รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Noble State 39 คอนโด High Rise ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 2497]

10 กุมภาพันธ์ 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

อัพเดตข้อมูลโครงการ Noble State 39 (16/01/2020) คลิกที่นี่

อ่านรีวิวตึกเสร็จพร้อมอยู่ ของโครงการ Noble State 39 ได้ที่นี่ https://wp.me/p1YZB1-3zFV

รีวิวฉบับที่ 1722 … สวัสดีค่ะวันนี้มีรีวิวฉบับย่อของโครงการ Noble State 39 มาฝากกัน โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise จาก Noble Development ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมแบบ Brutalist ผสมกับความทันสมัยของ Technology ที่ถูกเลือกใช้ในส่วนต่างๆภายในโครงการ ทำเลใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เดินจากปากซอยสุขุมวิท 39 เข้ามาในระยะทางประมาณ 450 เมตร ราคาเริ่มต้นต่อตร.ม.อยู่ที่ 255,000 บาท เราไปชมกันค่ะ 

Fact @ 31 October 2018

  • NOBLE STATE 39 (โนเบิล สเตท 39)
  • บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขตวัฒนา
  • คอนโด High Rise 36 ชั้น และ ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 352 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด n/a ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 193 คันคิดเป็น 54%
  • ที่ดินประมาณ 1-3-56.6 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : July 2019
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : August 2022
  • UNIT TYPE & AREA

  • 1 Bedroom-S : 29.95 sq.m.
  • 1 Bedroom-M : 34.80 sq.m.
  • 1 Bedroom-L : 41.50, 42.90 sq.m.
  • 2 Bedroom : 58.40, 59.80 sq.m.
  • Penthouse : 73.40 – 105.90 sq.m.

  • ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.เริ่มต้น 255,000 บาท
  • ราคาห้องเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 255,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Link ลงทะเบียน : https://goo.gl/QD8Cdy
  • โทร  : 02 251 9955
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.734139, 100.571342

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

    โครงการ Noble State 39 นี้ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 39 หรือเป็นซอยที่ใคร ๆ รู้จักกันในนามว่าซอยพร้อมพงษ์นั่นเองค่ะ ตัวโครงการจะเข้าลึกเข้าไปจากปากซอยสุขุมวิท 39 เข้าไปประมาณ 450 เมตรค่ะ โดยรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวสถานีพร้อมพงษ์

    ในแง่ของถนนหนทางเเละการเดินทางโดยทั่วไปของทำเลนี้ จะสามารถเดินทางได้แทบทุกระบบการเดินทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า รถเมล์ รถกะป้อ หรือแม้กระทั่งเรือด่วนก็ยังมีให้บริการด้วยนะคะ เราขอเริ่มต้นเล่าจากถนนหนทางกันก่อนเลยดีกว่า ตัวซอยสุขุมวิท 39 เนี่ย จะเป็นซอยที่ตัดระหว่างถนนหลักอย่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี เป็นถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ที่จะอยู่ฝากเดียวกันกับย่านอโศก ทองหล่อ เอกมัยนั่นเอง ความน่าสนใจของสุขุมวิทฝั่งเลขคี่นี้คือ จะมีเส้นทางลัดเลาะต่างๆมากมาย ที่ทำให้เราไม่ต้องออกไปใช้ถนนใหญ่เลย ก็ยังสามารถเดินทางผ่านเส้นทางเล็กๆเหล่านี้ตั้งแต่อโศกไปยังเอกมัยเลยก็ได้ ถือว่าเป็นเส้นทางตัวเลือกที่เราสามารถเลือกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดบนถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนเลยก็ได้ โดยถนนสุขุมวิทนี้จะเป็นถนนที่สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังย่านสยามได้ หรือจะใช้เพื่อเดินทางออกเมืองไปยังโซนกรุงเทพตะวันออกก็ได้เช่นกันค่ะ ส่วนถนนเพชรบุรีนั้น จะเป็นถนนที่สามารถเดินทางไปยังโซนพญาไทได้ง่ายและใช้เดินทางไปยังเเถบพัฒนาการได้สะดวกอีกเช่นกัน โดยภาพรวมด้านถนนหนทางก็ถือว่าเป็นทำเลที่สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย เเละสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนหลักภายในกรุงเทพได้หลายเส้น จะเข้าเมืองหรือออกเมืองก็สบายค่ะ

    ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้น จากตัวโครงการสามารถเดินเท้าเพื่อมาใช้รถไฟฟ้าได้ โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นเส้นสีเขียว สามารถเดินทางไปยังสำโรง หมอชิต สนามกีฬาเเห่งชาติ หรือจะเป็นวงเวียนใหญ่ฝากนั้นเลยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่ได้เลียบเส้นรถไฟฟ้า ตัวเลือกอื่นๆก็เช่นการเรียกใช้บริการผ่าน Application ก็ได้ น่าจะใช้เวลาเรียกไม่นานด้วย เพราะทำเลนี้อยู่ในใจกลางเมืองจริงๆ หรือถ้าจะโบกเรียกก็ไม่ยากเลยค่ะ มีรถผ่านเข้า-ออกหน้าโครงการตลอดเวลาแทบจะ 24 ชม.ได้เลย

    มาดูในแง่ความอุดมสมบูรณ์กันบ้าง โครงการนี้ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่ามีไลฟ์สไตล์โดดเด่น และเต็มไปด้วยชาวต่างชาติโดยเฉพาะ Expat หรือคนต่างชาติที่มาทำงานในไทยอาศัยกันอยู่หนาแน่น ดังนั้นจึงไม่ต้องเเปลกใจไปเลยว่าทำไมแถวนี้จะมีคนที่หลายหลายเชื้อชาติอยู่ และมีการค้าขายที่อำนวยความสะดวกให้กับคนกลุ่มนี้มากเช่นกันค่ะ

    อย่างในย่านพร้อมพงษ์จริงๆเลยก็เป็นย่านที่มีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยกันเป็นส่วนมาก ดังนั้นบรรยากาศภายในซอยเรื่อยไปจนถึงทองหล่อก็จะมีที่พักประเภท Apartment or service apartment ให้เช่าระยะยาวอยู่เยอะมาก และก็มีร้านรวงต่างๆตามตรอกซอกซอยที่ขายอาหารอย่างอาหารญี่ปุ่น อาหารไทย Fine dining หรือแม้กระทั่งคาเฟ่เเทรกตัวอยู่ตามตรอกซอยซอยกันเยอะเลยค่ะ

    ส่วนแหล่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับโครงการเราหลักๆก็คงจะหนีไม่พ้น Em District ที่แค่ก้าวออกมาจากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ก็จะเจอกับห้างใหญ่ถึง 2 ห้าง EmQuatier กับ Emporium ที่เเม้ว่าจะดูหรูหราแต่ก็ไม่น่าจะเกินกว่าฐานะของคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ใช้จ่ายกันนะคะ และที่น่าสนใจคือเป็นอีกสถานีนึงที่มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆ ซึ่งจากตัวโครงการเอง ใครที่รักสุขภาพก็สามารถเดินวอร์มร่างกายมายังสวนเบญจสิรินี้เพื่อวิ่งออกกำลังกายได้ เป็นสวนที่สะอาด ปลอดภัย และผู้คนที่มาใช้บริการดูเป็นมิตรมากค่ะ ในส่วนของการบริการทางด้านสุขภาพ ย่านนี้ถือว่ามีตัวเลือกทั้งโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอย่างโรงพยาบาลสมิติเวช และมีสถานที่ออกกำลังกายเช่นสตูดิโอต่างๆ กับ Fitness Center เปิดให้บริการหนาแน่นที่สุดในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ ดังนั้นภาพรวมของทางด้านความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการนี้จัดว่าดีเลยนะคะ

    เส้นทางการเดินทาง

    ในส่วนของเส้นทางการเดินทางที่เราจะพาไปชมกัน เราจะเริ่มจากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์กันก่อน ให้ออกมายังทางออกที่ 3 เดินมาทางขาออกของถนนสุขุมวิท เเละเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 39 ไป เดินเข้าไปในซอยประมาณ 450 เมตรก็จะถึงโครงการเเล้วค่ะ  โดยในรีวิวนี้ เรามีบรรยากาศของช่วงเย็นมาฝาก จำลองชีวิตหลังเลิกงานเดินกลับบ้านกันเลยค่ะ

    เริ่มต้นกันที่สถานีพร้อมพงษ์ค่ะ

    ตอนออกให้ตามป้ายทางออกที่ 3 ออกมานะคะ ซึ่งทางออกฝั่งนี้จะตรงกันข้ามกับฝั่งที่ออกไปยัง Emporium , EmQuartier และสวนเบญจสิริค่ะ แต่ถ้าใครเลิกงานอยากเเวะวิ่งออกกำลังกาย จะหาอะไรกินตอนเย็น หรือจะเเวะซื้อของกินของใช้ก่อนเข้าบ้านก็ถือว่าสะดวกเลยนะคะ เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้คืออยู่สถานีพร้อมพงษ์เหมือนกันค่ะ

    ภาพบรรยากาศเล็กน้อยของ Foodhall ชั้นล่างของ EmQuartier ค่ะ

    กลับมาที่เส้นทางการเดินทางกันต่อค่ะ จากทางออก 3 ออกมา เดินลงบันไดมา เราจะเจอกับธนาคารออมสินสีชมพูก่อนเลย ให้เราหันหลังเดินไปอีกทางนะคะ

    ซึ่งระหว่างทางเดินไปยังซอยสุขุมวิท 39 นี้ ก็จะผ่านทั้ง Family Mart

    ใกล้ๆกันก็จะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านส้มตำอะไรเปิดให้บริการอยู่ แต่ตรงนี้ราคาอาจจะสูงกว่าร้านอาหารตามสั่งทั่วไปนะคะ เพราะเน้นขายชาวต่างชาติเลย

    ก่อนทางเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 39 ก็จะเจอกับ 7-eleven ตั้งอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

    ตัวซอยสุขุมวิท 39 หรือซอยพร้อมพงษ์นี้จะเป็นซอยหลักอีกซอยที่จะสามารถเดินทางไปยังเพชรบุรี ,ซอยสวัสดี ,ซอยทองหล่อ ,ซอยสุขุมวิท 23 และอโศกได้ ทำให้มีรถเข้า- ออกตลอดเวลาเลยค่ะ

    เดินเลี้ยวซ้ายเข้ามาภายในซอยเลย บริเวณต้นซอยนี้ก็จะมีคอนโดมิเนียมที่กำลังก่อสร้างอยู่หลายโครงการเลยนะคะ  ส่วนทางเดินก็จะมีทางเท้าให้เดินทั้ง 2 ฝั่งถนน เดินได้ค่อนข้างสะดวก ไม่ค่อยจะมีรถเข็นหรือเเผงลอยขายของตั้งเกะกะทางเดินเท่าไหร่ค่ะภายในซอยนี้

    และช่วงต้นๆซอยทางซ้ายมือจะเป็นตึกแถวที่ทำออกมาเป็นอาคารพาณิยช์ ซึ่งเราก็จะเจอทั้งร้านอาหาร ร้านนวด ร้านสะดวกซื้อ และร้านขายของต่างๆตลอดทางเลยค่ะ

    ถ้าเราสังเกตภาพเมื่อซักครู่เราจะไม่เจอพี่วินมอเตอร์ไซค์บริเวณนี้นะคะ การเดินทางเข้า-ออกภายจากปากซอย 39 ส่วนใหญ่จะเห็นรถกะป้อกันมากกว่า ส่วนภายในซอยก็จะมีพี่วินนั่งรอเราเรียกใช้บริการตามเเยกต่างๆอยู่ค่ะ ส่วนราคาการใช้บริการรถกะป้อก็ราคาตามนี้เลย

    เดินเลยมานิดหน่อยจะเจอร้าน Lawson 108 ร้านสะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่น เอาใจชาวญี่ปุ่นที่อยู่ย่านนี้กันไปเลย สาขานี้มีโต๊ะทานข้าวไว้ให้บริการกันข้างๆร้านเลยด้วย ซื้ออาหาร อุ่นร้อนเสร็จก็มีที่นั่งให้นั่งทานกันได้เลยค่ะ

    เรายังคงเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆนะคะ

    ตรงนี้จะเจอกับร้านขายของมือสองจากญี่ปุ่น มีทั้งสินค้ามีแบรนด์ และไม่มีแบรนด์ คุณภาพดี รวมไปถึงสินค้าวินเทจวางขาย ลักษณะเป็นร้านขนาดใหญ่เลยค่ะ ซึ่งเราว่าสินค้ามือสองของญี่ปุ่นนี่คุณภาพดีเลยนะคะ ราคาอาจจะสูงกว่ามือสองทั่วไปที่เราคุ้นชินกันซักหน่อย เพราะสินค้ามือสองโดยส่วนมากจะนำมาจากโรงเกลือที่คุณภาพจะเป็นของเก่าเเละของบริจาคซะมากกว่า เเต่ร้านมือสองของญี่ปุ่นสินค้ามักจะเป็นของที่เจ้าของไม่ใช้เเล้ว ดังนั้นในแง่ของตัวสินค้าจะได้รับการดูเเลที่ดีกว่าโรงเกลือก่อนที่นำมาวางขายนั่นเองค่ะ

    เดินตรงมาเรื่อยๆ รถเข้าออกหนาเเน่นเลยนะคะ อาจจะเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเย็นๆที่ผู้คนกำลังเดินทางกันอยู่เลยค่ะ

    ตรงมาเรื่อยๆฝั่งตรงข้ามจะเจอกับอีกหนึ่ง Family mart และสถาบันเสริมความงามตั้งอยู่

    ส่วนฝั่งที่เราเดินก็จะมีร้านอาหารอย่างร้านซูชิ น่าเเวะเข้าไปทานตั้งอยู่ด้วย

    เดินต่อมาไม่นานบรรยากาศภายในซอยเริ่มจะเป็นที่อยู่อาศัยกันมากขึ้นค่ะ

    เดินตรงมาเจออาคารสำนักงานอยู่ทางซ้ายมือ

    ถ้าหันไปทางขวาเราจะเจอกับซอยพร้อมมิตร ซึ่งเป็นซอยลัดพาเราไปยังสุขุมวิท 49 ที่เป็นซอยโรงพยาบาลสมิติเวชและเชื่อมต่อไปยังซอยทองหล่อ 13 ได้ค่ะ

    เดินเลยสำนักงานเมื่อซักครู่มาก็จะถึงโครงการ Noble State 39 เเล้ว ตั้งอยู่ทางซ้ายมือเลย หน้าตา Sale Gallery กลางคืนก็จะได้บรรยากาศเเบบนี้นะคะ ดูมีการเล่นลวดลายเเละ Lighting ที่ดูโดดเด่นน่าสนใจดีค่ะ

    มาดูบรรยากาศรอบๆโครงการในช่วงเวลากลางวันของวันธรรมดากันบ้าง ตัว Sale Gallery ก็จะมีการออกแบบโดยเลือกใช้โทนสีที่ผสมสีขาวเข้าไป และมีลวดลายการซ้ำของ Geomatics Form หรือรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ ให้เข้ากับคอนเซปต์ของสถาปัตยกรรมเเบบ Brutalism ซึ่งเดี๋ยวเราจะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนของตัวโครงการกันนะคะ

    เเต่เลยอาคารนั้นมาจะเป็นอาคาร Upper Suites Sukhumvit 39 อาคารนี้จะเป็นอาคารสูงที่อยู่เยื้องๆกับโครงการเรา ซึ่งห้องที่อยู่ทางเหนือ หรือตะวันออกเฉียงเหนือก็อาจเห็นวิวที่ไม่กว้างเต็มเท่าไหร่นะคะ แต่ชั้นบนๆก็ไม่ต้องห่วง เพราะอาคารนี้สูงประมาร 23 ชั้นค่ะ

    เลย Upper Suites Sukhumvit 39 มาจะเป็นซอยพร้อมใจ ซึ่งเป็นอีกซอยนึงที่สำคัญคือ เราสามารถเลี้ยวซ้ายไปเเล้วจะไปเจอกับเส้นสุขุมวิท 35 ไปออกสุขุมวิทได้ และก็เป็นอีกเส้นทางที่ไปเข้าไปยังห้าง EmQuartier ได้เลยค่ะ ไม่ต้องไปขับอ้อมบนถนนสุขุมวิท ปกติเรามาจากทองหล่อก็จะใช้เส้นนี้เข้าไปยัง EmQuartier เเหละ

    สภาพเเวดล้อมรอบๆโครงการ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    สภาพเเวดล้อมทั่วๆไปรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัย โดยจะมีทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ และที่อยู่อาศัยเเนวสูงประเภทคอนโดมิเนียม มีอาคารประเภทสำนักงานบ้างประปราย แต่ก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์อย่างกลุ่มอาคารที่เป็น Community mall ร้านอาหารและคาเฟ่ที่แทรกตัวอยู่รอบๆ ตลอดทางเลยค่ะ โดยซอยนี้จะมีบรรยากาศที่ค่อนข้างคึกคัก มีรถเข้า-ออกตลอดเวลา เรียกได้ว่ามีความพลุกพล่านจอแจประมาณหนึ่ง แต่ด้วยตัวโครงการในส่วนที่เป็นที่พักอาศัยจะตั้งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนสุขุมวิท 39 ประมาณนึง ก็จะช่วยลดความกังวลทางด้านความเป็นส่วนตัวไปได้ค่ะ

    • ทิศเหนือ ติดกับอาคารพักอาศัย 8 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น (มองไปทางถนนเพชรบุรี)
    • ทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัยเเละอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น (มองไปทางรถไฟฟ้าเส้นสุขุมวิท)
    • ทิศตะวันออก ติดกับซอยสุขุมวิท 39 (มองไปทางทองหล่อ)
    • ทิศตะวันตก ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น (มองไปทางอโศก)

    ทิศตะวันออก ติดกับเวิ้งอาคารพาณิชย์ เมื่อก่อนจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีเปิดให้บริการอยู่ ปัจจุบันวันที่ไปล้อมรั้วปิดเเล้ว รอดูกันนะคะว่าจะเปลี่ยนมาเป็นอะไรกัน

    ทิศตะวันออก จะติดกับถนนสุขุมวิท 39 มองจากหน้าโครงการไปทางขวานิดๆจะเจอกับซอยพร้อมมิตร ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 49 และไปยังทองหล่อได้

    จากหน้าโครงการไปทางทิศใต้ จะเป็นอาคารสำนักงาน

    ภายในอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้จะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ซึ่งไม่มีผลต่อมุมมองของห้องพักภายในอาคารเท่าไรนัก

    ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับอาคาร Royal castle เป็นที่พักอาศัยสูง 23 ชั้น โชคดีตรงที่ด้านที่หันหน้าไปเจอโครงการนี้จะเป็นด้านสกัดของโครงการเราพอดี เลยไม่ค่อนส่งผลต่อมุมมองเเละความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่นัก

    ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เลยอาคาร Royal Castle มาจะเป็น Minor Community หรือที่ใครๆจะรู้จักกันว่าเป็นเวิ้งไก่ทอดยามะจังและบังคาระราเมงนั่นเองค่ะ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมาก นักชิมอย่างเราต้องไม่พลาด

    ทิศเหนือของโครงการ ติดกับอาคารสูง 3-4 ชั้น ค่ะ โดยบริเวณนี้จะติดกัยอาคารที่เป็นส่วน Commercial ของ Noble State 39 และจะเป็นทิศตะวันออกของตัวอาคารพักอาศัยของโครงการ เเต่ก็ไม่มีผลต่อมุมมองใดๆ เนื่องจากเป็นอาคารเตี้ยค่ะ

    มุมมองจากที่ตั้งโครงการมองไปยังทิศต่างๆ – ณ ปัจจุบันยังไม่มีการเริ่มก่อสร้างโครงการนะคะ เราเลยมีโอกาสไปยืนใกล้ๆไซต์ของอาคารพักอาศัยโครงการ Noble State 39 นี้มา มาดูมุมมองจากโครงการไปยังทิศต่างๆกันดีกว่าค่ะ

    View 1 – มองไปทิศเหนือ จะเป็นอาคารพักอาศัยเเนวราบสูงประมาณ 8 ชั้น เเละเยื้องๆกันทางขวามือของภาพจะเป็นอาคาร Upper Suites Sukhumvit 39s ที่บอกไปค่ะ

    View 2 – มองไปทางทิศตะวันออก จะเป็นอาคาร Commercial ของโครงการ Noble State 39 นั่นเองค่ะ (ตำแหน่ง Sale Gallery ในปัจจุบัน)

    View 3 – มองจากโครงการไปทิศใต้ จะมีอาคาร Le Raffiné ที่เป็นคอนโดมิเนียมสูง 34 ชั้นอยู่ ระยะห่างประมาณ 100 เมตรค่ะ

     

     

    View -4 ทิศตะวันตกวิวก็จะโล่งๆหน่อยค่ะไม่มีอาคารสูงบังวิวทิศนี้เท่าไรนัก

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • Ivy Bound International School ~ 230 m.
    • BTS พร้อมพงษ์ ~ 550 m.
    • The EmQuartier ~ 600 m.
    • The 49 Terrace ~ 700 m.
    • The Emporium ~ 700 m.
    • สวนเบญจสิริ ~ 750 m.
    • Piman 49 ~ 750 m.
    • Villa market ~ 750 m.
    • U.F.M. Supermarket ~ 800 m.
    • The Racquet Club ~ 800 m.
    • Rain Hill ~ 1 km.
    • โรงพยาบาลสมิติเวช ~ 1.1 km.
    • 49 Playscape ~ 1.2 km.
    • The Commons ~ 1.3 km.
    • Nihonmara Mall ~ 1.4 km.
    • Seenspace ~ 1.5 km.
    • J Avenue ~ 1.8 km.
    • มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ~ 2 km.
    • Jasmine City Hotel ~ 2 km.
    • 72 Courtyard ~ 2.1 km.
    • Major Cineplex Sukhumvit ~ 2.2 km.
    • Shinsen Fish Market ~ 2.2 km.
    • Modern International School ~ 2.3 km.
    • Big-C เอกมัย ~ 2.6 km.
    • รพ.กรุงเทพ ~ 3.3 km.
    • Terminal 21 ~ 3.5 km.

    เจาะลึกตัวโครงการ

    โครงการ Noble State 39  เป็นคอนโดมิเนียมสูง  36 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-3-56.6 ไร่ บนถนนสุขุมวิท 39 ตัวโครงการจะถูกแบ่งเป็น 2 อาคาร โดยจะมีอาคารเเรกที่อยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 39 ที่เป็นอาคาร Commercial และอาคารด้านในที่เป็นส่วนพักอาศัย โดยการเข้าถึงอาคารพักอาศัยนั้นจะมีระบบรักษาความปลอดภัยแยกออกมาอีกที และมีที่จอดรถเเยกจากกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลถึงความเป็นส่วนตัวและการเเย่งชิงที่จอดรถเลยค่ะ ส่วนของที่พักอาศัยจะประกอบไปด้วยพื้นที่จอดรถทั้งหมด 193 คัน ที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และบนอาคารชั้น 2-8 คิดเป็นประมาณ 54% สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะมีอยู่ที่ชั้น Ground Floor ชั้น 9 ชั้น 35 และชั้น 36 ส่วนห้องพักอาศัยโครงการนี้จะมีแบบห้องให้เลือกเริ่มต้นเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.95 ตร.ม. โดยจะเรียกว่าห้อง 1-Bedroom-S และจะมีขนาด M และ L ตามมา ดังนั้นภาพรวมจะมีห้อง 1 Bedroom ให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาดนั่นเองค่ะ ซึ่งจะเป็น Type ที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดของโครงการค่ะ นอกจากนี้จะมีห้องแบบ 2 Bedroom และ Penthouse ให้เลือกด้วยค่ะ

    การออกแบบ Noble State 39 มีแนวคิดที่จะต้องการรื้อเเพทเทิร์นการใช้ชีวิตเดิมๆของคนกรุง แล้วมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ “Life Patterns Reconstructed” โดยในการออกแบบตัวอาคารได้แรงบันดาลใจมากจากยุค Brutalism ที่เป็นสถาปัตยกรรมในยุคคลาสสิก มีการนำลวดลายเรขาคณิตมาออกแบบและทำซ้ำให้เป็น Pattern หน้าตาของอาคาร ในความคลาสสิกที่ว่า ถ้าเราดูจากภายนอกอาคารเราจะเห็นอาคารที่ดูเป็นเหลี่ยมเเท่งตรง ไม่หวือหวา แต่ยังดูน่าเกรงขาม ที่จะไม่ตกยุคไปตามกาลเวลาค่ะ ซึ่งสิ่งนี้เองนำมาสู่ Concept ที่ว่า “To be modern is not a fashion, it is a state.”  วลีเด็ดจากสถาปนิกชื่อก้องโลกอย่าง Le Corbusier ที่หมายถึงความโมเดิร์นที่ไม่ได้แปลว่าแฟชั่น ความโมเดิร์นนี้จะไม่สูญหายไปตามกาลเวลา เเต่จะเชื่อมต่อเรื่องราวของกาลเวลาทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคตเข้าไว้ด้วยกัน เหมือนกันกับทำเลพร้อมพงษ์นี้ ที่มีเรื่องราวมาตั้งแต่อดีต มีเสน่ห์ที่แตกต่างจากย่านอื่นๆในปัจจุบัน เเละยังเป็นทำเลที่สามารถพัฒนาต่อเนื่องไปได้อีกไกลในอนาคตค่ะ

    และถึงเเม้ว่าที่อยู่อาศัยจะออกมาหน้าตาคลาสสิกขนาดไหน แต่การอยู่อาศัยภายในของโครงการนี้ไม่ได้ล้าหลังเลยนะคะ เนื่องจากโครงการนี้ได้นำเอาหลายๆเทคโนโลยีมาใช้ ให้เกิดเป็น Smart Living Design ด้วย และอย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันเปลี่ยนไปเร็วขนาดไหน วันนี้มาใหม่ไม่เกินหนึ่งปีก็มีรุ่นใหม่มาอีกแล้ว ดังนั้นสำหรับโครงการนี้ก็เลยมีความคิดที่ว่าจะมีการเดิน Infrastructure ขึ้นมาไว้ให้ เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่จะมีใหม่ๆในอนาคตไว้ แต่ก็จะมีเทคโนโลยีที่ให้มาด้วยเช่นกัน โดยเทคโนโลยีที่จะมีให้มาก็เช่น

    1. SMART HOME DESIGN – เป็นระบบ Home Automation ที่สามารถสั่งงานได้ผ่านเสียง หรือ Voice Command สามารถควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น ไฟ แอร์ ม่านได้ และสามารถ Set เป็น Scene ต่างๆได้เช่น เราพูดว่า ” Good Morning ” ไฟและผ้าม่านภายในห้องก็จะเปิด เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ ถ้าใครว่างแวะไปที่ Sale Gallery ก็สามารถไปทดลองใช้งานได้นะคะ
    2. NOBLE SMART APPLICATION – เป็น Application ของทาง Noble ที่ต้องการให้ลูกบ้านใช้งานเเบบ One Stop Service คือสามารถสั่งงานเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องได้ และจะมีการบริการเเจ้งเตือนต่างๆ เช่น Payment ที่คุณต้องจ่าย และยังมีการบริการอัพเดทข่าวสารที่โครงการหรือนิติบุคคลต้องการเเจ้งกับลูกบ้านได้ด้วย
    3. ME PASS – “ MINIMIZE CARRIES, FOR MAXIMIZE FREEDOM.” เป็นระบบควบคุมการเข้าออกโดยการระบุตัวตนเเทนการใช้ Key Card เช่น การสแกนหน้า หรือรอยนิ้วมือแทน เพื่อป้องกันการทำกุญแจหายหรือการที่บุคคลอื่นเข้ามาใช้งานโครงการ และนอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีระบบ Keyless & Cardless ทำให้ไม่ต้องเปิดกระจกสแกนบัตร หรือสแกนการ์ดอีกต่อไปค่ะ
    4. SMART PASSAGE – เป็นระบบ Car Sharing ให้บริการจองและใช้รถยนต์ได้ตลอด 24 ชม. ในช่วงเวลาสั้นๆ และมี EV Charger ให้บริการสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

    เรามาดูที่ผังโครงการกันก่อนเลยค่ะ อย่างที่เราบอกไป โครงการนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 2 อาคาร โดยอาคารที่อยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 39 จะเป็นอาคาร Commercial ส่วนอาคารที่พักอาศัยของโครงการเราจะอยู่ถัดมาด้านใน การวางผังเเบบนี้ก็จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านได้ด้วยนะคะ คนที่เดินผ่านไปมาด้านหน้าก็จะไม่เห็นส่วนกลางต่างๆของชั้น 1 โครงการค่ะ เเละเมื่อเข้ามาภายในพื้นที่ของส่วนที่พักอาศัย ทางซ้ายมือจะมีสวนและ Playground อยู่นอกอาคาร เป็นพื้นที่สีเขียวไว้ให้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจ เละมีสนามเด็กเล่นไว้ให้ลูกๆเล่นด้วย

    ภาพจำลองบรรยากาศของ Forest room และ Playground ค่ะ ดูร่มรื่นและมีพื้นที่ให้ทั้งเด็กวิ่งเล่น และผู้ปกครองนั่งรอด้วยเลย

    มาดูที่ตัวอาคารชั้น Ground Floor กันบ้าง เมื่อเข้ามาจะเจอกับจุด Drop-off ของอาคารก่อน และจะมีที่จอดอยู่ทั้งบนอาคาร ชั้น 2-8 และใต้ดินอีก 2 ชั้น ซึ่งทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดินจะอยู่ด้านหลังอาคารเลย Drop-off ไป ส่วนทางขึ้นที่จอดรถบนอาคารจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

    โดยเมื่อเข้าอาคารมาจะเป็นพื้นที่ Lobby  มีโถงลิฟต์และมีห้อง Mail Room โดยโครงการนี้จะมีลิฟต์โดยสารให้ใช้ 3 ตัวเเละมีลิฟต์หนีไฟ 1 ดัว ซึ่งเมื่อเทียบอัตราส่วนจำนวนห้องพักกับจำนวนลิฟต์เเล้วจะอยู่ที่ประมาณ 118:1 ถือว่าหนาแน่นปานกลางนะคะ

    ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ของโครงการ เน้นโทนสีเขียวและมีการตกแต่งภายในสไตล์ Retro

    ขึ้นมาที่ชั้น 9 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยเเละมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วยอย่างละครึ่ง โดยจากโถงลิฟต์ไปส่วนพักอาศัยก็จะมีประตูกั้นเพิ่มอีกชั้นนึงเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ที่พักอาศัยชั้นนี้ โดยห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ 7 ยูนิต เป็นห้องแบบ 1 Bedroom 5 ยูนิตตั้งอยู่ตรงกลาง เเละห้องแบบ 2 Bedroom 2 ยูนิตเป็นห้องหัวมุม การวางตำแหน่งห้องพักจะวางไปในทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งนับว่าเป็นทิศที่รับลมไปค่อนข้างดีค่ะ

    ส่วนพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นนี้จะมีส่วนที่เป็น Indoor คือ olivia lounge และ mellow Space กับส่วนที่เป็น outdoor คือ Tea terrace

    ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Olivia Lounge เป็นห้องพักผ่อนที่มี Double Volume สามารถมองออกไปเห็นสวนได้ และมีห้องน้ำในตัว

    ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Mellow Space ทางฝั่งนี้จะเป็นพื้นที่โซน Entertain ขึ้นมาหน่อย มีบาร์ มีเกมส์ให้เล่น และยังคงเป็นห้องพักผ่อนที่มี Double Volume สามารถมองออกไปเห็นสวนได้ และมีห้องน้ำในตัว

    ภาพจำลองบรรยากาศของ Tea terrace ที่ค่อยๆลดระดับลงมาจากพื้นชั้น 9 ของอาคาร สามารถมองออกไปยังถนนสุขุมวิทหรือเเนวเส้นรถไฟฟ้าได้

    ขึ้นมาต่อจะเป็นชั้นที่เป็น Typical Floor Plan โดยจะมีจำนวนยูนิตรวมอยู่ที่ 14 ยูนิตต่อชั้น โดยการวางผังรวมจะเหมือนเดิมตรงที่ห้องแบบ 1 Bedroom จะอยู่ตรงกลางส่วนห้องแบบ 2 Bedroom จะเป็นห้องหัวมุมทางทิศเหนือ ส่วนห้องหัวมุมทางทิศใต้จะเป็นห้องเเบบ 1 Bedroom-L โดยการออกแบบอาคารนี้จะนำเอาส่วนที่เป็น Core ไว้ตรงกลาง ทำให้ทางเดินหน้าห้องพักจะเป็นแบบ Single corridor ทำให้ห้องพักมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งที่ปลายสุดของทางเดินฝั่งทิศใต้ จะมีช่องเเสงที่นำเเสงธรรมชาติเข้ามายังทางเดินได้ โดยที่ยังไม่เดิความร้อนเนื่องจากแนวกระจกจะถูก Set เข้ามาในตัวอาคารคนละระนาบกับพื้นผิวภายนอกของอาคาร การวางตัวห้องยังเป็นเเบบทิศ เหนือ-ใต้ ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องระบายอากาศได้ดี

    ขึ้นมาที่ชั้น 35 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจะประกอบไปด้วย Gym room,ห้องน้ำและ Steam room แยกชาย-หญิง ห้อง Laundry และสระว่ายน้ำในร่ม โดยสระว่ายน้ำจะมีขนาดอยู่ที่ กว้าง 5 เมตร ยาว 31.6 เมตร ลึก 1.3 เมตร

    การออกแบบให้สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นบนแต่อยู่ในร่มก็จะได้ประโยชน์ตรงที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเขามาใช้งานได้ทั้งวันเเละทุกสภาพอากาศ ไม่ต้องกลัวเเดดร้อนหรือฝนตกอีกต่อไป ในขณะที่ยังคงได้วิวเมืองจากชั้นบนๆของอาคารอยู่ด้วย ที่เราว่าน่าสนใจอีกจุดคือหลังคาของพื้นที่สระว่ายน้ำ จะถูกเจาะเป็น Sky Light วงกลมเป็น Pattern ที่ซ้ำ ทำให้แสงจากด้านบนลงมายังพื้นที่สระ ในขณะที่ถ้าเรามองขึ้นไปก็ยังเห็นสวนบนชั้นดาดฟ้าอีกด้วย

    ชั้นที่ 36 หรือชั้นดาดฟ้าของอาคาร จะเป็นพื้นที่สีเขียวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถมาจัดกิจกรรมปาร์ตี้ หรือจะปลูกผักก็ได้

    บรรยากาศจำลองบนชั้นดาดฟ้าเราก็จะเห็นการจัดพื้นที่อย่างตัว Pavilion ที่จะเป็น Sunken หรือลดระดับลงไป ทำให้เมื่อเรานั่งจะได้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งท่ามกลางพื้นที่สีเขียว

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

    • Play Ground
    • Forest Room
    • Main Lobby
    • Mail Room
    • Juristic Person Office

    9th Floor

    • Tea Terrace
    • Mellow Space (Game Room)
    • Olivia Lounge (Library Room)

    35th Floor

    • SKYLIGHT POOL – Semi outdoor Swimming Pools กว้าง 5 เมตร ยาว 31.6 เมตร ลึก 1.3 เมตร
    • Full equipped Gym room approx 240 sq.m.
    • Steam room (แยกชาย-หญิง)
    • Laundry

    36th Floor

    • Chef table & Farm

    SECURITY SYSTEM & OTHER SERVICES

    • Keyless & Cardless Access Control
    • 24 Hours CCTV
    • 24 Hours Security officer
    • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift 1 ตัว
    • Smart Living Design Technology (Smart home design, Noble Smart Application, ME PASS and Smart Passage)

    Product Walkthrough

    สำหรับแบบห้องของโครงการ Noble State 39 จะมีให้เลือกหลักๆ คือ 1 Bedroom , 2 Bedroom และ Penthouse ค่ะ ( 1 Bedroom มี 276 ยูนิต , 2 Bedroom มี 48 ยูนิต และ Penthouse มี 6 ยูนิต) แต่สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดของโครงการนั้น จะมีให้เลือกอยู่ทั้วหมดถึง 3 ขนาดเลย โดยโครงการจะเรียกว่า ห้อง 1 Bedroom แบบ S , M และ L ตามลำดับ โครงการนี้ขายเป็นแบบ Full Fitted นะคะ สำหรับรีวิวนี้เราจะมีห้องตัวอย่างมาให้ชมกันทั้งหมด 2 ห้อง เป็นห้องแบบ 1 Bedroom – S ขนาด 29.95 ตร.ม. และ 1 Bedroom – L ขนาด 41.50 ตร.ม.ค่ะ ไปดูบรรยากาศห้องกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

    ขอเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom – S 29.95 ตร.ม. กันก่อนซึ่งเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ตัวห้องจะเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้สามารถเเบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เป็นห้องนอนกับส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหารเเละห้องครัวต่อเนื่องกันมาได้ เมื่อเข้าห้องมา เราจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวกันก่อนเป็นอันดับเเรกซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะเป็นครัวเปิด เเต่ถ้ามองพื้นที่เเล้ว เราสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มขึ้นมาได้ ในกรณีที่ใครใช้ครัวเป็นประจำเเล้วไม่อยากให้กลิ่นควันจากการทำครัวไปติดเฟอร์นิเจอร์อื่นๆเช่นเบาะหุ้มโซฟาก็สามารถติดเพิ่มได้ ฝั่งตรงกันข้ามกับเคาน์เตอร์จะเป็นประตูเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำของ Unit นี้จะมีทางเข้าอยู่ 2 ทางเลย ทั้งจากห้องนอนเเละจากห้องครัว ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ไม่อยากให้เเขกเหรื่อเข้ามาภายในห้องนอน แต่ก็ยังอยากได้ความสะดวกเข้าถึงได้ง่ายจากห้องนอนอยู่ค่ะ ถัดจากพื้นที่ส่วนครัวเข้ามาจะเป็นส่วนทานอาหาร และพื้นที่ส่วนรับเเขกต่อเนื่องกันมา โดยห้องนี้จะติดกับระเบียงที่มีความยาวเต็มความยาวของห้องโดยระเบียงส่วนรับแขกก็จะยาวต่อเนื่องไปยังระเบียงส่วนห้องนอนได้เลย ในส่วนของทางเข้าห้องนอนนั้น จะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับโซฟา โดยจะมีประตูบานเลื่อนอยู่ 2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา ระหว่างจุดติดตั้งทีวี ทำให้ภายในห้องดูมีการเชื่อมต่อถึงกันได้แทบทุกส่วนของห้องเลยค่ะ

    เริ่มต้นที่ทางเข้าห้องกันก่อนเลย ทางเข้าห้องจะเป็นบานประตูกรุลามิเนตลายไม้ มี Digital Door lock ของ Yale สามารถเข้าออกได้ ระบบ สแกนนิ้ว, password, keycard และ กุญแจ 

    เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อนเลยทางขวามือค่ะ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ พื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อไปกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารเเละพื้นที่นั่งพักผ่อนนะคะ ห้องนี้วัสดุที่ให้มาพื้นจะได้เป็นพื้นลามิเนตที่มีการพิมพ์ลายไม้ขึ้นมาพิเศษหนา 12 มม. ผนังเเละฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ไฟที่ให้มาจะเป็นไฟดาวน์ไลท์เเบบฝังฝ้า โดยที่ระยะความสูงของห้องจะอยู่ที่ 3.00 เมตร ถือว่าห้องสูงเลยค่ะ แต่ก็จะมีส่วนที่ดรอปฝ้าลงมาเพื่อเดินงานระบบเเอร์โดยพื้นที่ที่อยู่ใต้เเอร์ก็จะมีความสูงประมาณ 2.55 เมตรค่ะ ซึ่งโครงการนี้จะให้เเอร์เเบบ Concealed Type นะคะ ส่วนประตูภายในห้องจะเป็นประตูบานเลื่อนบานกระจก เฟรมอลูมิเนียมค่ะ

    มองย้อนกลับออกไปพื้นที่บริเวณนี้จะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตรค่ะ ซึ่งเป็นระยะที่เพียงพอต่อการใช้งานทำครัว

    โดยระยะเคาน์เตอร์ครัวถึงผนังหน้าห้องน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร เดินใช้งานได้สะดวกเลยนะคะ

    ส่วนที่อยู่มุมห้องจะเป็นตำแหน่งสำหรับทำเป็นชั้นวางรองเท้า ซึ่งตู้ตรงนี้จะไม่มีให้มานะคะ ในห้องตัวอย่างจะ Guide เป็นไอเดียไว้ให้โดยตำแหน่งนี้สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ได้ด้วย ระยะของตู้ที่ทำมาเป็นตัวอย่างจะอยู่ที่ประมาณ 60 x 90 ซม.

    หันมาดูที่ครัวกันบ้าง ครัวของที่นี่จะให้มาหน้าตาเเบบนี้ หน้าบานต่างๆจะเป็นลามิเนต Hi-gloss มีชุดอุปกรณ์ครัวให้มาพร้อมกับตู้เย็นที่ Built-inให้มาด้วย ดูเรียบร้อยดีค่ะ

    ตู้เย็นที่ให้มาจะเป็นของยี่ห้อ Teka ค่ะ พอเปิดบานดูก็จะได้ช่องใส่ของแบบนี้เลย มีชั้นเก็บของเล็กๆอยู่บนตู้ด้วย ซึ่งทั่วๆไปที่ไม่มี Built-in มาให้ บริเวณเหนือตู้เย็นหลายๆโครงการจะไม่ค่อยนิยมทำ Built-in มาค่ะ

    ตัวเคาน์เตอร์จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 0.65 x 1.20 เมตร Top เคาน์เตอร์กรุด้วยหินสังเคราะห์ค่ะ

    มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้พร้อม โดยเตาไฟฟ้าจะให้ของ Kuppersbusch ส่วนเครื่องดูดควันจะให้ของ Teka ค่ะ

    มีอ่างล้างจานของ Teka ให้มาด้วย เป็นรุ่นเเบบฝังใต้เคาน์เตอร์

    ใต้อ่างล้างจานเมื่อเปิดประตูออกมาจะเป็นถังขยะค่ะ การใช้งานต่างๆดูเรียบร้อยดีนะคะ

    และที่น่าสนใจคือมีไมโครเวฟที่เป็นเตาอบมาให้ด้วยของ Kuppersbusch

    ชั้นวางของด้านบนที่ Built-in มาให้ ก็มีช่องเก็บของเยอะเลยค่ะ เก็บได้หลากหลายเลย

    ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนทานอาหารนะคะ ซึ่งตำแหน่งจะอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องนอนพอดี

    โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร ในห้องตัวอย่างจะจัดโต๊ะกลมขนาดใหญ่วางไว้ ซึ่งเราคิดว่าอาจจะใหญ่ไปซักนิดการใช้งานนั่งจริงอาจจะลำบาก ซึ่งอันที่จริงพื้นที่ตรงนี้เราจะจัดโต๊ะยาววางชิดผนังเเล้วเอาเก้าอี้วางฝั่งทางเดิน 2 ที่นั่งก็ยังสามารถจัดได้สบายๆ หรือจะเป็นจัดโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง วางเก้าอี้เข้ามุมกันก็ได้อยู่ค่ะ

    ต่อเนื่องจากตำแหน่งวางโต๊ะทานอาหารจะเป็นตำเเหน่งวางโซฟา ซึ่งห้องนี้มีระยะเหลือให้วางโซฟาประมาณ 2 เมตร วางโซฟา 2 ที่นั่งได้สบายๆเลย

    ในห้องตัวอย่างมี Google Home Automation ให้ทดลองใช้งานผ่านเสียงด้วยค่ะ

    ตรงกันข้ามกับโซฟาจะเป็นตำแหน่งวางทีวีค่ะ เราจะวางทีวีเเบบเเขวนผนังก็ได้ หรือจะวางหาโต๊ะวางทีวีมาวางก็ได้เช่นกันค่ะ โดยผนังทั้งสองฝั่งข้างทีวีจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกที่ใช้งานเข้า-ออกห้องนอนได้

    ระยะทางเดินก็อยู่ที่ประมาณ 1.2 เมตร เดินได้สบายๆอยู่นะคะ เเต่ถ้าใครต้องการจะเลือกโต๊ะกลางหน้าโซฟาอาจจะต้องหาขนาดที่เล็กหน่อยเเทน และต้องเลือกระหว่างชั้นวางทีวีหรือโต๊ะกลางหน้าโซฟาเเทนค่ะ

    ถัดออกไปจะเป็นส่วนระเบียงค่ะ ประตูบานเลื่อนที่ใช้ออกไปยังระเบียงที่ให้มาจะเป็นมีความสูงที่สูงเกิน 3 เมตรเลย ซึ่งดูน่าสนใจมาก เปิดรับเเสงเข้ามาภายในห้องได้เต็มที่ เเละเราจะไม่เห็นขอบบนของประตูเลยด้วย เนื่องจากจะมีการเว้นระยะสำหรับติดผ้าม่านไม่ให้ด้วยค่ะ

    มือจับของประตูระเบียงจะเป็นแท่งโค้งติดตั้งอยู่ใกล้กรอบบานหน้าต่าง จับถนัดมือ

    มีธรณีประตูกั้นขึ้นมาด้วย ทำให้ฝุ่นผงควันจากระเบียงไม่เข้ามาในห้อง และยังกันน้ำฝนจากด้านนอกเข้ามาค่ะ จะทำความสะอาดระเบียงอะไรก็ง่ายด้วย

    ตัวระเบียงจะมีความกว้างมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 45 ซม. เเต่เป็นระเบียงที่ยาวสุดหน้ากว้างของห้องเลยค่ะ ใช้งานได้เต็มที่ พื้นจะเป็นกระเบื้องโมเสก

    ตำแหน่งวาง Condensing Unit จะถูกแยกออกมาอีกส่วนนึงซึ่งมีประตูเปิดปิดเรียบร้อย

    มองจากระเบียงย้อนกลับมาภายในห้องนะคะ พื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 x 5.35 เมตร อาจจะไม่ได้กว้างมาก แต่ด้วยความสูงของห้องก็ทำให้ห้องตูโปร่งโล่งมากขึ้นอยู่ค่ะ

    เดี๋ยวเราจะลองไปตูที่ห้องนอนกันบ้าง อย่างที่บอกไป ห้องนอนจะมีประตูทางเข้า 2 ทาง ข้างๆผนังติดตั้งทีวีทั้งสองฝั่ง โดยจะเป็นประตูบานเลื่อนให้ ตรงนี้ห้องจริงจะให้เป็นบานเลื่อนกระจกเฟรมอลูมิเนียมค่ะ

    ตัวบานจะซ่อนอยู่ในผนังดูเรียบร้อยสวยงาม เเละสะดวกเวลาใช้งานหรือเวลาที่เราต้องการจะวางเฟอร์นิเจอร์ด้วย ก็จะช่วยให้จัดวางง่ายขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าเลื่อนประตูไปมาแล้วจะชนชั้นวางของที่เราวาง

    รางที่ให้จะเป็นรางบน ทำให้บริเวณพื้นเป็นพื้นต่อเนื่องกันกับนอกห้อง ระยะของช่องประตูก็จะอยู่ที่ประมาณ 80 ซม. ใช้งานเดินเข้าออกสะดวกค่ะ

    เมื่อเข้าประตูมาเราจะเจอกับตู้เสื้อผ้าก่อนเลย ทางขวามือจะเป็นเตียงนอนส่วนทางซ้ายมือจะเป็นประตูเข้าห้องน้ำ โครงการนี้จะมี Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยนะคะ ซึ่งของจริงจะได้คล้ายๆแบบนี้ แต่ด้านข้างตู้จะเป็นบานทึบค่ะ

    ห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 2.5 x 3.5 เมตรสามารถวางเตียง King size ได้สบายเลย

    ปลายเตียงจะเหลือระยะทางเดินอยู่ที่ประมาณ​ 50 ซม. ถือว่าเดินได้อยู่ แต่ไม่สามารถวางพวกชั้นวางทีวีได้นะคะ

    ระยะข้างเตียงฝั่งที่ติดระเบียงก็จะอยู่ที่ประมาณ 60 ซม.

    ตัวระเบียงก็จะเหมือนกันกับส่วนห้องนั่งเล่นที่บอกไปก่อนหน้า ตัวระเบียงจะยาวเชื่อมต่อกันเป็นระเบียงหน้ากว้าง

    มาดูที่ตู้เสื้อผ้ากันค่ะ ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาจะได้แบบนี้เลย เป็นบานที่ดูโปร่งเเสง แต่ด้านข้างจะเป็นบานทึบนะคะ

    หน้าบานจะเป็นบานเปิดแบบนี้ ส่วนช่องชั้นวางต่างๆก็จะได้ตามนี้เลย

    ยังเป็นระยะที่เปิดใช้งานได้อยู่ โดยระยะห่างระหว่างเตียงกับตู้จะอยู่ที่ประมาณ 65 ซม.ค่ะ

    แอร์ภายในห้องทุกยูนิตจะได้เป็น concealed type เหมือนกัน

    มาดูที่ห้องน้ำกันบ้างค่ะ ห้องน้ำจะมีทางเข้า 2 ทาง โดยทางเข้าจากห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อน ส่วนทางเข้าจากครัวจะเป็นประตูบานเปิดนะคะ

    ระยะทางเดินต่างๆถือว่าเดินใช้งานได้สะดวกอยู่ค่ะ

    ธรณีประตูของห้องน้ำก็จะให้มาเป็นวัสดุเดียวกันกับเคาน์เตอร์ห้องน้ำเลย ซึ่งคือหินอ่อนค่ะ

    การวาง Layout ห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งจากกัน โดยห้องอาบน้ำจะถึงก่อน ส่วนโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือจะอยู่ข้างใน

    ห้องอาบนำ้จะมีฉากกั้นกระจกให้มาเรียบร้อย เป็นประจก Tempered แบบไม่มีเฟรม

    พื้นที่อาบน้ำมาขนาดประมาณ 90 x 90 ซม. ลดระดับพื้นลงเล็กน้อยกันน้ำไหลออกมาขณะอาบน้ำ ส่วนบานประตูจะเป็นบานเปิดเข้า ทำให้น้ำที่เกาะตามประตูไม่ไหลหยดออกนอกห้องค่ะ

    ในห้องอาบน้ำจะมีทั้งฝักบัวอาบน้ำเเละ Rain Shower ให้มาด้วยของ Toto

    หน้าตาแบบนี้จับถนัดมือค่ะ

    ถัดเข้ามายังส่วนแห้งกันบ้าง พื้นที่การใช้งานของห้องน้ำนี้ถือว่ากว้างเลยนะคะ อย่างความกว้างของห้องน้ำก็อยู่ที่ 1.5 เมตรได้เลยโดยประมาณ พื้นและผนังที่ใช้ในห้องน้ำจะเป็นประเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน

    อ่างล้างมือก็ได้ใหญ่โตเลยมีพื้นที่ด้านข้างอ่างวางข้าวของเครื่องใช้ได้เต็มที่ พร้อมกระจกเงาเต็มความกว้างผนังและมีช่องเก็บของใต้เคาน์เตอร์ด้วยค่ะ

    อ่างล้างมือที่ให้จะเป็นของ Toto มีการซ่อนไฟ indirect light หลังกระจกเงาช่วยสร้างบรรยากาศในการใช้งานภายในห้องน้ำ โดย Top เคาน์เตอร์ห้องน้ำที่ให้มาจะเป็นหินอ่อนค่ะ

    พื้นที่เก็บของใต้เคาน์เตอร์ก็จะได้ช่องตามนี้ค่ะ

    ส่วนตัวโถสุขภัณฑ์ที่นี่จะให้ Washlet ทุกห้องเลยของ Toto ระยะข้างๆก็กว้างขวางใช้งานสะดวก มีพื้นที่ด้านหลังสามารถวางเทียนหอมหรือของตกแต่งได้ค่ะ

    ส่วนตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าก็จะเป็นประตูออกไปยังห้องครัวนั่นเองค่ะ

    ห้องตัวอย่างอีกห้องจะเป็นห้อง 1 Bedroom Type L ขนาด 41.50 ตร.ม. โดยจะเป็นห้องหัวมุมทางทิศใต้ การวางผังโดยรวมก็จะคล้ายๆกันกับห้องที่เเล้ว คือเป็นห้องหน้ากว้าง ประมาณ 5.8 เมตร สามารถแบ่งพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนนั่งเล่นรับเเขกออกจากกันได้ แต่ห้องนี้จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีพื้นที่เป็น Walk-in Closet สามารถจัดที่นั่งรับประทานอาหารได้ 4 ที่นั่ง ดูแล้วอยู่อาศัยสบายกว้างขวางขึ้น ส่วนวัสดุเเละเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้มาในห้องก็จะเหมือนกันกับห้องที่แล้ว คือจะขายเป็นแบบ Full Fitted มี Built-in ตู้เสื้อผ้า ครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ให้มาค่ะ

    ห้องนี้เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลยค่ะ โดยความกว้างของส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.2 เมตร มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร พื้นลามิเนตหนา 12 มม. ผนังเเละฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ไฟที่ให้มาจะเป็นไฟดาวน์ไลท์เเบบฝังฝ้า ให้เเอร์เเบบ Concealed Type ค่ะ

    มาดูที่ส่วนรับประทานอาหารกันก่อน ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ใช่ไหมค่ะ แต่สามารถวางโต๊ะทานอาหารเเบบ 4 ที่นั่งได้สบาย ในห้องตัวอย่างวางโต๊ะขนาด 1.60 x 0.90 เมตรมาให้ ระยะเลื่อนเก้าอี้ก็ใช้งานได้สะดวกเลย เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่ชอบนัดเพื่อนมาบ้าน ทำอาหาร พูดคุยมากค่ะ

    มองย้อนกลับไปข้างๆของประตูจะเป็นส่วนของครัวนะคะ ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดเช่นกัน

    ความกว้างของชุดครัวจะมีขนาดรวมอยู่ที่ 1.85 เมตร Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ หน้าบานเป็นลามิเนต hi-gloss ตู้เย็นเป็นแบบ Built-in ของ Teka ค่ะ

    อุปกรณ์เครื่องครัวต่างก็จะได้เหมือนเดิมค่ะ คือ อ่างล้างจานเเละเครื่องดูดควันของ Teka ส่วนเตาไฟฟ้าเเละไมโครเวฟพร้อมเตาอบเป็นของ Kupperbuch

    ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นค่ะ บริเวณนี้จะเข้ามาดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น ทางเดินเข้าห้องก็จะไม่ตัดผ่านหน้าคนที่ดูทีวีอยู่ค่ะ พื้นที่บริเวณนี้จะมีขนาดประมาณ 3.00 x 2.7 เมตรค่ะ ทำให้ระยะระหว่างโซฟากับทีวีมีขนาดกว้างมากขึ้นด้วย สามารถวางชั้นวางทีวี โต๊ะกลางหน้าโซฟาได้ด้วย

    พื้นที่ตรงนี้กว้าง 2.7 เมตร สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบายๆ

    ผนังด้านหลังเยื้องโซฟาข้างๆกับประตูจะเป็นพื้นที่สำหรับทำ Built-in เป็นชั้นวางของตกแต่งของสะสมได้

    แน่นอนค่ะ หน้าตาอีกแบบของ Google Home Automation ที่มีให้ลองเล่นในห้องตัวอย่าง ตัวนี้เรียกว่า Google Home Mini ที่โครงการจะมีแถมให้ทุกยูนิต ยูนิตละ 1 ตัว พร้อมกับ IR หรือตัวส่งสัญญาณเปิด-ปิด ม่าน ไฟ และแอร์ 

    ตรงกันข้ามกับโซฟาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี และมีประตูทางเข้าห้องนอนอยู่ข้างๆ

    หน้าตาของประตูบานเลื่อนที่จะพาเราออกไปยังระเบียงยังไม่ความสูงที่มากกว่าระดับฝ้าภายในห้อง เป็นบานสูงเต็มซึ่งทำให้ภายในห้องได้รับแสงสว่างเข้ามาเต็มที่เลยค่ะ

    ชุดประตูบานเลื่อนจะมี Double lock ให้แบบนี้ค่ะ

    ระเบียงจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ​ 45 ซม. พื้นภายนอกระเบียงจะเป็นกระเบื้องโมเสกค่ะ

    ยาวเต็มหน้ากว้างของห้องเลย เเละมีช่องสำหรับวาง Condensing unit แยกออกไปอีกทีค่ะ

    มองกลับเข้ามา พื้นที่ภายในห้องนี้จะดูโปร่ง โล่งค่ะ เนื่องจากความสูงห้องที่สูงถึง 3.00 เมตร

    ต่อกันที่ห้องนอนเลยค่ะ ประตูทางเข้าห้องนอนจะอยู่ข้างๆทีวีค่ะ โดยประตูจะเป็นประตูบานเลื่อนซ่อนเข้าไปในผนัง ในห้องตัวอย่างจะเป็นบานทึบ แต่ในห้องมาตรฐานเราจะได้เป็นกระตูบานเลื่อนกระจกใสเฟรมอลูมิเนียมค่ะ

    รางเลื่อนประตูจะอยู่ข้างบน ทำให้พื้นห้องนอนและพื้นห้องรับเเขกเรียบต่อเนื่องกันไปยังห้องนอน เดินแล้วไม่สะดุดค่ะ

    เข้ามาในห้องนอน พื้นที่ของห้องนอนบริเวณนี้จะมีขนาดประมาณ 3×3 เมตร สามารถวางเตียง King size ได้สบาย

    เมื่อเข้ามาเราจะเจอทางเดินเเบบนี้ ทางขวามือของเราจะเป็นพื้นที่ของ Walk-in Closet ที่ทางโครงการให้มาเลยค่ะ ส่วนทางเดินระหว่างเตียงกับผนังด้านข้างตู้เสื้อผ้าจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 60 ซม.

    ส่วนพื้นที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้ด้วย ระยะห่างระหว่างปลายเตียงกับผนังอยู่ที่ประมาณ 90 ซม.เลยค่ะ

    ส่วนพื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับระเบียงจะเหลือพื้นที่ประมาณ 55 ซม. เราจะเห็นว่าผนังข้างหัวเตียงจะมีส่วนที่เป็นผนังทึบ ทำให้ความร้อนเเละเเสงไม่เเยงตาเกินไปในช่วงเวลาเช้าค่ะ

    ประตูบานเลื่อนไปยังระเบียงยังเป็นบานสูงเหมือนเดิม

    จากระเบียงมองย้อนเข้ามาในห้องนอนจะเจอกับส่วนที่เป็นผนังกระจกทางซ้ายมือ ซึ่งตรงนี้ห้องมาตรฐานจะเป็นผนังทึบนะคะ ในห้องตัวอย่างเป็นผนังตกแต่งค่ะ ส่วนพื้นที่ที่เป็น Walk in Closet จะเป็นพื้นที่แยกไปเป็นสัดส่วน ซึ่งตัว Built-in Closet จะให้มาด้วยนะคะ เเต่ผนังตู้ด้านข้างจะได้เป็นผนังทึบไม่ใช่ผนังโปร่งเเบบนี้ค่ะ

    ตัว Walk-in Closet จะมีให้ทั้ง 2 ฝั่งห้อง มีทางเดินกว้างประมาณ 80 ซม.ค่ะ

    ตัวบานจะเป็นบานเปิด ซึ่งตู้ทางฝั่งซ้ายจะเป็นชั้นวางของ

    ส่วนตู้ทางฝั่งขวาจะเป็นราวเเขวนเสื้อผ้าเเละลิ้นชักให้มาค่ะ

    เดินเข้ามาสุดจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

    หันมาทางขวาจะเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่ครัว

    ข้างๆประตูครัวจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางชั้นวางรองเท้าและเครื่องซักผ้าค่ะ

    เดินมาทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกเเละส่วนเเห้งจากกัน โดยเมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนเเห้งก่อน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะมีขนาดอยู่ประมาณ 1.4 x 2.0 เมตร ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องอาบน้ำค่ะ

    พื้นที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 1.3 เมตร ชนิดและรุ่นสุขภัณฑ์ใช้ของ Toto เช่นเดิมค่ะ เคาน์เตอร์จะใช้เป็นหินอ่อน และมีชั้นวางของใต้เคาน์เตอร์มาให้ค่ะ

    หันมาทางขวาจะเป็นตำแหน่งโถสุขภัณฑ์ ซึ่งทางโครงการจะให้ Washlet ของToto มาค่ะ พื้นที่ความกว้างตรงส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร ใช้งานสะดวก

    หันมาทางซ้ายจะเป็นห้องอาบน้ำค่ะ ผนังตรงนี้ห้องจริงจะให้เป็นผนังทึบนะคะ ไม่ใช่ผนังโล่งชวนหวิวเเบบนี้

    พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดประมาณ 0.90 x 1.40 เมตร ใช้งานหมุนตัวสะดวกเลย ตัวพื้นจะลดระดับลงจากพื้นด้านนอกเล็กน้อย

    มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ พร้อมชุดฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31 October 2018

    • Fully Fitted (ห้องน้ำ ชุดครัวเเละตู้เสื้อผ้า)
    • ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • จอง n/a บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล – โครงการ Noble State 39 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 หรือซอยพร้อมพงษ์ ซึ่งป็นย่านไลฟ์สไตล์กินดื่มที่หรูหราอีกย่านนึงของกรุงเทพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตั้งแต่ระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ โรงพยาบาล สถานที่ออกกำลังกาย ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงสวนสาธารณะ ที่ทั้งหมดทั้งมวลตั้งอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงได้ จุดเด่นของทำเลนี้คือบริเวณรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ที่จะมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ มีสินค้า ร้านอาหาร ธนาคาร โรงหนัง และการบริการครบครันอย่าง The Emporium และ EmQuartier นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะอย่างสวนเบญจสิริตั้งอยู่ใกล้ๆ บรรยากาศของทำเลนี้จะเป็นย่านที่มี Expat หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยอยู่อาศัยกันเยอะมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ทำให้ภายในซอยพร้อมพงษ์และทองหล่อจะมีอาคารพวก Service Apartment อยู่ค่อนข้างมาก เเละมีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติเปิดให้บริการตาม Community ต่างๆกระจายกันทั่วซอย

    การเดินทางโดยใช้รถ – นับว่าเป็นทำเลที่สะดวกในเเง่เส้นทาง เพราะสามารถเดินทางไปยังถนนเส้นหลักอย่างถนนสุขุมวิทหรือถนนเพชรบุรีได้ และมีเส้นทางลัดเลาะค่อนข้างมากภายในซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากบริเวณเส้นสุขุมวิท 71 มายังอโศกได้เลย แต่ข้อเสียคงจะเป็นการที่ทำเลนี้ขึ้นชื่อว่ารถติดมาก ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางก็จะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการเดินทางด้วย ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางดีๆนะคะ นอกจากนี้ถึงเเม้ว่าบริเวณนี้จะมีร้านอาหารกินดื่มมากมาย แต่ที่จอดรถก็หายากมาก เเละมีการคิดค่าบริการที่ค่อนข้างเเพงเลย เป็นไปได้แนะนำให้ใช้รถสาธารณะดีกว่าค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ถือว่าสะดวกมากค่ะ มีทั้งรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ตั้งอยู่ในระยะเดินถึง มีวินมอเตอร์ไซค์และเเท๊กซี่วิ่งผ่านหน้าโครงการเเทบจะตลอดเวลา อีกทั้งยังมีท่าเรืออยู่ท้ายซอยใกล้ๆกับถนนเพชรบุรีอีกด้วย เรียกได้ว่ามีตัวเลือกให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ เเละอยู่ในระยะทางที่เราสามารถเดินไปใช้งานได้ง่ายมากอีกด้วย

    วัสดุ – ได้พื้นลามิเนตที่มีการพิมพ์ลายไม้ขึ้นมาพิเศษ หนา 12 มม. ผนังเเละฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ชุดประตูไปยังระเบียงสูงสุดฝ้า เปิดมุมมองเเละเเสงสว่างเข้าห้องได้เต็มที่ ครัวให้มาครบเซทพร้อมอุปกรณ์อย่างเตาอบไฟฟ้าและตู้เย็น Built-in เคาน์เตอร์ได้เป็นหินสังเคราะห์ ส่วนในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ของ Toto ทั้งหมดรวมไปถึง Washlet ด้วยค่ะ เคาน์เตอร์ห้องน้ำได้หินอ่อนส่วนพื้นกับผนังจะได้เป็นกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อนค่ะ

    การออกแบบ – มีการออกแบบด้วยแนวความคิดที่น่าสนใจภายใต้ concept “To be modern is not a fashion, it is a STATE” มาสู่หน้าตาของสถาปัตยกรรมแบบ Brutalism ที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากโครงการอื่นข้างเคียง มีการ Design facade โดยการเล่นกับรูปทรงเรขาคณิตทำซ้ำ มีความวินเทจในการออกแบบพื้นที่เเต่ก็ยังคงผสมผสานกับความทันสมัยโดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้งานภายในโครงการ ตัวห้องมีการออกแบบโดยการเเบ่งพื้นที่การใช้งานเเยกเป็นสัดส่วน แต่ตัวห้องจะได้เป็นพื้นที่ครัวเเบบเปิดเชื่อมต่อการใช้งานในแต่ละพื้นที่ได้ค่อนข้างดี

    สาธารณูปโภค – ให้มาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ มีทั้งหมดประมาณ 4 ชั้น ที่น่าสนใจจะเป็นสระว่ายน้ำชั้นบนที่เป็นสระว่ายน้ำในร่ม เเละห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ มีพื้นที่สวนให้มาหลายๆจุด ทั้ง Ground Floor ชั้น 9 และชั้นดาดฟ้า 

    Judgement

    ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ ULTIMATE CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ยังมีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์ Emotional ส่วนบุคคลที่มาเป็นปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะคอนโดระดับนี้มักจะมาพร้อมดีไซน์ที่เฉพาะ ถือเป็นรสนิยมของผู้ซื้อแต่ละคนด้วยค่ะ

    BOTTOM LINE

    Noble State 39 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด High Rise ในย่านพร้อมพงษ์ ชอบความอุดมสมบูรณ์และบรรยากาศในละแวกนี้  ชอบการออกแบบในสไตล์ Brutalist มีงบประมาณ 7 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนอย่างต่ำเดือนละประมาณ 50,000 บาทขึ้นไปค่ะ (ตอนนี้มีโปรโมชันผ่อนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท/เดือน)


    *ใครที่สนใจสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้วันนี้ – 15 พ.ย.

    และโครงการฝากบอกมาว่าในวันที่ 18 พ.ย. 2018 นี้ จะมีการเปิดจองรอบพิเศษที่โรงเเรม ดิโอกุระ เพรสทีจ พร้อมรับส่วนลดเพิ่ม 10% ในวันที่เปิดจองค่ะ