รีวิวฉบับที่ 1735 … Astera Pride พระราม 2 บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 2 ช่วงต้น ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครได้ง่ายและใกล้มากทั้งจุดขึ้นและลงครับ อีกทั้งโครงการมีบ้านเพียง 42 ยูนิตเท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัว และเน้นพื้นที่ส่วนกลางต่างๆให้มาเยอะพอสมควรและน่าใช้ ที่นี่มีบ้านให้เลือกถึง 5 แบบ มีตั้งแต่ 3 – 5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 451 – 603 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท 39 ล้านบาท (update 11/7/2023)

Fact @ 5 November 2018

  • Astera Pride Rama II (แอสเทรา ไพรด์ พระราม 2)
  • บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด
  • Super Luxury Class (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ติดถนนใหญ่พระราม 2 ระหว่างพระราม 2 (ซ.1และซ.3)
  • เนื้อที่โครงการ 12-0-63 ไร่ จำนวน 42 ยูนิต
  • ALLURE  ที่ดิน 70.30-86 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 451 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท (update 11/7/2023)
  • BLESS  ที่ดิน 60.50-86.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 497 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท (update 11/7/2023)
  • CROWN  ที่ดิน 69.60-136 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 618 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท  (update 11/7/2023)
  • DIAMOND  ที่ดิน 60.40-100.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท (update 11/7/2023)
  • ELEGANCE  ที่ดิน 68.70-98.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 603 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท (update 11/7/2023)
  • เพดาน สูง 2.70 เมตร / Master Living สูง 6 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท 39 ล้านบาท (update 11/7/2023)
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : พ.ย. 60
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : Q1 ปี 2020 2025 (update 11/7/2023)
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • สำนักงานขาย : 086-412-0099 094 293 2364 (update 11/7/2023)

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.745565,100.534256

แผนที่จากทางโครงการ Astera Pride พระราม 2 ตั้งอยู่ในเขตจอมทอง ที่ถนนพระราม 2 อยู่ระหว่างพระราม2 ซ.1 และ ซ.3 สามารถเดินทางเข้าสาทรได้ภายใน 15 นาที สามารถเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ในระยะประมาณ 1 กิโลเมตร และห่างจากเฉลิมมหานคร 300 เมตร  มีสถานที่ใกล้เคียงอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสถานศึกษาและโรงพยาบาล

ทำเลของโครงการนั้นจะอยู่ใกล้กับแยกพระราม 2 ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับถนนสุขสวัสดิ์ครับ จัดเวลาเป็นทำเลย่านฝั่งธนฯ ที่สามารถเข้าเมืองได้ง่ายโดยใช้เส้นถนนสุขสวัสดิ์เพื่อขึ้นเหนือไปทางวงเวียนใหญ่ หรือข้ามสะพานพระราม 3 ไปฝั่งพระนครเพื่อไปยังสีลม สาทร ที่ถือเป็น CBD ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพและเต็มไปด้วยแหล่งงานในตัวเมือง หรือจะลงใต้ไปทางพระประแดงก็ได้

นอกจากนี้ ถ้าจะออกเมืองก็ง่ายเช่นเดียวกัน โดยใช้ถนนพระราม 2 หรือถนนสายธนบุรี-ปากท่อ เพื่อไปสมุทรสาครหรือมหาชัยซึ่งเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากได้ และอีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลย่านนี้คือทางด่วนหรือทางพิเศษต่างๆที่ช่วยทำให้เข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากขึ้น โดยสามารถใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานครเพื่อเข้าเมืองไปทางพระราม 4 สีลม และสาทรได้ หรือจะใช้ทางพิเศษกาญจนาหรือวงแหวนอุตสาหกรรมกรุงเทพมหานครฝั่งใต้เพื่อไปบางนา สมุทรปราการก็สะดวก

ด้านความอุดมสมบูรณ์บนเส้นถนนพระราม2 จะอยู่บริเวณเซ็นทรัลพระราม 2 เป็นหลัก ที่ใกล้ๆนั้นจะรายล้อมไปด้วยตลาดและห้างสรรพสินค้าอื่นๆได้แก่ ห้างบิ๊กซี , SB , โฮมโปร , ไทวัสดุ , เทสโก้โลตัส และตลาดกรีนเดย์ไนท์ ส่วนความอุดมสมบูรณ์อีกจุดหนึ่งจะอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ซึ่งมีห้างบิ๊กซีกับเทสโก้โลตัสตั้งอยู่

นอกจากนี้บนถนนทั้ง 2 เส้น ยังเต็มไปด้วยโรงพยาบาลต่างๆหลายแห่งทั้ง รพ.บางปะกอก 9, รพ.บางมด, รพ.พระราม 2, รพ.บางปะกอก 1, รพ.สุขสวัสดิ์ และรพ.ราษฎร์บูรณะ มีสถานศึกษาระดับมหาวิทยาลัยคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ส่วนแหล่งงานและอาคารสำนักงานใหญ่ๆส่วนมากจะอยู่ทางฝั่งพระราม 3 เช่น อาคารดีสินชัย และอาคารบุญญสถิตย์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ตัวโครงการนี้ยังถือว่าเป็นโครงการรูปแบบ “บ้านเดี่ยวที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า” ส่วนต่อขยายในอนาคตอย่าง “ม่วงใต้” เตาปูนราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ซึ่งพึ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม. และมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2566 – 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีดาวคะนอง ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 12 – 14 และสถานีบางปะกอก ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 23 – 25

ซึ่งอาจจะไม่ใช่หัวใจหลักของการเดินทางสำหรับคนที่เลือกอยู่บ้านเดี่ยวอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าวันไหนอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ก็สามารถใช้ได้ไม่ยากนะครับ จะอยู่ห่างออกไปราวๆ 900 เมตรนะ

ทีเด็ดจริงๆของโครงการนี้เลย คืออยู่ใกล้กับ “จุดขึ้นและจุดลง” ของทางด่วนเฉลิมมหานครครับ อันนี้เป็นหัวใจจริงๆของคนที่เลือกอยู่บ้านขนาดใหญ่ที่ใช้รถเดินทางเป็นหลักแน่นอน โดยถ้าเรามาจากในตัวเมือง ข้ามสะพานพระราม 9 มานั้น เน้นตามลงป้ายดาวคะนอง พอลงทางด่วนมาอีกแค่ 1.3 กม.ก็ถึงโครงการแล้ว(กลับรถที่บริเวณแยกพระราม 2) / ส่วนถ้าจะเข้าเมืองก็ออกหน้าโครงการ ตามป้ายทางด่วนมาเลยครับกิโลเศษเอง

*ซึ่งการเดินทางในวันนี้ ผมก็ใช้ทางด่วนเส้นนี้แหละครับ มาจากในเมือง เดี๋ยวมาดูภาพบรรยากาศคร่าวๆกันหน่อย

ผมเริ่มจากทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยจะวิ่งขาออกเมืองครับ แรกๆเราไม่ต้องอะไรมากเลยครับให้ตามในส่วนของป้าย “ดาวคะนอง” เอาไว้อย่างเดียว

วิ่งข้ามสะพานพระราม 9 ตรงไปยาวๆ เห็นกสิกรสนง.ใหญ่ราฎษร์บูรณะทางขวามือ

ยังตามป้ายดาวคะนองอยู่ แต่ตรงนี้จะสามารถลงที่สุขสวัสดิ์ได้ ซึ่งก็เป็นอีกรูทเส้นทางที่สามารถใช้กลับบ้านได้ อาจจะรถติดกว่า แต่เป็นชอยส์สำหรับแวนซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เกตก่อนเข้าบ้านเพราะผ่านโลตัส บิ๊กซี เป็นต้น

หลังจากนั้นให้เราชิดซ้ายครับ จะเป็นเสี้ยงทางตีโต้งหน่อย

พอเราลงทางด่วนมาแล้วจะเข้าสู่ถนนพระราม 2 – พุทธบูชา ถือเป็นตอนต้นๆของถนนพระราม 2 เลย สามารถวิ่งที่ทางหลักด้านในได้เลยครับ

หลังจากนั้นให้เราค่อยๆพยายามชิดชวาเอาไว้ เพราะเดี๋ยวจะกลับรถด้านหน้า / แต่ต้องบอกนิดนึง เราจะไม่กลับรถอันแรกที่เห็นนะครับ เพราะจะไม่สามารถเข้าตัวโครงการที่อยู่เลนขนานด้านนอกได้ ให้เราไปกลับรถอันที่สอง

นี่ครับ เรามากลับรถบริเวณแยกพระราม 2 แทน เลยมานิดเดียว

พอกลับมาแล้วมันจะเป็นทางเลนขนานด้านนอกเลยครับ ให้เราตรงไปอีกแค่เพียง 320 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้ว

ถึงที่ตั้งโครงการแล้ว เรียกว่าใช้งานทางด่วนง่ายจริงๆ และส่วนของเวลาจะกลับเข้าเมือง เราก็แค่ตรงออกไปข้างหน้าประมาณ 1 กิโลเศษ ก็จะมีป้ายให้ขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครที่ผมใช้มาแล้ว

แผนที่ในระยะใกล้จะเห็นว่า รูปร่างของที่ดินจะขนาดไม่ได้ใหญ่มาก และถือว่าเป็นรูปแปลงที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่เลย โดยสถาพแวดล้อมริมถนนด้านหน้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ บจก.ร้านค้าต่างๆ เป็นย่านทั้งอยู่อาศัยและแหล่งทำงาน SME ระดับเล็ก-กลางปะปนกันไป

เราจะเห็นว่ารอบๆโครงการจะมีที่ดินเปล่าที่ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นอีกเป็นจำนวนไม่น้อย ก็เรียกว่ายังไม่หนาแน่นมาก และก็เป้นพวกบ้านเดี่ยวปลูกเองเป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C บางปะกอก – 3.8 km.
  • รพ.บางมด – 3.5 km.
  • Health Land – 3.9 km.
  • รพ. บางปะกอก 1 – 4 km.
  • Tesco Lotus บางปะกอก – 4.9 km.
  • รพ. สุขสวัสดิ์ – 4.9 km.
  • รพ. ราษฎร์บูรณะ – 5.1 km.
  • รพ. ประชาพัฒน์ – 5.3 km.
  • รพ. บางปะกอก 9 – 4.8 km.
  • SB HomePro Rama 2 – 5.3 km.
  • Big C Rama 2 – 5.6 km.
  • กรมสรรพกรบางขุนเทียน – 5.9 km.
  • รร. วรรณสว่างจิต – 5.9 km.
  • Central Rama 2 – 6.9 km.
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี – 7.5 km.
  • รร. จินดาศึกษา – 8.4 km.
  • Tesco Lotus Rama 2 – 8.4 km.
  • รพ. พระราม 2 – 11.1 km.
  • ตลาดสำเพ็ง 2 – 11.4 km.
  • Makro บางบอน – 14.3 km.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Master Plan โครงการนี้สร้างอยู่บนที่ดินประมาณ 12 ไร่เศษ แต่มีบ้านทั้งหมดแค่ 42 ยูนิต เท่านั้นครับ แถมมีส่วนกลางมาให้ครบจบในพื้นที่โครงการ โดยระบบรักษาความปลอดภัยจะเป็นแบบ Double Gate มีประตูสองชั้นนะ ถ้ามีแขกมาเยี่ยมหรือมาหาไม่นาน รถแขกเหล่านั้นจะถูกจอดรออยู่บริเวณหน้า Club House ซึ่งก็จะไม่ไปวุ่นวายกับลูกบ้านด้านใน การจะผ่าน Gate มาได้จะเป็นระบบ RFID หรือไม่ต้องยื่นมืออกไปแตะเหมือนกับทางด่วน Easypass ครับ และรั้วรอบโครงการจะเป็นคอนกรีตทึบสูง 3 เมตร (ยกเว้นส่วนไหนติดกับเพื่อนบ้านอาคารสูงหน่อยจะต่อรั้วระแนงเพิ่มอีก มาบังสายตาให้)

ด้วยความที่เป็นโครงการส่วนตัวขนาดเล็ก ก็เลยปูพื้นถนนภายในโครงการทั้งหมด เป็นสแตมป์คอนกรีตมาให้เลย อีกทั้งแน่นอนว่าบ้านกลุ่มระดับราคา 30 ล้าน+ ต้องมีการเอาสายไฟ สายระบบเคเบิ้ลต่างๆ ลงใต้ดินเพื่อเก็บงานเรียบร้อยครับ และส่วนสุดท้ายตรงกลางโครงการด้านหลัง จะมีพื้นที่สีเขียว ที่มีศาลานั่งเล่น สวนหย่อม และสานกิจกรรมอเนกประสงค์จัดไว้ให้

เริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการ ตกแต่งซุ้มทางเข้าออกหลักได้ดูสวยงาม จากมุมนี้เห็นด้วยว่าตัวโครงการมีการถมที่ดินให้สูงกว่าถนนหลักด้านหน้าขึ้นอีกเล็กน้อยครับ

ทางฝั่งขวามือนั้นจะมีรูปปั้นปลามังกร มาประดับตกแต่งเสริมกับน้ำพุ และผนังด้านหลังที่กรุชื่อโครงการทั้งหมดใช้เป็นหินอ่อนสีขาว

ในส่วนของ Main Gate ประตูด่านแรก จะเป็นรั้วไม้กั้นกระดก ซึ่งอย่างที่กล่าวไปโครงการนี้เป็นแบบ Double Gate มีประตูสองชั้นนะ การจะผ่าน Gate มาได้จะเป็นระบบ RFID หรือไม่ต้องยื่นมืออกไปแตะเหมือนกับทางด่วน Easypass ครับ แต่ที่ด่านนี้จะมีตัว VDO Door Phone แจ้งไปยังบ้านลูกบ้านที่จะมาหายืนยันตัวตนก่อนด้วย

พอเราเข้ามาแล้ว บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ด้านในโครงการล่ะ แต่ยังไม่พ้น Gate ที่สองครับ โดยเราจะเห็นว่าฝั่งขวามือนั้นเป็นที่ตั้งของ Clubhouse ตั้งอยู่นั่นเอง

นี่ครับรั้วของโครงการ ที่ถ้าส่วนไหนติดกับเพื่อนบ้านที่อาคารสูงหน่อย เค้าก็จะมีการต่อรั้วระแนงไม้มาเพิ่มให้ บดบังสายตาจากภายนอกและได้ความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังลงต้นไม้สีเขียวไล่ระดับ ไม้พุ่ม ไม้กลาง และไม้ยืนต้น เพื่อให้ดูสบายตา

การที่เค้าจัด Clubhouse เอาไว้ด้านหน้าโครงการแบบนี้ เพราะบริเวณนี้มีที่จอดรถของ Visitor อยู่ด้วยครับ ถ้ามีแขกมาเยี่ยมหรือมาหาไม่นาน รถแขกเหล่านั้นจะถูกจอดรออยู่บริเวณหน้า Club House ซึ่งก็จะไม่ไปวุ่นวายกับลูกบ้านด้านใน และที่ชั้น 1 ก็มีห้อง Lobby เอาไว้นั่งเล่นรอพักได้

ด้านนอก Clubhouse ทางฝั่งซ้ายมือมีส่วนของน้ำตกเล็กๆตกแต่ง และก็พื้นที่นั่งเล่น Outdoor

ด้านในอาคาร Clubhouse ชั้น 1 ณ ปัจจุบันจัดเป็น Sale Office สำหรับสนง.ขายชั่วคราวก่อนนะครับ

ซึ่งพอโครงการปิดการขายแล้ว บริเวณนี้จะกลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างเต็มตัว เป็น Lobby ติดแอร์ให้แก่ลูกบ้าน หรือแขกที่มารอพบ ทั้งชั้น 1 เลย

ที่ด้านหลัง เราจะเห็นส่วนของบันไดทางเดินขึ้นไปชั้นบน แต่ขอแวะไปดูข้างหลังอีกหน่อย อนาคตตรงนี้จะเป็นห้องของนิติฯ และจะมีส่วนของห้องน้ำแยกชายหญิงอยู่ด้วย และมีโซนตู้ล็อกเกอร์เผื่อใครมาว่ายน้ำ สระอยู่ที่ชั้น 2 ครับ

ยังอยู่ที่ชั้น 1 นะ ด้านหลังมีห้องน้ำขนาดึค่อนข้างกว้างขวาครับ โดยจะมีส่วนฟังก์ชัน ซาวน่าในตัวด้วย

ที่ด้านในห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว ก็แบ่งการใช้งานแยกกันไป แต่มีการเจาะช่องแสงธรรมชาติ เพื่อให้ดูโปร่งสว่างแบบนี้เลยครับ โดยเราจะเห็นว่าเค้าเน้นพวกพื้นผนังให้เป็นโทนวัสดุธรรมชาติลายหินและมีไม้มาแซม

เอาล่ำ ขึ้นมาที่ชั้น 2 ครับ แรกเลยเราจะเห็นเจ้าห้องผนังกระจกรอบด้านที่ติดแอร์ก่อน เข้าไปดูกัน

ห้องนี้จัดฟังก์ชันเป็น Library นั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือมาคุยงานก็ได้ครับ จะเห็นว่าโครงการให้ความสำคัญกับ ช่องแสงธรรมชาติมาก โดยเปิดให้แสงเข้าทั้ง 4 ด้านเป็นผนังกระจกทั้งหมด รวมถึงรายละเอียดเล็กๆอย่างตกแต่งเสากรุด้วยกระจกเงาครับ ทำให้พื้นที่นี้น่าใช้ทีเดียว

ออกมาที่ด้านนอกจะเจอกับส่วนของสระว่ายน้ำ ระบบคลอรีนขนาด 5.5 x 16.2 เมตร ลึก 1.20 เมตร ซึ่งเจ้าสระนี้แหละถือเป็นส่วนที่โครงการตั้งใจเอามาไว้ที่ ชั้น 2 ครับ เพราะการสร้างสระด้านบนมันมี Cost ที่ราคาสูงกว่าสร้างชั้น 1  อยู่แล้ว แต่โครงการต้องการให้ลูกบ้านจะได้ส่วนของความ Private ในการใช้งาน ไม่ต้องกลัวเสียความเป็นส่วนตัว เขอะเขินเวลามาว่าครับ

หันไปทางด้านซ้ายจะมีส่วนของพื้นที่ทางเดิน และมีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเล่นอยู่ใกล้ๆกับส่วนของสระเด็ก เราจะเห็นว่าทุกอย่างดูขาวสบายตา เพราะวัสดุทั้งพื้นและผนังเป็นหินอ่อนสีขาวทั้งหมด

ส่วนของสระเด็กจะแยกมาอยู่ตำแหน่งโค้งมุมบริเวณนี้ และกลายเป็นสระแบบ Semi Outdoor ซึ่งลูกๆ เด็กๆ สามารถมาว่ายได้ทั้งวัน กลางวันก็ได้ เพราะไม่โดนแดดตรงๆนั่นเองครับ

ส่วนพื้นที่ล้างตัวอยู่บริเวณข้าง ใกล้ๆริมปลายสระ ซึ่งจะชุดฝักบัวแบบมี Rain Shower มาให้ 3 ตัวทีเดียว และที่ปลายสระจะมีเซฟตี้ติดตั้งเจ้ากระจกนิรภัยมาให้อีกส่วนนึง

เอาล่ำไปต่อที่ชั้น 3 กันครับ (อื้อ เจาะช่องแสงเยอะดีแท้ ผมชอบนะครับสบายตาดี)

ทีชั้น 3 ถ้ามองตรงไปนั้นจะเป็นส่วนกลางของ Meeting Room และทางซ้ายมือเป็นส่วนของ Fitness

ภายในห้อง Meeting Room ยังคงเป็นผนังกระจกรอบด้านเหมือนกับห้องอ่านหนังสือชั้นล่างครับ ที่แตกต่างก็คือการเอาเฟอร์นิเจอร์เป็นโต๊ะยาวนั่งคุยงานมาลงไว้

และที่ด้านนอกของห้องประชุมนั้น มีส่วนของ Terrace ให้ออกมานั่งเล่น สูดอากาศด้านนอกได้อีกส่วนครับ

ในส่วนของห้อง Fitness นั้นถือว่าให้เครื่องเล่นมาค่อนข้างเยอะ ถ้าเทียบกับจำนวนลูกบ้าน 42 หลังนะครับ โดยยังเน้นเป็นเรื่องช่องแสงธรรมชาติมาให้อยู่ มีทั้งเครื่องเล่น คาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่งมาให้ครบ

ปิดท้ายอาคาร Clubhouse ด้วยมุมนี้ครับ เอ้อเราจะเห็นว่าวพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดที่ติดแอร์นั้นจะเลือกใช้เป็นเจ้าแอร์แบบฝังฝ้าเพดานกระจาย 4 ทิศทางทุกส่วน

ออกมาด้านนอกแล้ว เราจะเจอกับส่วนของ Second Gate ที่ตรงนี้แหละจะเน้นส่วนที่เป็นลูกบ้านจริงจังในการผ่านเข้าไป ยังเป็น RIFD เช่นกันนะครับ

พอเข้ามาแล้วจะเป็นส่วนของถนนหลักครับ ซึ่งกว้างประมาณ 16 เมตร ด้วยความที่เป็นโครงการส่วนตัวขนาดเล็ก ก็เลยปูพื้นถนนภายในโครงการทั้งหมด เป็นสแตมป์คอนกรีตมาให้เลย อีกทั้งแน่นอนว่าบ้านกลุ่มระดับราคา 30 ล้าน+ ต้องมีการเอาสายไฟ สายระบบเคเบิ้ลต่างๆ ลงใต้ดินเพื่อเก็บงานเรียบร้อยครับ ซึ่งการสร้างบรรยากาศนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบ้านหรูครับ

หันไปดูตามซอยต่างๆซ้ายขวา โครงการนี้แบ่งถนนรองในโครงการทั้งหมดมีเพียง 4 ซอยเท่านั้นเอง มีความกว้างประมาณ 9 เมตร ซึ่งพอไม่เห็นพวกเสาไฟฟ้า สายไฟเกะกะก็จะดูสวยสะอาดตาหน่อย อีกทั้งตัวบ้านนั้นถูกออกแบบให้ทั้งหมดหันหน้าทางทิศเหนือและทิศใต้ สองฝั่งเท่านั้น จะไม่มีฝั่งไหนหันหน้าระบแดดตรงๆเลยครับ (และเหนือใต้เป็นทางลมวิ่งด้วย)

ถนนซอยในส่วนไหนที่บ้านกำลังก่อสร้างอยู่ โครงการก็มีการปิดกั้นด้วยผ้าใบไวนิล เพื่อความเรียบร้อยทางสายตาและเซฟตี้อีกส่วน

ถนนเมนก็จะมีการทำเป็นฟุตบาทส่วนของทางเดินเอาไว้ให้ด้วยครับ และส่วนนี้จะเน้นหนักไปที่ต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่หน่อย เพื่อสร้างบรรยากาศสีเขียวให้แก่ลูกบ้านในการผ่านไปมาทุกวันครับ

เนื่องจากโครงการนี้เอาสายไฟลงดิน ตำแหน่งพวกเสาไฟส่องสว่างภายในโครงการจะเลือกตำแหน่งจัดวางแบบแอบสายตาให้ดูไม่เกะกะ และก็มีการใช้ไฟยิงไปบนแผ่นจานกระจายแสงแบบนี้ครับ และก็มีการติดตั้ง CCTV ภายในโครงการทุกส่วนของถนนครับ

ตรงมาสุดถนนเส้นตรงกลางครับ เราจะเห็นพื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนนึงอย่าง สวนหย่อม ซึ่งด้านในก็จะมีฟังก์ชันเสริมมาให้หลายอย่างที่นอกเหนือจากลงต้นไม้สนามหญ้า

อย่างแรกที่เราเห็นคือเจ้าซุ้มศาลา Pavilion มุมนี้ครับ

พื้นที่บริเวณนี้เป็นแบบ Semi Outdoor ที่กึ่งกลางแจ้งยังรับลมชมวิวได้ ด้านในมีการจัดโซฟาเอาไว้หลายตัวเลยครับ ให้ลูกบ้านมานั่งเล่น มีพื้นที่ให้เด็กๆมาวิ่งเล่นกลางวันได้ ตกแต่งเป็นวัสดุกรุด้วยไม้ ซึ่งจะมาตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทำให้ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ

ที่ด้านนอกกลางแจ้งจัดเป็นพื้นที่ทางเดินเล่น และก็มีลานยกสเต็ปเล็กๆขึ้นมา

ลานยกสเต็ปเล็กๆขึ้นมา จะมีการก่อที่นั่งพร้อมเบาะนอนเล่นเอาไว้ให้ เหมาะแก่การมานั่งนอนเช่นตอนเย็น ที่อากาศดีๆ

ที่สุดผนังปลายสวนหย่อมตรงข้ามกับส่วนศาลานั้น จะมีการตกแต่งเป็นม่านน้ำตกเล็กๆ ตรงจุดนี้มันจะได้เรื่องของ “เสียงน้ำไหล” เวลาเราเดินมาใกล้ๆ มันได้ได้ยินเสียงน้ำทำให้ผ่อนคลายหน่อยครับ

ปิดท้ายส่วนกลางกันด้วยมุมนี้ เป็นพื้นที่ลานอเนกประสงค์อีกจุด นับว่าเป็นโครงการที่ส่วนกลางจัดมาได้ดีครับ บรรยากาศต่างๆภายในโครงการดูเรียบร้อยสวยงามสะอาดตาทีเดียว และทีสำคัญแชร์ริ่งการใช้งานไม่เยอะด้วยแค่ 42 ยูนิตเท่านั้น

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Club House แยกส่วน 3 ชั้น
  • ชั้น 1 จัดเป็น Lobby / Sauna แยกชาย หญิง
  • ชั้น 2 สระว่ายน้ำระบบคลอลีน แบ่งสระเด็ก ขนาด 3.1 x 4.8 ม. สระผู้ใหญ่ขนาด 5.5 x 16.20 ม.
  • ชั้น 2 ห้องอ่านหนังสืออเนกประสงค์ ขนาดประมาณ 4 x 4 ม.
  • ชั้น 3 Fitness ขนาด 6.5 x 10 ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 ชนิด 14 เครื่อง
  • ชั้น 3 Meeting Room
  • พื้นที่สวนหย่อมประมาณ 1 ไร่ครึ่ง
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 26 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 4-6 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Main Entrance : Easy pass long Range System รั้วกั้นไม้กระดก
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • Double Gate : Easy pass long Range System ประตูอัตโนมัติ
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Door/Window Magnetic Sensor, Motion Sensor,Digital Door lock
  • ถนนหลักกว้าง 14-16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.


Product Walkthrough

หน้าตาภายนอกบ้านของแบบ ALLURE หรือที่เรียกสั้นๆว่า A โดยจะมีขนาดที่ดินอยู่ที่ 70-86 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 451 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ดีไซน์ตัวบ้านจะเป็นบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก โครงการนี้ที่ดินรอบๆบ้านจะเหลือแค่พอจัดสวนหย่อมได้ ไม่สามารถทำพวกสระว่ายน้ำส่วนตัวอะไรแบบนี้ได้นั่นเอง หน้าตาของบ้านเป็น Modern Contemporary ที่ดูทันสมัยดีและเน้นช่องแสงกระจกเยอะครับ

ผังบ้านแบบ ALLURE การจอดรถแบบ 3 ที่จอด จะเป็นการเรียงตัวเข้าไปไม่ต้องซ้อนคันกันครับ จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือมีการเจาะช่องกลางบ้าน (ถ้าในแปลนจะเขียนว่า Gadern ที่อยู่ติดถัดจากที่จอดรถ) ซึ่งเจ้าช่องนี้แหละเรียกว่าเป็นความเก๋ของบ้านหลังนี้ เป็นแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติให้เชื่อมผ่านถึงกันได้ทุกชั้นเลย

ที่ชั้น 1 นั้นจะเป็น Common Area ที่โถงรวมหลัก ที่เชื่อมฟังก์ชันของทานอาหารและนั่งเล่นเอาไว้ มีการกั้นแยกครัวปิดเอาไว้ให้ด้วยเป็นสัดส่วน และมีห้องน้ำที่ชั้นล่างที่เป็นแบบสามารถอาบน้ำได้กรณีเผื่อมีแขกมาใช้งาน และส่วนของ Maid แม่บ้านนั้นแยกส่วนการใช้งานไว้ด้านนอกบ้านเลยครับ ไม่วุ่นวายกับเจ้าของบ้าน

ที่ชั้น 2 ฟังก์ชันหลักๆมีแค่ 3 อย่างคือ Master Living / Master Bedroom / Master Bathroom ซึ่งเจ้า Living ที่ชั้นสองเนี่ยทำออกมาดีกว่าชั้นแรกอีกนะครับ เป็นแบบเพดานสูงพิเศษด้วย เพราะฉะนั้นส่วนของชั้นล่างเอาไว้เป็นรับแขกครับ ที่ชั้นนี้สำหรับคนในครอบครัวมาเจอกัน ส่วนของห้องนอนใหญ่นั้นเรียกว่ากินพื้นที่ไปถึง 60% ของชั้นนี้เลยล่ะ ฟังก์ชันนี่ครบมาก มีแยกทั้งห้องทำงาน ระเบียง พื้นที่นั่งเล่น เตียงนอน  WalkinCloset และห้องน้ำ

ซึ่งบ้านตัวอย่างเค้าไม่ได้ติดตั้งรั้วบริเวณหน้าบ้านโครงการมาให้ดู แต่ว่าของจริงนั้นจะเป็นรั้วแบบอลูมิเนียม พร้อมระบบรีโมทเลื่อนไฟฟ้าครับ ที่จอดรถด้านหน้าจะเป็นแบบการเรียงตัว 3 คันต่อเนื่องกันเลยครับโดยจะมีหน้ากว้างส่วนของจอดรถอยู่ 8 เมตร (ลงเข็มเท่าแค่ตัวบ้านนะครับ)

ที่ด้านหน้าติดกับส่วนของที่จอดรถ นั้นมีการทำห้องเล็กๆ 2 ห้องฟังก์ชันสำหรับเป็นที่เก็บของชิ้นใหญ่อาทิเช่นจักรยาน อุปกรณ์ทำสวน ซ่อมบำรุง ฯลฯครับ และรูปล่างซ้ายที่เราเห็นนั้นคือช่อง Void ที่เค้าตั้งใจออกแบบให้มีช่องอยู่กลางบ้าน เพื่อเป็นจุดที่สร้างแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้าไปในตัวบ้าน

พื้นที่ดินด้านข้างบ้านฝั่งขวามือ ก็สามารถจัดเป็นสวนหย่อมเล็ก อันนี้แล้วแต่เจ้าของบ้านเลยว่าจะจัดเป็นแบบไหน สามารถพอทำพวกบ่อปลา น้ำตกตกแต่งได้อยู่นะครับ

จากบริเวณเฉลียงหน้าบ้าน มุมนี้เราจะเห็นว่ามีจุดที่เป็นที่นั่งเล็กเอาไว้สำหรับนั่งถอดใส่รองเท้า ก่อนเข้าออกบ้านนะ

และฝั่งซ้ายมือนั้นจะเป็นการ Access ไปในส่วนของเมด หรือแม่บ้านนั่นเอง ซึ่งจะมีห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านอยู่ติดกัน

ฝั่งด้านหลังบ้านเป็นส่วนของงานซักล้าง และมีเคาน์เตอร์ซิงก์มาให้ (และที่เห็นผนังยื่นออกมานิดหน่อยทาสีเทา) ตรงนั้นจะเป็นห้องเก็บของอีกจุดนึง

เข้ามาด้านในตัวบ้านกันแล้วนะครับ ประตูทางเข้านั้นจะให้เป็นบานไม้สักแท้ มีการเจาะช่องแสงแทรกไว้หน่อย โครงการมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ด้วยนะ โดยพื้นที่ส่วนแรกนั้นเป็น Foyer หรือพื้นที่เตรียมตัวต่างทั้งเก็บของ เก็บรองเท้า

ผนังด้านนี้ (อยู่ซ้ายมือเวลาเปิดประตูเข้าบ้านมา) นั้นเป็นตำแหน่งที่อยู่ใต้บันได้พอดีก็จะกลายเป็นพวกพื้นที่เก็บของ เก็บรองเท้าของสมาชิกภายในบ้าน

โถงทางเดินจุดแรกทางซ้ายมือจะแจกทางไปบันไดทางขึ้นชั้นบนได้ และไปส่วนกลางบ้านซึ่งเป็นลักษณะโถงรวมกว้างๆ อ้อ ความสูง Floor to ceiling ของบ้านนี้คือ 2.70 เมตรนะครับ

ตรงกลางบ้านนั้นจะเจอกับพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดให้ดูว่าเป็น Dining Area ตรงนี้แล้วแต่ว่าจะจัดเอาโต๊ะกลมหรือโต๊ะเหลี่ยมมาลงได้ทั้งสองแบบเลยครับเพราะมีพื้นที่สบาย อีกทั้งโครงการทำฝ้าหลุมซ่อนไฟหลืบเอาไว้ด้วย

ผนังฝั่งนี้เหมาะสำหรับจะทำเป็น Built-In ตู้โชว์ของสะสมต่างๆ อย่างบ้านตัวอย่างก็จัดเป็น Wine Collection มาให้ดูเป็นไอเดีย และที่เห็นประตูทางขวามือสุดเป็นส่วนของห้องน้ำที่ชั้นล่าง

ห้องน้ำที่ชั้นล่าง ถึงแม้จะไม่มีห้องนอนอยู่ชั้นล่าง แต่ก็เป็นห้องน้ำแบบฟูลออฟชั่นที่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย เผื่อมีแขกมาใช้ก็ได้นะครับ โดยจะเห็นว่าเค้าปูพื้นกรุผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวดูสบายตา รอบๆเคาน์เตอร์อ่างเป็นหินแกรนิตสีดำ พวกสุขภัณฑ์ต่างๆภายในบ้านหลังนี้จะเลือกใช้เป็นยี่ห้อ Roca ทั้งหมดนะครับ

ชุดฝักบัวชั้นล่างจะเป็นหน้าตามาตรฐานทั่วไปหน่อยเพราะสำหรับแขก ที่ดีก็คือมีการเปิดช่องแสงแต่เป็นกระจกบานฟิคใรพื้นที่อาบน้ำ พร้อมพ่นฝ้า ทำให้ไม่ต้องเขินอาย

กลับออกมาโถงรวม Common Area อีกครั้ง จากมุมนี้จะเห็นว่าช่องแสง หรืผนังกระจกจะมีการเปิดถึง 3 ด้านด้วยกัน ซึ่งตำแหน่งเหนือมุมโต๊ะรับประทานอาหารเนี่ย เหมาะกับเป็นมุมโชว์แชนเดอเลียหรือโคมไฟเก๋ๆ สำหรับบ้านแพงด้วยนะครับ

มุมเปิดช่องแสงของฝั่งหลังบ้านจะเป็นกระจกบานขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าวันไหนอากาศดีๆก็เปิดออกได้ 2 ตอน เป็นบานสวิงครับ พวกกรอบบานเป็นอลูมิเนียมพาวเดอร์โค๊ททั้งหมดซึ่งจะมีทั้งดำเงาและดำด้าน

พื้นที่ตรงนี้ที่ติดกันเปิดส่วนของทางเข้าโซนครัวครับ ซึ่งโครงการทำประตูแบบรางเลื่อนเอาไว้ให้

ประตูกระจกรางเลื่อนบนแบบ Oversize มีข้อดีคือเราไม่ต้องกลัวจะเดินสะดุด เตะ รางที่พื้นครับ ทำให้การใช้งานต่อเนื่องสบาย และกั้นโซนเป็นครัวปิดทำอาหารจริงจังได้ จากมุมนี้เราจะเห็นส่วนของพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบเดียวกับห้องโถงเชื่อมต่อเข้าไปในห้องครัว

โครงการตามมาตรฐานนั้น จะไม่ได้ให้ชุดครัวมานะครับ ส่วนนี้เป็นการตกแต่ง Decorate เพื่อให้ดูเป็นแนวทางในการตกแต่งเท่านั้น ซึ่งเจ้าของบ้านแต่ละหลัง ก็สามารถจัดสรรปันส่วนในการตกแต่งครัวในรูปแบบความต้องการของตัวเองได้ไปเลยครับ (ที่ปลายผนังยังมีเปิดช่องแสงด้วย มีช่องแสงทุกฟังก์ชันจริงๆแหะ)

มุมนี้สวยดีครับ มี Island ขนาดใหญ่อีกอันนึงก็ดูดีน่าใช้งานทำอาหารร่วมกันดี

ด้านล่างที่เราจะเห็นหน้าตาของสวิชท์ไฟในบ้านนี้ จะเป็นแบบหน้าตาที่ดูดียกระดับขึ้นมาของยี่ห้อ MOX / สิ่งสำคัญอีกอย่างของบ้านระดับบนที่ต้องมีคือ สัญญาณกันขโมย ระบบรักษาความปลอดภัยครับ (เจ้าแผงด้านบน)

โดยตัวบ้านแต่ละหลังมาตรฐานนั้นจะติดระบบ Door/Window Magnetic Sensor และเสริมไปอีกขั้นในตัวบ้านด้วย Motion Sensor ทุกชั้นนะครับ ไม่ใช่แค่ชั้น 1-2 และยังมีเทคโนโลยี Home Automation ที่สามารถควบคุมสั่งการเปิดปิด ไฟ แอร์ ผ่านทางมือถือได้อีกด้วย

หันไปมองทางฝั่งหน้าบ้านกันต่อครับ เจ้าช่องเปิด Slylight ที่ฝั่งหน้าบ้านนั้น โครงการเค้าแจ้งว่า จริงๆแล้วตรงนี้ถ้าใครอยากได้ลิฟต์ในตัวบ้าน ตำแหน่งที่จะติดตั้งเพิ่มนั้นก็ตรงนี้แหละครับ ต้องมาดูว่าแต่ละครอบครัวไหนจำเป็นต้องใช้ลิฟต์ไหม และเดินต่อไปด้านในจะเป็นส่วนของ Living Area

Living Area เรียกว่าพื้นที่กว้างขวางมากๆ ที่ผนังด้านข้างนั้นเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งทำหน้าที่คู่อีกอย่างเป็น Window Display เอาไว้ชมสวน บ่อปลาย พันธุ์ไม้ต่างบนที่ดินด้านข้างบ้านที่เจ้าของบ้านเป็นคนจัด / ในส่วนพื้นที่ตรงนี้จะมีการทำฝ้าหลุมตกแต่งอีกจุดนึงครับ ซึ่งเราจะเห็นว่าระยะดูทีวีนั้นกว้างมากๆ แน่นอนว่ามีทั้งพื้นที่และระยะแบบนี้ สามารถวางจอไซส์ใหญ่พิเศษตั้งแต่ 60 นิ้ว+ขึ้นไปได้เลย

พื้นที่วางโซฟานั้น จริงๆแล้วเราไม่ต้องวางแบบบ้านตัวอย่างได้นะ เพราะมันมี Space ให้เล่นอีกเยอะ จะจัดเป็นตัว I เต็มพื้นที่ หรือตัว L-Shape และ U-Shape ก็ได้ทั้งนั้น

เอาล่ำไปต่อกันที่ชั้น 2 ครับ ส่วนแรกที่เห็นจะเป็นชานพักบันได้แบบจตุรัสพักทางก่อนจะเลี้ยวซ้าย

ตัวบันไดปูพื้นด้วยไม้จริง(มะค่า) มีการติดตั้งมีจับราวกันตกมาให้เลย พวกระยะลูกนอนในการเดินเหยียบ ทำออกมาได้มาตรฐานดีครับเดินเต็มแผ่นเท้า พอขึ้นมาที่ชานพักที่สองจะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ากลับตัวง่าย เดินสบาย อีกทั้งจุดนี้ยังเปิดช่องแสงบานคู่(แบบฟิค)เอาไว้ให้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นที่ตรงนี้คือ โถงทางเดิน ที่แจกทางไปยังส่วนต่างๆ เริ่มจากขวามือนั้นคือ Master Living ครับ ตรงกลางคือ Master Bedroom และซ้ายมือเป็นบันไดทางขึ้นไปต่อ

Master Living ผมว่าตอนแรกเจอพื้นที่ Living ด้านล่างก็ใหญ่แล้วนะ อันนี้ดู Space ดีกว่าอีก เพราะเป็นแบบพื้นที่เพดานสูงพิเศษ ทำให้ได้ปริมาตรของพื้นที่มากและรับแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้เยอะ

ที่ด้านข้างของประตูที่ผมเพิ่งเข้ามานั้น จะเห็นพื้นที่เว้าเข้าไป ซึ่งบ้านตัวอย่างเค้าจัดให้ดูเป็นไอเดียทำ Pantry ที่มีงาน Sink และวางตู้เย็น เผื่อใครจะหยิบขนม อาหารว่างมาทานง่ายๆก็ตรงนี้

ผนังนี้ตรงเปิดเอาไว้รับแรงกลางบ้านจากตัว Skylight Void และยังเชื่อมต่อไปถึงชั้นบนอีกด้วย

อ้อ ผมลืมแจ้งไปนิดนึงครับ ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปที่เป็นส่วนของพักอาศัย ตัวพื้นทั้งหมดจะปูด้วย ปาร์เก้ไม้มะค่า แล้วนะครับ ไม้จริงเต็มแผ่นนะครับไม่ใช่ Engineering Wood ซึ่งหลังๆบ้านแพงหลายโครงการไม่ยอมให้ไม้จริงทั้งหมดแบบนี้แล้ว

ด้วยความสูงของเพดาน ในส่วนของฝั่งชั้นวางทีวีก็อาจจะทำเป็นชั้นโชว์ของสะสมที่ด้านบน เพราะไม่เหมาะกับการหยิบของพวกนั้นบ่อยๆครับ มันสูงงงง จะต้องใช้บันไดมาช่วยในการหยิบแต่ละครั้ง จากมุมนี้เราจะเห็นประตูกระจกบานเลื่อนเป็นแบบสูงพิเศาด้วย

ที่ด้านนอกมีพื้นที่ระเบียงในตัวครับ ให้สามารถมาปรับอารมณ์ยืนสูดอากาศได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติผิวกันลื่น และมีกันตกด้วยกระจกนิรภัยที่มีการเว้น Gap ให้ลมวิ่งผ่านเล็กๆ(ช่วยผ่อนเรื่องการแรงลมกระแทกได้ด้วย) และพื้นที่นั้นยาวต่อเนื่องไปเป็นตัว L ยังฝั่งหน้าบ้าน

ตรงฝั่งหน้าบ้านทางเดินจะไม่ได้กว้างมากครับ ก็พอเดิน 1 คนได้อยู่ มีส่วนของก๊อกติดตั้งมาให้ และผนังไม้ที่เราเห็นก็เป็นส่วนนึงของ Facade ตกแต่ง

ไปต่อกันที่ Master Bedroom

เข้ามาด้านในจะเจอกับฟังก์ชันที่จัดเป็นโต๊ะทำงาน ห้องทำงานแบบปิดกั้นโซนก่อน

ฝั่งซ้ายมือของโต๊ะทำงานนั้นจะมีส่วนออกไประเบียงด้านนอก

พื้นที่ระเบียงห้องนี้จะใหญ่พิเศษหน่อยครับ มีการเปลี่ยนตัวกันตกเป็นเหล็กโปร่งมาแทน เพราะไม่ต้องโชว์แบบฝั่งหน้าบ้านแล้ว

ด้านบนมีการทำชายคาระแนงเหล็กยื่นออกไปนิดหน่อย เพื่อลดเฉดของแสงแดดลงที่จะเข้าไปในพื้นที่ห้องทำงาน

ส่วนทางขวามือของห้องทำงาน ก็มีเจ้าประตูกระจกบานเลื่อนแบบทำรางบนเอาไว้อีกแล้วครับ เป็นแบบ Oversize เช่นเคย สูง 2.70 เมตร

โดยถ้าเราเข้ามาเดินตรงเลยจะเจอกับส่วนของพื้นที่ทั้งนั่งเล่นก่อน และถัดไปก็เป็นมุมเตียงนอนเลย ไม่ได้กั้นโซนเอาไว้ เพราะต้องการให้เป็นพื้นที่ที่ดูกว้างขวางโอโถ่สมกับเป็นห้องนอนใหญ่ของบ้าน

Space บริเวณพื้นที่วางเตียงนั้นเรียกว่าสบายครับ จริงๆตรงนี้แล้วแต่ถ้าใครรู้สึกว่าพื้นที่มันยังอยากจะลงเฟอร์นิเจอร์อะไรได้อีกก็จัดมาตามความชอบของแต่ละบุคคล

ตรงนี้ขอเสริมนิดนึงครับ การนอนดูทีวี ด้วยระยะที่กว้างแบบพิเศษ ที่ไม่เหมือนหับห้องปกติทั่วไป การวางทีวีแบบบ้านตัวอย่างแล้วนอนดู ผมลองดูแล้วครับ เอาจริงๆ มันไกลไปยิ่งถ้าใครดู Netflix แบบเปิดซับไทยนะ อ่านไม่ออกแน่นอน แต่วิธีแก้มันก็มีนะครับ ทางแรกคือ เลือกทีวีไซส์ใหญ่พิเศษแบบ 65 นิ้วขึ้นไป, วิธีที่สอง คือ ติดตั้งเป็นจอโปรเจคเตอร์ไปเลยครับ

ถัดมากที่กลางห้องของ Master Bedroom จะมีส่วนของทางเดินมายังพื้นที่บริเวณนี้ Walk in Closet (เปิดช่องแสงฝั่งหลังบ้านไว้ด้วย)

Walk in Closet ขนาดใหญ่ครับ หายห่วงไม่ต้องกลัวทั้งคุณสามีภรรยาจะต้องแย่งพื้นที่กันแล้ว ที่ปลายทางเดินเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้อยู่ และตรงกลางจัดเป็นเคาน์เตอร์ที่เก็บพวกเครื่องประดับได้

ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ติดกันกับ Walk in Closet อาบน้ำเสร็จจะได้ออกมาแต่งตัวได้เลย

ภายใน Master Bathroom นั้นกว้างมากๆ โดยเราจะเห็นว่าพื้นและผนังทั้งหมดจะใช้เป็นกระเบื้องลายหินธรรมชาติ (ที่พื้นจะเป็นแบบผิวด้านกันลื่น และผนังเป็นแบบผิวเงา)

เคาน์เตอร์รอบอ่างนั้นยาวมากพิเศษ รวมไปถึงมีการทำชั้นตู้เก็บของใต้พื้นที่อ่างมาด้วยครับ

ด้านบนเป็นอ่างคู่ His&Her แบบนี้ ท๊อปจะเป็นหินแกรนิตสีดำยาวต่อเนื่องกันมา วางพวกข้าวของเครื่องใช้ได้เยอะดี

ถัดมาตรงกลางห้อง ที่เราเห็นเด่นๆคือส่วนของอ่างอาบน้ำแบบฝัง เป็นระบบจากุชชี่ด้วย ซึ่งตรงนี้เค้าสามารถเปิดม่านมูลี่ออกรับวิวได้ด้วยนะครับ อ้อตรงนี้นี้มีข้อควรระวังนิดนึง เวลาใช้งานมันจะยกมีการก้าวข้ามระดับปีนขึ้นลงเล็กน้อย อาจจะต้องใช้ความระวังด้วยครับ

ฟังก์ชัน จากกุชี่ที่มาพร้อมกับตัวอ่าง ลงไปแช่ 2 คนขนาดกำลังดีเหมาะ

ทางฝั่งซ้ายมือของห้องน้ำมีการแยกเป็นส่วนๆ ทั้งสุขภัณฑ์ และพื้นที่ยืนอาบ

ส่วนของสุขภัณฑ์จะได้เป็นตัวอัพเกรดขึ้นมาหน่อย ยังคงเป็นของ Roca นะ แต่เป็นพวกอัตโนมัติแบบสั่งการด้วยรีโมท ทั้งการ Flushing และเป่าลมต่างๆ

พื้นที่ยืนอาบ ที่อยู่ข้างๆกันจะกั้นด้วย Shower Box กระจกนิภัยครับ โดยชุดฝักบัวจะเพิ่มเจ้า Rain Shower ขึ้นมา และเป็นระบบแยกน้ำร้อนน้ำเย็น

ซึ่งเอ้ย เจ้าตรงพื้นที่อาบน้ำข้างๆ ยังมีประตูกระจกบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่ด้านนอกได้อีก

นี่ครับ เค้าเผื่อมาว่าเผื่อใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศในการอาบน้ำแบบ Semi Outdoor ในวันที่อากาศดีๆก็ออกมาใช้ตรงนี้ เรียกว่าให้เปลี่ยนอารมณ์ในการอาบน้ำได้หลากหลายดีแหะ

ไปต่อกันที่ชั้น 3 ครับ

ตำแหน่งของบันไดจะเหมือนกับชั้นแรกที่เราขึ้นมา

แต่จะมีการเจาะช่องแสงที่ผนังด้านหลังของทางเดินแบบ 2 ชั้นสูงพิเศษช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติมายังโถงทางเดินบันได้นี้

แปนชั้น 3 และชั้นลอย จะเป็นส่วนของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ซึ่งฝั่งด้านหน้าบ้านจะไม่มีห้องและนะครับ เพราะเป็นพื้นที่ของ Maste Living ที่กินจากชั้น 2 ไปแล้ว ในห้องนอนทั้งสองนั้น จะมีความพิเศษคือเป็นแบบเพดานสูงพิเศษ หรือหลายๆที่มักเรียกว่าแบบ Loft ที่สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสองชั้นได้ ซึ่งห้องนอนทั้งคู่ก็จะมีฟังก์ชันครบครันมาก ทั้งห้องน้ำในตัว มีระเบียง มีมุมนั่งทำงาน นั่งเล่นจบในตัว ไม่แพ้ห้องนอนใหญ่เลยล่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ต่อจากชานพักบันได พื้นที่ส่วนเว้าตรงนี้ โครงการจัดมาให้ดูเป็นไอเดียว่าสามารถทำเป็นมุมห้องพระได้ครับ

โถงทางเดินส่วนนี้จะเป็นแบบเพดานสูง เดินขนานไปกับช่องแสงของเจ้า Skylight

นี่ครับ เจาช่อง Void ใจกลางบ้านที่เริ่มมาตั้งแต่ชั้นแรก มาสิ้นสุดบนนี้ เป็นแหล่งให้แสงธรรมชาติในบ้าน

ส่วนของทางเดินจะมีสิ้นสุดตรงนี้เป็นหน้าห้องของลูกๆทั้ง 2 คน เราไปดูห้องซ้ายมือกันก่อน

นี่ครับอย่างที่ผมบอกไปห้องนอนลูกๆ เป็นแบบเพดานสูงพิเศษ (Lofts) ที่สามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสองชั้นได้ ซึ่งบ้านมาตรฐานจริงๆจะเป็นบ้านเปล่านะครับ อันนี้ก็ดูเป็นไอเดียในการตกแต่งกันไปได้เลย ว่าอยากให้ลูกเรามีมุมฟังก์ชันในการใช้งานในห้องอะไรบ้าง

มีห้องน้ำและระเบียงในตัวอีกด้วย ซึ่งยังคงคอนเซปท์เดิม เน้นการเผิดผนังกระจกช่องแสงให้เชื่อมต่อเห็นกันได้ทุกส่วน

ภายในห้องน้ำก็เป็นฟังก์ชันครบมาตรฐาน การใช้งานจะเป็นแบบเรียงตัวกันไป พอมีการเปิดช่องแสงที่ฝั่งซ้ายมือ(ตรงข้าม) ทำให้ห้องน้ำดูโปร่งโล่งสบายตามเพิ่มขึ้นมากจริงๆครับ

ตัวพื้นและผนังใช้เป็น Pattern แบบเดียวกันคือกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว ระยะการเดินไปมาและยืนอาบน้ำสบายครับ ไม่มีอะไรติดขัด

การจะออกไประเบียงก็เปิดประตูที่ตรงนี้ จากในห้องน้ำครับ โดนด้านนอกจะทำระแนงกึ่งทึบกึ่งโปร่งบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ให้

 

กลับเข้ามาในตัวห้องนอนอีกครั้ง ขอลองเดินขึ้นไปดูข้างบนหน่อย ในตัวตัวห้องนี้ผมลองทดสอบจริง ลูกนอนยังเดินได้โอเคอยู่นะ ไม่หวาดเสียวอะไรมาก มีมือจับกันตกมาให้ หรืออาจจะเพิ่มกระจกนิรภัยฝั่งนี้เองอีกก็ได้

ขึ้นมาแล้ว พื้นที่ด้านบนเค้าก็จะจัดเป็นฟังก์ชันโซฟานั่งเล่นแบบตัวยาก พร้อมทั้งพื้นที่วางเตียงมาให้ดู

ซึ่งระยะความสูงนั้น ผมนั้นสูง 180 ซม. ยืนตรงนี้ยังไม่รู้สึกว่าจะใกล้ชนหัวอะไรเลยครับ เรียกว่าตรงนี้สามารถทำเป็นพื้นที่นอนใช้งานได้จริง แต่อาจจะต้องใช้แอร์ที่มี BTU สูงหน่อย เพราะห้องมีปริมาตรค่อนข้างมากครับ

ห้องนอนอีกห้อง พอเราเข้ามาแล้วนั้นจะดูแตกต่างออกไปครับ

โดยเริ่มจากซ้ายมือ จะเป็นพื้นที่เหมาะแก่การตู้ตู้เสื้อและโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะตำแหน่งนั้นอยู่ติดกับหน้าห้องน้ำพอดี

ในห้องน้ำก็จะคล้ายๆกัน

ต่างกันก็ตรงพื้นที่อาบน้ำจะแยกมาอีกฝั่งตรงข้ามอ่างล้างมือ ซึ่งได้พื้นที่อาบค่อนข้างกว้างมาก

ยังไม่ลืมจะอันนี้เป็นระเบียงจิ๋วหน่อย แค่พอออกไปตากผ้าเล็กๆ ลงกระถางต้นไม้ เปิดประตูระบายความชื้นออกเท่านั้น

ในห้องก็ยังเป็นแบบเพดานสูงเช่นเดียวกัน แต่ห้องนี้จะจัดส่วนของเตียงนอนเอาไว้ชั้นล่างเลย แต่จากที่ผมเดินขึ้นบันไดห้องนี้ มีข้อสังเกตนิดหน่อยว่า ลูกนอนพื้นเหยียบบันไดของห้องนี้มีความสั้นมากกว่า เดินได้ไม่เต็มแผ้นเท้า อันนี้ต้องระวังนะครับ เพราะมันเป็นส่วนที่จะทำให้ลื่นล้มกันได้ง่ายมาก

ตำแหน่งของเตียงนอนอยู่ที่ชั้นล่างตรงนี้ก็ง่ายดีครับ และติดกันทางขวาที่มีหน้าต่างนั้นจะเป็นส่วนของ Skylight Void กลางบ้าน

ที่ชั้นบนนั้นจัดฟังก์ชั่นเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน อ่านหนังสือ และนั่งทำงานนั่นเองครับผม

โดยจะมีการติดตั้งกันตกเป็นกระจกนิรภัยพร้อมมีมือจับมาให้ด้วย


ส่วนของบ้านตัวอย่างอีกแบบที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปดูมา คือ แบบ E หรือ Elegance นั่นเองครับ แต่ว่าจะไม่ได้มาอธิบายฟังก์ชันทุกรูป เพราะไม่ฉะนั้นรีวิวมันจะยาวมากๆ แต่มีภาพเป็น Gallery มาให้ดูหลักๆเกือบทั้งหลังแหละครับ

  • ELEGANCE  ที่ดิน 68.70-98.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 603 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท

โดยอันดับแรกจะเห็นก่อนเลยว่า ตัวบ้านมีความเด่นในเรื่องของ “พื้นที่ใช้สอย” บ้านที่ขึ้นมาถึง 600 ตร.ม.ได้ต้องเป็นกลุ่มของครอบครัวใหญ่ที่อยู่กันได้ 3 Generation แน่นอน(พ่อ แม่ ลูก ปู่ย่า อะไรพวกนี้) เพราะจำนวนห้องนอนมีถึง 5 ห้อง และตัวบ้านแบบนี้มีการติดตั้งลิฟต์มาให้เสร็จสรรพครับ เพราะฉะนั้นการจัดสรรให้ใครอยู่ชั้นไหนห้องไหนก็ไม่ใช่ปัญหาเลย

วิธีการจอดรถของบ้านหลังนี้จะต่างออกไปนิดหน่อยโดยจะต้องซ้อนสอง เพื่อจะได้จอดเป็น 4 คันครับ ที่ชั้นล่างก็มีห้องนอนเอาไว้ และมีการแยกส่วนเมดแม่บ้านเอาไว้ด้านนอกเช่นกัน

และที่ชั้น 2 ยังคงจัดฟังก์ชันเป็น Master Living / Master Bedroom / Master Bathroom เอาไว้เช่นเคยครับ ส่วนโถงยังมีการทำเป็น Void ที่สูงถึง 6 เมตร ตรงนี้เป็นเสมือนพื้นที่นั่งเล่นกันในครอบครัว กรณีที่มีแขกมานั่งคุยอยู่ชั้นล่างก็แยกส่วนกันได้

ชั้น 3 โถงทางเดินนั้นจะทำหน้าที่แจกทางไปยังห้องนอนอีก 3 ห้องที่เหลือ โดยที่ทุกห้องนอนเล็ก ยังคงได้คอนเซปท์ฝ้าเพดานสูง Lofts แบบ้านก่อนหน้าที่พาไปดูครับ คือมีบันไดในตัวห้องแบบการใช้งานได้

ชั้นสุดท้ายเป็นชั้นลอย มีทางขึ้นมาเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์(ในตัวบ้าน) เหมาะสำหรับทำเป็นห้องพระก็ได้ และที่ด้านนอกเป็นส่วนของระเบียงขนาดใหญ่ ที่สามารถอกไปจัดปาร์ตี้ BBQ กันได้ หรือตกแต่งสวนกระถางเพิ่มเติมก็ได้

Image 1/48
1

1

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

และโครงการนี้ทางเรา Thinkofliving ได้พาไปดูในรูปแบบ VDO รายการ คิด.เรื่อง.อยู่ ด้วยนะครับ ซึ่งบ้านตัวอย่างจะเป็นคนละแบบกับที่พาเขียนมาด้วย สามารถคลิกเพื่อเข้าไปดูได้เลย

ราคาและเงื่อนไขการขาย @5 November 2018

  • ALLURE  ที่ดิน 70.30-86 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 451 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
  • BLESS  ที่ดิน 60.50-86.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 497 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท
  • CROWN  ที่ดิน 69.60-136 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 618 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท
  • DIAMOND  ที่ดิน 60.40-100.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท
  • ELEGANCE  ที่ดิน 68.70-98.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 603 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท (update 11/7/2023)

  • จอง 200,000 บาท
  • ทำสัญญา 350,000 บาท
  • รวมดาวน์แล้วทั้งหมดคิดเป็นประมาณ 20%
  • ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ทำเลของโครงการนี้ ถือเป็นจุดเดนสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านในย่านของพระราม 2 ตอนต้น หรือใครอิงกับสุขสวัสดิ์บริเวณนี้ก็ยิ่งดีใหญ่ครับ เพราะจริงๆถนนพระราม 2 นั้นยาวมาก อีกทั้งจุดแข็งอีกอย่างคือการใช้ “ทางด่วนเฉลิมมหาคร” ทั้งขาขึ้นและขาลง เรียกว่ามันมีระยะเพียง 1 กิโลเศษเท่านั้น ใครที่เข้าเมืองหรือไปทางพระราม 3 ก็สะดวกสุดๆ, อนาคตในอีก 6-7 ปีข้างหน้าไม่แน่อาจจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้มาเปิดได้ใช้กัน ระยะห่างราว 900 เมตร ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในย่านพระราม 2 กับสุขสวัสดิ์ แถวนี้ก็จะมีพวกศูนย์การค้า ซูปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆอยู่ใกล้ๆหลายเจ้าอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วง รวมถึงมีพวกโรงเรียน สถานศึกษา และโรงพยบาลเอกชนให้เลือกอยู่เช่นกัน ก็เป็นย่านที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยครับ แถวนี้เป็นแหล่งโชว์รูม หรือบจก.เยอะพอสมควร เป้นย่าน SME แห่งนึงก็ว่าได้

ความปลอดภัย – โดยระบบรักษาความปลอดภัยจะเป็นแบบ Double Gate มีประตูสองชั้นนะ ถ้ามีแขกมาเยี่ยมหรือมาหาไม่นาน รถแขกเหล่านั้นจะถูกจอดรออยู่บริเวณหน้า Club House ซึ่งก็จะไม่ไปวุ่นวายกับลูกบ้านด้านใน การจะผ่าน Gate มาได้จะเป็นระบบ RFID และรั้วรอบโครงการจะเป็นคอนกรีตทึบสูง 3-6 เมตร มีการติดตั้ง CCTV ในโครงการเรียกว่าทุกส่วน และส่วนภายในตัวบ้านจะมี สัญญาณกันขโมย ระบบ Door/Window Magnetic Sensor, Motion Sensor, Digital Door lock มาให้ ถือว่าความปลอดภัยที่นี่ดีเยี่ยมแน่นหนาครับ

การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – ตัวบ้านนั้นมีถึง 5 แบบ ซึ่งวันที่ผมเข้าไปดูได้แค่ 2 แบบเท่านั้น อาจจะขอพูดถึงได้แค่ 2 แบบที่เหม็นคือ A , E นะครับ หน้าตาของบ้านเป็นแนวร่วมสมัยหน่อย โมเดิร์น เลย พยานามแฝงวัสดุธรรมชาติเอาไว้ จุดเด่นของบ้านโครงการนี้ ถ้าใครดูส่วนภายในบ้านแล้วจะรู้เลยว่า เค้าสนใจให้ความสำคัญกับช่องแสงธรรมชาติมากพิเศษ เรียกว่าเห็นกันเกือบทุกจุดและทุกฟังก์ชันเลย ซึ่งมันก็จะทำให้บ้านดูสว่างโปร่งโล่ง ดูกว้างสบายตา แต่ก็จะร้อนหน่อย

บ้านนั้นทำมาหลายแบบมาก ก็เลยมีให้เลือกกับหลายครอบครัว 3-5 ห้องนอน, มีลิฟต์ ไม่มีลิฟต์ อะไรพวกนี้ครับ ซึ่งโดยรวมเค้าจัดฟังก์ชันออกมาได้ดีนะครับ ยิ่งเฉพาะบ้านที่ติดตั้งลิฟต์มาจากทางโครงการให้เลย เพราะว่าบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยและจำนวนชั้นเยอะๆแบบนี้ กับระดับราคาเริ่มถึง 35 ล้าน 39 ล้านบาท (update 11/7/2023)เอาจริงๆคนที่ซื้อได้ก็คงมีอายุไม่น้อยแล้วเช่นเดียวกันนะครับ การจะเดินขึ้นไปหาลูกมันก็อาจจะเหนื่อยๆหน่อยนะครับ

วัสดุ – ภายในโครงการจะได้ของทางค่อนข้างมาตรฐาน สมกับราคาที่จ่ายไปอยู่นะครับ การให้ไฟ LED ฝ้าหลุม, พื้นชั้น 1 เป็นแกรนิตโต้ แต่ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจะเป็ไม้จริง ปาร์เก้ไม้มะค่าทั้งหมด ภายในบ้านเน้นกระจกเยอะมากๆแบบเจอทุกห้อง ทุกโซนครับ (กระจกมันแพงนะ) พวกสุขภัณฑ์จะได้เป็นของ Roca ทั้งหลังเลย ในห้อง Master Bathroom จะพิเศษหน่อยมีอ่างจากุชชี่ และตัวรีโมทสุขภัณฑ์, พวกพื้นบันไดก็ไม้จริงนะ รวมถึงประตูหน้าบ้านเป็นไม้สัก และในตัวบ้านมีให้ระบบ Home Automation เสริมเข้ามาด้วยครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ภายในโครงการสร้างความร่มรื่นโดยการลงต้นไม้ที่ริมถนนเมนโครงการ แบบจัดเต็มมาก หน้าบ้านถนนรอง และมีพื้นสวนหย่อมแยกออกไป ที่จัดสวนได้น่าใช้งาน โดยรวมแล้วมีพื้นที่สีเขียวประมาณ 1 ไร่ครึ่ง ถือว่าโอเคครับ

สาธารณูปโภค – ถือว่าโครงการนี้จัดพื้นที่ส่วนกลางออกมาได้ “สวยและน่าใช้” และแชร์กันน้อยด้วยแค่ 42 ครอบครัวเท่านั้น การจัดบรรยากาศในโครงการของบ้านแพง นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากครับ ซึ่งที่นี่ดูเรียบร้อยดีทั้งถนนในโครงการ สายไฟสายเคเบิ้ลลงใต้ดิน ต้นไม้หนาแน่นตา มีสวนหย่อม ศาลาพักผ่อน ทางเดินฟังเสียงน้ำตก และแยก ClubHouse เอาไว้ส่วนตัว ยังอุตสาห์สร้างสระไว้ชั้น 2 ให้เพื่อลูกบ้านจะได้ Private ในการใช้งานครับ

 

Judgement

โครงการ Astera Pride พระราม 2 นั้นถือเป็นโครงการระดับ SUPER LUXURY CLASS ที่ขายอยู่ในช่วงราคาตั้งแต่ 35 ล้านบาทขึ้นไป 39 ล้านบาทขึ้นไป (update 11/7/2023) ทำให้ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการลักษณะนี้นะครับ

BOTTOM LINE

Astera Pride พระราม 2 ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ติดถนนหลัก ในโซนพระราม 2 ตอนต้น เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนมากพิเศษ จำนวนยูนิตไม่มาก เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อาศัย  เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบ้านที่พื้นที่ใช้สอยมาก อยู่กันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ 3 Generations และมีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบจบในโครงการ สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 35 ล้านบาทขึ้นไป(อย่าลืมเพิ่มเติมค่าตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์เข้าไปด้วย) เรียกว่าต้องไม่มีข้อจำกัดเรื่องงบทางการเงินพอสมควรแล้วครับผม