รีวิวฉบับที่ 351 … B-LOFT สุขุมวิท 115 คอนโดล้านต้นๆ 8 ชั้น ห่าง 400 เมตรจาก BTS ปู่เจ้าสมิงพราย ในซอยสุขุมวิท 115 (ซอยอภิชาติ) อีกหนึ่งโครงการจาก Origin Property ที่พึ่งจะเปิดต่อจาก B-LOFT สุขุมวิท 109 ที่เราเคยไปรีวิวกันมาให้ดูแล้วนะครับ ส่วนโครงการใหม่นี้ก็จะเป็นคอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้า BTS ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ที่เป็นส่วนต่อขยายมาจาก BTS แบริ่งนั่นเองครับ
Fact @ 16 May 2013
- B-Loft สุขุมวิท 115
- Origin Property
- SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 202 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต
- ที่จอดรถ 35% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-0-7 ไร่
- 1 Bedroom 25-48 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.00 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 39,900 บาท
- www.origin.co.th
- โทร 02-398-8670
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
**อ่านก่อน** ก่อนที่เราจะไปดูทำเลของ B-Loft สุขุมวิท 115 นะครับ ขอพูดถึงสำนักงานขายก่อน เพราะเค้าใช้ สำนักงานขายเดียวกันกับ B-Loft สุขุมวิท 109 นะครับ ซึ่ง สำนักงานขายตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง บริเวณ ซอยแบริ่ง 16 นะครับ สำหรับการไปสำนักงานขาย ขอให้เข้าไปอ่านใน รีวิวเจาะลึก B-Loft สุขุมวิท 109 ได้เลยนะครับ
ที่ตั้งของโครงการ B Loft สุขุมวิท 115 ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 115 หรือ “ซอยอภิชาติ” ครับ ซึ่งบริเวณใกล้กับปากซอย 115 นี้จะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งเป็นสถานีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นส่วนต่อขยายมาจาก BTS แบริ่ง สายสีเขียว
โครงการอยู่ห่างจากตัวสถานีประมาณ 400 เมตร ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระยะเดินเท้าของคนทั่วๆไปนะครับ ตำแหน่งของสถานีผมวางให้ดูคร่าวๆเฉยๆนะครับ ยังไม่ชัวร์ 100%
อย่างไรก็ดีนะครับ สำหรับคนที่คิดจะอยู่โครงการนี้แล้วหวังพึ่งรถไฟฟ้าเนี่ย ในช่วงปีแรกๆ เจ้าสถานี BTS ปู่เจ้าสมิงพรายก็คงยังไม่เสร็จ อย่างน้อยๆก็ต้องห่างไปปีสองปีล่ะ เพราะตามกำหนดการณ์เค้าก็บอกจะเปิดให้บริการช่วงปี 59 ในขณะที่โครงการ B-Loft นี่ประมาณไม่เกินต้นถึงกลางปี 58 ก็น่าจะพร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว ดังนั้นช่วงนี้เราก็คงต้องไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี BTS แบริ่งเป็นหลักก่อน ซึ่งก็อยู่ห่างออกไปประมาณ 3.8 กิโลเมตรเลย ซึ่งถ้าจะขึ้น BTS จริงๆก็คงต้องต่อรถต่อมอไซค์อะไรก็ว่ากันไป รอจนกว่าสถานีปู่เจ้าฯจะเสร็จนะครับ ไม่งั้นแนะนำว่าระยะแรกนี้มีรถขับดีกว่าครับ
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ของโครงการ B-Loft นี้ ก็ถือว่าไม่ได้แย่นัก แน่นอนว่าระยะทางไกลจากตัวเมืองแน่ แต่ว่ามีถนนเส้นใหญ่ๆให้ใช้ได้หลายเส้น ที่เด่นที่สุดก็คือ วงแหวนกาญจนาภิเษก ที่ใช้ข้ามไป พระราม 2 ได้ หรือจะข้าม สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ไป สุขสวัสดิ์, พระราม 3 ก็ได้ วงแหวนอีกฝั่งหนึ่งใช้ไป บางนา, สุวรรณภูมิ, ลาดกระบัง ถนนเทพารักษ์ ใช้ไป ศรีนครินทร์ และที่เบสิกที่สุดก็คือ ถนนสุขุมวิท วิ่งย้อนกลับตามแนวรถไฟฟ้า เข้าไปยังตัวเมืองได้ หรือจะไปใช้ ทางด่วนบางนา ก็ได้ด้วย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าตรงนี้จะไม่มีข้อเสียนะครับ เดี๋ยวอีกหน่อยมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าบริเวณหน้าโครงการ ช่วงที่รถไฟฟ้ายังไม่เสร็จเนี่ย รถจะติดมากแน่ๆ แม้ว่าจะอยู่นอกเมืองมาแล้วก็ตาม ซึ่งปัญหานี้ก็จะดีขึ้นหลังจากรถไฟฟ้าสร้างเสร็จครับ
ต่อไปจะพาไปดู ที่ตั้ง ของโครงการ B-Loft สุขุมวิท 115 กันนะ … ในเมื่อตอนนี้รถไฟฟ้าสถานีสุดท้ายของสายสีเขียวคือสถานี BTS แบริ่ง ผมก็ขอเริ่มจากที่นี่แล้วกันนะ จะได้นึกภาพตามกันง่ายหน่อย จาก BTS แบริ่งมุ่งหน้าไปทาง สมุทรปราการ บน ถนนสุขุมวิท
ผ่านแยกแบริ่ง สุดทางวิ่งรถไฟฟ้า BTS พอดี เพราะตอนนี้ (พ.ค. 56) ยังไม่ได้ทำเพิ่มนะจ๊ะ
ผ่าน ตลาดสำโรง
ห้างเก่าแก่ Imperial World สำโรง ถึงห้างนี้จะอยู่มานานแล้ว แต่เอาจริงๆที่นี่ก็มีค่อนข้างครบนะครับ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และร้านค้าต่างๆมากมาย คนพื้นที่เดินเยอะมาก ก็นับว่าเป็นที่พึ่งที่ดีเดียวสำหรับคนแถวนี้
มุ่งหน้าต่อไป ข้ามสะพานข้ามคลองสำโรง
แล้วเราก็จะมาถึง แยกเทพารักษ์ จุดเริ่มต้นของ ถนนเทพารักษ์ ก็อยู่ตรงนี้แหละ ใกล้ๆนี้ก็จะเป็น BTS สำโรง สถานีในอนาคต
ตรงข้ามแยกเทพารักษ์มา มุ่งหน้าต่อไปสมุทรปราการ
ซ้ายสุดผ่านตลอดเลยจ้า
พอถึง Big C Jumbo ตรงนี้ก็คือจะใกล้ถึงโครงการแล้วนะครับ ชิดซ้ายเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายไว้ได้เลย
หน้าซอยสุขุมวิท 115 จะมีป้ายบอกว่าซอยนี้เป็น ทางลัดไปถนนเทพารักษ์ ได้ (จะไปออก เทพารักษ์ ซอย 8 นะ) สังเกตที่แท็กซี่สีส้มข้างหน้าเลี้ยว
ถึงปากซอยแล้ว ตรงใกล้ๆปากซอยนี้แหละ จะเป็นที่ตั้งของสถานี BTS ปู่เจ้าสมิงพราย
ถ่ายให้ดูป้ายซอยชัดๆ ซอยนี้คนท้องถิ่นจะเรียกว่า ซอยอภิชาติ
เลี้ยวเข้าซอยมาแล้ว บรรกยากาศแถวๆปากซอยเป็นแบบนี้ครับ มีโรงงานสองด้านขนาบข้าง เลยดูทึบๆไปเลย
วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่หน้าปากซอยพอดี เรียกใช้บริการได้เลย เพราะ 400 เมตรจาก BTS สำหรับบางคนก็อาจจะบอกว่าไกลนะ ลองเดินดูเองก่อน แต่คิดว่าทั่วๆไปก็น่าจะเดินกันสบายๆแหละ
สภาพในซอย เข้ามาอีกหน่อย … ถ้าใครไปช่วงนี้ก็จะเห็นป้ายกองโจรของโครงการแปะเต็มซอยเลย … ถ้าไม่โดนเก็บไปซะก่อนนะ
ซอยที่เราจะต้องเลี้ยวเข้าไป คือ ซอยอภิชาติ 3 อยู่ทางขวามือนะจ๊ะ
เข้ามาในซอยอภิชาติ 3 แล้ว
ประมาณ 100 เมตรจะเจอกับ อู่ซ่อมรถ ร้านนี้ ดูใหญ่โต มีมาตรฐานดี
แปลงที่ดินข้างๆอู่ซ่อมรถมันว่างๆอยู่ พี่แกเลยเอารถมาจอดเต็มเบย
แปลงว่างๆนี้ไม่ใช่ที่ดินโครงการนะครับ
แปลงที่ติดป้ายนี้ต่างหาก ที่เป็นที่ดินของโครงการ ที่เป็นบ้านเนี่ยแหละ เดี๋ยวเค้าจะทุบออกนะ
ยังไม่มีการทำอะไร แปะป้ายอย่างเดียว
อ้ะ ให้ดูชัดๆ หลังนี้แหละ ที่จะทุบแล้วขึ้นเป็น B-Loft สุขุมวิท 115 ยาวมาจนถึงหลังข้างๆที่อยู่ติดกันด้วยนะ
ฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านคน รั้วยาวเชียว ที่ดินแปลงใหญ่
ถัดมาก็ไม่มีอะไรเป็นแปลงว่างๆ
สภาพหน้าโครงการโดยรวม
สุดซอยเป็นซอยตันครับ ไม่มีอะไร เป็นบ้านคนเป็นส่วนใหญ่
กลับออกมาที่ถนนใหญ่ อยากจะให้ดูนิดนึงว่าถ้าเราวิ่งถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าต่อไปทางสมุทรปราการ เราก็จะเจอกับ ถนนกาญจนาภิเษก หรือ ถนนวงแหวน นั่นเอง
มีจุดกลับรถตรงนี้ด้วย
ถนนวงแหวนนี้ ถ้าเราออกซ้าย เราก็จะย้อนกลับไป วงแหวนบางนา วงแหวนอ่อนนุช ต่อไปได้ ใช้เวลาไปสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนถ้าเราไปทางขวา เราก็จะมุ่งหน้าไปทาง ถนนพระราม 2 ได้ ซึ่งระหว่างทางก็จะผ่านทางแยกไป สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม หรือ สะพานภูมิพล 1-2 ได้อีกด้วย ก็จะไปลงแถวๆ ถนนพระราม 3 ซึ่งก็นับว่าเป็นทางลัดที่ดีทีเดียวในการจะวิ่งเข้าเมือง ไปสาทร, พระราม 4 ฯลฯ
ปิดท้ายเรื่องทำเลโครงการด้วย อนุสาวรีย์ช้างสามเศียร อันใหญ่โตนี้นะคร้าบ
เจาะลึกตัวโครงการ
ตัวโครงการ B-Loft นี้ เป็น คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 202 ยูนิต โดยยูนิตทั้งหมดเป็นแบบ 1 ห้องนอน ห้องส่วนใหญ่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 25-33 ตารางเมตรครับ (แต่มีห้องพิเศษขนาด 48 ตร.ม. ด้วยนะ)
ทั้งนี้เนื่องจาก ณ วันที่เราไปรีวิว (15 พ.ค. 56) ข้อมูลโครงการยังมีการเปิดเผยออกมาไม่มาก ยังไม่มีโมเดลให้ดู ยังไม่มีภาพ Perspective ให้ดู แต่หลายๆอย่างก็จะเหมือนกับตัว B-Loft สุขุมวิท 109 ที่รีวิวไปแล้ว ซึ่งโดยรวมก็ทำออกมาคล้ายกันมากๆ ยังไงก็ลองดูตัวเก่าเทียบๆกันไปนะครับ
ตัวที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยม เกือบๆจะเป็นสี่เหลี่ยมด้านขนาน ตามรูป ถ้าเทียบกับตัวเก่า หน้าตามันแทบจะเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย เดี๋ยวเริ่มจากอธิบาย Floor Plan ชั้น 2F ก่อน ชั้นนี้เป็นชั้น Facilities ของโครงการ ซึ่งก็ไม่ได้จัดอะไรมามากมาย ให้มาตามราคาของคอนโดในระดับ 40,000-50,000 บาทต่อตารางเมตร มีสระว่ายน้ำตรงกลาง เปิดเข้าจากทางโถงลิฟท์ และมีฟิตเนสอยู่ตรงข้ามกับลิฟท์พอดี ก็ถือว่ามีให้ใช้แหละนะ ชั้น 2 นี้จะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 28 ยูนิต เพราะใส่ฟิตเนสเข้ามาด้วย
ส่วน Floor Plan ชั้น G ขอข้ามไปเลยนะครับ เพราะเป็นที่จอดรถใต้อาคารธรรมดาไม่มีอะไร จอดได้ 35% รวมซ้อนคันแล้ว ตรงนี้ก็หวังว่าปีแรกๆ ช่วงที่รถไฟฟ้ายังไม่เสร็จ คนจะยังไม่ได้เข้ามาอยู่มากนะครับ เพราะไม่งั้นที่จอดรถไม่พอแน่ๆ
ภาพจำลองสระว่ายน้ำของโครงการ หน้าตาเหมือนกับตัวเก่าเด๊ะๆ มีตึกรูปตัว U โอบล้อมอยู่ … ดูอึดอัดพอสมควร เพราะสระว่ายน้ำเปิดโล่งแค่ด้านเดียวเอง ส่วนคนที่ใช้งานสระว่ายน้ำนี้ต้องมั่นใจในตัวเองพอสมควรเลยนะครับเนี่ย มีเพื่อนบ้านมองลงมาได้หลายห้องทีเดียว
ชั้นที่เหลือ 3F-8F ก็จะมี Floor Plan เหมือนกันหมดเลยนะครับ โถงทางเดินเป็นรูปตัว U แบบนี้ มีลิฟท์อยู่ทางปลายสุดด้านหนึ่ง ลูกบ้านห้อง 310 นี่เดินอ้อมโลกกันเลยทีเดียว (แต่ก็จะได้เป็นห้องมุมนะ) จำนวนยูนิตของชั้น 3F-8F นี้จะมีอยู่ 30 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งถ้าเป็นคอนโด Class อื่นๆ ก็อาจจะถือว่าหนาแน่นครับ แต่พอมองราคาแล้ว ก็ทำเป็นไม่รู้ไปก็ได้ 30 ยูนิตนี่เรื่องปกติสำหรับ Super Economy ถึง Economy Class แบบโครงการนี้
ลิฟท์โครงการมี 2 ตัว ไม่มีลิฟท์บริการแยกต่างหาก อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 101:1 ครับ
สุดท้ายก็จะเป็นสวนหย่อมบนดาดฟ้าครับที่โครงการเตรียมไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับลูกบ้าน ก็ขึ้นมาเดินเล่นได้ เนื้อโครงการหลักๆก็ประมาณนี้ครับ ไปดูห้องกันดีกว่า
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำที่ ชั้น 2
- ห้องออกกำลังกาย ชั้น 2
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 101:1
- ที่จอดรถ 35% หรือประมาณ 70 คัน รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
ห้องแบบที่เราจะพาไปรีวิวกันคือ ห้อง Type A ขนาด 25.85 – 29.69 ตารางเมตรครับ โดยห้อง Type นี้จะเป็น Type ที่เพิ่มมาจากตัว B-Loft สุขุมวิท 109 ตัวเก่าครับ เป็นห้องหน้ากว้าง 4.95 เมตร มีครัวแยกส่วนติดกับระเบียง
ตัวห้องตัวอย่างนี้ขนาด 25 ตารางเมตรครับ เข้ามาในห้องตัวอย่าง แน่นอนว่าก็จะเจอกับ Living Area ก่อน ทางด้านหน้าห้อง
ซ้ายมือวางทีวีตรงนี้ ระวังเปิดประตูห้องแล้วไปชนกับจอทีวีนะครับ พื้นห้องเป็น ลามิเนต หนา 8 มม.
ถ่ายให้ดูพื้นที่โซฟานั่งดูทีวีให้เห็นชัดๆอีกรูป อยู่ติดกับส่วนครัวเลย ซึ่งมีประตูกระจกบานสไลด์กั้น กระจกสีเขียวตัดแสง
สังเกตความสูงของห้องจากรูปด้านบนนี้ ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตรตามมาตรฐานทั่วไปครับ
วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้แบบนี้ ไม่เหลือพื้นที่วางโต๊ะข้างๆแล้ว
ระยะดูทีวีประมาณ 2.5-2.6 เมตร ไม่กว้างมาก วางทีวีใหญ่เต็มที่ประมาณ 42 นิ้วไม่เกิน เพราะติดประตูห้องน้ำด้วย แอร์ห้องนั่งเล่นแขวนด้านบนทีวีแบบนี้
เข้าไปดูห้องครัวกันบ้าง ครัวเป็นครัวปิด มีบานกระจกกั้นแบบนี้ สามารถระบายกลิ่นอาหารออกไปทางระเบียง โดยกั้นไม่ให้เข้าส่วนห้องนั่งเล่นได้
มีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวประมาณนี้
พื้นครัว ไม่ได้ ปูพื้นลามิเนตแบบนี้นะครับ ของจริงจะเป็น กระเบื้องเซรามิคขนาด 60×60 ซม.
มาดูชุดครัวกันบ้าง ห้องมาตรฐาน ชุดครัวไม่ได้แถมให้นะครับ ที่เค้าจัดเอาไว้ก็จะวางตู้เย็นไปเกือบครึ่งแล้ว ส่วนชุดครัว ไม่มีเตา ไม่มีที่ดูดควันเนื่องจากพื้นที่ไม่ค่อยอำนวยแล้ว วางอ่างล้างจานก็เหลือพื้นที่ตากภาชนะอยู่อีกหน่อยนึง มีพื้นที่วางเตาไมโครเวฟด้านบน และที่เก็บของด้านบนอีกหน่อย
พื้นที่วางตู้เย็นประมาณนี้ ต้องเผื่อระยะให้ผ้าม่านด้วยนะ วางชิดผนังไม่ได้ ได้ตู้เย็นใหญ่สุดแค่นี้แหละ
ออกไปดูระเบียงกันบ้าง
ธรณีก่อที่ประตูออกไประเบียง กันน้ำ กันฝุ่น จากภายนอกห้องได้ดี แต่ระวังสะดุดนะ
ระเบียงกว้างประมาณ 70-80 ซม. ปูกระเบื้องเซรามิค 12″x12″ หน้าตาแบบนี้
Compressor แอร์ แขวนด้านบน ถ้าสังเกตจากรูปก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า มันไม่ลงมาบังระยะสายตา เวลามองจากห้องครัวออกไปที่ระเบียง และทำให้ระเบียงไม่ร้อนด้วย ถือเป็นข้อดี
เข้าไปดูห้องน้ำกันบ้าง ฟังก์ชั่นมาตรฐาน 3 อย่าง ตามสูตร
อ่างล้างมือ Cotto แบบหล่อสำเร็จรูป
หัวก็อกอ่างล้างมือ
ติดกระจกเงาให้ด้านนี้ ผนังห้องน้ำของจริงปูกระเบื้องขนาด 12″x12″ นะครับ ไม่ใช่แบบนี้
โถสุขภัณฑ์ COTTO
พื้นที่ตรงนี้ทำเป็นชั้นวางของ ปู Top ด้วยหินแกรนิต
Shower Box ของจริง ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำ นะครับ แต่ก็แนะนำให้ติดด้วยจะได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งกันชัดเจนไปเลย
พื้นห้องน้ำ ของจริงจะเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 30cm ครับ ที่เห็นอยู่เป็นขนาด 40 x 40cm
ชุดฝักบัว
หัวฝักบัว
หัวก็อก และที่วางสบู่ (ที่ต้องไปหามาติดเพิ่ม เพราะไม่พอแน่ๆ)
สุดท้ายเป็นห้องนอนครับ
มีพื้นที่ปลายเตียงวางชั้นได้นิดหน่อย แต่ไม่ค่อยแนะนำให้วางเท่าไหร่ เพราะห้องจะดูแคบไปเลย และคิดว่าน่าจะเดินเตะด้วย มันเจ็บนะ
เตียงวางเตียง 5 ฟุตไว้ แต่ต้องเอาเตียงชิดผนังเลย ไม่เหลือพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียง
ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง วางด้านโน้น
โต๊ะเครื่องแป้งอันนี้ติดเป็นชั้นเล็กๆเอาไว้ให้ดู
พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าแคบมาก
หน้าต่างข้างเตียง บานขนาดนี้ เป็นบาน Slide 2 บาน และบานกระทุ้งด้านขวาอีกหนึ่งบาน
บานกระทุ้งแบบนี้
จบแล้วครับสำหรับห้อง Type A อยากจะให้ระลึกไว้อย่างหนึ่งว่า ห้องตัวอย่างที่เห็น เป็นขนาด 25 ตารางเมตร ซึ่งของจริง มีตั้งแต่ 25-29 ตารางเมตร ดังนั้น พื้นที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้อีก แนะนำว่าถ้าใครจองห้องไหน อาจจะต้องเอาแปลนมานั่งดูกันจริงๆจังๆหน่อย แล้วก็อาศัยระยะในห้องตัวอย่างอ้างอิงเอา
ต่อไปเป็นห้อง Type L ขนาด 26.04 – 33.09 ตารางเมตร เป็นแบบที่มีจำนวนเยอะที่สุด ห้องนี้จะเหมือนกับโครงการ B-LOFT สุขุมวิท 109 นะครับ ขออนุญาตเอาบทวิเคราะห์ของเดิมมาแปะให้อ่านกันตรงนี้นะครับ
ห้องนี้หน้ากว้าง 4.30 เมตร เป็นห้องแนวลึกๆ แปลนห้องนี้ต้องการจะให้มีพื้นที่ครัวปิดที่จะใช้ทำอาหารหนักได้ โดยเอาครัวไปอยู่ติดกับระเบียง แล้วให้มีบาน Slide กั้นครัวกับห้องนั่งเล่นออกจากกัน ให้สามารถทำครัวแล้วระบายกลิ่นออกทางระเบียงได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเสียพื้นที่ของห้องนั่งเล่นกับห้องนอน จึงเอาห้องน้ำไปอยู่ติดกับครัวด้วย ซึ่งก็จะทำให้เวลาจะเข้าห้องน้ำก็จะต้องเดินผ่านห้องครัวก่อน ซึ่งบางคนที่ไม่ได้คิดจะทำครัวอะไรมากมายก็อาจะมองว่าไม่สะดวกก็ได้
เดินเข้าห้องมาเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนอย่างแรก บอกก่อนว่าเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้เค้าแต่งให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆนะครับ ของจริงขายเป็นห้องเปล่า
ให้ดูอีกมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น วางโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง แล้วมีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่งเข้ามุมได้อีก แต่ถึงเวลาคงจะจัดโซฟายาวแล้วก็กินข้าวมันบนโซฟานั่นแหละ ฮ่าๆ
ติดกับทางเข้า เป็นชั้นวางทีวี ระยะดูทีวีความจริงใส่ทีวี 42 นิ้วได้สบายๆอยู่แล้วอันนี้ใส่ 32″ ไว้ให้ดู ส่วนโต๊ะกลางขนาดกว้างกว่านี้ได้อีกไม่มากแต่ยาวกว่านี้ได้ เพราะไม่งั้นอาจจะเดินแล้วเตะถูก เวลาเดินเข้าห้อง
นั่งบนโซฟาแล้วมองไปทางประตูห้องนอนกับห้องครัว เราไปดูทางขวาก่อนดีกว่า
ส่วนครัวเป็นแบบแนวยาวแบบนี้ กว้าง 1.30 เมตร วางชุดครัว ตู้เย็น และตู้เก็บของอเนกประสงค์ไว้เรียงกัน เหลือทางเดินครึ่งนึง
พื้นห้องนอนห้องนั่งเล่น เป็นลามิเนต 8 มม. ส่วนพื้นครัวเป็นกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60×60ซม. ประตูตรงนี้จริงๆจะมีบานสไลด์(แบบแขวนรางด้านบน) กั้นระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นด้วยนะ
ชุดครัว วางอ่างล้างมือ ไม่มีเตา ชุดนี้ให้เฉพาะห้องที่อยู่ชั้น 5 ขึ้นไปนะครับ
วางเตาไมโครเวฟด้านบน มีชั้นวางของแบบนี้ แต่ความจริงถ้าซื้อชุดครัวเอง หาแบบที่มีช่องวางข้างล่างได้ก็จะดีกว่านะ เดี๋ยวได้กินราดหน้าบ่อย
ส่วนครัวอยู่ติดกับระเบียง มีประตูกระจกเปิดออกไประเบียงได้ 2 ด้านซ้ายขวา กระจกเป็นสีเขียวตัดแสง กรอบกระจกอลูมิเนียมพ่นสีดำ
ขนาดระเบียงกว้าง 1.20 เมตรครับ แต่ไม่ยาวเท่าไหร่ วางเครื่องซักผ้าทางด้านขวาก็คงจะหมดพื้นที่แล้ว คงจะตากผ้าอะไรได้ไม่มากนัก
Compressor Air เป่าเข้าระเบียง ระเบียงร้อน ช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว 😀 เพราะยังไงก็คงไม่ได้ออกไปนั่งข้างนอกอยู่ละ พื้นที่ไม่ได้
ส่วนห้องน้ำอยู่อีกทางด้านหนึ่งของครัว
ห้องน้ำแบบ 3 ฟังก์ชั่น ตรงๆ ไม่มีอะไรมาก อ้างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ กับ Shower Box ให้ตามนี้ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะ พื้นเป็นกระเบื้องขนาด 30×30ซม. ส่วนผนังใช้เป็นกระเบื้องขนาด 8×12 นิ้ว
อ้างล้างมือ ติดกระจกให้แบบนี้
สุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Cotto แต่พื้นที่ติดอ่างอยู่ชิดประตูเลย ซึ่งก็อาจจะทำให้อึดอัดนิดหน่อย มีชั้นวางของด้านหลังเป็น Top หินแกรนิต
โถสุขภัณฑ์อันนี้ก็เล็กไปหน่อย นั่งได้ไม่ค่อยเต็มก้นเท่าไหร่นัก พื้นที่ก็ยังเหลืออีกหน่อยนะความจริง
สายฉีดชำระ
ห้องอาบน้ำ ติดฝักบัว Hand Shower และที่วางสบู่ไว้ให้
ฝักบัวแบบปรับระดับความแรงได้
หัวก็อก กับ ที่วางสบู่ ความจริงแค่นี้ก็คงไม่พอ เดี๋ยวนี้คนเราอาบน้ำมีอุปกรณ์หลายขวดมาก
เข้ามาที่ห้องนอน ห้องนอนที่นี่วางเตียงไว้ขนาด 5 ฟุต
มีพื้นที่วางโต๊ะปลายเตียงกว้าง 30-40 ซม.ถ้าจะวางทีวีก็แนะนำให้แขวนผนังดีกว่านะ
พื้นที่วางตู้เสื้อผ้า
แอร์มีให้ 2 ตัวครับ ห้องนอน+ห้องนั่งเล่น แต่มีให้เฉพาะห้องตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป
พื้นที่วางตู้ข้างเตียง อยู่ตรงตำแหน่งเสาพอดี
ห้องนี้มีหน้าต่างแบบเปิดออกสองด้านแบบนี้
และสำหรับอีก 2 Type ที่เหลือ คือ ห้อง Type B ขนาด 32 ตารางเมตร กับ Type Plus ขนาด 48 ตารางเมตร ก็จะมีแค่ชั้นละ 1 ห้องนะครับ จึงไม่มีห้องตัวอย่างให้ดู
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15/05/2013
- 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 201 Type A เนื้อที่ 27.50 ตารางเมตร ราคา 1.097 ล้านบาท หรือ 39,900 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 3 ห้อง 301 Type A เนื้อที่ 27.50 ตารางเมตร ราคา 1.152 ล้านบาท หรือ 41,900 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 8 ห้อง 801 Type A เนื้อที่ 27.50 ตารางเมตร ราคา 1.413 ล้านบาท หรือ 51,400 บาทต่อตารางเมตร
- Standard Room
- เพดานสูง 2.40 เมตร
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 45,000 บาท
- ค่ากองทุน 380 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 38 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
สภาพแวดล้อมของโครงการในซอยค่อนข้างเงียบๆ ยิ่งในซอยอภิชาติ 3 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการนี้เงียบเอามากๆ เป็นซอยตันด้วย ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน มีที่ดินแปลงร้างๆอยู่หลายแปลง ดูแล้วเปลี่ยวพอสมควร ถ้าให้ดีหลังจากที่โครงการปรับปรุงที่ดิน และเริ่มก่อสร้างแล้ว น่าจะเข้าไปสำรวจด้วยตัวเองอีกครั้ง เพื่อดูให้แน่ใจว่าเรารับได้กับสภาพแวดล้อมในซอย
อาหารการกินแถวๆนั้น หาไม่ยาก มี Big C Jumbo อยู่ก่อนถึงซอย 115 นิดเดียว ซึ่งค่อนข้างมั่นใจได้ว่าไม่อดตายแน่ๆ แต่สู้ทำเลใกล้เคียงอย่างสำโรงไม่ได้ ในซอย 115 นั้นสามารถทะลุไปถนนเทพารักษ์ได้ ซึ่งก็จะเป็นถนนเส้นใหญ่ เป็นชุมชนใหญ่อีกจุดหนึ่ง ใหญ่กว่าแบริ่งอีก ตรงแถวๆสำโรงนั้นก็มีตลาดใหญ่ มีห้าง Imperial คิดว่าเรื่องกินนี่น่าจะอยู่ได้สบายๆ ถ้าอยากจะได้ความ Civilized หน่อยก็สามารถขับรถไป เซนทรัลบางนา, เมก้าบางนาได้ ก็จะห่างออกไปซัก 8-15 กม. และมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า ในอนาคตหลังจากที่รถไฟฟ้าเสร็จแล้ว ทำเลตรงนี้จะพัฒนาไปได้อีกมาก
การออกแบบโครงการ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของราคาระดับ 40,000-50,000 บาทต่อตารางเมตร มีความหนาแน่น 30 ห้องต่อชั้น, อัตราส่วนลิฟท์ 101:1 ก็ถือว่าปกติ การออกแบบห้องทำได้พอใช้ ห้องส่วนใหญ่มีขนาด 26-27 ตารางเมตร แต่มีหน้าแคบ ทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของต่างๆในห้อง อาจจะดูใช้งานจริงลำบากหน่อย แต่ก็ยังพยายามจัดให้ได้ฟังก์ชั่นมาตรฐานครบ เช่น ได้ครัวแยกส่วน หรือได้ระเบียงที่ขนาดพอใช้ได้สำหรับห้องขนาดนี้
วัสดุอุปกรณ์ภายในห้อง ไม่ได้จัดแบบ Fully Furnished แต่ด้วยราคานี้ก็ถือว่าปกติ สุขภัณฑ์ให้ของ COTTO, พื้นห้องเป็นลามิเนต, พื้นครัวเป็นกระเบื้อง 60x60cm
สาธารณูปโภคของโครงการ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนดาดฟ้า ไม่มีอะไรมาก ตรงๆตัว ตามราคา พอใช้ได้ แต่สระว่ายน้ำอึดอัดไปหน่อย และไม่ค่อยมี Privacy
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 40,000 บาทต่อตารางเมตร, 28/05/2013
- ทำเล 8.5/10 – ทำเลในซอย 400 เมตรจาก BTS ปู่เจ้าสมิงพราย
- (ทำเล 7.5/10 – กรณีที่รถไฟฟ้ายังไม่เปิดให้บริการ)
- เดินทางด้วยรถ 7/10 – เดินทางเข้าเมืองรถติด + ไกล, แต่มีทางเลี่ยงอ้อมตัวเมืองได้หลายทาง
- ไม่ใช้รถ 9/10 – 400 เมตรจากรถไฟฟ้า ในราคาล้านต้น
- (ไม่ใช้รถ 7/10 – กรณีที่รถไฟฟ้ายังไม่เปิดให้บริการ)
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐาน เทียบกับราคา
- แบบ 7.5/10 – ห้องขนาดเล็ก ได้ฟังก์ชั่นมาตรฐาน ครัวแยก
- สาธารณูปโภค 7/10 – สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนดาดฟ้า
- MAIN CLASS
- กรณีรถไฟฟ้าเปิดแล้ว 7.95 / 10.00
- กรณีรถไฟฟ้ายังไม่เปิด 7.3 / 10.00
BOTTOM LINE
B LOFT สุขุมวิท 115 เหมาะกับคนพื้นที่ย่านสมุทรปราการ หรือคนที่ทำงานโซนนี้ ที่อยากได้บ้านในราคาระดับ 1 – 1.5 ล้านบาท ที่สามารถใช้รถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในการเดินทางเป็นหลักได้
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ