รีวิวฉบับที่ 671 … Mr.Oe จะพามาดูอีกหนึ่งโครงการย่านลาซาลแบริ่งครับ โครงการ the EXCEL hideaway ของ All Inspire Development อยู่ในซอยลาซาล11 นะครับ โครงการนี้เป็นตัวที่สองของ Brand “Excel” ในย่านนี้ ต่อจาก Excel แบริ่งครับ แต่ความที่ทำเลโครงการเข้าซอยแยกและค่อนข้างจะเงียบ แถมอยู่ติดสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา เขาเลยทำออกมาเป็นแนว Private สงบๆ และตั้งชื่อว่า Hideaway ส่วนรายละเอียดของโครงการจะแตกต่างจากรุ่นพี่อย่างไร คงต้องค่อยๆไปดูกันครับ 🙂
Fact @ 28 Aug 2014
- The Excel Hideaway (ดิ เอ๊กซ์เซล ไฮด์ อะเวย์)
- บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน: ซ.ลาซาล 11 (ซอยร่วมพัฒนา) ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร
- จำนวนห้องพักอาศัยทั้งโครงการ 159 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 1-1-25 ไร่
- ที่จอดรถในช่องจอด 56 คัน หรือ 35% รวมซ้อนคันจอดได้ราวประมาณ 66 คัน หรือ 41%
- Type A: Studio ขนาด 24.20 ตร.ม
- Type B: 1 Bed ขนาด 26 ตร.ม
- Type C: 1 Bedขนาด 27.70 ตร.ม
- Type D: 1 Bed ขนาด 28.20 ตร.ม
- Type E: 2 Beds ขนาด 44.50 ตร.ม
- Type F: 1 Bed ขนาด 42.40 ตร.ม
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.59 ล้านบาท หรือ 57,916 บาท/ ตร.ม.
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ปี 2559
- www.excelcondo.com
- Tel: 092-272-1730 หรือ 092-272-1731
- Mail: [email protected]
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.664133,100.609043
แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการอยู่ในซอยลาซาล 11 นะครับ ซึ่งซอยลาซาล (สุขุมวิท 105) เป็นซอยคู่ขนานกับ แบริ่ง หลังจาก BTS แบริ่งเปิดการเดินรถมาในช่วงระยะหลังนี้ทำเลย่านนี้ถือว่าคึกคักมากทีเดียว แต่จะไปขึ้นโครงการกันที่ แบริ่งก่อน เพราะลาซาลถนนเขาเล็กและอยู่ในช่วงปรับปรุงไประยะหนึ่ง พอปรับถนนเสร็จ ก็เริ่มมีโครงการมาขึ้นที่ซอยลาซาลกันเยอะขึ้นมากครับ… ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะซอยลาซาลเป็นชุมชนที่คึกคักอยู่แต่เดิม และเป็นซอยที่เชื่อมสามถนนหลัก คือ บางนาตราด – สุขุมวิท – ศรีนครินทร์ สามารถลัดเลาะเลือกใช้เส้นทางได้สะดวกทั้งสามด้าน
ความเจริญ แต่เดิมคงหวังพึ่ง Central บางนา และ Bitec ต่อมามี Mega Bangna มาเป็นที่พึ่งพิงเพิ่มเติม แต่ในอนาคต จะมีของหนักมาเพิ่มตรงแยกบางนาอีกอย่างนะครับ นั่นคือ บางกอก มอลล์ ซึ่งคงจะทำให้ทำเลแถวนี้ คึกคักขึ้นอีกมากครับ… ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในลาซาล ก็อยู่ในซอยลาซาลนี่แหละ ร้านอาหาร ร้านค้า เยอะแยะมากมายทั้งซอย … แต่ความที่โครงการเข้าไปจากปากซอยลาซาล 11 ร่วม 400 เมตร การเดินออกมาซื้อข้าวของ มันก็ออกจะไกลเกินระยะเดินสบายๆไปหน่อยนะ
ทำเลที่ตั้งโครงการจากแผนที่ Google จะได้สเกลและตำแหน่งที่ถูกต้องกว่านะ ตัวโครงการอยู่ลึกเข้ามาทางซอยลาซาล11 จนติดกับสนามกอล์ฟราชนาวีเลย ซึ่งจะมีห้องด้านหนึ่งของตึกได้วิวสนามกอล์ฟไปแบบเต็มๆ … ทำเลลักษณะแบบนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ ข้อดีคือมันเงียบสงบไม่พลุกพล่าน และโล่งมากในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านที่เห็นวิวสนามกอล์ฟ ถือเป็น Unique วิว เพราะหาโครงการที่ยังพออยู่ในเขตเมืองแล้วติดสนามกอล์ฟยากเต็มที… แต่ก็มีข้อเสียคือ เข้าซอย 400 เมตร และขาดความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการเมื่อเทียบกับโครงการที่อยู่ติดถนนซอย การเรียกรถ หรือการเดินเข้าออกตอนกลางคืน ลำบากกว่าโครงการติดถนนใหญ่หรือติดถนนซอยแน่นอนครับ
การเดินทางเข้าออกสะดวกสุดคือ ทางปากซอยฝั่งสุขุมวิท ซึ่งมีระยะทาง 940 เมตร และเดินต่ออีกไม่กี่ก้าวก็ถึงทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่งแล้ว ระยะนี้คนปกติเดินไม่ไหว คงต้องพึ่งรถสองแถวที่วิ่งในซอย หรือใช้บริการพี่วิน ที่มีให้บริการค่อนข้างจะเยอะอยู่ ยังดีที่โครงการมีบริการรถรับส่ง Shuttle Service ที่ BTS แบริ่งคงจะพอช่วยให้สะดวกได้เยอะอยู่…ตัวสำนักงานขายเขาไม่ได้อยู่ตรงที่ตั้งจริงในซอย 11 นะครับ แต่จะอยู่ตรงลาซาลซอย 1 ครับ เห็นชัด มาง่าย จาก BTS เดินมาสำนักงานขายได้ ระยะทางราวๆ 200 เมตร เวลามาดูโครงการให้แวะมาดูข้อมูลและห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายก่อน แล้วค่อยไปดูพื้นที่ตั้งจริง ทำเลจริงครับ
การเข้าออกนอกจากทางด้านสุขุมวิทแล้ว เราสามารถเข้าออกทางด้านถนนบางนา-ตราดได้นะ ไกลหน่อย 2.2 กิโลเมตร แต่เอาไว้ใช้ได้เวลาหลบเลี่ยงรถติด หรือจะเดินทางไปไบเทคครับ
จากปากซอยลาซาล 11 เข้าไปโครงการ ต้องใช้เส้นทางตามแนวเส้นแดงที่ผมลากให้ดูนะครับ ระยะทางราวๆ 400 เมตร ด้านในเป็นซอยตัน จึงแทบไม่มีรถผ่านเข้าออกเลย แถมกำแพงด้านในสุด ก็เป็นสนามกอล์ฟ ราชนาวี การควบคุมดูแล ง่ายหน่อย ไม่เหมือนซอยที่เป็นเส้นทางลัดคนผ่านเข้าออกตลอดเวลา แต่ก็ต้องแลกกับความไม่สะดวกในการเรียกรถนะครับ
Zoom ให้ดู แนวที่ดินนะครับ ห้องไม่กี่ห้องที่ได้วิวทิศเหนือเท่านั้นที่จะเห็นวิวสนามกอล์ฟแบบเต็มๆ ส่วนห้องอื่นๆ บางห้องจะพอเห็นบ้างในมุมเอียงๆ (มากน้อยแล้วแต่ห้อง) และพื้นที่รายรอบค่อนข้างเปิดโล่ง ไม่มีตึกประชิดครับ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นขอบเขตภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
เดี๋ยวเราเดินทางไปดูของจริงกันนะครับ โดยเส้นทางการเดินทางผมวิ่งตามเส้นแดง ใช้ทางด่วนมามุ่งหน้าบางนา แล้วเลี้ยววนมาลงสุขุมวิทมุ่งหน้าสมุทรปราการ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาซาล แวะผ่านสำนักงานขายตรงลาซาลซอย 1 ก่อน แล้วค่อยขับรถต่อไป ลาซาล 11 เพื่อไปดูที่ตั้งโครงการจริงครับ
ผมขึ้นทางด่วนมามุ่งหน้าบางนา ตรงมาเรื่อยจนเกือบจะถึงแยกบางนา จะเจอป้ายนี้นะครับ ให้เราเกาะตามป้ายไปสมุทรปราการครับ
เราตรงตามทางที่เขียนว่าไปสมุทรปราการ จะพาวนขึ้นสะพานครับ
วนขึ้นสะพานมา ก็จะเจอ the Coast คอนโด เป็นแท่งอยู่ขวามือ
ตัวสะพานจะพาเราวน มาลงตรงไบเทค ฝั่งถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าสำโรง สมุทรปราการ
ตอนนี้เราอยู่บนถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าสมุทรปราการนะครับ ขับตรงไปเรื่อยๆผ่าน BTS สถานีบางนาไป
เลยสถานี บางนามานิดเดียว จะเห็นป้ายโครงการ Ideo ของ อนันดา กำลังบุกมาที่นี่แล้ว เป็นอีกหนึ่ง Brand ใหญ่ ที่เข้ามาทำตลาดย่านนี้ครับ ต่อไปคงมีอีกหลายโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าแถวๆนี้แหละ
ขับตรงต่อไปครับ ผ่านปั๊ม เชลล์ ก็ให้เปลี่ยนเลนมาซ้ายได้แล้ว ใกล้ถึงแล้วจ้า
ขับมาเรื่อยๆ จนถึง 7-11 ก็ชะลอรถได้แล้ว เราจะถึงปากซอยลาซาลแล้ว แถวนี้จะมี รถสองแถววิ่งลัดเลาะในซอย นะครับ
7-11 หน้าปากซอยลาซาล
เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยครับ .. อ้อ สังเกต BTS แบริ่ง จะอยู่ค่อนข้างใกล้กับปากซอยลาซาลนะครับ บันไดทางขึ้นสถานีพาดมาใกล้ปากซอยแถมเป็นบันไดเลื่อนด้วย
เลี้ยวซ้ายเข้ามาจะเจอ พี่วิน วินใหญ่รถเยอะช่วงเช้าเย็น ขับตรงเข้าซอยจากจุดนี้ไปร้อยกว่าเมตร ก็จะถึงสำนักงานขายครับ
สำนักงานขาย The Excel Hideaway อยู่ริมถนนเลยนะ
ตัวสำนักงานขาย จะอยู่ติดกับซอย 1 นะครับ ถ้าเดินมาจาก BTS ก็ราวๆ 200 เมตรครับ ถ้าขับรถมาก็มีลานจอดรถข้างสำนักงานขายนะครับ
เดี๋ยวค่อยแวะกลับมาดูสำนักงานขายครับ ตอนนี้เราตรงต่อไป
จะผ่านตลาด และร้านค้าตลอดสองข้างทางนะ ย่านนี้ อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องเป็นห่วง
ปากซอยลาซาล 11 นี่ก็มีร้านอาหาร ร้านขายของ มินิมาร์ท เยอะพอสมควร เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอย 11 เลยครับ
สองข้างทาง ในซอย11 จะมีรถจอดเยอะ เพราะกำลังมีงานก่อสร้างด้านในนะครับ เราตรงไปครับ
ตรงเข้ามา จากปากซอยราวๆ 150 เมตร ก็ชะลอรถหน่อยครับ เราจะเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวาตรงสามแยกแรกนี่แหละครับ ง่ายๆ
เลี้ยวขวามาแล้วตรงไปครับ … โปรดสังเกตสภาพแวดล้อมรายรอบ จะเป็นบ้านเรือนผู้คนนะครับ
ตรงมาหน่อยเดียว จะเจอ Site งานก่อสร้างของ Excel รุ่นพี่ครับ เราจะเลี้ยวซ้าย ตรงรถกระบะที่จอดอยู่ข้างหน้า
เลี้ยวขวาตรงนี้แหละครับ ถนนไม่ค่อยดีนะครับ รถใหญ่ขนดินเข้ามา เดี๋ยวจะมีการปรับถนนกันใหม่ครับ
เลี้ยวซ้ายมาแล้ว ก็ตรงต่อไปครับ
เราตรงเข้าไปครับ ซอยนี้เป็นซอยตัน ไม่ค่อยมีคนเข้ามา ยกเว้นแต่คนที่บ้านอยู่ในซอยนี้
ตรงมาเกือบสุด ก็จะเจอที่ดิน อันเป็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการแล้ว
สภาพที่ดิน ยังไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ปรับเกลี่ยดินเอาต้นไม้ออก ให้เห็นพื้นที่โล่งๆ นี่เรากำลังมองไปทางด้านสนามกอล์ฟนะครับ ไม่ต้องกลัวลูกกอล์ฟลอยข้ามมา เขามีตาข่ายเหล็กกั้นอยู่
สนามกอล์ฟจะอยู่ทางด้านทิศเหนือของโครงการนะครับ ภาพมุมสูงจะเห็น Landscape ของสนามกอล์ฟเต็มหน่อย เขียวและโล่งดีมาก
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก็ยังโล่งงงง
ทิศตะวันตก จะมีบ้านสองชั้นอยู่ตรงข้ามโครงการ ห้องตั้งแต่ชั้น 3 ไป ก็โล่งแล้วครับ
ด้านทิศตะวันออกนี่ยังต้องถากถางเอาต้นไม้รกๆออกนะ ด้านนี้โล่งสบายๆครับ
รูปหน้าตาตึก เมื่อมองจากด้านหน้านะครับ
ส่วนรูปนี้คือหน้าตาตึกที่มองมาจากทางด้านสนามกอล์ฟ … ในความเป็นจริงด้านกำแพงสนามกอล์ฟที่อยู่ติดโครงการ จะเป็นด้านทีออฟ ที่นักกอล์ฟจะยืนตีลูกจากด้านที่ติดโครงการออกไปที่หลุม ไม่ได้ตีเข้ามาใส่อาคาร เหมือนพี่เสื้อน้ำเงิน กำลังหวดอยู่นี่นะครับ … ดูรูปข้างล่าง
นี่คือตัวโครงการ กับแนวการวางตึก และพื้นที่สนามกอล์ฟครับ แนวการตีลูกของนักกอล์ฟจะตีออกไปตามทิศทางของลูกศรสีแดง จึงไม่ต้องกังวลมากว่าจะเจอลูกกอล์ฟพุ่งใส่อาคาร แต่อย่างไรก็ดี เขามีตาข่ายเหล็กวางตรงเขตสนามกอล์ฟ เพื่อดักลูกกอล์ฟในกรณีตีผิดพลาดอีกชั้นหนึ่งครับ… อ้อ ตัวห้องที่เห็นวิวสนามแบบเต็มๆ จะมี 3 ห้องนะครับ คือ 4E, C01 และ C02 ห้องอื่นๆ จะเห็นในมุมที่ไม่เต็มครับ
รูปห้อง Lobby ด้านในอาคาร
ตัว Facility 2 ชั้น ที่วางชั้นล่างเป็น Fitness และชั้นบนเป็น Library … ตัว Library อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นสนามกอล์ฟครับ
รูป Fitness
รูป Library ที่อยู่ด้านบน Fitness
รูป สระว่ายน้ำ และพื้นที่นั่งเล่นริมสระ
ขนาดของสระว่ายน้ำเมื่อมองจากด้านบน ตัวสระกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร เป็นระบบเกลือนะครับ
Master Plan ของโครงการครับ ชั้น G ไม่มีอะไรซับซ้อนจะเป็นสวน และพื้นที่จอดรถ เป็นหลัก มีสำนักงานนิติบุคคล และ Lobby อยู่ตรงส่วนเข้าออกลิฟท์ แค่นั้น
ชั้น 2 จะเป็นชั้นที่มี Facility และเริ่มต้นห้องพักอาศัยนะครับ Facility บนชั้นนี้นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ก็จะเป็นส่วนห้อง Facility 2 ชั้น ชั้นล่างที่ตรงกับชั้น 2 คือ Fitness มีบันไดเดินขึ้นไปด้านบนที่เป็น Library … ส่วนห้องพักอาศัยชั้นนี้มีทั้งหมด 22 ห้อง ห้องที่อยู่ทิศเหนือ 2 ห้องคือ 2C-01 และ 2C-02 พอจะได้วิวสนามกอล์ฟ แต่ยังไม่สวย เพราะยังอยู่ในระดับที่เตี้ยไปนิด คนซื้อห้องชั้นนี้ ไม่ต้องคาดหวังเรื่องวิวนะครับ เพราะอยู่แค่ชั้นสองเอง ระดับพ้นแนวรั้วมานิดเดียว … ห้องชั้นนี้ มีดีตรงไม่ต้องพึ่งพาลิฟท์ และราคาถูกสุด คนกลัวความสูงน่าจะชอบ
ชั้น 3 เป็นชั้นพักอาศัยหลักแล้วนะครับ ชั้นนี้มีห้องพัก 22 ห้อง ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ โดยสาร 80 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐานนะครับ ห้อง 3C-01, 3C-02 ได้วิวสนามกอล์ฟ เริ่มอยู่ในระดับความสูงที่โอเคล่ะ (ยิ่งสูงยิ่งเห็นวิวโล่งและเปิดกว้าง) วิวทั้งด้านตะวันออก(ขวา) และ ตะวันตก (ซ้าย) ค่อนข้างเปิดโล่งตั้งแต่ชั้น 3 นี่แหละ ดังนั้นเลือกได้ตามสบาย คนนอนตื่นสายออกจากบ้านบ่ายๆ กลับบ้านดึกๆ สามารถเลือกทิศตะวันตกได้ .. ส่วนคนที่ทำงานใช้ชีวิตปกติ นอนตื่นเช้าออกจากบ้านเร็ว และกลับบ้านช่วงเย็น ก็เลือกทิศตะวันออกน่าจะเหมาะกว่า
ชั้น 4-8 หน้าตาจะเหมือนกันนะครับ จะเป็นชั้นพักอาศัยเพียวๆ และจะเห็นหน้าตาตึกจริงที่เป็นเลข 1 ชั้น 4-8 นี้ มีห้องอยู่ชั้นละ 23 ห้อง นอกจากห้อง 4C-01, 4C-02 จะเห็นสนามกอล์ฟเต็มๆแล้ว ยังมีห้องเพิ่มขึ้นมาหนึ่งห้องคือห้อง 4E อยู่ในตำแหน่งที่เห็นสนามกอล์ฟเต็มๆเช่นกัน … รูปแบบตึกแบบนี้ สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตปกติ ห้องทางทิศตะวันออกได้เปรียบ เพราะนอกจากจะหลบแดดบ่ายแล้ว ยังพอจะมองเห็นสนามกอล์ฟได้บ้างนะครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8×12 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Library
- สวน
- ระบบ CCTV
- Key Card Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- Shuttle Service รถรับส่ง BTS แบริ่ง
ห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย เขามีให้ดู 3 ห้องนะครับ แต่ผมจะเอามาให้ดูกันแค่ 2 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroom มาตรฐาน กับห้อง 1 Bedroom หน้ากว้างซึ่งค่อนข้างจัด Layout มาแปลกตากว่าห้องทั่วไปครับ
Room Layout ห้อง 1 Bedroom Type B ขนาด 26 ตารางเมตร จัดมาค่อนข้างมาตรฐาน ได้ห้องน้ำอยู่ในส่วน Living ระยะดูทีวีกว้างพอสมควร แต่พื้นที่นั่งโซฟาจะน้อยหน่อย เพราะต้องเจียดพื้นที่ให้กับโต๊ะทานข้าว ห้องครัวเป็นครัวเปิดอยู่ติดกับระเบียง แต่เอื้อให้สามารถต่อเติมเพิ่มประตูกั้นครัวเป็นครัวปิดได้ ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน มีขนาดค่อนข้างน้อย วางเตียง 5 ฟุตพอ ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานอเนกประสงค์ ถ้าจะติดทีวี ก็ต้องไปปรับแต่งพื้นที่ตรงโตีะทำงานนั่นแหละครับ
เค้าขายแบบ full fur ของ SB (โปรโมชั่นตอนนี้) เวลาไปดูห้องตัวอย่าง ของที่ไม่แถม จะมี sticker ปิดบอกชัดเจน
ประตูไม่ได้ติดมาให้ดู ส่วนพื้นห้องจะเป็นลามิเนต สีอ่อนแบบนี้ครับ
เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area มองทะลุเข้าไปเห็นส่วนห้องนอน เพราะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน หากต้องการ Private ก็สามารถติดม่านเพิ่มได้นะ
ภาพรวมในห้องอีกมุม
พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี จัดแบบนี้มีดีมีเสีย ข้อดีคือระยะดูทีวีเยอะดี ระดับเกือบ 3 เมตร ถ้าเอาทีวี LED แขวนผนัง ใส่ขนาด 50 นิ้วยังไหว แต่มีข้อเสียตรงที่จัดวางโซฟาได้ขนาดเล็กไปหน่อย นอนกลิ้งเกลือกบนโซฟาไม่ได้
โซฟาจัดได้ขนาดเล็ก เพราะเสียพื้นที่ให้กับ โต๊ะทานข้าวที่วางอยู่ข้างๆกัน สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะกินข้าวในห้อง ผมว่าเอาโต๊ะกินข้าวออก แล้วเอาโซฟายาวๆมาวางจะดีกว่า วันไหนจำเป็นต้องกินข้าว ก็ทานที่โซฟาได้
โต๊ะกินข้าวตัวเล็กวางติดกับส่วนกั้นห้องนอน การวางแบบนี้ จะเหมาะกับนั่งทานคนเดียว หากนั่งสองคน จะเบียดไปนิด และวางจานบนโต๊ะได้แค่ทานอาหารจานเดียวแหละ
ลองจัดวางจาน และกระเถิบเก้าอี้ให้ดูระยะการนั่งจริง
ตัวโซฟา มีลิ้นชักด้านล่าง เก็บของได้นะครับ
พื้นที่วางทีวี แนะนำให้แขวนผนังไปเลย จะได้มีที่วางของเพิ่มขึ้น
พวกของที่เขาไม่ให้ จะแปะ Sticker แบบนี้นะครับ
ชุดประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอน แบบสามชิ้น จะเปิดได้กว้างหน่อย
ห้องนอน พื้นที่ค่อนข้างน้อยนะ วางเตียง 5 ฟุตพอ 6 ฟุตจะไม่ไหว
ช่องแสง และผนังส่วนรับวิว จะไม่ได้เต็มผนังนะครับ
ปลายเตียง วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะอเนกประสงค์ จะติดทีวีปลายเตียง ต้องไปหาตำแหน่งตรงโต๊ะอเนกประสงค์นั่นแหละ
โต๊ะอเนกประสงค์ตรงปลายเตียง มันพับได้นะ พอจะติดทีวีแขวนผนังตรงตำแหน่งที่แขวนรูปกะภาพได้ แต่แนะนำให้ใช้ทีวี LED บางๆ 32 นิ้ว และใช้ชุดยึดผนังรุ่นที่บางที่สุด … อ้อ TV Sony รุ่นใหม่ๆ สายมันมี Adapter อันเบ้อเร่อมาด้วยนะ ใครจะเอาทีวีมาแขวนผนังแบบบางๆเลือกยี่ห้ออื่นได้เลย เพราะของโซนี่นี่จะติด Adapter เกะกะมากๆเก็บสายลำบากด้วย
ห้องครัวและห้องน้ำจะแยกออกไปต่างหาก
ผนังส่วนแยกไปครัวนี้จะลบมุมเล็กน้อย เวลาเดินผ่าน จะได้ไม่รู้สึกแคบๆตันๆ และยังพอเหลือพื้นที่ให้ทำประตูกั้นได้ หากอยากจะทำเป็นครัวปิด
ชุด Pantry ขนาด 120 ซม. ที่วางของค่อนข้างน้อย และไม่มีชุดเตาและเครื่องดูดควันมาให้นะครับ หากจะทำอะไรเล็กๆน้อยๆบ้าง แนะนำให้ซื้อเตา Induction มาวางจะเหมาะและปลอดภัยในการใช้งาน ไม่ใช้ก็เก็บได้ไม่เกะกะ
TOP Pantry ลามิเนตธรรมดา พื้นที่จัดวางอย่างที่เห็น แนะนำให้ติดกระเบื้องที่ผนังเพิ่มเติมนะครับ เผื่อทำเลอะเทอะจะได้ล้างง่ายๆไม่อารมณ์เสีย
ตู้แขวนวางของ เล็ก และมีบานปิดแค่ช่องเดียว อยากจะรื้ออกแล้วเอาตู้ใหญ่ๆ มาแขวนแทน จะได้มีพื้นที่เก็บของกินของใช้มากๆ ครัวจะได้ไม่รก
ตัวครัวจะอยู่ติดระเบียง เอาตู้เย็น ไปวางตรงตำแหน่งติดระเบียงนะครับ
พื้นที่วางตู้เย็นเยอะดี แต่ก็ไม่ควรเอาตู้เย็นใหญ่ๆมาวางนะ เหลือพื้นที่ไว้วางถังขยะ หรือเก็บของจะดีกว่า
ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเปิดได้กว้างราวๆ 70 ซม.
พื้นที่ระเบียง ขนาด 125×150 ซม. ถ้าวางเครื่องซักผ้า ก็ต้องทำราวแขวนด้านบนล่ะ เพราะจะเหลือพื้นที่ใช้งานไม่มาก
คอมแอร์ แขวนผนังแบบนี้ เป่าลมร้อนเข้าผนัง ไม่ได้ดันออกนอกอาคาร มีดีตรงตากผ้าแห้งไวมาก มีเสียคือระเบียงจะร้อนๆอบๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ให้ช่างแอร์ เอากริลมาติดเพื่อดันลมร้อนออกด้านนอกได้ครับ ราคาไม่แพง
ห้องน้ำจะอยู่ทางด้านครัวนี้ด้วย
ตัวห้องน้ำ กั้นด้วย curb ธรณีก่อเดินเข้าออกระวังสะดุด
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ
ตำแหน่งวางสุขภัณฑ์ในห้องตัวอย่าง ผิดไปจากตำแหน่งห้องจริงเล็กน้อย เพราะช่างเขาดันติดโถสุขภัณฑ์ชิดผนังขวามือไปหน่อย ทำให้แคบและนั่งลำบาก… ของจริงจะกระเถิบมาทางซ้าย 10-15 ซม. ไม่ได้ชิดผนังแบบนี้
อ่างล้างหน้าแขวนผนังของ American Standard
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน
Shower Box พื้นที่ความยาวใช้ได้ แต่แคบไปหน่อย คนตัวใหญ่จะยืนอาบอึดอัด
ชุดฉากกั้นกระจกนิรภัยไม่ได้แถมมาให้นะครับ
หน้าตาชุดฝักบัวที่ให้มาของ American Standard ครับ
ห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง Type E ขนาด 28.2 ตารางเมตร จัดห้องมาแปลกดี เอาส่วน Living นั่งเล่นดูทีวีอยู่ติดระเบียง พื้นที่วางทีวีน้อยไปหน่อยเพราะเป็นตำแหน่งเสาอาคาร โต๊ะทานอาหารยังเล็กเช่นเคย ครัวออกแบบมาให้เป็นครัวปิดได้นะแต่เราต้องไปทำประตูกั้นเอง พื้นที่ครัวเยอะจนน่าจะวางโต๊ะทานข้าวแบบพับเก็บได้นั่งทานในครัวได้ ห้องน้ำอยู่ในส่วนครัว และห้องนอนจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกหน่อย เอาตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ไปไว้ด้านข้าง แต่ก็วางทีวีปลายเตียงไม่ได้อยู่ดี เพราะเขากั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนครับ
พื้นลามิเนตสีอ่อนเช่นเดิมนะครับ
เปิดเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area ก่อนเลย
มองย้อนออกไปที่ประตูทางเข้า ข้างประตูด้านซ้ายมือคือตู้เก็บของ เก็บรองเท้า ส่วนขวามือคือตำแหน่งวางโต๊ะทานข้าวครับ
ชุดตู้วางของ ที่จัดมาให้
โต๊ะทานข้าว ตัวเล็ก และตำแหน่งการวาง นั่งเบียดกันหน่อย แต่ถ้าใช้คนเดียวก็โอเคอยู่
พื้นที่วางโซฟา ค่อนข้างน้อย ระยะดูทีวีสองเมตรนิดๆ วางทีวี 40 นิ้วพอ เพราะพื้นที่วางทีวีมันก็มีแค่นั้นครับเพราะเป็นตำแหน่งเสา
ตำแหน่งวางโซฟา จะวางชิดส่วนประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอนแบบนี้ ดังนั้นโซฟาจึงจัดได้ขนาดเท่าที่เห็นไม่งั้นมันจะขวางทางเข้าออกห้องนอน
ตำแหน่งวางทีวีจะเป็นเสาอาคาร พื้นที่วางทีวีจะน้อยหน่อย กว้าง 90 ซม.นะครับ
ระเบียงอยู่ติดกับโซฟา กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้
ตัวระเบียงได้ยาวแต่แคบ ความกว้างราวๆ 65 ซม. ความยาว 3.6 เมตร
พื้นที่ระเบียง ใช้งานปลูกดอกไม้ได้นะ ไม่โดนลมร้อนจากคอมแอร์
คอมแอร์ จะแขวนผนังด้านบน เป่าลมร้อนออกด้านนอกแบบนี้
ส่วนครัวและห้องน้ำ จะอยู่ตรงส่วนหลังทีวีนะมีทางเข้าที่เขาติดประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้ให้ดู เพราะห้องของจริงไม่แถมประตูกระจกบานเลื่อนครับ ต้องทำเพิ่มเอง
ชุดประตูกระจกบานเลื่อน ที่เขาติดมาให้ดู
ส่วนครัว จะมี Curb ธรณีก่อแบบนี้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ไม่ต้องมีก็ได้นะ เผื่อถือแกงร้อนออกมาจากห้องครัวจะสะดุดหัวทิ่มเอา
ประตูกระจกบานเลื่อน มองจากทางด้านในครัว
ตรงข้างประตูกระจกบานเลื่อนจะมีพื้นที่เว้าเข้าไปนิดหน่อย ทำเป็นตู้เก็บของหรือชั้นวางของ เหมาะสุด
พื้นที่การจัดวาง Pantry จะมีเครื่องซักผ้าวางอยู่ในส่วนนี้ด้วย
ช่องแสงและหน้าต่าง เปิดระบายอากาศได้
Pantry ยาว 155 ซม. มีพื้นที่จัดเตรียมอาหารพอประมาณ แต่ไม่มีเตาและเครื่องดูดควันนะครับ
ตู้แขวนเก็บของ… ความที่พื้นที่ใต้ Pantry เอาไปวางเครื่องซักผ้าแล้ว ไมโครเวฟเลยต้องไปอยู่ข้างบน ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงครับวางแล้วที่จับไมโครเวฟสูง 165 ซม.พอดี สูงกว่าความสูงโดยเฉลี่ยของหญิงไทยสมัยนี้ เวลาหยิบของร้อนๆออกจากไมโครเวฟจะลำบาก … แนะนำให้วางไมโครเวฟบนตู้เย็นจะดีกว่า
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ Spec ของและการจัดวาง เหมือนห้องแรก
ห้องนอน จะอยู่ด้านหลังโซฟา กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนนะครับ
ชุดประตูกระจกบานเลื่อน ที่กั้นห้องนอน ช่วยให้ห้องมันโปร่งโล่ง หากอยากได้ Private ก็ติดม่าน ข้อเสียของการกั้นห้องแบบนี้คือปลายเตียงจะเอาทีวีไปแขวนผนังไม่ได้ ส่วนการนอนดูทีวีที่อยู่ตรงส่วน Living จากบนเตียงน่ะดูได้นะ แต่มันไกลไปหน่อย ติดพนักพิงโซฟาด้วย
ห้องนอน ได้เตียง 5 ฟุต เขาพยายามเอาเตียงวางชิดฝั่งหน้าต่าง เพื่อให้มีพื้นที่อีกข้างมากๆ
ผนังส่วนรับวิว มีหน้าต่างเป็นบานเลื่อนนะครับ
พื้นที่ด้านข้างเตียง วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ครับ
โต๊ะอเนกประสงค์ จะใช้เป็นโตีะเครื่องแป้งก็ได้ครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 Aug 2014 (ราคาหักส่วนลด VIP แล้ว)
- ห้อง Studio แบบ A ชั้น 2 ห้อง 2A07 ขนาด 24.20 ตารางเมตร ราคา 1.399 ล้านบาท 57,810 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง Studio แบบ A ชั้น 7 ห้อง 7A01 ขนาด 24.20 ตารางเมตร ราคา 1.649 ล้านบาท 68,140 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 1 Bedroom แบบ B ชั้น 2 ห้อง 2B08 ขนาด 26.00 ตารางเมตร ราคา 1.599 ล้านบาท 61,500 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 1 Bedroom แบบ B ชั้น 7 ห้อง 7B01 ขนาด 26.00 ตารางเมตร ราคา 1.749 ล้านบาท 67,270 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 1 Bedroom แบบ C ชั้น 2 ห้อง 2C01 ขนาด 27.70 ตารางเมตร ราคา 1.799 ล้านบาท 64,946 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 1 Bedroom แบบ C ชั้น 5 ห้อง 5C02 ขนาด 27.70 ตารางเมตร (วิวสนามกอล์ฟ) ราคา 2.299 ล้านบาท หรือ 82,997 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 1 Bedroom แบบ D ชั้น 2 ห้อง 2D02 ขนาด 28.20 ตารางเมตร ราคา 1.749 ล้านบาท 62,021 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 1 Bedroom แบบ D ชั้น 7 ห้อง 7D04 ขนาด 28.20 ตารางเมตร ราคา 1.899 ล้านบาท 67,340 บาท ต่อ ตรม
- ห้อง 2 Bedroom แบบ E ชั้น 4 ห้อง 4E ขนาด 44.50 ตารางเมตร ราคา 2.849 ล้านบาท 64,022 บาท ต่อ ตรม
- แบบ A,B จอง 5,000 บาท แบบ C,D จอง 10,000 บาท แบบ E จอง 15,000 บาท
- แบบ A ทำสัญญา 35,000 บาท แบบ B 30,000 บาท แบบ C,D 40,000 บาท แบบ E 50,000 บาท
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 23 งวด
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตรม/เดือน
- เงินกองทุน 500 บาท ต่อ ตารางเมตร จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
the Excel hideaway เป็นโครงการในซอยลาซาล11 ที่มีทำเลแตกต่างจากคอนโดในซอยลาซาลทั่วไปอยู่หลายอย่างนะครับ อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตัวโครงการอยู่ในทำเลซอยที่ลึกเข้าไป 400 เมตร แถมเป็นซอยตัน จึงค่อนข้างเงียบ ไม่มีรถผ่านเข้าออกมากนัก ภายในซอยมีบ้านเรือนผู้คนไม่กี่หลัง รถที่ผ่านเข้ามาคงจำกันได้หมดว่ารถบ้านใคร ซึ่งจะแตกต่างจากซอยลาซาลแบริ่งอื่นๆอีกหลายซอยที่มันลัดเลาะทะลุกันได้ ซึ่งจะคึกคักพลุกพล่านรถผ่านไปมามากกว่า
ข้อดีของทำเลซอยลักษณะนี้ คือความเงียบสงบ อารมณ์แบบอยู่บ้าน และพื้นที่รายรอบบ้าน เป็นบ้านหลังสองชั้นเตี้ยๆ โล่งๆ ในขณะที่ทิศเหนือติดกับสนามกอล์ฟ จะวิวได้พื้นที่สีเขียวเปิดโล่งขนาดใหญ่ เป็นวิวคอนโด Low Rise ที่แปลกกว่าชาวบ้านเขา… ส่วนข้อเสียของทำเลลักษณะแบบนี้ก็ต้องมีอยู่แล้วครับ อย่างแรกคือ เรียกรถยาก แนะนำให้หาเบอร์ Taxi ประจำ หรือเรียกศูนย์ และควรมีเบอร์พี่วินที่ชอบไว้เผื่อด้วย ข้อเสียอีกข้อคือต้องเดินออกมา 400 เมตร ถึงจะเจอความอุดมสมบูรณ์ที่ปากซอย 11 แถวนั้นมีมินิมาร์ท ร้านขายยา และร้าอาหารแนวศูนย์อาหารอีกหลายเจ้า จัดอยู่ในระดับอุดมสมบูรณ์คึกคักพึ่งพาได้ 24 ชั่วโมง แต่มันก็เดินไกลเกินระยะสะดวก ใครที่ไม่มีรถและชอบออกมาหาของกิน น่ามีจักรยานพับคันเล็กๆติดห้องไว้นะครับ
ความปลอดภัยในการเดินเข้าซอย ระยะ 200 เมตรแรกไม่ได้น่าห่วงอะไรเลย เพราะเป็นกำแพงบ้านคนตลอดแนว ไม่มีจุดเปลี่ยว ตรงจุด 200 เมตรอันเป็นครึ่งทางของการเดินไปโครงการ จะเป็นคอนโด the Excel แบริ่ง รุ่นพี่ที่สร้างเสร็จก่อน Excel hideaway แน่นอน ก็จะเป็นจุดที่มี รปภ ด้านหน้าโครงการคอยดูแลอยู่ พ้นจากจุดนี้ไป เดินทางตรงไปถึงหน้าโครงการ ก็จะมีบ้านคนสองข้างทาง และที่เปล่าที่กั้นรั้วของเขตอยู่น่าจะมีการพัฒนาในอนาคต แนะนำให้เจ้าของโครงการติด CCTV หน้าโครงการส่องแนวถนนตลอดแนว ช่วยกันทั้ง the Excel แบริ่ง และ the Excel hideaway จะช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยได้อีกมากครับ (ช่วงนี้กำลังมีการก่อสร้างในซอย สาวๆหากจะมาดูทำเลโครงการ ผมอยากให้พาหนุ่มๆหรือเพื่อนๆมาดูด้วยกันหลายๆคนนะครับ ปลอดภัยไว้ก่อน)
การเดินทางด้วยรถค่อนข้างสะดวก เพราะมีทางเลี่ยงทางลัดเยอะแยะ เข้าออกได้จากถนนหลักสามสาย สุขุมวิท-บางนาตราด-ศรีนครินทร์ แถมมีทางด่วนให้เลือกใช้จากทั้ง 3 ด้าน ส่วนคนที่เดินทางไปทำงานขาออกอย่างสำโรงสมุทรปราการหรือบางนาไกลๆ นี่ยิ่งได้เปรียบชาวบ้านเขาเพราะจะวิ่งสวนทางกับชาวบ้านในช่วงรถติดเช้าเย็น ทำเลลาซาล-แบริ่ง เป็นทำเลใช้รถสะดวกแต่ไหนแต่ไรแล้ว เสียแต่ว่าที่จอดรถระดับจอดซ้อนคันแล้วยังจอดได้ 41% แบบนี้ ในทำเลลักษณะที่ไม่ได้เดินไปรถไฟฟ้าสะดวก หรือเรียกรถสะดวก อาจจะต้องบริหารการจอดให้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพเพราะโอกาสจอดไม่พอมีสูงเนื่องจากมันเอื้อต่อการมีรถจริงๆ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นอกจากบริการ Shuttle service ที่โครงการมีให้แล้ว อย่างอื่นก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร เดินออกมาปากซอย11 ต้องมี 400 เมตร ส่วนรถไฟฟ้าก็ 940 เมตร ระยะทางแบบนี้ต้องพึ่งพี่วิน และสองแถวเป็นหลัก ไม่ค่อยสะดวกเท่าโครงการติดถนนหลักที่เดินไปรถไฟฟ้าได้ง่ายๆในย่านนี้ แต่ก็แลกมากับราคาห้องที่หยิบจับได้ง่ายหน่อยราวๆ 1.4-1.5 ล้านหรือหกหมื่นต้นๆต่อตารางเมตรครับ
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ก็ค่อนข้างตามมาตรฐานระดับราคานี้ Spec มาตรฐานไม่ได้เด่นอะไร แต่ให้มาครบแบบ Fully Furnished เท่านั้นเอง ส่วนการออกแบบโครงการค่อนข้างมาตรฐานโดยรูปร่างหน้าตาภายนอกผมขอข้ามนะครับ เพราะความสวยความงามคนเรามองไม่เหมือนกัน… โครงการออกแบบมาให้มีห้องเล็ก หยิบจับเป็นเจ้าของง่ายๆ สังเกตดูห้องหลักๆ ขนาดยี่สิบกว่าตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งห้องขนาดนี้ จัดให้แปลกยากเนื่องจากขนาดมันจำกัด แต่เขาก็ยังมีห้องที่มันแปลกๆให้ดูกันจนได้ 🙂 ห้อง Type E ขนาด 28.2 ตารางเมตร เป็นห้องหน้ากว้างที่คนชอบแต่งห้องน่าจะชอบนะครับ เพราะเอามาจัดใหม่ใส่งบลงไปดีๆ ผมว่าจะจัดให้ลงตัวสวยน่าอยู่กว่าห้องตัวอย่างได้ไม่ยากนัก…
สาธารณูปโภค ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ราคาราวๆนี้นะครับ คือแม้จะจัดมาให้ครบทั้ง สระระบบเกลือ, Fitness, ห้องสมุด, Lobby แต่มันก็ได้ขนาดไม่ใหญ่ ไม่อลังเหมือนโครงการใหญ่ๆ หรือพวก High Rise ที่มีห้องต่อตึกมากกว่า ความน่าใช้และความอลังมันเทียบกันไม่ได้ แต่ก็มีดีตรงคนช่วยแชร์ใช้ Facility มันก็น้อยตามไปด้วยครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 63,000 บาทต่อตารางเมตร, 28 Aug 2014
- ทำเล 7.25/10 – ทำเลในซอยแยกที่ค่อนข้างเหมาะกับคนขยันเดินนะ ไม่สะดวกเหมือนทำเลติดถนนหลักแต่ให้คะแนนเพิ่มเติมตรงติดสนามกอล์ฟและพื้นที่เปิดโล่งสีเขียวเยอะครับ
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – แม้ว่าจะเดินทางค่อนข้างสะดวกมาก แต่ที่จอดรถระดับ 41% อาจจะไม่พอได้
- ไม่ใช้รถ 7.25/10 – เดินไกล ต้องใช้พี่วิน หรือสองแถวเป็นหลัก ยังดีที่มี Shuttle Service ให้
- วัสดุ 7.75/10 – วัสดุค่อนข้างตามมาตรฐาน แต่ว่าจัดมาให้เยอะหน่อยแบบ Full Fur
- แบบ 7.5/10 – แบบค่อนข้างมาตรฐาน แต่ห้องเอาไปแต่งต่อง่าย และทำห้องเล็กมาให้ซื้อง่ายหน่อย
- สาธารณูปโภค 6.75/10 – Facility ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ขนาดเล็กทั่วไปที่แม้จะมีครบ แต่เล็กและความน่าใช้งานจะสู้โครงการใหญ่ๆลำบากอยู่แล้ว
- ECONOMY CLASS
- 7.34 / 10.00
BOTTOM LINE
the Excel Hideaway เหมาะกับคนมองหาคอนโดที่สงบๆ ไม่พลุกพล่าน ย่านลาซาลแบริ่ง พอจะนั่งรถมอไซค์ไป BTS ได้ในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร ห้องไม่ต้องใหญ่มากก็อยู่ได้ ใช้ชีวิตปกติไม่กลับบ้านมืดค่ำดึกดื่น มีงบประมาณระดับ 1.4 – 1.9 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนราว 9,000 – 13,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ