op-00

รีวิวฉบับที่ 822 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโดในย่านสำโรงกับโครงการ The Metropolis สำโรง อินเตอร์เชนจ์ จากบริษัท ว่องไววิทย์อุตสาหกรรมจักกล จำกัด บริหารโดยบริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด โดยพื้นที่ตั้งอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท และหน้าโครงการติดกับทางขึ้นลง BTS สถานีสำโรง โครงการมี 4 อาคารเป็น High Rise 2 อาคาร และLow Rise 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 1 อาคาร ส่วนรายละเอียดไปชมพร้อมๆกันได้เลยครับ

Fact @ 21 April 2015

  • The Metropolis Samrong Interchange (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์)
  • บริษัท ว่องไววิทย์อุตสาหกรรมจักกล จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : อำเภอเมืองสมุทรปราการ
  • คอนโด High Rise 2 อาคาร ; A 39 ชั้น B 30 ชั้น และ Low Rise 1 อาคาร 7 ชั้น
  • จำนวนยูนิตทั้งโครงการ 1,770 ยูนิต ; A 1,056, B 552, C 162 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันคันคิดเป็น  40%
  • ที่ดินประมาณ 8-0-148 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2560
  • Studio 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 35 – 45 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท  Update 23/08/62
  • 2 Bedrooms 52 – 53 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร (ส่วนที่เป็นฝ้าหลุม 2.75 เมตร)
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.9 ล้านบาทหรือประมาณ 67,860 บาทต่อตารางเมตร
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต
  • http://metroprop.co.th
  • สำนักงานขาย : 02-024-8000

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.646123, 100.595437

Screen Shot 2558-04-26 at 11.28.15 PM

แผนที่จากทางโครงการครับ

1

The Metropolis สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ การเดินทางเข้าเมืองถือว่าสะดวกไม่ต้องเข้าไปในซอยลึกออกจากโครงการก็เข้าถนนหลักเลยจะใช้ถนนสุขุมวิทยิงยาวอย่างเดียวเลยก็ได้ หรือจะไปขึ้นทางด่วนตรงสี่แยกบางนาก็สะดวกครับ อีกทางคือเลี่ยงไปใช้ถนนศรีนครินทร์โดยไปเข้าถนนสุขุมวิม 113, 107, 105 เพื่อเชื่อมออกถนนศรีนครินทร์ก็ยังได้ครับ มีทางด่วนให้ขึ้นเช่นกัน แต่ถ้าจะไปแถวพระรามสี่สามารถใช้ซอยสุขุมวิท 80 ไปเลี้ยวขวาเข้าถนนรางรถไฟเก่าวิ่งยาวไปอย่างเดียวสามารถไปทะลุออกถนนพระรามสี่ได้ครับ

ส่วนออกนอกเมืองถ้าจะไปฝั่งสมุทรปราการออกจากโครงการการไปกลับรถใต้สะพานแล้วก็ตรงอย่างเดียวได้เลย ยาวไปจนถึงบางบ่อ หรือถ้าจะไปฝั่งพระประแดงออกจากโครงการไปเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 80 ตรงไปออกถนนรางรถไฟเก่า เลี้ยวซ้ายมาออกถนนปู่เจ้าสมิงพรายแล้วก็ยิงยาวอย่างเดียวครับใครทำงานย่านนี้ก็สะดวกพอสมควรครับ ถ้าจะไปรามคำแหง มีนบุรี ก็ใช้เส้นศรีนครินทร์ครับ ส่วนถ้าจะออกไปภาคตะวันออกก็ใช้ถนนบางนาตราดยิงยาวอย่างเดียว มีทางด่วนให้ขึ้นด้วยครับ แต่รถแถวนี้ค่อนข้างติดครับช่วงเช้าติดขาเข้าเมือง ส่วนช่วงเย็นจะติดขาออกนอกเมือง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถหน้าโครงการอยู่ติดกับทางขึ้นลง BTS สถานีสำโรงซึ่งเป็นส่วนต่อขยายสถานีแรกช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่มีป้ายติดไว้ว่าเปิดให้ใช้บริการพ.ศ.2559 ซึ่งจะเสร็จก่อนโครงการครับ จุดเด่นอีกอย่างคือในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ต้นสายคือสถานีรัชดา และปลายสายจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงครับ โดยสายสีเหลืองอ่อนจะวิ่งผ่านเส้นเทพารักษ์ ไปออกศรีนครินทร์ ลาดพร้าว และรัชดาภิเษก ส่วนการเดินทางอื่นๆ มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่าน ขาออกเมืองป้ายรถเมล์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ หรือหน้าสถานีตำรวจสำโรงครับ ส่วนขาเข้าเมืองป้ายจะอยู่ค่อนข้างห่างจากโครงการครับ เนื่องจากตัวโครงการอยู่ใกล้กับแยกไฟแดง และทางขึ้นสะพานข้ามคลองสำโรง ทำให้ระยะจอดทำได้ลำบาก ป้ายจะอยู่เยื้องๆกับ Big C Jumbo และอีกป้ายคือหน้าอิมพิเรียลสำโรง ส่วนการเดินทางอื่นๆมีรถตู้หลายสายแต่ต้องไปขึ้นหน้าอิมพิเรียลครับไปได้ทั้ง หัวลำโพง หมอชิต รังสิต บางบ่อ และคลองด่าน ระยะเดินจากโครงการถึงอิมพิเรียลประมาณ 600 ม.ครับ รถ Taxi โบกขึ้นได้หน้าโครงการเลย

เรื่องอาหารการกินย่านนี้คงต้องพึ่งตลาดสำโรงเป็นส่วนใหญ่ครับ มีทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้นานาชนิด รวมถึงของใช้ต่างๆ เดินจากโครงการไปประมาณ 500 ม. ก็ถึงครับ ห้างใกล้ๆก็อิมพิเรียลสำโรงซึ่งมี Big C ในนี้ ติดกันมีสำโรงเซ็นเตอร์ หรือจะไปเส้นบางนาตราดมีเซ็นทรัลบางนา BigC หรือเลยไปเมกาบางนา และอิเกียก็ได้ครับ ส่วน Community mall ใกล้ๆคือ The Coast Village ใกล้ๆสี่แยกบางนา และอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ชื่อว่า Bangkok Mall ตรงสี่แยกบางนาเลยครับ ที่เหลือนอกจากนี้ก็ขึ้น BTS เข้าเมืองไปเลยสะดวกดี

วันนี้เริ่มที่ BTS แบริ่ง ขวามือเป็น APT แบริ่งมอลล์ มีของกินของใช้ขายครับ

ใต้สถานีมีป้ายรถเมล์ทั้ง 2 ฝั่ง ขวามือจะเห็น 7-11 ติดกับ APT แบริ่งมอลล์

ผ่านใต้สถานีมาซ้ายมือจะเป็นอาคารพาณิชย์ซ้ายมือ มีร้านอาหารบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นร้านอะไหล่ประดับยนต์ ส่วนฝั่งขวาเป็นโชว์รูมรถยนต์

จากนั้นจะเจอสามแยก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแบริ่ง แต่เราจะตรงไปสำโรงครับ

จากนั้นจะเจอห้างอิมพีเรียลสําโรง ซ้ายมือคือตลาดสำโรงครับ เราจะตรงไปข้ามสะพานสำโรง

ผ่านสะพานข้ามคลองสำโรงมาจะเจอสถานีตำรวจซ้ายมือ ขวามือจะเป็นพื้นที่ตั้งโครงการจะอยู่เยื้องๆกันครับ แต่เราต้องไปกลับรถแถว Big C Jumbo สำโรง ในรูปตอนนี้กำลังก่อสร้าง BTS สถานีสำโรงอยู่

ผ่านแยกเทพารักษ์มุ่งหน้าสมุทรปราการครับ

DSCF6550

จากนั้นจะเจอป้ายกลับรถขวามือ เตรียมชิดขวาได้เลย

จุดกลับรถจะอยู่หน้า Big C Jumbo สำโรง

01

กลับรถมาจะเจอป้ายตรงไปบางนา เลี้ยวซ้ายไปพระประแดงตรงสามแยกปู่เจ้า เราจะตรงไปครับ

04

จากนั้นจะเจอสามแยกเทพารักษ์

05

ข้ามแยกมาจะเจออาคารพาณิชย์ซ้ายมือเป็นร้านอะไหล่ยนต์

06

ติดกับอาคารพาณิชย์ก็จะเป็นพื้นที่โครงการครับเลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย

07

ด้านหน้าสำนักงานขายครับ

2

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

รอบๆโครงการส่วนใหญ่เต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัยของคนแถวนี้ครับ โดยอาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ตามริมถนนสุขุมวิทจะเป็นร้านเกี่ยวกับอะไหล่ยนต์ และขายอุปกรณ์ต่างๆ โดยทิศเหนือติดกับอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น และมีซอยสุขุมวิท 80 ที่ไปเชื่อมออกถนนรางรถไฟเก่าออกถนนปู่เจ้า และแถวพระรามสี่ได้ ฝั่งนี้เลือกชั้น 7 ก็ไม่มีอะไรบังครับแต่เพื่อไว้ก็ดี ส่วนอาคาร C ไม่มีผลครับโดนอาคาร A,B บังหมดอยู่แล้ว ทิศใต้ติดกับอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น วิวมองไปยังฝั่งสมุทรปราการเลือกชั้น 10 ขึ้นไปเช่นกันสำหรับอาคาร A และ B ส่วนอาคาร C เลือกได้ทุกชั้น ทิศตะวันออกติดกับถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นสถานีตำรวจสำโรงและอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น เลือกชั้น 10 ขึ้นไปจะได้ช่วยเรื่องเสียงจาก BTS ได้บ้างนิดหน่อย แต่จะให้ดีสูงๆไว้ครับ สำหรับอาคาร C ควรเลือกชั้น 5 ขึ้นไปครับ ส่วนทิศตะวันตกหรือด้านหลังโครงการจะติดกับโกดังเก็บของ พื้นที่ว่างเปล่า และบ้านพักอาศัย เลือกได้ทุกชั้นครับแต่จะให้ดีเรื่องชั้นสูงๆไว้

ทิศเหนือระยะประชิดมีอาคารพาณิชย์สูง 2-3 ชั้น ไกลออกไปหน่อยจะมีตึกสูงบ้างไม่หนาแน่นครับ

ทิศใต้ติดอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น

1

ทิศตะวันออกติดกับถนนสุขุมวิท และทางขึ้นลง BTS สถานีสำโรง

2

ทิศตะวันตกพื้นที่จริงๆจะเข้าไปอีกครับตอนนี้กำลังจะรื้อถอนครับวิวค่อนข้างโล่ง

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS สำโรง ประมาณ 20 m (สอบถามจากทางโครงการ)
  • สถานีตำรวจสำโรง ประมาณ 30 m
  • ตลาดสำโรง ประมาณ 500 m
  • อิมพิเรียลสำโรง ประมาณ 600 m
  • สำโรงเซ็นเตอร์ ประมาณ 600 m
  • รพ.สำโรงการแพทย์ ประมาณ 1 km
  • Big C Jumbo ประมาณ 1.3 km (รวมระยะกลับรถ) แต่ถ้าข้ามถนนมาขึ้นอีกฝั่ง ประมาณ 850 m


เจาะลึกตัวโครงการ

bg

ตัวอาคารภายนอกออกแบบเป็นสี่เหลี่ยม 4 ตึก คือ A สูง 39 ชั้น, B สูง 30 ชั้น, C สูง 7 ชั้น, D สูง 5 ชั้น(เป็นอาคารจอดรถ) ตอนนี้ทางโครงการเปิดขายเฉพาะอาคาร A ซึ่งเป็นตึกที่สูงสุดในโครงการครับจอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-5 ชั้น 6 เป็นส่วนกลาง ส่วนอาคาร B จอดรถได้ชั้น 1-5 ส่วนด้านหน้าชั้น 1-3 จะทำเป็น Community Mall ครับแต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นร้านอะไรมาเปิด และยังไม่กำหนดว่าจะให้นิติบุคคลเป็นคนดูแลด้วยรึป่าวครับ ส่วนอาคาร C จะเป็นอาคารพักอาศัยอย่างเดียวโดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ชั้น 1 จะเป็นลานจอดรถ และชั้นดาดฟ้ามีสวนลอยฟ้ามาให้ อาคาร D เป็นอาคารจอดรถ 5 ชั้น บนชั้นดาดฟ้าจะเป็นคอร์ดแบดมินตัน 2 คอร์ด และมีสวนให้

Screen Shot 2558-04-26 at 4.36.16 PM

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby เน้นใช้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาด้านใน

Screen Shot 2558-04-26 at 4.36.28 PM

ภาพจำลองส่วนกลางสระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity edge swimming pools ระบบเกลือที่ชั้น 6 มี 2 สระ คือฝั่งอาคาร A ขนาดประมาณ 12 x 28 ม. และอาคาร B ขนาดประมาณ 12 x 30 ม. ลึกประมาณ 1.2 ม. พร้อมสระเด็ก (Free form) ลึกประมาณ 60 ซม.

Screen Shot 2558-04-26 at 4.36.36 PM

โต๊ะนั่งริมสระว่ายน้ำ

Screen Shot 2558-04-26 at 4.36.48 PM

ภาพจำลองบรรยากาศห้องฟิตเนสที่ชั้น 6

Screen Shot 2558-04-26 at 11.31.33 PM copy

หน้าโครงการอยู่ฝั่งอาคาร B หรือทิศตะวันออกติดกับถนนสุขุมวิท และทางขึ้นลง BTS สถานีสำโรง อาคาร A และ B จอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-5 อาคาร C จอดได้ชั้น 1 ส่วนอาคาร D เป็นอาคารจอดรถ 5 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นคอร์ดแบดมินตัน 2 คอร์ด และสวนหย่อม รวมที่จอดรถไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 40% ที่อาคาร B ชั้น 1-3 เป็น Community Mall คนภายนอกเข้ามาใช้บริการได้คงต้องจัดสรรเรื่องความปลอดภัยดีๆครับ

เนื่องจากตอนนี้โครงการเปิดขายเฉพาะอาคาร A ครับ ข้อมูลแปลนชั้นที่จะนำมาให้ชมจะเป็นส่วนของอาคาร A ทั้งหมดครับ

Screen Shot 2558-04-26 at 11.31.56 PM

แปลนชั้น 6 เป็นแปลนรวมระหว่างอาคาร A และ B เนื่องจากลูกบ้านสามารถใช้งานได้ร่วมกันทุกอาคารครับ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ (Infinity edge swimming pools) ที่อาคาร A ขนาดประมาณ 12 x 28 ม. แยกสระเด็ก (Free form) และที่อาคาร B ขนาดประมาณ 12 x 30 ม. สระเด็กต้องไปฝั่งอาคาร A ครับ มีห้องฟิตเนส อยู่ติดกับสระว่ายน้ำอาคาร A มีห้องไดร์ฟกอล์ฟ มีร้านอาหาร ห้องนิติบุคคล ห้องอเนกประสงค์ และ Laundromat area ก็อยู่ที่ชั้นนี้ครับ

Screen Shot 2558-04-26 at 11.32.18 PM

ส่วนพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7-39 ครับแปลนชั้นเหมือนกันทั้งหมด แปลนอาคารเป็นรูปตัว L นับได้ทั้งหมด 32 ยูนิต ห้อง 2 ห้องนอนคือสีส้มและน้ำตาลครับจะอยู่ตรงมุมอาคาร ส่วน 1 ห้องนอนคือสีชมพูและสีฟ้า ที่เหลือสีเขียวจะเป็นห้อง Studio บันไดหนีไฟมี 3 จุด ลิฟท์มี 4 ตัวระยะเดินจากห้องสุดท้ายประมาณ 55 ม.

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 12 x 28 เมตร(อาคารA), 12 x 30 เมตร(อาคารB)  แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • คอร์ดแบดมินตัน 2 คอร์ด
  • ห้องไดร์กอล์ฟ
  • ห้องอเนกประสงค์
  • ลิฟท์โดยสาร ที่อาคาร A 4 ตัว และที่อาคาร D 2 ตัว (อาคาร B, C N/A ตัว/อาคาร)
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 264:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B N/A
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C N/A
  • Service Lift 1 ตัว/อาคาร
  • ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันประมาณ 40%
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

ห้องที่นี่มีห้องแบบ Studio, 1Bedroom, 2Bedroom แต่ระแบบก็มีย่อยลงไปอีกต่างกันตรงที่ขนาดของห้องครับ ส่วนห้องตัวอย่างที่นำมาให้ดูวันนี้เป็นห้อง 1Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. และ 2Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished

1BR

เริ่มจากห้อง 1Bedroom เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อนติดกันเป็นส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้ค่อนข้างกว้างครับ จากนั้นก็จะเป็นห้องนอนซึ่งได้ฉากกั้นเป็นตัวกั้นแยกส่วน ส่วนห้องครัวได้เป็นครัวปิด เคาน์เตอร์ครัวยาวไปถึงระเบียง ระบายอากาศออกตรงระเบียงได้ครับ แต่พื้นที่ระเบียงเล็กไปนิด ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งได้ฉากกั้นอาบน้ำ

เริ่มจากประตูเข้าห้อง

มือจับเป็นแบบคันโยก ระบบประตูของ Kwiksetใช้แบบ Bluetooth เปิด-ปิดผ่านสมาร์ทโฟนได้ หรือใช้ระบบสัมผัสคล้ายๆกับระบบ Push Start รถยนต์ครับ หรือไขกุญแจปกติก็ได้

ตัวล็อคประตูด้านใน

เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ในสุดเป็นห้องนอน ซ้ายมือเป็นห้องครัวและห้องนำ้ พื้นห้องนั่งเล่นและห้องครัวเป็นกระเบื้องเคลือบ ขนาด 60x 60 ซม. ห้องนอนเป็น Engineering wood ฝ้าหลุมส่วนห้องนั่งเล่นสูง 2.75 ม. (ของจริงที่ได้จะเป็นฝ้ายิบซั่มฉาบเรียบทาสีขาว) ฝ้าส่วนอื่นๆสูง 2.55 ม. ไฟได้ดาวน์ไลท์แบบสี่เหลี่ยม ผนังได้วอลเปเปอร์ทั้งห้องครับ

ได้ชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางขนาด 3 ที่นั่ง แอร์ Daikin ติดอยู่ผนังขวามือ ฝั่งซ้ายมีชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง จะเลื่อนออกมาฝั่งโซฟาหน่อยก็ยังได้ครับ

ฝั่งตรงข้ามได้ชุดวางทีวี Build in มาให้ ทีวีไม่ได้แถมนะครับ ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 ม. ขวามือเป็นประตูเข้าห้องครัว

ตู้เป็นบานเปิด

ชุดล่างเป็นลิ้นชักคู่เก็บของจุกจิกได้

ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนมีฉากกั้นเลื่อนเป็นบานไม้อัดกรุโฟไมก้า 3 ตอน หรือ 2 ตอนในบาง Type เนื่องจากการวาง Layout ซ้ายมือเป็นกระจกบานเลื่อนส่วนของห้องครัวครับ

เลื่อนประตูออกก็จะเห็นส่วนของห้องนอนครับ

ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงสองฝั่ง พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 60 ซม. พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 65 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 70 ซม.

ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า ซ้ายมือได้ชุดโต๊ะเครื่องแป้ง แอร์ Daikin ติดปลายเตียง

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนสองบาน โต๊ะเครื่องแป้งเป็นลิ้นชัก

หน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน สองบานด้านล่างเป็นบานติดตาย

เข้าไปดูส่วนครัวครับเดินเข้าไปเจอตู้เก็บของและพื้นที่วางตู้เย็นครับ

ตู้เป็นบานเปิด 3 บาน ตู้เย็นไม่ได้แถมให้นะครับ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

ชุดตู้ครัวอีกฝั่งได้แบบนี้เลยครับ ขวามือริมสุดมีที่วางเครื่องซักผ้า

ชุดตู้ด้านบนเป็นบานเปิดเก็บของได้พอสมควร

ชุดตู้ด้านล่างเป็นบานเปิด และลิ้นชัก 3 ชั้น

Sink ล้างจานแบบหลุมเดียวพร้อมที่พักจานของ Mex

ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิก 2 หัววางนอนตั้งใช้งานลำบากกว่าวางแบบแนวนอน พร้อมเครื่องดูดควันของ Tecno ผนังด้านในกรุกระจกมาให้ ทำความสะอาดได้สะดวก

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 1 บาน

พื้นที่ระเบียงขนาด 0.80 x 1 ม. วางราวตากผ้าเล็กๆได้ หรือจะใช้แบบแขวนผนังแทนก็ได้ ขวามือมีก๊อกน้ำให้

ฝั่งซ้ายมีระแนงบังคอมเพลสเซอร์แอร์ เป่าลมออกด้านนอก

เปิดออกมาเจอคอมเพลสเซอร์แขวน 2 ตัว

ใต้คอนเพลสเซอร์แอร์มีพื้นที่ว่างเหลือพอวางไม้กวาด และรองเท้าได้

กลับเข้ามาด้านในไปดูห้องน้ำกันต่อ

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ ได้กระจกบานใหญ่ ทำ Low Wall มาให้วางของ

สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด

ตู้ใต้อ่างล่างหน้าเป็นบานเปิด 2 บานเก็บของได้พอสมควร

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นแบบสองตอน

ได้ Rain Shower และ ฝักบัวของ American Standard ติดตั้งระบบน้ำร้อนไว้ให้แต่ไม่ได้แถมเครื่องทำน้ำร้อนให้ต้องติดเพิ่มเองครับ

หน้าตาฝักบัวเป็นแบบสี่เหลี่ยม ขวามือมีที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.95 x 0.70 ม.

พื้นห้องน้ำตำ่กว่าพื้นห้อง ธรณีส่วนเปียกทำมาสูงพอสมควรน้ำไม่เลอะเทอะด้านนอก

2BR

มาดู 2Bedroom กันต่อครับ เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนรับประทานอาหารก่อน ขวามือเป็นห้องน้ำ มีตู้เก็บรองเท้าข้างประตูให้มาด้วย ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงห้อง ซึ่งระเบียงห้องคค่อนข้างยาวเชื่อมกับระเบียงห้องนอน ที่แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์มีระแนงบังสายตาเรียบร้อย Master Bedroom ได้ระเบียงในห้องมีพื้นที่พอสมควรครับ ห้องน้ำต้องออกมาเข้าด้านนอกไม่ได้ทำประตูจากด้านในมาให้ อีกฝั่งเป็นห้องครัวได้ครัวตัว L เป็นครัวปิด ตรงข้ามกับครัวเป็นห้องนอนเล็กครับ วางเตียงเดี่ยวมาให้กำลังพอดีใหญ่กว่านี้จะอึดอัดไปครับ

เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนรับประทานอาหารก่อน ซ้ายมือเป็นห้องครัวและห้องนอน 2 ขวามือเป็นห้องน้ำและห้อง Master Bedroom ตรงหน้าเป็นห้องนั่งเล่น พื้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องครัวเป็นกระเบื้องเคลือบ 60×60 ซม. ส่วนห้องนอนเป็นพื้น Engineering wood ฝ้าหลุมส่วนห้องนั่งเล่นสูง 2.75 ม. ฝ้าส่วนอื่นๆสูง 2.55 ม. ไฟได้ดาวน์ไลท์แบบสี่เหลี่ยม ผนังได้วอลเปเปอร์ทั้งห้องครับ

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ขนาด 4 ที่นั่ง แอร์ Daikin ติดผนังซ้ายมือ

ห้องนั่งเล่นอยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 ห้องนอน และอยู่ติดระเบียง ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 ม.

โซฟาได้ขนาด 3 ที่นั่ง

ชุดตู้วางทีวีมีช่องเก็บของน้อยกว่าห้อง 1 Bedroom

ชุดตู้ด้านบนเป็นบานเปิด ด้านล่างเป็นลิ้นชัก 2 อันแบ่งเป็นสี่ช่อง

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

เปิดออกมาซ้ายมือมีก๊อกน้ำให้

ระเบียงจะเชื่อมกันระหว่างห้องนั่งเล่นและห้อง Master Bedroom ขนาดประมาณ 4.28 x 0.90 ม. ปลายสุดอีกฝั่งมีระแนงบังคอมเพลสเซอร์แอร์ไว้

เปิดออกมาเจอคอมเพลสเซอร์แอร์แขวนอยู่ 3 ตัว

กลับเข้ามาด้านใน ติดกับประตูเข้าห้องจะมีตู้รองเท้ามาให้ด้วยขวามือบานตู้เป็นกระจกเต็มบาน ติดกันเป็นห้องน้ำ ซ้ายสุดเป็นห้อง Master Bedroom

ตู้เก็บรองเท้าเป็นบานเปิด ด้านในแบ่งเป็น 5 ชั้น ปรับระดับได้

ห้องน้ำหน้าตาเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด

ห้อง Master Bedroom พื้นเป็น Engineering wood ฝ้าในห้องนอนของจริงจะเรียบหมดนะครับ

ได้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมชุดโต๊ะเครื่องแป้งขวามือเป็นลิ้นชักสองชั้น

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.4 ม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 50 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 80 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.4 ม.ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน โครงการซ่อนรางม่านมาให้ครับ ส่วนของระเบียงเชื่อมกับระเบียงห้องนั่งเล่น

อีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้ามาให้ แอร์ Daikin ติดขวามือ

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 3 บาน

ออกไปดูอีกฝั่ง ซ้ายมือที่เห็นผนังกระจกคือห้องครัว ขวามือเป็นห้องนอนเล็ก ตรงกลางมีตู้เก็บของให้

ตู้เก็บของเป็นบานเปิด 2 บาน แบ่งช่องมาให้เก็บของได้พอสมควรครับ

ห้องครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนให้ 1 บาน

ด้านในได้ครัวรูปตัว L พื้นที่วางเครื่องซักผ้าและตู้เย็นอยู่ขวามือ

ชุดตู้เป็นบานเปิดทั้งหมด เครื่องดูดควันของห้อง 2 ห้องนอน และ 1 นอน สำหรับขนาด 45 ตรม. ทางโครงการให้เป็นแบบ Exhaust system พร้อมพัดลมดูดอากาศ แต่ผมว่าดูอึดอัดไปนิดนะครับ

ชุดตู้ด้านบนอีกฝั่งเป็นบานเปิดเช่นกันครับ

ตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องนอนเล็ก ได้หน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 บาน ของจริงจะได้เป็นแบบ Bay Windows คือตรงส่วนที่เป็นชั้นหัวเตียงของจริงจะไม่มีครับเพราะเป็นส่วนของ Bay Windows แอร์ Daikin ติดปลายเตียง

ได้เตียงเดี่ยว และโต๊ะเครื่องแป้งซ้ายมือของจริงจะเป็นแบบลอยตัว พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 30 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.1 ม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 55 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.2 ม.

อีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้ามาให้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 2 บาน เก็บของได้พอประมาณ ถ้าเป็นผู้หญิงอาจจะไม่พอครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 April 2015

  • Studio อาคาร A ชั้น 12 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 2.065 ล้านบาท หรือ 73,757 บาท/ตร.ม.
  • Studio อาคาร A ชั้น 28 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 2.238 ล้านบาท หรือ 79,960 บาท/ตร.ม.
  • 1Bedroom(B2.2) อาคาร A ชั้น 16 เนื้อที่ 35 ตร.ม. ราคา 2.883 ล้านบาท หรือ 82,400 บาท/ตร.ม.
  • 1Bedroom(B1.1) อาคาร A ชั้น 30 เนื้อที่ 35 ตร.ม. ราคา 3.069 ล้านบาท หรือ 87,700 บาท/ตร.ม.
  • 2Bedroom(C2) อาคาร A ชั้น 39 เนื้อที่ 52 ตร.ม. ราคา 4,585 ล้านบาท หรือ 88,186 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร ส่วนที่เป็นฝ้าหลุมสูง 2.75 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา Studio 25,000 บาท ; 1Bedroom 30,000 บาท ; 2Bedroom 45,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 30 งวด งวดพิเศษ 2 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

The Metropolis สำโรง อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ในทำเลค่อนข้างพลุกพล่าน มีรถวิ่งผ่านเกือบทั้งวัน ข้อเสียคืออาจจะมีปัญหาเรื่องเสียงและมลพิษครับ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่อยู่อาศัยไม่ได้ พื้นที่ใกล้เคียงส่วนใหญ่จะเป็นโกดังเก็บของและโรงงานในบริเวณใกล้เคียง อาจจะส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อย แต่ก็อยากให้ลองไปดูพื้นที่จริงก่อนครับ รอบๆโครงการจะเน้นไปทางอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น ชั้นล่างส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านอะไหล่ประดับยนต์ต่างๆ มีร้านโชห่วยบ้าง ความอุดมสมบูรณ์ ภายในโครงการมี Community mall ที่อาคาร B ชั้น 1-3 ที่เหลือระยะเดินได้ต้องพึ่งตลาดสำโรงเป็นตลาดสดมีของคาว และของหวาน ผลไม้หลากชนิด รวมถึงของใช้ มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 แถวนี้ด้วยระยะเดินก็ประมาณ 500 เมตร ตรงข้ามตลาดสำโรงก็เป็นห้างอิมพิเรียลสำโรง และสำโรงเซ็นเตอร์ นอกนั้นก็คงต้องพึ่งรถอย่างเดียวครับ หรือนั่ง BTS เข้าเมืองไปเลยก็สะดวกดี

การเดินทางโดยใช้รถอยู่ติดถนนสุขุมวิทถ้ารถไม่ติดการเดินทางค่อนข้างสะดวกครับวิ่งเข้าออกเมืองได้สบายๆ แต่ก็ยังมีให้เลือกอีกหลายเส้นทางทั้งจะลัดเข้าซอยสุขุมวิท 80 ด้านข้างโครงการไปออกถนนรางรถไฟเก่าซึ่งไปออกถนนปู่เจ้า และไปโซนพระรามสี่ได้ หรือใช้เส้นศรีนครินทร์ก็ได้เช่นกัน ยังไม่รวมซอยย่อยที่สามารถลัดเลาะไปยังที่อื่นๆได้อีกครับ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนตรงสี่แยกบางนา และแถวๆพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เรื่องปัญหาการจราจรติดขัดเห็นได้ชัดในย่านนี้ยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนคงไม่ต้องพูดถึงกันครับ แต่รอ BTS สร้างเสร็จพร้อมใช้งานคงช่วยลดปัญหานี้ไปได้บ้างครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถจุดเด่นเลยคือทางขึ้นลง BTS สถานีสำโรงตามที่ทางโครงการแจ้งมาจะอยู่หน้าโครงการเลยแต่ก็รอดูตอนสร้างเสร็จอีกทีดีกว่าครับว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ถือว่าสะดวกครับไม่ต้องขึ้นรถหลายต่อในการเดินทางด้วย BTS และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยสถานีปลายทางคือสถานีสำโรงจะเชื่อมกันที่นี่ครับยิ่งทำให้สะดวกมากขึ้นแต่คงต้องรออีกนานหน่อย ส่วนการเดินทางโดยรถเมล์ รถตู้ รถสองแถวเดินมาขึ้นแถวหน้าอิมพิเรียลสำโรงจะสะดวกกว่าครับมีรถหลายสายวิ่งผ่านระยะเดินประมาณ 600 ม. ส่วน Taxi ก็โบกขึ้นหน้าโครงการได้เลยครับ

วัสดุที่ให้มามีดีมีด้อยปนกัน เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าระบบประตูเป็นแบบ Bluetooth ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือแบบสัมผัสคล้ายๆรถยนต์ของ Kwikset อันนี้ถือว่าดีครับ พื้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องครัวเป็นกระเบื้องเคลือบ 60 x 60 ซม. ส่วนห้องนอนเป็น Engineering wood ผนังได้วอลเปเปอร์ทั้งห้อง ได้ชุดตู้วางทีวี และโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร ฉากกั้น 1 ห้องนอนเป็นบานไม้ 3 ตอน ห้องนอนได้เตียงนอนพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า แอร์ของ Daikin ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว Sink ล้างจานของ Mex เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิก 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Tecno ผนังครัวกรุกระจกมาให้ ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ของ American Standard

การออกแบบทำฝ้าหลุมส่วนห้องรับแขกสูง 2.75 ม. และฝ้าปกติสูง 2.55 ม. ออกแบบมาเน้นใช้งานพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ขนาดกำลังดีไม่เล็กไป แต่ส่วนของห้องน้ำพื้นที่ส่วนเปียกผมว่าเล็กไปครับคนตัวใหญ่น่าจะลำบากหน่อย ห้องครัวแบบ 2 ห้องนอนดูอึดอัดไปหน่อยเนื่องจากเสียพื้นที่ในการทำเป็นครัวปิดไป ส่วนครัว 1 ห้องนอนกำลังดีครับ แต่ระเบียงของ 1 ห้องนอนเล็กไปครับ วางราวตากผ้าได้เล็กๆก็เต็มพื้นที่แล้วใครที่นานๆซักทีที่ตากผ้าไม่พอแน่นอนครับ

สาธารณูปโภคมีให้มามาตรฐานแต่ถ้าเทียบกับความหนาแน่น 1,770 ยูนิตแล้วอาจจะน้อยไปครับ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ 2 สระที่อาคาร A ขนาด 12 x 28 ม. และที่อาคาร B ขนาด 12 x 30 ม. ห้องฟิตเนส ห้องไดร์กอล์ฟ คอร์ดแบดมินตัน 2 คอร์ด และสวนหย่อม น่าจะให้ส่วนกลางที่อาคาร C มาด้วยเลย ส่วนเรื่องอัตราส่วนความหนาแน่นลิฟท์ที่อาคาร A และ B เกินมาตรฐาน 100 มาพอสมควรโดย A 264:1 และ B 138:1 เวลาเร่งด่วนคงต้องรอลิฟท์นานหน่อย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 82,400 บาทต่อตารางเมตร, 21 April 2015

  • ทำเล 7.5/10 – สะดวกติดถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอยลึก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เข้าออกเมืองได้หลายเส้นทาง แต่ตัดคะแนนเรื่องจุดกลับรถ
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้ทางขึ้น-ลง BTS สถานีสำโรง อนาคตเป็นจุดอินเตอร์เชนจ์กับรถไฟฟ้าสายสีหลือง
  • วัสดุ 7.5/10 – มีดีมีด้อยปนกันมา
  • แบบ 7.25/10 – ออกแบบมาดีแต่บางจุดยังแบ่งไม่ลงตัว
  • สาธารณูปโภค 7/10 – มีมาครบตามมาตรฐานแต่ตัดคะแนนเรื่องความหนาแน่น

  • MAIN CLASS
  • 7.46 / 10.00

BOTTOM LINE

 The Metropolis สำโรง อินเตอร์เชนจ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่ไม่อยากอยู่ในเมือง ทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเดินทางเข้าเมืองบ้าง มีงบประมาณตั้งแต่ 2 – 5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 14,000-37,000 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )