็นครัวปิดติดระเบียงที่เราสามารถทำอาหารจริงจังได้ กลิ่นจะไม่ฟุ้งกระจายเข้ามาในห้องนะคะ ส่วนห้องน้ำมีเพียง 1 ห้อง ที่เราต้องใช้งานร่วมกัน

ชั้นที่ 2 : ถัดมาพื้นที่ชั้นลอยสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต+โต๊ะเขียนหนังสือได้ โดยออกแบบให้เราสามารถนอนดูวิวจากบนเตียงได้เลย ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อยแล้ว

ประตูทางเข้าห้องพักอาศัยทุกแบบจะได้ Digital Door Lock เป็นมาตรฐาน โดยรุ่นนี้เราสามารถเปิดเข้าได้จาก Password, Keycard, Finger Scan, Bluetooth และกุญแจ

เปิดประตูเข้ามามองเข้าไปเราจะเห็นทางเดินยาวไปจนถึงพื้นที่ครัวปิดด้านในเลย ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Common Area ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ /  สำหรับฝ้าเพดานบริเวณนี้จะมีความสูงฝ้าเพดานประมาณ 2.1 ม. พื้นเป็นไวนิลลายไม้ SPC ที่ทนความชื้น รอยขีดข่วน และช่วยลดแรงกระแทกได้ด้วย

เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วน Common Area ซึ่งบริเวณนี้จะเป็น Double Space หรือฝ้าเพดานสูง สูง 4.2 เมตร พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ รับแสงได้เต็มที่ / นอกจากนี้ยังมีกระจกบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้นะคะ

พื้นที่มุมนี้วางโซฟายาวขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่งได้ โดยมีพื้นที่วางโต๊ะกลางได้ ส่วนระยะทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.45 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาดประมาณ 40″-44″ ซึ่งเป็นขนาดที่พอดีกับระยะสายตาค่ะ

ส่วนตู้ Built in ทีวี เราจะได้ตู้ด้านข้างสำหรับวางรองเท้า ที่ช่วยลดปัญหากลิ่นรองเท้า ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับคนอยู่คอนโดนะคะ และตู้ด้านล่างทีวีสำหรับวางของเพิ่มเติม ที่สามารถเก็บของได้นิดหน่อย โดยจะได้หน้าตาเฟอร์นิเจอร์สีโทนนี้เลยนะคะ

ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ แต่ด้วยความสูงแบบนี้ เราสามารถติดไฟ Chandelier เพิ่มเติม ที่ทำให้ห้องดูสวยงามมากขึ้นนะคะ / โดยบริเวณ Common Area เราจะมองเห็นพื้นที่ชั้นลอยด้วย ส่วนชั้นล่างจะเป็นทางเข้าห้องน้ำนะคะ

เข้ามาในส่วนห้องน้ำกันต่อนะคะ สำหรับห้องน้ำนี้มีการแบ่งโซนเปียกและแห้งด้วยการยกระดับพื้น ซึ่งไม่สามารถป้องกันน้ำกระเด็นได้ 100% เราแนะนำให้ติดฉากกั้นเพิ่มเติมจะดีกว่านะคะ / พื้นและผนังเป็นกระเบื้อง PORCELAIN ขนาด 60×60 ซม. เหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำ เพราะทนความชื้น รอยขูดขีด และเช็คทำความสะอาดได้ง่าย

พื้นห้องน้ำวางเป็นแนวยาว โดยทางเข้ามีการยก Step ขึ้นประมาณ 10 ซม. ที่ป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกมาด้านนอกค่ะ

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำครบครันทั้งอ่างล้างมือ ยี่ห้อ Cotto แบบฝังเคาน์เตอร์ ดูเรียบร้อยเป็นระเบียบจริง พร้อมพื้นที่รอบอ่างให้สามารถวางอุปกรณ์ต่างๆได้ด้วย ส่วนโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto เช่นกัน สายชำระและแกนเสียบทิชชู่ครบครัน Low Wall กว้างประมาณ 20 ซม. ให้วางของใช้งานได้เพิ่มเติม

ถัดมาในโซนพื้นที่อาบน้ำจะได้ฝักบัวแบบ Hand Shower + จุด Junction มาให้เรียบร้อย เราสามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งเพิ่มเติมเองได้นะ / พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.25×0.77 ตร.ม. ที่ยืนใช้งาน 1 คนได้กำลังดีค่ะ

เดินไปดูพื้นที่ห้องครัวปิดกันก่อน ซึ่งถ้าเราสังเกตบริเวณใต้บันไดจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นได้นะคะ

ห้องครัวปิดอยู่โซนด้านในติดกับพื้นที่ระเบียง ทำให้เหมาะกับการทำอาหารจริงจัง เพราะสามารถระบายอากาศได้ดี และไม่รบกวนพื้นที่ภายในห้องพักอาศัยอีกด้วย / ฝั่งขวามือมีพื้นที่ว่างให้เราสามารถ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มเติมได้นะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ โดยชุดครัวจะปิดผิวด้วยเมลามีนสีขาว(ด้านบน) และเมลามีนลายไม้(ด้านล่าง)ก็จะได้โทนที่ดูสุขุมดีค่ะ ส่วนผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ครัว (Back Splash) ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งให้นะคะ แต่แนะนำให้เราติดตั้งเพิ่มเติมเอง เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย และผนังไม่เป็นคราบน้ำมันเวลาทำกับข้าวค่ะ

หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์ มีระยะใช้งานประมาณ 1.19 เมตร ยื่นใช้งาน 1-2 คนได้สบายๆ

Top เคาน์เตอร์เป็นหิน Grand Crystal White ที่ทนความร้อนและน้ำได้ดี พร้อมพื้นที่สามารถวางอุปกรณ์ และเตรียมอาหารได้กำลังดี / โครงการติดตั้งซิงค์ล้างจาน ยี่ห้อ HAFELE ขนาด 38 x 42 ซม. พร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ส่วนเตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัว + เครื่องดูดควัน ยี่ห้อ HAFELE

ด้านล่างเคาน์เตอร์มีทั้งลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ชั้นวางของ และพื้นที่ขนาดใหญ่ใต้ซิงค์ล้างจานที่สามารถวางของชิ้นใหญ่ได้นะ / พื้นที่ตรงกลางมีช่องว่างสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้นะคะ

ด้านหลังเป็นทางเดินออกไประเบียงที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ต่อ / พื้นระเบียงขนาด 0.72 x 1.72 เมตร ปูด้วยกระเบื้อง 30 x 30 ซม. ที่ทนน้ำและแดดได้ดี + ราวกันตกเหล็กสีดำ ส่วน Condensing Unit แขวนให้ด้านบนเรียบร้อย

เข้ามาบริเวณห้องนอนชั้นล่าง ที่มาพร้อมฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร พร้อมกระจกสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน ทำให้แสงส่องเข้ามาได้เยอะ บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง / โดยเราสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยนะ ด้านข้างมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะหัวเตียง + ตู้เสื้อผ้าได้

สำหรับตู้เสือผ้าเราสามารถวางยาวเต็มพื้นที่ได้เลยนะคะ ซึ่งห้องนอนเราจะได้เป็นห้องเปล่านะคะ

กลับออกมาบริเวณด้านหน้าห้องครัวปิด ด้านล่างจะมีพื้นที่ให้วางตู้เย็นได้พอดี ส่วนด้านข้างเป็นบันไดทางขึ้นชั้นบน โดยเป็นโครงสร้างเหล็กกว้าง 85 ซม. เดินใช้งานได้ 1 คนกำลังดี

ที่น่าสนใจ คือบริเวณบันไดมีการออกแบบช่องเก็บของมาให้เพิ่มเติมด้วยนะ โดยจะได้เป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกห้องนะคะ / วัสดุบันไดเป็นไม้ยางพาราประสานทำสีเทียบพื้นนะคะ

สำหรับห้องนี้จะวางตัวบันไดเป็นรูปตัว U ที่ชานพักเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่ต้องเดินระมัดระวังกันด้วยนะคะ พร้อมราวกันตกให้จับเดินได้สะดวกค่ะ

พื้นที่ชั้นลอยมีความสูง 1.95 เมตร ไม่ได้สูงมากนัก ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายตัวสูงหน่อยจะยืนใช้งานพอดีๆเลยนะ

บริเวณโครงการวางฐานเตียง 5 ฟุตมาให้เรียบร้อย ซึ่งบริเวณฐานเตียงจะมีลิ้นชักใต้เตียงให้เก็บของเพิ่มเติมได้นะคะ พร้อมพื้นที่เหลือด้านข้างวางโต๊ะทำงานแนวยาวได้พอดี

หันมาฝั่งตรงข้ามมีราวกันตก ที่เราสามารถมองลงไปเห็นพื้นที่ Common Area ด้านล่างได้ ข้อดีสำหรับห้องนี้ คือได้หน้าต่างบานใหญ่ ที่นอนดูวิวจากบนเตียงได้เลย / โดยบริเวณนี้เราได้เป็นราวกันตกแบบเปิด ที่ทำให้แอร์ไหลลงไปด้านล่างได้ ซึ่งอาจจะทำให้ค่าไฟสูงขึ้นไปด้วย เราแนะนำให้ติดผ้าม่านหรือทำเป็นฉากกั้นเพิ่มเติมก็ได้นะคะ

มองลงไปเห็นพื้นที่ Common Area จะได้ดูว่ามีใครมาใครไปได้จากด้านบนเลยนะคะ

หันกลับมาฝั่งมีทางเดินไปพื้นที่ Walk-in Closet ด้านใน

สำหรับชุดตู้เสื้อผ้าจะได้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยนะคะ ภายในตู้เสื้อผ้าแบ่งโซนการจัดเก็บเสื้อผ้าได้เป็นสัดส่วนดี ซึ่งเราสามารถติดหน้าบานตู้เพิ่มเติมเองได้นะคะ

สำหรับตู้ Built-in ทางโครงการมีออกแบบลิ้นชักมาให้เก็บของเพิ่มเติมด้วยนะคะ

หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์มีพื้นที่ใช้งานประมาณ 2.08×1.31 เมตร ที่เราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวกค่ะ

1 Bedroom Duo Space (Loft) ขนาด 22-25.5 ตร.ม. (ชั้นล่าง ได้โฉนด) + ชั้นลอย 9 – 10.8 ตร.ม. โดยรวมแล้วทั้งหมด 31-36.3 ตร.ม. เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนได้ โดยห้องนี้ได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว(แบบติดผนัง)

ชั้น 1 : เข้ามาในส่วนแรกจะเป็นบริเวณครัว ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีประตูกระจกคั่นอยู่เพื่อให้การใช้งานครัวเป็นรูปแบบครัวปิด ซึ่งข้อดีคือเวลาทำกับข้าวหนักๆแล้ว กลิ่นหรือควันก็ยังไม่ฟุ้งกระจายเข้าไปในส่วนพักอาศัย ติดกับครัวจะเป็นส่วนของห้องน้ำที่มีการใช้งานแยกโซนพื้นที่อาบน้ำและพื้นที่อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์เป็นสัดส่วน ถัดเข้ามาที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น โซนนี้จะเป็นโซนที่ได้ฝ้าเพดานสูง 4.2 ม. พร้อมกับหน้าต่างทรงสูงบานใหญ่ เปิดรับแสงและวิวได้เต็มที่

ชั้น 2 : เริ่มที่ส่วนของบันได โดยบันไดที่นี่ในการใช้ขึ้นไปยังชั้นลอยด้านบน รูปแบบจะเป็นบันไดแนวยาวติดผนัง ส่วนชั้นลอยด้านบนนั้นออกแบบให้เป็นห้องนอน โดยจะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า ด้วยพื้นที่แล้วขนาดโอเคเลยสำหรับห้องนอนไม่เล็กไปค่ะ

เข้ามาในส่วนห้องครัวกันก่อนนะคะ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นชุด Built-in ซึ่งทางโครงการจะทำมาให้บางส่วน ส่วนฝั่งขวามือนั้นเป็นเคาน์เตอร์ครัว สำหรับฝ้าเพดานบริเวณนี้จะมีความสูงฝ้าเพดานประมาณ 2.1 ม. ซึ่งถ้าจะลองเทียบความสูงจริงก็ลองนึกดูว่ามีความสูงฝ้าประมาณประตูรวมวงกบ แน่นอนว่าเราสามารถเดินได้ไม่ต้องก้มหัว และไม่รู้สึกว่าฝ้าเตี้ยไปเพราะว่าได้ประตูบานเลื่อนกระจกรับแสงเข้ามาได้ดี เลยทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง

พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้อง PORCELAIN ขนาด 60×60 ซม. ที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่ใช้งาน 1.17 เมตร ที่เราเดินใช้งาน 2 คนได้สบายๆ

เคาน์เตอร์ครัวได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ โดยชุดครัวจะปิดผิวด้วยเมลามีนสีขาว,ลายไม้ / ส่วนผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ครัว (Back Splash) ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งมาให้นะคะ

วัสดุท็อปครัวทางโครงการเลือกใช้เป็นท็อปหิน Grand Crystal White ซึ่งถ้าพูดถึงการใช้งานแล้วก็จะทนความชื้น ทนน้ำได้ดี รวมถึงทำความสะอาดได้ง่าย

ซิงค์ล้างจาน และเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ HAFELE แบบเดียวกับห้องที่แล้วเลยนะคะ / ส่วนตรงกลางระหว่างบานเปิดใต้เคาน์เตอร์ ทางโครงการจะเว้นวางไว้ให้พร้อมเดินงานระบบเพื่อให้วางเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้ (ขนาดที่วางได้กำลังดีคือประมาณ 9 Kg)

นอกจากนี้บริเวณครัวนั้นฝั่งตรงข้ามก็ได้ Built-in ไว้สำหรับวางรองเท้าวางของจุกจิกได้ด้วย ซึ่งเรามองว่าการให้มาด้วยคือดีมากนะ เพราะถ้านึกถึงลักษณะการใช้งานจริง เราเข้าห้องมาก็ต้องถอดรองเท้าและวางกระเป๋า กุญแจต่างๆ การมีชั้น Built-in แบบนี้ก็ทำให้เราสะดวกในการใช้งานมากขึ้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำนี้มีอุปกรณ์ครบครัน อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์อื่นๆ ที่นี่ใช้จาก COTTO ทั้งหมด + โถสุขภัณฑ์แบบ Tank ฝังผนังด้านหลัง ดูเรียบร้อยสวยงามดีนะ / ส่วนพื้นและผนังเป็นกระเบื้อง PORCELAIN เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ถัดมาในโซนพื้นที่อาบน้ำมีฝักบัวมีทั้งแบบ Hand Shower + จุด Junction มาให้แล้วเรียบร้อย เราสามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งเองได้ / พื้นที่อาบน้ำขนาด 80 x 1.25 เมตร เป็นระยะที่ใช้งานได้สบายๆ

ระหว่างพื้นที่ครัวปิด และ Common Area กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิด-ปิดสะดวกและไม่กินพื้นที่ทางเดิน

เข้ามาภายในส่วน Common Area มุมนี้จะมีฝ้าเพดานสูง 4.2 ม. เชื่อมมาจากส่วนครัวปิด ซึ่งบริเวณนี้เราจะได้หน้าต่างบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่เลย / พื้นเป็นไวนิลลายไม้ SPC ซึ่งมีคุณสมบัติเรื่องการทนน้ำ และปลวกได้ดีนะคะ

เดินเข้ามาด้านในโครงการติดตั้งชั้นวางทีวีมาให้แบบห้องที่แล้วเลยนะคะ ส่วนด้านข้างมีประตูบานเลื่อนเดินออกไปพื้นที่ระเบียงด้านนอกได้นะคะ

ระเบียงขนาดประมาณ 0.72 x 1.23 เมตร ส่วน Condensing Unit แขวนไว้ด้านบนเรียบร้อย ที่ไม่รบกวนพื้นที่ใช้งานระเบียงนะคะ

บริเวณนี้ทางโครงการจัดโต๊ะทำงานริมหน้าต่างมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศออกด้านนอกได้นะ

บันไดจะอยู่ติดริมผนัง กว้าง 85 ซม. ซึ่งลูกตั้งดูแล้วค่อนข้างชันนะคะ พร้อมราวกั้นตกให้เดินใช้งานได้สะดวกค่ะ

บริเวณบันไดมีพื้นที่เก็บของมาให้แบบห้องที่แล้วเลย เหมาะสำหรับห้องพักอาศัยที่ขนาดใหญ่ไม่มาก มีพื้นที่เก็บของไม่เยอะ

เราจะพาเดินขึ้นไปดูพื้นที่ใช้ลอยกันต่อค่ะ ซึ่งเป็นห้องนอนหลักนะคะ

บริเวณโครงการวางฐานเตียง 5 ฟุตมาให้เรียบร้อย ซึ่งบริเวณฐานเตียงจะมีลิ้นชักใต้เตียงให้เก็บของเพิ่มเติมได้นะคะ ส่วนความสูงชั้นนี้อยู่ที่ 1.95 เมตร ก็เป็นระยะที่ยืนใช้งานได้พอดี / ผนังของจริงเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวปกตินะคะ

สำหรับชุด Built-in ตู้เสื้อผ้า + โต๊ะเครื่องแป้ง โครงการมาให้เรียบร้อยค่ะ / โดยห้องนี้ทางโครงการให้บานปิดมาแล้วเรียบร้อย

หันมาฝั่งตรงข้ามมีราวกันตก ที่เราสามารถมองลงไปเห็นพื้นที่ Common Area ด้านล่างได้ ข้อดีสำหรับห้องนี้ คือได้หน้าต่างบานใหญ่ ที่นอนดูวิวจากบนเตียงได้เลย / โดยบริเวณนี้เราได้เป็นราวกันตกแบบเปิด ที่ทำให้แอร์ไหลลงไปด้านล่าง เราแนะนำให้ติดผ้าม่านหรือทำเป็นฉากกั้นเพิ่มเติมก็ได้นะคะ

เราสามารถมองลงไปพื้นที่ Common Area ด้านล่าง เวลาเพื่อนมาห้องก็สามารถแบ่งใช้งานได้เป็นสัดส่วนดีนะ

สำหรับโครงการนี้จะมีปลั๊ก USB ยี่ห้อ PHILIPS รุ่น LeafStyle พร้อม LED ไฟบริเวณผนังฝ้า และผนังระเบียง

1 Bedroom Duo Space (Loft) ขนาด 26-27 ตร.ม. (ชั้นล่าง ได้โฉนด) + ชั้นลอย 9.6-9.8 ตร.ม. โดยรวมแล้วทั้งหมด 35.6-36.8 ตร.ม. เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนได้ โดยห้องนี้ได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว(แบบติดผนัง

Image 1/9
Kitchen Area

Kitchen Area

สำหรับใครที่ชอบห้องแบบปกติ (Simplex) ที่ได้ความสูง 2.6 เมตร โดยจะมีเฉพาะชั้น 10-12 เท่านั้นนะคะ โดยมีทั้งหมด 164 ยูนิตทั้งโครงการค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Origin Plug & Play Nonthaburi Station @ วันที่ 28 กันยายน 2564

  • Duo Space (Loft) ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร
    – 1 Bedroom Duo Space (Loft) 22-25.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
    – 1 Bedroom Duo Space (Loft) 26-27 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
    – 1 Bedroom Plus Duo Space (Loft) 34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted มีเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ Built-in
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร / Duo Space 4.2 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหิน Grand Crystal White
  • Hob & Hood ยี่ห้อ HAFELE
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 20, 000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 35 งวด
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

Origin Plug & Play Nonthaburi Station อยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์(ฝั่งขาเข้า) ซึ่งคอนโดฝั่งนี้มีไม่เยอะ โดยตั้งอยู่ใกล้แยกนนทบุรี ที่น่าสนใจคือใกล้เซ็นทรัลและตลาดนกฮูก ที่อยู่ในระยะเดินไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปใช้งาน / อีกทั้งยังเป็นโซนศูนย์ราชการที่มีแหล่งงานขนาดใหญ่ คนที่พักอาศัยโครงการนี้ส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นข้าราชการ หรือคนที่ทำมาค้าขายในย่านนี้ หรือคนที่ต้องการขยับขยายจากครอบครัว ออกมาใช้ชีวิตบนคอนโดด้วยตัวเองนะคะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ทำเลตั้งอยู่บนถนนฝั่งขาเข้า ที่เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย หรือขับไปขึ้นทางด่วนได้สบายๆเลย ซึ่งต้องบอกว่าในช่วงเวลาเร่งด่วนการใช้งานคนละฝั่งก็มีผลกับการเดินทางมากทีเดียว ในทางกลับกันเวลาเรากลับบ้านนั้นจะมีปัญหามากกว่า โดยเราต้องไปกลับรถใต้สะพานนนทบุรีนะคะ เนื่องจากโครงการอยู่บริเวณสะพานกลับรถพอดีเลย ซึ่งโครงการมีที่จอดรถ 34.2% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ที่ดูแล้วให้มาไม่เยอะมาก แต่ด้วยความที่คอนโดอยู่ใกล้ไฟฟ้าก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว เพราะคนที่อยู่คอนโดนี้ส่วนใหญ่จะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการตั้งอยู่ระหว่าง MRT แยกนนทบุรี 1 ซึ่งเราลองวัดระยะใน Google Map ดูแล้ว มีระยะทางไปจนถึงบันไดทางขึ้นประมาณ 250 m. เป็นระยะที่สามารถเดินได้สบายๆเลยแหละ ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ซึ่งการใช้รถไฟฟ้าถือเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วของย่านนี้ (ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด) หรือถ้าใครจะเดินออกมาโบกรถสาธารณะที่หน้าโครงการก็ได้ค่ะ เพราะจะมีแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ขับผ่านอยู่เรื่อยๆเลย

วัสดุ :

ขายแบบ Fully Fitted โดยโครงการให้มาเฉพาะชุด Built-in ซึ่งขาดเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ที่เราซื้อนิดหน่อยก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย การแต่งแบบ Fully Fitted มาให้นั้นโดยรวมก็เลือกเกรดมาให้เหมาะสมกับราคาอยู่ เช่น สุขภัณฑ์ COTO, เคาน์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน พร้อม Hob & Hood ยี่ห้อ HAFELE ส่วนพื้นเป็นไวนิลลายไม้ SPC และกระเบื้อง PORCELAIN เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย + สวิตซ์พร้อมจุดเชื่อมต่อ USB มาให้ด้วย แต่ถ้าเสริมในเรื่องของการ Built-in ชั้นวางของมาให้เต็มผนังจะดีมาก และฉากกั้นกระจกในห้องน้ำที่เรามองว่าน่าจะเพิ่มให้มาด้วยเป็นมาตรฐาน

การออกแบบอาคาร :

มีการออกแบบที่น่าสนใจดี โดยการใช้เส้นสายที่โฉบเฉี่ยวพร้อมโทนสีแดงที่ตัดกับสีเทาได้อย่างลงตัว ดูแล้วทำให้ตัวอาคารดูมีมิติมากขึ้น รวมถึงพื้นที่สีเขียวทั่วโครงการก็ทำให้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่วนตัวโครงการออกแบบให้ห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 เป็นระยะที่พ้นจากที่อยู่อาศัยแนวราบโดยรอบแล้วค่ะ รวมถึงตึกสูงก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด ทำให้ทุกห้องในโครงการจะได้วิวที่เปิดโล่งทีเดียว

การออกแบบตัวห้อง :

โครงการนี้มีรูปแบบห้องให้เลือก 2 แบบหลักๆ คือ ห้อง Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.9 ม. กับ Duo Space (Loft) ที่ได้ฝ้าเพดานสูง 4.2 ม. โดยจะเน้นไปที่ห้อง Duo Space เป็นหลัก ดังนั้นการซื้อห้องรูปแบบนี้ โฉนดจะอิงตามไซส์ห้องเลย แต่พื้นที่ใช้สอยไม่ได้แค่ตามโฉนดนะคะ เพราะยังมีพื้นที่ชั้นลอย (ที่ไม่ได้นับในโฉนด) เพิ่มขึ้นมาด้วย สมมติว่าเราซื้อห้อง Duo Space 22 ตร.ม. ก็จะมีชั้นลอยทำเป็นห้องนอนเพิ่มขึ้น 9 ตร.ม. รวมการใช้งานจริง 31 ตร.ม. นั่นเองค่ะ โดยราคาที่ทางโครงการทำมาจะเฉลี่ยอยู่ที่ 90,000 บาท/ตร.ม. (แบบไม่รวมชั้นลอย) และ 80,000 บาท/ตร.ม. (แบบรวมชั้นลอย)

ห้องรูปแบบนี้ข้อดีคือทำให้เราได้แยกห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น เริ่มจากบันไดทางขึ้นไปชั้นลอย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่ครัวปิดที่เหมาะทำอาหารจริงจัง ส่วนห้องนอนยกขึ้นไว้ชั้นลอย ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ให้เรานอนดูวิวจากบนเตียงได้เลย โดยห้องนี้ได้ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ให้ความรู้สึกแตกต่างกับห้องปกติทั่วไปค่ะ

สาธารณูปโภค :

ภาพรวมถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ สิ่งที่ได้มาคือพื้นที่ส่วนกลางที่เยอะน่าใช้งาน นอกจาก Main Facilities ที่ต้องมีสระว่ายน้ำและฟิตเนส เรายังได้ฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเติมที่แยกตามประเภทกิจกรรมที่น่าสนใจ และเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้ง Origin Healthcare Club, E-Sport room, Game Room, Sky Jogging Track และ Sky Garden พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 1.8 ไร่ เรียกว่าหลากหลายน่าใช้งาน เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางต้องยอมรับว่าทางโครงการทำมาให้ค่อนข้างหลากหลาย และขนาดก็ไม่ได้เล็กด้วย เทียบกับยูนิต 999 ยูนิตแล้วก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งานอยู่ ส่วนค่าส่วนกลางที่คิดมาอยู่ที่ 55 บาท/ตร.ม./เดือน นับว่าค่อนไปทางสูงสำหรับโครงการนี้นะคะ แต่เมื่อลองคิดคำนวณต่อตารางเมตร (แบบไม่รวมชั้นลอย) แล้วก็ตกต่อเดือนสูงสุดประมาณ 1,900 นิดๆ (คิดจากห้องไซส์ 34.5 ตร.ม. ห้องขนาดใหญ่สุด) ซึ่งพอเป็นราคารวมแล้วก็ไม่ได้สูงจนเกินไปมากนัก


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000-90,000 บาท/ตร.ม., 28 กันยายน 2564

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ใกล้ห้างและศูนย์ราชการเยอะ ได้วิวเปิดโล่ง
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – คอนโดตั้งอยู่ฝั่งขาเข้า เดินทางเข้าเมืองไปขึ้นทางด่วนได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลากลับรถ
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 – ใกล้รถไฟฟ้า MRTสถานีแยกนนทบุรี ในระยะ 250 เมตร ติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะได้ง่าย
  • วัสดุ 7.25/10 – ขายแบบ Fully Fitted เพิ่มเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็ครบพร้อมอยู่
  • แบบ 8.5/10 – แบบห้อง Loft 2 ชั้น ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร ที่แตกต่างจากโครงการโดยรอบ
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – พื้นที่ส่วนกลางกระจายตัวอยู่ทั่วโครงการ พร้อมฟังก์ชันหลากหลายดี ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

  • MAIN CLASS
  • 7.03 / 10.00

Origin Plug & Play Nonthaburi Station เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในโซน นนทบุรี-รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน มองหาคอนโดฝั่งขาเข้าเมือง ใกล้รถไฟฟ้าและเซ็นทรัลในระยะ 250 เมตร ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มหลากหลาย กระจายทั่วโครงการ แบบห้อง Loft  2 ชั้น ฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร ที่โดดเด่นกว่าโครงการในละแวก พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ครบครัน มีงบประมาณเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc