[รีวิวฉบับที่ 2803] สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วกับโครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) คอนโด High Rise ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง เดินทางสะดวกสบายทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้น 4.99-14.99 ล้านบาท ซึ่งจะมีงานเปิดชมตึกใหม่ครั้งแรกในวันที่ 14-15 ก.พ. นี้นะคะ จะมีจุดน่าสนใจอะไรบ้าง ตามดูกันต่อได้เลย

  • ทำเลติดถนนพระราม 4 ใกล้ BTS และทางด่วน : เดินทางง่าย ใกล้ BTS พระโขนงเพียง 250 เมตร*  และห่างจากทางด่วน 2 สายเพียง 2 กิโลเมตร ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบคึกคัก
  • ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการ : บรรยากาศภายในห้องโปร่งสบาย แบ่งแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนและห้องนอนตรงชั้นลอยก็กั้นกระจกมาให้เรียบร้อย
  • เน้นความเป็นส่วนตัวสูง : มียูนิตน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน รวมถึงออกแบบโถงทางเดินSingle load Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ได้ความสงบภายในชั้นพักอาศัยมากขึ้น
  • ที่จอดรถ 59% : มีจำนวนเยอะกว่าเพื่อนบ้าน แต่เป็นแบบ Automatic Parking ทำให้จอดรถได้สะดวกสบายและปลอดภัย

ข้อมูลโครงการ

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4)  ณ วันที่ 14 มกราคม 2568

 ชื่อโครงการ   KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท พาร์ค พิลลาร์ อาร์4 จำกัด (ORIGIN VERTICAL CORPORATION COMPANY LIMITED)
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนพระรามที่ 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน   1-2-45.2 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต   380 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   18 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ที่จอดแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59%
 เริ่มก่อสร้าง   Q1 ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   Q4 ปี 2567
 ประเภทห้องพัก

  • ห้องฝ้าเพดานสูง (มีชั้นลอย) ทั้งโครงการ 
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.)
    – ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.)
    – ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.)
    – ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.)
    – ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 45 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 61 ตร.ม.)
    – ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 58 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 78 ตร.ม.)
    – ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  4.20 เมตร (ชั้น 1 : 2.00-4.20 เมตร / ชั้นลอย : 2.00 เมตร)
 ราคาเริ่มต้น  4.99-14.9 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  190,000 บาท/ตร.ม. (เฉพาะพื้นที่ตามโฉนด) /  140,000 บาท/ตร.ม. (รวมพื้นที่ชั้นลอย)
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1489

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.713234, 100.591576
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • ทำเลติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง สามารถเดินทางไปโซนธุรกิจทั้งสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อได้ง่าย
  • ใกล้ทางด่วน 2 สายในระยะ 2 กิโลเมตร ทั้งทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานคร
  • เดินไป BTS พระโขนงได้ มีระยะเพียง 250 เมตร* ถือเป็นระยะที่เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆ
  • ใกล้ Summer Hills และ W District ระยะ 300 เมตร หาซื้อของกินของใช้สะดวก

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 4 เกือบถึงแยกพระโขนงเลยค่ะ ตัวโครงการจึงมีระยะเดินไป BTS พระโขนงเพียง 250 เมตร* โดยอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งเข้าเมืองจึงไปยังโซนสีลม สาทรได้ง่าย รวมถึงมีจุดกลับรถห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร เราจึงกลับรถเพื่อไปยังเส้นถนนสุขุมวิทขับไปทางสยาม ชิดลม เอกมัยหรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาได้สบาย

สำหรับทำเลพระราม 4 ถือเป็นทำเลเก่าแก่ที่มีผู้คนอยู่อาศัยมายาวนาน แต่ปัจจุบันมีความอุดมสมบูรณ์ที่ขยายมาจากโซนพระราม 4 และเอกมัย ทำให้มีอาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้น เริ่มมีความคึกคักมากขึ้นหลังจากมี Community Mall อย่าง Summer Hills และ W District มาเปิดตรง BTS สถานีพระโขนง

ทำเลนี้จึงเหมาะกับคนอยากอาศัยอยู่ใกล้ๆตัวเมือง เพราะสามารถเดินทางไปทำงานในเมืองอย่างโซนสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อได้ไม่ยาก แต่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่พักอาศัยโซนใกล้เคียงอย่างอโศก, พร้อมพงษ์และเอกมัยนั่นเอง

Image 1/2
ทางพิเศษฉลองรัช

ทางพิเศษฉลองรัช

หากเราจะขึ้นทางด่วนก็ใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัช ห่างจากโครงการประมาณ 1.9 กิโลเมตร ทางขึ้นอยู่ตรงสะพานข้ามคลองพระโขนง ต้องขับเลยสุขุมวิท 71 ไปเล็กน้อย ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 9, ลาดพร้าว และรามอินทราได้ อีกเส้นทางคือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าแยกกล้วยน้ำไทและจะเจอกับจุดขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนพญาไทหรือจตุจักรได้ด้วย

อย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าโครงการนี้ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงประมาณ 250 เมตร* ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเดินไปใช้งานได้สบาย แต่จะต้องข้ามทางม้าลายด้วย ซึ่งเราสามารถข้ามทางม้าลายที่อยู่ห่างจากโครงการ 60 เมตรหรือตรงแยกพระโขนงได้ รวมถึงสามารถเข้าจากซอยสุขุมวิท 46 แล้วมาข้ามทางม้าลายก็ได้เหมือนกัน มีระยะประมาณ 270 เมตร

Image 1/4
ภาพบรรยากาศ BTS พระโขนง

ภาพบรรยากาศ BTS พระโขนง

ภาพบรรยากาศโดยรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) บริเวณใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแถวตลอดแนวถนนพระราม 4 รวมถึงมีอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงหลายแห่ง ทำให้บรรยากาศทำเลค่อนข้างคึกคัก มีคนเดินอยู่ตลอดโดยเฉพาะช่วงเวลาเช้า-เย็น สำหรับวิวโดยรอบโครงการค่อนข้างโปร่งโล่งเลยค่ะ จะมีเพียงห้องทางทิศตะวันออกที่ถูกบล็อกวิว เพราะเจอกับคอนโดมิเนียมสูง 17 ชั้น มีระยะห่างประมาณ 45 เมตร ส่วนห้องพักในชั้น 20 ขึ้นไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้จะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนพระราม 4
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยภูมิจิตร
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2 ชั้น

Image 1/3
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ

Image 1/4
วิวโดยรอบโครงการ

วิวโดยรอบโครงการ

ภาพบรรยากาศวิวโดยรอบโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Summer Hills ~ 250 เมตร
  • W District ~ 300 เมตร
  • Gateway เอกมัย ~ 1.3 กิโลเมตร
  • Big C อ่อนนุช ~ 2 กิโลเมตร
  • Park Lane ~ 2 กิโลเมตร
  • สวนเพลิน มาร์เก็ต ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Emporium, EmQuartier & Emsphere ~ 3.3 กิโลเมตร
  • Terminal 21 ~ 4.6 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • รพ.กล้วยน้ำไท ~ 500 เมตร
  • รพ.สุขุมวิท ~ 1.3 กิโลเมตร
  • รพ.วิมุต-เทพธารินทร์ ~ 1.6 กิโลเมตร
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ~ 3.6 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • Bangkok Forest International Kindergarten ~ 220 เมตร
  • โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล กรุงเทพ ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Wells International School ~ 2.4 กิโลเมตร
  • Bangkok Prep International School ~ 2.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ~ 3.5 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • เน้นความเป็นส่วนตัวสูง เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านถือว่ามียูนิตน้อยและโถงทางเดินแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม
  • ที่จอดรถทั้งโครงการคิดเป็น 59% มีจำนวนเยอะกว่าเพื่อนบ้าน แต่เป็นแบบ Automatic Parking ทำให้จอดรถได้สะดวกสบายและปลอดภัย
  • ส่วนกลางในแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ ถึงแม้จะมีคนอื่นมาใช้งานในบริเวณเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่
  • ส่วนกลางทั้งหมดอยู่ส่วนชั้นบนสุดของโครงการ ทำให้ทุกฟังก์ชันสามารถรับวิวแม่น้ำได้
  • สไตล์การออกแบบเรียบหรู ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านในทำเล

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น มีจำนวนยูนิตห้องพักอาศัย 380 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 บนเนื้อที่ 1-2-45.2 ไร่ ได้ที่จอดรถคิดเป็น 59% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด ซึ่งถือเป็นคอนโดที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงทั้งจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าโครงการเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังออกแบบโถงทางเดินเป็น Single load Corridor ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ได้ความสงบ ไม่พลุกพล่าน รวมถึงมีชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิต 7 ห้องต่อชั้นให้เลือกด้วย

ตัวโครงการออกแบบในแนวคิด Form of Light For Living ได้แรงบันดาลใจจากการหักเหและตกกระทบของแสง โดยออกแบบเป็นการยื่นกระจกออกมาที่นอกจากจะเพิ่มมุมมองเปิดรับวิวได้กว้างให้กับห้องพักอาศัย ยังทำให้ตัวอาคารมีมิติมากขึ้นและเวลาแสงแดดมาตกกระทบตัวอาคารก็จะมีความระยิบระยับด้วยค่ะ

ทางโครงการบอกว่าภาพ Master Plan และ Floor Plan ส่วนกลางของโครงการยังมีแก้ไขรายละเอียดภาพอีกเล็กน้อย ทำให้ในบทความนี้มีเฉพาะ Plan ชั้นพักอาศัยนะคะ ดังนั้นเราจะใช้ภาพบรรยากาศโครงการในบทความเยอะหน่อย แต่หากภาพ Plan ทั้งหมดของโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจะมาอัพเดตภาพใหม่ให้ทุกคนอ่านกันค่ะ สำหรับฟังก์ชันแต่ละชั้นของ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4)

  • ชั้น 1 : พื้นที่สวนสีเขียวและพื้นที่นั่งพักคอย
  • ชั้น 2-7 : ชั้นจอดรถแบบ Auto Parking
  • ชั้น 8 : ชั้นห้องพักอาศัยและสวนสีเขียว
  • ชั้น 9-27 : ชั้นห้องพักอาศัย
  • ชั้น 28-29 : Main Facilities แบบ Sky Facilities มองเห็นวิวได้รอบด้าน
  • ชั้น 30-32 : ชั้นห้องพักอาศัย
  • Rooftop : พื้นที่สวนสีเขียวและจุดชมวิวกรุงเทพฯ 360 องศา

Image 1/2
ประตูทางเข้า-ออกของรถยนต์

ประตูทางเข้า-ออกของรถยนต์

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) อยู่ติดกับถนนพระราม 4 เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่สวนด้านข้างประตูทางเข้า มีทางเดินรถภายในโครงการเป็นทางเดินรถทางเดียว ที่เราจะต้องขับรถไปทางขวา มีจุด Drop Off อยู่ด้านข้าง และมีทางเข้าที่จอดรถแบบ Auto Parking บริเวณด้านหลังอาคาร รวมถึงช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน แบ่งเป็นช่อง EV Charger 4 คัน จากนั้นจะต้องขับวนรอบอาคารเป็นวงกลมเพื่อขับออกจากโครงการค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนพระราม 4 โดยมีประตูทางเข้า-ออกของรถยนต์เป็นรั้วไม้กระดก พร้อมระบบจดจำป้ายทะเบียน License Plate Recognition System, CCTV ส่วนกลาง, ป้อมรปภ.  24 ชั่วโมง อยู่ด้านข้างประตูทางเข้า-ออกและรั้วทึบรอบโครงการสูง 3.00 เมตร

นอกจากนั้นยังมีประตู Pedestrian Entrance เป็นประตูอะลูมิเนียม เชื่อมจาก Relaxing Courtyard สวนสีเขียวบริเวณด้านหน้าโครงการไปยังจุดป้ายรถเมล์ด้านหน้าโครงการนั่นเอง ทำให้เดินเข้า-ออกโครงการได้สะดวกดี

Image 1/3
Relaxing Courtyard

Relaxing Courtyard

เมื่อเข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับ Relaxing Courtyard & Secret Garden เป็นพื้นที่สีเขียวติดกับทางเข้า-ออกโครงการเลยค่ะ ทำให้เป็นมุมต้อนรับที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นวิวสีเขียว สร้างบรรยากาศสดชื่นให้กับรถยนต์เวลาเข้า-ออกโครงการและเวลานั่งอยู่ใน Lobby ที่ชั้น 1 รวมถึงยังเป็นเหมือน Buffer Zone ช่วยป้องกันเสียงและควันจากรถยนต์ตรงถนนด้านหน้าโครงการไม่ให้รบกวนการอยู่อาศัยของลูกบ้านภายในโครงการนั่นเอง

Relaxing Courtyard เป็นพื้นที่สวนสีเขียวที่ปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ ดูสวยงาม นอกจากนั้นจะมีพื้นที่ให้มานั่งเล่นพักผ่อนในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น หากต้นไม้โตมากกว่านี้จะช่วยเป็นร่มเงา ทำให้ลูกบ้านมานั่งใช้งานได้นานมากขึ้นค่ะ

Image 1/2
Secret Garden

Secret Garden

นอกจากนั้นจะมีทางเดินเชื่อมไปยัง Secret Garden ที่อยู่ด้านข้างของ Relaxing Courtyard โดยเป็นมุมชิงช้านั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องการมานั่งเล่นแบบเป็นส่วนตัวนั่นเอง

Image 1/2
ทางเดินจาก Relaxing Courtyard เชื่อมไป Pedestrian Entrance

ทางเดินจาก Relaxing Courtyard เชื่อมไป Pedestrian Entrance

บริเวณ Relaxing Courtyard จะมีทางเดินเชื่อมไปยัง Pedestrian Entrance เพื่อออกไปยังด้านหน้าโครงการได้นั่นเอง โดยจะออกแบบมีหลังคาคลุมช่วยกันแดดและฝนได้ด้วย

Image 1/3
ด้านหน้าอาคาร

ด้านหน้าอาคาร

ทางเข้า-ออกอาคารจะมีอยู่ 3 จุด ได้แก่ ประตูทางเข้าหลักจะอยู่ด้านหน้าอาคาร เดินเชื่อมมาจาก Relaxing Courtyard & Secret Garden ได้เลย, จุด Drop Off ด้านข้างอาคารและทางเข้าจากที่จอดรถแบบ Auto Parking โดยจะเข้าไปเจอกับ Car Waiting Lounge เลยนั่นเอง

สำหรับที่จอดรถของโครงการนี้จะเป็นแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59% ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะดี ซึ่งพอลูกบ้านจะขับรถออกไปด้านนอกก็จะนั่งรอรถอยู่ที่ Car Waiting Lounge เมื่อได้รถแล้วก็ขับออกมาจากตรงภาพด้านบนนี้เลยค่ะ

Image 1/2
Reflection Pavilion

Reflection Pavilion

บริเวณด้านข้างของจุด Drop Off จะมี Reflection Pavilion โต๊ะนั่งเล่นแบบกลางแจ้ง ทำให้สามารถมานั่งเล่นหรือทำงานท่ามกลางสวนสีเขียวได้ สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเล่นมาอยู่ด้านนอกบ้างค่ะ

Image 1/4
Sensation Hallway (Lobby)

Sensation Hallway (Lobby)

เมื่อเข้ามาภายในอาคาร จะเจอกับ Sensation Hallway ที่เป็น Lobby พื้นที่ต้อนรับและนั่งคอย พร้อมตกแต่งด้วยเส้นโค้ง ทำให้ได้บรรยากาศบริเวณ Lobby แบบมี Movement ดี รวมถึงออกแบบเป็นผนังกระจกตลอดแนวพร้อมฝ้าเพดานสูงและเน้นโทนสีสว่าง ทำให้ได้บรรยากาศภายใน Lobby ที่ดูโปร่งสบายค่ะ โดยทางโครงการได้จัดชุดโซฟานั่งพักคอยอยู่หลายโซน ส่วนในบริเวณเดียวกันจะมี Business Café ร้านค้า 1 ยูนิตในโครงการและ Car Waiting Lounge พื้นที่นั่งรอรถอยู่ใกล้ๆด้วย

ด้านข้างของ Sensation Hallway จะมีห้องของ Business Café ที่เป็นร้านค้า 1 ยูนิตในโครงการ แต่ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่สำนักงานขายนะคะ ส่วนบันไดขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของนิติบุคคลในอนาคต เพื่อช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในโครงการค่ะ

Image 1/4
Car Waiting Lounge

Car Waiting Lounge

อย่างที่บอกไปนะคะว่า Car Waiting Lounge จะอยู่ในบริเวณเดียวกับ Sensation Hallway เลย โดยจะจัดเป็นชุดโซฟาให้ลูกบ้านมานั่งรอรถได้ ซึ่งจะมีหน้าจอคอยแสดงคิวรอรถยนต์แต่ละคันนั่นเอง ซึ่งพอรถของเราลงมาให้เราใช้งานได้แล้ว เราก็เดินไปเจอกับประตูกระจกบานเลื่อนสีดำที่เปิดออกไปยังทางเข้า-ออกของที่จอดรถ Auto Parking นั่นเอง

ประตูกระจกสีดำนี้จะเป็นทางเข้า-ออกของที่จอดรถ Auto Parking ที่พอเราจอดรถเรียบร้อยก็สามารถเข้ามายังภายในอาคารจากทางนี้ได้เลยนั่นเอง แต่ทางโครงการแอบบอกมาว่าในอนาคตอาจจะมีจุด Grab & Go ตรงบริเวณนี้เพื่อรองรับเทรนด์การอยู่อาศัยสมัยใหม่ด้วยค่ะ ส่วนด้านข้างทางเดินจะมีทางไปยัง Mail Room, Smart Locker และห้องน้ำ สำหรับด้านในสุดของทางเดินจะเป็นโถงลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป

ทางโครงการมีออกแบบเป็น Mail Room ไว้เป็นสัดส่วนเลย  โดยมี Mailbox ของทุกห้องและออกแบบตำแหน่งให้ไม่อยู่สูงเกินไป ทำให้ลูกบ้านสามารถมาหาจดหมายหรือเอกสารภายในห้องนี้ได้เลย

Image 1/3
ห้องน้ำตรงชั้น 1

ห้องน้ำตรงชั้น 1

ห้องน้ำตรงชั้น 1 จะออกแบบเป็น 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำแบบ Universal Desgin ที่รองรับการใช้งานได้ทุกวัย มีประตูห้องเป็นบานเลื่อน เปิด-ปิดง่ายและภายในห้องมีราวจับช่วยพยุงเวลาลุกนั่ง ส่วนห้องน้ำใช้งานร่วมกันของชาย-หญิงจะมีเพียงห้องเดียวนะคะ

Image 1/4
Lift Lobby

Lift Lobby

ต่อมาเราจะพาไปดูชั้นบนกันแล้วนะคะ ในส่วนของ Lift Lobby จะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร โดยมีลิฟต์ 1 ตัวที่ออกแบบเป็น Universal Design ด้วย มีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1 ถือว่าพอดีๆ กับโครงการที่เป็นอาคารสูงค่ะ ซึ่งจะมีติดตั้งระบบ Face Scan บริเวณด้านหน้าทางเข้าโถงลิฟต์ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในโครงการ นอกจากนี้ตรงชั้น 8 จะมี Hidden Cave เป็นพื้นที่สีเขียวให้ออกมาเดินเล่นพักผ่อนได้ รวมถึงเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยทางฝั่งทิศเหนือได้อีกด้วยนะ

ชั้น 28 : SKY SPORT ARENA

Image 1/4
SKY SPORT ARENA

SKY SPORT ARENA

สำหรับ Main Facilities ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 28-29 เป็น Sky Facilities ซึ่งเป็นการออกแบบที่นิยมในคอนโด High Rise เพื่อทำให้เวลาลูกบ้านมาใช้ส่วนกลางก็จะได้วิวรอบด้านเลยนั่นเอง ส่วนกลางในชั้น 28 เรียกว่า SKY SPORT ARENA โดยจะเป็น Active Facilites พื้นที่ออกกำลังกายและมีเครื่องเล่นเล็กๆน้อยๆให้มาเล่นกับเพื่อนๆได้ พร้อมปูพื้นช่วยรับแรงกระแทกจากการออกกำลังกาย รวมถึงมี Indoor Jogging Track ระยะ 40 เมตรให้มาวิ่งวอร์มร่างกายกันได้ด้วย

ซึ่งออกแบบเป็นพื้นที่แนวยาวขนาดใหญ่เชื่อมต่อกัน พร้อมตั้งเครื่องออกกำลังกายหันไปด้านนอกเปิดรับวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้กว้าง รวมถึงมีบันไดเดินขึ้นไปส่วนกลางตรงชั้น 29 ที่เน้นเป็น Passive Facilities พื้นที่นั่งพักผ่อน ทำให้ลูกบ้านใช้งานส่วนกลางได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ

Image 1/4
Weight Training Area

Weight Training Area

ทางโครงการจัดพื้นที่เป็น Weight Training Area พร้อมเครื่องออกกำลังกายทั้ง Weight Training และ Cardio ไว้หลายเครื่องมากๆ ทำให้สามารถมาเล่นพร้อมกันได้ 15 คนเลย เราชอบที่ทางโครงการออกแบบให้เครื่องออกกำลังกายทุกเครื่องหันออกไปได้วิวด้านนอก ทำให้ลูกบ้านสามารถมาออกกำลังกายพร้อมชมวิวไปได้เพลินๆเลยค่ะ

Image 1/2
Sphere Bike Battle

Sphere Bike Battle

บริเวณใกล้ๆกับ Weight Training Area จะมีห้อง Sphere Bike Battle เป็นห้องปั่นจักรยาน เผื่อคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการออกกำลังกายให้มาปั่นจักรยานออกกำลังกายหรือแข่งขันสนุกๆกับครอบครัวหรือเพื่อนๆได้นั่นเอง

Image 1/2
โต๊ะพลู

โต๊ะพลู

นอกจากพื้นที่ออกกำลังกายแล้วยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมสนุกๆอย่างโต๊ะพลู & โต๊ะบอลมือหมุนให้มาเล่นสนุกๆกันได้ด้วยนะคะ

อีกฝั่งของชั้นจะเป็น Yoga Studio, โซนห้องน้ำและบันไดขึ้นไปสระว่ายน้ำและชั้น 29 โดยเราจะพาไปดู Yoga Studio กันก่อนนะคะ

Image 1/2
Yoga Studio

Yoga Studio

Yoga Studio เป็นห้องโยคะที่สามารถนำเทรนเนอร์ส่วนตัวเข้ามาสอนแบบส่วนตัวภายในโครงการได้ ซึ่งนอกจากจะมาเล่นโยคะทั่วไปแล้ว ยังสามารถเล่น Yoga Fly ได้อีกด้วย เราชอบที่ทางโครงการออกแบบเป็นกระจกเปิดรับวิวได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ

ด้านข้างของ Yoga Studio จะมีโถงทางเดินไปยังห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง รวมถึงมี Locker อยู่ระหว่างห้องน้ำชาย-หญิง เพื่อให้แชร์การใช้งานร่วมกัน สามารถใช้เก็บของต่างๆก่อนไปออกกำลังกายได้

Image 1/3
ห้องน้ำ Universal Design

ห้องน้ำ Universal Design

ห้องน้ำ Universal Design ออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของคนทุกวัย โดยติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อน เปิด-ปิดได้ง่าย ส่วนด้านในห้องก็มีพื้นที่กว้าง หากใช้วีลแชร์ก็สามารถเข็นเข้ามาภายในห้องน้ำได้เลย อีกทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์ราวจับช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งมาให้ใช้งานได้ง่ายด้วย

Image 1/2
ห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง 

ห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง 

ห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง ภายในห้องน้ำมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ส่วนห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและ Steam จะอยู่ด้านในค่ะ โดยคนที่มาออกกำลังกายก็สามารถมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายได้ หรือถ้าใครไม่ได้ซีเรียสมาก ก็สามารถเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยที่ห้องพักได้เหมือนกันนะ

Steam เป็นห้องสตรีมสำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายได้ รวมถึงยังช่วยลดความเครียดได้ด้วย ซึ่งจะมีอยู่ในห้องน้ำชายและหญิงเลยนะคะ

ชั้น 29

ต่อมาเราพามายังชั้น 29 ที่เน้นเป็น Passive Facilities นั่งพักผ่อนคลายหรือมานั่งทำงานกันนั่นเอง โดยจะแบ่งส่วนกลางในชั้นนี้เป็น 2 ฝั่ง แต่เราจะขอเริ่มตรง SKY RIVER LOUNGE ที่ออกแบบแยกอยู่ห้องเดียวเลย

Image 1/6
SKY RIVER LOUNGE

SKY RIVER LOUNGE

SKY RIVER LOUNGE เป็นห้องนั่งพักผ่อนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีจุดชุดโซฟานั่งพักผ่อนหลายมุมให้เลือกตามการใช้งาน อีกทั้งยังมีเคาน์เตอร์ให้สามารถจัดปาร์ตี้เชิญ Chef’s Table มาสังสรรค์กับเพื่อนๆได้นั่นเอง

โดยออกแบบเป็นผนังกระจกตลอดแนวห้องเพื่อเปิดรับวิวด้านนอกได้กว้าง รวมถึงยังชมวิวพระอาทิตย์ตกจากบริเวณนี้ได้ด้วยนะคะ ส่วนการตกแต่งภายในห้องจะเน้นการใช้ลายหินโทนสีขาว ทำให้ดูสบายตาดี

ต่อมาเราจะพาไปดูอีกฝั่งของชั้น 29 กันนะคะ โดยเราสามารถขึ้นลิฟต์มาชั้น 29 หรือเดินบันไดเชื่อมมาจากชั้น 28 ได้ค่ะ

ฟังก์ชันส่วนกลางตรงโซนนี้จะมี Meeting Room, Trade Room, Private Working Room, Soul Massage & Therapy และ Relaxation Room โดยเราจะพาไปดูห้องฝั่งขวาสุดของภาพกันก่อน ได้แก่ Private Working Room ค่ะ

ทางโครงการบอกมาว่าชื่อห้องที่ลงท้ายคำว่า Room จะเป็นฟังก์ชันที่สามารถจองใช้งานส่วนตัวได้ แต่รายละเอียดต่างๆต้องสอบถามกับทางโครงการโดยตรงอีกครั้งนะคะ ส่วนห้องทำงานต่างๆจะมีติดตั้งระบบ Keycard Access บริเวณด้านหน้าห้องไว้ด้วยค่ะ

Image 1/2
Private Working Room

Private Working Room

Private Working Room เป็นพื้นที่ห้องทำงานแบบส่วนตัว เผื่อคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากนั่งทำงานอยู่แต่ในห้องมานั่งทำงานแบบชมวิวเมืองสวยๆด้านนอกได้นั่นเอง ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบมีโต๊ะและเก้าอี้ให้มานั่งทำงานนานๆได้เลยนะ นอกจากนั้นยังมี Meeting Room เป็นห้องสำหรับใช้เพื่อประชุมงานต่างๆได้ค่ะ

Image 1/2
Trade Room

Trade Room

Trade Room เป็นห้องสำหรับนักลงทุนเทรดหุ้นต่างๆให้มานั่งเทรดหุ้นกันในห้องนี้ได้เลย ซึ่งยังคงมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่เปิดรับแสงและวิวด้านนอกได้กว้างค่ะ

ตรงโถงทางเดินจะมี Soul Massage & Therapy และ Relaxation Room โดยจะเป็นฟังก์ชันสำหรับผ่อนคลาย ทางโครงการจึงออกแบบเข้ามาอยู่ด้านในหน่อย เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย

Image 1/4
Soul Massage and Therapy

Soul Massage and Therapy

Soul Massage & Therapy เป็นห้องสำหรับมานวดตัวผ่อนคลาย ซึ่งทางโครงการได้มีเตียงนอน อ่างล้างมือและห้องอาบน้ำภายในห้องเลย ทำให้มาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวกดี นอกจากนั้นเรายังเรียกใช้บริการนวดจากด้านนอกมาได้ด้วยค่ะ

Image 1/3
Relaxation Room

Relaxation Room

Relaxation Room เป็นห้องมานั่งผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมที่อากาศผ่านระบบการกรองอากาศขั้นสูงจาก CAP+ โดยมี Advanced Filtration System ดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 และกำจัดเชื้อโรค ไวรัส-แบคทีเรียในอากาศและ Plasma Ionizer Technology  ปล่อยประจุไอออนเพื่อดักจับมลพิษในอากาศ ทำให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์นั่นเอง เราชอบที่ห้องนี้จะได้วิวจากด้านนอกและสระว่ายน้ำ รวมถึงตกแต่งผนังห้องเป็นกระเบื้องหินเทียม ทำให้ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้นเหมือนอยู่ในสปาเลยค่ะ

Image 1/3
ทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ

ทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ

จากโถงทางเดินของ Soul Massage & Therapy และ Relaxation Room จะมีบันไดเดินลงไปชั้น 28 หรือเดินขึ้นไปยังสระว่ายน้ำได้นั่นเอง

Image 1/7
Skyscape Lap Pool

Skyscape Lap Pool

Skyscape Lap Pool สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 5.00×25.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบบ Infinity Edge Pool ที่ออกแบบไม่ให้มีราวกระจกมากั้นเลย ทำให้เวลามาว่ายน้ำหรือนั่งเล่นอยู่ตรง Pool Bed ข้างสระว่ายน้ำก็จะได้วิวรอบด้านแบบไม่มีเส้นขอบราวกันตกมากั้นเลยนั่นเอง รวมถึงมี Jacuzzi ลึก 0.80 เมตรอยู่ด้านข้างด้วยนะคะ แต่ตรงนี้จะมีราวกันตกกั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยไว้ค่ะ นอกจากนั้นจะมี Aqua Seat View มุมนั่งพักผ่อนในสระว่ายน้ำให้มานั่งชมวิวได้เลย

ชั้น Rooftop

Image 1/3
บันไดขึ้น Rooftop อยู่ข้างลิฟต์ตรงชั้น 32

บันไดขึ้น Rooftop อยู่ข้างลิฟต์ตรงชั้น 32

สำหรับการไปใช้งานส่วนกลางตรงชั้น Rooftop จะต้องขึ้นลิฟต์มายังชั้น 32 ก่อนและเดินขึ้นบันไดด้านข้างโถงลิฟต์ไปยัง Rooftop นะคะ

Image 1/3
Skyline Garden and Jogging Track

Skyline Garden and Jogging Track

เมื่อออกมายัง Rooftop จะเจอกับ Skyline Garden and Jogging Track ทำให้ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่นหรือออกกำลังกายกันได้อีกจุดค่ะ ซึ่งทางโครงการก็มีปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ดูสวยงามเลยนะคะ รวมถึงมีลานกว้างให้มานั่งเล่นได้

Image 1/2
Skyline Garden and Jogging Track

Skyline Garden and Jogging Track

ตัวโครงการสามารถเปิดรับวิวโดยรอบได้โดยไม่มีอาคารมาบล็อกในระยะใกล้ๆเลยนะ ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลยนั่นเอง

Image 1/2
Outdoor Sky Dining

Outdoor Sky Dining

ทางโครงการมีออกแบบ Outdoor Sky Dining เป็นพื้นที่ให้มานั่งสังสรรค์ปาร์ตี้และรับประทานอาหารร่วมกันแบบชมวิวรอบด้านกว้างๆได้เลย แนะนำว่ามาใช้งานช่วงตอนเย็นๆจะได้ไม่ต้องโดนแดดจัด รวมถึงได้วิวพระอาทิตย์ตกด้วยนะ

ต่อมาเราจะพาเดินขึ้นไปยัง Sky Cliff & Urban Viewpoint ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่หันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งนอกจากจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังได้วิวพระอาทิตย์ตกด้วยนั่นเอง

ทางโครงการได้ออกแบบราวกันตกตรง Sky Cliff & Urban Viewpoint เป็นกระจกทั้งหมดเลย เพื่อที่จะได้เปิดรับวิวโดยรอบได้กว้าง อีกทั้งยังมีที่นั่งให้มานั่งชมวิวกันได้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกแบบแสงตกกระทบสะท้อนกับแม่น้ำเจ้าพระยาน่าจะเป็นวิวที่สวยงามมากๆเลยค่ะ

ชั้นพักอาศัย

Image 1/4
ชั้น 8

ชั้น 8

หลังเราพาไปดูส่วนกลางกันมาแล้ว เราจะพามาดูชั้นพักอาศัยกันต่อนะคะ โดยชั้น 9-27  เป็น Typical Floor Plan มีจำนวนห้องพักอาศัยรวม 18 ยูนิต แบ่งเป็นฝั่งละ 9 ยูนิต และออกแบบให้มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางอาคารจึงทำให้ระยะเดินจากแต่ละห้องเท่าๆกัน ส่วนโถงทางเดินจะเป็นแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และมีช่องแสงอยู่ 2 จุด ช่วยดึงแสงเข้ามาภายในอาคาร แต่ยังคงต้องเปิดไฟตรงโถงทางเดินช่วยไม่ให้ดูมืดทึบนะคะ

นอกจากนั้นยังมีการออกแบบประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์กับทางเดินหน้าห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับลูกบ้านด้วยนั่นเอง สำหรับตัวห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะมีการออกแบบกระจกยื่นออกมาเปิดรับวิวได้กว้างขึ้น รวมถึงตัวอาคารดูมีมิติดีค่ะและจะมีเพียง 4 ยูนิตทางฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตกที่เป็นแบบห้องเริ่มต้นจะได้เป็นกระจกเรียบๆ ส่วนห้องขนาดใหญ่จะอยู่ที่มุมอาคารฝั่งทิศใต้ คาดว่าชั้นที่ 20 ขึ้นไปสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้

สำหรับชั้น 30-32 เป็น Exclusive Floor ที่มีจำนวนยูนิตเพียง 7 ห้องต่อชั้นเท่านั้น จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดเลย ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศใต้ ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้นั่นเอง แต่ปัจจุบันห้องพักในชั้น Exclusive Floor นี้ได้ขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

Image 1/2
โถงลิฟต์ตรงชั้นพักอาศัย

โถงลิฟต์ตรงชั้นพักอาศัย

โถงลิฟต์ตรงชั้นพักอาศัยจะมีการออกแบบประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์กับห้องพักอาศัยไว้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ อีกทั้งยังติดตั้งระบบ Kaycard Access เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับลูกบ้านนั่นเอง

โถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยมีความกว้างประมาณ 1.50 เมตร พร้อมความสูง 3 เมตร จึงทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด รวมถึงมีช่องหน้าต่างตรงปลายทางเดิน ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร แต่เรามองว่ายังคงต้องเปิดไฟตรงโถงทางเดินช่วยให้ความสว่างควบคู่ไปด้วยนะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1
    – Relaxing Courtyard & Secret Garden
    – Reflection Pavilion
    – Sensation Hallway (Lobby)
    – Car Waiting Lounge
    – Smart Locker
    – Business Café
  • ชั้น 8
    – Hidden Cave
  • ชั้น 28 : SKY SPORT ARENA
    – Weight Training Area
    – Sphere Bike Battle
    – Yoga Studio
    – Steam
    – Indoor Jogging Track ระยะ 40 เมตร
    – โต๊ะพลู & โต๊ะบอลมือหมุน
  •  ชั้น 29
    – SKY RIVER LOUNGE
    – Skyscape Lap Pool (Infinity Edge Pool) สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 5.00×25.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
    – Aqua Seat View
    – Jacuzzi
    – Meeting Room
    – Trade Room
    – Private Working Room
    – Soul Massage & Therapy
    – Relaxation Room พร้อมติดตั้ง Advanced Filtration System และ Plasma Ionizer Technology จาก CAP+
  • Rooftop
    – Skyline Garden and Jogging Track
    – Outdoor Sky Dining
    – Sky Cliff & Urban Viewpoint
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
    – รูปแบบประตูทางเข้า-ออกโครงการ (รถยนต์) : รั้วไม้กระดก
    – รูปแบบประตูทางเข้า-ออกโครงการ (Pedestrian Entrance) : ประตูอะลูมิเนียม
    – ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) : License Plate Recognition System (ระบบจดจำทะเบียนรถผู้พักอาศัย)
    – ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) : Face Scan / Keycard Access
    – CCTV ส่วนกลาง
    – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    – รูปแบบรั้วรอบโครงการ : รั้วทึบสูง 3.00 เมตร

แบบห้อง

Highlight

  • ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีความโปร่งสบาย และได้วิวเมืองมุมสูง
  • Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งห้อง
  • ห้องนอนตรงชั้นลอย กั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • ห้องครัวแบบปิดทุกยูนิต เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร
  • ระเบียงในทุกยูนิต แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) มีรูปแบบห้องพักอาศัยทั้ง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมาะอยู่ 1-2 คนได้สบายๆ รวมถึงเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เพราะทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีความโปร่งสบาย แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นชั้นล่างและชั้นลอย

สำหรับพื้นที่ชั้นลอยจะถือเป็นแค่ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้คิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างและไม่ได้นับเป็นพื้นที่โฉนด ถือเป็นการออกแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนั่นเอง ดังนั้นเวลาจ่ายค่าส่วนกลางก็จะคิดตามพื้นที่โฉนด ทำให้เหมือนเราได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น แต่จ่ายค่าส่วนกลางถูกค่ะ อีกทั้งโครงการนี้ยังกั้นผนังกระจกตรงชั้นลอยมาให้เรียบร้อยแล้วด้วยแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่มักจะทำเป็นเพียงราวกันตกกระจกจึงได้พื้นที่ภายในห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น ส่วนตัวห้องก็ตกแต่งแบบ Fully Fitted แถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้นมาให้ ออกแบบได้ครัวปิดอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง, มีระเบียงและมุมนั่งทำงานริมหน้าต่างในทุกยูนิตค่ะ

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.)
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.)
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.)
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.)
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 45 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 61 ตร.ม.)
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 58 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 78 ตร.ม.)

ปัจจุบันทางโครงการขายได้ประมาณ 80% แล้วนะคะ โดยห้องของโครงการตรงชั้น 30-32 (Exclusive Floor) และห้องฝั่งที่หันหน้ารับวิวแม่น้ำจะขายไปหมดแล้ว แต่ยังมีห้องฝั่ง City View วิวเมืองสวยๆให้เลือกอยู่หลายตำแหน่งเลยค่ะ

อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าทางโครงการจะตกแต่งห้องแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว โดยจะได้ชั้นวางทีวี, เคาน์เตอร์ครัว Top พร้อมอ่างล้างจาน ไมโครเวฟ Hop & Hood, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า & ชั้นวางของและแอร์ในทุกยูนิต แต่สำหรับบางห้องจะได้ตู้รองเท้า & ชั้นวางของบริเวณด้านหน้าห้องเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกออกแบบและตกแต่งห้องตามสไตล์ที่เราชื่นชอบได้ จึงต้องเผื่องบสำหรับการตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดเครื่องนอนด้วยนั่นเอง

มีจุดที่เราชอบ คือ ทางโครงการได้กั้นผนังกระจกบริเวณชั้นลอยมาให้เรียบร้อยแล้ว แตกต่างจากห้องฝ้าเพดานสูงในโครงการอื่นๆที่จะทำเป็นเพียงราวกันตกแบบกระจก ทำให้ห้องนอนตรงชั้นลอยมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งแอร์ไม่ลอยลงไปด้านล่าง ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดีด้วยค่ะ

สรุปวัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นลามิเนตลายไม้
– พื้นระเบียง : กระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– Digital Door Lock จาก Home Shield รองรับ 3 ระบบ ได้แก่ Keypad, Key Card ละการควบคุมผ่าน Application
– ผนังห้องฉาบเรียบ ทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก LG จำนวน 2 เครื่อง  (ห้อง 1 Bedroom ขนาด 9,000 – 18,000 BTU และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 12,000 – 24,000 BTU)
– ตู้เก็บของ & ตู้รองเท้า บริเวณด้านหน้าห้อง (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– ชั้นวางทีวี
– ฐานเตียง 5 ฟุต
– ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของแบบ Built-in บริเวณชั้นลอย
– กั้นผนังกระจก บริเวณชั้นลอย

วัสดุห้องครัว
– พื้นห้องครัว : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– เคานต์เตอร์ครัวแบบ Built-in พร้อม Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in จาก TEKA
– Top Counter : หินเทียม

วัสดุห้องน้ำ
– พื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower จาก KÄSCH
– ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA
– Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

สำหรับวันนี้เราจะพามาดูห้องตัวอย่าง  1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 และ 27 ตร.ม. กันนะคะ ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็ก แต่พอทางโครงการออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูงก็ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบาย ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.)

สำหรับห้องแรกที่เราพามาดูคือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.) ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการนะคะ โดยจะมีชั้นละ 4 ยูนิตทางฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตก (วิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิทและฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา) แต่มีคอนโดสูง 17 ชั้นอยู่ทางฝั่งตะวันตก ทำให้ห้องชั้นไม่สูงมากจะถูกบล็อกวิวนะคะ นอกจากนั้นยังออกแบบเป็นห้องที่มีกระจกเรียบๆ แตกต่างจากห้องอื่นที่มีกระจกเข้ามุมยื่นออกมาด้านนอกและเปิดรับวิวได้กว้างกว่านั่นเอง แต่น่าสนใจที่ห้องตำแหน่ง 10 และ 18 จะติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว จึงถือเป็นห้องเริ่มต้นราคาดีที่ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ เราได้สรุปจุดเด่นของห้องนี้มาดังนี้

  • ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารจริงจังได้ ช่วยป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปห้อง
  • ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ
  • ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างทำมุมนั่งเล่นได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
  • ห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอยพร้อมกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Image 1/2
ด้านหน้าห้องพักอาศัย

ด้านหน้าห้องพักอาศัย

ประตูทางเข้าห้องทุกยูนิตติดตั้ง Digital Door Lock จาก Home Shield มาให้ตามมาตรฐาน สามารถรองรับการใช้งาน 3 ระบบ ได้แก่ Keypad, Key Card และการควบคุมผ่าน Application ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายดี

Image 1/2
ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวแบบปิด

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องครัวแบบปิด ขนาดประมาณ 2.00×2.30 เมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.00 เมตรและปูพื้นด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ทำให้สามารถทำอาหารได้จริงจังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันอาหารจะลอยเข้าไปภายในห้อง อีกทั้งยังเช็ดทำความสะอาดพื้นได้ง่ายด้วย

โดยทางโครงการได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อยเลย มีพื้นที่ยืนประกอบอาหารกว้างประมาณ 1.40 เมตร ส่วนทางฝั่งประตูห้องจะมีพื้นที่ให้ตั้งตู้เก็บรองเท้าได้เหมือนที่ทางห้องตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียเลย

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built – in มาให้ Top ด้วยหินเทียมสีขาวที่สามารถทนรอยขีดข่วนและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างก็สามารถเก็บเครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ รวมถึงมีพื้นที่ด้านล่างวางอุปกรณ์ทำความสะอาดและถังขยะไว้ทิ้งเศษอาหารได้ด้วย ส่วนตรงกลางมีเว้นช่องไว้ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าพร้อมเดินงานระบบมาให้ เราจะได้ไม่ต้องเสียพื้นที่ระเบียงเพื่อตั้งเครื่องซักผ้าและใช้พื้นที่ระเบียงสำหรับตากผ้าหรือยืนชมวิวแทนค่ะ

สำหรับ Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in เลือกใช้จาก TEKA ส่วนบริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ไม่มีกรุกระเบื้องหรือติดตั้ง Backsplash เราก็แนะนำให้ติดเพิ่มเติมเพื่อทำความสะอาดได้ง่ายและผนังดูสวยงาม ไม่เป็นคราบน้ำมันเวลาทำกับข้าวหนักๆ ด้วยค่ะ มีจุดที่เราชอบคือออกแบบที่ใส่กระดาษทิชชูในตู้ด้านบน ทำให้ดึงใช้งานได้สะดวกดี

ก่อนจะเข้าไปยัง Common Area จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องครัวและ Common Area ไว้ นอกจากป้องกันไม่ให้กลิ่นอาหารลอยไปภายในห้องแล้ว การเลือกใช้ประตูกระจกแบบ 3 ตอน ก็ช่วยดึงแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วทั้งห้องและเวลาที่เราไม่ได้ทำอาหารก็สามารถเปิดประตูได้กว้าง ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งค่ะ

Image 1/2
ห้องฝ้าเพดานสูง

ห้องฝ้าเพดานสูง

ทางโครงการออกแบบห้องทุกยูนิตเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร ที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนั่นเอง เพราะทำให้พื้นที่ตรงบริเวณนี้ดูโปร่งสบายมากๆเลย รวมถึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วย เพราะว่าห้องนอนจะยกไปตรงชั้นลอย ทำให้เราใช้พื้นที่ชั้นล่างสำหรับต้อนรับแขกได้โดยไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัวนั่นเอง นอกจากนั้นยังได้กระจกขนาดใหญ่เปิดรับแสงและวิวได้กว้างค่ะ

ซึ่งจะปูพื้นเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ให้สัมผัสเหมือนไม้จริงและความรู้สึกอบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อน ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์ค่ะ

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

Common Area มีขนาด 2.90×4.10 เมตร ออกแบบเป็นพื้นที่ Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารอยู่บริเวณเดียวกัน ใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยพื้นที่นั่งเล่นสามารถตั้งโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง มีพื้นที่เดินผ่านกว้าง รวมถึงตั้งทีวีขนาด 55 นิ้วขึ้นไปได้ ยิ่งใครที่ชอบดูหนังอยู่แล้วก็ซื้อทีวีจอใหญ่ๆได้เลยค่ะ

สำหรับชั้นวางทีวีนี้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ทางโครงการแถมมากับตัวห้องนะคะ โดยออกแบบเป็นชั้นวางของที่มีติดตั้งหน้าบานปิด ทำให้สามารถตั้งโชว์ของกระจุกระจิกและเก็บของเล็กๆน้อยๆได้

ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่ขนาดประมาณ 0.70×1.55 เมตร ใช้เป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารเหมือนห้องตัวอย่างได้เลย หรือจะใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานริมหน้าต่างก็ดีเหมือนกัน จะได้นั่งทำงานไปพร้อมกับชมวิวเมืองได้เลยนั่นเอง

ทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วยนะคะ จะได้เป็นแบบ Wall Type จาก LG จำนวน 2 เครื่อง สำหรับห้อง 1 Bedroom จะได้ขนาด 9,000 – 18,000 BTU ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus จะได้ขนาด 12,000 – 24,000 BTU ค่ะ

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นเลยนะคะ ทำให้เวลาเราหรือแขกนั่งอยู่ตรงบริเวณนี้ก็สามารถใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

Image 1/6
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.60×2.65 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร พร้อมออกแบบภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน แต่ที่เราชอบคือมีการก่อกำแพงด้านหลังเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ทำให้ได้พื้นที่วางของตกแต่งและอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้เยอะขึ้น รวมถึงมีกระจกเงาที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวเกือบเต็มผนังห้อง ทำให้เราส่องกระจกได้ชัดเจน

สำหรับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower เลือกใช้จาก KÄSCH พร้อม Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทำให้สามารถดูข่าวและฟังเพลงในห้องน้ำได้เลย นอกจากนั้นยังเลือกใช้เป็นสุขภัณฑ์แบบ Wall-Hung ที่ติดแบบลอยตัว จึงสามารถทำความสะอาดพื้นได้สะดวกด้วย

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×1.25 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังเพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้สะดวก อีกทั้งเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA ทำให้เวลาอาบน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ

ต่อมาเราจะพาไปดูพื้นที่ระเบียงและเดินขึ้นไปยังชั้นลอยที่เป็นห้องนอนกันนะคะ โดยเราจะพาไปดูระเบียงกันก่อนเลย

ประตูของระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดประตูได้กว้าง ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.60×1.40 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร และแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบให้เราตั้งเครื่องซักผ้าอยู่ตรงห้องครัวแล้ว เราจึงใช้พื้นที่นี้เป็นมุมปลูกต้นไม้ ตากผ้า หรือตั้งเก้าอี้เล็กๆมานั่งรับลมได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ระเบียงจะเป็นบันไดยาวไปถึงชั้นลอย มีความกว้างประมาณ 0.70 เมตร ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 22 เซนติเมตร และลูกนอนอยู่ที่ 26 เซนติเมตร ถึงแม้จะมีลูกตั้งสูงหน่อยแต่ก็มีขั้นบันไดไม่กี่ขั้น จึงเดินขั้น-ลงได้ไม่ยากนัก มีราวบันไดเป็นโครงเหล็กพร้อมกระจก ทำให้ดูสวยงาม สบายตา

ทางโครงการได้ออกแบบห้องเก็บของบริเวณใต้บันได ช่วยทำให้ภายในห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น สามารถใช้เก็บพวกของชิ้นใหญ่ๆอย่างกระเป๋าเดินทางได้ สำหรับใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆนั่นเอง

อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วนะคะว่าโครงการนี้ได้มีการกั้นผนังกระจกตรงบริเวณชั้นลอยมาให้เรียบร้อยเลย แตกต่างจากโครงการอื่นๆที่มักจะทำเป็นราวกันตกแบบกระจก ซึ่งพอทางโครงการกั้นกระจกมาให้แล้ว มีข้อดีคือได้พื้นที่เป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว, ประหยัดไฟ เพราะความเย็นจากแอร์ตรงชั้นลอยไม่ไหลลงไปด้านล่างและช่วยประหยัดเงินในการกั้นกระจกห้อง เพราะทางโครงการติดตั้งมาให้แล้วนั่นเอง

Image 1/5
ห้องนอน

ห้องนอน

เราพามาดูบริเวณชั้นลอยกันเลย จะเป็นส่วนของห้องนอนที่มีมุมแต่งตัวด้วย โดยมีขนาดอยู่ที่ 2.90×3.10 เมตร และสูงประมาณ 2.00 เมตร ส่วนพื้นปูเป็นลามิเนตลายไม้เหมือนกับชั้นล่างค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุตและ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ โดยเว้นพื้นที่รอบเตียงกว้างจึงเดินเข้า-ออกได้สบาย รวมถึงตั้งโต๊ะข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้

นอกจากนั้นยังกั้นผนังกระจกมาให้เรียบร้อยและเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติเข้ามาจากช่องแสงตรง Common Area และมีช่องเปิดระบายอากาศได้ด้วยค่ะ


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.)

ห้องต่อมาที่เราพามาดูก็เป็น 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.) ถือเป็นอีกแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะ เรามองว่าน่าสนใจที่ถึงแม้จะเป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ออกแบบมีกระจกเข้ามุมยื่นออกมาด้านนอก เพื่อเปิดรับแสงและวิวได้กว้างนั่นเอง จุดเด่นของแบบห้องนี้มีดังนี้

  • แบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service ทั้งห้องครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ส่วนโซนพักผ่อนอย่าง Common Area อยู่ติดกับหน้าต่างได้วิวกว้างและห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนดี
  • ห้องครัวแบบปิด ถูกใจคนชอบทำอาหาร ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันลอยเข้าไปในห้อง
  • ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ใช้งานสะดวก
  • ระเบียง แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้
  • ห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอยพร้อมกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว

ประตูห้องติดตั้ง Digital Door Lock จาก Home Shield รองรับ 3 ระบบ ได้แก่ Keypad, Key Card และการควบคุมผ่าน Application เหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยนะคะ ทำให้ลูกบ้านเข้า-ออกห้องได้สะดวกดี

เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเป็นห้องครัวแบบปิดค่ะ มีขนาดประมาณ 2.15×2.50 เมตร สูง 2.00 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยฝั่งนึงจะเป็นตู้เก็บรองเท้าและตู้วางของ เวลาเข้าห้องมาก็เก็บรองเท้าและวางกระเป๋าหรือของต่างๆได้เลย ส่วนอีกฝั่งจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวและห้องน้ำค่ะ

Image 1/4
ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวแบบปิด

ทางโครงการออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิด ทำให้เราสามารถทำอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันอาหารจะลอยเข้าไปภายในห้องนั่นเอง รวมถึงทางโครงการได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ

เคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินเทียมที่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย มีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง จุของได้เยอะ พร้อมเว้นช่องตรงกลางไว้ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า รวมถึงติดตั้ง Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in จาก TEKA มาเรียบร้อย แต่เราแนะนำให้ติดตั้ง Backsplash บริเวณผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและผนังไม่เป็นคราบจากการทำอาหารด้วยค่ะ รวมถึงมีที่ใส่กระดาษทิชชูในตู้ด้านบนเหมือนห้องก่อนหน้านี้ด้วยนะ

สำหรับเรามองว่าแบบห้องนี้เหมาะทำอาหารได้จริงจังระดับนึงแต่ไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก เพราะว่าอีกฝั่งของห้องจะเป็นตู้รองเท้าและตู้เก็บของ ทำให้กลิ่นหรือควันอาหารอาจจะติดพวกตู้เหล่านี้ได้นั่นเอง เราจึงต้องคอยเช็ดทำความสะอาดหน้าบานตู้บ่อยๆหน่อยนะคะ

Image 1/2
Built-in ตู้รองเท้าและตู้เก็บของ

Built-in ตู้รองเท้าและตู้เก็บของ

เราพามาดูอีกฝั่งของห้องครัวกันต่อที่ทางโครงการได้ Built – in ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมาเต็มผนังเหมือนในรูปเลยนะคะ โดยจะมีเว้นช่องสำหรับตั้งตู้เย็นไว้ ซึ่งพอทางโครงการได้ตกแต่งส่วนนี้มาให้แล้ว เราก็ประหยัดเงินไปได้หลายหมื่นเหมือนกันนะ

สำหรับตู้วางของก็สามารถเก็บของได้เยอะดีและพอมีหน้าบานปิดก็ช่วยทำให้เก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังมีชั้นวางของไว้วางพวกกุญแจรถ Keycard ต่างๆได้ ส่วนตู้ที่มีหน้าบานเป็นกระจกสีดำจะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่วางรองเท้าได้หลายคู่เลย รวมถึงมีที่นั่งใส่รองเท้าและด้านล่างมีช่องเก็บรองเท้าอีกจุดด้วย

Image 1/3
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

ด้วยการออกแบบแบ่งส่วนของ Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำไว้ด้านหน้าห้อง ก็ทำให้แยกการใช้งานได้ชัดเจนดีค่ะ รวมถึงไม่มีกลิ่นจากอาหารหรือความชื้นจากห้องน้ำเข้าไปภายในห้องด้วย

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ฝั่งเคาน์เตอร์ครัวเลย มีขนาดห้องประมาณ 1.55×2.50 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร แบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน มีก่อกำแพงด้านหลังเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นพื้นที่วางของได้เยอะ

ทางโครงการเลือกติดตั้งก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower จาก KÄSCH พร้อม Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มาให้ด้วย โดยติดตั้งสุขภัณฑ์แบบ Wall-Hung เพื่อทำความสะอาดพื้นได้ง่าย ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×1.15 เมตร พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นและเจาะช่องวางของตรงผนังเพื่อหยิบอุปกรณ์อาบน้ำได้สะดวก รวมถึงมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA ติดตั้งมาให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นนั่นเองค่ะ

ประตูกั้นระหว่างโซน Service และพักผ่อนจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วทั้งห้อง รวมถึงเวลาที่เราไม่ได้ทำอาหารก็สามารถเปิดประตูเพื่อให้พื้นที่เชื่อมต่อเนื่องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ได้ความโปร่งโล่งดี

Image 1/2
ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร

ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร

อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าทุกยูนิตในโครงการนี้จะเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร  ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเลย เพราะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้เยอะ สร้างบรรยากาศโปร่งสบาย อีกทั้งแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนทั้งชั้นล่างเพื่อนั่งเล่นและชั้นลอยเป็นห้องนอน โดยวัสดุในการปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้ ให้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์

Image 1/3
Common Area

Common Area

Common Area มีขนาด 2.95×4.85 เมตร ออกแบบเป็นพื้นที่ Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยพื้นที่นั่งเล่นสามารถตั้งโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้กว้าง มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.00 เมตร จึงตั้งทีวีขนาด 55 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

ทางโครงการได้แถมชั้นวางทีวีนี้มาด้วยนะคะ จะได้หน้าตาเหมือนภาพด้านบนเลย ไว้สำหรับเก็บของกระจุกกระจิกได้นั่นเอง

ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารได้ โดยเราสามารถตั้งโต๊ะและเก้าอี้เหมือนที่ทางห้องตัวอย่างตกแต่งมาเป็นไอเดียได้เลยนะ

พื้นที่ริมหน้าต่างนี้มีขนาดประมาณ 1.30×2.15 เมตร ซึ่งเราสามารถทำเป็นมุมนั่งรับประทานอาหารหรือมุมทำงานริมหน้าต่างแบบ Bay Window ได้ เพราะทางโครงการได้ออกแบบเป็นกระจกเข้ามุมยื่นออกมาด้านนอก เพื่อเปิดรับวิวได้กว้างมากขึ้นนั่นเอง

สำหรับระเบียงจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่นั่งรับประทานอาหารเลย โดยจะมีประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ส่วนระเบียงมีขนาด 0.60×1.65 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร และแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้เรามีพื้นที่ด้านล่างใช้เป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ พร้อมปลูกต้นไม้เพิ่มวิวสีเขียวให้กับตัวห้องได้ด้วย

 สำหรับบันไดขึ้นไปยังชั้นลอยจะได้หน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ มีความกว้างประมาณ 0.70 เมตร ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 22 เซนติเมตรและลูกนอนขนาด 26 เซนติเมตร มีราวบันไดเป็นโครงเหล็กพร้อมกระจก

บริเวณใต้บันไดก็ออกแบบเป็นห้องเก็บของ เพื่อเก็บของชิ้นใหญ่ๆอย่างกระเป๋าเดินทางได้ ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่ดูเรียบร้อย สะอาดตา

Image 1/6
ห้องนอน

ห้องนอน

บริเวณชั้นลอยจะเป็นห้องนอนที่ทางโครงการได้กั้นผนังกระจกมาให้เรียบร้อยแล้วเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย ทำให้ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้เยอะและมีช่องเปิดระบายอากาศภายในห้องด้วย

มีขนาดห้องประมาณ 3.20×3.20 เมตรและสูง 2.00 เมตร ส่วนพื้นปูเป็นลามิเนตลายไม้เหมือนกับชั้นล่างค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุตและ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ จะมีพื้นที่ตั้งโต๊ะข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้และมีพื้นที่เดินรอบเตียงกว้าง แต่หากจะเข้าห้องน้ำตอนดึกจะต้องเดินลงไปชั้นล่าง ทำให้ต้องระมัดระวังเวลาเดินขึ้น-ลงบันไดด้วยนะคะ

แบบแปลน

Image 1/19
แบบห้องภายในโครงการ

แบบห้องภายในโครงการ

แบบห้องภายในโครงการ

ราคา

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) ราคา ณ วันที่ 14 มกราคม 2568

  • ห้องฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการ
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 45 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 61 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 58 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 78 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.20 เมตร
  • ชุดครัว Top Counter หินเทียม / Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in จาก TEKA
  • ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower จาก KÄSCH
  • ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA
  • Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
  • เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก LG จำนวน 2 เครื่อง (ขนาดขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • ค่าจอง 10,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน
  • พิเศษ! พบข้อเสนอและโปรโมชั่นในวันงานเปิดชมตึกใหม่ครั้งแรก!! 14-15 ก.พ. เท่านั้น

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง เดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า จึงสามารถไปยังโซนธุรกิจได้ทั้งสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อ อีกทั้งใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานครในระยะ 2 กิโลเมตร เข้า-ออกเมืองสะดวก และใกล้ Summer Hills และ W District ระยะ 300 เมตร จึงหาซื้อของกินของใช้ได้ง่าย หรือจะไปทำเลข้างเคียงอย่างเอกมัย-ทองหล่อก็ถือเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ที่สามารถใช้เดินทางไปยังสีลม สาทร ได้ง่าย มีเส้นทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดไปยังถนนสุขุมวิทหรือถนนเลียบทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้ รวมถึงจะใช้เส้นถนนสุขุมวิทเพื่อเข้าเมืองไปทางสยาม ชิดลมหรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาก็สะดวก ส่วนพื้นที่จอดรถในโครงการเป็นแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59% ถือว่าให้มาเยอะดีเหมาะกับขนาดโครงการค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ถือเป็นจุดเด่นของโครงการที่อยู่ใกล้ BTS สถานีพระโขนงเพียง 250 เมตร* จึงสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก ทำให้ใครที่ทำงานในเมืองใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่แล้วจะสะดวกในการเดินทางมากเลย นอกจากนั้นยังมีรถประจำทาง, วินมอเตอร์ไซค์และ Taxi ผ่านไป-มา ทำให้สามารถเรียกรถได้ง่าย

วัสดุ :

รูปแบบการขายของโครงการนี้เป็น Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ทำให้เราซื้อเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้ ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบจาก KÄSCH และมีแอร์มาให้ 2 ตัวด้วยค่ะ ส่วนที่เราว่าน่าสนใจคือมี Smart Mirror กระจกอัจฉริยะและกั้นผนังกระจกตรงชั้นลอยมาให้เรียบร้อยค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบตัวอาคารจะมีจุดเด่นที่ออกแบบยื่นกระจกออกมาด้านนอก ทำให้เพิ่มมุมมองเปิดรับวิวได้กว้างให้กับห้องพักอาศัยและยังทำให้ตัวอาคารมีมิติมากขึ้น ส่วนการวางผังอาคารจะออกแบบให้ Core Lift อยู่ตรงกลางได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor พร้อมประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และโถงทางเดิน ทำให้ห้องพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น

รูปแบบห้องมีให้เลือกเป็น 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Plus เหมาะอยู่ 1-2 คนได้สบายๆ โดยเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลย เพราะแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนทั้งชั้นล่างและชั้นลอย รวมถึงห้องส่วนใหญ่ได้กระจกเข้ามุมเปิดรับวิวได้กว้างขึ้น ซึ่งทุกยูนิตมีห้องครัวแบบปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารและตรงระเบียงทุกห้องก็แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางออกแบบกระจายอยู่ที่ชั้น 1, 8, 28-29 และ Rooftop พร้อมออกแบบแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ซึ่งถือว่ามีส่วนกลางมาให้หลากหลายเมื่อเทียบกับจำนวนห้อง 380 ยูนิตค่ะ อีกทั้งส่วนกลางแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ ทำให้ถึงแม้จะมีคนอื่นมาใช้งานในบริเวณเดียวกัน แต่ยังได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ได้รู้สึกอึดอัดนั่นเอง

ส่วนกลางชั้น 1 จะเป็นพื้นที่นั่งพักคอย, ชั้น 8 พื้นที่สวนสีเขียว, ชั้น 28 จะเน้นเป็น Active Facilities พวกฟังก์ชันออกกำลังกายต่าง, ชั้น 29 เน้น Passive Facilities พื้นที่นั่งทำงานและชั้น 32 จะเป็นสวนสีเขียวและจุดชมวิวที่มองเห็นวิวได้รอบด้าน รวมถึงเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 190,000 บาท/ตร.ม., 14 มกราคม 2568

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน 2 สาย มีเส้นทางลัดเลาะเพื่อเลี่ยงรถติด
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้ BTS พระโขนง 250 เมตร*
  • วัสดุ 8/10 – ตกแต่งแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่เลย
  • แบบ 8.75/10 – เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ยูนิตน้อย โถงทางเดิน Single Corridor และห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการ
  • สาธารณูปโภค 8.75/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย พื้นที่ขนาดใหญ่ มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

  • HIGH CLASS
  • 8.23 / 10.00

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) เหมาะกับใคร

โครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมที่เน้นความเป็นส่วนตัว ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน เดินทางไปโซนพระราม 4, สีลม, สาทรหรือเอกมัย-ทองหล่อได้ง่าย ชอบห้องฝ้าเพดานสูง มีช่องแสงขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานหลากหลาย มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ มีงบประมาณ 4.99-14.99 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 29,940 – 104,930 บาท

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่