รีวิวโครงการ
Atmoz Portrait Srisaman (แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน) คอนโดพร้อมอยู่ติดถนนใหญ่ ตรงข้ามโรบินสันศรีสมาน จัดเต็มส่วนกลางและสวนขนาดใหญ่ จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2610]
26 กันยายน 2023
…วันนี้เราจะพามารีวิวโครงการ Atmoz Portrait ศรีสมาน คอนโดใหม่จาก AssetWise ในทำเลติดถนนใหญ่ตรงข้ามโรบินสันศรีสมาน กับคอนเซ็ปต์โครงการ LAKE COMO จากประเทศอิตาลี ที่ออกแบบบรรยากาศมาได้มีเอกลักษณ์ และไม่เหมือนใครในย่าน พร้อมกับส่วนกลางที่จัดเต็มกว่า 30 ฟังก์ชันให้ได้ใช้งานกันแบบจุใจ โดยจุดเด่นหรือ Highlights ที่น่าสนใจของโครงการจะมีดังนี้ครับ
- การออกแบบโครงการ ที่มาในคอนเซ็ปต์ LAKE COMO โดยได้จำลองบรรยากาศมาจากเมืองเล็กๆ ที่อยู่ริมทะเลสาบในประเทศอิตาลี ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ส่วนกลาง และได้วิวภายในโครงการที่สวยงามครับ
- มีส่วนกลางกว่า 30 ฟังก์ชัน ซึ่งถือว่าให้มาเยอะที่สุดในย่าน และยังมี Fitness ที่เปิดให้ใช้งาน 24 ชม. อีกด้วย
- เน้นห้องสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คน มีฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดทุกยูนิต โดยจะมี 4 แบบให้เลือก ขายแบบ Fully Furnished พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
- ทำเลติดถนนใหญ่ตรงข้ามโรบินสันศรีสมาน ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ และสถานที่สำคัญต่างๆของย่านนี้ รวมถึงยังอยู่ใกล้กับทางด่วนอุดรรัถยา ทำให้เข้า-ออกเมืองได้ง่ายอีกด้วย
ข้อมูลโครงการ
Atmoz Portrait Srisaman (แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน) ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2565
ชื่อโครงการ | Atmoz Portrait Srisaman (แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถ.ศรีสมาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี |
ที่ดิน | 5-0-39.5 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 680 ยูนิต (แบ่งเป็น ห้องพักอาศัย 678 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต) |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 36 ยูนิต ที่อาคาร B |
ที่จอดรถ | 212 คัน หรือคิดเป็น 31% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน |
เริ่มก่อสร้าง | Q3 ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | Q4 ปี 2566 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.4 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.39 ล้านบาท (Promotion) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 67,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | อยู่ระหว่างการประเมิน |
เว็บไซต์โครงการ | https://atmozcondo.com/condominium/atmoz-portrait-srisaman/ |
Call Center | 02-168-0000 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ติดถนนใหญ่ศรีสมาน และอยู่ฝั่งตรงข้ามโรบินสัน
- ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ มีทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการ และโรงเรียนขนาดใหญ่
- ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
พิกัด Google Maps : 13.939000, 100.551068
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ Atmoz Portrait ศรีสมาน ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ศรีสมาน บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรบินสันที่หลายๆคนรู้จักกันดี ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่โซนนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนสรงประภาเป็นหลัก เพราะด้วยความที่มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะมาก ก็เลยมีตลาดน้อย-ใหญ่อยู่ตลอด 2 ข้างทางเต็มไปหมด และมีความคึกคักสูงมาก แต่ถ้าเป็นโซนของฝั่งศรีสมาน ก็จะมีโรบินสันที่เป็นห้างสรรพสินค้าหลักของย่านตั้งอยู่ครับ อีกทั้งยังมีสถานที่ราชการอย่างสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โรงเรียนหอวังนนทบุรี รวมถึงยังสามารถเดินทางไปใช้ชีวิตทางติวานนท์ และอิมแพ็คเมืองทองธานี ได้สะดวกอีกด้วยครับ แต่ที่สำคัญคือ จะอยู่ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา ที่สามารถขับรถเข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากเลยทีเดียว
แต่หากพูดถึงที่อยู่อาศัยในย่านนี้ หลายๆคนคงจะนึกถึงโครงการแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวกันใช่มั้ยครับ ซึ่งปัจจุบันทำเลโซนนี้ก็เริ่มที่จะมีคอนโดมิเนียมเข้ามาเปิดตัวกันเยอะขึ้นแล้ว เนื่องจากที่ดินค่อนข้างหาได้ยากมากขึ้น และแน่นอนว่ายังสามารถทำราคาที่จับต้องได้ง่ายมากกว่าอีกด้วย เพราะถ้าหากจะซื้อทาวน์โฮมในย่านนี้สักหลัง อย่างน้อยๆก็ต้องมีงบประมาณ 2 ล้านปลายๆถึง 3 ล้านขึ้นไป แต่สำหรับคอนโดจะราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้าน จึงเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยไม่เยอะนั่นเองครับ
และสำหรับทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ “อุดรรัถยา” จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 km. โดยการไปกลับรถตรงบริเวณแยกสวนสมเด็จฯมาก่อน ซึ่งก็จะต้องขับรถผ่านทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และโรงเรียนหอวังนนทบุรี ที่ตอนเช้า-เย็นอาจมีการจราจรที่หนาแน่นอยู่สักหน่อย แต่หากเป็นตอนขากลับเมื่อเราลงจากทางด่วนมาแล้ว ก็จะสามารถขับรถมายังโครงการได้สะดวกมากๆ เพราะอยู่ห่างจากจุดลงทางด่วนประมาณ 1 km. เท่านั้น
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเรียกรถสาธารณะได้ง่าย และเนื่องจากที่ดินโครงการจะอยู่ตรงบริเวณทางโค้งพอดี จึงมีการเปิดทางเข้า-ออกจากถนนภาระจำยอมที่อยู่ด้านข้างแทน ซึ่งจะใช้งานร่วมกับบริษัท CSS ที่อยู่ด้านในครับ (เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์) ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการเข้า-ออก และเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคารนั่นเอง ส่วนบริบทโดยรอบจะสามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ ถนนใหญ่ศรีสมาน ฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถของห้างโรบินสัน
- ทิศใต้ : ติดกับ บริษัท CSS ที่เป็นอาคารสูง 4 – 5 ชั้น
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง (ปัจจุบันเป็นสำนักงานขาย)
- ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนภาระจำยอม และหอพักสูง 2 – 5 ชั้น
เรามาเดินดูทำเลรอบๆโครงการกันสักหน่อยครับ โดยด้านหน้าจะเป็นถนนศรีสมาน และฝั่งตรงข้ามก็เป็นโรบินสัน ซึ่งบริเวณนี้จะไม่ได้มีสะพานลอยให้ใช้ข้ามไปได้ และผมก็ไม่แนะนำให้เดินข้ามถนนเองด้วยนะครับ เนื่องจากรถแถวนี้ค่อนข้างใช้ความเร็วพอสมควร และถนนก็ยังเป็นทางโค้งอีกด้วย
ดังนั้นการเดินทางมายังโรบินสัน จึงแนะนำให้ขับรถไปกลับรถตรงแยกสวนสมเด็จฯมาตามปกติ ซึ่งห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก็มีขนาดใหญ่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมาก ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ธนาคาร และโรงภาพยนต์
ส่วนด้านซ้ายจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังแยกสวนสมเด็จฯ ตรงจุดตัดกับถนนติวานนท์ รวมถึงยังมีสถานที่ราชการขนาดใหญ่อย่าง สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และโรงเรียนหอวังนนทบุรี ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรอีกด้วยครับ
และนี่ก็คือบริเวณปากซอยของถนนภาระจำยอม ที่เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ และใช้งานร่วมกับบริษัท CSS ที่อยู่ด้านในครับ
กลับมาที่สำนักงานขายปัจจุบัน ซึ่งได้มีการออกแบบตัวอาคารให้ตรงกับ Concept ของโครงการคือ LAKE COMO ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองเล็กๆ ที่อยู่ริมทะเลสาบในประเทศอิตาลี โดยจะมีการใช้ผนังทรง Arch โค้งที่เป็นเอกลักษณ์ และสีสันที่สดใสดีทีเดียว
ภายในมีโมเดลขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับมีห้องตัวอย่างให้ชมกันถึง 4 Type เลยทีเดียวครับ รวมถึงยังมีการจำลองฟังก์ชัน Bike Simulator ที่จะใส่อยู่ในโครงการของจริงมาให้ชมกันอีกด้วย ซึ่งหากใครอยากจะลองเล่นหรือสัมผัสดู ก็เชิญที่สำนักงานขายกันได้เลยครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- โรบินสัน ศรีสมาน ~ 160 m. (ระยะเดิน)
- Rest Go! Tiwanon ~ 1.5 km.
- ตลาดดวงแก้ว ~ 2.9 km.
- Ozone One ~ 2.96 km.
- Happy Avenue ~ 3.68 km.
- Cosmo Bazaar ~ 4.96 km.
- Central แจ้งวัฒนะ ~ 8 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกรุงไทย ~ 5.8 km.
โรงเรียน
- รร.หอวัง นนทบุรี ~ 516 m.
- รร.พระหฤทัย นนทบุรี ~ 2.29 km.
- รร.เซ็นฟรัง ซิสเซเวียร์ ~ 4.6 km.
- มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 7 km.
- รร.นานาชาติ Harrow ~ 9.8 km.
สถานที่ราชการและอื่นๆ
- สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ~ 350 m.
- สวนสมเด็จพระศรีนครินท์ ~ 3.2 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- คอนเซ็ปค์โครงการ LAKE COMO จากประเทศอิตาลี มีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นไม่เหมือนใครในย่าน
- ฟังก์ชันส่วนกลางให้มาเยอะสุดในย่านกว่า 30 ฟังก์ชัน รวมถึงยังมีการเล่นระดับของฟังก์ชัน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้น
- มีตำแหน่งห้องที่น่าสนใจหลายจุด ทั้งห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องที่ได้วิวส่วนกลางดีๆสวยๆ และห้องหายากที่เป็น Rare Item มีเพียงยูนิตเดียวในชั้นให้เลือกอีกด้วย
โครงการ Atmoz Portrait ศรีสมาน เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 680 ยูนิต ที่มีคอนเซ็ปต์ในการออกแบบคือ LAKE COMO ในประเทศอิตาลี และได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองที่อยู่ริมทะเลสาบ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นประตู/หน้าต่าง/ผนังที่เป็นทรง Arch โค้งสวยงาม และยังมีการใช้สีสันของอาคารที่โดดเด่นอีกด้วย ซึ่งการตกแต่งสไตล์นี้มักจะมีการใช้ในโครงการระดับ Luxury ขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ครับ
ผังโครงการชั้น 1 ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถในร่มใต้อาคารทั้งหมด 212 คัน หรือคิดเป็น 31% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน โดยอาคารพักอาศัยทั้ง 3 จะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ซึ่งจะเน้นเป็นพื้นที่สีเขียวและสระน้ำครับ ทำให้มีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งมีกิจกรรมกลางแจ้งกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งสวนให้ใช้งานกันอีกด้วย
แต่ที่ชอบมากๆก็คือ ยูนิตร้านค้าที่มีมาให้ถึง 2 Shop ซึ่งอนาคตก็จะมีร้านค้าต่างๆมาลง (แต่จะเป็นร้านอะไรนั้น คงต้องรอดูในอนาคตกันอีกทีนะครับ) โดยจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนในโครงการได้ดีเลยทีเดียว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาออกไปซื้อของด้านนอกนั่นเอง
ภาพโมเดลบริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะไม่ได้มีทางเข้าจากถนนใหญ่โดยตรงนะครับ และเมื่อมองจากด้านนอกเข้าไปก็จะยังไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนอื่นๆได้เลย จึงทำให้ภายในโครงการมีความเป็นส่วนตัวมากๆ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งรั้วด้านหน้าเป็นทรง Arch โค้ง เพื่อช่วยเสริมสร้างบรรยากาศตามคอนเซ็ปต์ LAKE COMO จากอิตาลีของโครงการได้ดีอีกด้วย
ภาพบรรยากาศบริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวสไตล์อังกฤษ ที่จะเน้นเป็นต้นไม้และดอกไม้เพื่อความสวยงามเป็นหลัก ตัดกับสีของอาคารที่เป็นโทนร้อนสีสันสดใส และกำแพงทรง Arch โค้งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น
รวมถึงยังมีฟังก์ชันกระจายอยู่ตามจุดต่างๆในสวน ให้เราได้ใช้งานกันได้ด้วยนะครับ อย่างโต๊ะทางด้านซ้ายในภาพก็จะเป็น Meeting Area & Workshop ให้เราได้มานั่งพูดคุย/ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ได้นั่นเอง
ผังโครงการชั้น 2 จะมีทั้งห้องพักอาศัยและ Facilities อยู่ภายในชั้นเดียวกัน ซึ่งแต่ละอาคารก็จะมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป โดยยังคงใช้แนวคิด LIVE / ACTIVE / PLAY / WORK ที่เรามักจะคุ้นเคยในโครงการต่างๆของ Atmoz กันเป็นอย่างดี โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 420 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่สวนและทางเดิน) ซึ่งหากใครชอบใช้ฟังก์ชันไหนเป็นประจำ ก็อาจเลือกอยู่ห้องพักที่อาคารนั้นๆ เพื่อความสะดวกในการใช้งานก็ได้ครับ
โดยการขึ้นมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นนี้ จะสามารถขึ้นมาได้ทั้งจากลิฟต์โดยสาร หรือจะเดินขึ้นมาจากบันไดที่สวนด้านนอกโดยตรงเลยก็ได้ ซึ่งก็จะมีการกั้นประตูแยกโซนออกจากส่วนพักอาศัยของแต่ละอาคารชัดเจน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้นครับ
มาดูภาพจากโมเดลประกอบเพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นครับ โดยบริเวณชั้นที่ 1 ด้านหน้าสุดจะมีการทำ Reflecting Pool ที่เป็นเหมือนกับ Water Feature ควบคู่กับ Pavilion และสวน ทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับให้กับคนที่เข้ามายังโครงการ หรือถ้าใครอยากจะขึ้นไปใช้งาน Facilities บนชั้น 2 ของอาคาร A ก็สามารถเดินขึ้นบันไดไปได้เลยครับ
Building A : LIVE & WORK
อาคารแรกจะเน้นเป็นฟังก์ชันสำหรับรับรองแขก และสามารถมานั่งเล่นพักผ่อน หรือทำงานและนัดประชุมร่วมกับเพื่อนๆได้ครับ เหมาะมากสำหรับคนที่อาจมีแขกมาหาบ่อยๆ หรือชอบที่จะมานั่งทำงานในห้องแอร์เย็นๆ ของพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้บ่อยๆนั่นเอง
ถัดเข้ามาด้านในเราจะเห็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่นั่งทำงานต่างๆ ที่จะกระจายตัวอยู่รอบๆสวนแห่งนี้อีกหลายจุดเลยครับ รวมถึงบริเวณใต้อาคารตรงกลางก็ยังมีร้านค้า ที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยได้ดีอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินหรือขับรถออกไปด้านนอกให้เสียเวลา แต่จะเป็นร้านอะไรมาเปิดก็คงต้องรอดูในอนาคตกันอีกทีนะครับ
และบริเวณขวามือของสวนจะเรียกว่า Como Walkway ซึ่งเป็นทางแยกที่จะขึ้นไปยังอาคาร B และอาคาร C ได้นั่นเองครับ รวมถึงยังเป็นเส้นทางหลักไว้เดินมาซื้อของที่ร้านค้าได้อีกด้วย
Building C : ACTIVE
เป็นอาคารที่มีฟังก์ชันให้ใช้งานเยอะที่สุด ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสายออกกำลังกาย ซึ่งคนรักสุขภาพจะต้องชอบมากๆครับ โดยฟังก์ชันที่อยู่กลางแจ้งหลักๆจะเป็นสระว่ายน้ำขนาด 6.5 x 24.5 m. ที่มาพร้อมกับสระเด็กและอ่าง Jacuzzi รวมถึงยังมีสวนเล็กๆให้นั่งพักผ่อน และชมวิวมุมสูงจากบนชั้น 2 นี้ได้ด้วยครับ ซึ่งก็จะสามารถมองไปยัง Pavilion และสระน้ำที่อยู่ด้านหน้าได้เลย
ส่วนด้านในอาคารก็จะเป็น GYM ที่เปิดให้ใช้งานได้ 24 ชม. ซึ่งหากใครที่อาจเลิกงานดึกๆหรือไม่อยากมาใช้ตอนคนเยอะๆก็จะสะดวกมาก เพราะเราสามารถมาออกกำลังกายตอนไหนเวลาอะไรก็ได้ครับ นอกจากนี้ยังมี Bike Simulator / Yoga Studio / Health Station และ Co-Kitchen & Cooking Studio ให้ได้ใช้งานอีกด้วย
Building B : PLAY
เป็นอาคารที่เน้นการทำกิจกรรมสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็น Social Lounge & Library และ Theater Room สำหรับไว้ดูหนังหรือทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ และหากใครที่มีลูกน้อยก็เหมาะกับอาคารนี้มากๆครับ เพราะจะมี Kid’s Club ขนาดใหญ่ ที่ภายในมีเครื่องเล่นต่างๆ ให้น้องๆได้เล่นเสริมทักษะกันได้นั่นเอง
ส่วนบรรยากาศของฟังก์ชันต่างๆจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้กันได้เลยครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสวน Greenery Terrace ที่อยู่ริมสระว่ายน้ำชั้น 2 ของอาคาร C ที่สามารถมานั่งพักผ่อนกันได้ แถมยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศรอบๆสระ ให้มีความสดชื่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ผังโครงการชั้น 3 จะเป็นชั้นพักอาศัยเกือบเต็ม Floor ซึ่งจะมีบางส่วนที่เป็นฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ของส่วนกลางชั้น 2 ก่อนหน้านี้ ที่กินพื้นที่ขึ้นมาถึงบนชั้นนี้ด้วยนั่นเองครับ (โดยเฉพาะอาคาร A และ C) เลยทำให้จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นอื่นๆนิดหน่อย แต่หากใครที่ไม่ชอบความวุ่นวายผมจะแนะนำเป็นอาคาร C ที่มียูนิตพักอาศัยรวมน้อยที่สุด และมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 103 : 1 รองลงมาจะเป็นอาคาร A อยู่ที่ 117 : 1 และอาคาร B อยู่ที่ 123 : 1 ตามลำดับ
ส่วนถ้าใครที่ชอบวิวสวยๆ ก็มักจะเลือกเป็นห้องที่มองเห็นส่วนกลางที่อยู่ด้านใน ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวที่จัดเอาไว้อย่างสวยงาม แต่แน่นอนว่าย่อมมี “ราคา” ที่สมน้ำสมเนื้อพอสมควร (จากการสอบถามเบื้องต้น ห้องที่หันเข้าด้านในจะมีราคาสูงกว่า ห้องที่หันออกด้านนอกประมาณ 1 แสนกว่าๆ) นอกจากนี้ตำแหน่งของโถงลิฟต์ก็มักจะอยู่ด้านฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ของอาคาร จึงทำให้ห้องพักที่อยู่อีกด้านมีระยะทางเดินค่อนข้างไกล จากโถงลิฟต์พอสมควรเลยทีเดียวครับ
ผังโครงการชั้น 4 – 8 เป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็ม Floor ซึ่งหากสังเกตดีๆจะเห็นว่า ห้องพักที่หันหน้าเข้ามารับวิวด้านใน ส่วนใหญ่จะเป็นห้องไซส์ใหญ่อย่าง 1 Bedroom Exclusive และ 1 Bedroom Plus เป็นหลัก ส่วนห้องพักที่หันหน้าออกไปรับวิวด้านนอกโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กสุดที่มีราคาจับต้องได้ง่ายกว่าครับ โดยตำแหน่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจจะมีดังนี้
- กรอบสีแดง : เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กสุดเพียงหนึ่งเดียวที่หันหน้าเข้ามารับวิวด้านในโครงการ อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่ดีมากๆอีกด้วยครับ เพราะสามารถมองเห็นส่วนกลางได้เกือบทั้งหมดเลย
- กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูงที่สุด เพราะนอกจากผนังด้านข้างจะไม่อยู่ติดกับใครแล้ว ยังอยู่บริเวณปลายโถงทางเดินที่ไม่มีคนผ่านหน้าห้องเลยอีกด้วย
- กรอบสีม่วง : เป็นตำแหน่งห้องที่มีความเป็นส่วนตัวรองลงมา โดยจะมีผนังห้องติดกับเพื่อนบ้านเพียงฝั่งเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังอยู่ตรงปลายโถงทางเดินที่ไม่มีคนเดินผ่านอีกเช่นเคยครับ
- กรอบสีเขียว : เป็นตำแหน่งห้อง 1 Bedroom Plus เพียงหนึ่งเดียวที่หันหน้าออกไปรับวิวด้านนอกโครงการ อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวจากผนังห้อง ที่ติดกับเพื่อนบ้านเพียงฝั่งเดียวอีกด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Outdoor
- Reflecting Pool
- Como Pavilion
- Selfspace Area
- Como Garden
- Garden Yard
- Meeting Area and Workshop
- Co-Living Space
- Como Walkway
- Relex Space
- Greenery Terrace
- Swimming Pool ขนาด 6.5 x 24.5 m.
- Como Terrace
- Pool Deck
- Kid’s Pool ขนาด 2.85 x 3.5 m.
- Jacuzzi
- Outdoor Terrace
- Tea Time Terrace
Building A
- Lobby
- Co-Living Area
- Co-Working Space
- Semi Private Pod
- Pod Cast
- Photo Studio
- Meeting Room
Building B
- Theater Room
- Game Room
- Social Lounge & Library
- Kid’s Club
Building C
- Co-Kitchen & Cooking Studio
- Como GYM (24 Hrs.)
- Bike Simulator
- Yoga Studio
- Health Station
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 114 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 117 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 123 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 103 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 212 คัน หรือคิดเป็น 31% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / ระบบ RFID
แบบห้อง
Highlights :
- มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ เหมาะกับคนที่มี Lifestyle ที่แตกต่างกัน
- ฟังก์ชันเน้นการอยู่อาศัย 1 – 2 คน และได้ครัวปิดทุกแบบ สามารถทำอาหารจริงจังได้
- ให้วัสดุมาดีเมื่อเทียบกับราคา ขายแบบ Fully Furnished พร้อมระบบ Bluetooth Sound System สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
โครงการนี้มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ซึ่งจะมีการแบ่งฟังก์ชันอย่างเป็นสัดส่วน และเหมาะกับคนที่มี Lifestyle ที่แตกต่างกันออกไปครับ ประกอบด้วย
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.7 – 23.9 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.8 – 27.2 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.7 – 32.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31.2 – 34 ตร.ม.
รูปแบบการขายจะเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย อีกทั้งยังเพิ่มระบบ Bluetooth Sound System เข้ามาในห้อง ให้เราได้ฟังเพลงกันเพลินๆได้อีกด้วยนะ
1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.8 – 27.2 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้คือ “ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ” จึงได้ความเป็นส่วนตัวที่สูงมากๆ อีกทั้งยังมีขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนที่ใหญ่ จึงสามารถจัดแบ่งฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนตาม Lifestyle ของเราได้สบายๆเลยครับ ส่วนห้องน้ำจะต้องมาใช้งานที่ด้านนอกนะ ซึ่งเหมาะกับคนที่อาจมีเพื่อนมาเที่ยวหาบ่อยๆด้วย เพราะเวลามีคนขอเข้าห้องน้ำก็จะไม่เสียความเป็นส่วนตัวเลยครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ “ห้องครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง” ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองมากๆครับ เพราะเราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้โดยตรง ทำอาหารที่มีกลิ่นหรือควันแบบจริงจังได้สบายๆ โดยข้อจำกัดอย่างหนึ่งของแบบห้องนี้ก็คือ ห้องนั่งเล่นที่อาจได้แสงจากทางห้องครัวจุดเดียว เลยทำให้ความโปร่งโล่งลดลงไปบ้าง ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน โดยเน้นการใช้งานห้องนอนที่กว้างขวาง และห้องครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจังครับ
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area โดยถ้าเป็นของจริงประตูห้องนอนจะเป็นไม้บานทึบ เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะจะมองไม่เห็นจากหน้าห้องแบบนี้ รวมถึงเราจะได้แสงสว่างที่ส่องมาจากประตูกระจกบานเลื่อนของห้องครัวแค่จุดเดียวครับ
ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.4 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องยางไวนิล ที่สามารถทนความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง จึงสามารถเช็ดทำความสะอาด และดูแลรักษาได้ง่ายกว่าพื้นไม้ลามิเนตครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก : Living Idea : พื้นไม้ลามิเนต กับ พื้นกระเบื้องยางไวนิล อะไรดีกว่ากัน?
สำหรับระยะดูทีวีจะกว้างประมาณ 2.2 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้เลย ซึ่งของจริงเราจะได้โซฟา 2 ที่นั่ง และชั้นวางทีวีด้วยนะครับ เพียงแต่ของจริงอาจไม่ได้มีหน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างนี้นะ และนอกจากนี้ที่ประตูก็จะติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ด้วย
ส่วนตรงผนังข้างๆโซฟา จะมี Bluetooth Sound System ติดตั้งมาให้ครับ โดยจะมีการดีไซน์ให้ตัวกล่องมีขนาดกระทัดรัดมากขึ้น และเสียงเพลงก็จะดังออกจากลำโพงที่ฝังอยู่บนฝ้าเพดาน ซึ่งจะมีอยู่ 2 จุดด้วยกันคือ Common Area และห้องนอน
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตู้เก็บรองเท้า ซึ่งช่วยให้เราสามารถจัดเก็บเข้าตู้ได้อย่างเป็นระเบียบ โดยไม่ต้องวางเกะกะอยู่หน้าประตูห้อง อีกทั้งชั้นบนๆก็สามารถใช้เก็บของต่างๆเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ติดกันจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำครับ ซึ่งจะอยู่บริเวณกลางห้องพอดี เลยทำให้แต่ละฟังก์ชันสามารถมาใช้งานได้ง่าย และถ้าใครมีแขกมาหาก็สามารถเดินเข้าได้เลย โดยห้องนอนด้านในก็จะไม่เสียความเป็นส่วนตัว แลกกับเวลาเราจะเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ก็อาจต้องเดินออกมาใช้งานนอกห้องอยู่สักหน่อยนะครับ
ภายในห้องน้ำแยกฟังก์ชันส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันชัดเจน โดยเราจะได้สุขภัณฑ์ของ Cotto ครบเป็นมาตรฐานแบบนี้เลย ประกอบด้วยอ่างล้างหน้าที่ Built-in ตู้เก็บของด้านล่างเพิ่มมาให้ พร้อมกับโถสุขภัณฑ์ และพัดลมดูดอากาศที่ติดอยู่บนฝ้าเพดาน
ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกั้นด้วยฉากกั้นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดออกได้กว้างมากขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเปียกภายนอกได้ครับ ส่วนพื้นที่ภายในจะกว้างประมาณ 80 x 80 cm. สามารถยืนใช้งานได้แบบพอดีๆ
ฟังก์ชันที่ให้มาจะเป็น Hand Shower ที่สามารถปรับระดับความสูงให้พอดีกับการใช้งานได้ และของจริงก็จะมี Junction Box ให้สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมได้ด้วย
ส่วนด้านข้างจะมีการเจาะช่องวางของขนาดใหญ่ที่ผนังมาให้ ซึ่งเราอาจทำชั้นวางเพิ่มเติมเองได้นะครับ
กลับออกมาที่ Common Area ซึ่งติดกับโซฟาจะเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง และจะอยู่ใกล้กับห้องครัวเลยครับ ทำให้สามารถยกอาหารมาเสิร์ฟได้สะดวกมากๆ หรือจะใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้วางของข้างโซฟาก็ได้
ประตูห้องครัวจะเป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำและเป็นกระจกใสปกติ ทำให้สามารถเปิดออกได้กว้างและเดินผ่านได้สะดวก รวมถึงยังช่วยให้แสงสว่างจากระเบียง สามารถส่องผ่านเข้ามาด้านในห้องได้อีกด้วย ส่วนพื้นที่ด้านในจะกว้างประมาณ 70 cm. สามารถยืนใช้งานได้พอดีๆ ซึ่งวัสดุปูพื้นยังคงเป็นกระเบื้องยางไวนิลอยู่นะครับ
เคาน์เตอร์ครัวด้านขวามือเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย สามารถเก็บของได้เพียงพอต่อการใช้งาน 1 – 2 คนได้สบายๆ / Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ที่สามารถทนความชื้นและความร้อนได้ดี / มี Backsplash เป็นกระเบื้องที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย มาพร้อมกับ Hop&Hood จาก Teka แบบระบบดูดหมุนเวียนภายใน เลยอาจต้องล้างทำความสะอาดไส้กรองเป็นประจำอยู่สักหน่อยนะครับ
สิ่งที่ชอบก็คือ จะมีลิ้นชักที่สามารถเลื่อนออกมา เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานในการประกอบอาหารได้แบบนี้ด้วยครับ
ติดกันจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 70 cm. ซึ่งตอนเลือกซื้อก็อย่าลืมคำนึงถึงบานประตู ให้เปิดในทิศทางที่ใช้งานได้ง่าย และเหมาะกับห้องของเราด้วยนะครับ
ประตูระเบียงจะเป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ซึ่งเราสามารถเปิดออกเพื่อระบายกลิ่น/ควัน จากการประกอบอาหารแบบจริงจังได้สบายๆเลยครับ โดยพื้นที่ภายนอกจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถออกไปยืนสูดอากาศ หรือตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้
ส่วน Condensing Unit จะแขวนอยู่ด้านบน พร้อมกับเป่าลมร้อนออกมาด้านข้าง ถ้าตากผ้าตรงนี้ก็รับรองว่าแห้งไวแน่นอน หรือใครจะติดกริลแอร์เพื่อดันลมร้อนออกไปด้านนอกเพิ่มก็ได้ จะได้สามารถออกมาใช้งานระเบียงได้โดยไม่รู้สึกร้อนครับ
สุดท้ายคือ “ห้องนอน” ที่นอกจากจะมีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะกั้นด้วยผนังทึบแบบนี้แล้ว ภายในก็ยังมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถใช้งานและแบ่งฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดีมากๆ
สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ “ช่องหน้าต่าง” ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้บรรยากาศภายในห้องมีความสว่างโปร่งโล่งดี แต่จะสังเกตได้ว่ามีลวดลายเป็นช่องเล็กๆค่อนข้างถี่หน่อย ซึ่งเป็นเพราะต้องการให้ Facade ภายนอกเป็นไปตามคอนเซ็ปต์โครงการนั่นเอง อีกทั้งยังมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน ที่ช่วยให้เกิดลมพัดผ่านและระบายอากาศได้ดีขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รอบเตียงให้ใช้งาน หรือเดินผ่านได้แบบพอดีๆ โดยระยะแคบสุดจะเป็นบริเวณปลายเตียงที่กว้างประมาณ 40 cm. และเราก็สามารถติดทีวีแขวนผนัง เพื่อนอนดูหนังบนเตียงสบายๆได้อีกด้วยนะ
ส่วนอีกด้านของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัว ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ทางโครงการจะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ ซึ่งจะมีขนาดเพียงพอต่อการใช้งาน 1 – 2 คนได้แบบพอดีๆ
1 Bedroom Plus ขนาด 31.2 – 34 ตร.ม. ความน่าสนใจของห้องนี้ก็คือ “พื้นที่อเนกประสงค์” โดยจะมีการออกแบบเป็นผนังกระจกถึง 3 ด้าน จึงมีความสว่างโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อกับพื้นที่โดยรอบทั้ง 3 ฟังก์ชันได้ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานอยู่บ้านช่วง WFH หรืออาจเป็นห้องสตูดิโอสำหรับไลฟ์สดขายของออนไลน์ และเป็นห้องแต่งตัวจริงจังสำหรับสาวๆก็ได้ แต่อาจไม่เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนมากนัก เนื่องจากมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างเล็ก และผนังกระจกก็ทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลงไปเยอะพอสมควร
ที่ชอบอีกอย่างคือ เค้าสามารถออกแบบฟังก์ชันใช้งานอย่างครัวและห้องน้ำ ให้แยกออกจากพื้นที่พักผ่อนส่วนอื่นๆได้เป็นสัดส่วนดี ทำให้การใช้งานไม่รบกวนกัน และเรายังได้ครัวปิดไว้สำหรับทำอาหารทานเองได้อยู่ด้วย รวมถึงห้องนอนก็จะมีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว และห้องน้ำจะเข้าจากทางห้องครัว ซึ่งเราก็สามารถเลื่อนปิดประตูเพื่อกันความชื้น หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่ให้เข้ามารบกวนในพื้นที่พักผ่อนได้อีกด้วย
เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ที่ได้แสงสว่างส่องผ่านมาจากห้องอเนกประสงค์ และแน่นอนว่าเรายังคงได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่เช่นเดิม เพียงแต่หน้าตาอาจไม่เหมือนกับในห้องตัวอย่างนะครับ
พื้นที่ส่วนแรกจะยังคงเป็นโซฟานั่งเล่น ที่มีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.3 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ
และตรงข้างๆประตูก็จะได้ตู้เก็บรองเท้าให้ใช้งานได้เหมือนเดิม
ติดกับโซฟาก็จะเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง หรืออาจใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้นั่งทำงานอีกจุดหนึ่งก็ได้นะครับ ซึ่งหากใครที่ WFH อยู่บ้านด้วยกัน 2 คน ก็จะได้มีโต๊ะให้ใช้งานแยกกันคนละห้องเป็นส่วนตัวได้สบายๆเลย
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำครับ ซึ่งจะมีประตูกระจกบานเลื่อนปิดเป็นสัดส่วน คอยกันกลิ่น/ควัน จากการประกอบอาหาร และความชื้นจากห้องน้ำ ไม่ให้เข้ามารบกวนพื้นที่พักผ่อนในห้องได้ครับ
โดยจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนที่เปิดออกได้กว้าง กรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกใสแบบปกติ ส่วนพื้นที่ภายในจะกว้างประมาณ 1 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ ซึ่งพื้นก็จะยังคงเป็นกระเบื้องยางไวนิลอยู่นะครับ
เคาน์เตอร์ครัวเราจะได้เป็นรูปตัว L แบบนี้เลย จึงทำให้มีพื้นที่ใช้งานและเก็บของได้เยอะมากขึ้น โดยเรายังคงได้วัสดุต่างๆครบเหมือนเดิม เพิ่มเติมมาก็คือ จะมีที่วางเครื่องซักผ้ามาให้เป็นสัดส่วนด้วย
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยเรายังคงได้สุขภัณฑ์ของ Cotto ครบเหมือนเดิม พร้อมกับพัดลมดูดอากาศบนฝ้าเพดานครับ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็จะมีฉากกั้นบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมาให้ ซึ่งจะคอยกันน้ำไม่ให้กระเด็นมาเปียกด้านนอก โดยมีพื้นที่ภายในกว้างประมาณ 70 x 80 cm. สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ พร้อมกับมี Hand Shower และช่องวางของมาให้ครบเหมือนเดิม
ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ เลยได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างดี และห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับระเบียง จึงทำให้พื้นที่ภายในห้องสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นครับ
เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนทางขวามือ ซึ่งมีทั้งความสว่างและโปร่งโล่ง จากช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในห้องครับ
ทางขวามือจะเป็นพื้นที่แต่งตัว ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง อีกทั้งยังมีพื้นที่รอบเตียงให้ใช้งานได้แบบสบายๆ
ปลายเตียงจะมีผนังทึบให้เราสามารถติดตั้งทีวี เพื่อนอนดูหนังบนเตียงได้แบบสบายๆ รวมถึงยังมีประตูกระจกบานเลื่อน ที่เชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ข้างๆได้ด้วย ซึ่งหากเปิดประตูเอาไว้แบบนี้ ก็จะกลายเป็นเหมือนเราได้ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว
พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างประมาณ 1.5 x 2 m. และผนังทั้ง 3 ด้านก็จะเป็นกระจกทั้งหมด จึงมีความสว่างและโปร่งโล่งมากๆ แต่อาจไม่ค่อยเหมาะกับการทำเป็นห้องนอนเล็กสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างเล็ก และผนังกระจกที่มีความเป็นส่วนตัวน้อยครับ
แต่ก็ยังสามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆได้หลากหลาย ให้ตรงกับ Lifestyle ของเราได้สบายๆครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานช่วง WFH หรือจะเป็นห้องสตูดิโอไลฟ์สดขายของออนไลน์ และห้องแต่งตัวแบบจริงจังที่ต่อเนื่องมาจากห้องนอนหลัก เป็นต้น
ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็พอจะออกไปยืนสูดอากาศและตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้เหมือนเดิมครับ
1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.8 – 27.2 ตร.ม. จุดเด่นคือ “ความกว้างและโปร่งโล่ง” เพราะห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งฟังก์ชันทั้งสองจะเชื่อมต่อกันกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และได้แสงสว่างจากหน้าต่างได้อย่างเต็มที่มากขึ้น แต่ก็อาจมีความเป็นส่วนตัวลดลงไปบ้างด้วยเช่นกัน จึงเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีแขกมาหาที่ห้องบ่อยๆนัก
นอกจากนี้ผมยังชอบตำแหน่งห้องครัวและห้องน้ำด้วยครับ ซึ่งเราจะได้เป็นครัวปิดที่สามารถทำอาหารได้จริงจัง อีกทั้งยังสามารถเปิดประตูระเบียง เพื่อระบายกลิ่น/ควันจากการประกอบอาหาร รวมถึงความชื้นในห้องน้ำให้ออกสู่ภายนอกได้โดยตรงอีกด้วย
ทำให้ห้องนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน โดยเน้นความโปร่งโล่งภายในห้องเป็นหลัก และอาจไม่ค่อยได้รับแขกบ่อยนัก ชอบการทำอาหารทานเอง รวมถึงชอบห้องที่มีการระบายอากาศที่ดีเป็นสัดส่วน ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ
1 Bedroom ขนาด 22.7 – 23.9 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ ซึ่งจะมีการกั้นส่วนของครัวบริเวณหน้าห้องมาให้ด้วยครับ จึงทำให้ได้ครัวปิดและทำอาหารได้จริงจังในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันเสียงรบกวน ที่อาจมาจากคนที่เดินผ่านไป-มาหน้าห้อง และทำให้พื้นที่พักผ่อนภายในมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้อีกด้วยครับ
ส่วนพื้นที่ภายในก็จะมีมีพื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่ ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอน จึงทำให้มีความกว้างขวางและโปร่งโล่ง เหมาะกับคนง่ายๆสบายๆ เน้นใช้ชีวิตภายในห้องเดียวเป็นหลัก รวมถึงมีพื้นที่อเนกประสงค์ริมหน้าต่างให้ใช้งานกันได้อีกด้วย โดยเฟอร์นิเจอร์ห้องนี้เราจะไม่ได้ตู้เก็บรองเท้าเหมือนห้องอื่นๆนะครับ แต่นอกนั้นเราจะได้ครบทุกอย่างเลย ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรไปชมกันครับ
1 Bedroom Extra ขนาด 29.7 – 32.5 ตร.ม. สำหรับแบบห้องประเภทนี้ มักจะเป็นห้องพิเศษที่อยู่ตามมุมอาคารต่างๆ จึงมีลักษณะเป็นแปลนรูปตัว L และเรายังจะได้ครัวปิดในทุกแบบอีกด้วย ซึ่งหากใครถูกใจลักษณะห้องแบบไหน หรือชอบตำแหน่งที่ห้องนั้นๆอยู่เป็นพิเศษล่ะก็ สามารถลองติดต่อสอบถามกับทางโครงการเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
Atmoz Portrait ศรีสมาน ราคา ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2565
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.7 – 23.9 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.67 – 1.99 ล้านบาท / ราคาพิเศษเปิดจองครั้งแรก รอบ Early Bird เริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท ลดสูงสุด 250,000 บาท
- 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.8 – 27.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 – 2.29 ล้านบาท
- 1 Bedroom Extra ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.7 – 32.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.17 – 2.66 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31.2 – 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.27 – 2.77 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
- จอง 9,900 บาท
- ทำสัญญา 1 Bedroom – 1 Bedroom Extra ราคา 10,000 บาท / 1 Bedroom Plus ราคา 20,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเล : ติดถนนใหญ่ศรีสมาน และอยู่ตรงข้ามกับโรบินสัน (ฝั่งขาออกเมือง) ซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้เห็นโครงการคอนโดเปิดใหม่ในย่านนี้กันมาสักพักแล้วนะครับ จัดเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นย่านชุมชนหนาแน่นที่มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ โดยเฉพาะทางฝั่งดอนเมือง-สรงประภา ทำให้ตลอดสองข้างทางจะมีตลาดน้อย-ใหญ่เปิดอยู่มากมาย แต่ก็จะมีความคึกคักมากหน่อยนะครับ อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา และใกล้สนามบินดอนเมือง ส่วนถ้าเป็นโซนศรีสมานก็จะเน้นไปทางห้างโรบินสัน อิมแพ็คเมืองทองธานี สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และโรงเรียนหอวังนนทบุรี โดยจะมีความเงียบสงบและเดินทางได้ค่อนข้างสะดวกกว่า
นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจในเรื่อง “ราคา” เพราะหากพูดถึงที่อยู่อาศัยในย่านนี้ หลายๆคนก็มักจะนึกถึงโครงการแนวราบกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทาวน์โฮมก็มักจะมีราคาเริ่มต้น 2 ล้านปลายๆถึง 3 ล้านบาทขึ้นไป แต่หากเป็นโปรดักส์อย่างคอนโดมิเนียม ก็จะสามารถจับต้องได้ง่ายกว่ามาก และราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านก็ยังมีตัวเลือกอยู่พอสมควร เหมาะกับคนที่อยากอยู่ในทำเลนี้แต่มีงบประมาณจำกัด และอาจเป็นคนเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ หรือเป็นคนที่ไม่มีลูกก็ได้ครับ
การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้กับทางด่วนอุดรรัถยาประมาณ 3.7 km. และยิ่งเป็นตอนขากลับก็ง่ายมากๆครับ โดยทางลงจะอยู่ห่างจากโครงการเพียง 1 km. เท่านั้น อีกทั้งยังมีถนนสายสำคัญอย่าง ถนนเลียบคลองประปา ที่สามารถใช้เป็นอีกหนึ่งเส้นทางในการเข้า-ออกเมืองได้สะดวกด้วยเช่นกัน และทางโครงการจะมีที่จอดรถ 212 คัน หรือคิดเป็น 31% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งส่วนตัวผมถือว่าไม่ได้ให้มาเยอะมากนัก หากเทียบกับทำเลที่เน้นการใช้รถยนต์ได้สะดวกแบบนี้ แต่ก็พอจะใช้ได้และเป็นมาตรฐานอยู่ครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ทำเลติดถนนใหญ่ สามารถเรียกรถสาธารณะด้านหน้าได้ง่าย โดยเฉพาะแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านหน้าโครงการ รวมถึงยังมีรถไฟฟ้า 2 สาย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้อีกด้วย (สายสีแดง และสายสีชมพู) ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4 – 8 km.
การออกแบบโครงการ : มีคอนเซ็ปต์ในการออกแบบ LAKE COMO จากประเทศอิตาลี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองที่อยู่ริมทะเลสาบ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นผนังทรง Arch โค้งและสีสันอาคารที่สดใส รวมถึงยังมีการวางผังอาคารทั้ง 3 ให้โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ทำให้ห้องที่หันเข้ามาด้านในจะได้วิวที่ดีและสวยงาม โดยเฉพาะวิวสวนและสระน้ำ 2 จุด ที่ช่วยให้เกิดบรรยากาศคล้ายกับเมืองริมทะเลสาบ ที่เป็นคอนเซ็ปต์หลักของโครงการได้ดีอีกด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมีการเล่นระดับของฟังก์ชันส่วนกลางแต่ละอาคาร ที่นอกจากจะมีความน่าสนใจแล้ว ยังทำให้เข้าถึงการใช้งานได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วยนะ ส่วนชั้นพักอาศัยก็มีตำแหน่งห้องที่น่าสนใจหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องที่ได้วิวดีๆ รวมถึงยังมีห้องหายากที่เป็น Rare Item มีเพียงตำแหน่งเดียวในแต่ละชั้นให้เลือกอีกด้วย แต่ในจุดที่ผมมองว่าอาจใช้งานได้ยากสักหน่อยคือ ตำแหน่งของลิฟต์โดยสาร ที่มักจะอยู่ชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากเกินไป เลยทำให้ห้องพักอีกด้านมีระยะทางเดินค่อนข้างไกลจากลิฟต์อยู่สักหน่อยครับ
การออกแบบห้องพักอาศัย : มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ ซึ่งเหมาะกับคนที่มี Lifestyle ไม่เหมือนกัน ทั้งคนที่ชอบความโปร่งโล่ง คนที่เน้นความเป็นส่วนตัว และคนที่ต้องการฟังก์ชันอเนกประสงค์ไว้ปรับเปลี่ยนได้ โดยหลักๆจะเน้นการอยู่อาศัย 1 – 2 คน และทุกห้องจะได้เป็นครัวปิดทั้งหมดครับ
ส่วนห้อง 1 Bedroom Exclusive จะเหมาะกับคนที่ชอบการทำอาหารจริงจัง เพราะห้องครัวจะอยู่ติดกับระเบียง เลยเปิดประตูระบายอากาศได้โดยตรง ซึ่งจะมีทั้งห้องนอนกระจกที่เน้นความโปร่งโล่ง กับห้องนอนผนังทึบที่มีความเป็นส่วนตัวสูงให้เลือก ในขณะที่ห้อง 1 Bedroom Plus จะมีห้องอเนกประสงค์ให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งผนังโดยรอบจะเป็นกระจกเกือบทั้งหมด จึงมีความสว่างและโปร่งโล่งดีมากๆ แต่อาจไม่เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนเล็กเท่าไหร่นัก เพราะมีความเป็นส่วนตัวที่น้อยอยู่สักหน่อยครับ
วัสดุ : ถือว่าให้มาค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคา และเหมาะกับการใช้งานครับ ขายแบบ Fully Furnished พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย โดยสิ่งที่พิเศษกว่าเพื่อนบ้านย่านเดียวกันก็คือ จะมีระบบ Bluetooth Sound System มาให้ใช้งานด้วย ส่วนจุดอื่นๆที่น่าสนใจก็จะประกอบด้วย พื้นกระเบื้องยางไวนิลที่ทนความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง / เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ที่ทนน้ำและความร้อนได้ดี / มี Backsplash ที่ผนังให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย / ติดตั้ง Hop&Hood แบบดูดหมุนเวียนภายใน / มีสุขภัณฑ์จาก Cotto และฉากกั้นอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน ส่วนช่องหน้าต่างในห้องนอนก็ให้มาใหญ่ดีทีเดียวครับ
สาธารณูปโภค : ให้มาเยอะสุดในย่านกว่า 30 ฟังก์ชัน มีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 420 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่สวนและทางเดิน) โดยยังคงแนวคิด LIVE / ACTIVE / PLAY / WORK และมีการแบ่งโซนฟังก์ชันแยกกันออกไป เป็นสัดส่วนในแต่ละอาคารเพื่อไม่รบกวนกัน ซึ่งจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ไม่เพียงแค่การตกแต่งที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงมี GYM ที่เปิดให้ใช้งาน 24 ชม. อีกด้วย จึงเหมาะกับคนที่อาจเลิกงานค่อนข้างดึก หรือไม่อยากเล่นตอนคนเยอะๆ ก็สามารถมาใช้งานได้ตลอดเวลาเลยครับ อีกทั้งยังมีร้านค้าคอยอำนวยความสะดวกภายในโครงการถึง 2 ยูนิต ทำให้ไม่ออกไปซื้อของด้านนอกให้เสียเวลา และที่ชอบมากๆคือ พื้นที่นั่งทำงานที่มีทั้ง Indoor / Outdoor ให้เลือกหลายจุดนั่นเอง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 67,000 บาท/ตร.ม., 9 มิถุนายน 2565
- ทำเล 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ตรงข้ามโรบินสันศรีสมาน ใกล้ความอุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา เข้า-ออกเมืองได้ง่าย
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียกรถสาธารณะหน้าโครงการได้ง่าย มีรถไฟฟ้าอีก 2 สายในย่าน เป็นตัวเลือกในการเดินทาง
- วัสดุ 8.25/10 – Fully Furnished ให้วัสดุมาดีเมื่อเทียบกับราคา พร้อมระบบBluetooth Sound System
- แบบ 8.25/10 – คอนเซ็ปต์สวยไม่เหมือนใครในย่าน มีแบบห้องให้เลือกเยอะ เน้นการอยู่อาศัย 1 – 2 คน และได้ครัวปิดทุกยูนิต
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีเยอะสุดในย่านกว่า 30 ฟังก์ชัน บรรยากาศสวยงามน่าใช้ GYM เปิด 24 ชม.
- MAIN CLASS
- 7.86 / 10.00
Atmoz Portrait ศรีสมาน เหมาะกับใคร
โครงการ Atmoz Portrait ศรีสมาน เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้โรบินสันศรีสมาน ทำเลอุดมสมบูรณ์ และใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา เป็นโครงการที่มีคอนเซ็ปต์ LAKE COMO จากอิตาลี ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร มีส่วนกลางเยอะกว่า 30 ฟังก์ชัน กับบรรยากาศที่สวยน่าใช้งาน พร้อม Fitness ที่เปิด 24 ชม. โดยเน้นเป็นห้องสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คน กับฟังก์ชันที่เป็นสัดส่วน และได้ครัวปิดทุกยูนิต มีงบประมาณระดับ 1.39 – 2.77 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,000 – 19,000 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc