รีวิวฉบับที่ 1213 … สวัสดีครับวันนี้จะพาไปชมตึกเสร็จโครงการ The Privacy ลาดพร้าว – เสนา จากพฤกษา เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร โครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าววังหิน ห่างจากแยกภาวนาประมาณ 1.7 กม. ทำเลอุดมสมบูรณ์ มีถนนเชื่อมต่อไปถนนสายหลักได้หลากหลายในราคาหยิบจับง่าย โครงการจะเป็นอย่
Fact @ 31 October 2016
- The Privacy Ladprao-Sena (เดอะไพรเวซี่ ลาดพร้าว – เสนา)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ลาดพร้าว
- คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ทั้งหมด 376 ยูนิต (ร้านค้า 1 ยูนิต)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 18 ยูนิตที่อาคาร A และ 34 ยูนิตที่อาคาร B
- ที่จอดรถประมาณ 37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 42%
- ที่ดินประมาณ 3-0-12.9 ไร่
- 1 Bedroom ขนาด 22.5 – 26.0 ตร.ม.
- 2 Bedrooms Combine ขนาด 45.0 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.809579, 100.591268
แผนที่จากทางโครงการครับ
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งจัดเป็นย่านชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยกันค่อนข้างหนาแน่น ทั้งบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่และโครงการที่อยู่อาศ้ยใหม่ๆ ทั้งแนวราบและแนวสูง ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการมีจุดเด่นในเรื่องทำเล เพราะสามารถเลือกเส้นทางไปเชื่อมต่อถนนสายหลัก โดยใช้เส้นทางซอยย่อยต่างๆ รอบโครงการได้หลากหลาย
ส่วนการเข้าถึงโครงการถ้าใช้รถยนต์ จากถนนสายหลัก ถนนลาดพร้าวจะเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด จากปากซอยภาวนา เข้าซอยมาประมาณ 1.7 กม. กรณีมาจากถนนหลักเส้นอื่น เช่น ถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนรัชดาภิเษก ก็สามารถลัดเลาะเข้ามาตามซอยมายังโครงการได้เช่นกัน หรือสามารถไปขึ้นทางด่วนที่ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ก็สามารถขับมาทางซอยโชคชัย 4 มาทะลุออกถนนสังคมสงเคราะห์ ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความหนาแน่นของการจราจรในพื้นที่ เพราะจัดเป็นย่านชุมชน ทำให้มีปริมาณโดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น ช่วงเวลาเร่งด่วนค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร ก็ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางกันไว้บ้างครับ
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถนนลาดพร้าว-วังหิน ก็มีรถโดยสารบริการให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ทั้งวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง รถกะป๊อสองแถวเล็ก หรือรถแท็กซี่ก็สะดวก มีรถวิ่งผ่านไปมาตลอดเวลาสามารถยืนเรียกที่บริเวณด้านหน้าโครงการได้เลยครับ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่จัดว่าเป็นทำเลที่น่าอยู่อาศัย ในระยะใกล้โครงการแบบเดินถึงสบายๆ ก็มีร้านค้าร้านอาหาร ร้านขายของหลากหลายให้เราเลือกซื้อ เลือกใช้บริการได้แทบทุกอย่าง อีกทั้งพื้นที่ด้านข้างติดกับโครงการเองก็มีการจัดตลาดนัดตอนเย็นๆ ทุกวัน เมื่อมองออกมาในมุมกว้างในระยะ 5 กม. โดยรอบก็มีห้างสรรพสินค้าให้เลือกหลากหลาย เช่น Green Plaza , Lotus หรือที่ตั้งอยู่ตามถนนสายหลักโดยรอบโครงการ เช่น Major Cineplex รัชโยธิน , Home pro, Lotus , Central Festval East Ville , The Crystal , CDC ส่วนสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆกับโครงการก็มีทั้ง โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 โรงเรียนทั้งระดับอนุบาลไปจนถึงอุมศึกษาอย่าง โรงเรียนจินดานุกูล โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ม.ราชภัฏจันทรเกษม เป็นต้น
การเข้าถึงจากเส้นทางต่าง ๆ ขอแบ่งเป็น 4 เส้นทางหลัก ๆ ดังนี้
- จากห้าแยกลาดพร้าวมายังโครงการ ระยะทางประมาณ 4.5 กม.
- จากแยกลาดพร้าวตัดเลียบด่วนมายังโครงการ ระยะทางประมาณ 4.2 กม.
- จากเกษตร นวมินทร์เข้ามายังโครงการ ระยะทางประมาณ 5.9 กม.
- จากแยกรัชโยธินมายังโครงการ ระยะทางประมาณ 4.4 กม.
จากที่ยกตัวอย่างมา สามารถเลือกเส้นทางสำหรับการเดินทางได้หลายหลายขึ้นอยู่กับว่าจุดหมายอยู่ที่ใด เช่น หากต้องการเข้าไปพระราม 9 สามารถเลือกใช้ถนนลาดพร้าวหรือหากเลี่ยงรถติดบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ก็สามารถใช้ทางลัดจากซอยรัชดาฯ 32 ออกมายังถนนรัชดาภิเษกเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกไปพระราม 9 ได้ หรือต้องการเดินทางไปยังนวมินทร์ก็เริ่มจากถนนลาดพร้าววังหินเชื่อมต่อไปยังถนนสตรีวิทยา 2 ต่อเนื่องไปยังถนนสุคนธ์สวัสดิ์เข้าสู่เกษตร-นวมินทร์ขาออก หากต้องการเลี่ยงรถติดใต้ทางด่วนก็ให้ใช้เส้นทางเชื่อมต่อโชคชัย 4 มายังถนนสังคมสงเคราะห์และเลี้ยวขวามาเข้าซอยลาดพร้าว 73 เพื่อออกมาเชื่อมบริเวณจุดขึ้นทางด่วนครับ
การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มต้นจากห้าแยกลาดพร้าว ด้วยเส้นทางลาดพร้าวขาออกครับ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยวิ่งตรงมาจนถึงแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวแล้ววิ่งตรงต่อไป สังเกตทางซ้ายมือเมื่อเจอกับสถานีดับเพลิงลาดพร้าวให้อยู่เลนซ้ายไว้ จากนั้นประมาณ 500 เมตรก็จะถึงแยกภาวนาให้เบี่ยงเข้าซ้ายวิ่งตามถนนซอยลาดพร้าว 41 ต่อไปประมาณ 600 ม.เลี้ยวขวาบริเวณซอยลาดพร้าว 41 แยก 6 ต่อเนื่องไปอีก 600 ม. จะพบกับถนนลาดพร้าววังหิน ให้เลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งตรงต่อไปประมาณ 500 ม. มีจุดสังเกตคือด้านซ้ายเป็นตลาดนัด หากมาช่วงกลางวันจะเห็นตัวอาคารชัดเจนครับ
เริ่มเส้นทางจากถนนลาดพร้าวขาออกมุ่งหน้าสู่แยกรัชดา-ลาดพร้าว สำหรับการใช้เส้นทางบริเวณนี้แนะนำให้วิ่งเลน 2 และ 3 ครับ ตามภาพให้สังเกตป้ายแยกรัชดา ลาดพร้าวให้วิ่งตรงผ่านแยกมุ่งหน้าไปถนนลาดพร้าวขาออกไปทางบางกะปิ
เมื่อข้ามแยกมาแล้วให้วิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ด้านซ้ายมือของภาพคือสถานีดับเพลิงลาดพร้าวครับ ถนนเส้นนี้ในวันธรรมดาช่วงเช้า จะเหลือ 2 ช่องจราจรตลอดทาง เนื่องจากเปิดให้รถเมล์วิ่งเกาะกลางในชั่วโมงเร่งด่วนจนถึงประมาณ 8:30 น. จึงกลับเป็นปกติ
เมื่อขับมาสักระยะ หากเห็นป้ายบอกช่องจราจรแยกภาวนาให้เตรียมชิดซ้ายไว้นะครับ จุดสังเกตทางขวามือจะเห็นปั๊มน้ำมัน Shell และ ธนาคารกรุงเทพ
จากนั้นจะพบกับป้ายบอกเส้นทางลัดไปยังถนนลาดพร้าววังหินที่แยกภาวนา จึงเตรียมเบี่ยงซ้าย
เมื่อถึงแยก บริเวณปากซอยจะมี 2 ซอยเราไม่เลี้ยวซ้ายทันทีนะครับ ให้เราวิ่งเบี่ยงซ้ายเข้าแทน ซอยเป็นแนวเฉียง
เมื่อเข้ามาพบเซเว่นและมีรถกะป๊อจอดอยู่ แสดงว่ามาถูกแล้ววิ่งต่อไปได้เลย ถนนภายในซอยมีสองช่องจราจร วิ่งสวนทางกันอาจใช้ความเร็วได้ไม่มาก ค่อย ๆ ตามกันไปนะครับ
จากนั้นเมื่อวิ่งผ่านมาช่วงโค้งสักประมาณ 150 ม. จะเห็นป้ายทั้งตรงและเลี้ยวหากเลี้ยวจุดนี้เลยจะวิ่งผ่านวัดลาดพร้าวครับสามารถออกถนนลาดพร้าววังหินได้เช่นกัน ในกรณีนี้ให้เราตรงต่อไปครับ
วิ่งตามเส้นทางในซอยต่อไป จุดนี้จะผ่านศูนย์บริการสาธารณสุข ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลักครับ
วิ่งมาตามเส้นประมาณ 300 ม. เมื่อถึงป้ายเลี้ยวขวาเข้าโรงเรียนจินดานุกูล ให้เราเลี้ยวขวาครับเพื่อไปออกสู่ถนนลาดพร้าววังหิน หากวิ่งตรงไปสามารถออกรัชดา 32 และ 36 ได้เช่นกัน
จากนั้นก็ข้ามสะพานข้ามคลองลาดพร้าวเริ่มเข้าใกล้ถนนลาดพร้าววังหินแล้ว โดยระยะห่างจากจุดที่ข้ามสะพานนั้นห่างจากโครงการประมาณ 600 ม.ครับ
เมื่อมาถึงบริเวณแยก ถนนลาดพร้าววังหินมีลักษณะโค้งไปทางขวา บริเวณนี้ให้ระวังรถทางด้านขวาก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายนะครับ
เมื่อเข้าสู่ถนนลาดพร้าววังหินแล้วให้วิ่งตรงไปประมาณ 500 ม. สังเกตได้ว่าถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ ขึ้นตลอดแนวส่วนมากจะเป็นร้านค้าขายสินค้าและบริการต่าง ๆ หลากหลายตลอดทั้งเส้นทาง
จากนั้นให้สังเกตทางซ้ายมือ สามารถมองเห็นโครงการได้ในระยะไกล หากมาตอนกลางวัน แต่หากมาในเวลาเย็นต้องใจเย็นในการขับขี่พอสมควร เพราะบริเวณนี้มีตลาดนัดและมีคนข้ามถนนตลอดเวลา ให้เตรียมชะลอรถเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวโครงการ
และก็มาถึงตัวโครงการในที่สุด ก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวโครงการ
ทางเข้าโครงการเป็นทางเข้าออกเพียงตำแหน่งเดียว ใช้วิธีการติสติกเกอร์สำหรับลูกบ้าน ส่วน Visitor ทำการแลกบัตรกับ รปภ. ด้านหน้า เพื่อเข้าโครงการ บริเวณด้านหน้าจะมีพื้นที่สำหรับจอดรถบริเวณ Lobby ของอาคาร A
มุมมองเมื่อยืนอยู่บริเวณประตูทางเข้าโครงการ พบกับฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 2 ชั้น ส่วนใหญ่ประกอบกิจการซ่อมรถยนต์ ส่วนใหญ่ซ่อมแอร์ หม้อน้ำและแบตเตอรี่ครับ
จากบริเวณด้านหน้าโครงการเราจะเดินไปยังทิศเหนือของโครงการกันก่อนครับ หันไปทางด้านซ้ายเป็นฝั่งลาดพร้าววังหินมุ่งหน้าเสนาจรดเกษตร – นวมินทร์
ถัดมาเป็นพื้นที่ร้านค้าใต้อาคาร A ที่เป็นยูนิตขาย ปัจจุบันเป็นสำนักงานขายชั่วคราวของโครงการ ซึ่งพื้นลดระดับต่ำกว่าระดับทางเท้านอกโครงการ จึงได้ทำรางระบายน้ำรอบ ๆ เรียบร้อยแล้วด้านขวาเป็นศาลพระภูมิของโครงการครับ
เมื่อเดินมาพ้นแนวโครงการเจอกับซอยลาดพร้าววังหิน 43 ที่อยู่ติดแนวรั้วโครงการ ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นร้านต้มเลือดหมู และขายกาแฟโบราณ ถัดไปอีก 1 ซอย มีจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่ ซอย 45 ครับ
มองไปยังฝั่งตรงข้ามมีร้านข้าวแกง ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งสามารถฝากท้องได้ใกล้ ๆ โครงการครับ
ในถนนซอยลาดพร้าววังหิน 43 มีขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตร (นับจากรางวีทั้งสองฝั่ง) ตรงเข้าไปตลอดแนวจนสุดรั้วโครงการ
อาคารและสิ่งปลูกสร้างรอบ ๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นสำนักงานและบ้านพักสลับกันไป ส่วนใหญ่ความสูงอาคารประมาณ 2 – 3 ชั้น
เมื่อพ้นแนวรั้วโครงการมาพบว่าเป็นถนนต่อเนื่องเข้าไปอีก ซึ่งเมื่อเดินเข้าไปพบว่าเป็นบ้านคนลักษณะถนนเป็นซอยตัน และบริเวณด้านซ้ายของแนวรั้วนี้มีช่องทางออกสำหรับรถที่เข้ามาตลาดเย็นได้วนออกในเส้นทางนี้ได้ด้วย เท่ากับว่าการสัญจรในช่วงเย็นของที่นี่ ก็จะมีรถวิ่งออกจากฝั่งทิศใต้ของโครงการ วนมาด้านหลังแล้วมาออกบริเวณช่องรั้วที่เปิดไว้ให้แล้ววิ่งผ่านซอยนี้เพื่อออกสู่ถนนหลัก
กลับมาที่ด้านหน้าโครงการอีกครั้ง คราวนี้ขอพาเดินไปยังด้านทิศใต้ของโครงการครับ หันไปทางด้านขวาถนนด้านหน้าโครงการมี 4 ช่องจราจร ไม่มีเกาะกลางส่วนใหญ่ในช่วงเวลาราชการ มีป้ายติดชัดเจนว่าห้ามจอดวันคู่ หรือวันคี่ในฝั่งใด ต้องตรวจสอบป้ายห้ามจอด ก่อนนะครับ มิฉะนั้นอาจโดนล๊อคล้อได้
ถัดมาบริเวณฝั่งทางทิศใต้ของโครงการไม่ได้ติดกับตลาดไปเลยทีเดียวนะครับ จะมีซอยคั่นอยู่ตลอดแนวรั้วโครงการ ซึ่งเวลาที่ไปถ่ายเป็นช่วงเช้า บริเวณตลาดก็เงียบเป็นปกติครับ เพราะตลาดที่นี่ขายเฉพาะตอนเย็นของทุกวัน
มองกลับไปยังฝั่งตรงข้ามต่อเนื่องจากบริเวณหน้าโครงการนอกจากร้านซ่อมรถยนต์แล้ว ยังมีร้านขายจักรยานยนต์ ร้านขายอะไหล่จักรยานยนต์ 7-11 , CP fresh mart ร้านขายยา คลีนิคทันตกรรม และร้านขายบรรจุภัณฑ์พลาสติก กระดาษและโฟม หาของกินของใช้ง่ายแน่นอนครับ
มุ่งหน้าต่อไปฝั่งตรงข้ามตลาดพบว่าส่วนใหญ่ตลอด 2 ข้างทางเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั่นครึ่ง กิจการส่วนใหญ่เกี่ยวกับร้านอาหาร รับทำป้าย ตัดสติกเกอร์ ซึ่งมีร้านรวงที่เป็นรถเข็นหรือมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง จอดขายของริมทางอยู่
ถัดมาอีกนิด เป็นร้านกาแฟ ซึ่งใครเป็นคอกาแฟลองไปลิ้มรสหรือพักผ่อนได้ที่นี่ครับ
เมื่อเดินพ้นตลาดมาพบกับทางเข้าโครงการเพื่อนบ้าน คือโครงการ The Niche
เดินตรงต่อมาอีกนิด ด้านขวาเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างครับ
จวนเกือบมาถึงซอยลาดพร้าววังหิน 39 เป็นร้านขายข้าวแกงปักษ์ใต้ หากหิวก็สามารถเดินมาทานที่นี่ได้เช่นกัน
จากนั้นเดินกลับมายังตัวโครงการนะครับ นี่เป็นบรรยากาศที่มองจากด้านทิศใต้ของโครงการ เห็นได้ว่า อาคาร A (ซ้าย) และอาคาร B (ขวา) ทับเหลื่อมกันอยู่ประมาณ 30 % ไม่ได้ซ้อนกันทั้งหมด ดังนั้นอาคารทั้ง 2 ไม่ได้ Block view กันเกือบทั้งหมด สามารถมองออกไปได้ และบริบทด้านข้างไม่มีอาคารสูงบดบังทำให้ไม่อึดอัดเท่าที่ควร แถมได้เห็นบรรยากาศตลาดยามเย็นซึ่งเป็นสีสันของที่นี่ด้วย
ลองเดินเข้าไปยังซอยด้านข้างของโครงการครับ เมื่อมองเข้าไปในซอย ด้านขวาที่เห็น เป็นอาคาร B ฝั่งด้านทิศใต้ ตลอดแนว ซึ่งมีร้านขายของชำ (ด้านขวาของภาพ) อยู่ด้วย
ถัดเข้ามาเมื่อเดินพ้นแนวตลาด บริเวณท้ายตลาดเป็นถนนโรยหินกรวด และเป็นเหมือนกับลานจอดรถสำหรับคนที่มาตลาดเย็น พื้นที่ติดโครงการในด้านนี้ มีสิ่งปลูกสร้างในท้ายโครงการคือบ้านขนาด 2 ชั้น นอกนั้นเป็นลานโล่งสำหรับตลาดและลานจอดรถครับ
จากแนวรั้วของโครงการ (ด้านขวาของภาพ) ต่อเนื่องไปยังรั้วที่ติดกันกับที่ดินบุคคลอื่น ๆ และเห็นลูกศรบริเวณกำแพงเขียนว่าทางออกซึ่งสันนิษฐานว่าในเวลาเย็นในซอยนี้รถจอดเยอะมาก ในการเข้าออกอาจต้องเดินรถทางเดียวเพื่อสะดวกในการเข้าออกจากตลาด เราจึงเดินต่อเข้าไปด้านใน
เมื่อเดินพ้นบ้านดังกล่าวพบลานโล่นอีกแปลง ซึ่งส่วนนี้เห็นป้ายสีเขียวติดอยู่บริเวณรั้วจึงเข้าไปดู
เมื่อเข้าไปสำรวจพบว่าเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างเขื่อนค.ส.ล.และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว ต่อเนื่องไปยังอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวน่าจะเป็น ส่วนก่อสร้างและผลิตแผ่นและชิ้นงานต่าง ๆ เพื่อทำแนวเขื่อน
จากนั้นเดินตามลูกศรไป พบกับช่อทางออกที่สามารถเชื่อมไปยัง ซอยลาดพร้าววังหิน 43 ที่ได้เดินมารอบแรก เท่ากับว่ารอบโครงการมีถนนโอบรอบอยู่ แต่ไม่ได้เป็นสาธารณะไปทั้งหมด
จากบริเวณแนวรั้วพบว่ามีประตูรั้วเปิดปิดอยู่ แสดงว่าถนนดังกล่าวเปิดใช้ชั่วคราว ซึ่งอนาคตหากปรับเปลี่ยนการใช้สอยในพื้นที่นี้ ก็อาจปิดช่องดังกล่าวไม่สามารถเป็นซอยที่วนได้ เหมือนกับปัจจุบันครับ
รถโดยสารประจำทางหลักในเส้นดังกล่าวคือรถสี่ล้อเล็กคันนี้แหละครับ วิ่งระหว่างภาวนา – วังหิน
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
บริบทรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยและพื้นที่รอการพัฒนา ในบริเวณทิศตะวันตกและทิศใต้บางส่วน จะมีบริเวณทิศใต้ที่อยู่บริเวณติดถนนที่คึกคักหน่อยเนื่องจากมีตลาดนัด ส่วนด้านอื่น ๆ ไม่ถูกบดบังทั้งอาคารแต่อย่างใดและเริ่มเห็นทิวทัศน์ที่กว้างขึ้นตั้งแต่ชั้น 4 เป็นต้นไปครับ แต่ในบางมุมเช่นด้านตะวันตกและด้านใต้เริ่มมองเห็นตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป
ในบริบทรอบอาคาร A นั้น ด้านทิศเหนือสามารถมองเห็นวิวได้พาโนราม่า และทิศใต้ ได้บางส่วนเนื่องจากมีบางส่วนของอาคาร B บังวิวอยู่บ้าง ส่วนอาคาร B นั้น วางอาคารในลักษณะเป็นตัว L โอบล้อม Clubhouse ในด้านทิศตะวันตกนั้นไม่มีอาคารบดบังสามารถเห็นวิวได้เต็มที่ แต่อาจมีแสงแดดบ่ายรบกวนบ้าง ในทิศตะวันออกเห็นอาคาร A และพื้นที่ Clubhosue ของโครงการ ส่วนในปีกขวาฝั่งทางตะวันออกของอาคารมีบางส่วนถูกอาคาร A บดบังอยู่ จะมีช่วงกลางอาคารเปิดวิวได้เต็มที่ครับ โดยได้แบ่งบริบท รอบตัวโครงการตามทิศต่าง ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ : ซอยลาดพร้าววังหิน 43 บ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก :ถนนลาดพร้าววังหิน ตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 2-4 ชั้น
- ทิศใต้ : ถนนซอย ตลาดนัด บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเปล่ารอการพัฒนา
- ทิศตะวันตก : อาคารขนาด 2 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ตำหนักพระแม่กวนอิม โชคชัย 4 ~ 400 ม.
- Plaza Lagoon ~ 1.1 กม.
- Paolo Memorial Hospital, Chokchai 4 ~ 1.5 กม.
- The Jas Wanghin ~ 1.7 กม.
- Green Plaza ~ 1.7 กม.
- Tesco Lotus ~ 1.7 กม.
- Chandrakasem Rajabhat University ~ 3 กม.
- Home Pro ~ 4.3 กม.
- Tesco Lotus ~ 4.5 กม.
- CentralFestival EastVille ~ 4.8 กม.
- Big C @Imperial World Lat Phrao ~ 4.8 กม.
- The Crystal Veranda ~ 5.9 กม.
- The Walk ~ 6.1 กม.
- CDC ~ 7.4 กม.
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา เป็นโครงการ Low rise ขนาด 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มีห้องพักทั้งหมด 376 ยูนิต และมีพื้นที่สำหรับร้านค้า 1 ยูนิต (บริเวณอาคาร A) โดยการวางตัวอาคารจัดวางให้โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง โดยทั้ง 2 อาคารใช้พื้นที่ดังกล่าวร่วมกัน และมี Private Garden เป็นโอบล้อมเพิ่มความเป็นส่วนตัว รูปแบบการสัญจรภายในโครงการเป็นลักษณะสวนทางกันทั้งหมด เมื่อเข้าจากด้านหน้าโครงการในอนาคตต้องมีการทำสติ๊กเกอร์สำหรับลูกบ้านและแลกบัตร Visitor สำหรับผุ้มาเยี่ยมโดยมีทางเข้า – ออกในบริเวณด้านหน้าโครงการเพียงจุดเดียว ซึ่งถนนในโครงการไม่สามารถวนรอบโครงการได้ทั้งหมด ด้วยขนาดที่ดินและการวางอาคาร แต่ทั้งนี้ท้ังนั้น ก็มีข้อดีในจุดดังกล่าวคือ ทำให้การสัญจรด้วยรถและการเดินทางด้วยคนภายในโครงการไม่เป็นอันตรายมาก เนื่องจากจุดที่ต้องระวังน้อยลง (มีเฉพาะจากตึก A ข้ามมายัง Clubhouse หรือจากอาคาร B มายังหน้าโครงการเท่านั้น)
พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ จะรวมกลุ่มกันอยู่บริเวณตรงกลางของโครงการเพื่อให้ลูกบ้านทั้ง 2 อาคารสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวก โดยจัดมาให้มาถือว่าครบ แต่อาจจะไม่ใหญ่และเพียงพอต่อคนทั้งหมด ในส่วนของที่จอดรถภายในโครงการนั้น แบ่งที่จอดไว้ 2 แบบ คือจอดใต้อาคารและจอดแบบลานโล่งภายในพื้นที่โครงการ ซึ่งในอนาคตเมื่อโอนและเข้าอยู่กันครบแล้ว อาจต้องมีการจัดระบบในการจอดรถให้ดี เนื่องจากพื้นที่ใต้อาคารทั้งสองอาคารนั้น จะมีทางเข้า-ออกใต้อาคารเพียงทางเดียว ทำให้ต้องใช้วิธีการวนและกลับรถด้านใน กรณีมีการจอดรถซ้อนคันหน้าช่องจอด จะต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าจอดหรือกลับรถออกมาครับ
เมื่อเริ่มเดินเข้าสู่ตัวโครงการ ซึ่งตัวประตูทางเข้ามีป้อม รปภ. อยู่บริเวณด้านซ้ายและมีกล้อง CCTV บริเวณด้านบนของป้อมเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านโดยรปภ.ประจำตลอด 24 ชม.
ถัดเข้ามาในพื้นที่โครงการ จะเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งตลอดแนว มี Lobby ทางเข้า-ออก อาคาร A อยู่ทางขวามือ โดยออกแบบเป็นโถงสูง Double Space
ถัดเข้ามาเป็นทางแยกออก 2 เส้นทาง ด้านซ้ายเป็นทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร B ส่วนด้านขวาแยกเข้าไปยังลานจอดรถกลางแจ้งและทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร A ตามลำดับ โดยเราขอนำท่านผู้อ่านเดินเข้าสู่อาคาร B ก่อนนะครับ
บริเวณด้านซ้ายมือเป็นจุดจอดจักรยานยนต์ชั่วคราวนะครับ จุดจอดจริงต้องรอดูทางนิติบุคคลของโครงการจัดให้อีกครั้งหนึ่งครับ
เมื่อเดินเข้ามาพบว่าใต้อาคารสามารถจอดได้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ทั้งนี้ถนนใต้อาคารเดินรถสวนทางกันจึงไม่สามารถจอดซ้อนคันได้ และจากพื้นที่จอดรถใต้อาคารสามารถเดินเชื่อมเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางได้
หันมาด้านขวาเป็นกลุ่มของห้องงานระบบและทางออกของบันไดหนีไฟจากภายในอาคาร
หลังจากที่เดินดูบริเวณใต้อาคารจอดรถแล้ว ขอพาเดินแยกออกมาอีกทางหนึ่ง ซึ่งมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ส่วนกลาง และลานจอดกลางแจ้ง (ด้านขวามือ) ตามลำดับ สังเกตบริเวณจุดที่เป็นขอบเขตของพื้นที่ส่วนกลางนั้นได้ปลูกต้นไม้ประดับขึ้นเป็นกำแพงสีเขียว เพื่อความ Private ของลูกบ้านเมื่อลงมาใช้ในพื้นที่ดังกล่าว
เปรียบเทียบภาพ Perspective สำหรับขายและปัจจุบันเมื่อใกล้แล้วเสร็จ ภายในพื้นที่ Clubhouse ที่โครงการได้จัดไว้ให้นั้นประกอบด้วย The Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งสระเด็ก-ผู้ใหญ่ , The Ground Garden มุมนั่งเล่นส่วนตัวใต้เงาไม้ใหญ่ , The Library พื้นที่พักผ่อนและอ่านหนังสือภายในอาคาร , The Gym พื้นที่ออกกำลังกายภายในอาคาร , The Sauna ผ่อนคลายหลังออกกำลังกายด้วยห้องซาวน่าแยกหญิง-ชาย , The Roof Garden พักผ่อนในวันสบาย ด้วยพื้นที่สวนมุมสูงกว้าง สามารถรองรับลูกบ้านที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจในโอกาสเวลาว่างหรือในวันหยุดอยู่คอนโด การใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของทั้ง 2 อาคารจะอยู่ที่บริเวณนี้ทั้งหมด สามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ บริเวณสวนใต้ร่มไม้บริเวณด้านข้างสระน้ำติดกับอาคาร B ถัดมาเป็นบริเวณสระว่ายน้ำ รูปแบบเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง รูปแบบของสระแบ่งเป็นสระเด็กและ สระผู้ใหญ่ มีขนาดความกว้างสระ 5 ม. ความยาวรวมสระเด็กประมาณ 18 ม. ความลึกสระผู้ใหญ่ 1.2 ม. สระเด็กลึกประมาณ 60 ซม. เป็นระบบเกลือ ส่วนที่ 3 เป็นอาคาร Clubhouse มีระบบ Keycard acess เพื่อความปลอดภัย ภายในอาคาร Clubhouse ติดแอร์ให้เรียบร้อย ประกอบด้วยห้องสมุดสำหรับมาพักผ่อนอ่านหนังสือ หรือพบปะพูดคุยกัน ถัดเข้าไปเป็นห้องออกกำลังกายที่เปิดวิวทั้งสองด้าน บน Clubhouse มีห้องน้ำแบ่งชายและหญิงมีห้องซาวน่าให้ทั้งสองห้อง ถัดขึ้นมาบนดาดฟ้าของอาคารแบ่งเป็น 2 Step ดาดฟ้าชั้นแรกเป็น Green Roof ปูด้วยหญ้าเทียมส่วนชั้นบนเป็นลาน Slab ลงพื้นทรายล้างและทั้ง 2 ส่วนปลูกต้นไม้รอบบริเวณขอบของอาคารเพื่อความสวยงามและปลอดภัย รูปแบบของตัวอาคารและพื้นที่ส่วนต่าง ๆ เป็นอย่างไรนั้นเชิญชมต่อได้เลยครับ
เริ่มต้นเดินเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลาง เมื่อเข้ามาก็พบกับสระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือโดยโครงการได้ออกแบบสระเป็นรูปแบบ Overflow เป็นระบบน้ำล้นและ Return กลับเข้าระบบบำบัดกรองน้ำและเติมน้ำดีในระบบและวนเข้าสู่สระอีกครั้ง ข้อดีคือเมื่อมองบนพื้นสระจะเห็นผิวน้ำบนขอบสระตึงพอดีและไม่เห็นขอบขึ้นมาเหมือนอีกระบบที่เป็น Skimmer ซ้ายมือเป็นทางเดินแจกไปยังอาคาร B และเข้าสู่อาคาร Clubhouse
ลูกบ้านสามารถจอดรถและเดินเข้าสู่อาคาร B แล้วเดินผ่านจากแนวทางเดิน บริเวณพื้นที่สวนส่วนกลาง เพื่อไปเข้าสู่ทางเข้าด้าหน้าอาคาร B หรือเดินต่อไปยังอาคาร Clubhouse ได้
ในบริเวณดังกล่าวส่วนนี้เรียกว่า The Ground Garden มุมนั่งเล่นส่วนตัวซึ่งเมื่อจัดพื้นที่เรียบร้อยแล้วทางโครงการมีชุดเฟอร์นิเจอร์ Outdoor ในจุดนี้ครับ
ระหว่างทางที่เดินผ่าน สังเกตเห็นว่าที่อาคาร B บริเวณชั้น 1 มีห้องพักอาศัยอยู่บริเวณชั้นล่างด้วยซึ่งทางโครงการได้ปลูกต้นไม้เป็นแนวยาวไว้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องพักเวลาคนเดินผ่านไปมาในบริเวณทางเดินพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ แต่ผู้อาศัยในชั้น 1 จะไม่สามารถออกมาจากบริเวณระเบียงหลังห้องสู่พื้นที่ส่วนกลางได้โดยตรง ต้องออกมายังบริเวณโถงอาคารด้านหน้าก่อน เหมือนกับชั้นอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยในห้องของผู้พักอาศัยเองด้วย
เมื่อเดินต่อเนื่องมาจึงพบกับทางเข้าของอาคาร B ซึ่งออกแบบให้เป็นลักษณะ Double Space เช่นเดียวกับโถงทางเข้าของอาคาร A และอีกด้านเป็นทางขึ้นไปยังพื้นที่ Clubhouse
ฝั่งห้องพักในบริเวณชั้น 1 อีกด้านของตัวอาคาร B ที่ติดกับประตูทางเข้า Lobby B โครงการก็จะจัดสวนไว้บริเวณที่ติดกับห้องพักเช่นกัน โดยทางโครงการได้เลือกลงต้นไม้ใหญ่เพื่อเป็น เป็นแนวบังสายตาให้กับห้องของผู้พักอาศัยด้านในเพื่อเพิ่มความความเป็นส่วนตัวในการอาศัยถึงแม้ระยะระหว่างทางเดินและตัวอาคารอาจไม่มากเท่าจุดแรกที่เดินผ่านมาก็ตาม
ทางขึ้นสู่อาคาร Clubhouse เนื่องจากอยู่ในช่วงดำเนินการปรับภูมิทัศน์เพื่อรองรับการโอนกรรมสิทธิ์จากลูกบ้านสำหรับเข้าอยู่จริงในเดือน พ.ย. – ธ.ค. 59 นี้
เมื่อเดินขึ้นมาแล้วพบกับพื้นที่สระว่ายน้ำ แบ่งเป็นสระเด็กในตัว ทางด้านขวา และมีแนวทางเดินตรงต่อไปยังทางลงของสระผู้ใหญ่ ตรงข้ามกับสระว่ายน้ำจะเป็นทางเข้า อาคาร Clubhouse ภายในประกอบด้วย The Library , The Gym , The Roof Garden ส่วนกระถางคอนกรีตที่เห็น ทางโครงการกำลังดำเนินการระบบต่าง ๆ ของสระน้ำอยู่ เมื่อเปิดใช้งานจริงเป็นทางเดินตลอดแนวไม่มีกระถางบังครับ ในจุดดังกล่าวเมื่อสังเกตช่องว่างระหว่างอาคาร มองเห็นแนวต้นไม้ประดับ ทางโครงการเลือกรูปแบบเป็นรั้วต้นไม้บังระหว่างพื้นที่บริเวณสระน้ำและแนวถนนด้านหน้าโครงการเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านได้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
ในส่วนของอาคาร Clubhouse ของโครงการได้ใส่ระบบ Keycard acess ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาใช้งานได้เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ
เมื่อเข้ามายังภายในตัวอาคารเป็นบันไดทอดขึ้นสู่ด้านบน เนื่องจากทางโครงการได้ออกแบบตัวอาคารยกสูงจากพื้นเพื่อให้ด้านใต้อาคารสามารถจอดรถในบริเวณดังกล่าวได้ ถือเป็นการออกแบบที่มีความคุ้มค่าในการใช้งานต่อลูกบ้าน
เมื่อเดินขึ้นมาในพื้นที่แรกที่เห็นเป็น The Library ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยัง The Gym ระหว่างโถงทางเดินจะจัดเป็นพื้นที่ห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชาย ที่มี Sauna อยู่ด้านในห้องน้ำ
ภาพจำลองบรรยากาศภายในพื้นที่เมื่อจัดพื้นที่แล้วเสร็จ (ภาพจากทางโครงการ)
แนวทางเดินต่อจากห้องสมุดและเชื่อมต่อไปยังห้องออกกำลังกายของโครงการ ผ่านห้องน้ำชายและหญิงที่มี Sauna ในตัว
ภายใน The Gym จัดวางเครื่องเล่นแบ่งเป็นเครื่องปั่นจักรยาน 2 เครื่อง , ลู่วิ่ง 2 เครื่อง , ชุดดัมเบล และชุดกายบริหารสำหรับยืดเส้นยืดสาย ซึ่งจัดวางได้ค่อนข้างพอดีใช้งาน และสามารถใช้งานร่วมกันได้โดยไม่อึดอัดครับ โดยการตกแต่งภายใน The Gym ใช้กระจกเงาเพื่อให้มิติของห้องดูกว้างขึ้น และติดกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่และสามารถมองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้าน บนฝ้าเพดานตกแต่งให้มีการเล่นระดับที่แตกต่างกันทำให้ห้องไม่ดูเรียบนิ่งเกินไป
อุปกรณ์ลู่วิ่ง Brand LifeSpan
เมื่อออกจาก The Gym เดินกลับมาที่ The Library สังเกตว่ามีประตูกระจกที่สามารถเดินออกไปได้ นั่นคือทางขึ้นสู่ The Roof Garden นะครับ เราไปกันเลย
เมื่อเดินออกมาพบกับบันไดสำหรับเกินขึ้นไปยังด้านบนครับ (ภาพที่ถ่ายมาเก็บงานยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้เป็นข้อมูลในการพาชมครับ)
เมื่อขึ้นมาในพื้นที่ The Roof Garden โครงการได้แบ่งพื้นที่เป็น 2 Step นะครับโดยพื้นได้ปูหญ้าเทียมไว้สามารถขึ้นมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เช่น โยคะ เป็นต้นครับ
ช่วงที่ผมได้ขึ้นไปถ่ายนั้นเป็นช่วงเที่ยงพอดี พื้นที่ดังกล่าวเมื่อถึงช่วงเย็นได้ร่มเงาจากอาคาร B ที่โอบล้อมอยู่ผู้อาศัยในคอนโดก็สามารถลงไปใช้พื้นที่ได้ครับ
ถัดขึ้นมาด้านบนเป็น Slab หลังคาซึ่งทางโครงการได้เตรียมเป็นพื้นทรายล้างให้ได้ใช้งานได้นะครับ โดยทำการปลูกไม้ประดับโอบรอบและทำราวกันตกสูงประมาณ 1 ม. รอบด้านไว้เพื่อป้องกันการปีนป่ายหรือเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว โดยพื้นที่ด้านบนสามารถใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลายอย่างตามอธัยาศัยและเมื่อสังเกตระดับความสูงของชั้นดาดฟ้าของ Club house มีความสูงประมาณระดับพื้นชั้น 3 ของตัวคอนโดหากมองดูบริบทรอบ ๆ ก็เริ่มพ้นความสูงของอาคารรอบข้างแล้วครับ
เมื่อหันไปทางด้านซ้ายของอาคาร มองเห็นวิวทางด้านทิศเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านขนาด 2 ชั้นและอาคารสำนักงานสูง 4 ชั้น
จุดขึ้นลงของอาคาร Clubhouse สามารถเข้าถึงได้ 2 ทางนะครับ สำหรับบริเวณนี้เป็นทางขึ้นสำหรับผู้ที่เดินมาจากด้านหน้าโครงการ หรือมาจากอาคาร A เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและเดินเข้าอาคาร และบริเวณรอบ ๆ อาคารได้ปลูกเป็นแนวรั้วต้นไม้ความสูงประมาณ 2 เมตร เพื่อบังไม่ให้ด้านนอกโครงการมองเห็นสระน้ำ และส่วนกลางทั้งหมด แบ่งการใช้งานเป็นส่วน Private ของลูกบ้านได้เป็นอย่างดี
เมื่อเราเดินออกจากบริเวณพื้นที่ส่วนกลางแล้ว ตรงมาทางด้านหน้าบริเวณอาคาร A จะมาเจอกับทางแยกซึ่งมองไปด้านซ้ายเป็นลานจอดรถกลางแจ้งและด้านขวาเป็นทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร A ซึ่งการเดินรถภายในอาคารมีลักษณะขับสวนทางกันทั้งหมด มองขึ้นไปที่ตัวอาคาร A จะเห็นว่าด้านข้างของตัวอาคารเป็นบันไดหนีไฟของอาคาร ที่แยกออกมาอยู่ภายนอกอาคาร โดยมีประตูกันไฟแยกไว้ในแต่ละชั้นของอาคารตามมาตรฐานที่โครงการจัดไว้ให้ครับ
จากบริเวณด้านหน้าทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร A ตรงข้ามกันป็นลานจอดรถแบบกลางแจ้ง และพื้นที่จอดบริเวณใต้อาคาร Clubhouse ทางซ้ายมือ ซึ่งถนนในโครงการไม่ได้เป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทุกอาคารได้ การสัญจรอาจลำบากหน่อย เมื่อรถเข้าสู่ตัวโครงการพร้อมกันได้
เข้าสู่ผังตัวชั้น 1 ของอาคารทั้งสองอาคารครับ อาคาร A มีที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด จะมีเฉพาะ Lobby ที่เป็น Double Space โปร่งโล่งมีตู้จดหมายจัดไว้อยู่ภายในส่วนนั้น และโถงลิฟท์ขึ้นสู่ชั้นบนซึ่งแยกพื้นที่ด้วยประตูกระจกที่มีระบบ Keycard Acess เพื่อความปลอดภัย มีพื้นที่ร้านค้าอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ
ส่วนอาคาร B มีที่จอดรถใต้อาคารเช่นเดียวกับอาคาร A แต่ไม่ทั้งหมดเพราะในชั้นนี้ มียูนิตขายในชั้นดังกล่าว โดยโครงการได้จัดห้อง Type A และ Type B ไว้ให้ มีจำนวนยูนิตในชั้นนี้อยู่ที่ 16 ห้อง และภายในห้องของชั้นนี้วัสดุพื้นที่ให้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ในส่วนพักอาศัย ซึ่งแตกต่างจากชั้นบนที่ได้เป็นลามิเนต เนื่องจากหากใช้ลามิเนตในพื้นที่ชั้นล่างอาจมีความชื้น ทำให้ลามิเนตที่ได้อาจมีอาการบวมและอายุการใช้งานสั้นจึงได้ให้เป็นพื้นแกรนิตดังกล่าว
เข้ามาภายในที่จอดรถใต้อาคาร A จัดรูปแบบเหมือนกับอาคาร B เป็นลักษณะสวนทางกัน กรณีต้องจอดซ้อนคันจะทำให้การเข้าออกลำบากหน่อย ที่จอดรถใต้อาคารมีความสูงอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายอาคารกำหนด คือ ไม่น้อยกว่า 2.1 ม. สามารถจอดรถ SUV ขนาดมาตรฐานได้ครับ
จากที่จอดรถใต้อาคาร มีทางเข้าสู่อาคาร Aโดยทำเป็นประตูจกติดระบบ Keycard acess เพื่อความปลอดภัย ด้านซ้ายของภาพเป็นประตูหนีไฟที่ลงมาจากด้านบน ซึ่งเมื่อเปิดใช้อาคารจริงไม่สามารถเปิดจากภายนอกได้ครับ
ทางเข้าสู่ตัวโถงลิฟท์ใช้ระบบ Keycard acess ทั้งฝั่งที่เข้าจากด้านหน้าโครงการและส่วนจอดรถใต้อาคาร ซึ่งรถเข็นที่ผู้อ่านเห็นนั้นเป็นรถเข็นที่ทางโครงการได้เตรียมไว้ให้ลูกบ้านใช้งานเมื่อขนหรือซื้อของกลับมาเป็นปริมาณมาก ๆ ลูกบ้านสามารถใช้รถเข็นดังกล่าวได้
เมื่อเข้ามายังโถงลิฟท์ของอาคาร ด้านขวามือตกแต่งเป็นพื้นที่สำหรับติดประกาศเต็มผนัง เพื่อให้ลูกบ้านทราบประกาศต่าง ๆ ที่นิติได้ติดแจ้งไว้ให้ระหว่างรอขึ้นลิฟท์ครับ และประตูกระจกที่เข้าสู่โถงลิฟท์ทั้ง 2 ด้านนั้นเป็นระบบ Keycard acess ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
เดินออกมาที่ Lobby อาคาร A ทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นพื้นที่ Double space และทำกระจกเต็มความสูงเพื่อรับแสงธรรมชาติและมีช่องเปิดเพื่อรับลมได้และภายในโดยได้ทำการติดตั้งพัดลมระบายอากาศแทนระบบเครื่องปรับอากาศ ทั้งนี้ มีเหตุผลในการออกแบบได้คำนึงถึงการใช้งานในอนาคตไม่ว่าในประเด็นการบำรุงรักษาและ ค่าไฟที่กระทบส่วนกลาง เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนตลอดเวลาเนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ใช้งานเป็นลูกบ้านในโครงการและหากใช้งานก็สามารถเดินเข้าไปใช้ในพื้นที่ส่วนกลางด้านในโครงการได้ เป็นการลดภาระค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นภายในโครงการในอนาคตได้ด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับ Lobby ของอาคาร B ทางเข้าของอาคารจะอยู่รวมกับสำนักงานนิติบุคคลซึ่งมีที่นี่จุดเดียวครับ โดยบริเวณด้านหน้าทางเข้าได้ติดตั้งตู้จหมายไว้ให้ลูกบ้านใช้งาน ส่วนชุดโต๊ะและเก้าอี้ที่เห็นในภาพ ไว้ใช้งานรับรองลูกค้าชั่วคราวนะครับ
ที่อาคาร B จาก Lobby เมื่อเดินเข้ามายังภายในจะพบประตูกั้นอีกชั้นหนึ่งเป็นระบบ Keycard acess ส่วนโถงลิฟท์ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้จดหมายของลูกบ้าน ถัดเข้าไปด้านในเป็นโถงทางเดินเชื่อมไปยังห้องพักลูกบ้านบริเวณชั้น 1 ครับ (อาคาร B มีห้องพักบริเวณชั้น 1)
ถัดมาที่ชั้น 2 – 5 ของโครงการเป็น Trypical Floor Plan ที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมด โดยอาคาร A มีรูปแบบห้องของโครงการเป็นห้อง Type A ในทิศเหนือและ Type B ในฝั่งทิศใต้แยกฝั่งกันชัดเจน มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 18 ยูนิตต่อชั้น ลิฟท์มีมาให้ 2 ตัว มีห้องพักขยะอยู่ทุกชั้น บันไดหนีไฟมี 2 จุด อยู่บริเวณปลายโถงทางเดินฝั่งทิศตะวันตก 1 จุด อยู่ด้านนอกอาคาร และบริเวณโถงลิฟท์ 1 จุด ระยะเดินไม่ไกลมากในตึกนี้ มีช่องหน้าต่างให้แสงเข้าสู่ตัวโถงทางเดินได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนอาคาร B รูปแบบของห้องมี 3 รูปแบบแบ่งเป็น Type A เกาะอยู่บริเวณขอบนอกของฝั่งด้านทิศใต้และทิศตะวันตก ส่วนห้อง Type B กับ Type Combine อยู่ฝั่งด้านในติดกับ Clubhouse โดยในชั้น 2 ของอาคาร B มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 33 ยูนิต และตั้งแต่ชั้น 3 – 8 มีจำนวน 34 ยูนิตต่อชั้น ลิฟท์มีมาให้ 2 ตัว อยู่บริเวณจุดหักเลี้ยวตรงตัว L ระยะเดินไปยังทิศตะวันออกค่อนข้างไกลพอสมควร บันไดหนีไฟมีมาให้ทั้งหมด 3 จุด เป็นบันไดหนีไฟในอาคาร 2 จุดคือบริเวณโถงลิฟท์และด้านฝั่งทิศตะวันออก ส่วนด้านปลายบริเวณทิศเหนือเป็นลักษณะบันไดหนีไฟอยู่นอกอาคาร มีช่องแสงบริเวณปลายโถงทางเดินทุกจุดเพื่อให้แสงเข้าสู่ภายในได้
ในชั้นที่ 6 – 8 เฉพาะของอาคาร A มีรูปแบบห้อง Combine เพิ่มมาในทิศเหนือฝั่งมุมซ้ายสุดซึ่งเป็นห้องที่นำ Type A มารวมพื้นที่กันเป็น 2 ห้องนอน โดยตั้งแต่ชั้นนี้ในอาคาร A มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 17 ยูนิตต่อชั้น มีห้องพักขยะอยู่ทุกชั้น บันไดหนีไฟมี 2 จุด อยู่บริเวณปลายโถงทางเดินฝั่งทิศตะวันตก 1 จุด อยู่ด้านนอกอาคาร และบริเวณโถงลิฟท์ 1 จุด มีช่องหน้าต่างให้แสงเข้าสู่ตัวโถงทางเดินได้ทั้ง 2 ฝั่ง เช่นเดียวกันกับชั้นอื่น ๆ
เริ่มต้นจากโถงลิฟท์ในอาคาร A ก่อนนะครับ เนื่องจากอาคาร B ณ วันที่เข้าไปถ่ายภาพในโครงการยังมีการเก็บงานอยู่ จึงไม่ได้บันทึกภาพไว้ โดยในบริเวณโถงลิฟท์ได้มีการตกแต่งแบบเรียบง่าย ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี เฉพาะพื้นที่โถงลิฟท์เท่านั้นที่จะมีป้ายกำกับชั้นกับห้องต่าง ๆ อย่างชัดเจน ทางซ้ายมือฝั่งเดียวกับลิฟท์ จะเป็นประตูห้องรวมขยะของแต่ละซั้น โดยโครงการจะไม่มีลิฟท์สำหรับ Service ดังนั้นการจัดการขยะทางนิติบุคคลต้องจัดสรรเวลาในการเก็บขยะให้เหมาะสมต่อการใช้งานเพื่อไม่ให้กระทบลูกบ้าน
ภายในห้องขยะมีพื้นที่สำหรับวางถังขยะได้จำนวน 2 ถังสามารถแยกขยะได้ ทางโครงการได้เตรียมอุปกรณ์มาตรฐานอาทิ เครื่องดูดอากาศภายในห้อง แสงสว่าง และก๊อกสำหรับทำความสะอาด มีตำแหน่งก๊อกและ Floor drain ซึ่งพื้นภายในเป็นคอนกรีตขัดมันลดระดับและก่อ Curb หน้าห้องขยะเรียบร้อย
เมื่อเดินเข้าสู่โถงทางเดิน ทางโครงการทำเป็นผนังเป็นสีขาวเพื่อให้แสงที่เข้าสู่ตัวอาคารช่วยให้ภายในสว่างขึ้น ประกอบกับเปิดฝ้าเปลือย มีระยะจากพื้นสูงขึ้น ทำให้ไม่ให้รู้สึกแคบและอึดอัด ซึ่งการเก็บงานสายไฟและการร้อยท่อต่าง ๆ ทำได้ดีตามมาตรฐาน เห็นชัดเจนเมื่อมีปัญหาช่างประจำอาคารสามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องกรีดฝ้าขึ้นไปซ่อมแซม
ปลายอีกด้านหนึ่งของอาคาร ทำเป็นหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศและเป็นช่องแสง ส่องเข้ามาที่ทางเดินด้านหน้าห้องพัก
จากนั้นพามาชมทัศนียภาพมุมสูงกันนะครับ เริ่มด้วย ด้านทิศตะวันออกของอาคาร B เป็นส่วนที่มองไปยังด้านหน้าโครงการเห็นได้ว่าพื้นที่ที่ติดกับแนวรั้วโครงการเป็นถนนซอยและถัดจากตัวโครงการเป็นตลาดนัดที่เป็นแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคมากมายสำหรับคนในพื้นที่บริเวณนี้มาจับจ่ายใช้สอยกันในช่วงเย็นของทุกวัน
ด้านทิศใต้ของอาคาร B อาคารส่วนใหญ่ที่ติดกับโครงการเป็นที่โล่งและบ้านขนาดไม่เกิน 3 ชั้น
ด้านทิศตะวันตกของอาคาร B มองเห็นคอนโดเพื่อนบ้านใกล้ ๆ ในฝั่งด้านนี้มองไปไกลๆจะเป็นเป็นวิวเมือง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระแบบ Overflow ระบบเกลือ ขนาด 5 x 18 เมตรรวมสระเด็ก ความลึกสระเด็ก 0.5 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
- The Roof Garden
- The Ground Garden
- The Gym วิวสระว่ายน้ำ
- The Sauna แยกหญิงชาย
- The Library
- The Lobby
- The Shop ร้านค้าในโครงการ
- ที่จอดรถ 37% รวมจอดซ้อนคัน 42%
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 94 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 61.5 : 1 จำนวนห้อง 123 ห้อง
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 126.5 : 1 จำนวนห้อง 253 ห้อง
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
- ระบบ CCTV / Access Card
โดยโครงการได้ขายแบบ Fully Fitted เน้นขายรูปแบบห้อง 1 Bedroom รูปแบบโครงสร้างภายในห้องในส่วนเป็นผนังกั้นภายในห้องเป็นผนังเบา แต่ในส่วนของโครงสร้างเป็นระบบ Precast ในการจัดรูปแบบห้องของโครงการแบ่งการได้ออกแบบเป็น 3 รูปแบบคือ
- Type A 1 ห้องนอน ขนาด 22.5 ตร.ม.
- Type B 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตร.ม.
- Type Combine 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม.
สำหรับรีวิวตึกเสร็จวันนี้ทางโครงการมีห้องตัวอย่างที่จัดเฟอร์นิเจอร์ภายในให้ดู 2 แบบ คือห้อง Type A ขนาด 22.5 ตร.ม. และ Type B ขนาด 26 ตร.ม. ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ
เริ่มต้นห้องแรกกับ Type A ขนาด 22.5 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Built in และสุขภัณฑ์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ลักษณะของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมและจัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลัก ๆ เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนพักผ่อน แพนทรี่ + พื้นที่ทานอาหาร ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจออกับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนด้านใน พื้นที่ตรงส่วนห้องนั่งเล่น ห้องนอน และส่วนทานอาหารและแพนทรี่ปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องมีความโปร่งไม่อึดอัด มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 ม. พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดกลาง 2 ที่นั่งได้และเหลือพื้นที่ด้านข้างให้ตั้งโต๊ะทำงานได้ ถัดเข้าไปอีกห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนอน โดยมีบานเลื่อนกระจกกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานและเพื่อความเป็นส่วนตัว เข้าไปเป็นตำแหน่งห้องนอนซึ่งอยู่ติดริมหน้าต่างของห้อง ทำให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาแบบพอดีใช้งานสามารถวางเตียงใหญ่ ขนาด 5 ฟุตได้แต่อาจเหลือพื้นด้านข้างเตียงไม่มาก โดยเฉพาะด้านติดหน้าต่างที่จะไม่เหลือพื้นที่ให้ยืนเปิดหน้าต่างได้ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงเว้นผนังเป็นช่องไว้พอดีสำหรับตั้งตู้เสื้อผ้าและสามารถเดินใช้งานได้สะดวก
อีกฝั่งของตัวห้องจัดเป็นพื้นที่ครัว ห้องน้ำ และระเบียงซักล้าง เริ่มจากห้องครัวจัดเป็นครัวเปิด ไม่มีประตูกั้นการใช้งาน ครัวแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องการประกอบอาหารที่มีกลิ่นและควันในกรณีนี้เราอาจเพิ่มประตูหรือฉากบานเลื่อนระหว่างส่วนพักผ่อน ภายในครัวมีชุดครัวแบบ Built in ให้แต่ถ้าอยากทำอาหารจริงจังอาจต้องติดตั้ง Hob & Hood เพิ่มเติม พื้นครัวเป็นลามิเนตจะต้องระวัดระวังในการประกอบอาหารหน่อย และพื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ พื้นที่ระเบียงจัดมาให้สามารถใช้งานได้แบบพอดี ๆ เป็นส่วนซักล้างไว้ตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็กๆ มีปลั๊กกันน้ำและก๊อกน้ำดีเตรียมไว้ให้เรียบร้อย และได้ใช้จุดนี้เป็นที่แขวน Condensing air ด้านในสุดของตัวห้องทางด้านขวาจัดเป็นพื้นที่ห้องน้ำ พื้นภายในห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิคทั้งหมดและแบ่งพื้นที่การใช้งานแยกโซนเปียกและโซนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำหลัก ๆ ครบตามที่ต้องใช้งาน แต่การจัดผังห้องให้ห้องน้ำอยู่ส่วนด้านในของอาคารแบบนี้ จะไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้อากาศที่ระบายออกนั้น ระบายออกได้ไม่เต็มที่นัก รูปแบบภายในห้องเป็นอย่างไร เชิญชมได้เลยครับ
ประตูทางเข้าห้องบานประตูเป็น HDF ขนาดประตูเป็นขนาดหน้าบานมาตรฐานความสูง 2 เมตร ทำสีมีซับวงกบเก็บขอบเรียบร้อย ชุด Fitting มือจับก้านโยกระบบ Mortise Lock ของ Colt พร้อมช่องตาแมว ด้านในมี Door Stopper หัวยางยึดที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันการเปิดประตูมากระทบชุดตู้ภายในห้อง
พื้นภายในห้องยกระดับสูงขึ้นจากโถงทางเดินภายนอกประมาณ 3 ซม. เก็บขอบพื้นด้วยคิ้วลามิเนตลายเดียวกับพื้นในห้อง
เมื่อเข้ามาให้ห้องตัวอย่างจะพบส่วนพักผ่อนเป็นส่วนแรก พื้นภายในห้องเป็นวัสดุลามิเนตทั้งหมด ห้องนั่งเล่นจัดวางเป็นชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งขนาด 1.5 ม. ต่อเนื่องไปเป็นโต๊ะทำงานมีความยาวต่อเนื่องกันรวมทั้งหมด 2.5 ม. เหมาะสำหรับการใช้งานพื้นที่สำหรับ 1-2 คน แต่ชุดโซฟาและชุดโต๊ะทำงาน ทางโครงการไม่มีให้นะครับ เราสามารถเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ที่ชอบและเหมาะสมกับการใช้งานของเราเองได้
ระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวีความกว้างประมาณ 1.95 ม.ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาดประมาณ 40″ ได้
ภายในห้องนั่งเล่นทางโครงการตั้งชุดตู้ไว้ให้สำหรับวางของต่างๆ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวน จะช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งานและได้พื้นที่วางของมากขึ้น ส่วนชุดตู้นี้ทางโครงการไม่มีให้เช่นกันนะครับ
ชุดตู้สำหรับวางของ ด้านบนทำเป็นชั้นและช่องวางของแบบเปิดโล่ง ชั้นล่างทำเป็นที่เก็บของ 2 ระดับ ล่างสุดทำเป็นลิ้นชัก ส่วนที่ผนังด้านหลังจะติดตั้งปลั๊กไฟ ทีวี และโทรศัพท์ไว้ให้
ผนังและฝ้าเพดานในส่วนพักผ่อนจะฉาบเรียบทาสี ติดไฟแบบดาวน์ไลท์ ภายในห้องและส่วนห้องนอน ห้องตำแหน่งละ 1 ดวงโคมพร้อมติดเครื่องตรวจจับและแจ้งเหตุไฟไหม้ให้
ตำแหน่งของตู้ไฟภายในห้องอยู่บริเวณส่วนพักผ่อนเหนือชุดตู้ตั้ง TV ติดตั้งไว้ด้านบนเพดานทางซ้ายมือ
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอน มีประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนกั้นเพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ส่วนการเปิด – ปิดบานเลื่อนสังเกตว่าบานเลื่อนที่ให้มีจำนวน 2 บาน ส่วนที่เหลือเป็นผนังเบากั้นระหว่าง 2 ส่วนเมื่อเปิดบานจนสุดบริเวณผนังดังกล่าวจะบังบานประตูเกือบทั้งบานครับและยังเหลือพื้นที่สำหรับจับมือจับบานเลื่อนได้
ชุดล๊อคบานเลื่อนใช้ยี่ห้อ Colt สามารถล๊อคได้จากภายในห้องนอน วัสดุกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกใส แนวรางประตูอยู่ที่พื้นมีความสูงประมาณ 1.5 ซม. ซึ่งในการเดินเข้าออกระวังเดินสะดุดรางนิดนึงครับ มี Door stopper กันบานในไหลตามมา ซึ่งการใช้ประตูบานเลื่อนกระจกลักษณะนี้ทำให้ห้องไม่ดูทึบจนเกินไป แต่ก็อาจทำให้ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ สามารถมองเห็นเข้าไปในห้องนอนได้ อาจจะต้องมีการติดให้เป็นกระจกฝ้าบังสายตาหรือติดม่านเพิ่มเติม
ภายในห้องนอนพื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบกำลังดีและการวางตำแหน่งห้องแบบนี้มีข้อดีตรงห้องนอนอยู่ติดริมหน้าต่างทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี พื้นที่ภายในสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้พอดี ๆ เมื่อวางเตียงในห้องแล้วยังพอมีพื้นที่เหลือตรงปลายเตียงให้ตั้งตู้เสื้อผ้าได้ แต่จะไม่มีระยะข้างเตียงให้ยืนเปิดหน้าต่าง แบบนี้จะต้องปีนเตียงไปเปิดหน้าต่างแทนครับ
จากภาพแสดงให้เห็นระยะด้านข้างที่สามารถวางโต๊ะเตี้ยสำหรับวางโทรศัพท์หรือของใช้จุกจิกได้ความกว้างโดยประมาณ 50 ซม. โดยในการแบ่งพื้นที่ระหว่างส่วนพักผ่อนและส่วนห้องนอนนั้นทางโครงการได้จัดรูปแบบโดยการกั้นผนังเบาขึ้นมาเพื่อให้บริเวณส่วนที่อยู่ด้านนอกห้องนอนสามารถจัดวางโต๊ะทำงานหรือโซฟาได้ เพื่อแยกกิจกรรมและเพิ่มความ Private ในส่วนห้องนอนได้ในระดับหนึ่ง ถ้าหากใช้งานจริงแล้วในส่วนนี้ถือว่าลดปัญหาเรื่องแสงรบกวนเมื่อเกิดการใช้งาน 2 Function พร้อมกัน เช่น หากดึกแล้วอีกคนกำลังเข้านอนและอีกคนยังทำงานอยู่ เมื่อภายในห้องนอนปิดไฟ บริเวณผนังที่กั้นนั้นสามารถช่วยบังแสงสว่างจากภายนอกได้ด้วยเช่นกัน
บริเวณด้านข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งวางเตียงชิดผนังพอดี
ปลายเตียงมีระยะประมาณ 50 ซม. ที่เห็นส่วนเว้าเข้าไป สามารถวางหรือทำตู้เสื้อผ้าได้พอดี ซึ่งผนังด้านข้างเป็นผนังเบาหากต้องการเพิ่มระยะภายในห้องสามารถทำได้ แต่พื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารหายไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตกแต่งของผู้ซื้อครับ
พื้นที่บริเวณที่เว้าเข้าไปมีระยะกว้าง 1.25 x 0.83 ซม. สามารถทำตู้ Built in หรือซื้อแบบลอยตัวแล้วแต่ความชอบ ผนังด้านบนทางโครงการจะติดเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 BTU ของ DAIKIN ให้เป็นตัวอย่างครับ เราสามารถปรับตำแหน่งไปไว้ในบริเวณเหนือหน้าต่างด้านซ้ายมือได้ เพื่อจะทำชุดตู้เต็มพื้นที่สูงไปถึงฝ้าเพดาน แต่ต้องแลกกับระยะท่อนำ้ยาที่วิ่งผ่านมาออกยังคอยล์ร้อนบริเวณด้านหลังผนังแทนครับ
จากส่วนพักผ่อนเดินเชื่อมต่อไปส่วนครัวและพื้นที่รับทานอาหาร ด้านขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำ ด้านซ้ายจัดพื้นที่ไว้สำหรับโต๊ะทานอาหารแบบเข้ามุม ขนาด 80 x 80 ซม. บริเวณหน้าครัวเหลือพื้นที่สำหรับยืนทำครัวกว้างประมาณ 1 ม. ทางเข้าห้องครัวไม่มีประตูกั้น พื้นที่การใช้งานลักษณะเป็นครัวเปิดซึ่งเราอาจจะติดประตูหรือบานเลื่อนเพิ่มภายหลังเพื่อกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น และสามารถประกอบอาหารจริงจังได้เป็นการป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันเข้ามารบกวนส่วนพักผ่อนและห้องนอนด้านใน
ภายในติดตั้งชุดครัวแบบ Built in จัดแบ่งพื้นที่ไว้ 2 ส่วน คือ ส่วนสำหรับประกอบอาหาร และพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็นไว้ด้านข้าง ชั้นบนทำเป็นชั้นวางของต่างระดับ ชั้นล่างทำเป็นช่องสำหรับใส่ Microwave มีลิ้นชักให้สองชั้นและช่องบานเปิดสำหรับเก็บของและอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามขนาดได้
บริเวณส่วนครัวที่โครงการให้ เน้นการทำครัวแบบไม่หนักมาก ชุดครัวชิ้นล่างแบ่งทำเป็นช่องสำหรับตั้ง Microwave ขนาดพื้นที่ประมาณกว้าง 56 x สูง 37 x ลึก 60 ซม. วัสดุที่ให้บริเวณผนังและชั้นวางด้านบนเป็นผิวเป็นเมลามีน Top ครัวด้านบนเป็นลามิเนตลายไม้เก็บขอบเรียบร้อยกันน้ำซึมและความชื้น ด้านล่างเป็นตู้และลิ้นชักกพร้อมช่อง Microwave เมื่อเปิดภายในตู้ใต้อ่างให้ถาดกันน้ำหยดไว้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณไฟฟ้าในครัวและอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆทางโครงการไม่มีให้นะครับ
ภายในครัวแบ่งพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั้ง เข้ามุม พื้นที่ประมาณ 80 x 80 ซม. พื้นที่ว่างติดกับชุดครัว เว้นไว้สำหรับให้ตั้งตู้เย็นบริเวณด้านระหว่างประตูออกระเบียงและชุดครัวมีระยะห่างประมาณ 90 ซม. สามารถวางตู้เย็นขนาดกลาง 2 ประตู บน-ล่าง ได้ไม่เกิน 14 คิว ตามเส้นประสีเหลืองซึ่งในกรณีที่เรานั่งทานข้าว จะเหลือพื้นที่ด้านหลังจากระยะเก้าอี้ถึง หน้าตู้เย็นประมาณ 15 – 20 ซม. ที่จะสามารถขยับเข้าออกเมื่อลุกหรือนั่งได้
ฝ้าเพดาน ในห้องครัวจะฉาบเรียบทาสี เหมือนกับห้องนั่งเล่น ติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 1 ตำแหน่ง ภายในห้องครัวจะไม่ได้ติดตั้ง Hob & Hood ถ้าอยากจะทำครัวแบบจริงจังก็ต้องซื้อมาติดตั้ง เดินต่อท่อระบายกันเองครับ
มาต่อที่ระเบียง บานประตูที่ให้เป็นบานเลื่อนเดี่ยวกระจกอีกด้าน Fix เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ติดมือจับบานเลื่อนล๊อคได้ของ Colt มีระยะบานประตูเมื่อเปิดออกเหลือช่องกว้างประมาณ 63 ซม. ใน Type นี้ ถ้าจะซื้อเครื่องซักผ้าอาจต้องวัดขนาดให้สามารถยกเครื่องออกมาที่ระเบียงได้
ความสูงของ Curb สูงรวมเฟรมประมาณ 13 ซม.โดยการยกขอบสูงขึ้นมาแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในตัวห้อง ส่วนขอบด้านนอกของระเบียงมีความสูงประมาณ 10 ซม. กรณีเกิดท่อระเบียงตัน น้ำจะล้นออกฝั่งระเบียงด้านนอกก่อน สำหรับตัวบานเลื่อนเราสามารถติดมุ้งลวดเพิ่มได้เพราะทางโครงการได้เผื่อรางให้สำหรับใส่บานมุ้งลวดจะได้เปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศ ป้องกันยุงและแมลงไม่ให้เข้ามาในตัวห้องได้
มี Grill บัง Condensing air เป็นเหล็กกล่องทำสี มีความแข็งแรงดี เขย่าไม่โคลง การติดตั้ง Condensing air ห้อยยึดจากท้องพื้นลงมา และโครงการได้เดินท่อไฟในผนังและ Box out ให้สำหรับติดเครื่องปรับอากาศมาให้เรียบร้อยแล้ว
ขนาดระเบียงมีความกว้าง 1.45 x 1 ม. สามารถวางเครื่องซักผ้าบริเวณหลังห้องได้วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคกันลื่น
ทางโครงการได้เตรียมก๊อกน้ำดีและปลั๊กไว้ให้เรียบร้อย
โครงการได้เตรียมปลั๊กกันน้ำ 2 เต้ารับมีสายดิน ไว้ให้เป็นของ Bticino
ไฟบริเวณระเบียงเป็นโคมซาลาเปายึดบนเพดานฉาบเรียบทาสี
เมื่อมองหันกลับมาจากบริเวณระเบียงจะเป็นเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านในของตัวห้อง
ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งมีพื้นและผนังเป็นลักษณะเฉพาะกันน้ำรั่วน้ำซึมจากภายในทั้งหมด โดยความสูงของพื้นห้องน้ำจะสูงกว่าพื้นภายนอก ประตูห้องน้ำเป็นวัสดุ UPVC สีขาวเก็บขอบด้วยซับวงกบเรียบร้อย พร้อมมือจับเป็นลูกบิดของ Colt
ความสูงของพื้นถึงขอบ Curb ห้องน้ำประมาณ 13 ซม. หากเดินเข้าต้องระวังการก้าวเข้าเนื่องจากมีระยะสูงต่างกันพอควรครับ
ห้องน้ำจะอยู่ถัดเข้ามาจากพื้นที่ครัว ซึ่งการจัดผังห้องให้ห้องน้ำที่อยู่ส่วนด้านในของอาคารแบบนี้ จะไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องติดเครื่องดูดอากาศเพื่อระบายความชื้น และระบายอากาศผ่านทางช่องท่อเท่านั้น ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสีและ Texture ของผิวกระเบื้องชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาเต็มบาน และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้ามีจุดน้ำทิ้งออกสู่ผนังจึงมีข้อดีคือมีพื้นที่สำหรับทำ Counter วางของได้ มีความลึก 20 ซม.วัสดุเป็นหิน
เมื่อเข้ามาพบกับชุดอ่างและสุขภัณฑ์ ตามลำดับ บริเวณด้านบนมีพื้นที่เป็น Counter ลึก 20 ซม. ยาว 1.33 ม. Top เป็นหินสามารถวางของได้ตลอดทั้งแนว
ขนาดอ่างล้างมือเมื่อเทียบกับฝ่ามือมีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อใช้งานอาจจะมีน้ำกระเด็นออกบ้าง เนื่องจากบริเวณประตูห้องน้ำเปิดมาแล้วตรงกับตำแหน่งของอ่างล้างมือพอดี
ถัดมาเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์ของ American Standard ระยะนั่งและการจัดวางต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถใช้งานได้สะดวกครับ
พื้นที่ด้านในสุดของห้องน้ำ จะเป็นพื้นที่อาบน้ำ ยกขอบแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ แต่ทางโครงการไม่ได้ให้ฉากกั้นส่วนอาบ ทั้งนี้ผู้ซื้อสามารถหาซื้อมาติดตั้งเพิ่มเติมได้
พื้นที่อาบน้ำขนาด กว้างประมาณ 97 x 90 ซม. พื้นระดับเดียวกับส่วนเปียกกั้นด้วย Curb กระเบื้องส่วนเปียกเป็นเซรามิคพื้นผิวกันลื่น
Curb Detail เมื่อมองจากส่วนอาบระหว่างส่วนเปียกส่วนแห้งมีความสูง 8 ซม. เก็บมุมกระเบื้องเรียบร้อย
ฝักบัวขนาดกำลังดี และสามารถปรับรูปแบบสายน้ำได้
บริเวณด้านข้างฝักบัวโครงการได้เตรียม Box out สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้
บริเวณผนังฝั่งอ่างล้างมือ มีขอแขวนผ้าเช็ดมือ และราวแขวนผ้า ส่วนด้านบนสุดเป็นกันชนประตูของ Colt
ดวงโคมภายในห้องน้ำเป็นชุดโดนัทพร้อมพัดลมดูดอากาศในตัว 1 จุด
อุปกรณ์สวิตช์ปลั๊กทั้งหมดของ Bticino
มาถึง Type B ขนาด 26 ตร.ม. กันบ้างครับ
มาถึงห้องที่ 2 เป็น Type B ขนาด 26 ตร.ม. ภายในจัดมาให้แบบ Fully Fitted เช่นเดียวกันกับ Type A ลักษณะห้องเป็นแนวลึก และจัดวางตำแหน่งห้องไม่เหมือนกับ Type แรก แบ่งพื้นที่การใช้งานภายในได้เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนพักผ่อน พื้นที่ทานอาหารและครัว ระเบียงซักล้าง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาพบกับพื้นที่บริเวณส่วนพักผ่อนที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ทานอาหารและแพนทรี่ที่ติดกับระเบียงซักล้าง พื้นในห้องทั้งหมดปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องมีความโปร่งไม่อึดอัดแบ่งพื้นที่ระหว่างส่วนพักผ่อนและห้องนอนออกชัดเจน มีประตูและผนังกั้นห้องเรียบร้อย ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 ม. พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดกลาง 2 ที่นั่งได้และเหลือพื้นที่ด้านข้างให้ตั้งโต๊ะทำงานได้ ถัดเข้าไปอีกห้องจะเป็นพื้นที่ครัวและพื้นที่ทานอาหารอีกฝั่งของตัวห้องจัดเป็นพื้นที่ครัวและระเบียงซักล้าง เริ่มจากพื้นที่ครัวจัดเป็นครัวเปิด ไม่มีประตูกั้นการใช้งานเช่นเดียวกับแบบ A ภายในครัวมีชุดครัวแบบ Built-in ให้แต่ถ้าอยากทำอาหารจริงจังอาจต้องติดตั้ง Hob & Hood เพิ่มเติม และพื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ พื้นที่ระเบียงจัดมาให้สามารถใช้งานได้เป็นส่วนซักล้างไว้ตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็ก ๆ มีปลั๊กกันน้ำและก๊อกน้ำดีเตรียมไว้ให้เรียบร้อย และใช้จุดนี้เป็นที่แขวน Condensing air
อีกฝั่งของตัวห้องเป็นตำแหน่งห้องนอน บริเวณเตียงนอนได้จัดวางไว้ติดกับหน้าต่างทำให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาแบบพอดีใช้งานสามารถวางเตียงใหญ่ ขนาด 5 ฟุตได้และสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้อีกด้วย โดยพื้นที่บริเวณปลายเตียงได้เว้าช่องเข้าไปเพื่อให้สามารถใส่ชุดโต๊ะทำงานเข้าไปได้อีกด้วย ส่วนพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำเป็นพื้นที่สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้าและสามารถเดินใช้งานได้สะดวก ด้านในสุดของตัวห้องทางด้านขวาจัดเป็นพื้นที่ห้องน้ำโดยห้องน้ำสามารถเข้าได้จากภายในห้องนอน พื้นภายในห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิคทั้งหมดและแบ่งพื้นที่การใช้งานแยกโซนเปียกและโซนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำครบตามที่ต้องใช้งาน แต่การจัดผังห้องให้ห้องน้ำอยู่ส่วนด้านในของอาคารแบบนี้ จะไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้อากาศที่ระบายออกนั้น ระบายออกได้ไม่เต็มที่นัก รูปแบบภายในห้องเป็นอย่างไร เชิญชมได้เลยครับ
ลักษณะประตูทางเข้าเหมือนกับใน Type A ครับ โดยพื้นที่ภายในห้องเมื่อเข้ามาจะพบกับส่วนพักผ่อนเป็นส่วนแรก ต่อเนื่องไปยังส่วนทานอาหารและส่วนครัวสำหรับเตรียมอาหารและจากพื้นที่ครัวสามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้
ภายในพื้นที่ห้องนั่งเล่นโครงการจัดวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งกว้าง 1.5 ม. ไว้ให้โดยมีระยะดูโทรทัศน์กว้างประมาณ 2.2 ม. ในระยะนี้สามารถเลือกติดตั้งโทรทัศน์ที่มีขนาด 40″ – 42″ ได้ครับ สำหรับชุดโซฟานี้ทางโครงการไม่มีให้นะครับ
ภายในห้องนั่งเล่นทางโครงการตั้งชุดตู้ไว้ให้สำหรับวางของต่างๆ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวน จะช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งานและมีพื้นที่วางของได้มากขึ้น ส่วนชุดตู้นี้ทางโครงการไม่มีให้นะครับ ความกว้างบริเวณหน้าโทรทัศน์ประมาณ 1.5 ม. เท่ากับระยะโซฟาทางโครงการจัดมาให้เป็นไอเดียสามารถทำชุด Built in ได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ
ตำแหน่งของตู้ไฟภายในห้องอยู่บริเวณหน้าห้องติดตั้งอยู่ด้านบนเพดาน
เมื่อหันมาด้านขวาพบกับ Sofa และผนังด้านหลังกรุกระจกเงาไว้ทำให้ห้องมีมิติที่กว้างขึ้น แต่ห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีมีพื้นที่ด้านข้างโซฟาสามารถตั้งโต๊ะเตี้ยได้ ถัดมาเป็นพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็น มีพื้นที่กว้างประมาณ 70 ซม.สามารถวางตู้เย็นขนาดประมาณ 7 – 10 คิวได้
ในห้องตัวอย่างที่จัดไว้จะเป็นห้องมุม จะมีหน้าต่างด้านข้างให้ ระหว่างส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนครัว ตัวบานด้านบนเป็นหน้าต่างกระทุ้งกระจกด้านล่างเป็นหน้าต่างแบบติดตาย ลักษณะการเปิด-ปิดเป็นบานกระทุ้ง สามารถเปิดกว้างได้ประมาณ 45 องศา มีตัวล็อคของ Colt ติดตั้งให้เรียบร้อย
ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ครัวสำหรับเตรียมอาหาร โครงการได้จัดวางพื้นที่ส่วนทานอาหารไว้ให้ในตัวโดยมีระยะระหว่างโต๊ะทานอาหารและชุดครัวห่างประมาณ 73 ซม. วัสดุปูพื้นภายเป็นพื้นลามิเนตทั้งหมดต้องจะต้องระวัดระวังในการประกอบอาหารและความชื้นหน่อย โต๊ะทานอาหารที่อยู่ตรงข้ามกับชุดครัวจัดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างในการตกแต่งซึ่งห้องจริงจะมีให้แต่ชุดครัวนะครับ โต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ไม่มีให้ เราสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมเองได้
ชุดครัวที่ได้ เป็นลักษณะครัวสำหรับทำอาหารไม่หนักมาก มีช่องใส่ Microwave ให้และมีอ่างพร้อมก๊อกน้ำดีไม่รวมของอุปกรณ์ตกแต่งจากชามแก้ว เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องครัว
ในส่วนบนมีชั้นสำหรับวางของสองชั้น และติดตั้งขอแขวนสำหรับไว้แขวนอุปกรณ์ หม้อ กระทะ ผ้าเช็ดมือ ส่วนผนังครัวกรุผิวเมลามีน สามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย
อ่างที่ได้เป็นลักษณะหลุมเดียวขนาด 36 x 40 x 20 ซม. มีพื้นที่ไว้สำหรับเตรียมอาหารด้านข้าง ตู้ครัวปิดผิวด้วยเมลามีน ในตู้ใต้อ่างมีถาดกันน้ำหยดซึม Fitting มาตรฐานโครงการ
หันกลับมาดูในพื้นที่บริเวณโต๊ะทานอาหาร โดยที่นั่งฝั่งที่ติดกับทางออกระเบียงนั้น เมื่อลองเลื่อนเก้าอี้และทดลองนั่งแล้ว สามารถใช้งานได้แบบไม่อึดอัด สามารถลุกเข้าออกได้อย่างสะดวก ระยะจากโต๊ะถึงประตูระเบียงประมาณ 65 ซม.
ตำแหน่งดวงโคมภายในห้องส่วนพักผ่อนต่อเนื่องไปยังส่วนครัวมีดาวน์ไลท์ 2 ดวง และมีสัญญาณจับเพลิงไหม้ ไม่รวมไฟประดับด้านขวา
บริเวณทางออกระเบียงเหมือนกับ Type A มีลักษณะเป็นบานเลื่อนเดี่ยวอีกฝั่ง Fix โดยในการตกแต่งทางโครงการทำรางม่านไว้ ด้านบนติดเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 BTU ของ Daikin ซึ่งโครงการไม่ได้แถมให้แต่เป็น Promotion แทนครับ
ส่วนพื้นระเบียงมีขนาด 1.7 x 1 ม. วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคชนิดกันลื่น ทางออกยกขอบสูงรวมเฟรมประมาณ 13 ซม.โดยการยกขอบสูงขึ้นมาแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในตัวห้อง ส่วนขอบด้านนอกของระเบียงมีความสูงประมาณ 10 ซม. กรณีเกิดท่อระเบียงตัน น้ำจะล้นออกฝั่งระเบียงด้านนอกก่อน สำหรับตัวบานเลื่อน เราสามารถติมุ้งลวดเพิ่มได้ เพราะทางโครงการได้เผื่อรางสำหรับใส่บานมุ้งลวดไว้ให้ จะได้ประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ ยุงและแมลงไม่เข้ามาในตัวห้อง
ลักษณะการติดตั้ง Condensing air ติดตั้งห้อยลงมาจากท้องพื้นเพื่อประหยัดพื้นที่บริเวณด้านล่าง สามารถวางเครื่องซักผ้าได้
ในส่วนระเบียงตำแหน่งของปลั๊กไฟลและก็อกน้ำเตรียมไว้ให้
เงยหน้าขึ้นไปด้านบนพบกับไฟส่องระเบียงเป็นโคมซาลาเปาให้มา 1 จุด
กลับเข้ามาด้านในบริเวณส่วนทานอาหารทางโครงการได้จัดวางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งในบริเวณตรงข้ามกับพื้นที่ทำครัวมีกรุผนังประดับกระจก แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีครับ ถัดมาเป็นทางเข้าสู่ห้องนอน ตำแหน่งทางเข้าจะอยู่บริเวณกลางห้องระหว่างมุมดูทีวีกับส่วนทานอาหาร
มือจับก้านโยกที่ใช้กับบานประตูเข้าห้องนอน เป็นระบบบิดล๊อค
เมื่อเข้าสู่ห้องนอน พื้นที่บริเวณหน้าตู้เสื้อผ้ามีอยู่พอสมควร
หน้าต่างในห้องจะเป็นบานเปิด อลูเนียมสีธรรมชาติ 3 บาน พร้อมตัวล็อค ลองเปรียบเทียบระหว่างปิดม่านทั้งหมด เปิดม่านทั้งหมด ห้องนอนจะไดแสงธรรมชาติและเปิดเพื่อระบายอากาศได้ดี
ลักษณะของ Fitting หน้าต่างเป็นบานเปิดมีองศาเปิดอยู่ที่ 90 องศา และมีอุปกรณ์ยึดล๊อคของ Colt
โดยในห้องนอนนั้นสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งหากผู้ซื้อต้องการทำ Built in สามารถดูไอเดียจากห้องตัวอย่างที่จัดให้เป็นแนวทางได้นะครับ
ระยะปลายเตียงถึงผนังห่างประมาณ 40 ซม. โดยบริเวณดังกล่าวสามารถติดตั้งทีวียึดกับโครงผนังจะได้ไม่เสียพื้นที่ทางเดินปลายเตียง
ส่วนระยะด้านข้างเตียงถึงฝั่งหน้าต่างห่างประมาณ 55 ซม.
ตรงข้ามเตียง ผนังจะเว้าทำเป็นชุดโต๊ะทำงานไว้ มีขนาดกว้าง 1 x 0.42 ม. แต่ชุดโต๊ะนี้ทางโครงการไม่มีให้ เราสามารถหาโต๊ะที่มีขนาดใกล้เคียงกับช่องดังกล่าวใส่เข้าไปได้ หรือจะทำเป็นชั้นวางของก็ได้ครับ
เมื่อหันกลับมาพบกับทางเข้าห้องน้ำ และทางออกไปด้านนอก โดยบริเวณตู้ที่มองเห็นนั้น เราสามารถทำ Built in ได้เป็นลักษณะ L shape ได้เลยเพื่อให้คุ้มกับพื้นที่ อาจจะไม่ใช่ตู้เต็มแต่สามารถเพิ่มเป็นชั้นวางของต่าง ๆ ในบริเวณที่เป็นสวิตช์ไฟได้
พื้นที่บริเวณหน้าตู้สามารถใช้งานอเนกประสงค์อื่น ๆ พื้นที่หน้าตู้มีขนาดประมาณ 1.7 x 1.7 ม.
รูปแบบตู้ที่ทางโครงการจัดไว้ให้กว้าง 1.25 ม. ลึก 55 ซม. ความสูงถึงเพดานด้านหน้าทำเป็นกระจกบานเต็มสามารถใช้แต่งตัวได้ ภายในตู้แบ่งเป็น 3 ส่วน ช่วงบนเป็นชั้นเก็บของสามารถเก็บกล่องหรือผ้านวมได้ ช่วงกลางไว้สำหรับแขวนเสื้อผ้า ช่วงล่างแบ่งด้านซ้ายเป็นที่แขวนกางเกงส่วนด้านขวาเป็นลิ้นชักสองชั้น ด้านบนพับผ้าวางได้ครับ
ไฟในห้องเป็นแบบ ดาวน์ไลท์ ให้มาทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ที่บริเวณเตียง หน้าตู้ และปลายเตียงตรงช่องโต๊ะอ่านหนังสือ
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยสีและ Texture ของผิวกระเบื้องชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาเต็มบาน และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ เหมือนกับห้องน้ำได้เหมือนกับ Type A ครับ
โถสุขภัณฑ์จะอยู่ถัดจากอ่างล้างหน้า พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ใช้งานต่าง ๆ เช่น สายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระไว้ทางผนังด้านหลัง
พื้นที่ด้านในสุดของห้องน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำขนาดความกว้างหน้าฝักบัว 97 ซม.ยาว 90 ซม. ยกขอบแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ แต่ทางโครงการไม่ได้ให้ฉากกั้นส่วนอาบ ทั้งนี้ผู้ซื้อสามารถหาซื้อมาติดตั้งเพิ่ม
บริเวณผนังฝั่งอ่างล้างมือ มีขอแขวนผ้าเช็ดมือ และราวแขวนผ้า ส่วนด้านบนสุดเป็นกันชนประตูของ Colt
ดวงโคมภายในห้องน้ำเป็นชุดโดนัทพร้อมพัดลมดูดอากาศในตัว 1 จุด
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31 October 2016
- 1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 1 เนื้อที่ 22.54 ตร.ม. ราคา 1.526 ล้านบาท หรือ 67,719 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 8 เนื้อที่ 22.54 ตร.ม. ราคา 1.594 ล้านบาท หรือ 70,736 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 6 เนื้อที่ 22.54 ตร.ม. ราคา 1.609 ล้านบาท หรือ 71,401 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 2 เนื้อที่ 25.97 ตร.ม. ราคา 1.800 ล้านบาท หรือ 69,333 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 7 เนื้อที่ 25.97 ตร.ม. ราคา 1.817 ล้านบาท หรือ 69,992 บาท/ตร.ม.
- 2 ห้องนอน (Combine) อาคาร A ชั้น 8 เนื้อที่ 45 ตร.ม. ราคา 3.175 ล้านบาท หรือ 70,555 บาท/ตร.ม.
- 2 ห้องนอน (Combine) อาคาร B ชั้น 5 เนื้อที่ 45 ตร.ม. ราคา 3.281 ล้านบาท หรือ 72,691 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink
- Wallpaper (Promotion)
- เครื่องปรับอากาศ 9,000 BTU 1 เครื่อง (Promotion)
- จอง 5,000 บ. เข้าอยู่ได้เลย พิเศษ! ห้องหลุดดาวน์ราคาเดิม เริ่ม 1.39 ล้านบาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนฯ)
- ค่าส่วนกลาง 39 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา อยู่ติดถนนลาดพร้าววังหินเป็นทำเลที่เรียกว่าอยู่อาศันง่ายเนื่องจากเป็นย่านชุมชนอยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโด ตัวที่ตั้งโครงการอยู่ในช่วงต้นของถนนลาดพร้าววังหิน มีจุดเด่นคือเรื่องของเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่ถนนสายหลักได้หลากหลายและตัวโครงการมีราคาที่หยิบจับได้ง่าย ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลตามแนวเส้นถนนลาดพร้าววังหินที่มีงบประมาณล้านต้น ๆ นักศึกษาที่อยู่ในละแวกนี้ หรือกลุ่มคนที่ทำงานในย่านนี้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ความอุดมสมบูรณ์ ที่สามารถไปยังห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เช่น Home pro , Lotus , Central Festival East Ville , The Crystal , CDC , Major Cineplex รัชโยธิน และแหล่ง Shopping ที่อยู่ในรัศมีในการเดินทางไม่เกิน 5 กม. รวมทั้งยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก
หากกล่าวถึงการเดินทางโดยใช้รถ สามารถเข้าถึงจากถนนหลักนั้นสามารถเข้าได้สะดวกใกล้กับถนนลาดพร้าวจากแยกภาวนาเข้าซอยมายังโครงการระยะทางประมาณ 1.7 กม. หรือจากถนนหลักเส้นอื่น ๆ เช่น ถนนรัชดาภิเษก ถนนเกษตร-นวมินทร์ ก็สามารถลัดเลาะเข้ามาตามซอยทางลัดเพื่อมายังโครงการได้เช่นกัน หากต้องการเข้าเมืองสามารถไปยังจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ใกล้สุดโดยใช้เส้นทางลาดพร้าววังหินลัดออกมาถนนประดิษฐ์มนูธรรม และกลับรถบริเวณแยกตัดกับถนนเกษตร-นวมินทร์เพื่อขึ้นทางด่วน ระยะทางเฉลี่ยประมาณ 7 กม. แต่อาจต้องเผื่อเวลาในการเดินทางทั้งเช้าและเย็น เนื่องจากเป็นย่านชุมชนที่มีการเดินทางในตรอกซอยค่อนข้างมาก สำหรับที่จอดรถมีให้เลือกจอดทั้
หากเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สามารถไปได้หลากหลายเช่น โดยสารขนาดเล็กหรือรถกะป๊อ ซึ่งหน้าโครงการมีสายที่วิ่งประจำคือ ภาวนา – วังหิน มีวิ่งตลอดเวลาจนถึง 4 ทุ่ม หรือรถจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่ใกล้ๆ โครงการก็มีให้เลือกใช้เช่นกัน หรือรถแท๊กซี่เราอาจออกมาเรียกเองในเวลาต้องการเดินทาง ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันที่ใกล้ที่สุดคือ MRT ลาดพร้าวมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.9 กม.
บริบทโครงการ เริ่มจากบริบทภายนอกซึ่งเมื่อมองออกไปยังภายนอกรอบ ๆ โครงการ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยขนาด 2 ชั้นและยังมีพื้นที่รอการพัฒนาในทิศตะวันตกและทิศใต้ ส่วนด้านทิศเหนือส่วนใหญ่เป็นอาคารสูงไม่เกิน 3 ชั้น และมีซอยคั่นอยู่ไม่ถูกบดบังทั้งอาคารแต่อย่างใดและเริ่มเห็นทิวทัศน์ที่กว้างขึ้นตั้งแต่ชั้น 4 เป็นต้นไป แต่ในบางมุมเช่นด้านตะวันตกและด้านใต้เริ่มมองเห็นวิวตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป ส่วนด้านหน้าโครงการที่หันไปทางทิศตะวันออกนั้นเป็นถนนลาดพร้าววังหินเลยไม่มีการบังวิวในระยะประชิดมีแค่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 2 – 4 ชั้น ซึ่งอาคาร A ได้วิวที่มองออกสู่ภายนอกมากกว่าอาคาร B ที่ได้วิวภายนอกเต็มที่ในฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้
ในส่วนของวิวที่เกิดขึ้นภายในโครงการอาคาร B มีลักษณะอาคารเป็นตัว L ฝั่งด้านในจะมองเห็นในส่วนที่เป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง สระน้ำและ Clubhouse ตลอดทั้งแนว ทางฝั่งอาคาร A ที่อยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการลักษณะเป็นตัว I ส่วนใหญ่ได้วิวภายนอกเกือบทั้งหมด จะมีแค่ด้านฝั่งใต้ของอาคาร A ถูกอาคาร B บังวิวซึ่งกันและกันในบางส่วน แต่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอาคารครับ
การออกแบบโครงการ The Privacy ลาดพร้าว – เสนา เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 376 ยูนิต บนที่ดิน 3-0-12.9 ไร่ แบ่งเป็นอาคาร A 123 ยูนิต และ อาคาร B 253 ยูนิต ซึ่งตัวที่ดินเป็นรูปทรงลึกมีหน้ากว้างไม่มากแต่มีพื้นที่ด้านในพอสมควรจึงได้จัดวางผังอาคารตามแนวรูปที่ดินโดยวางอาคาร A ไว้ทางด้านหน้าเป็นรูปตัว I ยาวเข้ามาในตัวโครงการและอาคาร B ทางด้านหลัง รูปตัว L ชั้น 1 ของทั้งสองอาคารเป็นที่จอดรถใต้อาคารยกเว้นอาคาร B บางส่วนที่มีพื้นที่อาศัยปนอยู่ด้วย ส่วนพื้นที่ตรงกลางของโครงการทำเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ด้านข้างบางส่วนทำเป็นที่จอดรถแบบเปิดโล่ง ตำแหน่งของอาคารจะมีจุดเด่นที่ต่างกัน อาคาร A จะอยู่ด้านหน้าใกล้กับทางเข้าออกโครงการ ส่วนอาคาร B จะอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ ส่วนที่พักอาศัย อาคาร A จะเริ่มจาก ชั้น 2-8 ส่วนอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 1 บางส่วน ไล่ขึ้นไปถึงชั้น 8 โดยจะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ทั้ง 2 แบบกระจายกันอยู่ในแต่ละชั้น
การออกแบบและจัดพื้นที่ห้องพั
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้ ทั้ง 3 รูปแบบให้เป็น Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ติดตั้งมาให้แค่ชุดครัว อาจต้องเตรียมงบประมาณเผื่
สาธารณูปโภคภายในโครงการ หลัก ๆ จะอยู่ใกล้อาคาร B โดยบริเวณด้านหน้าและรอบ Clubhouse จัดเป็นพื้นที่สี
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาเฉลี่ย 62,000 บาทต่อตารางเมตร, 31 October 2016
- ทำเล 7.5/10 – อยู่ใกล้แหล่งอาหารการกิน มีความคึกคักเกือบทุกช่วงเวลาหลากหลายด้วยบริการต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เชื่อมต่อทุกพื้นที่ด้วยเส้นทางลัด สามารถไปถึงถนนใหญ่ได้ถึง 4 สาย
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีกะป๊อรถวิ่งตลอดจอดทุกที่ถึงสี่ทุ่ม ในวันทำงานอาจต้องเผื่อเวลาออกสักหน่อย
- วัสดุ 7.5/10 – อยู่ในระดับปานกลาง เป็นมาตรฐานโครงการ
- แบบ 7.5/10 – แก้ปัญหาการใช้พื้นที่ภายในได้ดี มีให้เลือก 3 ขนาด พื้นที่เริ่มต้น 22.5 ตร.ม. Fully Fitted ต้องหาซื้อของเพิ่มพอควร
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาหลากหลาย ครบครัน อาจต้องแบ่งกันใช้บ้างเป็นบางครั้งเพื่อสร้างมิตรภาพภายในโครงการ
- ECONOMY CLASS
- 7.62 / 10.00
BOTTOM LINE
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา เหมาะกับคนที่
ถ้าหากอ่านแล้วมีข้อมูลต้องการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ผู้อ่านท่านอื่น ๆ ได้ทราบถึงทำเลและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องสามารถ Comment เพิ่มเติมได้ครับ