Ashton Asoke (แอชตัน อโศก) เป็นคอนโดมิเนียมโปรเจคที่ 2 ของเครือ Ananda Development ที่ใช้แบรนด์สูงสุด “Ashton” ต่อจาก Ashton สุขุมวิท 38 เราจะบอกว่าเป็น Flagship Brand หรือเรือธงตัวสูงสุดก็ว่าได้ เพราะทำเลของโปรเจคนี้ถือว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดที่อนันดาฯ เคยพัฒนาโครงการกันมาเลยทีเดียว ที่ดินติดถนนใหญ่อโศก (รัชดา) ติด MRT สุขุมวิท ใกล้ BTS อโศก และติดห้างสรรพสินค้ากลางเมือง Terminal 21 เช่นนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ … และเนื่องจากความคันมือเป็นพิเศษ วันนี้ผมจะพาไปดูคร่าวๆก่อนว่า แบรนด์ Ashton เดิมนั้นมีความเป็นมาอย่างไร และทำเลจริงๆนั้นอยู่ตรงไหนกัน ก่อนที่โปรเจคจะเปิดตัวจริงจังในช่วงเดือนกันยายนครับ
ก่อนที่จะไปดู Ashton Asoke กันนั้น ผมจะขอย้อนไปกล่าวถึง Ashton เดิมที่ซอยสุขุมวิท 38 กันก่อน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ตัวตึก Ashton นั้นได้รับรางวัล Best High Rise Architecture in Thailand 2013-2014 ด้วยผลงานการดีไซน์ของสถาปนิกสมดุล ซึ่งผมเดาเอาเองว่าตัวตึกใหม่ก็ไม่น่าจะด้อยไปกว่าตึกนี้นะครับ
ในขณะที่ Brand Character ของ Ashton ตัวเดิมจะถ่ายทอดออกมาแนว Classic European Luxury อย่างภาพนี้
หญิงสาวกับสระว่ายน้ำภาพนี้
หรือสาวแนวใส่หมวกใส่ถุงมือ Elegance แบบนี้ … ซึ่งทางการตลาดของอนันดาฯจะต่อยอดแบรนด์ Ashton ไปในทำเลใหม่อย่าง Asoke อย่างไร ก็ต้องติดตามกันต่อไป … ซึ่งผมว่าเราไปดูทำเลกันดีกว่าครับ
เริ่มกันจากทำเลอโศกที่จัดว่าเป็นหนึ่งในย่านธุรกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย บริเวณสี่แยกอโศกมนตรีที่เป็นจุดตัดของสองถนนหลัก รัชดาภิเษก (สุขุมวิท 21) และถนนสุขุมวิท รอบสี่แยกนั้นประกอบด้วยออฟฟิศจำนวนมากและเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียง
โดยอโศกเป็นหน่ึงใน 3 Interchange Station ระหว่าง BTS และ MRT ที่เปิดใช้บริการกันอยู่ในปัจจุบัน นอกจากจุดเปลี่ยนสายที่ อโศก-สุขุมวิท แล้ว ก็มีเพียง ศาลาแดง-สีลม และ หมอชิต-จตุจักร อีกเพียงสองทำเลเท่านั้น
ระหว่างจุดเปลี่ยนสถานีมี Platform ใหญ่เชื่อมกัน ให้เดินทางจาก BTS ไป MRT ได้สะดวก
โดย Platform นี้มีเส้นทางต่อเชื่อมเข้าห้างใหญ่ใจกลางสุขุมวิท Terminal 21 ที่เป็นอีก Hub หนึ่งในการพึ่งพาอาศัยของทั้งพนักงานออฟฟิศและผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมโดยรอบ
หากกล่าวถึงอโศกในยุคนี้ จะไม่พูดถึง Terminal 21 เลยก็คงไม่ได้ โดยส่วนที่ผมชอบใช้บริการมากที่สุดของห้างนี้ก็คือร้านอาหารที่หลากหลาย รวมถึงส่วน Food Court ที่ยังหาอาหารอร่อย ราคาไม่แพงได้อยู่ 🙂
บริเวณอาคารสูงข้างๆกันกับตัวห้างสรรพสินค้า Terminal 21 นั้นเป็นพื้นที่ของโรงแรมหรู Grand Centre Point ของเครือเดียวกัน
โดยตัวโรงแรมนั้นเป็นตึกสูงประมาณ 30 กว่าชั้นเพื่อรับวิวทะเลสาบบริเวณศูนย์ประชุมแห่งชาติ ซึ่งตึก Grand Centre Point นี้จะมีผลเรื่องวิวทางทิศใต้ของโครงการ Ashton Asoke ไม่มากก็น้อยละครับ
ระหว่างทางเชื่อมจาก BTS ไป MRT มีร้านซาลาเปาไส้ไหล “เปาจึ” ตั้งอยู่ อร่อยใช้ได้นะครับ เมนูทีเด็ดคือซาลาเปาลาวาสีดำ
กลับไปที่อีกฝั่งหนึ่งของอโศกกันบ้าง ตึก Office Building ไล่กันไปตั้งแต่ Interchange, Exchange Tower, Column Tower, CTI Tower, Lake รัชดา, Ocean Tower จนไปถึงตึกล่าสุด FYI สุดถนนพระรามที่ 4 ที่พึ่งจะเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปี แสดงให้เห็นว่าทำเลนี้ยังมีการเติบโตของ Office อยู่ และคงจะโตต่อไปอีกในอนาคต
แต่ฝั่งตรงข้ามกลับเป็นคนละ Story เลยครับ เพราะเป็นสวนสาธารณะและศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เวลาเรามองจากแนวสูงก็จะเห็นว่าอีกฝั่งหนึ่งเป็นทะเลสาบใหญ่ เหมือนเป็นปอดใจกลางย่านธุรกิจละ
ทีนี้เราเดินข้ามไปฝั่งซอยอโศกเดิมกันบ้าง … ชื่อเดิมของซอยนี้คือสุขุมวิท 21 ซึ่งต่อมากลายเป็นถนนรัชดาภิเษก เป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนรัชดารอบกรุงเทพมหานคร
ด้วยความเจริญที่ไหลมาเทมา แต่ขนาดถนนไม่สามารถขยายใหญ่ได้ตามต้องการ การจราจรบนถนนอโศกจึงค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องปัญหารถติด อันเป็นปัญหาสุดคลาสสิกของมหานครใหญ่ๆในโลกรวมถึงกรุงเทพมหานครของเรา แม้ปัจจุบันจะมีทั้งสถานี BTS และ MRT ปัญหาการจราจรก็ไม่ได้หายไปนะครับ
พอเราเดินเข้าไปบนถนนอโศกมองไปฝั่งตรงข้าม จะเห็นซอยคาวบอยและตึก Interchange ที่ด้านหลังทะลุไปยังสุขุมวิท 23 ได้
แม้ว่าจะเดินลึกเข้าไปบนถนนอโศกเรื่อยๆ เราก็ยังเห็นตึกสูงอยู่ตลอดและจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนถึงฝั่งเพชรบุรี
เดินจากสี่แยกอโศกเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงจุดขึ้นลงสถานี MRT สุขุมวิทอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับ Ashton Asoke ที่เรากำลังจะพาไปดูนะครับ
โดยที่ดินของ Ashton Asoke นี้อยู่ด้านหลังลานจอดรถที่ MRT สุขุมวิท บริเวณวงกลมสีแดงในแผนที่ และมีบางส่วนติดกับด้านหลังของสยามสมาคม ซึ่งปัจจุบันมีกำแพงกั้นอยู่ทำให้เราไม่สามารถเดินเข้าไปสำรวจภายในที่ดินได้
เข้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะพาเดินดูรอบๆแทน นี่เป็นอัตราค่าโดยสายของพี่วินหน้าโครงการ เวลาเร่งรีบอยากไปไหนก็ใช้บริการได้ในราคา 10 – 20 บาท
พี่วินจอดรถรออยู่ด้านหน้าร้านกาแฟ Black Canyon Coffee ที่อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยงและสยามสมาคม
ถัดมาก็จะเป็นสยามสมาคม … ซึ่งหลายๆคนไม่รู้จักว่าสยามสมาคม คืออะไร มีไว้เพื่ออะไร
สยามสมาคม มีชื่อเต็มๆว่า สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ เป้าหมายเพื่อศึกษาและส่งเสริมศิลปวิทยาการของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ประวัติเต็มๆอ่านได้ตามข้างบนเลยครับ
ฝั่งที่เป็นเรือนไทยติดกับ Black Canyon คือพิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง
ถัดไปจะเป็นสยามสมาคมซึ่งเป็นอาคารยุคเก่าปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ดูร่มรื่น สบายตา แตกต่างจากสภาพแวดล้อมรอบข้างอย่างสิ้นเชิง
เข้าที่ดินไม่ได้ไม่เป็นไรครับ … เราปีนตึกดูก็ได้ … บริเวณนี้คือทางเข้าของ Ashton Asoke ในอนาคต ซึ่งจะเป็นอย่างไรรูปแบบไหน นั้นต้องรอดูกันจริงจังอีกที หลังจากที่ทางอนันดาฯเผยข้อมูลออกมามากกว่านี้
กำแพงขาวๆตรงนี้กั้นระหว่างที่ดิน Ashton Asoke กับลานจอดรถของ MRT สุขุมวิท ส่วนที่คล้ายๆกับบ้านทรงไทยด้านนั้นคือพิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยงและสยามสมาคมตามลำดับ
แนวตึกสูงด้านหลังเป็นตึก Wattana Heights ที่เข้าจากสุขุมวิท 21 ซอย 1 ซึ่งจะมีผลกับวิวทิศเหนือบางส่วนของ Ashton Asoke ครับ
ทิศตะวันออกนอกจากสยามสมาคมแล้วก็ยังมีตึกสูงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนอโศก ที่เห็นจะๆตรงนี้ก็คือโรงแรม Grand Millennium และตึก FICO
เวลายืนอยู่ด้านในสยามสมาคมก็จะเห็นเป็นตึกแบบนี้ โดยฝั่งขวาของโรงแรม Grand Millennium นั้นจัดว่าวิวค่อนข้างเปิด
ส่วนฝั่งทิศใต้ ตึกสูงๆที่เราเห็นนั้นเป็นโรงแรม Grand Center Point ที่อยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท
ที่ว่างด้านหลังสยามสมาคมตรงนี้ละครับ ประกบด้วยโรงแรมและ Terminal 21 ฝั่งซ้าย และ Wattana Heights ฝั่งขวา
ส่วนฝั่งทิศตะวันตกนั้นมองไปทางซอยสุขุมวิท 19 ไม่ได้มีตึกสูงมากมาตรงกับตำแหน่งของที่ดินพอดีๆ
ฝั่งทิศตะวันออกก็มีช่องว่างตรงนี้ละครับที่พอจะมองลอดไปได้ ไม่ถูกโรงแรม Grand Millennium บล็อค
ส่วนความใกล้ของ MRT สุขุมวิทนั้น ก็ต้องบอกว่าแทบจะชิดรั้วหน้าคอนโดกันเลยทีเดียว … ทำเลจัดอยู่ในเกรด A อย่างไม่ต้องสงสัย เช่นกันตัวตึกก็คงต้องเป็นความพยายามอย่างสุดฝีมือของอนัสดาฯ แต่อีกปัจจัยที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือเรื่อง “ราคา” น่ะสิว่าจะวิ่งไปที่ตัวเลขไหน กับตึกแบบนี้บนทำเลแบบนี้ … เก็บไว้รอบหน้าละกันครับ 😀 แชร์ได้อย่างเดียวเลยคือ “ไม่ถูก” แน่ๆ
สุดท้ายผมขอจบรีวิว Location ของ Ashton Asoke ด้วยร้าน Ramen Ajisai แสนอร่อยกันนะครับ 😀
ส่วนรายละเอียดโครงการกับรีวิวฉบับสมบูรณ์นั้นรอสักพัก ทางผมกับ Think of Living ก็ต้องบอกว่า ติดตามชม ตอนต่อไป~
แหล่งข้อมูลอ้างอิงและเพิ่มเติม