CELES ASOKE จาก Lucky Living คอนโด High Rise ระดับ LUXURY ใจกลางเมืองย่านอโศก โดยตั้งอยู่ติดถนนอโศกมนตรี ใกล้แยกอโศกเพียง 200 เมตร ซึ่งบริเวณนี้มีรถไฟฟ้าสถานี Interchange ระหว่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท เดินทางได้หลากหลาย โดยตัวโครงการออกแบบด้วยสถาปนิกชั้นนำทั้งหมด สไตล์ Timeless Design เรียบง่าย หรูหรา พร้อมแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom-3 Bedrooms, Penthouse และ Duplex ในราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท
- ทำเล : คอนโดมิเนียมติดถนนอโศกมนตรี ใกล้แยกอโศก พร้อมรถไฟฟ้าสถานี Interchange ระหว่าง BTS-MRT ซึ่งเดินทางไปได้ทั้งในเมืองและชานเมือง
- จำนวนยูนิต : โครงการติดถนนอโศกมนตรี ที่มียูนิตน้อย เพียง 217 ยูนิต เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ลูกบ้านในโครงการไม่เยอะมากนัก
- ขนาดห้องพักอาศัย : มีขนาดตั้งแต่ 34.70 – 137.88 ตร.ม. 1 Bedroom-3 Bedrooms Penthouse และ Duplex เหมาะอยู่ 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ก็ได้
- Facilities : ส่วนกลางมีฟังก์ชันหลายแบบ ที่ยกไปไว้ชั้นบน 33 และ 34 ได้มองเห็นมุมสูงของโครงการ แม้เราจะไม่ได้ซื้อห้องพักอาศัยชั้นสูงๆ
- วิวรอบโครงการ : ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่ย่านอโศกที่มีตึกสูงเป็นจำนวนมาก แต่ตัวโครงการเองไม่มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิดมากนัก มีระยะห่างประมาณ 60-100 เมตร ที่ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดในการอยู่อาศัย
ข้อมูลโครงการ
CELES ASOKE Fact @ 26 March 2021
- CELES ASOKE (เซอเลส อโศก)
- LUCKY LIVING PROPERTIES CO.,LTD.
- LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนนอโศกมนตรี เขตวัฒนา
- ที่ดินประมาณ 1-1-20 ไร่
- คอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร 217 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 9 ยูนิต ที่ชั้น 9-29
- ที่จอดรถประมาณ 177 คันคิดเป็น 82%
– ระบบจอดรถ Automatic Parking ชั้น B1-B2 และชั้น 2-8 - 1 Bedroom 34.70 – 50.59 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 70.30 – 86.12 ตร.ม.
- 3 Bedrooms 106.68 – 124.15 ตร.ม.
- Capella Penthouse 131.90 – 138.92 ตร.ม. (3 Bedrooms)
- Celestial Penthouse 133.68 – 137.88 ตร.ม. (3 Bedrooms)
- Celestial Duplex 101.82 ตร.ม. (3 Bedrooms)
- Promotion : ราคาห้อง 1 Bedroom 34.70 ตร.ม.
– ขายแบบ Fully Furnished + พร๊อพในห้องตัวอย่าง
– ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท - เริ่มก่อสร้าง : ปี 2561 สร้างเสร็จ : ปี 2563
- ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร, ส่วนงานระบบแอร์ลดลงเหลือ 2.60 เมตร
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 275,000 บาท/ตร.ม.
- Website โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-259-4444
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.738429, 100.561796
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Celes Asoke คอนโดย่านอโศก ซึ่งเป็นทำเล 1 ในพื้นที่ CBD แห่งหนึ่งของกรุงเทพ โดยโครงการติดถนนอโศกมนตรี ใกล้แยกอโศกเพียง 200 เมตร ซึ่งบริเวณแยกนี้นั้น รถไฟฟ้าเป็นสถานี Interchange ระหว่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานีใหญ่ติดห้าง Terminal 21 ที่เดินทางได้ทั้งเข้าเมืองและชานเมืองได้ครบทุกทิศทาง และความสำคัญของย่านนี้เป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ทั้ง Office Building คอนโดมิเนียม สถานศึกษา โรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัด เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอีกทำเลที่มีความต้องการอาศัยในย่านนี้สูงทีเดียว
ย่านอโศก – ทำเลของโครงการนี้เรียกว่ามีไลฟ์สไตล์โดดเด่น และเต็มไปด้วยชาวต่างชาติโดยเฉพาะ Expat หรือคนต่างชาติที่มาทำงานในไทย มีร้านค้า ร้านอาหาร กิจการต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับคนกลุ่มนี้ รวมถึงการเดินทางที่สะดวกทั้งรถสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่ต้องเเปลกใจเลยว่าทำไมแถวนี้ถึงมีที่พักประเภท Apartment หรือ Service apartment ให้เช่าระยะยาวอยู่เยอะมาก
*หมายเหตุ : ความพิเศษของละแวกนี้คือ ‘มีเส้นทางพิเศษลัดเลาะ’ โดยดูจากแผนที่ซอยสุขุมวิท 23 สามารถเชื่อมไปมศว. พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย ที่ไม่ต้องขับผ่านถนนสุขุมวิทเลย เป็นการหลีกเลี่ยงรถติดไปในตัวได้ดี
โครงการที่ยังเปิดขายติดถนนอโศกมนตรี
สำหรับโครงการติดถนนอโศกมนตรีในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 โครงการ ซึ่งเป็นระดับ LUXURY ราคาเฉลี่ยประมาณ 200,000-300,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งราคาก็จะเริ่มตั้งแต่ 7-10 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากที่ดินติดถนนใหญ่หาได้ยาก และมีราคาแพง ทำให้โครงการใหม่ๆมีราคาค่อนข้างสูงตามไปด้วย แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ต้องการอาศัยอยู่ในย่านนี้ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เหมาะทั้งอยู่อาศัยเอง และลงทุนปล่อยเช่า
คนที่ซื้อคอนโดระดับ LUXURY CLASS ส่วนใหญ่มองความคุ้มค่าแตกต่างกันไปในการตัดสินใจซื้อ แถมตัวคอนโดมีความ Unique เฉพาะตัว โดยเราขอพูดถึงจุดเด่นโครงการ มีหลักๆอยู่ทั้งหมด 3 ปัจจัย
- จำนวน : ห้องพักอาศัยมีเพียง 217 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
- แบบห้อง : Layout ห้องพักอาศัยหลายแบบ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่
- ราคา : เริ่มต้น 8.9 ล้านบาท ที่ปัจจุบันมีโปรโมชันขายแบบ Fully Furnished + พร๊อพตกแต่ง เรียกว่าครบพร้อมอยู่เลย
คนที่สนใจคอนโดในย่านอโศกพร้อมอยู่ปี 2564 สามารถกดอ่านเพิ่มเติมได้ที่ > รวมคอนโดอโศกพร้อมอยู่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
ทิศตะวันตก : โครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Terminal 21 ที่มองออกไปเห็นสวนเบญจกิติ ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาสวนให้มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิม เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่
ทิศเหนือ : ห่างไปประมาณ 60 เมตร จะเห็นตัวโรงแรม Pullman Grand ความสูงประมาณ 30 ชั้น + Top นิดหน่อย
ทิศตะวันออก : ถ้าเฉียงไปทางเหนือจะติดกับ Tai Pan Hotel 17 ชั้น และถ้าเฉียงไปทางใต้จะติดกับคอนโด MUNIQ 36 ชั้น / แต่ถ้ามองไปตรงๆจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ที่มองออกไปเป็นวิวโล่งๆ เห็นพวกชุมชนบ้านพักอาศัยในซอยสุขุมวิท 23
ทิศใต้ : ห่างไปประมาณ 70 เมตร จะเห็นคอนโด Las Colinas 44 ชั้น
รายละเอียดโครงการ
ประเด็นที่น่าสนใจ
- จำนวนยูนิตน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน มีเพียง 217 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสุดๆ
- Main Facilities ถูกวางไว้ด้านบนของโครงการ วิวสวยงาม ซึ่งที่นี่ถือว่าให้ฟังก์ชันมาหลากหลาย และเยอะสำหรับ 217 ยูนิต แต่ก็แลกกับค่าส่วนกลางที่ค่อนข้างสูง
- ที่จอดรถ 82% ถือว่าเยอะ เมื่อเทียบกับโครงการที่ติดรถไฟฟ้า
Project Overview
Celes Asoke คอนโด High Rise สูง 40 ชั้น บนที่ดินขนาด 1-1-20 ไร่ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 217 ยูนิต แบบห้องให้เลือก 1 Bedroom, 2 Bedrooms, 3 Bedrooms ขนาดเริ่มต้น 34.7-124.15 ตร.ม. และมีห้องรูปแบบพิเศษอย่าง Penthouse และ Duplex หน้าตาอาคารออกแบบมาในลักษณะของ ‘Timeless Design’ ที่ตั้งใจออกมาให้ดูเรียบๆ ไม่หวือหวาเกินไป เป็นรูปแบบที่มองไปแล้วยังสวยหรู ดูดี แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปี โดยเลือกใช้เหล่าสถาปนิกชั้นนำของประเทศทั้งหมด ซึ่งทั้ง 3 เจ้ามีผลงานคอนโดหรูให้เห็นหลายโครงการ ได้แก่ Architect : A49 / Interior : DWP / Landscape : Shama
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น B1-B2 : Automatic Parking
- ชั้น 1 : Sanctuary Garden, Lobby Lounge (Ceiling 5 M.)
- Mezzanine : Management Concierge & Business Center
- ชั้น 2-8 : Automatic Parking
- ชั้น 33 : Lap Pool + 180 Panoramic View (สระว่ายน้ำ), Jacuzzi, Hydro Jet Seats, Pool Pavilion (ซุ้มนั่งเล่น) WET SPA (Male & Female) + Steam, Personalized Service Room (ห้องแต่งตัว)
- ชั้น 34 : Fitness, Co-working(พื้นที่นั่งทำงาน), Private Dinning & Meeting Room
- ชั้น 35 : The Celestial Terrace (ที่นั่งเล่นวิวฝั่ง Terminal 21)
- Rooftop : Sky Dining (ชั้นดาดฟ้า), 360 view Sky Lounge
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 109 : 1 (นับเฉพาะส่วนลิฟต์โดยสาร) ความหนาแน่นถือว่ากลางๆไม่น้อยไม่มากจนเกินไป
- ระบบ CCTV / Access Card / Proxy Lift / รปภ.24 ชม.
Master Plan
Ground Floor : ทางเดินรถภายในโครงการเป็นแบบวันเวย์ เข้ามาถึงเจอกับส่วน Drop Off ก่อน และอ้อมไปด้านหลังอาคารจะมีทางเข้าลิฟต์ Automatic Parking โดยมีทั้งหมด 2 ตัว ที่จอดรถ 177 คันคิดเป็น 82% ถือว่าค่อนข้างเยอะ สำหรับโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้ รอบๆอาคารวางพื้นที่สีเขียว + สวนหย่อมเล็กๆด้านหน้า บรรยากาศร่มรื่น / ภายในอาคารประกอบด้วย Lobby Lounge (สูง 5 เมตร) และบันไดเวียนทางขึ้นไป Mezzanine
Façade อาคาร มีแท่น Vertical Fin ที่ยื่นออกมาจากตัวอาคาร ตกแต่งเพื่อให้ตัวอาคารมีมิติมากขึ้น โดยวัสดุเป็น Stainless Steel เคลือบสวยงาม
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการติดถนนอโศกมนตรี ตกแต่งด้วยหินสีขาว + ป้ายชื่อโครงการ โดยตัวพื้นของโครงการทั้งหมดปูด้วย Concrete Stamp ให้ดูสวยงาม
ด้านหน้าโครงการมี Transition Area ที่เปลี่ยนผ่านจากความคึกคักภายนอกก่อนเข้าสู่พื้นที่พักอาศัย แต่ถ้าหากอยากจะพักผ่อนในสวน ก็มีมุมนั่งเล่น Outdoor บรรยากาศร่มรื่น
สำหรับ Highlight ของโครงการนี้ คือการเลือกใช้วัสดุ Premium ทั้งโครงการ เริ่มตั้งแต่พื้นที่ส่วนกลางจนถึงภายในห้องพักอาศัย ส่วน Lobby เลือกใช้หินอ่อนทั้งหมด พื้นเป็นหินอ่อน Sky Grey Marble ส่วนผนังเป็น Supergenti Grey Marble ค่ะ
ส่วน Highlight คือผนังที่เลือกใช้หิน ‘Honey Onyx’ นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งมีคุณสมบัติโปร่งแสงสะท้อนไฟ ทำให้บรรยากาศดูหรูหรามากขึ้น
บริเวณ Lobby Lounge มีหน้าต่างบานใหญ่สูง 5 เมตร ที่เอาไว้นั่งมองพื้นที่สวนหย่อมด้านหน้าโครงการ
ชั้นล่างมีที่นั่งหลากหลายประเภท ทั้งชุดโซฟาและโต๊ะนั่งทำงาน ที่เอาไว้ต้อนรับแขก โดยไม่ต้องพาขึ้นไปบนห้องนะคะ
สำหรับส่วนนี้เป็นลักษณะ Transition Area ก่อนเป็นส่วนพื้นที่ของลูกบ้าน(โถงลิฟต์) ที่ต้องเดินผ่านเคาน์เตอร์ Reception ของโครงการก่อนนะคะ
โถงลิฟต์ขนาดใหญ่ พร้อมการตกแต่งที่ดูหรูหรา สวยงาม ฝั่งขวามือมีบันไดเวียนขึ้นไปชั้น Mezzanine (ชั้นลอย)
Mezzanine : เป็นพื้นที่ของนิติบุคคล และพื้นที่ห้อง Business Center ที่เอาไว้รองรับการประชุมของลูกบ้านได้ ตอบโจทย์สถานการณ์แบบนี้ แต่การใช้ห้องประชุมนี้ต้องจองล่วงหน้านะคะ
Facility(คอนโด)
ชั้น 33 – Main Facilities ทั้งชั้น ที่ดีไซน์เป็น Sky Water Club ผืนน้ำขนาดใหญ่เต็มชั้น ที่ไม่ว่าจะเดินไปไหนจะได้ยินเสียงน้ำ ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งตัวสระว่ายน้ำมีหลากหลายฟังก์ชัน ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ Half Olympic 25 เมตร ที่ได้ 180 Panoramic View พื้นที่ Jacuzzi + พื้นที่นั่งเล่นหลายแบบ
อีกหนึ่ง Highlight ของที่นี่ คือบริการ Wet Spa ภายในห้องน้ำชายหญิง เป็นประสบการณ์ใหม่ เพื่อการนวดผ่อนคลายด้วย Experiential Shower & Water Jet Massage & Steam ให้เลือกใช้บริการตามความชอบ / ปิดท้ายด้วย Personalized Service Room เป็นห้องแต่งตัวส่วนกลางค่ะ
สระว่ายน้ำ Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด Half Olympic 25 เมตร ที่ติดไฟไว้ในสระว่ายน้ำเลย ยิ่งในตอนเย็นบรรยากาศน่าใช้งานทีเดียว
สำหรับห้องน้ำมีการแยกชาย-หญิงใช้งาน และบริเวณเคาน์เตอร์ล้างหน้ายังคงมีหิน ‘Honey Onyx’ ตามขึ้นมา ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกันดีทั้งโครงการ
พื้นที่นวดผ่อนคลาย Experiential Shower & Water Jet Massage & Steam เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ใช้ในการบำบัดและนวดผ่อนคลาย ซึ่งบริเวณนี้ติดกระจกเพื่อความโปร่งโล่ง เราสามารถเปิดม่านมองวิวย่านอโศกได้ด้วย
ปิดท้ายด้วย Personalized Service Room เป็นห้องแต่งตัวส่วนกลาง กรณีที่เวลาเราจ้างช่างแต่งหน้ามาใช้บริการ สามารถขึ้นมาใช้งานบริเวณนี้ได้โดยไม่ต้องไปวุ่นวายภายในห้องพักอาศัย
ชั้น 34 – เป็นพื้นที่ Fitness Club ขนาดใหญ่ มีบริการครบทุกรูปแบบการออกกำลังกาย ทั้ง Cardio & Spin, Weights, Boxing, Yoga Pod ที่แตกต่างไม่เหมือนใครก็คือ Virtual Fitness ห้องออกกำลังกายที่มีหน้าจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่มาให้ เพียงเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธก็สามารถโชว์ที่หน้าจอได้เลย สามารถเล่นผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ YouTube ก็ได้
นอกจากนี้ยังมี CELES Residential Club เป็นพื้นที่นั่งทำงาน + ประชุม ที่รายล้อมด้วยหน้าต่างทุกทิศทาง เราสามารถมองวิวฝั่งซอยสุขุมวิท 23 นี้จะไม่มีตึกสูงบังในระยะประชิดเลยนะคะ บรรยากาศโปร่งโล่ง
ภายในฟิตเนสมีโซน Cardio วางเครื่องเล่นมาให้เยอะดี ที่สามารถใช้งานไป Take View ภายนอกไปด้วย แถมมีหลังคายื่นออกไป ทำให้ไม่มีแดดแรงตลอดทั้งวัน
ถัดมาเป็นส่วน Weight Training มีเครื่องเล่นหลายแบบ เครื่องเล่น ยี่ห้อ Life Fitness ซึ่งใช้เหมือนฟิตเนสใหญ่ๆตามห้างเลยนะคะ
Virtual Fitness ห้องออกกำลังกายที่มีหน้าจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่มาให้ เพียงเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธก็สามารถโชว์ที่หน้าจอได้เลย สามารถเล่นผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ YouTube ก็ได้นะ ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้จริงๆ
CELES Residential Club นี่มีการเลือกใช้วัสดุพรีเมี่ยม ทั้งเฟอร์นิเจอร์อย่างดี ที่มีหลายชุดให้ใช้งานพร้อมๆกันได้ นอกจากนี้ยังมีผนังบางส่วนเป็นหินอ่อน ‘Honey Onyx’ แบบเดียวกับชั้นล่างเลย ^^ อิอิ
ปิดท้ายด้วยพื้นที่ Private Dinning & Meeting Room ที่สามารถมาจองใช้งานแบบส่วนตัวได้ เหมาะกับยุคที่คนหันมาทำงาน Start Up กันมากขึ้น
ชั้น 35 – ห้องพักอาศัย Penthouse 2 ยูนิต แต่มีพื้นที่ส่วนกลางเป็น Celestial Terrace ที่เป็นลักษณะสวนลอยฟ้า ปูด้วยสนามหญ้าพร้อม 180 Panoramic View หรือตอนกลางคืนจะมานอนดูดาวก็ได้ให้สมกับชื่อ Celestial โรแมนติกดี
พื้นที่ Celestial Terrace หันไปทาง Terminal 21 ค่ะ
วิเคราะห์ห้องพักอาศัย
ชั้น 9-29 : เป็น Typical Floor Plan มีพักอาศัย 2 แบบ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms โดยมีห้องพักอาศัยรายล้อมโถงลิฟต์ ทำให้ Corridor โถงทางเดินเป็นแบบปิด ไม่มีช่องแสงธรรมชาตินะ ต้องอาศัยใช้ไฟเปิดส่องสว่างแทนนะคะ
ตำแหน่งของห้อง 1 Bedroom (สีเหลือง) ส่วนของห้อง 2 Bedrooms (สีเทา) เอาไว้ตามมุมอาคาร เพื่อให้มุมมองเปิดกว้างมากขึ้น โดยมีห้องพักอาศัย 9 ยูนิต/ชั้น
ชั้น 30-32 : จำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือเพียง 5 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น โดยห้องหลักๆจะกลายเป็น 3 Bedrooms ขนาด 106-138 ตร.ม. แต่พิเศษคือมีห้อง 1 Bedrooms เหลือขึ้นมา 1 ตำแหน่งที่ดูเป็น Rare Item เลยนะคะ
ชั้น 36-38 : ยังคงเป็นห้องแบบ Penthouse เหมือนกันกับที่ชั้น 35
ชั้น 39-40 : เป็นส่วนห้องพักชั้นสุดท้ายที่เป็นรูปแบบ Duplex ไซส์ตั้งแต่ 90 – 101 ตร.ม. ซึ่งมีจำนวน 5 ยูนิตเท่านั้น
แบบห้อง
ประเด็นที่น่าสนใจ
- มีแบบห้องขนาดตั้งแต่ 34.70 – 137.88 ตร.ม. 1 Bedroom-3 Bedrooms Penthouse และ Duplex เหมาะอยู่ 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ก็ได้
- พื้นที่ครัวเปิดทั้งหมด เหมาะกับคนที่ไม่เน้นการประกอบอาหารจริงจัง ใช้เวฟอาหาร อบอาหารนิดๆหน่อยๆ และการเปิดพื้นที่โล่งแบบนี้ ทำให้บรรยากาศไม่อึดอัด
- พื้นถึงฝ้าเพดานสูง 3 เมตร + กระจก Full Height ที่รับแสงธรรมชาติ และรับวิวได้เต็มที่
วัสดุและของแถมภายในห้อง
- รูปแบบการขาย : Fully Fitted และ Fully Furnished
- วัสดุปูพื้นภายในห้องพักอาศัย
– ส่วนครัว : พอร์ชเลนแผ่นใหญ่ลายหินอ่อน
– ห้องพักอาศัย : Engineering Wood ปิดผิวด้วยไม้ OAK
– ระเบียง : พื้นกระเบื้องลายไม้ - ครัว : Built-in + เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ ไมโครเวฟ เตาอบ เตาไฟฟ้า ตู้เย็น
- ผนัง : ฉาบเรียบทาสีขาว
- ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์ของ Duravit , ฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand และ Rain Shower
- ฝ้าเพดาน : สูง 3 เมตร ฉาบเรียบ ติดไฟ Downlight
- เครื่องปรับอากาศ : ลักษณะ Conceal Type แบบฝั่งฝ้า
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 86.12 ตร.ม.
เริ่มจากห้อง 2 Bedrooms ขนาด 86.12 ตร.ม. ห้องจะเป็นแบบหน้ากว้าง โดยเปิดเข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนครัวเปิดก่อน พื้นที่ค่อนข้างกว้างและไปเชื่อมต่อกับส่วนของ Living + Dining ยาวจนถึงระเบียง ซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ใช้งานได้สบายๆ ถัดไปเป็นส่วนพักอาศัยที่แยกเป็นสัดส่วนดี ซึ่งเป็นห้องริมอาคารทั้งหมด ส่วนไฮไลท์เลยคือ Master Bedroom ได้เป็นกระจกเข้ามุม Bay Window นอนมองวิวมุมกว้างได้ พร้อมพื้นที่ Walk in Closet ด้านหน้าห้องน้ำ ในห้องน้ำแยกมุมการใช้งานเป็นสัดส่วนดี
ประตูทางเข้าด้านหน้าก่อน เป็นประตูบานไม้ขนาดใหญ่ พร้อมกรอบลายเส้น Copper ดูมีมิติมากขึ้น อุปกรณ์ที่ได้มาจะเป็น Digital Door Lock ของ YALE ที่ได้ทั้ง 3 ฟังก์ชันคือ กดรหัส, แตะบัตร, Bluetooth
สำหรับครัวของห้องนี้จะได้มาเป็นครัวเปิดค่ะ มีชุด Built-in วางเป็นรูปตัว L พร้อม Island ตรงกลาง ซึ่งเราจะได้หน้าตาแบบนี้เลยนะคะ / พื้นพอร์ชเลนแผ่นใหญ่ เป็นลายหินอ่อนสีขาวสวยงาม เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเช็ดถูเพิ่มเติม
เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตามนี้เลย ซึ่งเป็นดีไซน์การออกแบบของ PHILIPPE STARCK ดีไซน์เนอร์ชั้นนำของต่างประเทศ
พื้นที่ครัวเปิดเชื่อมต่อกับส่วน Living + Dining Area ที่ติดกับระเบียงด้านนอก ทำให้เปิดระบายอากาศ รับลม และแสงธรรมชาติได้เยอะดี / ทีนี้พอจะเปลี่ยนโซนเข้าสู่ Living ตัววัสดุปูพื้นก็เปลี่ยนไปเป็น Engineering Wood ค่ะ ดูตัดโทนกันอย่างชัดเจนเป็นการปรับอารมณ์ในการเปลี่ยนพื้นที่
Living + Dining Area
ตำแหน่งของห้องนอนเล็กอยู่ริมอาคารมีระเบียงใช้งานส่วนตัว แต่ด้วยความที่ติดพื้นที่ซ่อน Condensing Unit ทำให้มีบางส่วนเป็นกำแพงทึบ แต่ก็เหมาะสำหรับการพักผ่อนดีนะ
ปลายเตียงมีพื้นที่ไม่มาก ทีวีต้องเอาแขวนผนังไว้แบบนี้
จุดเด่นของห้อง Master Bedroom คือมีกระจกเข้ามุม (Bay Window) ที่ได้ช่องแสงเต็มบานกว้าง สูงแบบจรดเพดานแบบนี้ อีกทั้งที่มุมไม่เห็นเฟรมอลูมิเนียนจะทำให้เปิดรับวิวได้มากกว่าปกตินะคะ
มองย้อนกลับไปอีกฝังนึง สิ่งที่สะดุดตามากเลยคือ “SEXY BATH”
ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 70.30 ตร.ม.
ถัดไปเป็น 2 Bedrooms ขนาด 70.13 ตร.ม. ห้องนี้จะเปิดมาเจอส่วนพักอาศัยก่อน แล้วค่อยเดินไปพื้นที่ Common Area ด้านในห้องพักอาศัย ซึ่งพื้นที่ Living Area ได้เป็นกระจกเข้ามุม (ฺBay Window) แทนห้องนอนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีตู้ Built-in ให้เก็บของมากกว่าห้องที่แล้ว อันนี้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยนะคะ
พื้นที่ Common Area ได้กระจกเข้ามุมสูงแบบ Full Height ขนาดใหญ่ ที่เราสามารถ Take View ได้ทั้ง 2 ฝั่ง บรรยากาศเปิดโล่งดี รับแสงธรรมชาติได้ดี
Kitchen Area
ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 70.30 ตร.ม.
ห้องแบบเดียวกับอันที่แล้ว โดยตกแต่งมาในสไตล์ Classic มากขึ้น
ราคา
สำหรับเรื่องการเงินนั้น โครงการนี้เหมาะกับคนที่มีงบประมาณเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท ขึ้นไป โดยปกติขายแบบ Fully Fitted แต่สำหรับในช่วงเดือนเมษายนนี้ทางโครงการมีโปรโมชัน สำหรับห้อง 1 Bedroom 34.7 ตร.ม. ราคา 8.9 ล้านบาท ที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ + พร๊อพตกแต่งครบ ไม่ต้องเผื่องบประมาณเพิ่มเติม เหมาะแก่การลงทุนปล่อยเช่าดีนะคะ
ตัวอย่างราคาห้องพักอาศัยในโครงการ Celes Asoke ณ วันที่ 26 มีนาคม 2564
- 1 Bedroom 34.70 – 50.59 ตร.ม.
– ขายแบบ Fully Furnished + พร๊อพตกแต่งในห้องตัวอย่าง
– ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท - 2 Bedrooms 70.30 – 86.12 ตร.ม.
– ขายแบบ Fully Fitted
– ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายต่างๆ
- ค่ากองทุน 900 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 90 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
Celes Asoke เหมาะสำหรับคนที่ทำงานย่านอโศก หรือ อิงเซ็นเตอร์แยกอโศกบนสุขุมวิทก็ได้ เน้นการใช้รถไฟฟ้าทั้ง BTS-MRT เดินทางขึ้นทางด่วนเข้า-ออกเมืองได้ไม่ยาก มีเส้นทางลัดให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ด้วย ส่วนตัวโครงการมีความเรียบ หรู ขนาดไม่ใหญ่มาก ยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วน Main Facilities ให้ใช้งานเยอะ และน่าใช้งานดี ดูหรูหรา รูปแบบห้องมีให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่ขนาด 1-3 Bedrooms, Penthouses และ Duplex เหมาะตั้งแต่ 1-2 คน หรือเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมี ห้องที่ขายแบบ Fully Furnished + พร็อพตกแต่ง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่า