รีวิวฉบับที่ 896 วันนี้ผมจะพาไปชมโครงการบ้านเดี่ยวบนถนนพุทธมณฑลสาย 4 อีกสักโครงการนะครับ Bangkok Boulevard ปิ่นเกล้า – เพชรเกษม ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลยแต่คนละฝั่งกับสวนพุทธมณฑล อยู่ช่วงกลางๆของเส้นสาย 4 พอดี โครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นมีให้เลือก 3 แบบแล้วแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยกับราคา ภายในโครงการเน้นเรื่องความปลอดภัยมี Double Gate Security พร้อมกล้องวงจรปิดทั่วทั้งโครงการ
Facts @ 24 July 2015
- Bangkok Boulevard Pinklao – Petchkasem (บางกอก บูเลอวาร์ด ปิ่นเกล้า – เพชรเกษม)
- SC Asset Corporation Plc.
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม
- เนื้อที่โครงการ : ประมาณ 37 ไร่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 124 ยูนิต
- Warren – ที่ดิน 52.5 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ห้องคนรับใช้ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
- Melrose – ที่ดิน 61.3 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ห้องรับแขก 1 ครัวปิด 1 ห้องคนรับใช้ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.99 ล้านบาท
- Clarendon – ที่ดิน 75.7 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 307 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ครัวปิด 1 ห้องคนรับใช้ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 12.59 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานชั้นแรก 2.8 เมตร ชั้นสอง 2.6 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท หรือ 152,190 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : มิ.ย. 2556
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : มิ.ย. 2559
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1749
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.743269, 100.329532
กดที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ครับ
ที่ตั้งโครงการ Bangkok Boulevard ปิ่นเกล้า – เพชรเกษม ติดถนนพุทธมณฑลสาย 4 เป็นฝั่งที่มุ่งหน้าสู่ถนนเพชรเกษม ทางเข้าโครงการจะอยู่ช่วงกลางๆเส้นระหว่าง บรมราชชนนีกับเพชรเกษม มีจุดสังเกตก่อนถึงโครงการคือปั๊มน้ำมัน ปตท. ครับ
ตัวโครงการไม่ได้อยู่ในเขตกรุงเทพแต่ตั้งอยู่ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมแล้ว ตัวโครงการมีทางเข้า-ออกทางเดียวอยู่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตัวถนนพุทธมณฑลสาย 4 ถือว่าเป็นถนนเส้นที่เชื่อมต่อจากเส้นบรมราชชนนีลงมายังถนนเพชรเกษม ไปสุดที่ถนนพระราม 2 และยังเชื่อมต่อกับย่านอุตสาหกรรมอย่างกระทุ่มแบนและอ้อมน้อย ฝั่งตะวันออกเข้าเมืองมีเส้นทางไปถึงแถวจรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้า กาญจนาภิเษก ส่วนตะวันตกจะเริ่มออกนอกเมืองไปจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี สำหรับถนนตัดใหม่โครงการพรานนก-สาย 4 นี่ยังต้องรออีกนานหน่อยนะครับเพราะเฟสแรกทำมาถึงแค่ถนนกาญจนาภิเษกเท่านั้น แต่ถ้าทำมาถึงสาย 4 การเดินทางจะสะดวกขึ้นอีกเยอะเลยครับ
ปัญหาทั้งขาเข้าและขาออกเมืองคือการจราจรเส้นหลักค่อนข้างติดขัดอย่างเส้นเพชรเกษม รวมถึงวงแหวนตะวันตก(กาญจนาภิเษก) ซึ่งส่วนใหญ่จะติดเพราะรถบรรทุกต่างๆนะครับ เพราะช่วงหลังจากสิบโมงก็จะมีรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปจนไปถึงรถพ่วงขนาดใหญ่ใช้เส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเชื่อมต่อของเขตโรงงานทั้งฝั่งตะวันตะวันตกของกรุงเทพแถวพุทธมณฑล กระทุ่มแบน อ้อมน้อย นครปฐม ทำให้มีการขนย้าย และส่งต่อไปยังจังหวัดต่างๆทางฝั่งตะวันออกด้วยการใช้เส้นทางนี้
ในเรื่องของการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ด้านหน้าโครงการจะมีรถเมล์, รถตู้ และรถสองแถวให้เลือกใช้ รถเมล์จะมีสาย 84ก, 163, 170, 539 และ 547 สำหรับระบบรางอย่าง BTS ในปัจจุบันมีการให้บริการสุดทางที่บางหว้าเป็นสถานีสุดท้าย ส่วนของต่อขยายจะมีปลายทางอยู่ที่สถานีหลักสองใกล้ The Mall บางแค ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จปี 2560 โดยตลอดเส้นทางไม่ว่าถนนจะกว้างสักแค่ไหนก็จะมีสะพานลอยให้ได้เดินข้ามถนน ส่วนแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้างบนถนนเพชรเกษมมีให้เห็นเยอะ แต่ในส่วนของเส้นพุทธมณฑลสาย 4 จะเห็นรถสองแถวมากกว่า
ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้มีพอสมควร ตามปกติทั่วไปของพื้นที่ไกลจากตัวเมืองออกมา ส่วนมากจะอยู่ตามถนนเส้นทางหลักอย่างถนนเพชรเกษมที่ถือว่าเป็นพระเอกของพื้นที่นี้ สองข้างทางตลอดถนนมีร้านค้าทั้งแบบตึกแถวทั่วไปที่เปิดชั้นล่างเป็นร้านอาหาร ร้านบริการต่างๆ รวมถึงพื้นที่ใกล้แยกต่างๆที่เปิดเป็นตลาดสด ในปัจจุบันก็เริ่มมีศูนย์การค้าทั้งแบบห้างร้านอย่าง Tesco Lotus Supermarket หรือ Community Mall อย่าง Brio และ Image Mall มาตั้งอยู่ส่วน Victoria gardens ที่มีร้านแบรนด์ดีขึ้นมาหน่อยจะอยู่บนเส้นเพชรเกษม ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆตอนนี้จะมี เซ็นทรัล ศาลายา กับ The Mall บางแค
โดยรวมแล้วสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ในบริเวณนี้จะเป็นแหล่งโรงงาน อาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัยแนวราบสลับๆกันไป โรงงานก็มีทั้งที่ริมถนนและอยู่ในซอย ส่วนมากริมถนนจะปลูกเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น แทรกด้วยหมู่บ้านแนวราบโดยมีทางเข้าจากถนนพุทธมณฑลสาย 4 โรงพยาบาลจะไปอยู่บนเพชรเกษมใกล้ๆกับพุทธมณฑลสาย 5 มากกว่า
เส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้คือเส้นทางหลัก จากถนนเพชรเกษมมุ่งหน้านครปฐม ผ่านถนนพุทธมณฑลสาย 3 มาเรื่อยๆจะเข้าขวาที่เส้นพุทธมณฑลสาย 4 แต่การเดินรถไม่สามารถเลี้ยวขวาได้เหมือนสี่แยกไฟเขียวไฟแดงปกติ เพราะมีสะพานข้ามแยกจากเส้นพุทธมณฑลสาย 4 ทำให้ต้องเลยไปกลับรถอีกในระยะ 3.2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตรงมาประมาณ 5.4 กม. แล้วกลับรถอีกทีจะเจอโครงการอยู่ซ้ายมือ
เริ่มการเดินทางกันที่บนถนนเพชรเกษม ก่อนถึงจุดตัดกับพุทธมณฑลสาย 3 เล็กน้อย โดยทางซ้ายมือจะเป็น BigC Supercenter ที่รวมเอาทั้ง Index Living Mall ที่ขายเฟอร์นิเจอร์และรับจ้างให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบ้านอย่าง Homework ด้านในจะเป็นแหล่งศูนย์การค้า และที่จอดรถขนาดใหญ่ มีทั้งร้านอาหารดังๆ โรงหนัง รวมถึงลานโบว์ลิ่ง
มีป้ายบอกทางว่าถ้าตรงไปบนถนนเพชรเกษมจะสามารถไปถึงได้ทั้งคลองขวาง หนองแขม รวมถึงแยกขวาเข้าพุทธมณฑลสาย 3 และ 4 ด้านข้างของสะพานลอยจะมีป้ายรถเมล์ และสองข้างทางของถนนเพชรเกษมที่มีความกว้าง 6 เลน สิ่งปลูกสร้างจะเป็นประเภทตึกแถวสูง 3-4 ชั้นเรียงกันเป็นแนว ด้านล่างจะเปิดเป็นร้านอาหารและบริการต่างๆ
ตรงมาอีกจะเจอ Community Mall ชื่อ Victoria Gardens ที่เริ่มเอาสิ่งปลูกสร้างและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในเมือง อย่างการมาใช้เวลาในร้านกาแฟ Starbuck นานๆ เข้ามาสู่ชานเมืองมากยิ่งขึ้น ทั้ง McDonald แบบ Drive-thru รวมถึงร้านซูชิและ Foodland
แล้วเราก็มาถึงจุดสุดเขตบางแคบนถนนเพชรเกษม
ต่อมาก็ยังมีป้ายบอกทางให้พุทธมณฑลสาย 4 หนองแขม กระทุ่มแบนตรงไป ส่วนถนนอุทยานเตรียมเลี้ยวขวาเข้าที่ถนนทวีวัฒนาเลียบคลองทวีวัฒนาก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอุทยานอีกที ถนนอุทยานหรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกว่าถนนอักษะเป็นถนนที่สร้างให้ตรงกับทางเข้า-ออกของพุทธมณฑลพอดี หมู่บ้านใหญ่ๆนิยมไปจับจองพื้นที่กันเยอะ สามารถเชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ได้
เลยมาจะมี BigC Extra อยู่ทางขวามือ และมี Homepro อยู่ถัดออกไป บนถนนเพชรเกษมมุ่งหน้านครปฐมการแบ่งช่องทางรถหลักเหลือ 3 ช่องการจราจร โดยแบ่ง 1 ช่องทางการจราจรไปทางซ้ายริมถนนสำหรับรถที่ต้องการชะลอหรือหยุด กั้นด้วยแนวพื้นที่สีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ปลูกเป็นระยะๆ ถือว่าเป็นการจัด Landscape ของถนนใหญ่ในประเทศไทยที่สวยงามสมความพยายามที่หนึ่ง
มาถึงสามแยกไฟเขียวไฟแดงบนถนนเพชรเกษม เลี้ยวขวาคือเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 3 ที่สามารถไปตัดกับถนนเลียบคลองทวีวัฒนา หรือจะเลยไปอีกนิดเลี้ยวขวาเข้าถนนบางแวกที่เป็นเส้นต่อกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 เพื่อออกถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ แต่จากสามแยกนี้เราจะตรงไปเรื่อยๆบนถนนเพชรเกษมนะครับ
บนถนนเพชรเกษมก็จะมีจุดกลับรถอยู่เรื่อยๆ บางจุดสามารถกลับได้ทั้งสองฝั่ง บางจุดกลับได้แค่ทางใดทางหนึ่ง ทางขวามือเป็นสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 หนองแขม
เลยช่อง 3 หนองแขมมาอีกนิด ก็จะเจอม.เอเชียอาคเนย์ อยู่ทางขวามือ ส่วนใหญ่สิ่งปลูกสร้างแบบโรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการจะอยู่บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ามากกว่า
มหาวิทยาลัยธนบุรีทางขวามือ ทางซ้ายคือป้ายรถเมล์ที่มีอยู่เป็นระยะๆ
เจอสามแยกอีกหนึ่งจุด เลี้ยวซ้ายตรงไฟเขียวไฟแดงนี้คือซอยเพชรเกษม 81 (บางบอน 5) ที่ถือว่าเป็นซอยที่ใหญ่กว่าซอยอื่นๆ เพราะเชื่อมต่อไปเส้นเอกชัยได้ ภายในซอยมีที่อยู่อาศัยแนวราบ, ร้านอาหาร ,สถานีตำรวจบางบอน และ Lotus Express ตามความหนาแน่นของชุมชน สามารถต่อกับซอยเพชรเกษม 69 (บางบอน3) ได้ จากตรงนี้เราจะตรงไปเรื่อยๆ
พื้นที่ส่วนใหญ่ใกล้แยก สองข้างทางของถนนจะเป็นแหล่งซื้อขายของตั้งแต่อาหารในตึกแถวชั้น 1 ร้านบริการ รวมถึงร้านอาหารที่จะมาเปิดในช่วงเย็นๆถึงค่ำ กลายเป็นตลาดกลางคืน
ตรงมาเรื่อยๆบนถนนเพชรเกษม เราก็จะใกล้ถึงจุดที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตัดผ่าน เราจะตรงผ่านแยกไปกลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 กัน
ขออธิบายเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 แบบตรงๆไม่ได้ เนื่องจากแยกนี้ไม่มีไฟแดงเหมือนสี่แยกปกติทั่วไป เพราะถนนเพชรเกษมต้องการความต่อเนื่องในการเดินรถทางตรง การระบายรถที่เร็ว การมีสี่แยกไฟเขียวไฟแดงทำให้รถบางส่วนต้องหยุดและกันทางของคันอื่นๆ ทำให้เกิดการสร้างสะพานข้ามแยกเส้นพุทธมณฑลขึ้นมาทดแทน ทำให้เรามีตัวเลือก 2 เส้นทาง เส้นทางแรกคือเลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถขึ้นสะพานข้ามแรกไปลงยังถนนพุทธมณฑลสาย 4 มุ่งหน้าศาลายา แต่เส้นทางที่เราเลือกเดินทางกันคือตรงไปกลับรถด้านหน้า แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 แทน
จุดที่ถนนทั้งสองเส้นตัดกันจะเห็นว่าไม่มีสี่แยกไฟแดง จะกลางเป็นสะพานข้ามแยก และมีสะพานลอยพร้อมบันไดเชื่อมทั้งสี่มุมถนนอยู่ข้างใต้
ผ่านแยกตรงมาเรื่อยๆ สองข้างทางก็เริ่มจะเงียบลง เพราะเริ่มออกจากตัวเมืองไปยังนครปฐมทุกทีๆ
จุดกลับรถหน้าโรงเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง รถแถวนี้ขับกันเร็วระดับหนึ่ง บ้างเป็นรถใหญ่ด้วย และถนนเป็นทางตรงยาวด้วย ระวังก่อนเลี้ยวกลับรถกันด้วยนะ
กลับรถมาอยู่บนถนนเพชรเกษมขาเข้าแล้ว เราก็จะเห็นป้ายพุทธมณฑลสาย 4 ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้าย
ฝั่งซ้ายมือเป็นตลาดสายสี่ เช่นเคย เป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น เปิดข้างล่างเป็นร้านขายของ ขายอาหาร โกดังเก็บของ และโรงงานขนาดเล็กคละๆกันอยู่ แต่ไม่ค่อยคึกคักเท่าไรนะครับ แต่แถบนี้จะมีรถเข็นและรถยนต์ขายอาหารและของว่างกันเยอะอยู่ตามเส้นทางต่างๆเพื่อจะได้เข้าถึงแหล่งโรงงานได้เลย
เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 กันที่ตรงนี้
เข้าสาย 4 มาแล้วก็ตรงมาเรื่อยๆนะครับจนเจอปั๊มน้ำมัน ปตท. ก็ให้วิ่งชิดขวาเตรียมกลับรถ
ผ่านโครงการผู้น้องอย่าง Life Bangkok Boulevard ที่สร้างเสร็จจนขายหมดแล้ว
เลย Life Bangkok Boulevard มานิดหน่อยจะมีจุดกลับรถอยู่ขวามือเป็นแยกไฟแดงเลย เพราะมีรถใหญ่วิ่งกันเยอะ
เลี้ยวกลับมาเจอปั๊มน้ำมัน ปตท. อีกปั๊มก็ตรงไปก่อนนะ
ก่อนถึงโครงการจะมีโรงงานอาหารสัตว์เก่าที่ตอนนี้ไม่ได้ใช้เป็นแหล่งผลิตแต่เป็นโกดังเก็บสินค้าแทน
ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดๆกันเลย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
พื้นที่รอบๆโครงการจะเป็นที่พักอาศัย, โรงงาน และ โกดังสินค้า คละๆกัน ตัว ด้านหน้าที่เห็นหลังคาใหญ่ๆเป็นโรงงานผลิดอาหารสัตว์ที่ไม่ได้มีการผลิตแล้วใช้เป็นแค่โกดังเก็บสินค้า ส่วนอีกด้านเป็นอาคารพาณิชย์และโรงงานขนาดเล็กๆ ส่วนที่ติดกับที่พักจะเป็นหมู่บ้านทั่วๆไป ด้านหลังโครงการมีโรงงานและโกดังเก็บสินค้า
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (รวมระยะกลับรถแล้ว)
- Tesco Lotus Supermarket – 550 เมตร
- Image Mall – 1.9 กม
- ตลาดมาลี – 2.4 กม.
- ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2 – 2.9 กม.
- โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี – 6.1 กม.
- พุทธมณฑล – 6.3 กม.
- ม.เอเชียอาคเนย์ – 7 กม.
- ม.มหิดล ศาลายา – 8.3 กม.
- ศูนย์การแพทย์มหิดล – 8.3 กม.
- สถานีรถไฟศาลายา – 9.4 กม.
- The Brio Mall – 9.8 กม
- โรงพยาบาลมหาชัย 2 – 10.5 กม.
- โรงพยาบาลศรีวิชัย 2 – 12.2 กม.
- Central ศาลายา 13.8 กิโลเมตร
โครงการนี้เป็นโครงการขนาดกลางมีจำนวนยูนิตประมาณ 124 ยูนิตเนื้อที่โครงการ 37 ไร่ ถือว่าความหนาแน่นกำลังดีมีความเป็นส่วนตัวไม่พุลกพล่านจนเกินไปโครงการนี้สร้างไปเยอะพอสมควรแล้ว และมีลูกบ้านเข้าอยู่ในบางส่วน ถนนทางเข้าหลักให้มาใหญ่มากๆประมาณ 16 เมตรแถมมีลงต้นไม่ใหญ่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งมาให้ด้วย
ระบบรักษาความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน ประตูทางเข้าโครงการเป็นแบบ Double Security Gate หลังจากผ่านประตู 1 มาจะเจอกับ Club House ถ้าจะเข้าไปในส่วนพักอาศัยก็ต้องผ่านประตูที่ 2 ไป ที่ป้อมแรกจะใช้ระบบ Key Card ระยะไกล เวลาขับรถไม่ต้องลดกระจกเพื่อบัตรเอามาแตะ เวลาฝนตกก็ไม่เปียกครับ กล้องวงจรปิดในโครงการมีมาให้ 45 จุดเรียกว่าครบทั้งโครงการทุกซอย รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและต่อรั้วโปร่งไปอีก 2 เมตร
การวางผังโครงการสำหรับโซนที่อยู่อาศัยด้านล่างของวงเวียนจะได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะจำนวนยูนิตจะน้อยกว่าโซนด้านบนของวงเวียน ซอยที่สงบที่สุดจะเป็นซอยด้านซ้ายล่างที่ติดกับบุคคลอื่นเพราะมีเพื่อนบ้านอยู่แค่ 3 หลัง ซอยด้างล่างจะมีข้อดีอีกข้อคือหน้าบ้านไม่หันไปชนกับหน้าบ้านคนอื่นด้วย ส่วนซอยอื่นๆจะมีเพื่อนบ้านไม่น่าเกิน 18 หลัง แบบบ้านก็จะคละตำแหน่งกันนะครับ ไม่ได้แยกโซนตามประเภทบ้าน ส่วนบ้านที่อยู่ใกล้สวนหย่อมตรงกลางก็จะได้วิวข้างบ้านดีกว่าเพื่อนๆหน่อย
ช่วงทางเข้าด้านหน้าโครงการทำมาใหญ่โตอลังการสมกับเป็นแบรนด์ Bangkok ซึ่งดูหรูกว่ารุ่นน้องอย่าง Life Bangkok อย่างชัดเจน
ซุ้มทางเข้าจะมาเรียบๆแต่ดูแกรนด์พอสมควรมีหลังคลุมกันแดดกันฝนมาให้พร้อม
ระบบรักษาความปลอดภัยทางเข้าโครงการจะมีกล้อง CCTV ส่องทั้งหน้าผู้ขับขี่และป้ายทำเบียน ส่วนระบบ Key Card เป็นแบบระยะไกลคล้ายๆกับ Easy Pass ที่ใช้บนทางด่วนนะครับ
ประตูทางเข้าเป็นแบบบานเลื่อนอัตโนมัติไม่มีไม้กระดกดังนั้นเวลาเปิดปิดต้องรอนิดนึงนะครับ
ถนนหลักของโครงการต้องบอกว่าใหญ่โตและดูดีนะครับ กว้างถึง 16 ม.รองรับยูนิตแค่ 124
ด้านข้างก็ลงต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นแนวสวยงาม ตัวรั้วสูง 3 ม. และมีรั้วโปร่งต่อเพิ่มอีก 2 ม. ช่วยให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ตรงเข้ามาจะเจอประตูที่สองกับ Club House อยู่ด้านขวามือ มีที่จอดรถให้ประมาณ 6 คัน
เรามาดูในส่วนของ Club House กันก่อนนะครับ ตัวอาคารจะมี Lobby หลังคาสูงอยู่หน้าสุด ส่วนอาคาร 2 ชั้นด้านหลังเป็นห้อง Fitness กับห้องน้ำ
ภายใน Lobby ตกแต่งให้ดูสมกับระดับของราคาบ้านพร้อมกับที่นั่งพักผ่อน ตอนนี้โครงการยังขายไม่หมดเลยใช้เป็นสำนักงานขายไปก่อน ต่อไปในอนาคตถ้าขายหมดแล้วพื้นที่ตรงนี้สามารถไปทำเป็นห้องสมุดหรืออย่างอื่นได้
จากห้องนี้จะเห็นในส่วนของสระว่ายน้ำด้วย
พื้นของตัวสระถูกยกสูงขึ้นมาและมีไม้พุ่มบังสายตาภายนอกมาให้ ลูกบ้านจะได้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเวลาเล่นน้ำ ขนาดสระประมาณ 7 x 19 ม. ระบบเกลือแบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ ตัวสระไม่ได้ใหญ่มากเอาไว้เล่นน้ำหรือแช่น้ำได้แต่ถ้าจะออกกำลังกายคงไม่เหมาะครับ จ้วงไม่กี่ทีก็ถึงอีกฝั่งแล้ว
ด้านข้างมีพื้นที่เฉลียงกับที่นั่งให้นิดหน่อย
เดินมาท้ายสระถ่ายให้ดูอีกสักมุม
เดินเข้ามาดูด้านในอาคารกันต่อจากตรงนี้ถ้าเลี้ยวขวาไปห้องน้ำและที่อาบน้ำ ด้านซ้ายไปห้อง Fitness ที่ชั้น 2
ที่อาบน้ำมีมาให้จุดเดียวตรงปลายทาง ห้องน้ำก็แบ่งแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำมีเคาน์เตอร์ให้ใหญ่พอตัว แต่น่าเสียดายไม่มี Locker มาให้อาจต้องหาคนนั่งเฝ้าของหน่อยเวลาจะเล่นน้ำ
ภายในมีทั้งห้องอาบน้ำและห้องน้ำมาให้
เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าที่ล้างตัวด้านนอกมีให้แค่อันเดียวจะไม่พอใช้
กลับมาที่ทางขึ้น Fitness ชั้น 2
ด้านบนบริเวณหน้าห้อง Fitness มีที่นั่งเอาไว้ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นได้ แต่ต้องรอตอนเย็นๆหน่อยนะครับถึงจะไม่ร้อนและใช้งานได้ ถ้าอยากให้มีลมเย็นก็เปิดหน้าต่างทั้งซ้ายและขวาไว้ลมจะได้ไหลผ่านได้
ภายในห้อง Fitness มีเครื่องเล่นให้ไม่เยอะแต่ 4 ตัว แต่ดูจากพื้นที่แล้วยังมีที่เหลือให้ใส่ได้อีกนะ หรือจะพื้นที่ไว้เต้นแอโรบิคก็ได้
เดี๋ยวเราเข้าไปดูสภาพโครงการกันต่อนะครับ การเข้าส่วนที่อยู่อาศัยจะต้องผ่านประตูที่ 2 ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยเดียวกับประตูแรกเลย
ถนนภายในตั้งแต่ส่วนนี้ไปความกว้างจะเหลือ 12 ม. ถ้าเทียบกับหมู่บ้านทั่วๆไปก็ถือว่ากว้างอยู่
ตรงเข้ามาจะเจอวงเวียนและมีสวนหย่อมอยู่ด้านซ้ายมือ
ภายในสวนมีที่เดินและที่นั่งพักผ่อน พร้อมต้นไม้ใหญ่แต่ตอนนี้ยังไม่ค่อยโตเท่าไหร่ตอนรออีกสัก 3 ปีขึ้นไปถึงจะได้ร่มเงาเต็มที่
แอบได้ข่าวว่าจะมีโซนบ้านแบบใหม่ซึ่งจะลงแปลงบริเวณนี้พอดี ถ้าใครสนใจลองติดตามข่าวจากทาง SC ดูนะครับ
ภายในซอยเค้าจะลงไม้พุ่มมาให้เยอะดี ส่วนต้นไม้ใหญ่นี่เป็นของบ้านแต่ละหลังนะ ได้หลังละต้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Clubhouse 1 จุดบริเวณประตูที่ 2
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 19 ม. แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
- สวนสาธารณะ 2 จุด คือบริเวณ Club House และตรงกลางโครงการ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 45 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วเหล็กโปร่งต่อเพิ่ม 2 ม.
- Double Gate Security
- Key Card Access ระยะไกล
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 16 เมตร ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ แต่บ้านตัวอย่างมีให้ดูแค่ 2 แบบคือแบบ Melrose และ Clarendon มาดูแบบแรกกันก่อน Melrose มีที่ดินเริ่มต้น 61.3 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 246 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ห้องรับแขก 1 ครัวปิด 1 ห้องคนรับใช้ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.99 ล้านบาท ตัวบ้านจะมีทางเข้าหลัก 3 ทางคือจากหน้าบ้าน ที่จอดรถ และห้องครัว เนื่องจากพื้นที่บ้านให้มาค่อนข้างใหญ่เรียกว่าสร้างเกือบเต็มพื้นที่เลย ตัวบ้านถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแนวหน้ากว้างทำให้ดูแกรนด์มาขึ้น แต่ความลึกของบ้านจะมีไม่เยอะ ชั้นล่างได้ห้องรับแขกถึง 2 ห้อง ตรงนี้สามารถกั้นกำแพงทำเป็นห้องนอนได้นะบ้านแบบนี้มีห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัวมาให้ด้วย และห้องครัวมีประตูกั้นจากในบ้านดังนั้นแม่บ้านอยู่ด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องเข้ามาในบ้านหลักเวลาเราจะปิดบ้านไปเที่ยวหลายวัน
บนชั้น 2 แปลนบ้านยังคงเป็นแนวหน้ากว้าง ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัว และมีห้องนั่งเล่นเอาไว้ให้ใช้งานอีก 1 ห้องหรือจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเล่นเกมสำหรับเด็กๆก็ได้จะได้ไม่รบกวนผู้ใหญ่เวลาใช้งานห้องรับแขกที่ชั้นล่าง
มาดูบ้านจริงกันต่อตัวบ้านจะเน้นโทนสีอ่อนเป็นหลักใช้สีขาวกับสีอ่อน(เขียวกับเทา)เป็นพื้นและตัดด้วยสีน้ำเทาเข้ม หน้าบ้านตัวอย่างไม่ได้มีรั้วให้ดูชัดเจนดังนั้นผมจะเทียบบ้านเปล่าให้ดูควบคู่กันไปด้วยนะครับ
นี่…บ้านเปล่าครับ ดูแล้วแทบไม่ต่างกันเท่าไหร่ยกเว้นมีรั้วเพิ่มเติมเข้ามา
ประตูรั้วจะมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้ามาให้ด้วย ส่วนอีกด้านของรั้วจะเป็นที่ทิ้งขยะ
พาเดินรอบบ้านซะหน่อย อย่างที่บอกไปว่าที่นี่สร้างบ้านเกือบเต็มพื้นที่ ด้านข้างเลยมีพื้นที่ประมาณในรูปนี่แหละครับ
หลังบ้านจะเหลือประมาณ 2 เมตรมีพื้นที่ซักล้างมาให้แบบนี้เลยต้มไม้ที่เห็นนี่บ้านมาตรฐานนะครับได้แบบนี้เลย
ด้านข้างอีกด้านจะมีที่เหลือเยอะหน่อยสามารถทำสวนได้ (เดี๋ยวในบ้านตัวอย่างจะมีให้ดูครับ)
วัสดุพื้นที่จอดรถเป็นทรายล้างเหมือนบ้านตัวอย่างเป๊ะ ที่พิเศษหน่อยคือไฟบริเวณที่จอดรถจะเปิด/ปิดอัตโนมัติ ด้วยการจับความเคลื่อนไหว ช่วยประหยัดพลังงานและปลอดภัยด้วย
บริเวณโรงจอดรถมีตู้เก็บของมาให้เอาไว้เก็บอุปกรณ์ทำสวนล้างรถก็ได้
ทางเข้าบ้านได้ประตูกระจกบานเลื่อนคู่ มีเฉลียงให้วางตู้เก็บรองเท้าหรือจะวางที่นั่งเอาไว้นั่งใส่รองเท้าก็ได้
ตัวกลอนจะเป็นแบบเซาะร่องธรรมดามากๆ น่าจะได้แบบมือจับที่ถนัดกว่านี้ซักหน่อย
ตัวรางทำมาดีครับฝังลงพื้นอยู่ในระดับเดียวกันกับพื้นบ้านเลย
ส่วนแรกของบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่นกว้างประมาณ 4.4 x 4 เมตรใส่ทีวีขนาด 60″ ได้สบายๆ
พื้นที่วางโซฟาสามารถขยายได้ถึง 4 ที่นั่งพร้อม Daybed นะครับ
ผนังวางทีวีอาจจะต่อผนังให้ยื่นออกมาหน่อยก็ได้จะได้ทำชั้นวางของในตัวไปด้วย
ในบ้านตัวอย่างจะมีการกั้นผนังเบาเพิ่มขึ้นมา แยกสัดส่วนให้ใช้งานพื้นที่ได้ง่ายขึ้น
ถัดมาเป็นส่วนห้องรับแขกที่ 2 ตรงนี้จะกั้นเป็นห้องนอนให้ผู้สูงอายุยังพอได้อยู่นะครับแต่จะไม่มีห้องน้ำในตัวเท่านั้นเอง
ประตูทางออกของบ้านในโครงการนี้จะมีตัวล็อกมาให้ 2 จุด และระบบรักษาความปลอกภัยมีแถมมาให้เป็นระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
พื้นที่ในบ้านตัวอย่างเค้าทำเฉลียงกับสวนเพิ่มมาด้วย เดี๋ยวเดินออกไปดูกันครับ
ถ่ายระดับพื้นบ้านมาให้ดูว่ายกเฉลียงแบบนี้แล้วยังพอมีระยะเหลืออยู่อีกนะครับ สวนตัวอย่างก็จัดมาสวยดีใครชอบก็ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้นะครับ
กลับมาดูห้องทานอาหารกันต่อ พื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อกันทั้งหมดถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็กั้นผนังขึ้นมาได้แต่บรรยากาศในบ้านจะแคบลงหน่อยนะ
ห้องครัวในบ้านตัวอย่างนี่เค้าทุบกำแพงทำเป็นครัวเปิดแบบนี้นะครับ แต่ของจริงได้ผนังทึบ
และเคาน์เตอร์ที่ได้จะเป็นหินแกรนิตดำ กับผนังปูกระเบื้องมาให้ด้วยเวลาทำครัวทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะ ตรงกลางมีประตูให้ออกไปสู่ลานซักล้างหลังบ้าน ขนาบด้วยหน้าต่าง 2 บาน ด้านล่างเป็นบานเปิดเดี่ยว ส่วนด้านบนเป็นบานกระทุ้งเล็กๆ
สำหรับห้องน้ำชั้นล่างจะได้โซนอาบน้ำมาด้วย ดังนั้นพอจะทำห้องนอนอย่างที่บอกไปได้นะครับ กระจกเงาก็ได้บานใหญ่เต็มระยะกำแพง
ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ใช้ของ Cotto ทั้งหมด ไม่มีฉากกระจกกั้นโซนเปียกมาให้
พื้นลดระดับลงมา 2 ครั้ง
ตำแหน่งบันไดจะอยู่ตรงกลางบ้านพอดี รูปนี้ถ่ายจากบ้านเปล่ามาให้ดูว่าฝ้าที่ให้เป็นแบบธรรมดานะไม่ได้เล่นระดับเหมือนบ้านตัวอย่าง
ภายในห้องเก็บของจะปูกระเบื้องเซรามิกมาให้ไม่ได้เป็นพื้นแกรนิตโต้เหมือนส่วนอื่นๆ
หน้าตาสวิทช์ไฟ เป็นของ Panasonic นะครับ
พื้นบันไดได้เป็นไม้ยางพาราประสาน ราวบันไดมีตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบนและเป็นเหล็กสีทองแดงเหลือบๆแบบในรูปครับ
ชานพักได้เป็นสี่เหลี่ยมเต็มพื้นที่ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของลูกบ้านนะครับ เวลาใช้งานไม่ลำบากและเผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดใครลื่นจะได้ไม่ลงไปไกลนัก
โถงบันไดจะโปร่งและได้แสงธรรมชาติเยอะ ทุกบานจะเป็นบาน Fix ยกเว้น 2 บานล่างสุดเป็นบานกระทุ้งเอาไว้ระบายอากาศได้
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับสมาชิกในบ้าน หรือจะทำเป็นห้องทำงานก็ได้ ด้านขวามือเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และ ซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่
พื้นได้ลามิเนตหนา 8 มม.
ตัวระบบสัญญาณกันขโมยจะอยู่ที่โถงบันไดนี้นะ มีบานไหนเปิดปุ๊บจะมีเสียง ปิ๊บๆ ดังทันที
พื้นที่ห้องนี้อาจจะไม่ใหญ่มากเท่าชั้นล่างแต่ก็พอใช้งานได้สะดวกอยู่
มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกัน ห้องนี้จะวางเตียง 3.5′ – 5′ ได้แต่…ต้องดันเตียงไปสุดกำแพงนะครับ
ไม่อย่างนั้นจะไม่มีระยะเดินรอบๆเตียง
ห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ใช้ของ Cotto คล้ายๆชั้นล่าง
ยกเว้นอ่างล้างมือที่เล็กกว่าหน่อย ช่องแสงด้านข้างที่มีมาให้แนะนำให้หามูลี่มาปิดนะครับเพราะเป็นกระจกใสมาให้เลย Sexy น่าดู
ห้องนอนเล็กอีกห้องวางเตียง 6′ ได้เลยนะ เพราะมีพื้นที่เหลืออีกเยอะพอสมควรดูจากให้บ้านตัวอย่างก็ได้ครับ
ที่เหลือพอให้ใส่ตู้เสื้อผ้าได้เยอะ
จะทำตู้ตรงหน้าห้องน้ำเพิ่มก็ยังได้
ภายในห้องน้ำกระเบื้องจะเป็นคนละสีแล้วแต่สุขภัณฑ์เหมือนกัน ที่น่าแปลกคือไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเอาโถสุขภัณฑ์มาวางสลับด้านกันกับอ่างล้างหน้าและฝักบัว แปลกป่ะหละ
มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ห้องนี้มีทางเข้าใหญ่หน่อย
พื้นที่พอวางเตียง 6′ สบายๆ และมีระเบียงส่วนตัวแต่ถ้าจะวางทีวีปลายเตียงจะตรงกับหน้าต่างพอดี
ระเบียงจะมีที่พอให้วางต้นไม้หรือเก้าอี้ได้นิดหน่อย
อีกฝั่งที่เป็น Walk-in Closet จะแบ่งเป็น 2 ส่วน
ด้านในจะเป็นกำแพงทึบแบบนี้ ถ้าทำตู้เสื้อผ้าทำแค่ฝั่งเดียวก็พอนะครับเพราะที่เหลือไม่เยอะ
ห้องน้ำได้ฉากกั้นเพิ่มขึ้นมาและโถสุขภัณฑ์ดูดีขึ้นมาหน่อย
สำหรับแบบ Clarendon มีที่ดิน 75.7 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 307 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ครัวปิด 1 ห้องคนรับใช้ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 12.99 ล้านบาท การวางฟังก์ชันหลักๆจะเหมือนกับแบบแรกแต่ว่างหน้ากว้างของบ้านกว้างขึ้นเลยมีห้องนอนที่ชั้นล่างเพิ่มขึ้น
ส่วนชั้น 2 ทุกๆห้องจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้น และห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่ Walk-in Closet ที่ใหญ่ขึ้น
หน้าตาบ้านยังคง Concept เดิมแต่มีระยะที่กว้างมากกว่าเดิม
เทียบกับบ้านมาตรฐาน
พื้นที่จอดรถได้ทรายล้างเช่นกัน
ระยะเหลือหน้าบ้านมีกว้างมากขึ้น (อันนี้แล้วแต่แปลงที่ดินนะครับ) สำหรับต้นไม่ใหญ่ที่เอามาลงคือต้น ทองกวาว นะครับ
ด้านข้างของตัวบ้านมีพื้นที่เหลือเยอะกว่าแบบแรกชัดเจน
ด้านหลังเหลือเท่าๆกัน ที่นี่เค้าให้ต้นไม้แน่นดีนะครับ เป็นข้อดีที่แตกต่างจากที่อื่นเลย
ลานซักล้างหลังบ้านปูกระเบื้องมาให้แบบนี้เลย ลานตรงนี้จะเป็นทางเข้าห้องครัวและห้องแม่บ้านนะครับ
ห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำ
ด้านข้างอีกด้านจะแคบหน่อยเพราะเอาพื้นที่ไปให้อีกด้านหมดแล้ว
ประตูหน้าบ้านจะเปลี่ยนจากประตูกระจกเป็นบานไม้สักแบบนี้
ตัวกลอนและกรอบประตูเปลี่ยนให้เข้าชุดกันหมด
โซนห้องรับแขกกับห้องทานอาหารใหญ่โตตามขนาดของบ้าน
พื้นที่ห้องรับแขกส่วนแรกสามารถใส่โซฟา แบบ 6 ที่นั่งได้เลย ช่องแสงก็ให้มาเยอะบ้านเลยดูโปร่งมากขึ้น
ฉากกั้นตรงกลางของจริงได้มาตามในรูปนะ รวมถึงฝ้าด้วย
พื้นที่วางทีวีไม่ต้องต่อเติมเพิ่มก็เพียงพอแล้วสำหรับแบบนี้ ลืมบอกไปว่าผนังของโครงการนี้เป็นแผ่นผนังมวลเบา Q-CON เป็นคอนกรีตมวลเบาอบไอน้ำเหมือนกับอิฐ Q-CON ที่มีรูพรุนแบบปิด มีความหนาแน่นต่ำ ทำให้เป็นฉนวนกันความร้อน กันเสียง กันไฟ
โซนทานอาหารตรงนี้จะได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่เกือบๆเท่าประตูแล้ว (จริงๆจะใช้เป็นประตูก็ได้นะ)
พื้นที่ห้องรับแขก 2 จะดูเป็นส่วนตัวหน่อยเพราะมาหลบมุมอยู่ด้านใน
ระเบียงด้านนอกสามารถตกแต่งเป็นสวนมีน้ำตกแบบนี้ก็ได้
ต่อไปมาดูห้องอื่นๆกันบ้าน
ห้องนอนที่ชั้นล่างแนะนำให้วางแค่เตียง 5′ ก็พอครับเดี๋ยวจะไม่มีที่เดิน
ลองดูจากระยะข้างเตียงอีกด้านนะครับ
หน้าต่างได้บานสูงเช่นกัน
พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าจะใส่ได้ประมาณ 3 หน้าบาน
ห้องน้ำได้ส่วนอาบน้ำมาด้วย
ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดบานประตูได้บานเลื่อนกระจกตามนี้เลย สังเกตว่าตัวล็อกอยู่ด้านใน ดังนั้นเราสามารถล็อกไม่ให้แม่บ้านเข้ามาวุ่นวายในบ้านได้เวลาจะไปเที่ยวหลายๆวัน แม่บ้านก็ยังอยู่ได้ครับ
ของในห้องครัวที่ได้ยังคงเหมือนเดิมไม่แตกต่างแต่ที่ได้เพิ่มคือพื้นที่ทำครัวที่ใหญ่ขึ้น
บันไดได้ขนาดเท่าเดิม
ตัวหน้าต่างก็เช่นกัน
ห้องนั่งเล่นจะได้พื้นที่กว้างมากขึ้น ถ้าอยากได้ห้องนอนเพิ่มนี่ทำได้สบายๆแต่ใครที่ได้อยู่ห้องนี้ต้องไปขอใช้ห้องน้ำกับห้องอื่นนะ
ถ้าไม่ทำห้องนอนก็ทำเป็นห้องดูหนังแบบนี้ก็ได้
ต่อไปมาดูห้องนอน 2 กับ 3 บ้าง
ห้องนอน 2 เป็นห้องนอนเล็กที่ใส่เตียง 5′ ได้นะ
ตู้เสื้อผ้าถ้าใส่ไม่พอก็ทำตรงปลายเตียงเพิ่มก็ได้
สุขภัณฑ์ต่างๆคล้ายๆชั้นล่างแต่อ่างล้างหน้าได้เล็กกว่า
โถสุขภัณฑ์ยังเหมือนเดิม
ห้องนอนเล็ก 3 จริงๆก็ไม่เล็กแล้วนะใส่เตียง 6 ฟุตได้สบายๆเลย
แถมมีพื้นที่เหลือให้ทำตู้เสื้อผ้าได้อีกเพียบ
ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ทำงานเอาไว้ด้านนี้ก็ได้
ห้องนี้ได้กระเบื้องลายหวานๆหน่อย และโถยังคงกลับด้านกันอยู่
ห้องนอนใหญ่สามารถใส่ฟังก์ชันห้องนั่งเล่นเข้าไปอีกอย่างได้เลย
พื้นที่ระเบียงจะเท่าๆกับบ้านแบบแรก (Melrose)
พื้นที่ Walk-in Closet จะดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น
สามารถทำ Built-in รอบห้องได้เลย
อีกด้านหน้าห้องน้ำจะใส่โต๊ะเครื่องแป้งตรงนี้ก็ได้
ฝั่งโซนแห้ง
ในห้องนอนใหญ่โซนเปียกจะได้ฉากกระจกกั้นด้วยนะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 July 2015
- Warren B15 ที่ดิน 56.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม. ราคา 9.29 ล้านบาท หรือ 163,844 บาท/ตร.วา
- Melrose B14 ที่ดิน 65.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. ราคา 11.39 ล้านบาท หรือ 174,159 บาท/ตร.วา
- Clarendon B8 ที่ดิน 75.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 307 ตร.ม. ราคา 12.59 ล้านบาท หรือ 166,314 บาท/ตร.วา
- จอง Warren 50,000 บาท, Melrose และ Clarendon 100,000 บาท
- เงินดาวน์ 20 %
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 87,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการ Bangkok Boulevard ปิ่นเกล้า – เพชรเกษม ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 เป็นช่วงรอยต่อระหว่างกรุงเทพกับนครปฐมพอดี พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์, โกดัง และ โรงงานเล็ก-ใหญ่ ซึ่งจะตั้งอยู่ในซอยต่างๆ ริมถนนเส้นนี้จะมีตึกแถวสูง 3-4 ชั้นอยู่สองฝั่งของถนนพุทธมณฑลสาย 4 แทรกด้วยโครงการหมู่บ้านแนวราบ
สามารถเข้า-ออกเมืองได้ที่เส้นทางถนนเพชรเกษมและถนนบรมราชชนนีที่เป็นถนนเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนอื่นๆอีกหลายเส้น ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ก็จะมีตั้งแต่รถเข็นขายอาหาร ตลาดแถวหน้า ม.มหิดลศาลายา ตลาดมาลี ไปจนถึงห้างร้านทั้งที่เป็นศูนย์การค้าอย่าง BigC, Central ศาลายา และสไตล์ Community Mall อาทิ Image Mall และ Victoria Gardens ที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ระยะอยู่ไกลจากโครงการระดับหนึ่ง
การเดินทางโดยใช้รถ ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่ทางเหนือต่อกับเส้นบรมราชชนนี ทางใต้ต่อกับถนนเพชรเกษม โดยสามารถใช้ทั้งสองเส้นทางแล้วตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 อีกทีเพื่อเข้าโครงการ จุดเด่นของทำเลโครงการนี้คือติดถนนใหญ่ มีเส้นทางให้เลือกเยอะจะเข้าเมืองทางเส้นเพชรเกษมหรือขึ้นสะพานบรมราชชนนีไปสนามหลวงก็ได้ ทำเลนี้เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้แล้วอยากได้บ้านหลังใหญ่ หรือคนที่จะต้องเดินทางไปจังหวัดทางตะวันตกบ่อยๆอย่างสามพราน นครปฐมสมุทรสาครและสมุทรสงคราม ตัวถนนเพชรเกษมเองยังต่อกับวงแหวนตะวันตกหรือเส้นกาญจนาภิเษกที่เชื่อมต่อกับแหล่งโรงงานฝั่งตะวันออกของกรุงเทพอย่างบางนา สำโรง สมุทรปราการ
การออกแบบโครงการถือว่าทำได้ดี จำนวนยูนิตในโครงการนี้มีไม่เยอะแค่ 124 ยูนิตบรรยากาศสบายๆไม่หนาแน่น ทำให้ในแต่ละซอยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นถนนหลักกว้าง 12 – 16 ม. ส่วนซอยย่อยกว้าง 9 ม. สภาพโครงการเรียบร้อยค่อนข้างเรียบร้อยดี บางส่วนเป็นพื้นที่รอขาย และบางส่วนกำลังก่อสร้าง ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ Double Gate Security โดยรถลูกบ้านจะสามารถเข้าออกแบบบัตรผ่านระยะไกลเหมือน Easy Pass ทางด่วน ส่วนแขกลูกบ้านจะต้องแลกบัตรและได้รับแสตมป์จากลูกบ้านเป็นคันๆไป ด้านในมีพี่ยามนั่งอยู่ตามจุดทางแยก มีกล้อง CCTV มาให้ทั่วทั้งโครงการ บ้านทุกหลังได้ระบบกันขโมยระบบ Magnetic & Shock Sensor
บ้านมีทั้งหมดมี 3 แบบให้เลือกซึ่งบ้านที่พาไปดูคือบ้าน 2 หลังใหญ่สุด เหมาะกับครอบครัวกลาง – ใหญ่ มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยก็สบายเพราะมีพื้นที่เหลือพอให้ทำห้องนอนที่ชั้นล่างเพิ่มขึ้นมาได้ พื้นที่บ้านแต่ละหลังค่อนข้างเยอะ เป็นการสร้างบ้านเกือบเต็มพื้นที่ทำให้ไม่เหลือพื้นที่ทำสวนสักเท่าไหร่ ยกเว้นว่าใครจะได้ที่ดินแปลงใหญ่ๆไป อันนี้ก็แล้วแต่คนจะชอบนะครับ มี 2 ห้องเอนกประสงค์ที่ชั้นล่างและชั้นบน จำนวนห้องเยอะสามารถจัดได้ตามความต้องการไม่ว่าจะเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงานหรือห้องงานอดิเรก
วัสดุของโครงการนี้ใช้แบบมาตรฐานผนังเป็น แผ่นผนังมวลเบา Q-CON พื้นที่ชั้นล่างได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนที่เป็นส่วนนั่งเล่นและห้องนอนพื้นจะได้พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร พื้นระเบียงและพื้น-ผนังภายในห้องน้ำจะได้กระเบื้องเซรามิกขนาดต่างๆกันไป ในห้องน้ำปูถึงฝ้าเพดาน หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีขาว ชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto ไฟในบ้านเป็นแบบดาวน์ไลท์ ห้องครัวได้เคาน์เตอร์มาด้วย Top เป็นหินแกรนิตผนังปูกระเบื้องให้ตรงส่วนที่ทำครัว
สาธารณูปโภคมีมาให้ครบครันตามสมัยนิยมคือ มีทั้งสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ และห้อง Fitness แต่ข้อเสียจะมีหน่อยก็ตรงที่ Facilities ตั้งอยู่ที่ด้านหน้า ทำให้คนที่อยู่หลังโครงการต้องเดินไกลกว่าเพื่อน และขนาดของสวนสาธารณะอยู่ที่ตรงมีขนาดไม่ใหญ่สามารถพักผ่อนเดินเล่นได้แต่เอาไว้วิ่งออกกำลังกายไม่ได้ สำหรับสระว่ายน้ำก็เช่นเดียวกันมีพื้นที่มาให้ไม่เยอะเอาไว้ให้เด็ดๆเล่นมากกว่า สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 7 x 19 ม.
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 8 – 13 ล้านบาท, 23 July 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่พุทธมณฑลสาย 4 เดินทางสะดวกแต่ไกลตัวเมืองไปหน่อย
- ความปลอดภัย 8.5/10 – Double Gate Security, CCTV ทั้วทั้งโครงการ ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยทุกหลัง รั้วรอบโครงการสูง 3+2 ม. ได้ไฟโรงรถเปิดปิดอัตโนมัติ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – ได้บ้านใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ เป็นบ้านแบบหน้ากว้าง
- วัสดุ 7.5 /10 – มาตรฐานของราคานี้ได้ครัวมาด้วย แต่ขนาดสุขภัณฑ์น่าจะให้มาใหญ่กว่านี้หน่อย
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.0/10 – ได้ถนนใหญ่กับต้นไม่ใหญ่บรรยากาศรอบๆโครงการดี มีจำนวนยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว
- สาธารณูปโภค 7.5 /10 – Clubhouse สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ มีให้ครบแต่ขนาดเล็กไปหน่อย
- 7.78 / 10.00
BOTTOM LINE
Bangkok Boulevard ปิ่นเกล้า – เพชรเกษม เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในย่านพุมธมณฑลสาย 4 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ หรือครอบครัวต้องการขยับขยายในอนาคต เน้นการเดินทางไปทำงานในโซนสามพรานหรือกระทุ่มแบนเป็นหลัก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านติดถนนใหญ่ มีงบประมาณ 8 – 13 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 56,000 – 104,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
