Whizdom COEX ปิ่นเกล้า โครงการ Mixed-Use ตัวใหม่จาก MQCD ความน่าสนใจคือทำเลที่ติด MRT บางยี่ขันแบบ 0 เมตร และมี Community Mall ให้ใช้แบบเดินเชื่อมจากโครงการได้เลย ในราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท ส่วนโครงการนี้มีจุดสนใจอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
- ความสะดวกสบาย : เป็นคอนโดภายใต้ Mixed-Use Project ที่มี Community Mall ร้านค้า ร้านอาหาร และ พื้นที่ทำงานอยู่ภายในโครงการครบ ทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้สะดวกสบายครบจบในโครงการเลยค่ะ
- ติดรถไฟฟ้า : จากโครงการมีทางเดินเชื่อมตรงไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขัน ได้เลย อีกทั้งยังเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทำให้ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกสบาย
- สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ : พื้นที่ Retail อยู่ที่ชั้น 1-4 ส่วน Facilities หลักอื่นๆ อยู่ที่ชั้น 19 และดาดฟ้า ซึ่งก็ให้มาครบครัน สวยงามน่าใช้งาน เน้นได้วิวมุมสูง เห็นสะพานพระราม 8 นอกจากนั้นทางโครงการยังมีการบริการอื่นที่น่าสนใจอย่าง 30 years Warranty, บริการอาหารเช้าให้ลูกบ้านในวันทำงานให้ด้วยนะคะ
- ห้องกว้างอยู่สบาย : เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน ไปจนถึงอยู่กันแบบครอบครัวเริ่มต้น ภายในจัดฟังก์ชันลงตัว เน้นระยะการใช้งานที่กว้างขวาง บวกกับระยะฝ้าเพดาน 2.7 เมตร ซึ่งถือว่าสูงกว่าโครงการรอบข้างเลย อีกทั้งยังคำนึงเรื่องการ Service ได้สะดวก และมีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ มาผสมผสานอีกด้วยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Whizdom COEX Pinklao (วิสซ์ดอม โคเอ็กซ์ ปิ่นเกล้า) ณ วันที่ 24 มีนาคม 2566
ชื่อโครงการ | Whizdom COEX Pinklao (วิสซ์ดอม โคเอ็กซ์ ปิ่นเกล้า) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด |
ที่ดิน | 2-1-91 ไร่ (เฉพาะ Whizdom Flex) |
ประเภทคอนโด | High Rise 19 ชั้น แบ่งเป็น Lifestyle a& Community Space – 4 ชั้น Condominium – 15 ชั้น |
จำนวนยูนิต | Whizdom Flex – 340 ยูนิต Whizdom Fam – อยู่ระหว่างการพัฒนา |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 26 ยูนิต |
ที่จอดรถ | ประมาณ 57% (ที่จอดรถอัตโนมัติ + ที่จอดทั่วไปสาหรับผู้พิการ) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2568 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.7 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 3.4 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1265 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.778110, 100.485404
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Whizdom COEX ปิ่นเกล้า มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งซึ่ง “อยู่ติดรถไฟฟ้า” ที่ MRT สถานีบางยี่ขัน แบบมีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าเข้ากับตัวทาวเวอร์อาคารได้ทั้งสองฝั่งได้เลย ทำให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกสบาย ซึ่ง MRT บางยี่ขัน เป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งสายสีน้ำเงินนี้จะวิ่งรอบเมืองผ่านจุดสำคัญต่างๆ อย่างสีลม, อโศก, รัชดาฯ, ลาดพร้าว โดยเน้นเชื่อมโยงไปจุดต่างๆ ของเมืองได้ง่าย และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้หลายสาย โดยในอนาคตสถานีบางยี่ขันจะเป็นสถานีที่มี สถานี Interchange ประกบอยู่ทั้งซ้ายและขวา ไม่ว่าจะเป็นสถานีบางขุนนนท์ ที่ไป Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนและสีส้ม กับสถานีสิรินธรที่ไป Interchange กับสายสีแดงอ่อนเช่นกัน ทำให้เพิ่มความหลากหลายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินย่านฝั่งธนฯนี้ MRT บางยี่ขัน นับว่าเป็นหนึ่งในสถานีที่มีคอนโดมาเปิดตัวกันอย่างคึกคักเลย ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดบริเวณนี้อยู่ ก็ค่อนข้างจะมีตัวเลือกเยอะพอสมควร ซึ่งสำหรับ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า ถือว่ามีความน่าสนใจที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านหลายอย่าง โดยเฉพาะความเป็น “Mixed-Use Project” ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน เรียกได้ว่าทุกอย่างอยู่ใต้คอนโดตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางออกไปที่ไหนเลยก็ได้ เหมาะกับคนที่เน้นความครบจบในตัว อีกทั้งติดรถไฟฟ้าเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย ซึ่งถือเป็นจุดที่โดดเด่นจากโครงการเพื่อนบ้านเลย แต่ก็แลกมากับราคาที่ถือว่าสูงกว่าเพื่อนบ้าน คืออย่างน้อยจะต้องมีเงิน 3.5 ล้านในกระเป๋า ถ้าไม่อย่างงั้นก็อาจต้องมองเป็นคอนโดใกล้เคียง ที่อยู่สถานีเดียวกัน ซึ่งโครงการอื่นๆจะเป็นตึกสร้างเสร็จพร้อมอยู่มาสักพักแล้ว หรืออาจจะต้องมองเป็นห้องมือ 2 แทนค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >> ส่องคอนโด Mixed-Use เปิดใหม่ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า เทียบ 5 คู่แข่งรอบ MRT บางยี่ขัน เป็นอย่างไร?
การใช้รถใช้ถนน เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนจรัญสนิทวงศ์ ทำให้การใช้รถใช้ถนนค่อนข้างสะดวกเลย อีกทั้งสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลายเส้นทาง มีสะพาน 3 สายที่ใช้ข้ามไปยังฝั่งพระนครแยกไปตามถนนสายหลักต่างๆ ทั้งสะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้) สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 ก็เป็นสะพานที่ใกล้กับโครงการทั้งนั้น นอกจากนั้นสามารถลัดเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ไปออกถนนพระราม 8 โดยไม่ต้องเข้าแยกบรมราชชนนีให้เสียเวลา หรือจะกลับรถขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนีก็ได้ ส่วนการจราจรในย่านนี้ ค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วนฉะนั้นหากต้องเดินทางในช่วงดังกล่าว อาจต้องเผื่อเวลากันสักหน่อยค่ะ
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกโครงการก็หาของกินได้ง่ายเลยค่ะ โดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารใต้ตึกแถว และพวกรถเข็นขายอาหารกันอย่างคึกคัก เดินออกจากหน้าโครงการมาก็เจอเลย หรือใครชอบเดินแนวตลาดนัดที่ใกล้ๆ ก็จะมีตลาดอินดี้ที่ภายในมีทั้งร้านค้าร้านอาหารอยู่เยอะมาก คึกคักตลอด โดยตลาดจะเปิดในช่วงเย็นๆ ส่วนระยะทางก็เดินไปจากโครงการได้ใกล้ๆเลยค่ะ
ส่วนห้างสรรพสินค้า แหล่งแฮงเอาท์ของคนในย่านนี้อย่างที่รู้จักกันดีก็จะมี “พาต้า ปิ่นเกล้า” และ “เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า” อีกทั้งยังมี Hypermarket อย่าง Lotus’s, Makro และตลาดต่างๆให้เดินเที่ยวครบอีกด้วย ซึ่งห้างสรรพสินค้าหรือตลาดต่างๆเหล่านี้ จะตั้งอยู่บนถนน บรมราชชนนี ไม่ได้อยู่แนวรถไฟฟ้า ทำให้ต้องเดินทางด้วยรถเป็นหลักนะ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ใกล้โรงพยาบาลใหญ่อีกอย่างรพ.ศิริราช รพ. เจ้าพระยา หรือจะข้ามสะพานซังฮี้มาอีกหน่อย ก็จะมี รพ.วชิรพยาบาล อยู่ไม่ไกลค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบ ส่วนมากจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งที่จะมีผลกับโครงการหลักๆ คือทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับคอนโดสูง โดยมีถนนซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 คั่นอยู่ ทำให้ตัวทาวเวอร์ ไม่ได้ประชิดกันมากนักห่างกันประมาณ 30 เมตร และตะวันตกเฉียงใต้ มีคอนโดสูงอยู่เช่นกัน แต่ก็อยู่เยื้องห่างออกไปพอสมควร ไม่ได้กระทบมากนัก ส่วนด้านหน้าโครงการก็จะติดกับรถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขันซึ่งฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น Whizdom COEX (Whizdom Fam) อีกทาวเวอร์หนึ่ง ซึ่งมีความสูงเท่าๆกัน และอยู่ตรงกันเลย ส่วนทิศที่ได้วิวโล่งก็จะมีทางด้านหลังโครงการซึ่งจะติดกับอาคารแนวราบทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นทิศที่เห็นสะพานพระราม 8 อีกด้วย
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ด้านหลัง) ติดกับอาคารแนวราบทั้งหมดทำให้ทิศนี้ได้วิวโล่งค่ะ
สำนักงานขาย
สำนักงานขายตั้งอยู่ติดกับ MRT บางยี่ขัน ฝั่งตรงข้าม Site ที่ดินโครงการเลยค่ะ หากมาจากรถไฟฟ้า ลงทางออก 4 แล้วถึงเลย หรือหากขับรถมาทางโครงการก็มีที่จอดรถไว้ให้เช่นกัน ซึ่งภายในสำนักงานขายจะมีห้องตัวอย่างให้ชม 2 ห้อง คือ 1 Bedroom 34.9 ตร.ม. ที่ชั้น 2 และ 2 Bedroom 48.5 ตร.ม. ที่ชั้น 3 ค่ะ
ภาพบรรยากาศภายนอกบริเวณสำนักงานขาย เป็นอาคาร 3 ชั้น อยู่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์มองเห็นได้ง่ายเลยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดอินดี้ ~ 500 เมตร
- Tesco Lotus ~ 1.3 กิโลเมตร
- เมเจอร์ปิ่นเกล้า+ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง ~ 1.4 กิโลเมตร
- Central ปิ่นเกล้า ~ 1.9 กิโลเมตร
- ห้างพาต้า ~ 2.1 กิโลเมตร
- ตลาดบางขุนนนท์ ~ 2.2 กิโลเมตร
- Foodland ~ 2.2 กิโลเมตร
- Makro ~ 2.7 กิโลเมตร
- The Sense ปิ่นเกล้า ~ 2.4 กิโลเมตร
- ตลาดบางขุนศรี ~ 3.2 กิโลเมตร
- ตลาดวังหลัง ~ 3.9 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ.เจ้าพระยา ~ 2.9 กิโลเมตร
- รพ.ศิริราช ~ 3.9 กิโลเมตร
- รพ.วชิรพยาบาล ~ 4.5 กิโลเมตร
โรงเรียน
- ม.ธรรมศาสตร์ ~ 3.9 กิโลเมตร
- ม.ศิลปากร ~ 4.2 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Whizdom COEX เป็นคอนโดภายใต้แบรนด์ Whizdom จาก MQDC เป็นแบรนด์ที่มีโปรเจคให้รู้จักกันมาก่อนอย่าง Whizdom 101 ซึ่งเป็นโครง Mixed-Use ที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับย่านปุณณวิถีกันมาแล้ว จนตอนนี้กลายเป็น Landmark และแหล่งงานสำคัญแห่งหนึ่งของคนในย่าน
ถึงแม้ว่า Whizdom COEX อาจไม่ได้มีสเกลใหญ่เท่า เท่ากับ Whizdom 101 ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานที่ใหญ่ แต่โปรเจคนี้น่าจะเข้ามามีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของย่านนี้ไม่มากก็น้อย เนื่องจาก Whizdom COEX ตั้งอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขัน 0 เมตร ทำให้สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าสะดวกสบาย ทั้งคนที่พักอาศัยในคอนโด และคนภายนอกอื่นๆ ที่จะมาใช้งาน Community Mall และร้านค้าต่างๆ ภายในโครงการ
ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าหรือ คอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ รอบข้าง จะไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า และจำเป็นต้องพึ่งการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าถนนบรมราชชนนีและจรัญสนิทวงศ์ รถติดเป็นประจำ ทำให้ Whizdom COEX ได้เปรียบในแง่ของการเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะฝนตก รถติดก็เดินทางมาได้สะดวก นอกจากนั้นทางโครงการยังได้มีการจัดร้านค้าร้านอาหารไว้หลากหลาย โดยจะเน้นเป็นร้านที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจาก ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์รอบข้าง เพื่อเป็นการสร้าง Traffic ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาใช้งานมากยิ่งขึ้น
Whizdom COEX ออกแบบภายใต้แนวคิด “Seamless Life Experience for the New Generation” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ยืดหยุ่นมากขึ้น ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในโครงการได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งทำงาน พักผ่อน และเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย โดยตัวโครงการจะประกอบไปด้วย 2 ทาวเวอร์ ขนาบข้างรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขัน แยกเป็นที่ดิน 2 แปลง อีกทั้งแยกส่วนกลาง นิติบุคคล และการจัดการต่างๆ ออกจากกันชัดเจน ดังนี้
- Whizdom Flex จรัญสนิทวงศ์ฝั่งเลขคู่ ออกแบบฟังก์ชันอาคารและห้องพักอาศัยสำหรับ Extrovert เน้นกิจกรรมที่ active และการเข้าสังคม (340 ยูนิต)
- Whizdom Fam จรัญสนิทวงศ์ฝั่งเลขคี่ ออกแบบ ฟังก์ชันอาคารและห้องพักอาศัยสำหรับ Introvert เน้นความเป็นส่วนตัว และกิจกรรมที่ได้ Focus (อยู่ระหว่างการพัฒนา)
ซึ่งสำหรับรีวิวนี้เราจะพากันไปชม ตัวโครงการและห้องพักอาศัย เฉพาะอาคาร Whizdom Flex ซึ่งตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งเลขคู่ กัน ที่ปัจจุบันเปิดขายกันแล้ว ส่วน Whizdom Fam จรัญสนิทวงศ์ฝั่งเลขคี่ ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา สำหรับใครที่สนใจ อาจจะต้องรอกันหน่อยในช่วงปีหน้าค่ะ
โครงการตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ครึ่ง เป็นคอนโด High Rise 19 ชั้น แบ่งเป็น Lifestyle & Community Space 4 ชั้น และ Condominium 15 ชั้น จำนวน 340 ยูนิต ถือว่ามีจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าโครงการ High Rise รอบข้างหลายโครงการเลยค่ะ สำหรับการจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ในแต่ละชั้นของโครงการมี ดังนี้
Lifestyle & Community Space (COEX Space) ชั้น 1-4 จัดให้แต่ละชั้นมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป ทั้งคาเฟ่ พื้นที่ทำงาน ร้านอาหาร และฟิตเนส ซึ่งเป็นส่วน Retail ที่เปิดให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานร่วมด้วย ซึ่งหากลูกบ้านมาใช้งาน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกันค่ะ
- ชั้น 1 : Co-Cafe, Lobby, Smart Locker, ห้องพยาบาล, ห้องฆ่าเชื้อ
- ชั้น 2 : Co-Play & Creation Space
- ชั้น 3 : Co-Kitchen & Dining
- ชั้น 4 : Co-Active and Digital Lifestyle
Residences จะเริ่มตั้งแต่ชัั้น 5-19 โดยพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 19 และดาดฟ้า เน้นให้ได้วิวมุมสูงเห็นสะพานพระราม 8 ส่วนที่เหลือจะเป็นชั้นพักอาศัยค่ะ
- ชั้น 5 : ห้องพักอาศัย, สวนพักผ่อน
- ชั้น 6-17 : ห้องพักอาศัย
- ชั้น 18 : Penthouse
- ชั้น 19 : ฟิตเนส, โรงหนังส่วนตัว,Co -working Space, ห้องประชุม, ห้องซักผ้า, Smart Storage, ซาวน่า
- ชั้นดาดฟ้า : สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก, สวนดาดฟ้า
การจัดการความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยของโครงการก็จัดฟังก์ชันออกมาได้เป็นสัดส่วนดี โดยเราขอแยกเป็นประเด็นสำคัญดังนี้
- ช่องจอดรถแยกกันชัดเจน เมื่อเข้ามาแล้วลูกบ้าน(สีฟ้า)จะเลี้ยวขวาไปยังช่องจอดซึ่งมี 2 ช่อง ส่วนผู้ใช้งานส่วน Retail (สีแดง)จะเลี้ยวซ้ายไปยังช่องจอด ซึ่งมี 1 ช่องแยกกันชัดเจน ซึ่งที่จอดรถ ส่วนใหญ่จะเป็น Automatic Parking ซึ่งรวมทั้งหมดประมาณ 53% (เฉพาะ Flex) ถือว่าโอเคสำหรับคอนโดที่อยู่ติดรถไฟฟ้าเลย
- โถงลิฟต์แยกกันชัดเจน โดยลิฟต์ส่วน Retail (สีแดง) จะมีสองตัวบริเวณด้านหน้าเลย ส่วนลิฟต์โซนพักอาศัย(สีส้ม) จะอยู่ด้านใน ซึ่งโถงลิฟต์จะมีประตูกั้นแยกชัดเจน อีกทั้งส่วนนี้จะต้องใช้ Keycard access ก่อนอีกชั้น เพิ่มความปลอดภัยได้ดีค่ะ
สำหรับการจัดฟังก์ชันที่ชั้น 1 จะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือส่วน Retail และส่วน Lobby ของลูกบ้าน ซึ่งจะแยกทางเข้าออกชัดเจน โดยบริเวณทางเข้าออกทุกจุดของที่นี่จะมีโถงฆ่าเชื้อ ซึ่งมีลักษณะเป็น Chamber ที่เมื่อเดินผ่านแล้วจะช่วยลดไวรัสและแบคทีเรีย ก่อนเข้ามาภายในอาคารได้ด้วย
บรรยากาศบริเวณ Lobby ภายในโครงการ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า
Lobby จะเป็นพื้นที่ต้อนรับขนาดใหญ่ ภายในมีการออกแบบให้มีผนังลบมุมต่างๆ และไฟซ่อนในโทนสีเย็นๆ ดูทันสมัย แปลกตา ตัดกับชุดโซฟาต้อนรับสีส้มสดใสดู Futuristic
โถงลิฟต์ส่วนพักอาศัย เชื่อมต่อกับ Lobby โดยมีประตูกั้นแยกชัดเจน ช่วยให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
Co-cafe เป็นพื้นที่ Retail ที่สามารถมานั่งจิบชากาแฟชิลๆกันได้ นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังเป็นจุดที่ ทางโครงการมีบริการอาหารเช้าทุกวันจันทร์-ศุกร์* ยกเว้นวันนักขัตฤกษ์ สำหรับลูกบ้าน ให้มารับก่อนไปทำงานกันได้ฟรีๆ ส่วนร้านกาแฟบริเวณนี้จะเป็นแบรนด์ไหน โปรดสอบถามจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ
ชั้น 2 เป็นส่วนของ Retail เต็มพื้นที่ ซึ่งชั้นนี้จะเน้นเป็น Co-Play & Creation Space รองรับการทำงาน ประชุม และพักผ่อนระหว่างวันได้ ส่วนการจัด Zoning ภายในจะเป็นอย่างไรโปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ
Co-Play & Creation Space มีการจัดเป็นพื้นที่ทำงาน + พักผ่อน สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเดี่ยว และแบบกลุ่มเลย อีกทั้งมีการตกแต่งโดยใช้สีสันที่สดใสเพิ่มเข้ามาให้ดู Active มากยิ่งขึ้น สามารถพาเพื่อนๆ มานั่งทำงาน หรือนัดประชุมกันได้ที่นี่เลย
ชั้น 3 การจัดฟังก์ชันภายในยังคงเน้นเป็น Retail เต็มพื้นที่ ซึ่งชั้นนี้จัดเป็น Co-Kitchen & Dining ที่มีร้านค้าร้านอาหาร บวกกับมีพื้นที่สำหรับทานอาหารครบเลย นอกจากนั้นที่ชั้นนี้จะมีทางเชื่อมเดินไปยังรถไฟฟ้าได้ ทำให้ลูกบ้านสามารถกดลิฟต์ลงมาชั้น 3 และเดินขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวกเลยค่ะ
Co-Kitchen & Dining ทางโครงการออกแบบเป็นพื้นที่ทานอาหาร ตรงกลางล้อมรอบไปด้วยร้านค้าร้านอาหาร ตรงนี้ลูกบ้านสามารถแวะซื้ออาหารและทานได้ที่นี่ให้เรียบร้อยก่อนกลับขึ้นห้องพักได้สะดวกเลยนะ
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณทางเชื่อมอาคารไปยังสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งบริเวณนี้มีการออกแบบเป็นทั้งบันได และทางลาดเลื่อนรองรับคนได้ทุกกลุ่มเลย พร้อมทั้งมีการจัดเป็น พื้นที่สีเขียวเล็กๆไว้หลายจุด เพิ่มความสดชื่นได้ดีเลยนะ อีกทั้งบริเวณนี้ทางโครงการยังมีการติดตั้งหอฟอกอากาศฟ้าใส เพื่อลดค่าฝุ่น ให้กับผู้ที่เดินเชื่อมต่อเข้ามายังโครงการอีกด้วยนะ
ชั้น 4 เป็นส่วนของ Retail ซึ่งประกอบไปด้วย Co-Active and Digital Lifestyle พื้นที่ออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ ซึ่งสำหรับพื้นที่ส่วนนี้ลูกบ้านจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้งนะคะ)
Co-Active and Digital Lifestyle พื้นที่ออกกำลังกายที่สามารถ Interactive กันได้ เป็นการออกกำลังกายที่ได้ Feel ของการเล่นเกมไปพร้อมกันเลยค่ะ
ชั้น 19 เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักสำหรับโครงการนี้ซึ่งจะประกอบไปด้วย พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ โรงหนังส่วนตัว และส่วน support การทำงานอย่าง co-working space และ ห้องประชุม พร้อมทั้งมีห้องน้ำ แยกชายหญิงซึ่งภายในมีห้องซาวน่ามาให้ใช้งานด้วย รวมถึงมีส่วนบริการ อย่างห้องซักผ้า-อบผ้า และบริการ Smart Storage มาให้ครบเลยค่ะ
นอกจากนั้นทางโครงการยังได้ออกแบบชั้น 19 เป็น Rescues floor ที่หากเกิดเหตุกรณีฉุกเฉิน ชั้นนี้จะยังคงสามารถใช้น้ำและไฟฟ้าได้อยู่อีกด้วยนะ
ห้องออกกำลังกาย มีขนาดใหญ่ทีเดียว ภายในสามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ 10 เครื่อง อีกทั้งยังเป็นห้องที่มีกระจกสูงเต็มบานล้อมรอบ ได้บรรยากาศโปร่งโล่งเหมาะต่อการออกกำลังกายดีเลยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโรงหนังส่วนตัว จะเห็นได้ว่าภายในห้องมีการวางเป็นชุดโซฟารองรับได้กลุ่มใหญ่เลย พร้อมทั้งในห้องมีจอขนาดใหญ่ สามารถดูหนังฟังเพลงได้จุใจ อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่เทควิวมุมสูงทางด้านสะพานพระราม 8 ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ
บรรยากาศบริเวณ Co-working space ภายในโครงการ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Co-working space จะเห็นได้ว่ามี Partition แยกเป็นโซนๆ เพื่อให้ผู้ที่มาใช้งานได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ภายในมีการจัดเป็นพื้นที่ทำงานและพื้นที่พักผ่อน ทั้งแบบกลุ่มแบบเดี่ยวครบเลยค่ะ
นอกจากนั้นพื้นที่ส่วนนี้ยังมีการจัดเป็นห้องประชุมไว้ด้วย สามารถนัดเพื่อนร่วมงานมาประชุม งานกันได้เลยค่ะ
ห้องบริการซักผ้า ภายในมีทั้งเครื่องซักผ้าและอบผ้าครบเลยค่ะ สำหรับใครที่จัดส่วนระเบียงเป็น Working pod ไว้นั่งทำงาน ก็สามารถขึ้นมาซักผ้าอบผ้าที่นี่แทนได้ค่ะ
นอกจากนั้นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือภายในโครงการนี้มีบริการ Smart Storage ที่ให้ลูกบ้านสามารถนำ สิ่งของเครื่องใช้ หรือเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้อย่างเสื้อโค้ต เสื้อกันหนาว มาฝากไว้ได้ ช่วยให้ ชั้นเก็บของหรือตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่มากยิ่งขึ้น ช่วยแก้ปัญหาของการอยู่อาศัยรูปแบบคอนโดซึ่งมักจะมี ข้อจำกัดในด้านพื้นที่ ซึ่งมักมีที่เก็บของไม่เพียงพอได้ค่ะ โดยส่วนนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของนิติบุคคล และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ
ชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่ส่วนกลาง outdoor ที่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ และสวน ขนาดใหญ่ ซึ่งจากชั้น 19 จะต้องเชื่อมต่อมายังชั้นดาดฟ้าได้ด้วยบันได ซึ่งมี 2 จุดเลย ส่วนบรรยากาศจะเป็นอย่างไรไปดูกันต่อค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ภายในโครงการ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่เทควิวสะพานพระราม 8 ในมุมสูงได้เต็มตา จะมาว่ายน้ำออกกำลังกายหรือมาแช่น้ำพักผ่อนชมวิวก็ได้ค่ะ บรรยากาศดีทีเดียวนะ
บรรยากาศบริเวณ สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า ภายในโครงการ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า
สระว่ายน้ำมีขนาด 25 × 8 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจัง พร้อมทั้งภายในมีการแบ่งเป็นโซนสระเด็กไว้ให้ครบเลย อีกทั้งยังมีการออกแบบเป็น Sunken seat ทั้งในสระ และในสวนไว้หลายจุด สามารถมานั่งปาร์ตี้ชิลๆ กันได้เลยค่ะ
สำหรับค่าส่วนกลางของที่นี่อยู่ที่ 60 บาท/ตร.ม./เดือน หรือประมาณปีละ 18,720 – 62,640 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง)
ชั้นพักอาศัย
ชั้นพักอาศัย เริ่มตั้งแต่ชั้น 5- 18 โดยห้อง Penthouse จะมีเฉพาะชั้น 18 ส่วนห้องอื่นๆ จะมีให้เลือกตั้งแต่ชั้น 5-17 เลย ส่วนแต่ละชั้นจะมีรายละเอียดอะไรบ้างตามไปดูกันต่อเลยค่ะ
ชั้น 5 จะเป็นชั้นที่มีสวนพักผ่อนขนาดใหญ่คอยสร้างความร่มรื่นอยู่ด้วย ทำให้ห้องพักอาศัยชั้นนี้จะได้วิวสวนสีเขียวดูร่มรื่น แต่ก็แลกมากับการที่อาจจะมีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่านสักหน่อยค่ะ
นอกจากนั้นที่ชั้นพักอาศัยอื่นๆ ยังมี Pocket Garden อีกหลายจุด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณโถงทางเดิน ทำให้ลูกบ้านที่เดินผ่านไปมา ก็จะรู้สึกร่มรื่นมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Pocket Garden นี้จะไม่ได้เปิดให้เข้าใช้งาน โดยมีการออกแบบระบบรดน้ำอัตโนมัติ และนานๆ ครั้งจะมีคนสวนขึ้นมาตัดแต่งต้นไม้เท่านั้น ทำให้ลูกบ้านที่มีห้องติด Pocket Garden ไม่ต้องกลัวเสียความเป็นส่วนตัวเลยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศ บริเวณสวนพักผ่อนชั้น 5 มีการออกแบบ Landscape เป็น Step ลดหลั่นกันไป สร้างลูกเล่นให้กับสวนดูน่าสนใจ นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยให้ห้องพักอาศัยชั้นนี้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว บวกกับมีการลงต้นไม่พรางสายตาบริเวณหน้าห้องพักอีกด้วยค่ะ
การวางผังชั้นพักอาศัย Typical floor plan
การวางผังชั้นพักอาศัย มีการออกแบบเลยเอาอาคารเป็นรูป H-shape โดยให้มีส่วนเว้าของอาคารอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งคือทิศที่มีตึกอยู่ไม่ไกล เพื่อเป็นการเพิ่มระยะห่างให้กลับห้องพักอาศัยเพื่อที่จะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ส่วนลิฟต์จะอยู่ช่วงกลางของอาคารค่อนไปด้านหลังโดย Circulation แยกเป็นปีกซ้าย-ขวา ซึ่งจะเห็นว่าฝั่งปีกขวา (เส้นประสีน้ำตาล) จะมีจำนวนยูนิตน้อยกว่าทำให้ห้องฝั่งนี้มีคนเดินผ่านน้อย ได้ความสงบมากกว่า สำหรับอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 113 : 1 ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องใช้เวลารอลิฟต์อยู่บ้างค่ะ
Typical floor plan ชั้น 5-17 จะมีความคล้ายคลึงกันทีเดียว มีเพียงชั้น 5 ที่ติดกับสวน
และชั้น 17 ที่จะมีจำนวนยูนิตน้อยลงหน่อย เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับวางงานระบบแอร์ ซึ่งห้องพักอาศัยแบบต่างๆ จะมีจุดน่าสนใจอะไรบ้างเราสรุปมาให้ดังนี้ค่ะ
- Studio ขนาด 26 – 28 ตร.ม. (สีเขียว) เป็นห้องที่มีสัดส่วนไม่เยอะมากมีเพียงสี่ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ในตำแหน่งที่เทควิวทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะได้เพียงแดดเช้าเท่านั้น หลังจากนั้นก็ร่มตลอด แต่วิวทางทิศนี้จะ ติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 ที่ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดสูง ทำให้ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นวิวมากนัก อยากได้ห้องที่ค่อนข้างร่ม อยู่สบาย ไม่ร้อนค่ะ
- 1 Bedroom ขนาด 31 – 40 ตร.ม. (สีฟ้า) เป็นห้องที่มีสัดส่วนค่อนข้างเยอะ ส่วนตำแหน่งห้องก็มีให้เลือกทุกทิศเลย รวมถึงมีห้องที่เทควิวโล่ง เห็นสะพานพระราม 8 แบบเต็มตาให้เลือกอีกด้วยค่ะ นอกจากนั้นยัง มีห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียวได้ความเป็นส่วนตัวอีกด้วยนะ
- 2 Bedrooms ขนาด 48 – 68 ตร.ม. (สีเทา) เป็นห้องที่อยู่ในตำแหน่งมุมอาคารทั้งหมด ทำให้ได้ช่องเปิดเยอะ รับแสงรับลมได้ดีบรรยากาศในห้องจะดูโปร่งโล่งอยู่สบาย สำหรับห้องนี้จะมีเพียง 5 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ส่วนตำแหน่งก็มีให้เลือกทุกทิศเลย รวมถึงห้องที่เทควิวโล่งเห็นสะพานพระราม 8 ให้เลือกด้วย และมีห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียวให้เลือกโดยเช่นกันค่ะ
นอกจากนั้นอีกความน่าสนใจคือห้องพักอาศัยชั้นที่ 17 และ 18 จะมีโถงบันไดเชื่อมต่อไปยังชั้นส่วนกลาง 19 และดาดฟ้าได้ ทำให้สามารถเดินไปใช้ส่วนกลางได้ง่าย ใครที่ชอบวิวมุมสูงและใช้ส่วนกลางเป็นประจำห้องพักอาศัยสองชั้นนี้เหมาะเลยค่ะ
ชั้น 18 จะมีเฉพาะห้อง Penthouse เท่านั้น ส่วนตำแหน่งห้องมีให้เลือกเทควิวทางด้านหลังซึ่งเห็นสะพานพระราม 8 และ ด้านข้างโครงการเท่านั้น ส่วนทางด้านหน้าจะเป็นพื้นที่สำหรับงานระบบแอร์ ทำให้ชั้นนี้มียูนิตเพียง 10 ยูนิตเท่านั้นได้ความเป็นส่วนตัวดี โดยห้องที่มีความน่าสนใจคือ ห้องในเส้นประสีน้ำตาล เป็นห้องที่ไม่ติดเพื่อนบ้านเลย ได้ความเป็นส่วนตัวดี อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับโถงบันไดเชื่อมต่อไปยังชั้นส่วนกลางได้ง่ายเลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Retail (COEX Space )
- ชั้น 1 : ร้านค้า, Co-Cafe, Lobby, Smart Locker, ห้องพยาบาล, ห้องฆ่าเชื้อ
- ชั้น 2 : ร้านค้า, Co-Play & Creation Space
- ชั้น 3 : ร้านค้า, Co-Kitchen & Dining
- ชั้น 4 : ร้านค้า, Co-Active and Digital Lifestyle
Residences
- ชั้น 5 : ห้องพักอาศัย, สวนพักผ่อน
- ชั้น 6-17 : ห้องพักอาศัย
- ชั้น 18 : Penthouse
- ชั้น 19 : ฟิตเนส, โรงหนังส่วนตัว,Co -working Space, ห้องประชุม, ห้องซักผ้า, Smart Storage, ซาวน่า
- ชั้นดาดฟ้า : สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก, สวนดาดฟ้า
- สวนหย่อมที่ชั้น 5, 8, 11, 14, 17 และ ดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25×8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 1.8×4 เมตร ขนาด 0.50 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร (เฉพาะ Whizdom Flex)
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 113 : 1 (เฉพาะ Whizdom Flex)
- Service Lift อาคารละ 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 57% เป็นที่จอดรถอัตโนมัติ + ที่จอดทั่วไปสำหรับผู้พิการ 6 ช่องจอด (เฉพาะ Whizdom Flex)
- EV Charger
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / ระบบอัจฉริยะจำป้ายทะเบียนรถ
- Warranty 30 ปี : โครงสร้างอาคาร, การรั่วซึมของหลังคา, การรั่วซึมของระบบท่อน้ำและไฟฟ้า, การใช้งานประตูหน้าต่าง
- บริการอาหารเช้าทุกวันจันทร์-ศุกร์* ยกเว้นวันนักขัตฤกษ์
- หอฟอกอากาศฟ้าใส
- ทางเชื่อมจากตัวอาคารไปยังตัวสถานีรถไฟฟ้า (Walkway)
แบบห้อง
Whizdom COEX ปิ่นเกล้า มีแบบห้องให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ Studio ไปจนถึง Penthouse เลยค่ะ โดยสัดส่วนจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้าง เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน หรืออยู่กับแบบคู่รัก อีกทั้งมีห้องขนาดใหญ่อย่าง 2 Bedrooms และ Penthouse ให้เลือกอีกด้วย ซึ่งก็จะเหมาะสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัย อาจจะเป็นบ้านหลังที่สอง เน้นความสะดวกสบาย ติดห้าง และรถไฟฟ้า โดยรูปแบบห้องพักในโครงการจะมีรายละเอียดดังนี้
- Studio ขนาด 26 – 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 31 – 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
- 2 Bedrooms ขนาด 48 – 68 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
- Penthouse ขนาด 66 – 87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
รูปแบบการขาย Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน สามารถออกแบบตกแต่งให้เป็นเอกลักษณ์สไตล์ของตัวเองได้ โดยสิ่งที่จะได้ภายในห้องจะมี สุขภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ให้มาหลายรายการ ดังนี้
- เคาน์เตอร์ครัว ขนาดขั้นต่ำ 1.8 เมตร ท็อปหิน QUARTZ (FOOD GRADE MATERIAL) พร้อมอ่างล้างจาน และ Hob & Hood (แบบดูดควันออกนอกอาคาร) ยี่ห้อ MEX / Backsplash เป็น Ceramic tile
- ตู้เสื้อผ้า ออกแบบเพิ่มความลึก 70 ซม. ใช้งานได้สะดวก แขวนเสื้อผ้าได้ไม่ยับ
- ตู้ Built-in ซ่อนเครื่องซักผ้า พร้อมวางงานระบบมาให้เรียบร้อย
- สุขภัณฑ์ Kohler พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered หนา 10 มม.
การออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ รวมถึงมีการติดตั้ง Home automation มาให้หลายรายการ เพื่อการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนรายละเอียดต่างๆ สรุปได้ดังนี้
- ติดตั้งแอร์ ONE-WAY CASSETTE TYPE และ WALL TYPE ภายในห้องมาให้เรียบร้อย
- ระบบแอร์ WATER-COOLED CHILLER SYSTEM ทำให้ไม่มี Condensing Unit ระบายลมร้อน ทำให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างคุ้มค่า
- FRESH AIR FAN ระบบวัดค่า Co2 เติมอากาศดีเข้าห้อง และมี Filter กรอง PM2.5 ให้ลูกบ้านนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ติดตั้งภายในห้องนอน (สำหรับ 2 Bedroom ติดตั้งเฉพาะห้องนอนใหญ่)
- งานระบบท่อห้องน้ำเป็นแบบท่อออกหลังสามารถ Service ได้จากโถงทางเดิน สามารถ Maintenance ได้โดยเจ้าของห้องไม่อยู่ อีกทั้งช่วยให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยค่ะ
- MQDC application ที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้อง รวมถึงบริการ Home Repair Service (แจ้งซ่อม), เช็คTracking พัสดุ ผ่าน Smart phone ได้ นอกจากนั้นยังมี Feature ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารทั้งภายในโครงการ, MQDC, Privilege ต่างๆ สำหรับลูกบ้านอีกด้วยนะ
- Warranty 30 ปี : โครงสร้างอาคาร, การรั่วซึมของหลังคา, การรั่วซึมของระบบท่อน้ำและไฟฟ้า, การใช้งานประตูหน้าต่าง
วัสดุภายในห้อง
- พื้นห้อง SPC หนา 5 mm.
- พื้นห้องน้ำ homogeneous tile & Ceramic tile
- Digital Door Lock ใช้งานได้ 6 ระบบ (Mobile app., Passcode, Smart Card, Smart Tag, Finger Print, Key) จาก MiLock
- ห้องน้ำ ใช้สุขภัณฑ์ Kohler พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered หนา 10 มม.
- ไฟ LED Downlight
- ปลั๊กและสวิตช์ไฟ จาก legrand
- Smoke Detector
1 Bedroom ขนาด 34.9 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีสัดส่วนเยอะที่สุดในโครงการ ส่วนตำแหน่งห้องก็มีให้เลือกทุกทิศเลย จัดฟังก์ชันมาได้ลงตัว เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน หรืออยู่กับแบบคู่รัก ส่วนจุดที่น่าสนใจเราสรุปไว้ให้ ดังนี้
- เป็นห้องหน้ากว้าง จัดให้ฟังก์ชันหลักอย่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น อยู่ติดริมหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติดี ดูโปร่งโล่งอยู่สบาย
- ครัวปิดขนาดใหญ่ พร้อม เคาน์เตอร์ครัวกว้าง 2.2 เมตร ทำอาหารได้จริงจัง โดยที่กลิ่นไหม้ฟุ้งกระจายไปยังส่วนพักผ่อนอื่นๆ
- Living area เชื่อมต่อกับระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงเต็มบาน รับแสงได้เยอะ ดูโปร่ง
- ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ จัดเป็น Working pod ที่นั่งทำงานริมหน้าต่างเพิ่มเติมได้ เนื่องจากพื้นที่ระเบียงไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ที่คอยเป่าลมร้อนออกมา จึงสามารถ ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
- ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัว กั้นแยกด้วยผนังทึบ เป็นห้องขนาดใหญ่ 2.85×4.5 เมตร วางเตียง 6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบมีทางเดินเหลือโดยรอบสบายๆ
- ห้องน้ำขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานรถเข็นได้ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับห้องนอนได้โดยตรง ใช้งานได้สะดวกดี
ห้องครัวภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ห้องครัวภายในห้องเป็นแบบปิด กั้นแยกจากส่วนห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวน ส่วนพักผ่อนอื่นๆ และยังทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามายังบริเวณครัวได้ ทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้น
สำหรับห้องครัวนี้มีขนาด 2.3×2.05 เมตร ระยะหน้าเคาน์เตอร์อยู่ที่ 1.45 เมตร เดินสวนกันได้สบาย จะวางชั้นเก็บรองเท้าเล็กๆ เพิ่มเติม ก็ยังได้ค่ะ ส่วนวัสดุพื้นห้องครัวจะใช้ SPC ลายไม้ หนา 5 mm. ที่มีความทนทานต่อความชื้น แข็งแรงทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี
อ่านบทความเพิ่มเติม >> เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน
เมื่อเข้ามาแล้ว สวิตช์เปิด-ปิดไฟจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของประตูเลย ใช้งานได้สะดวก สำหรับปลั๊กและสวิตช์ไฟ ภายในห้องนี้จะใช้ยี่ห้อ legrand ทั้งหมด ดูเรียบๆ โมเดิร์นดีเลย ส่วนประตูเข้าห้องมีขนาด 1×2.4 เมตร ค่อนข้างกว้างทีเดียว พร้อม ติดตั้ง Digital Door Lock ใช้งานได้ 6 ระบบ จาก Milock มาให้ครบ นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ผ่าน MQDC application ได้อีกด้วยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้างถึง 2.2 เมตร Built-in ครัว ท็อปเป็นหิน QUARTZ พร้อมติดตั้งชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง, เตาไฟฟ้า 2 หัว และ Hob & Hood แบบดูดควันออกนอกอาคาร ยี่ห้อ MEX ส่วนผนังด้านหลังติดตั้ง Backsplash เป็น Ceramic tile มาให้เรียบร้อยสามารถทำอาหารได้จริงจังดูแลรักษาได้ง่ายเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ตู้เก็บของด้านล่าง พื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บขนาดใหญ่ ภายในมีถังขยะติดตั้งอยู่กับหน้าบาน ใช้งานได้ง่ายแบบนี้เลยค่ะ ส่วนด้านบนมี มีลิ้นชักช้อน ส้อม และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะ
เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ส่วนชั้นวางของด้านบน จะมีทั้งแบบมีหน้าบานเก็บของได้เรียบร้อย และแบบโปร่งซึ่งเหมาะสำหรับวางของที่หยิบใช้บ่อยๆ ได้สะดวก
ส่วนพื้นที่วางตู้เย็น จะอยู่ถัดเข้ามาจากส่วนครัวบริเวณ living area ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะสามารถวางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้สบายค่ะ
Living area ภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ถัดมาเป็นส่วนของ Living area ซึ่งอยู่ติดริมระเบียงทำให้ได้แสงธรรมชาติ และเปิดรับลมได้ โดยซ้ายมือจะเป็นห้องนอน ซึ่งภายในจะมีห้องน้ำ ทำให้ถ้าหากจะใช้ห้องน้ำจะต้องผ่านห้องนอนก่อนค่ะ สำหรับวัสดุภายในห้อง พื้นห้องใช้เป็น SPC ลายไม้ หนา 5 mm. ที่มีความทนทานต่อความชื้น แข็งแรงทนทาน ส่วนระยะฝ้าเพดาน 2.7 เมตร ค่อนข้างสูงทีเดียว ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมไฟ LED Downlight อีกทั้งภายในห้องยังติดตั้งแอร์ ทั้งแบบ ONE-WAY CASSETTE TYPE และ WALL TYPE มาให้ครบเลยด้วยค่ะ
Living area ภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
Living Area มีขนาด 2.2x 3.5 เมตร ภายในสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมชุดโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง ได้พอดีๆ หรือจะจัดวางเป็นโซฟายาวใช้งานร่วมกับโต๊ะทานอาหารแบบในห้องตัวอย่างนี้ก็ได้ค่ะ
ระยะหน้าโซฟาจะเหลือประมาณ 1.2 เมตร หาโต๊ะน้ำชาเล็กๆ มาวางเพิ่มเติมได้ และแนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังเหมือนในห้องตัวอย่างนะคะ จะได้เหลือทางเดินได้กว้าง ส่วนระยะดูทีวีนี้ จะสามารถติดตั้งขนาด 46 นิ้วได้นะ
ระเบียงภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ส่วนระเบียง เชื่อมต่อกับส่วนพักผ่อนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสามตอนสามารถเปิดได้กว้าง เชื่อมต่อพื้นที่กันได้ดีค่ะ
ระเบียงภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ระเบียง มีขนาด 2.2×0.9 เมตร ภายในสามารถจัดเป็น Working pod หรือ ฟังก์ชันอื่นเพิ่มเติมได้ตามใจชอบเลย เพราะเนื่องจากโครงการที่นี่ใช้แอร์ระบบ WATER-COOLED CHILLER SYSTEM ทำให้ไม่มี Condensing Unit ระบายลมร้อน จึงสามารถ ใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ
ตู้ Built in บริเวณระเบียง ภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
สำหรับห้องนี้ภายในจะได้ตู้ Built in ตรงส่วน ระเบียงมาด้วย ภายใน มีการวางงานระบบ สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้า เพิ่มเติมได้ดู เรียบร้อยเป็นสัดส่วนดี
ห้องนอน 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
มาต่อกันที่สวนห้องนอนกันบ้าง ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียว เป็นห้องหน้ากว้าง 2.85 เมตร ลึก 4.5 เมตร ภายในสามารถวางเตียง 6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้ แบบเหลือทางเดินโดยรอบสบายๆ สำหรับใครที่ชอบนอนดูหนังดูซีรีห้องนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยค่ะ
นอกจากนั้นภายในห้องนอนยังติดตั้ง FRESH AIR FAN ระบบวัดค่า Co2 เติมอากาศดีเข้าห้อง และมี Filter กรอง PM2.5 มาให้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้พักอาศัย นอนหลับอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ
ฝั่งด้านในเป็น ประตูทางเข้าห้องน้ำซึ่งจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องนอนเลย ซึ่งจากส่วนนั่งเล่น เปิดเข้าห้องนอนมาก็เข้าห้องน้ำได้เลยใกล้ๆค่ะ ส่วนผนังหน้าห้องน้ำจะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับห้องน้ำได้ต่อเนื่องกันดีเลย
ตู้เสื้อผ้าในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ตู้เสื้อผ้าในห้องนี้จะได้ตู้ ขนาดกว้างถึง 1.8 เมตร และต้องบอกก่อนว่าตู้เสื้อผ้าภายในโครงการนี้ถูกออกแบบมาให้ลึกกว่าปกติอีกด้วย ทำให้สามารถแขวนเสื้อผ้าได้โดยไม่ยับ ภายในก็มีลิ้นชักให้สามารถเก็บชุดชั้นในถุงเท้าได้เป็นสัดส่วนครบเลย ส่วนระยะหน้าตู้ถึงเตียงเหลือค่อนข้างกว้างเลยสามารถยื่นแต่งตัวได้สบาย
ห้องน้ำ ภายในห้อง 1 Bedroom 34.9 ตร.ม.
ห้องน้ำภายในห้องนี้ค่อนข้างกว้างเลย ออกแบบมาให้สามารถรองรับการใช้งานรถเข็นได้สะดวก ภายในจัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ใช้งานได้ง่าย สำหรับวัสดุภายในห้องน้ำ พื้น และผนัง จะใช้เป็น homogeneous tile & Ceramic tile สีขาว-เทา แบบนี้เลยค่ะ ส่วนฝ้าเพดานติดตั้ง พัดลมดูดอากาศมาให้บริเวณส่วนอาบน้ำมาให้ครบเลยค่ะ
และอีกจุดที่น่าสนใจคือ งานระบบท่อห้องน้ำที่นี่เป็นแบบท่อออกหลัง สามารถ Service ได้จากโถงทางเดิน ช่วยให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยค่ะ
สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ ภายในห้องน้ำ
ภายในได้อ่างล้างหน้าสี่เหลี่ยม พร้อมมี ช่องเก็บของด้านล่าง และกระจกเงา มาให้เรียบร้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็เป็นแบบลอยตัวดูโมเดิร์นดี ซึ่งทั้งหมดเป็นของ Kohler ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำ มีขนาด 1x 1.65 เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย ภายในได้ที่อาบน้ำ hand shower ที่ผนังมี การออกแบบเป็นช่องเก็บของเอาไว้ให้ด้วย พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered หนา 10 มม. มาให้ครบเลยค่ะ
2 Bedrooms ขนาด 48.5 ตารางเมตร เป็นห้องไซส์ใหญ่ ที่มีจำนวน 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น อยู่ในตำแหน่งเทควิวด้านหน้า และด้านหลังโครงการ ซึ่งเป็นทิศที่ได้ลมค่อนข้างดี แต่ก็ได้แดดมากด้วยเช่นกัน สำหรับการจัดฟังก์ชันก็ทำออกมาได้ลงตัว เป็นห้องที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 3-4 คน หรืออยู่กันเป็นครอบครัวขนาดเริ่มต้น 3 คน พ่อแม่ลูก ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้
- เป็นห้องมุม ได้ช่องหน้าต่างเยอะ เน้นฟังก์ชันหลักอย่างห้องนั่งเล่น ห้องนอน อยู่ติดริมหน้าต่าง รับแสงและลมได้ดี อยู่สบาย
- 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงคู่ได้ทั้ง 2 ห้องเลย อีกทั้งยังเป็นห้องที่กั้นแยกด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัวดี
- Common area ขนาดใหญ่ ที่รวมพื้นที่ครัวพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหาร เอาไว้ด้วยกัน ดูโปร่งโล่ง
- ห้องน้ำเข้าออกได้ 2 ทาง เชื่อมต่อทั้งจาก Common area และห้องนอนใหญ่ ใช้งานได้สะดวก
- ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ จัดเป็น Working pod ที่นั่งทำงานริมหน้าต่างเพิ่มเติมได้ เนื่องจากพื้นที่ระเบียงไม่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ที่คอยเป่าลมร้อนออกมา จึงสามารถ ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
- Built in ซ่อน Laundry ไว้ในผนัง โดยภายในวางได้ทั้งเครื่องซักผ้าและอบผ้าครบเลย ดูเรียบร้อย เป็นสัดส่วนดี
เมื่อเข้าห้องมาแล้วส่วนแรกจะเจอกับ common area ขนาดใหญ่เลย ดูโอ่อ่ากว้างขวาง อีกทั้งระยะฝ้าเพดานที่สูงถึง 2.7 เมตร ยิ่งทำให้ดูโปร่งมากยิ่งขึ้นค่ะ ส่วนวัสดุต่างๆเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ
มาดูส่วนหน้าห้องกันก่อนค่ะ ขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแบบเปิดดูโปร่งดีเลย ส่วนที่ผนังด้านซ้ายมือข้างประตูทางเข้า จะเป็นตู้ built in ซ่อนส่วน laundry เอาไว้ภายในดูเรียบร้อยดีเลยค่ะ
มาดูตู้ built in กันก่อนค่ะ ภายในเป็นช่อง กว้าง 1 เมตร ลึก 80 ซม. สามารถวางเครื่องซักผ้าพร้อมตู้อบผ้าด้านบนได้สบาย ด้านในมีการวางงานระบบมาให้เรียบร้อย ส่วนตัวตู้ built in ทางโครงการก็ให้มาแบบนี้เลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
มาต่อกันที่ส่วนครัวกันค่ะ เคาน์เตอร์ครัว เป็นแบบ L-shape ขนาดใหญ่ ได้ทั้งชั้นเก็บของด้านล่างและด้านบนแบบนี้เลย
และที่พิเศษเคาน์เตอร์ครัวในห้องนี้ด้านข้างจะมี ตู้เก็บรองเท้าและชั้นเก็บของโปร่งๆมาให้ด้วย เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งข้างประตูทางเข้าพอดีทำให้สามารถเก็บรองเท้าหรือสัมภาระเล็กๆได้ง่ายเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
สำหรับเคาน์เตอร์ครัวฝั่งนี้จะมีขนาดกว้าง 1.9 เมตร โดยห้องนี้จะติดตั้งเตาไฟฟ้า 4 หัว มาให้ ส่วนวัสดุและอุปกรณ์อื่นๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวฝั่งนี้จะมีขนาดกว้าง 70 ซม. ด้านบนเป็นอ่างล้างจานหนึ่งหลุม พร้อมช่องเก็บของด้านล่างและด้านบนมาให้เช่นกัน ส่วนด้านข้างจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดกว้าง 80 ซม. สามารถวางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้ค่ะ
Common area ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
Common area เป็นห้องขนาดใหญ่ ประมาณ 4×3.4 เมตร ภายในจัดเป็นส่วนครัวที่ผนังด้านหนึ่งแล้ว ยังเหลือพื้นที่สำหรับจัดเป็นโต๊ะทานอาหาร 4 ที่นั่ง และโซฟาพักผ่อนได้ ซึ่งในห้องตัวอย่างจัดโต๊ะทานข้าวแบบวางชิดโซฟาไว้เป็นไอเดีย ซึ่งการจัดแบบนี้ ก็จะช่วยให้เหลือทางเดินโดยรอบค่อนข้างกว้างทีเดียว
พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งได้สบาย พร้อมทั้งวางโต๊ะน้ำชาตัวเล็กๆได้ ส่วนระยะดูทีวีภายในห้องนี้จะสามารถติดตั้งขนาด 46 นิ้วได้ค่ะ
ระเบียง ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 2×0.9 เมตร ภายในจัดเป็นส่วนทำงาน ส่วนพักผ่อน หรือจะปลูกต้นไม้ก็ยังได้ค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของห้อง ตรงกลางจะเป็นห้องน้ำ ถัดไปทางด้านซ้ายมือจะเป็น Master Bedroom ส่วนห้องทางด้านซ้ายมือสุดจะเป็นห้องนอนรองค่ะ
ห้องน้ำ ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
มาดูส่วนห้องน้ำกันก่อนค่ะ สำหรับห้องนี้จะสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งจาก Common area และ Master bedroom เลย ใช้งานได้สะดวก ภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้าง จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งานเช่นกัน
ฺสำหรับวัสดุและสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำ เหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ
พื้นที่อาบน้ำ ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1×1.6 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบาย ภายในติดตั้ง ที่อาบน้ำ hand shower ส่วนที่ผนัง มีชั้นวางของมาให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เช่นเดียวกันค่ะ
Master bedroom เป็นห้องขนาด 3.1x 2.85 เมตร ภายในสามารถวางเตียง 6 ฟุต แบบเหลือทางเดินโดยรอบสบายๆ อีกทั้งภายในติดตั้ง FRESH AIR FAN มาให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งภายในห้อง Type นี้จะติดเฉพาะห้อง Master bedroom นะคะ
Master bedroom ภายในห้อง 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
ส่วนที่ผนังปลายเตียง จะมีการวางงานระบบสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนได้ ซึ่งตรงนี้จะสามารถติดตั้งขนาด 60 นิ้วได้เลย
นอกจากนั้น ด้านข้างยังมี พื้นที่ว่างสำหรับจัดเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้
ส่วนผนังอีกด้านหนึ่งจะเป็น ประตูเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ซึ่งประตูนี้จะเป็นบานเลื่อนซ่อนในผนัง ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ประตูจะไม่เปิดชนกันในห้องน้ำนะ ส่วนผนังหน้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะไม่ได้บานกระจกแบบนี้นะคะ จะได้เป็นบานทึบเหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ
ห้องนอนรอง ภายใน 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
ห้องนอนรอง เมื่อเข้ามาแล้วจะ เป็นพื้นที่โถงเล็กๆ ก่อนจะเป็นส่วนเตียงนอนด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เปิดประตูมาไม่เห็นเตียงโดยตรงนะ
พื้นที่โถงตรงนี้จะมี ชั้นวางของ Built in ในผนังมาให้ด้วย แต่ผนังด้านข้างจะไม่ได้กระจกเงาแบบนี้นะคะ แต่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการแต่งตัวได้สะดวกมากขึ้นได้นะ
ห้องนอนรอง ภายใน 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
สำหรับตู้เสื้อผ้าในห้องนี้ จะได้ขนาด 1.5 เมตร ส่วนสเปคและวัสดุต่างๆ เหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ
ห้องนอนรอง ภายใน 2 Bedrooms 48.5 ตร.ม.
ถัดเข้ามาส่วนของห้องนอนมีขนาด 3×2.6 เมตร ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต เพราะมีทางเดินเหลือโดยรอบได้สบาย ตรงนี้สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาด 6 ฟุต ก็ยังได้ อีกทั้งภายในยังได้ช่องหน้าต่างกระจกบริเวณข้างเตียงมาด้วย เป็นตำแหน่งที่ได้แสงพอดีๆ และเปิดใช้งานได้สะดวกดีเลย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
Studio ขนาด 26 – 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
แปลนห้อง Studio ขนาด 26 – 28 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31 – 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 – 40 ตร.ม.
2 Bedrooms ขนาด 48 – 68 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
แปลนห้อง 2 Bedrooms ขนาด 48 – 68 ตร.ม.
Penthouse ขนาด 66 – 87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
แปลนห้อง Penthouse ขนาด 66 – 87 ตร.ม.
ราคา
Whizdom COEX ปิ่นเกล้า ราคา ณ วันที่ 24 มีนาคม 2566
- Studio ขนาด 26 – 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 31 – 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
- 2 Bedrooms ขนาด 48 – 68 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
- Penthouse ขนาด 66 – 87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท (สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานขาย)
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหิน QUARTZ ( FOOD GRADE MATERIAL)
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา n/a บาท
- ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 30 งวด
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : ตั้งอยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ และติด MRT สถานีบางยี่ขัน แบบมีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าเข้ากับตัวทาวเวอร์อาคารได้ทั้งสองฝั่งได้เลย ทำให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกสบาย ซึ่งอีกจุดสำคัญของ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า ที่นอกจากจะเป็นทำเลที่ติดรถไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นคอนโดมิเนียมที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส Co-working space ครบครันภายในตัวอีกด้วย ลูกบ้านที่เลือกอยู่ที่นี่ก็จะได้ความสะดวกสบายจากความเป็น Mixed-use ของโครงการไปเต็มๆ
การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวกเลย เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนจรัญสนิทวงศ์ บริเวณที่ตัดกับถนนบรมราชชนนี และถนนสิรินธร ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้หลากหลายทาง มีสะพาน 3 สายที่ใช้ข้ามไปยังฝั่งพระนครได้ง่าย ส่วนการจราจรในย่านนี้ค่อนข้างติดขัดในเวลาเร่งด่วน อาจต้องเผื่อเวลาในการเดินทางกันด้วยค่ะ ส่วนที่จอดรถที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็น Automatic Parking รวมทั้งหมดประมาณ 53% ถือว่าโอเคสำหรับคอนโดที่อยู่ติดรถไฟฟ้านะคะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สะดวกสบาย โครงการติดรถไฟฟ้า MRT สถานีบางยี่ขัน สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งวิ่งรอบเมืองผ่านจุดสำคัญต่างๆ อย่างสีลม, อโศก, รัชดาฯ, ลาดพร้าว นอกจากนั้นในอนาคตสถานีบางยี่ขันจะมีสถานี Interchange ประกบอยู่ทั้งซ้ายและขวาทำให้สามารถ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนและสีส้มได้สะดวก เพิ่มความหลากหลายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
วัสดุ : ห้องขายแบบ Fully Fitted อยู่ในระดับมาตรฐาน พื้นเป็น SPC หนา 5 มม. และ homogeneous tile & Ceramic tile ครัวได้ Top เป็นหินควอตซ์ ชุดครัว พร้อมที่ดูดควันออกนอกอาคาร ของ Mex ห้องน้ำได้ Kohler พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก นอกจากนี้ก็จะมี Built in ตู้เสื้อผ้า และตู้ซ่อนเครื่องซักผ้ามาให้อีกด้วยค่ะ
การออกแบบโครงการ : การจัดการความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยก็ทำได้ดี มีการแยกช่องจอดรถ และโถงลิฟต์ ของลูกบ้าน และคนนอก ออกจากกันชัดเจน ดูแลจัดการได้ง่าย ส่วนการออกแบบตกแต่งก็ทำมาได้น่าสนใจ ดู Futuristic สนุกสนาน พร้อมมีสวนสีเขียวแทรกอยู่ภายในโครงการหลายจุดเลย รวมถึงมีการใส่ใจให้เรื่อง เข้าออกทุกจุดมีโถงฆ่าเชื้อ และ หอฟอกอากาศฟ้าใสบริเวณทางเชื่อมไปรถไฟฟ้า เพื่อลดค่าฝุ่นให้กับผู้ที่เดินผ่านไป-มา นอกจากนั้นทางโครงการยังได้ออกแบบชั้น 19 ชั้นส่วนกลางหลักเป็น Rescues floor กรณีฉุกเฉินชั้นนี้จะยังคงสามารถใช้น้ำและไฟฟ้าได้อยู่อีกด้วยนะ
การออกแบบห้อง : ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดี อยู่สบาย ใส่ใจในรายละเอียดการใช้งานต่างๆ ทั้งระยะการใช้งานต่างๆ ที่กว้างขวาง รวมถึงคำนึงเรื่องการ Service ได้สะดวก บวกกับมีการนำเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานอีกด้วย เช่น เคาน์เตอร์ครัวที่ใหญ่ ขั้นต่ำ 1.8 เมตร ใช้งานได้จริงจัง, ขนาดของตู้เสื้อผ้าที่ลึก 70 ซม. แขวนเสื้อผ้าไม่ยับ, ระบบแอร์รวมศูนย์ ทำให้ไม่มี Condensing Unit จึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างคุ้มค่า, งานระบบท่อห้องน้ำที่สามารถ Service ได้จากโถงทางเดิน, ระบบ FRESH AIR FAN เพื่อคุณภาพอากาศที่ดีภายในห้องนอน และสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้อง รวมถึงบริการ Home Repair Service (แจ้งซ่อม) เช็คTracking พัสดุ ผ่าน MQDC application ได้
สาธารณูปโภค : มีครบครันตามมาตรฐาน โดยชั้น 5 จะมีสวนขนาดใหญ่ให้ผ่อนคลาย ส่วนชั้น 19 และดาดฟ้า จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ซึ่งเน้นให้เทควิวมุมสูงได้ทุกจุดเลย โดยชั้น 19 จะเป็นชั้นที่มีห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ และส่วน Support การทำงาน อย่าง co-working space + ห้องประชุม พร้อมมีพื้นที่ให้ผ่อนคลายอย่าง โรงหนังส่วนตัว และห้องซาวน่าแยกชายหญิง สวนชั้นดาดฟ้าจะประกอบไปด้วยสวน และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 25×8 เมตรใช้ออกกำลังกายได้จริงจัง อีกทั้งยังได้วิวโล่งเห็นสะพานพระราม 8 นอกจากนั้นยังมีการบริการอื่นๆ อย่าง 30 years Warranty, บริการอาหารเช้าทุกวันจันทร์-ศุกร์* สำหรับลูกบ้านให้มารับก่อนไปทำงานกันได้อีกด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 150,000 บาท/ตร.ม., 24 มีนาคม 2566
- ทำเล 8.5/10 – ติดถนนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์สูง
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวก มีทางลัด ที่จอดรถ 57%
- ไม่ใช้รถ 9/10 – ติดรถไฟฟ้า มีทางเชื่อมเดินไปได้จากทาวเวอร์เลย
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted ระดับมาตรฐาน พร้อมเทคโนโลยีต่างๆภายในห้อง
- แบบ 7.5/10 – โครงการจัด Zoning ได้ดี ห้องพักกว้าง ฟังก์ชันลงตัว อยู่สบาย
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาหลากหลายทั้งฟังก์ชันส่วนกลาง และการบริการที่ได้รับ
- HIGH CLASS
- 8.1625 / 10.00
Whizdom COEX ปิ่นเกล้า เหมาะกับใคร
โครงการ Whizdom COEX ปิ่นเกล้า เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นโปรเจค Mixed-use เน้นความสะดวกสบายครบจบในตัว อีกทั้งติดรถไฟฟ้าแบบมีทางเชื่อมตรงจากทาวเวอร์เลย แต่ก็แลกมากับการที่มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าโครงการอื่นในโซนนี้ มองหาห้องที่อยู่สบาย ตั้งแต่ 1-2 คน ไปจนถึงอยู่กันแบบครอบครัวเริ่มต้น หรืออาจเป็นบ้านหลังที่สอง มีงบประมาณระดับ 3.4 – 6.9 ล้าน ขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนตั้งแต่ 23,8000 – 48,300 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc