The Origin Triam Nom Station กลุ่มคอนโด Low Rise ติดถนนรามคำแหง เลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ MRT น้อมเกล้า 130 เมตร จาก Origin [รีวิวฉบับที่ 2582]

The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.785646, 100.689883
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหงในช่วงตอนกลางฝั่งขาเข้าเมือง จึงทำให้การเดินทางสะดวกไม่ต้องกลับรถ วิ่งตรงเข้าเมือง หรือไปวงแหวนกาญจนภิเษกเพื่อขึ้นทางด่วน ได้เลย การเดินทางด้วยรถยนต์ของโซนนี้จึงถือว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่เดินทางไปรามคำแหง รามอินทรา หรือจะวิ่งไปร่มเกล้า ตรงไปย่านอุตสาหกรรมลาดกระบัง หรือจะไปสุวรรณภูมิก็ไม่ยาก หรือวิ่งไปทำงานย่านโรงงานฉะเชิงเทราก็ง่าย สามารถวิ่งตรงไปทางสุวินทวงศ์ได้ง่ายเลย และยังมีตัวเลือกในการเดินทางจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จก็น่าจะเปิดให้ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจาก MRT น้อมเกล้า ยังสามารถไปเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 4 สาย 3 interchange อีกด้วย

ส่วนทางด่วนตัวช่วยในการเดินทางที่ใกล้ๆ ก็จะมี ถนนกาญจนาภิเษก หรือ ถนนวงแหวนรอบนอก ใช้เชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชเพื่อเข้าเมืองได้ง่าย หรือจะวิ่งยาวไปออกบางนาก็สะดวกเช่นกันค่ะ โดยจุดขึ้นทางด่วนอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม. เท่านั้น ซึ่งออกจากโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนได้เลย

การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะของย่านนี้ ถือว่ามีตัวเลือกที่หลากหลาย ในปัจจุบันมีทั้งรถเมล์ เรือ Taxi วินมอเตอร์ไซค์ และที่สำคัญที่ตั้งโครงการใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี) ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT น้อมเกล้า อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 130 ม. ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่เดินได้สบายเลย ส่วนสถานี Interchange ที่ใกล้ๆ ก็จะมี สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 4 สถานีเท่ากันเลยค่ะ

รถไฟฟ้าที่จะเสร็จเป็นสายแรกในทำเลรอบโครงการคือ สายสีชมพู คาดว่าจะสร้างเสร็จและเปิดใช้บริการในเดือน ส.ค. 2566 ส่วนสายสีเหลืองจะเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค. 2566 และสุดท้ายคือสายสีส้ม ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในปี 2568

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนรามคำแหงตอนต้นโซนแยกบางกะปิ ซึ่งจะมี Big C, Home Pro, พาซิโอทาวน์, มาร์เก็ตเพลส สุขาภิบาล 3, สัมมากรเพลส และ Makro ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนรามคำแหงฝั่งเลขคี่ ทำให้หากเดินทางมาจากในเมืองสามารถแวะกินข้าว ซื้ออาหารก่อนกลับโครงการได้สบายไม่ต้องกลับรถเลยค่ะ หรือจะเลยออกนอกเมืองไปอีกหน่อยทางแยกรามคำแหง​ – สุวินทวงศ์ ก็จะมีตลาดน้ำขวัญเรียม, Home Pro และ Big C อยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งจากโครงการเดินทางไปค่อนข้างสะดวกไม่ต้องกลับรถเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยสถานศึกษา และสถานพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง ซึ่งในระยะเดินได้ใกล้ๆ ก็จะมี รร.เตรียมฯ น้อมเกล้า และรร.นานาชาติ Heathfield หรือขยับเข้าเมืองไปอีกหน่อยก็จะมี รร.นานาชาติ BMIS, รร.นานาชาติ RAIS และ ม.รามคำแหง นอกจากนั้นถ้าหากเดินทางด้วยเรือ ก็จะสามารถเดินทางไปสถาบัน NIDA ได้สะดวกเลยด้วยค่ะ ส่วนสถานพยาบาลที่ใกล้ๆ ก็มีเยอะทีเดียว ทั้งรพ.รามคำแหง, รพ.เกษมราษฎร์, รพ.นวมินทร์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระยะ 2-5.5 กม. เท่านั้น ส่วนโรงพยาบาลสัตว์ที่ไม่ไกลจากโครงการก็จะมี รพ.สัตว์มีนบุรี, รพ.สัตว์สุวินทวงศ์ และ รพ.สยามปาร์ค ซึ่งอยู่ในระยะ 6-8 กม.

อีกทั้งที่ตั้งโครงการยังตั้งอยู่ใกล้ซอยราษฎร์พัฒนา หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซอยมิสทีน ซึ่งเป็นซอยที่ตั้งของสำนักงานใหญ่มิสทีน อีกทั้งยังเป็นย่านที่ถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลายสายไม่ว่าจะเป็น ถนนเคหะร่มเกล้า ถนนเจ้าคุณทหาร ออกไปทางถนนศรีนครินทร์ และเมื่อมีถนนตัดใหม่อย่างถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าได้ด้วย ทำให้เป็นย่านที่ค่อนข้างคึกคัก มีหมู่บ้านจัดสรร และสำนักงานจากผู้ประกอบการรายย่อยเกิดขึ้นจำนวนมาก

ที่ตั้งสำนักงานขาย The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) จะอยู่ที่บริเวณที่ตั้งโครงการอยู่ติดริมถนนรามคำแหง บริเวณด้านในบรรยากาศภายในสำนักงานขาย ด้านหน้าเป็นส่วนต้อนรับและที่นั่งพักผ่อน ด้านในจะเป็นห้องตัวอย่างที่เปิดให้ชม 3 แบบ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ที่ตั้งโครงการ The Origin Triam Nom Station จะอยู่ติดถนนหลักลักษณะที่ดินจะเป็นตอนลึกเข้าไปด้านใน ดังนั้นวิวที่ได้รับส่วนใหญ่จึงจะเป็นด้านข้างทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้เป็นหลัก ส่วนมากจะเป็นชุมชน บ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ และที่ว่าง ค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย แต่เพราะอยู่ติดกับถนนหลักด้านหน้า ทำให้สามารถเดินไปจับจ่ายใช้สอย หรือไปใช้บริการรถสาธารณะได้สะดวก เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง

• ทิศเหนือ : ติดกับ ถนนรามคำแหง
• ทิศใต้ : ติดกับ บ้านพักอาศัย ชุมชนเดิมในพื้นที่
• ทิศตะวันออก : ติดกับ บ้านพักอาศัย และมีหอพักบางส่วน
• ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่างและบ้านพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• สัมมากร เพลส – 2.1 km.
• Makro รามคำแหง – 2.1 km.
• ตลาดน้ำขวัญเรียม – 2.9 km.
• มาร์เก็ตเพลส สุขาภิบาล 3 – 3 km.
• The Paseo รามคำแหง – 4.4 km.
• HomePro รามคำแหง – 5.4 km.
• Big C สุขาภิบาล 3 – 5.5 km.
• The Mall บางกะปิ – 6.2 km.
• Fashion Island – 7.5 km.
• Big C ร่มเกล้า – 8.4 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง – 2.3 km.
• โรงพยาบาลรามคำแหง 2 – 3 km.
• โรงพยาบาลนวมินทร์ – 5 km.
• โรงพยาบาลสัตว์สยามปาร์ค – 5.6 km.
• โรงพยาบาลสัตว์มีนบุรี – 6.7 km.
  โรงพยาบาลสัตว์สุวินทวงศ์ – 7.7 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า – 130 m. (ระยะเดิน)
• Heathfield International School – 550 m. (ระยะเดิน)
• โรงเรียนศิริเพ็ญ – 1.3 km.
• Bromsgrove International School Early Years Campus – 3 km.
• ม.เกษมบัณฑิต วิทยาเขต ร่มเกล้า – 7.6 km.
• Ramkhamhaeng Advent International School – 4.8 km.
• NIDA – 4.9 km.
• Mandarin International School (MIS) – 5 km.

โครงการ The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร และมีจำนวนทั้งหมด 1,288 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 10-1-66.4 ไร่ โดยปัจจุบันถือเป็นโครงการใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในทำเลย่านรามคำแหงที่อยู่ติดกับ MRT เตรียมน้อมของทาง Origin ที่ได้ทำคอนโดแบรนด์นี้ออกมาโดยโครงการนี้จะมี Highlights ที่น่าสนใจ ได้แก่

• เป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับพันยูนิตขึ้นไป แต่ใช้การกระจายห้องพักไว้ใน 5 อาคาร ช่วยให้อยู่อาศัยไม่หนาแน่น สามารถเลือกตำแหน่งอาคารตามความชอบได้ เช่น อาคาร A เน้น Facilitise ส่วนกลางหลักๆอยู่อาคารนี้เยอะ หรือใครเลี้ยงสัตว์ก็เลือกอาคาร E ที่เป็นอาคาร Pet Friendly โดยเฉพาะ
• เน้นพื้นที่ส่วนกลางเยอะและหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่อาคาร A และในทุกอาคารจะมี Co-Working Space ช่วยให้การใช้งานเข้าถึงได้ง่ายในทุกอาคารมากขึ้น
• ออกแบบพื้นที่สีเขียวด้านหน้าในทุกอาคารเป็นสวนสาธารณะยาวตั้งแต่หน้าอาคาร B ไปจนถึงอาคาร E ได้พื้นที่สีเขียวแนวยาวตลอดแนวอาคารทั้ง 4 อาคาร ทำให้มีขนาดใหญ่และใช้งานต่อเนื่องกันได้ดี
• ที่อาคาร E จะจัดไว้สำหรับกลุ่มผู้อาศัย Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้โดยเฉพาะ มีการจัด Facilities เช่น Pet room / Pet Park รอบรับการใช้งานไว้ให้พร้อม

ส่วนรายละเอียดต่างๆของโครงการในแต่ละชั้น และส่วนกลางจะเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลยค่ะ

Master Plan ของโครงการ จะมีทางเข้า-ออกจากถนนรามคำแหง ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ มีการแบ่งทางเข้า-ออกจากกันชัดเจน โดยที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคาร และพื้นที่โดยรอบโครงการทั้งหมด 370 คัน คิดเป็น 28% ไม่รวมจอดซ้อนคัน เราเลือกตำแหน่งจอดที่ใกล้กับอาคารที่ตนเองพักอาศัยได้ มีที่จอดใต้อาคารเป็นตัวเลือก และทางโครงการยังมีช่องจอด EV Changer เตรียมไว้ให้สำหรับจอดชาร์ตรถไฟฟ้าได้

ที่น่าสนใจก็คือ พื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดจะอยู่ที่อาคาร A แต่ทางโครงการจะมีการกระจายพื้นที่สีเขียวที่มีความยาวต่อเนื่องกันตลอดแนวอาคารทั้ง 4 อาคาร จึงทำให้ดูแล้วมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถเดินไปใช้งานได้อย่างต่อเนื่องกัน หรือหากใครที่ชอบใช้ Facilities เป็นประจำแนะนำให้เลือกอยู่อาคาร A แต่ในทุกอาคารจะมี Co-Working Space ช่วยให้การใช้งานเข้าถึงได้ง่ายในทุกอาคารมากขึ้น ส่วนใครชอบเลี้ยงสัตว์อาคาร E จะตอบโจทย์มากที่สุดเพราะโครงการจัดส่วนกลางสำหรับน้องหมาน้องแมวไว้ที่อาคารนี้เป็นหลัก และเป็นการแยกโซนการอยู่อาศัยสำหรับกลุ่ม Pet Friendly  ให้ไม่รบกวนกับผู้อยู่อาศัยในอาคารอื่นๆ

อาคาร A ชั้น 1 จะถูกจัดเป็น Facilities ของโครงการ ได้แก่ Meeting Room / Water park / Fitness /  Theater room / Online Studio ซึ่งถ้าใครที่ชอบใช้งานส่วนกลางเหล่านี้บ่อยๆ ก็อาจเลือกอยู่อาศัยที่อาคารนี้ได้ สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

• ชั้น 2 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 28 ห้อง ที่หันออกทั้ง 3 ฝั่ง ได้แก่ วิวด้านหน้าโครงการ วิวส่วนกลางของโครงการและวิวบ้านพักอาศัยให้เลือก โดยห้องในกรอบสีม่วงจะได้แนวทางเดินแบบ Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้ามให้เปิดมาเจอกัน ที่น่าสนใจคือจะมีห้องในกรอบสีเขียวที่หันได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการแบบเต็มๆอยู่ 10 ห้องให้เลือก
• ชั้น 3-8 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 32 ห้อง มีวิวมองออกไป 3 วิวหลักให้เลือกเช่นกัน แต่จะมีห้องในกรอบสีเขียวที่หันได้วิวสระว่ายน้ำมาเป็น 12 ห้อง มาให้เลือกเพิ่มขึ้น

อาคาร B C D ชั้น 1 จะถูกจัดเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคาร สามารถให้เลือกจอดรถตามอาคารที่ตัวเองอยู่อาศัยได้เลย ทำให้เดินเข้าอส่วนพักอาศัยได้สะดวกมากขึ้น ที่ชั้น 1 ของทุกอาคารจะมีส่วน Lobby เตรียมไว้ให้เรียบร้อย

• ชั้น 2 จะเป็นห้องพักอาศัย 32 ห้อง และมี Co-Working Space เตรียมไว้ให้ ช่วยเป็นการกระจายการใช้งานและสามารถเข้าถึงได้ง่ายในแต่ละอาคาร ส่วนวิวหลักจะมี 2 ฝั่ง ได้แก่ วิวบ้านพักอาศัยทางฝั่งโรงเรียนเตรียมน้อม และ วิวสวนที่อยู่หน้าอาคาร+วิวบ้านพักอาศัยให้เลือก
• ชั้น 3-7 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 40 ห้อง มีวิวมองออกไป 2 วิวหลักเหมือนในชั้น 2  และเมื่อขึ้นมาที่ชั้น 8 เป็นห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือ 32 ห้อง เพราะขนาดห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น มีวิวมองออกไป 2 วิวหลักให้เลือกเช่นกัน

อาคาร E ชั้น 1 จะถูกจัดเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคาร เหมือนกับในอาคารอื่นๆก่อนหน้า ที่ชั้น 1 ของทุกอาคารจะมีส่วน Lobby เตรียมไว้ให้เรียบร้อย แต่ที่เป็นจุดเด่นของอาคารนี้ คือการออกแบบให้เป็นโซน Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้โดยเฉพาะ มีการจัด Facilities เช่น Pet room / Pet Park รอบรับการใช้งานไว้ให้พร้อม

• ชั้น 2 จะเป็นห้องพักอาศัย 36 ห้อง และมี Co-Working Space เตรียมไว้ให้ ช่วยเป็นการกระจายการใช้งานและสามารถเข้าถึงได้ง่ายในแต่ละอาคาร ส่วนวิวหลักจะมี 3 ฝั่ง ได้แก่ วิวบ้านพักอาศัยทางฝั่งโรงเรียนเตรียมน้อม วิวสวนที่อยู่หน้าอาคาร และวิวบ้านพักอาศัยให้เลือกโดยห้องในกรอบสีแดงจะอยู่ใกล้ Co-Working Space และได้แนวทางเดินแบบ Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้ามให้เปิดมาเจอกัน ที่น่าสนใจคือห้องในกรอบสีน้ำเงิน จะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะเกาะกลุ่มกันอยู่แค่ 7 ห้อง ทำให้มีคนเดินผ่านไปมาน้อยเป็นพิเศษและอยู่ไม่ไกลจากลิฟต์
• ชั้น 3-7 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 38 ห้อง การจัดผังและตำแหน่งห้องคล้ายกับชั้น 2 มีวิวมองออกไป 3 วิวหลักเช่นกัน และเมื่อขึ้นมาที่ชั้น 8 เป็นห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือ 32 ห้อง เพราะขนาดห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Fitness ของโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Meeting Room ที่อาคาร A

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Online Studio ที่อาคาร A

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Co-Working Space

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Theater Room ที่อาคาร A

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณ Pet Room ที่อาคาร E

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณโถงลิฟต์ และ Mail Box

ภาพจำลองบรรยากาศภายในบริเวณห้องน้ำส่วนกลางของโครงการ

โมเดลจำลองภาพรวมของโครงการ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร A ชั้น 1 : Lobby / Co-working Space / Meeting Room / Water park / Fitness /  Theater room / Online Studio
• อาคาร B – D ชั้น 1 : Lobby
• อาคาร E ชั้น 1 : Pet room / Pet Park
• อาคาร A – E : Outdoor Facility : Playground / Sport Area / Garden
• Water Park สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด Half Olympic ลึก 1.2 m.
• มีการแบ่งสระเด็ก ขนาด 3×4 ม. ลึก 0.5 m.
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 128 :  1
• ที่จอดรถประมาณ 370 คัน คิดเป็น 28% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
• EV Changer
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

รูปแบบห้องในโครงการ The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) แบบห้องส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom แต่ก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งห้องแบบ 1 Beedroom และ 1 Bedroom Plus ที่เน้นพื้นที่ใช้สอย เพิ่มพื้นที่การใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชันได้มากขึ้น ได้แก่

• ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24-29 ตร.ม.
• ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.50 ตร.ม

สรุปวัสดุในห้อง

• รูปแบบการขาย Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์ : ชั้นวาง tv / ฐานเตียง / ตู้เสื้อผ้า / ชุดครัว / สุขภัณฑ์ห้องน้ำ / Hood ดูดควัน / เตาไฟฟ้า / เครื่องปรับอากาศ
• วัสดุพื้นภายในห้อง ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้น SPC (Stone Plastic Composite)
• วัสดุพื้นภายในห้อง ส่วนระเบียง : กระเบื้องแกรนิตโต้
• บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
• สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก Haco
• Digital Door Lock

ห้องครัว

• วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้
• ท็อปเคาน์เตอร์ : หินสังเคราะห์
• Blacksplash : กรุกระเบื้อง
• หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีนลายไม้
• Hob, Hood จาก Hafele

ห้องน้ำ

• วัสดุพื้นและผนังห้องน้ำห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้
• อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ จาก Englefield
• ก็อกน้ำ จาก Karat
• อุปกรณ์ฝักบัว จาก Englefield
• ฉากกั้นอาบน้ำบานเปิดกระจกเทมเปอร์ จาก Shower King

1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม. เป็นห้องไซส์เล็กสุดของโครงการ ขนาดเหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดี ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน ใช้การกั้นห้องนอนและส่วนห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างและโปร่งโล่งดี แถมยังมีห้องครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง เปิดระบายอากาศได้ง่าย จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง พื้นที่ในครัวมีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้า ไม่ต้องไปวางที่ระเบียงตากแดดตากฝน ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องครัว ซึ่งเราสามารถเปิดเชื่อมต่อกับประตูระเบียง เพื่อระบายอากาศ/กลิ่น/ความชื้นได้ตลอดเวลา โดยแยกจากพื้นที่โซนพักผ่อนส่วนอื่นในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน พื้นที่ระเบียงมีขนาดเหมาะกับการใช้งาน สำหรับตากผ้า แขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศได้

เข้ามาด้านในตัวห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงด้านใน ปูพื้นด้วย SPC (Stone Plastic Composite) เป็นพื้นไวนิลที่เกิดจากการผสมกันระหว่างหินปูนบดอัดเข้ากับพลาสติก ทำให้แข็งแรง ทนน้ำได้ดีมากขึ้น ป้องกันการลุกลามของไฟ และที่สำคัญคือ ปลวกหรือแมลงไม่กินอีกด้วยภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m.

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.4 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ กำลังดี

ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟา ทางโครงการจะมีชั้นวาง TV และที่วางของแบบ Built-in เฉพาะชิ้นล่าง มาให้พร้อมใช้งาน ตามในแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะเป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้หลากหลาย

ถัดจากส่วนนั่งเล่นจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร ที่จะเชื่อมต่อกันสามารถวางชุดโต๊ะแบบ 2 ที่นั่งได้ พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นในการใช้งาน เราสามารถจัดในแบบที่ชอบได้

โครงการใช้บานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน แสงจากหน้าต่างผ่านเข้ามาได้ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass สีเขียวตัดแสง ที่มีคุณสมบัติเมื่อแตกแล้วจะเป็นเมล็ดข้าวโพดใช้งานได้อย่างปลอดภัย เราสามารถติดม่านเพิ่มเติมหากต้องการใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้

เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

ด้านข้างเตียงจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้า เน้นพื้นที่เก็บของ เก็บเสื้อผ้า ข้าวของได้ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน แบ่งช่องเก็บของให้เลือกใช้งานได้หลากหลายดี

มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 90 cm. ฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีลิ้นชักให้เก็บของข้างใต้ได้ ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 35 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก

ส่วนริมห้องจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกไว้ให้เปิดรับแสงได้เต็มที่ หรือเปิดรับลมระบายอากาศในห้องได้

ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหาร ไม่ให้ลอยฟุ้งเข้ามาในห้องได้ แต่แสงยังสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านใน ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นได้ โดยจะเป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น

โครงการออกแบบพื้นที่ครัวปิดขนาดเหมาะกับการใช้งาน ตำแหน่งครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งเราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่น/ควันออกไปภายนอกโดยตรงได้เลย จึงเป็นแบบห้องที่เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจังได้

พื้นที่ภายในครัวกว้างประมาณ 80 cm. มีระยะให้ยืนทำครัวได้ใช้งานได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องทั้งหมดเหมาะกับการใช้งานสามารถทนความชื้น เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ มีคุณสมบัติสามารถทนรอยขีดข่วน ทนความร้อนสูงได้ มีรูพรุนต่ำมากทำให้ไม่มีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกในพื้นผิว โดยเราจะได้ Hob&Hood ของ Hafele และมี Backsplash กรุกระเบื้องตรงผนังมาให้ เวลาทำอาหารก็เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบานลามิเนตลายไม้ทั้งชุด โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2-3 ระดับให้ตั้งไมโครเวฟได้ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของเช่นกัน และแบ่งช่องให้ตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้เท่านั้น ซึ่งการออกแบบให้ตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง และเป็นการรักษาตัวเครื่องซักผ้าไม่ต้องตั้งที่ระเบียงตากแดดตากฝน

ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างส่วนครัวและพื้นที่ระเบียงจะได้แบบบานเลื่อน 3 ตอน เวลาเปิดใช้งานจะช่วยให้เปิดใช้งานได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน การเลือกใช้กระจากบานเลื่อนกระจกจะทำให้ได้แสงธรรมชาติ ห้องดูไม่มืดทึบ มีความโปร่งโล่งมากขึ้น

ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.4 x 0.90 m. พื้นที่พอดีใช้งาน ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ โดยทางเข้าจะมีระดับยกขึ้นมา เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย

โครงการติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า จาก Englefield ส่วนอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Karat  มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Englefield เช่นกัน และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระไว้ในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวกไว้ให้พร้อมใช้งาน

ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำมีพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1 x 0.8 m.  พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ฝักบัว จาก Englefield โครงการติดตั้งประตูกั้นกระจกมาให้ใช้งานได้สะดวก ผนังด้านข้างมีช่องให้วางของใช้ต่างๆได้ แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลังโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้

1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 34.50 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้คือการออกแบบพื้นที่การใช้งานที่เน้นพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ทำงานที่เป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่ต้อง Work from home หรือต้องการพื้นที่นั่งทำงานได้แบบจริงจังในห้องคอนโด เริ่มจากส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่งได้ แบ่งการใช้งานมีพื้นที่นั่งทานอาหารตั้งโต๊ะสำหรับ 2 คนได้ และได้แสงสว่างจากห้องนอนที่กั้นโซนการใช้งานด้วยบานเลื่อนกระจก จากห้องนอนจะมีส่วน Walk in Closet ในตัวใช้งานต่อเนื่องกับห้องน้ำ สำหรับห้องน้ำจะเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นเวลามีแขกมาบ้านแล้วต้องการใช้ห้องน้ำก็ไม่ต้องให้เดินผ่านห้องนอนของเรา

ถัดมาเป็นห้องเอนกประสงค์สามารถจัดเป็นห้องสำหรับนั่งทำงานใช้งานเป็นส่วนตัว หรือจะวางเตียงนอนปรับเป็นห้องนอนเล็กก็ได้ ได้ครัวปิดที่จัดพื้นที่ใช้งานไว้เป็นสัดส่วนมีประตูบานเลื่อนกระจกใช้งานได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจากการทำอาการ  ห้องนี้จะเน้นการใช้หน้าต่างขนาดใหญ่และบานเลื่อนกระจกช่วยให้ภายในห้องดูโปร่งโล่ง น่าอยู่อาศัยมากขึ้น ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนไว้ทางด้านบนของระเบียงแทน ช่วยทำให้พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่

เริ่มจากเมื่อเข้ามาด้านในตัวห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงด้านใน ปูพื้นด้วย SPC (Stone Plastic Composite) ห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก และได้แสงธรรมชาติ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m.

ส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.4 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ กำลังดี

ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟา ทางโครงการจะมีชั้นวาง TV และที่วางของแบบ Built-in มาให้ และจะเป็นทางไปห้องน้ำของตัวห้อง

ภายในห้องจะใช้บานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน กั้นแบ่งโซนการใช้งาน จึงได้แสงจากหน้าต่างผ่านเข้ามาได้ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง เป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass ใช้งานได้อย่างปลอดภัย เราสามารถติดม่านเพิ่มเติมหากต้องการใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้

ด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 95 cm. ฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีลิ้นชักให้เก็บของข้างใต้ได้ ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 35 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก

ส่วนริมห้องจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกไว้ให้เปิดรับแสงได้เต็มที่ หรือเปิดรับลมระบายอากาศในห้องได้

จากห้องนอนจะมีส่วน Walk in Closet ในตัวใช้งานต่อเนื่องกับห้องน้ำที่อยู่ติดกัน

Walk-in Closet ที่เป็นอีกจุดเด่นของห้องนี้เพราะให้พื้นที่มาเยอะ ตั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ออกแบบที่เก็บของตั้งแต่พื้นจรดเพดานของตัวห้องช่วยให้เก็บของได้เยอะเป็นพิเศษ และได้แสงธรรมชาติ เปิดระบายอากาศได้ง่าย เพราะเชื่อมต่อกับส่วนระเบียงของตัวห้อง

ทางออกไปส่วนระเบียงเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน เวลาเปิดใช้งานจะช่วยให้เปิดใช้งานได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน การเลือกใช้กระจากบานเลื่อนกระจกจะทำให้ได้แสงธรรมชาติ ห้องดูไม่มืดทึบ มีความโปร่งโล่งมากขึ้น

ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.4 x 0.90 m. พื้นที่พอดีใช้งาน ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้

จากส่วน Walk-in Closet จะมีประตูเชื่อมต่อกับห้องน้ำของตัวห้องใช้งานเป็นส่วนตัว และต่อเนื่องกันดี ออกจากห้องน้ำมาแต่งตัวที่ส่วน Walk-in Closet ได้เลย

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ

โดยทางเข้าจะมีระดับยกขึ้นมา เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย และห้องน้ำจะเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นเวลามีแขกมาบ้านแล้วต้องการใช้ห้องน้ำก็ไม่ต้องให้เดินผ่านห้องนอนของเรา

โครงการติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และชุดโถสุขภัณฑ์ จาก Englefield ส่วนอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Karat มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระไว้ในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวกไว้ให้พร้อมใช้งาน

ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำมีพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1 x 0.8 m. พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ฝักบัว จาก Englefield และประตูกั้นกระจกมาให้ใช้งาน ผนังด้านข้างมีช่องให้วางของใช้ต่างๆได้ แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลังโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้

อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นส่วนครัวและห้องอเนกประสงค์ของห้องนี้

ระหว่างห้องครัวและห้องอเนกประสงค์จะมีพื้นที่ขนาด 80 x 90 cm. เราสามารถใช้เป็นพื้นที่วางของ หรือทำชุดตู้ Built-in เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งาน พื้นที่เก็บของเพิ่มเติมได้

จุดเด่นของห้องนี้คือการออกแบบพื้นที่การใช้งานที่เน้นพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ทำงานที่เป็นสัดส่วน เรียกว่าเอาใจกลุ่มคนที่ต้อง Work from home หรือต้องการพื้นที่นั่งทำงานได้แบบจริงจัง โดยจะมีระยะหลังวางเฟอร์นิเจอร์ตามแบบห้องตัวอย่างอยู่ที่ประมาณ 2.6 x 0.9 เมตร สามารถตั้งโต๊ะทำงานหรือปรับเป็นพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์วางเตียงนอนเล็กก็ได้

พื้นที่ตรงส่วนนี้จะอยู่ติดชิดริมของตัวห้อง มีหน้าต่างกระจกและบานกระทุ้งทำให้ได้แสงธรรมชาติ เปิดรับลมและระบายอากาศได้ดี

อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นส่วนครัว ออกแบบเป็นครัวปิดที่จัดพื้นที่ใช้งานไว้เป็นสัดส่วนมีประตูบานเลื่อนกระจกใช้งานได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจากการทำอาการ

พื้นที่ภายในครัวกว้างประมาณ 2.4 x 1 m. มีระยะให้ยืนทำครัวได้ใช้งานได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องทั้งหมดเหมาะกับการใช้งานสามารถทนความชื้น เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ โดยเราจะได้ Hob&Hood ของ Hafele และมี Backsplash กรุกระเบื้องตรงผนังมาให้ เวลาทำอาหารก็เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

เราจะได้ชุดครัวแบบ Built-in ขนาดพอดีกับตัวห้อง หน้าบานลามิเนตลายไม้ทั้งชุด โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบน แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2-3 ระดับให้ตั้งไมโครเวฟได้ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของเช่นกัน และแบ่งช่องให้ตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้เท่านั้น ซึ่งการออกแบบให้ตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง และเป็นการรักษาตัวเครื่องซักผ้าไม่ต้องตั้งที่ระเบียงตากแดดตากฝน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 26 ตร.ม.

The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2566

• ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24-26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*
• ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.50 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 2.86 ล้านบาท*
• Promotion : จองเพียง 2,900 / จองภายในเดือน ส.ค. รับเพิ่ม Voucher ทานอาหาร / ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000. บ* ระยะเวลา Promotion เดือน ส.ค. นี้

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร (ยกเว้น ตำแหน่งฝ้าเพดานบริเวณ ห้องครัว ห้องน้ำ และบริเวณอื่นที่มีการติดตั้งงานระบบ)
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
• จอง 2,900 บาท
• ทำสัญญา 27,100 บาท
• ผ่อนดาวน์ 23 งวด
• ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง อาคาร A B C D : 42 บาท/ตร.ม./เดือน
• ค่าส่วนกลาง อาคาร E : 47 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : เป็นคอนโด Low Rise บนถนนรามคำแหงตอนกลาง เป็นทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ บรรยากาศโดยรอบส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ชุมชนเดิมในพื้นที่ อาคารแนวราบ ปัจจุบันยังไม่มีตึกสูงบังอยู่ในระยะประชิด ทำให้ยังได้วิวโดยรอบ ส่วนความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการในระยะที่เดินได้ใกล้ๆ ก็จะมี 7-Elevens ร้านค้าร้านอาหารอยู่พอสมควร ส่วนห้างสรรพสินค้าและ Hyper Market จะต้องเข้าเมืองไปอีกหน่อยก็จะมีอยู่เยอะเลย ซึ่งถ้าหากเดินทางจากในเมืองมา ก็สามารถแวะก่อนกลับบ้านได้ง่ายเลย นอกจากนั้นยังรายล้อมไปด้วยสถานศึกษา และสถานพยาบาลชั้นนำหลายแห่งอีกด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ : โครงการตั้งอยู่บนถนนรามคำแหงตอนกลาง ฝั่งเข้าเมือง จึงเดินทางสะดวกไม่ต้องกลับรถ อยู่ใกล้ทางด่วนเป็นตัวช่วยในการเดินทางสามารถไปใช้ถนนวงแหวนรอบนอก เชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชเพื่อเข้าเมืองได้ง่าย อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม. เท่านั้น แต่เนื่องจากโครงการจะอยู่ใกล้โรงเรียนทำให้ในช่วงเวลาก่อนเข้าเรียน หรือหลังเลิกเรียน การจราจรด้านหน้าโครงการอาจจะหนาแน่นสักหน่อย ต้องเผื่อเวลากันไว้หน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เป็นจุดเด่นของโครงการเพราะตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT น้อมเกล้า ประมาณ 130 ม. เท่านั้น เดินได้สบาย ซึ่งปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 หรือถ้าจะใช้รถสาธารณะอื่นก็สะดวก เพราะอยู่ติดกับถนนหลัก จึงสามารถเรียกรถสาธารณะ รถ Taxi ได้ง่าย หรือเดินเลยหน้าโครงการมาหน่อย ก็มีวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ให้เลือกใช้งานได้

วัสดุ : ขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์+Built-in มาค่อนข้างเยอะเลย ทั้งชั้นวางทีวี, ชุดครัว, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, ตู้รองเท้า พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้เรียบร้อย วัสดุปิดผิวต่างๆค่อนข้างดี เหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วน ได้แก่ พื้น SPC ที่ทนน้ำและความชื้นได้ดี ห้องน้ำและระเบียงปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ได้ชุดสุขภัณฑ์ของ Karat , Englefield มีฉากกั้นอาบน้ำให้ ส่วนครัวให้ชุดครัวแบบ Built-in มาพร้อมใช้งาน Top ครัวเป็น หินสังเคราะห์ อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูควัน ของ Hafele ขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดใหญ่หลักพันยูนิตขึ้น จึงใช้การกระจายห้องพักอาศัยไว้ใน 5 อาคาร ช่วยกระจายลดความหนาแน่นในการอยู่อาศัย มีแบ่งโซนการใช้งานได้ดีแยกส่วนพักอาศัย และส่วนกลางออกจากกันใช้งานสะดวกไม่รบกวนกัน และเป็นโครงการ Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ โดยจะแยกโซนการอยู่อาศัยสำหรับกลุ่ม Pet Friendly ไว้ที่อาคาร E ด้านในสุดให้ไม่รบกวนกับผู้อยู่อาศัยในอาคารอื่นๆ

การออกแบบห้องพัก : รูปแบบห้องพักเน้นห้อง 1 Bedroom มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ทั้งแบบห้องปกติ และห้อง Plus ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งาน ตัวห้องเหมาะทั้งแบบอยู่อาศัยเดี่ยว เป็นคู่ ไปจนถึงครอบครัวขนาดเล็ก จัด Zoning ของส่วนต่างๆในห้องค่อนข้างดี ห้องตัวอย่างเน้นการจัดส่วนพักผ่อนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ให้รับวิว รับลม ได้แสงธรรมชาติแบบเต็มที่ ทุกห้องได้ครัวปิดทำอาหารจริงจังได้ จัดพื้นที่มาให้เป็นสัดส่วนใช้งานได้สะดวก ระเบียงส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนอยู่ด้านบนช่วยทำให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้น

สาธารณูปโภค : มี Facilities แยกไว้ที่อาคารด้านหน้า แยกจากอาคารพักอาศัย ช่วยให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ทุกอาคารมีพื้นที่สีเขียวด้านหน้าอาคาร และในทุกอาคารจะมี Co-Working Space ช่วยให้การใช้งานเข้าถึงได้ง่ายในทุกอาคารมากขึ้น

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 82,000 บาท/ตร.ม., 1 สิงหาคม 2566

• ทำเล 7.5/10 – ติดถนนหลัก ไม่ไกลจากความอุดมสมบูรณ์ โรงเรียน และแหล่งงาน ไม่มีตึกสูงบังวิว
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ฝั่งเข้าเมืองไม่ต้องกลับรถ ใกล้ทางด่วน
• ไม่ใช้รถ  9/10 – สะดวกใกล้รถไฟฟ้า ในระยะเดินไปได้สบาย เรียกรถสาธารณะง่าย
• วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างเยอะ วัสดุอื่นๆ ตามมาตรฐาน
• แบบ 8/10 – น่าอยู่อาศัย มีแบบห้องปกติ และห้อง Plus ให้เลือก จัดวางฟังก์ชันในห้องดี
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาเยอะหลากหลาย แยกโซนเป็นสัดส่วน ทุกอาคารมีพื้นที่สีเขียวด้านหน้า

• MAIN CLASS
• 7.84 / 10.00

The Origin Triam Nom Station (ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น) เหมาะกับใคร

โครงการนี้เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านรามคำแหง ทำเลเดินทางสะดวกติดถนนหลัก ใกล้รถไฟฟ้าเดินไปใช้งานได้ ส่วนกลางน่าใช้งาน มีห้องหลากหลาย จัดฟังก์ชันลงตัวอยู่สบาย มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.79 – 2.86 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 20,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ