รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.248 – รีวิวคอนโด M ทองหล่อ 10
9 ตุลาคม 2016
รีวิวฉบับที่ 1187 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะไปชมคอนโดในย่านเอกมัย-ทองหล่อ กับโครงการ M ทองหล่อ 10 จาก Major Development ถึงแม้ว่าที่ตั้งของโครงการจะไม่ได้อยู่ในซอยทองหล่อซอย 10 ตามชื่อ แต่ก็อยู่ในช่วงต้นซอยเอกมัย 12 (ซอยเจริญใจ) ซึ่งเชื่อมต่อกับทองหล่อซอย 10 (เอกมัย 5) ได้ ที่เป็นรวมความอุดมสมบูรณ์ไว้เพียบ วันนี้เราเลยจะพาไปอัพเดทกันว่าหน้าตาอาคารและ Facilities ชั้นบนสุดจะสวยขนาดไหน 🙂
รีวิวโครงการ M ทองหล่อ 10 ตอนเปิดตัว คลิกที่นี่
Fact @ 8 September 2016
- M Thonglor 10 (เอ็ม ทองหล่อ เท็น)
- Major Development Estate Company Limited
- HIGH – LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขตวัฒนา แขวงคลองตันเหนือ กรุงเทพมหานคร
- คอนโด High Rise 22 ชั้น 1 อาคาร 173 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 86 คันคิดเป็น 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ที่ชั้น G – 5F
- ที่ดินประมาณ 1-0-79 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : 2558
- ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยูในปี 2559
- 1 Bedroom Suite ขนาด 29-29.8 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 30.94-35.97 ตร.ม.
- 1 Bedroom Duplex ขนาด 66.45 – 67.56 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 50.6 – 61.59 ตร.ม.
- 2 Bedroom Duplex ขนาด 93.93 – 116.68 ตร.ม.
- 3 Bedroom(Penthouse) ขนาด 129.43 – 166.32 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 146,000 – 196,000 บาท/ตร.ม.
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS เอกมัย ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS เอกมัย
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 116 1111
Update Fact @ 15 September 2017
- Major Development PCL.
- 1 ห้องนอน สวีท : 29 – 29.8 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน : 30.94 – 35.97 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ : 66.45 – 67.56 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน : 50.6 – 61.59 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ : 93.93 – 116.68 ตร.ม.
- เพนท์เฮ้าส์ : 129.43 – 166.32 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท หรือประมาณ 144,828 บาท/ตร.ม.
- www.mde.co.th/mthonglor10
- โทร 02-116-1111
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.730762, 100.586767
แผนที่จากโครงการค่ะ
ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่าตัวโครงการเนี่ยตั้งอยู่บนซอยเอกมัย 12 หรือซอยเจริญใจ ไม่ใช่ทองหล่อซอย 10 ตามชื่อโครงการนะคะ โดยซอยเอกมัย 12 นี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับซอยทองหล่อ 10 (เอกมัย 5) ได้ แต่ที่ถนน 2 เส้นนี้มีชื่อเรียกต่างกันก็เพราะมีถนนเอกมัย(สุขุมวิท 63) มาตัดผ่านนั่นเอง โดยตัวโครงการจะอยู่ห่างจากถนนเอกมัยประมาณ 20 เมตร จริงๆแค่เดินข้ามถนนเอกมัยมาก็ถึงซอยทองหล่อ 10 แล้วหละ
แม้ว่าซอยเอกมัย 12 และทองหล่อ 10 นั้นจะเชื่อมต่อเหมือนกับว่าเป็นซอยเดียวกันก็จริง แต่สภาพแวดล้อมของซอยค่อนข้างต่างกัน โดย
ซอยทองหล่อ 10 จะเชื่อมต่อระหว่างถนนเอกมัยและถนนทองหล่อที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมีทั้งคอนโดและอาคารสำนักงานมากมาย จึงตามมาด้วยร้านอาหารสไตล์ชิคๆ และสถานบันเทิง ถนนเส้นนี้จึงมีความครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืน โดยภายในซอยทองหล่อ 10 เองนั้นจะมีร้านอาหารและร้าน Hang out หลากหลาย ทั้ง Wine Replubic, 7th Street, Muse, Myst มี Arena 10 ซึ่งเป็น Mall ของคุณตัน อิชิตัน เจ้าพ่อชาเขียวที่เรารู้จักกันดี ภายในก็จะมีร้านอาหาร มีสนามฟุตบอลอารีน่า และเป็นที่ตั้งของ Funky Villa สถานบันเทิงชื่อดัง นอกจากนี้ยังมีคอนโด รพ.สัตว์ มีอาคารสำนักงาน เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Major Development อีกด้วย
ส่วนซอยเอกมัย 12 นั้นเป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนเอกมัยและถนนปรีดี พนมยงค์ สภาพแวดล้อมภายในซอยจะมีคอนโด อย่าง Ceil By Sansiri, Oriental มีโรงเรียนนานาชาติ อาหารชิคๆ เช่น Vanilla Garden, Coffee Beam By Dao และมีแหล่ง Hang out ให้ไปนั่งชิลกันได้ จะมีความสงบและไม่พลุกพล่านเท่าทองหล่อซอย 10 โดยความสำคัญของซอยนี้ส่วนใหญ่จะใช้เป็นทางลัดระหว่างพระโขนงไปเอกมัย-ทองหล่อซะมากกว่า
ทำเลของโครงการอยู่ในจุดที่อยู่ใจกลางย่านเอกมัย-ทองหล่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเล Top ของกรุงเทพมหานครที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่ง ช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อย Hi-end มากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน
จากการประเมินราคาของกรมธนารักษ์ปี 2559-2562 ที่ดินในซอยทองหล่อมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 420,000 บาท ต่อตร.วา ส่วนที่ดินในซอยเอกมัยมีราคาอยู่ที่ 280,000-350,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งราคาขายจริงน่าจะไปไกลกว่านั้นมากแล้ว ในขณะที่มีคอนโดขายตารางเมตรละกว่า 150,000 บาท เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่วนราคา Resale คอนโดมือสองระดับ Luxury ที่มีในซอยทองหล่อเดี๋ยวนี้ก็ทะยานไปตารางเมตรละ 160,000 – 200,000 บาทเข้าไปแล้ว ทำให้ย่านทองหล่อสะท้อนความเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง โดย พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ ในย่านนี้โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ดังนั้นย่านนี้จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารชิคๆ มี Community Mall อย่าง Arena 10,The Commons, J Avenue, เวิ้งโบราณ รวมทั้งมีร้านกินดื่มและแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึง และมีโรงเรียนนานาชาติ Ekkamai International School ที่อยู่ในซอยเอกมัย 12 อีกด้วย
การเดินทางโดยใช้รถ ซอยเอกมัย 12 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนเอกมัย(สุขุมวิท 63) กับถนนปรีดี พนมยงค์(สุขุมวิท 71) และเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับทองหล่อซอย 10 ที่ใช้ไปทะลุถนนทองหล่อได้หรือจะใช้ไปถนนเพชรบุรี สุขุมวิท อโศก พร้อมพงษ์ พระราม 4 ก็สะดวก หากใครต้องการเข้าเมืองทางถนนพระราม 4 ก็จะมีซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 36 และ 40 สามารถใช้เป็นถนนเชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ และซอยสุขุมวิท 42 ก็สามารถใช้เชื่อมจากถนนพระราม 4 เข้ามายังถนนสุขุมวิทได้
ทางลัดที่สามารถใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้ คือซอยเอกมัย 10 (ซอย Health Land) วิ่งลัดๆลงมาออกถนนสุขุมวิทที่ซอย 65 ซึ่งต้องยอมรับจริงๆว่า ถนนตรงนี้ปริมาณรถเยอะ ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่มีสูตรตายตัวว่าต้องไปเส้นไหน ทางลัดตรงไหนรถจะไม่ติด แต่ทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้จักให้ครบทุกทางแล้วช่างสังเกตเอาหน่อย เพื่อดูว่าช่วงเวลานี้ทางไหนจะติดน้อยติดมากค่ะ สำหรับใครที่ใช้ทางด่วนจะมีทางด่วนรามอินทราช่วงสุดถนนเอกมัย และทางด่วนอาจณรงค์ที่ต้องวิ่งทะลุซอยสุขุมวิท 40 ไปออกฝั่งกล้วยน้ำไทค่ะ
โครงการอยู่ในระยะที่ไม่ได้ใกล้ BTS คือมีระยะ 1.30 กิโลเมตรจาก BTS เอกมัย แต่โครงการจะมี Shuttle Service รับส่งจึงสามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ และจากสถานีเอกมัยถ้านั่งรถไปอีก 2 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจาก BTS เอกมัย เพื่อดูสภาพแวดล้อมบนถนนเอกมัยที่มีทั้งอาคารสำนักงาน คอนโด ร้านอาหาร ห้าง และ Community Mall หลากหลาย ตรงไปเรื่อยๆจนถึงซอยเอกมัย 12 จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปประมาณ 20 เมตร ก็จะถึงโครงการค่ะ
เริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัยที่อยู่บนถนนสุขุมวิทค่ะ สถานีนี้คนจะไม่ได้ขึ้นลงเยอะเหมือนอย่างสถานีสำคัญ เช่น อโศก เวลารอรถก็พอจะมีที่เหลือให้เข้าไปได้ตลอดค่ะ
จาก BTS เราเลือกใช้ทางออกหมายเลข 1 ที่ใกล้กับซอยเอกมัยมากที่สุด
ลงจากชานชาลามา 1 ชั้น ฝั่งซ้ายจะเห็น Gateway เอกมัย หากใครต้องการไปเดิน Shopping ก่อนก็สามารถเดินเชื่อมไปได้ แต่ต้องเลือกทางออก 4 นะ
แสกนบัตรเรียบร้อยก็ออกมาที่ทางออก 1 ที่บันไดทางลงจะอยู่ที่หน้าปากซอยเอกมัยพอดี
เดินมาชมวิวมุมสูงกันหน่อย ด้านล่างคือถนนสุขุมวิท ไป 3 กลับ 3 เลน ส่วนทางลงจะมีทางแยก 2 ทาง คือฝั่งขวามือจะเป็นทางลงไปที่หน้าปากซอยเอกมัยเลย ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปเชื่อมกับทางเข้า Major เอกมัย
เดินมาบน Sky Walk จะผ่านหน้าซอยเอกมัยพอดี จากมุมนี้จะเห็นบรรยากาศในซอยเอกมัยช่วงต้น ก็จะมีทั้งตึกสูงสลับกับอาคารพาณิชย์ ปนกันระหว่างอาคารสำนักงาน, คอนโดมิเนียม, ห้างสรรพสินค้า ทำให้บรรยากาศค่อนข้างคึกคักตลอดทั้งวัน
ร้านอาหารที่อยู่ฝั่งซ้ายคือร้านบ้านไร่กาแฟ จะเปิดตอนเย็นๆ บนฟุตบาทมีของกินขายอยู่ริมทางหลายร้านเลยช่วยให้บริเวณนี้คึกคักตลอดวันค่ะ
เดินไปอีกนิดนึงจะถึงแยกเอกมัย-สุขุมวิท หากตรงไปจะสามารถเข้าเมืองไปอโศก-สยามได้ ส่วนเราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเอกมัยกัน
จากตรงนี้จะมีทางม้าลายสามารถข้ามไปยัง Gateway เอกมัยได้ด้วย หรือถ้าใครมาจาก BTS แล้วอยากแวะช้อปปิ้งก่อน ก็สามารถใช้ทางเชื่อมจาก BTS เข้า Gateway เอกมัยได้เลยค่ะ
เดินเลี้ยวซ้ายเข้ามายังถนนเอกมัย ตรงนี้จะเป็นร้านอาหารที่จะเปิดให้บริการในช่วงเย็น บรรยากาศจะคึกคักกว่านี้มาก
มองไปฝั่งตรงข้ามจะมีวินมอเตอร์ไซค์รอให้บริการอยู่ ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนจะเห็นคนมายืนต่อแถวใช้บริการกันเยอะอยู่ค่ะ หากเรียกพี่วินจากตรงนี้ไปยัง M ทองหล่อ 10 ก็สนนราคาประมาณ 20 บาท
กลับมาที่ฝั่งขวาพอพ้นช่วงร้านอาหารมาแล้วจะเป็นกลุ่มตึกแถวริมถนน 6-7 ชั้น ที่เปิดเป็นร้านขายของ ร้านอาหาร บางช่วงก็จะมีซอยเข้าไปด้านในเป็นซอยตัน ภายในก็จะเป็นตึกแถวเช่นกัน
ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ Park Lane ที่เป็น Community Mall ด้านในมีร้านค้า ร้านอาหารชิคๆหลายร้าน ด้านหน้ามี True Coffee ให้มานั่งจิบกาแฟ คุยงานกันได้
บนถนนเส้นนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ อย่างร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเบเกอรี่ บางร้านก็เปิด 24 ชั่วโมง อย่าง โชคดีติ่มซำ
เลยมาหน่อยจะเจอ Big C Super Center และ Index Livingmall ภายในมีร้านอาหารและ Supemarket ให้มาซื้อของเข้าห้องกันได้
เยื้องๆ Cubic 63 จะเป็น Health Land เอกมัย ที่มีทั้งบริการนวดไทย นวดเท้า นวดอายุรเวท และโปรแกรมอื่นๆ รวมทั้งเอกมัยช็อปปิ้งมอลล์หรือเรียกอีกชื่อว่าเวิ้งโบราณ ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ เช่น ร้าน Perhaps Rabbits’ ที่เป็นร้านเค้ก และร้านบ้านเพื่อน เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มบรรยากศชิลๆที่หลายคนชอบมา Hang out กัน
ไม่ไกลกันจะเป็นอาคารสำนักงาน Modern Town Tower
ถัดมาอีกนิดหนึ่งก็จะถึงสี่แยก หากเลี้ยวซ้ายจะไปยังซอยทองหล่อ 10 (เอกมัย 5) ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมไปซอยทองหล่อได้ หรือถ้าตรงต่อไปตามซอยเอกมัยจะสามารถไปทะลุถนนเพชรบุรีได้ค่ะ ส่วนเราจะเลี้ยวขวาจะไปซอยเอกมัย 12 ซึ่งสามารถเชื่อมไปซอยปรีดี พนมยงค์ ได้และเป็นซอยที่เป็นที่ตั้งของโครงการ
เมื่อเลี้ยวเข้ามาภายในซอยเอกมัย 12 หน้าปากซอยทั้งสองฝั่งจะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่งโดยทางขวามือเป็นร้านเครื่องเขียน ส่วนทางซ้ายมือเป็นร้านแว่นตาเอกมัยและอู่ซ่อมรถ ที่ถัดไปก็จะเห็นโครงการ M ทองหล่อแล้วค่ะ ตัวถนนเอกมัย 12 หรือปรีดี พนมยงค์ 31 นี้นิยมใช้เป็นทางลัดจากพระโขนงเข้ามาสู่เอกมัย-ทองหล่อ ภายในซอยจึงมีปริมาณรถวิ่งเข้าออกหนาแน่นตลอดทั้งวัน
โดยตัวโครงการจะอยู่ติดถนนเอกมัย 12 เลยค่ะ ถัดจากโครงการไปจะเป็นอาคารพักอาศัย 5 ชั้น และฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็น Titanco International เป็นบริษัทจำหน่ายปั๊มน้ำแนวราบเตี้ยๆ ไม่บังวิวโครงการและไม่มีเสียงดังจากอาคารมารบกวน
โครงการอยู่บริเวณต้นซอยเอกมัย 12 สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น และมีตึกสูงอยู่รอบๆ ในระยะประมาณ 60 – 80 เมตร โดย
ทิศเหนือ ติดกับกลุ่มอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ของโครงการ Park Land ที่มีความสูงเสมอชั้นลานจอดรถไม่มีตึกสูงมาบังวิว
ทิศตะวันออก ติดกับอาคารสูง 5 ชั้น ซึ่งจะไม่โดนบังวิวในระยะประชิด แต่จะเห็นตึกของคอนโด Ceil By Sansiri สูง 7, 14, 17 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ ซอยเอกมัย 12 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็น Titanco International บริษัทจำหน่ายปั๊มน้ำ ในทิศนี้จะไม่มีอาคารสูงมาบังวิวในระยะประชิด
ทิศตะวันตก ติดกับอู่ซ่อมรถ ที่อาจมีเสียงจากการซ่อมรถดังออกมาบ้างเป็นระยะๆ โดยห้องทางทิศนี้จะไม่โดนบังวิวในระยะใกล้ แต่จะจ๊ะเอ๋กับตึก The Alcove สูง 23 ชั้น ที่มีความสูงไล่เลี่ยกันเลย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Health Land ~260 เมตร
- Arena 10 ~ 280 เมตร
- Big C เอกมัย ~ 450 เมตร
- อาคารสำนักงาน S.S.P. Tower ~500 เมตร
- J Avenue ~ 800 เมตร
- อาคารสำนักงานสรชัย ~ 850 เมตร
- Park Lane ~1.8 กิโลเมตร
- Gateway เอกมัย ~1.4 กิโลเมตร
- Major Cineplex เอกมัย ~ 1.5กิโลเมตร
- Charn Issara Tower 2 ~ 1.7 กิโลเมตร
โครงการ M ทองหล่อ เป็นคอนโด High Rise 22 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 173 ยูนิต ออกแบบมาในสไตล์ Futuristic ตัวอาคารใช้โทนสีขาว-น้ำเงิน-ฟ้า มีการจัดฟังก์ชั่นอาคารให้ชั้น 1-5 เป็นชั้นจอดรถของอาคาร ส่วนชั้น 6-20 เป็นชั้นพักอาศัยของโครงการทั้งหมด โดยจะมีจุดเด่นที่ชั้น 6-7 ที่มีห้องแบบ 1 Bedroom Duplex และ ชั้น 17-18 ที่มีห้องแบบ 2 Bedroom Duplex เป็นแบบ Glass House ส่วน Facilities ของที่นี่จะอยู่บนชั้น 21-22 เป็นแบบ Stack Floor บนชั้นบนสุดของอาคารทำให้สามารถพักผ่อนพร้อมมองวิวมุมสูงได้ด้วย ความน่าสนใจอีกอย่างคือโครงการนี้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งเราไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยในคอนโดทั่วไปนะคะ
ทางเข้า-ออกหลักของโครงการอยู่ติดกับซอยเอกมัย 12 มี Drop Off อยู่ด้านหน้าอาคาร การเดินรถเป็นแบบ Two Way สามารถวนซ้ายเพื่อขึ้นไปยังที่จอดรถชั้น 2-5 หรือจะวนขวาเพื่อไปจอดรถใต้อาคารก็ได้โดย โดยถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตร สามารถขับสวนกันได้สบายๆค่ะ
การเดินเข้าอาคารไม่เข้าตรงๆเหมือนอาคารทั่วไป แต่จะผ่านประตูแบบเอียงเพื่อลดความเร็วของคนที่เดินเข้าอาคาร ด้านหน้าเป็น Outdoor Lobby ที่มีเก้าอี้วางไว้ให้นั่งรอชั่วคราว เมื่อเข้ามาภายในอาคารจะเป็น Main Lobby ที่มีฝ้าเพดานสูง ทางซ้ายมือเป็นโถงทางเดินไปยังส่วนนิติบุคคล ห้องน้ำ บันไดหนีไฟและโถงลิฟต์ โดยโครงการให้ลิฟต์มาทั้งหมด 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 87 : 1 ซึ่งหนาแน่นน้อยดี ส่วนด้านหลังอาคารจะเป็นส่วนของงานระบบและที่จอดรถทั้งหมด
ชั้น 2-5 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมด โดยโครงการให้ที่จอดรถมาประมาณ 86 คัน หรือคิดเป็น 50 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ทางเข้าโครงการจะติดกับซอยเอกมัย 12 รั้วด้านหน้าทางใช้โทนสีขาว-ดำ-ฟ้า โดยการเล่นกระเบื้องลายหินอ่อน สลับสีดำ และมีแผ่นอะคลีลิคสีฟ้าด้านบนค่อนข้างเด่น ส่วนทางขวามือสุดเป็นป้อม รปภ. ที่เป็นส่วนหนึ่งของรั้วโครงการ มีป้าย M ทองหล่อ 10 ให้เห็นชัดเจน ส่วนตัวอาคารด้านหน้ามี Design เรียบๆ บริเวณชั้น1 ของอาคารมีการยกเพดานสูงทำให้โถงทางเข้าโดดเด่น ส่วนชั้น 2-5 ที่เป็นชั้นจอดรถก็มีการตกแต่ง Facade ด้วยระแนงเหล็กสีดำและมีติดแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นลูกเล่นเข้า Theme กับตัวอาคาร
พื้นทางเข้าโครงการมีระดับสูงกว่าพื้นถนน ปูด้วยคอนกรีตแสตมป์สีเทาและติดกระเบื้องสีดำเป็นลูกเล่นที่พื้น ประตูทางเข้า-ออก จะมีการติดรั้วกั้นไม้กระดกที่เข้า-ออก ด้วยคีย์การ์ดให้ในอนาคต เมื่อเข้าโครงการมาจะเจอตัวอาคารอยู่ตรงกลาง และมีทางเดินรถล้อมรอบ โดยเราสามารถขับรถสวนกันได้เป็น Two Way
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาจะเจอ Drop Off อยู่ตรงรั้วด้านหน้าโครงการ เดี๋ยวเราจะพาเดินดูรอบๆอาคารกันก่อนนะคะ
เดินเลาะมาด้านข้างอาคาร จากพื้นถนนคอนกรีตแสตมป์จะเปลี่ยนเป็นพื้นคอนกรีตธรรมดา ทางซ้ายมือเป็นรั้วปูนทึบสูงประมาณ 3 เมตร สามารถปกปิดสายตาได้จากอู่ซ่อมรถข้างเคียงพอดี ส่วนทางขวามือเป็นที่จอดรถใต้อาคาร
เดินมาอีกหน่อยจะเจอทางขึ้นที่จอดรถอยู่ทางขวามือ ซึ่งวันที่เราไปถ่ายยังมีช่างมาเก็บงานอยู่นิดหน่อยจึงยังไม่เรียบร้อยในบางจุดนะคะ
เมื่อเข้ามาด้านในทางเข้าที่จอดรถจะวิ่งสวนกันแบบ Two way แบบนี้ค่ะ
เดินอ้อมมายังด้านหลังอาคารจะทางขวามือจะเป็นห้องเก็บของ ส่วนทางซ้ายมือจะติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นของ Park Land ที่มีความสูงเท่ากัยชั้นจอดรถ ดังนั้นห้องพักอาศัยที่อยู่ฝั่งนี้จึงไม่โดนบังวิวในระยะประชิดค่ะ
เดินเลียบอาคารมาเรื่อยๆก็จะทะลุมายังหน้าโครงการแล้วค่ะ ส่วนใต้อาคารทางขวามือก็จะมีที่จอดรถข้างๆ Lobby ให้ด้วย
ทางเข้า Main Lobby ค่อนข้างเด่นด้วยฝ้าเพดานสูง หน้าอาคารมีชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้นั่งด้านนอกได้ ส่วนทางเข้าอาคารเป็นประตูทางเข้าแบบเฉียง เวลาจะเข้าอาคารต้องเอียงขวานิดนึงเพื่อเปิดประตู
บรรยากาศภายใน Main Lobby สไตล์ Luxuryโทนสีขาว-ทอง ผนังห้องปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสลับกับกระจกสีทอง และฝ้าเพดานเล่นลายซ่อนไฟสีเหลือง มีส่วน Reception และชุดโต๊ะเก้าอี้นั่ง 3 ชุด โดยวันที่เราไปเก็บข้อมูลโครงการยังใช้ Lobby เป็นสำนักงานขายด้วย จึงมีโมเดลโครงการและภาพยูนิตห้อง Type ต่างๆเพื่อรองรับลูกค้าค่ะ ทางซ้ายมือถัดจากโมเดลจะเป็นทางเดินไปยังโถงลิฟต์และส่วนต่างๆของอาคาร
เข้ามายังโถงทางเดินจะปูด้วยผนังและพื้นลายหินอ่อนทั้งหมด ดูขาวสะอาดตา ที่ผนังทางขวามือจะติดตั้งตู้จดหมายของห้องพักทั้ง 173 ยูนิตไปตลอดทางเดิน มองไปข้างหน้าทางขวามือจะเป็นทางเข้าห้องนิติบุคคลและห้องน้ำ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าบันไดหนีไฟ โถงลิฟต์และสุดทางจะมีประตูออกไปยังลานจอดรถได้ค่ะ
เข้ามายังโถงลิฟต์ที่บุผนังลายไม้ และซ่อนไฟสีเหลืองบรรยากาศจะดูขรึมกว่าข้างนอกหน่อย แต่ยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดีในเวลากลางวัน โครงการให้ลิฟต์มา 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 87 : 1 ถือว่าหนาแน่นไม่มากนะ
ภายในโถงลิฟต์เป็นโทนสีน้ำตาลปูพรมให้ด้วย เวลาเข้าไปยืนจะรู้สึกเหมือนอยู่โรงแรมเลย
แผงปุ่มลิฟต์ค่อนข้างใหญ่ มีหลายฟังก์ชั่น รวมทั้งมีอักษรเบลล์ให้ตามมาตรฐาน
ชั้น 6 จะเริ่มเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น โถงทางเดินในอาคารเป็น Double Coridor มีช่องแสงที่ปลายทางเดินฝั่งหน้าโครงการและตรงโถงลิฟต์ ที่ชั้น 6 จะมีห้องพักทั้งหมด 13 ยูนิต โดยห้องเด่นๆในชั้นนี้คือห้องแบบ 1 Bedroom Duplex 4 ยูนิตในกรอบสีแดง เป็นลักษณะห้อง 2 ชั้นแบบ Glass House โดยตำแหน่งของห้องจะอยู่ตำแหน่งหัวมุมทิศใต้และทางทิศตะวันออกซึ่งจะร้อนน้อยกว่าอยู่ในทิศอื่นๆ ห้อง Type นี้จะเหมาะกับคนที่ชอบห้องแบบ Double Volume ที่มี Space ค่อนข้างโปร่ง
นอกจากนี้ยังมีห้องแบบ 1 Bedroom 29 ตร.ม.จำนวน 3 ยูนิตอยู่ที่แปลงกลางทางทิศตะวันตกที่จะร้อนกว่าห้องทิศอื่นในตอนบ่าย แต่ถ้าใครไม่ค่อยอยู่ห้องช่วงกลางวันอยู่แล้วก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักค่ะ และห้องแบบ 1 Bedroom 32-35 ตร.ม. จำนวน 4 ยูนิต อยู่ตรงหัวมุมทางทิศตะวันตกและทิศเหนือ ส่วนห้อง Type ใหญ่อย่างห้อง 2 Bedroom ขนาด 55-57 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต อยู่ทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทิศที่สบายๆไม่ร้อน
ชั้น 7 มีการวางผังอาคารเหมือนชั้น 6 เป๊ะๆ จะต่างกันเพียงแต่ในกรอบสี่แดงจะเป็นพื้นที่ชั้น 2 ของห้องแบบ 1 Bedroom Duplex เท่านั้น
ชั้น 8 จะมีห้องพักทั้งหมด 13 ยูนิต มีการเปลี่ยนแปลงจากชั้น 6-7 เล็กน้อย โดยห้องแบบ 1 Bedroom Duplex ทั้ง 4 ยูนิต ถูกเปลี่ยนเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 53.9 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิตทางทิศใต้ และห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.จำนวน 3 ยูนิต ที่แปลงกลางทางทิศตะวันออก โดยห้องทั้ง 4 ยูนิตนี้จะมีสวนที่นอกระเบียงด้วย นอกนั้นก็มีการจัดวางห้องพักเหมือนชั้น 6-7 ทั้งหมดค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 9-16 จะมีการวางผังในลักษณะเดียวกันทั้งหมด ห้องพักมีจำนวน 13 ยูนิตต่อชั้น การวางผังเหมือนชั้น 8 ทุกประการ จะต่างกันก็คือไม่มีห้องไหนที่มีสวนที่ระเบียงแล้ว
ชั้น 17 มีห้องพักทั้งหมด 11 ยูนิต โดยเปลี่ยนให้ห้องหัวมุมทางทิศใต้ในกรอบสีแดงเป็นห้องแบบ 2 Bedroom Duplex ที่เป็นห้อง Glass House 2 ชั้น เป็นห้องยูนิตพิเศษที่ค่อนข้างโดดเด่นและทั้งโครงการมีเพียง 2 ห้อง
ขึ้นมาที่ชั้น 18 มีห้องพักทั้งหมด 11 ยูนิต ในกรอบสีแดงจะเป็นพื้นที่ชั้น 2 ของห้องแบบ 2 Bedroom Duplex
ชั้น 19 มีห้องพักทั้งหมด 11 ยูนิต การวางผังห้องเหมือนชั้น 17-18 ทุกประการ แต่จะต่างกันที่ห้องหัวมุมทางทิศใต้ในกรอบสีแดงเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 57.72 ตร.ม. และ 61.59 ตร.ม.
ขึ้นมาที่ชั้น 20 ซึ่งเป็นชั้นสูงที่สุดของโซนห้องพักอาศัย โดยในชั้นนี้จะเป็นห้อง Penthouse ทั้งชั้นจำนวน 3 ยูนิต โดยห้องที่อยู่ทางทิศใต้ฝั่งซอยเอกมัย 12 จะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดขนาด 166.32 ตร.ม.ซึ่งพิเศษตรงที่มีสวนหน้าห้องให้ด้วย
โถงทางเดินภายในอาคารใช้โทนขาว-เทาออกน้ำตาล บนฝ้าเพดานซ่อนไฟ Warm white ตลอดทางเดิน
ชั้น 21 เป็น Top Floor Facilities ที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำที่มี Sunken Seat, Onsen, Kid’s club, ห้องน้ำ, ห้องซักรีด, สวน และโซนบาร์บีคิว
ส่วนชั้น 22 จะประกอบด้วย Pool Lounge, Fitness และ Sky Lounge ที่สามารถมองวิวได้รอบและมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น 21 ได้ด้วย
ภาพรวม Facilities ของโครงการจะเป็นลักษณะ Stack Floor ที่ชั้น 21-22 ซึ่งข้อดีของการนำ Facilities มาไว้ชั้นบนสุด คือเราสามารถใช้ Facilities ต่างๆพร้อมกับได้วิวจากยอดตึกไปด้วย นอกจากนี้การวางสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ไว้ที่ชั้น 21 ทำให้ห้องในชั้น 22 อย่าง Sky Lounge ได้วิวสระว่ายน้ำไปด้วย
เราเริ่มจากการขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 21 กันค่ะ
ออกจากโถงลิฟต์ มองไปยังขวามือจะมี Day Bed 3 ตัว ที่วางอยู่บน Step ของสระว่ายน้ำ โดยขาของ Day Bed จะยังอยู่ในน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนนอนเล่นอยู่ในสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool
เมื่อเข้ามาดูที่ขอบสระว่ายน้ำใกล้ๆจะเห็นว่าโครงการติดตั้งราวกันตกกระจกนิรภัยสูง 1 เมตร เพิ่มเข้ามาให้เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านและด้วยรูปแบบของสระว่ายน้ำที่ต้องปล่อยให้น้ำ Overflow ลงไปด้านล่าง จึงมีการติดตั้งกระจกนิรภัยอีกชั้นหนึ่งเพื่อกันน้ำกระเด็นและเป็นตัวกันตกได้อีกชั้นนึงด้วยค่ะ
ข้างๆกันจะมี Onsen แบบ Outdoor ให้นอนแช่ตัวกันด้วย
ข้างๆสระว่ายน้ำมี Sunken Seat ไว้ให้นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำได้
ถัดไปเป็นส่วนของโซนบาร์บีคิว ที่โครงการติดตั้งเคาน์เตอร์ที่มีเตาพร้อมอ่างล้างมือไว้ให้เรียบร้อย ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์บีคิวเป็นราวกันตกกระจกนิรภัยทั้งหมด ทำให้แม้เราจะปาร์ตี้อยู่ที่โซนบาบีคิวก็ยังสามารถเห็นวิวได้ชัดเจน ทางซ้ายมือเป็นส่วนของห้องซักรีด
โดยด้านในจะมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมาให้ 2 เครื่อง หากใครขึ้นมาซักผ้าตรงนี้ระหว่างรอผ้าก็สามารถไปว่ายหรือฟิตเนสก่อนก็ได้นะ 🙂
ข้างๆห้องซักผ้าจะเป็นห้องน้ำแยกชายและหญิง
เข้ามาดูภายในห้องน้ำหญิงจะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน มีอ่างล้างหน้า 3 อ่าง ล็อกเกอร์ ห้องน้ำ และห้อง sauna ส่วนของผู้ชายจะเป็น Steam นะคะ
ถัดจากห้องน้ำไปจะมีบันไดหนีไฟ Kid’s room และโถงลิฟต์
ภายในห้อง Kid’s room จะตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงินเข้ม มีบ่อลูกบอลสีสดใสพร้อมสไลด์เดอร์ โดยขอบบ่อจะบุด้วยเบาะนิ่มโดยรอบเพื่อกันกระแทก ข้างๆกันมีชุดโต๊ะเก้าอี้ไซส์เด็กเล็ก 2 ชุด พร้อมของเล่น
มองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่าหน้าต่างและประตูเป็นกระจกใสช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าได้ดีในตอนกลางวัน จากห้องนี้สามารถมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำได้ด้วย
เราขึ้นลิฟต์มาดูที่ชั้น 22 กันต่อนะคะ
ออกจากโถงลิฟต์มาจะเป็น Corridor ทางเดินที่มีราวกันตกกระจกกระจกนิรภัยที่สามารถมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและวิวรอบๆได้ตลอดทางเดิน โดยทางเดินนี้จะพาไปยัง Pool Lounge, Fitness และ Sky Lounge
ภายในห้อง Pool Lounge ตกแต่งด้วยโทนสีขาว-น้ำตาล และซ่อนไฟสีน้ำเงินดูเรียบขรีม มีโต๊ะพูลให้ 1 ตัว พร้อมที่เก็บไม้และโซฟายาว Built-in ให้นั่งรอเล่นได้
ถัดไปเป็นห้อง Fitness ที่บรรจุเครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่องพร้อมกระสอบทราย 2 จุด โดยห้องนี้จะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับ Sky Lounge ทางขวามือ ที่ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบทึบ
ขณะที่เล่นเครื่องเล่นเราสามารถมองวิวทางทิศเหนือ หรือวิวเมืองฝั่งเพชรบุรีได้
ที่ผนังทึบรอบห้องจะเป็นกระจกเงาเต็มผนัง ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นและทำให้สามารถส่องตัวเองขณะออกกำลังกายได้ด้วย
ข้างๆกันเป็นประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่าง Fitness กับห้อง Sky Lounge
เมื่อเปิดประตูมาจะเจอ Sky Lounge ที่เป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถใช้เป็นที่นั่งเล่น ประชุม หรือจัดงานปาร์ตี้เล็กๆได้ จุดเด่นของห้องนี้คือบรรยากาศค่อนข้างโปร่ง สามารถมองวิวเมืองจากมุมสูงได้รอบ เนื่องจากผนังห้องเป็นบานกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน
ถัดมาเป็นพื้นที่ Sky Lounge ที่เชื่อมต่อกัน ภายในห้องชุดโต๊ะเก้าอี้ 2 ชุด พร้อม Sunken Seat สามารถมองวิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทได้
เมื่อนั่งอยู่ที่ Sunken Seat จะได้มุมมองแบบนี้
มาดูวิวจากชั้นดาดฟ้าของ M ทองหล่อ 10 กันบ้างค่ะ วิวทางทิศเหนือ จะเห็นวิวโซนเอกมัยค่อนไปทางเพชรบุรี ไม่มีตึกสูงมาบังวิวในระยะประชิด โดยอาคารที่อยู่รอบๆจะเป็นอาคารแนวราบ คอนโด Low Rise และอพาร์ทเม้นท์ ถ้ามองออกไปจะเห็นตึกสูงบนถนนเพชรบุรีที่อยู่ในระยะไกล
วิวทางทิศตะวันตก จะจ๊ะเอ๋กับคอนโด The Alcove สูง 23 ชั้น
วิวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นตึก Modern Town เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าที่อยู่บนถนนเอกมัย
มองลงไปด้านล่างจะเห็นแยกที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนเอกมัย, ซอยเอกมัย 12 และซอยทองหล่อ 10
วิวทางทิศใต้ จะเห็นวิวเอกมัยค่อนไปทางสุขุมวิท ที่มีอาคารสูงหนาแน่น
ส่วนวิวทางทิศตะวันออก จะเห็นตึกของ Ceil By Sansiri คอนโดสูง 7, 14 และ 17 ชั้นจากแสนสิริ ในระยะใกล้ ส่วนอาคารสูงสีขาว-ส้ม ที่อยู่ถัดไปจะเป็นคอนโด Oriental Tower
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6×17 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อม Sunken Seat
- Onsen
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
- Lobby
- Mail Box
- ที่จอดรถซุเปอร์ไบค์
- ลานจอดจักรยาน
- ลานล้างรถ
- ห้องสตรีมและซาวน่า
- ห้องซักผ้า
- Kid’s club
- ลานบาร์บีคิว
- ลานอาบแดด
- ลานจัดกิจกรรม
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
- Pool Lounge
- Sky Lounge
- Shuttle Bus รับส่ง BTS เอกมัย
- Wi-Fi ที่ส่วนกลาง 24 ชม.
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 87 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 86 คันคิดเป็น 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องพักของโครงการ M ทองหล่อ มีแบบห้องค่อนข้างหลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความต้องการใช้พื้นที่ โดยห้องพักประกอบด้วย
- 1 Bedroom Suite : ขนาด 29-29.8 ตร.ม. จำนวน 42 ยูนิต
- 1 Bedroom : ขนาด 30.94-35.97 ตร.ม. จำนวน 72 ยูนิต
- Duplex 1 Bed : ขนาด 66.45 – 67.56 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
- 2 Bedroom : ขนาด 50.6 – 61.59 ตร.ม. จำนวน 50 ยูนิต
- Duplex 2 Bed : ขนาด 93.93 – 116.68 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
- 3 Bedroom(Penthouse) : ขนาด 129.43 – 166.32 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
โครงการขายแบบ Fully Furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ซึ่งรายละเอียดเราจะบอกเพิ่มเติมในผังห้องแบบต่างๆ โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูมีทั้งหมด 2 แบบ คือห้อง 1 Bedroom Suite ขนาด 29.00 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.00-57.50 ตร.ม. ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 32.5 ซึ่งเป็นห้องขนาดกลาง เราจะนำมาให้ดูพอเป็นน้ำจิ้ม หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่สำนักงานขายค่ะ
ห้องแรกที่เราจะพาไปดูกันคือห้อง 1 Bedroom Suite ขนาด 29.35 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดในโครงการ เหมาะกับการพักอาศัย 1-2 คนมีฟังก์ชันลงตัว และมีครบครันตามความต้องการพื้นฐาน โดยแยกส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นไว้ซีกซ้าย และส่วน Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำไว้ทางขวาชัดเจน ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนเพื่อความเป็นส่วนตัว เช่น คนนึงสามารถนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ขณะที่อีกก็นอนอยู่ในห้องนอนได้ไม่รบกวนกัน ส่วนของระเบียงจะเต็มพื้นที่หน้ากว้างของห้อง มีการกั้นที่วาง CDU แยกออกมาเป็นสัดส่วน ทำให้ระเบียงไม่ร้อนขณะเปิดแอร์และมีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้น
รายการเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่ให้ประกอบด้วยโซฟา โต๊ะกลาง โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ เตียง และโต๊ะหัวเตียง
Digital Door Lock ที่โครงการให้มาเป็นของ Samsung
โครงการให้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสีดำ
โต๊ะรับประทานอาหารที่โครงการให้เป็นแบบโต๊ะสูง พร้อมเก้าอี้ทรงสูง 2 ตัว ตัวโต๊ะสามารถพับขึ้นมาช่วยเพิ่มพื้นที่รับประทานอาหารได้อีก
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นโต๊ะวางทีวีที่โครงการให้มาด้วย แต่ไม่รวมชั้นวางของติดผนังเหนือทีวีนะคะ ข้างๆกันเป็นทางเข้าห้องครัวเปิดที่โครงการจะ Built-in ชุดครัว พร้อมตู้เก็บของมาให้
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา ปิดคิ้วด้วยลามิเนตเรียบร้อย
ตรงข้างประตูทางเข้าจะ Built-in ตู้สูงถึงฝ้าเพดาน ซึ่งเราสามารถใช้วางรองเท้า เก็บร่ม หมวก หรือของต่างๆให้เป็นเสมือน “ตู้เตรียมตัว” ก่อนเข้า-ออกห้องก็สะดวกดี
ข้างๆกันเป็นครัว Built-in รูปตัว L ที่โครงการติดตั้งมาให้แบบนี้เลย เคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านบนและด้านล่างมีหน้าบานปิดผิว Hi-gloss ด้านบนเป็นตู้สูงถึงฝ้าเพดานสามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีลิ้นชักใส่ของ มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ พื้นที่ใต้ซิ้งค์ล้างจานติดตั้งถังขยะไว้ให้ ข้างๆกันเป็นช่องว่างสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าที่ติดตั้งงานระบบไว้ให้เรียบร้อย
Top ครัวเป็นหินควอทซ์ ติดตั้งอ่างล้างจานรูปทรงสี่เหลี่ยมพร้อมเตาและที่ดูดควัน ตรงผนังเคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยกระเบื้อง ที่สามารถทำความสะอาดคราบสกปรกขณะล้างจานหรือทำอาหารได้ดี ตำแหน่งของซิ้งค์ล้างจานอยู่ตรงหัวมุมพอดีทำให้การยืนล้างจานอาจไม่ค่อยถนัดนักและจุดวางเตาอยู่ทางซ้ายมือมีที่วางของรอบๆน้อยไปหน่อย หากใครชอบทำอาหารชุดใหญ่ มีเครื่องปรุงและวัตถุดิบเยอะๆนี่อาจจะไม่สะดวก
เตาและที่ดูดควันให้ของ Electrolux
อ่างล้างจานรูปทรงสี่เหลี่ยมสแตนเลส พร้อมก็อกน้ำทรงโค้ง
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง
ถัดไปเป็นห้องนอนที่มีการกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยในการแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้เป็นสัดส่วน สามารถใช้งานพื้นที่ทั้งสองไปพร้อมๆกันได้ เช่น ขณะที่คนนึงนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ในห้องนั่งเล่น อีกคนนึงก็นอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนได้เป็นต้น
โดยประตูบานเลื่อนนี้จะมีการติดตั้งรางเลื่อนไว้ด้านบน ทำให้ที่พื้นไม่มีรางเลื่อนมาเกะกะเวลาเดินเข้า-ออกห้อง
เข้ามาในห้องนอนขนาด 2.4 x 2.95 เมตร โครงการให้เตียง โต๊ะหัวเตียง และตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มาให้
พื้นที่ปลายเตียงเป็นห้องน้ำ ข้างๆกันเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in
เมื่อเปิดตู้ออกมาจะเป็นการเปิดไฟอัตโนมัติสี Warm White ช่วยให้หาเสื้อผ้าได้ง่ายในตอนกลางคืน ภายในตู้เสื้อผ้าก็มีฟังก์ชั่นครบตามลักษณะของตู้เสื้อผ้าทั่วไปที่มีราวแขวนผ้าและลิ้นชักเก็บของให้
ถัดไปเป็นประตูห้องน้ำแบบสำเร็จรูปลายไม้ มือจับเป็นแบบสแตนเลสก้านโยก
กระจกเงาและตู้ด้านล่างอ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด สามารถเปิดออกมาใส่ของได้ทั้งคู่
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้และมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมไฟซ่อนใต้ผนังที่ให้แสงสว่างกำลังดี
ถัดไปจะเป็นระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสีดำที่ค่อนข้างแน่นหนาและหนักพอสมควร เพื่อจะสามารถกันลมจากตึกสูงได้ดี
ที่กรอบกระจกภายนอกจะมีมือจับที่มีลักษณะเป็นครีบแบบนี้ให้ที่ด้านนอก ช่วยให้เปิด-ปิด ประตูได้ง่ายขึ้น
ที่บานประตูมีการติดตั้งสักหลาดกันกระแทกให้เรียบร้อย
ที่พื้นประตูมีการยกธรณีประตูและรางเลื่อนขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลจากระเบียงเข้ามาในห้อง พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 3 x 0.8 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
มองไปที่ระเบียงด้านหนึ่งจะมีที่ว่าง สามารถวางของหรือใช้พื้นที่ได้อเนกประสงค์ เช่น ปลูกต้นไม้
มองไปฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นที่วาง Compressor แบบหันลมร้อนออกนอกอาคาร มีประตูเปิด-ปิด ไปเซอร์วิสได้เป็นสัดส่วนดีค่ะ ซึ่งการจัดวางแบบนี้มีข้อดีคือทำให้ระเบียงไม่ร้อนเวลาเปิดแอร์และสามารถใช้พื้นที่ระเบียงทำอย่างอื่น เช่น จัดสวน วางเก้าอี้นั่งเล่น เป็นต้น
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง
วิวจากระเบียงห้องนี้จะเห็นตึก The Alcove และตึก Modern Tower ค่ะ
ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 32.48 ตารางเมตร เหมาะกับการพักอาศัย 1-2 คน การจัดวางฟังก์ชั่นของห้องนี้จะให้ส่วน Service อย่างครัวและห้องน้ำมาไว้ติดกับโถงทางเดิน และให้ส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับหน้าต่างช่วยให้เห็นวิวได้ดี เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับห้องครัวเปิดและโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งมีข้อดีคือเวลาที่เราซื้อของกินเข้ามาก็สามารถเอามาวางจัดเตรียมที่ครัวได้เลย ถัดมาเป็นส่วนของ Living Area ที่มีระเบียงแยก CDU ให้เป็นสัดส่วนเหมือนกับห้องแบบแรก ถัดไปเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำให้ในตัวแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย โดยห้องนี้เราจะพาไปดูตัวอย่างพอเป็นน้ำจิ้ม ใครสนใจสามารถเข้าไปดูห้องจริงได้ที่โครงการค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่โครงการแถมให้ประกอบด้วย โซฟา โต๊ะกลาง โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ เตียง โต๊ะหัวเตียง โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ โต๊ะวางทีวี และเก้าอี้ Daybed ค่ะ
เข้ามาภายในห้องจะเจอครัวเปิดและ Living room ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนที่อยู่ทางขวามือ
มองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่าโครงการ Built-in ครัวรูปตัว L มาให้ทางขวามือ พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารแบบลอยตัว ส่วนทางซ้ายมือเป็นตู้วางรองเท้าที่โครงการ Built-in มาให้แบบนี้เลย
เข้ามาภายในห้องนอนขนาดกระทัดรัดที่โครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือและเก้าอี้ Daybed ติดริมหน้าต่าง
ถัดมาเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 55.55 ตร.ม. เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาดปานกลาง เหมาะกับการพักอาศัย 2-4 คน โดยโครงการวางฟังก์ชั่นให้ส่วน Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำอยู่ติดกับโถงทางเดิน และให้ส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอน 2 ห้องและห้องนั่งเล่นมาอยู่ติดกับหน้าต่างช่วยให้ Take View ได้ง่ายและแสงสว่างเข้าดี โดยเมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับห้องครัวปิดซึ่งมีข้อดีตรงที่เวลาทำอาหารแล้วกลิ่นจะไม่ไปรบกวนส่วนอื่นๆในห้อง ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหาร Living room และระเบียง ข้างๆกันเป็นโถงทางเดินไปสู่ห้องน้ำ ห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนใหญ่นี้จะมีระเบียงไว้ให้สำหรับเซอร์วิส CDU
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่โครงการแถมให้ประกอบด้วย โซฟา โต๊ะกลาง โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ เตียง โต๊ะหัวเตียง โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ โต๊ะวางทีวี และเก้าอี้ Daybed ค่ะ
เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอโถงทางเดินที่เป็นห้องครัวปิดที่เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหารและ Living room ซึ่งมีข้อดีตรงที่เวลาเราประกอบอาหาร กลิ่นจะไม่ไปรบกวนส่วนอื่นๆในห้อง
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นพื้นที่ครัวทั้งหมด ขนาด 1.95 x 3.5 เมตร ขนาดค่อนข้างกว้าง ทางขวามือเป็นตู้เก็บของอเนกประสงค์ ส่วนทางซ้ายมือเป็นชุดครัวที่โครงการ Built-in มาให้แบบนี้เลย
ชุดครัวมีลักษณะเป็นครัวยาว หน้าบานบุด้วย Hi-gloss ส่วน Top เคาน์เตอร์เป็นหินควอทซ์ ที่ผนังเคาน์เตอร์ปูด้วยกระเบื้องช่วยให้ทำความสะอาดง่ายดี ด้านบนเป็นตู้สูงถึงฝ้าเพดานสามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีลิ้นชักใส่ของ มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ พื้นที่ใต้ซิ้งค์ล้างจานติดตั้งถังขยะแบบไว้ให้ ส่วนทางขวามือสุดเป็นช่องว่างสำหรับวางตู้เย็นที่มีการติดตั้งเต้ารับไว้ให้เรียบร้อย
มือจับตู้ทั้งด้านล่างและด้านบนเป็นลักษณะนี้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นตู้อเนกประสงค์ที่ Built-in มาให้แบบนี้เลย โดยมีช่องว่างให้วางเครื่องซักผ้าฝาหน้าพร้อมติดตั้งงานระบบไว้ให้เรียบร้อย เมื่อเปิดตู้ออกมาจะเห็นว่ามีช่องเก็บของค่อนข้างเยอะ เราสามารถใช้เป็นตู้เก็บผ้า ของใช้ หรือใครจะใช้เป็นตู้สำหรับวางรองเท้า ร่ม หมวก หรือของที่ต้องใช้ประจำเวลาออกจากบ้านก็สะดวกดี เวลาเข้า-ออก ห้องจะได้หยิบเข้าหยิบออกได้ง่าย
ระหว่างห้องครัวกับ Living room จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เมื่อเลื่อนประตูออกมาจะได้ทางเดินที่กว้างพอดีกับช่องประตูเลย
พื้นห้องนั่งเล่นปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 12 มม. มีการปิดคิ้วรอยต่อระหว่างลามิเนตกับรางเลื่อนประตูเรียบร้อย
เข้ามาใน Living room ขนาดประมาณ 6 x 2.2 เมตร โดยโครงการแบ่งพื้นที่เป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นที่เชื่อมกับระเบียง
โครงการให้ชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาดประมาณ 4 ที่นั่ง มาให้
ถัดไปเป็นส่วนนั่งเล่นที่มีระยะดูทีวีประมาณ 1.9 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ
ถัดไปเป็นพื้นที่ระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน โดยระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.76 x 0.8 เมตร
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ราวกันตกเป็นราวเหล็กโปร่งทาสีดำ สูงประมาณ 1 เมตร
โดยห้องนี้อยู่ทางทิศตะวันออก เมื่อมองออกไปที่ระเบียงจะจ๊ะเอ๋กับคอนโด Ceil By Sansiri ค่ะ
จากระเบียงมองเข้ามาในห้องจะเห็นพื้นที่ห้องทั้งหมดตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และห้องครัว
ถัดมาเป็นโถงทางเดินไปยังห้องนอนเล็ก ห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่ เดี๋ยวเราจะพาไปดูทีละส่วนตามลำดับนะคะ
ห้องนอนเล็กมีขนาดประมาณ 2.4 x 3.6 เมตร ที่ผนังห้องติดตั้งหน้าต่างบาน Fix และบานกระทุ้ง ที่เป็นช่องเปิดกว้าง แสงธรรมชาติเข้าดี ช่วยให้ห้องขนาดกระทัดรัดดูกว้างขึ้นและได้วิวไปในตัว สำหรับห้องนี้โครงการจะให้เตียง โต๊ะหัวเตียง โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ และ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้
เตียงที่โครงการให้มาเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต แบบมีลิ้นชัก 2 ตอน สามารถเปิดออกมาใส่ของได้
พื้นที่ข้างเตียงจะ Built-in ตู้เสื้อผ้า และวางโต๊ะพร้อมเก้าอี้มาให้
โดยโต๊ะนี้จะมีลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อยได้ สามารถใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงมีระยะประมาณ 0.4 เซนติเมตร ระยะทางเดินค่อนข้างน้อย แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบติดผนังจะเหมาะสมที่สุด
ตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำขนาดประมาณ 1.4 x 1.6 เมตร ที่มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 3 ส่วน คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานเงา, โถสุขภัณฑ์ รวมทั้งห้องอาบน้ำที่มีฉากกั้นให้เรียบร้อย
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน มีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศและมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมไฟซ่อนใต้ผนังที่ให้แสงสว่างกำลังดี
ถัดไปเป็นห้องนอนใหญ่ ขนาดประมาณ 3.2 x 4.6 เมตร ที่โครงการจะให้เตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้ โต๊ะหัวเตียง รวมทั้ง Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนกับห้องนอนเล็กเลย
พื้นที่ปลายเตียงพื้นที่ปลายเตียงมีระยะประมาณ 0.55 เซนติเมตร ระยะทางเดินค่อนข้างน้อย แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบติดผนังแบบห้องตัวอย่างจะเหมาะสมที่สุด โดยที่ผนังจะมีหน้าต่างบานสูง 2 บาน ที่สามารถใช้เป็นทางออกไปเซอร์วิส CDU แอร์ที่ระเบียงได้
เริ่มจากหน้าต่างด้านใน จะเป็นหน้าต่างบานเปิดทรงสูงที่เป็นทั้งหน้าต่างและประตูได้ในตัว ระยะจากพื้นถีงเฟรมหน้าต่างประมาณ 0.50 เมตร เวลาจะเดินเข้า-ออก ก็ต้องยกขากันหน่อย โดยจุดมุ่งหมายของหน้าต่างตรงนี้จริงๆก็เพื่อเป็นทางไปเซอร์วิส CDU แอร์นั่นเอง
พื้นที่ข้างๆหน้าต่างจะเป็น CDU แอร์แบบหันลมร้อนออกนอกอาคาร มีประตูเหล็กกั้นเป็นสัดส่วนดี เวลาเรียกช่างมาซ่อมแอร์ก็ให้เปิดประตูออกเพื่อเซอร์วิสได้เลย
ถัดไปตรงมุมห้องจะเป็นเป็นผนังกระจกเข้ามุมสูงจรดฝ้าเพดาน บานหน้าต่างเป็นกระจก Fix และบานเปิดเดี่ยวทรงสูงที่เป็นทั้งหน้าต่างและประตูได้ โดยระยะจากพื้นถึงเฟรมหน้าต่างประมาณ 0.5 เมตร เหมือนหน้าต่างบานแรก
ออกมาที่ระเบียงขนาด 0.90 x 0.90 เมตร เป็นระเบียงขนาดกระทัดรัด สามารถออกมายืนรับลมชมวิวได้
ห้องนี้อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จึงจะได้วิวเอกมัยค่อนไปทางพระโขนง มีตึกอาคาร Facilities ของ Ceil By Sansiri มาจ๊ะเอ๋อยู่ข้างๆ ซึ่งทำให้ได้วิวสระว่ายน้ำไปด้วย ส่วนถ้ามองตรงไปก็จะเห็นที่พักอาศัยแนวราบ ไม่มีตึกสูงมาบังวิวในระยะประชิด
ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้เหมือนกับห้องอื่นๆ ข้างๆกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน มีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศและมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมไฟซ่อนใต้ผนัง โดยห้องนี้จะไม่มีพัดลมดูดอากาศ แต่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าและระบายอากาศไปในตัว
ปิดท้ายด้วยห้องแบบ 1 Bedroom Duplex ขนาด 66.45 – 67.56 ตร.ม. ที่มีจุดเด่นตรงที่เป็นห้อง Double Volume แบบ Glass House ใครอยากเห็นหน้าตาห้องนี้กันแบบเต็มๆ สามารถติดตามได้ในรายการคิด เรื่อง อยู่ โครงการ M ทองหล่อ 10 เร็วๆนี้ค่ะ 🙂
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 September 2016
- 1 Bedroom ชั้น 12 แบบ A3-3 ขนาด 29 ตร.ม. ราคา 4.77 ล้านบาท หรือ 164,482 บาท/ตร.ม. (ราคาพิเศษ 4.29 ล้านบาท หรือ 147,931 บาท/ตร.ม. ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2016)
- 1 Bedroom ชั้น 9 แบบ A2-2 ขนาด 32.74 ตร.ม. ราคา 5.4 ล้านบาท หรือ 164,935 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom ชั้น 6 แบบ B3-2 ขนาด 55.55 ตร.ม. ราคา 8.61 ล้านบาท หรือ 154,995 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom ชั้น 7 แบบ B3-1 ขนาด 57.54 ตร.ม. ราคา 9.27 ล้านบาท หรือ 161,105 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Bus ไปกลับ BTS เอกมัย
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 5% บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 12 เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ M ทองหล่อ 10 นี้ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย 12 ไม่ใช่ซอยทองหล่อ 10 ตามชื่อโครงการนะคะ โดยโครงการอยู่บริเวณต้นซอยเอกมัย 12 ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยทองหล่อ 10 ได้แค่ข้ามถนนเอกมัยไปก็ถึงแล้ว แม้ว่าเรื่องของการตั้งชื่ออาจจะทำให้สับสนได้ แต่ก็ไม่มีผลกับการให้คะแนนค่ะ
โครงการนี้มีจุดเด่นตรงที่อยู่ใจกลางย่านเอกมัย-ทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มี Community mall ร้านอาหาร และร้าน Hang out แบบ Hi End หลากหลาย ส่งผลให้ย่านนี้ชื่อเรื่องค่าครองชีพที่สูงตามไปด้วย คนที่เหมาะจะอาศัยอยู่ที่นี่อย่างแรกเลยจึงเป็นกลุ่มคนที่อยู่อาศัย หรือทำงานในย่านเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิท มีไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ ชอบเข้าสังคม ทานข้าวนอกบ้านหรือไปสังสรรค์กับเพื่อนบ่อยๆ ชอบคอนโดหน้าตาดี มี Facilities ครบ และมีงบประมาณเพียงพอ เพราะการซื้อคอนโดราคาเริ่มต้น 4 ล้านกว่าๆ ใจกลางเมืองที่ค่าครองชีพสูงแบบนี้ก็ต้องเป็นกลุ่มคนมีเงินในระดับนึง และอีกกลุ่มคือเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ที่หาคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยใกล้ๆโครงการจะมี รพ.สัตว์เจริญสุขให้พาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอได้ด้วย
ทำเลนี้ค่อนข้างสะดวกมากสำหรับคนใช้รถ โดยซอยเอกมัย 12 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนเอกมัยกับถนนปรีดี พนมยงค์ และเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับทองหล่อซอย 10 ที่ใช้ไปทะลุถนนทองหล่อได้ หรือจะใช้ไปถนนเพชรบุรี สุขุมวิท อโศก พร้อมพงษ์ พระราม 4 ก็สะดวก โดยจะมีซอยย่อยลัดเลาะไปได้หลายทาง สามารถใช้เป็นทางลัดหนีรถติดบนเส้นสุขุมวิทได้ ส่วนทางด่วนก็มีสองจุดหลักๆ ให้เลือกคือทางด่วนรามอินทราช่วงสุดถนนเอกมัย และทางด่วนอาจณรงค์ที่ต้องวิ่งทะลุซอยสุขุมวิท 40 ไปออกฝั่งกล้วยน้ำไทค่ะ โดยรวมแล้วการเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกดี แต่เสียดายให้ที่จอดรถมา 50% ถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับคอนโดราคานี้ที่ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ระยะห่างจากโครงการถึง BTS เอกมัย ประมาณ 1.3 กม. เป็นระยะที่อาจเรียกไม่ได้ว่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่ก็เป็นตัวเลือกที่สามารถใช้ได้ค่ะ โดยโครงการมีรถ Shuttle Bus รับส่งโดยไม่เสียค่าบริการเพิ่ม ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆก็มีแท๊กซี่ พี่วิน มีรถกระป๊อวิ่งผ่านในซอยเอกมัยตลอดทั้งวัน บอกกันไว้เผื่อเป็นตัวเลือกในเวลาเร่งรีบนะคะ
โครงการอยู่ติดกับอาคารพาณิชย์และตึกสูงไม่เกิน 5 ชั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องการโดนบังวิวในระยะประชิด แต่จะมีตึกสูงมาบังวิวในระยะประมาณ 60-80 เมตร ซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดมากนะคะ โดยทิศแรกคือทางทิศตะวันตก ที่จ๊ะเอ๋กับ The Alcove ที่มีความสูง 23 ชั้น ตัวอาคารจึงสูงคู่ขนานกันไปจนถึงชั้นดาดฟ้าเลย ส่วนทิศที่สองทางทิศตะวันออก คือตึก Ceil By Sansiri สูง 7, 14, 17 ชั้น ห้องที่อยู่ชั้น 18 เป็นต้นไปจึงจะได้วิวที่โล่งตาหน่อย แต่ก็จะมี Oriental Tower สูง 33 ชั้นที่มองเห็นกันในระยะที่ห่างออกไปหน่อย ส่วนวิวทางทิศเหนือและทางทิศใต้จะเป็นวิวที่ค่อนข้างเคลียร์ โดยเฉพาะทางทิศใต้จะเป็นตำแหน่งของห้องไซส์ใหญ่ แปลงมุม และห้องยูนิตพิเศษ เช่นห้อง Duplex ที่เป็น Glass House เพราะได้วิวดีและอยู่ด้านหน้าโครงการ
วัสดุของโครงการให้มาค่อนข้างดีและครบ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ประตูติดตั้ง Digital Doorlock ของ Samsung, ชุดครัว Built-in พร้อมซิ้งค์ล้างจาน เตา และที่ดูดควัน ท๊อปครัวหินควอทซ์, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำให้ American Standard ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร พร้อมไฟหลืบ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้ครบทั้งโซฟา โต๊ะกลาง โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ เตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือ เหมาะกับคนที่คอนโดสร้างเสร็จแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่เลยค่ะ
การออกแบบตัวโครงการบนพื้นที่ไร่เศษๆ ทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว อาคารสูง 22 ชั้นที่มีห้องพักแค่ 173 ยูนิต มีลิฟต์ให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 87: 1 ซึ่งมีความหนาแน่นน้อยมาก หน้าตาอาคารออกแบบมาในสไตล์ Futuristic ที่มีความเป็น Modern Luxury โทนสีขาว-เทา-ฟ้า อาคารมีการซ่อนไฟสีน้ำเงินเป็นคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมากบนชั้น Facilities และที่ตัวอาคาร จุดเด่นอย่างหนึ่งคืออาคารให้เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งน้อยมากที่จะเห็นคอนโดในสมัยนี้
การออกแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบ 1 Bedroom, 2 Bedroom, Duplex และ Penthouse ขนาดตั้งแต่ 29-166 ตร.ม. ซึ่งเป็นตัวเลือกที่หลากหลายตั้งแต่คนที่ต้องการอยู่อาศัย 1-2 คนไปจนถึงครอบครัวใหญ่ จุดเด่นของห้องพักที่นี่จะเน้นให้ห้องทุกห้องสามารถมองเห็นวิวได้ ฟังก์ชั่นของห้องทำออกมาได้ดีและลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มา โดยเฉพาะห้องครัวที่มีตู้เก็บของได้ครบและเยอะดี แต่ครัวของที่นี่จะเป็นครัวเปิดซะเป็นส่วนใหญ่ซึ่งไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ ส่วนห้องที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือห้อง Duplex แบบ Glass House ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่ค่อนข้างแปลกใหม่และเป็นสีสันของอาคารได้ดี
Facilities ของโครงการจะขึ้นไปอยู่บนชั้น 21, 22 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร จึงมีข้อดีตรงที่สามารถเห็นวิวมุมสูงได้ โดยชั้น 21 จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Onsen กลางแจ้ง, ลานบาร์บีคิว, Kid’s room และสวน เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะประกอบด้วย Pool Lounge, Fitness ที่เชื่อมต่อกับ Sky Lounge สามารถมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำและวิวเมืองรอบๆได้ การออกแบบให้ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยและห้องทุกห้องเป็นกระจกบานใหญ่ ก็เพื่อให้การใช้งาน Facilities ทุกส่วนสามารถ Take View ได้ทั้งหมด โดยรวมแล้วโครงการให้ส่วนกลางมาหลากหลาย ได้วิวดีและค่อนข้างเยอะสำหรับ 173 ยูนิต
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาโดยรวม 146,000 บาทต่อตารางเมตร, 8 September 2016
- ทำเล 7.25/10 – อยู่ช่วงต้นซอยเอกมัย 12
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ค่อนข้างสะดวก สามารถลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง แต่ให้ที่จอดรถมาน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ห่างจากรถไฟฟ้า 1.3 กม. และมี Shuttle Bus ให้
- วัสดุ 8/10 – ให้แบบ Fully Furnished ให้วัสดุค่อนข้างดีและลงตัวกับห้อง
- แบบ 8.5/10 – มีแบบให้เลือกหลายหลาย ฟังกัชั่นครบและลงตัว
- สาธารณูปโภค 8.75/10 –ให้มาเยอะ ที่ชั้น 21 และ 22 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร สามารถเห็นวิวมุมสูงได้ เลี้ยงสัตว์ได้ด้วย
- HIGH-LUXURY CLASS
- 7.64 / 10.00
BOTTOM LINE
M ทองหล่อ 10 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิท ที่มองหาคอนโดสร้างเสร็จแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ชอบคอนโดดีไซน์สมัยใหม่ เน้นใช้ Facilities ส่วนกลาง เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลักและหวังพึ่งพารถไฟฟ้าอยู่บ้าง มีงบประมาณระดับ 4.29 – 19 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 30,000 – 133,000 บาท/เดือน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )