รีวิวฉบับที่ 2805 … Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) แบรนด์ Klos ถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่จาก Frasers Property Home เมื่อกลางปีที่แล้วเพิ่งจะเปิดตัวโครงการแรกคือ Klos Ratchada 7 ที่เราเคยพาทุกคนไปชมกันกันมาแล้ว และต้นปีนี้ Klos ได้กลับมาอีกครั้งในชื่อโครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) โดยคง Concept เดิมคือเป็นคอนโด Low Rise ทำเลดีใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้า ซึ่งครั้งนี้มาในรูปแบบคอนโด 8 ชั้นติดห้างแฟชั่นไอส์แลนด์และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เราลิส Highlights ที่น่าสนใจไว้ให้เรียบร้อย จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลยค่ะ
- ใกล้ MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา : ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 150 เมตร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
- ติดแฟชั่นไอส์แลนด์ : ซึ่งเป็นห้างใหญ่ของคนในโซนนี้ ลูกบ้านเดินไปหาของกินของใช้ได้สบายๆ ในระยะประมาณ 150 เมตร
- ยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง : โครงการมีเพียง 150 ยูนิตเท่านั้น ในขณะที่โครงการรอบข้างมีตั้งแต่ 600 – 900 กว่ายูนิต จึงถือว่าโครงการนี้มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลย ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด นอกจากนี้ลูกบ้านยังสามารถแชร์ส่วนกลางกับจำนวนเพื่อนบ้านไม่เยอะด้วย
- มีแบบห้องให้เลือกหลายหลาก : โครงการเน้นเป็นห้อง Type เล็กคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus โดยมีห้องให้เลือกมากกว่า 19 แบบ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่หลากหลาย
ข้อมูลโครงการ
Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) ณ วันที่ 23 มกราคม 2568
ชื่อโครงการ | Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยรามอินทรา99 แขวงคันนายาว เขต คันนายาว กทม. |
ที่ดิน | 0-3-74 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 150 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 36% (รวมที่จอดรถซ้อนคัน 45%) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2568 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2569 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 1.99 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 115,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1520 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ติด MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา : ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 100 เมตร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
- ติดแฟชั่นไอส์แลนด์ : ซึ่งเป็นห้างใหญ่ของคนในโซนนี้ ลูกบ้านเดินไปหาของกินของใช้ได้สบายๆ ในระยะประมาณ 190 เมตร
พิกัด Google Maps : 13.824603911554567, 100.68204269146607
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) ค่ะ
โครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 99 ซึ่งอยู่ติดกับห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ สามารถเดินไปได้ในระยะประมาณ 150 เมตร เรียกได้ว่าลูกบ้านสามารถไปหาของกินของใช้ทุกวันเลยค่ะ ตัวโครงการห่างจากถนนหลักอย่างถนนรามอินทราประมาณ 30 เมตรเท่านั้น ซึ่งถนนรามอินทราเป็นถนนเส้นหลักที่มีแหล่งความอุดมสมบูรณ์เกาะอยู่ตลอดแนวเลยค่ะ มีทั้งเดอะ พรอมานาด , เดอะแจส รามอินทรา , อมอรินี่ มอลล์ , แม็คโคร รามอินทรา , เซ็นทรัล รามอินทรารวมถึงตลาดนัดอีกหลายแห่ง
ในละแวกโครงการไม่ได้มีแต่ซูเปอร์มาเก็ตหรือห้างสรรพสินค้าเท่านั้นนะคะ ยังมีแหล่งงานต่างๆ เช่นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี , โรงพยาบาลอินทรารัตน์ , โรงพยาบาลสินแพทย์ ใครที่ทำงานในโซนนี้ เดินทางไปทำงานได้สะดวกมากๆ ประหยัดเวลาในการเดินทางไปได้เยอะเลยค่ะ
ถนนรามอินทราสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นรองต่างๆในโซนนี้ได้ง่าย ทั้งถนนนวมินทร์ , ถนนรัชดา-รามอินทราซึ่งเป็นถนนที่มีบริษัทเล็กๆ และบ้านพักอาศัยรวมถึงโฮมออฟฟิศอยู่ตลอดแนวถนน ใครที่ทำงานในโซนนี้ก็ถือว่าเดินทางมาได้ง่ายเช่นกันค่ะ ถนนเส้นนี้จะไม่ได้มีอาคารสูงๆหรือแหล่งงานขนาดใหญ่ โซนนี้จึงดูไม่พลุกพล่านเท่าถนนรามอินทรา
เส้นทางการเดินทาง
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า :
เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู
ส่วนเรื่องการเดินทางต่างๆ ก็สะดวกเช่นกัน เพราะโครงการอยู่ใกล้กับ MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทราประมาณ 150 เมตรเท่านั้น สะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหน จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำค่ะ
รถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งยาวตั้งแต่โซนมีนบุรี ไปจนถึงศูนย์ราชการนนทบุรี และยังสามารถเปลี่ยนสายไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว , สายสีแดงและสายสีม่วงได้ด้วยนะคะ ใครที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าถือว่าเดินทางไปทำงานได้ง่ายมากๆ เช่นโซนรามอินทรา , ลาดปลาเค้าและแถวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
บรรยากาศรอบๆ MRT
ทางเดินจาก MRT มายังโครงการ จะติดถนนใหญ่ก่อนจะเดินเข้าซอยไปเล็กน้อยประมาณ 30 เมตร มีรถผ่านไปมาตลอด จึงไม่เปลี่ยวและปลอดภัยค่ะ ส่วนตัวฟุตบาทยกระดับขึ้นมาจากถนนและมีความกว้างมาก ทำให้เราเดินได้สบายๆ ระหว่างทางเดินเราจะผ่านแฟชั่นไอส์แลนด์อยู่แล้ว หากใครอยากแวะซื้อของกินของใช้ก่อนกลับเข้าห้องก็สะดวกนะ
หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์มีป้ายรถเมล์อยู่
สำหรับเรื่องการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ก็สะดวกไม่แพ้กันเพราะบริเวณห้างแฟนชั่นไอส์แลนด์ที่ห่างจากโครงการประมาณ 150 เมตร มีทั้งป้ายรถเมล์และจุดบริการรถแท็กซี่อยู่ ลูกบ้านสามารถเดินมาขึ้นรถได้ไม่ยากเลยค่ะ
เส้นทางไปวงแหวนกาญจนาภิเษก (ไปบางนา)
สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก สามารถเข้าวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ในระยะ 2.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปโซนบางนา , รามคำแหงได้สบายๆ หรือใครต้องการเดินทางไปในเมืองโซนพระราม 9 , อ่อนนุชก็สามารถไปใช้ทางด่วนฉลองรัชที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 7.5 กิโลเมตรได้
เราจึงมองว่าโครงการนี้รองรับกลุ่มคน 2 กลุ่มเป็นหลักคือ กลุ่มคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก , กลุ่มคนที่ทำงานในละแวกนี้ และพนักงานของห้างแฟชั่นไอส์แลนด์และเดอะ พรอมานาด รวมถึงบุคลากรของโรงพยาบาลโซนนี้ด้วยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ที่ตั้งโครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) อยู่ในซอยรามอินทรา 99 ติดกับแฟชั่นไอส์แลนด์ โดยตัวโครงการจะอยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นและหอพัก 4 ชั้น บรรยากาศรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของชุมชนพักอาศัย , อาคารพาณิชย์ และห้างสรรพสินค้า สำหรับคนที่ชอบห้องด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ , ทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วอยากได้วิวโล่งๆแนะนำให้เลือกห้องชั้น 5 ขึ้นไปนะคะ
บรรยากาศหน้าโครงการ
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ 3 ชั้น
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัย 4 ชั้น , ชุมชนบ้าน 2 ชั้น
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น , ลานจอดรถของโรงจำนำ
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ ห้างแกรนด์โฮม 2 ชั้นและลานจอดรถ
Sale Gallery อยู่ข้างๆร้านซัมซุง (เล็ก)
Sale Gallery อยู่ภายในห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 3 ฝั่งใกล้กับศูนย์ บริเวณตรงข้ามกับร้านเอไอเอส และอยู่ข้างๆร้านซัมซุงค่ะ
บรรยากาศภายใน Sale Gallery
Sale Gallery มีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบคือ ห้อง 1 Bedroom Type B1 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.4 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีโมเดลตัวอาคารให้ดูด้วยนะคะ เพื่อให้เราได้เห็นบรรยากาศจำลองของโครงการ และเลือกทิศของห้องได้
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- แฟชั่นไอส์แลนด์ ~ 800 m. (ระยะเดินเท้า ~ 150 m.)
- เดอะพรอมนาด ~ 2.4 km. (ระยะเดินเท้า ~ 600 m.)
- อมอรินี่ ~ 1.5 km.
- แม็คโคร รามอินทรา ~ 4.3 km.
- มาร์เก็ตเพลส นวมินทร์ ~ 5.6 km.
- โลตัส สุขาภิบาล 1 ~ 5.8 km.
- แจส กรีน วิลเลจ คู้บอน ~ 5.8 km.
- ฟู้ดแลนด์ นวมินทร์ ~ 5.9 km.
- ชอคโกแลต วิลล์ ~ 6.5 km.
- ตลาดนัดเลียบด่วน ~ 6.8 km.
- โตเกียว พลาซ่า ~ 7.6 km.
- คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ~ 8.8 km.
- เพลินนารี่มอลล์ ~ 9.3 km.
- บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า รามอินทรา ~ 9.3 km.
- เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ~ 9.3 km.
- ตลาดหัวมุม ~ 9.9 km.
- เดอะ พาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง ~ 10.2 km.
- เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ~ 11.2 km.
- เซ็นทรัล รามอินทรา ~ 12.2 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ~ 1.3 km.
- โรงพยาบาลสินแพทย์ ~ 2.8 km.
- โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา ~ 2.9 km.
- โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 3.8 km.
- โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์~ 5.1 km.
- โรงพยาบาลนวมินทร์ ~ 5.3 km.
- โรงพยาบาลนวเวช ~ 5.3 km.
- โรงพยาบาลรามคำแหง 2 ~ 8.0 km.
- โรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ ~ 8.0 km.
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 8.0 km.
- โรงพยาบาลลาดพร้าว ~ 11.4 km.
โรงเรียน
- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ~ 1 km.
- โรงเรียนนานาชาติจีน ~ 4.1 km.
- โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 ~ 4.3 km.
- โรงเรียนเตรียมแพทย์ เตรียมวิทย์พัฒนา ~ 4.5 km.
- โรงเรียนจินดาบำรุง ~ 4.9 km.
- โรงเรียนสายอักษร ~ 5.1 km.
- โรงเรียนเลิศหล้า ~ 5.5 km.
- โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ~ 6.0 km.
- โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 7.6 km.
- มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขต ร่มเกล้า ~ 8.9 km.
- มหาวิทยาลัยเกริก ~ 12.0 km.
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 13.3 km.
การเดินทาง
- MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา ~ 150 m.
- วงแหวนกาญจนาภิเษก ~2.3 km.
- ทางด่วนฉลองรัช ~ 7.8 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง : โครงการมีเพียง 150 ยูนิตเท่านั้น ในขณะที่โครงการรอบข้างมีตั้งแต่ 600 – 900 กว่ายูนิต จึงถือว่าโครงการนี้มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลย ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด นอกจากนี้ลูกบ้านยังสามารถแชร์ส่วนกลางกับจำนวนเพื่อนบ้านไม่เยอะด้วย
- อาคารรูปตัว U : ล้อมส่วนกลาง ทำให้ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำของส่วนกลาง
Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) เป็นคอนโด Low Rise ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 0-3-74 ไร่ รวม 150 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่มีตั้งแต่ 624-988 ยูนิตแล้ว โครงการนี้ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ ทำให้ลูกบ้านโครงการนี้ได้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย และอีกหนึ่งข้อดีคือ ลูกบ้านแชร์ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านในจำนวนไม่เยอะ ไม่หนาแน่นและเพียงพอต่อการใช้งานค่ะ
โครงการกระจายพื้นที่ส่วนกลางไว้ 3 ชั้นเพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานค่ะ โดยแบ่งดังนี้ ชั้น 1 เป็น Lobby ส่วนกลางและที่จอดรถ ส่วนชั้น 2 จะเป็น Main Facility ของโครงการมีทั้งสระว่ายน้ำ , Fitness และ Co-Working Space และส่วนกลางชั้นสุดท้ายคือ สวนบนดาดฟ้าที่ได้วิวแบบเปิดโล่งค่ะ สำหรับห้องพักอาศัยจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 2-8 เลยค่ะ
แปลนชั้น 1
เรามาดูรายละเอียดของโครงการกันค่ะ เริ่มจาก Masterplan มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว คือเข้าจากซอยรามอินทรา 99 ซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาในโครงการเล็กน้อย เพื่อให้รถยนต์มีที่รอเวลาแลกบัตรเข้าโครงการ ทำให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด รถยนต์ที่จะผ่านเข้าซุ้มประตูได้ต้องใช้ระบบ Bluetooth หมายความว่ารถยนต์ที่เข้าออกได้จะเป็นลูกบ้านเท่านั้น ส่วน Vistor จะต้องเเลกบัตรก่อนนะ สำหรับที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 36% ซึ่งเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ไม่ต้องจอดรถตากแดดลมฝนและเดินเข้าอาคารได้ง่ายด้วยค่ะ เราได้ยินจากพี่เซลล์ว่าทางโครงการจะติดตั้ง Ev Charger ให้ 2 เครื่อง หากเป็นจริง จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่ใช้รถไฟฟ้าได้ดีเลยค่ะ เพราะไม่ต้องนำรถไปชาร์ทที่อื่น
ทางเดินรถภายในโครงการเป็น Two Way คือรถสวนกันได้ หากที่จอดชั้น 1 เต็มลูกบ้านสามารถวนลงไปจอดชั้นใต้ดินได้ด้วย โดยโครงการจะเว้นที่จอดรถไว้ให้ 1 ช่อง เพื่อให้เราใช้ถอยหลังแล้วกลับรถได้ค่ะ ชั้นใต้ดินมีลิฟต์โดยสารสามารถขึ้นมายังห้องพักอาศัยได้เลยค่ะ ลูกบ้านไม่ได้ไปต้องเสียเวลาไปขึ้นมา Lobby ก่อนเพื่อใช้ลิฟต์โดยสาร นอกจากนี้ชั้นใต้ดินยังมีห้องซักรีดด้วยนะ รองรับคนที่ไม่มีเครื่องซักผ้าในห้องพักแลไม่อยากส่งผ้าออกไปซักด้านนอก
ชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไม่มีห้องพักอาศัยอยู่เลยค่ะ เรามองว่าเป็นข้อดีเพราะลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวและรู้สึกปลอดภัยด้วยค่ะ ส่วนฟังก์ชันจะมี พื้นที่ที่จอดรถ , Pocket Garden เป็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆ เป็นเหมือนจุดพักสายตา ทำให้ลูกบ้านรู้สึกสดชื่นมากขึ้น ส่วนใครที่ชอบมานั่งพักผ่อนในสวนแนะนำให้ไปใช้สวนบนดาดฟ้าเพราะมีพื้นที่มากกว่าค่ะ
นอกจากนี้ชั้น 1 ยังมี Lobby รองรับการนั่งคอย หรือนัดพบปะพูดคุยกัน เวลาเจ้าของห้องไม่สะดวกให้แขกขึ้นไปบนห้องพัก ซึ่งคนที่ผ่านเข้ามายังโซน Lobby ได้จะต้องเป็นลูกบ้านเท่านั้น เพราะว่าจะต้องสแกนใบหน้าก่อนเข้ามายังตัวอาคาร ช่วยเสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้านค่ะ ถัดมาจะเป็นโถงลิฟต์ที่มีประตูกั้น ต้องสแกนใบหน้าก่อนผ่านเข้ามาเช่นกัน ส่วนลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ของโครงการเป็น 75 : 1 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่น้อยทีเดียวค่ะ ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องรอลิฟต์นานเวลาขึ้น-ลงอาคาร ตัวลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้นและต้องใช้ Keycard หรือสแกนหน้าในการขึ้นลง เราจะขึ้นลงได้เฉพาะชั้นห้องพักตัวเองและชั้นที่มีส่วนกลางนะคะ
ชั้น 2 ของโครงการจะมีทั้งห้องพักอาศัยและ Facility ส่วนกลาง แต่ลูกบ้านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวนะคะ เพราะโครงการออกแบบให้ส่วนกลางและห้องพักอาศัยอยู่คนละฝั่งกัน โดยต้องสแกนหน้าหรือใช้ Keycard เพื่อไปยังโซนต่างๆ ฝั่งห้องพักจะมีแค่คนที่อาศัยในชั้นนี้เท่านั้นที่ผ่านเข้าไปได้ จึงได้ทั้งความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวค่ะ
Main Facility ของโครงการอยู่ชั้น 2 ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ในส่วน Facility อยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่โดนแดดโดยตรง จึงไม่ร้อนมากนัก และมีการกั้นเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ทั้งสระว่ายน้ำ , Fitness และ Co-Working Space เริ่มจากฟังก์ชันที่ใกล้กับโถงลิฟต์มาที่สุดคือ Co-Working Space ซึ่งภายในจะมี Meeting Room และ Live Studio รวมอยู่ด้วย ตอบโจทย์ทั้งคนที่ชอบทำงานเป็นกลุ่มหรืองานเดี่ยว คนที่ต้องการใช้ห้องประชุมเล็กๆ และคนที่ชอบไลฟ์สดตามสไตล์คนยุคปัจจุบันด้วย นอกจากนี้ยังได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลางทำให้คนที่นั่งทำงานอยู่รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
สำหรับสระว่ายน้ำกลางแจ้งเป็นระบบเกลือ ขนาดประมาณ 6 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมกับสระเด็กขนาด 2.3×5.1 เมตร ลึก 0.6 เมตร พอใช้ออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำส่วนกลางให้ด้วยนะคะ ลูกบ้านสามารถใช้อาบน้ำล้างตัวหลังออกกำลังกายได้เลย ไม่ต้องกลับขึ้นใช้ห้องน้ำที่ห้องพักค่ะ ตัวสระว่ายน้ำมีอาคาร 8 ชั้นโอบล้อมอยู่ รวมถึงได้ร่มเงาจากหอพักด้านข้าง ทำให้เรามาใช้งานได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ ส่วนฟิตเนสจะอยู่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ ทำให้เราเห็นทั้งวิวหน้าโครงการและวิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง โดยห้องออกกำลังกายจะเข้าถึงได้จากทางสระว่ายน้ำเท่านั้น และอยู่ใกล้ห้องน้ำ ทำให้ไปเปลี่ยนชุดล้างตัวได้สะดวกหลังจากออกลังกายเสร็จ ภายในห้องมีขนาดประมาณ 50 ตารางเมตร เรามองว่าเพียงพอต่อการแชร์กันใช้งานของลูกบ้าน 150 ยูนิตค่ะ
โซนห้องพักที่น่าสนใจ 4 โซนด้วยกัน คือ
- โซนกรอบสีส้ม ที่อยู่ใกล้ลิฟต์ ใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก นอกจากนี้ยังไปใช้ส่วนกลางของชั้น อย่างสระว่ายน้ำ , Fitness และ Co-Working Space ได้สะดวกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบมาใช้ Facility ส่วนกลางบ่อยๆเลยค่ะ
- โซนกรอบสีแดง ที่ได้ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม
- โซนกรองสีน้ำเงิน ที่ได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง ทำให้เจ้าของห้องโซนนี้รู้สึกสดชื่นมากขึ้นค่ะ
- โซนกรอบสีเขียว คือห้องหัวมุมได้แสงธรรมชาติจากทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่างกว่าห้องพักมุมอื่นๆ ทั้งยังช่วยประหยัดไฟฟ้าช่วงกลางวันด้วยค่ะ
แปลนชั้น 3-6
ชั้น 3-8 ของโครงการจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยชั้น 3-6 จะมีผังอาคารที่เหมือนกันเลยค่ะ ส่วนชั้น 7-8 ก็เป็นห้องพักอาศัยเช่นกัน เพียงห้องพักฝั่งด้านหน้าโครงการจะเปลี่ยนเป็นห้องหน้ากว้างแทน โดยเราแบ่งโซนที่น่าสนใจของชั้นพักอาศัยได้ไว้ 4 โซนดังนี้
- โซนกรอบสีส้ม จะใกล้กับโถงลิฟต์มากที่สุดทำให้ขึ้น-ลงอาคารได้สะดวก และยังไปใช้ส่วนกลางได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
- โซนกรอบสีแดง เป็นห้องพักที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องอื่นๆ
- โซนกรองสีน้ำเงิน เป็นโซนที่ได้ Benefit จากส่วนกลางมากที่สุดสำหรับชั้นนี้ เพราะได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง
- โซนกรอบสีเขียว คือห้องพักที่ได้แสงธรรมชาติมากกว่าโซนอื่นๆ เพราะอยู่หัวมุมอาคาร และมีช่องแสงอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง
แปลนชั้นดาดฟ้า
ชั้นสุดท้ายคือดาดฟ้าเป็นสวนส่วนกลาง แบบเปิดโล่ง และเป็นชั้นที่อยู่สูงว่าอาคารรอบข้างโดยส่วนใหญ่ จึงทำให้เราได้เห็นวิวในมุมกว้างค่ะ แต่ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์นะคะ เราต้องลงลิฟต์ที่ชั้น 8 แล้วเดินขึ้นบันไดต่อขึ้นมาเองค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมที่ชั้น 1 และดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 6×15 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- มีการแบ่งสระเด็กขนาด 2.3×5.1 เมตร ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกายขนาด 50 ตารางเมตร
- Live Studio
- Meeting Room
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 75 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 36% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 45%)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / Face Scan
แบบห้อง
Highlight
- มีแบบห้องให้เลือกหลายหลาก : โครงการเน้นเป็นห้อง Type เล็กคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus โดยมีห้องให้เลือกมากกว่า 19 แบบ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่หลากหลาย
- ได้ครัวปิดทุกแบบ : เราสามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะฟุ้งไปทั้งห้อง และทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น
- ห้อง 1 Bedroom Plus อยู่หัวมุมอาคาร : จึงได้วิวและแสงธรรมชาติ 2 ฝั่งห้องพักอาศัยใน
โครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) ขายแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ โดยมีราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เรื่องรูปแบบห้องนั้น มีให้เลือกหลากหลายทีเดียว ทั้งห้องหน้ากว้างและห้องปกติ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่หรืออยู่แบบครอบครัว 3 คน โดยที่แต่ละแบบมีให้เลือกดังนี้ค่ะ
ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 21.4 – 34.0 ตารางเมตร
ห้อง 1 Bedroom
ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 37.0 – 43.0 ตารางเมตร
ห้อง 1 Bedroom Plus
- Type A , B , C : ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 21.4 – 34.0 ตารางเมตร
- Type D : ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 37.0 – 43.0 ตารางเมตร
สรุปวัสดุภายในห้อง
วัสดุในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- วัสดุปูพื้น SPC ความหนา 4-5 มิลลิเมตร
- Digital Door Lock ระบบ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ
- วัสดุพื้นระเบียงแกรนิตโต้
ห้องครัว
- ท็อปเคาน์เตอร์เมลามีน
- Hob , Hood จาก TEKA
- วัสดุพื้นแกรนิตโต้
- บานปิดตู้ผิวเมลามีน
ห้องน้ำ
- อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Cotto
- ฝักบัวจากยี่ห้อ Cotto
- ฉากกั้นอาบน้ำจากยี่ห้อ i-spa
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง B1 – 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.40 ตารางเมตร :
ห้องตัวอย่างที่โครงการมีให้เราชมจะมี 1 ห้องนะคะ คือห้อง B1 ซึ่งเป็น Type ที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิดติดระเบียง เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน
- ห้องครัวปิดติดระเบียง : สามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่น
- ห้องนั่งเล่นอยู่โซนด้านใน : ไม่อยู่ติดริมหน้าต่างหรือกำเเพง จะไม่ร้อนมากนัก แต่จะได้แสงสว่างธรรมชาติน้อยกว่า ต้องอาศัยการปิดไฟในช่วงกลางวัน
- ทุกฟังก์ชันกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน : ทำให้คนใช้งานพื้นที่ได้ โดยไม่รบกวนกัน
- ห้องน้ำแยกออกมาจากห้องนอน : ทำให้เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว เวลาแขกมาใช้งาน
ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
มาเริ่มกันที่ทางเข้าห้อง ถูกกั้นด้วยธรณีประตูเล็กๆ ที่ใช้กันเศษฝุ่นจากทางเดินภายนอกห้อง พื้นของตัวห้องปูด้วย SPC หนา 4-5 มิลลิเมตร ทำให้ทนต่อความชื้น , รอยขีดข่วนและรับแรงกระแทกได้ดี
Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่รับประทานอาหาร
โซนแรกของห้องที่เราจะเจอคือ Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยกัน บริเวณนี้มีขนาดประมาณ 3.2 x 2.5 เมตร สามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางของกินเวลาดูทีวีได้สบายๆ นอกจากนี้ยังเหลือพื้นที่ประมาณ 1 เมตรกว่าๆ ให้คนเดินผ่านไปมาได้สะดวก พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวี 2.5 เมตร จึงเหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 40-43 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัด และไม่ต้องเพ่งให้ปวดตา ส่วนความสูงพื้น-ฝ้าอยู่ที่ 2.45 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด
บริเวณใกล้ประตูห้องมีพื้นที่ให้ Built-in หรือวางตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้าได้ ทำให้เราสามารถใส่หรือถอดรองเท้าเวลาเข้าออกห้องได้สะดวก
ข้างๆโซฟาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร วางโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่งได้ แนะนำว่าให้จัดวางโต๊ะแบบเข้ามุม เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ค่ะ
ห้อง Type นี้จะได้แอร์ของไดกิ้นมา 2 ตัว โดยแบ่งเป็นติดที่ห้องนั่งเล่น 1 ตัวและห้องนอน 1 ตัว สามารถแยกกันเปิดได้ตามฟังก์ชันที่เราใช้งานอยู่
ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน
ห้องนั่งเล่นสามารถเปิดเชื่อมต่อกับห้องนอนได้ด้วยนะคะ โดยมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน จะสามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน เดินผ่านได้สะดวกกว่า นอกจากนี้ยังทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นได้ด้วย ช่วยให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น แต่ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านเพิ่มนะคะ
บรรยากาศภายในห้องนอน
ห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.2 x 2.5 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอยู่ หากใครชอบดูทีวี แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะคะ ส่วนข้างๆเตียงมีปลั๊กไฟให้และยังเหลือที่วางโต๊ะเล็กๆสำหรับวางของเวลานอน เช่น กระเป๋าตังค์หรือเสียบชาร์ทมือถือได้ค่ะ
ข้างๆเตียงเป็นหน้าต่างกระจกอะลูมิเนียมบานใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างทั่วถึง โดยส่วนที่เปิดได้บานกระทุ้ง ข้อดีคือเราสามารถเปิดระบายอากาศได้ โดยฝุ่น , แมลงจะเข้ามาภายในห้องได้ยากกว่าหน้าต่างบานเปิด ที่สำคัญคือป้องกันฝนสาดเข้าห้องได้ดีกว่าหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ
ข้างๆเตียงมีพื้นที่ให้ทำเป็นมุมแต่งตัวได้ สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ที่มีกระจกขนาดใหญ่เพื่อเช็คความเรียบร้อยของตัวเองก่อนออกไปข้างนอกได้ ซึ่งมุมนี้จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำพอดีค่ะ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เมื่ออาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวต่อได้เลย
ห้องครัวถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน
ห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกั้นอยู่ ช่วยกันกลิ่นควันไม่ให้ลอยออกมาด้านนอกห้องครัว รวมถึงกันกลิ่นจากห้องน้ำที่อยู่ในโซนครัวด้วยค่ะ เราจะสังเกตได้ว่าตัวล้อคประตูอยู่ฝั่งห้องครัว ข้อดีสำหรับบ้านที่มีเด็ก คือเวลาที่เราทำครัวเลอะหรือจานแตก แล้วไม่อยากให้เด็กๆเข้ามาเพราะกลัวเป็นอันตราย ก็สามารถล็อคประตูไว้จนกว่าจะเก็บกวาดเรียบร้อยค่ะ
ห้องครัวติดกับระเบียง เราสามารถเปิดระบายอากาศได้ง่าย โดยห้องครัวมีขนาดประมาณ 1.5 x 3.1 เมตร มีระยะยืนทำอาหารประมาณ 80 เซนติเมตร ทำให้คนใช้งานห้องครัวได้สะดวก โครงการให้ชุดครัว Built-in มาให้ค่อนข้างครบ ตัวพื้นส่วนครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้าน ทนความชื้นและแรงกระแทกแต่ต้องระวังเรื่องคราบสกปรก หากมีอาหารหกต้องทำความสะอาดทันที
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของและช่องใส่เครื่องซักผ้าด้านล่าง
ด้านล่างแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นช่องเก็บของชิ้นใหญ่ใต้อ่างล้างจาน ส่วนที่สองเป็นช่องเก็บเครื่องปรุงอาหารและวัตถุดิบตรงกลาง ช่วยให้เราหยิบเครื่องปรุง ทำอาหารได้สะดวก ส่วนสุดท้ายเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใครที่ไม่ชอบส่งเสื้อผ้าไปซักด้านนอก เราสามารถซื้อเครื่องซักผ้ามาติดตั้งได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวก
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร , เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
Top เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนซิงค์ล้างจาน , ส่วนเตรียมอาหารและส่วนทำอาหารที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันแบบดูดออกไปด้านนอกอาคาร ซึ่งกำจัดกลิ่นควันได้ดีกว่าระบบหมุนเวียนค่ะ แนะนำให้กรุกระเบื้องที่ Backsplash เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ ส่วนซิงค์ล้างจานมีขนาดมาตรฐาน เราลองวางหม้อลงไปก็ยังเหลือพื้นที่ให้ใส่จานเพิ่มอีกได้นะคะ
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
นอกจากนี้โครงการจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ใช้เก็บของเพิ่มเติมและมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ครบเลย
หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำตู้และชั้นวางของ
เนื่องจากห้องครัวมีความยาวมากทำให้มีพื้นที่เหลือพอจะทำตู้เก็บของและชั้นวางของบนตู้เย็น เราสามารถเก็บอุปกรณ์ทำครัว หรือจะเก็บเครื่องใช้ในห้องน้ำก็ได้ เพราะอยู่ใกล้กับห้องน้ำพอดีเลยค่ะ
ติดกับห้องครัวเป็นระเบียง สามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้เวลาทำอาหารค่ะ พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ ประมาณ 1.25 x 1.50 เมตร ซึ่งโครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน ทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ แนะนำให้ติดราวตากผ้าแบบเเขวน เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งาน ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำมีการยกขอบธรณีประตูขึ้นสูง ช่วยกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่ห้องครัว ทำให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto มาให้ครบตามมาตรฐาน
ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย พร้อมมีชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้ครบครันตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ เราชอบที่โครงการก่อกำแพงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ไว้ครึ่งหนึ่ง ให้เรามีพื้นที่วางของได้ด้วย
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อน 3 ตอน มีข้อดีที่เวลาเปิดใช้งานจะกว้างกว่าแบบ 2 ตอน เดินเข้า-ออกส่วนอาบน้ำได้สะดวกกว่า
พื้นที่ส่วนอาบน้ำ
พื้นระหว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนแห้งกั้นด้วยรางของฉากกั้นอาบน้ำ ช่วยกันไม่ให้น้ำไหลออกสู่ภายนอก ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00 x 0.85 เมตร พร้อมมีที่วางอุปกรณ์อาบน้ำให้เรียบร้อย หยิบจับใช้งานได้สะดวก
ราคา
Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) ราคา ณ วันที่ 23 มกราคม 2568
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 21.4-34.0 ตารางเมตร
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 37-43 ตารางเมตร - รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปเมลามีน
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- โปรโมชั่น จองในวันงาน วันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2025 รับส่วนลดเพิ่ม 150,000 บาท
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 25,000 บาท ชำระภายใน 7 วัน หลังจากวางเงินจอง
- ดาวน์ 5 % ผ่อนดาวน์ 13-16 งวด
- ค่ากองทุน
1,000 บาท/ตร.ม.500 บาท / ตร.ม. Update 31/1/68 - ค่าส่วนกลาง 55-60 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : จุดเด่นของ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) คือติดกับห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ทำให้ลูกบ้านแวะหาของกินของใช้ก่อนกลับเข้าคอนโดได้สะดวก นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา จึงเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ส่วนเรื่องแหล่งงานก็มีมากมายในโซนนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นไอส์แลนด์ , เดอะพรอมานาด , อมอรินี่ มอลล์ หรือโรงพยาบาลในโซนนี้ เช่น โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลสินแพทย์
การเดินทางโดยใช้รถ : จากตัวโครงการห่างจากถนนหลักอย่างถนนรามอินทราแค่ 30 เมตร ทำให้ขับรถไปไหนมาไหนได้สะดวก นอกจากนี้ยังใกล้ทางเข้าวงแหวนกาญจนาภิเษก ทำให้เดินทางไปโซนบางนาและรามคำแหงได้ง่าย และยังไม่ไกลจากทางด่วนฉลองรัช ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 9และอ่อนนุชได้ค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูสถานีวงแหวนรามอินทราประมาณ 150 เมตรเท่านั้น เดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สบายๆ ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะใช้เดินทางได้ตั้งแต่โซนมีนบุรีไปถึงศูนย์ราชการนนทบุรี นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนไปรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นสายสีเขียวอ่อน , สายสีม่วงและสายสีแดงได้ด้วย เรียกได้ว่าเดินทางได้ครอบคลุมมากๆ ส่วนรถสาธารณะอื่นๆก็มีให้ใช้บริการเช่นกันนะ อย่างพี่วินนี่ใกล้ที่สุดเลยค่ะ อยู่หน้าปากซอยโครงการเดินมา 30 เมตรก็ใช้บริการได้เลย ส่วนป้ายรถเมล์และจุดให้บริการแท็กซี่ก็อยู่ด้านหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เราสามารถเดินไปขึ้นรถได้ไม่ยาก
วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์ชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ วัสดุต่างๆได้ตามมาตรฐานสมกับราคา เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ เองตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ส่วนวัสดุอื่นๆให้มาตามมาตรฐานโครงการราคาระดับนี้
การออกแบบโครงการ : โครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในย่าน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว โครงการจัดผังโครงการได้ดี มีการแบ่งกั้นเขตระหว่างโซนพักอาศัยและโซนส่วนกลางได้ชัดเจน นอกจากนี้การเข้าถึงส่วนกลางจะต้องมีการสแกนใบหน้าก่อนทุกจุด ทำให้ลูกบ้านได้ความปลอดภัย อาคารพักอาศัยโอบล้อม Main Facility ที่อยู่กลางโครงการทำให้ลูกบ้านส่วนใหญ่ได้วิวส่วนกลางไปด้วย ส่วนกลางของโครงการกระจายไว้ 3 ชั้น คือชั้น 1 , 2 และดาดฟ้า ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานส่วนกลางได้ค่ะ
การออกแบบตัวห้อง : ห้องในโครงการออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน เน้นห้องขนาดเล็กอย่างห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus จุดเด่นของโครงการคือมีแบบห้องให้เลือกมากกว่า 19 แบบ ตอบโจทย์หลากหลายการอยู่อาศัย ห้องพักมีการกั้นสัดส่วนที่ชัดเจนทั้งครัวแบบปิดและห้องนอน ทำให้คนที่ใช้งานแต่ละพื้นที่ไม่รบกวนกันค่ะ
สาธารณูปโภค : ส่วนกลางจัดมาให้เหมือนคอนโด High Rise เลยค่ะ Facility ส่วนกลางสวยงามน่าใช้งาน ทั้งสวน , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส , Co-Working Space , Meeting Room และ Live Studio ตอบโจทย์คนที่ชอบทำงานและชอบออกกำลังกาย ส่วนกลางชั้นดาดฟ้าได้วิวมุมสูงแบบเปิดโล่ง เพราะอยู่สูงกว่าอาคารรอบข้าง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 23 มกราคม 2568
- ทำเล 8/10 – ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าและแฟชั่นไอส์แลนด์เพียง 150 เมตร
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ใกล้ถนนรามอินทรา ไปวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนฉลองรัชได้ง่าย
- ไม่ใช้รถ 8.25/10 – ใกล้ MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทราในระยะเดินได้ มีรถสาธารณะให้เรียกใช้สะดวก ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ , เเท็กซี่และรถเมล์
- วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted ให้วัสดุดีเหมาะกับการใช้งาน
- แบบ 8/10 – ออกแบบฟังก์ชันดี จัดผังได้เป็นสัดส่วน มีแบบห้องให้เลือกเยอะ หลากหลายได้ครัวปิดทุกยูนิต
- สาธารณูปโภค 7/10 – ให้มาครบครันและกระจาย Facility ไว้ 3 ชั้น มี Sky Facility
- MAIN CLASS
- 7.82 / 10.00
Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) เหมาะกับใคร
โครงการ Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดโซนรามอินทรา ใกล้ห้างสรรพสินค้าและรถไฟฟ้า เดินทางไปทำงานง่าย ต้องการความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เพราะมีเพื่อนบ้านน้อย เหมาะกับคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้า หรือคนที่ทำงานในห้างสรรพสินค้าหรือโรงพยาบาลในโซนนี้ ชอบโครงการที่มี Sky Facilities ส่วนห้องพักมีให้เลือกหลายเหมาะกับการอยู่อาศัย 1-3 คน มีงบประมาณเริ่ม 1.99 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 13,930 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่