[รีวิวฉบับที่ 2803] สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วกับโครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) คอนโด High Rise ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง เดินทางสะดวกสบายทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้น 4.99-14.99 ล้านบาท ซึ่งจะมีงานเปิดชมตึกใหม่ครั้งแรกในวันที่ 14-15 ก.พ. นี้นะคะ จะมีจุดน่าสนใจอะไรบ้าง ตามดูกันต่อได้เลย
- ทำเลติดถนนพระราม 4 ใกล้ BTS และทางด่วน : เดินทางง่าย ใกล้ BTS พระโขนงเพียง 250 เมตร* และห่างจากทางด่วน 2 สายเพียง 2 กิโลเมตร ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบคึกคัก
- ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการ : บรรยากาศภายในห้องโปร่งสบาย แบ่งแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนและห้องนอนตรงชั้นลอยก็กั้นกระจกมาให้เรียบร้อย
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง : มียูนิตน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน รวมถึงออกแบบโถงทางเดินSingle load Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ได้ความสงบภายในชั้นพักอาศัยมากขึ้น
- ที่จอดรถ 59% : มีจำนวนเยอะกว่าเพื่อนบ้าน แต่เป็นแบบ Automatic Parking ทำให้จอดรถได้สะดวกสบายและปลอดภัย
ข้อมูลโครงการ
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) ณ วันที่ 14 มกราคม 2568
ชื่อโครงการ | KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พาร์ค พิลลาร์ อาร์4 จำกัด (ORIGIN VERTICAL CORPORATION COMPANY LIMITED) |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพระรามที่ 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 1-2-45.2 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 380 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 18 ยูนิต |
ที่จอดรถ | ที่จอดแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59% |
เริ่มก่อสร้าง | Q1 ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | Q4 ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 4.20 เมตร (ชั้น 1 : 2.00-4.20 เมตร / ชั้นลอย : 2.00 เมตร) |
ราคาเริ่มต้น | 4.99-14.9 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | 190,000 บาท/ตร.ม. (เฉพาะพื้นที่ตามโฉนด) / 140,000 บาท/ตร.ม. (รวมพื้นที่ชั้นลอย) |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1489 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.713234, 100.591576
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- ทำเลติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง สามารถเดินทางไปโซนธุรกิจทั้งสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อได้ง่าย
- ใกล้ทางด่วน 2 สายในระยะ 2 กิโลเมตร ทั้งทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานคร
- เดินไป BTS พระโขนงได้ มีระยะเพียง 250 เมตร* ถือเป็นระยะที่เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆ
- ใกล้ Summer Hills และ W District ระยะ 300 เมตร หาซื้อของกินของใช้สะดวก
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 4 เกือบถึงแยกพระโขนงเลยค่ะ ตัวโครงการจึงมีระยะเดินไป BTS พระโขนงเพียง 250 เมตร* โดยอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งเข้าเมืองจึงไปยังโซนสีลม สาทรได้ง่าย รวมถึงมีจุดกลับรถห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร เราจึงกลับรถเพื่อไปยังเส้นถนนสุขุมวิทขับไปทางสยาม ชิดลม เอกมัยหรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาได้สบาย
สำหรับทำเลพระราม 4 ถือเป็นทำเลเก่าแก่ที่มีผู้คนอยู่อาศัยมายาวนาน แต่ปัจจุบันมีความอุดมสมบูรณ์ที่ขยายมาจากโซนพระราม 4 และเอกมัย ทำให้มีอาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้น เริ่มมีความคึกคักมากขึ้นหลังจากมี Community Mall อย่าง Summer Hills และ W District มาเปิดตรง BTS สถานีพระโขนง
ทำเลนี้จึงเหมาะกับคนอยากอาศัยอยู่ใกล้ๆตัวเมือง เพราะสามารถเดินทางไปทำงานในเมืองอย่างโซนสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อได้ไม่ยาก แต่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่พักอาศัยโซนใกล้เคียงอย่างอโศก, พร้อมพงษ์และเอกมัยนั่นเอง
ทางพิเศษฉลองรัช
หากเราจะขึ้นทางด่วนก็ใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัช ห่างจากโครงการประมาณ 1.9 กิโลเมตร ทางขึ้นอยู่ตรงสะพานข้ามคลองพระโขนง ต้องขับเลยสุขุมวิท 71 ไปเล็กน้อย ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 9, ลาดพร้าว และรามอินทราได้ อีกเส้นทางคือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าแยกกล้วยน้ำไทและจะเจอกับจุดขึ้นทางด่วน มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนพญาไทหรือจตุจักรได้ด้วย
อย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าโครงการนี้ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงประมาณ 250 เมตร* ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเดินไปใช้งานได้สบาย แต่จะต้องข้ามทางม้าลายด้วย ซึ่งเราสามารถข้ามทางม้าลายที่อยู่ห่างจากโครงการ 60 เมตรหรือตรงแยกพระโขนงได้ รวมถึงสามารถเข้าจากซอยสุขุมวิท 46 แล้วมาข้ามทางม้าลายก็ได้เหมือนกัน มีระยะประมาณ 270 เมตร
ภาพบรรยากาศ BTS พระโขนง
ภาพบรรยากาศโดยรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) บริเวณใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแถวตลอดแนวถนนพระราม 4 รวมถึงมีอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงหลายแห่ง ทำให้บรรยากาศทำเลค่อนข้างคึกคัก มีคนเดินอยู่ตลอดโดยเฉพาะช่วงเวลาเช้า-เย็น สำหรับวิวโดยรอบโครงการค่อนข้างโปร่งโล่งเลยค่ะ จะมีเพียงห้องทางทิศตะวันออกที่ถูกบล็อกวิว เพราะเจอกับคอนโดมิเนียมสูง 17 ชั้น มีระยะห่างประมาณ 45 เมตร ส่วนห้องพักในชั้น 20 ขึ้นไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้จะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ ถนนพระราม 4
- ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยภูมิจิตร
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2 ชั้น
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ
วิวโดยรอบโครงการ
ภาพบรรยากาศวิวโดยรอบโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Summer Hills ~ 250 เมตร
- W District ~ 300 เมตร
- Gateway เอกมัย ~ 1.3 กิโลเมตร
- Big C อ่อนนุช ~ 2 กิโลเมตร
- Park Lane ~ 2 กิโลเมตร
- สวนเพลิน มาร์เก็ต ~ 2.3 กิโลเมตร
- Emporium, EmQuartier & Emsphere ~ 3.3 กิโลเมตร
- Terminal 21 ~ 4.6 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ.กล้วยน้ำไท ~ 500 เมตร
- รพ.สุขุมวิท ~ 1.3 กิโลเมตร
- รพ.วิมุต-เทพธารินทร์ ~ 1.6 กิโลเมตร
- รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ~ 3.6 กิโลเมตร
โรงเรียน
- Bangkok Forest International Kindergarten ~ 220 เมตร
- โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล กรุงเทพ ~ 1.1 กิโลเมตร
- Wells International School ~ 2.4 กิโลเมตร
- Bangkok Prep International School ~ 2.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ~ 3.5 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านถือว่ามียูนิตน้อยและโถงทางเดินแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม
- ที่จอดรถทั้งโครงการคิดเป็น 59% มีจำนวนเยอะกว่าเพื่อนบ้าน แต่เป็นแบบ Automatic Parking ทำให้จอดรถได้สะดวกสบายและปลอดภัย
- ส่วนกลางในแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ ถึงแม้จะมีคนอื่นมาใช้งานในบริเวณเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่
- ส่วนกลางทั้งหมดอยู่ส่วนชั้นบนสุดของโครงการ ทำให้ทุกฟังก์ชันสามารถรับวิวแม่น้ำได้
- สไตล์การออกแบบเรียบหรู ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านในทำเล
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น มีจำนวนยูนิตห้องพักอาศัย 380 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 บนเนื้อที่ 1-2-45.2 ไร่ ได้ที่จอดรถคิดเป็น 59% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด ซึ่งถือเป็นคอนโดที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงทั้งจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าโครงการเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังออกแบบโถงทางเดินเป็น Single load Corridor ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ได้ความสงบ ไม่พลุกพล่าน รวมถึงมีชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิต 7 ห้องต่อชั้นให้เลือกด้วย
ตัวโครงการออกแบบในแนวคิด Form of Light For Living ได้แรงบันดาลใจจากการหักเหและตกกระทบของแสง โดยออกแบบเป็นการยื่นกระจกออกมาที่นอกจากจะเพิ่มมุมมองเปิดรับวิวได้กว้างให้กับห้องพักอาศัย ยังทำให้ตัวอาคารมีมิติมากขึ้นและเวลาแสงแดดมาตกกระทบตัวอาคารก็จะมีความระยิบระยับด้วยค่ะ
ทางโครงการบอกว่าภาพ Master Plan และ Floor Plan ส่วนกลางของโครงการยังมีแก้ไขรายละเอียดภาพอีกเล็กน้อย ทำให้ในบทความนี้มีเฉพาะ Plan ชั้นพักอาศัยนะคะ ดังนั้นเราจะใช้ภาพบรรยากาศโครงการในบทความเยอะหน่อย แต่หากภาพ Plan ทั้งหมดของโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจะมาอัพเดตภาพใหม่ให้ทุกคนอ่านกันค่ะ สำหรับฟังก์ชันแต่ละชั้นของ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4)
- ชั้น 1 : พื้นที่สวนสีเขียวและพื้นที่นั่งพักคอย
- ชั้น 2-7 : ชั้นจอดรถแบบ Auto Parking
- ชั้น 8 : ชั้นห้องพักอาศัยและสวนสีเขียว
- ชั้น 9-27 : ชั้นห้องพักอาศัย
- ชั้น 28-29 : Main Facilities แบบ Sky Facilities มองเห็นวิวได้รอบด้าน
- ชั้น 30-32 : ชั้นห้องพักอาศัย
- Rooftop : พื้นที่สวนสีเขียวและจุดชมวิวกรุงเทพฯ 360 องศา
ประตูทางเข้า-ออกของรถยนต์
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) อยู่ติดกับถนนพระราม 4 เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่สวนด้านข้างประตูทางเข้า มีทางเดินรถภายในโครงการเป็นทางเดินรถทางเดียว ที่เราจะต้องขับรถไปทางขวา มีจุด Drop Off อยู่ด้านข้าง และมีทางเข้าที่จอดรถแบบ Auto Parking บริเวณด้านหลังอาคาร รวมถึงช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน แบ่งเป็นช่อง EV Charger 4 คัน จากนั้นจะต้องขับวนรอบอาคารเป็นวงกลมเพื่อขับออกจากโครงการค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนพระราม 4 โดยมีประตูทางเข้า-ออกของรถยนต์เป็นรั้วไม้กระดก พร้อมระบบจดจำป้ายทะเบียน License Plate Recognition System, CCTV ส่วนกลาง, ป้อมรปภ. 24 ชั่วโมง อยู่ด้านข้างประตูทางเข้า-ออกและรั้วทึบรอบโครงการสูง 3.00 เมตร
นอกจากนั้นยังมีประตู Pedestrian Entrance เป็นประตูอะลูมิเนียม เชื่อมจาก Relaxing Courtyard สวนสีเขียวบริเวณด้านหน้าโครงการไปยังจุดป้ายรถเมล์ด้านหน้าโครงการนั่นเอง ทำให้เดินเข้า-ออกโครงการได้สะดวกดี
Relaxing Courtyard
เมื่อเข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับ Relaxing Courtyard & Secret Garden เป็นพื้นที่สีเขียวติดกับทางเข้า-ออกโครงการเลยค่ะ ทำให้เป็นมุมต้อนรับที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นวิวสีเขียว สร้างบรรยากาศสดชื่นให้กับรถยนต์เวลาเข้า-ออกโครงการและเวลานั่งอยู่ใน Lobby ที่ชั้น 1 รวมถึงยังเป็นเหมือน Buffer Zone ช่วยป้องกันเสียงและควันจากรถยนต์ตรงถนนด้านหน้าโครงการไม่ให้รบกวนการอยู่อาศัยของลูกบ้านภายในโครงการนั่นเอง
Relaxing Courtyard เป็นพื้นที่สวนสีเขียวที่ปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ ดูสวยงาม นอกจากนั้นจะมีพื้นที่ให้มานั่งเล่นพักผ่อนในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น หากต้นไม้โตมากกว่านี้จะช่วยเป็นร่มเงา ทำให้ลูกบ้านมานั่งใช้งานได้นานมากขึ้นค่ะ
Secret Garden
นอกจากนั้นจะมีทางเดินเชื่อมไปยัง Secret Garden ที่อยู่ด้านข้างของ Relaxing Courtyard โดยเป็นมุมชิงช้านั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องการมานั่งเล่นแบบเป็นส่วนตัวนั่นเอง
ทางเดินจาก Relaxing Courtyard เชื่อมไป Pedestrian Entrance
บริเวณ Relaxing Courtyard จะมีทางเดินเชื่อมไปยัง Pedestrian Entrance เพื่อออกไปยังด้านหน้าโครงการได้นั่นเอง โดยจะออกแบบมีหลังคาคลุมช่วยกันแดดและฝนได้ด้วย
ด้านหน้าอาคาร
ทางเข้า-ออกอาคารจะมีอยู่ 3 จุด ได้แก่ ประตูทางเข้าหลักจะอยู่ด้านหน้าอาคาร เดินเชื่อมมาจาก Relaxing Courtyard & Secret Garden ได้เลย, จุด Drop Off ด้านข้างอาคารและทางเข้าจากที่จอดรถแบบ Auto Parking โดยจะเข้าไปเจอกับ Car Waiting Lounge เลยนั่นเอง
สำหรับที่จอดรถของโครงการนี้จะเป็นแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59% ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะดี ซึ่งพอลูกบ้านจะขับรถออกไปด้านนอกก็จะนั่งรอรถอยู่ที่ Car Waiting Lounge เมื่อได้รถแล้วก็ขับออกมาจากตรงภาพด้านบนนี้เลยค่ะ
Reflection Pavilion
บริเวณด้านข้างของจุด Drop Off จะมี Reflection Pavilion โต๊ะนั่งเล่นแบบกลางแจ้ง ทำให้สามารถมานั่งเล่นหรือทำงานท่ามกลางสวนสีเขียวได้ สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเล่นมาอยู่ด้านนอกบ้างค่ะ
Sensation Hallway (Lobby)
เมื่อเข้ามาภายในอาคาร จะเจอกับ Sensation Hallway ที่เป็น Lobby พื้นที่ต้อนรับและนั่งคอย พร้อมตกแต่งด้วยเส้นโค้ง ทำให้ได้บรรยากาศบริเวณ Lobby แบบมี Movement ดี รวมถึงออกแบบเป็นผนังกระจกตลอดแนวพร้อมฝ้าเพดานสูงและเน้นโทนสีสว่าง ทำให้ได้บรรยากาศภายใน Lobby ที่ดูโปร่งสบายค่ะ โดยทางโครงการได้จัดชุดโซฟานั่งพักคอยอยู่หลายโซน ส่วนในบริเวณเดียวกันจะมี Business Café ร้านค้า 1 ยูนิตในโครงการและ Car Waiting Lounge พื้นที่นั่งรอรถอยู่ใกล้ๆด้วย
ด้านข้างของ Sensation Hallway จะมีห้องของ Business Café ที่เป็นร้านค้า 1 ยูนิตในโครงการ แต่ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่สำนักงานขายนะคะ ส่วนบันไดขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของนิติบุคคลในอนาคต เพื่อช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในโครงการค่ะ
Car Waiting Lounge
อย่างที่บอกไปนะคะว่า Car Waiting Lounge จะอยู่ในบริเวณเดียวกับ Sensation Hallway เลย โดยจะจัดเป็นชุดโซฟาให้ลูกบ้านมานั่งรอรถได้ ซึ่งจะมีหน้าจอคอยแสดงคิวรอรถยนต์แต่ละคันนั่นเอง ซึ่งพอรถของเราลงมาให้เราใช้งานได้แล้ว เราก็เดินไปเจอกับประตูกระจกบานเลื่อนสีดำที่เปิดออกไปยังทางเข้า-ออกของที่จอดรถ Auto Parking นั่นเอง
ประตูกระจกสีดำนี้จะเป็นทางเข้า-ออกของที่จอดรถ Auto Parking ที่พอเราจอดรถเรียบร้อยก็สามารถเข้ามายังภายในอาคารจากทางนี้ได้เลยนั่นเอง แต่ทางโครงการแอบบอกมาว่าในอนาคตอาจจะมีจุด Grab & Go ตรงบริเวณนี้เพื่อรองรับเทรนด์การอยู่อาศัยสมัยใหม่ด้วยค่ะ ส่วนด้านข้างทางเดินจะมีทางไปยัง Mail Room, Smart Locker และห้องน้ำ สำหรับด้านในสุดของทางเดินจะเป็นโถงลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป
ทางโครงการมีออกแบบเป็น Mail Room ไว้เป็นสัดส่วนเลย โดยมี Mailbox ของทุกห้องและออกแบบตำแหน่งให้ไม่อยู่สูงเกินไป ทำให้ลูกบ้านสามารถมาหาจดหมายหรือเอกสารภายในห้องนี้ได้เลย
ห้องน้ำตรงชั้น 1
ห้องน้ำตรงชั้น 1 จะออกแบบเป็น 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำแบบ Universal Desgin ที่รองรับการใช้งานได้ทุกวัย มีประตูห้องเป็นบานเลื่อน เปิด-ปิดง่ายและภายในห้องมีราวจับช่วยพยุงเวลาลุกนั่ง ส่วนห้องน้ำใช้งานร่วมกันของชาย-หญิงจะมีเพียงห้องเดียวนะคะ
Lift Lobby
ต่อมาเราจะพาไปดูชั้นบนกันแล้วนะคะ ในส่วนของ Lift Lobby จะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร โดยมีลิฟต์ 1 ตัวที่ออกแบบเป็น Universal Design ด้วย มีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1 ถือว่าพอดีๆ กับโครงการที่เป็นอาคารสูงค่ะ ซึ่งจะมีติดตั้งระบบ Face Scan บริเวณด้านหน้าทางเข้าโถงลิฟต์ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในโครงการ นอกจากนี้ตรงชั้น 8 จะมี Hidden Cave เป็นพื้นที่สีเขียวให้ออกมาเดินเล่นพักผ่อนได้ รวมถึงเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยทางฝั่งทิศเหนือได้อีกด้วยนะ
ชั้น 28 : SKY SPORT ARENA
SKY SPORT ARENA
สำหรับ Main Facilities ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 28-29 เป็น Sky Facilities ซึ่งเป็นการออกแบบที่นิยมในคอนโด High Rise เพื่อทำให้เวลาลูกบ้านมาใช้ส่วนกลางก็จะได้วิวรอบด้านเลยนั่นเอง ส่วนกลางในชั้น 28 เรียกว่า SKY SPORT ARENA โดยจะเป็น Active Facilites พื้นที่ออกกำลังกายและมีเครื่องเล่นเล็กๆน้อยๆให้มาเล่นกับเพื่อนๆได้ พร้อมปูพื้นช่วยรับแรงกระแทกจากการออกกำลังกาย รวมถึงมี Indoor Jogging Track ระยะ 40 เมตรให้มาวิ่งวอร์มร่างกายกันได้ด้วย
ซึ่งออกแบบเป็นพื้นที่แนวยาวขนาดใหญ่เชื่อมต่อกัน พร้อมตั้งเครื่องออกกำลังกายหันไปด้านนอกเปิดรับวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้กว้าง รวมถึงมีบันไดเดินขึ้นไปส่วนกลางตรงชั้น 29 ที่เน้นเป็น Passive Facilities พื้นที่นั่งพักผ่อน ทำให้ลูกบ้านใช้งานส่วนกลางได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ
Weight Training Area
ทางโครงการจัดพื้นที่เป็น Weight Training Area พร้อมเครื่องออกกำลังกายทั้ง Weight Training และ Cardio ไว้หลายเครื่องมากๆ ทำให้สามารถมาเล่นพร้อมกันได้ 15 คนเลย เราชอบที่ทางโครงการออกแบบให้เครื่องออกกำลังกายทุกเครื่องหันออกไปได้วิวด้านนอก ทำให้ลูกบ้านสามารถมาออกกำลังกายพร้อมชมวิวไปได้เพลินๆเลยค่ะ
Sphere Bike Battle
บริเวณใกล้ๆกับ Weight Training Area จะมีห้อง Sphere Bike Battle เป็นห้องปั่นจักรยาน เผื่อคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการออกกำลังกายให้มาปั่นจักรยานออกกำลังกายหรือแข่งขันสนุกๆกับครอบครัวหรือเพื่อนๆได้นั่นเอง
โต๊ะพลู
นอกจากพื้นที่ออกกำลังกายแล้วยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมสนุกๆอย่างโต๊ะพลู & โต๊ะบอลมือหมุนให้มาเล่นสนุกๆกันได้ด้วยนะคะ
อีกฝั่งของชั้นจะเป็น Yoga Studio, โซนห้องน้ำและบันไดขึ้นไปสระว่ายน้ำและชั้น 29 โดยเราจะพาไปดู Yoga Studio กันก่อนนะคะ
Yoga Studio
Yoga Studio เป็นห้องโยคะที่สามารถนำเทรนเนอร์ส่วนตัวเข้ามาสอนแบบส่วนตัวภายในโครงการได้ ซึ่งนอกจากจะมาเล่นโยคะทั่วไปแล้ว ยังสามารถเล่น Yoga Fly ได้อีกด้วย เราชอบที่ทางโครงการออกแบบเป็นกระจกเปิดรับวิวได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ
ด้านข้างของ Yoga Studio จะมีโถงทางเดินไปยังห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง รวมถึงมี Locker อยู่ระหว่างห้องน้ำชาย-หญิง เพื่อให้แชร์การใช้งานร่วมกัน สามารถใช้เก็บของต่างๆก่อนไปออกกำลังกายได้
ห้องน้ำ Universal Design
ห้องน้ำ Universal Design ออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของคนทุกวัย โดยติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อน เปิด-ปิดได้ง่าย ส่วนด้านในห้องก็มีพื้นที่กว้าง หากใช้วีลแชร์ก็สามารถเข็นเข้ามาภายในห้องน้ำได้เลย อีกทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์ราวจับช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งมาให้ใช้งานได้ง่ายด้วย
ห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง
ห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง ภายในห้องน้ำมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ส่วนห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและ Steam จะอยู่ด้านในค่ะ โดยคนที่มาออกกำลังกายก็สามารถมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายได้ หรือถ้าใครไม่ได้ซีเรียสมาก ก็สามารถเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยที่ห้องพักได้เหมือนกันนะ
Steam เป็นห้องสตรีมสำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายได้ รวมถึงยังช่วยลดความเครียดได้ด้วย ซึ่งจะมีอยู่ในห้องน้ำชายและหญิงเลยนะคะ
ชั้น 29
ต่อมาเราพามายังชั้น 29 ที่เน้นเป็น Passive Facilities นั่งพักผ่อนคลายหรือมานั่งทำงานกันนั่นเอง โดยจะแบ่งส่วนกลางในชั้นนี้เป็น 2 ฝั่ง แต่เราจะขอเริ่มตรง SKY RIVER LOUNGE ที่ออกแบบแยกอยู่ห้องเดียวเลย
SKY RIVER LOUNGE
SKY RIVER LOUNGE เป็นห้องนั่งพักผ่อนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีจุดชุดโซฟานั่งพักผ่อนหลายมุมให้เลือกตามการใช้งาน อีกทั้งยังมีเคาน์เตอร์ให้สามารถจัดปาร์ตี้เชิญ Chef’s Table มาสังสรรค์กับเพื่อนๆได้นั่นเอง
โดยออกแบบเป็นผนังกระจกตลอดแนวห้องเพื่อเปิดรับวิวด้านนอกได้กว้าง รวมถึงยังชมวิวพระอาทิตย์ตกจากบริเวณนี้ได้ด้วยนะคะ ส่วนการตกแต่งภายในห้องจะเน้นการใช้ลายหินโทนสีขาว ทำให้ดูสบายตาดี
ต่อมาเราจะพาไปดูอีกฝั่งของชั้น 29 กันนะคะ โดยเราสามารถขึ้นลิฟต์มาชั้น 29 หรือเดินบันไดเชื่อมมาจากชั้น 28 ได้ค่ะ
ฟังก์ชันส่วนกลางตรงโซนนี้จะมี Meeting Room, Trade Room, Private Working Room, Soul Massage & Therapy และ Relaxation Room โดยเราจะพาไปดูห้องฝั่งขวาสุดของภาพกันก่อน ได้แก่ Private Working Room ค่ะ
ทางโครงการบอกมาว่าชื่อห้องที่ลงท้ายคำว่า Room จะเป็นฟังก์ชันที่สามารถจองใช้งานส่วนตัวได้ แต่รายละเอียดต่างๆต้องสอบถามกับทางโครงการโดยตรงอีกครั้งนะคะ ส่วนห้องทำงานต่างๆจะมีติดตั้งระบบ Keycard Access บริเวณด้านหน้าห้องไว้ด้วยค่ะ
Private Working Room
Private Working Room เป็นพื้นที่ห้องทำงานแบบส่วนตัว เผื่อคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากนั่งทำงานอยู่แต่ในห้องมานั่งทำงานแบบชมวิวเมืองสวยๆด้านนอกได้นั่นเอง ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบมีโต๊ะและเก้าอี้ให้มานั่งทำงานนานๆได้เลยนะ นอกจากนั้นยังมี Meeting Room เป็นห้องสำหรับใช้เพื่อประชุมงานต่างๆได้ค่ะ
Trade Room
Trade Room เป็นห้องสำหรับนักลงทุนเทรดหุ้นต่างๆให้มานั่งเทรดหุ้นกันในห้องนี้ได้เลย ซึ่งยังคงมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่เปิดรับแสงและวิวด้านนอกได้กว้างค่ะ
ตรงโถงทางเดินจะมี Soul Massage & Therapy และ Relaxation Room โดยจะเป็นฟังก์ชันสำหรับผ่อนคลาย ทางโครงการจึงออกแบบเข้ามาอยู่ด้านในหน่อย เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย
Soul Massage and Therapy
Soul Massage & Therapy เป็นห้องสำหรับมานวดตัวผ่อนคลาย ซึ่งทางโครงการได้มีเตียงนอน อ่างล้างมือและห้องอาบน้ำภายในห้องเลย ทำให้มาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวกดี นอกจากนั้นเรายังเรียกใช้บริการนวดจากด้านนอกมาได้ด้วยค่ะ
Relaxation Room
Relaxation Room เป็นห้องมานั่งผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมที่อากาศผ่านระบบการกรองอากาศขั้นสูงจาก CAP+ โดยมี Advanced Filtration System ดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 และกำจัดเชื้อโรค ไวรัส-แบคทีเรียในอากาศและ Plasma Ionizer Technology ปล่อยประจุไอออนเพื่อดักจับมลพิษในอากาศ ทำให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์นั่นเอง เราชอบที่ห้องนี้จะได้วิวจากด้านนอกและสระว่ายน้ำ รวมถึงตกแต่งผนังห้องเป็นกระเบื้องหินเทียม ทำให้ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้นเหมือนอยู่ในสปาเลยค่ะ
ทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ
จากโถงทางเดินของ Soul Massage & Therapy และ Relaxation Room จะมีบันไดเดินลงไปชั้น 28 หรือเดินขึ้นไปยังสระว่ายน้ำได้นั่นเอง
Skyscape Lap Pool
Skyscape Lap Pool สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 5.00×25.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบบ Infinity Edge Pool ที่ออกแบบไม่ให้มีราวกระจกมากั้นเลย ทำให้เวลามาว่ายน้ำหรือนั่งเล่นอยู่ตรง Pool Bed ข้างสระว่ายน้ำก็จะได้วิวรอบด้านแบบไม่มีเส้นขอบราวกันตกมากั้นเลยนั่นเอง รวมถึงมี Jacuzzi ลึก 0.80 เมตรอยู่ด้านข้างด้วยนะคะ แต่ตรงนี้จะมีราวกันตกกั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยไว้ค่ะ นอกจากนั้นจะมี Aqua Seat View มุมนั่งพักผ่อนในสระว่ายน้ำให้มานั่งชมวิวได้เลย
ชั้น Rooftop
บันไดขึ้น Rooftop อยู่ข้างลิฟต์ตรงชั้น 32
สำหรับการไปใช้งานส่วนกลางตรงชั้น Rooftop จะต้องขึ้นลิฟต์มายังชั้น 32 ก่อนและเดินขึ้นบันไดด้านข้างโถงลิฟต์ไปยัง Rooftop นะคะ
Skyline Garden and Jogging Track
เมื่อออกมายัง Rooftop จะเจอกับ Skyline Garden and Jogging Track ทำให้ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่นหรือออกกำลังกายกันได้อีกจุดค่ะ ซึ่งทางโครงการก็มีปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ดูสวยงามเลยนะคะ รวมถึงมีลานกว้างให้มานั่งเล่นได้
Skyline Garden and Jogging Track
ตัวโครงการสามารถเปิดรับวิวโดยรอบได้โดยไม่มีอาคารมาบล็อกในระยะใกล้ๆเลยนะ ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลยนั่นเอง
Outdoor Sky Dining
ทางโครงการมีออกแบบ Outdoor Sky Dining เป็นพื้นที่ให้มานั่งสังสรรค์ปาร์ตี้และรับประทานอาหารร่วมกันแบบชมวิวรอบด้านกว้างๆได้เลย แนะนำว่ามาใช้งานช่วงตอนเย็นๆจะได้ไม่ต้องโดนแดดจัด รวมถึงได้วิวพระอาทิตย์ตกด้วยนะ
ต่อมาเราจะพาเดินขึ้นไปยัง Sky Cliff & Urban Viewpoint ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่หันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งนอกจากจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังได้วิวพระอาทิตย์ตกด้วยนั่นเอง
ทางโครงการได้ออกแบบราวกันตกตรง Sky Cliff & Urban Viewpoint เป็นกระจกทั้งหมดเลย เพื่อที่จะได้เปิดรับวิวโดยรอบได้กว้าง อีกทั้งยังมีที่นั่งให้มานั่งชมวิวกันได้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกแบบแสงตกกระทบสะท้อนกับแม่น้ำเจ้าพระยาน่าจะเป็นวิวที่สวยงามมากๆเลยค่ะ
ชั้นพักอาศัย
ชั้น 8
หลังเราพาไปดูส่วนกลางกันมาแล้ว เราจะพามาดูชั้นพักอาศัยกันต่อนะคะ โดยชั้น 9-27 เป็น Typical Floor Plan มีจำนวนห้องพักอาศัยรวม 18 ยูนิต แบ่งเป็นฝั่งละ 9 ยูนิต และออกแบบให้มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางอาคารจึงทำให้ระยะเดินจากแต่ละห้องเท่าๆกัน ส่วนโถงทางเดินจะเป็นแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และมีช่องแสงอยู่ 2 จุด ช่วยดึงแสงเข้ามาภายในอาคาร แต่ยังคงต้องเปิดไฟตรงโถงทางเดินช่วยไม่ให้ดูมืดทึบนะคะ
นอกจากนั้นยังมีการออกแบบประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์กับทางเดินหน้าห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับลูกบ้านด้วยนั่นเอง สำหรับตัวห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะมีการออกแบบกระจกยื่นออกมาเปิดรับวิวได้กว้างขึ้น รวมถึงตัวอาคารดูมีมิติดีค่ะและจะมีเพียง 4 ยูนิตทางฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตกที่เป็นแบบห้องเริ่มต้นจะได้เป็นกระจกเรียบๆ ส่วนห้องขนาดใหญ่จะอยู่ที่มุมอาคารฝั่งทิศใต้ คาดว่าชั้นที่ 20 ขึ้นไปสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้
สำหรับชั้น 30-32 เป็น Exclusive Floor ที่มีจำนวนยูนิตเพียง 7 ห้องต่อชั้นเท่านั้น จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดเลย ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศใต้ ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้นั่นเอง แต่ปัจจุบันห้องพักในชั้น Exclusive Floor นี้ได้ขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
โถงลิฟต์ตรงชั้นพักอาศัย
โถงลิฟต์ตรงชั้นพักอาศัยจะมีการออกแบบประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์กับห้องพักอาศัยไว้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ อีกทั้งยังติดตั้งระบบ Kaycard Access เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับลูกบ้านนั่นเอง
โถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยมีความกว้างประมาณ 1.50 เมตร พร้อมความสูง 3 เมตร จึงทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด รวมถึงมีช่องหน้าต่างตรงปลายทางเดิน ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร แต่เรามองว่ายังคงต้องเปิดไฟตรงโถงทางเดินช่วยให้ความสว่างควบคู่ไปด้วยนะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1
– Relaxing Courtyard & Secret Garden
– Reflection Pavilion
– Sensation Hallway (Lobby)
– Car Waiting Lounge
– Smart Locker
– Business Café - ชั้น 8
– Hidden Cave - ชั้น 28 : SKY SPORT ARENA
– Weight Training Area
– Sphere Bike Battle
– Yoga Studio
– Steam
– Indoor Jogging Track ระยะ 40 เมตร
– โต๊ะพลู & โต๊ะบอลมือหมุน - ชั้น 29
– SKY RIVER LOUNGE
– Skyscape Lap Pool (Infinity Edge Pool) สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 5.00×25.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
– Aqua Seat View
– Jacuzzi
– Meeting Room
– Trade Room
– Private Working Room
– Soul Massage & Therapy
– Relaxation Room พร้อมติดตั้ง Advanced Filtration System และ Plasma Ionizer Technology จาก CAP+ - Rooftop
– Skyline Garden and Jogging Track
– Outdoor Sky Dining
– Sky Cliff & Urban Viewpoint - ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
– รูปแบบประตูทางเข้า-ออกโครงการ (รถยนต์) : รั้วไม้กระดก
– รูปแบบประตูทางเข้า-ออกโครงการ (Pedestrian Entrance) : ประตูอะลูมิเนียม
– ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) : License Plate Recognition System (ระบบจดจำทะเบียนรถผู้พักอาศัย)
– ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) : Face Scan / Keycard Access
– CCTV ส่วนกลาง
– เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
– รูปแบบรั้วรอบโครงการ : รั้วทึบสูง 3.00 เมตร
แบบห้อง
Highlight
- ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีความโปร่งสบาย และได้วิวเมืองมุมสูง
- Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งห้อง
- ห้องนอนตรงชั้นลอย กั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- ห้องครัวแบบปิดทุกยูนิต เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร
- ระเบียงในทุกยูนิต แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) มีรูปแบบห้องพักอาศัยทั้ง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมาะอยู่ 1-2 คนได้สบายๆ รวมถึงเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เพราะทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มีความโปร่งสบาย แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นชั้นล่างและชั้นลอย
สำหรับพื้นที่ชั้นลอยจะถือเป็นแค่ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้คิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างและไม่ได้นับเป็นพื้นที่โฉนด ถือเป็นการออกแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนั่นเอง ดังนั้นเวลาจ่ายค่าส่วนกลางก็จะคิดตามพื้นที่โฉนด ทำให้เหมือนเราได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น แต่จ่ายค่าส่วนกลางถูกค่ะ อีกทั้งโครงการนี้ยังกั้นผนังกระจกตรงชั้นลอยมาให้เรียบร้อยแล้วด้วยแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่มักจะทำเป็นเพียงราวกันตกกระจกจึงได้พื้นที่ภายในห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น ส่วนตัวห้องก็ตกแต่งแบบ Fully Fitted แถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้นมาให้ ออกแบบได้ครัวปิดอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง, มีระเบียงและมุมนั่งทำงานริมหน้าต่างในทุกยูนิตค่ะ
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.)
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.)
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.)
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.)
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 45 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 61 ตร.ม.)
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 58 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 78 ตร.ม.)
ปัจจุบันทางโครงการขายได้ประมาณ 80% แล้วนะคะ โดยห้องของโครงการตรงชั้น 30-32 (Exclusive Floor) และห้องฝั่งที่หันหน้ารับวิวแม่น้ำจะขายไปหมดแล้ว แต่ยังมีห้องฝั่ง City View วิวเมืองสวยๆให้เลือกอยู่หลายตำแหน่งเลยค่ะ
อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าทางโครงการจะตกแต่งห้องแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว โดยจะได้ชั้นวางทีวี, เคาน์เตอร์ครัว Top พร้อมอ่างล้างจาน ไมโครเวฟ Hop & Hood, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า & ชั้นวางของและแอร์ในทุกยูนิต แต่สำหรับบางห้องจะได้ตู้รองเท้า & ชั้นวางของบริเวณด้านหน้าห้องเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกออกแบบและตกแต่งห้องตามสไตล์ที่เราชื่นชอบได้ จึงต้องเผื่องบสำหรับการตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดเครื่องนอนด้วยนั่นเอง
มีจุดที่เราชอบ คือ ทางโครงการได้กั้นผนังกระจกบริเวณชั้นลอยมาให้เรียบร้อยแล้ว แตกต่างจากห้องฝ้าเพดานสูงในโครงการอื่นๆที่จะทำเป็นเพียงราวกันตกแบบกระจก ทำให้ห้องนอนตรงชั้นลอยมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งแอร์ไม่ลอยลงไปด้านล่าง ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดีด้วยค่ะ
สรุปวัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นลามิเนตลายไม้
– พื้นระเบียง : กระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– Digital Door Lock จาก Home Shield รองรับ 3 ระบบ ได้แก่ Keypad, Key Card ละการควบคุมผ่าน Application
– ผนังห้องฉาบเรียบ ทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก LG จำนวน 2 เครื่อง (ห้อง 1 Bedroom ขนาด 9,000 – 18,000 BTU และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 12,000 – 24,000 BTU)
– ตู้เก็บของ & ตู้รองเท้า บริเวณด้านหน้าห้อง (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– ชั้นวางทีวี
– ฐานเตียง 5 ฟุต
– ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของแบบ Built-in บริเวณชั้นลอย
– กั้นผนังกระจก บริเวณชั้นลอย
วัสดุห้องครัว
– พื้นห้องครัว : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– เคานต์เตอร์ครัวแบบ Built-in พร้อม Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in จาก TEKA
– Top Counter : หินเทียม
วัสดุห้องน้ำ
– พื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower จาก KÄSCH
– ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA
– Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
สำหรับวันนี้เราจะพามาดูห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 และ 27 ตร.ม. กันนะคะ ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็ก แต่พอทางโครงการออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูงก็ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบาย ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.)
สำหรับห้องแรกที่เราพามาดูคือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.) ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการนะคะ โดยจะมีชั้นละ 4 ยูนิตทางฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตก (วิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิทและฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา) แต่มีคอนโดสูง 17 ชั้นอยู่ทางฝั่งตะวันตก ทำให้ห้องชั้นไม่สูงมากจะถูกบล็อกวิวนะคะ นอกจากนั้นยังออกแบบเป็นห้องที่มีกระจกเรียบๆ แตกต่างจากห้องอื่นที่มีกระจกเข้ามุมยื่นออกมาด้านนอกและเปิดรับวิวได้กว้างกว่านั่นเอง แต่น่าสนใจที่ห้องตำแหน่ง 10 และ 18 จะติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว จึงถือเป็นห้องเริ่มต้นราคาดีที่ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ เราได้สรุปจุดเด่นของห้องนี้มาดังนี้
- ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารจริงจังได้ ช่วยป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปห้อง
- ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ
- ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างทำมุมนั่งเล่นได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
- ห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอยพร้อมกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ด้านหน้าห้องพักอาศัย
ประตูทางเข้าห้องทุกยูนิตติดตั้ง Digital Door Lock จาก Home Shield มาให้ตามมาตรฐาน สามารถรองรับการใช้งาน 3 ระบบ ได้แก่ Keypad, Key Card และการควบคุมผ่าน Application ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายดี
ห้องครัวแบบปิด
เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องครัวแบบปิด ขนาดประมาณ 2.00×2.30 เมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.00 เมตรและปูพื้นด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร ทำให้สามารถทำอาหารได้จริงจังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันอาหารจะลอยเข้าไปภายในห้อง อีกทั้งยังเช็ดทำความสะอาดพื้นได้ง่ายด้วย
โดยทางโครงการได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อยเลย มีพื้นที่ยืนประกอบอาหารกว้างประมาณ 1.40 เมตร ส่วนทางฝั่งประตูห้องจะมีพื้นที่ให้ตั้งตู้เก็บรองเท้าได้เหมือนที่ทางห้องตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียเลย
เคาน์เตอร์ครัว
เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built – in มาให้ Top ด้วยหินเทียมสีขาวที่สามารถทนรอยขีดข่วนและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างก็สามารถเก็บเครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ รวมถึงมีพื้นที่ด้านล่างวางอุปกรณ์ทำความสะอาดและถังขยะไว้ทิ้งเศษอาหารได้ด้วย ส่วนตรงกลางมีเว้นช่องไว้ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าพร้อมเดินงานระบบมาให้ เราจะได้ไม่ต้องเสียพื้นที่ระเบียงเพื่อตั้งเครื่องซักผ้าและใช้พื้นที่ระเบียงสำหรับตากผ้าหรือยืนชมวิวแทนค่ะ
สำหรับ Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in เลือกใช้จาก TEKA ส่วนบริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ไม่มีกรุกระเบื้องหรือติดตั้ง Backsplash เราก็แนะนำให้ติดเพิ่มเติมเพื่อทำความสะอาดได้ง่ายและผนังดูสวยงาม ไม่เป็นคราบน้ำมันเวลาทำกับข้าวหนักๆ ด้วยค่ะ มีจุดที่เราชอบคือออกแบบที่ใส่กระดาษทิชชูในตู้ด้านบน ทำให้ดึงใช้งานได้สะดวกดี
ก่อนจะเข้าไปยัง Common Area จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องครัวและ Common Area ไว้ นอกจากป้องกันไม่ให้กลิ่นอาหารลอยไปภายในห้องแล้ว การเลือกใช้ประตูกระจกแบบ 3 ตอน ก็ช่วยดึงแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วทั้งห้องและเวลาที่เราไม่ได้ทำอาหารก็สามารถเปิดประตูได้กว้าง ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งค่ะ
ห้องฝ้าเพดานสูง
ทางโครงการออกแบบห้องทุกยูนิตเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร ที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนั่นเอง เพราะทำให้พื้นที่ตรงบริเวณนี้ดูโปร่งสบายมากๆเลย รวมถึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วย เพราะว่าห้องนอนจะยกไปตรงชั้นลอย ทำให้เราใช้พื้นที่ชั้นล่างสำหรับต้อนรับแขกได้โดยไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัวนั่นเอง นอกจากนั้นยังได้กระจกขนาดใหญ่เปิดรับแสงและวิวได้กว้างค่ะ
ซึ่งจะปูพื้นเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ให้สัมผัสเหมือนไม้จริงและความรู้สึกอบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อน ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์ค่ะ
พื้นที่นั่งเล่น
Common Area มีขนาด 2.90×4.10 เมตร ออกแบบเป็นพื้นที่ Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารอยู่บริเวณเดียวกัน ใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยพื้นที่นั่งเล่นสามารถตั้งโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง มีพื้นที่เดินผ่านกว้าง รวมถึงตั้งทีวีขนาด 55 นิ้วขึ้นไปได้ ยิ่งใครที่ชอบดูหนังอยู่แล้วก็ซื้อทีวีจอใหญ่ๆได้เลยค่ะ
สำหรับชั้นวางทีวีนี้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ทางโครงการแถมมากับตัวห้องนะคะ โดยออกแบบเป็นชั้นวางของที่มีติดตั้งหน้าบานปิด ทำให้สามารถตั้งโชว์ของกระจุกระจิกและเก็บของเล็กๆน้อยๆได้
ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่ขนาดประมาณ 0.70×1.55 เมตร ใช้เป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารเหมือนห้องตัวอย่างได้เลย หรือจะใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานริมหน้าต่างก็ดีเหมือนกัน จะได้นั่งทำงานไปพร้อมกับชมวิวเมืองได้เลยนั่นเอง
ทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วยนะคะ จะได้เป็นแบบ Wall Type จาก LG จำนวน 2 เครื่อง สำหรับห้อง 1 Bedroom จะได้ขนาด 9,000 – 18,000 BTU ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus จะได้ขนาด 12,000 – 24,000 BTU ค่ะ
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นเลยนะคะ ทำให้เวลาเราหรือแขกนั่งอยู่ตรงบริเวณนี้ก็สามารถใช้งานได้สะดวกดีค่ะ
ห้องน้ำ
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.60×2.65 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร พร้อมออกแบบภายในห้องน้ำแบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน แต่ที่เราชอบคือมีการก่อกำแพงด้านหลังเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ทำให้ได้พื้นที่วางของตกแต่งและอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้เยอะขึ้น รวมถึงมีกระจกเงาที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวเกือบเต็มผนังห้อง ทำให้เราส่องกระจกได้ชัดเจน
สำหรับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower เลือกใช้จาก KÄSCH พร้อม Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทำให้สามารถดูข่าวและฟังเพลงในห้องน้ำได้เลย นอกจากนั้นยังเลือกใช้เป็นสุขภัณฑ์แบบ Wall-Hung ที่ติดแบบลอยตัว จึงสามารถทำความสะอาดพื้นได้สะดวกด้วย
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×1.25 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังเพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้สะดวก อีกทั้งเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA ทำให้เวลาอาบน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ
ต่อมาเราจะพาไปดูพื้นที่ระเบียงและเดินขึ้นไปยังชั้นลอยที่เป็นห้องนอนกันนะคะ โดยเราจะพาไปดูระเบียงกันก่อนเลย
ประตูของระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเปิดประตูได้กว้าง ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.60×1.40 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร และแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบให้เราตั้งเครื่องซักผ้าอยู่ตรงห้องครัวแล้ว เราจึงใช้พื้นที่นี้เป็นมุมปลูกต้นไม้ ตากผ้า หรือตั้งเก้าอี้เล็กๆมานั่งรับลมได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ระเบียงจะเป็นบันไดยาวไปถึงชั้นลอย มีความกว้างประมาณ 0.70 เมตร ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 22 เซนติเมตร และลูกนอนอยู่ที่ 26 เซนติเมตร ถึงแม้จะมีลูกตั้งสูงหน่อยแต่ก็มีขั้นบันไดไม่กี่ขั้น จึงเดินขั้น-ลงได้ไม่ยากนัก มีราวบันไดเป็นโครงเหล็กพร้อมกระจก ทำให้ดูสวยงาม สบายตา
ทางโครงการได้ออกแบบห้องเก็บของบริเวณใต้บันได ช่วยทำให้ภายในห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น สามารถใช้เก็บพวกของชิ้นใหญ่ๆอย่างกระเป๋าเดินทางได้ สำหรับใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆนั่นเอง
อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วนะคะว่าโครงการนี้ได้มีการกั้นผนังกระจกตรงบริเวณชั้นลอยมาให้เรียบร้อยเลย แตกต่างจากโครงการอื่นๆที่มักจะทำเป็นราวกันตกแบบกระจก ซึ่งพอทางโครงการกั้นกระจกมาให้แล้ว มีข้อดีคือได้พื้นที่เป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว, ประหยัดไฟ เพราะความเย็นจากแอร์ตรงชั้นลอยไม่ไหลลงไปด้านล่างและช่วยประหยัดเงินในการกั้นกระจกห้อง เพราะทางโครงการติดตั้งมาให้แล้วนั่นเอง
ห้องนอน
เราพามาดูบริเวณชั้นลอยกันเลย จะเป็นส่วนของห้องนอนที่มีมุมแต่งตัวด้วย โดยมีขนาดอยู่ที่ 2.90×3.10 เมตร และสูงประมาณ 2.00 เมตร ส่วนพื้นปูเป็นลามิเนตลายไม้เหมือนกับชั้นล่างค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุตและ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ โดยเว้นพื้นที่รอบเตียงกว้างจึงเดินเข้า-ออกได้สบาย รวมถึงตั้งโต๊ะข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้
นอกจากนั้นยังกั้นผนังกระจกมาให้เรียบร้อยและเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติเข้ามาจากช่องแสงตรง Common Area และมีช่องเปิดระบายอากาศได้ด้วยค่ะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.)
ห้องต่อมาที่เราพามาดูก็เป็น 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.) ถือเป็นอีกแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะ เรามองว่าน่าสนใจที่ถึงแม้จะเป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ออกแบบมีกระจกเข้ามุมยื่นออกมาด้านนอก เพื่อเปิดรับแสงและวิวได้กว้างนั่นเอง จุดเด่นของแบบห้องนี้มีดังนี้
- แบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service ทั้งห้องครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ส่วนโซนพักผ่อนอย่าง Common Area อยู่ติดกับหน้าต่างได้วิวกว้างและห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนดี
- ห้องครัวแบบปิด ถูกใจคนชอบทำอาหาร ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันลอยเข้าไปในห้อง
- ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ใช้งานสะดวก
- ระเบียง แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้
- ห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอยพร้อมกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว
ประตูห้องติดตั้ง Digital Door Lock จาก Home Shield รองรับ 3 ระบบ ได้แก่ Keypad, Key Card และการควบคุมผ่าน Application เหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยนะคะ ทำให้ลูกบ้านเข้า-ออกห้องได้สะดวกดี
เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเป็นห้องครัวแบบปิดค่ะ มีขนาดประมาณ 2.15×2.50 เมตร สูง 2.00 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร โดยฝั่งนึงจะเป็นตู้เก็บรองเท้าและตู้วางของ เวลาเข้าห้องมาก็เก็บรองเท้าและวางกระเป๋าหรือของต่างๆได้เลย ส่วนอีกฝั่งจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวและห้องน้ำค่ะ
ห้องครัวแบบปิด
ทางโครงการออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิด ทำให้เราสามารถทำอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันอาหารจะลอยเข้าไปภายในห้องนั่นเอง รวมถึงทางโครงการได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ
เคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินเทียมที่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย มีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง จุของได้เยอะ พร้อมเว้นช่องตรงกลางไว้ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า รวมถึงติดตั้ง Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in จาก TEKA มาเรียบร้อย แต่เราแนะนำให้ติดตั้ง Backsplash บริเวณผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและผนังไม่เป็นคราบจากการทำอาหารด้วยค่ะ รวมถึงมีที่ใส่กระดาษทิชชูในตู้ด้านบนเหมือนห้องก่อนหน้านี้ด้วยนะ
สำหรับเรามองว่าแบบห้องนี้เหมาะทำอาหารได้จริงจังระดับนึงแต่ไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก เพราะว่าอีกฝั่งของห้องจะเป็นตู้รองเท้าและตู้เก็บของ ทำให้กลิ่นหรือควันอาหารอาจจะติดพวกตู้เหล่านี้ได้นั่นเอง เราจึงต้องคอยเช็ดทำความสะอาดหน้าบานตู้บ่อยๆหน่อยนะคะ
Built-in ตู้รองเท้าและตู้เก็บของ
เราพามาดูอีกฝั่งของห้องครัวกันต่อที่ทางโครงการได้ Built – in ตู้วางรองเท้าและตู้วางของมาเต็มผนังเหมือนในรูปเลยนะคะ โดยจะมีเว้นช่องสำหรับตั้งตู้เย็นไว้ ซึ่งพอทางโครงการได้ตกแต่งส่วนนี้มาให้แล้ว เราก็ประหยัดเงินไปได้หลายหมื่นเหมือนกันนะ
สำหรับตู้วางของก็สามารถเก็บของได้เยอะดีและพอมีหน้าบานปิดก็ช่วยทำให้เก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังมีชั้นวางของไว้วางพวกกุญแจรถ Keycard ต่างๆได้ ส่วนตู้ที่มีหน้าบานเป็นกระจกสีดำจะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่วางรองเท้าได้หลายคู่เลย รวมถึงมีที่นั่งใส่รองเท้าและด้านล่างมีช่องเก็บรองเท้าอีกจุดด้วย
ห้องน้ำ
ด้วยการออกแบบแบ่งส่วนของ Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำไว้ด้านหน้าห้อง ก็ทำให้แยกการใช้งานได้ชัดเจนดีค่ะ รวมถึงไม่มีกลิ่นจากอาหารหรือความชื้นจากห้องน้ำเข้าไปภายในห้องด้วย
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ฝั่งเคาน์เตอร์ครัวเลย มีขนาดห้องประมาณ 1.55×2.50 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร แบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน มีก่อกำแพงด้านหลังเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นพื้นที่วางของได้เยอะ
ทางโครงการเลือกติดตั้งก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower จาก KÄSCH พร้อม Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มาให้ด้วย โดยติดตั้งสุขภัณฑ์แบบ Wall-Hung เพื่อทำความสะอาดพื้นได้ง่าย ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×1.15 เมตร พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นและเจาะช่องวางของตรงผนังเพื่อหยิบอุปกรณ์อาบน้ำได้สะดวก รวมถึงมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA ติดตั้งมาให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นนั่นเองค่ะ
ประตูกั้นระหว่างโซน Service และพักผ่อนจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วทั้งห้อง รวมถึงเวลาที่เราไม่ได้ทำอาหารก็สามารถเปิดประตูเพื่อให้พื้นที่เชื่อมต่อเนื่องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ได้ความโปร่งโล่งดี
ห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร
อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าทุกยูนิตในโครงการนี้จะเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเลย เพราะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้เยอะ สร้างบรรยากาศโปร่งสบาย อีกทั้งแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนทั้งชั้นล่างเพื่อนั่งเล่นและชั้นลอยเป็นห้องนอน โดยวัสดุในการปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้ ให้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์
Common Area
Common Area มีขนาด 2.95×4.85 เมตร ออกแบบเป็นพื้นที่ Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยพื้นที่นั่งเล่นสามารถตั้งโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้กว้าง มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.00 เมตร จึงตั้งทีวีขนาด 55 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ
ทางโครงการได้แถมชั้นวางทีวีนี้มาด้วยนะคะ จะได้หน้าตาเหมือนภาพด้านบนเลย ไว้สำหรับเก็บของกระจุกกระจิกได้นั่นเอง
ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารได้ โดยเราสามารถตั้งโต๊ะและเก้าอี้เหมือนที่ทางห้องตัวอย่างตกแต่งมาเป็นไอเดียได้เลยนะ
พื้นที่ริมหน้าต่างนี้มีขนาดประมาณ 1.30×2.15 เมตร ซึ่งเราสามารถทำเป็นมุมนั่งรับประทานอาหารหรือมุมทำงานริมหน้าต่างแบบ Bay Window ได้ เพราะทางโครงการได้ออกแบบเป็นกระจกเข้ามุมยื่นออกมาด้านนอก เพื่อเปิดรับวิวได้กว้างมากขึ้นนั่นเอง
สำหรับระเบียงจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่นั่งรับประทานอาหารเลย โดยจะมีประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ส่วนระเบียงมีขนาด 0.60×1.65 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 30×30 เซนติเมตร และแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้เรามีพื้นที่ด้านล่างใช้เป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ พร้อมปลูกต้นไม้เพิ่มวิวสีเขียวให้กับตัวห้องได้ด้วย
สำหรับบันไดขึ้นไปยังชั้นลอยจะได้หน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ มีความกว้างประมาณ 0.70 เมตร ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 22 เซนติเมตรและลูกนอนขนาด 26 เซนติเมตร มีราวบันไดเป็นโครงเหล็กพร้อมกระจก
บริเวณใต้บันไดก็ออกแบบเป็นห้องเก็บของ เพื่อเก็บของชิ้นใหญ่ๆอย่างกระเป๋าเดินทางได้ ทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่ดูเรียบร้อย สะอาดตา
ห้องนอน
บริเวณชั้นลอยจะเป็นห้องนอนที่ทางโครงการได้กั้นผนังกระจกมาให้เรียบร้อยแล้วเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย ทำให้ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้เยอะและมีช่องเปิดระบายอากาศภายในห้องด้วย
มีขนาดห้องประมาณ 3.20×3.20 เมตรและสูง 2.00 เมตร ส่วนพื้นปูเป็นลามิเนตลายไม้เหมือนกับชั้นล่างค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุตและ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ จะมีพื้นที่ตั้งโต๊ะข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้และมีพื้นที่เดินรอบเตียงกว้าง แต่หากจะเข้าห้องน้ำตอนดึกจะต้องเดินลงไปชั้นล่าง ทำให้ต้องระมัดระวังเวลาเดินขึ้น-ลงบันไดด้วยนะคะ
แบบแปลน
แบบห้องภายในโครงการ
แบบห้องภายในโครงการ
ราคา
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) ราคา ณ วันที่ 14 มกราคม 2568
- ห้องฝ้าเพดานสูงทั้งโครงการ
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 24 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 34 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 27 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 38 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 35 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 47-48 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 45 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 61 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 58 ตร.ม. (พื้นที่รวมชั้นลอยเป็น 78 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.20 เมตร
- ชุดครัว Top Counter หินเทียม / Hob, Hood, อ่างล้างจานและไมโครเวฟแบบ Built-in จาก TEKA
- ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว Hand-Rain Shower จาก KÄSCH
- ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก RIVIERA
- Smart Mirror กระจกอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
- เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก LG จำนวน 2 เครื่อง (ขนาดขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
- ค่าจอง 10,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 10,000 บาท
- ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน
- พิเศษ! พบข้อเสนอและโปรโมชั่นในวันงานเปิดชมตึกใหม่ครั้งแรก!! 14-15 ก.พ. เท่านั้น
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง เดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า จึงสามารถไปยังโซนธุรกิจได้ทั้งสีลม, สาทร, ชิดลม, เอกมัยและทองหล่อ อีกทั้งใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานครในระยะ 2 กิโลเมตร เข้า-ออกเมืองสะดวก และใกล้ Summer Hills และ W District ระยะ 300 เมตร จึงหาซื้อของกินของใช้ได้ง่าย หรือจะไปทำเลข้างเคียงอย่างเอกมัย-ทองหล่อก็ถือเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงเลยค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ที่สามารถใช้เดินทางไปยังสีลม สาทร ได้ง่าย มีเส้นทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดไปยังถนนสุขุมวิทหรือถนนเลียบทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้ รวมถึงจะใช้เส้นถนนสุขุมวิทเพื่อเข้าเมืองไปทางสยาม ชิดลมหรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาก็สะดวก ส่วนพื้นที่จอดรถในโครงการเป็นแบบ Automatic Parking 222 คัน และช่องจอดใต้อาคาร 6 คัน (แบ่งเป็นที่จอดรถ EV Charger 4 คัน) คิดเป็น 59% ถือว่าให้มาเยอะดีเหมาะกับขนาดโครงการค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ถือเป็นจุดเด่นของโครงการที่อยู่ใกล้ BTS สถานีพระโขนงเพียง 250 เมตร* จึงสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก ทำให้ใครที่ทำงานในเมืองใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่แล้วจะสะดวกในการเดินทางมากเลย นอกจากนั้นยังมีรถประจำทาง, วินมอเตอร์ไซค์และ Taxi ผ่านไป-มา ทำให้สามารถเรียกรถได้ง่าย
วัสดุ :
รูปแบบการขายของโครงการนี้เป็น Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ทำให้เราซื้อเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้ ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบจาก KÄSCH และมีแอร์มาให้ 2 ตัวด้วยค่ะ ส่วนที่เราว่าน่าสนใจคือมี Smart Mirror กระจกอัจฉริยะและกั้นผนังกระจกตรงชั้นลอยมาให้เรียบร้อยค่ะ
การออกแบบ :
การออกแบบตัวอาคารจะมีจุดเด่นที่ออกแบบยื่นกระจกออกมาด้านนอก ทำให้เพิ่มมุมมองเปิดรับวิวได้กว้างให้กับห้องพักอาศัยและยังทำให้ตัวอาคารมีมิติมากขึ้น ส่วนการวางผังอาคารจะออกแบบให้ Core Lift อยู่ตรงกลางได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor พร้อมประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และโถงทางเดิน ทำให้ห้องพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น
รูปแบบห้องมีให้เลือกเป็น 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Plus เหมาะอยู่ 1-2 คนได้สบายๆ โดยเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลย เพราะแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนทั้งชั้นล่างและชั้นลอย รวมถึงห้องส่วนใหญ่ได้กระจกเข้ามุมเปิดรับวิวได้กว้างขึ้น ซึ่งทุกยูนิตมีห้องครัวแบบปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารและตรงระเบียงทุกห้องก็แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ค่ะ
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางออกแบบกระจายอยู่ที่ชั้น 1, 8, 28-29 และ Rooftop พร้อมออกแบบแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ซึ่งถือว่ามีส่วนกลางมาให้หลากหลายเมื่อเทียบกับจำนวนห้อง 380 ยูนิตค่ะ อีกทั้งส่วนกลางแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ ทำให้ถึงแม้จะมีคนอื่นมาใช้งานในบริเวณเดียวกัน แต่ยังได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ได้รู้สึกอึดอัดนั่นเอง
ส่วนกลางชั้น 1 จะเป็นพื้นที่นั่งพักคอย, ชั้น 8 พื้นที่สวนสีเขียว, ชั้น 28 จะเน้นเป็น Active Facilities พวกฟังก์ชันออกกำลังกายต่าง, ชั้น 29 เน้น Passive Facilities พื้นที่นั่งทำงานและชั้น 32 จะเป็นสวนสีเขียวและจุดชมวิวที่มองเห็นวิวได้รอบด้าน รวมถึงเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 190,000 บาท/ตร.ม., 14 มกราคม 2568
- ทำเล 8/10 – ติดถนนพระราม 4 ใกล้แยกพระโขนง หาของกินง่าย
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน 2 สาย มีเส้นทางลัดเลาะเพื่อเลี่ยงรถติด
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้ BTS พระโขนง 250 เมตร*
- วัสดุ 8/10 – ตกแต่งแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่เลย
- แบบ 8.75/10 – เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ยูนิตน้อย โถงทางเดิน Single Corridor และห้องฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งโครงการ
- สาธารณูปโภค 8.75/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย พื้นที่ขนาดใหญ่ มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
- HIGH CLASS
- 8.23 / 10.00
KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) เหมาะกับใคร
โครงการ KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมที่เน้นความเป็นส่วนตัว ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน เดินทางไปโซนพระราม 4, สีลม, สาทรหรือเอกมัย-ทองหล่อได้ง่าย ชอบห้องฝ้าเพดานสูง มีช่องแสงขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานหลากหลาย มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ มีงบประมาณ 4.99-14.99 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 29,940 – 104,930 บาท
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่