![](https://img.iproperty.com.my/thinkofliving/1620x1080-crop/wp-content/uploads/1/2024/10/28221712/%E0%B8%9B%E0%B8%81-Review-NUE-EPIC-ASOK-%E2%80%93-RAMA-9_2-copy.jpg)
รีวิวฉบับที่ 2806 ..นี่เป็นครั้งแรกเลยครับที่เราได้เห็น Noble ทำโครงการขนาดใหญ่มากกว่า 3,000 ยูนิตแบบนี้ กับโครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) แต่ที่น่าตกใจอีกอย่างก็คือ ทำเลของโครงการนี้อยู่ใจกลาง CBD ย่านพระราม 9 ที่แทบจะหาที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้มาทำโครงการแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว แน่นอนว่ารอบนี้ Noble จัดหนักจัดเต็ม ทุ่มทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ทำโครงการนี้ขึ้นมาแบบยิ่งใหญ่และครบครันที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นตามไปดูพร้อมๆกันเลยครับ
- มีจำนวนยูนิตและขนาดพื้นที่ส่วนกลางใหญ่สุดในย่านพระราม 9
- ทำเลใจกลางเมือง ใกล้ความอุดมสมบูรณ์อย่างเซ็นทรัลและฟอร์จูนทาวน์
- เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 และใกล้ทางด่วนศรีรัช
- เน้นห้องหน้ากว้าง ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนใช้งานง่าย ขายแบบ Fully Furnished
ข้อมูลโครงการ
NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) ณ เดือนมกราคม 2568
ชื่อโครงการ | NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN – UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน อโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 15-0-19.6 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 4 อาคาร – อาคาร A 47 ชั้น (ต่างชาติ) – อาคาร B 47 ชั้น – อาคาร C 34 ชั้น (ต่างชาติ) – อาคาร D 32 ชั้น (Pet Friendly) |
จำนวนยูนิต | 3,107 ยูนิต และร้านค้า 9 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 1,400 คัน คิดเป็น 45% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2571 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 2.69 ล้านบาท (Promotion) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 110,000 – 130,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | อยู่ระหว่างการประเมิน |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 02-251 9955 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ติดถนนใหญ่พระราม 9 มีความอุดมสมบูรณ์สูง
- ใกล้ห้างสรรพสินค้าฟอร์จูนและเซ็นทรัล
- ใกล้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ประมาณ 550 m. เป็นระยะที่พอจะเดินถึงได้
- ใกล้ทางด่วนศรีรัช 1.4 – 2.3 km. สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
- ทำเลมีชาวต่างชาติเยอะ เป็นที่สนใจของนักลงทุนและคนหาห้องเช่า
พิกัด Google Maps : 13.756670, 100.561247
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 9 ที่ถือได้ว่าเป็นย่าน CBD ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยคำว่าย่าน CBD หรือ Central Business District หมายถึง ย่านศูนย์กลางธุรกิจ และเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของเมืองที่มีกิจกรรมขับเคลื่อนทางธุรกิจขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยแหล่งงานอย่างออฟฟิศมากมาย มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ครบครัน รวมถึงยังต้องมีการคมนาคมที่สะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะด้วยครับ แน่นอนว่าย่านพระราม 9 แห่งนี้มีครบเข้าเกณฑ์ทั้งหมดเลย
สำหรับที่ตั้งโครงการจะเป็นถนนฝั่งขาเข้าก่อนถึงแยกพระราม 9 พอดีครับ ทำให้การเดินทางเข้าเมืองหรือไปใช้ทางด่วนนับว่าสะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานี พระราม 9 และห้างสรรพสินค้าต่างๆอีกด้วย โดยจัดเป็นระยะที่พอจะเดินถึงได้เลยอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่คึกคักที่นอกจากคนไทยแล้ว ก็ยังเต็มไปด้วยชาวต่างชาติมากมาย เลยทำให้เป็นที่สนใจสำหรับกลุ่มนักลงทุนด้วยไม่น้อยเลยครับ
ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานี พระราม 9 :
เป็นหนึ่งในตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกสำหรับชีวิตในกรุงเทพมากๆครับ เพราะเราสามารถเลี่ยงรถติด และเดินทางได้รวดเร็วมากขึ้น โดยมีระยะห่างประมาณ 550 m. พอจะเดินถึงได้อยู่ถ้าขยันเดินหน่อย หรือเราอาจใช้บริการต่อวินมอเตอร์ไซค์แถวๆโครงการก็ได้
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :
แน่นอนว่าเป็นทางด่วนศรีรัช โดยจะมีให้เราใช้งานได้สะดวก 2 จุดใหญ่ๆ จุดแรกจะเป็นทางด่วนด่านอโศก มีระยะห่างเพียง 1.4 km. เหมาะสำหรับการเข้าเมืองไปทางราชเทวี-พญาไท-อนุสาวรีย์ หรือจะไปเชื่อมต่อกับทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ก็ได้
จุดที่สองจะเป็นด่านพระราม 9 ที่อยู่บนถนนพระราม 9 เลยครับ ห่างจากโครงการ 2.3 km. สามารถมุ่งหน้าไปทางศรีนครินทร์-พัฒนาการ-รามคำแหง หรือจะไปเชื่อมต่อกับทางด่วนฉลองรัชก็ได้เหมือนกัน
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้
บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุมชนแนวราบครับ ซึ่งก็การันตีได้ในระดับหนึ่งว่าอนาคตน่าจะไม่มีตึกสูงอื่นๆขึ้นมาบังวิวใกล้ๆได้ง่ายๆ เพราะการที่จะรวมที่ดินเป็นผืนใหญ่นั้นทำได้ยาก แต่ถ้าเป็นอาคารแรกๆที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ก็จะมีอาคารสูงบังวิวบางส่วนอยู่บ้างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงานและคอนโดเพื่อนบ้าน
โดยทางโครงการก็มีการดีไซน์อาคารให้มีระยะร่นเข้าไปด้านในลึกพอสมควร เพื่อที่จะได้เว้นระยะห่างจากความวุ่นวายของถนนใหญ่ และยังหลีกเลี่ยงการบังวิวของตึกสูงริมถนนไปด้วยในตัว แต่เพื่อความชัวร์ก็อาจรอดูของจริงตอนตึกเสร็จ หรือขอภาพโดรนมุมสูงจากโครงการดูอีกทีหนึ่งก็ได้ครับ(ถ้ามี)
- ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนแนวราบ ระยะไกลได้วิวทางโซนรัชดา-ลาดพร้าว
- ทิศตะวันออก ติดกับ ชุมชนแนวราบ และอาคารสำนักงานสูง 36 ชั้น ระยะไกลได้วิวฝั่งเซ็นทรัลและรามคำแหง
- ทิศใต้ เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนใหญ่พระราม 9 และได้วิวทางด่วนศรีรัช
- ทิศตะวันตก ติดกับ ชุมชนแนวราบ และคอนโดสูง 14 – 29 ชั้น ระยะไกลได้วิวฝั่งดินแดง-อนุสาวรีย์
สำหรับ Sale Gallery ก็จะตั้งอยู่ตรงด้านหน้าที่ดินโครงการเลยครับ ภายในมีที่จอดรถเพียบ แต่ตอนที่เราปักหมุดมายังโครงการด้วย Google Map มีข้อควรระวังนิดนึงคือ เมื่อใกล้ถึงโครงการบนถนนพระราม 9 ให้ชิดซ้ายเอาไว้ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9 เพราะถ้าเราตามแผนที่ไปจะบอกให้เราขึ้นสะพานทำให้เสียเวลาต้องไปกลับรถใหม่นั่นเอง (เดี๋ยวน่าจะมีการอัพเดตใหม่ในอนาคตอีกที ตอนนี้หมุดยังไม่เสถียรนะครับ)
มาดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันสักหน่อย โดยด้านหน้าโครงการก็จะอยู่ติดกับถนนใหญ่พระราม 9 แบบนี้เลย
ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางที่มุ่งหน้ามาจากอนุสาวรีย์ หรือลงทางด่วนมาจากเฉลิมมหานคร ซึ่งอย่างที่บอกว่าเราต้องไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกนะครับ แต่เราจะอยู่ตรงใต้สะพานพอดี
ส่วนทางด้านขวาของโครงการก็จะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปสี่แยกพระราม 9 ไปเซ็นทรัล และไปขึ้นทางด่วนได้ โดยระหว่างทางใกล้ๆก็จะมีเซเว่นด้วย
รวมถึงข้างๆเซเว่นก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้เดินมาใช้บริการ เพื่อไปต่อรถไฟฟ้า MRT หรือไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆได้ครับ หรือถ้าใครสะดวกเดินก็ได้เหมือนกัน มีฟุตบาทให้เดินได้สะดวก ระหว่างทางก็มีร้านค้าอยู่บ้าง แต่ตอนกลางคืนจะค่อนข้างเงียบๆหน่อย
ส่วนภาพนี้จะเป็นบรรยากาศรอบๆที่ดินโครงการ จะเห็นว่าช่วงโซนด้านหน้าใกล้ถนนใหญ่แบบนี้ จะมีอาคารสูงอยู่ข้างๆแบบนี้เลยครับ ซึ่งถ้าใครที่เน้นวิวก็อาจเลือกชั้นที่สูงกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงได้ หรือจะเลือกเป็นอาคารที่อยู่ด้านในก็จะได้วิวเปิดโล่งมากกว่านะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Fortune Town ~ 550 m.
- Lotus’s Fortune Town ~ 850 m.
- Jodd Fairs พระราม 9 ~ 1.2 km.
- Central พระราม 9 ~ 1.3 km.
- Esplanade รัชดาภิเษก ~ 1.7 km.
- The Street รัชดาภิเษก ~ 2.4 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 1.4 km.
- โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์ ~ 2.8 km.
- โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 5 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ~ 1.6 km.
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ~ 3 km.
- โรงเรียนสาธิต มศว. ประสานมิตร ~ 3.7 km.
- โรงเรียนเตรียมอุดมฯ รัชดา ~ 3.8 km.
- โรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ ~ 4.4 km.
- โรงเรียนนานาชาติ KIS ~ 4.6 km.
- วิทยาลัยนานาชาติ The Regent’s (RIC) ~ 4.7 km.
- โรงเรียนนานาชาติ The Regent’s ~ 5.2 km.
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ~ 5.2 km.
- โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ~ 7 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- เป็นโครงการขนาดใหญ่สุดของย่าน
- มีพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวรวมเยอะที่สุดในย่านกว่า 11 ไร่ พร้อมสระว่ายน้ำ 3 สระ
- กระจายพื้นที่ส่วนกลางทั่วทุกอาคาร เพื่อลดความหนาแน่นในการใช้งาน และให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ต้องเดินข้ามอาคารไกลๆ
- มีการแบ่งโซนอาคารชัดเจน ทั้งอาคารสำหรับชาวต่างชาติ อาคารสำหรับคนไทย และอาคาร Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้
โครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโปรเจคขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของ Noble เพราะมีจำนวนยูนิตมากถึง 3,107 ยูนิต บนที่ดินขนาดใหญ่กว่า 15-0-19.6 ไร่ ซึ่งปกติเราจะคุ้นเคยกับโครงการของ Noble ที่มียูนิตไม่เยอะมาก เพราะเน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยใช่มั้ยครับ
เรียกได้ว่าโครงการนี้ฉีกทุกภาพจำของเราเลยทีเดียว ด้วยมูลค่าโปรเจครวมกว่า 12,000 ล้านบาท มาพร้อมกับชื่อ ‘Epic’ ที่หมายถึงมหากาพย์ความยิ่งใหญ่ ซึ่งก็จัดเต็มมาให้สมชื่อเลยจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็นขนาดโครงการ จำนวนยูนิต และพื้นที่ส่วนกลาง โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันเลย
ตัวโครงการจะแบ่งออกเป็น 4 Tower และตั้งอยู่บนฐานโพเดี้ยมเดียวกัน ที่ชั้น 1 – 4 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมดรวมกว่า 1,400 คัน คิดเป็น 45% (แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งทุกอาคารก็จะมี Facilities กระจายอยู่ทั้งโครงการ และเราสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดครับ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละอาคารด้วยดังนี้
- Tower A : เป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด และมีความสะดวกในการเข้า-ออกมากที่สุด โดยกลุ่มเป้าหมายของอาคารนี้จะเป็นชาวต่างชาติเป็นหลักครับ
- Tower B : มีความสูงเท่าอาคาร A (47 ชั้น) แต่อาคารนี้จะมีกลุ่มเป้าหมายที่ขายเป็นของคนไทยนะ
- Tower C : เป็นอาคารที่มีความสูงน้อยลงมาหน่อย (34 ชั้น) แน่นอนว่าราคาก็จะจับต้องได้ง่ายกว่าอาคารที่อยู่ด้านหน้า (ไล่ระดับราคาจากมาก-น้อยตามลำดับเลย) รวมถึงกลุ่มเป้าหมายของอาคารนี้ก็จะเป็นชาวต่างชาติอีกหนึ่งอาคารครับ
- Tower D : เป็นอาคารยูนิตพิเศษ Pet Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ รวมถึงยังมี Facilities และ Pet Zone โดยเฉพาะให้ใช้งานอีกด้วยครับ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักก็จะเป็นของคนไทยนี่แหละ
บริเวณด้านหน้าโครงการจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดความกว่า 2 ไร่ ทำหน้าที่เป็น Buffer ป้องกันมลพิษทางฝุ่นและเสียงของถนนใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ
อีกทั้งยังช่วยปรับอารมณ์ให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ร่มรื่น หลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตเมืองกรุงด้านนอก ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านได้นั่นเองครับ
อาคาร A ชั้น 1 – 4 :
บริเวณชั้น 1 ของแต่ละอาคารจะมีฟังก์ชันที่เหมือนๆกันคือ Lobby / Laundry & Grab & Go / Mail Room & Smart Locker และจะมี Shop ร้านค้าคอยให้บริการด้วย ซึ่งจะเป็นกรรมสิทธิ์แบบขายขาด ดังนั้นอาจต้องรอดูในอนาคตอีกทีว่าจะมีร้านอะไรมาเปิดบ้างนะครับ แต่เราเชื่อว่าด้วยขนาดโครงการที่ใหญ่และมีจำนวนผู้พักอาศัยเยอะขนาดนี้ จะต้องมีร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ๆอย่างน้อยสัก 1 แบรนด์มาลงแน่นอน
ส่วนชั้น 2 – 4 จะเป็นชั้นจอดรถครับ แต่ความพิเศษของอาคาร A ที่ไม่เหมือนใครเลยก็คือ เค้าจะมีห้องพักอาศัยอยู่ชั้นเดียวกับที่จอดรถด้วย ซึ่งถ้าใครมีรถยนต์ส่วนตัวและไม่ได้ซีเรียสเรื่องวิวอยู่แล้ว ก็จะเหมาะกับห้องตรงนี้มากๆ เพราะเราสามารถจอดรถแล้วเดินเข้าห้องได้ทันทีแบบไม่ต้องขึ้น-ลงลิฟต์ อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวเพราะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor อีกด้วยครับ
และสำหรับ Lobby ที่ชั้น 1 ของแต่ละอาคารจะมีคอนเซ็ปต์ในการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็ได้รวบรวมเท่าที่จะมีภาพปล่อยออกมาให้แล้วตามนี้ จะได้เห็นความแตกต่างชัดเจนนะครับ
Tower A : Artro Lobby
Tower B : Bianco Lobby
Tower D : Deco Lobby
แปลนชั้น 5 จะเป็นชั้น Main Facilities ของโครงการ ประกอบด้วยฟังก์ชันด้านในคือ Co-Working Space + Kids Room และ Laundry ซึ่งแต่ละอาคารก็จะมีแบบนี้คล้ายๆกันเลยครับ เพียงแต่จะมีสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เพื่อที่จะได้มีความหลากหลายในบรรยากาศการใช้งานมากขึ้น ส่วนภายนอกก็จะเน้นเป็นพื้นที่สวนให้ออกมาเดินเล่นพักผ่อน หรือจะชมวิวจากภายในอาคารได้นั่นเองครับ
นอกจากนี้ยังมีโซนของห้องพักอาศัยด้วยนะ ซึ่งจะมีประตูที่ต้องใช้ Key Card Access กั้นแยกจากส่วนกลางตรงบริเวณโถงลิฟต์ เพื่อที่จะได้มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยนั่นเอง โดยหากใครที่ชอบใช้งาน Facilities บ่อยๆอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกเป็นห้องชั้นนี้ได้เลย
ภาพบรรยากาศจำลอง Co-Working Space จะเป็นห้องกระจกที่สามารถชมวิวสวนที่อยู่ด้านนอกได้ ส่วนภายในจะมีที่นั่งหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะแบบส่วนตัว และโต๊ะเป็นกลุ่มตัวใหญ่
อีกหนึ่ง Highlight ของชั้นนี้เลยก็คือ ‘พื้นที่สวน’ ซึ่งจะมีความยาวเชื่อมต่อกันทั้ง 4 อาคาร รวมๆแล้วก็ประมาณ 5 ไร่เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นการยกพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ขึ้นมาไว้บนอาคาร ให้เราได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับธรรมชาติได้มากขึ้น โดยไม่ต้องลงไปถึงชั้นล่างเลยนั่นเองครับ
อีกหนึ่ง Gimmick ในการออกแบบที่น่าสนใจก็คือ บริเวณพื้นที่สวนระหว่าง Tower B และ C ที่เป็นส่วนที่กว้างที่สุด จะมีการเล่นระดับของพื้นเป็นสวนแบบขั้นบันไดเบาๆ เนื่องจากสวนของ Tower A และ B จะตั้งอยู่บนชั้น 5 ในขณะที่สวนของ Tower C และ D จะตั้งอยู่บนชั้น 4 ของแต่ละอาคารนั่นเองครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสวนบนชั้น 4 – 5 ที่อยู่ระหว่าง Tower B และ C ที่จะมีการเล่นระดับเล็กน้อย แต่ก็สามารถมาเดิน/นั่งเล่นพักผ่อนได้สะดวก ซึ่งโครงการจะมีการปลูกต้นไม้จัดสวนเอาไว้ให้เพื่อความร่มรื่นครับ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ห้องพักอาศัยที่หันมาด้านนี้ จะสามารถชมวิวสวนจากในห้องตัวเองได้อีกด้วย
แปลนชั้น 6 – 46 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด แต่จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยคือ ห้องเล็กที่อยู่สุดอาคาร (กรอบสีแดง) ตั้งแต่ชั้น 22 – 46 จะกลายเป็นห้องใหญ่ 2 Bedrooms ซึ่งหากใครที่อยากได้ห้องที่อยู่แบบครอบครัวได้สบายๆ ก็สามารถเลือกห้องในตำแหน่งนี้ได้เลยครับ
แปลนชั้น 47 จะเป็น Rooftop Facilities มีจุดเด่นคือสระว่ายน้ำที่ยาว 50 m. ขนาดเท่ากับสระโอลิมปิกเลยครับ แน่นอนว่าเราสามารถว่ายออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ก็ยังมี Sky Lounge ให้ขึ้นมาชมวิวได้ รวมถึงมี Co-Kitchen ให้เราขึ้นมาทานอาหาร หรือจะเรียกเชฟด้านนอกมาให้บริการสอน/ทำอาหารให้ทานก็ได้ครับ
จากโมเดลเราจะเห็นว่า Tower A และ B จะมีสะพานทางเชื่อมให้สามารถเดินไป-มาได้ จึงทำให้มีความสะดวกในการใช้งาน Facilities ต่างๆที่อยู่ในแต่ละอาคารได้นั่นเองครับ รวมถึงเราจะเห็นว่าสระว่ายน้ำนี้จะเป็นแบบกลางแจ้งนะ ดังนั้นเวลามาใช้งานก็อาจเลือกเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีแดดแรงๆก็ได้ครับ
ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำ เป็นสระที่มีความยาวถึง 50 m. และเป็นสระกลางแจ้ง สามารถว่ายออกกำลังกายจริงจังและชมวิวด้านข้างไปด้วยได้เลย แต่ที่ชอบก็คือ บริเวณด้านข้างสระจะมีการตกแต่งผนังเป็น Green Wall เพิ่มสวนแนวตั้งเข้ามาด้วย ทำให้มีบรรยากาศที่สดชื่น และเป็นการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวตามจุดต่างๆของโครงการได้เป็นอย่างดี
ภาพบรรยากาศจำลอง Sky Longe บนชั้น 47 ของ Tower A มีการตกแต่งออกไปทางสไตล์หรูหราและ classic แถมยังใช้โทนสีที่ปกติเราไม่ค่อยได้เห็นเลยนะครับ น่าสนใจเหมือนกันว่าของจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง โดยฟังก์ชันด้านในก็จะเน้นเป็นชุดโซฟาให้เราได้มานั่งเล่นและชมวิวได้นั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Co-Kitchen จะมีการแบ่งโซนระหว่างครัวและโต๊ะทานอาหารออกจากกันเป็นสัดส่วน สามารถเรียกเชฟขึ้นมาให้บริการได้ถึงที่ หรือจะจองเพื่อใช้จัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวก็ได้เหมือนกัน
Tower B :
อาคารนี้จะเน้นเปิดขายให้กับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งลักษณะของแปลนจะมีความคล้ายอาคาร A ก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่ Facilities จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เพื่อให้ลูกบ้านมีฟังก์ชันที่หลากหลายในการใช้งานมากขึ้น โดยหลักๆก็จะเน้นไปทางฟังก์ชันสันทนาการต่างๆ ได้แก่ Co-Working Space / Game Room / Fitness / Yoga Room / Dance Studio และ Golf Simulator
บรรยากาศจำลอง Co-Working Space บนชั้น 5 ของ Tower B ภายในจะมีพื้นที่ให้นั่งหลายแบบเหมือนของอาคาร A เลยครับ เพียงแต่จะมีสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็สามารถเลือกเปลี่ยนไปใช้งานในแต่ละอาคารได้ตามต้องการ ก็จะทำให้เราไม่เบื่อนั่นเองครับ
บรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness ที่อยู่บนชั้น 47 มีการใช้ผนังทรง Arch โค้งสีเขียวสวยงามแปลกตา ซึ่งเป็นจุดที่ตกแต่งได้แตกต่างจากฟังก์ชันอื่นมากๆ ภายในมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบ สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวมุมสูงไปด้วยได้สบายๆ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Yoga Room ซึ่งก็จะอยู่ภายใน Fitness เลยครับ โดยเรายังสามารถปรับเปลี่ยนห้องนี้ให้กลายเป็น Dance Studio สำหรับเต้นออกกำลังกายหรือซ้อมเต้น Cover เพลงได้อีกด้วย
Tower C :
เป็นอีกหนึ่งอาคารที่เน้นขายชาวต่างชาติครับ โดยอาคารนี้จะสูง 34 ชั้น และมี Facilities คล้ายๆกับ 2 อาคารด้านหน้าเลย เหมือนแยกมาเป็นอีกโซนหนึ่งเพื่อกระจายการใช้งานให้มีความสะดวก และไม่หนาแน่นจนเกินไปนัก
นอกจากยังมีห้อง Type พิเศษอย่าง 2 Bedrooms Plus Combine ให้เลือกในอาคารนี้ด้วยครับ (มีห้องตัวอย่างให้ดูที่ Sale Gallery ด้วยนะ) เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่เป็นครอบครัว และมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งานด้วยนั่นเอง แถมราคาก็ยังจับต้องได้ง่ายกว่า 3 Bedrooms อีกด้วย
ส่วนใครที่ซื้อ 1 Bedroom 2 ห้องติดกันในตำแหน่งอื่น/อาคารอื่น แล้วอยากให้ทุบผนังเชื่อมต่อเป็นห้อง Combine แบบนี้บ้าง อาจต้องลองสอบถามกับทางโครงการดูอีกครั้งนะครับ โดยหากทำได้จริงเราคิดว่าจะต้องมีการจองและแจ้งล่วงหน้าสักหน่อย คืออย่างน้อยๆก็ต้องก่อนที่จะมีการก่อสร้างถึงชั้นนั้นๆจริงนั่นเองครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสวนชั้น 4 ของ Tower C ถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่จะมีจุดเด่นคือการสอดแทรกผืนน้ำเข้ามาด้วย เลยทำให้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังมีเสียงน้ำไหลเบาๆให้เราได้ยินเพลินๆด้วยครับ
จากโมเดลเราจะเห็นว่าระหว่าง Tower C และ D จะมีสระว่ายน้ำทรงกลม ที่ถูกรายล้อมไปด้วยสวนอยู่ด้วยครับ ซึ่งบริเวณนี้จะเรียกว่า Oasis Pool ถือเป็นสระที่ 3 ที่เน้นเป็นการแช่น้ำพักผ่อน และเป็นสระสำหรับเด็กมากกว่าสระอื่นๆเลย
ภาพบรรยากาศจำลอง Oasis Pool เป็นสระทรงกลมที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เน้นความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนมากกว่าจะว่ายออกกำลังกายจริงจัง ให้อารมณ์เหมือนเราได้มาอยู่โรงแรมรีสอร์ทเลยครับ
Tower D :
มาถึงอาคารสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด ซึ่งมีความพิเศษตรงเป็นอาคาร Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้นั่นเองครับ โดยทางโครงการก็จะมีกฎที่ต้องปฏิบัติตามด้วย เช่น ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี / กำหนดขนาดและน้ำหนักสัตว์เลี้ยง / ต้องอยู่ในโซนเฉพาะที่กำหนดเท่านั้น / ต้องใช้สายจูงหรือกระเป๋าทุกครั้งเวลาออกมานอกห้องพัก เป็นต้น
โดยจุดที่น้องๆสัตว์เลี้ยงจะสามารถมาใช้งานได้ หลักๆก็จะเป็น Pet Park หรือพื้นที่สวนบนชั้น G ด้านหลังสุดของโครงการ และสวนบนชั้น 4 นอกจากนี้ยังมี Pet Club ที่มีทีเด็ดอยู่ตรงมี Salon สำหรับน้องๆสัตว์เลี้ยงด้วยนะ ส่วนถ้าสัตว์เลี้ยงของใครชอบเล่นน้ำ เค้าก็จะมี Pet Pool อยู่บนชั้น 32 ให้เล่นด้วย (สระของคนสามารถไปใช้ที่อาคารอื่นๆก่อนหน้านี้ได้) เรียกได้ว่าเอาใจคนรักษ์สัตว์มากๆเลยครับ
จากโมเดลเราจะสวนที่สามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นได้ทั้ง 2 จุดเลย ก็คือชั้น G ด้านหลังสุดของโครงการ และบนอาคารชั้น 4 ของ Tower D นั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Fitness บนชั้น 32 ของอาคาร D มีการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากอาคารอื่นๆเช่นเดิม
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Tower A
ชั้น G
- Artro Lobby
- Laundry & Grab & Go
- Mail Room & Smart Locker
- Commercial Unit (2 ร้านค้า)
ชั้น 5
- Alpine Room (Co-Working Space)
- Mountain Forest (Semi-Outdoor)
- Kids Arcade (Kids Room)
- Laundry
- Function Room
- Atrium Lounge (Entertainment Room)
ชั้น Rooftop
- Horizon Pool สระว่ายน้ำขนาด 5 x 50 m.
- Kids Pool
- Horizon Catelier (Co-Kitchen)
- Crescent Club (Sky Lounge)
Tower B
ชั้น G
- Bianco Lobby
- Laundry & Grab & Go
- Mail Room & Smart Locker
- Commercial Unit (2 ร้านค้า)
ชั้น 5
- Game Hub (Game Room)
- Blissful Space (Co-Working Space)
- Laundry
- Passage Garden (Semi-Outdoor)
ชั้น Rooftop
- Horizon Gym (Stream Room)
- Horizon Yoga (Yoga Room)
- Dance Studio
- Golf Simulator
Tower C
ชั้น G
- Cosmo Lobby
- Laundry & Grab & Go
- Mail Room & Smart Locker
- Commercial Unit (2 ร้านค้า)
ชั้น 4
- Cave Studio (Co-Working Space)
- Cascade Hill (Semi-Outdoor)
- Kids Club (Kids Room)
- Laundry
- WC & Locker
- Oasis Pool
ชั้น Rooftop
- Ozone Gym (Fitness)
- Ozone Yoga (Yoga Room)
- Ozone Pool สระว่ายน้ำขนาด 4.8 x 41 m.
- Kids Pool
- Ozone Bar & Bistro (Co-Kitchen / Sky Lounge)
Tower D
ชั้น G
- Deco Lobby
- Laundry & Grab & Go
- Mail Room & Smart Locker
- Commercial Unit (1 ร้านค้า)
ชั้น 4
- Dawn Working Space (Co-Working Space)
- Laundry
- Pet Park
- Pet Club
- Semi-Outdoor
- Fluff & Fur Salon (Pet Salon)
- Oasis Pool ขนาด 4 x 6 m.
ชั้น Rooftop
- Dynamic GYM (Fitness)
- Dynamic Yoga (Yoga Room)
- Paws in the Pool (Pet Pool) ขนาด 14 x 20 m.
- พื้นที่ส่วนกลางกว่า 11 ไร่
- Roof Garden กว่า 5 ไร่
- Jogging Track 820 m.
- ลิฟต์โดยสาร 4 – 7 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 130 : 1
- Service Lift n/a ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 1,400 คัน คิดเป็น 45% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card Access
แบบห้อง
Highlights :
- ห้องหน้ากว้าง ได้ช่องแสงเยอะ บรรยากาศสว่างโปร่งโล่ง
- มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยทุก Lifestyle ทั้งอยู่คนเดียวและเป็นครอบครัว
- ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบ และมักจะนำห้องน้ำไว้ในห้องนอน มีความเป็นส่วนตัว
- ขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่
แบบห้องของโครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) เรียกได้ว่ามีให้เลือกทุก Type ทุกขนาดเลยครับ จึงทำให้เหมาะกับคนที่มี Lifestyle ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการอยู่แบบคนเดียวโสดๆ อยู่แบบคู่รักหวานชื่น หรือจะอยู่แบบครอบครัวอบอุ่นก็ได้ รวมถึงย่านพระราม 9 แห่งนี้ ทุกคนน่าจะรู้กันดีว่ามีชาวต่างชาติเยอะมาก ซึ่งการที่มีห้องไซส์ใหญ่กว้างๆแบบนี้บอกได้เลยว่า Target นี้เค้าจะชอบมาก โดยจุดเด่นของห้องโครงการนี้ก็คือ จะเน้นเป็นห้องหน้ากว้างทั้งหมดเลยนั่นเอง ประกอบด้วย
- 1 Bedroom (M) ขนาด 26.00 – 26.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom (L) ขนาด 30.00 – 30.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.50 – 40.00 ตร.ม.
- 2 Bedrooms ขนาด 45.50 – 53.90 ตร.ม.
- 2 Bedrooms Plus ขนาด 76.00 ตร.ม.
- 3 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 70.20 ตร.ม.
- 3 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาด 83.00 – 100.80 ตร.ม.
สเปควัสดุหลักภายในห้อง :
- รูปแบบการขาย : Fully Furnished
- พื้นห้อง : กระเบื้องยาง SPC ลายไม้
- Top เคาน์เตอร์ครัว : หินสังเคราะห์
- เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน : ยี่ห้อ MEX
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : ยี่ห้อ COTTO
เป็นแบบห้องมาตรฐานที่เราเจอกันได้บ่อยๆของ Noble จุดเด่นเลยก็คือ ‘ห้องครัว’ ที่อยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถทำอาหารได้จริงจังเลยครับ รวมถึงยังมี ‘ความเป็นส่วนตัว’ ของห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยผนังทึบแยกออกไป ซึ่งเวลาที่มีแขกมาที่ห้องก็จะมองเข้าไปไม่เห็นพื้นที่ส่วนตัวด้านในได้นั่นเอง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนนะ ทำให้เจ้าของห้องสามารถใช้งานได้สะดวกมากๆ โดยเฉพาะเวลาอาบน้ำหรือลุกเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน แต่ถ้ามีแขกมาขอเข้าบ้างก็จำเป็นต้องเดินผ่านเข้าไปในห้องนอนก่อนนั่นเอง สรุปแล้วเป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คน และอาจเน้นการทำอาหารทานเองในห้องด้วยนั่นเองครับ
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Living Area ที่จะได้แสงสว่างจากระเบียงด้านในส่องมาจนถึงหน้าห้องได้แบบนี้ ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งไม่อึดอัด ฝ้าเพดานสูง 2.6 m. และปูพื้นห้องด้วยกระเบื้องยาก SPC ลายไม้
ซึ่งห้องมาตรฐานของจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีปกตินะครับ (ห้องตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น) รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ก็จะมีหน้าตาที่ไม่ได้เหมือนแบบนี้ซะทีเดียว (สามารถสอบถามโครงการเพิ่มเติมอีกทีหนึ่งได้ครับ)
พื้นที่โซนแรกของห้องจะเป็น Living Area สำหรับนั่งเล่นดูทีวี และสามารถใช้รับแขกได้ โดยมีระยะทีวีกว้าง 2.6 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้กำลังดีครับ
นอกจากนี้เราอาจต้องเพิ่มตู้เก็บรองเท้าไว้ตรงหลังประตูด้วยจะดีมาก เพราะจะได้มีความสะดวกในการใช้งาน และสามารถเก็บเข้าที่ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยได้นั่นเอง
ถัดเข้ามาตรงกลางห้องจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งก็เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกของห้องนี้พอดี อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่ยังสามารถมองเห็นทีวีได้ และหยิบอาหารมาเสิร์ฟก็สะดวกด้วยครับ เพราะจะอยู่ติดกับครัวด้วยนั่นเอง
ครัวจะอยู่ติดกับระเบียงห้อง และกั้นไว้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน (ของจริงเป็นกระจกใสแบบ 3 – 4 ตอนที่เลื่อนเปิดด้านเดียวแบบปกติ)
ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการประกอบอาหาร ไม่ให้เข้ามารบกวนในห้องพักอาศัยได้นั่นเอง และเราก็สามารถเปิดประตูระบายออกทางระเบียงได้โดยตรงเลยครับ
พื้นที่ภายในกว้างประมาณ 1 m. ทำให้ใช้งานได้พอดีๆ และแบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งทางโครงการก็จะ Built-in มาให้พร้อมใช้งานแบบนี้เลยครับ
เริ่มจากด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์สีขาว พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจาก MEX แบบดูดอากาศออกนอกห้องมาให้ใช้งาน ส่วนตู้เก็บของก็มีมาให้ตามมาตรฐานครับ
แต่ที่เราชอบจะเป็นตู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมากกว่า ซึ่งคิดว่าช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้เยอะขึ้นมากๆ รวมถึงเรายังสามารถจัดเป็นมุมชงกาแฟ หรือมุมเตรียมอาหารอื่นๆเพิ่มได้สบายๆ หมดปัญหาพื้นที่ทำครัวในห้องคอนโดไม่พอไปได้เลย และพื้นที่วางตู้เย็นก็จะกว้างประมาณ 70 cm.
ระเบียงภายนอกกว้าง 2.25 x 0.9 m. สามารถออกไปใช้งานได้ตามปกติ และถ้าหากใครอยากจะเพิ่มเครื่องซักผ้าในห้อง ก็สามารถนำมาวางตรงนี้ได้พอดีๆเลยครับ
โดยของจริงด้านบนจะมี Condensing Unit แขวนอยู่ด้านบน และเป่าลมร้อนมาด้านข้าง ซึ่งหากใครไม่อยากให้ระเบียงร้อนก็อาจติดกริลดันลมร้อนไปด้านนอกได้นะ
ต่อไปจะเป็นห้องนอนที่กั้นแยกออกไปด้วยผนังและประตูบานทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากโซน Living Area ที่อาจมีแขกหรือเพื่อนๆมาหาได้ด้วยนั่นเอง
ภายในห้องนอนมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียง 5 ฟุตและมีพื้นที่ใช้สอยให้เดินได้รอบสบายๆ รวมถึงเรายังสามารถติดทีวีแขวนผนังเพิ่มเติมได้อีกด้วยนะ ซึ่งถ้าใครอยู่กับแฟน 2 คนก็สามารถแยกกันดูคนละห้องได้แบบส่วนตัวไปเลย
อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบคือ ‘ช่องหน้าต่าง’ ที่ให้บานสูงมาเกือบพื้นถึงฝ้าเลยครับ ทำให้ช่วยในเรื่องความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้น รวมถึงยังเพิ่มการมองเห็นของวิวภายนอก โดยเฉพาะมุมกดที่มองลงข้างล่างจากในห้องได้เป็นอย่างดีเลย
ส่วนอีกด้านของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำครับ โดยตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะ Built-in มาให้ทั้ง 2 ด้านแบบนี้เลย ซึ่งถ้าอยู่กันแบบ 2 คนก็อาจแยกกันคนละตู้ไปเลยก็ได้
นอกจากนี้เรายังชอบที่เค้า Built-in มาให้สูงไปจนถึงฝ้าเพดาน ทำให้มีพื้นที่เก็บของในตู้เพิ่มมากขึ้นไปอีก
ภายในห้องน้ำจะได้มาเหมือนห้องตัวอย่างนี้เลยครับ (ยกเว้นไฟซ่อนที่ตกแต่งเพื่อความสวยงามเท่านั้น) ประกอบด้วยสุขภัณฑ์จาก Cotto และมีตู้เก็บของที่ Built-in มาให้ทั้งใต้อ่างล้างหน้ากับตรงมุมเสา
ส่วนโซนอาบน้ำเค้าก็จะมีการกั้นกระจกมาให้แบบนี้เลยครับ ซึ่งเวลาใช้งานอาบน้ำก็จะไม่กระเด็นเปียกออกมาภายนอกนั่นเอง ส่วนพื้นที่ภายในจะกว้าง 90 x 90 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ
รวมถึงยังติดตั้ง Hand Shower แบบปรับระดับความสูงได้ และจะมี Junction สำหรับต่อเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วย แต่ที่อาจต้องทำเพิ่มอีกนิดหน่อยก็คือ ชั้นวางสบู่/แชมพูนั่นเองครับ
เป็นห้องที่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่มากขึ้น อยู่ด้วยกัน 2 – 3 คน อาจเป็นพ่อ-แม่-ลูก หรือจะเป็นพี่น้องที่ต้องการห้องนอนแยกเป็นส่วนตัวกันก็ได้ นอกจากนี้ยังได้ห้องน้ำ 2 ห้องทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกเลยครับ โดยที่ห้องนอนเล็กก็จะต้องแชร์ใช้งานร่วมกับส่วนกลางนะ หรือถ้าใครไม่ได้ต้องการห้องนอน 2 ห้อง ก็อาจปรับห้องเล็กให้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ เช่น ห้องทำงานต่างๆ
สำหรับใครที่ชอบทำอาหารจริงจัง ต้องบอกก่อนว่าห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดนะครับ ซึ่งอาจไม่ได้เหมาะกับทำอาหารจริงจังสักเท่าไหร่นัก (แต่ก็พอจะมีเครื่องดูดช่วยให้ทำอาหารได้อยู่บ้าง) ทั้งนี้เพราะต้องการให้ Common Area เชื่อมต่อกันกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีความโปร่งโล่งกว้างขวาง และอยู่สบายมากขึ้นนั่นเองครับ
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอ Common Area ที่กว้างขวางโปร่งโล่งอย่างที่บอกเลย เพราะพื้นที่ส่วนกลางแต่ละฟังก์ชันจะเชื่อมต่อถึงกันหมด
ด้านหน้าห้องจะเป็นครัวและโต๊ะทานอาหาร สามารถใช้เป็นขนาด 4 ที่นั่งได้กำลังพอดีกับสมาชิกครอบครัวห้องนี้
ชุดครัวจะ Built-in มาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยครับ ซึ่งก็จะมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น รวมถึงด้านล่างยังมีการเตรียมที่วางเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อยเลย เท่ากับว่าเราจะไม่ต้องเสียพื้นที่ระเบียงในการวางเหมือนห้องเล็กก่อนหน้านี้ และสามารถออกไปใช้งานได้เต็มที่มากขึ้นนั่นเอง
ถัดมาจะเป็น Living Area ซึ่งจะอยู่ติดกับระเบียงที่เป็นช่องแสงหลักของห้องครับ ทำให้บริเวณนี้จะมีความสว่างเป็นพิเศษ รวมถึงเรายังสามารถดูทีวีไปและชมวิวไปด้วยได้ โดยระยะดูทีวีจะกว้าง 2.25 m. สามารถใช้ทีวี 40 – 50 นิ้วได้กำลังดี
ระเบียงกว้าง 2.2 x 0.9 m. อย่างที่บอกครัวว่าเราสามารถออกไปใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแล้ว จะตากผ้าหรือปลูกต้นไม้ก็ได้เลย
ทางด้านขวาของห้องจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนเล็ก ซึ่งจะอยู่ฝั่งเดียวกับครัวครับ
ภายในห้องน้ำเราจะได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเหมือนห้องตัวอย่างเลย และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 90 x 90 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ
ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กที่กว้าง 2.5 x 3.2 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แบบพอดีๆ
แน่นอนว่าเรายังคงได้ช่องแสงขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเหมือนเดิมเลยครับ จึงทำให้ห้องมีความสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว
อีกด้านหนึ่งจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ Built-in มาให้แบบนี้ ขนาดพอดีสำหรับการใช้งาน 1 คน พร้อมพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้าง 60 cm. ใช้งานสะดวก
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็น Master Bedroom ซึ่งจะอยู่แยกออกไปจากฟังก์ชันอื่นๆ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ภายในมีพื้นที่กว้าง 3.2 x 4.6 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ รวมถึงเรายังคงติดทีวีแขวนผนังที่ปลายเตียง เพื่อนอนดูในห้องได้สบายๆเลยครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งก็จะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ
ส่วนภายในห้องน้ำก็จะได้สุขภัณฑ์และฟังก์ชันครบเหมือนเดิม ขนาดพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 90 x 90 cm. ใช้งานได้พอดีๆ
เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการที่ลักษณะจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ได้เป็นห้องตอนลึกเหมือนหลายๆโครงการในย่าน จึงพูดได้ว่าโครงการนี้เค้าเด่นเรื่องความเป็นห้องหน้ากว้างนั่นเองครับ ซึ่งข้อดีของห้องแบบนี้ก็คือ ทุกฟังก์ชันจะได้อยู่ติดกับช่องแสงและมีความสว่างเพียงพอ รวมถึงเรายังสามารถแบ่งฟังก์ชันห้องนอนด้วยผนังทึบ แยกออกไปเป็นส่วนตัวแบบนี้ได้อีกด้วย โดยฟังก์ชันห้องนี้จะคล้ายๆกับห้องตัวอย่างแรกที่เราได้ชมกันไปเลย เพียงแต่เราจะได้เป็นครัวเปิดที่อยู่ด้านหน้าห้อง และเน้นความสำคัญไปที่ Living Area ให้อยู่ติดระเบียงนั่นเอง
**หมายเหตุ : ห้องตัวอย่างจะมีการนำผนังทึบของห้องนอนออก ทำให้มีความกว้างขวางและโปร่งโล่งมากขึ้น ซึ่งก็ค่อนข้างเป็นไอเดียที่ดีครับ แต่จริงๆแล้วผนังส่วนนี้จะมีพวกงานระบบแอร์และไฟฟ้าต่างๆอยู่ด้วย ถ้าใครสนใจอาจต้องลองปรึกษาช่างโครงการก่อนอีกทีนะ
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.50 – 40.00 ตร.ม.
เป็นห้องหน้ากว้างที่มีความน่าสนใจ เพราะลักษณะจะคล้ายกับ 2 Bedrooms ที่เราเพิ่งรีวิวกันไปก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่จะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันห้องเดียว และโซนครัวก็มีพื้นที่ให้เราสามารถกั้นผนังเพิ่มเติมเพื่อทำเป็นครัวปิดได้ด้วย ภาพรวมก็เหมาะกับคนที่อยู่เป็นครอบครัว มีลูกคนนึง หรือต้องการห้องนอน 2 ห้อง รวมถึงอาจเป็นคนที่ต้องการห้องอเนกประสงค์เพิ่มเติมด้วยนั่นเองครับ
**หมายเหตุ : ไอเดียการตกแต่งห้องนี้น่าสนใจมาก เพราะบริเวณ Living Area เค้าจะมีการติดกระจกเงาบนฝ้าเพดาน เลยดูเหมือนเป็นฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ทำให้ห้องมีความโปร่งโล่งมากขึ้น ใครสนใจก็ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้ได้นะครับ
- 2 Bedrooms Plus Combine ขนาด 61 ตร.ม.
เป็นห้องไซส์ใหญ่ของโครงการ ซึ่งต้องแจ้งก่อนว่านี่เป็น Type พิเศษที่เป็นการ Combine กันระหว่างห้อง 1 Bedroom สองห้องรวมกัน (ปัจจุบันจะมีอยู่ที่อาคาร C แต่ถ้าใครสนใจจะซื้อ 2 ห้องที่ตำแหน่งอื่นๆแล้วทำเชื่อมกันแบบนี้ ก็อาจต้องลองปรึกษาโครงการดูอีกครั้งนะครับ)
จุดเด่นของห้องนี้คือ เราจะได้เป็น Double Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องเลยครับ ทำให้มีความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากๆ เพียงแต่จะไม่มีห้องน้ำรวมของส่วนกลางภายนอกให้ใช้เลยนั่นเอง ดังนั้นเวลามีแขกมาก็จำเป็นต้องเข้าจากห้องนอนใดห้องหนึ่งครับ และส่วนตัวเรามองว่าอาจไม่ค่อยเหมาะกับการมีลูก 2 คนขนาดนั้น เพราะห้องเล็กสุดจะต้องไปแชร์ห้องน้ำร่วมกับห้องนอนใหญ่ตลอดนั่นเอง แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวที่สนิทกันมากๆและไม่ติดเรื่องการต้องมีคนเข้า-ออกตลอดเวลาแบบนี้ก็ทำได้ไม่ว่ากันนะ
ส่วนตัวอย่างแปลนห้อง 3 Bedrooms ของโครงการสามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ ซึ่งเป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวจริงจัง 3 – 4 คน รวมถึงห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ยังได้อ่างอาบน้ำเพิ่มมาอีกด้วย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) ราคา ณ เดือนมกราคม 2568
- 1 Bedroom (M) ขนาด 26.00 – 26.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท (Promotion)
- 1 Bedroom (L) ขนาด 30.00 – 30.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.50 – 40.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
- 2 Bedrooms ขนาด 45.50 – 53.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา = 2% ของราคาขาย (รวมค่าจองแล้ว)
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
- Pet Friendly อาคาร D มีค่าลงทะเบียนประมาณ 2,000 – 3,000 บาท/ตัว/ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเล : ติดถนนใหญ่พระราม 9 ใกล้ห้างเซ็นทรัลและรถไฟฟ้า MRT ถือว่าเป็นใจกลาง CBD ที่สำคัญของกรุงเทพ มีความอุดมสมบูรณ์และคึกคักสูง เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน รวมถึงยังมี Demand ของกลุ่มนักลงทุนและชาวต่างชาติในพื้นที่สูงอีกด้วย สำหรับโปรดักส์คอนโดในย่านมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะพอสมควร และราคาก็ค่อนข้างเกาะกลุ่มกันครับ แต่สิ่งหนึ่งที่โครงการนี้น่าสนใจก็คงเป็นเรื่องของขนาดโครงการ ที่เรียกได้ว่าน่าจะใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ ทำให้มีส่วนกลางที่เยอะกว่าคนอื่น ทำเลก็เข้าเมืองได้สะดวกมาก เพียงแต่เพื่อนบ้านหลายโครงการเค้าจะเริ่มทยอยเสร็จกันก่อนแล้ว ดังนั้นคนที่สนใจโครงการนี้ก็จะต้องรอได้หน่อยสัก 3 – 4 ปี ไม่ได้รีบเข้าอยู่มากนัก
การเดินทางโดยใช้รถ : เข้าเมืองได้สะดวกเพราะเราอยู่ถนนฝั่งมุ่งหน้าไปสี่แยกพระราม 9 พอดี รวมถึงยังอยู่ใกล้ทางด่วนศรีรัชเพียง 1.4 – 2.3 km. เท่านั้น ที่จอดรถ 1,400 คัน คิดเป็น 45% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) เรามองว่าให้มากลางๆไม่เยอะไม่น้อยเกินไป เพราะทำเลนี้ก็มีรถสาธารณะเป็นตัวเลือกค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านอาจมีอีกหลายๆโครงการที่ให้มาเยอะกว่าเหมือนกัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 ที่อยู่ห่างจากโครงการ 550 m. เป็นระยะที่พอจะเดินถึงได้ครับ แต่ก็แอบเหนื่อยอยู่เหมือนกัน หรือเราอาจเรียกรถสาธารณะอื่นๆหน้าโครงการก็ได้ เช่น รถแท็กซี่ สองแถว วินมอเตอร์ไซค์ เพราะตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่อยู่แล้วนั่นเอง
การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดใหญ่มาก (ตอนนี้ก็คือใหญ่ที่สุดในย่านเลยครับ) แน่นอนว่ามีเพื่อนบ้านเยอะและหนาแน่นอยู่พอสมควรเลย โดยโครงการก็ได้ดีไซน์ออกเป็น 4 อาคารย่อย และกระจาย Facilities ให้อยู่ในทุกๆอาคาร เพื่อลดความหนาแน่น และให้สามารถใช้งานได้สะดวกพอๆกัน
แต่ภาพรวมก็ยังถือว่ามีความหนาแน่นอยู่พอสมควรครับ เพราะมีอัตราส่วนลิฟต์มากถึง 130 : 1 ยิ่งเป็น 2 อาคารด้านหน้าที่สูงๆก็อาจต้องเตรียมใจยืนรอลิฟต์นานสักหน่อย หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็อาจเลือกเป็น 2 อาคารด้านหลังที่มีความสูงและยูนิตน้อยกว่าก็ได้
นอกจากนี้ยังมีการแบ่งเป็นอาคารสำหรับคนไทย และชาวต่างชาติเอาไว้ด้วย แต่ที่น่าสนใจก็คือ Tower D ที่เป็น Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ถือว่าตอบโจทย์กลุ่มคนมีสัตว์เลี้ยงด้วยสุดๆ ซึ่งถ้าเป็นคอนโดติดถนนพระราม 9 และใกล้รถไฟฟ้าขนาดนี้คือมีที่นี่ที่เดียวเลยครับ
การออกแบบห้องพักอาศัย : เน้นห้องหน้ากว้าง ทำให้ทุกฟังก์ชันมีช่องแสงและได้ความสว่างโปร่งโล่งดี ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบและมีห้องน้ำด้านใน จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงยังมีแบบห้องให้เลือกเยอะ สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ทุก Lifestyle ไม่ว่าจะเป็นการอยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ หรืออยู่เป็นครอบครัว อีกทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของชาวต่างชาติที่มีในย่านได้เป็นอย่างดี เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะชอบห้องไซส์ใหญ่กว้างๆกันอยู่แล้วด้วยครับ
วัสดุ : ให้มาเป็นมาตรฐานของโครงการ ขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบ ขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้เลย แต่ที่เราชอบมากๆก็คือ สีของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่จะเป็นลายไม้สีเข้ม ให้อารมณ์เหมือนเป็นไม้จริง ดูอบอุ่นและสวยงามมาก รวมถึงยังชอบช่องแสงที่มีขนาดใหญ่ สูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียวครับ
สาธารณูปโภค : ถือว่าให้มาเยอะที่สุดในย่านเลยครับ เพราะเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่สุดในย่าน ก็เลยต้องมี Facilities ให้เพียงพอต่อการใช้งานด้วยนั่นเอง โดยมีขนาดพื้นที่รวมกว่า 11 ไร่ เน้นเป็นสวนบนอาคารกว่า 5 ไร่ ยาวต่อเนื่องกันทุกอาคาร และให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการกระจาย Facilities อยู่ในทุกๆอาคาร ซึ่งก็อาจมีฟังก์ชันหลักๆที่คล้ายๆกัน เช่น Lobby / Laundry และ Co-Working Space แต่จะมีสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ให้เราได้เปลี่ยนบรรยากาศการใช้งานไปเรื่อยๆได้ไม่เบื่อ รวมถึงยังมีสระว่ายน้ำอีก 3 สระ ซึ่งสระหลักมีขนาดยาวเท่ากับสระโอลิมปิก 50 m. เลยทีเดียวนะ ส่วนคนที่เลี้ยงสัตว์ก็แน่นอนว่ามี Pet Facilities ให้ใช้งานแยกด้วยเหมือนกัน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 – 130,000 บาท/ตร.ม., ณ เดือนมกราคม 2568
- ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างสรรพสินค้า มีความอุดมสมบูรณ์สูง ชาวต่างชาติก็เยอะ
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ใกล้ทางด่วนศรีรัช อยู่ถนนฝั่งขาเข้าเมืองได้ง่าย
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้ MRT พระราม 9 ในระยะพอจะเดินถึงได้ ด้านหน้าเรียกรถสาธารณะอื่นๆได้สะดวก
- วัสดุ 8/10 – ขายแบบ Fully Furnished สีของวัสดุเป็นลายไม้สวย สเปคเหมาะกับการใช้งาน
- แบบ 8.25/10 – โครงการใหญ่สุดในย่าน เน้นห้องหน้ากว้าง แบบห้องเยอะ ฟังก์ชันเป็นส่วนตัว
- สาธารณูปโภค 9/10 – จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางเยอะสุดในย่าน เน้นพื้นที่สีเขียวบนอาคาร และกระจายฟังก์ชันออกไปทุกตึกให้ใช้งานได้สะดวก
- MAIN – UPPER CLASS
- 8.16 / 10.00
NUE EPIC ASOK – RAMA 9 เหมาะกับใคร
โครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 (นิว เอปิค อโศก-พระราม 9) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้แยกพระราม 9 มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวก อาจเป็นคนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือจะลงทุนปล่อยเช่าก็ได้ โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่สุดในย่านและให้ส่วนกลางมาใหญ่สุดด้วยเหมือนกัน อีกทั้งห้องพักก็จะเน้นเป็นห้องหน้ากว้าง มีแบบห้องให้เลือกเยอะ และยังมียูนิตพิเศษเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยครับ ซึ่งในย่านนี้มีเพียงไม่กี่โครงการเท่านั้นที่เลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็จะให้มาครบแบบ Fully Furnished พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.69 – 5 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 19,000 – 35,000 บาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่