IKON อุดมสุข คอนโด Low Rise ในซอยอุดมสุข 29 พร้อมห้อง LOFT ใกล้ BTS อุดมสุข 2.1 กิโลเมตร จาก V Property [รีวิวฉบับที่ 2129]

24 September 2020

• IKON UDOMSUK (ไอคอน อุดมสุข)
• บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
• ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ : ซอย อุดมสุข 29 ถนน อุดมสุข เขต บางนา
• ที่ดินประมาณ 2-1-03 ไร่
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 334 ยูนิต

• อาคาร A 78 ยูนิต
• อาคาร B  256 ยูนิต

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

พิกัด Google Maps : 13.681895, 100.623138
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ IKON อุดมสุข ตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 29 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนอุดมสุขและถนนสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) เข้ามาจากปากซอยสุขุมวิท 101/1 ประมาณ 280 เมตร และปากซอยอุดมสุข 29 ประมาณ 400 เมตร ถือว่าโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นชุมชนพักอาศัย มีอาคารพักอาศัยหลายแห่งมีความคึกคักสูง สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ในการเดินทาง จะค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากถนนอุดมสุขเป็นถนนเส้นที่เชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์เข้าด้วยกัน นอกจากนั้นยังมีซอยลัดจากถนนสุขุมวิท 101/1 ไปออกยังถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุชได้อีกด้วย

ใครที่เลือกเดินทางด้วยรถยนต์แล้วใช้ถนนเส้นสุขุมวิทเป็นหลักอาจจะมีการจราจรที่หนาแน่นต้องเผื่อเวลาการเดินทางสักหน่อยนะคะ แม้ว่าจะไม่ติดเท่ากับในเมืองแต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็มีรถติดอยู่ค่ะ

นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล คือรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.1 กิโลเมตร ซึ่งโครงการนี้เขามีรถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าให้ด้วยค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากรอรถนานสามารถนั่งมอเตอร์ไซค์ในราคาไม่เกิน 20-25 บาทได้ ซึ่งสถานีอุดมสุขถือเป็นสถานีที่มีความคึกคักสูง เพราะเป็นจุดขึ้นรถหลายสาย รวมถึงมีรถรับ-ส่ง ห้าง Mega Bangna ฟรี มารับที่สถานี้นี้ด้วยค่ะ

นอกจากเส้นทางปกติ ทำเลนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยทางด่วนเฉลิมมหานคร มีจุดขึ้น-ลงทางด่วน 2 จุด ดังนี้

• เส้นทางที่ 1 – เริ่มจากโครงการออกทางปากซอยวชิรธรรมสาธิต > ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า > ขับชิดซ้ายตรงไปประมาณ 1.4 กม. > เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62 > ไปยังด่านสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 กม.
•  เส้นทางที่ 2 – เริ่มจากโครงการออกทางปากซอยอุดมสุข 29 > เลี้ยวขวาไปออกถนนสุขุมวิท > ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก > ขับตรงไปประมาณ 1.0 กม. > ผ่านแยกบางนา > เลี้ยวขวาเตรียมขึ้นทางด่วน > ไปยังด่านบางนา ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม.

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ก็หายห่วงได้เลยค่ะ แหล่งความอุดมสมบูรณ์ใหญ่ๆจะอยู่ที่ 3 ถนนเส้นหลัก คือถนนสุขุมวิท ถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ สามารถนั่งรถจากโครงการออกมายังสถานีรถไฟฟ้า ไปยังห้างสรรพสินค้าต่างๆได้ง่าย หรือถ้าไปฝั่งถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถประจำทางอยู่ค่ะ ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดคือ เซ็นทรัลบางนา , Big C Supercenter  , Mega บางนา และ Tesco Lotus ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา – ตราด ส่วนบนถนนสุขุมวิทจะมี ห้าง Century The Movie Plaza , Tesco Lotus อ่อนนุช หรือถ้าไปบนถนนศรีนครินทร์ จะมีห้างอย่าง Seacon Square , Paradise Park, ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ รวมไปถึงสวนหลวงร.9 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ให้ไปพักผ่อนออกกำลังกายกันได้

นอกจากนั้นยังมีแหล่ง Community Mall ที่สามารถแวะหาของกินหรือนั่งทำงานบนถนนสุขุมวิท คือ

• Phyll สุขุมวิท 54 – ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 54 ข้างสำนักงานเขตพระโขนง เป็น Hybrid-Lifestyle Mall มีทั้งพื้นที่ Open-Air และ พื้นที่ภายใน รวมถึงชั้นใต้ดินด้วย มีสินค้าหลากหลายประเภท บนพื้นที่ขายขนาด 5,200 ตารางเมตร
• Whizdom 101 – Mixed use ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ภายในประกอบไปด้วย สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คอนโด และ Community Mall บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่ นอกจากนั้นยังมี True Digital Park สถานที่สำหรับคนยุคดิจิทัล ได้ครบทั้งที่ทำงาน พักผ่อน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มสตาร์ทอัพให้ครบวงจร

ในช่วงหลังมานี้ทำเลสุขุมวิทตอนปลายมีความเจริญมากขึ้นทำให้มีคอนโดมิเนียมแหล่งที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ที่สามารถเดินได้จะมีไม่เยอะเท่าไรนักนะคะ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย ซึ่งภายในซอยเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อมากนัก จึงต้องออกมาซื้อของที่ใกล้ที่สุดบนถนนสุขุมวิท 101/1 หรือถนนอุดมสุขเลยค่ะ

การเดินทางไปยังโครงการวันนี้เราพาไปจากถนนศรีนครินทร์ เดินทางไม่ยากเลยค่ะ มาจากถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนอุดมสุข มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสุขุมวิท และเข้าซอยอุดมสุข 29 ประมาณ 400 เมตรก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือ ส่วนสำนักงานขายนั้นจะอยู่ที่ปากซอยอุดมสุข 30 ไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอยก็เจออยู่ซ้ายมือเลยค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ IKON อุดมสุข ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย สูง 1-2 ชั้น จะมีอาคารพักอาศัยบ้างเล็กน้อยสูงไม่เกิน 4 ชั้น ตัวโครงการมีทางเข้า-ออก ติดซอยอุดมสุข 29 และด้านหลังติดกับซอยอุดมสุข 27 ทำให้มีพื้นที่ติดกับที่ดินข้างเคียงเพียงแค่ 2 ฝั่ง ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นค่ะ บรรยากาศในซอยค่อนข้างเงียบสงบ แต่มีรถยนต์ผ่านเข้า-ออกตลอดทั้งวัน เนื่องจากซอยอุดมสุข 29 เป็นซอยลัดที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนอุดมสุขและถนนสุขุมวิท 101/1 ทำให้สามารถเรียกรถ Taxi หรือวินมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยากค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยอุดมสุข 29 ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่อาคารพักอาศัยสูง 3-4 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยอุดมสุข 27 ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• Whizdom 101 ~ 2.1 กิโลเมตร
• ปิยรมย์ เพลส ~ 2.2  กิโลเมตร
• เซ็นทรัลบางนา ~ 2.6  กิโลเมตร
• บิ๊กซีบางนา ~ 2.9  กิโลเมตร
• โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 3.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 ~ 3.4 กิโลเมตร
• Phyll สุขุมวิท 54 ~ 3.9 กิโลเมตร
• Paradise Park ~ 4.0 กิโลเมตร
• Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 4.2 กิโลเมตร
• Century อ่อนนุช ~ 5.6 กิโลเมตร
• Seacon Square ~  8.6 กิโลเมตร
• เมกา บางนา ~ 9.7 กิโลเมตร

โครงการ IKON อุดมสุข เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น เปิดใหม่ในย่านอุดมสุขบนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีห้องพักอาศัยรวม 334 ยูนิต แบ่งเป็น 2 อาคาร อาคาร A ด้านหน้าโครงการ 78 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัว และอาคาร B 256 ยูนิต มีที่จอดรถมาให้ที่ชั้น 1 จอดได้ 102 ช่องจอด (30.5%) และมีบางส่วนเป็นช่องจอด Hydraulic 2 ชั้น (ดูภาพผังโครงการด้านล่าง) รวมจอดรถซ้อนคันจะจอดได้ประมาณ 120 คันหรือ 36 % ค่ะ

จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่ชั้น 8 ที่เป็นห้องพักอาศัยแบบ ฝ้าเพดานสูง (Loft) 4.20 เมตร ทั้งหมดเลยค่ะ ใครอยากอ่านความหมายของห้อง Loft เพิ่มเติมคลิกได้ที่ >>  Loft Vs Duplex แตกต่างกันอย่างไร  ซึ่งทางโครงการได้ลดระดับพื้นชั้น 1 ลงจากระดับถนนทำให้สามารถสร้างอาคารสูง 8 ชั้นได้โดยไม่เกินระยะความสูงที่กฎหมายกำหนด 23 เมตรนั่นเองค่ะ

อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องของ “ราคา” ของโครงการ IKON อุดมสุข เขาตั้งราคามาแบบ 1 Price ทุกๆตำแหน่งถ้าเป็นห้องประเภทเดียวกันก็มีราคาเดียวเลยค่ะ ทำให้ใครที่จองก่อนก็จะได้ตำแหน่งห้องดีๆ ในราคาเท่ากับตำแหน่งอื่นๆเลย โดยโครงการนี้ทำราคาออกมาได้น่าสนใจ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.15 ล้านบาท ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านที่เปิดตัวมานานแล้วค่ะ โดยจะมีห้อง Promotion วันเปิดตัวโครงการมีการจับฉลากห้องราคา 990,000 บาท (1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 22 ตารางเมตร) โดยผู้ที่จองห้องทุกคนมีสิทธิ์ลุ้นได้ค่ะ

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ IKON อุดมสุข ให้มาตามมาตรฐานนะคะ โดยจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด (ยกเว้นสวนชั้นดาดฟ้าอาคาร A) ประกอบไปด้วย Lobby Lounge, Co-Living Space, Meeting Room, Fitness, Swimming Pool และมีบริการเพิ่มเติม ดังนี้

• Live & Studio สำหรับถ่ายทอดสด ทำกิจกรรม Live ขายของได้ค่ะ
• Laundry Room มีเครื่องซักผ้าให้บริการ
• Office Supply มีเครื่องปริ้น เครื่องถ่ายเอกสารให้บริการ
• Free Internet บริเวณ Lobby ส่วนกลาง
• Free Drinking Water ในพื้นที่ส่วนกลาง
• Shuttle Service รถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข
• จุดเติมลมยางรถยนต์/ รถจักรยานยนต์

บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมภาพจำลอง Perspective ในพื้นที่ส่วนกลางกันค่ะ

บริเวณ Co-Living Space เป็นห้องฝ้าเพดานสูง Double Space การตกแต่งห้องใช้โทนสีขาวมีขอบเงาสีทอง และกระจกโค้งด้านหน้าให้ความรู้สึกหรูหราและโปร่งสบายไม่อึดอัด มีชุดเก้าอี้ให้นั่งพักคอย สำหรับรอรถ รอเพื่อนๆได้

พื้นที่ Co-Passion รองรับการทำงานของคนยุคปัจจุบันที่มีการทำงานที่บ้าน สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศไม่อยากนั่งทำงานที่ห้องก็มานั่งที่พื้นที่ส่วนกลางแอร์เย็นๆ และมี Internet ให้ใช้ฟรีค่ะ

บรรยากาศภายในห้อง Co-Passion มีช่องแสงขนาดใหญ่มองออกไปเห็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำบางส่วน ทำให้เห็นวิวพื้นที่สีเขียว สระน้ำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ด้านหลังเชื่อมต่อกับห้อง Meeting Room และห้อง Live & Studio ที่เป็นห้องส่วนตัวสามารถจองใช้งานได้ค่ะ

ภาพซ้ายมือคือห้อง Meeting Room ให้ลูกบ้านที่ต้องการนัดเพื่อนมาทำงานหรือประชุมก็สามารถจองส่วนตัวมาใช้งานได้ค่ะ ภาพขวามือคือห้อง Live & Studio รองรับวิถีชีวิตคนยุคปัจจุบันที่มาการขายของออนไลน์การมากขึ้นทางโครงการเลยจัดห้องสำหรับ Live ขายของไว้ให้เลย แถมห้องนี้ยังมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนด้านนอกด้วยค่ะ

ถัดมาจากห้อง Co-Passion จะเจอกับห้อง Fitness ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า ให้ความรู้สึกว่าแยกส่วนกันชัดเจนกับพื้นที่ภายนอก ภายในมีเครื่องเล่น และห้องน้ำแยกชาย-หญิงมาให้เรียบร้อย

มาดูผังของโครงการกันบ้างค่ะ พื้นที่โครงการ IKON อุดมสุข ด้านหน้า(ทางทิศตะวันออก)อยู่ติดกับซอยอุดมสุข 29 และด้านหลังติดกับซอยอุดมสุข 27 รอบๆด้านส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น มองเห็นทัศนียภาพเป็นวิวเมืองชุมชนบ้านพักอาศัย ส่วนทางเข้า – ออกของโครงการมีอยู่จุดเดียวที่ซอยอุดมสุข 29 เพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยค่ะ

ภายในโครงการชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด 102 คัน มีบางส่วนเป็นที่จอดรถ Hydraulic 2 ชั้น (ช่องจอดสีเข้ม) ใต้อาคาร A 2 ช่องจอด และใต้อาคาร B 12 ช่องจอด รวมจอดรถซ้อนคันประมาณ 120 คัน (36%) ส่วนของ Facilities จะอยู่ที่ใต้อาคาร A และ B ใช้งานร่วมกัน ดังนี้ค่ะ

ชั้น 1 อาคาร A

• Visitor Lobby สำหรับรับ – ส่งของ หรือนัดเพื่อนๆที่อื่นมารอ
• Co Living Space สำหรับลูกบ้านนั่งพักผ่อน จะต้องใช้ Key Card แตะเข้ามาซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า Lobby ด้านหน้า
• Office Supply
• ห้องน้ำแยกชาย – หญิง

ชั้น 1 อาคาร B

• Co- Passion สำหรับนั่งทำงาน พักผ่อน
• Meeting Room / Live & Studio ห้องส่วนตัวจองเข้าใช้งานได้
• Gym & WC

ระหว่างทั้ง 2 อาคารเป็นพื้นที่สระว่ายและสวน เพิ่มบรรยากาศและพื้นที่สีเขียวให้กับส่วนกลางมากขึ้น ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 เป็นห้องพักอาศัยขนาดเล็ก 1 Bedroom ขนาด 22 – 33 ตารางเมตรค่ะ

อาคาร A  

อาคาร A คืออาคารขนาดเล็กที่อยู่ที่ด้านหน้าโครงการติดกับซอยอุดมสุข 29 มีจำนวนยูนิต 78 ยูนิต ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากนักค่ะ แต่จะมี Facility ด้านล่างอาคารเพียงแค่ Lobby สำหรับนั่งพักผ่อนค่ะ อาคาร A จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่เน้นใช้งานพื้นที่ส่วนกลางมากนัก อาคาร A มีลิฟต์โดยสารมาให้ 1 ตัว ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 78 ต่อ 1 ถือว่าไม่เยอะมากทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในเวลาเร่งด่วนของวันค่ะ

ชั้น 2 : เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในโครงการอยู่ที่ 7 ยูนิตต่อชั้นเนื่องจากมีพื้นที่บางส่วนเป็น Double Volume ให้กับโถง Lobby ชั้น 1 ทำให้ชั้นนี้จะมีโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยแบบ Single Corridor ทั้งหมด เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง ไม่เน้นวิวโปร่งมากนัก ห้องทางฝั่งทิศตะวันตกจะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและมีเงาอาคาร B บังแดดตอนบ่ายได้บ้างค่ะ ส่วนห้องทางทิศใต้จะมองเห็นวิวบ้านพักอาศัยข้างเคียง ซึ่งห้องพักอาศัยจะมี 2 แบบดังนี้

• ห้อง 1 Bedroom 22.11 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom 26.94 ตารางเมตร

ชั้น 3 – 7 : เป็นชั้นที่วางผังเหมือนกันทุกชั้นค่ะ โดยจะมีห้องเพิ่มขึ้นมาทางทิศตะวันออก คือห้องขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor แต่ห้องทางทิศใต้จะยังมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor อยู่ค่ะ ห้องพักอาศัยมีจำนวน 12 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งก็ถือว่าไม่หนาแน่นมากนัก ห้องขนาดใหญ่ 33.53 ตารางเมตรจะอยู่ที่มุมอาคาร มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะมีผนังติดกับห้องอื่นแค่ฝั่งเดียวค่ะ

• ห้อง 1 Bedroom 22.11 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom 26.94 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom 28.19 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom Plus 33.53 ตารางเมตร

ชั้น 8 : เป็นห้องพักอาศัยแบบ Loft ทั้งหมด มีจำนวน 11 ยูนิต โดยแต่ละห้องจะมีความสูงอยู่ที่ 4.20 เมตร โดยจะมีผังเหมือนกับชั้น 3-7 เลยค่ะแต่จะตัดห้องหัวมุมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ไป 1 ยูนิต

• ห้อง 1 Bedroom LOFT 22.11 + 10.62 ตารางเมตร (32.73 ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 26.94 + 13.42 ตารางเมตร (40.36 ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 28.19 + 13.42 ตารางเมตร (41.46 ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 33.53 + 18.26 ตารางเมตร (51.79 ตารางเมตร)

อาคาร B 

อาคาร B เป็นอาคารที่อยู่ด้านใน ติดกับซอยอุดมสุข 27 มีจำนวนทั้งหมด 256 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนยูนิตที่หนาแน่นมากกว่า แต่ก็มี Facility ให้ใช้เยอะกว่าเช่นกันค่ะ พื้นที่ส่วนกลางส่วนนี้ลูกบ้านอาคาร A ก็สามารถมาใช้งานได้นะคะ แต่อยู่อาคาร B จะสะดวกมากกว่า อาคารนี้เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางบ่อยๆ ไม่ซีเรียสเรื่องความหนาแน่นของยูนิตมากนัก อาคารนี้มีลิฟต์มาให้ 2 ตัวค่ะ อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 128 ต่อ 1 ก็คือว่าค่อนข้างเยอะ อาจจะต้องใช้เวลารอลิฟต์ในชั่วโมงเร่งด่วนสักหน่อยค่ะ

ชั้น 2 : มีจำนวน 30 ยูนิต เนื่องจากมีพื้นที่บางส่วนเป็น Double Volume ให้กับพื้นที่ส่วนกลางด้านล่าง และเป็นพื้นที่จอดรถระบบ Hydraulic 2 ชั้น ตัวห้องได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor ห้องพักอาศัยหันหน้า 2 ฝั่งไปทางอาคาร A มองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลาง และหันหน้าออกไปทางซอยอุดมสุข 27 มองเห็นวิวชุมชนบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่

ทางโครงการออกแบบให้โถงลิฟต์อยู่ใกล้กับมุมอาคารฝั่งทิศเหนือ ทำให้ห้องที่อยู่ฝั่งทิศใต้จะต้องเดินไกลจากโถงลิฟต์สักหน่อยค่ะ ซึ่งห้องที่อยู่ทางทิศใต้สุดจะเป็นห้องใหญ่ 33.53 ตารางเมตรเลยค่ะ ส่วนราคาในแต่ละห้องนั้นจะเท่ากับราคาที่อาคาร A ในชั้นเดียวกันค่ะ ห้องที่อยู่ภายในชั้น 2 อาคาร B มีดังนี้

• ห้อง 1 Bedroom 22.11 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom 26.94 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom 28.19 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom Plus 33.53 ตารางเมตร

ชั้น 3 – 7 : วางผังเหมือนกันมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 38 ยูนิต ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาแน่นหน่อยนะคะ ห้องที่มีขนาดใหญ่ (28.19 ตารางเมตร) จะหันไปทางด้านหน้าโครงการทิศตะวันออกมองเห็นววพื้นที่ส่วนกลางได้ ส่วนห้องที่มุมอาคารคือห้องขนาดใหญ่ 33.53 ตารางเมตรค่ะ

ชั้น 8 : มีจำนวน 36 ยูนิต เป็นห้องพักอาศัยแบบ LOFT ทั้งหมด ซึ่งจะมีการวางผังเหมือนกับชั้น 3-7 เลยค่ะ แต่จะตัดห้องใหญ่ 33.53 ตารางเมตรที่มุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือออกไป ราคาห้อง Loft แต่ละแบบก็จะเท่ากับที่อาคาร A เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า (อาคาร A)
• Visitor Lobby
• Co-Living Space
• Co-Passion
• Meeting Room
• Mail Room
• Live & Studio
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5 x 11 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย
• Laundry Room
• Office Supply
• Free Internet
• Free Drinking Water
• Shuttle Service รถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข
• จุดเติมลมยางรถยนต์/ รถจักรยานยนต์
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 112 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 78 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 128  : 1
• ที่จอดรถประมาณ 102 คัน คิดเป็น 30.5% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 120 คัน หรือ 36%)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

ห้องพักอาศัยทั้งหมดภายในโครงการ IKON อุดมสุขมีทั้งหมด 4 + 4 แบบ ดังนี้

Standard

• ห้อง 1 Bedroom 22.11 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom + Walk-in Closet 26.94 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom + Walk-in Closet 28.19 ตารางเมตร
• ห้อง 1 Bedroom Plus 33.53 ตารางเมตร

LOFT

• ห้อง 1 Bedroom LOFT 22.11 + 10.62 ตารางเมตร (32.73 ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 26.94 + 13.42 ตารางเมตร (40.36 ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 28.19 + 13.42 ตารางเมตร (41.46 ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 33.53 + 18.26 ตารางเมตร (51.79 ตารางเมตร)

โครงการขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว (ครัวปิดทุกยูนิต), สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ Built-in เช่น ตู้รองเท้า, ชั้นวาง TV, โต๊ะเครื่องแป้ง, ตู้เสื้อผ้า และได้เครื่องปรับอากาศ 1 ตัว (ห้อง Loft 2 ตัว) วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 3 แบบ คือ ห้อง 1 Bedroom 22.11 ห้อง 1 Bedroom 26.94 และห้อง Loft 26.94 + 13.42 ตารางเมตรค่ะ

เริ่มกันที่ห้องแรกเป็นห้อง 1 Bedroom with Walk-in Closet ขนาด 26.94 ตารางเมตร ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่มีพื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนค่ะ โดยเมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนครัวปิดก่อน ซึ่งมีข้อดีคือสามารถเก็บของได้สะดวก เดินถืออาหารเข้าห้องมาแล้วสามารถอุ่นรับประทานได้เลยไม่ต้องเดินผ่านห้องอื่นๆ และมีประตูกั้นปิดไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายภายในห้องได้ ถัดจากส่วนครัวจะเป็นพื้นที่พักผ่อน ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอน มีช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังอยู่ติดกับห้องนอนทำให้ห้องดูไม่อึดอัด ส่วนสำคัญอยู่ที่ Walk-in Closet ที่แยกออกมาเป็นสัดส่วนจากห้องนอน ทำให้สาวๆเวลาแต่งหน้าแล้วฝุ่นไม่ฟุ้งกระจายไปยังห้องนอน พื้นที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำอาบน้ำแล้วออกมาแต่งตัวได้สะดวก และยังเปิดถ่ายเทอากาศที่ระเบียงได้ด้วยค่ะ ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจนแต่จะไม่ได้ฉากกั้นกระจกแบบบานเปิดนะคะ จะต้องติดตั้งเอง ส่วนระเบียงนั้นห้องพักอาศัยทั้งหมดในโครงการนี้จะไม่เน้นพื้นที่ระเบียงมากนัก แต่ก็มีพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit และสามารถตากผ้าได้เล็กน้อยค่ะ

ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ได้พื้นที่ครัวปิด พร้อมตู้เก็บของทั้ง 2 ฝั่ง มีห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอนดูโปร่งกว้าง มีพื้นที่ Walk-in Closet แยกสำหรับคนที่ต้องการเก็บเสื้อผ้าเยอะๆ เป็นต้น บรรยากาศภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

ห้องพักอาศัยทุกยูนิตจะได้ Digital Door Lock จาก Secuon สีดำสไตล์เรียบๆ ผู้เขียนคิดว่าเป็นรุ่นที่สวยดีค่ะ สามารถเข้า-ออกได้ 5 ระบบคือ สแกนลายนิ้วมือ, กดรหัส, Key Card, กุญแจ และระบบ Bluetooth ผ่านโทรศัพท์มือถือ

เข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับส่วนห้องครัวก่อน โดยห้องพักอาศัยทั้งหมดในโครงการนี้จะได้เป็นพื้นที่ครัวปิดทั้งหมดเลยค่ะ มีข้อดีคือ สามารถทำอาหารที่มีกลิ่นได้โดยไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะฟุ้งกระจาย ซึ่งห้อง Type 1 Bedroom 26.94 ตารางเมตรนี้จะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ

ฝั่งซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ Built-in ที่ทางโครงการให้มาในห้องมาตรฐาน หน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างเลย (ยกเว้น Backsplash กระจกด้านหลังไม่ได้นะคะ) ด้านล่างเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของมีลิ้นชัก 2 ช่อง พร้อมช่องวางไมโครเวฟช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของอย่าง จาน ชาม แก้วน้ำให้หยิบใช้ได้สะดวก

บนเคาน์เตอร์ครัวจะมีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน จาก Teka และช่องสำหรับวางเครื่องไมโครเวฟ ด้านล่างเคาน์เตอร์

ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่วางตู้เย็น และตู้เก็บของ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า , ร่ม พร้อมกับช่องแขวนกุญแจ เก็บของที่หยิบใช้บ่อยๆได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของภายในห้องได้

ส่วนครัว กั้นปิดด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แยกพื้นที่ในครัวและส่วนพักผ่อนออกจากกัน ตัวบานเลื่อน 3 ตอนจะสามารถเปิดเชื่อมต่อพื้นที่ได้กว้างกว่าประตูแบบ 2 ตอนอีกด้วยค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่พักผ่อน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.60 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงกว่าคอนโด Low Rise ทั่วไปค่ะ พื้นปูด้วยไวนิลลายไม้เชื่อมต่อกันทั้งห้องรวมถึงส่วนครัวด้วยค่ะ การใช้งานในห้องสามารถจัดเป็นส่วนนั่งเล่นและเตียงนอนได้ โดยจะมีช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังให้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้องค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้ค่ะ มีระยะดู TV ประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 32 นิ้วพอดีๆค่ะ

ภายในห้องมาตรฐานจะได้ชั้นวาง TV Built-in มาให้หน้าตาเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ชั้นวาง TV แบ่งช่องเก็บของออกเป็น 2 ฝั่ง เก็บของที่หยิบใช้งานบ่อยๆกับตู้บานเปิดด้านข้าง

ในห้องตัวอย่างจะไม่มีพื้นที่รับประทานอาหารมาให้ดูนะคะ แต่ว่าเราสามารถซื้อโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร 2 ที่นั่งมาวางด้านข้างโซฟาได้

ส่วนเตียงนอนแนะนำให้ใช้เตียงขนาด 5 ฟุตจะพอดีๆกับพื้นที่ค่ะ แต่ถ้าใครอยู่กัน 2 คน ต้องการเตียง 6 ฟุต ก็แนะนำให้วางเตียงติดกับผนังจะทำให้มีพื้นที่มากขึ้นค่ะ

ถัดมาเรามาดูส่วนของ Walk-in Closet ที่เป็นจุดเด่นของห้องนี้กันบ้าง ส่วนของ Walk-in Closet จะไม่ได้มีประตูบานเลื่อนกั้นมาให้นะคะ ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วน ไม่อยากให้ฝุ่นละอองของเสื้อผ้าฟุ้งกระจายก็แนะนำให้กั้นเป็นบานเลื่อนปิดค่ะ

พื้นที่ Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ อาบน้ำออกมาแต่งตัวได้เลยค่ะ ตู้เสื้อผ้าทางโครงการ Built-in มาให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลย เป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นเก็บของและโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่มีหน้าบานปิด หยิบใช้งานได้สะดวก ซื้อกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง และเก้าอี้มาเพิ่มก็พร้อมใช้งานค่ะ

ตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นเก็บของมีรายละเอียดที่ออกแบบมาสำหรับเก็บของกระจุกกระจิกได้ อย่างเช่น ที่แขวนเครื่องประดับสำหรับสาวๆ ถ้าเป็นคุณผู้ชายก็สามารถใช้แขวนเนคไทได้ค่ะ มีช่องเก็บเครื่องสำอางด้านข้างโต๊ะเครื่องแป้ง เป็นต้น

มาถึงห้องน้ำมีการยกขอบกั้นพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน ห้องมาตรฐานจะได้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ (ยกเว้นของตกแต่งนะ) มีกระจกเงาบานใหญ่ทำให้ห้องดูกว้าง

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย ตัวพื้นลดระดับลงเล็กน้อยไม่ให้น้ำไหลออกมาเลอะด้านนอกได้ ได้อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ประกอบจาก Kohler

ส่วนพื้นที่อาบน้ำห้องมาตรฐานจะได้กระจกด้านข้างมาแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ แนะนำให้ติดบานเปิด-ปิดเพิ่มเติมจะได้ช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอกนะคะ พื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.2 x 1.3 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ

ห้องต่อมาเราจะพามาชมห้อง Loft 26.94 + 13.42 ตารางเมตร (รวม 40.36 ตารางเมตร) เป็นห้อง Loft ที่มีจำนวนเยอะที่สุดเลยค่ะ จุดเด่นของห้องนี้นอกจากฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร แล้วยังได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้าง มี Bay Window ทำเป็นที่นอน Daybed หรือมุมนั่งทำงานส่วนตัวได้ โดยห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วน Service ก่อน ได้พื้นที่ครัวปิด ไม่ได้กังวลเรื่องกลิ่นอาหารที่ฟุ้งกระจาย และมีทางเข้าห้องน้ำจากส่วนครัวได้เลย ด้านในจะได้เป็นพื้นที่พักผ่อนกว้าง ไม่ต้องมีประตูห้องน้ำมาขัดสายตาค่ะ ส่วนห้องน้ำจะได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ปกติ แบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน แต่แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นบานเปิดเพิ่มนะคะ

ถัดเข้ามาจากห้องครัว จะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีพื้นที่จัดเป็นโซฟาพร้อมโต๊ะกลางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ทำงาน หรือวางโต๊ะรับประทานอาหารเพิ่มเติมได้ สำหรับห้องนอนจะอยู่ที่ชั้นลอย ซึ่งทางโครงการไม่ได้มีฉากกั้นกระจกที่ชั้นลอยให้นะคะ เวลาเปิดแอร์จะทำให้แอร์ไหลวนทั่วทั้งห้อง สำหรับคนที่ชอบแบ่งพื้นที่ชัดเจนแนะนำให้ติดตั้งผนังกระจกเพิ่มเติมค่ะ พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ มี built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้นั่งได้สบายไม่อึดอัดค่ะ

ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบห้องผ้าเพดานสูง มีชั้นลอย ชอบห้องที่ดูโปร่งมองเห็นวิวได้กว้าง และต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นมาจากห้องปกติค่ะ

ห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเจอกับพื้นที่ครัวก่อนเช่นกันค่ะ แต่จะมีทางเข้าห้องน้ำอยู่ในส่วนนี้ด้วย ทำให้เป็นส่วนเปียกแยกจากพื้นที่พักผ่อนภายในห้องชัดเจน ระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เป็นครัวปิดเช่นกันค่ะ ทำให้ทำอาหารมีกลิ่นได้ไม่ต้องกังวล โดยพื้นครัวและพื้นห้องปูด้วยไวนิลที่มีความทนน้ำและรอยขีดข่วน แต่ถ้ามีน้ำหกแนะนำให้รีบทำความสะอาดค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวภายในห้องนี้จะมีขนาดที่ยาวขึ้นอยู่ที่ ประมาณ 2.60 เมตร รวมพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้างแล้วค่ะ ด้านล่างยังมีช่องวางไมโครเวฟช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารด้านบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ

มีชั้นเก็บของด้านบนมาให้ 4 ช่อง และช่องเก็บของด้านล่าง พร้อมลิ้นชักมาให้

เคาน์เตอร์จัดพื้นที่มาค่อนข้างลงตัว มีพื้นที่เตรียมอาหารตรงกลาง วัสดุ Top เป็นหินเทียมมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย ไม่มี Backsplash ติดตั้งมาให้นะคะ แนะนำให้ติดเพิ่มเติมเวลาทำอาหารจะได้ไม่เลอะผนังด้านหลังค่ะ ชุดครัวจะได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานจาก Teka มาให้ครบชุดเหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ

ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นพื้นที่หน้าห้องน้ำสามารถวางชั้นเก็บของหรือทำเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าอีกจุดหนึ่งก็ได้นะคะ

ด้านข้างมีชั้นวางรองเท้า Built-in มาให้ พร้อมกับช่องแขวนกุญแจ เก็บของที่หยิบใช้บ่อยๆเช่นกันค่ะ

ห้องน้ำจะเหมือนกับห้องน้ำของห้อง 1 Bedroom ปกติเลยค่ะ แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก-แห้งมาให้ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย ตัวพื้นลดระดับลงเล็กน้อยไม่ให้น้ำไหลออกมาเลอะด้านนอกได้

มีอ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัว สีขาว โถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ประกอบจาก Kohler

พื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.2 x 1.3 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ แนะนำให้ติดบานเปิด-ปิดฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมนะคะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ Common Area ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นวิวได้กว้าง และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้องเลยค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟายาวขนาด 2 – 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้เลยค่ะ หรือใครจะแบ่งเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารส่วนหนึ่งก็ได้ ห้องนี้มีระยะดู TV ประมาณ 2.70 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 32 นิ้วขึ้นไป

มีมุม Bay Window วาง Sofa Bed หรือทำเป็นมุมโต๊ะทำงานส่วนตัวก็ได้ค่ะ

ส่วนของห้องนอนจะแบ่งสัดส่วนชัดเจนโดยจะอยู่บนชั้นลอย แต่ราวกั้นจะไม่ได้เป็นกระจกแบบในห้องตัวอย่างนะคะเป็นราวกั้นระแนงเหมือนกับในภาพถัดไปค่ะ ถ้าใครที่ชอบเป็นระแนงกระจกมากกว่าแนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเติมนะคะ หรือจะกั้นเป็นผนังกระจกสูงแยกห้องไปเลยก็ได้ เวลานอนเปิดเครื่องปรับอากาศที่ชั้นบนก็จะไม่เปลืองไฟด้วยค่ะ

บันไดเป็นโครงสร้างเหล็กปิดผิวด้วยวัสดุไวนิลลายเดียวกับพื้นทั้งชั้น 1 และชั้นลอยเลยค่ะ ความกว้างบันไดอยู่ที่ประมาณ 80 เซนติเมตร เดินคนเดียวสบายๆ และมีพื้นที่สามารถเก็บของใต้บันไดได้ค่ะ

พื้นที่ด้านบนชั้นลอยมีขนาดประมาณ 2.70 x 3.90 เมตร พื้นปูด้วยวัสดุไวนิลเช่นเดียวกับพื้นชั้นล่างค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ มีตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in มาให้ค่ะ

เมื่อวางเตียงแล้วจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงเล็กน้อยสามารถเดินได้ แต่จะติดตั้ง TV ไม่ได้ค่ะ

สำหรับเตียงขนาด 5 ฟุตเมื่อวางแล้วจะเหลือพื้นที่ด้านข้างฝั่งละประมาณ 30 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ 2 ฝั่งได้ค่ะ

ห้องมาตรฐาน Loft จะได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัวที่ชั้นลอย 1 ตัวและบริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัวค่ะ ส่วนตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in จะได้เหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ แต่จะไม่ได้กระจกเงาโต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งนะคะ

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 2 บานมีกระจกเงาติดตั้งมาให้ พร้อมชั้นวางของด้านข้าง ด้านในมีลิ้นชักเก็บของชิ้นเล็กๆ หรือเครื่องประดับได้ค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งที่ได้เหมือนกับในห้องอื่นๆเลยค่ะ มีลิ้นชักมาให้ 2 ช่อง สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้นสามารถ Built-in เพิ่มเติมด้านข้างได้เล็กน้อยค่ะ

มาถึงห้องสุดท้ายกันแล้วนะคะ ห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 22.11 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 1.15 ล้านบาท ราคาหยิบจับได้ง่าย เป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการเลยค่ะ ภายในห้องเป็นห้องสไตล์ Studio แต่มีการแยกพื้นที่ Service อย่างห้องน้ำและห้องครัวออกมาด้านหน้า ทำให้พื้นที่ด้านในติดกับหน้าต่างเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมดเลยค่ะ  เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับส่วนครัวและห้องน้ำก่อนเหมือนกับห้อง Loft เลยค่ะ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นฟุ้งกระจาย ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นกับเตียงนอน แม้จะเป็นห้องเล็กแต่ก็ยังมีพื้นที่ Bay window สามารถทำเป็นมุมนั่งทำงาน หรือวางโต๊ะรับประทานอาหารเพิ่มได้ค่ะ

ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวไม่ได้ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะมากนัก แต่ภายในก็แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน แยกพื้นที่ครัวและห้องน้ำออกจากห้องนอนชัดเจน อยากได้ห้องที่ราคาหยิบจับง่าย เป็นต้น บรรยากาศจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

24 September 2020

• ชั้น 2 
• ห้อง 1 Bedroom 22.11 ตารางเมตร ราคา 1.15 ล้านบาท( หรือประมาณ 52,012 บาท/ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom + Walk-in Closet 26.94 ตารางเมตร ราคา 1.39 ล้านบาท( หรือประมาณ 51,596 บาท/ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom + Walk-in Closet 28.19 ตารางเมตร ราคา 1.46 ล้านบาท( หรือประมาณ 51,791 บาท/ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom Plus 33.53 ตารางเมตร ราคา 1.77 ล้านบาท( หรือประมาณ 52,788 – 61,369 บาท/ตารางเมตร)
• ชั้น 3 – 7 
• ห้อง 1 Bedroom 22.11 ตารางเมตร ราคา 1.27 ล้านบาท( หรือประมาณ 57,440 บาท/ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom + Walk-in Closet 26.94 ตารางเมตร ราคา 1.55 ล้านบาท( หรือประมาณ 57,535 บาท/ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom + Walk-in Closet 28.19 ตารางเมตร ราคา 1.62 ล้านบาท( หรือประมาณ 57,467 บาท/ตารางเมตร)
• ห้อง 1 Bedroom Plus 33.53 ตารางเมตร ราคา 1.99 ล้านบาท ( หรือประมาณ 59,349 บาท/ตารางเมตร)
• ชั้น 8 ห้อง Loft
• ห้อง 1 Bedroom LOFT 22.11 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.22 ล้านบาท (100,407 บาท/ตารางเมตร ) คิดแบบรวมชั้นลอย 22.11 + 10.62 ตารางเมตร (67,827 บาท/ตารางเมตร)
• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
• Kitchen & Sink / Top หินเทียบ
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
• มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS อุดมสุข
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 15,000 บาท
• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

โครงการ IKON อุดมสุข ตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 29 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนอุดมสุขและถนนสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ห่างจากปากซอยประมาณ 280-400 เมตร เป็นทำเลที่ความอุดมสมบูรณ์หลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้า และ Community Mall บริเวณถนนสุขุมวิท, ถนนบางนา – ตราด และถนนศรีนครินทร์ แต่จะต้องเดินทางออกมาสักหน่อยค่ะ สำหรับคนที่เดินได้สบายๆ ก็สามารถออกมาหาของกินบนถนนสุขุมวิท 101/1 ได้ง่าย มีทั้งตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออยู่ แต่ถ้าสำหรับคนที่อยากลงมาซื้อของได้เลยก็อาจจะรู้สึกว่าไกลสักหน่อยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถยนต์จากโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากที่ตั้งโครงการเป็นซอยลัดเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท 101/1 และถนนอุดมสุข ไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง รวมถึงมีตัวเลือกในการเดินทางด้วยทางด่วนเฉลิมมหานครด้วย สำหรับที่จอดรถของโครงการให้มาประมาณ 30-36 % ไม่มากนัก แต่ทางโครงการก็มีบริการรถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ก็ทำได้โดยการใช้รถไฟฟ้า ลงที่สถานีอุดมสุขอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.1 กิโลเมตร และนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อเข้าไปยังโครงการ จ่ายโดยสารประมาณ 20 บาท แต่อาจจะรอนานสักหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะสถานีอุดมสุขเป็นสถานีที่มีคนมาต่อรถพอสมควรเลยค่ะ รถรับ-ส่ง Maga Bangna ฟรี ก็มารับที่สถานีอุดมสุขเช่นกัน

วัสดุ :

วัสดุภายในโครงการให้มาตามมาตรฐานราคา โดยจะได้เป็น Fully Fitted พร้อมชุดครัว (ครัวปิดทุกยูนิต) เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน จาก Teka,  สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก Kohler และเฟอร์นิเจอร์ Built-in เช่น ตู้รองเท้า, ชั้นวาง TV, โต๊ะเครื่องแป้ง, ตู้เสื้อผ้า และได้เครื่องปรับอากาศ 1 ตัว (ห้อง Loft 2 ตัว) ค่ะ พื้นห้องปูด้วยไวนิลทนน้ำและรอยขีดข่วน แต่เสียดายเล็กน้อยถ้าปูกระเบื้องในส่วนครัวมาให้น่าจะทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นไม่ต้องกลัวคราบเลอะค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการแบ่งเป็น 2 อาคาร ช่วยลดความหนาแน่นของห้องพักอาศัยแต่ละอาคารลง ซึ่งอาคาร A จะมียูนิตที่น้อยกว่าทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนอาคาร B แม้จะมียูนิตเยอะก็มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะขึ้นตามไปด้วยค่ะ เวลามาใช้งานก็เดินมาได้ไม่ยาก พื้นที่ส่วนกลางต่างๆออกแบบมาได้น่าใช้งาน

ห้องพักอาศัยออกแบบมาเป็นพื้นที่ครัวปิดทั้งหมด สามารถทำอาหารรับประทานเองได้ไม่ต้องกลัวกลิ่นฟุ้งกระจาย แยกพื้นที่ส่วนพักผ่อนได้ช่องเปิดกว้าง ห้องขนาด 26-28 จะได้พื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วน ส่วนห้อง Loft มีพื้นที่เพิ่มขึ้นทำให้จัดพื้นที่ชั้นลอยเป็นห้องนอนส่วนตัวได้เลยค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางให้มีค่อนข้างหลากหลายทีเดียวกัน โดยทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 1 สามารถเดินไปใช้งานได้จากทั้ง 2 อาคาร มี Lobby Lounge , Co-Living Space, Swimming Pool, Fitness , Meeting Room , Mail Room และพื้นที่แปลกใหม่อย่าง Live & Studio ให้ลูกบ้านมาใช้งาน Live ขายของได้ นอกจากนั้นจะมีพื้นที่ service เพิ่มเติม คือ Laundry Room , Office Supply , Free Internet , Free Drinking Water มาให้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 85,000 บาท/ตร.ม., 24 September 2020

• ทำเล 7.5/10 – คอนโดอุดมสุข เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท 101/1 และถนนอุดมสุข
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางลัด เชื่อมต่อถนนใหญ่หลายสาย
• ไม่ใช้รถ 7.25/10 – มีรถรับ-ส่ง สถานีอุดมสุข
• วัสดุ 7.5/10 – ตามมาตรฐานราคา ได้ Fully Fitted
• แบบ 7.75/10 – ส่วนกลางออกแบบน่าใช้งาน ห้องพักอาศัยแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด
• สาธารณูปโภค 8/10 – มีมาให้หลากหลายเหมาะกับสไตล์คนในปัจจุบัน

• ECONOMY CLASS
• 7.57 / 10.00

BOTTOM LINE

IKON อุดมสุข เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่ ราคาหยิบจับง่ายมีงบประมาณอยู่ที่ 1 -3 ล้านบาทหรือผ่อนต่อเดือนประมาณ 7,000 – 21,000 บาท/เดือน มองหาห้องขนาดไม่ใหญ่ อยู่คนเดียวหรือ 2 คน ในทำเลอุดมสุข ใช้งานรถไฟฟ้าได้ มีรถรับ-ส่ง ไม่ไกลจากทางด่วน ชอบห้องฝ้าเพดานสูง ชอบทำอาหารรับประทานเอง มีพื้นที่ส่วนกลางให้เลือกใช้หลากหลายค่ะ

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving