เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 บ้านเดี่ยวใกล้ รพ.ศิริราช สไตล์ Modern Heritage บนถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว จาก แสนสิริ [รีวิวฉบับที่ 2286]

Setthasiri Charan – Pinklao 2 (เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2) ณ วันที่ 21 กันยายน 2564

เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 บ้านแห่งความภาคภูมิ 16-17 ต.ค. 2564นี้ เปิดบ้านตัวอย่างดีไซน์ใหม่ล่าสุด Contemporary Chinese Style พร้อมฟังก์ชัน Double Volume โปร่ง โล่ง และนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น PM 2.5 รองรับทุก Generation ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตอย่างพิถีพิถัน รับข้อเสนอพิเศษสูงสุด 8 แสน ราคา 12-25 ล้าน* โทร 1685

พิกัด Google Maps : 13.767388, 100.459228
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 ตั้งอยู่บนถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว เป็นถนนตัดใหม่ที่มีทางเข้า-ออกหลักจากถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน(ห่างถนนแยกบางขุนนนท์ 160 เมตร) ส่วนการเข้าถึงโครงการนั้นสามารถเข้าได้จาก 4 ทางหลักๆ คือถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี ถนนราชพฤกษ์(ใช้ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35) และถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4(ถนนปากน้ำฝั่งเหนือ) เชื่อมกับถนนแก้วเงินทอง ซึ่งเป็นทางลัดที่ไม่ต้องไปเสี่ยงรถติดบนถนนใหญ่ภายนอก

นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ ห่างไปประมาณ 2.2 กม. หรือไปใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชัน ระยะประมาณ 4 กม. และทางด่วนพิเศษศรีรัช วงแหวนรอบนอกฯ ด่านตลิ่งชัน 3.1 กม. เชื่อมกับทางด่วนศรีรัช(ไปแจ้งวัฒนะ,ดินแดง) ที่เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย

ถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว เป็นซอยที่มีความเงียบสงบเนื่องจากเป็นโซนหมู่บ้านจัดสรร มีรถสัญจรผ่านเพื่อใช้เป็นทางลัดอยู่เรื่อยๆเลยนะคะ ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร ให้ใช้ถนนแก้วเงินทองนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนเก่าที่มีทั้งวัด ตลาด และร้านค้า ร้านอาหาร 2 ฝั่งทางเต็มไปหมด ในขณะที่ถนนหลักอย่างถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชันซึ่งเป็นถนนตัดใหม่นั้น ก็มีร้านค้าให้เห็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างรอการพัฒนา

จุดเด่นของทำเลนี้เรียกว่าเป็นจุดกึ่งกลางของห้างร้านและการคมนาคมจะดีกว่านะ และเป็นทำเลที่ต้องพึ่งรถยนต์ส่วนตัวจึงจะสะดวกนะคะ โดยเราสามารถเลือกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตบนถนนจรัญสนิทวงศ์อย่าง Makro หรือ Food Land และตลาดบางขุนศรีก็ได้ หรือจะลัดมาโซนราชพฤกษ์ที่มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ อย่าง The Circle ราชพฤกษ์, The Walk ราชพฤกษรวมถึงมีความเจริญเกาะกลุ่มอยู่ตลอดแนวถนนราชพฤกษ์ ครบครันทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด หาของกินได้ตลอดเส้นทาง และแหล่งรวมห้างที่คึกคักที่สุดก็จะต้องไปแถว Central ปิ่นเกล้า ที่ถนนบรมราชชนนีเลยค่ะ

ที่น่าสนใจของย่านนี้คือใกล้รพ.ศิริราชเพียง 4 กม. ซึ่งปัจจุบันมีสะพานข้ามถนนจรัญฯ ไปถนนสุทธาวาส เพื่อไปใช้ถนนอรุณอัมรินทร์ไปศิริราช หรือเข้าเมืองได้ง่าย ต้องบอกว่าโครงการแนวราบในย่านนี้ถือเป็น Rare item เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนเก่าแก่ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่เต็มพื้นที่เลยนะคะ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัยกระจายตัวอยู่หลายแห่ง

เส้นทางการเดินทางในวันนี้

สำหรับการเดินทางในวันนี้ขอเริ่มบนถนนจรัญสนิทวงศ์บริเวณ MRT จรัญฯ 13 ขับรถผ่านแยกไฟฉายไป ขับตรงไปสักพักใกล้ๆกับ MRT สถานีบางขุนนนท์ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนเลียบทางด่วนตลิ่งชัน(ก่อนถึงแยกบางขุนนนท์) ขับตรงไปประมาณ 1.8 กม. ให้เราเลี้ยวซ้ายถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว(สังเกตเห็นคอนโด dCondo Tann อยู่หน้าปากซอย) ขับเข้าไปประมาณ 600 เมตร โครงการจะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยชุมชุมดั้งเดิม สลับกับที่ดินเปล่ารอการพัฒนาของบุคคลอื่น ประกอบด้วย

• ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ดินของบุคคลอื่นรอการพัฒนา
• ทิศตะวันตก : ติดกับ ถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว ซุ้มประตูทางเข้าหลักของโครงการ
• ทิศใต้ : ติดกับ ที่ดินเปล่ารอการพัฒนา + บ้านพักอาศัยดั้งเดิม
• ทิศตะวันออก : ติดกับ บ้านพักอาศัยดั้งเดิม

ถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว เป็นถนน 4 เลน บรรยากาศเงียบสงบ ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สีเขียวรอการพัฒนา

ถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนแก้วเงินทองค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Food Land จรัญสนิทวงศ์ – 3.4 กม.
• Makro จรัญสนิทวงศ์ – 3.5 กม.
• พาต้า ปิ่นเกล้า – 4.1 กม.
• Central Plaza ปิ่นเกล้า – 4.5 กม.
• Food Villa ราชพฤกษ์ – 4.8 กม.
• The Circle ราชพฤกษ์ – 4.8 กม.
• Homepro จรัญสนิทวงศ์ – 4.9 กม.
• Major ปิ่นเกล้า – 7.2 กม.

โรงพยาบาล

• รพ.ศิริราช – 4 กม.
• รพ.ศิริราช ปิยมหาการุณย์ – 4.2 กม.
• รพ.ธนบุรี – 5 กม.
• รพ.ยันฮี – 8 กม.

โรงเรียน

• มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ – 7.1 กม.
• มหาวิทยาลัย ศิลปากร วังท่าพระ – 8.2 กม.
• โรงเรียน เซนต์คาเบรียล สามเสน – 8.5 กม.
• มหาวิทยาลัย มหิดล ศาลายา – 16 กม.

เส้นทางคมนาคม

• รฟฟ.สายสีน้ำเงิน สถานีบางขุนนนท์ – 2.2 กม.
• ทางด่วนพิเศษศรีรัช วงแหวนรอบนอกฯ ด่านตลิ่งชัน – 3.1 กม.
• รฟฟ.สายสีแดงอ่อน สถานีตลิ่งชัน – 4 กม.
• รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม สถานีบางหว้า – 8.1 กม.

Master Plan โครงการ เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 ลักษณะแปลงที่ดินจะมีเหลี่ยมมุมมากหน่อย แต่การจัดวางภายในแล้ววางแปลนได้ค่อนข้างดีไม่ซับซ้อนค่ะ ขนาดที่ดินทั้งหมดของโครงการนี้อยู่ราวๆ 63 ไร่กว่า โดยจะมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 222 ยูนิต ก็นับเป็นโครงการขนาดกลางๆ ไม่น้อย และไม่มากเกินไป

หากจะถามว่าตำแหน่งแปลงตรงไหนน่าสนใจบ้างในโครงการ ส่วนตัวเรามองอยู่ 2 จุดด้วยกันค่ะ จุดแรกคือบ้านที่อยู่โซนหน้าโครงการ ใกล้ซุ้มประตูทางเข้า+คลับเฮ้าส์ ที่เดินมาใช้งานได้ง่าย มองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ชัดเจน(ปัจจุบันโซนนี้ Sold Out แล้วนะคะ) ส่วนถ้าใครชอบความเงียบสงบหน่อย เราแนะนำบ้านโซนด้านล่าง(เฟสปัจจุบัน) โดยเฉพาะโซนที่เป็นซอยย่อยมีบ้านพักอาศัยในซอย 4-5 หลัง ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

ก่อนไปดูบรรยากาศภายในเราขอเกริ่นถึงคอนเซ็ปต์ของโครงการ เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากเรือนไทยหมู่คหบดี ที่สะท้อนความเป็นไทยในแบบ Modern Heritage ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน เน้นความโอ่อ่าสวยงาม โทนสีอบอุ่น ที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ + พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น พร้อมนวัตกรรมต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ก่อนเข้าไปดูโครงการขอเกริ่นก่อนว่าที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัย LIV24 ของแสนสิริมาให้ ซึ่งเป็นการยกระดับความปลอดภัยให้สูงมากขึ้น เป็นระบบสังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัย Security Monitoring ได้แก่

• CCTV-Video Analytics : ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ มีรอบโครงการทั้งหมด 45 จุด
• Real-Time guard tour : ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real-Time
• Digital Fence : รับสัญญาณแจ้งเตือนการบุกรุก Digital Fence เวลามีสิ่งผิดปกติ
• Visitor Management System : ระบบบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อที่ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ โดยสามารถบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ และทะเบียนรถยนต์

ซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ติดกับบนถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว ดูโอ่อ่าดี ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงสี่เหลี่ยมของลานกลางบ้านเรือนไทยหมู่คหบดี ที่มีความหมายถึงการต้อนรับแขกคนสำคัญของครอบครัวอย่างมีระดับ และสง่างาม

บริเวณด้านข้างมีทางคนเดินแยกใช้งานกับรถยนต์เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัด Landscape สวยงาม มองเห็นป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่บนหินอ่อน และมองไปด้านหลังเป็นอาคาร Clubhouse สไตล์ Modern Heritage สวยดี

ซุ้มประตูทางเข้ามีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง และแบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่งเพื่อให้การสัญจรรถยนต์ภายในโครงการเป็นระบบระเบียบ และดูแลความปลอดภัยได้ทั่วถึง

ทางเข้า Entrance Access ให้เข้าออก 2 ช่องทาง แยกระหว่างผู้พักอาศัย และแขกผู้มาเยือน พร้อมติดตั้ง RFID Sensor ใช้งานเหมือน Easypass บนทางด่วน เพื่อความสะดวกในการเข้า-ออกโครงการของผู้อยู่อาศัย และมีระบบ Visitor Management System รวมถึง CCTV ทั้งหมด 7 ตัว ที่บันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อเพื่อความปลอดภัยอย่างครบวงจร

หลังจากขับผ่านไม้กั้นกระดกเข้ามาจะมี Transition Space ก่อนเข้าโครงการ โดยบริเวณนี้จะมีรั้วประตูเหล็กบานเลื่อนไฟฟ้าสูง 3 เมตร ซึ่งจะปิดในเวลาค่ำคืนเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านที่มากขึ้น รวมถึงภายในโครงการมี CCTV ดูแลความปลอดภัยมากถึง 45 ตัวค่ะ

ถนนหลักภายในโครงการเป็นคอนกรีตมาตรฐานกว้าง 12 ม. พร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่กระจายทั่วโครงการ ซึ่งปัจจุบันเริ่มโตแล้วทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นดีทีเดียว / ส่วนความสูงรั้วโครงการจะอยู่ที่ 3 เมตรนะคะ

Clubhouse ลักษณะอาคารปิดล้อม เพื่อความเป็นส่วนตัว และลดเสียง,มลภาวะจากภายนอกโครงการ โดยมีแนวต้นไม้ช่วยกรองฝุ่นละอองและเสียงจากภายนอกได้ส่วนหนึ่งนะคะ ส่วนไอเดียการออกแบบมาจากบ้านเรือนไทย โดยกระจายเป็นอาคารเล็กๆ เพื่อให้มีพื้นที่ Open Air พร้อมหลังคาสูงโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ได้แก่

• ออกแบบช่องเปิดรับแสงธรรมชาติมีแผงบังแดดด้านทิศตะวันตก,ทิศใต้ ใช้ Landscape เป็น Shading ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ก่อนเข้าสู่ตัวอาคาร
• มีการเปิด Courtyard ตรงกลางอาคาร เพื่อเชื่อมอาคารแต่ละจุดเข้าด้วยกัน ทำให้มี Open Air ให้อากาศหมุนเวียนภายในได้ดีมากยิ่งขึ้น
• ภายในมีการวางสระว่ายน้ำ,บ่อน้ำไว้ตรงกลางยาวต่อเนื่องถึงพื้นที่สวนหย่อม เพื่อให้พื้นที่ใช้งานมีความชุ่มชื้น เย็นสบายมากขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างบรรยากาศให้น่าใช้งาน

การซ้อนแผงฝาเรือนหลายชั้น ช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาในอาคาร และมีการออกแบบผนัง 2 ชั้น + กระจกสีเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อน ประหยัดไฟค่าส่วนกลางได้

• Shading : ช่วยกรองแสงธรรมชาติ ลดการกระทบแสงแดดแรงโดยตรง
• Window Sizing : หน้าต่าง และช่องแสงขนาดใหญ่ เปิดระบายอากาศ พร้อมมุมมองเปิดสู่สวนภายนอก
• Side Shading : ช่วยบังแสงแดดจากด้านทิศตะวันตก และทิศใต้ สู่ตัวอาคาร
• Double Skin Wall : ผนังก่ออิฐ 2 ชั้น ลดความร้อนก่อนเข้าสู่ตัวอาคาร

อาคาร Clubhouse ของโครงการตั้งอยู่ติดกับซุ้มประตูทางเข้าเลย ลักษณะเป็นหลังคาทรงจั่วตามสไตล์ Modern Vernacular Architecture โดยถอดแบบการวางผังมาจากเรือนไทยหมู่คหบดี ซึ่งไม่เคยเห็นแบรนด์เศรษฐสิริ ทำตัวอาคารลักษณะแบบนี้มาก่อนนะคะ โดยการแบ่งเป็นอาคารเล็กๆแยกกันเหมือนบ้านเรือนไทยในสมัยก่อน เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้มากยิ่งขึ้น พร้อมผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัวดี  ตัวอาคารออกแบบให้มี Shading ช่วยลดความร้อน และดูมิติการใช้งานมากขึ้น

พื้นที่ส่วนกลางรองรับการใช้งานแบบ Universal Design โดยออกแบบให้มีทางลาดในการใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ทั้งเด็กๆที่เดินขึ้นลงได้ง่าย และผู้สูงอายุที่ใช้งานรถเข็นได้สะดวก

ทางลาดออกแบบให้มีช่องแสงส่องเข้ามาได้ พร้อมหลังคา Slope เอียงที่ดูสง่างามมากขึ้น ผนัง 2 ฝั่งก่ออิฐสีเทาขาว พร้อมไฟส่องสว่างในยามค่ำคืน ส่วนตัวรู้สึกเหมือนร้านคาเฟ่เท่ๆเลยนะคะ ^^

สำหรับอาคารคลับเฮ้าส์เค้ามีชื่อเรียกนะ ชื่อว่า “SALA RIM NAAM” (ศาลาริมน้ำ) ชื่อน่ารักดีนะ อิอิ ^^ มีบันไดเป็นอีก 1 ตัวเลือกให้ใช้งาน เรามาเริ่มกันที่อาคารแรกกันก่อนนะคะ โดยเริ่มที่พื้นที่ Lobby ของตัวอาคารได้ความสูงแบบ Double Volume บรรยากาศโปร่งโล่ง พร้อม Shading ต่างๆ ช่วยลดความร้อนก่อนเข้าสู่ตัวอาคารค่ะ

เดินเข้ามาเป็นลานตรงกลาง ก่อนกระจายไปยังฟังก์ชันใช้งานอื่นๆ

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนต้อนรับ(Lobby) ที่จัดเป็น Double Volume ได้ความโปร่งโล่ง แบ่งจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนและโซฟายาว ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกของลูกบ้าน หรือเราจะมานั่งเล่นรับลมชิวๆก็ได้นะคะ

สังเกตพอมี Shading ด้านหน้าจะช่วยลดแสงแดดแรงที่จะเข้ามาด้านในอาคาร โดยบริเวณนี้จะมีหน้าต่างให้เราเปิด-ปิดใช้งานได้เอง

เดินมาดูพื้นที่ Co-working Space กันก่อน โดยอยู่ถัดจาก Lobby เมื่อกี้เลยนะคะ ภายในได้ความสูงแบบ Double Volume เช่นกัน Mood&Tone สไตล์คาเฟ่เก๋ๆ เหมาะกับแม่ค้าออนไลน์ ที่ต้องหามุมถ่ายรูปบ่อยๆนะ

พื้นที่ภายในจัดที่นั่งไว้หลากหลายเช่นกัน ทั้งโต๊ะประชุมยาว และที่นั่งได้ 1-2 คน ที่เรา สามารถใช้เป็นที่นั่งทำงาน หรือนั่งเล่นพักผ่อนได้ชิวๆ

พื้นที่ Courtyard ตรงกลาง ลักษณะ Open Air โดยทางโครงการเลือกวางสระว่ายน้ำไว้ด้านใน เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน และร่มเงาจากอาคารด้านข้าง ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันนะคะ / บริเวณด้านข้างสระมีพื้นตื้นๆระดับเท้า + ที่นั่งเล่น ที่เราสามารถมานั่งแช่เท้าสบายๆ โดยไม่ต้องลงไปว่ายน้ำก็ได้นะ เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบค่ะ

สระว่ายน้ำของที่นี่ก็มีเอกลักษณ์ชัดเจน โดยทางโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากสีของเม็ดมะปราง(สีม่วง) ซึ่งสะท้อนเสน่ห์อย่างไทย และมีความหมายถึงชนชั้นสูง+ความหรูหราในวัฒนธรรมสากล

สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 8 x 24 m. ที่เราสามารถว่ายน้ำจริงจังได้เลย แถมถ้าบ้านไหนมีเด็กๆ โครงการก็แบ่งพื้นที่สระเด็กมาให้ขนาด 8 x 23.2 m. ลึก 60 ซม. ใช้งานได้กำลังดี

จุดสำหรับล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ ข้อดีคือมีทั้งฝักบัวแบบ Hand & Rain Shower ที่เราสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยมีแนวต้นไม้ช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้นิดหน่อยค่ะ

ทางเดินภายในมี Cover Way เดินใช้งานได้เวลาฝนตกจะได้ไม่เปียก ด้านข้างมีสวนหย่อมเล็กๆ พร้อมบ่อน้ำ + Sculpture สวยงาม หรูหราดี

ภายในมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงชัดเจน ภายในมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ล็อกเกอร์ครบครัน พร้อมเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าดีไซน์สวยงามทีเดียว

เดินไปดูพื้นที่ชั้นบนของอาคารคลับเฮ้าส์กันต่อ โดยมีเฉพาะบันไดให้เดินใช้งานนะคะ ซึ่งบริเวณนี้ออกแบบมาให้มองเห็นพื้นที่สีเขียว และรับลมได้ดี พร้อมการตกแต่งที่ได้ดีไซน์มาจากบ้านเรือนไทย เป็นการลดทอนที่ดูหรูหรา สวยงามดี

ชั้นบนมีทางเดิน Cover Way ไปห้องออกกำลังกาย(Fitness) ซึ่งระหว่างทางไปมีที่นั่งเล่น 2 ฝั่งทาง โดยมีทั้งแบบ Indoor & Outdoor

พื้นที่สวนหย่อมแบบ Roof Garden ที่มีม้านั่งคอนกรีตแนวยาวให้นั่งเล่นรับลมชิวๆ โดยบริเวณนี้ เราจะสามารถมองออกไปด้านนอกโครงการได้เลยนะคะ

ห้องออกกำลังกาย(Fitness) ได้ความสูงแบบ Double Volume พื้นที่ภายในขนาดใหญ่เป็นห้องแอร์ ที่สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคน

ภายในมีทั้งเครื่องเล่น Cardio & Weight Training รวมแล้วประมาณ 7-8 เครื่องยี่ห้อ Reebox โดยมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้งาน นอกจากนี้ยังมีช่องแสงมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและสวนหย่อมภายนอกได้ค่ะ

เราเดินไปพื้นที่สวนหย่อมด้านข้างอาคารคลับเฮ้าส์กันต่อนะคะ โดยบริเวณนี้มีบันไดทางลงพร้อมต้นไม้ให้ร่มเงา บรรยากาศร่มรื่นดีนะคะ

สระว่ายน้ำลักษณะ Infinity Edge Pool หรือสระน้ำล้นไหลลงมาเป็นบ่อน้ำด้านล่าง ที่ช่วยให้อากาศบริเวณนี้เย็นมากยิ่งขึ้น

บริเวณสวนหย่อมขนาดใหญ่รวมแล้วเกือบ 4 ไร่กว่า เนื่องจากโครงการเปิดมาสักพักแล้วเราจะเห็นว่าต้นไม้โตเต็มวัยแล้ว บรรยากาศร่มรื่นดี ภายในมีม้านั่งเล่น และลานกลางแจ้งลักษณะทำเป็นเนินสูงต่ำสลับไปมาให้ดูมีมิติไม่น่าเบื่อ ให้เราพาเด็กๆมาวิ่งเล่น หรือมานั่งเล่นปิคนิกกับครอบครัวก็ได้นะ

สำหรับสนามเด็กเล่น Education Playground จัดแบ่งโซนไว้เป็นสัดส่วนดี มีการออกแบบที่คงคอนเซ็ปต์ความเป็นไทย รูปทรงเรือสื่อสารถึงความเป็นไทย พร้อมอุปกรณ์และเครื่องเล่นต่างๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ / พร้อมพื้นยางป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นของเด็กๆได้

ถัดมามี Pavilion กลางสวน เหมือนศาลาริมแม่น้ำขนาดใหญ่แบบ Semi-Outdoor พร้อมเก้าอี้ม้านั่งรูปตัว U แบบล้อมวง ให้เรามานั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อนบ้านบริเวณนี้ได้นะคะ

บริเวณด้านข้างศาลามีพื้นที่ Sansiri Backyard เป็นไอเดียของทางแสนสิริ ที่มีแนวคิดในการสร้างสรรค์เมนูอาหารจากผลผลิตการเกษตรในท้องถิ่นที่สดใหม่ ตามฤดูกาล จากฟาร์มที่ปลอดภัยจากสารเคมี ในรูปแบบของ “The Backyard Farm to Table” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Healthylicious” ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ยกตัวอย่างพืชผักสวนครัวที่ปลูกภายในโครงการ เช่น เตยหอม, ฟ้าทลายโจร, กระเพราขาว และมะนาว

ถนนรองกว้าง 8 m. มีทางเดินเท้าแยกกับส่วนถนน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยพื้นปูหญ้าสีเขียวมาให้เรียบร้อย สวยงามดีค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• พื้นที่สวนหย่อม + อาคารคลับเฮ้าส์ 4 ไร่กว่า
  – Sansiri backyard
  – Educational Playground
• อาคาร Clubhouse
  – Lobby
  – Co-Working Space
  – สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8 x 24 m.
  – สระว่ายน้ำเด็ก ขนาด 8 x 23.2 m.
  – ห้องออกกำลังกาย
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 45 ตัว
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Key Card Access ระยะไกล ระบบ RFID
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูเลื่อนไฟฟ้า(ปิดตอนกลางคืน)
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
• Smart Camera with Spotlight บริเวณโรงจอดรถในบ้าน 1 จุด

โครงการ เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 โปรดักส์จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นทั้งหมด ซึ่งมีขนาดให้เลือก 3 แบบด้วยกัน โดยที่ดินมาตรฐาน 51-80 ตร.วา

• TARYN+ (ธารินทร์ พลัส) ที่ดินมาตรฐาน 51-55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ครัวไทย
  – ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
• BENJAMIN (เบญจามินทร์) ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ห้องแม่บ้าน / ครัวไทย
  – ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท
• TRINITY+ (ตฤณนิธิ พลัส) ที่ดินมาตรฐาน 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 322 ตร.ม.
  – ทั้งหมด 13 ยูนิต
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ห้องแม่บ้าน / ครัวไทย
  – ราคาเริ่มต้น 21 ล้านบาท

โครงสร้างบ้านเป็น Precast Concrete หรือผนังสำเร็จรูป ซึ่งเป็นวัสดุอันดับต้นๆ สำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ เพราะสามารถลดปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างบ้านแบบสมัยก่อนได้ดี เนื่องจากเป็นผนังสำเร็จมาจากโรงงาน ตัวผนังจะเรียบและแข็งแรงทนทานเท่ากันทั้งผืน ไม่เหมือนเวลามีช่างมาทำหน้างานที่อาจจะไม่เรียบเนียน แต่ก็มีข้อเสียเพราะผนังแบบนี้จะไม่สามารถทุบผนังได้เลย แต่ก็ยังพอที่จะสามารถเจาะผนังเพื่อแขวนของเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆที่ได้เป็นมาตรฐานคือ

• Elderly Care Design Solution : ออกแบบให้มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ + พื้น Absorption Floor ที่มีความยืดหยุ่น เวลาล้มจะได้ไม่เจ็บมาก
• Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
• Kitchen : ชุด Built-in ครัว(แบบบ้านตัวอย่าง) พร้อม Hob&Hood ครบครัน

จุดเด่นของบ้านโครงการนี้ คือการออกแบบบ้านให้มีระบบ Cool living Designed Home หรือการออกแบบให้ตัวบ้านเย็นขึ้นด้วยนวัตกรรมต่างๆ พร้อมอุปกรณ์โดยมีด้วยกันทั้งหมด 8 จุด ได้แก่

1. Dust Free House : บ้านปลอดฝุ่นติดตั้งระบบฟอกอากาศและฆ่าเชื้อโรค 5 ขั้นตอน ช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ทำให้อากาศภายในห้องหมุนเวียน และป้องกันควบคุมฝุ่นภายนอก เพื่อบ้านที่เต็มเปี่ยมด้วยออกซิเจนจากธรรมชาติ และปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
2. Solar Attic : เป็นระบบพัดลมและช่องระบายอากาศ ช่วยลดความร้อนใต้หลังคา โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากโซล่าเซลล์ รวมไปถึงมีเครื่องมือควบคุมรายงานติดไว้ที่ฝ้าเพดานภายในบ้านให้ด้วยค่ะ
3. Breeze Panel : แผงช่องลมระบายอากาศ ซึ่งติดตั้งไว้กับประตูและหน้าต่างภายในบ้าน
4. Shading Screen : แผงระแนงช่วยบังแดด และบังสายตาจากภายนอกได้ดี นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น Facade ตกแต่งรูปลักษณ์บ้านให้สวยงาม
5. Green Glass : โครงการเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อน จากแสงแดดที่จะเข้าไปภายในบ้านได้ประมาณ 20%
6. UV Shield Color : สีทาภายนอกพร้อมเคลือบสารช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดดออกนอกตัวบ้าน
7. Smart Camera with Spotlight : กล้องนิรภัยภายนอกที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่าง ตรวจจับความเคลื่อนไหวด้วยรังสี Infrared และแจ้งเตือนผ่านมือถือ พร้อมไมโครโฟนและลำโพง เพื่อพูดคุยกับคนที่อยู่หน้ากล้อง
8. EV Charger : สำหรับแบบบ้าน TRINITY+ (ตฤณนิธิ พลัส) โครงการเตรียมจุด Power Supply (Junction Box) สำหรับชาร์จรถยนต์รถไฟฟ้าเพิ่มเติม

แปลนชั้น 1 แบบบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน มีประตูทางเข้าบ้านด้านหน้า 3 จุด จากที่จอดรถ, ทางเข้าหลัก และห้องนอนชั้นล่าง ภายในบ้านแบ่งโซนกว้างๆแบ่งเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนพักผ่อน เปิดประตูมาเจอพื้นที่ Double Volume ด้านหน้า ต่อเนื่องกับพื้นที่ Common Area กลางบ้านยาวจนถึงด้านหลัง (ห้องนั่งเล่น+ส่วนรับประทานอาหาร) ซ้ายมือสุดมีห้องนอนชั้นล่าง+ห้องน้ำในตัว ส่วนฝั่งขวามือเป็นโซน Back of House ที่มีพื้นที่ Pantry+ห้องครัวปิด ต่อเนื่องกับห้องแม่บ้านด้านนอกค่ะ

แปลนชั้น 2 ถัดขึ้นไปด้านบนเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยชั้นบนมีพื้นที่พักผ่อน Family Area ที่สามารถมองเห็นประตูทางเข้าหลักของบ้านได้ กรณีมีแขกมาบ้าน คนในบ้านก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้นั่งเล่นพักผ่อนแทนได้นะคะ สำหรับชั้นนี้จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน + ห้องน้ำในตัว สำหรับห้อง Master Bedroom มีส่วน Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัวได้ชิวๆ

TRINITY+ (ตฤณนิธิ พลัส) ที่ดินมาตรฐาน 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 322 ตร.ม. สำหรับบ้านหลังใหญ่มีเพียง 13 ยูนิตเท่านั้น โดยเป็นบ้านแปลงมุมทั้งหมดเลยนะคะ ทำให้มีพื้นที่สวนรอบบ้านเยอะมากขึ้น ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ห้องแม่บ้าน / ครัวไทย ในราคาเริ่มต้น 21 ล้านบาท

ประตูทางเข้าที่จอดรถเป็นประตูรั้วเหล็กพ่นสีเทามาตราฐานแบบนี้ทุกหลัง โดยเราสามารถติดตั้งเครื่องเปิด-ปิดแบบ Automatic ที่สั่งงานผ่านรีโมทเพิ่มเติมเองได้

ด้านข้างมีประตูสำหรับคนเดินแยกใช้งานมาให้ เวลาคนเดินจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตูบ้านใหญ่ บริเวณหน้าบ้านมีป้ายบ้านเลขที่ชัดเจน พร้อมกริ่งให้ใช้งานเรียบร้อย

พื้นที่รอบบ้านปูพื้นหญ้าสีเขียวมาให้เป็นมาตรฐาน พร้อมติดตั้งแทงค์น้ำและปั๊มน้ำมาให้ใช้งานเรียบร้อย สำหรับบ้านตัวอย่างตกแต่งบ้านมาให้ดูเป็นไอเดียที่เราสามารถออกแบบตามได้นะคะ ดูร่มรื่นน่าใช้งานดี

ถัดเข้ามาส่วนที่จอดรถมีการทำพื้นทรายล้างมาให้แบบนี้ ส่วนโครงสร้างนั้นแบ่งออกเป็น 2 Joint ด้วยกัน พื้นที่ในร่มลงเสาเข็ม Slab On Beam ป้องกันการทรุดตัวในอนาคต / พื้นที่จอดรถกว้าง 7.65 m. ซึ่งระยะความกว้างนี้สามารถจอดรถขนาดเล็ก-กลางได้ 3 คัน แบบพอดีการใช้งาน

บริเวณที่จอดรถมีทางลาดรองรับการใช้งานแบบ Universal Design + ประตูทางเข้าทางฝั่งที่จอดรถ ที่เวลาจอดรถแล้วต้องการยกสัมภาระของต่างๆ เข้าบ้านได้สะดวก

ติดตั้ง Smart Camera with Spotlight ที่โรงจอดรถ 1 จุด / แถมด้านข้างยังมีจุดรองรับเครื่อง EV Charger Box ด้วยนะ ถ้าใครใช้รถไฟฟ้าก็สามารถติดเพิ่มเติมได้ค่ะ

บริเวณประตูทางเข้าหลักฝ้าเพดานสูงถึงชั้น 2 ดูโอ่โถงดีเลย / ประตูทางเข้ามีเฉลียงหน้าบ้าน (Transition Space) โดยยกระดับพื้นขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อแยกโซนทางเข้าพร้อมหลังคาคลุมป้องกันแดดและฝน สำหรับประตูหน้าต่างเป็นกระจกสีเขียว ช่วยกรองแสงและความร้อนได้ดีขึ้น

ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อน ที่มีช่องระบายอากาศ BREEZE PANEL สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ ช่วยให้อากาศถ่ายเท และระบายความร้อนภายในตัวบ้าน บรรยากาศภายในบ้านจึงปลอดโปร่งสดชื่น ไม่อึดอัด

สำหรับโครงการนี้หน้าต่างบางจุดติดตั้ง Breeze Panel เป็นช่องลมระบายอากาศซึ่งถูกติดตั้งไว้กับประตูและหน้าต่าง ที่สามารถเปิด-ปิดได้ตามต้องการ ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าต่างนะคะ

เดินเข้ามาเป็นพื้นที่แบบ Double Volume สูงประมาณ 5.9 m. ช่วยทำให้ตัวบ้านมีความโปร่งโล่ง ได้ชุดประตูหน้าต่างสูง ช่วยเพิ่มมุมมองให้เห็นพื้นที่สวนด้านข้างบ้านได้อย่างเต็มที่

ถัดมาเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ วางยาวตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน ที่สามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ / ระยะดูทีวีประมาณ 3.3 m. ไซส์ทีวีที่เหมาะสมคือประมาณ 50″-55″ จอใหญ่เต็มสายตาพอดี

สำหรับบ้านตัวอย่างวางชุดโซฟายาวสำหรับ 4-5 ที่นั่ง ส่วนฝั่งตรงข้าม Built-in เป็นตู้เก็บของเพิ่มเติม ซึ่งโครงการเลือกใช้คอนเซ็ปต์ Contemporary Chinese Style ที่ตกแต่งด้วยผนังสีแดง และดีไซน์ที่สื่อถึงความเป็นจีนนิดๆ

ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารต่อเนื่องกับ Pantry ครัว โดยตั้งอยู่ติดโซนหลังบ้านที่เราสามารถมองออกไปเห็นสวนรอบบ้านได้ โดยบริเวณเราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 5-6 ที่นั่งได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะแบบ Long Table สำหรับ 8-10 ที่นั่งก็ได้สบายๆเลยนะคะ

ห้องนอนชั้นล่างออกแบบมาให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ เริ่มจากพื้น Absorption Floor ที่มีความยืดหยุ่น เวลาล้มจะได้ไม่เจ็บมาก

ภายในวางเตียง 5-6 ฟุต ได้สบายๆเลยนะคะ พร้อมพื้นที่เหลือวางโต๊ะหัวเตียง, ตู้วางหนังสือ และเก้าอี้เพิ่มเติมได้

ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือวางโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีเพิ่มเติมได้

ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนออกไปสวนหย่อมหน้าบ้าน ซึ่งสวนบริเวณนี้จะมีโต๊ะกลางแจ้งให้เราเดินออกไปนั่งรับลมชิวๆตอนเช้าและยามเย็นได้ง่ายๆ

มองกลับไปอีกฝั่งด้านในเป็นส่วนของห้องน้ำในห้องนอนกันค่ะ

ทางเข้าห้องน้ำได้เป็นประตูบานเลื่อนกว้าง 1 m. ที่รถเข็น Wheel Chair สามารถเข้าได้สะดวก / ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า+โต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้นะคะ

สำหรับห้องน้ำนี้จะแตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ ระดับพื้นห้องน้ำเสมอกับพื้นห้องนอนเลย ไม่มี Step ป้องกันการสะดุดล้ม เพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ โดยจะใช้รางระบายน้ำ Floor Drain ป้องกันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก

อุปกรณ์ภายในครบครันมีทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler / พื้นที่อาบน้ำส่วนเปียกประมาณ 1.38 x 0.9 m. สามารถยืนอาบหรือนั่งอาบก็ได้ พร้อมจุด Junction box เตรียมไว้ให้สำหรับติดเครื่องทำน้ำร้อนเองได้ ส่วนผนังด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ถัดไปดูส่วน Back of House กันต่อนะคะ สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารต่อเนื่องกับ Pantry ครัว + ห้องครัวปิด ที่เราสามารถเดินใช้งานได้สะดวกค่ะ

อีกฝั่งเป็น Pantry ครัว ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งบริเวณนี้เหมาะทำเป็นครัวฝรั่ง เอาไว้เตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ ไม่เน้นทำอาหารจริงจัง เพราะด้านหลังมีครัวปิดแยกใช้งานมาให้แล้ว

ห้องครัวปิดได้ชุดครัวหน้าตาแบบนี้เลยนะคะ ลักษณะเคาน์เตอร์ปูนที่มีความแข็งแรง พร้อมปิดผิวด้วยกระเบื้องสวยงาม / ส่วน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ หน้าบานตู้เป็นเมลามีนแบบ Hi-gloss เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย รวมๆถือว่าให้ชุดครัวมาจัดเต็มทีเดียว ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นแสนเลยนะคะ

ชุด Built-in ครัว เราจะได้หน้าตาแบบนี้เลยนะคะ ภายในติดตั้ง Hob&Hood ยี่ห้อ MEX และซิงค์ล้างจานหลุมเดี่ยว พร้อมใช้งาน รวมถึงด้านล่างมีถังขยะมาให้แล้วด้วยนะคะ

ด้านข้างมีตู้ Built-in สำหรับเก็บของเพิ่มเติม โดยบริเวณนี้เป็นตู้ไฟฟ้าและมีพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้สบายๆ

ฝั่งตรงข้ามมีประตูเปิดออกลานซักล้างหลังบ้าน พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังมีตู้ Built-in เพิ่มด้านข้าง สำหรับวางเครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ซักผ้าได้

เปิดประตูออกมาเป็นลานซักล้างที่ลงเสาเข็มมาให้แล้ว ป้องการการทรุดตัวในอนาคต มีพื้นที่ตากผ้าได้สบายๆ ด้านข้างมีทางเข้าห้องแม่บ้านแยกใช้งานเป็นสัดส่วนดี

ห้องนอนแม่บ้านขนาด 2.1 x 2.4 m. เหมาะอยู่อาศัย 1 คนกำลังดี พร้อมหน้าต่างบานเลื่อนเปิดระบายอากาศได้ ติดกันมีห้องน้ำแม่บ้านแยกใช้งานกับลูกบ้าน

กลับมาที่ในบ้านเป็น Foyer ที่เข้ามาจากพื้นที่จอดรถด้านนอก

บริเวณตัวบ้านจะติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบ Touch Screen ยี่ห้อ QS innovative เป็นหนึ่งในระบบ Home Automation แสดงระบบแสงสว่างและการเปิด-ปิดหน้าต่างภายนอก และเชื่อมต่อกับสัญญาณกันขโมยทั้ง Motion & Magetic Sensor หากมีความผิดปกติก็จะขึ้นเตือนบนหน้าจอ ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟและสวิตช์ภายในบ้านจริงยี่ห้อ Siemens

ด้านข้างมีประตูเป็นพื้นที่บันไดทางขึ้นชั้นที่ 2 ด้านข้างมีทางลงไปห้องน้ำใต้บันไดค่ะ

พื้นที่ใต้บันไดก็ไม่เสียเปล่านะคะ มีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้ ขนาด 2.2×0.9 m. เหมาะกับคนที่มีข้าวของเยอะค่ะ

ห้องน้ำรับแขกแบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ ภายในมี Low Wall ด้านหลังกว้าง 10 ซม. สำหรับวางอุปกรณ์ห้องน้ำเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ดี

มาที่บันไดขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป บันไดกว้างประมาณ 1 m. พร้อมราวจับให้ตลอดเส้นทางใช้งานได้สะดวก / บันไดเป็นชานพักแบบเต็มๆใช้งานได้สะดวกดี

บริเวณโถงบันไดมีชุดหน้าต่างบานใหญ่ แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ ช่วยให้บ้านมีความโปร่งโล่งมากขึ้น ซึ่งบริเวณนี้เราสามารถติดตั้งโคมไฟแชเดอเรียเพิ่มเติมได้นะคะ

ขึ้นมาชั้นบนเป็นโถงทางเดินเอาไว้แจกจ่ายไปยังห้องนอนต่างๆ ซึ่งพื้นชั้นบนจะเปลี่ยนเป็น พื้นไม้คอร์กสำเร็จรูป ทั้งหมด ที่ทางโครงการเคลมว่าจะมีความนุ่มเท้ามากกว่าลามิเนตทั่วไป โดยบริเวณโถงนี้ยังสามารถ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มเติมเองได้นะ

ถัดมาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ติดหลังบ้านวางเป็นแนวยาว วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมหน้าต่าง 2 ฝั่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ภายในบรรยากาศโปร่งโล่งดี

ด้านข้างมีพื้นที่เหลือทำตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาวแบบนี้ได้เลยนะคะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยฉากกั้นชัดเจน พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นได้ดี

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.52 x 1 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่สามารถปรับระดับการไหลของน้ำได้ 3 ระดับ ผนังด้านข้างมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ ให้เราหยิบจับใช้งานได้สะดวก

ส่วนห้องนอนเล็กหันออกหน้าบ้านจะมีหน้าต่างเข้าฝั่งเดียว ตัวห้องวางเป็นแนวยาวที่สามารถกั้นพื้นที่ Walk-in Closet เพิ่มเติมหน้าห้องน้ำได้ค่ะ

บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่เหลือวางชุดทีวีได้สบายๆค่ะ

บริเวณด้านข้างหัวเตียงมีประตูเดินออกไประเบียงด้านหน้าบ้าน

โดยระเบียงห้องนี้วางเป็นแนวยาว 7.6 x 1 เมตร ที่เราสามารถเอาเก้าอี้ออกมานั่งชิวรับลมด้านนอกได้สบายๆนะคะ พร้อม Shading ช่วยลดแสงแดงแรงจัดได้โดยตรง

ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ Walk-in Closet วางตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว U เหมาะใช้งาน 1-2 คนได้กำลังดีค่ะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยฉากกั้นชัดเจน พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นได้ดี

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.67 x 1.04 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ที่สามารถปรับน้ำไหลได้ 3 ระดับ + ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำให้หยิบจับได้ง่าย

เราเดินไปดูพื้นที่ด้านในกันต่อนะคะ โดยเราสามารถกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนแบบบ้านตัวอย่างได้นะ / โดยชั้นบนพื้นถึงฝ้าสูง 2.9 เมตร โปร่งโล่งทีเดียวค่ะ

ถัดเข้าเป็นพื้นที่ Family Area เหมาะเป็นโซนส่วนตัวสำหรับคนในครอบครัว ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่นหรือมุมทำงานอดิเรกก็ดี

อีกจุดเด่นนึง คือโถงบันไดนี้เชื่อมต่อกับ Double Volume ด้านล่างที่อยู่บริเวณ Foyer หน้าบ้าน ซึ่งบริเวณนี้จะมีราวกันตกเป็นกระจก Tempered Glass แบบ Frameless

เดินมาดูห้องนอนใหญ่ Master Bedroom ที่อยู่ด้านในสุดของตัวบ้านกันต่อ ข้อดีคือเป็นตำแหน่งที่ได้ความเป็นส่วนตัว ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมามากนัก

มาดูห้อง Master Bedroom วางเป็นแนวยาวจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน ที่แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ เราสามารถวางเตียงไซส์ใหญ่ได้สบายๆ มีพื้นที่เหลือวางชุดโซฟาด้านข้าง สำหรับนั่งเล่นหรือปารตี้ส่วนตัวได้เลย

จุดเด่นของห้อง Master Bedroom คือหลังคาบ้านสูงทรงจั่ว 4 เมตร บรรยากาศโปร่งโล่ง โดยบริเวณนี้ของจริงเป็นคอนกรีตฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่เดินออกไปพื้นที่ระเบียงด้านหน้าตัวบ้าน พื้นที่ใช้งานขนาดประมาณ 4.6 x 1.3 m. ที่เอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่นชิวๆ

บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่เหลือวางชุดทีวี ด้านข้างมีประตูทางเข้าห้องน้ำ & Walk-in Closet ที่แบ่งการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี

สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet กว้างดี ภายในออกแบบ Interior Design มาได้น่าสนใจดี มีตู้ Built-in รอบห้อง + พื้นที่โต๊ะเครื่องแป้ง เหมาะใช้งานสำหรับ 2 คนได้สบายๆ

ถัดไปดูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันต่อ ภายในมาพร้อมสุขภัณฑ์ที่ถูก Upgrade เป็นพิเศษแตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆภายในบ้าน

สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ อ่างอาบน้ำแบบฝั่งขนาด 1.2×0.6 m. สำหรับนั่งอาบน้ำได้กำลังดี พร้อมฝักบัวที่เราสามารถดึงมาใช้งานได้สะดวก

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำพร้อมฉากกั้นแบ่งใช้งานเป็นสัดส่วนดี พร้อมอุปกรณ์สุขภัณฑ์ครบครัน โดยห้องน้ำจะมีฉากกั้นให้เป็นมาตรฐานเช่นกันค่ะ

พื้นที่อาบน้ำส่วนขนาด 1 x 0.4 m. พร้อมฝักบัวมีทั้งแบบ Rain & Hand Shower ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ทั้งยืนอาบหรือนั่งอาบน้ำก็ได้นะคะ

สำหรับเครื่อง Dust Free House จะติดตั้งบนฝ้าเพดาน ที่มีระบบฟอกอากาศและฆ่าเชื้อโรค 5 ขั้นตอน ช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์และหมุนเวียนได้ดีภายในบ้าน

ระบบ Solar Attic เป็นช่องระบายอากาศ ช่วยลดความร้อนใต้หลังคา โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากโซล่าเซลล์ค่ะ

แปลนชั้น 1 แบบบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน มีประตูทางเข้าบ้านด้านหน้า 2 จุด จากพื้นที่จอดรถ, ทางเข้าหลัก ภายในบ้านแบ่งโซนกว้างๆแบ่งเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งขวาจะเป็นส่วนพักผ่อน พื้นที่ Common Area วางเป็นรูปตัว L ที่แบ่งการใช้งานได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น (ห้องนั่งเล่น+ส่วนรับประทานอาหาร) ด้านในมีห้องนอนชั้นล่างติดหลังบ้าน ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นโซน Back of House ที่สามารถจัดพื้นที่ Pantry + ห้องครัวปิด ต่อเนื่องกับห้องแม่บ้านด้านนอก

แปลนชั้น 2 ถัดขึ้นไปด้านบนเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยชั้นบนมีพื้นที่พักผ่อน Family Area ที่สามารถมองเห็นประตูทางเข้าหลักของบ้านได้ กรณีมีแขกมาบ้าน คนในบ้านก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้นั่งเล่นพักผ่อนแทนได้นะคะ สำหรับชั้นนี้จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน + ห้องน้ำในตัว สำหรับห้อง Master Bedroom วางเป็นแนวยาวจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน ที่เราสามารถวาง Walk-in Closet ได้เป็นสัดส่วนดี

BENJAMIN (เบญจามินทร์) ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ห้องแม่บ้าน / ครัวไทย ในราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท

บริเวณที่จอดรถยาว 7.6 m. ซึ่งระยะความกว้างนี้สามารถจอดรถขนาดเล็ก-กลางได้ 3 คัน แบบพอดีการใช้งานนะคะ พื้นที่จอดรถมีการทำพื้นทรายล้างมาให้แบบนี้ พื้นที่ในร่มลงเสาเข็มยาวเท่าตัวบ้าน Slab on Beam ค่ะ

สำหรับบ้านสามารถเข้าได้จากที่จอดรถ และทางเข้าออกหลักของบ้าน โดยทั้ง 2 จุดมีการยกระดับพื้นเพื่อแยกโซนทางเข้าแบบ Transition Space มีหลังคาคลุมป้องกันแดดและฝน พร้อมประตูหน้าต่าง บานเปิดจะเป็นกระจกสีเขียวช่วยกรองแสงและความร้อนได้ดีขึ้น

พื้นที่รอบบ้านปูพื้นหญ้า และพุ่มไม้เล็กๆให้เป็นมาตรฐาน ด้านข้างมีทางเข้าห้องแม่บ้านเชื่อมต่อกับส่วนครัว เวลาซื้อกับข้าวมาแล้วจะได้เดินเก็บของได้ง่ายค่ะ

ทางเข้าหลักของบ้านเป็นบานเลื่อน 2 ตอน ที่เปิดใช้งานได้สะดวกดี

เปิดมาเป็นห้องนั่งเล่น ที่วางโซฟาสำหรับ 4-5 ที่นั่งได้กำลังดี โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 2 m. ไซส์ทีวีที่เหมาะสมคือประมาณ 40″-42″ จอใหญ่เต็มสายตาพอดี

ถัดเข้าไปด้านในมีประตูบานเลื่อนเข้าห้องนอนชั้นล่างค่ะ

ห้องนอนชั้นล่างขนาด 3.6×2.7 m. วางเตียง 3.5 ฟุตได้กำลังดี ที่ทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ พร้อมพื้นเป็น Absorption Floor ที่มีความยืดหยุ่น เวลาล้มจะได้ไม่เจ็บมาก

ถัดไปดูพื้นที่รับประทานอาหารกันต่อ ซึ่งมีการใช้งานเป็นสัดส่วนดีนะ

สำหรับพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Long Table สำหรับ 6-7 ที่นั่งได้กำลังดี พร้อมวาง Pantry สำหรับเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆได้นะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการแยกระดับพื้น ที่เราแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเองนะคะ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นได้ดี

ห้องครัวปิดแยกการใช้งานเป็นสัดส่วน ภายในปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เช็ดถูทำความสะอาดง่าย สำหรับชุดครัวที่นี่โครงการมีมาให้แบบนี้เลยค่ะ

ชุดครัวแบบก่อปูนที่มีความแข็งแรง โดยท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ที่ด้านล่างทำเป็นตู้เก็บของได้หลากหลาย หน้าบานตู้เป็นเมลามีนแบบ Hi-gloss สวยงามดี / มีซิงค์ล้างจาน + Hob&Hood ครบครันดี พร้อมหน้าต่างบานเล็กเปิดระบายอากาศได้ด้วยนะคะ

ฝั่งตรงข้ามมีตู้ Built-in รองรับการใช้วางเครื่องซักผ้า+อุปกรณ์การใช้งานต่างๆเพิ่มเติม ด้านข้างมีประตูที่ออกหลังบ้านได้ด้วยนะคะ

ส่วนของ Back of House ประกอบด้วย 1 ห้องนอนแม่บ้าน และ 1 ห้องน้ำ พร้อมลานซักล้างให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ห้องนอนแม่บ้านขนาด 2.2 x 2.02 m. เหมาะอยู่อาศัย 1 คนกำลังดี พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ด้วย ติดกันมีห้องน้ำแม่บ้านแยกใช้งานเรียบร้อย

กลับมาดูที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 กันต่อ บริเวณนี้ด้านล่างมีห้องเก็บของใต้บันไดขนาด 2 x 1 m. เก็บของชิ้นใหญ่ได้สบายๆค่ะ

บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป มีความกว้างประมาณ 1 m. พร้อมชานพักแบบเต็มๆ+ราวจับให้ตลอดเส้นทางใช้งานได้สะดวก และปลอดภัยดี พร้อมหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ซึ่งเราสามารถติดตั้งแชเดอเรียสวยๆได้เลยนะ

เดินขึ้นมาจากบันไดจะเจอพื้นที่พักผ่อน Family Area หรือพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว สำหรับพื้นที่ชั้นบนเป็นพื้นไม้ลามิเนตลายไม้หน้าตาแบบนี้เลยนะคะ / ความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน 2.9 m. ได้ความโปร่งโล่งดีเลย

เดินออกไปมีระเบียงหันไปด้านหน้าของตัวบ้าน พื้นที่ระเบียงขนาด 2.19×1.22 m. ซึ่งเราสามารถวางโซฟารับลมชิวๆด้านนอกได้ค่ะ

ถัดไปห้องนอนเล็กที่หันออกหลังบ้าน มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่เลยนะคะ ซึ่งภายในเราสามารถวางเตียงไซส์ใหญ่ได้สบายๆ

บริเวณปลายเตียง มีพื้นที่เหลือวางชุดทีวี + ตู้ Built-in เอาไว้เก็บของเพิ่มเติมเองได้

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่เหลือวางตู้เสื้อผ้าใช้งานได้ 1 คนกำลังดีเลย พร้อมห้องน้ำส่วนตัว เดินใช้งานได้สะดวกนะคะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการแยกระดับพื้น ที่เราแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเองนะคะ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นได้ดี

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.46 x 0.85 เมตร พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดพอดีมือ ที่สามารถปรับระดับการไหลของน้ำได้ + ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำที่หยิบใช้งานได้สะดวก

ถัดไปห้องนอนเล็กหันออกหน้าบ้าน ที่แสงส่องเข้าได้ถึง 3 ฝั่ง รับแสงธรรมชาติเต็มที่เลย โดยสามารถวางเตียงไซส์ใหญ่ หรือวางเตียงขนาดเล็ก 2 เตียงแบบนี้ก็ได้นะคะ

ด้านข้างมีประตูทางเดินออกไประเบียงด้านหน้าบ้านค่ะ

พื้นที่ระเบียงด้านนอกวางเป็นแนวยาวขนาด 5 x 1.3 m. ที่เราสามารถเอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่น หรือวางชุดโซฟาด้านนอกได้สบายๆเลยนะคะ พร้อมระแนง Shading ที่ช่วยลดความร้อนก่อนเข้าสู่ตัวอาคารได้ค่ะ

บริเวณห้องน้ำ + Walk in Closet มีการกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจนดี

บริเวณหน้าห้องน้ำเราสามารถวางตู้ Walk-in Closet เป็นรูปตัว L ได้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย เหมาะใช้งาน 1-2 คนกำลังดีนะคะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยการแยกระดับพื้น ที่เราแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเองนะคะ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นได้ดี

ภายในมีอุปกรณ์ครบครันทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ฝักบัวอาบน้ำแบบ Hand Shower ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาด  1.67 x 0.84 m. ยืนใช้งานได้สบายๆ

ถัดไปปิดท้ายด้วยห้อง Master Bedroom กันค่ะ

ห้องนอนใหญ่วางเป็นแนวยาวจากหน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ภายในวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆเลย

บริเวณห้อง Master Bedroom ได้หลังคาจั่วทรงสูง 4 เมตร ทำให้ภายในได้บรรยากาศโปร่งโล่งดี

บริเวณนี้มีระเบียงวางเป็นแนวยาวเท่าหน้ากว้างห้องนอนพอดี ขนาด  3.39 x 0.92 m. ที่เราสามารถเอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่น หรือจัดสวนหย่อมเล็กๆได้นะคะ

มองกลับไปบริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่เหลือ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มเติม / ส่วนด้านในสามารถกั้นพื้นที่ Walk in Closet เป็นสัดส่วนดี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้งด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ป้องกันน้ำไหลออกด้านนอก มาพร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นด้านใน

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.07 x 0.94 m. พร้อมฝักบัวแบบ Hand & Rain Shower ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย + ที่นั่งอาบน้ำใช้งานได้สะดวกค่ะ

แบบบ้านของจริง BENJAMIN (เบญจามินทร์)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แปลนบ้าน TARYN+ (ธารินทร์ พลัส) พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.

TARYN+ (ธารินทร์ พลัส) ที่ดินมาตรฐาน 51-55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ครัวไทย
– ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท

เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 ณ วันที่ 21 กันยายน 2564

• TARYN+ (ธารินทร์ พลัส) ที่ดินมาตรฐาน 51-55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ครัวไทย
  – ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
• BENJAMIN (เบญจามินทร์) ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / ห้องแม่บ้าน / ครัวไทย
  – ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท
• TRINITY+ (ตฤณนิธิ พลัส) ที่ดินมาตรฐาน 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 322 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / Double volume สูงประมาณ 5.9 เมตร (ห้องนั่งเล่น) / ห้องแม่บ้าน / ครัวไทย
  – ราคาเริ่มต้น 21 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการตั้งอยู่บนถนนเอราวัณ ปาร์ค อเวนิว มีทางเข้า-ออกหลักจากถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ที่สามารถเชื่อมไปออกถนนหลักได้4 เส้นทาง ได้แก้ ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนราชพฤกษ์, ถนนกาญจนาภิเษก และถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางขุนนนท์ 2.2 กม. , รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชัน ระยะประมาณ 4 กม. และรพ.ศิริราช 4 กม. ซึ่งจากการสำรวจบ้านในย่านนี้ พบว่าไม่ค่อยมีโครงการใหม่ๆ เปิดขายบ่อยนัก นับว่าโครงการ เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 เป็นโครงการบ้านแนวราบที่ถือเป็น Rare Item ในย่านจรัญฯ-ปิ่นเกล้า ส่วนความอุดมสมบูรณ์-ขับออกไปโซนราชพฤกษ์ ปิ่นเกล้า จรัญสนิทวงศ์ ไม่ไกลมากนัก

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

สำหรับซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีรปภ.ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. มีทางเข้า-ออกแยกฝั่งลูกบ้านและ Visitor ชัดเจน พร้อมระบบ LIV24 ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับลูกบ้านแสนสิริ ที่มีการ Monitor ความปลอดภัยรอบโครงการ โดยมีการติดตั้ง CCTV ทั้งหมด 45 จุด, Real-Time Guard Tour ที่เช็คการทำงานของรปภ.แบบทันที และ Digital Fence เวลามีอะไรผิดปกติจะแจ้งเตือนไปที่ส่วนกลาง นอกจากนี้ภายในบ้านทุกหลังติดตั้ง Magnetic & Motion Sensor มาให้เป็นมาตรฐานค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

ที่ดินโครงการมีรูปทรง Free Form บนที่ดินขนาด 63 ไร่นิดๆ โดยแบ่งขายออกเป็นทั้งหมด 3 เฟส โดยเลือกวาง Clubhouse ไว้ตรงกลาง ใกล้กับซุ้มประตูทางเข้า ทำให้บ้านทุกหลังมาใช้งานได้สะดวก ส่วนบ้านที่นี่จะมีแบ่งเป็นซอยย่อยเล็กๆที่มีจำนวนยูนิต 4-5 หลัง ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ตัวบ้านส่วนใหญ่วางในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้บ้านไม่โดดแดดแรงจังๆ รวมถึงตัวบ้านมา Shading ที่ช่วยลดความร้อนได้ระดับนึง

การออกแบบตัวบ้าน :

บ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Heritage เน้นหลังคาทรงจั่วสูง ที่ทำให้บริเวณห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูง 4 เมตร บรรยากาศภายในโปร่งโล่งดี ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 181-322 ตร.ม. ที่ดิน 50-80 ตร.ม. เหมาะกับกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่รองรับสมาชิกในบ้านทั้ง 3 Generation พร้อมที่จอดรถสูงสุด 3 คัน(ในร่ม)

แบบบ้าน TRINITY+ (ตฤณนิธิ พลัส) บ้านหลังใหญ่ที่สุด จุดเด่นมีด้วยกัน 2 จุด คือ 1. ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานแบบ Universal Design ที่มีทั้งทางลาด, ห้องนอนชั้นล่างขนาดใหญ่+ห้องน้ำในตัว และพื้น Aborsption Floor 2. มี Double Volume สูงประมาณ 5.9 m. บริเวณห้องนั่งเล่น ส่วนชั้นบนมีพื้นที่ Family Area เช่นกัน ส่วนห้องพักอาศัยมี 2 ห้องนอนเล็ก 1 Master Bedroom ยาวตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้าน รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่

แบบบ้าน BENJAMIN (เบญจามินทร์) เป็นบ้านขนาดกลาง ภายในมีห้องนอนชั้นล่างเช่นกัน แต่จะขนาดไม่ใหญ่เหมาะกับผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงอยู่นะคะ ส่วนห้องน้ำนี้จะไม่ได้อยู่ในห้องนอนเลย และไม่ได้ออกแบบตามหลัก Universal Design นะคะ ส่วนชั้นบนมีพื้นที่ Family Area ส่วนพักอาศัยเป็น 2 ห้องนอนเล็ก และ 1 Master Bedroom ยาวจนถึงหลังบ้าน

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านระบบ Pre-cast Concrete ทั้งหลัง ที่อาจจะไม่เหมาะต่อเติมหรือทุบทิ้ง ทั้งหมด ส่วนประตูหน้าต่างเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง พร้อมนวัตกรรมต่างๆภายในบ้างทั้ง Dust Free House, Solar Attic, Breeze Panel, Shading Screen, Green Glass, UV Shield Color และ Smart Camera with Spotlight ครบครัน นอกจากนี้วัสดุภายในมีทั้งพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนพื้นชั้นบนแบบบ้าน TRINITY+ (ตฤณนิธิ พลัส) เป็นพื้นไม้คอร์กให้สัมผัสที่นุ่มเท้ามากขึ้น ส่วน BENJAMIN (เบญจามินทร์) เป็นพื้นลามิเนต เป็นมาตรฐาน บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความแข็งแรง เวลาเดินไม่มีเสียงดังรบกวน ภายในบ้านของจริงได้ทั้งชุดครัว + Hob&Hood ครบครัน ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

พูดถึงเรื่องพื้นที่สีเขียวแล้วก็คงจะอดชมไม่ได้นะคะ เรื่องนี้ทางโครงการจัดเต็มมากจริงๆ ทั้งสวนหย่อมขนาดใหญ่ ทางเดินเท้าปูพื้นหญ้าวางพุ่มไม้ ดูร่มรื่นดี พร้อมต้นไม้กระจายตัวอยู่ทั่วโครงการ ซึ่งปัจจุบันต้นไม้เริ่มโตเต็มวัยกันหมดแล้ว เราคิดว่าคงถูกใจใครหลายๆคนในเรื่องนี้ รวมไปถึงการปลูกต้นไม้ใหญ่ในบ้าน 1 จุดด้วยนะคะ

สาธารณูปโภค :

สำหรับอาคาร Clubhouse อยู่ใกล้ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ลักษณะอาคารปิดล้อม เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยมีแนวต้นไม้ช่วยกรองฝุ่นละอองและเสียงจากภายนอกได้ ส่วนไอเดียการออกแบบมาจากบ้านเรือนไทย โดยกระจายเป็นอาคารเล็กๆ เพื่อให้มีพื้นที่ Open Air พร้อมหลังคาสูงโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี มีทั้งออกแบบช่องให้มีลม Flow, Shading ที่ช่วยลดความร้อน และการวางสระน้ำไว้ตรงกลางที่ได้ความร่มรื่นจากอาคาร ได้ความเป็นส่วนตัวดี

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 12 – 25 ล้านบาท, 21 กันยายน 2564

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – เดินทางสะดวก เข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง ใกล้รพ.ศิริราช รถไฟฟ้าและทางด่วน มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะขับรถได้ไม่ไกล
• ความปลอดภัย 8.5/10 – มีระบบ Liv 24 ของแสนสิริ รั้วรอบโครงการสูงพร้อมติดตั้ง Digital Fence พร้อม CCTV 45 จุด ภายในบ้านได้ Magnetic& Motion Sensor ทั้งหลัง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – หน้าตาบ้านมีสไตล์ Modern Heritage โดดเด่นไม่เหมือนใคร แบบบ้านหลากหลาย รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ
• วัสดุ 8.5/10 – ให้ตามมาตรฐานของระดับนี้ แต่เพิ่มเติมด้วยชุดครัวไทย + เคาน์เตอร์ Pantry
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – พื้นที่สวนหย่อม 1 จุดขนาดใหญ่ พร้อมสอดแทรกพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ บรรยากาศร่มรื่นดี
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – อาคาร Clubhouse มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เน้นบรรยากาศโปร่งโล่ง ร่มรื่น และสามารถลดความร้อนภายในได้ดี ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
• 8.58 / 10.00

เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า 2 เหมาะกับใคร

คนที่มองหาบ้านเดี่ยวย่านปิ่นเกล้า เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย มีเส้นทางเชื่อมต่อได้หลากหลาย ใกล้รพ.ศิริราช ชอบโครงการที่มีสไตล์โดดเด่นไม่เหมือนใคร Modern Heritage ได้แรงบันดาลใจมาจากเรือนไทย เน้นหลังคาจั่วทรงสูง บรรยากาศโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเท่ได้ดี แบบบ้านขนาดใหญ่รองรับครอบครัว 3 Generation มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ + ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมนวัตกรรมบ้านเย็นครบครัน ในงบประมาณ 12-25 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 84,000 – 147,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc