รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.400 – รีวิวทาวน์โฮม นครทองลีฟวิ่ง 2
13 พฤษภาคม 2018
รีวิวฉบับที่ 1581 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ นครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู ทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลบางปู 41 (สะพานอุ่นอารีย์) จ.สมุทรปราการ สามารถเข้าถึงได้ทั้งถนนสุขุมวิทและถนนเเพรกษา ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแพรกษาประมาณ 2.20 กม. มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ และมีแบบพิเศษที่เป็นทาวน์โฮมติดกัน 2 ยูนิต หน้าตาบ้านจึงออกมาเหมือนกับบ้านแฝด ทำให้ได้พื้นที่สวนและช่องเเสงข้างบ้านเพิ่มเข้ามา โดยที่ดินเริ่มต้น 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110-141 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ
Fact @ 3 May2018
- Nakornthong Living 2 Sukhumvit-Bangpoo (นครทองลีฟวิ่ง2 สุขุมวิท-บางปู )
- บริษัท นครทองเฮ้าส์ แอนด์ เรียลเอสเตท จำกัด
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอย เทศบาลบางปู 41 (สะพานอุ่นอารีย์) ถนนสุขุมวิท เขต ท้ายบ้านใหม่
- เนื้อที่โครงการ 23-0-79.9 ไร่ จำนวน 183 ยูนิต
- D-LUX (ดีลักซ์) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 32 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
- D-LINE (ดีไลน์) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 24 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
- D-LIGHT (ดีไลท์) ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
- ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 35,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2560
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ประมาณ ปี 2563
- เวปไซต์โครงการ : www.nakornthong.co.th
- ติดต่อ : 097-185-4467
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.570553, 100.617582
แผนที่จากทางโครงการ
จากแผนที่จะเห็นได้ว่าตัวโครงการนครทองลีฟวิ่ง2 นั้น ตั้งอยู่ระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเเพรกษา โดยจะอยู่ฝั่งเดียวกันกับนิคมอุตสาหกรรมบางปู แต่จะใกล้กับถนนสุขุมวิทมากกว่า ถนนสุขุมวิทนี้จะมี BTS สถานีแพรกษาตั้งอยู่ค่ะ ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด (โครงการจะอยู่ห่างจากสถานี ประมาณ 2.2 กม.) โดยการเข้าถึงโครงการนั้น สามารถเข้าได้ทั้งจากเส้นถนนสุขุมวิท ผ่านทางซอยสะพานอุ่นอารีย์ และสามารถเข้าได้จากทางถนนเเพรกษา ผ่านซอยเทศบาลบางปู29 หรือซอยเทศบาลบางปู 37 ก็ได้ค่ะ
ที่ตั้งของโครงการนี้จะตั้งอยู่ใกล้จุดบรรจบระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเเพรกษา โดยถนนสุขุมวิทนั้นเป็นถนนหลักที่สามารถใช้เดินทางไปยังถนนศรีนครินทร์และใช้เป็นทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกผ่านทางอ่อนนุช ถึงแม้ว่าเวลาช่วงเข้า-เย็นที่คนออกไปทำงานและกลับจากทำงานนั้น การจราจรบริเวณถนนเส้นนี้จะค่อนข้างหนาเเน่นมากทีเดียว แต่บนถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของเเนวเส้นทางการเดินรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ทำให้การเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันกำลังก่อสร้างส่วนต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้า จากกรุงเทพฯมายังสมุทรปราการ และมีสถานีรถไฟฟ้าแพรกษา ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับทำเลของนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู ประมาณ 2 กม.โดยคาดว่าจะสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสายนี้ได้ในปี 2562 นี้ และจะทำให้พื้นที่เลียบรถไฟฟ้าพัฒนาต่อไปได้อีกมากค่ะ
ส่วนถนนแพรกษา เป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนตำหรุ-บางพลี บนถนนเเพรกษานี้มีนิคมอุตสาหกรรมบางปูตั้งอยู่ ทำให้มีทั้งตลาด โครงการที่อยู่อาศัย รวมไปถึงโรงเรียน อยู่ตลอดถนนเส้นนี้ค่ะ โดยถนนนี้เป็นถนนขนาดใหญ่ฝั่งละ 3 เลน มีระบบขนส่งสาธารณะรองรับบนถนนเส้นนี้อยู่ซึ่งก็คือ รถ 2 แถวและวินมอเตอร์ไซด์ จุดให้บริการตั้งอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันค่ะ (สถานีรถไฟฟ้าแพรกษา) นอกจากนั้นเมื่อมายังถนนตำหรุ-บางพลี ถนนนี้สามารถใช้เดินทางไปยังถนนเทพารักษ์ ถนนบางนาตราด หรือจะใช้เดินทางไปยังลาดกระบังหรือสุวรรณภูมิได้สะดวกค่ะ ในส่วนของทางด่วนนั้น ทำเลนี้สามารถใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษกได้ โดยจุดขึ้นลงทางด่วนจะอยู่บริเวณถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนบางนาตราดห่างออกไปจากโครงการประมาณ 15 กม. และตัวทำเลยังใกล้กับเส้นทางมอเตอร์เวย์ ซึ่งใช้เดินทางออกนอกเมืองไปยังชลบุรีได้ โดยโครงการตั้งอยู่ห่างจากจุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์ประมาณ 7 กม.ค่ะ
การเดินทางเข้าสู่ตัวโครงการนั้นสามารถเข้าถึงได้จากทั้งเส้นสุขุมวิทคือ จากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่บางปู เมื่อเลยสถานีรถไฟฟ้าแพรกษาเเล้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลบางปู 41 หรือซอยสะพานอุ่นอารีย์ค่ะ ซอยสะพานอุ่นอารีย์นี้จะสามารถมาบรรจบกับซอยเทศบาลบางปู 37 เเละมายังโครงการได้ โดยมีระยะทางจากตัวสถานีรถไฟฟ้าแพรกษามายังโครงการประมาณ 2.20 กม. อีกเส้นทางคือสามารถเข้าถึงได้จากทางถนนเเพรกษา มุ่งหน้าสู่ถนนตำหรุ-บางพลี เลี้ยวขวาเข้าซอยเทศบาลบางปู 37 จากปากซอยมาถึงโครงการเป็นระยะทางประมาณ 1.4 กม.ค่ะ สามารถเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว รถสองแถวอุ่นอารีย์ และวินมอเตอร์ไซค์ได้ค่ะ จุดขึ้นลงรถสองเเถวที่ใกล้กับโครงการที่สุด จะอยู่หน้านครทอง3 ซึ่งห่างจากหน้าโครงการนครทองลีฟวิ่ง 2 ไปเพียง250เมตรค่ะ
เรามาดูความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการกันบ้างดีกว่าค่ะ โดยความอุดมสมบูรณ์หลักๆที่ใกล้ทำเลของนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปูนั้น ถ้าอิงจากถนนสุขุมวิท จะมีโรบินสัน สมุทรปราการ และบิ๊กซี สมุทรปราการ ที่เป็นศูนย์รวมของทั้งการคมนาคมและเป็นแหล่งจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้ ศูนย์อาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ตและโรงภาพยนตร์ แต่ถ้ามาทางเส้นถนนเเพรกษาความอุดมสมบูรณ์จะอยู่หนาแน่นบริเวณหน้านิคมอุตสาหกรรมบางปูค่ะ ซึ่งบริเวณนั้นจะมีทั้งโรงเรียน ตลาดสด ตลาดนัด Big C mini และหมู่บ้านโครงการต่างๆที่เกิดใหม่อยู่แถบนั้น ถัดออกมาจากถนนเเพรกษาและถนนสุขุมวิท ความอุดมสมบูรณ์ที่น่าสนใจจะเป็นบริเวณถนนศรีนครินทร์ค่ะ ถนนนี้จะมีทั้งโรงพยาบาลเปาโล, Tesco Lotus, JAS Urban , Foodland ตั้งอยู่ ใช้เวลาเดินทางไปประมาณครึ่งชม.ได้ค่ะ
เรามีตัวอย่างการเดินทางมาให้ชมกัน โดยเริ่มต้นจากแยกที่ถนนบางนาตราดกับถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าไปยังสมุทรปราการ บางปู และจะเข้าโครงการจากถนนสุขุมวิทค่ะ เส้นทางจะเป็นอย่างไร มีอะไรเป็นที่สังเกตตามทางนั้น เราไปชมกันเลยค่ะ
เราเริ่มจากถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าไปยังสมุทรปราการนะคะ ขับมาเรื่อยๆจะเจอกับฟู้ดแลนด์ ศรีนครินทร์อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ เราจะตรงต่อไปตามทางค่ะ
ถัดมาจะเจอ JAS Urban ศรีนครินทร์ Community Mall ที่มีร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต สถานที่ออกกำลังกายและโรงหนัง ระยะห่างจาก JAS Urban มายังนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู ก็เพียงประมาณ 9 กม.ค่ะ
มุ่งหน้าตามป้ายสมุทรปราการไปเลยค่ะ
จากนั้นเราจะเจอสะพานข้ามเเยกศรีเทพา ให้ขับรถชิดขวา ขึ้นข้ามเเยกเทพารักษ์ไปค่ะ
พอเลยเเยกถนนเทพารักษ์มาซักระยะ เส้นทางจะมาบรรจบกับถนนสุขุมวิท เราจะเจอห้าง i Mallอยู่ทางซ้ายมือ ให้เตรียมชิดซ้ายเลี้ยวไปทางบางปู
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท เราจะเจอกับเเนวเส้นทางรถไฟฟ้าเลยค่ะ
สถานีเเรกที่เจอเลยจะเป็นสถานีศรีนครินทร์ เเต่เรายังคงขับตรงต่อไป ยังไม่ต้องชิดซ้ายเลี้ยวเข้าถนนแพรกษานะ จะเห็นว่ารถไฟฟ้ามีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมากแล้ว
ขับมาเราจะเจอกับสถานีเเพรกษา ซึ่งทางซ้ายมือของเราจะเป็นโรบินสัน สมุทรปราการ ตัวหน้าสรรพสินค้าเพิ่งเปิดให้บริการเพียง 2 ปีเท่านั้น เป็นห้างใหม่ มีร้านอาหาร ธนาคาร Supersports , B2s , Major Cineplex คือค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว และฝั่งตรงข้ามโรบินสันนี้เองหรือทางขวามือของเราจะมี Big C สมุทรปราการตั้งอยู่ค่ะ
ภาพบรรยากาศโรบินสันสมุทรปราการค่ะ เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้กับโครงการนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู มากที่สุด ระยะทางเพียง 2 กม.
บรรยากาศภายในโรบินสัน สมุทรปราการ จะมีทั้งโรงหนังในเครือ Major Cineplex, Tops Supermarket, Office Mate, B2S, Food Court, ธนาคาร ร้านอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย
เลยโรบินสันมาประมาณ 200 เมตรจะเจอป้ายเทศบาลบางปู 41 อยู่ หรือสังเกตป้ายโรงเรียนอุ่นอารีวิทยาก็ได้ค่ะ ให้เราเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานไปเลย
ตรงมาสุดทางจะเจอกับทางเเยกให้เราเลี้ยวซ้ายค่ะ
เเละเลี้ยวขวาเเยกแรกต่อเนื่องเลยค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆ บริเวณนี้จะมี 7-eleven ตั้งอยู่ทางขวามือ 7-eleven แห่งนี้จะมีที่จอดรถขนาดใหญ่ด้านหน้า เหมาะสำหรับเเวะซื้อของว่างหรือขนมตอนเช้าก่อนขับรถไปทำงานหรือเเวะก่อนกลับบ้านมากค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอทางแยก ให้เราเลี้ยวขวาเเยกนี้
และก็เลี้ยวซ้ายแยกแรกที่เจอ หรือขับตามป้ายโครงการสีเหลืองๆเข้าไปก็ได้นะ มีติดตั้งเอาไว้อยู่ตลอดทาง
ขับไปตามทางจะเจอหมู่บ้านนครทอง3 อยู่ขวามือค่ะ เเสดงว่าเราใกล้ถึงโครงการเราเเล้ว
ประมาณ 250 เมตรต่อมา เราก็มาถึงโครงการนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู กันแล้วค่ะ โดยโครงการจะอยู่ทางด้านขวามือ
มาถึงโครงการเเล้วค่ะ ทางเข้าโครงการจะมีถนนค่อนข้างกว้าง มีส่วนที่กว้างสุดก็กว้างถึง 14 เมตร รถสามารถขับสวนกันได้สบายเเละมีพื้นที่กว้างเพียงพอในกรณีที่เรียกรถแท๊กซี่มาก็สามารถให้จอดรอรับผู้โดยสารบริเวณนี้ได้ค่ะ
สภาพเเวดล้อมรอบๆโครงการ
จากแผนผังจะเห็นได้ว่าบริเวณรอบๆโครงการนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปูนั้น จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรและชุมชนค่ะ โดยจะมีหมู่บ้านนครทอง 3 และชุมชนหมู่บ้านจัดสรร สายัณห์ก้อนทรัพย์ ที่อยู่ในซอยย่อยเดียวกันกับโครงการเรา ส่วนหมู่บ้านบางปูวิลล่ากับชุมชนเคหะบางปูนั้น สามารถเข้าจากทางซอย เทศบาลบางปู 37 ได้ แต่จะเเยกไปอีกทางนึงค่ะ
โดยสรุปโครงการมีสภาพแวดล้อมโดยรอบติดกับ
- ทิศเหนือ – หมู่บ้านนครทอง 3 และ ที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ – ชุมชนเคหะบางปู และ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก – ถนนทางเข้าหลักของโครงการและชุมชนหมู่บ้านจัดสรร สายัณห์ก้อนทรัพย์
- ทิศตะวันตก – หมู่บ้านบางปูวิลล่า
จากภาพมุมสูงจะเห็นได้ว่าบริเวณโดยรอบโครงการนั้นเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ และมีพื้นที่สีเขียวอยู่ทั้งฝั่งที่ติดกับหมู่บ้านนครทอง3 และทางทิศที่ติดกับเคหะบางปู ซึ่งพื้นที่สีเขียวนี้สามารถช่วยลดความร้อนของพื้นคอนกรีต และไม่มีอาคารสูงให้เห็นโดยรอบ เเละเนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยจำนวนมาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเปลี่ยวภายในซอยเลยค่ะ
บรรยากาศซอยทางเข้าก่อนถึงโครงการค่ะ ซอยนี้จะกว้างประมาณ 5 เมตร รถสามารถขับสวนกันได้ แต่อาจลำบากเล็กน้อยถ้ามีรถจอดข้างทางค่ะ
ทิศตะวันออก หรือฝั่งหน้าโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยชั้นเดียวค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรบินสันสมุทรปราการ – 2.2 กม.
- บิ๊กซี สมุทรปราการ – 3.2 กม.
- I-mall community mall – 3.8 กม.
- ฟาร์มจระเข้ – 4.9 กม.
- ตลาดปากน้ำ – 5.3 กม.
- เมืองโบราณ – 5.5 กม.
- ไมอามี่ บาซาร์ บางปู – 5.6 กม.
- Jas usban ศรีนครินทร์ – 9.5 กม.
- สถานตากอากาศบางปู – 11.3 กม.
- โลตัส ศรีนครินทร์ – 11.6 กม.
เจาะลึกตัวโครงการ
มาดูตัวโครงการกันบ้างค่ะ พื้นที่ทั้งหมดของโครงการจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 23 ไร่กว่าๆ มีจำนวน 183 units โดยเเบ่งออกเป็น 3 Type คือ D-Lux ที่ดิน 32 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. ทาวน์โฮมติดกันสองหลังคล้ายบ้านแฝด D-Line ที่ดิน 24 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม.และ D-Light ที่ดิน 18.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 110 ตารางเมตร
การวางผังจัดทางเข้า-ออกเอาไว้ทางเดียว ส่วนกลางจะมีสวนหย่อมอยู่หน้าโครงการและด้านข้างโครงการบริเวณที่วางผังบ้านได้ยากพอดี จัดสวนมาให้ขนาดใหญ่ ลูกบ้านมาใช้เดินเล่นพักผ่อนได้ ส่วนการวางผังบ้านเห็นชัดๆเลยว่าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ D-Lux และ D-Light มี D-Line แทรกอยู่ ตรงกลางจากทางเข้าเป็นถนนหลักขนาด 15 เมตร ค่อนข้างกว้างรถสวนกันได้สะดวก นอกนั้นแบ่งเป็นบล็อกๆถนนย่อยกว้าง 10 เมตร และตัวบ้านวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งมีข้อดีคือจะบ้านส่วนใหญ่จะไม่โดนแดดทางทิศตะวันตก พื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่ให้จะมีสวนหย่อมทั้งหมด 3 จุด คือทางบริเวณทางเข้า ซ้าย-ขวาสองจุดเล็กๆ และทางทิศใต้ของโครงการอีก 1 จุดใหญ่ ซึ่งสำหรับคนที่ซื้อเเบบ D-Light นั้นจะได้ประโยชน์เพิ่มคือใกล้ส่วนหย่อมมากกว่าแบบ D-Lux นั่นเองค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการจะมี 1 จุดค่ะ (สามารถเข้าออกได้ทางเดียว) โดยซุ้มประตูทางเข้าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง มีป้อมยามอยู่ทางซ้ายมือทางเข้าจะมีไม้กั้นกระดกกั้นสามารถเข้าออกโครงการโดยใช้ Key Card Access
ป้อมยามถูกตั้งอยู่ฝั่งทางเข้าของโครงการเพียงฝั่งเดียวและบริเวณทางเข้า-ออกจะมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ข้างๆจุดสแกน Key Card เลยค่ะ
ทั้งสองฝั่งของทางเข้าโครงการจะมีทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร ทั้งสองฝั่งค่ะ ใครที่เดินเท้าเข้ามาก็ปลอดภัยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนรถเฉี่ยวชนเอาได้
เมื่อผ่านเข้ามาในโครงการเเล้วจะเป็นถนนหลักของโครงการซึ่งกว้าง 15 เมตร ถนนเส้นนี้จะขนาบข้างด้วยบ้านแบบ D-Lux ทั้งสองฝั่ง ทางขวามือจะเป็นโซนบ้านแบบ D-Lux กับ D-Line ส่วนทางซ้ายมือเมื่อเลี้ยวเข้าไปจะเป็นโซนของบ้านแบบ D-Light ค่ะ
เมื่อเข้าโครงการมา บริเวณที่ติดกับซุ้มประตูทางเข้าด้านขวามือจะมีสวนหย่อมเล็กๆ เป็นที่ตั้งศาลพระภูมิของโครงการ
ทางฝั่งซ้ายมือติดกับซุ้มประตูก็จะมีสวนหย่อมเช่นกัน สวนทางฝั่งนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย มีเก้าอี้ยาวไปตามพื้นที่สวนรอบนอกเอาไว้สำหรับนั่งพักผ่อนได้ค่ะ รอบโครงการมีรั้วกั้นสูง 2 เมตร แบ่งเป็นครึ่งล่างซึ่งเป็นกำแพงก่อทึบ และครึ่งบนเป็นระแนง ทำให้รั้วรอบโครงการไม่ได้ดูทึบเกินไปค่ะ
รอบๆสวนมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ คาดว่าเมื่อต้นไม้โตเต็มวัยจะทำให้พื้นที่ดูร่มรื่นมากยิ่งขึ้นค่ะ ภายในสวนมีการออกแบบที่นั่งยาวไว้ ผู้ปกครองสามารถนั่งดูลูกๆวิ่งเล่นได้ค่ะ
เดินถัดเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอกับ Sale Office และบ้านตัวอย่างตั้งอยู่ซ้ายมือใกล้ทางเข้าเลยค่ะ บ้านตัวอย่างจะยังไม่มีรั้วกั้นนะคะ (ภาพเมื่อมองจากสวนทางด้านขวามือเข้าไปยังโครงการ)
มุมมองจากภายในโครงการมองย้อนไปซุ้มประตูทางเข้าค่ะ จะเห็นได้ว่าบ้านแบบ D-Lux พอมีพื้นที่สวนด้านข้างตัวบ้านแล้วทำให้บ้านดูคล้ายกับบ้านแฝดมาก เเต่เนื่องจากกฎหมายที่กำหนดไว้ว่าบ้านแฝดจะต้องมีที่ดินไม่ต่ำกว่า 35 ตารางวา แต่พื้นที่ดินของแบบ D-Lux นั้นเริ่มต้นที่ 32 ตารางวาจึงเข้าข่ายเป็นทาวน์โฮมค่ะ เป็นทาวน์โฮมแปลงมุมที่มีที่ดินด้านข้าง เรียงชิดกันเป็นคู่ๆ ด้านข้างบ้านก็จะได้ช่องแสงและสวน ดังนั้นโซนบ้านแบบD-Lux นั้นเมื่อมองแล้วจะมีความโล่ง ไม่ดูแออัดเลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ 3 จุด พื้นที่สวนรวม 648 ตารางวา
- ระบบ CCTV
- Key Card Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- รั้วรอบโครงการ สูง 2 เมตร
- ถนนหลักกว้าง15 เมตร และถนนภายในกว้าง 10 เมตร
แบบบ้านภายในโครงการเเบ่งออกเป็น 3 Type คือ
- D-Lux ที่มีลักษณะเป็นทาวน์โฮมติดกันสองหลังคล้ายบ้านแฝด มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องรับแขกค่ะ ตัวD-Lux นี้จะมีที่ดินเริ่มต้นอยู่ที่ 32 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 141 ตารางเมตร และราคาเริ่มต้นที่ 3.19 ล้านบาทค่ะ
- D-Line แบบนี้จะมีผังบ้านเหมือน D-Lux ทุกประการ เพียงเเต่ไม่มีพื้นที่ด้านข้างของตัวบ้านเพราะว่าเป็น Unit ตรงกลางนั่นเองค่ะ ดังนั้นช่องแสงและหน้าต่างด้านข้างของบ้านนั้นจะไม่มีค่ะ โดย D-line นั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.59 ล้านบาทค่ะ
- D-Light มีที่ดินเริ่มต้นที่ 18.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 110 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ 1 ห้องครัว และมีพื้นที่ห้องรับเเขกและส่วนรับประทานอาหารต่อเนื่องกันค่ะ โดยแบบ D-Line นี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 ล้านบาทค่ะ
เราจะเริ่มจากแบบ D-Lux กันก่อนค่ะ จากผังจะเห็นได้ว่าตัวทาวน์โฮมจะมีผนังชิดกัน 1 ด้าน จึงทำให้มีพื้นที่สวนด้านข้างและด้านหลังฝั่งละ 2 เมตร บ้านจึงมีลักษณะเหมือนกับบ้านแฝด หน้ากว้าง 6 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ ชั้น 1 เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร แต่ตามแปลนโต๊ะอาหารจะอยู่หน้าประตูทางออกไปที่สวนข้างบ้าน ซึ่งเราสามารถปรับโดยการเอาไปวางไว้ที่ห้องอเนกประสงค์ได้ โดยทางโครงการได้กั้นห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาให้ เราสามารถปรับมาใช้เป็นห้องทำงาน ห้องนอน หรือจัดวางเป็นห้องรับประทานอาหารก็ได้ตามความชอบของเราค่ะ บ้านนี้เราจะได้พื้นที่สวนด้านข้างเพิ่มเข้ามา มีการออกแบบประตูเชื่อมต่อไปยังสวนด้านข้างซึ่งจะทำให้ได้ทั้งวิว ได้ทั้งแสง และชั้นล่างมีห้องน้ำมาให้ 1 ห้อง เป็นห้องที่สามารถอาบน้ำได้ด้วยค่ะ เวลาเร่งด่วนเราสามารถลงมาใช้งานห้องน้ำชั้นล่างได้ ส่วนชั้น 2 นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ตั้งอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ขนาดห้องนี้ค่อนข้างกว้างบริเวณปลายเตียงสามารถวางชุดโซฟาเล็กๆเอาไว้นั่งพักผ่อนดูทีวีได้ และมีห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ขนาดพอๆกันอยู่ทางด้านหลังบ้านค่ะ โดยชั้นบนมีห้องน้ำมาให้ 1 ห้อง ให้เราใช้ร่วมกันค่ะ ไม่มีห้องน้ำแยกให้
บ้านแบบ D-Lux ภายนอกบ้านออกแบบมาเป็นทรงหลี่ยมเน้นโทนสีขาว-เทา ทำให้ตัวบ้านดูรวมๆมีความ Modern แต่ก็ไม่เเข็งเกินไปเพราะมีการใช้ไม้มาเป็นส่วนประกอบ ทางเข้าบ้านจะอยู่ถัดเข้าไปจากที่จอดรถ ทำให้ได้เรื่องความเป็นส่วนตัวเเล้วยังได้รับแสงเต็มที่เนื่องจากผนังทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจก โดยที่ความร้อนก็จะไม่เข้ามามากเกินไปเพราะแนวผนังชั้น 2 เป็นกันสาดบังแดดอยู่
ประตูรั้วทางเข้านั้นเป็นบานเปิด 4 ตอน สามารถเปิดสุดได้ทั้ง 2 ฝั่ง วัสดุที่ใช้คือเหล็กกล่องทำสีดำ ส่วนที่จอดรถทางโครงการได้ลงเสาเข็มไว้ให้ ซึ่งจะช่วยเรื่องของการป้องกันการทรุดตัวของดินได้ ส่วนพื้นบริเวณอื่นๆเป็น Slab on ground บ้านหน้ากว้าง 6 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ นอกจากนั้นบริเวณหน้าบ้านจะมีประตูสำหรับทิ้งขยะ กริ่งและโคมไฟมาให้ด้วยค่ะ
เมื่อเข้ามาพื้นที่ด้านข้างจะมีระยะ 2 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่กว้างพอจะจัดสวนเลียบแนวอาคารเเละกำแพงทั้งสองฝั่งได้แถมยังเหลือทางเดินได้ มีถังเก็บน้ำของ DOS และปั๊มน้ำให้ทุกหลังตรงมุมของที่ดินค่ะ
หน้าประตูมีเตรียมปลั๊กไว้ให้และมีชานหน้าบ้านปูพื้นด้วยกระเบื้องกว้างประมาณ 1 เมตรค่ะ ส่วนด้านข้างบริเวณที่เป็นประตูเชื่อมไปยังสวนก็มีทำพื้นยกระดับยื่นออกมาให้ วัสดุเช่นเดียวกันกับหน้าบ้านค่ะ
เลี้ยวขวาเข้ามาทางหลังบ้านจะมีพื้นเทคอนกรีตให้เต็มพื้นที่ เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ซักล้าง มีวางท่อน้ำเตรียมไว้ให้สำหรับเครื่องซักผ้า และมีประตูทางหลังบ้านเข้าสู่ครัวได้ค่ะ
ทางเข้าบ้านตัวอย่างนั้นจะปูพื้นไม้ยื่นออกมาเพิ่มและกรุผนังไม้ด้านข้างเพิ่มค่ะ ส่วนบ้านมาตรฐานจะมีเพียงพื้นที่ปูกระเบื้องให้ตามในภาพ
หน้าบ้านจะมีห้องเก็บของซึ่งจะตรงกับพื้นที่ใต้บันได้พอดี ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้
ส่วนประตูทางเข้านั้นเป็นบานเลื่อนสองฝั่ง วัสดุเป็นวงกบอลูมิเนียมและกระจกเขียวตัดแสง ตรงส่วนของทางเข้านั้นออกแบบให้เป็นกระจกเข้ามุมและมีช่องเเสงเพิ่มด้านบนของบานประตูด้วย นอกจากทำให้แสงเข้าไปในตัวบ้านได้เต็มที่เเล้วยังทำให้พื้นที่ด้านนอกเกิดมุมที่สามารถวางที่วางรองเท้า หรือชั้นวางร่มก็ได้ตามแบบบ้านตัวอย่าง ดูเรียบร้อยเข้ามุมสวยงามดีค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับส่วนรับเเขกเป็นอันดับเเรก และห้องอเนกประสงค์อยู่ถัดไป ทางขวามือของห้องอเนกประสงค์จะเป็นทางไปครัวและห้องน้ำค่ะ โดยพื้นที่ส่วนรับแขกนั้นในบ้านตัวอย่างมีการ Built-in ชั้นวางทีวีทางด้านขวามือเพิ่มเติม ทางซ้ายมือสามารถวางโซฟาได้ 3 ที่นั่ง ระยะห่างระหว่างโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3.5 เมตร เลือกทีวีขนาดใหญ่มาก็ไม่เป็นปัญหาเรื่องระยะการมองค่ะ ทางโครงการมีฝ้าหลุมมาให้แบบนี้เลย ถัดไปด้านหลังสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ ในบ้านตัวอย่างมีการทำชั้นวางของเเละประตูบานเลื่อนมากั้นพื้นที่ตรงส่วนนี้ใหม่ แต่ในบ้านจริงจะให้เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอนค่ะ
มองย้อนกลับมาทางฝั่งหน้าบ้านจะเห็นฝ้าหลุมที่ให้มากับตัวบ้านค่ะ เเละเห็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ทางซ้ายมือ ตรงบันไดมีช่องแสงเเนวตั้งเพิ่มเข้ามา ทำให้ทางขึ้น-ลงสว่างมากขึ้นในเวลากลางวันค่ะ โดยส่วนรับแขกสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งเข้ามุมตรงทางเข้าบ้านได้พอดี แต่อาจจะเยื้องกับตำแหน่ง TVเล็กน้อยค่ะ ประตูทางเข้าถูก Set เข้ามาจากผนังชั้น 2 ทำให้ชั้นล่างเมื่อมีกระจกเยอะแต่ก็ไม่รู้สึกร้อน แสงจ้าหรือเเดดสาดเข้ามาในตัวบ้านค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง มี Built-in ชั้นวางของและทีวีเพิ่มเข้ามา บริเวณทางเดินไปยังห้องครัวนั้น เราสามารถต่อเติมประตูเพิ่มได้เพื่อกั้นส่วนครัวแยกออกจากส่วนอื่นๆ กันปัญหาเรื่องกลิ่นขณะทำอาหารลอยมาปนกับพื้นที่ส่วนอื่นๆค่ะ
พื้นที่ห้องอเนกประสงค์ จากบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้พอดี มีกระจกทั้งสองฝั่งของผนังรับวิว แสง และลมได้เต็มที่ค่ะ เราสามารถปรับห้องนี้ใช้งานแบบอื่นๆได้อีกเช่น เป็นห้องทำงานเป็นต้น
ห้องครัวในบ้านมาตรฐานจะไม่มีอะไรให้ค่ะ เป็นห้องโล่งๆ มีเดินท่อเตรียมไว้ให้ ข้อดีของห้องนี้คือการออกแบบช่องเเสงเเนวยาวที่เป็นบานเลื่อนในตำเเหน่งความสูงจากพื้นที่พอเหมาะพอดี นอกจากช่วยเรื่องการระบายอากาศ การได้รับแสงสว่างในเวลากลางวันเเล้ว ยังทำให้ประหยัดพื้นที่ เราสามารถ built-in ตู้เก็บของหรือเก็บเครื่องครัวได้เต็มที่ด้านบนและล่างหน้าต่างนี้ค่ะ
ในบ้านตัวอย่างมีการจัดห้องครัวโดยมีแนวอ่างล้างจานติดกับหน้าต่าง(ตามเเนวการเดินท่อที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้) สามารถวางตู้เย็นได้ทางขวามือ ติดกับผนังหน้าห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำจะมีอ่างล้างมือ โถส้วม และส่วนอาบน้ำค่ะ พื้นและผนังของห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิค มีการลดระดับพื้นลงเพื่อเเยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันชัดเจน
จากห้องครัวมายังห้องน้ำมีการลดระดับลงมากันน้ำไหลเข้าห้องครัวค่ะ
อ่างล้างมือเป็นเเบบเเขวนทำให้มีพื้นที่ด้านล่างสามารถใช้งานได้ โดยทางโครงการมีติดตั้งก๊อกน้ำเอาไว้ด้านล่างอ่างล้างมือสำหรับเอาไว้ใช้ซักล้างค่ะ
ตัวอ่างล้างมือใช้ของยี่ห้อ Cotto ค่ะ
ตัวโถส้วมก็เป็นของ Cotto เช่นกัน มีชุดอุปกรณ์สายฉีดให้มุมห้องนี้มีท่อระบายน้ำด้วยค่ะ
ฝักบัวจะติดตรงข้ามกับกำแพงพอดี ช่วยเรื่องขณะอาบน้ำ น้ำจะไม่สาดออกมายังส่วนแห้งมากค่ะ แต่ทางที่ดีควรมีฉากกั้นส่วนเปียกกับส่วนเเห้งจะเหมาะกว่าค่ะ
พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะมีขนาดอยู่ที่ 90 x 110 ซม. พอดีสำหรับการอาบน้ำค่ะ
ฝักบัวอาบน้ำและมือจับให้เเบบนี้ค่ะ
เนื่องจากห้องนี้ไม่มีช่องเปิดออกสู่ภายนอก ทางโครงการจึงมีติดตั้งเครื่องระบายอากาศให้มาด้วยค่ะ
มาดูบันไดทางขึ้นชั้น 2 กันบ้าง โดยตำเเหน่งบันไดนั้น เมื่อเข้ามาจากหน้าบ้านจะอยู่ขวามือติดประตูทางเข้าเลยค่ะ
บันไดโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กฉาบเรียบทาสี พื้นบันไดเป็นไม้เทียม โดยขนาดบันไดกว้างประมาณ 90 ซม. ขนาดกำลังพอดีสามารถใช้งานได้สะดวก
ราวกันตกทำด้วยโครงสร้างเหล็กทำสีดำ ส่วนมือจับเป็นไม้สีเดียวกับพื้นบันไดค่ะ
ตรงชานพักเป็นขั้นรูปร่างสามเหลี่ยม ต้องระมัดระวังขณะเดินหรือวิ่งขึ้นลงบันไดนะคะ
บริเวณโถงบันไดจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้บริเวณนี้ได้รับเเสงสว่างเต็มที่ บรรยากาศจะดูโปร่งโล่ง ในเวลากลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ
ระหว่างทางเดินทางโครงการมีติดตั้งราวจับมาให้ ก่อนขึ้นชั้น 2 จะมีขั้นบันไดอีกขั้นหนึ่ง ต้องระวังสะดุดหน่อยนะคะ ส่วนพื้นชั้น 2 เป็นกระเบื้องแกรนิตโตขนาด 60 x 60 cm. สีขาวครีมค่ะ
มาถึงชั้น 2 กันบ้างค่ะ ชั้นนี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องเป็นห้องนอนใหญ่ 1 ห้องอยู่ทางซ้ายมือ ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และมีห้องน้ำเพียงห้องเดียว ต้องใช้ร่วมกันโดยห้องน้ำนั้นจะสามารถเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอนใหญ่ และจากโถงตรงบันได
โถงหน้าห้องชั้น 2 นี้พอมีพื้นที่อยู่ สามารถจัดพื้นที่ไว้ตั้งหิ้งพระ วางชั้นหนังสือ หรือจะเป็นโซฟาหนึ่งที่นั่งก็ได้ค่ะ
ประตูทางเข้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดตั้งมาให้แต่ในบ้านจริงจะให้ประตูไม้อัดทาสีขาวค่ะ
ห้องนอนเเรกที่ถึงก่อนเมื่อขึ้นบันไดมา ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานมาให้ดูค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างด้านเดียว ถ้าทำเป็นห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตชิดกำแพงได้ และจะมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้าเเบบบานเลื่อนอีกฝั่งหนึ่งค่ะ
ในการจัดฟังก์ชันเป็นห้องทำงาน เราสามารถเลือก Sofa Bed มาวางชิดหน้าต่างได้ เนื่องจากหน้าต่างมีระยะสูงจากพื้นพอสมควร ทำให้ง่ายต่อการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
มาดูห้องนอนเล็กอีกห้องกันบ้าง ด้วยความที่บ้านเเบบนี้มีสวนด้านข้าง ทำให้ห้องนอนนี้สามารถมีหน้าต่างได้ 2 ด้าน
สามารถวาง Single Bed ได้โดยไม่ต้องชิดกำแพง และยังเหลือพื้นที่ที่จัดเป็นโต๊ะหนังสือหรือโต๊ะเครื่องเเป้งได้อีกค่ะ
โดยฝั่งตรงข้ามเตียงสามารถติดทีวีเเบบเเขวนได้ค่ะหรือจะตั้งเป็นชั้นวางทีวีก็ได้ มีการวางปลั๊กเตรียมไว้ให้เเล้ว ส่วนช่องเปิดของผนังด้านนี้ยาวจรดพื้น ครึ่งบนเป็นบานกระทุ้งค่ะ เอาไว้ช่วยระบายอากาศได้ด้วย
มองย้อนกลับไปทางเข้า ต้องระวังเรื่องการวางตู้เสื้อผ้าค่ะ ระยะระหว่างประตูถึงข้างตู้ต้องไม่ลืมคิดถึงเวลาเปิดประตูว่าจะไปชนกับตู้เสื้อผ้ารึเปล่า ทางที่ดีเลือกตู้เสื้อผ้าที่กว้างซัก 135 ซม. กำลังดีค่ะ
พอออกจากห้องนอนเล็กมาจะเจอประตูเข้าห้องนอนใหญ่และห้องน้ำค่ะ อย่างที่บอกไปห้องน้ำนี้สามารถเข้าได้ 2 ทาง จากห้องนอนใหญ่โดยตรงกับจากโถงบันไดนี้ค่ะ
ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องน้ำจะเป็นอ่างล้างมือ โถส้วม และส่วนอาบน้ำเรียงกันไป แยกเป็นสัดส่วนทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือให้เเบบก่อ และฝังอ่างล้างมือไปครึ่งหนึ่ง Top Counter กรุด้วยหินแกรนิตสีดำ มีปลั๊กไฟไว้สำหรับใช้ไดร์เป่าผมในห้องน้ำให้ด้วยค่ะ
สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto มีก๊อกน้ำ และห่วงแขวนกระดาษทิชชู่วางใต้อ่างล้างมือ ข้อควรระวังคือการวางทิชชู่ตำแหน่งนี้อาจมีน้ำไหลหรือกระเด็นจากอ่างล้างมือลงไปยังทิชชู่ได้ และการใช้งานต้องเอื้อมมือลงไปหยิบจับ
โถส้วมใช้ของ Cottoค่ะ มีท่อระบายน้ำอยู่ตรงมุมนี้ด้วย
พื้นที่ส่วนอาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยแบบบานเปิด เฟรมด้านบนเป็นอลูมิเนียม พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 90 x 117 ซม. ให้ฝักบัวเหมือนห้องข้างล่าง ออกแบบผนังเจาะเข้าไปสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ข้างฝักบัวค่ะ
มีการลดระดับภายในส่วนอาบน้ำกันน้ำไหลย้อน และมีตัวกันกระเเทกให้สำหรับกันประตูกระจกกระแทกผนังค่ะ
ห้องน้ำนี้มีช่องเเสงให้ด้านบนเป็นเเบบบานเลื่อนและมีพัดลมดูดอากาศให้มาเช่นกันค่ะ
มาดูที่ห้องนอนใหญ่กันบ้าง ตำแหน่งของห้องนอนใหญ่นี้จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ห้องนี้จะมีหน้าต่างเเละช่องเเสงอยู่หลายจุดและมีขนาดใหญ่ ข้อดีคือทำให้เเสงเข้ามาภายในห้องได้มากช่วยให้ห้องดูกว้างและสว่าง ไม่มืดทึบ ถ้าเรากลัวร้อนให้หาผ้าม่านมาปิดได้ค่ะ จากภาพเราจะเห็นทางซ้ายมือเป็นประตูไปยังระเบียง ซึ่งบ้าน Type นี้จะมีระเบียงอยู่ทางด้านข้างแทนฝั่งด้านหน้า เพื่อให้เราได้ออกมาใช้งานได้เต็มที่
ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้างสามารถวางเตียงแบบ King Size ไว้กลางห้องได้ มีที่เหลือข้างเตียงฝั่งละ ประมาณ 75 ซม. และวางตู้เสื้อผ้าลึก 60-80 ซม.ได้สบายค่ะ ซึ่งภายในห้องออกแบบหน้าต่างไว้ให้เหมาะสำหรับจัดวางตามห้องตัวอย่างได้อย่างพอดีค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีขนาดค่อนข้างกว้างและมีการเจาะช่องหน้าต่างแนวเดียวกับโต๊ะข้างเตียงพอดี ทำให้เราหาซื้อเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งได้ง่าย
ทางฝั่งขวาของเตียง ตู้เสื้อผ้าจะกินเเนวหน้าต่างมาเล็กน้อยค่ะและจะมีประตูเข้าห้องน้ำอยู่ติดกับพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าพอดี ค่อนข้างสะดวกสำหรับการใช้งานจริงค่ะ อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลย
ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง เกือบ 2 เมตร สามารถวางเก้าอี้สตูลยาวปลายเตียงได้
ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นประตูเข้าห้องน้ำซึ่งต้องใช้แชร์กับห้องนอนเล็ก ในบ้านมาตรฐานจะมีติดตั้งประตูมาให้นะคะ
เมื่อมองไปยังปลายเตียง จะเห็นประตูทางออกไปยังระเบียง สามารถวางชั้นวางทีวี โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะเขียนหนังสือได้
ประตูออกไปยังระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนสองฝั่ง ห้องตัวอย่างมีการวางชั้นวางทีวีที่เกินออกมายังเเนวประตู ทำให้สามารถเปิดใช้งานได้เพียงฝั่งเดียว
เมื่อออกมายังระเบียงทางซ้ายมือ เราสามารถเเขวน Condensing Unit ของแอร์ไว้ด้านบนได้ค่ะ และจะเห็นกระจกบาน Fixed ที่เป็นกระจกรับเเสงตรงบันไดพอดี ส่วนทางฝั่งหน้าบ้านจะเป็นราวกันตกเหล็ก ด้านบนราวกันตกจะมีออกแบบไว้เป็นเเผงบังตา บัง Condensing Unit ของแอร์เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ระเบียงภายนอกนี้มีการเตรียมท่อระบายน้ำเผื่อตอนฝนตกให้ด้วยค่ะ
ต่อที่บ้านอีกแบบที่เราพาไปชมคือบ้านเเบบ D-Light ค่ะ แบบบ้านนี้หน้าบ้านจะกว้าง 5.7 เมตร ลึก 7.9 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน โดยที่จอดรถมีขนาด 2.9 x 5.9 เมตร มีพื้นที่สวนด้านหน้า 2.8 x 1.8 เมตร และหลังบ้านกว้าง 2 เมตร สำหรับที่ดินเเปลงริมจะมีพื้นที่สวนเพิ่มด้านข้างขึ้นมาอีก 2 เมตร และมีประตูทางเชื่อมเข้าหาสวนค่ะ การวางผังภายในบ้านเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขกก่อน ถัดมาเป็นพื้นที่โถงให้เราจัดวางเป็นที่นั่งหรือโต๊ะทำงานได้ ด้านในสุดเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันของห้องอาหารและครัว มีห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้ 1 ห้อง ชั้นบนแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องและห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันค่ะ
การวางเเนวอาคารของบ้านแบบ D-Light นี้ หน้าบ้านจะเป็นถนนที่มีความกว้าง 10 เมตรคั่นตรงกลาง
ตัวบ้านออกแบบโดยใช้โทนสีขาว-เทา-น้ำตาลเป็นหลัก และมีการใช้ไม้มาเป็นส่วนประกอบให้โทนบ้านดูอบอุ่นขึ้นเช่นเดียวกับแบบ D-Lux บ้าน Type นี้จะได้คันเดียว พื้นที่ด้านข้างที่จอดรถจัดมาเป็นสวน หน้าบ้านมีประตูรั้วกั้นมาให้
ประตูรั้วเป็นบานเปิดพับ 4 ตอน ฝั่งละ 2 ตอน สามารถเปิดได้สุด ทำจากเหล็กกล่องเช่นเดียวกันกับแบบ D-Lux มีโคมไฟและกริ่งให้เช่นกัน
มีประตูสำหรับทิ้งขยะมาให้เช่นกันเป็นแบบบานเปิด ทำจากวัสดุเช่นเดียวกับรั้ว สามารถหย่อนขยะทิ้งได้จากภายในบ้านค่ะ
ที่จอดรถบ้านแบบนี้สามารถจอดได้ 1 คัน พื้นระหว่างที่จอดรถและตัวบ้านมีการเซาะร่องเเยก ซึ่งจะช่วยเรื่องปัญหารอยร้าวระหว่างที่จอดรถกับตัวบ้านได้ มีติดตั้งปลั๊กเตรียมเอาไว้ให้ใช้งานด้วยค่ะ
บริเวณที่จอดรถมีห้องเก็บของ(เป็นพื้นที่ใต้บันได) สามารถเก็บอุปกรณ์ซ่อมต่างๆได้
ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อน 4 บานเปิดตรงกลางออกสองฝั่ง กรอบบานเป็นอลูมิเนียม บานประตูเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง มีเฉลียงยื่นออกมาประมาณ 1 เมตรปูด้วยกระเบื้อง สำหรับเเปลงมุมอย่างบ้านตัวอย่างจะมีพื้นที่ด้านข้างบ้านเพิ่มขึ้นมา ทำให้จะมีช่องแสงเพิ่มเข้ามาที่ผนังบ้านค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านจะเป็นพื้นที่รับแขก โถงหน้าบันไดและส่วนรับประทานอาหารเรียงกันไป ครัวและห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน บ้านตัวอย่างจะเป็นแปลงมุม บ้านมาตรฐานจะเป็นห้องตรงกลางทำให้ผนังด้านขวามือจะเป็นผนังทึบ ไม่ได้มีช่องแสงค่ะ
สำหรับเเปลงมุม ส่วนรับเเขกจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้น และมีกระจกบานFixed เข้ามุมเพิ่มเข้ามา ทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้น
ฝั่งตรงข้ามหรือเมื่อเข้ามาทางซ้ายมือติดกับที่จอดรถ ผนังด้านนี้ถูกออกแบบให้มีช่องเเสงเข้ามาเช่นกัน และมีผนังทึบที่สามารถวางทีวีหรือทำ Built-inเป็นชั้นวางของได้ มีการเตรียมปลั๊กไว้ให้พร้อมค่ะ ส่วนถัดไปทางขวามือจะเป็นบันไดทางขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านค่ะ
ส่วนรับประทานอาหารจะเห็นได้ว่าถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะมีประตูที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสวนด้านข้างได้ค่ะ ส่วนด้านหลังจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ สูงเกือบเท่าประตูทำให้เเสงเข้ามาในบริเวณบ้านได้เยอะ บริเวณกลางๆบ้านจึงไม่มืดจนเกินไป ในบ้านตัวอย่างนั้นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้โดยยังคงมีพื้นที่ที่สามารถเดินได้โดยรอบค่ะ
ถัดจากส่วนรับประทานอาหารเลี้ยวขวามาจะเป็นส่วนครัว บ้านแบบ D-Light นี้จะได้พื้นที่ครัวค่อนข้างกว้าง ทางโครงการได้เดินท่อสำหรับติดตั้งอ่างล้างจานไว้ให้เเล้ว เราสามารถกั้นพื้นที่ตรงนี้เป็นครัวปิดได้เพื่อความเป็นสัดส่วน ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่น ควัน จากการทำอาหารไหลไปยังส่วนอื่นๆในบ้านได้ โดยในบ้านตัวอย่างได้ Built-in ครัวเข้ามุมมาให้ดู จะเห็นว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับอ่างล้างจาน เตรียมอาหาร และวางเตาได้ ส่วนทางซ้ายมือที่ติดกับประตูห้องน้ำเป็นพื้นที่วางตู้เย็น มีการติดตั้งปลั๊กไว้ให้ตรงจุดนี้เเล้ว
พื้นที่หลังบ้านมีการเทพื้นคอนกรีตเต็มพื้นที่กว้างตลอด 2 เมตรให้ สามารถใช้ซักล้างหรือทำเป็นครัวไทยได้ ทางโครงการมีถังน้ำและปั๊มน้ำมาให้ทุกหลังค่ะ
อีกมุมหนึ่งของหลังบ้านค่ะ รั้วรอบบ้านสูงประมาณ 1 เมตร
ต่อจากห้องครัวจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง เมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างมือตรงกลาง ทางขวามือจะเป็นโถส้วม ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับอาบน้ำค่ะ
ห้องน้ำถูกลดระดับลงมาจากห้องครัวเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าห้องครัวค่ะ
บริเวณอ่างล้างมือด้านบนจะเป็นจุดระบายอากาศ ส่วนด้านล่างจะมีก๊อกน้ำไว้ให้เช่นกันค่ะ ฝ้าเพดานด้านบนโถสุขภัณฑ์จะมีปาดมุมเล็กน้อยเนื่องจากเป็นพื้นที่ใต้บันได
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือกรุด้วยหินแกรนิต สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto พื้นและผนังภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ
พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะไม่มีฉากกั้นให้ แต่จะลดระดับลงเพื่อแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนเเห้งออกจากกันค่ะ โดยอุปกรณ์จะมีฝักบัวอาบน้ำให้กับที่วางสบู่เช่นเดิม พื้นที่ส่วนอาบน้ำนี้จะมีขนาด 90 x 105 ซม. สามารถใช้งานได้สะดวก
เราจะขึ้นไปชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ โดยทางขึ้นจะอยู่ระหว่างส่วนรับแขกกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารค่ะ
บันไดลูกนอนเป็นไม้เทียมค่ะ
ด้านข้างฝั่งที่ติดกับที่จอดรถมีกระจก Fixed เพื่อให้เเสงสว่างเข้ามา ดังนั้นในช่วงกลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟตรงบันไดก็ได้ค่ะ
บันไดเป็นรูปตัว U ค่ะ มีขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางการเดิน บริเวณนี้ควรระมัดระวังขณะขึ้น-ลงบันไดนิดนึงนะคะ
พื้นชั้น 2 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว
ขึ้นมาจะเจอกับห้องน้ำก่อนเลย ส่วนประตูทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และทางขวามือจะเป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ
ห้องนอนเล็ก ห้องเเรกทางซ้ายมือติดบันได จะมีขนาดประมาณ 2.5 x 2.85 เมตรค่ะ มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ด้านเดียว เอาไว้เปิดระบายอากาศได้ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ประหยัดพื้นที่ สามารถเตียงเอาไว้ชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งและอีกด้านฝั่งที่ติดประตูเหมาะสำหรับวางเป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ
จากบ้านตัวอย่างห้องนี้จะ Built-in เตียงชิดผนังตามที่บอก มีที่เก็บของบริเวณหัวเตียงค่ะ
มีพื้นที่เหลือระหว่างตู้เสื้อผ้ากับเตียงประมาณ 1.20 เมตร สามารถจัดเป็นโต๊ะเครื่องเเป้งได้
มาอีกห้องกันบ้างค่ะ ห้องนี้ก็เช่นกัน รูปแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จะวางเตียงได้เฉพาะ Single Bed ค่ะ
ปลายเตียงเหลือพื้นที่เพียงประมาณ 50 ซม.
ห้องนี้จะเล็กกว่าห้องที่ติดกับบันไดนิดหน่อย ไม่สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ตู้เสื้อผ้าควรเลือกเเบบบานเลื่อนค่ะ เพราะบานเปิดจะทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้งาน เปิดมาเเล้วอาจชนเตียงได้
มาดูที่ห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องนี้มีการแบ่งพื้นที่เป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วน สุขภัณฑ์และวัสดุใช้เหมือนห้องก่อนหน้า มีทั้งช่องเปิดและพัดลมดูดอากาศมาให้
อ่างล้างมือเหมือนเดิมค่ะ เพิ่มเติมที่มีปลั๊กไว้ให้สำหรับใช้ไดร์เป่าผมมาให้ ด้านล่างของอ่างล้างหน้าก็มีก๊อกน้ำติดไว้สำหรับใช้ซักล้าง
สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ค่ะ
ห้องน้ำชั้น 2 นี้วางผังต้องนำเอาพื้นที่ส่วนอาบน้ำไว้ตรงมุม โดยโครงการมีฉากกั้นอาบน้ำแบบ Shower box ที่เลื่อนเปิดปิดแบบเข้ามุมมาให้ค่ะ และจากภาพเราจะเห็นความแตกต่างห้องน้ำของบ้านแปลงมุมกับบ้านเเปลงกลางค่ะ โดยบ้านตัวอย่างแปลงริมุมจะมีประตูเพิ่มเข้ามาให้ห้องอาบน้ำค่ะ ประตูนี้จะเชื่อมไปยังภายนอกค่ะ เเต่สำหรับห้องยูนิตตรงกลางจะไม่มี
บานเลื่อนของแปลงมุมนี้ สามารถเลื่อนเปิดได้ 2 ทาง ตัวบานเป็นกระจกฝ้า เปิดออกไปมีพื้นที่ที่มีผนังปิดทึบแต่ไม่มีหลังคา เหมาะสำหรับการระบายอากาศ ตากผ้าเล็กๆน้อยๆตรงส่วนนี้ได้ค่ะ
พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีการลดระดับจากตัวห้องน้ำ และด้วยรูปแบบของชุดประตูฉากกั้นที่สูงขึ้นมา เวลาใช้งานระวังสะดุดนะคะ แต่รับรองได้ว่าน้ำไม่ไหลย้อนออกไปแน่นอนค่ะ ภายในพื้นที่ส่วนอาบน้ำนี้มีขนาดประมาณ 90×100ซม. พอดีๆกับการใช้งานค่ะ
มีฝักบัวและที่วางสบู่ให้เหมือนกันกับชั้นล่างค่ะ โดยทางโครงการได้เตรียมงานระบบเอาไว้เผื่อสำหรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
มาที่ห้องนอนใหญ่กันบ้างค่ะ เมื่อเข้ามาเราสามารถเเบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนชัดเจนค่ะ ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่วางเตียงนอน ส่วนทางขวามือจะมีระเบียง เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องเเป้งค่ะ
หัวเตียงจะหันออกไปยังหน้าบ้าน มีช่องเเสงข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่ง สำหรับแปลงมุมจะมีหน้าต่างเพิ่มมาทางด้านข้าง เป็นบานกระทุ้งค่ะ ในห้องตัวอย่างเมื่อวางเตียง King Size แล้วยังมีพื้นที่ข้างๆเตียงฝั่งละ 75 ซม.ค่ะ
ปลายเตียงตามห้องตัวอย่างจะทำ Built-in ชั้นวางทีวีเอาไว้ กว้าง 60 ซม. เมื่อวางเตียงขนาด King Size แล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียง50ซม.สำหรับเดินค่ะ ถ้าเราอยากได้พื้นที่เดินมากขึ้น เราสามารถเลือกติดทีวีแบบเเขวนผนังเเทนได้ค่ะ
อีกฝั่งของตัวห้องจัดเป็นพื้นที่ Walk-in Closet อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำได้ และ มีทางออกไปที่ระเบียงด้วยค่ะ
ประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียง เป็นบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
ระเบียงภายนอกใช้ประตูบานเลื่อน มีราวกันตกสูง 1 เมตร ทำจากเหล็กทำสีดำเช่นเดียวกับประตูรั้วค่ะ
มีท่อน้ำเตรียมไว้ให้สำหรับช่วยระบายน้ำขังเวลาฝนตก และเนื่องจากพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคจึงสะดวกเวลาทำความสะอาดค่ะ
แบบสุดท้ายของทางโครงการคือแบบ D-Line ค่ะ จะเหมือนกับแบบ D-Lux ทุกอย่างแต่เป็นยูนิตกลาง ทำให้ไม่มีพื้นที่สวนข้างๆ ช่องแสง และหน้าต่างค่ะ โดยมีที่ดินอยู่ที่ 24 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.59 ล้านบาทค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 MAY 2018
- แบบ D-Light หลังมุมด้านนอก เนื้อที่ 24.5 ตารางวา ราคา 2.314 ล้านบาท
- แบบ D-Light หลัง Standard เนื้อที่ 18.5 ตารางวา ราคา 1.99 ล้านบาท
- แบบ D-Lux เนื้อที่ 32 ตารางวา ราคา 3.19 ล้านบาท
- จองเเละทำสัญญา D-Light – 30,000 บาท , D-Lux – 50,000 บาท
- ผ่อนดาวน์ 3 งวดๆละ D-Light – 10,000 บาท , D-Lux – 20,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 35,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 7,200 บาทต่อปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
ทำเล ของนครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู ตั้งอยู่แถวแพรกษา ในซอยเทศบาลบางปู 41 จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมบางปู เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกที่ต้องทำงานในย่านนิคม พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่พักอาศัยแนวราบ ความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรบินสันสมุทรปราการ ที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่นานประมาณ 2 ปี ตั้งอยู่ห่างจากโครงการออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นห้างที่มีครบทุกอย่างทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และ โรงหนัง รวมถึงมีวินรถรถสองแถวและวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการรับส่ง และบริเวณนี้เองยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าเเพรกษาที่กำลังจะเปิดใช้บริการในปี2562 ส่วนความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆกับโครงการ เนื่องจากอยู่ในซอยเข้ามาจากถนนใหญ่พอสมควร บรรยากาศอาจจะยังเงียบๆอยู่ มีร้านขายของอยู่ประปราย
การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกพอสมควร เนื่องจากที่ตั้งของโครงการนั้นสามารถเข้าออกไปยังถนนเส้นสุขุมวิทและถนนแพรกษาได้ ทำให้การเดินทางไปยังตัวเมืองสมุทรปราการหรือกรุงเทพฯทำได้ง่ายมากผ่านเส้นสุขุมวิทนี้ ส่วนถนนแพรกษาก็สามารถเดินทางไปยังสุวรรณภูมิ บางนาตราด ได้โดยผ่านเส้นตำหรุ-บางพลี ซึ่งเป็นถนนที่ค่อนข้างกว้างและใช้งานได้สะดวก
ส่วนคนที่พึ่งพาการใช้รถสาธารณะนั้น ภายในซอยบริเวณใกล้ๆกับโครงการมีรถสาธารณะเช่นรถสองแถว วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ แต่ถ้าเดินทางกลางค่ำกลางคืนเรียกแท็กซี่เข้ามาจะสะดวกกว่า ปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสถานีเเพรกษา ตอนนี้ยังไม่เปิดใช้บริการ พอเสร็จน่าจะทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถสะดวกมากยิ่งขึ้น อาจต้องรอดูว่าหลังเปิดให้บริการแล้วบริเวณรอบๆจะเปลี่ยนเเปลงไปมากน้อยอย่างไรอีกที
วัสดุ ของโครงการให้มาดีตามมาตรฐาน ตัวบ้านมีการก่อสร้างด้วยแบบก่ออิฐฉาบปูน ทำให้สามารถต่อเติมดัดแปลงได้ ส่วนวัสดุอื่นๆทางโครงการก็จัดให้ตามมาตรฐาน สุขภัณฑ์ Cotto ห้องน้ำใช้กระเบื้อเซรามิค พื้นบ้านกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ประตูห้องใช้ไม้อัด ประตูหลังบ้านใช้ UPVC ห้องน้ำใช้ประตู PVC วงกบอลุมิเนียม กระจกสีเขียวตัดเเสง
การออกแบบ ทำออกมาได้ดีผังโครงการเเบ่งออกเป็น 2 ส่วน เเยกออกจากกันชัดเจนคือส่วนที่เป็นD-Lux กับ D-Line ส่วนพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะเป็นการนำพื้นที่ที่ไม่สามารถจัดวางตัวบ้านได้หรือเป็นพื้นที่ที่มีรูปร่าง Free Form มาจัดเป็นสวนสาธารณะ ทำให้ำด้สวนขนาดใหญ่ ส่วนการออกแบบหน้าตาของบ้านเเละพื้นที่ใช้สอยภายในถูกคิดมาค่อนข้างละเอียด มีแบบบ้านที่เป็นทาวน์โฮมแปลงมุม ได้ที่ดินข้างบ้าน บ้านทุกแบบสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้จริง ตรงกับช่องแสงและหน้าต่างที่มีอยู่อย่างพอเหมาะ และมีระบบไฟฟ้ารองรับสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้อย่างพอดี ติดอยู่ตรงจำนวนห้องน้ำชั้นบนที่มีค่อนข้างน้อย แลกกับการที่จะได้พื้นที่ห้องนอนที่ใหญ่ขึ้น เวลาเร่งด่วนต้องลงมาให้ห้องน้ำชั้นล่าง แต่อาจจะไม่ค่อยสะดวกต่อการใช้งาน
สาธารณูปโภคในโครงการมีป้อมยามตั้งอยู่บริเวณทางเข้า มีพนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ใช้ระบบ Key Card Access และมีกล้องวงจรปิดฝั่งละ 1 ตัว ถนนหลักกว้างถึง 15 เมตร และถนนย่อยกว้าง 10 เมตร เป็นขนาดที่เมื่อมีรถจอดข้างทางเเล้วยังสามารถขับได้อย่างสบาย นอกนั้นจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะที่ใหญ่ แต่กลับอยู่สุดฝั่งนึงใกล้กับแบบ Townhome Type เล็กเเทน
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2 – 3.5 ล้านบาท, 3 MAY 2018
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลบางปู 41 ทำเลสมุทรปราการ ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิท รถไฟฟ้า และ โรบินสัน
- ความปลอดภัย 7.25/10 – Key Card Access ไม้กั้นกระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน24 ชม. CCTV
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – การออกแบบทำออกมาได้ดี แต่ห้องน้ำน้อยไปหน่อย
- วัสดุ 7.5/10 – ตามมาตรฐาน การก่อสร้างใช้ระบบก่ออิฐฉาบปูน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อยู่ด้านในโครงการและมีสวนขนาดเล็กหน้าโครงการอีก 1 จุด
- สาธารณูปโภค 7/10 – พื้นที่ส่วนกลางมีแค่สวนสาธารณะ
- 7.39 / 10.00
BOTTOM LINE
นครทองลีฟวิ่ง 2 สุขุมวิท-บางปู เป็นโครงการทาวน์โฮมย่านสุขุมวิท-แพรกษา เหมาะสำหรับคนทำงานในย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปูหรือทำงานเเถวเมืองสมุทรปราการ ที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางด้วยรถส่วนตัวและความสะดวกสบายของการเดินทางโดยรถไฟฟ้า เป็นครอบครัวขนาดเล็ก ไม่ต้องการพื้นที่ส่วนกลางมาก มีงบประมาณ 2-4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 14,000-24,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )