รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.114 – รีวิวคอนโด Issara Collection สาทร
18 มกราคม 2015
สวัสดีค่ะ มิตรรักแฟนเพจ รีวิวเจาะลึกฉบับที่ 732 ฝนพาผู้อ่านทุกท่านมาที่โครงการ Issara Collection สาทร ค่ะ เป็นอาคาร Low rise 7 ชั้นที่มีเพียง 33 ยูนิต ซึ่งแปลว่าความแน่นน้อยนับเป็นจุดเด่นของโครงการเลยค่ะ แต่ถึงชื่อโครงการจะบอกว่าสาทร จริงๆแล้วตั้งอยู่ในซอยนางลิ้นจี่ 4 การออกแบบอาคารคิดมาให้มีลูกเล่นของอาคารที่น่าสนใจเลยทีเดียว ว่าแต่จะเป็นอะไรนั้น ชักช้าอยู่ไย ไปอ่านกันเลยดีกว่านะคะ
Fact @ 19 November 2014
- Issara Collection Sathorn ( อิสระ คอเลคชั่น สาทร )
- Charn Issara Viphapol Co., LTD
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถ.นางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
- คอนโด Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร 33 ยูนิต
- อาคารจอดรถ 2 ชั้น ใต้ดิน
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 62 คันคิดเป็น 187% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-0-1 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง: Q4/2014
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q1/2017
- 1 Bedroom ไม่มี
- 2 Bedrooms 108-126 ตร.ม. จำนวน 18 ห้อง ราคาเริ่มต้น xxx ล้านบาท (รอข้อมูลเพิ่มเติม)
- 3 Bedrooms 151.4-244.4 ตร.ม. จำนวน 10 ห้อง ราคาเริ่มต้น xxx ล้านบาท (รอข้อมูลเพิ่มเติม)
- 3 Bedrooms Duplex 170.5-201 ตร.ม. จำนวน 5 ห้อง ราคาเริ่มต้น xxx ล้านบาท (รอข้อมูลเพิ่มเติม)
- ฝ้าเพดานสูง 2.50 , 2.80 , 6.10 เมตร
- สถานะโครงการ: EIA Approved
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 15.93 ล้านบาทหรือประมาณ 146,820 บาทต่อตารางเมตร
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ช่องนนทรี ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี
- www.issaracollection.com
- โทร 081-234-3752
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.709321,100.53911
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ในภาพจะเห็นว่า Sales Gallery กับ SITE อยู่คนละที่กันนะคะ โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยนางลิ้นจี่ 4 เข้ามา 300 เมตรค่ะ
ทำเลนี้เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองแบบต้องต่อ คือจะต่ออะไรก็ว่าไป เพราะออกมาจากย่านสาทรที่เต็มไปด้วย office building จากที่ตั้งนั้น เดินไปขึ้นรถสาธารณะต้องมีเป็นกิโลฯ แต่ใช่ว่าจะเดินทางไม่สะดวกนะคะ เป็นจุดที่มีรถประจำทางผ่านและรถสองแถว พี่วินฯ เพื่อให้มาต่อยังถนนหลักอย่างสาทร หรือ นราธิวาส ข้อดีของทำเลนางลิ้นจี่คือความอุดมสมบูรณ์ระดับชุมชนอยู่เยอะค่ะ ตลาด สถาบันการศึกษา ทำให้บรรยากาศนั้นคึกคัก หยิบจ่ายอะไรไม่ต้องไปไกล ด้วยความที่เป็นทำเลแบบที่ต้องต่อใช่จะเป็นข้อเสียนะ จุดที่ตั้งทำให้เราสามารถมีทางเลือกในการเดินทางได้ค่ะ นอกจากจะเข้าเมืองอย่างสาทร สีลม พระราม 4 ไม่ไกลแล้ว การเขยิบไปวงแหวนอุตสาหกรรม ขึ้นทางด่วนออกเมือง
สถานที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนนางลิ้นจี่ ห่างจากถนนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ไม่มาก ตรงนี้ไม่ได้อยู่ในรัศมี BTS หรือ BRT จะเห็นว่า สถานี BRT ถนนจันทน์ จะต้องออกมาที่ถนนนราธิวาสค่ะ เช่นกันถ้าจะไป BTS ช่องนนทรี หรือหากใครสะดวกก็ไปออกทางบ่อนไก่ หรือ สวนพลูเพื่อต่อไป MRT ลุมพินีก็ได้ค่ะ
การเข้าถึงถนนนางลิ้นจี่นั้นสามารถเข้าได้หลายทางค่ะ แล้วแต่ใครจะมาจากไหน ถนนนราธิวาส สาทร พระราม 3 หรือจะเข้าจากทางบ่อนไก่ นับว่าเป็นจุดที่ทะลุทะลวงได้ดี สามารถมีแผน B ในยามจราจรหนาแน่น สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆถ้าเป็นห้างสรรพสินค้าก็ เซนทรัลพระราม 3 แต่ขยับมาอยู่ในถนนนราธิวาสมีคอมมูนิตี้มอลล์ The Up ที่เปิดไปมาไม่นาน เผื่อใครเบื่อเดินห้างใหญ่ ค่ะ หรือถ้าอยากแค่เดินตลาดหาของสดมีตลาดนางลิ้นจี่ที่ไม่ไกล อาหารตามรายทางแถวนี้ก็รสชาดใช้ได้ เดินหรือขี่จักรยานมาได้ ในถนนนางลิ้นจี่เองมี T.T.N. Avenue เป็นเหมือน Plaza เล็กๆที่มีสำนักงานและร้านอาหาร ให้ฝากท้อง
- ออกจากซอยนางลิ้นจี่ 4 ผ่านแยกเทคนิคกรุงเทพ เข้าสวนพลูออกมายังสาทร
- ออกจากซอยนางลิ้นจี่ 4 ผ่านแยกเย็นอากาศ เลี้ยวเข้าศรีบำเพ็ญ และงามดูพลี ออกบ่อนไก่ พระราม 4
- ออกจากซอยนางลิ้นจี่ 4 เลี้ยวขวาแยกอมรหรือแยกจันทน์เก่า เข้าถนนนราธิวาส ออกพระราม 3
- ออกจากซอยนางลิ้นจี่ 4 เลี้ยวขวาแยกจัทน์ใหม่ จุดนี้สามารถกลับรถไปฝั่งตรงข้ามของถนนนราธิวาสเข้าสาทรหรือตรงไปเจริญกรุงได้
- ออกจากซอยนางลิ้นจี่ 4 ผ่านแยกเทคนิคกรุงเทพตรงเข้างามดูพลี ขับอ้อมวิทยุการบิน ออกพระราม 4
เอาหล่ะ เข้าสู่การเดินทางเลยดีกว่า ซึ่งเส้นทางแรกฝนจะพาไปที่ Sales Gallery ก่อนนะคะ เริ่มต้นจากข้ามสะพานตากสินมายังสาทร
จากนั้นให้ตรงผ่านแยกสาทร-สุรศักดิ์มาเลย ช่วงเช้าๆเปิดเทอมแถวนี้รถติดดดดดน่าดู วันนี้รอดตัวเพราะสายๆ
พอถึงแยกนราธิวาสเราชิดขวาเพื่อเลี้ยวไปยังถนนนราธิวาสค่ะ
ถนนนราธิวาส มีขนาด 8 ช่องจราจร ระยะทางร่วมๆ 5 กิโลเมตรค่ะ เป็นถนนเส้นที่มีรถ BRT วิ่งอยู่โดยมีต้นสายที่สถานีสาทรและวิ่งยาวไปถึงถนนราชพฤกษ์(แยกท่าพระ)ค่ะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่มีระบบรางเข้าถึง ก็ใช้รถ BRT นี่แหละ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนราธิวาส 17 ค่ะ ถ้าเป็นช่วงค่ำคืน จะมีร้านอาหารแถวนี้เยอะพอสมควร รถค่อนข้างติด ส่วนปากซอย 17 ก็มีร้าน Sortel
ข้อเสียของซอยนี้ก็คือพี่รถเมล์ทั้งหลาย จะจอดกันตรงใกล้ๆหน้าปากซอย เป็นที่ตั้งของอู่รถเมล์สาย 89 ค่ะ
ขวามือเราจะผ่าน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งสามารถเข้าได้จากทางซอยนราธิวาส 17 และถนนนางลิ้นจี่
แยกที่ตัดกับถนนนางลิ้นจี่ เราจะเลี้ยวขวานะคะ ถ้าตรงไปเราไปซอยสวนพลู
เข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่เป็นเส้นที่ขนานกับถนนนราธิวาสค่ะ ผ่านร้าน Think Tank Third Place ซ้ายมือ เป็นร้านกาแฟ เครื่องดื่ม เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพที่ทางเข้าอยู่บนถนนนางลิ้นจี่
จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ไม่ไกลมาก ซอยนางลิ้นจี่ 4 จะอยู่ทางขวามือค่ะ เยื้องๆกันกับปั๊มบางจาก
เส้นทางที่สองคือมาจากพระราม 3 เข้าแยกนางลิ้นจี่มุ่งหน้าสู่ถนนนางลิ้นจี่ ลอดใต้ทางพิเศษเฉลิมมหานครไป ซึ่งจากแยกนางลิ้นจี่ไปถึงบริเวณหน้าปากซอยนางลิ้นจี่ 4 ประมาณ 1.1 กิโลเมตร โดย Sales Gallery ตั้งอยู่ตรงขวามือนี่แหละค่ะ
บริเวณนี้มี T.T.N. Avenue ที่รวมร้านอาหาร ออฟฟิศเอาไว้
ผ่านแยกถนนจันทน์เก่าค่ะ สามารถเลี้ยวซ้ายไปทะลุถนนนราธิวาสมุ่งหน้าพระราม 3 ได้
บริเวณขวามือจะค่อยข้างคึกคัก มีร้านอาหารจำนวนมาก สามารถฝากท้องได้ แน่นอนว่าหลายเจ้าเก่าแก่และรสชาติดีมาก ฝั่งเดียวกันมีตลาดนางลิ้นจี่ที่เป็นตลาดสดก็อยู่ไม่ไกล
บนถนนเส้นนี้คอนโดมิเนียมที่โดดเด่น เห็นชัด คือโครงการ The Parco Sathorn ด้านซ้ายมือค่ะ
แยกจันทน์ใหม่ เราตรงไป ผ่านแยกเย็นอากาศอีกแยกเตรียมชิดซ้ายไว้ได้เลยค่ะ อยู่เยื้องกับปั๊มบางจาก
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนางลิ้นจี่ 4 เลยค่ะ หน้าปากซอยเป็น บ. Secom
บรรยากาศภายในซอยเป็นบ้านเดี่ยวและหอพักนะ เน้น Residences ล้วนๆ ซอยนี้เป็นซอยตันค่ะ แน่นอนว่าค่อนข้างเงียบสงบทีเดียวค่ะ
มาดูพื้นที่รอบๆโครงการในแบบระยะในซอยบ้าง เรียกว่าเป็นซอยที่เน้นอยู่อาศัยค่ะ ไม่บ้านเดี่ยว ก็จะเป็นบ้านเช่า หรือหอพัก คอนโดและอพาร์ตเมนท์ ซอยนางลิ้นจี่ 4 เป็นซอยตันค่ะ ดังนั้นจะไม่พลุกพล่านมากเท่าไหร่ แต่ข้อเสียคือเป็นซอยที่พอแค่รถสวน 2 ช่อง พอมีคนมาอยู่ก็มีการจอดรถกันตามซอย ทำให้จะขับยากค่ะ หากดูตามในภาพด้านบน จะเห็นว่าตัวที่ดินและอาคารจะหันทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้านซ้าย ขวาที่ประกบโครงการเป็นบ้านเดี่ยวมีเนื้อที่ค่ะ ดังนั้นไม่อึดอัดกระชั้นมากทั้งเราทั้งเพื่อนบ้าน ด้านหน้าก็เช่นกันจะติดถนนซอยเลย จะมีพื้นที่ดินเปล่าที่กำลังทำการก่อสร้างอยู่ ซึ่งมีโอกาสที่จะสูงเท่ากัน ส่วนทิศด้านหลังนั้นเห็นจะเป็นมุมที่ปะทะกับหลังบ้าน หลังโกดังของคนอื่นอย่างจังเลย….เป็นวิวเรียกว่าไม่ได้วิว ต้องตามไปดูกับฝนเพิ่มว่า ด้านหลังมีช่องเปิดยังไงบ้าง
พอหยิบขอบเขตของตึกมาใส่ดูจะเห็นว่าโดยรอบนั้น ใช้พื้นที่อย่างเต็มที่ และที่ว่างรอบอาคารจัดไว้เป็นสวน เพื่อกรองให้มีความเป็นส่วนตัว และเพิ่มความน่าอยู่ โดยส่วนนี้ทางโครงการก็ทำภาพจำลองออกมาได้ร่มรื่นดีแต่ต้องดูว่าตึกเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไรภายหลังนะ
พื้นที่ดินของโครงการ ตามแนวเส้นประสีแดงที่ฝนลากเอาไว้ค่ะ
มาดูซิว่าอาคารต่างๆที่ล้อมที่ดินนั้นมีหน้าตาอย่างไร ที่เห็นสูงๆนั่น เป็นด้านหลังของคอนโดบ้านสวนจันทน์ สูง 13 ชั้น
ลองดูมุมที่มองจากในที่ดินกันบ้านดีกว่า ด้านหลังโครงการจะติดกับอาคาร 4 ชั้น ค่ะ มุมนี้นับเป็นมุมอับของที่ตั้งโครงการเลย
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ด้านข้าง เพื่อนบ้านจะเป็นบ้านเดี่ยวค่ะ ซึ่งฝั่งนู้นปลูกต้นไม้ร่มรื่นทีเดียว ทางโครงการรับผลพลอยได้ไปด้วย
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้านข้างอีกฝั่งก็เป็นบ้านเดี่ยวค่ะ แต่จะมีสิ่งปลุกสร้างที่ขึ้นมาติดใกล้รั้วเลย
ด้านหน้าโครงการเป็นซอยนางลิ้นจี่ 4 ค่ะ จะเห็นว่ามีการก่อสร้างอาคารอยู่เยื้องๆกัน
จะเห็นว่าถ้ามีรถจอดข้างทางซักคัน ก็จะขับรถลำบากค่ะ ถึงแม้ว่าในซอยนี้ตรงปากซอยจะกว้างกว่าด้านในเล็กน้อย แต่ในซอยนี้เป็นซอยตันนะคะ ไม่มีที่กลับรถ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
- ตลาดนางลิ้นจี่
- T.T.N. Avenue
- ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร
- BRT ถนนจันทน์
- BTS ช่องนนทรี
- เซนทรัลพระราม 3
- The Up
โครงการ Issara Collection สาทร เป็นคอนโดที่เน้นความ Privacy ยูนิตน้อยและเริ่มต้นด้วยห้องที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่พิมพ์นิยมตามสมัยคอนโดมิเนียมตอนนี้ที่มีแต่จะยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ ตัวอาคารมีทั้งหมด 7 ชั้นค่ะ โดยชั้น 1-7 เป็นชั้นพักอาศัย มีที่จอดรถใต้ดินอีก 2 ชั้น และดาดฟ้าเป็นส่วน Main Facilities ที่รวมฟิตเนสและสระว่ายน้ำไว้ด้านบน โดยนำแนวความคิดในการออกแบบไทยโมเดิร์น นำส่วนประกอบที่โดดเด่นในบ้านไทย มาจับใส่ลงในตัวอาคารค่ะ จากภาพด้านบน ถึงแม้ว่าอาคารจะหน้าตามมาทางโมเดิร์น แต่ก็แทรก Element เอาไส้อยู่นะ จะเห็นแผ่นสีทองที่อยู่บริเวณ Facade อาคาร เป็นการนำลวดลายคล้ายกระจกสีรูปทรงข้ามหลามตัดมาฉลุลายลงไป ให้เกิดมิติแสงและเงา
มาดูที่ผังของโครงการจากชั้นล่างขึ้นบนตามระเบียบ ชั้นแรก จะเห็นว่าทางเข้าออกมีทางเดียวค่ะ ส่วน Facilities ชั้นนี้จะมีที่จอดรถบางที่เหลือจะลงไปจอดใต้ดิน 2 ชั้นเป็นลักษณะ Fix คัน ( 2 ห้องนอน 1 คัน , 3 ห้องนอน 2 คัน ) , Secrurity guard , Driver Room , Lobby ในส่วนของห้องพักจะเริ่มต้นที่ชั้นนี้ เป็นห้องลักษณะ Duplex ค่ะ โดยจุดเด่นคือจะมีสวนอยู่หน้าระเบียง (เส้นประสีฟ้า) ซึ่งจะได้อารมณ์เหมือนสวนส่วนตัวแต่สวนตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ หากมองภาพรวมจากหน้างานประกอบจะเห็นว่า วิวด้านทิศห้อง Duplex จะมองเห็นบ้านที่อยู่ติดกันค่อนข้างชิดค่ะ ลิฟต์โดยสารจะมีทั้งหมด 3 ตัวใช่ไหมค่ะ จะมีตัวเดี่ยวที่ทำหน้าที่คล้ายๆ Private แบบแชร์กันน้อยมาก (ในวงแดง) เพราะห้องที่สามารถใช้ได้คือ Type 3 ห้องนอน
ชั้น 2 จะเป็นห้องพักทั้งหมดค่ะ ชั้นนี้จะมี 4 ห้องพักค่ะ ซึ่งส่วนห้องบนของชั้น Duplex สามารถเข้าจากชั้น 2 ได้เช่นกัน และห้องขนาด 204 ตารางเมตร จะสามารถใช้ลิฟต์ private ได้
ถัดมาชั้น 3-5 ผังพื้นจะเหมือนกันคือมีห้องทั้งหมด 6 ห้องต่อชั้นค่ะ ส่วนของลิฟต์ไพรเวทจะใช้ชั้นละ 2 ห้องนะคะ คือแบ่งกัน เอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้ไพรเวท 100% แต่เป็นไพรเวทแบบแชร์มากกว่า
ชั้น 6 จะเป็นชั้น Facilities และห้องพัก มีห้องฟิตเนส ฝ้าเพดานสูง , ห้องสตีม และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชั้น 7 มีห้องพักและเป็นส่วนงานระบบของสระว่ายน้ำค่ะ เท่ากับว่าสระว่ายน้ำต้องขึ้นจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า 2 ชั้น
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรก Sales Gallery ของ Issara Collection ไม่ได้ตั้งอยู่บนที่ดินของโครงการนะคะ อยู่ใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วนแยกนางลิ้นจี่
บรรยากาศของ Sale Gallery ทำออกมาได้ดี เลยค่ะ พยายามจำลองทั้งวัสดุปิดผิวและลูกเล่นที่โดดเด่นของตัวอาคารมาไว้ในนี้
แผ่นฉลุลายที่นำเอา Pattern ของข้าวหลามตัดมาผสมผสาน ยกมาไว้ใน Sales Gallery ด้วยนะ
ด้านในมีที่นั่งสบายๆ ค่ะ โดยจำลองบรรยากาศของ Lobby โครงการที่ชั้นล่างจะล้อมรอบด้วยสวน
ส่วนห้องตัวอย่างอยู่ชั้นบน แน่นอนว่าเดี๋ยวจะพาไปดูกัน
มาที่โมเดลกันบ้างเนอะ ตัวอาคารทำออกมาได้คล้ายคลึงกับภาพจำลองอยู่นะ เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ทำรายละเอียดออกมาได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ
ชั้น 6-7 ด้านบนจะเป็นห้อง Duplex ค่ะ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห้องที่เป็น Duplex ในชั้น 1 จะเห็นว่ามีพื้นที่สวนแบบ Pocket ตรงระเบียงด้วย โดยคั่นระหว่างกันด้วย Green Wall เพื่อเป็นกำแพงไปในตัวไม่ให้เดินเข้าออกได้ง่าย แต่อย่างที่เห็นจากที่ตั้งด้านนี้จะมีสิ่งปลูกสร้างระยะประชิดแน่นอน
ชั้น 6 จะเห็นห้องฟิตเนสที่ฝ้าเพดานสูง ถ้าสังเกตดีดี จะมีส่วนท้องของสระว่ายน้ำของชั้น 8 ยื่นลงมาด้วย แต่ตำแหน่งสระนั้นจะไม่ยาวมาถึงส่วนที่เป็นห้องพักนะคะ ดังนั้นระดับฝ้าของชั้น 6-7 ในห้องจึงไม่มีปัญหา
ชั้นดาดฟ้าเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ แต่ทางโครงการแจ้งมาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ซึ่งจะไม่ตรงตามโมเดลนี้ ขนาดสระประมาณ 8×15 เมตร เป็นสระระบบเกลือและจากุซซี่ สำหรับสระขนาดนี้แน่นอนหล่ะ ว่าไม่ได้เอาไว้ว่ายเพื่อออกกำลังกาย มันสั้นไปค่ะ
ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ด้านนี้ข้อเสียคือร้อนค่ะ ในชั้น 3 ขึ้นไป รับแดดเต็มๆ แต่ข้อดีคือ วิวด้านนี้ที่เป็นบ้านเดี่ยวค่อนข้างร่มรื่นและไม่ประชิดมาก
จะเห็นว่าจะมีการปลูกต้นไม้เพื่อบังสายตาอีกชั้นนึงและเพิ่มความร่มรื่นไปในตัว แต่ต้องดูทรงพุ่มและชนิดของต้นไม้ประกอบด้วย ส่วน Pattern ของ Facade จะเห็นว่ามีการ Random แผ่นลายฉลุสีทอง เปิด ปิด กันไปตลอดแนวของอาคาร จะบอกว่ามันขยับไม่ได้นะคะ ทำมาเพื่อตกแต่ง
ด้านหลังของโครงการค่ะ ซึ่งด้านนี้จะหันไปเจอกับโกดังและอาคารสูง 4 ชั้น จะเห็นว่าตำแหน่งช่องเปิดนั้นน้อยมากโดยจะเป็นระเบียงห้องนอน และหน้าต่างระบายอากาศของส่วนครัวไทย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- Driver Room
- สระว่ายน้ำขนาด 8×15 เมตร (รวมสระเด็ก) ระบบน้ำเกลือ ลึก 1.20 เมตร
- Jacuzzi
- Fitness Room
- Steam Room
- ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชาย หญิง
- ที่จอดรถใต้ดิน Fix คัน
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร 11:1
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับโครงการนี้มีทั้งหมด 33 ยูนิตซึ่งจะเริ่มต้นด้วยขนาด 108.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอนเลย ดังนั้นความเป็นส่วนตัวในโครงการสูงค่ะ
ห้องตัวอย่างที่โครงการทำไว้ให้เลือกดูมีแบบเดียวนะคะ ขนาด 244.4 ตารางเมตร มีจำนวน 9 ห้องจาก 33 ห้อง โดยห้องที่นี่ขายแบบ Partly Fitted นะ ที่ตกแต่งออกมาเอาไว้เป็นแนวทางเฉยๆแต่ถ้าชอบจะเอาแบบนี้ก็ได้ไม่ว่ากันเนอะ ห้องขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ครัว 1 ห้องเก็บของ 1 ห้องแม่บ้านและห้องอเนกประสงค์ จะเห็นว่าขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมือนอยู่บ้าน แต่ให้น้ำหนักของระเบียงห้องอย่างเต็มๆ เป็นส่วน Common Area ของห้องที่เรียกว่าตรงนี้เป็นจุดเด่นเลยที่นำแนวความคิดชานบ้านแบบไทยเข้ามา จัดให้ใช้งานได้จริง ทางเข้าของห้องจะสามารถเข้าได้ 2 ทางนะคะ ทางแรกก็เปิดลิฟท์เข้ามาหน้าโถงห้องเราเลย แต่อีกทางคล้ายทาง Service ให้แม่บ้านเข้า ก็ส่วนวงกลมสีแดงที่ฝนวงเอาไว้ค่ะ โดยใช้ลิฟท์รวม ก็สามารถขึ้นมาชั้นนี้เช่นกันเพียงแต่ต้องเข้าประตูเล็ก
ส่วนของพื้นที่ห้องจะเริ่มตั้งแต่เปิดประตูโถงลิฟท์ออกมาค่ะ
พื้นด้านหน้าโถงประตูจะเป็นกระเบื้องขนาด 40×80 เซนติเมตร
ซ้ายมือเป็นห้องเก็บของ
บานประตูเป็นบานสำเร็จรูป และมือจับบานประตูเป็นเขาควาย
ข้างในห้องเก็บของค่ะ
ประตูเข้าห้องจะเป็นบานเปิดคู่ค่ะ วัสดุเดียวกัน
มือจับเขาควาย และตัวล็อค Dead Bolt
จากส่วนโถงหน้าเข้าสู่พื้นที่ในห้องจะเปลี่ยนเป็น Engineering Wood
อย่างแรกที่เงยหน้าเข้าห้องมาเห็นก็ระเบียงขนาดใหญ่นี่แหละค่ะ กว้างเต็มจริงๆ
ส่วน Common Area จัดเป็นส่วนรับแขกค่ะ พื้นที่ใช้สอยเยอะขนาดนี้สามารถเลือกกั้นห้องได้เลยนะ ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตรค่ะ ส่วนแอร์ให้ Conceal มาใต้ฝ้าจะสูงลดลงมา 2.50 เมตรค่ะ
ห้องมาตรฐานเค้าจะไม่ได้กั้นห้องไว้ให้นะคะ แต่ก็สามารถนำไปใช้เป็นไอเดียในการแบ่งห้องได้ โดยใช้ประตูบานหมุนแบบนี้ ผนังฉาบเรียบทาสีน้ำอะครีลิค ส่วน Grill ของแอร์จะไม่ได้ยาวเต็มแบบนี้ค่ะ ได้แค่บางส่วน
บริเวณผนังด้านหน้าตามแบบจะเป็นประตูทางเข้ารองนะคะ ซ้ายมือคือห้องน้ำแบบ Powder Room และขวามือเป็นห้องแม่บ้านค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ
อ่างล้างมือจะวางแบบยาวแนบไปกับเคาน์เตอร์ ออกแบบสำหรับห้องน้ำพื้นที่เล็ก และ Powder Room ใช้ขนาดไม่ใหญ่มาก
แต่ข้อเสียของอ่างแบบนี้คือกระเด็นง่าย ก๊อกน้ำของ Grohe อ่างล้างมือของ Toto
ห้องแม่บ้านวัสดุปิดผิวจะเหมือนกับห้องเก็บของ (มีหน้าต่างนะคะห้องนี้ ข้อมูลเพิ่มเติมจากโครงการค่ะ 17/12/2014)
ภายในมีห้องน้ำในตัวค่ะ สุขภัณฑ์ก็จะได้ตามนี้เลย ประตูห้องน้ำเป็นแบบบานเลื่อนนะคะ ประหยัดพื้นที่
อ่างล้างหน้าไปแอบอยู่อีกมุม
ส่วนที่จัดมาให้เชื่อมต่อเนื่องกับส่วน Living Room คือส่วนทานอาหารและครัวค่ะ
ขุดครัวทางโครงการให้มาเป็นชุดด้านหลังอย่างเดียวค่ะ Island จะไม่ได้
หน้าตาชุดครัว ได้ทุกอย่างยกเว้นตู้เย็น ท็อปหินสังเคราะห์
พื้นครัวส่วนนี้จะปูกระเบื้องไว้แทน
เตาไฟฟ้าเซรามิค 4 หัวของ Siemens
Hood ของ Siemens
Franke
มือจับบานเปิดตู้ครัว
บานเปิดเป็น Soft Close ค่ะ
ตู้ชั้นด้านล่างค่ะ
ตู้อีกชุดนึงที่จัดมาให้ด้วย
เปิดข้างในโชว์หน่อย
ห้อง Type นี้จะได้ครัว 2 ชุดนะ คือมีครัวไทยแยกให้ด้วย
ด้านในก็ปูกระเบื้องค่ะ
ของที่ให้มาก็เป็นชุดครัวตัว L
Hob & Hood ของ Siemens
อ่างล้างจานใหญ่ สองหลุม
ห้องนี้มีหน้าต่างระบายอากาศให้ด้วยนะคะ คือจัดทำกับข้าวหนักๆได้
กลับมาที่ส่วนระเบียงห้องกันค่ะ ประตูที่ให้มาแบ่งออกเป็น 4 ตอน เปิดทีก็ได้แบบกว้างๆ ไม่มีอะไรมาเกะเกะ
เทียบขนาดรางของประตูบานเลื่อนให้ดูขนาดใหญ่และหนักมาก
พื้นระเบียงจะปูเป็นกระเบื้องลายไม้ให้ค่ะ ราวระเบียงเป็นกระจก tempered ห้องระเบียงใหญ่ๆ แบบนี้จะแจกพอตตรงที่ได้วิวเพื่อนบ้านระยะประชิดนี่แหละ
บานประตูเล็กๆเปิดไว้เข้าไป Service ส่วนของ Compressor
ทางเข้าตรงนี้เล็กไปหน่อยต้องตะแคงตัวเดิน ติดพุง
แผงที่ติดอยู่บริเวณ Facade ของอาคารเมื่อเวลามองจากในห้องจะเห็นลักษณะนี้ คือพับเก็บไม่ได้นะคะ เป็น Fix ไว้ ซึ่งจากขนาดของระเบียงแล้ว บอกเลยว่าไม่เกะกะสายตาค่ะ
ห้องน้ำภายในห้องนอนทุกห้อง
มีซ่อนตู้ให้ด้านหลังกระจกเงา เวลาเปิดก็จับที่จับแบบในภาพ แต่ไม่มีเส้นไฟให้ค่ะ
เปิดตู้ให้ดู
ส่วนอาบน้ำ แยกเปียกแห้งและแบ่งด้วยฉากกกั้นกระจก
ชุดฝักบัวของ Grohe รุ่น bokoma spray
พื้นส่วนเปียกในห้องตัวอย่างลดระดับน้อยไปหน่อย
ภายในห้องนอนค่ะ สามารถหยิบจับเอาเตียง Queen Size มาวางแล้วมีพื้นที่เหลือพอสำหรับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
ห้องนี้ได้ระเบียงด้วยค่ะ แต่เป็นระเบียงที่หันไปเจอด้านหลังของโครงการ
สามารถจัดตู้เสื้อผ้าได้ชุดนึง หรือเพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งกับกระจกแต่งตัวก็ยังได้
ระเบียงด้านนนอกก็คล้ายกันกับระเบียงใหญ่ค่ะ ย่อขนาดลงมา
ห้องนอนอีกห้อง จะมีขนาดที่กว้างกว่าขึ้นมาแต่ไม่มีระเบียง
บานหน้าต่างที่ให้เต็มๆแผงแบบนี้
ระยะข้างเตียงทั้งสองข้างจะเห็นว่าเหลือเฟือ
ห้องน้ำอยู่ติดกับทางเข้าค่ะ ซึ่งจะมีส่วนไว้ทำ Walk in Closet ได้ พื้นที่ด้านหน้าที่วางทีวี หากใครอยากประหยัดพื้นที่ก็ Built in เป็นชั้นเรียบไปกับผนัง
เอาไอเดียมาแบ่งกัน
Walk in Closet ที่ให้เป็นห้องโล่งๆค่ะ สามารถจัดทำชั้น L แบบนี้
เข้ามาข้างในเป็นห้องน้ำและ
รายละเอียดข้างในห้องนี้ก็เหมือนกันค่ะ แต่จะมีเพิ่มส่วนชั้นที่ซ่อนหลังกระจกเงาบานสูง
เปิดมาเป็นชั้นเก็บของ
ห้องนอน Master Bedroom
พื้นที่รอบๆจะกว้างและไม่อึดอัดค่ะ
ข้อดีอีกจุดคือหน้าต่างที่ให้มาแบบเต็มๆผืนแบบนี้
เข้ามาดูกันต่อส่วนห้องน้ำ
เข้ามาสิ่งแรกที่จะเจอคืออ่างอาบน้ำตรงกลางห้อง
Walk-in Closet และห้องน้ำจะอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน
แบ่งได้เป็นรูปตัว L ซ้ายขวา อ่างล้างมือเช่นกัน
พื้นส่วนอ่างจะมีการลดระดับลงเล็กน้อย
อ่างล้างมือก็ใหญ่ กว้างค่ะ มี 2 อ่าง ไม่ต้องแย่งกัน
หลังกระจกมีตู้ซ่อน
ห้องสุขาและห้องน้ำแยกกันคนละฝั่งค่ะ
สุขภัณฑ์ของ Kohler
อีกห้องแยกมาเป็นห้องอาบน้ำ ห้องใหญ่ก็ได้ Rain Shower ด้วย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 November 2014
- 2 ห้องนอน 108.5 ตารางเมตร ราคา 15.93 ล้านบาทหรือประมาณ 146,820 บาทต่อตารางเมตร
- Partly Fitted
- เพดานสูง 2.8 เมตร ครัว 2.50 เมตร Duplex 6.1 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- 2 ห้องนอน จอง 100,000 บาท
- 3 ห้องนอน จอง 200,000 บาท
- ทำสัญญา 5%
- ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 28 งวด
- ค่ากองทุน 700 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 70 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Issara Collection สาทร เป็นโครงการคอนโด Low rise ที่เน้น Privacy สูง แน่นอนว่า กลุ่มเป้าหมายคุณลูกค้าต้องเป็นระดับบนแน่ เพราะเลือกขนาดห้องเริ่มต้นที่ 100 กว่าตารางเมตร และอยู่ในทำเลที่เข้าเมืองออกเมืองสะดวก คือไม่ได้ใจกลางเมืองแท้ ถนนนางลิ้นจี่เป็นทำเลแบบต่อ คือต่อรถหรือต่อระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆเพื่อเข้ามาโครงการ แต่สิ่งที่ทำเลนี้มีอุดมสมบูรณ์คือเรื่องความเป็นชุมชนที่มีทั้งตลาด ร้านอาหาร ครบครัน บทจะจับจ่ายนี่เรียกว่าง่าย สบาย นอกจากร้านตามรายทาง ขยับเข้าห้างก็ยังไม่ไกลแบบท้อใจ เซนทรัลพระราม 3 หรือจะ The Up ในระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากโครงการ
การเดินทางโดยใช้รถรถสะดวก ทางเลือกในการเดินทางเยอะ นราธิวาส , พระราม 3 ,สาทร จะติดช่วงชั่วโมงเร่งด่วนอย่างเช้าหรือเย็น เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าที่จับจองห้องพักที่นี่ 99% และประกอบกิจการส่วนตัว ไม่ต้องคอยตอกบัตรแสกนนิ้ว ทำให้มีทางเลือกเลี่ยงช่วงเวลารถติดไปได้ หรือหากจำเป็นต้องออกไปธุระสำคัญช่วงนาทีทอง ก็ยังมี Option ของถนนซอยให้ลัดเลาะออกได้ค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นับว่าจะเป็นจุดด้อยของที่นี่ บนถนนนางลิ้นจี่ที่จะเห็นบ่อยคือ รถเมล์ สองแถว และแท๊กซี่ ส่วนระบบขนส่งอื่นๆ เช่น BTS , BRT , MRT ก็อยู่ไกลเกินกว่าระยะเดิน เป็นระยะที่ต้องต่อค่ะ
ในจุดที่ตั้งของอาคารนั้นเป็นซอยตันที่มีเน้นอยู่อาศัยล้วนๆ แน่นอนว่าได้ความสงบถึงแม้ขนาดซอยค่อนข้างเล็ก แต่ยังพยายามจัดหาส่วนจอดรถเพื่อลดปัญหาตรงจุดนี้ ที่เห็นว่าจะเป็นมุมระยะประชิดระหว่างเพื่อนบ้านกับอาคารก็มีอยู่หลายจุดซึ่งต้องอาศัยการออกแบบ Landscape เข้ามาช่วย เพื่อไม่ให้ดูอึดอัดจนเกินไป ส่วนด้านหลังอาคารที่หันไปเจอกับด้านหลังของอาคาร 4 ชั้น และโกดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีส่วนห้องน้อยมากที่หันไปเจอแต่ก็เป็นส่วนระเบียงค่ะ ซึ่งอดชมวิวแน่นอน แต่อาจปรับมาเป็นระเบียงตากผ้าหรือซักล้างแทนได้
วัสดุที่ทางโครงการให้มาเมื่อเทียบกับราคาแล้วยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร คือ Partly Fitted ให้ชุดครัว Built-in ,พื้น Engineering Wood , กระเบื้อง Homogenous , อ่างล้างจาน Franke , ก๊อกน้ำ Grohe , สุขภัณฑ์ Kohler แต่ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรแตะเกือบแสนห้า ถ้าต้องตกแต่งเพิ่มไปอีกราคาสูงพอสมควร
การออกแบบตั้งแต่ภายนอก จนถึงพื้นที่ภายในทำออกมาได้ดีค่ะ นำลูกเล่นมาผสมผสานให้มีกลิ่นอายของความเป็นไทยแต่ยังคงใช้รูปแบบทันสมัยเพื่อให้ดูไม่น่าเบื่อ การจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่เป็น Common area เหมือนจุดศูนย์รวมของบ้าน ดังนั้นจึงให้น้ำหนักกับส่วนนี้ของผังห้องเยอะ
สาธารณูปโภคจัดมาให้ครบ แบ่งพื้นที่ออกมาได้ค่อนข้างดี ที่จอดรถเป็นส่วนที่ทำมาให้แบบไม่ต้องแย่งกัน ในส่วนอื่นๆนั้นก็จัดสรรออกมาได้ค่อนข้างสอดคล้องกับพื้นที่ใช้สอยที่มีนะคะ ส่วนสระว่ายน้ำสำหรับอาคารประเภท Low Rise แล้วเห็นทีจะได้เอาไว้ว่ายยืดเส้นสาย แต่ออกกำลังกายจริงๆไม่ได้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 146,000 บาทต่อตารางเมตร, 19 November 2014
- ทำเล 7.5/10 – ทำเลเงียบสงบ แต่เมื่อเทียบกับราคายังค่อนข้างสูงอยู่ และเหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มที่ชอบทำเลในเมืองแต่ Privacy สูง
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก ที่จอดรถเพียงพอ
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ทำเลแบบต่อ คนที่พึ่งพาระบบรางต้องต่ออย่างอื่นเข้ามาอีก
- วัสดุ 7/10 – วัสดุให้มา Partly Fitted แต่ของดีทั้งสุขภัณฑ์และครัว
- แบบ 8.75/10 – ออกแบบมาได้เหมาะสำหรับคนเฉพาะกลุ่มมาก พื้นที่ใช้สอยจัดเต็มและคงแนวความคิดไว้อย่างดี
- สาธารณูปโภค 7/10 – ได้ครบ แต่ก็ขนาดได้ตามพื้นที่ ไม่ใหญ่มากค่ะ
- HIGH CLASS
- 7.64 / 10.00
BOTTOM LINE
Issara Collection สาทร เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด ที่มีความ Private สูง เพื่อนบ้านน้อยๆ ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ทำเลเข้าออกเมืองสะดวก ชอบพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางโดยเฉพาะระเบียงที่สามารถ Create กิจกรรมได้มากกว่าการตากผ้า มีงบประมาณระดับ 15 ล้านบาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ