รีวิวโครงการ

บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ติดถนนใหญ่ CHEREA VICINITY Ratchaphruek-Jetsadabodin | คิดเรื่องอยู่ Ep.708

15 กรกฎาคม 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิว CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ โครงการที่มีโปรดักส์ให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝดและทาวน์โฮม ติดถนนใหญ่ 6 เลน ราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ในโซนราชพฤกษ์ ช่วงราคา 4-15 ล้านบาท ซึ่งมีแพลนจะเปิด Presale ในวันที่ 1-2 ก.ค. นี้แล้วนะคะ ทีมงานไม่รอช้าเข้าไปเก็บรีวิวมาฝาก เบื้องต้นมีประเด็นหลักๆ ที่เราว่าน่าสนใจดังนี้ค่ะ

  • การออกแบบ : แต่ละโปรดักส์มีจุดเด่นเฉพาะตัวเลยนะคะ

  • บ้านเดี่ยว แตกต่างจากโครงการอื่นที่มีราคา 10 ล้านบาทเท่าๆ กัน โดยมี Highlight เป็น Courtyard กลางบ้าน ช่วยเปิดช่องแสงให้กับบ้านที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ด้านในของตัวบ้านได้รับแสงธรรมชาติได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น และยังเป็นพื้นที่ทำให้สมาชิกในบ้านใกล้ชิดกันมากขึ้น และอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ห้องนอนชั้นล่างจะมีห้องน้ำในตัวมาให้เลย รองรับการใช้งานได้ดี โครงการตั้งชื่อแบบบ้านว่า Hestia เป็นชื่อของเทพแห่งการครองเรือน สื่อถึงจุดเริ่มต้นของการมีครอบครัวที่อบอุ่น
  • บ้านแฝด วางผังชั้นล่างในลักษณะ Open Plan ซึ่งไม่ค่อยเหมือนโครงการอื่นในโซนนี้ ทำให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่ง ส่วนชั้นบนจะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของ Master Bedroom มาก จึงแยกโซนออกจากห้องนอนลูกๆ อีก 2 ห้องอย่างชัดเจน แบบบ้านนี้ชื่อว่า Gaia เป็นชื่อของเทพแห่งดิน เพราะบ้านแฝดจะมีพื้นที่สวนข้างบ้านมาด้วย เพื่อให้คนในบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
  • ทาวน์โฮม ในโซนนี้ค่อนข้างหายากที่จะมีทาวน์โฮมติดถนนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีขนาดที่ดินใหญ่เป็นพิเศษ  เพิ่มมาจากโครงการส่วนใหญ่ 3-4 ตร.วา ราคาจึงขยับขึ้นกว่าเพื่อนบ้านนะคะ แบบบ้านจะมีให้เลือก 2 แบบคือ Aeolus มาจากเทพแห่งลม โดยโครงการจะดีไซน์ประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ เพื่อให้ลมพัดผ่านได้ดี อีกแบบคือ Achelous ชื่อเทพแห่งน้ำ มาจากโลเคชั่นโครงการที่อยู่ใกล้แม่น้ำ จึงเสริมความเย็นสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

  • Facility ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันเยอะ : จัดเต็มมาก Clubhouse ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันครบน่าใช้งาน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเป็นโครงการที่รวมโปรดักส์หลากหลายราคาไว้ด้วยกัน ทำให้ Facility ส่วนกลางโครงการนี้ต้องดูสวย ฟังก์ชันครบ เพื่อให้สมฐานะกลุ่มคนที่ซื้อบ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป นั่นทำให้ลูกบ้านในกลุ่มบ้านแฝดและทาวน์โฮมก็ได้ใช้ของดีไปด้วยค่ะ
  • รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ตามไปชมกันเลย

    ข้อมูลโครงการ

    CHEREA VICINITY Ratchaphruek-Jetsadabodin (เฌอเรีย วิซินิตี้ ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์) ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2566

     ชื่อโครงการ   CHEREA VICINITY Ratchaphruek-Jetsadabodin (เฌอเรีย วิซินิตี้ ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์)
     ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน)
     SEGMENT CLASS   MAIN – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
     โครงการตั้งอยู่   ถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 อำเภอเมืองนนทบุรี
     ที่ดิน 40-3-94 ไร่
     จำนวนยูนิต 298 ยูนิต
     ประเภทบ้าน
    • Hestia (เฮสเทีย) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 235.83 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 10 ล้านบาท
    • Gaia (ไกอา) : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188.64 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 8 ล้านบาท
    • Aeolus (เอโอลัส) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร  ที่ดินเริ่มต้น 20.95 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137.95 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 5 ล้านบาท
    • Achelous (แอคคิโลอัส) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123.46 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 2 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 4 ล้านบาท

     ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.7 เมตร
     เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
     คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2568
     เว็บไซต์โครงการ   https://bit.ly/437AtbV
     โทร  097-282-2256

    ทำเลที่ตั้ง

    พิกัด Google Maps : 13.84467647668582, 100.45641722086735
    หรือสามารถ : คลิกที่นี่

    โครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ ตั้งอยู่ในโซนราชพฤกษ์ ติดถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งเป็นถนนใหญ่ 6 เลนที่เชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์และสะพานเจษฎาบดินทร์ที่ใช้ข้ามแม่น้ำไปโซนเลี่ยงเมืองนนทบุรีได้ เป็นทำเลที่เรียกได้ว่าติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งโครงการเปิดใหม่ในย่านนี้มักจะต้องลัดเลาะเข้าไปในซอยกันซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จุดเด่นแรกของโครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ ก็คือเรื่องของทำเลที่ติดถนนใหญ่ เชื่อมต่อโซนราชพฤกษ์, ชัยพฤกษ์, บางบัวทอง และรัตนาธิเบศร์ได้สะดวก

    ความเจริญของโซนนี้จะแยกออกเป็น 2 โซนคือ ฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ที่เป็นถนนใหญ่มีรถไฟฟ้าผ่าน และมี Central ให้เลือกไประหว่าง Central รัตนาธิเบศร์ และ Central Westgate ส่วนอีกฝั่งคือถนนราชพฤกษ์ที่เต็มไปด้วยศูนย์การค้า, คอมมูนิตี้มอลล์ ต่างๆ ก็จะมี The Crystal ที่มีร้านค้าและร้านอาหารอร่อยๆ เพียบ รวมถึงอนาคตก็จะมี Central WestVille มาเปิดใหม่ด้วยนะคะ (คาดว่าจะเปิดใน Q4 ปี 2566) เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 4 ชั้น 300 ร้านค้า บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ ซึ่งก็จะทำให้ย่านนี้มีความสะดวกสบายและคึกคักมากขึ้น

    ส่วนตัวรู้สึกว่าทำเลนี้เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนราชพฤกษ์, ชัยพฤกษ์, บางบัวทอง, คนที่ใช้ถนนกาญจนาภิเษกในการเดินทางจะสะดวกสุด หรือจะเข้าไปทำงานในเมืองทางโซนพระราม 6, พระราม 7 ก็ยังไม่ไกลนัก ใช้สะพานข้ามแม่น้ำได้สะดวก หรือจะเดินทางเข้าเมืองโดยใช้เส้นราชพฤกษ์วิ่งยาวๆ ก็เชื่อมเข้าสาทรได้เลย แต่อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็นด้วยนะคะ

    แต่ทั้งนี้ก็ยังมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้ามาช่วยเสริม เพราะจากโปรดักส์ของแบรนด์ CHEREA จะเหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว ซึ่งสมาชิกภายในครอบครัวก็คงจะไม่ได้มีแต่คนทำงาน ยังมีลูกๆที่เรียนอยู่ด้วย ดังนั้นการเดินทางของเหล่านักเรียนก็อาจจะต้องพึ่งพารถไฟฟ้า โดยทำเลนี้ถือว่ายังไม่ไกลรถไฟฟ้ามากนัก คุณพ่อคุณแม่สามารถวนไปรับ-ส่ง หรือเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปต่อรถไฟฟ้าได้อยู่ สามารถไปใช้งานรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ ทั้งสถานีบางรักน้อยท่าอิฐและสถานีพระนั่งเกล้าในระยะห่างประมาณ 4-5 km.

    รถไฟฟ้าสายสีม่วง ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ~ 4.3 km. ใช้เดินทางเข้าเมืองไปเปลี่ยนสายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูน เพื่อนั่งต่อไปยังอโศกได้ เราแนะนำว่าขากลับบ้านให้ลงสถานีนี้จะใกล้โครงการมากที่สุด

    สำหรับขาไปแนะนำให้ไปขึ้นที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า เพราะวิ่งตรงจากถนนใหญ่หน้าโครงการไปออกถนนรัตนาธิเบศร์ได้เลย มีระยะถึงสถานีสะพานพระนั่งเกล้า 5 km. ส่วนใครที่ต้องการเรียก Taxi ก็สามารถออกมาเรียกที่หน้าหมู่บ้านได้ หรือใช้บริการผ่านทาง Application ก็สะดวก

    สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

    บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุมชนอยู่อาศัยเดิมสลับกับที่ดินเปล่า มีความเงียบสงบ ไม่ค่อยวุ่นวาย แต่ก็ยังมีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อให้เลือกช้อปปิ้งได้นิดหน่อย สรุปภาพรวมโดยรอบ ดังนี้

    • ทิศเหนือ : ติดกับ ชุมชนอยู่อาศัยเดิม
    • ทิศใต้ : ติดกับ ถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1
    • ทิศตะวันออก : ที่ดินเปล่ารอการพัฒนา
    • ทิศตะวันตก : หมู่บ้านอยู่อาศัย

    บรรยากาศของถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งเป็นถนนหน้าโครงการเลย เราผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้บ่อยๆ ก็เห็นว่ารถราไม่เยอะนัก จะไปติดอีกก็ตามแยกที่ตัดกับถนนใหญ่อย่างถนนราชพฤกษ์และถนนรัตนาธิเบศร์

    บนถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 จะมีร้านอาหารบ้างประปราย รวมถึงมี 7-11 และ ปั๊มน้ำมันครบครัน ถ้าไม่อยากออกไปโซนรอบๆ ที่มีรถหนาแน่นก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันอยู่แถวนี้ได้พอสมควรค่ะ

    ระยะห่างจากสถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (ระยะขับรถ) เช่น

    ตัวช่วยในการเดินทาง

    • ท่าเรือข้ามฟากบางศรีเมือง ~ 3.4 km.
    • รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ~ 4.3 km.
    • รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ~ 5 km.

    ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

    •  Makro นครอินทร์ ~ 5.9 km.
    • Central รัตนาธิเบศร์ ~ 7 km.
    • Big C ติวานนท์ ~ 7.8 km.
    • The Walk ราชพฤกษ์ ~ 7.8 km.
    • The Crystal SB ราชพฤกษ์ ~ 12.2 km.
    • The Mall งามวงศ์วาน ~ 12.3 km.
    • Home Pro ราชพฤกษ์ ~ 12.5 km.
    • Central Westgate ~ 13.8 km.
    • Chic Republic ราชพฤกษ์ ~ 14.2 km.
    • The Circle ราชพฤกษ์ ~ 17.5 km.
    • Central ปิ่นเกล้า ~ 18.2 km.

    โรงพยาบาล

    • โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ~ 4.4 km.
    • กระทรวงสาธารณสุข ~ 9 km.
    • โรงพยาบาลบางใหญ่ ~ 11.1 km.
    • โรงพยาบาลยันฮี ~ 13.1 km.
    • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ~ 14.1 km.
    • โรงพยาบาลศิริราช ~ 20 km.

    โรงเรียน

    • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ~ 6 km.
    • โรงเรียนศรีบุณยานนท์ ~ 6.3 km.
    • โรงเรียนร่วมฤดี ราชพฤกษ์ ~ 6.3 km.
    • โรงเรียนโยธินบูรณะ ~ 8 km.
    • โรงเรียนสตรีนนทบุรี ~ 9.2 km.
    • โรงเรียนเด่นหล้า ~ 10 km.
    • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ~ 10 km.

    รายละเอียดโครงการ

    CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ เป็นบ้านแบรนด์ใหม่จาก Peace and Living ซึ่งเป็นโครงการแรกที่มีการรวมโปรดักส์ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และ ทาวน์โฮม ไว้ด้วยกัน มีช่วงราคาตั้งแต่ 4 – 15 ล้านบาท

    หากมองหาบ้านในโซนราชพฤกษ์จะเห็นว่ามีโครงการให้เลือกมากมาย และมีครบทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝดและทาวน์โฮมเลย ส่วนตัวรู้สึกชอบบ้านเดี่ยวของโครงการนี้เป็นพิเศษ เพราะในกลุ่มบ้านราคา 10 ล้านบาทเท่าๆ กันในโซนนี้ โครงการนี้ได้ออกแบบให้มี Courtyard กลางบ้าน และห้องนอนชั้นล่างก็มีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ในส่วนของบ้านแฝดและทาวน์โฮมต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่โครงการที่มีราคาหยิบจับง่ายสุด เหตุผลเพราะ Facility ที่โครงการให้นั้นเป็นมาตรฐานของโครงการบ้านเดี่ยวเลย มีขนาดใหญ่ ฟังก์ชันจัดเต็ม น่าใช้งาน

    หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ อย่างแรกคือ “ตำแหน่งส่วนกลาง” ซึ่งเค้าวางตำแหน่งสวนหลักให้อยู่โซนด้านหน้าของโครงการ โดยจะช่วยทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ เสริมสร้างบรรยากาศทางเข้าให้ดูดีมากขึ้น หรือถ้ามีแขกมาหา ก็สามารถรับรองที่ Clubhouse ด้านหน้าได้เลย โดยไม่ต้องเข้าหมู่บ้านไปลึกนัก จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัว และยังกระจายพื้นที่สวนไว้ในส่วนต่างๆ รวม 3 จุด เพื่อให้ลูกบ้านเข้าถึงได้สะดวกทั้งโครงการ

    ประเด็นที่ 2 คือ “ทิศของบ้าน” โดยบ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้แดดเช้าและร่มหน่อยในตอนบ่าย ส่วนทิศตะวันตกเฉียงใต้จะได้ลมค่อนข้างดี แต่แดดจะลงหน้าบ้านในช่วงบ้านในช่วงบ่ายจึงเหมาะกับแปลนบ้านที่วางห้องนั่งไว้โซนกลาง-หลังบ้าน

    ประเด็นที่ 3 คือ “การจัดโซนบ้าน” จะแยกโซนบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมออกจากกันเชื่อมกันด้วยถนนหลักของโครงการที่กว้าง 12 เมตร ยาวเข้าไปจนถึงท้ายโครงการเลย การวางผังลักษณะนี้ทำให้ลูกบ้านในแต่ละโปรดักส์แยกออกจากกันเป็นสัดส่วน จัดให้แต่ละซอยเป็นซอยตันเพื่อความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นลูกบ้านโซนบ้านแฝดหรือทาวน์โฮมก็ไม่ต้องผ่านเข้าไปในซอยที่เป็นกลุ่มบ้านเดี่ยวเลยค่ะ

    ยกเว้นโซนบ้านเดี่ยวที่ล้อมรอบสวนหลักของโครงการที่ได้วิวสวน จะเป็นโซนที่อยู่ใกล้ชิดกับ Clubhouse ที่ลูกบ้านทั้งหมดมาใช้งานได้ จึงเหมาะกับครอบครัวที่ชอบใช้ Facility ส่วนกลางบ่อยๆ ค่ะ

    ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ มีขนาดใหญ่ทีเดียว ภาพรวมออกแบบมาในสไตล์ Modern European คือดูเรียบง่าย อบอุ่น แต่ก็ยังมีดีเทลในการตกแต่งอย่างซุ้มโค้ง, เส้นสายที่คดโค้ง และตกแต่งด้วยกวางเพื่อเพิ่มความหรูหรา

    บริเวณซุ้มหน้าโครงการจะสอดแทรกน้ำพุ เพื่อช่วยส่งเสริมบรรยากาศให้ดูเย็นสบายมากขึ้น

    ส่วนการเข้า-ออกจะใช้ระบบ RFID เหมือน Easy Pass บนทางด่วน ประตูเข้า-ออกที่นี่จะมีทั้งประตูบานเลื่อนอัตโนมัติและไม้กั้นกระดก การใช้งานสำหรับไม้กั้นกระดกก็จะเหมาะกับช่วงที่มีลูกบ้านเข้า-ออกบ่อยๆ ใช้ไม้กั้นจะเข้าออกได้รวดเร็วกว่า แต่ช่วงกลางคืนมีประตูรั้วบานเลื่อนแบบนี้จะดีมาก เพราะได้ความปลอดภัย คนผ่านไปมาไม่สามารถเข้ามาในโครงการได้ อีกทั้งยังแยกช่องทางเข้าลูกบ้านกับ Visitor ไว้ จึงใช้งานสะดวก

    ด้านข้างก็จะมีประตูเข้า-ออกสำหรับคนเดินเป็นกิจจะลักษณะเลยค่ะ

    เข้ามาในโครงการจะเป็นถนนเส้นหลัก กว้าง 12 เมตร ตรงไปเชื่อมกับ Clubhouse ส่วนพื้นที่ด้านข้างจะเป็นแปลงขายในอนาคตค่ะ

    ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ เป็นจุดนำสายตาจุดแรกและเป็นทางแยกระหว่างถนนหลัก, โซนบ้านเดี่ยวหน้าโครงการ และ Clubhouse

    Clubhouse

    Clubhouse ของโครงการมีขนาดใหญ่ ดูน่าใช้งานทีเดียวเลยนะคะ โดยมีที่จอดรถด้านหลัง 2 คัน พร้อมออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้สะดวก

    อาคารยังคงดีไซน์ที่โค้งมน ไม่แข็งกระด้าง เพื่อให้เกิดความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ตกแต่งด้วยต้นสนให้บรรยากาศแบบยุโรป

    Lobby ของโครงการจัดชุดโซฟาไว้ 4-5 ชุด เผื่อลูกบ้านใช้รับรองแขกที่นี่เลย ไม่ต้องพาเข้าบ้าน บรรยากาศภายในตกแต่งไว้สวยงามดีและได้วิวสวนรอบอาคาร Clubhouse ด้วยค่ะ

    ภายในอาคารจะมี Kids Room กั้นห้องอย่างเป็นสัดส่วน

    Kids Room สำหรับเด็กน้อย ภายในมีเครื่องเล่นให้น้องๆมาสนุกกันได้ ซึ่งนอกจากจะสนุกแล้ว น่าจะเป็นพื้นที่ที่ได้พบปะเพื่อนๆ วัยเดียวกันด้วย

    สำหรับ Facility บนชั้น 2 จะต้องขึ้นบันไดไป เป็นลักษณะของบันไดวน ดูหรูหรา

    ทางเดินชั้นบนดูโปร่งโล่งมาก เพราะโครงการใช้กระจกบานใหญ่แบบสูงจากพื้นถึงฝ้า ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้เยอะ

    ตามทางเดินก็จะมีชุดโซฟานั่งเล่น ไว้ให้ในหลายจุด

    มาดูฟังก์ชันต่างๆ ในชั้นบนกันบ้าง…โครงการเน้นพื้นที่ Co-Working Space ให้มีขนาดใหญ่ จัดชุดโต๊ะทำงานไว้หลายจุด มาพร้อมปลั๊กไฟให้ชาร์ตแบตฯ ได้สะดวก เป็นอีกจุดนึงที่ลูกบ้านสามารถมานั่งทำงาน หรือนั่งประชุมกับเพื่อนๆได้

    ใครทำงานจนเหนื่อยก็ลองขยับมายืดเส้นยืดสายได้ที่เจ้า Football Table กันค่ะ

    ถัดมาที่ Fitness เป็นห้องขนาดใหญ่อีกเช่นกัน และมีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครันมากๆ รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training

    โครงการจัดวางเครื่องออกกำลังกายไว้ติดหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นวิวได้ ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด

    ด้านในสุดจะมีห้องโยคะแยกเป็นสัดส่วนไว้ด้วย

    Yoga Room มีพื้นที่พอสำหรับการใช้งานประมาณ 2 คน ซึ่งโครงการจะมีอุปกรณ์สำหรับเล่นโยคะจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ

    มาดูในส่วนของ Outdoor Facility กันบ้าง หลักๆ ก็จะมีสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางที่อยู่รอบ Clubhouse

    สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งในลักษณะ Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 4.5×20 เมตร ลึก 1.3 เมตร พอใช้ว่ายออกกำลังกายได้อยู่นะคะ แต่เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย

    นอกจากนี้ในสระยังแยกพื้นที่ Kids Pool ไว้ มีขนาด 2.1×4.7 เมตร ลึก 0.5 เมตร และมี Daybed ในสระให้มานอนชิลล์ รับลมได้อีกด้วยค่ะ

    ด้วยตำแหน่งของสระที่อยู่หน้าโครงการ ส่วนตัวจึงอยากให้มีแนวต้นไม้บังสายตาเพิ่มเติมอีกหน่อยนะคะ เวลาใช้งานจะได้ไม่เคอะเขิน ><

    ใครที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำออกกำลังกายหนักๆ ก็ขยับมานั่งแช่น้ำ ผ่อนคลาย ที่ Jacuzzi ได้

    ทางเดินเข้าสระว่ายน้ำจะเป็นทางโค้งช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เวลาพาลูกๆ หลานๆ มาว่ายน้ำก็สามารถนั่งคอยบริเวณนี้ได้

    โซนห้องน้ำจะหลบมุมเข้าไปด้านใน จึงได้ความเป็นส่วนตัวดูมิดชิดขึ้น นอกจากห้องน้ำชายหญิงแล้วยังมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุแยกเอาไว้ให้ใช้งานได้สะดวก เป็นห้องขนาดใหญ่เข็นวีลแชร์เข้าไปได้สบาย

    บรรยากาศภายในห้องน้ำหญิงมีขนาดใหญ่ กว้างขวางทีเดียว มาพร้อมตู้ล็อกเกอร์ไว้เก็บเสื้อผ้า, ของมีค่า ก่อนไปว่ายน้ำหรือไปเล่น Fitness

    ภายในมีทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำครบครัน

    ภายในสวนหลักของโครงการออกแบบให้มีแนวทางเดินออกกำลังกายรอบสวน โดยจะมีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มเกาะตามแนวทางเดินไป และมีจุดนั่งพักกระจายอยู่รอบๆ เผื่อออกกำลังกายเหนื่อยๆ ก็หยุดพักได้

    ข้าง Clubhouse จะเป็นพื้นที่วิ่งเล่นสำหรับเด็กๆ โดยมี Gimmick เป็นสไลด์เดอร์ปลาโลมาขนาดใหญ่ น่าจะถูกใจคุณหนูๆ นะคะ

    อีกจุดออกกำลังกายที่เด็กโตขึ้นมาหน่อยน่าจะชอบก็คือ สนาม Street Basketball

    ปลายสุดของสวนเป็นเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง โซนนี้น่าจะถูกใจทั้งเด็กๆ และผู้สูงอายุเลยค่ะ

    ปิดท้ายพื้นที่ส่วนกลางด้วยสวนสาธารณะโซน 2 ที่อยู่ใกล้โซนบ้านแฝด เป็นพื้นที่สวนขนาดย่อมที่ตกแต่งมาด้วยน้ำพุ เป็นจุดพักสายตาให้กับลูกบ้านได้อีกจุดหนึ่งค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

    • Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 4.5×20 เมตร ลึก 1.3 เมตร
    • Kids Pool ระบบเกลือ ขนาด 2.1×4.7 เมตร ลึก 0.5 เมตร
    • Jacuzzi
    • Kids Room
    • Co-Working Space
    • Panoramic Gym
    • Yoga Room

  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการหลักๆ 3 จุด รวมประมาณ 2 ไร่กว่า
  • Jogging Track
  • Playground
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.65 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • Easy Pass
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบรั้วกั้นไม้กระดก
  • แบบบ้าน

    โครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ มีคอนเซปต์ในการออกแบบบ้านให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ โดยจะสอดแทรกต้นไม้, ส่องแสงธรรมชาติเข้าไปในตัวบ้าน ในปัจจุบันมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

    • Hestia (เฮสเทีย) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 235.83 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 10 ล้านบาท
    • Gaia (ไกอา) : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188.64 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 8 ล้านบาท
    • Aeolus (เอโอลัส) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร  ที่ดินเริ่มต้น 20.95 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137.95 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 5 ล้านบาท
    • Achelous (แอคคิโลอัส) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123.46 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง)
      – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 2 ห้องอเนกประสงค์
      – เริ่ม 4 ล้านบาท

    วัสดุของตัวบ้าน

    • โครงสร้างเป็นผนังสำเร็จรูป แข็งแรงทนทานแต่มีข้อจำกัดในการต่อเติม
    • หลังคาปูกระเบื้อง+ฉนวนกันความร้อน
    • พื้นชั้น 1 – กระเบื้องแกรนิตโต้, ชั้น 2 – กระเบื้องยาง SPC

    • บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด

  • ที่จอดรถลงเสาเข็มในส่วนที่มีชายคาคลุมลึกเท่าตัวบ้าน ส่วนที่เกินชายคาเป็นแบบ On Ground พื้นผิวเป็นปูนขัดเรียบ
  • ลานซักล้างหลังบ้าน เป็นแบบ On Ground พื้นผิวเป็นปูนขัดเรียบ
  • ประตูรั้วบานเลื่อน วัสดุเป็นเหล็กโปร่ง ทำสี
  • ประตูบ้านเป็นไม้จริงทำสี+Digital Door Lock ของ Hafele
  • ปูหญ้ารอบบ้าน+ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น+แนวไม้พุ่มหน้าบ้าน
  • ขนาดมิเตอร์ไฟ 1 เฟส (30/100) สำหรับ Junction ของ  EV Charger  แยกกับไฟในบ้าน เพื่อป้องกันไฟตก ไฟกระชาก
  • Magnetic Sensor ที่ชั้น 1
  • เตรียมระบบไฟบริเวณประตูรั้วเหล็กโปร่งลานจอดรถหน้าบ้านรองรับการติดตั้งระบบอัตโนมัติไว้ให้
    • ทาวน์โฮม

  • ที่จอดรถลงเสาเข็มในส่วนที่มีชายคาคลุมลึกเท่าตัวบ้าน ส่วนที่เกินชายคาเป็นแบบ On Ground พื้นผิวเป็นปูนขัดเรียบ
  • ลงเสาเข็มลานซักล้างหลังบ้านเท่าตัวบ้าน ง่ายในการต่อเติม พื้นผิวเป็นปูนขัดเรียบ
  • ประตูรั้วบานเฟี้ยม วัสดุเป็นเหล็กโปร่ง ทำสี
  • ประตูบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม
  • ขนาดมิเตอร์ไฟ 1 เฟส (15/45)
  • **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ตอนนี้โครงการจะมีบ้านตัวอย่างให้เราชมครบทุกแบบเลยค่ะ ไปชมกันเลย


    บ้านตัวอย่างแบบ Hestia (เฮสเทีย)

    บ้านเดี่ยวของโครงการมีให้เลือกแบบเดียว ชื่อแบบว่า Hestia (เฮสเทีย) ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 235.83 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ ตัวบ้านมาในสไตล์ Modern European เช่นเดียวกับส่วนกลาง โดดเด่นด้วยหลังคาทรงจั่ว ตกแต่งด้วยซุ้มโค้ง และมีการสอดแทรกธรรมชาติเข้าไปในอาคารด้วยกระถางต้นไม้บนชั้น 2 ค่ะ

    จุดเด่นของบ้านนี้คือ เค้าออกแบบให้มี Courtyard กลางบ้าน และห้องนอนชั้นล่างก็มีห้องน้ำในตัว เพราะในกลุ่มบ้านราคา 10 ล้านบาทเท่าๆ กันในโซนนี้จะไม่ได้เห็นฟังก์ชันแบบนี้ และยังให้ขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าโครการรอบๆ อีกประมาณ 15-40 ตร.ม. ด้วยนะคะ

    ตัวบ้านออกแบบให้สามารถอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ได้แบบ 3 Generations แบบพ่อ,แม่, ลูก 2 คน และผู้สูงอายุ จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน (มีห้องนอนชั้นล่าง) 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดและมีขนาดพอๆ กัน ยกเว้นห้องนอนใหญ่ที่จะมีพื้นที่ใหญ่เป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเท่ากับห้องนอนลูกๆ 2 ห้องรวมกันเลย ภายในจึงมีฟังก์ชันครบครัน ทั้งพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดมุมนั่งเล่นในห้องนอนได้, Walk-in Closet และระเบียง

    นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์และห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นบนและชั้นล่างให้ใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์อีกด้วยค่ะ

    รั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งบานเลื่อน พร้อมรองรับการติดตั้งระบบอัตโนมัติ หากลูกบ้านต้องการใช้ระบบอัตโนมัติก็ติดตั้งเพิ่มได้ง่าย

    พื้นที่จอดรถของบ้านจะสามารถจอดรถในร่มได้ 2 คัน เราลองวัดดูแล้วกว้าง 5.8 เมตร ลึก 5 เมตร สามารถใช้งานได้พอดีๆ พื้นผิวเป็นปูนขัดเรียบ โครงการลงเสาเข็มมาให้ในส่วนที่มีชายคาคลุม ส่วนที่เกินชายคาเป็นแบบ Slab on Ground (พื้นวางบนดิน)

    หากต้องการต่อเติมหลังคาหน้าบ้านให้ยื่นออกมาอีก 2-3 เมตร เผื่อให้คลุมรถกระบะหรือปิดมาถึงประตูรั้วได้ เราคิดว่าอาจจะใช้กันสาดแบบไม่มีเสา ใช้ยึดติดกับตัวบ้านได้นะคะ

    ขนาดมิเตอร์ไฟของบ้านมีขนาด 1 เฟส (30/100) รองรับการติดตั้ง Wall Charger โดยจะมี Junction ติดตั้งมาให้ในโรงจอดรถเลย

    จากที่จอดรถจะเชื่อมไปเฉลียงหน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ในร่มเชื่อมต่อกับที่จอดรถเลย เวลาจอดรถก็สามารถเดินเข้าบ้านได้สะดวก ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝน

    บริเวณหน้าประตูมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับวางตู้เก็บรองเท้า เวลาเข้าออกก็หยิบจับได้สะดวก ในส่วนของประตูจะติด Digital Door Lock ของ Hafele มาให้เป็นมาตรฐาน

    เข้ามาด้านในส่วนแรกจะมีพื้นที่ Foyer หน้าบ้าน เป็นอีกมุมที่เหมาะกับการวางตู้เก็บรองเท้าและม้านั่งใส่รองเท้าให้เป็นกิจจะลักษณะได้ และยังเป็นมุมที่เหมาะจะวางของตกแต่ง เพราะมุมนี้จะมองเห็นเป็นมุมแรกตั้งแต่เปิดประตูเข้าบ้านมา

    บานประตูหน้าต่างจะมี Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ที่ชั้น 1 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวบ้าน

    ด้านข้างประตูบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องอเนกประสงค์ ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันไว้เป็นห้องทำงาน เรามองว่าห้องทำงานที่อยู่หน้าบ้านแบบนี้ก็มีข้อดีตรงที่หากนัดลูกค้า/เพื่อนร่วมงาน มาคุยงานที่บ้าน ก็จะได้เลี้ยวเข้าห้องทำงานตั้งแต่หน้าบ้านได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่ส่วนอื่นในบ้านค่ะ

    ห้องทำงานจะได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูโปร่งและเปิดรับลมได้ ยิ่งหากเราจัดสวนบริเวณหน้าบ้านก็ยังเป็นวิวสวยๆ ให้กับห้องทำงานด้วยค่ะ บ้านจริงที่ส่งมอบเป็นพื้นที่โล่งๆ ตามแบบในรูปด้านล่าง พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

    อีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่อเนกประสงค์จะมองออกไปเห็น Courtyard กลางบ้าน จึงรับแสงและลมเข้ามาทางฝั่งนี้ได้ด้วย

    ประตูวงกบบานเลื่อนเป็นวัสดุ UPVC ของ Amigo ที่นิยมใช้กันบ่อยในโครงการหมู่บ้านของ Developer หลายๆ เจ้านะคะ

    ผ่านโซนหน้าบ้านเข้ามายังพื้นที่นั่งเล่นด้านใน จุดที่น่าสนใจเลยคือห้องนั่งเล่นก็จะเชื่อมกับ Courtyard กลางบ้านด้วย

    ข้อดีของ Courtyard กลางบ้านคือ ช่วยเปิดช่องแสงให้กับบ้านที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ด้านในของตัวบ้านได้รับแสงธรรมชาติได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น และยังเป็นพื้นที่ทำให้สมาชิกในบ้านใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะหน้าต่างห้องเกือบทั้งหมดมองเห็นกันได้ เช่น เราจะมองเห็นคุณพ่อที่ทำงานอยู่ในห้องทำงานได้จากห้องลูกบนชั้น 2, เราจะเห็นคุณปู่คุณย่าว่าท่านปลอดภัยดี ได้จากห้องนั่งเล่น เป็นอีกความอบอุ่นที่รับรู้ได้ว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องต่างๆ ของบ้าน แต่ทุกคนก็ยังมีห้องส่วนตัวของตัวเอง

    สำหรับบ้านจริงที่ส่งมอบจะไม่ได้กั้นห้องบริเวณ Courtyard มาให้นะคะ จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ที่เราสามารถไปออกแบบฟังก์ชันต่อเองได้ ส่วนตัวเราเองถ้ามีบ้านแปลนนี้จะจัดเป็นสวน มีต้นไม้ยืนต้นให้สูงถึงชั้น 2 เพื่อเป็นวิวต้นไม้ร่มรื่นให้กับทุกห้องในบ้านค่ะ ^^

    มาต่อกันที่มุมนั่งเล่นในบ้าน บ้านจริงที่ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่าที่เราสามารถแบ่งเป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ตาม Lifestyle ของครอบครัว หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะจัดแบบไหนดี ก็ลองดูตัวอย่างจากบ้านที่เค้าตกแต่งให้ดูก็ได้นะคะ

    มุมนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้สบาย บ้านตัวอย่างจะมีระยะดูทีวีที่ 3.8 เมตร สามารถติดทีวีขนาดใหญ่กว่า 60 นิ้วได้เลย

    อีกหนึ่ง Gimmick ของมุมนั่งเล่นก็คือ ได้ฝ้าเพดานแบบ Double Volume เปิดโล่งขึ้นไปถึงชั้น 2 สูงประมาณ 5.8 เมตร สามารถติดโคมไฟระย้าในแบบที่ชอบได้ และจุดนี้ยังทำให้สมาชิกในบ้านที่ชั้น 1 และ ชั้น 2 มองเห็น-พูดคุยกันได้

    จากมุมนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับโต๊ะรับประทานอาหาร มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งกำลังพอดี และจากมุมนี้จะสามารถมองไปเห็นสวนบริเวณหลังบ้านได้

    ข้างโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องครัวไทย ซึ่งเป็นห้องครัวปิดที่มีประตูกระจกกั้นเป็นสัดส่วน ใช้ทำอาหารจริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นและควันฟุ้งเข้ามาในตัวบ้าน

    ภายในห้องครัวไทยมีขนาดใหญ่ ใช้งานร่วมกันได้ทีละหลายคน ซึ่งโครงการจัดไว้ให้เป็นทั้งห้องครัวและห้องซักล้าง โดยจะเดินระบบท่อสำหรับซิงค์ล้างจานและเครื่องซักผ้าไว้ให้ พร้อมปลั๊กไฟ และมีหน้าต่างบานใหญ่ 2 บาน สำหรับเปิดระบายกลิ่นควันได้สะดวก

    จากห้องครัวจะมีประตูหลังบ้าน สำหรับเปิดออกไปตากผ้าได้

    ข้างโต๊ะทานอาหารอีกฝั่งหนึ่งเป็นตำแหน่งของห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งห้องนอนนี้มีห้องน้ำในตัวมาครบครัน

    หากจัดฟังก์ชันเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ก็สามารถวางเตียงเดี่ยวหรือเตียง 5 ฟุตได้ หรือถ้าใครอยากจะปรับเป็นห้องอื่นๆ ก็ได้ เช่น ห้องนอนแขก, ห้องดูหนังเล่นเกมส์ เป็นต้น ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของบ้านค่ะ

    ห้องนอนชั้นล่างเป็นอีกห้องหนึ่งที่เชื่อมกับ Courtyard กลางบ้านได้ โดยมีประตูบานเลื่อนให้เปิดเชื่อมออกไปได้สะดวก หากจัด Courtyard เป็นสวนและจัดห้องนี้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ท่านก็จะได้วิวสวนและออกไปเดินเล่นในสวนได้สะดวกด้วยค่ะ

    ประตูฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ

    ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ แยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้เรียบร้อย แต่พื้นที่ไม่ได้กว้างพอจะเข็นวีลแชร์เข้ามาได้สะดวก และมีการลดระดับพื้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนออกนอกห้อง เวลาเดินจึงต้องระวังสะดุด ส่วนตัวคิดว่าเหมาะที่จะรองรับผู้สูงอายุที่ยังเดิน ยังช่วยเหลือตัวเองได้อยู่ค่ะ

    สุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลัก

    สิ่งที่ชอบคือจะมี Low Wall ด้านหลังสุขภัณฑ์ให้ใช้วางของใช้ ของตกแต่ง ได้อีกนิดหน่อยด้วยค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.8×1.4 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบาย แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มอีกนิดจะใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยโครงการติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้เรียบร้อยและมีชั้นวางของที่ Built-in เป็นส่วนหนึ่งของผนังมาให้ด้วยค่ะ

    ปิดท้ายชั้น 1 ด้วยห้องน้ำส่วนกลางซึ่งอยู่โซนหน้าบ้าน ติดกับบันไดขึ้นชั้น 2 นะคะ

    ห้องน้ำนี้ออกแบบมาสำหรับรองรับแขกโดยเฉพาะ จึงเป็นแบบ Powder Room มีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้ง ใช้อาบน้ำไม่ได้ ส่วนสุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ จะใช้ของ COTTO เป็นหลักอีกเช่นเคย

    ด้านหลังอ่างล้างมือจะติดกระจกบานใหญ่มาให้ ทำให้ภายในห้องดูโปร่งขึ้น

    บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งค่อนข้างแข็งแรงทนทาน เวลาวิ่งขึ้น-ลงเร็วๆ ก็ไม่เกิดเสียงดัง มาพร้อมราวจับกันตกที่ติดตั้งให้เกือบตลอดทาง

    เนื่องจากฝ้าเพดานที่สูง 2.7 เมตร ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จะมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

    ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์กว้างๆ ที่เชื่อมห้องนอนทั้ง 3 ห้องเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งบริเวณนี้กว้างมากเพียงพอที่จะ Built-in ตู้เก็บของ, ชั้นวางหนังสือ, วางโซฟา หรือใช้เป็นมุมทำงานอดิเรกก็ได้ ถ้าเป็นเราจะวางเคาน์เตอร์บาร์ + ตู้เย็น เผื่อหิวน้ำหิวขนมกลางคืนจะได้ไม่ต้องลงไปครัวชั้นล่างค่ะ ><

    พื้นชั้นบนปูด้วยพื้นไม้สำเร็จรูป SPC มีคุณสมบัติพิเศษกว่าไม้ทั่วไปตรงที่ผสมผงหินมาด้วย ทำให้โครงสร้างพื้นแข็งแรงขึ้น อัตราการยืดหดตัวน้อยกว่าพื้นไม้ธรรมดา จึงใช้งานได้ทนทานเหมือนกระเบื้อง และให้ผิวสัมผัสที่ดีกว่าไม้ลามิเนตค่ะ

    บริเวณพื้นที่อเนกประสงค์จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ และดูโปร่งโล่งด้วยช่องเปิดแบบ Double Volume ที่สามารถมองลงไปชั้นล่างได้

    ต่อไปเราจะพาไปชมห้องนอนกันบ้าง เริ่มจากห้องนอนที่ติดกับบันไดจะเป็นห้องนอนของลูก ๆ 2 ห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่

    ห้องนอนลูกห้องแรกมีพื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือที่ให้วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ครบถ้วน คิดว่าอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็กจนโตไม่น่ามีปัญหา

    ด้านในสุดมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ

    ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับ Built-in ชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงาน ได้เต็มความกว้างของผนัง

    ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่บริเวณหน้าห้อง โดยมีพื้นที่โซนหน้าห้องสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าจึงใช้งานเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้สะดวก

    ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชันและสุขภัณฑ์ครบตามมาตรฐาน

    โดยพื้นที่อาบน้ำจะกว้างประมาณ 0.7 x 0.8 เมตร ระยะแบบนี้แนะนำให้ติดม่านกั้นอาบน้ำเพื่อกันน้ำกระเด็นไว้สักหน่อย จะใช้งานได้เป็นสัดส่วนขึ้น

    ห้องนอนของลูกๆ อีกหนึ่งห้องมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกเล็กน้อย และเป็นตำแหน่งที่มองเห็น Courtyard กลางบ้านด้วย เรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกโปรดก็ว่าได้ค่ะ

    ห้องน้ำจะอยู่บริเวณหน้าห้องเช่นเดิม และสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่บริเวณนี้ได้เลย

    ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกแห้งมาเป็นสัดส่วน ให้สุขภัณฑ์และวัสดุหลักๆของ COTTO เช่นกัน แต่พื้นที่อาบน้ำจะใหญ่กว่าห้องแรก มีขนาด 0.8×1.4 เมตรค่ะ

    ผ่านพื้นที่อาบน้ำแต่งตัวเข้ามาจึงเป็นพื้นที่พักผ่อน ซึ่งมีพื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้

    ด้านข้างเตียงยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน, ตู้เก็บของ น่าจะอยู่อาศัยตั้งแต่เด็กยันโตได้ไม่มีปัญหาค่ะ

    ปิดท้ายด้วยห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะได้พื้นที่ในโซนหน้าบ้านทั้งหมด

    ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่มากเป็น 2 เท่าของห้องนอนลูกๆ ห้องนี้ดูโปร่งมากเพราะ ได้หน้าต่าง+ประตูกระจกเต็มผนังฝั่งหน้าบ้าน ทำให้เราสามารถจัดแบ่งฟังก์ชันต่างๆ เป็นสัดส่วนได้ อย่างเช่นในบ้านตัวอย่างจะออกแบบพื้นที่หน้าห้องเป็นตู้เสื้อผ้าขนาบ 2 ฝั่งทางเดิน ทำให้มีพื้นที่เก็บเสื้อผ้า, ของใช้เยอะมากๆ หรืออีกไอเดียนึงอาจจัดเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวีในห้องนอนอีกจุดหนึ่งก็ได้

    ปลายสุดของแนวตู้เสื้อผ้าจะเป็นทางเดินไปยังพื้นที่แต่งตัว ซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ

    บ้านตัวอย่างจัดพื้นที่แต่งตัวและโต๊ะเครื่องแป้งไว้หน้าห้องน้ำอีกจุดหนึ่ง ถ้าหากเรา Built-in ตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นจรดฝ้าตามบ้านตัวอย่างจะทำให้สามารถเก็บของได้เยอะ

    ตำแหน่งของโต๊ะเครื่องแป้งก็จะได้แสงธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับการแต่งหน้าด้วยนะคะ

    ด้านในสุดเป็น Master Bathroom ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งโครงการจะให้สุขภัณฑ์มาครบถ้วน

    ที่น่าสนใจคือ พื้นที่อาบน้ำจะกว้างทีเดียวประมาณ 0.8 x 1.8 เมตร และเฉพาะใน Master Bathroom จะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ

    ข้อดีของห้องนอนขนาดใหญ่แบบบนี้ทำให้เวลาเปิดประตูเข้ามาจะไม่ได้เจอเตียงนอนทันทีนะคะ เราสามารถวางเตียงหลบเข้าไปด้านในอีกได้ จึงได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

    โซนพักผ่อนมีพื้นที่เหลือเฟือ ต่อให้ใช้เตียงขนาดใหญ่ 6-7 ฟุตก็วางได้หมดค่ะ และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างเตียงด้วย สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเราคือ ช่องประตู-หน้าต่างค่ะ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะมีประตูหน้าต่างขนาบ 2 ด้านเลย จึงสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี มีอากาศใหม่หมุนเวียนเข้ามาได้ตลอด

    ห้องนอนใหญ่เป็นตำแหน่งที่มองเห็น Courtyard กลางบ้านด้วยนะคะ

    ห้องจริงที่ส่งมอบจะเป็นห้องเปล่าตามรูปด้านล่าง ซึ่งเราสามารถเก็บไอเดียการตกแต่งในบ้านตัวอย่างไว้เป็นตัวอย่างได้ แต่จะออกแบบในสไตล์ไหนแล้วแต่ความชอบของเจ้าของบ้านได้เลย

    ในส่วนของระเบียงห้องจะมีขนาดใหญ่ประมาณ 4.3×0.9 เมตรเลยค่ะ โดยจะมีชายคาคลุมในส่วนของระเบียงไว้ ช่วยกันแดดได้ระดับนึง จึงสามารถนำโต๊ะเก้าอี้สนามเล็กๆ มานั่งรับลมชมวิว ก็ดูน่าใช้งานดี

    โครงการพยายามสอดแทรกธรรมชาติเข้ามายังตัวบ้าน จึงออกแบบให้มีกระถางปลูกต้นไม้บริเวณระเบียง เป็นอีก Gimmick เก๋ๆ ที่โครงการเตรียมไว้ให้

    ระดับของระเบียงจะลดลงจากพื้นที่ส่วนอื่นในบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้านค่ะ


    บ้านตัวอย่างแบบ Aeolus (เอโอลัส)

    ทาวน์โฮมแบบ Aeolous (เอโอลัส) เป็นทาวน์โฮมขนาดใหญ่สุดของโครงการ หน้าตาบ้านยังคงให้อารมณ์แบบ Modern European ใช้โทนสีที่ดูเรียบร้อย สะอาดตาแต่มีลูกเล่นอย่างซุ้มโค้ง ซึ่ง Facade บ้านแปลงมุมและแปลงริมจะแตกต่างกัน บรรยากาศจึงไม่ได้เหมือนๆ กันไปหมด ภาพรวมจึงดูสวยดีค่ะ

    หลังคาจะแตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วๆ ไปที่มักจะใช้ทรง Lean To หรือศัพท์ที่เข้าใจง่ายๆก็คือเพิงหมาแหงน ซึ่งทรงหน้าจั่วแบบนี้เราว่าดูสวยกว่า แต่ก็แอบเสียดายนิดหน่อย ที่หากมีการเดินรางน้ำหลังคา ก็คงจะต้องมีแนวท่อบริเวณหน้าบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้นะคะ

    ทาวน์โฮมแบบ Aeolous มีพื้นที่ใช้สอย 137.95 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 20.95 ตร.วา เทียบแล้วจะได้ขนาดที่ดินใหญ่เป็นพิเศษ เพิ่มมาจากโครงการส่วนใหญ่ 3-4 ตร.วา ทำให้ราคาก็ขยับขึ้นเริ่มต้น 5 ล้านบาท หน้ากว้าง 5.7 เมตร จึงสามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ มาในฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ จึงรองรับได้ทั้งครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก และครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย

    ชั้นล่างจัดเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหาร และมีห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง ซึ่งสามารถใช้ห้องน้ำชั้นล่างสำหรับอาบน้ำได้ ส่วนชั้นบนแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง ซึ่งห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ

    รั้วบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับหน้ากว้าง 5.7 m. จึงสามารถใช้จอดรถได้ 2 คัน ในส่วนของหลังคาที่จอดรถจะยังกันแดดได้ไม่ทั้งคัน จึงเป็นส่วนที่ลูกบ้านมักจะต่อเติมมากที่สุด

    พื้นที่จอดรถจะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้เฉพาะส่วนที่มีหลังคาคลุม ซึ่งลึกประมาณ 2.55 เมตร พร้อมเทคอนกรีตฉาบเรียบไว้ให้  ส่วนที่เกินชายคาออกมานั้นจะเทพื้นแบบ On Ground เลย เราแนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มเติมหากต้องการต่อเติมหลังคารถนะคะ

    สิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในโครงการทาวน์โฮมอื่นๆ ก็คือตู้เก็บของหน้าบ้าน ซึ่งที่นี่ทำเป็นตู้ขนาดใหญ่ประมาณ 0.4×0.7 เมตร สูงชนฝ้าเพดานเลย ซึ่งสามารถใช้เก็บของที่มีความสูงมากหน่อยได้อย่างเช่น พวกไม้กวาด, ไม้ถูพื้น ค่ะ

    สำหรับประตูบ้านของที่นี่เป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC ลองเปิดดูแล้วรู้สึกกว่ามีความแน่นหนา พร้อมเก็บขอบยางรอบประตูกันเสียงไม่ให้รบกวนเข้ามาในตัวบ้านได้ดี สเปกกระจกสีเขียวตัดแสง จึงช่วยลดความจ้าของแสงที่ผ่านเข้ามาและยังช่วยลดความร้อนด้วย

    เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area กว้างๆ เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่น – ทานข้าว ทำให้พื้นที่ดูโปร่ง สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้นะคะ

    ถ้าจัดเฟอร์ฯ ตามบ้านตัวอย่างจะมีระยะดูทีวี 3.2 m. ขนาดทีวีที่แนะนำก็ประมาณ 49 นิ้วกำลังดี และเมื่อวางโต๊ะกลางแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินเข้า-ออกบ้านได้สะดวก รองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 3-4 ที่นั่ง

    ทาวน์โฮมในหลายๆ โครงการจะวางตำแหน่งโซฟาไว้ติดกับประตูบ้านเลย ต่างจากโครงการนี้ที่ขยับเข้ามาด้านในนิดหน่อย ทำให้บริเวณหน้าประตูมีพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บรองเท้าได้ด้วยนะ

    แต่เมื่อขยับชุดโซฟาเข้ามาด้านในแล้ว ก็ทำให้ Pantry ครัว+พื้นที่ทานอาหารมีขนาดลดลงเช่นกัน แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะยังมีพื้นที่หลังบ้านให้สามารถทำครัวได้อีกนะคะ

    ประตูหลังบ้านเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบ UPVC แบบ 2 ตอน เปิดได้กว้างพอสมควร

    บ้านตัวอย่างเป็นแปลงที่มีพื้นที่ดินหลังบ้านเยอะ จึงออกแบบพื้นที่ด้านหลังไว้เป็นห้องครัวและพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่ง ได้เลย จุดเด่นของมุมนี้คือ สามารถ Take View สวนหลังบ้านได้พอดี ถ้าจัดหลังบ้านเป็นสวนก็จะได้วิวสวนร่มรื่นค่ะ

    ลานซักล้างด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าตัวบ้านไว้ให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้ลงเต็มพื้นที่ทั้งหมดนะ อย่าง Type จะลงเสาเข็มยื่นออกมาจากตัวบ้านอีก 2 เมตร (รวมพื้นที่หลังบ้านที่ลงเสาเข็ม 2×5.7 เมตร) ซึ่งดีกับงานต่อเติมหลังบ้าน มากๆ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าพื้นหลังบ้านจะทรุดจนแยกกับตัวบ้าน หรือจะมาดึงผนังหลังบ้านทำให้บ้านร้าว ส่วนพื้นผิวเป็นปูนขัดเรียบ อย่างไรตามอย่าลืมคำนึงเรื่องกฎหมายในการต่อเติมด้วยนะคะ

    กลับเข้ามาในตัวบ้าน จะมีห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังชั้นวางทีวี และมีทางเดินเข้าไปยังห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านในสุด ทำให้ห้องอเนกประสงค์ได้ความสงบ เป็นส่วนตัวมากขึ้น

    ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาดใหญ่ทีเดียว พร้อมทั้งแบ่งโซนเปียกแห้งไว้ชัดเจน ใช้อาบน้ำได้ดีเลย หากใช้ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอนคงต้องหาม่านมากั้นให้เป็นสัดส่วนขึ้น แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีสมาชิกนอนชั้นล่างจะไม่ได้เป็นปัญหาต่อการใช้งานสักเท่าไหร่ เพราะห้องนอนชั้นบนก็มีห้องน้ำรองรับการใช้งานครบถ้วนอยู่แล้ว สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลักเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวนะคะ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1×0.9 เมตร …หากใช้ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอนคงต้องหาม่านมากั้นให้เป็นสัดส่วนขึ้น แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีสมาชิกนอนชั้นล่างจะไม่ได้เป็นปัญหาต่อการใช้งานสักเท่าไหร่ เพราะห้องนอนชั้นบนก็มีห้องน้ำรองรับการใช้งานครบถ้วนอยู่แล้ว สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลักเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวนะคะ

    ในส่วนของห้องอเนกประสงค์จะจัดเป็นห้องทำงานตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือถ้าจัดเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ค่ะ

    ภายในมีหน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติและใช้เปิดระบายอากาศได้

    ในส่วนของบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่บริเวณหน้าบ้านเลย โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งดีกว่าบันไดโครงเหล็กที่ทาวน์โฮมหลายๆ ที่มักจะนิยมใช้กัน เวลาเดินบนบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กจะรู้สึกว่าพื้นแน่นๆ ไม่มีเสียงก๊องๆ หรือความรู้สึกว่าพื้นกลวง ปิดผิวบันไดด้วยไม้สำเร็จรูป

    ชานพักบันไดจุดแรกจะมีช่องหน้าต่างที่ใช้รับแสงธรรมชาติเข้ามาบริเวณบันได ช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันได้

    เนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูง ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จะมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

    ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับโถงทางเดินกว้างๆ เชื่อมห้องนอนต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ส่วนพื้นปูด้วยไม้สำเร็จรูป SPC ซึ่งใช้งานได้ทนทานเหมือนกระเบื้อง และให้ผิวสัมผัสที่ดีกว่าไม้ลามิเนต

    เนื่องจากโถงทางเดินมีขนาดใหญ่ จึงมีพื้นที่บางส่วนที่พอจะใช้ประโยชน์ได้ เช่นวางตู้โชว์, หิ้งพระ หรือใช้เล่นโยคะตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ โดยมีขนาดประมาณ 1.55 x 2.8 เมตร

    ภายในห้องนอนลูกๆ ห้องแรก มีขนาดใหญ่จึงวางเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าได้เลย แต่หากใช้เตียง 3 ฟุต ก็จะมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นได้ โดยรวมมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องนอนอีกห้องหนึ่งจึงเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ค่ะ

    ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ใช้รับแสงรับลมได้

    ห้องนอนลูกๆ อีกห้องหนึ่งมีขนาดกะทัดรัดขึ้นมาจากอีกห้องหนึ่งเล็กน้อย ห้องนี้หากจัดเป็นห้องนอนก็เหมาะกับการวางเตียงเดี่ยวมากกว่า เพราะจะมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

    หรือจะจัดเป็นห้องแต่งตัวตามแบบในบ้านตัวอย่าง ก็สามารถใช้เก็บของได้เยอะทีเดียว

    ห้องนอนลูกๆ ทั้ง 2 ห้อง จะต้องแชร์ห้องน้ำส่วนกลางร่วมกันนะคะ ซึ่งจัดฟังก์ชันมาตามมาตรฐาน มีการแบ่งโซนเปียกโซนแห้งเป็นสัดส่วน

    ให้วัสดุอุปกรณ์มาครบใช้ของ COTTO เป็นหลักเช่นเดียวกัน

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8×1.1 เมตร เหลือแค่ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มหน่อยก็ใช้งานได้สบายแล้วค่ะ

    ห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านทั้งหมด จึงสามารถจัดฟังก์ชันได้ครบทั้งพื้นที่พักผ่อน, ห้องน้ำ, ตู้เสื้อผ้าและระเบียง

    ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

    ด้านข้างเตียงนอนมีพื้นที่เหลือพอให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้

    ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ จึงสามารถวางม้านั่งยาวเพิ่มเติมได้ หรือจะติดตั้งชั้นวางทีวีก็ได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ไปบังทางเข้าห้องน้ำและระเบียงนะคะ

    ระเบียงห้องนอนมีขนาด 0.6 x 1.5 m. พร้อมปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย สามารถเอาผ้าเช็ดตัวมาผึ่งลมที่นี่ได้สะดวก และยังเป็นพื้นที่สำหรับออกมารับลม, ชมวิว เปลี่ยนบรรยากาศได้ด้วย

    ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ก็มีขนาดให้ใช้งานได้สบายทีเดียว จัดแบ่งโซนเปียก-โซนแห้งไว้เรียบร้อย สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ COTTO เช่นเดียวกัน

    ส่วนที่ชอบที่สุด คงหนีไม่พ้นพื้นที่อาบน้ำที่มีขนาดประมาณ 0.8 x 1.5 เมตร ซึ่งเข้ามุมอยู่ด้านในสุดทำให้สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้ง่ายด้วยค่ะ

    บ้านตัวอย่างแบบ Gaia (ไกอา)

    Gaia (ไกอา) เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188.6 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ จุดที่น่าสนใจคือการวางผังชั้นล่างในลักษณะ Open Plan ซึ่งไม่ค่อยเหมือนโครงการอื่นในโซนนี้ ทำให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่ง แต่ละฟังก์ชันเชื่อมถึงกันด้วยห้องนั่งเล่นทานอาหารที่อยู่ตรงกลางบ้าน

    ส่วนชั้นบนจะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของ Master Bedroom มาก จึงแยกโซนออกจากห้องนอนลูกๆ อีก 2 ห้องอย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้ใช้พื้นที่ไปกับทางเดินเยอะพอสมควร ในราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาทค่ะ

    Image 1/16
    Facade หน้าบ้านแบบ Gaia (ไกอา)

    Facade หน้าบ้านแบบ Gaia (ไกอา)

    บ้านตัวอย่างแบบ Achelous (แอคคิโลอัส)

    Achelous (แอคคิโลอัส) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นไซส์เริ่มต้นของโครงการ มีหน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123.4 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 2 ห้องอเนกประสงค์

    ภาพรวมจะคล้ายแบบ Aeolus (เอโอลัส) เลย เพียงแค่ความกว้างของหน้าบ้านจะไม่กว้างเท่า แต่มีฟังก์ชันในบ้านเท่าๆ กัน ที่ดินมีขนาดใหญ่กว่าทาวน์โฮมทั่วๆ ไปเหมือนกัน ในราคาที่ย่อมเยาลงมาหน่อย เริ่ม 4 ล้านบาทค่ะ

    Image 1/14
    Facade หน้าบ้านแบบ Achelous (2 หลังฝั่งขวา)

    Facade หน้าบ้านแบบ Achelous (2 หลังฝั่งขวา)

    ราคา

    CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ ราคา ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2566

    • Hestia (เฮสเทีย) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 235.83 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง) ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ เริ่ม 10 ล้านบาท
    • Gaia (ไกอา) : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188.64 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง) ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ เริ่ม 8 ล้านบาท
    • Aeolus (เอโอลัส) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร  ที่ดินเริ่มต้น 20.95 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 137.95 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง) ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ เริ่ม 5 ล้านบาท
    • Achelous (แอคคิโลอัส) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123.46 ตร.ม. (รวมที่จอดรถและลานซักล้าง) ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 2 ห้องอเนกประสงค์ เริ่ม 4 ล้านบาท
    • จอง 20,000-50,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ ตั้งอยู่ในโซนราชพฤกษ์ ติดถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ซึ่งเป็นถนนใหญ่ 6 เลนที่เชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์และสะพานเจษฎาบดินทร์ที่ใช้ข้ามแม่น้ำไปโซนเลี่ยงเมืองนนทบุรีได้ จุดเด่นคือทำเลติดถนนใหญ่ โดยเฉพาะโครงการทาวน์โฮมต้องบอกว่าในโซนนี้ค่อนข้างหากยากที่จะมีทาวน์โฮมติดถนนใหญ่ เพราะ 90% ต้องลัดเลาะเข้าไปในถนนรองและซอยย่อยนะคะ

    โดยทำเลนี้ถือว่ายังไม่ไกลรถไฟฟ้ามากนัก คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถวนไปรับ-ส่ง หรือเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปต่อรถไฟฟ้าได้อยู่ สามารถไปใช้งานรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ ทั้งสถานีบางรักน้อยท่าอิฐและสถานีพระนั่งเกล้าในระยะห่างประมาณ 4-5 km.

    ส่วนตัวรู้สึกว่าทำเลนี้เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนราชพฤกษ์, ชัยพฤกษ์, บางบัวทอง หรือคนที่ใช้ถนนกาญจนาภิเษกในการเดินทางจะสะดวกสุด จะเข้าไปทำงานในเมืองทางโซนพระราม 6, พระราม 7 ก็ยังไม่ไกลนัก ใช้สะพานข้ามแม่น้ำได้สะดวก หรือจะเดินทางเข้าเมืองโดยใช้เส้นราชพฤกษ์วิ่งยาวๆ ก็เชื่อมเข้าสาทรได้เลย แต่อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็นด้วยนะคะ

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการระดับนี้ ประตูเข้า-ออกที่นี่จะมีทั้งไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติที่มาช่วยเสริมความปลอดภัยในเวลากลางคืน เข้าออกโดย Easy Pass เหมือนทางด่วน มี CCTV และพี่รปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง ในส่วนของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จะมีการติดตั้ง Magnetic Sensor ให้ที่ชั้น 1 ค่ะ

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

    โครงการ – โครงการวางตำแหน่งสวนหลักให้อยู่โซนด้านหน้าของโครงการ โดยจะช่วยทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ เสริมสร้างบรรยากาศทางเข้าให้ดูดีมากขึ้น หรือถ้ามีแขกมาหา ก็สามารถรับรองที่ Clubhouse ด้านหน้าได้เลย โดยไม่ต้องเข้าหมู่บ้านไปลึกนัก จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัว และยังกระจายพื้นที่สวนไว้ในส่วนต่างๆ รวม 3 จุด เพื่อให้ลูกบ้านเข้าถึงได้สะดวกทั้งโครงการ และเนื่องจากเป็นโครงการที่รวมหลายโปรดักส์ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮม จึงมีการวางผังให้แยกแต่ละโซนไว้เป็นกลุ่มๆ ทำให้ลูกบ้านในแต่ละโปรดักส์แยกออกจากกันเป็นสัดส่วน

    บ้านเดี่ยว – ออกแบบมาได้แตกต่างจากโครงการอื่นที่มีราคา 10 ล้านบาทเท่าๆ กัน โดยมี Highlight เป็น Courtyard กลางบ้าน ช่วยเปิดช่องแสงให้กับบ้านที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ด้านในของตัวบ้านได้รับแสงธรรมชาติได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น และยังเป็นพื้นที่ทำให้สมาชิกในบ้านใกล้ชิดกันมากขึ้น และอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ห้องนอนชั้นล่างจะมีห้องน้ำในตัวมาให้เลย รองรับการใช้งานได้ดี

    บ้านแฝด – วางผังชั้นล่างในลักษณะ Open Plan ซึ่งไม่ค่อยเหมือนโครงการอื่นในโซนนี้ ทำให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่ง แต่ละฟังก์ชันเชื่อมถึงกันด้วยห้องนั่งเล่นทานอาหารที่อยู่ตรงกลางบ้าน ส่วนชั้นบนจะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของ Master Bedroom มาก จึงแยกโซนออกจากห้องนอนลูกๆ อีก 2 ห้องอย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้ใช้พื้นที่ไปกับทางเดินพอสมควรอยู่เช่นกัน

    ทาวน์โฮม – โครงการนี้จะให้ขนาดที่ดินใหญ่เป็นพิเศษ  เพิ่มมาจากโครงการส่วนใหญ่ 3-4 ตร.วา ราคาจึงขยับขึ้นกว่าเพื่อนบ้านนะคะ

    วัสดุ : วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นไปตามมาตรฐานของโครงการระดับราคานี้ แต่ก็มีบางอย่างที่ให้มาดี เช่น โครงสร้างบันไดในทาวน์โฮมที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กและ ทาวน์โฮม Type ใหญ่ จะมีตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่หน้าบ้านมาให้ด้วย, ส่วนบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจะใช้มิเตอร์ไฟ 1 เฟส (30/100) พร้อม Junction รองรับการติดตั้ง Wall Charger ได้ อีกประเด็นหนึ่งคือ เนื่องจากโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern European จึงมีดีเทลลูกเล่นในการตกแต่ง Facade ซึ่งค่าวัสดุก็จะมากกว่าแนวโมเดิร์นอยู่แล้วนะคะ เสียดายนิดเดียวที่ไม่ได้มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ ><

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สภาพโครงการโดยรวมดูเรียบร้อยดี คุมธีม Modern European ตั้งแต่หน้าประตู ไปจนถึงอาคาร Clubhouse รวมถึงสวนก็มีกลิ่นอายของยุโรปตามมาด้วยเช่นกัน

    สาธารณูปโภค : จัดเต็มมาก Clubhouse ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันครบน่าใช้งาน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเป็นโครงการที่รวมโปรดักส์หลากหลายราคาไว้ด้วยกัน ทำให้ Facility ส่วนกลางโครงการนี้ต้องดูสวย ฟังก์ชันครบ เพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นั่นทำให้ลูกบ้านในกลุ่มบ้านแฝดและทาวน์โฮมพลอยได้อานิสงค์ไปด้วย แต่ส่วนกลางจัดเต็มแบบนี้ก็ทำให้ราคาของบ้านแฝดและทาวน์โฮมขยับขึ้นจากเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน โครงการนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับ Facility ส่วนกลาง และชอบโครงการที่มี Clubhouse ใหญ่ๆ ฟังก์ชันครบครันค่ะ

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 4 – 15 ล้านบาท, 28 มิถุนายน 2566

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่, ใกล้ราชพฤกษ์, ไม่ไกลรถไฟฟ้า
    • ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, Easypass และระบบรักษาความปลอดภัยในตัวบ้าน
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ออกแบบดี, หลายโปรดักส์แต่ก็แยกเป็นสัดส่วน, บ้านเดี่ยวมี Courtyard กลางบ้าน
    • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – บรรยากาศดี, พื้นที่สีเขียวประมาณ 2 ไร่, น่าใช้งาน
    • สาธารณูปโภค 9/10 – จัดเต็มมาก, Clubhouse ขนาดใหญ่, ฟังก์ชันครบครัน
    • 8.00 / 10.00

    CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ เหมาะกับใคร

    โครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนราชพฤกษ์, ชัยพฤกษ์, บางบัวทอง ใช้ถนนกาญจนาภิเษกในการเดินทางเป็นหลัก จะเข้าไปทำงานในเมืองทางโซนพระราม 6, พระราม 7 ก็ยังไม่ไกลนัก หรือจะเดินทางเข้าเมืองโดยใช้เส้นราชพฤกษ์วิ่งยาวๆ ก็เชื่อมเข้าสาทรได้เลย แต่อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็นด้วยนะคะ อีกกลุ่มคือคนที่อยากอยู่บ้านแต่ก็ยังต้องการใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเพื่อเข้าไปทำงาน-เรียนในเมืองอยู่ค่ะ

    ตัวบ้านเดี่ยวเหมาะกับคนที่ชอบ Courtyard กลางบ้าน, บ้านแฝดเหมาะกับคนที่ชอบบ้านแบบ Open Plan และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของห้องนอน ส่วนทาวน์โฮมเหมาะกับคนที่อยากได้โครงการติดถนนใหญ่เป็นประเด็นหลัก นอกจากนี้คนที่เลือกบ้านโครงการนี้ยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ Facility ส่วนกลางด้วย ในงบประมาณ 4-15 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้น 28,000 บาท/เดือน


    ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
    ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc